Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นาฎศิลป์ 3

นาฎศิลป์ 3

Published by sunisa.sombunma, 2021-01-04 15:01:53

Description: นาฎศิลป์ 3

Search

Read the Text Version

รปู แบบในการสร้างบทละคร (ต่อ) ๕ ๔ บทละครจากการรวบรวมขอ้ มลู และเทคนิคละครสด (Collective Improvisation Theatre) บทละครเพอื่ การศึกษา (TIE ยอ่ มาจาก Theatre in Education) • การจะไดบ้ ทละครจากการแสดงละคร สดนัน้ จะต้องสนใจการทางานของ • เปน็ ละครเพ่อื การพฒั นาการเรยี นรู้ นกั แสดงตามหัวข้อท่ีมอบหมายใหแ้ สดง จุดม่งุ หมายเพื่อพัฒนาความคดิ ของ และนาข้อมูลเร่ืองราวกลบั มาสู่กลมุ่ เยาวชนในโรงเรียน นักแสดงละคร เพือ่ สรา้ งตัวละคร และ เหตุการณต์ ่างๆ ตามแผนงานทกี่ าหนด • การเขยี นบทจะแบง่ ออกเป็นฉากๆ แล้ว ใสโ่ ครงเรือ่ งตวั ละครประมาณ ๕-๖ คน ลงไป • ประเด็นท่นี าเสนอ มกั เปน็ ปญั หาการ ขัดแยง้ เปิดโอกาสใหผ้ ชู้ มรว่ มแสดง ความคดิ เห็น

องคป์ ระกอบของบทละคร องคป์ ระกอบของบทละครมสี ว่ นประกอบที่สา่ คัญ ดงั นี้ โครงเร่อื ง (Plot) • การจัดลาดบั เหตุการณต์ ง้ั แต่ตน้ จนจบ ประกอบดว้ ยช่วงต่างๆ ได้แก่ ช่วงปูพน้ื บทละครจะเรม่ิ ปูพนื้ ใหผ้ ชู้ มไดร้ บั รทู้ ีม่ าของละครตวั เอก ตัวร้าย และตวั ประกอบอน่ื ๆ สอื่ ให้รวู้ า่ ตวั ละครแตล่ ะตวั จะทาอะไรดว้ ยวตั ถปุ ระสงคใ์ ด ช่วงกลาง การเกดิ อุปสรรคต่างๆ ทีก่ ระทาโดยตวั ร้าย ท้ายสุดละครตวั เอกฟนั ฝา่ ผา่ นพน้ อุปสรรคไปได้ ชว่ งสุดท้าย ผา่ นจุดตนื่ เต้น ดาเนนิ ไปถงึ จุดคลค่ี ลาย (จบ) ตัวละคร (Character) • ประกอบดว้ ยตัวเอกซ่ึงเปน็ ศูนย์กลางของเร่ือง ตัวรองเปน็ ตัวสาคัญรองจากตวั เอกเป็นตัวละครทชี่ ่วยแก้ไข สถานการณ์ ตวั รา้ ยเป็นศตั รูกบั ตวั เอก แก่นเร่อื ง (Theme) • แนวคดิ ทผี่ เู้ ขียนบทละครตอ้ งการจะสื่อกบั ผู้ชม โดยผา่ นการแสดง เชน่ ทาดไี ดด้ ีทาชั่วไดช้ ว่ั เป็นต้น

บทพูด (Dialogue) • บทพดู บทละครสาหรับเยาวชนจะนิยมบทเจรจาส้ันๆ ภาษาทใี่ ช้ในการเขียนเป็นภาษางา่ ยๆตรงไปตรงมา รวมทั้ง ภาษาทา่ ทาง จังหวะในการแสดง อาการต่างๆ ควรมกี ารออกแบบเพอ่ื สื่อสารเรื่องราวต่างๆ แกผ่ ู้ชมให้เขา้ ใจงา่ ย เพลงประกอบ (Sound and Music) • ถือได้ว่าเปน็ องค์ประกอบสาคญั ในการเชือ่ มฉาก กาหนดอารมณข์ องตัวละครทาให้ละครมคี วามสมจริงมากขนึ้ ภาพ และเทคนคิ (Visuals and Technique) • ภาพ และเทคนคิ ได้แก่ ฉาก แสงไฟ ซง่ึ จะทาใหผ้ ูช้ มมีความรสู้ ึกร่วมคลอ้ ยตามไปกับการแสดง

บทบาทความสา่ คัญของนกั แสดง อิทธพิ ลของนักแสดงท่ีมผี ลตอ่ พฤตกิ รรมผูช้ ม ๑ ทาให้ผู้ชมเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรม เช่น การทล่ี ะครสอดแทรกเรอื่ งวิธีการป้องกนั สขุ ภาพของตนจากไขห้ วัดสายพันธุ์ใหม่ ทาใหผ้ ู้ชมเข้าใจ และนาไปปฏิบตั ติ าม เป็นตน้ ๒ ผชู้ มจะเกดิ เจตคติ ค่านยิ ม และมคี ุณธรรม นกั แสดงทผี่ คู้ นชื่นชอบมาก ถ้าแสดงบททเ่ี ป็นแบบอยา่ งทดี่ ี จะทาให้ผชู้ มโดยเฉพาะเยาวชนมพี ฤตกิ รรม ที่เลียนแบบทาตามการมีคุณธรรมน้ัน เช่น ตวั ละครเรื่องเปาบ้นุ จิ้น เป็นตน้ ๓ ทาใหเ้ ปล่ียนแปลงพฤติกรรมด้านทักษะพสิ ัย ผูช้ มจะมพี ฤตกิ รรมในการเลยี นแบบตามนกั แสดง นกั แสดงชอื่ ดงั จะมีอทิ ธพิ ลในการโน้มนา้ วของผูช้ มเปน็ อยา่ งมากเมอ่ื นกั แสดง พดู หรอื ทาอะไร กจ็ ะสง่ ผลให้ผูช้ มทาตามอยา่ งโดยงา่ ย

การปฏบิ ัตติ นของนกั แสดง • ไมเ่ ย่อหย่งิ อ่อนน้อมถ่อมตน สุภาพเรยี บร้อย มีมนุษยสมั พันธด์ ี • ไมเ่ ลือกบท รับผิดชอบตอ่ หน้าท่อี ยา่ งเต็มความสามารถ • ยอมรับฟังคาวพิ ากษ์ วิจารณ์ แลว้ นามาปรบั ปรุงแก้ไข • ทางานร่วมกบั ผู้อื่นได้อยา่ งมีความสขุ ต้องท่องจาบทของตนใหแ้ ม่นยา เพราะถา้ ลมื บทจะทาใหน้ กั แสดงคนอืน่ แสดงได้ลาบาก • ประพฤติตนเป็นแบบอย่างทด่ี ีหลงั แสดง ไมข่ อ้ งแวะอบายมขุ ส่งิ เสพตดิ หรอื มเี ร่อื ง เสอ่ื มเสยี ในทางชสู้ าว • ทางานอย่างมอื อาชพี ตอ้ งตรงต่อเวลา มีสขุ ภาพสมบูรณ์แข็งแรง มคี วามพรอ้ มที่ จะปฏิบัตงิ านแสดงตามทีผ่ ู้กากบั สั่ง • ใหค้ าชี้แนะ และใหก้ าลงั ใจผู้รว่ มแสดง ไมโ่ ทษผ้อู น่ื เมอื่ มงี านผิดพลาด ไม่ก้าวกา่ ย งานผู้อ่นื ทมี่ ใิ ชห่ นา้ ที่ของตน

การพัฒนารปู แบบการแสดง การพัฒนารปู แบบการแสดงเกิดข้นึ ตามสภาพความเปล่ยี นแปลงของสงั คม เม่อื มีการแข่งขนั สงู ละครไทยจงึ ต้อง พยายามพัฒนาทงั้ เทคนิค รูปแบบ แนวการนาเสนอท่ีไม่ควรซา้ แบบเดิมๆ รปู แบบในการนา่ เสนอ • อาจพฒั นารปู แบบเดมิ ที่มอี ยู่แล้วใหด้ ขี ้นึ กระชบั ขึน้ เพ่อื ให้เหมาะสมกับเวลาชองผชู้ มหรอื สร้างงานใหม่ ดดั แปลงการแสดง ใหร้ วดเร็วขึ้น มคี วามสมจรงิ บทละคร • บทละครทีเ่ ปน็ ของเกา่ สามารถนามาปรบั ปรงุ ใหม่ หรือจะเขียนบทละครข้นึ ใหมก่ ไ็ ด้ ควรเปลี่ยนบทบาทของตวั ร้ายเดิมๆ ที่แสดงพฤตกิ รรมเพียงแคห่ าวธิ ีการแย่งชงิ พระเอก มีการตบตกี นั ต้องให้มีความสมเหตุสมผล ไม่ควรให้แตกตา่ งไปจากชวี ิต จริงมากนกั

การพัฒนารปู แบบของการแสดงบคุ คลท่ีเก่ียวข้องกบั การจัดการแสดงสามารถด่าเนินการได้ ดงั นี้ หม่นั หาความรเู้ พิม่ เติม มีใจกวา้ งยอมรบั ค่าติชม หาเทคนคิ วธิ ี โดยศึกษาจากละครของผอู้ ่ืน ถือวา่ คาแนะนาของผ้ชู มเสมอื น เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ผลงาน ชาตอิ ่ืน เพ่ือนาแนวทด่ี ีมาปรบั ปรุง กระจกเงาสะท้อนผลงานของตน ใหม้ ีความแปลกใหม่ สมจริง สามารถ พฒั นาผลงานของตน ประหยัดเวลาและคา่ ใช้จ่าย ทา่ งานร่วมกนั เปน็ ทมี ท่างานอย่างมอื อาชีพ มีการประเมินผลงานภายหลงั การแสดง พยายามดงึ จุดเดน่ ของแตล่ ะคนมา ต้องมรี ะบบในการทางาน มีการจัดสรร เพ่อื จะได้นามาเปน็ ข้อมูลใช้พัฒนา ชว่ ยสร้างงานให้มีประสทิ ธภิ าพ งานของแต่ละฝ่าย แตล่ ะคนอยา่ ชดั เจน การแสดงคราวตอ่ ไป

๑๒หน่วยการเรียนรู้ที่ แนวทางการจัดการด้านการแสดง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. แสดงนาฏศลิ ป์ และละครในรปู แบบง่ายๆ ได้ ๒. ใชท้ ักษะการทางานเปน็ กลุ่มในกระบวนการผลติ การแสดงได้ ๓. ใช้เกณฑ์ง่ายๆ ท่กี าหนดให้ในการพจิ ารณาคณุ ภาพการแสดงท่ีชมโดยเน้นเร่อื งการใช้เสยี ง การแสดงทา่ และการเคลื่อนไหวได้

บทบาท และหน้าทีข่ องฝ่ายต่างๆ ในการสร้างละคร บคุ คลทม่ี ีบทบาทสาคญั ในการจดั การแสดงละคร ประกอบด้วยบุคคลต่างๆ ดังน้ี ๑ ๒ ๓ ๔ ผอู้ ่านวยการแสดง ผกู้ า่ กบั การแสดง ผ้กู า่ กบั เวที ผ้เู ขียนบท (Producer) (Director) (Stage Manager) (Play Playwright) ๕ ๖ ๗ ผจู้ ดั การฝา่ ยธุรการ เจ้าหน้าทีเ่ ครอ่ื งแตง่ กาย และ นกั แสดง (Actor) (House Manager) แตง่ หน้า (Costume & Make up)

แนวทางการจดั การแสดง ขัน้ ตอนการแสดงละคร พิจารณาบทละคร บทละครท่ีจะนามาแสดงจะตอ้ งมแี นวคดิ ที่เป็นคตสิ อนใจแก่นกั แสดง และผชู้ ม คัดเลอื กนักแสดง ควรคัดเลือกให้เหมาะสมกับบคุ ลกิ ลักษณะของตัวละครในเรื่อง การจัดฉาก การจดั ฉาก เวที แสง สี เสียง และดนตรปี ระกอบการแสดงจะมชี ีวิตชีวาขึ้น แตค่ วรฝกึ บุคลากรทอ่ี ยู่ เบ้ืองหลังเวทีในการจัดฉาก เวที เคร่อื งประกอบฉาก และดนตรี เพ่ือใหบ้ รรยากาศสอดคลอ้ งกบั เนอ้ื เร่ือง การฝกึ ซอ้ ม เป็นส่ิงสาคญั และจาเปน็ ที่สุดในการแสดงละคร เพื่อใหก้ ารแสดงเป็นไปตามธรรมชาติ และควรจัดอปุ กรณ์ มาใช้ในการแสดงจริงมาฝกึ ซ้อมด้วย การประเมนิ ผล เพื่อเป็นการฝึกใหน้ ักแสดง และผรู้ ่วมงานมีความพร้อมที่จะรับฟงั คาวิจารณ์ของผ้อู น่ื เพื่อจะได้นามาปรับ ปรุงแก้ไขในการจดั การแสดงในครง้ั ต่อๆ ไป

ตวั อยา่ งการฝกึ หัดแสดงละครสร้างสรรค์ ละครสรา้ งสรรค์ • ละครนอกรูปแบบท่ไี มจ่ าเป็นตอ้ งจดั เวที จะแสดงทีใ่ ดก็ได้ ไมถ่ ือจานวนผชู้ มเปน็ เป้าหมายสาคัญ เพราะเนน้ ความสาคญั ของ ขัน้ ตอนการแสดงมากกวา่ เนน้ การประสบผลสาเรจ็ ในการผลติ ละคร ละครสรา้ งสรรค์จะประสบผลสา่ เร็จได้ตอ้ งควบคุมกจิ กรรมทใ่ี ช้ในการแสดง ดังต่อไปน้ี ๑ จงั หวะ และการเคลอื่ นไหวรา่ งกาย • เป็นการฝกึ ใหน้ กั แสดงได้ใชอ้ วยั วะทกุ ส่วนของร่างกายได้อยา่ งคล่องแคล่ว แตห่ ลกั สาคัญจะตอ้ งเป็นการเคล่ือนไหวอย่าง อสิ ระ พรอ้ มท่ีจะรับฟงั จงั หวะ และการเคล่ือนไหวให้ได้ตามอารมณ์ และความร้สู ึกนึกคดิ ๒ การใช้ประสาทสัมผสั ทงั้ ห้า • เป็นการฝกึ ใหน้ กั แสดงได้ใช้อวยั วะทุกสว่ นของรา่ งกายไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่ว แต่หลกั สาคัญจะตอ้ งเปน็ การเคลอื่ นไหวอยา่ ง อิสระ พร้อมทจ่ี ะรับฟงั จงั หวะ และการเคลอื่ นไหวให้ไดต้ ามอารมณ์ และความร้สู กึ นกึ คดิ ๓ การแสดงดว้ ยทา่ ทาง • นักแสดงต้องพยายามแสดงให้ชดั เจนท่สี ุด โดยไม่ตอ้ งใช้คาพูด แตส่ ื่อออกมาใหผ้ ชู้ มทายไดว้ ่าเป็นอะไร หรือกาลงั ทา อะไรอยู่

๔ การแสดงละครสด ละครสด ละครที่นักแสดงไมไ่ ด้เตรยี มฝึกซอ้ มมากอ่ น แตค่ ิดคาพูด และเหตกุ ารณต์ า่ งๆ ขึ้นเองเปน็ เหตุการณ์เฉพาะ หน้า นักแสดงตอ้ งใช้ไหวพรบิ ปฏภิ าณ โต้ตอบรับ-ส่งกนั ประโยชนข์ องละครสด • นกั แสดงไดฝ้ ึกสมาธิ มปี ฏิภาณไหวพริบแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ ได้ • แนวการแสดงละครสด ควรเริม่ ดว้ ยการแสดงแตก่ ิริยาทา่ ทาง ไมม่ ีบทพดู (Mine Improvisation) หรือท่ีเรยี กกนั ว่า “ละครใบ้” (Pantomime) • แล้วจึงค่อยๆ พฒั นาขึ้นมาใหม้ บี ทสนทนาโต้ตอบ อาจจะเริ่มจากบทสนทนาส้นั ๆ กอ่ น แลว้ คอ่ ยขยายใหย้ าวขึ้นสถานการณต์ า่ งๆ

๕ การสรา้ งเรอ่ื งราว การแสดงละคร และการแสดงบทบาทสมมติ การสรา้ งเรอ่ื งราว กิจกรรมการแสดงละคร บทบาทสมมติ การนาเรอื่ งราวท่ีเกดิ ข้นึ ในชีวิตจริง จะมีตัวละครเปน็ มนุษย์ สตั ว์ สิง่ ของ เปน็ การแสดงด้วยท่าทาง โดยไม่มีบท มาผูกเป็นเรือ่ ง เชน่ เรอ่ื งในนิทาน ตัวละครทุกตัวมบี ทพูด สามารถพดู พูด นักแสดงจะตอ้ งเชือ่ วา่ บทบาทท่ี เทพนิยาย งานวนั เกดิ เป็นต้น โต้ตอบกับคนเปน็ เร่ืองราวได้ ตนสวมอยู่นนั้ เปน็ เร่อื งจริง ๖ การประเมินผล • เปน็ สิ่งสาคญั ของการทากจิ กรรมละครสร้างสรรค์ เมื่อมกี ารแสดงก็ตอ้ งมกี ารวิพากษ์วจิ ารณ์การแสดงว่าเปน็ อย่างไร สามารถทาให้ผู้ชมเชือ่ ไดม้ ากน้อยเพียงใด เปน็ การช้ใี หเ้ หน็ แนวทางในการปรับปรุงแกไ้ ขเพอื่ การแสดงครั้งต่อไปจะได้ แสดงได้ดีขน้ึ

หลกั ในการชมการแสดง มารยาทในการชมการแสดง ๑ ศึกษาลกั ษณะ รูปแบบ ชนิดของการแสดงทช่ี มวา่ เป็นการแสดงนาฏศิลปห์ รือละครประเภทใด เชน่ ละครรา ละครพูด ละครร้อง ละครสังคตี ละครเวที เป็นต้น ๒ ศึกษาประวตั คิ วามเป็นมา วธิ ีแสดง บทบญั ญัติ จารีตในการแสดง ๓ แตง่ กายสภุ าพ ไปถึงสถานท่จี ัดการแสดงก่อนการแสดงเร่ิม เพราะถา้ ไปชา้ และเดินเขา้ ท่ีน่ังเมอื่ การแสดงเร่มิ แลว้ จะเปน็ การรบกวนการชมของผอู้ ่นื ๔ ไมน่ าอาหาร และเคร่ืองด่ืมเข้าไปรับประทานขณะชมการแสดง ๕ ถ้ามีความช่ืนชอบในการแสดง ควรแสดงออกดว้ ยการปรบมือ ไม่สง่ เสยี งโหร่ อ้ ง ๖ ต้องมสี มาธใิ นการชมการแสดงไมพ่ ูดคุยกนั สง่ เสยี งรบกวนผอู้ นื่ ไมใ่ ช้โทรศัพท์ ในขณะทีก่ ารแสดงดาเนนิ อยู่ ๗ เมื่อแสดงจบ ควรแสดงความขอบคณุ ทมี งาน และนกั แสดงดว้ ยการปรบมือ ๘ ถ้ามีการประเมนิ ผลงานการแสดง ผชู้ มควรใหค้ วามรว่ มมือ เช่น ตอบแบบสอบถามตามที่เปน็ จริง เปน็ ต้น

เกณฑอ์ ย่างง่ายในการพิจารณาคุณภาพการแสดงทช่ี ม การใช้เสยี ง • เกณฑ์ทค่ี วรน่ามาประกอบการพิจารณาในการประเมนิ คณุ ภาพของการแสดงด้านการใช้เสียง ๑ นักแสดงใช้เสยี ง และวธิ ีการทางานของเสียงถกู ต้องหรอื ไม่ ๒ นักแสดงสามารถสอ่ื สารกับนักแสดงรว่ ม และผูช้ มไดช้ ัดเจนหรือไม่ ๓ การใหเ้ สยี งประกอบชว่ ยสรา้ งบรรยากาศ มีความสมั พันธ์ หรือสอดคล้องกบั เน้อื เร่ืองในแตล่ ะฉากหรือไม่ ๔ ดนตรปี ระกอบ มีความไพเราะ สมั พันธ์ และเสริมเร่อื งท่แี สดงหรือไม่ ๕ ระบบเสยี งในการแสดงโดยรวมมคี ุณภาพเปน็ อย่างไร

การแสดงทา่ ทาง • เกณฑ์ทคี่ วรนา่ มาประกอบการพิจารณาในการประเมนิ คุณภาพของการแสดงด้านการแสดงท่าทาง ๑ ลักษณะท่าทางของนักแสดงถกู ตอ้ งตามบุคลิกลกั ษณะของตัวละครในเรอื่ งหรอื ไม่ ๒ นกั แสดงมคี วามชานาญในการประสานสัมพันธ์แขน มือ ขา กับการเจรจาไดอ้ ยา่ งเป็นธรรมชาตหิ รอื ไม่ ๓ การแสดงทา่ ทางของนกั แสดงสอดสัมพันธก์ บั นกั แสดงคนอื่นๆ หรือไม่ ๔ ทา่ ทางของนกั แสดงในแต่ละฉาก แสดงอารมณ์ได้สอดคลอ้ งกบั เนือ้ เร่ืองในฉากน้นั หรือไม่ ๕ ระบบเสยี งในการแสดงโดยรวมมีคณุ ภาพเป็นอย่างไร การแสดงละครใบ้ นกั แสดงจะต้องรู้จักการใช้ท่าทางและการเคล่อื นไหว เพ่อื ส่อื สารกับผชู้ มให้ เขา้ ใจเนือ้ เรื่องทีก่ าลังแสดงอยู่ (ทีม่ าของภาพ : http://www.dankamin.com)

การเคล่อื นไหว เปน็ ทกั ษะเบ้ืองตน้ ของการแสดง เพื่อสอื่ สารให้ผชู้ มเขา้ ใจว่า ตัวละครกาลงั ทาอะไรหรือต้องการสอื่ อะไร การแสดงละคร นกั แสดงจาเป็นจะตอ้ งมีทกั ษะในการเคล่อื นไหวทถี่ ูกต้อง • เกณฑ์ทค่ี วรนา่ มาประกอบการพิจารณาในการประเมนิ คุณภาพของการแสดงดา้ นการเคลอ่ื นไหว ๑ นักแสดงมีความสามารถในการส่อื สารสัมพันธก์ ับผูร้ ่วมแสดงด้วยการเคลอ่ื นไหวสายตา ศีรษะ ได้เหมาะสม เพยี งใด ๒ ลกั ษณะการเคลื่อนไหวสว่ นต่างๆ ของรา่ งกายของนกั แสดง เหมาะสมกับบคุ ลิกลกั ษณะของตัวละครใน เรอ่ื งหรอื ไม่ ๓ การเคล่อื นไหวของนกั แสดงโดยรวมเป็นธรรมชาติ สมบทบาท และสมั พนั ธ์กับอารมณ์ของตวั ละครหรอื ไม่ ๔ การเคล่ือนไหวของนักแสดง สามารถทาให้ผชู้ มเกดิ อารมณ์คล้อยตามไดห้ รอื ไม่ ๕ การเคลอ่ื นไหวของนกั แสดงโดยรวม สมั พันธ์กลมกลืนกนั ดีหรือไม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook