Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนเผชิญเเหตุ

แผนเผชิญเเหตุ

Published by sunisa.sombunma, 2021-12-09 12:32:07

Description: แผนเผชิญเเหตุ

Search

Read the Text Version

คู่มือการเฝา้ ระวงั ติดตาม และแผนเผชญิ เหตุ รองรับการแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 (COVID – 19) โรงเรียนอยู่ประชานุเคราะห์ สำนกั งำนเขตพน้ื ทีก่ ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำปทุมธำนี เขต 2 สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน กระทรวงศกึ ษำธิกำร

ก คำนำ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยได้ ขยายขอบเขตการแพร่ของโรคออกไปในวงกว้างกระจายไปในหลายพื้นที่การตรวจพบผู้ป่วยยนื ยันติดเชื้อราย ใหม่โดยเฉพาะกรณีที่เป็นการตดิ เชื้อภายในประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน ประกอบกับมีการเดินทาง ของบคุ คลจากเขตพน้ื ทสี่ ถานการณ์ทกี่ ำหนดให้เป็นเขตพนื้ ที่ควบคุมสูงสุดซ่ึงส่วนใหญ่ ยงั ไม่ปรากฏอาการของ โรคเปน็ เหตใุ หเ้ ชื้อโรคแพรอ่ อกไปในลกั ษณะเปน็ กลุ่มก้อน ผตู้ ดิ เชอ้ื โรคบางส่วนปกปิดขอ้ มูลการเดินทาง ทำให้ ขั้นตอนการสอบสวนโรคเกิดความล่าช้าและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องส่งผลให้ เกิดการ ระบาดขยายเปน็ วงกว้าง รัฐบาลและหนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้อง โดยศูนยบ์ รหิ ารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ (COVID-19) จึงได้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย ให้กับ ประชาชนท้งั ประเทศ โรงเรียนอยู่ประชานุเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ขยายผลการดำเนินงานตามนโยบายและแนว ปฏิบัติดังกล่าว เพื่อขับเคลื่อนการศึกษาไทยให้ก้าวต่อไปในภาวะฉุกเฉินนี้ โรงเรียนอยู่ประชานุ เคราะห์ มคี วามหว่ งใย ครู บคุ ลากรทางการศึกษา และนักเรียนทุกคน จึงได้จัดทำ “ค่มู ือการเฝา้ ระวังติดตาม และแผน เผชิญเหตรุ องรบั การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ – 19 (COVID – 19) โรงเรยี นอยู่ประชานุเคราะห์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บุคลากรของโรงเรียนอยู่ประชานุเคราะห์ และผู้เกี่ยวข้องจะได้นำไปใช้ประกอบ และเป็นแนวปฏิบัติในการเฝ้าระวัง กำกับติดตาม และเตรียมการเตรียมพร้อมต่อการเผชิญเหตุรองรับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างทันเหตุการณ์ อันจะส่งผลให้นักเรียน บุคลากรของ สถานศึกษา และผู้เกี่ยวข้อง ปลอดภัยไม่เสี่ยง ไม่มีอาการป่วยของโรคโควิด 19 และสามารถดำเนินชีวิตอย่าง ปกติสุขตามแนวชวี ติ วถิ ีใหม่ (New Normal) คณะผู้จัดทำ โรงเรียนอยู่ประชานเุ คราะห์

ข สารบญั เร่ือง หน้า ส่วนที่ 1 ข้อมลู สถานศกึ ษา 1 ประวัตโิ รงเรยี นอย่ปู ระชานเุ คราะห์ 3 ข้อมลู นักเรียน 3 ขอ้ มูลครูและบุคลากรทางการศกึ ษา 4 ขอ้ มลู อาคารสถานที่ 5 ข้อมลู ด้านสาธารณสขุ 6 ข้อมลู ร้อยละการรับวคั ซีนของครแู ละบุคลากรในสถานศึกษา 7 ข้อมูลร้อยละการรบั วคั ซีนของครูของนกั เรยี น ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1-3 8 สว่ นที่ 2 สถานการณโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 และเกณฑก์ ารพิจารณาความเสย่ี ง ความร้เู กีย่ วกับโรคโควดิ 19 10 เกณฑ์การพิจารณากรอบการปฏิบัติตามตารางประสานสอดคลอ้ งในการบริหาร 12 สถานการณโ์ ควดิ 19 ในสถานศึกษา 13 แนวปฏบิ ตั สิ ำหรับสถานศกึ ษารองรับสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 14 ตารางประสานความสอดคล้องของสถานศึกษา ด้านกระบวนการจดั การเรียนการสอนในรปู แบบต่าง ๆ ของโรงเรียนอยปู่ ระชานุเคราะห์ 15 15 ส่วนท่ี 3 แผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 16 วัตถปุ ระสงค์ 26 มาตรการเปิดภาคเรยี น/ระหว่างเปดิ ภาคเรยี น 27 หลกั ปฏิบัติในการปองกันการแพรระบาดของโรคโควิด 19 ในโรงเรยี น 28 มาตรการอ่นื ๆ สว่ นท่ี 4 การสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การสนับสนุน หน่วยรับผิดชอบ ภาคผนวก

1 ส่วนท่ี 1 ข้อมลู สถานศึกษา ประวตั ิโรงเรียนอยู่ประชานุเคราะห์ โรงเรียนอยู่ประชานุเคราะห์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของคันคลอง 13ที่ตั้ง หมู่ที่ 6 ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี 12170 ซงึ่ นายอยู่และนางหนู อย่วู ฒั นา ได้อทุ ิศท่ดี นิ จำนวน 3 ไร่ ใหเ้ ปน็ ที่ปลูกสร้างโรงเรียนและได้มีผู้ศรัทธาสละทรัพย์รวมกันทั้งหมด 7 ราย เป็นเงิน 6,056 บาท เพื่อทำการปลูก สร้างอาคารเรียนวันที่ 2 พฤษภาคม 2494 ปลูกสร้างโรงเรียนชั่วคราว รูปแบบปั้นหยาชั้นเดียว ออกมุขด้าน เหนือ วันที่ 1 สิงหาคม 2494 ตั้งชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนประชาบาลศาลาครุ 6 ( แจ่มราษฎร์อยู่วัฒนา)” มีครูทำการสอน 3 คน มีนักเรียน 94 คน ทำการสอนตั้งแต่ชั้น ป.1- ป.4 โดยมีนายไพฑูรย์ เกตุอ่วม เปน็ ครใู หญค่ นแรกของโรงเรยี น วันที่ 25 ตลุ าคม 2494 เปลี่ยนชือ่ โรงเรยี นเป็น “โรงเรยี นอยปู่ ระชานุเคราะห์” วันท่ี 1 ตลุ าคม 2496 ได้เปล่ยี นแปลงวนั ปดิ เรียน จากวนั พระมาเปน็ วันเสาร์-อาทิตย์ วนั ที่ 10 กรกฎาคม 2499 ทำการร้อื ถอนและปลกู สรา้ งอาคารเรยี นใหม่ (แบบ ป.1ข) ชัน้ เดยี ว 3 หอ้ งเรยี น หลังคามงุ ดว้ ยสังกะสี ฝายังไมม่ ี เป็นจำนวนเงนิ 23,700 บาท พ.ศ. 2505 ซอ้ื ฝาไม้กระดานตีฝา 3 ดา้ น โดยคณะครจู ัดทำเอง พ.ศ. 2515 ได้งบประมาณสร้างบ้านพกั ครู 1 หลัง พ.ศ. 2518 โรงเรียนถูกพายุพัด หลังคาพัง จึงของบประมาณก่อสร้างอาคารใหม่ (แบบ ป.1ข) 5 ห้องเรยี นเปน็ จำนวนเงนิ 230,000 บาท และไดง้ บประมาณสร้างบา้ นพักครู 1 หลัง พ.ศ. 2520 สร้างเสาธงถาวร และได้งบประมาณสรา้ งบ้านพักครู 1 หลงั พ.ศ. 2526 ได้งบประมาณก่อสร้างอาคารหลังที่ 2 (แบบ สปช.103/26) เป็นอาคารชั้นเดียว งบประมาณ 510,000 บาท พ.ศ. 2534 ได้เปิดสอนระดับมัธยมศกึ ษาขยายโอกาสเป็นปีแรก พ.ศ. 2536 ได้งบประมาณก่อสรา้ งอาคารอเนกประสงค์ งบประมาณ 310,000 บาท พ.ศ. 2537 ไดง้ บประมาณก่อสร้างอาคารเรียน 5 ห้องเรยี น งบประมาณ 1,654,000 บาท พ.ศ. 2538 คณะครูและนกั เรยี นไดท้ อดผา้ ป่า สร้างห้องน้ำห้องส้วมจำนวน 16 หอ้ ง พ.ศ. 2554 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างอาคาร อบจ. พ.ศ. 2559 ได้รับงบประมาณในการก่อสรา้ งโดมอเนกประสงค์ พ.ศ. 2560 ได้รับงบประมาณในการกอ่ สรา้ งบ้านพกั ครู 1 หลงั และเปลีย่ นหลังคาอาคาร ป.1ข พ.ศ. 2561 ระดมทุนปรบั ปรงุ โรงอาหาร และตอ่ เตมิ หลังคาบรเิ วณห้องนำ้

2 พ.ศ. 2562 ได้รับบริจาคคอมพิวเตอร์จากโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ได้รับงบประมาณในการปรับปรุงราง ระบายน้ำ และระดมทุนสร้างฐานพระพุทธรปู ประจำโรงเรียน ได้รบั การสนับสนุนท่อสูบน้ำเครื่อง ทำนำ้ เย็น พัดลมติดพนังจากบรษิ ทั ESSO พ.ศ. 2563 ปรบั ปรงุ ระบบน้ำดมื่ และนำ้ ใชใ้ นโรงเรยี น พ.ศ.2563 ได้รับบริจาคคอมพิวเตอร์สำหรับการจัดการเรียนการสอนจากโรงเรียนบดินทร์ชา (สงิ ห์ สงิ หเสนีย์) จำนวน 30 เครอื่ ง คำขวัญโรงเรยี น พากเพียร เรียนรู้ สูง้ าน ปรัชญาของโรงเรยี น ปญญาฺ โลกสสมฺ ิ ปฺสโซโต อา่ นวา่ (ปัน-ยา-โล-กัด-สะ-มิ-ปัด-โช-โต) หมายถึง ปัญญาคือแสงสว่างในโลก อกั ษรยอ่ ย.ป. (ระดับอนบุ าล – ระดับประถมศึกษา) ม.ย.ป. (ระดบั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 - 3) สีประจำโรงเรยี น สมี ่วง – เหลอื ง สีม่วง หมายถึง ชีวิตที่มีความสง สุขุม กล้าหาญ ดำเนินชีวิตด้วย สติปัญญา สีเหลอื ง หมายถงึ ความสดชนื่ ร่าเริง และมีคุณธรรมประจำใจ สัญญาลกั ษณ์ประจำโรงเรียน รูปเจย์ดีมีรัศมีส่องประกาย หมายถึง เจดีย์ของตาอยู่ และยายหนู อยู่วัฒนา ผู้มี พระคุณบริจาคที่ดิน เพื่อสร้างโรงเรียน ให้บุตรหลานตำบลศาลาครุ และตำบล นพรัตน์ อำเภอหนองเสือ จังหวดั ปทุมธานไี ดเ้ รียนหนงั สือ ดอกไม้ประจำโรงเรียน ดอกทองอไุ ร

3 ขอ้ มลู นกั เรยี น (ณ วันท่ี 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564) นกั เรยี นชั้น จำนวนนกั เรยี น ก่อนประถมศกึ ษา 10 อนุบาลปที ี่ 1 10 อนบุ าลปีท่ี 2 6 อนุบาลปีที่ 3 ประถมศึกษา 13 ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 12 ประถมศึกษาปที ่ี 2 12 ประถมศึกษาปีที่ 3 7 ประถมศึกษาปที ่ี 4 13 ประถมศึกษาปที ี่ 5 19 ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 มธั ยมศึกษา 26 มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 29 มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 26 มัธยมศึกษาปที ่ี 3 183 รวมทั้งส้นิ ขอ้ มูลครูและบุคลากรทางการศกึ ษา จำนวนบุคลากร จำแนกตามหนา้ ที่ เพศ ระดับการศกึ ษา ประเภทบคุ ลากร จำนวน รวม ต่ำกว่า ป.ตรี ระดับการศกึ ษา ป.เอก ชาย หญงิ ป.ตรี ป.โท - - - ผอู้ ำนวยการ 1 -1 - -1 - - 10 4 - ครปู ระจำการ 1 13 14 - 3- - - 1- ครอู ัตราจา้ ง 1 23 14 5 ครูธรุ การ - 11 รวม 3 16 19

4 ขอ้ มูลอาคารสถานท่ี ที่ ประเภทอาคาร จำนวน(หลัง) สว่ นประกอบอาคาร หมายเหตุ 1 อาคารเรียน 4 ห้องเรยี น 11 ห้อง ห้องสมดุ 1 ห้อง ห้องคอมพวิ เตอร์ 2 หอ้ ง หอ้ งวทิ ยาศาสตร์ 2 หอ้ ง ห้องภาษาอังกฤษ 1 ห้อง ห้องสงั คมศกึ ษา 1 หอ้ ง หอ้ งกระดานอิเล็กทรอนกิ ส์ 1 หอ้ ง หอ้ งทำเบอเกอร์ร่ี 1 ห้อง ห้องสหกกรณ์ 1 หอ้ ง ห้องธนาคารโรงเรียน 1 ห้อง ห้องประชมุ 1 ห้อง 2 โรงอาหาร 1 - 3 สนามฟตุ ซอล อาคารโดม 1 - 4 หอ้ งน้ำหอ้ งส้วม 1 หอ้ งนำ้ ชาย 8 ห้อง ห้องนำ้ หญงิ 7 ห้อง หอ้ งน้ำครู 3 ห้อง 5 บา้ นพกั ครู 1 - รวม 8 41

ข้อมลู ด้านสาธารณสุข 5 สถานพยาบาลในจังหวัดปทุมธานี อำเภอ เบอร์โทรศพั ท์ สถานบริการสาธารณสขุ คลองหลวง 02-926-9999 โรงพยาบาลศูนย์ในขังหวดั ปทุมธานี ธญั บรุ ี 02-5461960 โรงพยาบาลธรรมศาสตรเ์ ฉลิมพระเกยี รติ เมอื ง 02-5988888 โรงพยาบาลมหาวชริ าลงกรณธัญบรุ ี โรงพยาบาลปทมุ ธานี สามโคก 02-1993769 โรงพยาบาลชุมชน (อำเภอ) ในจงั หวัดปทมุ ธานี ธญั บุรี 02-5674048 โรงพยาบาลสามโคก ธัญบุรี 02-25772600 โรงพยาบาลประชาธปิ ัตย์ ลำลกู กา 02-5631080 โรงพยาบาลธญั บรุ ี คลองหลวง 02-9046446 โรงพยาบาลลำลกู กา ลาดหลมุ แก้ว 02-5991650 โรงพยาบาลคลองหลวง หนองเสอื 02-5491053 โรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว โรงพยาบาลหนองเสือ ธญั บรุ ี 02-5671991 โรงพยาบาลเอกชนในจงั หวัดปทมุ ธานี ลำลูกกา 02-9989999 โรงพยาบาลปทุมเวช เมอื ง 02-9756700 โรงพยาบาลแพทยร์ ังสติ ธญั บรุ ี 02-5671991 โรงพยาบาลกรุงสยามเซนตค์ าร์ลอส คลองหลวง 02-5294533 โรงพยาบาลปทมุ เวช ธญั บรุ ี 02-9018406 โรงพยาบาลการุญเวช ปทุมธานี ลำลกู กา 02-1507111 โรงพยาบาลภทั ร-ธนบรุ ี เมือง 02-1472525 โรงพยาบาลซจี เี อช คลองหลวง 02-0785777 โรงพยาบาลกรงุ ไทย ปทุม ธัญบุรี 02-0281111 โรงพยาบาลธนบรุ บี ูรณา ลำลกู กา 02-0069999 โรงพยาบาลบางปะกอก-รงั สิต 2 ธัญบุรี 02-5778111 โรงพยาบาลสนิ แพทย์ โรงพยาบาลเปาโลรังสิต

6 ขอ้ มูลร้อยละการรับวัคซนี ของครแู ละบุคลากรในสถานศึกษา รอ้ ยละ 100 ฉดี วัคซนี ไม่ไดฉ้ ดี วคั ซีน โรงเรยี นอยปู่ ระชานุเคราะห์ไดม้ ี ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา ครู และบคุ ลากรทางการศึกษาได้รับวัคซีนแล้ว จำนวน 18 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 94.73 และมีผูท้ ย่ี งั ไม่ไดร้ ับวัคซีน จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 5.26 เน่ืองจาก มีโรคประจำตัว

7 ขอ้ มลู ร้อยละการรบั วคั ซนี ของครูของนักเรยี น ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1-3 ร้อยละ 45.67 ร้อยละ 54.32 ฉดี วัคซีน ไมฉ่ ีดวัคซนี โรงเรียนอยูป่ ระชานเุ คราะห์มีนักเรยี นระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-3 ไดร้ บั การฉีดวัคซนี จำนวน 44 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 54.32 และมีนักเรยี นที่ไม่รับการฉีดวัคซีน จำนวน 37 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 45.67

8 ส่วนท่ี 2 สถานการณโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 และเกณฑก์ ารพิจารณาความเสี่ยง ความรเู้ กย่ี วกบั โรคโควดิ 19 โรคโควิด 19 (Coronavirus disease 2019, COVID-19) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุ ซาร์ส-โควี-2 (SARS-CoV-2) ซึ่งได้มีการค้นพบการระบาดครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศสาธารณรัฐประชาชน จีน ตั้งแต่ช่วงปลายปี พ.ศ. 2562 และได้มีการแพร่ระบาดไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เชื้อซาร์ส- โควี-2 เป็นไวรัสชนิด (+) Single strand RNA อยู่ใน Coronaviridae family จัดอยู่ใน Betacoronavirus เช่นเดียวกับ SARS-CoV และ MERS-CoV เชื้อนี้มีเปลือกหุ้ม (Envelop) ซึ่ง เป็นสารจ่าพวกไกลโคโปรตีน เมื่อส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนจะเห็นกลุ่มของคาร์โบไฮเดรต เป็นปุ่ม (Spike) ยื่นออกจากอนุภาค ไวรัส ทำให้มลี ักษณะคลา้ ยมงกฎุ ลอ้ มรอบ เชอ้ื นี้มีระยะฟักตัวตั้งแต่2 - 14 วนั เชื้อนสี้ ามารถแพรก่ ระจายจากคนส่คู นผ่านฝอยละอองจากการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย อัตราการแพร่กระจายเชื้อเฉลี่ย 2 - 4 คน (BasicReproductive Number: R0 เท่ากับ 1.4 – 3.9) ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของประชากร ผู้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 จะมีอาการระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ มีไข้ ไอ มีน้ำมูก หายใจถี่หายใจล่าบาก ในกรณีที่ อาการรุนแรง มาก อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบไตวาย หรืออาจเสียชีวิต จากอาการ แสดงท่ี เกิดขึ้นหลายประการคลา้ ยคลึงกับไวรสั ชนิดอ่ืนทีก่ ่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ จึงต้องอาศัยการ ทดสอบ ทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันเชื้อ โดยการรักษาจะเป็นการรักษาแบบประคับประคองเพื่อบรรเทาอาการ ป่วยต่าง ๆ สำหรับกลุ่มเสี่ยงตอ่ การสมั ผัสเชอ้ื น้สี ามารถเกิดข้นึ ได้ทุกเพศทุกวยั แตใ่ นกล่มุ เส่ียงสงู ทอี่ าจเกิดการ สัมผัสเชื้อมาก ได้แก่ผู้ที่อาศัยในพื้นที่เสีย่ งต่อการสมั ผัสโรคหรือประเทศหรอื เมืองที่มีการระบาดของโรคอย่าง ต่อเนื่อง ผู้ที่เดินทางเข้า-ออกหรือแวะเปลี่ยนเครื่องบินในประเทศหรือเมืองที่มีการระบาดของโรคอย่าง ต่อเนื่องบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข บุคคลที่ทำงานให้บริการนักท่องเที่ยว และผู้ที่มีอายุ > 50 ปี และมีโรค ประจา่ ตวั เร้อื รงั เชน่ เบาหวาน โรคหลอดเลอื ด และหวั ใจ เป็นตน้ จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 22 มกราคม 2564 พบว่า ประชากรกว่า 96 ล้านรายทัว่ โลก เป็นโรคโควิด 19 และมปี ระชากรกวา่ 2 ลา้ นรายเสียชีวิตจาก การติดเชื้อ ดังกล่าว (1) สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยพบวา่ ประชากรมากกว่า 13,000 รายติดเชื้อ และ มี71 รายเสียชีวิตจาก โรคโควิด 19 (2) แม้วา่ คนสว่ นใหญ่ท่เี ป็นโรคนีจ้ ะไม่มีอาการรุนแรง เพยี งประมาณ ร้อย ละ 20 เท่านั้นที่มีอาการ ป่วย และมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ กว่าร้อยละ 1 แต่เนื่องจากเป็นโรคใหม่จึงไม่มี ภูมิคุ้มกันในคนทั่วไปทำให้จำนวนผู้ที่ติดเชื้อมีมาก จึงส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้ระบบ สาธารณสุขรองรับไม่ได้ ซ่งึ มาตรการป้องกันต่าง ๆ ทใ่ี ช้ในปัจจุบัน ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ

9 การรักษาระยะห่างทางสังคม (Social distancing) และการกักตัว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวิถีชีวิตความ เป็นอยู่ และระบบเศรษฐกจิ และไม่สามารถป้องกนั การ แพรร่ ะบาดของโรคได้อย่างสมบูรณ์ หลายประเทศทั่ว โลกรวมถึงประเทศไทยจึงได้มีการคดิ คน้ และพัฒนาวคั ซีนโควิด 19 ซึ่งเป็นความหวงั ใหม่ในการป้องกันการตดิ เชอ้ื การแพร่ระบาดของโรค และการลดความรุนแรงจากการตดิ เช้อื โรคโควิด 19 แพร่กระจายเชื้อไดอ้ ย่างไร โรคชนิดนี้มีความเปน็ ไปใด้ท่ีมีสัตว์เป็นแหล่งรังโรค ส่วนใหญ่แพร่กระจายผา่ น การสัมผัสกับผู้ตดิ เช้ือ ผา่ น ทางละอองเสมหะจาการไอ น้ำมกู น้ำลาย ปัจจบุ ันยงั ไมม่ หี ลักฐานสนับสนนุ การแพรก่ ระจายเชื้อผ่านทาง พื้นผิวสัมผัสที่มีไวรัสแล้วมาสัมผัส ปาก จมูกและตา สามารถแพร่เชื้อผ่านทางเชื้อที่ถูกขับถ่ายออกมากับ อจุ จาระ เข้าสูอ่ ีกคนหน่งึ โดยผ่านเข้าทางปาก (Feco-oral route) ไดด้ ว้ ย โรคโควิด 19 รักษาไดอ้ ย่างไร ยังไม่มียาสำหรับป้องกันหรือรักษาโรคโควิค 19 ผู้ที่ติดเชื้ออาจต้องได้รับการรักษาแบบ ประคับประคอง ตามอาการ โดยอาการท่ีมแี ตกต่างกัน บางคนรุนแรงไม่มากลกั ษณะเหมอื นไข้หวัดทั่วไป บาง คนรุนแรงมาก ทำให้เกิดปอดอักเสบไต้ ต้องสังเกตอาการ ใกลัชิดร่วมกับการรักษาด้วยการประดับประคอง อาการจนกว่า จะพ้นอาการช่วงนนั้ และยังไม่มยี าตวั ใดทม่ี ีหลักฐานชัดเจนว่า รกั ษา โรคโควิด 19 ไดโ้ ดยตรง ใครบ้างที่เสี่ยงสูงต่อการติดโรคโควิด 19กลุ่มเสี่ยงโดยตรงที่อาจสัมผัสกันเชื้อ ได้แก่ ผู้ที่เพิ่งกลับจาก พื้นที่เสี่ยง สัมผัสใกล้ชิด ผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อ กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวัง หากติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรง ได้แก่ ผู้สงู อายุ 70 ปีข้ึนไป ผูป้ ว่ ยโรคเรือ้ รัง เชน่ เบาหวาน ความดันโลหติ สูง หลอดเลอื ดหวั ใจ ภูมแิ พ้ เด็กเลก็ อายตุ ่ำ กวา่ 5 ปี

10 เกณฑ์การพิจารณากรอบการปฏบิ ตั ติ ามตารางประสานสอดคล้องในการบริหาร สถานการณโ์ ควิด 19 ในสถานศึกษา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (2563, น.6-35) ไดก้ ำหนดเกณฑ์การพิจารณาความเสีย่ ง และการ เฝ้าระวงั โรคโควิด 19 ดังนี้ วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื จดั ระดบั ความรุนแรงของการระบาดของโควดิ 19 2. เพอ่ื นา่ ไปใชใ้ นการกำหนดมาตรการ การปอ้ งกันควบคุมโรค ระดบั ประเทศ 3. เพอ่ื ให้จังหวดั น่าไปปรับใชใ้ นระดับจงั หวดั จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 ทก่ี ำลัง ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงได้มี การกำหนดเกณฑ์การพิจารณาระดับความรุนแรงของการระบาด ความเสี่ยง และ การเฝ้าระวัง โดยจำแนกเย็น 3 ระดบั กล่าวคอื ระดบั ประเทศ ระดับชุมชนและระดบั สถานศกึ ษา มีดงั นี้ 3.1 เกณฑ์การพิจารณาระดับความรุนแรงของการระบาดของโรคโควิด 19 ระดับประเทศ การพิจารณาระดับความรุนแรงของการระบาดของโรคโควิด 19 ระดับประเทศ ควรคำนึงถึงความสำคัญของ คุณลักษณะ 3 ประเดน็ ไดแ้ ก่ 1) จำนวนผตู้ ิดเชื้อรายใหม่สะสมต่อสัปดาห์ 2) ลกั ษณะการกระจายของโรคตามจังหวัดและเขตสุขภาพ 3) การกระจายของโรคตามลักษณะทางระบาดวทิ ยา แต่ละประเดน็ มีการจำแนกระดับความ รุนแรงของการระบาดของโรคโควิด 19 ตามลักษณะสีแบ่งเป็น 5 สี ได้แก่ สีขาวเขียว เหลือง ส้ม แดง มีรายละเอยี ดคณุ ลกั ษณะ ดังน้ี สีขาว (ปลอดภัย มีวัคชีน) หมายถึง ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมีผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ผเู้ ดนิ ทางมา จากต่างประเทศเข้าสถานท่ีกกั กัน ผตู้ ิดเช้อื เข้ารกั ษาในโรงพยาบาลทกี่ ำหนดสีเขียว (ไม่รนุ แรง ไม่ มีวัคซีน) หมายถึง มีผู้ติดเชื้อในประเทศมีผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ผู้เดินทางจาก ต่างประเทศเข้าสถานท่ี กกั กนั ผ้ตู ดิ เช้ือเขา้ รักษาในโรงพยาบาลที่กำหนด สีเหลือง (รุนแรงน้อย) หมายถึง จ่านวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สะสมต่อสัปดาห์น้อยกว่า300 ราย ตอ่ สัปดาห์ ลกั ษณะการกระจายของโรคตามจังหวัดและเขตสุขภาพ ไมเ่ กนิ 1จังหวดั ตอ่ เขต และไม่เกิน 3 เขตการกระจาย ของโรคตามลกั ษณะทางระบาดวทิ ยา ระบาดในวงจ่ากัด มีไม่เกิน 3 กลุ่มก้อน (Cluster) สีส้ม (รุนแรงปานกลาง) หมายถึง จ่านวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สะสมต่อสัปดาห์ 300-900 ราย ต่อสัปดาห์ ลักษณะการกระจายของโรคตามจงั หวัดและเขตสขุ ภาพ ไม่เกิน 1 จังหวัดตอ่ เขต จ่านวน 4-6 เขต หรือ มากกว่า 1 จังหวัดต่อเขต และไม่เกิน 3 เขต การกระจายของโรคตามลักษณะทาง ระบาดวิทยา ระบาด ในวงจา่ กัด มมี ากกว่า 3 กลุม่ ก้อน (luster) และมคี วามเชอื่ มโยงกนั

11 สีแดง (รุนแรงมาก) หมายถึง จ่านวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สะสมต่อสัปดาห์มากกว่า 900 ราย ต่อสัปดาห์ ลักษณะการกระจายของโรคตามจังหวัดและเขตสุขภาพ ไม่เกิน 1 จังหวัดต่อเขต และเกิน 6 เขต หรือ มากกว่า 1 จังหวัดต่อเขต และเกิน 3 เขต การกระจายของโรคตามลักษณะทางระบาดวิทยา มกี ารระบาดใน วงกว้าง หาสาเหตุไมไ่ ด้ เกณฑ์การพิจารณาความเสี่ยงและการเฝา้ ระวัง ระดบั ชุมชน จากสถานการณ์ความเส่ยี งต่อการแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 กระทรวงสาธารณสุขจงึ กำหนดเกณฑ์ การพิจารณาความเสี่ยงและการเฝ้าระวังในการประเมิน ความเสี่ยงกรณเกิดปัจจัยเสี่ยงของคนในครอบครัว ในชุมชนหรือหมู่บ้านกับความเชื่อมโยงสถานศึกษา สำหรับให้สถานศึกษาใช้เป็นมาตรการดำเนินการ ใหส้ อดคล้องตามสถานการณ์ จำแนกเป็น 4 สี ไดแ้ ก่ แดง สม้ เหลอื ง และเขียวมีดังน้ี สีแดง หมายถึง กรณมี ปี ัจจยั เสีย่ งมผี ปู้ ่วยในชมุ ชนใน 7 วัน คนในครอบครัวสมั ผัสใกลช้ ิดกบั ผู้ปว่ ย อาการของคนในครอบครวั ป่วยยนื ยนั โรควดิ 19 ระดับความเส่ยี งสูงมาก มาตรการดำเนินการสำหรบั นักเรยี น ตอ้ งเรยี นอยู่ที่บ้าน 28 วัน สว่ นสถานศกึ ษาถือปฏบิ ตั ิตามมาตรการสงู สุดอยา่ งเครง่ ครัด สสี ้ม หมายถงึ กรณมี ีปจั จัยเสย่ี งมีผปู้ ่วยในชุมชนใน 14 วัน คนในครอบครัวสัมผสั ไม่ใกลช้ ดิ กับผู้ป่วย อาการของคนในครอบครัวรอยนื ยันโรคโควดิ 19 ระดับความเส่ียงสูง มาตรการดำเนินการสำหรับนกั เรยี นตอ้ ง เรียนอยู่ท่ีบ้าน 14 วนั ส่วนสถานศึกษาถือปฏบิ ัตติ ามมาตรการสูง สีเหลือง หมายถึง กรณีมปี ัจจยั เสี่ยงมีผูป้ ่วยในชุมชนใน 28 วนั คนในครอบครวั ไปในพื้นท่ีสถานที่ เสย่ี ง หรอื มพี ฤติกรรมเส่ยี ง อาการของคนในครอบครัวปว่ ยแตไ่ ม่เปน็ โรควดิ 19 ระดับ ความเสย่ี งปานกลาง มาตรการดำเนินการสำหรบั นักเรียนเรียนอยูท่ ี่บา้ น 7 วัน ส่วนสถานศึกษาถือปฏบิ ัติตามมาตรการพน้ื ฐาน

12 สเี ขียว หมายถึง กรณีไมม่ ีผู้ป่วยในชมุ ชน 28 วันข้ึนไป คนในครอบครวั ไม่มีพฤติกรรมเสยี่ งอาการของ คนในครอบครัวปกติ ระดบั ความเสยี่ งตำ่ มาตรการดำเนนิ การสำหรบั นักเรยี น ไปโรงเรยี นได้ ส่วนสถานศกึ ษา ถอื ปฏบิ ตั ิตามมาตรการผ่อนคลาย แนวปฏบิ ตั สิ ำหรบั สถานศึกษารองรับสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 ทม่ี ีความรนุ แรงมากขึ้นท่วั โลกและประเทศใกล้เคียง อาทิ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่ชายแดนด้านเมียนมากำลังเป็นพื้นที่วิกฤตที่สุด จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด 19 ในเขตพื้นที่ ของชุมชนและสถานศึกษา อาจส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอน ดังนั้นสถานศึกษามีแนวปฏิบัติใน การจัดการเรียนการสอนตามตารางประสานสอดคล้องตามสถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดของ โรคโควดิ 19 ของสถานศึกษามดี ังน้ี 1. กล่มุ นกั เรยี น - สถานศึกษาจดั การเรียนการสอนตามปกติ (ครบคน ครบห้อง ครบชนั้ เรียน) สขี าว - สเี ขียว - สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อไม่น้อยกว่า 90 วัน (พื้นที่สีเขียว) ได้รับการ พจิ ารณาอนญุ าตจากศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวดั ใหจ้ ัดการเรยี นการสอน ไดต้ ามปกติ - โรงเรยี นมีมาตรการให้นักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหนา้ ทท่ี กุ คน สวมหน้ากาก อนามัย มีอุปกรณ์ล้างมือและล้างมือบ่อย ๆ มีการทำความสะอาดห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ หรือโรงฝึกงาน และทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติ ก่อนและ หลงั ใช้งานทุกครงั้ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข สีเหลือง - สสี ม้ - สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยมีการสลับวันเรียนแต่ละชัน้ เรยี น หรือมี การแบง่ จำนวนนักเรยี นให้เหมาะสมกับการเวน้ ระยะห่าง (Social distancing) - มมี าตรการให้ นักเรียน ครูบุคลากรทางการศกึ ษาและเจ้ากน้าที่ทุกคน สวมหน้ากากอนามยั มีอุปกรณ์ล้างมอื และลา้ งมอื บ่อย ๆ

13 - มีการทำความสะอาดห้องเรียน ห้องปฏิบัติการหรือโรงฝึกงาน และทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ ใช้ในการเรยี นการสอน การฝกึ ปฏิบัติ ก่อนและหลงั ใชง้ านทกุ ครงั้ สแี ดง - สถานศกึ ษาจัดการเรยี นการสอนแบบ Online หรอื On air ตารางประสานความสอดคล้องของสถานศึกษา กลมุ่ กิจกรรม/ สถานการณก์ ารแพร่ระบาด กิจการ นักเรียน สถานศกึ ษา - สถานศึกษาที่ตง้ั อยใู่ น - สถานศึกษาจดั การเรยี น - สถานศกึ ษา จดั การ เรยี นการสอนแบบ จดั การเรยี น พ้ืนทที่ ่ีไม่ พบผู้ติดเช้อื ไม่ การสอน แบบผสมผสาน Online ,Onair แ ล ะ Onhand การสอน นอ้ ยกวา่ 90 วนั (พ้ืนทีส่ ี โดยมกี ารสลับวนั เรยี น แต่ ตามปกติ เขยี ว) ไดร้ บั การพจิ ารณา ละชัน้ เรยี นหรอื มีการแบง่ (ครบคน อนญุ าตจากศูนย์ จำนวนนักเรยี นให้ ครบหอ้ ง ปฏบิ ตั กิ าร ควบคมุ โรค เหมาะสมกบั การเว้นระยะ ครบชนั้ เรยี น) จังหวดั ให้จดั การเรียน หา่ งระหว่างกัน (Social การสอนได้ตามปกติ distancing) - มีมาตรการ - โรงเรียนมมี าตรการให้ ใหน้ กั เรยี น ครู บุคลากร นกั เรยี น ครู บคุ ลากร ทางการศึกษา และเจา้ ก ทางการศกึ ษาแ ล ะ นา้ ทที่ ุกคน สวมหน้ากาก เจา้ หนา้ ทีท่ กุ คนสวม อนามยั มีอุปกรณ์ล้าง มือ หน้ากากอนามยั มี และล้างมอื บอ่ ย ๆ อปุ กรณล์ ้างมือและล้าง - มีการทำความสะอาด มอื บ่อย ๆ มีการทำความ หอ้ งเรยี น หอ้ งปฏบิ ตั ิการ สะอาดห้องเรียน หรอื โรงฝึกงาน และ ทำ ห้องปฏบิ ตั กิ ารหรือโรง ความสะอาดอุปกรณท์ ีใ่ ช้ ฝกึ งาน และทำความ ในการ เรียนการสอน การ สะอาด อปุ กรณ์ท่ใี ช้ใน ฝึกปฏิบตั ิ ก่อน และหลงั ใช้ การเรยี นการสอน การฝึก งานทุกครัง้ ปฏบิ ตั ิ ก่อนและหลังใช้ งานทุกครั้งตามมาตรการ ของ กระทรวงสาธารณสขุ

14 ด้านกระบวนการจดั การเรยี นการสอนในรูปแบบตา่ ง ๆ ของโรงเรยี นอยปู่ ระชานเุ คราะห์ การจัดการเรียนการสอนส่วนใหญ่จะใช้ 3 รูปแบบ ได้แก่ ONLINE , ONDEMAND , ONHAND และ มีการจดั บูรณาการโดยใช้หลักกระบวนการ PDCA และ Home School for 4 Smart ดังนี้ ONLINE มีการจดั การเรยี นการสอนผ่านระบบออนไลน์ โดยมกี ารใช้ Application ต่างๆ ในการจัดการเรียนการสอนตามตารางสอนที่แต่ละสถานศึกษากำหนด ได้แก่ กลุ่ม LINE , Google Meet, Google zoom, โดยครูผู้สอนมีการจัดเตรียมสื่อการสอน เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อให้ผู้เรียนมีความสนและอยากเรียนมากขึ้น ได้แก่ PowerPoint , E-Book และมีการสร้างเกมส์ผ่านแฟลตฟอร์ม wordwall , kahoot , Quizizz เพื่อให้นักเรียนรู้สึกผ่อนคลาย สนุกสนานกับการเรียนการสอน มีการใช้ Google form ในการสรา้ งใบความรู้ ใบงาน แบบทดสอบ และใช้ Google classroom ในการบริหารจดั การช้ันเรยี น ONDEMAND มีการจดั การเรียนการสอนผ่านคลิป VDO การสอนในเร่ืองตา่ ง ๆ เพื่อส่งให้กับ นักเรียนและผู้ปกครองผ่าน Youtube, กลุ่ม LINE, กลุ่มFacebook โดยในกลุ่มนี้ นักเรียนและผู้ปกครองมีข้อจำกัดด้านของเวลาในการเรียนของนักเรียน การจัดทำ คลิป VDO, E-Book ของครูผู้สอนทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าชมติดตามเนื้อหาของการ จัดการเรียนการสอนย้อนหลังได้ตลอดเวลา รวมถึงผู้ปกครองก็สามารถที่จะมีเวลาใน การกำกับดูแลนกั เรยี นได้อย่างเต็มท่ี และมกี ารรับ – ส่งใบความรู้ ใบงาน แบบทดสอบ ผ่าน Google form ตามระยะเวลาที่ครผู ู้สอนกำหนด ONHAND ครูผู้สอนมีการจัดทำใบความรู้ ใบงาน ตามมาตรฐาน ตัวชี้วัดที่กำหนดให้กับ ผู้เรียนและผู้ปกครอง มีการนัดหมายรับ-ส่ง งานของนักเรียนในแต่ละสัปดาห์ โดย ครูผ้สู อนจะติดตามผ่านการโทรศัพท์ หรือเมอ่ื ผ้ปู กครองมาสง่ งานกจ็ ะมีการชี้แจง เพื่อ สร้างความเขา้ ใจให้กับนักเรียน และผูป้ กครองโดยตรง โรงเรียนจัดการเรียนการสอนโดยคํานึงถึงความปลอดภัยตามแนวทางการป องกันและควบคุมโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID–19) กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ โดยเวนระยะหางในช้ันเรยี นและใน การจดั การเรยี นการสอนรวมถึงงดการจัดกิจกรรมรวมคน อาทิ การรวมตัวกันเพ่ือเคารพธงชาตโิ ดยใหนักเรียน เคารพธงชาติในชนั้ เรยี น งดการจัดการแขงขันกรีฑาสี การไปทัศนศกึ ษา รวมถึงการเขาคายพักแรมตาง ๆ

15 สว่ นที่ 3 แผนเผชญิ เหตรุ องรับสถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีความรุนแรงมากข้ึน การแพร่ระบาดของโรคยังสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นและมีการกลายพันธุ์ของโรคท าให้เกิดอาการท่ี แตกต่างกันของแต่ละคน โรงเรียนอยู่ประชานุเคราะห์ ได้จัดทำแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ขึ้น วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อกำหนดมาตรการการเตรียมความพร้อมการป้องกันการควบคุมโรค และตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณกี ารแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ของโรงเรียนอย่ปู ระชานุเคราะห์ 2. เพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบของบุคลากรในการเตรียมความพร้อม การป้องกัน ควบคุมโรค และตอบโต้ ภาวะฉุกเฉินกรณีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของโรงเรียนอยปู่ ระชานุเคราะห์ 3. เพื่อให้การประสานงานระหวา่ งบุคลากรภายในและภายนอกในการเตรียมความพร้อมการป้องกัน ควบคุมโรค และตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณี สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID19) ของโรงเรียนอยปู่ ระชานุเคราะห์ 4. เพ่ือสรา้ งความมนั่ ใจในการเตรียมความพร้อมการป้องกนั การควบคุมโรค และตอบโตภ้ าวะฉุกเฉิน กรณีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้กับบุคลากรและนักเรียนของ โรงเรียนอย่ปู ระชานุเคราะห์ มาตรการเปิดภาคเรยี น/ระหวา่ งเปดิ ภาคเรยี น ปฏิบัตกิ ารรดั กมุ 1. หลักปฏิบตั ิในการปองกันการแพรระบาดของโรคโควิด 19 ในโรงเรยี น 2. แนวปฏิบตั ิการปองกนั การแพรระบาดของโรคโควิด 19 ในโรงเรยี น 1) แนวปฏบิ ตั สิ ำหรับผูบริหารโรงเรยี น 2) แนวปฏิบัตสิ ำหรับครู ผูดูแลนกั เรยี น 3) แนวปฏบิ ัติสำหรับพยาบาล 4) แนวปฏิบตั สิ ำหรบั นักเรยี น 5) แนวปฏบิ ัติสำหรบั ผูปกครอง 6) แนวปฏบิ ัติสำหรบั แมครวั 7) แนวปฎิบตั สิ ำหรับผูปกครองและบคุ คลภายนอกทม่ี าตดิ ตอกบั ทางโรงเรียนฯ

16 (ที่มา: คมู ือการปฏบิ ตั ิสำหรบั สถานศกึ ษาในการปองกนั การแพรระบาดของโรคโควดิ 19 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ ) ระหวางเปดภาคเรยี น 1) การเขาแถวเคารพธงชาติ 2) การเขาช้ันเรียน 3) ระหวางอยูในชัน้ เรียน 4) ชวงพกั 5) การรบั ประทานอาหารกลางวัน 6) การเจบ็ ปวยระหวางเรยี น หลกั ปฏบิ ตั ใิ นการปองกันการแพรระบาดของโรคโควดิ 19 ในโรงเรยี น มาตรการควบคุมหลักในมิติการดําเนินงานเพื่อความปลอดภัยจากการลดการแพรเชื้อโรคโควิด 19 มี 6 ขอปฏิบตั ใิ นโรงเรยี น ไดแก 1) คัดกรอง (Screening) : ผูท่เี ขามาในสถานศกึ ษาทุกคน ตองไดรับการคดั กรองวัดอณุ หภูมริ างกาย 2) สวมหนากาก (Mask) : ทุกคนตองสวมหนากากผาหรือหนากากอนามัย ตลอดเวลาที่อยู ใน สถานศกึ ษา 3) ลางมือ(Hand Washing) : ลางมือบอย ๆ ดวยสบูและน้ำนานอยางนอย 20 วินาที หรือใชเจล แอลกอฮอลหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณจุดเส่ียง เชน ราวบันได ลูกบิดประตู เปนตน รวมทั้งไมใชมือสัมผัส ใบหนา ตา ปาก จมกู โดยไมจำเปน 4) เวนระยะหาง (Social Distancing) : เวนระยะหางระหวางบุคคล อยางนอย 1 - 2 เมตร รวมถึง การจัดเวนระยะหางของสถานท่ี 5) ทาํ ความสะอาด (Cleaning) : เปดประตู หนาตาง ใหอากาศถายเท ทําความสะอาดหองเรียน และ บริเวณตาง ๆ โดยเช็ดทําความสะอาดพื้นผิวสัมผสั ของโตะ เกาอี้ และวัสดุอุปกรณ กอนเขาเรียนชวงพักเที่ยง และหลังเลิกเรียนทุกวัน รวมถึงจัดใหมีถังขยะมูลฝอยแบบมีฝาปดและรวบรวมขยะออกจากหองเรียน เพ่ือนําไปกาํ จดั ทกุ วนั 6) ลดแออัด(Reducing): ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมใหสั้นลงเทาที่จำเปนหรือเหลื่อมเวลาทำ กจิ กรรมและหลกี เลี่ยงการทำกิจกรรมรวมตัวกนั เปนกลุมลดแออัด

17 แนวปฏบิ ัติสำหรบั ผบู ริหารโรงเรียน 1. ประกาศนโยบายและแนวปฏบิ ตั ิการปองกนั การแพรระบาดของโรคโควดิ 19 ในสถานศึกษา 2. กำหนดแนวทางปฎิบัติตามระเบียบสำหรับนักเรียน ครู และบุคลากร ที่สงสัยติดเชื้อหรือปวยดวย โรคโควิด 19 โดยไมถือเปนวนั ลาหรอื วนั หยุดเรยี น 3. จัดตั้งคณะทํางานดําเนินการควบคุมดูแล และปองกันการแพรระบาดของโรคโควิด 19 ประกอบ ดวยครู นกั เรยี น ผูปกครอง เจาหนาทีส่ าธารณสุข ทองถ่ิน ชุมชน และผูเกีย่ วของ พรอมบทบาทหนาที่ 4. ทบทวน ปรบั ปรุง ซอมปฏบิ ตั ติ ามแผนฉกุ เฉนิ ของสถานศกึ ษาในภาวะทีม่ ีการระบาดของโรคติดเชื้อ (Emergency operation for infectious disease outbreaks) 5. สื่อสารประชาสัมพันธการปองกันโรคโควิด 19 เกี่ยวกับนโยบาย มาตรการ แนวปฏิบัติ และการ จดั การเรยี นการสอนใหแกครู นักเรยี น ผูปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ผานชองทางสอื่ ท่เี หมาะสม 6. สอ่ื สารทำความเขาใจเพือ่ ลดการรังเกยี จและลดการตีตราทางสังคม (Social stigma) กรณีอาจพบ บุคลากรในสถานศึกษา นักเรียน หรือผูปกครองตดิ เช้อื โควิด 19 7. มีมาตรการคัดกรองสุขภาพทุกคน บริเวณจุดแรกเขาไปในสถานศึกษา (Point of entry) ใหแก นักเรียนครู บุคลากร และผูมาติดตอ และจัดใหมีพืน้ ท่ีแยกโรค อุปกรณปองกัน เชน หนากากผาหรอื หนากาก อนามัย เจลแอลกอฮอล อยางเพียงพอ รวมถึงเพิ่มชองทางการสื่อสารระหวางครู นักเรียน ผูปกครอง และเจาหนาท่ีสาธารณสขุ ในกรณีทีพ่ บนักเรยี นกลุมเส่ยี งหรือสงสัย 8. ควรพจิ ารณาการจัดใหนักเรียนสามารถเขาถึงการเรียนการสอนที่มีคุณภาพเหมาะสมตามบริบทได อยางตอเนื่อง ตรวจสอบติดตาม กรณีนักเรียนขาดเรียน ลาปวย การปดสถานศึกษา การจัดใหมีการเรียน ทางไกล ส่อื ออนไลน การตดิ ตอทางโทรศพั ท Social media โดยตดิ ตามเปนรายวัน หรอื สปั ดาห 9. กรณีพบนักเรียน ครู บุคลากร หรือผูปกครองอยูในกลุมเส่ยี งหรือผูปวยยืนยันเขามาในสถานศึกษา ใหใหรีบแจงเจาหนาที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อดำเนินการสอบสวนโรคและพิจารณาปดสถานศึกษาตาม แนวทางของกระทรวงสาธารณสุข 10. มีมาตรการใหนักเรียนไดรับอาหารกลางวัน และอาหารเสริมนมตามสิทธิทีค่ วรไดรับ กรณีพบอยู ในกลมุ เสย่ี งหรือกักตัว 11. ควบคุม กํากับ ติดตาม และตรวจสอบการดําเนินงานตามมาตรการปองกันการแพรระบาดของ โรคโควิด 19 ในสถานศึกษาอยางเครงครดั และตอเน่ือง 12. มีการจัดหางบประมาณสําหรับจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ ปองกันโรคโควิด 19 ใหกับนักเรียน ครู บุคลากรตามความจำเปนและเหมาะสม 13. มีการจัดสรรบุคลากรในการดแู ลนกั เรียน และการจัดการสิ่งแวดลอมภายในโรงเรียน

18 แนวปฏบิ ัติสำหรับครู ผูดูแลนักเรียน 1. ติดตามขอมูลขาวสารสถานการณการแพรระบาดของโรค พนื้ ทีเ่ สี่ยง คำแนะนำการปองกันตนเอง และลดความเสีย่ งจากการแพรกระจายของเชื้อโควดิ 19 จากแหลงขอมูลทเ่ี ชื่อถือได้ 2. สังเกตอาการปวยของตนเอง หากมีอาการไข ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลําบาก เหนื่อยหอบ ไมได กลิ่นไมรูรส ใหหยุดปฏิบัติงาน และรีบไปพบแพทยทันที กรณีมีคนในครอบครัวปวยดวยโรคโควิด 19 หรือ กลบั จากพนื้ ท่ีเสยี่ งและอยูในชวงกกั ตวั ใหปฏิบตั ติ ามคําแนะนําของเจาหนาท่สี าธารณสขุ อยางเครงครดั 3. แจงผูปกครองและนักเรียน ใหนําของใชสวนตัวและอุปกรณปองกันมาใชเปนของตนเอง พรอมใช เชน ชอน สอม แกวนาํ้ แปรงสฟี น ยาสีฟน ผาเช็ดหนา หนากากผาหรอื หนากากอนามยั เปนตน 4. สื่อสารความรูคําแนะนําหรือจัดหาสื่อประชาสัมพันธในการปองกันและลดความเสี่ยงจากการแพร กระจายโรคโควิด 19 ใหแกนกั เรยี น เชน สอนวิธีการลางมือทถ่ี กู ตอง การสวมหนากากผาหรือหนากากอนามัย คำแนะนําการปฏิบัติตัว การเวนระยะหางทางสังคม การทำความสะอาด หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมรวมกัน จำนวนมากเพอื่ ลดความแออัด 5. ทำความสะอาดส่อื การเรียนการสอนหรืออปุ กรณของใชรวมที่เปนจุดสมั ผสั เสยี่ ง ทุกครั้งหลังใชงาน 6. ควบคมุ ดูแลการจดั ท่นี ่ังในหองเรียน ระหวางโตะเรยี น (เวนระยะหาง 1.5 เมตร) ที่น่งั ในโรงอาหาร การจัดเวนระยะหาง ระหวางบุคคลอยางนอย 1-2 เมตร หรือเหลื่อมเวลาพักกินอาหารกลางวัน และกํากับให นกั เรยี น สวมหนากากผาหรือหนากากอนามัยตลอดเวลา และลางมือบอย ๆ 7. ตรวจสอบ กำกับ ติดตามการมาเรียนของนักเรียนขาดเรียน ถูกกักตัว หรืออยูในกลุมเสี่ยงตอ การตดิ โรคโควดิ 19 และรายงานตอผูบริหาร 8. กรณีครูสังเกตพบนักเรียนที่มีปญหาพฤติกรรม เชน เด็กสมาธิสั้น เด็กที่มีความวิตกกงั วลสูง อาจมี พฤตกิ รรมดดู นิ้วหรือกัดเล็บ ครสู งตอปรึกษาครูการศึกษาพิเศษ นักจติ วทิ ยาเพ่ือดูแลชวยเหลือดานสุขภาพจิต ใหสามารถเรียนรวมกบั เด็กปกติตอไป 9. วิธีการปรับพฤติกรรมสําหรับนักเรียนที่ไมรวมมือปฏิบัติตามมาตรการที่ครูกําหนด ดวยการแก ปญหาการเรยี นรูใหมใหถกู ตองนน่ั คือ “สรางพฤติกรรมทพ่ี ึงประสงค” หรือ “ลดพฤติกรรมที่ไมพึงประสงค” 10. ครูสื่อสารความรูเกีย่ วกับความเครียด วาเปนปฏิกิริยาปกติที่เกิดขึ้นไดในภาวะวิกฤติท่ีมีการแพร ระบาดของโรคโควิด 19 และนํากระบวนการการจัดการความเครียด การฝกสติใหกลมกลืนและเหมาะสมกับ นักเรยี นแตละวัย รวมกบั การฝกทักษะชวี ิตท่เี สริมสรางความเขมแข็งทางใจ (Resilience) ใหกบั นกั เรยี น ไดแก ทักษะชีวิตดานอารมณ สังคม และความคดิ เปนตน

19 แนวปฏบิ ตั ิสาํ หรบั ครูพยาบาล 1. ทําการตรวจคัดกรองสุขภาพทุกคนที่เขามาในสถานศึกษาในตอนเชา ทั้งนักเรียน ครู บุคลากร และผูมาติดตอโดยใชเครื่องวัดอุณหภูมิรางกาย พรอมสังเกตอาการและสอบถามอาการของ ระบบทางเดิน หายใจ เชน ไข ไอ มีน้ํามูก เจ็บคอ หายใจลําบาก เหนื่อยหอบ ไมไดกลิ่น ไมรูรส โดยติดสัญลักษณสติ๊กเกอร แสดงใหเหน็ ชัดเจนวา ผานการคัดกรองแลว o กรณีพบนกั เรยี นหรอื ผูมอี าการมีไข อุณหภมู ิรางกายตั้งแต 37.5 องศาเซลเซียสข้ึนไปรวมกับอาการ ระบบทางเดนิ หายใจอยางใดอยางหนงึ่ จัดใหอยูในพนื้ ท่ีแยกสวนใหรีบแจงผูปกครองมารับและพาไปพบแพทย ใหหยุดพักที่บานจนกวาจะหายเปนปกติ หากพบวาติดเชื้อโควิด 19ใหแจงเจาหนาที่สาธารณสุขเพื่อประเมิน สถานการณและดาํ เนินการสอบสวนโรค 2. บันทึกผลการคดั กรองและสงตอประวัตกิ ารปวย ตามแบบบันทกึ การตรวจสขุ ภาพ 3. จดั อปุ กรณการลางมือ พรอมใชงานอยางเพียงพอ เชน เจลแอลกอฮอลวางไวบริเวณทางเข้าสบู่ล้าง มอื บริเวณอางลางมอื แนวปฏบิ ตั สิ ำหรบั นกั เรยี น 1. ติดตามขอมูลขาวสารสถานการณการแพรระบาดโรคโควิด 19 พื้นที่เสี่ยง คําแนะนําการปองกัน ตนเองและลดความเส่ยี งจากการแพรกระจายของโรคโควดิ 19 จากแหลงขอมูลทีเ่ ช่ือถือได 2. สังเกตอาการปวยของตนเอง หากมีอาการไข ไอ มีน้ํามูก เจ็บคอ หายใจลําบาก เหนื่อยหอบ ไมได กลิ่นไมรูรส รีบแจงครูหรือผูปกครองใหพาไปพบแพทย กรณีมีคนในครอบครัวปวยดวยโรคโควิด 19 หรือ กลับบานจากพืน้ ทีเ่ สย่ี งและอยูในชวงกกั ตัว ใหปฏบิ ัตติ ามคำแนะนําของเจาหนาที่สาธารณสุขอยางเครงครัด 3. มีและใชของใชสวนตัว ไมใชรวมกับผูอื่น เชน ชอน สอม แกวน้ํา แปรงสีฟน ยาสีฟน ผาเช็ดหนา หนา้ กากผา หรอื หนากากอนามยั และทําความสะอาดหรือเก็บใหเรยี บรอย ทุกครง้ั หลงั ใชงาน 4. กรณีนักเรียนดื่มน้ำบรรจุขวด ควรแยกเฉพาะตนเอง และทำเครื่องหมายหรือสัญลักษณเฉพาะไม ใหปะปนกบั ของคนอืน่ 5. หมั่นลางมือบอย ๆ ดวยวิธีลางมือ 7 ขั้นตอน อยางนอย 20 วินาที กอนกินอาหาร หลังใชสวม หลีกเล่ยี งใชมือสัมผัสกบั ใบหนา ตา ปาก จมกู โดยไมจำเปน รวมถึงสรางสุขนสิ ยั ท่ีดหี ลังเลนกับเพ่ือนเม่ือกลับ มาถงึ บาน ตองรีบอาบนา้ํ สระผม และเปลีย่ นเส้อื ผาใหมทันที 6. เวนระยะหางระหวางบุคคล อยางนอย 1–2 เมตร ในการทำกิจกรรมระหวางเรียน ชวงพัก และ หลงั เลกิ เรยี น เชน นัง่ กินอาหาร เลนกบั เพื่อน เขาแถวตอคิว ระหวางเดนิ ทางอยูบนรถ 7. สวมหนากากผาหรือหนากากอนามัยตลอดเวลาทอ่ี ยูในโรงเรยี น

20 8. หลกี เลยี่ งการไปในสถานที่ท่แี ออดั หรือแหลงชุมชนทีเ่ สยี่ งตอการตดิ โรคโควดิ 19 9. ดูแลสุขภาพใหแข็งแรง ดวยการกินอาหารปรุงสุก รอน สะอาด อาหารครบ 5 หมู และผัก ผลไม 5 สเี สรมิ สรางภมู ิคมุ กนั ควรเสรมิ อาหารเชาจากบาน หรือใหผูปกครองจัดเตรียมอาหารกลอง (Box set) กินท่ี โรงเรียนแทน รวมถึงการออกกําลงั กาย อยางนอย 60 นาที ทกุ วนั และนอนหลบั อยางเพยี งพอประมาณ 9–11 ช่ัวโมงตอวัน 10. กรณีนักเรยี นขาดเรยี นหรือถูกกักตัว ควรตดิ ตามความคบื หนาการเรยี นอยางสม่ำเสมอ ปรกึ ษาครู เชน การเรียนการสอน ส่อื ออนไลน อานหนงั สือ ทบทวนบทเรียน และทำแบบฝกหดั ท่บี าน 11. หลีกเลี่ยงการลอเลียนความผิดปกติ หรืออาการไมสบายของเพื่อน เนื่องจากอาจจะกอใหเกิด ความกลัวมากเกินไปตอการปวยหรอื การติดโรคโควดิ 19 และเกดิ การแบงแยกกดี กนั ในหมูนกั เรยี น บทบาทหนาทข่ี องนักเรียนแกนนําดานสขุ ภาพ นักเรียนที่มีจิตอาสา เปนอาสาสมัครชวยดูแลสุขภาพเพื่อนนักเรียนดวยกันหรือดูแลรุนนองดวย เชน สภานักเรียน เดก็ ไทยทาํ ได อย.นอย 1. ติดตามขอมลู ขาวสารสถานการณการแพรระบาดของโรค พนื้ ที่เส่ียง คำแนะนำการปองกนั ตนเอง และลดความเส่ียงจากการแพรกระจายของโรคโควิด 19 จากแหลงขอมูลท่เี ชอ่ื ถือได้ 2. ชวยครตู รวจคัดกรองวัดอุณหภูมิรางกายของนักเรียนทุกคนทีม่ าเรียน ในตอนเชา ทางเขา โดยมีครู ดแู ลใหคาํ แนะนําอยางใกลชิด เนนการจัดเวนระยะหางระหวางบคุ คล อยางนอย 1 – 2 เมตร 3. ตรวจดูความเรียบรอยของนักเรียนทุกคนทีม่ าเรยี น ตองสวมหนากากผา หรือหนากากอนามัย หาก พบนกั เรียนไมไดสวม ใหแจงครู ผูรับผิดชอบ เพือ่ จัดหาหนากากผา หรอื หนากากอนามัยสาํ รองให 4. เฝาระวงั สังเกตอาการของเพ่ือนนักเรยี น หากมีอาการไข ไอ มนี า้ํ มกู เจ็บคอ หายใจลาํ บาก เหน่ือย หอบ ไมไดกล่ิน ไมรรู ส ใหรีบแจงครทู นั ที 5. จัดกิจกรรมสื่อสารใหความรูคําแนะนําการปองกนั และลดความเสี่ยงจากการแพรกระจายของโรค โควิด 19 แกเพื่อนนักเรียน เชน สอนวิธีการลางมือที่ถูกตอง การทําหนากากผา การสวมหนากาก การถอด หนากากผา กรณีเก็บไวใชตอ การทําความสะอาดหนากากผา การเวนระยะหางระหวางบุคคล จัดปาย แนะนําตาง ๆ 6. ตรวจอุปกรณของใชสวนตัวของเพื่อนนักเรียนและรุนนอง ใหพรอมใชงาน เนนไมใชรวมกับผูอ่ืน เชน จาน ชอน สอม แกวน้ํา แปรงสีฟน ยาสฟี น ผาเชด็ หนา ผาเช็ดมอื ของตนเอง 7. จัดเวรทําความสะอาดหองเรียน หองเรียนรวม และบริเวณจุดสัมผัสเสี่ยงทุกวัน เชน ลูกบิดประตู กลอนประตู ราวบันได สนามเดก็ เลน อุปกรณกฬี า เคร่ืองดนตรี คอมพิวเตอร 8. เปนแบบอยางที่ดีในการปฏิบัติตัวเพื่อปองกันโรคโควิด 19 ดวยการสวมหนากากผา หรือหนากาก อนามยั ลางมอื บอย ๆ กินอาหารใชจาน ชอน สอม แกวนํา้ ของตนเอง การเวนระยะหาง เปนตน

21 แนวปฏบิ ัตสิ ําหรับผูปกครอง 1. ติดตามขอมูลขาวสารสถานการณการแพรระบาดโรคโควิด 19 พื้นที่เสี่ยง คำแนะนําการปองกัน ตนเองและลดความเส่ยี งจากการแพรกระจายของโรค จากแหลงขอมลู ทีเ่ ชือ่ ถอื ได 2. สังเกตอาการปวยของบุตรหลาน หากมีอาการไข ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลําบาก เหนื่อยหอบ ไมไดกลิ่น ไมรูรส ใหรีบพาไปพบแพทย ควรแยกเด็กไมใหไปเลนกับคนอื่น ใหพักผอนอยูที่บานจนกวาจะหา เปนปกติ กรณีมีคนในครอบครัวปวยดวยโรคโควิด 19 หรือกลับจากพื้นที่เสี่ยง อยูในชวงกักตัวใหปฏิบัติตาม คำแนะนําของเจาหนาทีส่ าธารณสุขอยางเครงครัด 3. จดั หาของใชสวนตัวใหบุตรหลานอยางเพียงพอในแตละวัน ทำความสะอาดทุกวนั เชน หนากากผา ชอน สอม แกวน้ำ แปรงสฟี น ยาสีฟน ผาเช็ดหนา ผาเชด็ ตวั 4. จัดหาสบูหรือเจลแอลกอฮอล และกำกับดูแลบุตรหลานใหลางมือบอย ๆ กอนกินอาหาร หลังใช สวม หลกี เลี่ยงการใชมือสมั ผัสใบหนา ตา ปาก จมูก โดยไมจำเปน และสรางสขุ นสิ ยั ท่ดี ี หลงั เลนกับเพื่อนและ เม่ือกลบั มาถึงบาน ควรอาบน้ำ สระผม และเปลีย่ นชุดเสอ้ื ผาใหมทนั ที 5. ดูแลสุขภาพบุตรหลาน จัดเตรียมอาหารปรุงสุกใหม สงเสริมใหกินอาหารรอน สะอาด กินอาหาร ครบ 5 หมู และผัก ผลไม 5 สี และควรจัดอาหารกลอง (Box set) ใหแกนักเรียนในชวงเชาแทนการซื้อจาก โรงเรียน (กรณีที่ไมไดกินอาหารเชาจากที่บาน) เพื่อเสริมสรางภมู ิคุมกัน ออกกําลังกายอยางนอย 60 นาทีทุก วันและนอนหลบั อยางเพยี งพอประมาณ 9 - 11 ชว่ั โมงตอวัน 6. หลีกเลี่ยงการพาบุตรหลานไปในสถานเสี่ยงตอการติดโรคโควิด 19 สถานที่แออัดที่มีการรวมกัน ของคนจำนวนมาก หากจำเปนตองสวมหนากากผาหรือหนากากอนามยั ลางมือบอย ๆ 7 ข้ันตอน ดวยสบูและ น้ำ นาน 20 วินาที หรอื ใชเจลแอลกอฮอล 7. กรณีการจัดการเรียนการสอนทางไกล ออนไลน ผูปกครองควรใหความรวมมือกับครูในการดูแล จัดการเรยี นการสอนแกนกั เรยี น เชน การสงการบาน การรวมทำกิจกรรม เปนตน แนวปฏบิ ตั ิสําหรับแมครัว 1. ติดตามขอมูลขาวสารสถานการณการแพรระบาดของโรคโควิด 19 พื้นที่เสี่ยง คําแนะนําการปอง กนั ตนเองและลดความเสย่ี งจากการแพรกระจายของโรค จากแหลงขอมลู ทีเ่ ช่อื ถือได 2. สังเกตอาการปวยของตนเองหากมีอาการไข ไอ มีน้ํามูก เจ็บคอ หายใจลําบาก เหนื่อยหอบ ไมได กลิน่ ไมรรู ส ใหหยุดปฏบิ ัติงานและรบี ไปพบแพทยทันที กรณีมคี นในครอบครวั ปวยดวยโรคโควิด 19 หรอื กลับ จากพ้นื ทเี่ สย่ี งและอยูในชวงกกั ตวั ใหปฏิบัตติ ามคําแนะนาํ ของเจาหนาทีส่ าธารณสขุ อยางเครงครัด

22 3. ลางมือบอย ๆ ดวยสบูและน้ํา กอน - หลังปรุงและประกอบอาหาร ขณะจําหนายอาหาร หลัง สัมผัสสิ่งสกปรกเมื่อจับเหรียญหรือธนบัตร หลังใชสวม ควรลางมือดวยสบูและน้ําหรือใชเจลแอลกอฮอลและ หลกี เลยี่ งการใชมอื สมั ผัสใบหนา ตา ปาก จมกู โดยไมจาํ เปน 4. ขณะปฏิบัติงานของผูสัมผัสอาหาร ตองสวมหมวกคลุมผม ผากันเปอน ถุงมือ สวมหนากากผาหรือ หนากากอนามัย และปฏบิ ตั ติ นตามสขุ อนามยั สวนบุคคลท่ีถกู ตอง 5. ปกปดอาหาร ใสถุงมือและใชที่คีบหยิบจับอาหาร หามใชมือหยิบจับอาหารพรอมกันโดยตรง และ จัดใหแยกกัน สวนกรณีรานจําหนายอาหารสําเร็จรูปพรอมกัน ไมควรใชมือสัมผัสลงไปในถุงบรรจุอาหารกอน ตกั อาหาร 6. จัดเตรียมเมนูอาหารใหครบ 5 หมู และผักผลไม 5 สี เพื่อเสริมสรางภูมิคุมกัน ปรุงสุกใหม ให นักเรยี นกินภายในเวลา 2 ชว่ั โมง หากเกนิ เวลาดังกลาว ใหนาํ อาหารไปอุนจนเดือด แลวนาํ มาเสิรฟใหมกรณีท่ี ไมสามารถจัดเหลอื่ มเวลาสําหรบั เด็กในม้ือกลางวนั ใหเตรยี มอาหารกลองแทนและรบั ประทานท่ีโตะเรียน 7. จดั เตรียมกระดาษสาํ หรบั ส่ังรายการอาหาร หรือชองทางส่ือสารอนื่ ๆ เพ่อื ลดการพูดคยุ และสมั ผัส 8. ผูปฏิบัติงานทําความสะอาด ผูปฏิบัติงานเก็บขนขยะ ตองใสอุปกรณปองกันตนเอง เชน สวมหนา กากผาหรือหนากากอนามัย สวมถงุ มือยาง ผายางกันเปอน รองเทาพนื้ ยางหุมแข็ง 9. การเกบ็ ขยะ ควรใชที่จับปากคีบดามยาวเกบ็ ขยะ ใสถุงขยะปดปากถงุ ใหมิดชดิ และนาํ ไปรวบรวม ไวท่ีพกั ขยะ 10. เมื่อปฏิบัติงานเสร็จทุกครั้ง ตองลางมือบอย ๆ และเมื่อกลับมาถึงบาน ควรรีบอาบน้ํา สระผม เปล่ยี นเสอ้ื ผาใหมทันที แนวปฎิบัติสำหรับผูปกครองและบคุ คลภายนอกท่ีมาตดิ ตอกบั ทางโรงเรยี น ใหมีการคัดกรองบุคคลที่เขามาในสถานศึกษา โดยยึดหลัก DMHTT (Distancing เวนระยะหาง , Mask wearing สวมหนากาก , Hand washing ลางมือ , Testing ตรวจวัดอุณหภูมิ , Thai Chana สแกน แอปไทยชนะ) โดยพยาบาล ครู

23 ระหวางเปดภาคเรียน 1. การเขาแถวเคารพธงชาติ ดงั นี้ 1.1 การจัดพื้นทีเ่ ขาแถว ใหมีการเวนระยะหางระหวางบคุ คล อยางนอย 1-2 เมตร กรณีมีพื้นทีจ่ าํ กดั ไมเพยี งพออาจพจิ ารณาสลบั ชั้นเรยี นมาเขาแถวบรเิ วณหนาเสาธง หรอื จัดใหมีการเขาแถวบริเวณที่มีพ้ืนที่กวาง ขวาง เชน หนาหองเรียน หรือภายในหองเรียนที่มีการเวนระยะหางระหวางโตะเรียน ลานอเนกประสงค ลานสนามกีฬา โรงยิม หอประชมุ เปนตน 1.2 ครู และนกั เรยี นทกุ คนตองสวมหนากากผาหรอื หนากากอนามัยตลอดเวลาเขาแถวเคารพธงชาติ 1.3 ลดระยะเวลาการจัดกิจกรรมหนาเสาธง กรณีมีการสื่อสารประชาสัมพันธควรใชชองทางอื่น ๆ เชน เสียงตามสายผานออนไลน Line Facebook E-mail แจงในหองเรยี น เปนตน 1.4 ทำความสะอาดอุปกรณของใชหรือจดุ สัมผัสเสยี่ ง ภายหลังการใชงานทกุ ครั้ง เชน เชือกทีเ่ สาธง ไมโครโฟน เปนตน 2. การเขาช้ันเรยี น 2.1 กอนเขาช้นั เรียนตองลางมอื ดวยเจลแอลกอฮอล 2.2 ครูตรวจเชค็ นักเรียนทกุ คนใหสวมหนากากอนามยั หรอื หนากากผา 3. ระหวางอยใู นชน้ั เรยี น 3.1 ครู นักเรยี นตองใสหนากากอนามยั หรือหนากากผาขณะจดั กิจกรรมการเรียนการสอน 3.2 นักเรียนนั่งเรียนที่โตะเรียนของตนเอง ซึ่งมีการเวนระยะหางอยางนอย 1.5 เมตร งดการยืมของ ใชอุปกรณการเรยี นกัน 3.3 หลกี เลี่ยงกิจกรรมท่ตี อง สัมผสั แตะตองตัว 3.4 ทําความสะอาดอปุ กรณประกอบการสอน เชน mouse คอมพวิ เตอร ปากกาsmart board ฯลฯ อยูเสมอทั้งกอนใชงาน และหลังใชงาน รวมถงึ อปุ กรณสอื่ การสอนท่ีเด็กตองหยิบ สัมผสั 3.5 ครูผูสอนสังเกตอาการเด็กนักเรียนในชั้นเมื่อพบเด็กมีอาการผิดปกติ ไมสบาย มีการตรวจวัด อุณหภูมิรางกายโดยใชเครื่องมือวัดแบบมือถือจอหนาผาก หากพบมีไขใหสงตอหองพยาบาลของระดับ การศึกษา (เครื่องมือวัดอุณหภูมิรางกายแบบมือถือจอหนาผากโรงเรียนจัดหามีไวประจำหองเรียน โดยมี 1 เคร่ือง ตอ 2 หองเรียน) 4. ชว่ งพัก 4.1 เพิ่มครูเวรสังเกตดูการเลนของนักเรียน ถาพบเห็นมีกิจกรรมใดที่เสี่ยงตอการระบาดของโรคควร เขาไปใหคำแนะนํา 4.2 มีการเหลอ่ื มเวลาพกั เพ่อื ลดความแออัด และไมจัดกิจกรรมที่เกดิ การรวมกลุมของนักเรียน

24 4.3 แนะนํานกั เรยี นใหลางมือ ดวยสบูเหลว หรือเจลแอลกอฮอล กอนเขาหองเรียนทกุ ครั้ง 5. การรบั ประทานอาหารกลางวนั 5.1 ลางมือบอย ๆ ดวยสบูและน้ำ หรือใชเจลแอลกอฮอลทำความสะอาดมอื ทุกครั้งกอนเขาไปในโรง อาหารกอนกินอาหาร ภายหลังซื้ออาหาร หลังจากจับเหรียญหรือธนบัตร หลังจากสัมผัสสิ่งสกปรก หรือหลัง ออกจากหองสวม 5.2 ทกุ คนตองสวมหนากากผาหรือหนากากอนามัยตลอดเวลาที่อยูในโรงอาหารหรือเขาไปในสถานท่ี จำหนายอาหาร 5.3 เลอื กซ้อื อาหารปรุงสำเรจ็ สุกใหม หลกี เลี่ยงการกินอาหารประเภทเน้ือสัตว เครอ่ื งในสัตวท่ีปรุงไม สุกและตรวจสอบคุณภาพของอาหารทันที เชน สภาพอาหาร กลิ่น ความสะอาด มีการปกปดอาหารมิดชิดไม เลอะเทอะ ไมฉกี ขาด เปนตน 5.4 เวนระยะหางระหวางบคุ คลอยางนอย 1 - 2 เมตร ในการรอซอ้ื อาหาร ขณะนง่ั กนิ อาหาร 5.5 การรบั ประทานอาหารกลางวนั แตละระดบั ชัน้ มกี ารเหลื่อมเวลาพักรับประทานอาหารกลางวนั เพ่อื ลดความแออดั 6. การเจบ็ ปวยระหวางเรียน 6.1 ครูประจําชั้น/ครูประจําวิชา พบนักเรียนมีอาการดังตอไปนี้ มีไข ไอ เจ็บคอ มีน้ํามูก หายใจ เหนื่อยหอบสงตอไปท่ี พยาบาลระดับการศกึ ษา 6.2 พยาบาลระดบั การศกึ ษา ซกั ประวตั ซิ ้าํ ตรวจสอบอาการวาอยูในเกณฑ *PUI หรอื ไม 6.3 หากอยูในเกณฑ PUI ตดิ ตอผูปกครองใหมารบั เพอ่ื ไปพบแพทย 6.4 หากไมอยูในเกณฑ PUI ใหนอนพกั ท่ีหองพยาบาล ถาอาการดขี ้นึ ใหกลบั มาหองเรียนได 6.5 ตดิ ตามขอมลู อาการของนกั เรียน และสรุปรายงานประจําวันสงหัวหนาพยาบาล 6.6 เมื่อนักเรียนหายปวยแลว และจะกลับเขาเรียนตามปกติ ใหนักเรียนนําหลักฐานใบรับรองแพทย มายืนยนั กับโรงเรียนทกุ ครัง้

25 มาตรการกอนเขาเรยี นและหลงั เลิกเรียน 1. การผานจุดคัดกรองกอนเขาเรียน นกั เรียน และ ครูทุกคนตองผานจุดคดั กรองของระดับการศกึ ษา มีขัน้ ตอนดังนี้ - ยืนรอควิ ตามสญั ลักษณ (เวนระยะหาง 1 เมตร) กอนเขาจดุ คัดกรอง - ตรวจเชค็ การสวมหนากากอนามยั หรอื หนากากผา - วดั อุณหภมู ิรางกาย ดวยเครือ่ งวดั อณุ หภมู ิแบบมือถอื จอหนาผาก - ลางมือดวยเจลแอลกอฮอล - ตดิ สต๊ิกเกอรสัญลักษณ “ผาน” หากผานเกณฑการคดั กรอง เกณฑการคดั กรองเบื้องตน ดงั นี้ - มไี ข 37.5 องศาเซลเซียส ขึน้ ไป (จากเครื่องวัดไข) - ไอ เจ็บคอ มนี าํ้ มูก หายใจเหนอื่ ยหอบ - ไมรบั รูกลิน่ ,รส กรณที ไี่ มพบอาการท้ัง 3 อยาง - ใหทำสญั ลักษณทต่ี ัวนกั เรยี น และอนญุ าตใหนักเรยี นเขาไปในพ้นื ทอ่ี าคารเรยี นได กรณีหากนกั เรียนมอี าการอยางใดอยางหนึ่ง ใหถอื วาอยูในเกณฑเส่ียง นําสงศูนยคดั กรองใหญ - เม่ือนักเรียนทอี่ ยูในเกณฑเสี่ยง มาถงึ ศนู ยคดั กรองใหญจะดำเนนิ การดังน้ี - ซกั ประวัตซิ ้ำ โดยใชแบบฟอรมการคดั กรองโรคฯ - ตรวจสอบอาการเบอื้ งตนโดยพยาบาลวิชาชีพ 2. การปฏิบตั หิ ลังเลกิ เรยี น 2.1 ทําความสะอาดผิวสัมผัสตาง ๆ ในหองเรียน เชน โตะ เกาอี้ คอมพิวเตอร รีโมท ฯลฯ ควรใชผา ชบุ น้ำยาทาํ ความสะอาดเช็ดถู (ไมควรใชเคร่ืองพนยาฆาเช้ือโรค เพราะจะทาํ ใหเกดิ การฟงุ กระจายของเชือ้ ได 2.2 ทาํ ความสะอาด ลูกบดิ ประตู ราวบนั ได ดวยผาชุบนํา้ ยาฆาเชือ้ 2.3 ลดการแออัดของผูปกครองที่มารอรับบุตร หลาน โดยขอความรวมมือใหรักษาระยะหางนั่งพักที่ จดุ พกั รอทม่ี ีสัญลักษณเวนระยะหาง โรงเรียนไดจัดจดุ พกั รอใหท่ี จดุ พกั รอศาลารอรถฝงประถมศึกษาจุดพักรอ ภายในโรงละคร และทีเ่ ต็นทหนาโรงละคร ซง่ึ จดั เกาอรี้ กั ษาระยะไวใหแลว 2.4 สรปุ สถานการณ แตละวัน โดยระดับการศกึ ษา

26 มาตรการอน่ื ๆ 1. นิเทศ ติดตาม ประเมนิ สถานการณ ของระดบั การศึกษาโดยทมี บรหิ ารระดบั การศึกษา 2. นิเทศ ติดตาม ประเมินสถานการณ ภาพรวมของโรงเรียน โดยทีมบรหิ ารโรงเรียน 3. ประมวลผล สรปุ ขอมูลภาพรวมรายวัน /รายสัปดาห/ รายเดือน 4. ใหขอมูลยอนกลับผลการปฏิบัติตามมาตรการตาง ๆ ของโรงเรียน นําขอเสนอแนะมาปรบั ปรุงการ ดำเนนิ การในมาตรการท่ยี ังมีจุดออน 5. กำหนดมาตรการชวยเหลือนกั เรยี น 4 ดานคือ - ดานการเรียน - ดานจติ ใจและทกั ษะชีวติ - ดานอปุ กรณการเรยี นและทุนการศกึ ษา - ดานสขุ ภาพ 6. รายงานตนสงั กัด

27 สว่ นที่ 4 การสร้างความรว่ มมือจากทุกภาคสว่ น การสนับสนนุ หนว่ ยรบั ผดิ ชอบ การสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การสนับสนุน หน่วยรับผิดชอบ ของโรงเรียนอยู่ประชานุ เคราะห์ ได้แก่ การประสานงานและติดตามข้อมูลข่าวสาร ประกาศนโยบาย แนวปฏิบัติ การติดตามข้อมูล ระหว่างสถานศึกษาจากทุกภาคส่วน เช่น จังหวัดปทุมธานี สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานี สำนักงาน สาธารณสุข จังหวัดปทุมธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมือง ปทุมธานี สำนกั งานประชาสัมพนั ธ์จงั หวดั ปทมุ ธานี ศูนยบ์ รหิ ารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโค โรนา 2019 (COVID-19) มกี ารกำหนดขั้นตอนหากนักเรยี น หรอื บุคลากรไม่สบาย วางแผนล่วงหน้ากบั เจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขใน พื้นที่เจ้าหน้าที่สุขภาพในโรงเรียน โดยมีรายชื่อและ หมายเลขติดต่อกรณีฉุกเฉินที่เป็นปัจจุบัน สร้างความ มั่นใจในขั้นตอนการแยกนักเรียนที่ป่วยและเจ้าหน้าที่ ออกจากผู้ที่มีสุขภาพดีและกระบวนการแจ้งผู้ปกครอง การให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพนักเรยี นหรอื เจ้าหน้าท่ี อาจต้องส่งตอ่ โดยตรงไปทีส่ ถานบริการสุขภาพหรือ ส่งกลับบ้านขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยมีการแจ้งขั้นตอน กับผู้ปกครองและนักเรียนล่วงหน้า สนับสนุนการคดั กรองผู้ที่มีความเสี่ยง และผู้ที่ต้องการดูแลพิเศษ ท างานร่วมกับระบบบริการสังคมและสาธารณสุขเพื่อให้ มั่นใจถึงความต่อเนื่องของบริการ เช่น โปรแกรม คัดกรองสุขภาพ พิจารณาความต้องการเฉพาะของเด็กที่มี ความพิการและครอบครัวนักเรียนชายขอบที่อาจมีความ รุนแรงมากขึ้นจากการได้รับผลกระทบจากการ เจ็บป่วย ตรวจสอบเด็กนักเรียนที่อาจเพิ่มความเสี่ยง เช่น ความรับผิดชอบในการดูแลคนป่วยที่บ้าน หรือ หาประโยชน์เมื่อออกจากโรงเรียน

28 ภาคผนวก

29 ประกาศโรงเรยี นอยู่ประชานเุ คราะห์ เรื่อง แนวปฏบิ ัตขิ องโรงเรยี นอยู่ประชานุเคราะห์ ในการควบคุมการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) กรณเี มื่อพบผู้ปว่ ยยืนยัน ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุม การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน ลงวนั ท2ี่ 4 เมษายน 2564 เนอ่ื งจากขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา2019 (covid-19) ระลอกใหม่ ทั่วประเทศมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึน้ จำนวนมาก โรงเรียนอยู่ประชานุเคราะห์ พิจารณา แล้ว จึงกำหนดแนวปฏิบัติในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรณีเมือ่ พบผปู้ ว่ ยยืนยัน เพ่ือใหส้ อดคล้องกับประกาศดงั กลา่ ว ดังนี้ 1. แจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่พบผู้ป่วย เพื่อให้ดำเนินการสอบสวน ปอ้ งกันและควบคุมโรค 2. ดำเนินการสำรวจบุคคลทีอ่ ยู่ในข่ายสัมผัสโรค เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการติดเชือ้ โดยให้ปฏิบัติ ตนดังนี้ 2.1 บุคคลที่มีอาการเข้าข่ายกับนิยามผู้สงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ที่เข้าเกณฑ์ สอบสวนโรค (Patient Under Investigation : PU) ตอ้ งตดิ ตอ่ พบแพทยท์ นั ที 2.2 บุคคลผู้มีความเสี่ยงสูงโดยเป็นผู้สัมผสั ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(covid-19) ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ และให้ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัยเป็นระยะเวลา 14 วัน นับจากวันที่ สมั ผสั ผ้ปู ่วยยืนยันวนั สดุ ทา้ ย 2.3 สำหรับบคุ คลอืน่ ๆนอกเหนือจากข้อ2.1 และขอ้ 2.2gหากไมม่ ีอาการปว่ ยและ ไมม่ ปี จั จยั เส่ียงอ่ืนๆ ให้สังเกตอาการตนเอง (Self–Monitoring) เป็นระยะเวลา 14 วัน หากมีอาการต้องไปพบแพทย์ ทันที ในกรณีที่มีอาการป่วยให้หยุดพัก ณ ที่พักอาศัยและหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วันให้รีบ พบแพทย์ ณที ม่ี อี าการป่วยให้หยุดพกั ณ ทีพ่ ักอาศัยและหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วันให้รบี พบแพทย์

30 3. กรณีที่มีครูบุคลากรทางการศกึ ษาและนกั เรยี นโรงเรยี นสอาดเผดิมวิทยา ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (Covid-19) ทางโรงเรียนขออนญุ าตปิดสถานศกึ ษาเปน็ ระยะเวลา 1 - 3 วนั เพ่อื ทำความสะอาด พื้นที่ 4. การกำกับติดตามและรายงานผลกรณีพบผู้ป่วยยืนยัน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการโรคติดเชื้อไวรัสโค โรนา 2019 (Covid-19) ของโรงเรียน รายงานข้อมูลต่อผู้อำนวยการสถานศึกษาเพื่อรายงานผู้บังคับบัญชา ตามลำดบั ขนั้ ตามมาตรการควบคมุ และป้องกันการแพร่ระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 5. ให้ศึกษาคู่มือดูแลตนเองสำหรับประชาชนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อเปน็ การเฝา้ ระวังและดแู ลตนเองให้ปลอดภัยจากโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา2019 (Covid- 19) ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของคณะครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครองรวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง โรงเรียนอยู่ประชานุเคราะห์ จึงขอให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและการดำเนินการให้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูล การสอบสวนทางระบาดวิทยา และสถานการณ์โรคในพ้ืนที่ จงึ ประกาศมาเพ่อื ทราบและถือปฏิบตั โิ ดยทั่วกนั ประกาศ ณ วันที่ 1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564 (นายธนวชั ร ศรแี สนยง) ผู้อำนวยการโรงเรยี นอยู่ประชานุเคราะห์

31 คำส่งั โรงเรียนอยปู่ ระชานเุ คราะห์ ท่ี 50 / 2564 เร่อื ง แตง่ ต้งั คณะกรรมการเฝา้ ระวงั ตดิ ตามและปฏบิ ัติตามแผนเผชิญเหตุรองรบั การแพรร่ ะบาด ของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในโรงเรยี นอย่ปู ระชานเุ คราะห์ เนื่องจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีความรุนแรง ขึ้นทั่วโลกจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจเป็นภาวะเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในเขตพื้นที่ชุมชนและสถานศึกษา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนเพื่อเป็นการ เตรียมการและเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น โรงเรียนอยู่ประชานุเคราะห์ จึงแต่งตั้คณะ กรรมการเฝ้าระวังติดตามและปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุรองรับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในโรงเรียนประจำปีการศึกษา 2564 ดังน้ี 1. คณะกรรมการอำนวยการ 1. นายธนวชั ร ศรีแสนยง ประธานกรรมการ 2. นางยุพาพร แจ้งไพร กรรมการ 3. นางศรไี พร เพ็ชรหึง กรรมการ 4. นางพชั รยี า เนยโอชา กรรมการ 5. นายสรรเพชร นุ่มยองใย กรรมการ 6. นางสาวนิตยา โชตชิ ว่ ง กรรมการ 7. นางสาวรกั ชนก พุฒซอ้ น กรรมการและเลขานุการ มหี นา้ ที่ 1) กำหนดนโยบายด้านการเฝ้าระวังตดิ ตามและปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุรองรับการแพร่ระบาดของ โรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในโรงเรยี นสอาดเผดิมวิทยา 2) กำหนดนโยบายให้ครู นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังติดตามและปฏบิ ัติ ตามแผนเผชญิ เหตรุ องรับการแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 3) อำนวยความสะดวก ให้คำปรึกษา กำกับติดตาม การด าเนินงานของคณะกรรมการ เฝ้าระวัง ติดตามและปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุรองรับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในโรงเรยี นและประสานงานเพอ่ื ให้บรรลุวัตถปุ ระสงค์

32 2. คณะกรรมการดำเนินการ 1. นางยพุ าพร แจง้ ไพร ประธานกรรมการ 2. นางศรีไพร เพ็ชรหึง กรรมการ 3. นางพัชรียา เนยโอชา กรรมการ 4. นายสรรเพชร นุ่มยองใย กรรมการ 5. นางสาวนติ ยา โชตชิ ่วง กรรมการ 6. นางสาวรกั ชนก พฒุ ซอ้ น กรรมการ 7. นางสมนกึ กลุ ศิริ กรรมการ 8. นางสาวอรญั ญา ลบั แล กรรมการ 9. นางสาวพรสุดา อนัคทัศน์ กรรมการ 10. นางสาวกุลริศา แพงรปู กรรมการ 11. นางสาวนฤมณ สักการเวช กรรมการ 12. นส.พิไลลักษณ์ โมง่ ประณตี กรรมการ 13. นางสาวธมลวรรณ ฉายแสง กรรมการ 14. นางสาวกญั ธภรณ์ กาญจนวงค์ กรรมการ 15. นางสาวจารวุ รรณ โพธ์สิ าจนั ทร์ กรรมการ 16. นางสาวมณเทยี ร ฝายชำนาญ กรรมการ 17. นางสาวสนุ สิ า สมบุญมา กรรมการและเลขานุการ มหี นา้ ท่ี 1) ปฏิบัติหน้าที่ เวลา 06.30 – 07.50 น. และปฏิบัติหน้าที่คัดกรองนักเรียนที่มาสาย ตรวจวัด อุณหภูมิร่างกายโดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแต่ละแถว โดยเน้นระยะห่างระหว่างคน 1 - 1.5 เมตร 2) จดั เตรียม หน้ากากอนามัยสำรอง สำหรับนักเรยี น ทไี่ มม่ ีอุปกรณ์ป้องกนั ตัวเอง หรอื แทนหน้ากาก อนามัยทีช่ ำรุด 3) นักเรียนมีอุณหภูมิร่างกายปกติอยู่ระหว่าง 36.1 - 37.2 องศาเซลเซียส หากตรวจวัดอุณหภูมิ ร่างกายครั้งแรก มีอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้นักเรียนพักคอยหรืออยู่ในบริเวณจุด ตรวจวัดอยา่ งน้อย 5 – 10 นาทกี อ่ นการวดั อกี ครง้ั และวัดซ้ำด้วยปรอทวดั ไข้ 4) กรณีวัดอุณหภูมิร่างกาย ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือมีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ ให้แยกนักเรียนในห้องที่จัดเตรียมไว้ บันทึกอาการป่วยและให้การดูแลเบื้องต้น ซักประวัติและสังเกตอ าการ เส่ียง แจง้ ผู้ปกครองรบั เด็กกลับบ้านหากมีอาการไม่ดีขนึ้ ให้ผปู้ กครองพาเดก็ ไปพบแพทย์

33 5) กรณีพบว่าเด็กมีประวัติเสี่ยงต่อการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด 19 ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ภายใน 3 ชั่วโมง 6) เป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะน า (Health Coach ) ดูแลสุขภาพตามมาตรฐาน การป้องกันการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานศึกษา 7) ติดตามประเมินผลการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานศกึ ษา 3. คณะกรรมการประเมนิ สถานการณ์ การเปดิ / ปดิ โรงเรยี น (ระดับโรงเรียน) 1. นายธนวัชร ศรีแสนยง ผู้อำนวยการโรงเรียน ประธานกรรมการ 2. นายสำราญ อาสนะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ 3. นางสาวนวลจนั ทร์ ตองออน กรรมการผู้แทนผู้ปกครอง กรรมการ 4. นางยุพาพร แจ้งไพร กรรมการผู้แทนครู กรรมการ 5. นางสาวยุคลธร แก้วกระจา่ ง กรรมการผแู้ ทนองค์กรชุมชน กรรมการ 6. นายสมชาย เสมอใจ กรรมการผู้แทนองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น กรรมการ 7. นายพชิ ยั เสมอใจ กรรมการผู้แทนศษิ ยเ์ กา่ กรรมการ 8. พระมหาศริ พิ จน์ สตุ ธมโม กรรมการผู้แทนองคก์ รศาสนา กรรมการ 9. นายสมชาย ช่วยชู กรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิ กรรมการ 10. นางสาวมณเทยี ร ฝายชำนาญ ธรุ การโรงเรยี น กรรมการและเลขานุการ มีหนา้ ที่ รวบรวมขอ้ มลู พื้นฐาน เพ่ือประเมินสถานการณ์ในโรงเรยี นและชมุ ชน รว่ มกับ ศนู ย์บรหิ ารสถานการณ์แพร่ ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ใหค้ ณะกรรมการที่ได้รับการแต่งต้ัง ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีในความรับผิดชอบอย่างเตม็ ความสามารถเพ่ือให้ เกิดผลดกี บั โรงเรยี นสบื ไป ทั้งน้ีต้งั แตบ่ ัดน้ีเป็นต้นไป ส่ัง ณ วันที่ 4 ตลุ าคม พ.ศ. 2564 (นายธนวชั ร ศรแี สนยง) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนอยู่ประชานเุ คราะห์

34 ภาพการประชมุ หารือเพ่ือประเมินสถานการณก์ ารเปิด / ปิด โรงเรยี น ของคณะกรรมการ สถานศึกษา คณะครู และบคุ ลากรทางการศึกษา

35

36

37


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook