กิจการท่ีซือ้ และขายสินคา้ จะมีกิจกรรม 2 ดา้ น คือ ดา้ นผูซ้ ือ้ และดา้ นผูข้ าย สาหรบั กิจการเจา้ ของคนเดียวประเภทธุรกิจ ซือ้ ขายสินคา้ บุคคลคนเดียวจะเป็นผู้ทาการจัดซือ้ ทัง้ หมด ซ่ึงกิจการที่มีการซือ้ ขายสินคา้ จะมีรายไดจ้ ากธุรกรรมซือ้ สินคา้ แลว้ มาขายสินคา้ ใหก้ ับลกู คา้ จะอย่ใู นรูปของการคา้ ปลีกและการคา้ ส่ง ดงั นนั้ จึงตอ้ งรูแ้ ละเขา้ ใจในเร่อื งความหมายของสินคา้ การซือ้ สินคา้ การขายสินคา้ ส่วนลดเงื่อนไขการชาระเงิน การรับคืนและการส่งคืนสินคา้ เพ่ือประโยชน์ใน การทาบัญชี สาหรบั กิจการซอื้ ขายสนิ คา้ ตอ่ ไป
สินค้า (Goods or Merchandising) หมายถึง สินทรพั ยท์ ่ีกิจการซือ้ มาเพื่อจาหน่าย ไม่ไดซ้ ือ้ มาเพ่ือใชใ้ น กิ จ ก า ร โดยมีวัตถุประสงคเ์ พื่อการแสวงหาผลกาไรจากการขาย ซ่ึงสินทรัพยท์ ี่ซือ้ มาเพ่ือจาหน่ายนั้นจะบันทึกไวใ้ น บัญชีสินค้า จัดอยู่ในประเภทสินทรัพย์หมุนเวียน ส่วนสินทรัพย์ที่ซือ้ มาเพื่อใช้ภายในกิจการจะบันทึกไว้ใน บัญชีสินทรัพย์นั้นๆ เชน่ วสั ดสุ านกั งาน อาคาร รถยนต์ อปุ กรณส์ านกั งาน เป็นตน้ กระบวนการผลิตเป็ นสินคา้ หรือการใหบ้ ริการ
โดยท่วั ไป ธุรกิจจะแบง่ ออกเป็น 3 ประเภท 1. ธุรกิจการใหบ้ ริการ (Service Business) เป็นการใหบ้ รกิ ารแก่ลกู คา้ เชน่ รา้ นซกั รดี รา้ นเสริมสวย โรงแรม โรงพยาบาล อซู่ อ่ มรถ เป็นตน้ ตัวอย่างธรุ กิจการใหบ้ ริการ ร้านซักรีด
2. ธุรกจิ พาณิชยกรรม หรือธุรกิจซือ้ ขายสินคา้ (Merchandising Business) เป็นการซอื้ สนิ คา้ มาเพอ่ื ขายตอ่ เชน่ รา้ นขายหนงั สือ รา้ นขายเสอื้ ผา้ สาเรจ็ รูป รา้ นขายยา หา้ งสรรพสนิ คา้ รา้ นสะดวกซอื้ เป็นตน้ ตัวอยา่ งธุรกจิ พาณิชยกรรม
3. ธุรกิจอุตสาหกรรม (Manufacturing Business) เป็นการซอื้ สนิ คา้ หรอื วตั ถดุ บิ มาแปรสภาพ โดยผ่าน กระบวนการผลิต หรอื การประกอบชนิ้ สว่ นกอ่ นแลว้ จงึ นาออกขาย เชน่ โรงงานผลติ ผงชรู ส โรงงานผลติ ผลไมก้ ระป๋ อง โรงงานผลติ สบู่ และเครอ่ื งสาอาง เป็นตน้ ตัวอยา่ งธุรกจิ อุตสาหกรรม
ในการซอื้ สนิ คา้ (Purchasing) สาหรบั กิจการเจา้ ของคนเดียว จะมคี า่ ใชจ้ า่ ยซงึ่ เป็นตน้ ทนุ สนิ คา้ ท่ีซอื้ มาเพือ่ ขาย คา่ ใชจ้ า่ ยในการขาย เป็นตน้ ซงึ่ กิจการแตล่ ะแหง่ จะมขี นั้ ตอนและวธิ ีการซอื้ สินคา้ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ทงั้ นีข้ นึ้ อยกู่ บั ขนาดและการจดั องคก์ ร ของแตล่ ะกิจการ ในกรณีกิจการขนาดเล็ก เจา้ ของอาจจะเป็นผดู้ าเนินการเองทงั้ หมด แตถ่ า้ เป็นกิจการขนาดใหญ่ จะมีหนว่ ยงานเฉพาะที่ทาหนา้ ท่ีโดยตรงทงั้ ในการซอื้ และการขายสนิ คา้ ซง่ึ เป็นการแบง่ แยกหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบ โดยจะมีแผนก จดั ซอื้ ทาหนา้ ท่สี ่งั ซอื้ สนิ คา้ จากผขู้ าย และตอ้ งมกี ารประสานงานกบั หน่วยงานตา่ งๆ 1. แผนกคลังสินค้า มีหนา้ ที่ดแู ล ตรวจสอบปริมาณสินคา้ ว่าสมควรที่จะทาการขอซือ้ เพิ่มเติมหรือไม่ ซ่ึงถา้ พิจารณาแลว้ เห็นสมควรที่จะขอซือ้ ก็จะจดั ทา “ใบขอซือ้ ” (Purchase Requisition) ขึน้ มา 1 ฉบับ ใหผ้ ูม้ ีอานาจลงนามอนุมตั ิ และ จดั ทาสาเนาตามจานวนของระบบงานอยา่ งนอ้ ย 2 ฉบบั รวมเป็น 3 ฉบบั • ตน้ ฉบบั สง่ ใหแ้ ผนกจดั ซอื้ เพ่อื ตดิ ตอ่ กบั ผขู้ ายทาการส่งั ซอื้ สนิ คา้ ตอ่ ไป • สาเนาฉบบั ท่ี 1 สง่ ใหแ้ ผนกบญั ชี เพอื่ ใชเ้ ป็นหลกั ฐานตรวจสอบและบนั ทกึ บญั ชี • สาเนาฉบบั ท่ี 2 แผนกคลงั สนิ คา้ จะจดั เก็บไวเ้ พอ่ื เป็นหลกั ฐานตรวจสอบตอ่ ไป
2. แผนกจดั ซือ้ มหี นา้ ทส่ี ่งั ซอื้ สินคา้ ตามความตอ้ งการของแผนกคลงั สนิ คา้ โดยคานงึ ถงึ ราคา เง่อื นไขการชาระเงินและ ประโยชนท์ ี่กิจการจะไดร้ บั เมอ่ื ไดร้ บั ใบขอซอื้ แลว้ จะทาการสอบถามราคาสนิ คา้ ทจ่ี ะซอื้ จากผขู้ ายหลายราย เพ่ือใหไ้ ดส้ นิ คา้ ท่มี ี คณุ ภาพและราคาเหมาะสม โดยจะจดั ทา “ใบส่งั ซอื้ ” (Purchase Order) สง่ ไปใหผ้ ขู้ าย เพอ่ื ใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการส่งั ซอื้ สนิ คา้ ซง่ึ ควรมีสาเนาตามจานวนทีต่ อ้ งการอยา่ งนอ้ ย 3 ฉบบั รวมกบั ตน้ ฉบบั เป็น 4 ฉบบั • ตน้ ฉบบั สง่ ใหผ้ ขู้ ายเพ่อื ใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการจดั สง่ สินคา้ ตามท่สี ่งั ซอื้ • สาเนาฉบบั ที่ 1 สง่ ใหแ้ ผนกรบั สนิ คา้ เพอ่ื ตรวจสอบสินคา้ เมือ่ ผขู้ ายสง่ มาให้ ถา้ ไมม่ ีแผนกนีก้ ็จะสง่ ไปใหแ้ ผนก คลงั สนิ คา้ ทาหนา้ ท่แี ทน • สาเนาฉบบั ท่ี 2 สง่ ใหแ้ ผนกบญั ชี เพอ่ื เป็นหลกั ฐานในการตรวจสอบและบนั ทกึ บญั ชี • สาเนาฉบบั ท่ี 3 แผนกจดั ซอื้ เก็บไวเ้ พ่อื เป็นหลกั ฐานในการตรวจสอบตอ่ ไป
3. แผนกรบั สินค้า มหี นา้ ที่ตรวจสอบสนิ คา้ ท่ผี ขู้ ายนามาสง่ วา่ มจี านวน คณุ สมบตั ิ ถกู ตอ้ งตรงตามทส่ี ่งั ซอื้ หรอื ไม่ เมื่อผขู้ ายนาสนิ คา้ ทส่ี ่งั ซอื้ มาสง่ พรอ้ มใบกากบั สินคา้ (Invoice) / ใบกากบั ภาษี (Tax Invoice) หรอื ใบสง่ ของ (ผขู้ ายเป็น ผจู้ ดั ทา) ใหก้ บั ผซู้ อื้ ถา้ การตรวจสอบถกู ตอ้ งก็จะลงนามวา่ ไดร้ บั สินคา้ ถกู ตอ้ ง ในใบกากบั สนิ คา้ หรอื ใบสง่ ของใหผ้ ขู้ ายเป็น หลกั ฐาน และจะสง่ สินคา้ ท่ีไดร้ บั ไปยงั แผนกท่ีเก่ียวขอ้ งตอ่ ไปบางแหง่ อาจใชใ้ บกากบั สนิ คา้ หรอื ใบสง่ ของของผขู้ ายเป็นใบรบั สินคา้ โดยผขู้ ายตอ้ งจดั ทาสาเนาตามท่ีตอ้ งการหรอื อาจจะทาเป็น “ใบรบั สินคา้ ” (Received Report) และจดั ทาสาเนาตามท่ี ตอ้ งการอยา่ งนอ้ ย 3 ฉบบั รวมกบั ตน้ ฉบบั เป็น 4 ฉบบั • ตน้ ฉบับ ส่งให้แผนกบัญชี เพ่ือใชเ้ ป็นหลักฐานในการตรวจสอบและจัดส่งให้แผนกการเงินเพ่ือเบิกจ่ายรวมทั้ง ใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการบนั ทกึ บญั ชี • สาเนาฉบบั ท่ี 1 ส่งใหแ้ ผนกจดั ซือ้ เพื่อแจง้ ใหท้ ราบวา่ ไดร้ บั สินคา้ ตามท่ีส่งั ซือ้ เรยี บรอ้ ยแลว้ และแผนกจดั ซือ้ จะเก็บไว้ เป็นหลกั ฐานตอ่ ไป • สาเนาฉบบั ที่ 2 สง่ ใหแ้ ผนกคลังสินคา้ เพ่ือใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการบนั ทึกบญั ชีคมุ สินคา้ และใชใ้ นการตรวจสอบสินคา้ ทีไ่ ดร้ บั • สาเนาฉบบั ท่ี 3 แผนกรบั สินคา้ เก็บไวเ้ ป็นหลกั ฐานในการตรวจสอบตอ่ ไป
4. แผนกบัญชี มีหน้าท่ีตรวจสอบความถูกต้องของหลักฐานเอกสารการขอซื้อ การส่ังซื้อ การรับสินค้า เง่ือนไขการชาระเงิน การติดตอ่ กบั ผขู้ ายในเรอ่ื งการชาระเงนิ 5. แผนกการเงิน มีหนา้ ที่ตรวจสอบเอกสาร การขอซือ้ การส่งั ซือ้ การรบั สินคา้ เงื่อนไขการชาระเงินการนัดวนั ชาระเงิน ใหก้ บั ผขู้ ายตอ่ ไป ข้ันตอนการซือ้ สินค้า
ในการขายสินคา้ (Selling) นนั้ กิจการอาจขายสินคา้ เป็นเงินสดหรอื เงินเช่ือก็ได้ ขึน้ อยกู่ บั ขอ้ ตกลงระหวา่ งผซู้ ือ้ กับผขู้ าย ซึ่งแต่ละแห่งจะมีขั้นตอนและวิธีการขายสินค้าท่ีแตกต่างกันทัง้ นีข้ ึน้ อยู่กับแต่ละกิจการบางแห่งอาจจะมีหน่วยงานเฉพาะ ที่ทาหน้าที่ในการขายสินค้าโดยแผนกขาย และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เอกสารที่เก่ียวข้อง ได้แก่ ใบส่งสินค้า ใบกากับสินค้า ใบกากับภาษี ใบเสรจ็ รบั เงิน เป็นตน้ การจัดส่งสินคา้ ไปใหล้ ูกคา้ หรือผูซ้ ือ้ ก็จะจัดส่งใบสง่ สินคา้ /ใบกากับภาษี/ใบกากับสินคา้ ไปพรอ้ มกบั สนิ คา้ เพ่อื แสดงรายละเอยี ดสินคา้ ที่สง่ ไปแตล่ ะครงั้ เมอ่ื ผซู้ อื้ ไดร้ บั สินคา้ และตรวจสอบความถกู ตอ้ งแลว้ จะลงนามรบั สนิ คา้ และเก็บเอกสารไวเ้ พือ่ เป็นหลกั ฐานตอ่ ไป ข้ันตอนการขายสินคา้
การจัดทาเอกสารในการขายสินค้าของกิจการแต่ละแห่ง จะจัดทาตามแบบฟอร์มของตนเองโดยยึดมาตรฐาน ของรายละเอยี ดท่วั ไปทน่ี ิยมปฏิบตั ิ บางแหง่ อาจทาเป็นชดุ เพอ่ื งา่ ยตอ่ การตรวจสอบ การเก็บเงินและการบนั ทกึ บญั ชี 1. ใบกากบั สินค้าหรือใบส่งของ เป็นเอกสารท่ีออกใหก้ บั ผซู้ ือ้ เพ่ือใชใ้ นการนาสง่ สินคา้ ซ่งึ ในเอกสารจะระบุรายละเอียด เกี่ยวกบั สนิ คา้ ปรมิ าณ และจานวนเงนิ คา่ สินคา้ รวมทงั้ เงอื่ นไขการชาระเงินและระยะเวลาการชาระเงิน 2. ใบกากบั ภาษี เป็นเอกสารทร่ี ฐั บาลกาหนดใหก้ ิจการที่เขา้ สรู่ ะบบภาษีมลู คา่ เพม่ิ ตอ้ งจดั ทา 3. ใบเสร็จรบั เงนิ เป็นเอกสารทผ่ี ขู้ ายออกใหเ้ ป็นหลกั ฐาน เมอ่ื ไดร้ บั ชาระคา่ สนิ คา้ ครบแลว้
ส่วนลด (Discount) หมายถงึ ผลตา่ งระหวา่ งมลู คา่ ปัจจบุ นั ของเงินจานวนหนึ่งกับมลู คา่ โดยประมาณในอนาคตของ เงินจานวนนนั้ หรอื สว่ นท่ีลดใหใ้ นการชาระหนีก้ อ่ นครบกาหนด ซงึ่ ถือเป็นการใหส้ ว่ นลดกบั ลกู คา้ ทีซ่ อื้ สนิ คา้ ของกิจการ หรือนาเงิน มาชาระในระยะเวลาทกี่ าหนด ซงึ่ สามารถจาแนกได้ 2 ประเภท คอื สว่ นลดการคา้ และสว่ นลดเงนิ สด 1. ส่วนลดการคา้ (Trade Discounts) หมายถงึ จานวนเงินท่ผี ขู้ ายยอมลดใหแ้ กผ่ ซู้ อื้ จากราคาเดมิ ท่ีพมิ พไ์ วใ้ น สินคา้ ซงึ่ เป็นสว่ นลดทีเ่ กิดขนึ้ ทนั ทีท่ีมีการตกลงซอื้ ขายสนิ คา้ หรอื บรกิ าร ไมว่ า่ จะซอื้ เป็นเงินสดหรอื เงนิ เช่อื การใหส้ ว่ นลดกบั ลกู คา้ ในแตล่ ะรายอาจไมเ่ ทา่ กนั ทงั้ นีข้ นึ้ อยกู่ บั ปรมิ าณการส่งั ซอื้ เง่ือนไขในการชาระเงิน เป็นตน้ ดงั นนั้ ราคาสทุ ธิที่ซอื้ ขายกนั จงึ เป็ น ราคาขายหลงั จากหกั สว่ นลดการคา้ แลว้ และจะไมบ่ นั ทกึ บญั ชสี ว่ นลดการคา้ ทงั้ ดา้ นผซู้ อื้ และผขู้ าย เพอ่ื เป็นการจงู ใจใหผ้ ซู้ อื้ ซอื้ สนิ คา้ มากขนึ้ โดยผซู้ อื้ และผขู้ ายอาจจะตงั้ เกณฑไ์ วล้ ว่ งหนา้ เชน่ ซอื้ ไมเ่ กิน500บาทลดให้5%และซอื้ ตงั้ แต่ 501-1,000บาท ลดให้ 10% หรอื ถา้ ซอื้ สินคา้ 100 หน่วยขนึ้ ไป จะไดส้ ว่ นลด 10% ในการซอื้ ขายสนิ คา้ แลว้ มสี ว่ นลดการคา้ เกิดขนึ้ ทงั้ ผซู้ อื้ และผขู้ าย จะบนั ทกึ รายการซอื้ และขายสนิ คา้ ในราคาสทุ ธิหลงั หกั สว่ นลด โดยจะไมม่ กี ารบนั ทกึ สว่ นลดการคา้ ในบญั ชีใดๆ เน่ืองจากในใบกากบั สนิ คา้ (Invoice) จะปรากฏดว้ ยราคาขายหลงั หกั สว่ นลดการคา้ แลว้
2. สว่ นลดเงนิ สด (Cash Discount) หมายถงึ จานวนเงนิ ท่ีเจา้ หนีย้ อมลดใหแ้ ก่ลกู หนีเ้ ม่อื ชาระเงินภายใน ระยะเวลาท่ีกาหนด โดยปกติการใหส้ ว่ นลดเงินสดจะระบใุ นเอกสารใบสง่ ของหรอื ใบกากบั สนิ คา้ เก่ียวกบั รายละเอยี ดของเงือ่ นไข การชาระเงินทางดา้ นผขู้ ายจะเรยี กวา่ “สว่ นลดจา่ ยสว่ นดา้ นผซู้ อื้ จะเรยี กวา่ “สว่ นลดรบั ”เชน่ 2/10,n/30คอื ถา้ ผซู้ อื้ จา่ ยชาระหนี้ ภายใน 10 วนั จะไดร้ บั สว่ นลด 2% แตอ่ ยา่ งไรก็ตามตอ้ งชาระหนีไ้ ดไ้ มเ่ กิน 30 วนั ซงึ่ นบั จากวนั ท่ีลงในใบกากบั สินคา้ หรอื 2/10,n/30,EOMคือถา้ ผซู้ อื้ จา่ ยชาระหนีภ้ ายใน10วนั จะไดร้ บั สว่ นลด2%แตอ่ ยา่ งไรก็ตามตอ้ งชาระหนีไ้ ดไ้ มเ่ กิน30วนั นบั จากวนั สนิ้ เดือน ซง่ึ จะเกิดขนึ้ เฉพาะในการซอื้ ขายสนิ คา้ เป็นเงนิ เชอ่ื เทา่ นนั้ โดยเป็นสว่ นลดท่ีผขู้ ายยอมลดใหแ้ ก่ผซู้ อื้ ในกรณีท่ีผู้ ซอื้ ชาระหนีค้ า่ สินคา้ ภายในเวลาท่ีกาหนดเพือ่ จงู ใจใหผ้ ซู้ อื้ ชาระหนีค้ า่ สนิ คา้ กอ่ นท่จี ะถงึ วนั สดุ ทา้ ยของกาหนดเวลาชาระหนี้ ซงึ่ สว่ นลดเงินสดจะกาหนดทงั้ อตั ราสว่ นลด และระยะเวลาชาระหนีสว่ นลดเงนิ สดแบง่ ออก 2 ชนิด คือ 2.1 ส่วนลดรับ (Purchase Discount) คอื สว่ นลดเงนิ สดท่เี กิดจากการซอื้ สนิ คา้ เป็นเงินเชือ่ และไดร้ บั จาก เจา้ หนีเ้ มื่อจา่ ยชาระเงิน ซง่ึ จะมีผลทาใหต้ น้ ทนุ ของสินคา้ ทีซ่ อื้ ลดลง การบนั ทกึ บญั ชีเม่ือไดร้ บั สว่ นลดโดยสว่ นลดรบั อาจบนั ทกึ บญั ชี สว่ นลดรบั หรอื บญั ชสี ินคา้ คงเหลือแลว้ แตว่ ิธีบนั ทกึ บญั ชีของกิจการ 2.2 สว่ นลดจ่าย (Sales Discount) คอื สว่ นลดเงินสดที่เกิดจากการขายสินคา้ เงนิ เช่ือและลดใหล้ กู หนีเ้ มอ่ื รบั ชาระเงนิ จะมผี ลทาใหม้ ลู คา่ ขายลดลง สว่ นลดจา่ ยจะบนั ทกึ บญั ชสี ว่ นลดจา่ ยเทา่ นนั้
การนับวันครบกาหนดชาระหนี้ ในการซือ้ สินคา้ เงินเชื่อ เม่ือผูซ้ ือ้ และผูข้ ายตกลงเงื่อนไขในการชาระหนีแ้ ลว้ ก็ควรจะคานวณวนั ครบกาหนดไวล้ ่วงหน้า ผซู้ อื้ จะไดท้ ราบวนั ทีต่ อ้ งนาเงนิ ไปชาระหนีแ้ ละรกั ษาผลประโยชนข์ องกิจการในกรณีท่ีมสี ว่ นลดเงินสด สว่ นผขู้ ายจะไดท้ ราบวนั ที่ที่ กิจการจะไดร้ บั เงนิ จากผซู้ อื้ และจะไดท้ วงถามหรอื ติดตามหนีไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง บางกรณีจะกาหนดวนั ที่ครบกาหนดไวแ้ น่นอน เชน่ วนั สิน้ เดื อนหรื อวันสิ้นเดื อนถั ดไป ก็ ไม่ จ าเป็ นต้องนั บหรื อค านวณวันที่ ครบก าหนด แต่ ในกรณี ที่ ก าหนดเป็ นจ านวนวั น เช่น 30 วัน 60 วัน ก็ควรจะนับวันท่ีจะครบกาหนดไว้ล่วงหน้า โดยเริ่มนับถัดจากวันที่มีการซือ้ ขายสินค้าเป็ นวันท่ี 1 และนบั ไปจนครบกาหนดเวลาหรอื อาจคานวณหาวนั ครบกาหนด
เมื่อมีการซือ้ หรอื ขายสินคา้ เป็นเงินเช่ือ จะระบเุ ง่ือนไขการชาระเงิน (Credit Terms/Terms of Payment) ไวใ้ น เอกสารเก่ียวกบั การซอื้ ขายสนิ คา้ เชน่ ใบสง่ ของ ใบกากบั สินคา้ เป็นตน้ ซง่ึ เป็นเงอ่ื นไขท่ีกาหนดระยะเวลาในการชาระเงนิ พรอ้ มทงั้ สว่ นลด (ถา้ มี) เชน่ 1. เง่ือนไข n/30 คือ การใหช้ าระหนีภ้ ายใน 30 วนั นบั จากวนั ทปี่ รากฏในใบกากบั สนิ คา้ 2. เงื่อนไข 2/10, n/30 คอื การใหช้ าระหนีภ้ ายใน 30 วนั นบั จากวนั ทป่ี รากฏในใบกากบั สินคา้ แตถ่ า้ ชาระหนีภ้ ายใน 10 วนั จะลดให้ 2% 3. เงือ่ นไข n/EOM (End of month) คือ การใหช้ าระหนีภ้ ายในวนั สนิ้ เดอื นท่ซี อื้ สนิ คา้ 4. เงอื่ นไข n/10 EOM คอื การใหช้ าระหนีภ้ ายในวนั ที่ 10 ของเดือนถดั ไป 5. เงอ่ื นไข 2/10 EOM คอื การใหช้ าระหนีภ้ ายในวนั สนิ้ เดอื นของเดือนถดั ไป แตถ่ า้ ชาระหนีภ้ ายในวนั ที่ 10 ของเดือนถัดไป จะลดให้ 2% 6. เงื่อนไข 2/10 EOM, n/60 คือ การใหช้ าระหนีภ้ ายใน 60 วนั นับจากวนั ท่ีปรากฏในใบกากับสินคา้ แตถ่ า้ ชาระเงิน ภายในวนั ที่ 10 ของเดอื นที่ถดั จากเดือนทซ่ี อื้ สินคา้ จะลดให้ 2% ผู้ซื้อมีสิทธิจะได้รับส่วนลด เมื่อได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการชาระเงินในช่วงที่กาหนดไว้ ทั้งจานวนแต่ในบางครั้งการชาระเงิน ในระยะเวลาทีก่ าหนดเพยี งบางสว่ น ก็อาจจะไดร้ บั สทิ ธิสว่ นลดดว้ ยก็ได้ ทงั้ นีข้ นึ้ อยกู่ บั ขอ้ ตกลงระหวา่ งกนั
เงอ่ื นไขการส่งมอบสนิ ค้า ในการส่งมอบสินคา้ ที่ตกลงซือ้ ขายกัน ผซู้ ือ้ และผูข้ ายจะตอ้ งมีการตกลงกันเรื่องของการสง่ มอบสินคา้ และภาระค่าขนส่ง สินคา้ ว่าเป็นหนา้ ที่ของผู้ใด โดยค่าขนส่งสินคา้ (Transportation) หมายถึง ค่าใชจ้ ่ายในการขนส่งที่ซือ้ หรือขายสินคา้ เพื่อเคลื่อนยา้ ยสินคา้ จากคลังสินคา้ ของผูข้ าย ไปยังคลังสินคา้ ของผูซ้ ือ้ ในการขายสินคา้ จะตอ้ งระบุเง่ือนไขในการรบั ผิดชอบ คา่ ขนสง่ วา่ ผซู้ อื้ หรอื ผขู้ ายจะเป็นผรู้ บั ผิดชอบในการจา่ ยคา่ ขนสง่ ซง่ึ เงือ่ นไขในการกาหนดคา่ ขนสง่ มีดงั นี้ 1. F.O.B. Shipping point (Free on board at the shipping point) เป็นการส่งมอบ สินคา้ ตน้ ทาง ณ กิจการของผขู้ าย ดงั นนั้ ผซู้ ือ้ จะเป็นผรู้ บั ภาระค่าขนส่งซึ่งเรยี กว่า “ค่าขนสง่ เขา้ ” จะถือเป็นตน้ ทนุ ของสินคา้ ที่ซือ้ กรรมสทิ ธิ์ในสนิ คา้ จะเป็นของผซู้ อื้ ตงั้ แตผ่ ขู้ ายจดั สง่ สินคา้ ให้ 2. F.O.B. Destination (Free on board at destination) เป็นการสง่ มอบสินคา้ ปลายทาง ณกิจการของผซู้ อื้ ดงั นนั้ ผขู้ ายจะเป็นผรู้ บั ภาระคา่ ขนสง่ เรยี กวา่ “คา่ ขนสง่ ออก” จะถือเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยในการขายกรรมสิทธิ์ในสนิ คา้ จะยงั เป็นของผขู้ ายจนกวา่ สินคา้ นนั้ จะสง่ มอบใหผ้ ซู้ อื้ โดยปกตกิ ารซอื้ ขายสินคา้ ทีผ่ ขู้ ายตอ้ งรบั ภาระคา่ ขนสง่ สินคา้ ดว้ ย ราคา สนิ คา้ มกั จะสงู กวา่ กรณีทผี่ ซู้ อื้ เป็นผรู้ บั ภาระคา่ ขนสง่ เน่ืองจากผขู้ ายไดน้ าเอาคา่ ขนสง่ สินคา้ เขา้ ไปรวมกบั ราคาขายสินคา้ ดว้ ย ใน การสง่ สินคา้ นนั้ คา่ ขนสง่ ที่เกิดขนึ้ จะรวมถงึ คา่ ใชจ้ า่ ยตา่ งๆ ทเี่ กิดขนึ้ เชน่ คา่ ระวางสินคา้ คา่ ประกนั ภยั สินคา้ เป็นตน้
คา่ ขนส่งสินคา้ ท่ีซือ้ มาเป็นตน้ ทนุ สินคา้ ซง่ึ แตกต่างจากค่าขนส่งสินคา้ ที่ขายไปซึ่งเป็นค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินงาน ดงั นั้น คา่ ขนสง่ สินคา้ จงึ แบง่ ออกเป็น 2 บญั ชี คือ 1. ค่าขนสง่ เขา้ เป็นบญั ชคี า่ ใชจ้ า่ ยซงึ่ ผซู้ อื้ เป็นผรู้ บั ผิดชอบภาระคา่ ขนส่งเอง เม่ือกิจการอยใู่ นฐานะผซู้ ือ้ โดยถือเป็นตน้ ทนุ ของสินคา้ ทาใหต้ น้ ทนุ สินคา้ ทกี่ ิจการซอื้ มาสงู ขนึ้ 2 ค่าขนส่งออก เป็นบัญชีค่าใชจ้ ่ายซ่ึงผูข้ ายเป็นผูร้ บั ผิดชอบภาระค่าขนส่ง เม่ือกิจการอยู่ในฐานะผู้ขาย โดยถือเป็น ค่าใชจ้ ่ายในการขายไม่ถือเป็นตน้ ทุนของสินคา้ เนื่องจากการตงั้ ราคาขายนัน้ ผูข้ ายตอ้ งคานวณหรือตงั้ ราคารวมไวก้ ับสินคา้ ที่ขายเรียบรอ้ ยแลว้ ถ้ามีลูกคา้ รายใดตอ้ งการใหก้ ิจการเป็นผูจ้ ัดส่งสินคา้ ให้ และจะบันทึกเป็นค่าใชจ้ ่ายในการขายเพิ่มขึน้ ค่าขนสง่ ทจี่ า่ ยแทนกนั เป็นเงื่อนไขการขนสง่ ที่ระบใุ หผ้ ขู้ ายเป็นผรู้ บั ภาระคา่ ใชจ้ า่ ยเกี่ยวกบั การขนสง่ แตผ่ ซู้ อื้ จา่ ยแทนใหผ้ ขู้ ายไป กอ่ น ในทางตรงกนั ขา้ ม ผซู้ อื้ อาจเป็นผรู้ บั ภาระ แตผ่ ขู้ ายจา่ ยแทนใหผ้ ซู้ อื้ กอ่ นก็ได้ โดยจะเรยี กเก็บเงินภายหลงั
การรบั คนื และการสง่ คนื สนิ คา้ จะเกิดขนึ้ เน่ืองจากสินคา้ ท่ีผซู้ อื้ ไดร้ บั จากผขู้ ายนนั้ ไมถ่ กู ตอ้ งตามใบส่งั ซอื้ เชน่ สนิ คา้ ผิดเงือ่ นไข สินคา้ ชารุดเสยี หาย เป็นตน้ เม่ือเกิดเหตกุ ารณเ์ หลา่ นีข้ นึ้ ผซู้ อื้ จะแจง้ ใหผ้ ขู้ ายทราบและสง่ สนิ คา้ นนั้ คืนใหผ้ ขู้ าย โดยผขู้ ายอาจจะสง่ สนิ คา้ มาใหเ้ พ่อื เป็นการแลกเปลย่ี น แตบ่ างครงั้ ผขู้ ายไมส่ ามารถสง่ สนิ คา้ แลกเปลยี่ นก็จะตอ้ งลดยอดหนีส้ ิน ในบญั ชีตอ่ กนั กรณีซอื้ ขายสนิ คา้ เป็นเงนิ เชื่อ หรอื สง่ คืนเงนิ สดใหผ้ ซู้ อื้ กรณีที่ซอื้ ขายเป็นเงนิ สด 1. ด้านผู้ซือ้ เม่อื มกี ารสง่ คนื เกิดขนึ้ ผซู้ อื้ จะจดั ทาเอกสารเพื่อแจง้ ผขู้ ายขอใหผ้ ขู้ ายลดราคาคา่ สินคา้ ใหโ้ ดยออกใบขอลดหนี”้ (Debit Memorandum or Debit Note) หรอื “ใบสง่ คืน” ซง่ึ จะมีรายละเอยี ดสนิ คา้ ทส่ี ง่ คืนทงั้ หมดในกรณีที่มไิ ด้ จา่ ยชาระคา่ สนิ คา้ หรอื ใหผ้ ขู้ ายสง่ เงินคา่ สนิ คา้ ที่สง่ คนื นนั้ ใหก้ บั ผซู้ อื้ ในกรณีท่ีจา่ ยชาระคา่ สินคา้ แลว้ 2. ดา้ นผขู้ าย เมื่อมีการรบั คืนสินคา้ และยินยอมทจี่ ะลดราคาสินคา้ ใหก้ บั ผซู้ อื้ แลว้ ผขู้ ายจะจดั ทาเอกสารเพอ่ื แจง้ ใหผ้ ซู้ อื้ ทราบเรยี กวา่ “ใบหกั หนี/้ ใบลดหนี”้ (Credit Memorandum or Credit Note) หรอื “ใบรบั คนื ” และแจง้ ใหผ้ ซู้ อื้ ทราบวา่ ผขู้ ายไดล้ ดยอดหนีค้ า่ สนิ คา้ ใหใ้ นกรณีท่ยี งั มิไดจ้ า่ ยชาระคา่ สนิ คา้ หรอื จะสง่ เงินคา่ สินคา้ ท่ีรบั คืนใหก้ บั ผซู้ อื้ ในกรณีท่ีไดร้ บั ชาระคา่ สินคา้ แลว้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ภาษีท่ีจัดเก็บจากการขายสินคา้ การให้บริการ และการนาเขา้ สินคา้ ผู้ประกอบการจดทะเบียน ภาษี มูลค่ าเพ่ิ มท่ี ขายสิ นค้าหรื อให้บริ การไม่ ว่าจะประกอบกิ จการในรู ปแบบใดหากมี รายรับจากการขายสิ นค้าหรื อให้บริ การเกิ นกว่ า 1.8 ลา้ นบาทตอ่ ปี จะตอ้ งมหี นา้ ทย่ี ่ืนคาขอจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิม่ และตอ้ งออกใบกากบั ภาษีขายทกุ ครงั้ ที่มีการขายสินคา้ หรอื ใ ห้บ ริก า ร ห า ก มี ก า ร ซื้อ สิ น ค้า ห รื อ รับ บ ริ ก า ร จ า ก ผู้ป ร ะ ก อ บ ก า ร จ ด ท ะ เ บี ย น ภ า ษี มูล ค่ า เ พิ่ ม ร า ย อื่ น ส า ม า ร ถ น า ภ า ษี ซอื้ ตามใบกากบั ภาษีมาหกั ออกจากภาษีขายในการคานวณภาษีมลู คา่ เพิ่มหรอื ขอคืนภาษีซอื้ ได้
ภาษมี ูลค่าเพมิ่ (Value Added Tax: VAT) คือ ภาษีท่ีจดั เก็บจากการขายสนิ คา้ หรอื การใหบ้ รกิ ารในแตล่ ะขน้ั ตอน การผลติ และจาหน่ายสนิ คา้ หรอื บรกิ าร ทงั้ ท่ผี ลติ ภายในประเทศและนาเขา้ จากต่างประเทศ ประกอบดว้ ยภาษีซอื้ และภาษีขาย ภาษซี อื้ (Input Tax) หมายถึง ภาษีมลู ค่าเพ่มิ ท่ผี ปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพ่มิ ไดจ้ ่ายใหแ้ ก่ผขู้ ายสนิ คา้ หรอื ผใู้ หบ้ รกิ ารท่ีเป็นผจู้ ดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพ่ิมเม่ือซอื้ สนิ คา้ หรือชาระค่าบรกิ ารเพ่ือใชใ้ นกิจการของตนภาษีซอื้ ท่ีจะนามาหกั ไดน้ ี้ ครอบคลมุ ไปถึงภาษีซอื้ ของสนิ คา้ ประเภททนุ ดว้ ย หากภาษีซอื้ เกิดขนึ้ ในเดอื นใดก็เป็นภาษีซอื้ ของเดอื นนน้ั ไมค่ านึงว่าสนิ คา้ ท่ีซอื้ มานน้ั จะขายหรอื นาไปใชใ้ นการผลติ ในเดอื นใดก็ตาม ภาษขี าย(Output Tax)หมายถึงภาษีมลู คา่ เพ่มิ ท่ีผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพ่มิ ไดเ้รยี กเก็บหรือพงึ เรยี กเก็บจาก ผซู้ อื้ สนิ คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารเม่อื มีการขายสนิ คา้ หรอื รบั ค่าบรกิ าร หากภาษีขายเกิดขนึ้ ในเดือนใดก็เป็นภาษีขายของเดือนนน้ั ไม่คานงึ ว่าสนิ คา้ ท่ีขายหรอื บรกิ ารท่ีใหน้ นั้ จะซอื้ มาหรอื เป็นผลมาจากการผลติ ในเดอื นใดก็ตาม
ผมู้ หี นา้ ที่จดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิม่ ไดแ้ ก่ 1. ผู้ประกอบกิจการที่มีรายรับจากการขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการเป็นปกติธุระเกินกว่า 1.8 ลา้ นบาทต่อปี กาหนดเวลา การจดทะเบียนใหย้ นื่ คาขอจดทะเบยี นภายใน 30 วนั นบั แตว่ นั ที่มีรายรบั เกิน 2. ผปู้ ระกอบกิจการขายสินคา้ หรอื ใหบ้ ริการ ซงึ่ มีแผนงานท่ีสามารถพิสจู นไ์ ดว้ า่ ไดม้ ีการดาเนินการและเตรียมการประกอบ กิจการอนั เป็นเหตใุ หต้ อ้ งมีการซือ้ สินคา้ หรอื รบั บริการท่ีอย่ใู นบงั คับตอ้ งเสียภาษีมลู ค่าเพ่ิม เช่น การก่อสรา้ งโรงงาน ก่อสรา้ ง อาคารสานกั งาน หรอื การติดตงั้ เครอ่ื งจกั ร กาหนดเวลาการจดทะเบียนใหย้ ่ืนคาขอจดทะเบียนภายในกาหนด 6 เดือนก่อนวนั เร่ิม ประกอบกิจการ เวน้ แตม่ ีสญั ญาหรอื หลกั ฐานจะดาเนินการกอ่ สรา้ งภายในเวลาทเ่ี หมาะสม 3. ผปู้ ระกอบการอย่นู อกราชอาณาจกั ร และไดข้ ายสินคา้ หรอื ใหบ้ ริการในราชอาณาจักรเป็นปกติธุระ โดยมีตวั แทนอย่ใู น ราชอาณาจกั รใหต้ วั แทนเป็นผมู้ หี นา้ ท่ีรบั ผิดชอบการจดทะเบยี น
ผปู้ ระกอบกิจการทไี่ ดร้ บั ยกเวน้ ภาษีมลู คา่ เพม่ิ ตามกฎหมาย แตม่ ีสทิ ธิแจง้ ขอจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพม่ิ ไดแ้ ก่ 1. ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าพืชผลทางการเกษตร สัตว์ไม่ว่ามีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ป๋ ุย ปลาป่ นอาหารสัตว์ ยา หรอื เคมภี ณั ฑท์ ีใ่ ชส้ าหรบั พชื หรอื สตั ว์ หนงั สอื พิมพ์ นิตยสาร หรอื ตาราเรยี น 2. ผปู้ ระกอบกิจการขายสินคา้ หรอื ใหบ้ รกิ าร และมีรายรบั ไมเ่ กิน 1.8 ลา้ นบาทตอ่ ปี 3. การใหบ้ รกิ ารขนสง่ ในราชอาณาจกั รโดยทา่ อากาศยาน 4. การสง่ ออกของผปู้ ระกอบการในเขตอตุ สาหกรรมสง่ ออกตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการนิคมอตุ สาหกรรมแหง่ ประเทศไทย 5. การใหบ้ ริการขนส่งนา้ มันเชือ้ เพลิงทางท่อในราชอาณาจกั รใหผ้ ูป้ ระกอบการยื่นคาขอแจง้ ใชส้ ิทธิเพ่ือขอจดทะเบียน ภาษีมลู คา่ เพมิ่ ภ.พ.01.1 จานวน 1 ชดุ 3 ฉบบั พรอ้ มกบั คาขอจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพ่ิม ภ.พ.01
1. ผปู้ ระกอบการทม่ี รี ายรบั จากการขายสนิ คา้ หรอื ใหบ้ รกิ ารไมเ่ กิน 1.8 ลา้ นบาทตอ่ ปี 2. ผปู้ ระกอบการทข่ี ายสินคา้ หรอื ใหบ้ รกิ ารท่ไี ดร้ บั ยกเวน้ ภาษีมลู คา่ เพิ่มตามกฎหมาย 3. ผปู้ ระกอบการที่ใหบ้ รกิ ารจากตา่ งประเทศ และไดม้ ีการใชบ้ รกิ ารนนั้ ในราชอาณาจกั ร 4. ผปู้ ระกอบการทีอ่ ยนู่ อกราชอาณาจกั รและเขา้ มาประกอบกิจการขายสนิ คา้ หรอื ใหบ้ รกิ ารในราชอาณาจกั รเป็นครงั้ คราว 5. ผปู้ ระกอบการอ่นื ตามทอ่ี ธิบดจี ะประกาศกาหนดเมื่อมเี หตอุ นั สมควร
ปัจจบุ นั กิจการพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (e-Commerce) เป็นกิจการที่มกี ารเจรญิ เตบิ โตมากแตผ่ ปู้ ระกอบการบางสว่ นยงั ไมม่ คี วามเขา้ ใจเรอ่ื งภาษีอากร ดงั นนั้ กรมสรรพากรจงึ รวบรวมประเภท “ธุรกิจพาณิชยอ์ ิเล็กทรอนิกสร์ ูปแบบใหม่” ที่มีหนา้ ที่ ตอ้ งยน่ื แบบแสดงรายการภาษี แสดงใหผ้ ปู้ ระกอบการทราบเพื่อไดด้ าเนินการอยา่ งถกู ตอ้ งตอ่ ไป 1. เวบ็ ไซตแ์ สดงรูปและราคาสินคา้ (Catalog Website) หมายถงึ เว็บไซตท์ ่ีผปู้ ระกอบการจดั ทาขนึ้ มาเพ่อื ทา หนา้ ที่เป็นหอ้ งแสดงสินคา้ รายการราคาสนิ คา้ ประชาสมั พนั ธร์ ายการสนิ คา้ สง่ เสรมิ การขาย ณ ชว่ งเวลานนั้ อาจเนน้ ไปทาง โฆษณาสินคา้ ใหม่ ๆ แตไ่ มม่ ีการซอื้ ขายสินคา้ ออนไลนแ์ ตอ่ ยา่ งใดหากผซู้ อื้ สินคา้ สนใจจะซอื้ สนิ คา้ จะตอ้ งโทรศพั ทส์ ่งั สนิ คา้ สว่ นการชาระราคาคา่ สนิ คา้ จะเกิดขนึ้ ทนั ทที ี่รบั มอบสินคา้ จากพนกั งานสง่ สินคา้ ขอ้ สงั เกตเวบ็ ไซตป์ ระเภทนีจ้ ะไมม่ รี ะบบ ไมม่ ตี ะกรา้ ในการซอื้ ขาย แตจ่ ะมีเพียงรูปภาพหรอื รายการสินคา้ พรอ้ มราคาเทา่ นนั้
2. เวบ็ ไซตเ์ พอื่ การขายสินคา้ (e-Shopping) หมายถึง เวบ็ ไซตท์ ี่ผปู้ ระกอบการสรา้ งขึน้ เพ่ือเป็นตวั แทนของกิจการ สว่ นใหญ่จะใชช้ อ่ื กิจการเป็นชือ่ เวบ็ ไซตโ์ ดยไมม่ คี าอื่นตอ่ ทา้ ย กิจการจะสรา้ งกิจกรรมบนเว็บไซตแ์ บบเต็มรูปแบบ โดยจะมีกิจกรรม ตา่ งๆ มกี ารเคลอื่ นไหวปรบั ปรุง เปล่ียนแปลงเว็บไซตใ์ หท้ นั สมยั ตลอดเวลา มีผเู้ ขา้ ชมจานวนมาก ในสว่ นของการขายสินคา้ จะมี ระบบการรับชาระค่าสินค้า มีตะกร้าให้เลือกสินค้า มีระบบการตรวจสอบการส่งของ มีระบบต่างๆ จานวนมาก เพ่ืออานวยความสะดวกใหล้ กู คา้
3. การขายสนิ คา้ บนชุมชนเวบ็ บอรด์ โดยผูข้ ายไมม่ ีเว็บไซตเ์ ป็ นของตนเอง (Community Web) หมายถงึ ชมุ ชนเวบ็ บอรด์ ซง่ึ เป็นทรี่ วมตวั ของคนท่ีมคี วามสนใจคลา้ ย ๆ กนั โดยทางเว็บไซตไ์ ดจ้ ดั ทาเวบ็ บอรด์ แลว้ อนญุ าตใหส้ มาชิกนา สนิ คา้ ตา่ งๆ มาโพสตข์ ายไดด้ ว้ ย ซง่ึ ปัจจบุ นั จะมเี ว็บไซตแ์ บบนีอ้ ยจู่ านวนมาก เชน่ เว็บสาหรบั คนชอบมือถือ กลอ้ งถา่ ยรูป อปุ กรณ์ คอมพิวเตอร์ เป็นตน้ ซง่ึ การทาเว็บไซตใ์ หม้ สี นิ คา้ ตรงกบั ความตอ้ งการของกลมุ่ เปา้ หมาย จะชว่ ยใหข้ ายสนิ คา้ ไดง้ า่ ย และรวดเรว็ ขนึ้ การขายสินคา้ บนเวบ็ บอรด์ ของ Community Web เป็นการซอื้ ขายท่ีผซู้ อื้ สว่ นใหญ่จะตดิ ตอ่ กนั ทางโทรศพั ท์ หรอื อเี มลท่ใี หไ้ วบ้ นเว็บบอรด์ แลว้ คยุ กนั นอกรอบเพื่อตกลงเรอ่ื งราคา ซง่ึ มกั จะใชก้ ารชาระราคาคา่ สนิ คา้ ดว้ ยวธิ ีการโอนเงินผ่าน บญั ชีธนาคาร และรบั สนิ คา้ ทางไปรษณีย์
4. เว็บไซตเ์ พ่ือการประมลู ขายสนิ ค้า (e-Auction = electronic auction) หรอื เรยี กวา่ online auction, e-bidding, online bidding หรอื การประมลู ออนไลน์ คือการประมลู สนิ คา้ และบรกิ ารผา่ นอินเทอรเ์ น็ต ทาให้ ผซู้ อื้ และผขู้ ายเหน็ ความเคลอ่ื นไหวของราคาขณะประมลู ในแบบเรยี ลไทม์ (real time) โดยไมม่ ขี อ้ จากดั เรอ่ื งของเวลา และ สถานทีเ่ ขา้ มาเก่ียวขอ้ ง 5. เว็บไซตห์ ้างสรรพสินค้าออนไลน์ (e-Market Place) หรือ Shopping Mall หมายถึงหา้ งสรรพสินคา้ ออนไลน์ ทาหนา้ ทเี่ หมือนหา้ งสรรพสินคา้ ปกติโดยท่วั ไป คอื แบง่ เนือ้ ทใ่ี นเว็บไซตอ์ อกเป็นขนาดเล็กๆ อาจจะจดั เป็นหมวดหมู่ โซน ตา่ ง ๆ เพอื่ ใหผ้ ปู้ ระกอบการท่ีสนใจมาเชา่ หนา้ รา้ นเพื่อประกอบธุรกิจโดย e-Market Place จะมีระบบจดั การเว็บไซตร์ า้ นคา้ ไวบ้ รกิ ารผปู้ ระกอบการ เชน่ ระบบตะกรา้ ส่งั ซอื้ สินคา้ เป็นตน้
6. เว็บไซตแ์ หล่งซอื้ ขายภาพถา่ ยดิจทิ ลั (Stock Photo) หมายถึง ที่เก็บรวบรวมภาพถา่ ยไวด้ ว้ ยกนั โดยมี วตั ถปุ ระสงคเ์ พือ่ ขายภาพถ่ายนนั้ การขายภาพถ่ายเป็นเพยี งผขู้ ายยนิ ยอม หรอื อนญุ าตใหผ้ ซู้ อื้ ใชภ้ าพถ่ายของผขู้ ายเทา่ นนั้ โดย ผขู้ ายไมไ่ ดข้ ายขาดสทิ ธิในภาพถา่ ยดงั กลา่ ว ดงั นนั้ ภาพถา่ ยยงั คงเป็นลิขสทิ ธิ์ของผขู้ ายอยอู่ ยา่ งสมบรู ณเ์ ชน่ เดมิ ซงึ่ ทาใหผ้ ขู้ าย สามารถนาภาพถ่ายเดยี วกนั นีไ้ ปขายซา้ แลว้ ซา้ อีกจะกี่เว็บไซตก์ ็ได้ สว่ นภาพถา่ ยที่ซอื้ มานนั้ ผซู้ อื้ สามารถนาไปใชใ้ นการพมิ พ์ หนงั สือ การพิมพเ์ อกสารในโอกาสพิเศษ นิตยสาร บรษิ ัทโฆษณา การสรา้ งภาพยนตร์ นกั ออกแบบเว็บไซต์ ศิลปินดา้ นภาพ บรษิ ัท รบั ตกแตง่ ภายใน และดา้ นอ่นื ๆ ตามตอ้ งการ
7. การรับโฆษณาจากเว็บไซตก์ ูเกิล (Google AdSense) หมายถึง โปรแกรมการโฆษณาสนิ คา้ ทท่ี าง Google เปิดโอกาสใหแ้ กผ่ ทู้ ่ีมเี วบ็ ไซตส์ ามารถสรา้ งรายไดด้ ว้ ยการนาโฆษณาของ Google มาใสไ่ วท้ เี่ ว็บไซต์ โดยรายไดจ้ ะ เกิดจากการมีผอู้ นื่ มาเยี่ยมชม และการคลกิ โฆษณานนั้ ซง่ึ โฆษณาตา่ ง ๆ ของ Googleจะเป็นโฆษณาทม่ี เี นือ้ หาสอดคลอ้ งกบั เนือ้ หาของเวบ็ ไซต์ 8. การทาให้ผลการค้นหาบนกูเกิลติดอันดับแรกๆ (SEO = Search Engine Optimization) Search Engine Optimization คือ การตลาดอิเล็กทรอนิกสช์ นิดหน่ึงซง่ึ เป็นหลกั การหรือเทคนิคต่างๆ ในการปรบั ปรุง เว็บไซตเ์ พอ่ื จะทาใหเ้ วบ็ ไซตต์ ิดอนั ดบั ตน้ ๆ ในสว่ นของผลลพั ธข์ องการคน้ หาดา้ นซา้ ยของเว็บเสิรช์ เอนจิน้ ดว้ ยคาคน้ ดว้ ยคียเ์ วิรด์ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั สินคา้ หรอื ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ของเวบ็ ไซต์ ไมว่ า่ จะเป็น Google, MSN,Yahoo ซงึ่ เป็นเสิรช์ เอนจิน้ หลกั ๆ ที่นิยมใช้ คน้ หาขอ้ มลู
9. เว็บไซตน์ ายหน้าการขายสินค้าและบริการ (Affiliate Marketing) หมายถึง ธุรกิจที่ใชร้ ะบบการขายและ ชาระเงินของผขู้ าย โดยผปู้ ระกอบการจะชกั ชวนใหซ้ ือ้ สินคา้ ดว้ ยการโฆษณาขอ้ มลู สินคา้ ผ่านเว็บไซตข์ องตนเองแลว้ ผซู้ ือ้ ทาการ คลิกผ่าน Banner หรอื Link ID เพื่อเขา้ ไปซือ้ สินคา้ จากเว็บไซตน์ ั้นจงึ จะไดร้ บั ผลตอบแทนค่าธรรมเนียมภายหลงั การขาย ประสบผลสาเรจ็ 10. การเล่นเกมผ่านระบบเครือข่ายออนไลน์ (Game Online) หมายถึง การเล่นเกมผ่านระบบเครือข่าย ออนไลน์ โดยผเู้ ลน่ เกมออนไลนจ์ ะตอ้ งติดตงั้ โปรแกรม Client เพ่ือเช่ือมโยงกบั บริษัทผใู้ หบ้ รกิ ารเกมออนไลนซ์ ึ่งทาหนา้ ที่เป็น Server ทงั้ นีข้ อ้ มลู ตา่ งๆ ของผเู้ ลน่ เกมออนไลนจ์ ะถกู เก็บไวใ้ นเครอ่ื ง Server ซ่ึงทาใหผ้ เู้ ล่นเกมออนไลนส์ ามารถแข่งขนั และ สนทนา (Chat) กบั ผเู้ ล่นรายอื่นทีอยใู่ นเกมออนไลนไ์ ดท้ นั ที ทงั้ นีผ้ เู้ ล่นเกมออนไลนจ์ ะตอ้ งเสียค่าบรกิ าร สาหรบั การเลน่ เกม ออนไลนต์ ามอตั ราและเง่อื นไขทบี่ รษิ ัทผใู้ หบ้ รกิ ารกาหนดไว้
การจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพ่ิม สามารถกระทาได้ 2 ชอ่ งทาง ดงั นี้ 1. ยน่ื แบบคาขอผ่านทางอินเทอรเ์ น็ตที่ www.rd.go.th 2. ยื่นแบบคาขอด้วยกระดาษ ณ หน่วยจดทะเบียนท่ีตั้งสถานประกอบการสถานที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิม การจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพม่ิ ของผปู้ ระกอบการใหย้ ่นื คาขอจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิม่ ณ สถานท่ี ดงั ตอ่ ไปนี้ 1) ในเขตกรุงเทพมหานคร ใหย้ ื่น ณ สานกั งานสรรพากรพนื้ ท่ที ส่ี ถานประกอบการตงั้ อยู่ 2) นอกเขตกรุงเทพมหานคร ใหย้ น่ื ณ สานกั งานสรรพากรพนื้ ทีส่ าขาที่สถานประกอบการตงั้ อยู่ 3) กรณีสถานประกอบการที่อย่ใู นความดแู ลของสานักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ ใหย้ ่ืน ณ สานกั งานบริหารภาษีธุรกิจ ขนาดใหญ่หรอื จะย่นื ผ่านสานกั งานสรรพากรพนื้ ทหี่ รอื สานกั งานสรรพากรพนื้ ท่สี าขาทีส่ ถานประกอบการตงั้ อยกู่ ็ได้
เม่ือเจา้ พนกั งานไดร้ บั คาขอจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพ่ิมตามแบบ ภ.พ.01 พรอ้ มเอกสารครบถว้ นแลว้ จะมีการออกใบทะเบียน ภาษีมลู คา่ เพิ่ม (แบบ ภ.พ.20) ให้ ซ่ึงจะมีผลทาใหผ้ ปู้ ระกอบการเป็นผจู้ ดทะเบียนตามกฎหมายตงั้ แต่วนั ที่ระบไุ วใ้ นใบทะเบียน ภาษีมลู คา่ เพม่ิ เป็นตน้ ไป
1. เรยี กเกบ็ ภาษมี ลู ค่าเพ่มิ จากผู้ซอื้ สินค้าหรือผูร้ บั บรกิ าร 2. ออกใบกากับภาษตี ามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงอื่ นไขทอ่ี ธิบดกี รมสรรพากรกาหนด 3. จัดทารายงานตามทก่ี ฎหมายกาหนด ซงึ่ ไดแ้ ก่ 3.1 รายงานภาษีซือ้ 3.2 รายงานภาษีขาย 3.3 รายงานสนิ ค้าและวตั ถุดิบ 4. ย่นื แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพ่ิมชอ่ งทางอ่ืน 4.1 การยน่ื แบบฯ และชาระภาษผี ่านอินเทอรเ์ น็ต (www.rd.go.th) แบบแสดงรายการทย่ี ื่น ไดแ้ ก่ ภ.พ.30, ภ.พ.36 - เขตกรุงเทพมหานคร ใหย้ น่ื ณ สานกั บรหิ ารการเสยี ภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ อาคารกรมสรรพากร แขวงสามเสน ในเขตพญาไท กรุงเทพฯ - นอกเขตกรุงเทพมหานคร ใหย้ ื่น ณ สานกั งานสรรพากรพนื้ ท่ีท่ีสถานประกอบการตงั้ อยู่
4.2 การยื่นแบบฯ และชาระภาษที สี่ านักงานสรรพากรพนื้ ทส่ี าขา 1) ภ.พ.30 ถา้ มีสถานประกอบการหลายแห่งใหแ้ ยกยื่นแบบและชาระภาษีเป็นรายสถานประกอบการ เวน้ แต่ไดย้ ่ืน คารอ้ งขออนุมตั ิยื่นแบบและชาระภาษีรวมกันและไดร้ บั อนุมัติแลว้ สามารถยื่นแบบรวมกันไดต้ ั้งแต่เดือนภาษีที่กาหนด เป็นตน้ ไปภายในวนั ท่ี 15 ของเดอื นถดั ไป ไมว่ า่ จะมกี ารขายสนิ คา้ หรอื ใหบ้ รกิ ารในเดือนภาษีนนั้ หรอื ไมก่ ็ตาม 2) ภ.พ.30.2 กาหนดย่ืนภายในวนั ที่ 15 ของเดอื นถดั จากเดอื นภาษีทม่ี กี ารปรบั ปรุงภาษีซอื้ 3) ภ.พ.30.3 กาหนดยน่ื ภายในวนั ท่ี 15 ของเดอื นถดั จากเดอื นภาษีท่มี ีการปรบั ปรุงภาษีซอื้ 4) ภ.พ.36 กาหนดเวลาผจู้ า่ ยเงินนาสง่ ภาษีภายใน 7 วนั นบั แตว่ นั สนิ้ เดือนของเดือนทจี่ า่ ยเงนิ ใหแ้ กผ่ ปู้ ระกอบการ 4.3 การยนื่ แบบฯ และชาระภาษที ธ่ี นาคารพาณิชยไ์ ทย 4.4 การยื่นแบบฯ และชาระภาษีที่สานักงานสรรพสามิตพื้นที่ 1-5 และสานักงานสรรพสามิตสาขาสาหรับ ผปู้ ระกอบการทข่ี ายสินคา้ หรอื ใหบ้ รกิ าร 4.5 การย่ืนแบบใบขนสินค้าขาเข้าและชาระภาษีมูลค่าเพ่ิมพร้อมกับการชาระอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าด้วย ศุลกากร ณ ดา่ นศลุ กากรทม่ี กี ารนาเขา้ สินคา้ สาหรบั ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นหรอื ผนู้ าเขา้ ที่นาเขา้ สนิ คา้
ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพิ่มมีหนา้ ท่ีตอ้ งยื่นแบบแสดงรายการภาษีมลู คา่ เพ่ิม (ภ.พ.30)เป็นรายเดือนภาษี โดย ย่ืนได้ตั้งแต่วันที่ 1–15 ของเดือนถัดไปทุกเดือน ไม่ว่ากิจการจะมีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการในเดือนภาษี นัน้ หรือไม่ก็ตาม ภาษีซือ้ ท่ีผูป้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพ่ิมนามาหกั ออกจากภาษีขายในการคานวณภาษีมลู ค่าเพ่ิม หรอื ขอคืนภาษีซอื้ ตอ้ งเป็นไปตามหลกั เกณฑแ์ ละเง่อื นไขทกี่ ฎหมายกาหนด ซงึ่ ในระบบภาษีมลู คา่ เพ่มิ หลกั ฐานหรอื เอกสารสาคญั ประกอบภาษีซอื้ 1. ใบกากับภาษี (Tax Invoice) เป็นเอกสารที่ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพ่ิมออกใหแ้ ก่ผซู้ ือ้ สินคา้ หรือ ผใู้ ชบ้ รกิ ารเม่ือขายสนิ คา้ หรอื ใหบ้ รกิ าร และตอ้ งสง่ มอบใบกากบั ภาษีใหแ้ ก่ผซู้ อื้ สนิ คา้ หรอื ผใู้ ชบ้ รกิ ารทนั ที ซงึ่ ใบกากบั ภาษีแบง่ ไดด้ งั นี้ 1.1 ใบกากับภาษีแบบเต็มรูป ผูป้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิ่มท่ีไดร้ บั ใบกากับภาษีแบบเต็มรูปจากการซือ้ สินคา้ หรือรับบริการสามารถนาภาษีซือ้ ท่ีเกิดขึน้ มาหักออกจากภาษีขายในการคานวณภาษีมูลค่าเพ่ิมหรือขอคืนภาษีซือ้ เวน้ แตเ่ ป็นภาษีซือ้ ตอ้ งหา้ มตามท่ีกฎหมายกาหนดจะไมส่ ามารถนามาหกั ออกจากภาษีขายในการคานวณภาษีมลู ค่าเพิ่มหรือ ขอคนื ภาษีซอื้ ได้
ใบกากบั ภาษีรูปแบบใหม่ ตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร ฉบบั ท่ี 196 เร่ิมใช้ 1 มกราคม 2558
ลกั ษณะใบกากบั ภาษีแบบเตม็ รูปตอ้ งมขี ้อความ 1) คาวา่ “ใบกากบั ภาษี” 2) เลขประจาตวั ผเู้ สยี ภาษีอากรของผขู้ าย 3) กรณีมีเอกสารอ่ืนประกอบในชดุ ของใบกากบั ภาษีจะตอ้ งมขี อ้ ความวา่ “เอกสารออกเป็นชดุ ” และ “ตน้ ฉบบั ” ในใบกากบั ภาษี 4) ชอื่ ทอี่ ยู่ ของผขู้ ายสินคา้ หรอื ใหบ้ รกิ าร 5) ช่อื ท่ีอยู่ ของผซู้ อื้ สนิ คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ าร 6) เลขประจาตวั ผเู้ สียภาษีของผซู้ อื้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารเฉพาะผปู้ ระกอบการทจ่ี ดทะเบยี น 7) ระบุ “สานกั งานใหญ่” หรอื “เลขทส่ี าขา” ของผซู้ อื้ หรอื ผรู้ บั บรกิ าร 8) วนั เดือน ปี ทอี่ อกใบกากบั ภาษี 9) เลขทใี่ บกากบั ภาษี 10) ช่ือ ชนิด ประเภท ปรมิ าณ และมลู คา่ ของสนิ คา้ หรอื บรกิ าร 11) จานวนภาษีมลู คา่ เพ่ิมทคี่ านวณจากมลู คา่ ของสินคา้ หรอื บรกิ าร โดยใหแ้ ยกจากมลู คา่ ของสนิ คา้ หรอื บรกิ ารใหช้ ดั เจน
1.2 ใบกากับภาษีอย่างย่อ ใบกากับภาษีอย่างย่อท่ีผูป้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมไดร้ บั จากการซือ้ สินคา้ หรือรบั บริการ ภาษีซือ้ ที่เกิดขึน้ เป็นภาษีซือ้ ตอ้ งหา้ มไม่สามารถนามาหักออกจากภาษีขายในการคานวณภาษีมลู ค่าเพ่ิมหรือ ขอคนื ภาษีซอื้ แตน่ ามาถือเป็นรายจา่ ยในการคานวณกาไรสทุ ธิเพอ่ื เสียภาษีเงินไดน้ ิตบิ คุ คลได้
ลักษณะใบกากบั ภาษอี ย่างยอ่ ตอ้ งมีข้อความ 1) คาวา่ “ใบกากบั ภาษีอยา่ งยอ่ ” ในท่ที ี่เหน็ ไดเ้ ดน่ ชดั 2) ชอื่ หรอื ทอี่ ยู่ และเลขประจาตวั ผเู้ สยี ภาษีอากรของผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิ่มท่อี อกใบกากบั ภาษี 3) หมายเลขลาดบั ของใบกากบั ภาษี และหมายเลขลาดบั ของเลม่ (ถา้ มี) 4) ชื่อ ชนิด ประเภท ปรมิ าณ และมลู คา่ ของสนิ คา้ หรอื บรกิ าร 5) วนั เดอื น ปี ทอี่ อกใบกากบั ภาษี 6) ราคาสนิ คา้ หรอื ราคาคา่ บรกิ ารตอ้ งมีขอ้ ความระบชุ ดั เจนวา่ ไดร้ วมภาษีมลู คา่ เพมิ่ ไวแ้ ลว้ 7) ขอ้ ความอน่ื ทอี่ ธิบดกี าหนด 2. ใบเพ่ิมหนี้ (Debit Note) กฎหมายใหถ้ ือว่าเป็นใบกากับภาษี ซ่ึงผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพ่ิมท่ีได้ ขายสนิ คา้ หรอื ใหบ้ รกิ ารไปแลว้ แตต่ อ้ งคานวณภาษีมลู คา่ เพิ่มใหม่ เน่ืองจากมลู ค่าสินคา้ หรอื บรกิ ารมีจานวนเพิ่มขึน้ ไม่วา่ ทงั้ หมด หรอื บางสว่ น
ใบเพมิ่ หนีต้ อ้ งมีรายการอยา่ งน้อย ดงั นี้ 1. คาวา่ “ใบเพิม่ หนี”้ ในทท่ี ีเ่ ห็นไดเ้ ดน่ ชดั 2. ช่ือ ท่ีอยู่ และเลขประจาตัวผูเ้ สียภาษีอากรของผูป้ ระกอบการจด ทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิ่มที่ออกใบเพิ่มหนี้ และในกรณีท่ีตวั แทนเป็นผอู้ อกใบ เพิ่มหนีใ้ นนามของผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ระบุชื่อ ท่ีอยู่ และเลขประจาตวั ผเู้ สียภาษีอากรของตวั แทนนนั้ ดว้ ย 3. ชอื่ ทอ่ี ยู่ ของผซู้ อื้ สินคา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ าร 4. วนั เดือน ปี ทอ่ี อกใบเพ่ิมหนี้ 5. หมายเลขลาดับของใบกากบั ภาษีเดิม รวมทงั้ หมายเลขลาดบั ของ เล่ม (ถา้ มี) มลู ค่าของสินคา้ หรือบริการที่แสดงไวใ้ นใบกากับภาษี มลู ค่า ท่ถี กู ตอ้ งของสินคา้ หรอื บริการ ผลตา่ งของจานวนมลู คา่ ทงั้ สอง และจานวน ภาษีท่ีเรยี กเก็บเพ่มิ เติมสาหรบั สว่ นตา่ งนนั้ 6. คาอธิบายสนั้ ๆ ถงึ สาเหตใุ นการออกใบเพม่ิ หนี้ 7. ขอ้ ความอืน่ ที่อธิบดีกาหนด
3. ใบลดหนี้ (Credit Note) กฎหมายใหถ้ ือวา่ เป็นใบกากับภาษี ผูป้ ระกอบการที่มีสิทธิออกใบลดหนีต้ อ้ งเป็น ผูป้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมที่ไดอ้ อกใบกากับภาษีจากการขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการแลว้ ต่อมาภายหลงั ไดเ้ กิด เหตกุ ารณท์ าใหม้ ลู คา่ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารมจี านวนลดลง ไมว่ า่ ทงั้ หมดหรอื บางสว่ น ใบลดหนีต้ อ้ งมรี ายการอย่างน้อย ดังนี้ 1. คาวา่ “ใบลดหนี”้ ในท่ที ีเ่ หน็ ไดเ้ ดน่ ชดั 2. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจาตัวผูเ้ สียภาษีอากรของผูป้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิ่มท่ีออกใบลดหนี้ และในกรณี ที่ตวั แทนเป็นผอู้ อกใบลดหนีใ้ นนามของผปู้ ระกอบการ จดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิ่มใหร้ ะบุช่ือ ที่อยู่ และเลขประจาตวั ผเู้ สียภาษี อากรของตวั แทนนนั้ ดว้ ย 3. ชอื่ ทอ่ี ยู่ ของผซู้ อื้ สนิ คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ าร 4. วนั เดือน ปี ท่ีออกใบลดหนี้ 5. หมายเลขลาดับของใบกากับภาษีเดิม รวมทัง้ หมายเลขลาดับของเล่ม (ถา้ มี) มูลค่าของสินคา้ หรือบริการที่แสดงไว้ ในใบกากบั ภาษีดงั กลา่ ว มลู คา่ ที่ถกู ตอ้ งของสินคา้ หรอื บรกิ าร ผลตา่ งของจานวนมลู คา่ ทงั้ สองและจานวนภาษีท่ีใชค้ ืนสาหรบั สว่ น ตา่ งนนั้ 6. คาอธิบายสนั้ ๆ ถงึ สาเหตใุ นการออกใบลดหนี้ 7. ขอ้ ความอน่ื ทีอ่ ธิบดกี าหนด
4. ใบเสร็จรับเงินจากการรับชาระภาษีมูลค่าเพ่ิมของกรมสรรพากร ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรต้องเป็ นใบเสร็จรับเงินท่ีออกให้จากการรับชาระ ภาษีมลู คา่ เพิ่มทผี่ ปู้ ระกอบการมีหนา้ ทน่ี าสง่ ภาษีมลู คา่ เพิม่ เมอ่ื ชาระราคาสินคา้ หรือราคา คา่ บรกิ ารดงั นี้ 1. เมื่อชาระราคาสินค้าหรือราคาค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการที่อยู่นอก ราชอาณาจกั ร ซ่งึ ไดเ้ ขา้ มาประกอบกิจการขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการในราชอาณาจกั รเป็น การช่วั คราว และไมไ่ ดจ้ ดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิม่ เป็นการช่วั คราว 2. เมื่อชาระราคาสินค้าหรือราคาค่าบริการให้ผู้ประกอบการท่ีได้ให้บริการ ตา่ งประเทศ และไดม้ ีการนาบรกิ ารนนั้ มาใชใ้ นราชอาณาจกั ร 3. เม่ือรับโอนสินค้าหรือรับโอนสิทธิในบริการสาหรับสินคา้ หรือบริการที่ไดเ้ สีย ภาษีมลู คา่ เพ่มิ ในอตั รารอ้ ยละ 0
5. ใบเสร็จรับเงินที่กรมศุลกากรหรือกรมสรรพสามิตเรียกเก็บ ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ เพอ่ื กรมสรรพากร ถือเป็นใบกากบั ภาษี มลี กั ษณะดงั นี้ 1. ใบเสร็จรบั เงินท่ีกรมศุลกากรเรยี กเก็บภาษีมลู ค่าเพิ่ม อนั เน่ืองมาจากการ นาเขา้ สินคา้ หรอื การนาเขา้ สินคา้ ของตกคา้ งตามกฎหมายวา่ ดว้ ยศลุ กากร หรือการ รบั โอนสินคา้ นาเขา้ ท่ีจาแนกไวใ้ นภาควา่ ดว้ ยของที่ไดร้ บั ยกเวน้ อากรตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยพกิ ดั อตั ราศลุ กากร 2. ใบเสร็จรบั เงินท่ีกรมสรรพสามิตเรียกเก็บภาษีมลู ค่าเพ่ิมสาหรบั การขาย สินคา้ หรอื การใหบ้ รกิ ารทตี่ อ้ งเสยี ภาษีสรรพสามิต 6. ใบเสรจ็ รับเงนิ ของส่วนราชการ ทีไ่ ดเ้ รยี กเก็บภาษีมลู คา่ เพิม่ จากการขาย ทอดตลาดทรพั ยส์ ินของผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพมิ่ หรอื การขายโดยวธิ ี อื่นถือเป็นใบกากบั ภาษี หมายเหตุ ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบเสร็จรบั เงินค่าภาษีมลู ค่าเพ่ิมท่ีส่วน ราชการเป็นผอู้ อกถือเป็นใบกากบั ภาษี
7. การเก็บรกั ษาใบกากบั ภาษีและเอกสารหลกั ฐาน ผปู้ ระกอบการตอ้ งจดั ทารายงานต่าง ๆ และจะตอ้ งเก็บรกั ษารายงาน ใบกากบั ภาษี สาเนาใบกากับภาษีพรอ้ มทงั้ เอกสาร ประกอบการลงรายงานอ่นื ไว้ ณ สถานประกอบการทจี่ ดั ทารายงานนนั้ หรอื สถานทอี่ น่ื ทอ่ี ธิบดกี าหนดเป็นเวลาไม่นอ้ ยกวา่ 5 ปีนับ แตว่ นั ทีไ่ ดย้ ่นื แบบแสดงรายการภาษีหรอื วนั ท่ที ารายงานแลว้ แต่กรณี เวน้ แต่กรณีท่ีผปู้ ระกอบการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ ใ ห้ผู้ป ร ะ ก อ บ ก า ร จ ด ท ะ เ บี ย น ห รือ ผู้มี ห น้า ที่ ย่ื น แ บ บ แ ส ด ง ร า ย ก า ร ภ า ษี แ ล ะ ช า ร ะ ภ า ษี ห รื อ ผู้มี ห น้า ที่ ต ้อ ง จัด ท า ร า ย ง า น เก็บรกั ษารายงานและเอกสารท่ีตนมีหนา้ ท่ีตอ้ งเก็บรกั ษาอย่ใู นวนั เลิกประกอบกิจการต่อไปอีก 2 ปี และกรณีที่ผูป้ ระกอบการ จดทะเบียนท่ีจะจัดทาเอกสารหลักฐานตามประมวลรัษฎากร ดว้ ยรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต้องปฏิบัติตามคาส่ัง กรมสรรพากร เร่ือง การจัดทาและการจัดเก็บเอกสารหลักฐานตามประมวลรัษฎากร ที่มีขอ้ ความอยู่ในรูปแบบของข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ การจดั เก็บใบกากบั ภาษีและเอกสารหลกั ฐานอ่นื ทีใ่ ชป้ ระกอบการลงรายงานภาษีซอื้ มดี งั นี้ (1) จดั เก็บแยกตา่ งหากจากเอกสารหลกั ฐานอนื่ แยกเป็นรายเดือนภาษี (2) เรยี งตามลาดบั วนั เดอื น ปี ท่ีรายการเกิดขนึ้ กอ่ นหลงั (3) ใหเ้ ลขทกี่ ากบั ใบสาคญั ดงั กลา่ วเรยี งตามลาดบั ขนึ้ ใหมท่ างดา้ นบนขวาของใบสาคญั นนั้ ๆ
ฐานภาษี หมายถึง ส่ิงที่เป็ นมูลเหตุจูงใจให้ต้องมีการเสียภาษี ได้แก่ การมีรายได้ การมีทรัพย์สินหรือการใช้จ่าย หรือการบริโภค เป็นตน้ แต่ฐานภาษีในทางภาษี หมายถึง การพิจารณาภาษีอากรที่ตอ้ งเสีย = ฐานภาษี X อัตราภาษี ซ่ึงปัจจุบันอัตรา ภาษีมลู คา่ เพ่มิ มอี ยู่ 2 อตั รา กลา่ วคือ 1. อัตราภาษีรอ้ ยละ 7 โดยเก็บจากการขายสินคา้ หรอื การใหบ้ ริการท่ีมีมลู คา่ ของฐานภาษี(รายรบั ) เกินกว่า 1.8 ลา้ นบาท ต่อปี เสียภาษีมูลค่าเพ่ิมในอัตรารอ้ ยละ 10 แต่ไดม้ ีพระราชกฤษฎีกาลดอัตราลงเหลือรอ้ ยละ 6.3 เม่ือรวมกับภาษีทอ้ งถ่ิน อีกรอ้ ยละ 0.7 รวมภาษีมลู ค่าเพิ่มทงั้ สิน้ รอ้ ยละ 7.0 แต่สาหรบั สินคา้ ฟ่ มุ เฟื อย เช่น สรุ า บุหร่ี ฯลฯ ตอ้ งเสียภาษีสรรพสามิต เพิม่ จากการเสยี ภาษีมลู คา่ เพ่ิมอีกดว้ ย 2. อัตราภาษีรอ้ ยละ 0 ซง่ึ ใชส้ าหรบั การประกอบการตอ่ ไปนี้ 1) การสง่ ออกสินคา้ ของผปู้ ระกอบการจดทะเบยี น 2) การใหบ้ ริการท่ีกระทาในราชอาณาจักรและไดม้ ีการใชบ้ ริการนั้นในต่างประเทศตามประเภท หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือ่ นไขที่อธิบดีกาหนด 3) การใหบ้ รกิ ารขนสง่ ระหวา่ งประเทศโดยอากาศยานหรอื เรอื เดนิ ทะเลโดยผปู้ ระกอบการนิตบิ คุ คล
4) การขายสินคา้ หรอื การใหบ้ รกิ ารแกส่ ว่ นราชการหรอื รฐั วสิ าหกิจตามโครงการเงินกหู้ รอื เงินชว่ ยเหลือจากตา่ งประเทศ 5) การขายสินค้าหรือการให้บริการกับองค์การสหประชาชาติ ทบวงการชานัญพิเศษของสหประชาชาติ สถานเอกอคั รราชทตู สถานกงสลุ ใหญ่ สถานกงสลุ 6) การขายสินคา้ หรือการใหบ้ ริการที่ก่อใหเ้ กิดสินคา้ ท่ีมีรูปรา่ งหรือการใหบ้ ริการท่ีไม่ก่อใหเ้ กิดสินคา้ ท่ีมีรูปรา่ งแตท่ าให้ สินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือมีมูลค่าเพิ่มขึ้นระหว่างคลังสินค้าทัณฑ์บนด้วยกันหรือระหว่างผู้ประกอบการ ท่ีประกอบการอยู่ในเขตปลอดอากรไม่ว่าจะอยู่ในเขตเดียวกันหรือไม่รวมทั้งการขายสินคา้ หรือการใหบ้ ริการระหว่าง คลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ นกบั ผปู้ ระกอบการทีป่ ระกอบกิจการอยใู่ นเขตปลอดอากร
ผปู้ ระกอบการท่ีขายสินคา้ หรือใหบ้ รกิ ารที่อยใู่ นบงั คบั ภาษีมลู คา่ เพิ่ม หากมีรายรบั เกินกว่า 1.8 ลา้ นบาทต่อปี หรือต่อรอบ ระยะเวลาบญั ชี ตอ้ งจดทะเบียนเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพ่ิมและเม่ือขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการตอ้ งออกใบกากับ ภาษีเพื่อเรยี กเก็บภาษีมลู คา่ เพ่ิมจากผซู้ อื้ สนิ คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ าร พรอ้ มทงั้ สง่ มอบใบกากบั ภาษีใหแ้ กผ่ ซู้ อื้ สนิ คา้ หรอื ผใู้ ชบ้ รกิ าร ภาษีทตี่ อ้ งเสยี คานวณจากการนาภาษีขายทงั้ เดอื นภาษีมาหกั ดว้ ยภาษีซอื้ ทงั้ เดือนภาษี - หากมภี าษีขายมากกวา่ ภาษีซอื้ ใหช้ าระภาษีสว่ นตา่ งนนั้ - หากมีภาษีซอื้ มากกวา่ ภาษีขายจะขอคนื ภาษีสว่ นตา่ งเป็นเงนิ สดหรอื ยกไปเครดิตภาษีในเดอื นถดั ไปก็ได้ ภาษีมลู ค่าเพม่ิ = ภาษขี าย – ภาษซี อื้ หากภาษีขาย > ภาษีซอื้ = ภาษีมลู คา่ เพ่ิมท่ตี อ้ งชาระ หากภาษีขาย < ภาษีซอื้ = ภาษีทมี่ สี ิทธิขอคนื หรอื ขอเครดติ ภาษี
ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องย่ืนแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) เป็นรายเดือนภาษี โดยยื่นแบบตงั้ แตว่ นั ท่ี 1–15 ของเดือนถดั ไปทกุ เดือน ไม่วา่ กิจการจะมีรายรบั จากการขายสินคา้ หรอื ใหบ้ ริการในเดือนภาษีนัน้ หรอื ไมก่ ็ตาม กรณีที่ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพ่ิมไดย้ ื่นแบบแสดงรายการภาษีมลู คา่ เพ่ิม และผลจากการคานวณภาษีพบวา่ ภาษีขายมากกว่าภาษีซื้อจะตอ้ งนาส่งเงินภาษีต่อกรมสรรพากรเท่ากับส่วนต่างนั้น แต่หากภาษีขายน้อยกว่าภาษีซื้อ ผปู้ ระกอบการมสี ทิ ธิไดร้ บั คืนภาษีซอื้ โดยจะขอคืนภาษีซอื้ เป็นเงนิ สดหรอื ใหน้ าเครดิตภาษีไปชาระภาษีมลู คา่ เพิ่มในเดือนถดั ไปก็ ได้ การแสดงรายละเอียดการคานวณภาษีมลู ค่าเพ่ิมทงั้ ยอดภาษีขายและยอดภาษีซือ้ ท่ีแสดงในแบบ ภ.พ.30 จะตอ้ งเป็นภาษีที่ ถกู ตอ้ งตามกฎหมาย และมสี ิทธินามาใชใ้ นการคานวณภาษีมลู คา่ เพ่ิมเทา่ นนั้
การคานวณภาษีมลู คา่ เพิม่ แยกเป็น 2 กรณี ดงั นี้ 1. กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมในอัตราร้อยละ 7 ใหค้ านวณภาษีซือ้ และภาษีขายประจาเดือน โดยดจู ากบญั ชีภาษีซอื้ และภาษีขายหรอื จากรายงานภาษีซอื้ และภาษีขายและหาผลตา่ ง ถา้ ภาษีซือ้ > ภาษีขาย จะไดร้ บั คืน ถา้ ภาษซี ือ้ < ภาษีขาย จะตอ้ งชาระเพม่ิ 2. กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมในอัตราร้อยละ 0 ให้คานวณภาษีมูลค่าเพิ่มโดยคานวณ เป็นรายเดอื น เชน่ เดยี วกนั กบั ภาษีมลู คา่ เพ่มิ อตั รารอ้ ยละ 7 แตภ่ าษีมลู คา่ เพิม่ อตั รารอ้ ยละ 0 ภาษีขายจะเป็น 0 ดงั นนั้ ภาษีซือ้ จึง ขอคนื ไดท้ งั้ หมด
Search