วิจัย วิชาการบัญชีเบื้องต้น 2 ปีการศึกษา 2561

รายงานการวิจัยในชนั้ เรยี น ชอ่ื เร่อื ง การใชช้ ุดฝึกปฏบิ ัติวิชาการบัญชเี บ้อื งตน้ 2 ของนักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4/3 (สายบัญชี) และนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/4 (สายคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 ชื่อผู้วิจยั วา่ ทร่ี ้อยตรีหญิงกนกอร วงศ์ษา สอนวิชา การบัญชเี บื้องต้น 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ความเปน็ มาและความสาคัญของปัญหา บัญชถี ือเป็นวิชาท่ีมีความสาคัญวิชาหน่ึง ข้อมูลทางบัญชีสามารถใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจหรือทาง เศรษฐกิจ เพ่ือจัดสรรทรัพยากร ไปในทางท่ีดี จะเกิดประโยชน์สูงสุดของระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน และบัญชี ยังมีความสาคัญในการพัฒนาความคิดของผู้เรียนให้เป็นคนคิดอย่างมีเหตุผล เช่นการตัดสินใจท่ีจะบริโภค การออมทรัพย์ หรือจ่ายลงทนุ ดังน้ัน บัญชจี ึงเป็นวิชาท่มี ีความสาคญั ในชีวิตประจาวันของมนุษย์ทง้ั ทางตรง และทางอ้อม อย่างไรก็ตามวิชาบัญชีเป็นวิชาท่ีเน้นความรู้ ความจา ความเข้าใจ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการคานวณ(มนัญชัย กีรติผจญ,2551:3) ซึ่งมีลักษณะท่ีค่อนข้างเป็นนามธรรม ต้องใช้ความคิดอย่างมี เหตุผล บทบาทและหน้าท่ีของผู้เรียนคือการเป็นผู้รับฟังและจดจาเน้ือหาจากผู้สอน เพ่ือนาไปใช้ในการสอบ เท่านั้น ทาให้ผู้เรียนเกิดความตึงเครียด เบื่อหน่าย จึงเกิดเจตคติท่ีไม่ค่อยดีต่อวิชาบัญชี และไม่สนใจเรียน เท่าท่ีควร ซึ่งส่ิงเหล่าน้ีเป็นปัจจัยท่ีอาจส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า และมีความสนใจต่อวิชา บัญชีลดลง จึงเป็นเหตุให้ การเรียน การสอนวิชาบัญชีไม่ได้ผล อีกท้ังวิชาบัญชีมีความยากต่อการทาความ เข้าใจด้วยตนเอง เพราะเม่อื ผู้เรียนทาการเรียนดว้ ยตนเองกไ็ ม่อาจจะทาได้ จาเป็นต้องใช้ผู้รู้ท่ีมีความเช่ียวชาญ คอยแนะนา และเมือ่ มกี ารเรยี นการสอนเกดิ ขึน้ ในชั้นเรยี น ผู้เรียนเกิดการสบั สนและไม่สามารถซักถาม หรือให้ ผู้สอนอธิบายซ้าอีกได้ เน่ืองจากเวลาที่ใช้ในการเรียนการสอนในคาบมีเวลาจากัด ซ่ึงผู้สอนคิดว่าควรที่จะให้ ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติการทาบัญชีจนเกิดเป็นทักษะ ความชานาญเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้เรียน ให้มี ความรู้ความเขา้ ใจเพ่ิมมากข้ึน พรอ้ มทงั้ หาแนวทางใหม่ๆ ในการเรียนการสอน เพื่อให้เกิดความหลากหลายใน การสอนและทาให้ผู้เรียนเกิดความรู้ในด้านต่างๆ เกิดการตื่นตัวในการเรียนรู้ ชอบเรียนวิชาบัญชีเพ่ิมมากข้ึน และสนใจในวิชาการบัญชี จากปัญหาดังกล่าว ทาให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า ไม่สามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้ ดังน้ันผู้สอนจึง เห็นความสาคญั ทจ่ี ะพัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรียน

วตั ถุประสงคข์ องการวิจัย 1. เพื่อพัฒนาทกั ษะทางดา้ นการวเิ คราะห์รายการคา้ วชิ าการบญั ชเี บ้ืองตน้ 2 ของนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/3 (สายบัญชี) และนักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4/4 (สายคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ) โรงเรยี น ราชประชานุเคราะห์ 31 2. เพือ่ ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรยี นทม่ี ีต่อการจดั การเรียนการสอนโดยวิธีใช้ชดุ ฝกึ ปฏบิ ตั ิของ วิชาการบญั ชเี บ้อื งตน้ 2 วธิ ีดาเนินการวิจัย ประชากร/กลุ่มตัวอยา่ ง นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/3 (สายบญั ช)ี และนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4/4 (สายคอมพวิ เตอร์ ธุรกจิ ) จานวน 39 คน โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2561 เคร่อื งมอื ทใี่ ช้ในการวิจัย/นวัตกรรม 1. แผนการเรียน โดยใช้แบบฝกึ ทกั ษะประกอบการวดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 2. แบบฝึกทักษะ จานวน 4 ชดุ ซึง่ ผวู้ ิจัยสร้างขน้ึ เอง การเก็บรวบรวมข้อมลู 1. จากผลการทาแบบฝึกทกั ษะเร่อื งการบันทึกรายการเกี่ยวกับการซ้ือขายสินค้าในสมดุ รายวันทว่ั ไป จานวน 4 ชดุ 2. จากการวดั ผลสมั ฤทธิ์ ทางการเรียน การวเิ คราะหข์ ้อมลู /สถิตทิ ่ีใชใ้ นการวิจัย 1. จากผลการทาแบบฝึกทักษะ 4 ชุดโดยการหาคา่ เฉลีย่ และคา่ ร้อยละ 2. จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยการหาค่าเฉล่ียและค่าร้อยละ ผลการวิจยั จากการใช้แบบฝึกทักษะเรื่องการบันทึกรายการเก่ียวกับการซ้อื ขายสนิ ค้าในสมดุ รายวนั ทว่ั ไป กับ นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4/3 (สายบัญชี) และนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4/4 (สายคอมพิวเตอร์ธุรกิจ) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จานวน 37 คน พบวา่ นักเรยี นมผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน ระดบั ดี สูงขึ้น กว่าปี 2560 ร้อยละ 24.51

ข้อเสนอแนะ ครูผู้สอนวิชาบัญชเี บ้ืองต้น 2 ควรใช้ชุดฝกึ ในการช่วยฝึกทักษะของผู้เรยี นใหม้ ากข้นึ เพื่อให้ผู้เรียนเกดิ ทักษะ และความชานาญในการเรียนวิชาเกีย่ วกบั บัญชี

แบบฝกึ ทักษะ ชดุ ท่ี 1 วนั ท่ี 1 มีนาคม 2548 นายเฉลยี ว ไดเ้ ปิดอซู่ ่อมรถยนต์ ชอื่ “ อเู่ ฉลยี วบรกิ าร” โดยนาเงนิ สดจานวน 160,000 บาท เคร่ืองมือในการซ่อมรถยนต์ 35,000 บาท อาคาร 320,000 บาท และเงินกู้ธนาคาร 200,000 บาท มาลงทุน รายการค้าในระหว่างเดือนมนี าคม มดี งั น้ี 2548 ม.ี ค. 2 จ่ายค่าเบีย้ ประกันภัยรายปเี ป็นเงินสด 900 บาท 3 ซือ้ รถยนต์ราคา 80,000 บาทจากบรษิ ัทมิตรเจริญ จากัด ยังไมช่ าระเงนิ 4 ซ้ืออะไหล่ในการซ่อมรถยนตเ์ ป็นเงินสด 6,500 บาท 6 รับรายได้ค่าซ่อมรถยนต์เปน็ เงินสด 9,200 บาท 8 ส่งบิลเกบ็ เงนิ ให้ลกู ค้า-นายพอใจ เปน็ คา่ ซ่อมรถยนต์ 11,000 บาท ยงั ไม่ชาระเงิน 20 เจ้าของกจิ การถอนเงนิ สดใช้ส่วนตัว 8,000 บาท 22 รับชาระหนจี้ ากลูกหน้ีเปน็ เงนิ สด 5,000 บาท 28 กิจการนาเงินสดฝากธนาคาร 20,000 บาท 29 จา่ ยเงินสดชาระหนีเ้ จ้าหนี้ 10,000 บาท 30 จ่ายเงินเดือนพนกั งานผ่านธนาคาร 15,000 บาท 30 จา่ ยคา่ น้า คา่ ไฟฟ้า คา่ โทรศัพทเ์ ปน็ เงินสด 3,300 บาท (บัญชีค่าสาธารณูปโภค) ใหท้ า : บันทกึ รายการลงในสมดุ รายวันทวั่ ไป

แบบฝึกทกั ษะ ชดุ ที่ 2 นางจิตรเจริญไดเ้ ปิดกจิ การนายหน้าจดั หางาน “เจริญจิตรจดั หางาน” เมื่อวนั ท่ี 1 กันยายน 2548 โดย นาเงินสด 80,000 บาท อาคารสานกั งาน 330,000 บาท และเงนิ ก้ธู นาคาร 100,000 บาท มาลงทนุ ในระหว่างเดอื นมรี ายการค้าเกิดขึ้นดังนี้ 2548 ก.ย. 2 จา่ ยคา่ โฆษณาเปน็ เงนิ สด 1,000 บาท 3 ซือ้ ชุดคอมพิวเตอร์ 25,000 บาท จา่ ยเงนิ สดทนั ที 5,000 บาท ทเ่ี หลือจะชาระ ภายใน หน่งึ เดือนถัดไป(บญั ชเี ครื่องใช้สานักงาน) 4 ซ้ือเคร่ืองตกแตง่ สานักงานจากร้านเอ็มแอนด์เอ็น ราคา 7,800 บาท ยังไม่ชาระเงนิ 6 รับรายได้คา่ นายหน้าเปน็ เงินสด 10,500 บาท 15 ส่งบลิ เกบ็ เงนิ คา่ นายหน้าใหล้ ูกคา้ 12,000 บาท ยงั ไมช่ าระเงิน 17 จ่ายเงินสดชาระหน้คี ่าเครื่องตกแต่งสานกั งานที่ซื้อเมื่อวนั ที่ 4 20 ซื้อวัสดสุ านักงานเปน็ เงนิ สด 1,300 บาท 21 รับชาระหนี้จากลูกหนี้ 8,000 บาท 22 นางจติ รเจริญถอนเงนิ สดใชส้ ว่ นตวั 6,000 บาท 27 กิจการนาเงินฝากธนาคาร 18,000 บาท 29 จ่ายค่าพาหนะ 2,200 บาท และค่าใช้จา่ ยเบด็ เตลด็ 900 บาท 30 จา่ ยเงินเดอื นพนักงานเป็นเงนิ สด 10,000 บาท ให้ทา : ก บันทึกรายการคา้ ท่ีเกิดขนึ้ ในสมดุ รายวนั ทัว่ ไป

แบบฝกึ ทักษะ ชดุ ท่ี 3 เม่ือวันที่ 1 กรกฎาคม 2550 กจิ การมียอดบัญชบี างบัญชียกมาดังน้ี เงนิ สด 46,000 บาท เงินฝากธนาคาร 82,000 บาท ลูกหนก้ี ารค้า 30,388 บาท ซงึ่ ประกอบด้วย รา้ นสดใส 12,198 บาท (รวมภาษีมลู คา่ เพม่ิ ไว้แล้ว) ร้านสดศรี 8,774 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไวแ้ ลว้ ) รา้ นสดชืน่ 9,416 บาท (รวมภาษมี ูลค่าเพ่มิ ไว้แล้ว) รายการคา้ ที่เกิดข้นึ ระหว่างเดือน กรกฎาคม 2550 มีดังนี้ ก.ค. 1 ขายสินคา้ เปน็ เงนิ สด 7,200 บาท ภาษมี ลู คา่ เพิม่ 7% 8 รบั ชาระหนี้จากรา้ นสดศรี ทั้งหมด ใหส้ ว่ นลด 2% 12 รบั เงินคา่ เชา่ หน้ารา้ นวางแผงขายสินคา้ 1,200 บาท 17 นาเงินสดฝากธนาคาร 21,000 บาท 21 ขายสนิ ค้าเป็นเงินสด 4,500 บาท ภาษมี ูลคา่ เพ่มิ 7% นาเงินฝากธนาคารทันที 26 รับชาระหน้ีจากร้านสดใสบางสว่ น 6,420 บาท รวมภาษี 7 % ให้สว่ นลด 2% 27 ขายสนิ ค้าเป็นเงินสด 3,200 บาท ภาษีมลู ค่าเพม่ิ 7% ใบกากับภาษเี ลขที่ 189 29 ถอนเงินจากธนาคารมาใช้ในกิจการ 5,000 บาท 31 รบั ชาระหนจ้ี ากร้านสดช่นื บางสว่ น 3,745 บาท ให้ทา 1. บันทกึ รายการข้างตน้ ในสมดุ รายวนั ท่ัวไป

แบบฝกึ ทกั ษะ ชดุ ท่ี 4 นางสาวมณียา ได้เปดิ กิจการซักอบรดี “มณียาซักรีด” เม่อื วนั ท่ี 1 มกราคม 2548 โดยนาสนิ ทรพั ยต์ า่ ง ๆ มาลงทุนดงั น้ี คอื เงินสด 100,000 บาท อาคาร 1 คูหา 350,000 บาท ท่ดี ิน 200,000 บาท และในระหวา่ งเดอื น มีรายการค้าดังน้ี 2548 ม.ค. 2 จ่ายเงนิ ประกันอคั คีภยั 500 บาท 4 ซอ้ื อปุ กรณ์ใชใ้ นการซักรีด จากบริษทั เมอรเ์ บอรจ์ ากัด เป็นเงนิ 49,000 บาท จ่ายเงินสดทันที 19,000 บาท ทเ่ี หลอื จา่ ยชาระเดือนถดั ไป 5 ซือ้ วัสดุส้ินเปลืองใชใ้ นการซักรีด 2,500 บาท 15 รับเงินรายได้ค่าซักรีด 5,500 บาท 16 ซือ้ รถจักรยานยนต์ใช้ในการส่งของ 1 คัน 21,000 บาท 2548 ม.ค. 17 นางสาวมณียาถอนเงินสดไปใช้ส่วนตวั 5,000 บาท 21 รบั เงินรายได้ค่าซกั รดี 9,500 บาท 23 ส่งบลิ เก็บเงินใหล้ ูกค้า นายจนั ทรสอน ค่าซกั รีด 1,500 บาท ลูกคา้ ยังไม่ชาระ 29 จา่ ยเงินเดอื นพนักงาน 5,600 บาท 30 รบั ชาระหนจ้ี ากลูกคา้ เมื่อวนั ที่ 23 มกราคม 1,000 บาท 30 จ่ายคา่ ไฟฟา้ ประปา และคา่ โทรศัพท์ 2,600 บาท ใหท้ า: 1. บันทึกรายการในสมดุ รายวันทว่ั ไป