Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โขน นาฏศิลป์ไทยชั้นสูง

โขน นาฏศิลป์ไทยชั้นสูง

Published by phanthira_, 2021-12-16 06:49:38

Description: ความหมายของโขน ที่มาต้นกำเกิด และประเภทของโขน

Search

Read the Text Version

โขน นาฏศิลป์ไทยชั้นสูง

โขน หมายถึง ? การแสดงท่ารำเต้นกับจังหวะ ดนตรี ประกอบด้วย ตัวละคร ที่เป็นยักษ์ ลิง มนุษย์ และ เทวดา ผู้แสดงสวมหัวโขนไม่ ร้องและเจรจาเอง แต่ปัจจุบัน ผู้แสดงเป็นมนุษย์กับเทวดา ไม่สวมหัวโขน และเพิ่มการขับ ร้องประกอบการแสดงแบบ ละครใน

ต้นกำเนิดโขน “โขน” ได้พัฒนามาจากการ แสดง 3 ประเภท คือ -ชักนาคดึกดำบรรพ์ -หนั งใหญ่ -กระบี่กระบอง

ชักนาคดึกดำบรรพ์ เป็นการละเล่นอย่างหนึ่ งของไทย มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นการแสดง “เรื่องการชักนาค” เพื่อเอาน้ำอมฤตจากเกษียรสมุทร ตามคติของฮินดู มักจะแสดงในงานมหรสพหลวง การละเล่นชักนาค มีกล่าวไว้ในกฎ มณเฑียรบาลสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนที่กล่าวถึงพระราชพิธีอินทราภิเษ กว่า มีการตั้งเขาพระสุเมรุและภูเขาอื่น ๆ ที่กลางสนาม แล้วให้ตำรวจ เล็กแต่งตัวเป็นอสูร 100 ตน มหาดเล็กแต่งตัวเป็นเทวดา และวานร อย่างละ 100 และแต่งเป็นสุครีพ พาลี และมหาชมพูอย่างละหนึ่ งตัว เข้า ขบวนแห่ พร้อมด้วยเครื่องทำพิธีชักนาคดึกดำบรรพ์ โดยให้อสูรชักหัว เทวดา และวานรชักหาง

ด้วยเหตุนี้ โขนจึงได้นำเอาศิลปะการแสดงจากแบ่งฝ่ายการเล่นและศิลปะการ แต่งกายมาจากการเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ ซึ่งลักษณะการแต่งกายในการแสดง โขนนั้ น ตัวละครแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายยักษ์ ฝ่ายลิง ฝ่ายมนุษย์ และเทวดา ซึ่งแต่ละฝ่ายจะแต่งกายตามแบบที่เรียกว่า “ยืนเครื่อง” ทุกตัว แต่จะลดหลั่น ความงดงามไปตามฐานะของตัวละครในเรื่อง ตัวสำคัญจะแต่งกายคล้ายคลึงกัน แต่ต่างกันที่สีของเครื่องแต่งกายและลักษณะของหัวโขน เครื่องแต่งกายฝ่าย มนุษย์ และเทวดาจะเป็นการแต่งกายแบบยืนเครื่อง ตัวละครที่สำคัญมากจะระบุ สี เสื้ ออย่างชัดเจน

หนังใหญ่ เป็นมหรสพที่แพร่หลายของคนไทยอีกอย่างหนึ่ ง ตัวหนั งจะใช้แผ่นหนั ง วัวฉลุเป็นรูปตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ และมีไม้ผูกทาบตัวหนั งไว้ทั้ง สองข้าง เพื่อให้ตัวหนั งตั้งตรงไม่งอและทำให้มีคันยื่นลงมาใต้ตัวหนั ง เป็นสองข้างสำหรับจับถือ และยกได้ถนั ด สถานที่เล่นจะปลูกโรงผ้าใช้ผ้า ขาวคาดเป็นจอ ส่วนด้านหลังจอจะจุดไต้และก่อไฟไว้ เพื่อให้แสงทำให้ เห็นเงาตัวหนั งซึ่งมีลวดลายวิจิตรมาติดอยู่ที่จอผ้าขาวและการเชิดนั้ น คนเชิดต้องเต้นไปตามจังหวะดนตรีและบทพากย์บทเจรจาด้วย ซึ่งการแสดงโขนนั้ นก็มีการพากย์ เจรจา การขับร้อง การเต้น และรำ ทำท่าตามบทพากย์ และตามเพลงหน้ าพาทย์ จึงเห็นได้ว่าการแสดงโขน ได้รับอิทธิพลด้านศิลปะการแสดงจากการแสดงหนั งใหญ่

กระบี่กระบอง เป็นกีฬา การแสดงสาธิต และการต่อสู้ป้องกันตัว จะต้องฝึกให้มีความ เชี่ยวชาญกับการใช้อาวุธของไทยหลายชนิ ดในกระบวนท่าต่างๆ ไว้สำหรับ ป้องกันตนเองและประเทศชาติ อีกทั้งเป็นการประชันกันในเชิงฝีมือไหว พริบในการต่อสู้ การหลอกล่อ หลบหลีก ยั่วยุคู่ต่อสู้ จากลีลาท่าทางเหล่า นี้ โดยทำเลียนแบบอาวุธจริง เป็นไม้ โลหะ หนั งสัตว์ เช่น ดาบ หอก ง้าว ดั้ง เขน โล่ ไม้ศอกสั้น เป็นต้น การแสดงโขนในสมัยโบราณน่ าจะรับเอาแบบอย่างที่ใช้ในศิลปะการต่อสู้ มาปรับปรุงประดิษฐ์เป็นท่าทางของการเต้น การเยื้องกราย และเป็น ท่าทางร่ายรำของการต่อสู้ ในการแสดงโขน

ประเภทของโขน แบ่งออกได้ 5 ประเภท

โขนกลางแปลง การแสดงโขนบนพื้นดิน ไม่มีการสร้างโรง ผู้แสดงเล่นกลางสนาม คล้ายเช่นชักนาค ดึกดำบรรพ์ที่บันทึกไว้ในกฎมณเฑียรบาล การเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์เป็นการเล่นตำนาน กวนเกษียรสมุทรของพราหมณ์ เล่นในพิธีอินทราภิเษก โขนกลางแปลงส่วนใหญ่เล่นเกี่ยวกับ การยกทัพ และการรบระหว่างฝ่ายพระรามและฝ่ายทศกัณฐ์ ดนตรีที่ใช้ประกอบเป็นวงปี่ พาทย์ อย่างน้ อย 2 วง บรรเลงเพลงหน้ าพาทย์ บทที่เล่นส่วนมาก มีแค่คำพากย์และบทเจรจา

โขนหน้าจอ มีการปล่อยตัวโขนออกมาเล่นสลับกับ การเชิดหนั งใหญ่ เรียกกันว่า “หนั งติด หัวโขน” ต่อมาเมื่อคนไม่นิ ยมดูหนั ง ใหญ่จะดูโขนมากกว่าจังปล่อยโขนออก มาเล่นหน้ าจอหนั งตั้งแต่เย็นจนเลิกจอ ที่ขึงอยู่ยังคงขึงไว้เป็นพิธี

โขนโรงใน โขนที่นำเอาศิลปะของละครในมา ผสม มีการเต้น บทพากย์ บทเจรจา และเพลงหน้ าพาทย์แบบโขนที่มี ที่มาแต่เดิม แต่เพิ่มเพลงร้องและมี ระบำรำฟ้อนแบบละครใน โขนโรง ในเวลาแสดงจะมีเตียงให้ตัวละคร นั่ ง โดยวางอยู่ 2 ข้างหันหน้ า

โขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว การแสดงโขนที่แสดงบนโรงมีหลังคา มีราว พาดตามส่ วนยาวของโรงสำหรับให้ตัวละคร นั่ งแทนเตียงซึ่งเพิ่งมีภายหลัง ตัวละครที่จะ นั่ งราวได้จะต้องเป็นตัวสูงศักดิ์ เช่น พระราม พระลักษณ์ สุครีพ ทศกัณฐ์ ตัวละครฝ่าย หญิง จะมีเตียงให้นั่ งต่างหาก ดนตรีประกอบ เหมือนโขนกลางแปลง และมีเพียงคำพากย์ และบทเจรจาเช่นเดียวกัน

โขนฉาก เริ่มมีขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีผู้คิด สร้างฉากประกอบการแสดงโขบทเวทีขึ้น มีการเปลี่ยนฉากตามท้องเรื่อง บทที่แสดงมีการปรับปรุงให้กระชับ รวดเร็วทันใจ คล้ายกับละครดึกดำบรรพ์ วิธีแสดงเหมือนโขนโรงในทุกอย่าง มีการขับร้อง มีกระบวนการรำ มีท่าเต้น มี เพลงหน้ าพาทย์ตามแบบละครในและโขน โรงใน ด้วยเหตุนี้ จึงมีชื่อเรียกศิลปะการ แสดงโขนชนิ ดนี้ ว่า “โขนฉาก”

แหล่งที่มา https://sites.google.com/site/ajanthus/prapheth-khxng-khon https://www.classstart.org/classes/21567 ภั ณฑิ รา ก้ างคำมา |3014632001 |16. 12. 64


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook