คาํ นํา คูมือพนักงาน (Employee Handbook) ฉบับบน้ีไดจัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงคท่ีจะใหพนักงาน ไดร บั ทราบและเขาใจนโยบายของบรษิ ัทไมวา จะเปนเร่ืองของขอบังคับเกี่ยวกับการทํางาน สิทธิประโยชนที่ พึ่งไดรับจากประกันสังคม การสวัสดิการตางๆ ใหกับพนักงาน จรรยาบรรณในการทํางาน ฯลฯ โดยได กลา วไวโ ดยสรปุ ทงั้ น้ีเพอ่ื ใหพนกั งานสามารถทจ่ี ะนาํ เนือ้ หาสาระตางๆ จากคมู อื พนกั งานไปใชค วบคูกบั การ ปฎิบัติงานเปนมาตรฐานในการประพฤติปฎิบัติตนใหเหมาะสมถูกตอง อันสงผลใหทุกคนสามารถปฎิบัติ หนาทีก่ ารงานท้ังของตนและการปฎบิ ตั งิ านรวมกบั ผอู นื่ ไดอ ยา งเตม็ ที่เกิดประสทิ ธภิ าพสูงสดุ หลังจากทานไดอานคูมือฉบับน้ีแลวบริษัทหวังเปนอยางยิ่งวาพนักงานทุกคนจะไดรับประโยชน จากคูมือพนกี งาน เพอื่ การปฎบิ ตั หิ นา ทกี่ ารงานใหเ ขา กบั วิสยั ทัศนข ององคกรที่วา “ The Best And The Most Respectable Rubber Organization “ ซึ่งหมายถึง เราจะเปนองคกรยางพาราที่ดีที่สุดในโลก และขอใหทกุ ทานประสบความสาํ เร็จในการบรหิ ารและบังคบั บญั ชาทรพั ยากรมนุษยตอ ไป ขอใหทกุ ทานประสบความสําเรจ็ สายงานทรัพยากรมนษุ ย บรษิ ทั ศรตี รงั โกลฟส (ประเทศไทย) จาํ กดั (มหาชน)
สารบญั เร่อื ง หนา คาํ ปรารภจากผูจดั การสายงานทรพั ยากรมนุษย 1 สาขา และบริษัทในเครอื บรษิ ัท ศรตี รังโกลฟส (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) 2 จรรยาบรรณการประกอบธรุ กจิ องคก ร 3 จรรยาบรรณวาดวยความรับผิดชอบตอผูถือหนุ 3 จรรยาบรรณวาดวยความสัมพนั ธก บั ลูกคา และประชาชน 3 จรรยาบรรณวาดวยความสัมพันธกับคคู า คแู ขง ทางการคา และเจา หนา หนที้ างการคา 4 จรรยาบรรณวา ดว ยความรบั ผิดชอบตอพนกั งาน 5 จรรยาบรรณวา ดว ยความรบั ผดิ ชอบตอสงั คมและสง่ิ แวดลอ ม 5 กฎหมายทเี่ กย่ี วขอ งกับการบรหิ ารทรพั ยากรมนษุ ย 7 ภาษเี งินไดบ คุ คลธรรมดา 8 ขอบังคับเกยี่ วกับการทํางาน 14 นโยบายการบริหารทรัพยากรมนุษย 16 ประเภทพนักงาน 17 วัน เวลาทํางานปกติ และเวลาพัก 19 วันหยุด และหลักเกณฑการหยดุ 20 การบริหารคาจา ง เงนิ เดอื นและคาตอบแทน 22 คาทาํ งานลว งเวลา และคาทาํ งานในวนั หยุด 24 การลาและหลกั เกณฑก ารลา 25 สวสั ดิการ การรักษาพยาบาลและความปลอดภัย 29 วินยั และโทษทางวนิ ยั 30 การรอ งทกุ ข 35 การพน สภาพการเปน พนกั งาน 39 การจายคาชดเชย 41 การจดั สวสั ดิการใหก ับพนกั งานในบรษิ ัท 43 ดา นกองทุนประกนั ประกนั สงั คม 43 ดา นกองทุนเงินทดแทน 55 ดา นการเงิน 56 ดานสขุ อนามยั 57 ดา นท่ีพักอาศัย 57 ดา นการศึกษา อบรม สมั มนา ดงู าน 58 ดา นกิจกรรม นนั ทนาการ 58 Traffic Signs 59 Core value 63
คาํ ปรารภ ผูจัดการสายงานทรพั ยากรมนุษย เปนที่ทราบกันดีวาทุกองคกรตางใหการยอมรับและเช่ือม่ันใน “ทรัพยากรมนุษย ” ซึ่งเปน ทรพั ยากรอนั มีคา สูงสดุ ในการพฒั นาองคกรใหป ระสบความสําเรจ็ เจรญิ กา วหนา เตบิ โตอยางม่ันคง บริษัท ฯ จึงไดใหความสําคัญตอทรัพยากรมนุษยเปนอยางยิ่งในการสงเสริมและพัฒนาพนักงานใหมีความรู ความสามารถ ส่ิงสําคัญอีกส่ิงหนึ่งท่ีพนักงานทุกคนในบริษัทจะตองทราบและยึดถือเปนแนวทางในการ ปฎบิ ัตอิ ันเปนประโยชนต อ งานโดยเฉพาะในเร่ืองของการบังคับบัญชาการปฎิบัติตอกันของผูบังคับบัญชาท่ีมี ตอผูใตบังคับบัญชา จะตองปฎิบัติอยางไรจึงจะถูกตองและเปนธรรมโดยไมขัดตอระเบียบขอบังคับในการ ทาํ งานของบริษทั และกฎหมาย บรษิ ัทจึงไดจดั ทําคมู อื พนักงานฉบับน้ีข้นึ โดยมีวัตถปุ ระสงคท่ีจะใหพนักงาน ซง่ึ เปน ผูบงั คับบญั ชาทุกฝา ย ทุกแผนก ไดใชเปน คมู ือพนื้ ฐานในการปฎิบัติงานและยังประกอบดวยเน้ือหาใน เรื่องของประกันสังคม สวัสดิการตางๆ ท่ีกลาวถึงสิทธิประโยชนของพนักงานท่ีพึงไดรับ รวมทั้ง จรรยาบรรณในการปฎิบัตงิ านของพนกั งาน ดังนั้นจึงหวังวาพนักงานทุกคนจะยึดถือและใชคูมือพนักงานน้ีเปนแนวทางในการปฎิบัติใหเกิด คณุ ประโยชนแ ละถูกตอง เหมาะสมกับการปฎิบัตงิ านตอ ไป ( นายสมรัฐ เทพนวล) ผูจ ัดการสายงานทรพั ยากรมนษุ ย 1
สาขา และบรษิ ัทในเครือ บริษทั ศรตี รงั โกลฟส (ประเทศไทย) จาํ กดั (มหาชน) บรษิ ทั ศรีตรังโกลฟส (ประเทศไทย) จํากดั (มหาชน) 110 ถ.กาญจนวนชิ ต.พะตง อ.หาดใหญ จ.สงขลา 90230 STGT-HY Sri Trang Gloves (Thailand) Public Company Limited 110 Kanjanavanit Road, Tambon Phatong, Amphoe Hat Yai, SONGKHLA 90230, Thailand บริษัท ศรตี รงั โกลฟส (ประเทศไทย) จาํ กัด (มหาชน) สาขาสรุ าษฎรธานี 189 ม.7 ต.พลายวาส อ.กาญจนดษิ ฐ จ.สรุ าษฎรธ านี 84160 STGT-SR Sri Trang Gloves (Thailand) Public Company Limited (Surat thani Branch) 189 Moo 7, Tambon Phlai Wat, Amphoe Kanchanadit, SURAT THANI 84160, Thailand บรษิ ัท ศรตี รังโกลฟส (ประเทศไทย) จํากดั (มหาชน) สาขาตรัง 85 ม.6 ต.ควนธานี อ.กันตงั จ.ตรัง 92110\" STGT-TG Sri Trang Gloves (Thailand) Public Company Limited (Trang Branch) 85 Moo 6, Tambon Khuan Thani, Amphoe Kantang, TRANG 92110, Thailand บริษัท ศรีตรงั โกลฟส (ประเทศไทย) จํากดั (มหาชน) สาขาสะเดา พี.เอส. 207/1 ถนนปาดังเบซาร ตาํ บลสะเดา อาํ เภอสะเดา จังหวดั สงขลา 90120 STGT-PS Sri Trang Gloves (Thailand) Public Company Limited (Sadao P.S. Branch) 207/1, Padang Besa Road, Tambon Sadao, Amphoe Sadao, SONGKHLA 90120, Thailand บริษทั ศรีตรังโกลฟส (ประเทศไทย) จาํ กดั (มหาชน) สาขาอนั วาร 88/8 หมู 3 ตาํ บลสาํ นกั ขาม อาํ เภอสะเดา จังหวัดสงขลา 90120 STGT-ANV Sri Trang Gloves (Thailand) Public Company Limited (ANVAR Branch) 88/8 Moo 3, Padang Besa Road, Tambon Samnak Kham, Amphoe Sadao, SONGKHLA 90120, Thailand บรษิ ทั ศรตี รงั โกลฟส (ประเทศไทย) จํากดั (มหาชน) สาขาชุมพร 88/8 ม.11 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร 86210 STGT-CP Sri Trang Gloves (Thailand) Public Company Limited (Chumphon Branch) 88/8 Moo 11, Tambon Khao Chai Rat, Amphoe Pathio, CHUMPHON 86210, Thailand บริษทั พรเี มยี รซสิ เตม็ เอ็นจิเนียรงิ่ จํากดั 123 หมู 8 ถ.กาญจนวนชิ ต.บา นพรุ อ.หาดใหญ จ.สงขลา 90250 PSE Premier System Engineering Company Limited 123 Moo 8, Kanjanavanit Road, Tambon Ban Phru, Amphoe Hat Yai, SONGKHLA 90250, Thailand 2
จรรยาบรรณการประกอบธรุ กจิ องคก ร 1. จรรยาบรรณวาดว ยความรบั ผดิ ชอบตอ ผูถอื หนุ บริษัท ศรีตรงั โกลฟส (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) STGT มุงม่นั ที่จะรับผดิ ชอบ และสรางความพึงพอใจสูงสดุ ใหก ับผูถ ือหนุ โดยคํานึงถึงการเจริญเติบโต ของ STGT อยางย่ังยืนและใหผลตอบแทนที่เหมาะสมอยางตอเนื่องรวมทั้งจะดําเนินการอยางโปรงใส มี ระบบบัญชีที่เช่ือถือได และเพ่ือใหเปนไปตามหลักการดังกลาว STGT จึงยึดถือแนวทางปฎิบัติอยาง เครง ครัด ดังนี้ 1.1 การเจริญเตบิ โตของ STGT อยางยั่งยนื • ปฎิบัตหิ นา ท่ีดวยความซ่ือสตั ยสจุ รติ และเปน ธรรมตอ ผูถอื หนุ ทกุ รายเพื่อประโยชนสูงสุดโดยรวม • บริหารจัดการ STGT โดยนําความรู และทักษะการบริหารมาประยุกตใชอยางเต็มกําลัง ความสามารถทุกกรณี รวมท้ังการตัดสินใจดําเนินการใดๆ จะกระทําดวยความระมัดระวังและ รอบครอบ • ไมด ําเนินการใดๆ ลกั ษณะทอี่ าจกอใหเ กดิ ความขัดแยง ทางผลประโยชนต อ STGT 1.2 การเจริญเตบิ โตของ STGT อยา งยง่ั ยืน • รายงานสถานภาพและแนวโนมในอนาคต STGT ตอผูถือหุนอยางเทาเทียมกัน สมํ่าเสมอ และ ครบถวนตามความเปน จริง • ไมแสวงหาผลประโยชนใหกับตนเองและผูเกี่ยวของโดยใชขอมูลใดๆ ของ STGT ซ่ึงไมได เปด เผยตอสาธารณะ • ไมเปดเผยขอมลู ลับอนั จะนํามาซึ่งผลเสียของ STGT ตอบุคคลภายนอก 2. จรรยาบรรณวา ดว ยความสัมพันธก บั ลูกคา และประชาชน STGT มีความมุงมั่นในการสรางความพึงพอใจและความม่ันใจใหกับลูกคาและประชาชน ที่จะ ไดร ับผลิตภัณฑและบรกิ ารท่ดี ี มีคณุ ภาพ ในระดับราคาทเี่ หมาะสม รวมทงั้ รกั ษาสัมพันธภาพที่ดีและยั่งยืน จึงไดกาํ หนดแนวทางปฎบิ ตั ิไวดงั ตอไปนี้ 2.1 มุงม่ันในการสรางความพึงพอใจและความม่ันใจใหกับลูกคาใหไดรับผลิตภัณฑและบริการท่ีดีมี คุณภาพในระดับราคา ทีเ่ หมาะสมโดยยกระดับมาตรฐานใหส ูงขึ้นอยางตอเนอ่ื งและจรงิ จัง 2.2 เปด เผยขาวสารขอมูลเกี่ยวกับสินคาและบริการอยางครบถวน ถูกตอง ทันตอ เหตุการณ และ ไมบ ิดเบอื นขอเทจ็ จรงิ รวมทั้งรักษาสมั พันธภาพทดี่ ีและยัง่ ยนื 3
2.3 ใหก ารรับประกันสินคาและบริการภายใตเงือ่ นไขเวลาที่เหมาะสม 2.4 จดั ระบบเพ่ือใหล กู คา และประชาชนสามารถเรียกรอ งเกี่ยวกับสินคา และบรกิ ารและดาํ เนนิ การ อยางดี ที่สุดเพอ่ื ใหล กู คา และประชาชนไดร บั การตอบสนองอยา งรวดเรว็ 2.5 ไมคากําไรเกนิ ควรเมือ่ เปรยี บเทยี บกับคณุ ภาพสนิ คาหรือบรกิ ารในชนดิ หรือประเภทเดียวกนั และ ไมกาํ หนดเงื่อนไขการคา ทไ่ี มเ ปน ธรรมตอลูกคา 2.6 ปฎิบัติตามเงื่อนไขตางๆ ที่มีตอลูกคาและประชาชนอยางเครงครัด หากไมสามารถปฎิบัติได ตองรบี แจงใหล กู คา และประชาชนทราบลว งหนา เพอื่ รวมกันพจิ ารณาแนวทางแกไ ข 2.7 รกั ษาความลับของลกุ คา อยา งจริงจงั และสมํา่ เสมอ รวมถึงไมนําขอมลู มาใช 3. จรรยาบรรณวาดวยความสมั พนั ธกบั คูคา คูแขง ทางการคาและเจาหนาหนที้ างการคา STGT คํานงึ ถึงความเสมอภาค และความซือ่ สตั ยใ นการดาํ เนินธุรกิจและผลประโยชนรวมกันกับ คูคา โดยคคู าของ STGT พึงปฎิบตั ิตามกฎหมายและกติกาตางๆ อยา งเครง ครดั และมีจรรยาบรรณท่ีดีใน การดําเนินธุรกิจในสวนของธุรกิจที่เปนการแขงขัน STGT จะยึดถือกติกาของการแขงขันท่ีดี และ STGT จะยึดถอื แนวทางปฎิบตั ทิ ีด่ ี และเปนธรรมในการกูยืมเงินจากเจาหนี้และชําระคืน ดังนั้น เพื่อใหเปนไปตาม หลกั การดังกลาว STGT จงึ ไดกาํ หนดแนวทางปฎบิ ัติไวดงั ตอไปนี้ 3.1 ความสมั พันธกบั คคู า • ไมเ รียก ไมรับ หรอื จา ยผลประโยชนใ ดๆ ที่ไมสจุ ริตในการคา กับคูค า • ปฎบิ ตั ติ ามเงือ่ นไขตางๆ ท่ีมตี อคคู าอยางเครงครัด • กรณีท่ีไมสามารถปฎิบัติตามเงื่อนไขได จะรีบแจงใหคูคาทราบลวงหนาเพื่อรวมกันพิจารณาหา แนวทางแกไขปญ หา โดยใชห ลกั ของความสมเหตสุ มผล 3.2 ความสมั พันธกบั คูแ ขง ทางการคา • ประพฤติปฎิบตั ติ ามกรอบกติกาของการแขง ขันท่ีดี • ไมพยายามทาํ ลายเชือ่ เสียงของคูแ ขงทางการคาดว ยการกลาวหาใหรา ยโดยปราศจากความจรงิ 3.3 ความสมั พันธกับเจาหนท้ี างการคา • รกั ษาและปฎิบตั ิตามเง่อื นไขที่มีตอเจาหนี้โดยเครงครดั ทง้ั ในแงก ารชําระคนื การดแู หลักทรพั ย คา้ํ ประกันและเง่ือนไขอืน่ ๆ รวมทัง้ ไมใชเ งินทุนทีไ่ ดจ ากการกูย ืมเงินไปให ทางทขี่ ัดกบั วัตถุ ประสงคใ นขอตกลงท่กี าํ กับผูใหกูย ืมเงนิ • รายงานฐานะทางการเงินของ STGT แกเจาหนีด้ ว ยความซื่อสัตย • รายงานเจาหนี้ลวงหนาหากไมสามารถปฎิบัติตามขอผูกพันในสัญญา และรวมกันหาแนว ทางแกไ ขปญหาดังกลา ว 4
4. จรรยาบรรณวาดว ยความรบั ผดิ ชอบตอพนกั งาน STGT ถอื วาพนักงานเปนปจจัยหน่ึงสูความสําเร็จ จึงมุงม่ันในการพัฒนาเสริมสรางวัฒนธรรม และบรรยากาศการทํางานที่ดี สงเสริมการทํางานเปนทีมเพื่อสรางความมั่นใจใหพนักงานจึงกําหนด แนวทางปฎบิ ัติไวดังนี้ 4.1 ใหผ ลตอบแทนที่เปนธรรมแกพ นกั งาน ในรูปแบบของเงินเดอื น เงนิ ขยันและ/หรือ เงนิ โบนัส 4.2 ดแู ลรกั ษาสภาพแวดลอ มในการทาํ งานใหมีความปลอดภัยตอชวี ิตและทรพั ยส ินของพนักงานอยู เสมอ 4.3 การแตงต้งั และโยกยา ย รวมถงึ การใหรางวัลและการลงโทษพนกั งานตอ งกระทาํ ดวยความ เสมอภาค สจุ รติ ใจ และตงั้ อยูบนพ้ืนฐานของความรู ความสามารถ และความเหมาะสม รวมทั้งการ กระทํา หรือการปฎิบตั ิของพนกั งานนนั้ ๆ 4.4 ใหค วามสาํ คญั ตอการพฒั นา การถา ยทอดความรู และความสามารถของพนักงานโดยใหโ อกาส พนกั งานอยางทั่วถงึ และสมํ่าเสมอ 4.5 รับฟง ขอ คดิ เหน็ และขอ เสนอแนะจากพนกั งานทุกระดบั อยา งเทาเทยี มและเสมอภาค 4.6 ปฎิบตั ติ ามกฎหมายและขอบงั คบั ตางๆ ทเ่ี กยี่ วกบั พนักงานอยา งเครง ครดั 4.7 บรหิ ารงานโดยหลีกเลีย่ งการกระทาํ ใดๆ ท่ไี มเ ปน ธรรมซงึ่ อาจมีผลกระทบตอ ความมัน่ คงในหนา ท่ี การงานของพนกั งาน 4.8 ปฎิบัติตอ พนกั งานดว ยความสุภาพและใหค วามเคารพตอความเปนปจเจกชนและศกั ศรีของมนุษย 4.9 มชี องทางใหพ นักงานสามารถแจง เรอื่ งท่สี อ ไปในทางผดิ ระเบยี บหรอื กฎหมายได 5.จรรยาบรรณวาดว ยความรับผดิ ชอบตอ สังคมและส่ิงแวดลอม STGT ตระหนักและหวงใยถึงความปลอดภัยของสังคมส่ิงแวดลอมและคุณภาพชีวิตของ ประชาชนรวมถึงใหความสําคญั ในเร่อื งการอนุรกั ษท รัพยากรธรรมชาติ และสงเสริมการใชพลังงานอยางมี ประสิทธิภาพ จึงกําหนดแนวทางการปฎิบตั ิไวด งั นี้ 5.1 STGT จะคํานึงถงึ ทางเลือกในการใชประโยชนจ ากทรพั ยากรธรรมชาตโิ ดยมผี ลกระทบตอความ เสียหายของสังคม สง่ิ แวดลอ ม และคุณภาพชวี ติ ของประชาชนนอยที่สุด 5.2 คนื กําไรสว นหน่งึ เพอ่ื กจิ กรรมทจ่ี ะมสี วนสรางสรรคสังคมและส่งิ แวดลอมอยา งสม่ําเสมอ 5.3 ปลูกฝง จิตสํานกึ ในเรือ่ งความรับผิดชอบตอสงั คม และสิ่งแวดลอมใหเกดิ ขึ้นในหมูพนักงานทกุ ระดับ อยา งตอ เนอื่ ง 5.4 ใหค วามสาํ คัญในการทําธุรกรรมกบั คคู า ท่มี เี จตจํานงเดียวกันกับ STGT ในเรื่องความรับผิดชอบ ตอสงั คมและสิง่ แวดลอ ม 5
5.5 เปน ผูนําในการสงเสริมการใชและการอนุรักษพลังงานอยางมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชนตอชน รุนหลัง 5.6 ปฎบิ ัตแิ ละใหค วามรว มมือหรือควบคมุ ใหมีการปฎบิ ัติอยางเครงครดั ตามเจตนารมณของกฎหมาย และกฎระเบยี บทีอ่ อกโดยหนว ยกํากบั ดแู ล 5.7 STGT ถอื เปน หนา ท่ีและนโยบายหลักในการใหความสําคัญกับกิจกรรมของชุมชนและสังคม โดย มุงเนนใหเกิดการพัฒนาสังคม ชุมชน ส่ิงแวดลอม มุงสรางสรรค และอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ รวมทง้ั สนับสนนุ การศกึ ษาแกเยาวชน และสนับสนุนกจิ กรรมสาธารณประโยชนแกชุมชนท่ีดอยโอกาส ใหเ ปน ชุมชนทเี่ ขมแข็ง พง่ึ พาตวั เองได 5.8 STGT เปนบรษิ ัททย่ี ึดม่นั ในระบอบประชาธิปไตยและสงเสริมใหบ ุคลากรไปใชส ทิ ธิเลอื กตงั้ ตาม รัฐธรรมนญู ท้ังนี้ STGT ไมม ีนโยบายท่ีจะใหก ารสนับสนุนทางการเงิน ไมว า โดยตรงหรอื ทางออ มแก นักการเมอื งหรอื พรรคการเมืองใดๆ เพอ่ื ผลประโยชนของนักการเมอื งหรือพรรคการเมืองนัน้ 6
กฎหมายท่ีเกย่ี วของกบั การบรหิ ารทรัพยากรมนุษย • พระราชบญั ญตั คิ มุ ครองแรงงาน (ฉบับท่ี 7) ป พ.ศ.2562 • พระราชบญั ญัตปิ ระกนั สังคม พ.ศ.2558 • พระราชบญั ญัตปิ ระกนั สงั คม (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ.2558 • พระราชบัญญตั ิประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย (มาตรา 575-586) • พระราชบัญญตั สิ ง เสริมการพัฒนาฝมอื แรงงาน (ฉบบั ท่ี 2) ป พ.ศ.2557 • พระราชบญั ญตั ิกองทนุ สํารองเล้ยี งชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 • พระราชบญั ญัติจดั ตั้งศาลแรงงานและวธิ พี ิจารณาคดแี รงงาน พ.ศ.2522 • พระราชบัญญตั กิ ารฟน ฟูสมรรถภาพคนพกิ าร พ.ศ.2534 • พระราชบญั ญตั ิทะเบยี นตา งดาว (ฉบบั ท3่ี ) พ.ศ.2497 • พระราชบญั ญตั ิการทาํ งานของคนตางดา ว พ.ศ.2521 7
ภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา ภาษเี งนิ ไดบ ุคคลธรรมดา คือ ภาษที ีจ่ ดั เกบ็ จากบคุ คลทั่วไป หรือจากหนวยภาษีทีม่ ีลักษณะพเิ ศษ ตามที่กฎหมายกําหนดและมรี ายไดเ กดิ ข้นึ ตามเกณฑท ก่ี าํ หนด โดยปกตจิ ัดเก็บเปนรายป รายไดที่เกิดขึ้นใน ปใดๆผูมีรายไดมีหนาที่ตองนําไปแสดงรายการตนเองตามแบบแสดงรายการภาษีท่ีกําหนดภายในเดือน มกราคมถึงมนี าคมของปถ ดั ไป สาํ หรบั ผูมเี งินไดบ างกรณีกฎหมายยังกําหนดใหยื่นแบบฯ เสียภาษีตอนครึ่ง ป สําหรับรายได ที่เกิดข้ึนจริงในชวงครึ่งปแรก เพื่อเปนการบรรเทาภาระภาษีที่ตองชําระและเงินไดบาง กรณี กฎหมายกําหนดให ผูจายทําหนาที่หักภาษี ณ ท่ีจายจากเงินไดที่จายบางสวน เพ่ือใหมีการทยอย ชาํ ระภาษีขณะที่มีเงนิ ไดเกดิ ขึ้นอกี ดว ย ผมู ีหนา ทีเ่ สยี ภาษเี งินไดบ คุ คลธรรมดา ไดแก ผูทีม่ ีเงินไดเ กิดขนึ้ ระหวา งปท ผี่ า นมาโดยมีสถานะ อยางหน่ึงอยางใด ดังนี้ 1) บุคคลธรรมดา 2) หา งหนุ สวนสามัญหรือคณะบคุ คลท่มี ิใชนติ ิบคุ คล 3) ผูถึงแกค วามตายระหวา งปภ าษี 4) กองมรดกท่ียังไมไ ดแ บง 5) วสิ าหกจิ ชมุ ชน ตามกฎหมายวาดวยการสงเสริมวสิ าหกิจชุมชน เฉพาะทเ่ี ปนหา งหนุ สวนสามัญ หรอื คณะบคุ คลทม่ี ใิ ชน ิตบิ คุ คล ผูมหี นา ที่เสยี ภาษีตองทําอยา งไร เมือ่ มีเงนิ ไดเกิดขึ้นแลว ผมู หี นาทเ่ี สียภาษจี ะตองทําอะไรบา ง 1. ขอมเี ลข และบตั รประจําตัวผเู สยี ภาษี ภายใน 60 วัน นับแตวันที่มีเงินไดเกิดข้ึน กรณีเปนผูมี เงนิ ได ท่ีไมม เี ลขประจาํ ตัวประชาชน ไดแก เปนคนตางดาว หรือกองมรดกที่ยังไมไดแบงเวนแต ผูมีเงินได ที่มเี ลขประจาํ ตวั ประชาชน สามารถใชเลขประจําตัวประชาชนแทนเลขประจําตัวผูเสียภาษีอากรได โดยไม ตองขอมีเลขประจําตัวผูเสียภาษีอากรอีก ผูมีเงินไดที่มีภูมิลําเนาอยูในกรุงเทพมหานครอาจย่ืนคํารอง ณ สาํ นกั งานสรรพากรพื้นท่ี กรงุ เทพมหานคร ท้งั 30 แหง หรอื สํานกั สรรพากรพ้ืนท่ี สาขา(อําเภอ)ทุกแหง สําหรับในตางจงั หวัด ยน่ื คาํ ขอไดท ่ีสํานักงานสรรพากร พนื้ ท่(ี จงั หวัด) และสาํ นักงานสรรพากร พื้นท่ีสาขา (อําเภอ) ทุกแหง แลว แตก รณี 2. ยื่นแบบแสดงรายการ ปกติปละ 1 ครั้ง เงินได ของปใด ก็ยื่นแบบฯ ภายใน วันท่ี 31 มีนาคมของปถัดไป เวนแต เงินไดบางลักษณะ เชน การใหเชา ทรัพยสิน เงินไดจาก วิชาชีพอิสระ เงินได จากการรับเหมา เงินไดจากธุรกิจ การพาณิชย เปนตน จะตอง ยื่นแบบฯ ตอนกลางป สําหรับเงินได ที่ เกดิ ขนึ้ ใน 6 เดือนแรก ภายใน เดือนกนั ยายน ของทกุ ป 8
ตามกฎหมาย เงินไดท่ตี องเสียภาษเี งินไดบ คุ คลธรรมดา เรยี กวา \"เงนิ ไดพงึ ประเมนิ \" หมายถงึ เงนิ ไดของบุคคลใดๆ หรือหนว ยภาษใี ดขา งตน ทีเ่ กิดขึน้ ระหวางวนั ท่ี 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม ของปใ ดๆ หรือเงนิ ได ท่ีเกดิ ขนึ้ ในปภาษี ไดแก 1. เงนิ 2. ทรัพยส ินซึ่งอาจคิดคาํ นวณไดเ ปน เงนิ ที่ไดรบั จรงิ ที่ไดรับจรงิ (เกณฑเ งนิ สด) 3. ประโยชนซ ่งึ อาจคิดคํานวณไดเ ปนเงิน 4. เงนิ คาภาษอี ากรท่ผี จู ายเงนิ หรือผอู นื่ ออกแทนให 5. เครดิตภาษตี ามท่ีกฎหมายกาํ หนด ผทู ่ีมเี งินไดเกิดข้นึ ระหวา งปภ าษจี ะมีหนา ทีต่ องย่นื แบบฯ กต็ อ เมอ่ื มเี งนิ ไดถึงเกณฑข ั้นต่ําตามท่ี กฎหมายกาํ หนด ไมวาเมื่อคํานวณภาษแี ลว จะมีภาษตี อ งชําระเพิม่ เติมหรอื ไมก ต็ าม ดังนี้ เกณฑเ งนิ ไดพ งึ ประเมนิ ขน้ั ตํ่าทผ่ี ูม เี งนิ ไดตองยนื่ แบบแสดงรายการภาษี (1) บุคคลธรรมดาและผูถึงแกค วามตาย มเี งินไดพ งึ ประเมนิ ดังนี้ ประเภทเงินได โสด สมรส เงินเดือนเพยี งอยางเดียว 120,000 220,000 เงนิ ไดประเภทอืน่ 60,000 120,000 (2) หา งหนุ สว นสามัญที่มใิ ชนิตบิ ุคคล หรือคณะบคุ คลที่ไมใ ชน ิตบิ ุคคล มเี งินไดพงึ ประเมินเกนิ 60,000 บาท (3) กองมรดกทย่ี ังไมไ ดแ บง มีเงนิ ไดพงึ ประเมินเกนิ 60,000 บาท ประเภทเงินรายไดท ต่ี องเสยี ภาษี เน่ืองจากผมู เี งินไดป ระกอบอาชีพแตกตางกนั มีความยากงายหรือตนทุนทแี่ ตกตางกัน เพ่ือความ เปน ธรรม ในกฎหมายจึงไดแบงลักษณะเงนิ ได(พงึ ประเมิน) ออกเปน กลมุ ๆ ตามความเหมาะสมเพอ่ื กาํ หนด วธิ คี าํ นวณภาษใี หเ กิดความเปน ธรรมมากทสี่ ดุ ดงั น้ี 1. เงนิ ไดป ระเภทท่ี 1 ไดแก เงินไดเน่ืองจากการจา งแรงงาน ไมว า จะเปน - เงนิ เดอื น คาจาง เบย้ี เล้ียง โบนัส เบ้ยี หวดั บาํ เหนจ็ บํานาญ - เงนิ คา เชาบา นทไ่ี ดรับจากนายจาง - เงินทีค่ าํ นวณไดจ ากมูลคาของการไดอยูบาน ซึ่งนายจา งใหอยโู ดยไมเ สยี คา เชา - เงินทีน่ ายจางจายชาํ ระหนี้ใด ๆ ซงึ่ ลูกจา งมหี นา ทีต่ อ งชาํ ระ - เงิน ทรพั ยส ิน หรือประโยชนใด ๆ บรรดาท่ไี ดเ นื่องจากการจางแรงงาน เชน มลู คาของการไดรับ ประทานอาหาร เปนตน 9
2. เงนิ ไดประเภทท่ี 2 ไดแ ก เงินไดเ นอื่ งจากหนา ทห่ี รือตาํ แหนง งานทท่ี ํา หรอื จากการรบั ทาํ งานให ไมวา จะเปน - คาธรรมเนยี ม คานายหนา คา สวนลด - เงินอุดหนุนในงานทที่ าํ เบีย้ ประชุม บําเหน็จ โบนัส - เงินคา เชาบานทไ่ี ดร บั เนื่องจากหนา ทีห่ รือตําแหนง งานทที่ ํา หรือจากการรบั ทาํ งานให - เงนิ ที่คาํ นวณไดจ ากมูลคา ของการไดอยูบา น ทผี่ ูจา ยเงนิ ไดใหอ ยโู ดยไมเ สียคา เชา - เงนิ ที่ผูจ า ยเงนิ ไดจา ยชาํ ระหนใี้ ด ๆ ซึ่งผูมีเงินไดมีหนา ที่ตองชาํ ระ - เงิน ทรพั ยสิน หรอื ประโยชนใด ๆ บรรดาทีไ่ ดเนอื่ งจากหนาที่หรอื ตําแหนง งานทีท่ าํ หรอื จากการรบั ทาํ งานใหน ้ัน ไมวาหนา ทห่ี รือตําแหนง งาน หรืองานทร่ี ับทาํ ใหนน้ั จะเปน การประจําหรือชว่ั คราว 3. เงินไดป ระเภทที่ 3 ไดแ ก คา แหง กดู วิลล คาแหงลขิ สทิ ธ์หิ รือสทิ ธิอยา งอ่นื เงินป หรอื เงินไดท ่ีมี ลกั ษณะ เปนเงินรายปอนั ไดม าจากพนิ ยั กรรม นิตกิ รรมอยา งอืน่ หรอื คําพพิ ากษาของศาล 4. เงนิ ไดประเภทท่ี 4 ไดแ ก ดอกเบ้ีย เงินปนผล เงนิ สวนแบงกําไร เงินลดทนุ เงินเพม่ิ ทนุ ผลประโยชนท่ีไดจ ากการโอนหนุ ฯลฯ เปนตน (ก) ดอกเบ้ยี พนั ธบตั ร ดอกเบย้ี เงินฝาก ดอกเบีย้ หุน กู ดอกเบ้ียตัว๋ เงิน ดอกเบยี้ เงนิ กยู มื ไมวา จะมี หลักประกนั หรือไม ดอกเบี้ยเงนิ กยู มื ทอี่ ยใู นบังคบั ตอ งถูกหักภาษไี ว ณ ทจ่ี ายตามกฎหมายวาดว ยภาษีเงิน ไดป โ ตรเลยี มเฉพาะสว นทเ่ี หลอื จากถูกหกั ภาษไี ว ณ ที่จา ยตามกฎหมายดังกลา ว หรือผลตา งระหวางราคา ไถถอน กับราคาจาํ หนายตัว๋ เงนิ หรอื ตราสารแสดงสทิ ธใิ นหน้ีท่บี ริษทั หรอื หา งหุน สว นนิตบิ ุคคล หรอื นติ ิ บุคคลอื่น เปนผอู อกและจาํ หนายครงั้ แรกในราคาตํา่ กวา ราคาไถถอน รวมทงั้ เงินไดท ่ีมีลกั ษณะทํานอง เดยี วกันกบั ดอกเบ้ีย ผลประโยชนหรือคา ตอบแทนอน่ื ๆ ท่ไี ดจากการใหก ูยืมหรือจากสิทธเิ รียกรองในหนที้ กุ ชนดิ ไมว าจะมีหลกั ประกันหรอื ไมกต็ าม (ข) เงนิ ปนผล เงนิ สว นแบง ของกําไร หรือประโยชนอ นื่ ใดทไ่ี ดจากบริษัทหรือหา งหนุ สว นนติ ิบุคคล กองทุนรวม หรือสถาบนั การเงนิ ท่ีมีกฎหมายไทยใหจ ดั ตั้งขน้ึ โดยเฉพาะสาํ หรบั ใหก ยู มื เงิน ฯลฯ (ค) เงินโบนัสทีจ่ ายแกผถู อื หุน หรือผเู ปนหุนสว นในบรษิ ัทหรอื หา งหนุ สว นนิติบุคคล (ง) เงินลดทุนของบรษิ ัทหรือหา งหนุ สว นนติ บิ ุคคลเฉพาะสว นทีจ่ ายไมเกนิ กวากําไรและเงนิ ทีก่ ันไว รวมกัน (จ) เงินเพมิ่ ทนุ ของบริษทั หรือหางหุนสวนนติ ิบคุ คลซึง่ ตงั้ จากกําไรท่ีไดม าหรอื รับชว งกันไวรวมกนั (ฉ) ผลประโยชนท ไี่ ดจากการทีบ่ รษิ ัทหรอื หางหุน สว นนติ ิบคุ คลควบเขากันหรือรับชวงกันหรือ เลิกกัน ซ่งึ ตีราคาเปน เงนิ ไดเ กนิ กวา เงนิ ทุน (ช) ผลประโยชนทไ่ี ดจากการโอนการเปนหุน สว นหรอื โอนหนุ หนุ กู พันธบตั ร หรือตั๋วเงนิ หรอื ตรา สารแสดงสทิ ธใิ นหนี้ ท่ีบรษิ ทั หรือหา งหนุ สวนนิติบุคคล หรือนติ ิบคุ คลอน่ื เปน ผูออก ทัง้ นเ้ี ฉพาะซึ่งตรี าคา เปนเงินไดเ กินกวาทีล่ งทนุ เงนิ ไดป ระเภทท่ี 4 ในหลาย ๆ กรณี กฎหมายใหส ทิ ธิที่จะเลอื กเสยี ภาษโี ดยวิธีหักภาษี ณ ทจ่ี าย แทนการนาํ ไปรวมคาํ นวณกับเงนิ ไดอ น่ื ตามหลักทัว่ ไป ซงึ่ จะทําใหผ ูม เี งินไดท ีต่ องเสยี ภาษีตามบัญชอี ัตรา ภาษี ในอัตราที่สงู กวา อัตราภาษี หัก ณ ทจี่ าย สามารถประหยัดภาษไี ด 5. เงนิ ไดป ระเภทที่ 5 เงนิ ไดจ ากการใหเ ชา ทรัพยสนิ เงนิ หรือประโยชนอยางอืน่ ที่ไดเนอื่ งจาก - การใหเชาทรัพยสนิ 10
- การผิดสัญญาเชาซอ้ื ทรพั ยสนิ - การผิดสญั ญาซ้อื ขายเงินผอ นซึง่ ผขู ายไดรบั คนื ทรัพยส ินทซี่ ื้อขายนั้นโดยไมตองคืนเงนิ หรือประโยชนที่ ไดร บั ไวแ ลว 6. เงินไดป ระเภทที่ 6 ไดแ ก เงนิ ไดจ ากวชิ าชพี อสิ ระ คอื วิชากฎหมาย การประกอบโรคศลิ ป วศิ วกรรม สถาปต ยกรรม การบญั ชี ประณีตศิลปกรรม หรือวิชาชพี อื่นซึ่งจะไดมีพระราชกฤษฎีกากาํ หนดชนดิ ไว 7. เงินไดประเภทที่ 7 ไดแ ก เงินไดจ ากการรับเหมาทผ่ี รู ับเหมาตองลงทุนดวยการจัดหาสัมภาระ ในสว น สาํ คญั นอกจากเคร่ืองมือ 8. เงนิ ไดประเภทท่ี 8 ไดแก เงินไดจากการธุรกจิ การพาณิชย การเกษตร การอตุ สาหกรรม การขนสง การขายอสังหาริมทรพั ย หรือการอืน่ นอกจากท่รี ะบุไวใ นประเภทท่ี 1 ถงึ ประเภทที่ 7 แลว ผมู เี งินไดม ีหนาท่ีตอ งย่ืนแบบแสดงรายการภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดาดงั แบบแสดงรายการท่ใี ชมี ดังตอ ไปน้ี ชื่อแบบ ใชย่ืนกรณี กาํ หนดเวลายื่น ภ.ง.ด. 90 มีเงนิ ไดพึงประเมนิ ทุกประเภท มกราคม - มนี าคม ของปภ าษถี ดั ไป ภ.ง.ด. 91 มเี ฉพาะเงนิ ไดพงึ ประเมนิ ประเภทท่ี 1ม.40(1) มกราคม - มนี าคม ของปภาษถี ดั ไป ภ.ง.ด. 93 ประเภทเดียว กอนถงึ กําหนดเวลาการยืน่ แบบ ภ.ง.ด. 94 มีเงนิ ไดข อชําระภาษีลว งหนา ตามปกติ กรกฎาคม - กันยายน ของปภ าษนี ้นั ย่ืนครึ่งปสําหรับผมู เี งนิ ไดพงึ ประเมนิ เฉพาะ ประเภทท่ี 5,6,7 และ 8 การยนื่ แบบแสดงรายการภาษีเงนิ ไดบ ุคคลธรรมดา มี 2 ระยะ คือ 1. \"ภาษีเงนิ ไดบ ุคคลธรรมดาคร่งึ ป\" เปนการย่ืนแบบแสดงรายการเงนิ ไดเ ฉพาะเงินไดพ งึ ประเมนิ ประเภทท่ี 5,6,7 หรือ 8 ทีไ่ ดร บั ตงั้ แตเดือนมกราคมถึงเดอื นมิถุนายนไมวาจะมเี งนิ ไดประเภทอืน่ รวมอยู ดว ยหรือไมก ็ตาม โดยยื่นภายในเดือนกันยายนของปภาษนี ้ัน และภาษีท่เี สียนน้ี ําไปเปนเครดิตหกั ออกจาก ภาษสี นิ้ ปได 2. \"ภาษเี งินไดบ คุ คลธรรมดาสน้ิ ป\" เปน การยน่ื แบบแสดงรายการเงนิ ไดพงึ ประเมนิ ทีไ่ ดร บั แลว ในระหวางปภาษี โดยยื่นภายในเดอื นมนี าคมของปถัดไป 11
กรณีไมชาํ ระภาษภี ายในกาํ หนดเวลา 1.จะตองเสียเงนิ เพ่ิมรอ ยละ 1.5 ตอเดือน (เศษของเดือนใหนับเปน 1 เดอื น) ของเงนิ ภาษีท่ีตอง ชําระนั้น นบั แตวนั พน กาํ หนดเวลาการย่นื รายการจนถึงวนั ชาํ ระภาษี 2. กรณีเจาพนกั งานตรวจสอบออกหมายเรยี ก และปรากฏวา มิไดยนื่ แบบแสดงรายการไวหรอื ยนื่ แบบแสดงรายการไว แตชําระภาษขี าดหรอื ต่าํ ไป นอกจากจะตองรับผิดชําระเงินเพิ่มตามขอ 1 แลว ยัง จะตอ งรบั ผิดเสียเบ้ยี ปรบั อีก 1 เทา หรอื 2 เทาของเงินภาษที ีต่ องชําระแลว แตก รณี เงนิ เบยี้ ปรบั ดงั กลา ว อาจลดหรืองดไดตามระเบียบทีอ่ ธิบดีกําหนดโดยอนุมตั ริ ัฐมนตรี 3. กรณไี มย่ืนแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90, 91 หรือ 94 ภายในกาํ หนดเวลา ตอ งระวางโทษ ปรับทางอาญาไมเ กิน 2,000 บาท 4. กรณจี งใจ แจง ขอความเท็จ หรือแสดงหลักฐานเท็จหรอื ฉอ โกง เพือ่ หลีกเลี่ยงหรอื พยายาม หลีกเล่ียงการเสียภาษีอากร มีโทษจําคุกต้ังแต 3 เดือนถึง 7 ป และปรับตั้งแต 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท 5. กรณเี จตนาละเลยไมย ่ืนแบบแสดงรายการเพ่อื หลีกเล่ียงการเสียภาษอี ากร มีโทษปรับไมเ กิน 200,000 บาท หรือจาํ คุกไมเ กิน 1 ป หรือทง้ั จําทง้ั ปรบั อัตราภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดา เมือ่ ไดย อดเงนิ ไดส ทุ ธแิ ลว นาํ ไปคาํ นวณภาษี ตามอตั ราภาษี ดงั นี้ อตั ราภาษเี งินไดบุคคลธรรมดา รายไดส ุทธิตอป ฐานภาษเี งนิ ได ไมเกนิ 150,000 บาท ยกเวน ภาษี 150,001-300,000 บาท 5% 300,001-500,000 บาท 10% 500,001-750,000 บาท 15% 750,001-1,000,000 บาท 20% 1,000,001-2,000,000 บาท 25% 2,000,001-5,000,000 บาท 30% 5,000,001 บาทข้นึ ไป 35% 1. ถามีภาษที ่ีตองชาํ ระจํานวนต้ังแต 3,000 บาทข้ึนไป ท้ังภาษีคร่ึงปและภาษีส้ินป ผูเสียภาษีมี สิทธิ ขอผอนชําระภาษีไดเปน 3 งวดเทา ๆ กัน โดยไมตองเสียเงินเพ่ิมใดๆ ผูเสียภาษีอาจติดตอขอผอน ชาํ ระไดท ี่ สาํ นักงานสรรพากรพน้ื ท่สี าขาโดยใชแ บบบ.ช. 35 จาํ นวน 1 ชุด 3 แผน ขอความเหมอื นกันดงั น้ี 12
งวดที่ 1 ชาํ ระพรอมกบั การยนื่ แบบแสดงรายการภายในวันท่ี 30 กันยายน หรอื วันท่ี 31 มนี าคม งวดท่ี 2 ชําระภายใน 1 เดือนนบั แตว ันทตี่ อ งชาํ ระงวดท่ี 1 งวดที่ 3 ชําระภายใน 1 เดือนนับแตว นั ทต่ี อ งชําระงวดท่ี 2 ถาภาษีงวดใดงวดหนึ่งมิไดชําระภายในกําหนดเวลาดงั กลา ว ผูเ สยี ภาษหี มดสทิ ธทิ ่จี ะชาํ ระภาษี เปน รายงวด และตองเสียเงนิ เพมิ่ ในอตั รารอ ยละ 1.5 ตอเดอื น หรือเศษของเดือนของเงนิ ภาษีงวดทเี่ หลือ 2. ผูม ีเงนิ ไดต ามมาตรา 40(8) แหง ประมวลรัษฎากร ท่ียื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินไดบุคคล ธรรมดา ภ.ง.ด. 90 ถามีภาษีตองชําระจํานวนนอยกวา 3,000 บาท ผูเสียภาษีมีสิทธิขอผอนชําระภาษีได เปน 6 งวด โดยไมมดี อกเบีย้ หรือเงนิ เพ่ิมใดๆ และยงั สามารถเลอื กวันที่จะชาํ ระภาษีตามสะดวกไดด ว ย ผเู สยี ภาษีสามารถตดิ ตอ ขอผอ นชําระไดที่สํานักงานสรรพากรพน้ื ท่ีสาขา โดยงวดแรกตองชาํ ระ พรอมกับย่ืนแบบแสดงรายการภายในวนั ท่ี 31 มีนาคม 13
ขอ บงั คบั เกยี่ วกบั การทาํ งาน บรษิ ทั ศรตี รังโกลฟส (ประเทศไทย) จาํ กัด (มหาชน) สํานกั งานแหงใหญ เลขท่ี 110 หมทู ี่ 8 ถนนกาญจนวนชิ ตาํ บลพะตง อาํ เภอหาดใหญ จังหวดั สงขลา 90230 โทรศัพท 074-291648 โทรสาร 074-291650 สํานักงานสาขาท่ี 1 เลขที่ 10 ซอย 10 ถนนเพชรเกษม ตาํ บลหาดใหญ อาํ เภอหาดใหญ จงั หวัดสงขลา 90110 โทรศพั ท 074-344663 โทรสาร 074-344677 สํานกั งานสาขาที่ 2 เลขท่ี 57 ยูนิต 1701,1707-1712 ปารค เวนเชอร อโี คเพลก็ ซ ชน้ั ที่ 17 ถนนวทิ ยุ แขวงลมุ พนิ ี เขตปทุมวัน กรงุ เทพมหานคร สํานกั งานสาขาที่ 3 เลขท่ี 8 หมทู ี่ 8 ถนนกาญจนวนิช ตําบลพะตง อําเภอหาดใหญ จังหวดั สงขลา 90230 โทรศัพท 074-291648 โทรสาร 074-291650 สํานกั งานสาขาท่ี 4 เลขที่ 109/2 ถนนกาญจนวนชิ ตําบลพะตง อาํ เภอหาดใหญ จงั หวดั สงขลา สํานักงานสาขาท่ี 5 เลขท่ี 352 ถนนกาญจนวนชิ ตําบลพะตง อาํ เภอหาดใหญ จงั หวดั สงขลา สาํ นักงานสาขาท่ี 6 เลขที่ 189 หมูท่ี 7 ตาํ บลพลายวาส อาํ เภอกาญจนดิษฐ จงั หวดั สรุ าษฎรธานี 84160 โทรศพั ท 077-277888 โทรสาร 077-277889 สํานักงานสาขาที่ 7 เลขท่ี 85 หมทู 6่ี ตาํ บลควนธานี อําเภอกันตรัง จงั หวัดตรัง 92110 โทรศพั ท 075-201199 โทรสาร 075-201150 สํานกั งานสาขาท่ี 8 เลขที่ 207/1 ถนนปาดังเบซาร ตาํ บลสะเดา อาํ เภอสะเดา จังหวดั สงขลา 90120 สาํ นกั งานสาขาท่ี 9 เลขท่ี 88/8 หมู 3 ตาํ บลสํานกั ขาม อาํ เภอสะเดา จังหวดั สงขลา 90120 สาํ นกั งานสาขาที่ 10 เลขที่ 88/8 ม.11 ต.เขาไชยราช อ.ปะทวิ จ.ชมุ พร 86210 เพ่อื ใหการดําเนินงานของ บริษัท ศรีตรังโกลฟส (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ในสวนที่เก่ียวของ กับการบริหารทรัพยากรมนุษย เปนไปดวยดีตามนโยบายและวัตถุประสงคที่กําหนดไว บริษัท ศรีตรัง โกลฟส (ประเทศไทย) จํากดั (มหาชน) จึงกําหนดขอ บังคบั เกย่ี วกับการทํางานของพนักงานไวด ังตอ ไปนี้ 14
ขอ 1. ขอบังคบั ฉบับนีเ้ รียกวา \"ขอบังคับเก่ียวกับการทํางาน บรษิ ทั ศรตี รังโกลฟส (ประเทศไทย) จํากดั (มหาชน)\" ขอ 2. ในขอบงั คับฉบับนี้ บริษัท หมายถึง บริษทั ศรีตรงั โกลฟส (ประเทศไทย) จาํ กดั (มหาชน) ประธานกรรมการบริหาร หมายถงึ ประธานกรรมการบรหิ ารและ กรรมการ และ กรรมการผจู ัดการ ผจู ัดการ หรอื ผูไดร บั มอบหมาย หมายถงึ ผูบ ังคับบญั ชาทุกระดบั ชน้ั ท่ีไดร ับ ใหท ําหนา ท่แี ทนผูบังคบั บัญชา มอบอาํ นาจใหด ําเนินการภายในขอบเขต ที่ไดรบั มอบหมาย พนักงาน หมายถึง บคุ คลทบ่ี ริษทั ตกลงวาจางใหทาํ งานกับบรษิ ทั และไดค า ตอบแทนจากบริษัท บรเิ วณบรษิ ัท หมายถงึ บริเวณอาคาร สํานกั งาน โรงงาน ซึ่งใชเปน สถานท่ีทาํ งาน รวมถงึ บริเวณบา นพัก และบริเวณอน่ื ซ่ึง อยูใ นขอบพนื้ ทข่ี องบรษิ ัททั้งหมดและทรพั ยสินท่เี ปน สิทธิ ของบริษัท ขอ 3. ขอ บงั คับ ระเบียบ คําส่ังหรือประกาศอื่นใดท่ีมีผลบังคับใชกอนขอบังคับฉบับน้ี ซ่ึงมิไดระบุไวใน ขอบังคับฉบับน้ี หากไมขัดหรือแยงตอขอบังคับฉบับนี้ ใหใชปฏิบัติตอไปจนกวาจะมีการ เปลี่ยนแปลงหรอื ยกเลกิ แลว แตกรณี โดยบรษิ ัทจะประกาศใหท ราบเปน กรณีไป 15
หมวดที่ 1 นโยบายการบริหารทรพั ยากรมนุษย ขอ 1. 1 บริษัทมีวัตถุประสงคหลักในการบริหารทรัพยากรมนุษยเพ่ือการสรรหา คัดเลือก พัฒนา สงเสริมและรักษาไวซ่ึงพนักงานที่มีคุณภาพ รวมถึงสงเสริมใหเกิดภาพลักษณอันดีภายใน หนวยงาน ท้ังน้ี เพอ่ื ใหการดาํ เนินงานของบรษิ ัทบรรลุเปาหมายอยางมปี ระสิทธิภาพ ขอ 1. 2 บริษัทไดกําหนดนโยบายเพ่ือเปนแนวทางในการปฏบิ ัตแิ ละบรหิ ารทรพั ยากรมนุษยไวด งั นี้ คอื 1.2.1 พนกั งานจะไดร ับการปฏิบตั อิ ยา งเปนธรรม และสมศักด์ิศรใี นฐานะเปนสวนหนึ่งของบรษิ ทั 1.2.2 การคัดเลือกบุคคลเพื่อวาจางใหดํารงตําแหนงตางๆ จะกระทําดวยความเปนธรรม โดยคํานึงถึงคุณสมบัติ คุณวุฒิการศึกษา ประสบการณ สภาพรางกายและ ขอกําหนดอ่นื ทจ่ี ําเปน แกพนกั งานในตําแหนงนนั้ ๆ 1.2.3 บริษทั จะพจิ ารณากาํ หนดคา ตอบแทนแกพ นักงานอยางเปนธรรมตามความเหมาะสม กับสภาพลกั ษณะของงาน และการปฏิบัติงานทเี่ ต็มความสามารถของพนกั งาน 1.2.4 บริษัทจะจัดใหมีการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานเปนประจําทุกปโดยให ผบู ังคับบัญชาตามสายงานเปน ผูประเมนิ ตามระเบียบและวธิ ปี ฏิบตั ทิ บ่ี รษิ ทั กําหนดไว 1.2.5 บริษัทจะดูแลสวัสดิภาพของพนักงาน และรักษาสภาพการทํางานใหเปนไปโดย ถกู ตอ งปลอดภัยและถูกสขุ ลกั ษณะ 1.2.6 บริษัทเปดโอกาสและสงเสริมใหพนักงานแสดงความคิดเห็นของตนเองไดเพื่อให พนกั งานมสี ว นรว มในการปรบั ปรงุ ประสทิ ธภิ าพในการทาํ งานของตนเองและบริษัทให ดียงิ่ ข้ึน 1.2.7 บรษิ ัทมีนโยบายสนับสนนุ การฝก อบรมและสมั มนา ซ่งึ ถอื เปนสวนสําคัญในการพัฒนา พนกั งานใหมคี ณุ ภาพย่งิ ข้นึ 1.2.8 บริษัทกําหนดขอบังคับนี้ข้ึนเพื่อใหพนักงานยึดถือและปฏิบัติตามใหเกิดความเปน ระเบียบเรียบรอย มีความสามัคคี มีสัมพันธภาพและความเขาใจอันดีซ่ึงกันและกัน รวมถงึ ใหมีความปลอดภยั และความเจรญิ กาวหนาของพนกั งาน 1.2.9 บริษัทถือวาผูบังคับบัญชาในสายงานเปนสวนหนึ่งที่สําคัญย่ิงของฝายบริหาร ซึ่งมี ความรับผิดชอบในการบริหารงานและบริหารบุคคล รวมทั้งการสงเสริม ความสัมพนั ธอ ันดีของพนักงานกบั บรษิ ทั ท้งั น้ี พนักงานทุกคนมีสว นรวมรับผิดชอบใน การรักษาไวซ ง่ึ ความสมั พันธอ นั ดดี ังกลา ว 16
หมวดท่ี 2 ประเภทพนกั งาน ขอ 2. 1 ขอ กําหนดเกีย่ วกับการจาง 2.1.1 การวา จา งบคุ คลเขาทาํ งาน จะตอ งเปนไปตามความจําเปนและความเหมาะสมของ งานตลอดจนเปนไปตามอัตรากําลังคนที่กําหนดไวเทานั้น การเพิ่มหรือลดอัตรา กําลงั คนตอ งไดรับการอนุมัตจิ ากบริษทั ทกุ ครง้ั 2.1.2 บุคคลท่ีเขาทํางานกับบริษัท ตองมีคุณวุฒิและความสามารถตรงตามที่กําหนดไว สาํ หรบั ตําแหนง นน้ั ๆ ขอ 2. 2 คณุ สมบัตพิ นกั งาน 2.2.1 อายไุ มต า่ํ กวา 18 ปบรบิ รู ณ 2.2.2 มีสุขภาพสมบูรณ ไมเปนบุคคลทุพพลภาพ จิตฟนเฟอนไมสมประกอบ ไมเปน โรคติดตอรายแรง หรือโรคสังคมรังเกียจ โดยมีใบรับรองแพทยของโรงพยาบาล รัฐบาลแสดงเปนหลักฐาน เชน วัณโรคระยะอันตราย โรคเร้ือน โรคพิษสุราเร้ือรัง โรคยาเสพยตดิ ใหโทษอยางรา ยแรง เปน ตน 2.2.3 ไมเ ปน บุคคลไรค วามสามารถ หรอื เสมือนไรค วามสามารถ 2.2.4 ไมเปน บุคคลลม ละลายหรอื มหี นส้ี ินลนพน ตัว 2.2.5 ไมเคยถูกไลอ อก หรือปลดออกจากงานเนอ่ื งจากกระทาํ ผดิ วินัย 2.2.6 มคี วามรคู วามสามารถเหมาะสมกับตําแหนง ที่รับสมัคร 2.2.7 มีความประพฤติดี ไมเคยมีการกระทําที่เส่ือมเสียช่ือเสียง หรือเคยตองโทษจําคุกใน คดีอาญา เวน แตความผิดฐานประมาท หรอื ลหุโทษ 2.2.8 มคี วามขยนั หมน่ั เพยี ร ซื่อสตั ยส จุ รติ 2.2.9 มหี ลกั ฐานการสมัครงานถกู ตอ งและครบถว นตามทบ่ี ริษทั กาํ หนด ขอ 2. 3 การตรวจสขุ ภาพ ผสู มคั รท่ไี ดรบั การคัดเลือกเขาทํางาน ตองผานการตรวจสุขภาพตามท่ีบริษัท กําหนด ถาผูสมัครไดรับการคัดเลือกเขาทํางานมีสุขภาพไมเหมาะสมกับตําแหนงงาน บริษัทมี สิทธิท่ีจะยกเลิกการจางพนักงานผนู น้ั ไดทนั ที ขอ 2. 4 พนักงานแบงออกเปน 4 ประเภทคือ 2.4.1 พนกั งานรายเดอื น 2.4.2 พนักงานรายวัน 2.4.3 พนักงานรายเหมา 2.4.4 พนกั งานตามสัญญาจางมีกาํ หนดระยะเวลาการจางแนนอน 17
ขอ 2. 5 พนักงานรายเดอื น หมายถงึ พนักงานทีบ่ ริษทั ตกลงจาง โดยกําหนดจา ยคาจางเปน รายเดอื น ขอ 2. 6 พนักงานรายวัน หมายถึง พนักงานที่บริษัทตกลงจางและกําหนดจายคาจางเปนรายวัน มีสิทธิ ไดรบั คา จา งเฉพาะวันท่ีมาทํางาน รวมถงึ วันหยุดตามประเพณี วันหยุดพักผอนประจําป วันลา ปวย วันหยุดและวันลาตาง ๆ ตามที่พระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน หรือบริษัทกําหนดให ไดรับคา จาง ขอ 2. 7 พนักงานรายเหมา หมายถึง พนักงานที่บริษัทตกลงจางใหทํางาน และกําหนดจายคาจางเปน รายเหมาตามผลงานหรือช้ินงานท่ีทําได ไดรวมคาจางในวันหยุดประจําสัปดาห วันหยุดตาม ประเพณี วันหยุดพักผอนประจําป วันลาเพ่ือการฝกอบรม วันลาปวย วันหยุดและวันลาตาง ๆ ตามท่พี ระราชบญั ญตั คิ ุมครองแรงงาน หรือบริษทั กําหนดใหไ ดร บั คา จาง ขอ 2. 8 พนักงานตามสัญญาจางมีกําหนดระยะเวลาการจางแนนอน หมายถึง พนักงานที่บริษัทตกลง วาจางใหทํางานอันมีลักษณะเปนครั้งคราว เปนการจร เปนไปตามฤดูกาลหรือเปนงานตาม โครงการเฉพาะทีไ่ มใ ชง านปกติของบรษิ ัท โดยมีกําหนดระยะเวลาเร่ิมตนและส้ินสุดที่แนนอนซึ่ง งานน้นั จะตองแลว เสร็จภายในเวลาไมเกินสองป โดยบรษิ ทั และพนักงานไดทาํ สัญญาเปนหนังสือ ไวตั้งแตเร่ิมจาง เมื่อสัญญาจางสิ้นสุดลงตามกําหนดระยะเวลานั้นพนักงานไมมีสิทธิไดรับเงิน คาชดเชย ขอ 2. 9 การทดลองงาน 2.9.1 บุคคลท่ีบริษัทตกลงเขารับเปนพนักงานของบริษัทจะตองผานการทดลองงานกอน เปน ระยะเวลาไมเ กนิ 120 (หนึ่งรอ ยย่ีสิบ) วัน รวมวันหยดุ วนั ลาและวันที่บริษัทส่ัง ใหหยุด โดยแจงเง่ือนไขใหทราบเปนหนังสือแตแรกวาใหทดลองงาน เวนแตจะมี การตกลงเปนอยางอ่นื 2.9.2 ระหวา งการทดลองงาน หากปรากฏวาพนักงานมคี ุณสมบัติไมเหมาะสมที่จะทํางาน หรอื ไมส ามารถทาํ งานตามท่ีบริษทั กําหนดได บริษัทจะเลิกจางโดยไมจายคาชดเชย หากพนักงานทํางานครบ 120 (หนึ่งรอยยี่สิบ) วัน บริษัทจะจายคาชดเชยใหตาม กฎหมาย แตถาบริษัทตกลงรับพนักงานเขาทํางานหลังจากทดลองงานแลว บริษัท จะนบั อายุงานใหตง้ั แตวันแรกทเี่ รม่ิ งาน 2.9.3 กรณีพนักงานอยูระหวางการทดลองงานประสงคจะลาออก พนักงานตองแจงให ผูบ ังคบั บัญชาตามสายงานทราบลวงหนา ไมน อ ยกวา 7 (เจด็ ) วนั 18
ขอ 2. 10 กรณีมีความจําเปนหรือเพ่ือความเหมาะสมในการดําเนินธุรกิจของบริษัทและเพื่อ ขอ 2. 11 ประสิทธภิ าพในการปฏิบัติงาน บริษัทอาจมีคําสั่งโยกยาย สับเปลี่ยนตําแหนงหนาท่ี การทาํ งานภายในบรษิ ทั ไดต ามความเหมาะสม การค้าํ ประกันการทาํ งาน หรือประกันความเสียหายกรณีท่ีบริษัทกําหนดใหมีการคํ้า ประกัน และ/หรือ วางเงินคํ้าประกันการทํางาน หรือประกันความเสียหายสําหรับ ตําแหนงใด ๆ ผูสมัครท่ีผานการคัดเลือกเพื่อเขาทํางานในตําแหนงนั้นตองหาผูค้ํา ประกัน และ/หรือ วางเงินค้ําประกันตามท่ีกฎหมายกําหนดและตามหลักเกณฑที่ บริษทั กําหนด หมวดที่ 3 วนั เวลาทาํ งานปกตแิ ละเวลาพัก ขอ 3. 1 วนั ทํางานปกติ เพือ่ ใหก ระบวนการดานการผลิตและที่เกี่ยวของ เปนไปอยางราบร่ืนและตอเนื่อง จึง จําเปน ตองมีกาํ ลังคนเพ่อื ทาํ งานตลอดเวลาท่ีมกี ารผลติ ดังน้ัน วันทํางานของแตละแผนกอาจไม ตรงกัน บริษัทจะจัดใหพนักงานทํางานสลับกันสัปดาหละไมเกิน 48 (สี่สิบแปด) ชั่วโมง และมี วันหยุดหนงึ่ วนั เม่ือทํางานมาแลว 6 (หก) วันตดิ ตอกัน ขอ 3. 2 เวลาทาํ งานปกติ เวลา 08.00 - 17.00 น. ขอ 3. 3 เวลาพัก ไมนอยกวา 1 (หน่ึง) ชัว่ โมงตอวัน โดยกาํ หนดใหผลัดกนั หยุดพักในชว งเวลา 11.00 - 13.00 น. ขอ 3. 4 การทํางานเปนกะ/ผลดั 3.4.1 เวลาการทาํ งานของบริษทั ฯโดยปกติกําหนดเวลาชั่วโมงการทํางานปกติ 8 ชั่วโมงตอ วนั และกําหนดเวลาพกั เปนเวลา 1 ชั่วโมง แตท งั้ นใี้ นแตล ะกะจะแบงเวลาทํางานเพอ่ื ไมใ หพนกั งานเขา กะตองเหน่ือยลา จากการทํางานโดยจะแบงเวลาทํางานเปนช่ัวโมงการทํางานปกติ 7 ชั่วโมงตอวันและ เวลาการพกั ตอกะ 1 ชั่วโมง กะ A ต้งั แตเ วลา 24.00 - 08.00 น. กะ B ต้ังแตเ วลา 08.00 - 16.00 น. กะ C ตั้งแตเวลา 16.00 - 24.00 น. 19
อยางไรก็ตามกรณีการคิดช่ัวโมงการทํางานลวงเวลา จะคิดตามช่ัวโมงอัตราคาจางตาม เวลาการทํางานปกตทิ ่ี 8 ชั่วโมง 3.4.2 เวลาพัก เน่ืองจากการทํางานในกะน้ันเปนกระบวนการผลิตที่ตอเนื่องกัน และ จําเปน ตองมกี ารประสานงานในหนวยงานน้ัน ๆ ดังนั้น เวลาพักของแตละหนาที่ของ แตละหนวยงานอาจไมตรงกัน ซ่ึงไดมีการตกลงกันลวงหนาในหนวยงาน ท้ังน้ี เวลา พักตองไมนอยกวาวันละ 1 (หนึ่ง) ชั่วโมง และจะตองอยูในระหวางเวลาท่ีพนักงาน แตล ะคนไดทาํ งานตดิ ตอ กนั มาแลวไมเกิน 5 (หา ) ชั่วโมง ขอ 3. 5 กรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือมีเหตุการณผิดปกติหรือมีความจําเปนตามลักษณะงานและ สภาพแวดลอมหรือเพ่ือความเหมาะสม บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงกําหนดวัน เวลาทํางานปกติ และเวลาพักเปนการช่วั คราวไดเทาทจี่ าํ เปน โดยจะประกาศใหพนกั งานทราบลวงหนาเปนกรณี ไปโดยไมขัดตอ กฎหมายท่ีเก่ียวของ ขอ 3. 6 การบันทกึ เวลาการทํางาน พนักงานทุกคนตองบันทึกบัตรบันทึกเวลา และ/หรือ ลงช่ือในสมุด ลง เวลาดวยตนเองเมื่อเขาทํางานและเลิกงาน ยกเวนพนักงานฝายบริหารอนุญาตใหไมตอง บันทกึ บตั ร และ/หรอื ลงชอื่ ตามความจําเปน ในการปฏิบัติหนาที่ หมวดที่ 4 วันหยดุ และหลักเกณฑการหยดุ ขอ 4. 1 วันหยดุ ประจําสปั ดาห บริษัทกําหนดใหพนกั งานมวี นั หยุดประจาํ สปั ดาห สปั ดาหละ 1 (หนง่ึ ) วัน โดยบรษิ ทั จะกําหนดตามความเหมาะสมของลักษณะงานแตละหนวยงานน้ันๆ โดยจะหยุดวันหน่ึงเม่ือ ทํางานมาแลว 6 (หก) วันตดิ ตอกนั ขอ 4. 2 วนั หยุดตามประเพณี 4.2.1 บริษัทกําหนดวันหยุดตามประเพณีไวปละไมนอยกวา 13 (สิบสาม) วัน โดยรวมวัน แรงงานแหงชาตแิ ละใหไ ดร บั คา จางเทากับวันทํางานปกติ 20
4.2.2 ถาวันหยุดตามประเพณีวันใดตรงกับวันหยุดประจําสัปดาหใหเล่ือนวันหยุดตาม ประเพณนี น้ั ไปหยดุ ในวันทํางานถัดไป 4.2.3 บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงวันหยุดตามประเพณีไดตามความเหมาะสมและตามความ จําเปนโดยพิจารณากําหนดจากวันหยุดราชการประจําป วันหยุดทางศาสนาหรือ ขนบธรรมเนยี มประเพณีแหงทอ งถ่นิ และจะประกาศวนั หยดุ ตามประเพณีของแตล ะป ใหท ราบโดยท่ัวกนั กอ นวันที่ 1 มกราคม ของทกุ ป 4.2.4 ในกรณีท่ีบริษัทไมอาจใหพนักงานหยุดตามประเพณีได เน่ืองจากสภาพงานอาจ กอใหเกิดความเสียหายไดน้ัน บริษัทอาจจะใหพนักงานไดหยุดในวันอ่ืนเพื่อชดเชย วันหยดุ ตามประเพณี หรือ จายคาทาํ งานในวันหยดุ ใหก็ได ขอ 4. 3 วนั หยุดพักผอ นประจาํ ป 4.3.1 บริษัทกําหนดใหพนกั งานขอหยดุ พกั ผอ นประจําปโ ดยไดร ับคาจางตามอายงุ าน ดงั น้ี 4.3.1.1 พนักงานที่ทํางานมาแลวครบหนึ่งป แตไมครบสามป มีสิทธิหยุดพักผอน ประจาํ ปไ ดป ล ะ 6 (หก) วันทํางาน 4.3.1.2 พนักงานที่ทํางานมาแลวครบสามป แตไมครบหกป มีสิทธิหยุดพักผอน ประจาํ ปไดป ล ะ 8 (แปด) วันทาํ งาน 4.3.1.3 พนักงานท่ีทํางานมาแลวครบหกปขึ้นไป มีสิทธิหยุดพักผอนประจําปไดป ละ 10 (สิบ) วนั ทาํ งาน 4.3.2 บรษิ ัทเปนผกู าํ หนดใหพนักงานผลัดเปล่ียนกันหยุดไดตามท่ีเห็นสมควร โดยไมใหเสีย งานของบริษัท โดยพนักงานตองทํางานครบระยะเวลาท่ีกําหนดแลว จึงมีสิทธิขอ หยุดพักผอนประจาํ ปไ ด 4.3.3 จํานวนวันหยุดแตละครัง้ บรษิ ัทจะเปนผูกาํ หนดใหตามความเหมาะสม 4.3.4 ผูบังคับบัญชาตามท่ีไดรับมอบอํานาจเปนผูกําหนดใหพนักงานในสังกัดของตนหยุด พักผอนประจําป 4.3.5 พนักงานตองแจงขอหยดุ ตามแบบทก่ี าํ หนดตอผูบังคับบัญชาตามลําดับชั้นลวงหนาไม นอยกวา 10 (สิบ) วันทํางาน และไดรับอนุญาตโดยถูกตองแลวจึงหยุดงานได มิ เชน นนั้ บริษัทถอื วา เปนการขาดงาน และ/หรอื ละทง้ิ หนาทีซ่ ึ่งพนกั งานอาจไดรบั โทษ ทางวินัยได 4.3.6 หากพนักงานไมไดใชสิทธิหยุดในปใด หรือใชสิทธิไมครบ บริษัทจะจายเงินชดเชยให ตามจํานวนวันทเ่ี หลอื โดยจายใหใ นชวงสนิ้ ปนนั้ ๆ 4.3.7 กรณีพนักงานไดรับอนุญาตใหหยุดไดแลวและอยูระหวางการหยุด แตบริษัทมีความ จําเปนใหพนักงานกลับมาทํางานตามปกติ บริษัทจะไมนับจํานวนวันที่กลับมาทํางาน เปน การหยดุ โดยพนกั งานสามารถใชส ทิ ธิไดใ นโอกาสตอ ไป 4.3.8 ในกรณีจําเปนเรงดวน บริษัทมีสิทธิเรียกพนักงานที่หยุดพักผอนประจําปใหกลับเขา มาทํางานได โดยบริษัทจะจายคาทํางานใหตามหลักเกณฑการจายคาลวงเวลาและ คา ทํางานในวันหยุดตามพระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน หรืออาจจะใหพนักงานใช สทิ ธิหยดุ พกั ผอนประจําปว นั อ่ืนแทน 21
4.3.9 กรณีพนักงานถูกเลิกจางไมวาดวยเหตุใดและยังมีสิทธิหยุดพักผอนประจําปเหลืออยู บริษัทจะจา ยคา ชดเชยใหตามจํานวนวันทเ่ี หลอื อยจู ริง 4.3.10 บริษัทมีสิทธิไมอนุญาตการขอหยุดประเภทนี้ไดตามความจําเปนและเหมาะสม ทั้งน้ี โดยคํานงึ ผลเสียหายท่ีอาจเกดิ ข้ึนของงานทพี่ นกั งานผขู อรับผิดชอบ หมวดท่ี 5 การบรหิ ารคาจาง เงนิ เดือนและคาตอบแทน ขอ 5. 1 เพอื่ ใหพ นักงานไดร บั คาตอบแทนโดยยุติธรรมตามหนา ที่ความรับผดิ ชอบและใหพนกั งาน ดาํ รงชีพอยา งเพียงพอกับสภาวะทางสงั คม บรษิ ทั จงึ กาํ หนดนโยบายการบรหิ ารคา จาง เงินเดอื นและ คา ตอบแทนตางๆ โดยยดึ ถอื องคประกอบตอไปน้เี ปน ขอพจิ ารณา 5.1.1 สภาวะทางเศรษฐกจิ ภายในประเทศ 5.1.2 ตลาดแรงงานและอตั ราคาจา งแรงงานภายในประเทศ 5.1.3 การเปรียบเทยี บอตั ราคา จางของอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน และ/หรือ กิจการใน พ้นื ทใ่ี กลเคียงกนั ตลอดจนขนาดและความสามารถในการจา ย 5.1.4 ตําแหนง หนาที่ ความรบั ผดิ ชอบ ประสบการณแ ละความสามารถ 5.1.5 สถานการณและความจําเปน ของบริษทั ขอ 5. 2 เพอื่ ใหพนักงานทกุ ระดบั ไดรับความยตุ ิธรรมในการพจิ ารณาปรับอัตราคาจางประจําป บริษัทจะ ยึดถือผลการปฏิบตั ิงานประจาํ ป ซ่ึงประเมินผลโดยผูบังคับบัญชาตามสายงานเปนเกณฑในการ พิจารณา โดยพจิ ารณาประกอบกับการลา การขาดงานและการมาปฏิบัตงิ านของพนักงาน ขอ 5. 3 การพิจารณาความดีความชอบ ผูบังคับบัญชาตามสายงานเปนผูประเมินผลการปฏิบัติงานของ ผูใตบ งั คบั บญั ชา โดยบรษิ ัทกาํ หนดแนวทางในการพจิ ารณาไว เชน 5.3.1 ความรเู กีย่ วกบั งานในหนาท่ี คุณภาพและปริมาณของงาน 5.3.2 ความเอาใจใสงานในหนาท่ี ความไวว างใจและความรบั ผดิ ชอบรวมท้งั มคี วาม ประพฤติดี 5.3.3 ความสนใจและการปฏิบัตติ อ คําส่งั คําแนะนาํ และการใหความรวมมือ 5.3.4 การพฒั นาความรู ความสามารถของตนเอง มีความคิดรเิ ริม่ และสรา งสรรค 5.3.5 สมั พันธภาพในงานและลักษณะการเปน ผนู ํา 5.3.6 การปฏบิ ัติตามระเบยี บวนิ ัย 22
ขอ 5. 4 วันทบี่ รษิ ทั จะจายคาจา ง คา ลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคา ลว งเวลาในวนั หยดุ กําหนด ไวด ังน้ี 5.4.1 พนักงานรายเดือน บริษัทจะจายคาจางภายในวันส้ินเดือน เดือนละ 1 (หนึ่ง) คร้ัง และจะจายคาลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลาในวันหยุด ภายใน กาํ หนดไมเ กิน 7 (เจ็ด) วันของเดือนถัดไป 5.4.2 พนักงานรายวันและรายเหมา บริษทั จะจายคา จาง คาลว งเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลาในวันหยุด เดือนละ 2 (สอง) คร้ัง โดยงวดคาจางตั้งแตวันท่ี 1 ถึง 15 จา ยไมเ กนิ วนั ที่ 22 ของเดือนนัน้ และวนั ที่ 16 ถึง 30 หรอื 31 จายไมเกินวนั ท่ี 7 ของเดือนถัดไป 5.4.3 วนั ทก่ี ําหนดจายคาจาง คาลวงเวลา คาทํางานในวันหยุดและคาลวงเวลาในวันหยุด ในงวดใดตรงกบั วันหยุด บรษิ ทั จะเลอ่ื นวันจา ยใหเ รว็ ขึ้นอกี หน่ึงวนั ขอ 5. 5 บริษัทจะจายคาจาง คาลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลาในวันหยุดใหกับ พนกั งานโดยการโอนเงนิ เขาบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย และใหถือวาหลักฐานการโอนเงินเขา บัญชีเงินฝากของพนกั งานเปน เอกสารเกีย่ วกบั การจา ยเงินดงั กลาว ขอ 5. 6 กรณที ่พี นกั งานเปดบัญชธี นาคารไมทันกบั วันกําหนดการโอนเงนิ เขาบญั ชีธนาคารตามขอ 5.5 บริษัทจะจายคาจางใหเปน เงินสด โดยรับทฝี่ า ยทรัพยากรมนุษยข องบรษิ ัท และถือเปน หนา ท่ี ของพนักงานที่จะตอ งเปดบัญชีธนาคารโดยไมช กั ชา ขอ 5. 7 คา จาง คาลว งเวลา คา ทํางานในวนั หยุด และคาลวงเวลาในวันหยุด ถอื เปนเงินไดข องพนักงาน ซ่ึงตองหกั ภาษีเงนิ ไดต ามประมวลรัษฎากร ขอ 5. 8 ในการเลิกจาง นายจา งจะตองจายคา จาง คา ลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลาใน วันหยุด ตามที่ลูกจา ง มสี ทิ ธิไดรับใหแกลกู จา ง ภายใน 3 วัน นบั แตว นั ที่เลิกจาง 23
หมวดท่ี 6 คา ทํางานลวงเวลาและคาทาํ งานในวนั หยุด ขอ 6. 1 พนกั งานทกุ คนตองใหความรว มมอื และพรอ มทจี่ ะปฏิบัติงานนอกเวลาทํางานปกติหรือในวันหยุด งานตามคาํ สั่งของผูบังคับบัญชาในกรณีจําเปน เรงดวน ฉุกเฉินหรือเปนงานตอเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อ ปองกันความเสียหายอันอาจเกิดขึ้นได พนักงานท่ีทํางานเกินเวลาทํางานปกติหรือทํางานใน วนั หยดุ ตามคาํ สงั่ ของผูบ งั คบั บัญชาใหม สี ทิ ธิไดรบั คา ลวงเวลาและคาทาํ งานในวนั หยุด ขอ 6. 2 พนักงานที่มีสิทธิไดคาลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลาในวันหยุดจะตองปฏิบัติ ตามระเบียบเรอ่ื งการทาํ งานลว งเวลา การทํางานในวันหยดุ และการทํางานลวงเวลาในวันหยุด โดยถูกตองเทาน้ัน ขอ 6. 3 หลกั เกณฑก ารทํางานลวงเวลาและการทํางานในวนั หยดุ 6.3.1 คาลวงเวลา 6.3.1.1 พนักงานท่ีทํางานเกินเวลาทํางานปกติของวันทํางานปกติจะไดรับคาลวงเวลา ดงั น้ี ในอัตราหนึ่งเทาคร่ึงของอัตราคาจางตอชั่วโมงในการทํางานปกติ ตามจํานวน ชว่ั โมงทที่ าํ ในอัตราหนงึ่ เทา ครง่ึ ของอตั ราคาจา งตอ หนวยการทํางานปกติ ตามจาํ นวนท่ที ํา 6.3.1.2 พนักงานที่ทํางานในวันหยุดเกินเวลาทํางานปกติของวันทํางาน จะไดรับคา ลว งเวลาในวนั หยดุ ดงั น้ี ในอัตราสามเทา ของอตั ราคาจางตอ ชวั่ โมงในการทํางานปกติ ตามจาํ นวนช่ัวโมง ท่ที ํา ในอัตราสามเทา ของอตั ราคา จา งตอ หนว ยการทาํ งานปกติ ตามจาํ นวนทท่ี าํ 6.3.2 คาทาํ งานในวันหยดุ 6.3.2.1 พนกั งานท่มี สี ิทธไิ ดร บั คา จา งในวนั หยดุ ถา มาทํางานในวันหยุดจะไดรับคา ทาํ งานในวนั หยุดเพิม่ ขน้ึ อีกไมนอ ยกวา หน่ึงเทา ของคาจา งในวันทํางานปกติ ตามจาํ นวนชว่ั โมงท่ที าํ งานในวันหยดุ หรอื ตามผลงานท่ที ําไดใ นวนั หยุด 6.3.2.2 พนักงานที่ไมมีสิทธไิ ดร ับคาจางในวนั หยดุ ถามาทํางานในวันหยุดจะไดรับ คาจา งทํางานในวันหยดุ อกี ไมน อยกวา สองเทาของคาจา งในวันทํางานปกติ ตามจาํ นวนชวั่ โมงทที่ ํา หรือตามผลงานที่ทําไดใ นวนั หยุด 24
ขอ 6. 4 พนกั งานท่ไี มม สี ิทธไิ ดร ับคาลวงเวลา 6.4.1 พนักงานระดับผูบังคับบัญชา ซึ่งมีอํานาจหนาท่ีทําการแทนบริษัท ในกรณีการจาง งาน การใหบําเหนจ็ และการเลิกจา ง 6.4.2 พนกั งานท่ปี ฏิบตั ิงานนอกสถานท่ี ซ่ึงโดยสภาพของงานไมอาจกําหนดเวลาไดแนนอน เชน พนกั งานขาย เปนตน 6.4.3 พนักงานท่ีไดรับคําสั่งใหไปปฏิบัติงานตางจังหวัดหรือตางประเทศ ซ่ึงไมสามารถ กาํ หนดเวลาทาํ งานปกตไิ ด 6.4.4 พนกั งานทไี่ มไ ดร บั อนมุ ัตใิ หทาํ งานลว งเวลาโดยถกู ตองตามขอ 6.2 หมวดท่ี 7 การลาและหลักเกณฑก ารลา ขอ 7. 1 เพ่ือเปดโอกาสใหพนกั งานปฏบิ ัติธรุ กจิ จาํ เปน สว นตัวไดในบางโอกาส บริษัทจงึ ใหพนักงานลางาน ได โดยพนักงานทุกระดับจะตองขออนุญาตการลาจากผูบังคับบัญชาโดยตรงและตองย่ืนใบลา ลวงหนา ยกเวนกรณีจําเปนและฉุกเฉินโดยแทจริง พนักงานตองสงใบลาใหผูบังคับบัญชา โดยตรงทันทที ่กี ลบั มาเพ่ือพิจารณาอนุมัติ หากสง ใบลาลา ชาใหถอื วา เปน การขาดงานและอาจถูก ลงโทษทางวนิ ัย ขอ 7. 2 บริษทั กาํ หนดการลาประเภทตาง ๆ ไวดงั นี้ 7.2.1 ลากิจ 7.2.2 ลาปว ย 7.2.3 ลาเพ่ือทําหมัน 7.2.4 ลาคลอด 7.2.5 ลาเพือ่ การฝก อบรม 7.2.6 ลาเนือ่ งจากการเรียกระดมพลทางทหารและเขารบั การอบรมเพิ่มเตมิ 7.2.7 ลาประเภทอ่นื ขอ 7. 3 ลากิจ พนักงานรายเดือนมสี ทิ ธลิ ากจิ โดยไดรับคา จางไดปละไมเกิน 5 (หา) วัน โดยตองยื่น 7.3.1 ใบลาลวงหนาตอผูบังคับบัญชาโดยตรงอยางนอย 1 (หน่ึง) วัน เมื่อผูบังคับบัญชา 7.3.2 อนุญาตแลว พนักงานจึงจะหยุดงานได พนกั งานรายวัน พนักงานรายเหมา มสี ิทธลิ ากจิ ปละไมเกิน 6 (หก) วัน และใหไดรับ คาจางเทากับคาจางในวันทํางานตลอดระยะเวลาท่ีลาแตปหน่ึงตองไมเกิน 3 (สาม) 25
วัน โดยตองยื่นใบลาลวงหนาตอผูบังคับบัญชาโดยตรงอยางนอย 3 (สาม) วัน เมื่อ ผูบงั คบั บัญชาอนุญาตแลว พนักงานจึงจะหยดุ ได 7.3.3 การลากิจใหเปนดุลพินิจของผูบังคับบัญชาที่ไดรับมอบอํานาจวาสมควรอนุมัติหรือไม ทัง้ น้ี ใหเ ปนไปตามระเบียบการลากจิ ท่บี ริษทั กําหนดไว 7.3.4 การลากจิ ทีไ่ มไดเปนไปตามขอ 7.3.1 หรือ 7.3.2 ใหถือวาพนักงานผูน้ันขาดงานและ ละทิ้งหนาที่ ขอ 7. 4 ลาปวย 7.4.1 พนักงานมีสิทธิลาปวยไดเทาท่ีปวยจริง โดยบริษัทจะจายคาจางใหเทากับคาจางใน วันทํางานปกติ ปหน่ึงไมเ กนิ 30 (สามสิบ) วันทํางาน 7.4.2 พนกั งานท่ีลาปวย 3 (สาม) วนั ติดตอกัน ตองนําใบรับรองแพทยแผนปจจุบันชั้นหน่ึง หรือ สถานพยาบาลของราชการมาแสดง กรณีไมสามารถนําใบรับรองแพทยมา แสดงไดใหช ้ีแจงตอผบู งั คบั บญั ชา 7.4.3 พนกั งานทล่ี าปวยตอ งเขยี นใบลาเสนอตอผูบังคับบัญชาในวันแรกที่กลับมาปฏิบัติงาน โดยใหถือปฏบิ ัตอิ ยา งเครงครัด หากพนักงานไมปฏิบัติตามขอนี้ บริษัทถือวาขาดงาน ในวนั ท่ีไมไ ดม าทํางานน้ัน 7.4.4 เมื่อพนักงานปวยไมวากรณีใด พนักงานจะตองแจงใหบริษัททราบโดยเร็วท่ีสุด ซ่ึง อาจเปนโดยทางโทรศพั ท จดหมาย หรือวิธอี ่นื ใด โดยพนกั งานจะตอ งปฏบิ ตั ิตามขอนี้ โดยเครง ครัด 7.4.5 วันท่ีพนักงานลาเนื่องจากประสบอันตราย หรือเจ็บปวยเน่ืองจากการทํางานและวัน ลาคลอดไมถือวา เปนวนั ลาปวยตามขอนี้ 7.4.6 หากพนักงานผูใ ดลาปวยเปนอาจิณ บริษัทอาจพิจารณาโยกยายหนาที่การงาน หรือ เลิกจางพนักงานผูน้ัน ในกรณีท่ีเห็นวาการอยูปฏิบัติงานตอไป จะไมเปนผลดีตอ สขุ ภาพของพนกั งาน หรือ การดาํ เนินงานของบริษัท 7.4.7 กรณที ีพ่ นกั งานประสบอนั ตรายขณะปฏิบัติหนาที่ใหกับบริษัท ใหปฏิบัติตามกฎหมาย ที่เกย่ี วขอ งกับกองทุนเงนิ ทดแทน ขอ 7. 5 ลาเพอ่ื ทาํ หมัน 7.5.1 พนักงานมีสิทธิลาเพื่อทําหมัน และ/หรือ เน่ืองจากการทําหมันโดยไดรับคาจางตาม ระยะเวลาท่แี พทยแ ผนปจ จบุ นั ชนั้ หนง่ึ กาํ หนด 7.5.2 พนักงานที่ใชสิทธิตามขอ 7.5.1 ตองมีหนังสือรับรองของแพทยปจจุบันชั้นหน่ึงมา แสดงเปน หลกั ฐาน 7.5.3 การลาตามขอ น้ี พนักงานตอ งขออนุญาตเปน หนังสือตอ ผูบังคับบัญชาลวงหนาไมนอย กวา 3 (สาม) วนั และไดร ับอนุญาตโดยถกู ตอ งแลว จงึ จะหยุดงานได 26
ขอ 7. 6 ลาคลอด บริษทั กําหนดใหพนักงานหญงิ ท่ีมคี รรภล าคลอดไดตามหลกั เกณฑ ดังนี้ 7.6.1 พนักงานหญิงที่มีครรภมีสทิ ธลิ าเพอื่ คลอดบตุ รครรภหนึ่งไมเกิน 98 (เกาสิบแปด) วัน ลาเพื่อคลอดบุตรใหหมายความรวมถึงวันลาเพื่อตรวจครรภกอนคลอดบุตรดวย โดยรวมวนั หยดุ ดว ยและใหไดรับคาจางเทากับคาจางในวันทํางานตลอดระยะเวลาท่ี ลาแตไ มเกิน 45 (ส่สี ิบหา ) วนั 7.6.2 การลาคลอดตอ งขออนุญาตลว งหนาเปนหนงั สือจากผูบ ังคบั บญั ชาโดยตรง 7.6.3 ในกรณีทพ่ี นกั งานไมสามารถขออนุญาตจากผบู ังคับบญั ชาโดยตรงเปน การลวงหนาได ใหสมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนรวมงานแจงการลาคลอดแทนไดภายใน 3 (สาม) วนั หลังจากการหยดุ งานเพอ่ื ลาคลอด 7.6.4 การลาเน่ืองจากมีอาการแพทอง หรือเน่ืองจากการแทงบุตรขณะตั้งครรภนอยกวา 28 (ยส่ี ิบแปด) สปั ดาห การคลอดบุตรกอ นกําหนดหรือโดยเหตุอื่นใดก็ตาม บรษิ ทั ไม ถอื วา เปน การลาคลอด แตถอื เปนการลาปวยตามขอ 7.4 7.6.5 พนกั งานหญิงมคี รรภม ีสทิ ธขิ อใหบ รษิ ทั เปลย่ี นงานในหนา ท่เี ปน การช่ัวคราวกอน หรือ หลังคลอดไดโดยมีใบรับรองแพทยแผนปจจุบันชั้นหน่ึงมาแสดงวาไมอาจทํางานใน หนาที่เดิมได 7.6.6 เม่ือพนักงานผนู ้ันกลับเขา มาทํางานตามปกติ ใหนําสูติบัตรมายื่นตอผูบังคับบัญชาซึ่ง จะตองสงใหกับฝายทรัพยากรมนุษยเพ่ือบันทึกการเปลี่ยนแปลงสถานภาพและ ลดหยอนภาษีเงินไดอันเปนประโยชนต อ พนกั งาน ขอ 7. 7 ลาเพือ่ ฝก อบรม 7.7.1 พนกั งานมีสิทธิลาเพ่อื ฝกอบรม หรือพัฒนาความรู ความสามารถของตนไดโดยไมได รับคา จางในเรื่องเก่ียวกับ 7.7.1.1 การแรงงานและสวสั ดิการสงั คม รวมทั้งการฝก อบรม หรือพฒั นาเกี่ยวกับ ทักษะเพอ่ื ประสทิ ธภิ าพในการทาํ งาน 7.7.1.2 การสอบวดั ผลทางการศึกษาที่ทางราชการจัด หรอื อนญุ าตใหจัดขน้ึ 7.7.2 การฝกอบรมหรือพัฒนาความรูความสามารถตามขอ 7.7.1 ตองมีโครงการหรือ หลกั สตู รและชวงเวลาจดั ทีแ่ นนอน 7.7.3 พนักงานตองเขียนใบลาเสนอผูบังคับบัญชาทราบลวงหนาไมนอยกวา 7 (เจ็ด) วัน กอ นวนั ลาโดยระบเุ หตทุ ี่ลาโดยชัดแจง และไดรับอนุญาตโดยถูกตองแลวจึงหยุดงาน ได 7.7.4 บรษิ ทั มสี ทิ ธทิ ่จี ะใชดุลพินิจในการอนุญาต โดยพิจารณาจากขอเสนอของพนักงานซ่ึง ประกอบดว ย 27
7.7.4.1 พนกั งานตอ งแสดงขอ มูลเปน ลายลักษณอกั ษรวา งานที่ทาํ อยนู ั้นจะไมเกดิ 7.7.4.2 ความเสียหายในระหวางวนั ลา และตองไดร ับความเห็นชอบจาก ผบู งั คบั บัญชาตนสงั กดั ตองไมเ คยไดรับอนุญาตใหล าเพอ่ื การฝก อบรม หรือพฒั นาความรู ความสามารถมาแลวในปน้นั 30 (สามสบิ ) วนั หรือ 3 (สาม) ครงั้ และ การลานนั้ อาจเกดิ ความเสยี หายแกก ารประกอบธุรกจิ ของบริษทั ขอ 7. 8 ลาเนื่องจากการเรียกระดมพลทางทหารและเขารับการอบรมเพ่ิมเติม บริษัทอนุญาตให พนักงานลาตามขอ นี้ไดโ ดยมหี ลกั เกณฑ ดังน้ี 7.8.1 พนักงานชายท่ีถูกทางราชการทหารเรียกพลเพ่ือการตรวจสอบ เพ่ือฝกวิชาทหาร หรือเพ่ือทดสอบความพรั่งพรอมตามกฎหมายวาดวยการรับราชการทหาร บริษัท อนุญาตใหลาโดยรับคาจางเทากับคาจางในวันทํางานตลอดระยะเวลาที่ลา แตไม เกนิ ปละ 60 (หกสบิ ) วันรวมวนั หยุดระหวา งท่ลี านั้น 7.8.2 พนักงานชายตองแสดงหลักฐานของทางราชการ เพื่อขอลาหยุดลวงหนาไมนอยกวา 3 (สาม) วัน ตอ ผบู งั คบั บญั ชา เมือ่ ไดรบั อนญุ าตแลว จงึ จะหยดุ งานได 7.8.3 เมือ่ ครบกาํ หนดการลาแลว พนักงานจะตองนําหลักฐานแสดงการรบั ราชการทหารมา มอบใหบ ริษัทภายใน 7 (เจ็ด) วัน นับต้ังแตวันที่เร่ิมกลับเขามาทํางานตามปกติ การ ไมกลับเขา ทํางานหลังครบกําหนดการลาภายใน 3 (สาม) วันทํางานโดยไมมีเหตุผล อนั สมควรแลว บริษัทถอื วาพนกั งานไมป ระสงคจ ะทํางานกับบริษทั อกี ตอไป 7.8.4 พนกั งานที่ลาไปคดั เลือกทหาร บริษทั ใหล าได 1 (หนงึ่ ) วัน โดยไดรับคาจางและตอง นําหลักฐานมาแสดง โดยจะตอ งแจง ผบู ังคับบัญชาลวงหนา 7 (เจ็ด) วัน หากไมตอง รับราชการทหาร พนักงานตองรีบรายงานใหผูบังคับบัญชาทราบโดยเร็วที่สุด พนกั งานทีถ่ กู เกณฑทหารไมไ ดรบั สิทธติ ามขอ 7.8.1 7.8.5 พนักงานที่ถกู เกณฑท หาร บรษิ ัทจะถอื วาพนกั งานนน้ั พน สภาพจากการเปนพนักงาน ทันทีโดยใหพนักงานผูนั้นเขียนหนังสือลาออกจากการเปนพนักงานของบริษัท เมื่อ พนการเกณฑท หารแลว ถา มีตําแหนงวางบรษิ ัทอาจพจิ ารณารับกลบั เขา ทํางานใหม ขอ 7. 9 ลาประเภทอน่ื การลาประเภทอื่นไมวากรณีใดนอกจากท่ีระบุไวใหเสนอขออนุญาตตอกรรมการ ผูจ ัดการหรือผูไดรับมอบหมายเปนกรณไี ป ขอ 7. 10 การลาทุกกรณีพนักงานตองเขียนใบลาตามแบบท่ีกําหนดตามความเปนจริง โดยเสนอให ผูบงั คบั บญั ชาอนุมัติ ผมู อี าํ นาจอนุมตั ิใหเปน ไปตามทบี่ ริษทั กาํ หนดไว 28
ขอ 7. 11 พนักงานผูใดเจตนาหรือกระทําการใด ๆ ท่ีจะใชสิทธิลาตามหมวดน้ีเพื่อตนเองหรือผูอ่ืนโดยมิ ชอบ บริษทั จะถือวาพนักงานนนั้ จงใจฝาฝนระเบยี บขอ บงั คับของบริษทั และจะถกู พิจารณาลงโทษ ทางวินยั ตามควรแกก รณี หมวดที่ 8 สวัสดกิ าร การรกั ษาพยาบาลและความปลอดภัย ขอ 8. 1 สวสั ดกิ าร บรษิ ทั จะพจิ ารณาใหม ีสวสั ดิการตาง ๆ อยา งนอยตามท่กี ฎหมายกําหนดเพ่ือความ ผาสกุ และบรรเทาความเดอื ดรอนของพนักงานโดยจะประกาศใหท ราบเปน กรณีไป ขอ 8. 2 บริษทั จะจดั ใหมคี ณะกรรมการสวสั ดิการขน้ึ โดยปฏบิ ัติตามท่ีกฎหมายกําหนด ขอ 8. 3 การรักษาพยาบาล บริษัทจะใหความชว ยเหลือและอาํ นวยความสะดวกเกยี่ วกับการรกั ษาพยาบาลแก พนกั งานทป่ี ว ยอันมิใชเนื่องจากการทาํ งานตามสมควรแกกรณี ขอ 8. 4 ในกรณพี นกั งานประสบอนั ตรายหรอื เจ็บปว ยเนอื่ งจากการทาํ งานใหบรษิ ทั บริษทั จะพจิ ารณา ใหค วามชว ยเหลือตามความเหมาะสม นอกเหนือจากที่พนักงานไดรับความคมุ ครองจากกฎหมาย แรงงานที่เกยี่ วขอ ง ขอ 8. 5 ความปลอดภัย บริษทั จัดใหม คี ณะกรรมการความปลอดภัย เพื่อวางมาตรการในสวนของความ ปลอดภยั ในการทาํ งาน และใหพนกั งานทุกคนปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบยี บแหงความปลอดภยั ในการ ทาํ งานโดยเครง ครัด 29
หมวดท่ี 9 วินยั และโทษทางวินัย ขอ 9. 1 วัตถปุ ระสงค 9.1.1 เพอ่ื ใชเ ปน แนวทางปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับวินัย พนักงานผูใดฝาฝนใหถือวาเปนการกระทําผิด วนิ ยั และไดร ับโทษทางวนิ ัยตามควรแกก รณี 9.1.2 เพอื่ ใชเปน แนวปฏบิ ัตขิ องผูบงั คับบัญชาในการพจิ ารณา สงเสริม แกไข หรือปรับปรุง ความประพฤติของผใู ตบ ังคับบัญชา 9.1.3 เพือ่ ใหเ กดิ ความเปน ธรรมตอพนกั งาน 9.1.4 เพ่ือชวยสงเสริมใหการดําเนินงานของบริษัทบรรลุวัตถุประสงคดวยความมีระเบียบ ถูกตอ งตามกฎหมายและกอ ใหเกดิ ความสงบสขุ รว มกนั ขอ 9. 2 วินัยของพนกั งาน 9.2.1 วนิ ัยทัว่ ไป 9.2.1.1 ตองแจงการเปลี่ยนแปลงสถานภาพของตนเองใหบริษัททราบภายใน 15 (สิบหา) วัน นับจากวันที่เปล่ียนแปลงหรือรับทราบ ในกรณีตาง ๆ เชน การเปล่ียนช่ือ นามสกุล ท่ีอยูปจจุบัน การสมรส หยาราง ตั้งครรภ มี บุตร เปลี่ยนบตั รประจาํ ตวั ประชาชน เปน ตน 9.2.1.2 ตองรักษาความสะอาด ไมทิ้งสิ่งของ หรือสิ่งปฏิกูลใด ๆ นอกภาชนะท่ี บริษทั จัดไว 9.2.1.3 ดูแลการใชวัสดุอุปกรณ เครื่องมือ เคร่ืองใช พลังงาน และสิ่งอ่ืน ๆ ให สน้ิ เปลืองนอ ยทสี่ ดุ 9.2.1.4 ตองมีกิริยา และใชวาจาสุภาพ ไมสบประมาท ดูหม่ิน เหยียดหยาม ให ราย ใสความ ลอเลียน กระทบกระแทก หยาบคาย กาวราว กลาวโทษ กลั่นแกลง หรือ กระทําการใด ๆ ท่ีไมเหมาะสมกับผูบังคับบัญชา ลูกคา และพนักงาน 9.2.1.5 ชว ยหรือสนบั สนนุ ชักจูง เปน ใจ หรือเพกิ เฉยตอการกระทาํ ความผิดของ พนักงานหรือบุคคลอนื่ 9.2.1.6 หามรับจางทาํ งานใหผ ูอืน่ หรอื ดาํ เนินธรุ กจิ ใด ๆ อันอาจเปน ผล กระทบกระเทอื นเวลาทาํ งานหรอื กิจการของบรษิ ัท 9.2.1.7 ระมัดระวงั ดแู ล รักษาส่งิ ของหรือทรพั ยส ินของบรษิ ทั และตอ งแจง ให ผบู งั คับบัญชาทราบ เมอื่ ทาํ ส่งิ ของหรอื ทรัพยสินของบริษัทเสียหายหรือ สูญหาย 9.2.1.8 หา มปด ประกาศ โฆษณา ขดี เขียนขอความ แจกใบปลิวเผยแพรเอกสาร หรอื ส่งิ พมิ พใด ๆ ในบริษทั โดยไมไ ดรบั อนุญาต รวมทงั้ การปลด ทําลาย ขีดเขยี นเพ่มิ เตมิ ในเอกสาร ประกาศหรือคําสงั่ ใด ๆ ของบริษทั 30
9.2.1.9 ไมเ ปด เผยขอ มลู หรือปกปด ขอ ความ หรือแจง ขอ มลู ที่เปนเท็จ หรือ ให การเท็จตอบริษทั หรือบคุ คลท่ีไดรบั มอบหมายใหทาํ การแทนบริษทั หรือ ผแู ทนของบรษิ ทั อนั เปนเหตใุ หบริษทั ไดร บั ความเสยี หาย 9.2.1.10 หามถายรูปในบรเิ วณทบี่ ริษทั ไมอนญุ าต 9.2.1.11 หามพนกั งานด่ืมสุราหรอื เสพยต ดิ ของมนึ เมา รวมทั้งมอี าการมึนเมาเขามา ในบริเวณบรษิ ทั 9.2.1.12 หา มสบู บหุ ร่ี หรอื กอ ใหเกิดประกายไฟในสถานทซ่ี ึง่ เกบ็ วัตถไุ วไฟหรอื เชอ้ื เพลงิ ภายในสํานกั งานหรือบรเิ วณท่เี ปน ท่ีหา มโดยเด็ดขาด 9.2.1.13 หา มใชเครื่องมอื เครอ่ื งจักร หรือขบั ขี่ยานพาหนะโดยไมมหี นา ที่เกี่ยวของ 9.2.1.14 หา มรับประทานอาหาร หรอื ของขบเคีย้ วในเวลาทาํ งาน หรอื บรเิ วณที่ ทํางาน รวมทัง้ นาํ เขาไปในบรเิ วณสายการผลิต 9.2.2 การเขาหรอื ออกนอกบริเวณบรษิ ทั 9.2.2.1 พนกั งานท่ีออกจากสถานท่ีทํางานในระหวางเวลาทาํ งาน เวลาพัก และ นอกเวลางานไมวา กรณใี ด ๆ ตอ งปฏบิ ัตติ ามระเบียบขอ บังคบั ท่บี ริษัท กาํ หนดทุกคร้งั 9.2.2.2 พนักงานที่เขามาในบรเิ วณบรษิ ัทตองแตงกายสภุ าพเรียบรอ ยเหมาะสมกบั หนาทก่ี ารงาน และถกู ตอ งตามกาละเทศะ 9.2.2.3 พนกั งานตองแสดงและตดิ บตั รประจาํ ตัวพนกั งานอยา งเปด เผย เห็นชัด เม่ือผา นเขา มา 9.2.2.4 หามนาํ บคุ คลภายนอกเขามาในบริเวณบริษทั โดยไมไดร บั อนญุ าต และหาก บคุ คลภายนอกทเี่ ขา มา กอ ใหเกิดความเสียหายกบั บริษัท หรอื พนกั งาน ดว ยกนั บริษทั ถอื วา พนกั งานทน่ี ําเขา มามีความผดิ และตองรับผิดชอบทกุ กรณี 9.2.2.5 การนําสง่ิ ของหรอื ทรัพยสินของบริษัทออกจากบริเวณบริษทั จะตอ งมีการ แสดงหลักฐานตอพนกั งานรักษาความปลอดภยั หรือเมอ่ื มกี ารรอ งขอให แสดง 9.2.2.6 ตอ งใหค วามรว มมอื กับพนักงานรักษาความปลอดภัย หรอื ผูท ีบ่ ริษัทไดรับ มอบหมายเม่ือมีตรวจคนหรอื สอบถามทุกกรณี 9.2.2.7 หามนาํ สตั วเ ลี้ยงทุกชนิดเขามาในบรเิ วณบรษิ ทั 9.2.2.8 หา มนาํ พา มีไว หรอื ครอบครอง อาวุธ ยาเสพยตดิ หรอื สิง่ ผดิ กฎหมายในบริเวณบรษิ ัท 9.2.3 การมาทาํ งาน 9.2.3.1 ไมมาทาํ งานสาย กลบั กอ นเวลา หรือลาหยุดงานโดยไมม ีเหตอุ ันสมควร 31
9.2.3.2 ไมเปลี่ยนแปลงเวลาทํางาน หรือ แลกกะทํางานโดยไมแจงให ผูบ ังคับบัญชาทราบลว งหนา 9.2.3.3 พนกั งานจะตอ งมาทํางานอยา งปกติ สม่ําเสมอ ตามวันและเวลาทํางานท่ี บริษทั กาํ หนด ไมทํางานเฉือ่ ยชาหรือถว งเวลาทาํ งาน 9.2.3.4 พนักงานที่บรษิ ทั กําหนดใหบ ันทึกเวลาทาํ งาน จะตองบันทึกเวลาดวย ตนเองทุกครงั้ เม่อื เขา ทาํ งานและเลิกงาน หามบนั ทึกเวลาแทนผูอ ่นื หรือรู เหน็ เปน ใจใหผ อู ่ืนบันทึกเวลาให 9.2.3.5 หา มฝาฝน ระเบยี บการแตง เครื่องแบบและการใชอุปกรณค วามปลอดภัย 9.2.4 การปฏิบัตหิ นาท่ขี องพนักงาน 9.2.4.1 เชือ่ ฟงและปฏิบตั ติ ามคาํ สัง่ โดยชอบของผบู ังคับบญั ชา 9.2.4.2 ปฏิบัติตามระเบียบขอ บงั คับและกฎเกณฑต า ง ๆ ทีบ่ ริษัทกําหนดไวอ ยาง เครง ครัด 9.2.4.3 ปฏิบัติตามคําสั่งอันชอบดวยกฎหมายและขอบงั คบั ของบริษัทและใหความ เคารพผบู ังคบั บญั ชาเหนือตน หรอื พนักงานอาวโุ สกวา 9.2.4.4 พึงปฏิบัตหิ นา ท่ีดว ยความซือ่ สัตย สจุ ริต ขยันหมัน่ เพียร และมี วิจารณญาณในการทาํ งาน 9.2.4.5 หามละเลย ละทง้ิ หนาท่ี ทาํ งานดวยความประมาท เลนิ เลอ แอบนอน ใน ระหวางเวลางาน การเพิกเฉยตอ การปฏบิ ัตหิ นา ทแ่ี ละขาดงาน 9.2.4.6 รายงานใหผ ูบังคับบญั ชาทราบทุกคร้งั ในกรณที เ่ี กิดเหตุผิดปกติในงาน ซึ่ง กอใหเกิดหรืออาจกอ ใหเ กดิ ความเสยี หายแกบ ริษทั 9.2.4.7 ปฏิบตั ติ ามกฎหมายและขอ บังคบั เก่ียวกบั การคมุ ครองขอ มลู สวนบคุ คล รวมถึงกฎระเบยี บและนโยบายทเ่ี ก่ียวขอ งของบริษัทอยางเครง ครัด 9.2.4.8 ไมกระทําการเกบ็ รวบรวม ใช เปดเผย และ/หรือ โอนขอ มูลสว นบุคคล ของบคุ คลใดๆ ไมวา ภายในประเทศหรอื ไปยังตางประเทศ เวน แตเปน การ ปฏบิ ตั ิตามหนาท่ี หรอื ไดร บั อนญุ าตจากผูบ ังคับบัญชาลวงหนา กอนแลว 9.2.4.9 แจง ขอ มลู สว นบุคคลตามที่บริษัทตองการตามความเปนจริง หากขอมูลท่ี พนักงานแจง ไมถกู ตองตามความเปน จริง ไมว าดว ยเหตุใดกต็ ามพนกั งาน จะตองแจงขอมลู ทถ่ี กู ตองใหบริษทั ทราบโดยเร็วที่สดุ 9.2.4.10 ขอ มูลสว นบุคคลทพ่ี นักงานไดร บั ไมวา ดว ยวธิ ีการใดกต็ าม อนั เนื่องมาจาก การปฏิบัตงิ านตามสัญญาวา จาง ตอ งดาํ เนนิ การจดั เก็บใหปลอดภยั และ รกั ษาไวเปนความลบั โดยเครงครดั ตลอดเวลา เวน แตเปน การเปด เผยตาม หลกั ความจําเปน ตอการปฏิบตั หิ นาที่ และ/หรือเพ่ือปฏิบัตติ ามกฎหมาย หรือคาํ สง่ั โดยชอบดว ยกฎหมายของหนวยงานใดๆ ของรฐั 32
9.2.5 ความประพฤติและความซ่ือสัตยส ุจริต 9.2.5.1 เปนผูม ศี ลี ธรรม ประพฤตติ นเปน พลเมอื งดี อยใู นระเบียบและกฎเกณฑ ของสังคม 9.2.5.2 พนกั งานตอ งเปน ผตู รงตอเวลาในการนัดหมายเกย่ี วกบั การปฏิบตั ิหนา ท่ี 9.2.5.3 พนกั งานตองไมเ ปนผูมหี น้สี ินลนพน ตัว 9.2.5.4 พนกั งานตองไมกระทําการใด ๆ อนั เปนการผดิ กฎหมายทม่ี ีโทษทางอาญา 9.2.5.5 หามผูบังคับบัญชาและพนกั งานกระทาํ การลวงเกนิ คุกคาม หรือ กอ ความเดอื นรอ นรําคาญทางเพศ ซึ่งเปนหญิง ชาย หรอื เดก็ ในที่ทาํ งาน หรือบรเิ วณบริษทั 9.2.5.6 พนกั งานตองไมกระทาํ การใด ๆ อันไมส ุจรติ ทเี่ กย่ี วของกับเอกสารของ บรษิ ทั 9.2.5.7 พนักงานตองใหค วามรว มมือโดยสจุ ริตกบั บริษัทในการสอบสวนเรอ่ื งราว ตา ง ๆ เพอื่ ความสงบเรยี บรอ ยภายในบรษิ ทั 9.2.5.8 พนกั งานตอ งไมอ าศัยอํานาจหนาที่ของตนโดยมชิ อบ เพอ่ื แสวงหา ผลประโยชนใ ด ๆ 9.2.5.9 เมอื่ พนกั งานเหน็ บคุ คลภายนอกทีไ่ มไดร ับอนญุ าตเขา มาในบรเิ วณบรษิ ัท พนกั งานตอ งรบี รายงานใหผ ูบงั คับบัญชาทราบทนั ที 9.2.5.10 ไมท ะเลาะวิวาทหรอื ใชอ าวธุ กาํ ลงั ประทุษรา ยซึง่ กนั และกันในบรเิ วณ บรษิ ัท หรอื สถานทอ่ี ืน่ ทีบ่ รษิ ทั จัดงานหรือเปน เจาภาพนอกสถานท่ี 9.2.5.11 การกระทําใดนอกจากท่ีกลาวขางตน หากโดยธรรมเนียมหรือจารีต ประเพณี หรือโดยสามัญสํานึกของบุคคลทั่วไปถือวาเปนความผิดแลว ให ถอื วา การกระทาํ น้นั เปนความผิดทางวินยั ดวย ขอ 9. 3 กรณดี ังตอ ไปนี้ บริษทั ถอื วาเปน ความผดิ อยา งรายแรงและจะเลิกจางโดยไมจายคา ชดเชย 9.3.1 ทจุ ริตตอหนา ท่ีหรอื กระทําผดิ อาญาโดยเจตนาตอบริษทั 9.3.2 กระทําการใด ๆ ทเี่ ปน การจงใจทําใหบ ริษัทไดรบั ความเสียหาย 9.3.3 ฝาฝนระเบียบขอบังคับเกี่ยวกับการทํางาน หรือระเบียบคําส่ังของผูบังคับบัญชาอัน ชอบดวยกฎหมายและเปนธรรมและบริษัทไดเตือนเปนหนังสือแลว เวนแตกรณี รายแรง บริษัทไมจําเปนตองตักเตอื น กรณีบริษัทเตือนเปนหนังสือ ใหหนังสือเตือนมี ผลบงั คบั ใชไมเ กนิ 1 (หน่ึง) ป นับแตว ันที่พนักงานไดกระทําผดิ 9.3.4 ละท้ิงหนาที่เปนเวลา 3 (สาม) วันทํางานติดตอกันไมวาจะมีวันหยุดคั่นหรือไมก็ตาม โดยไมม เี หตุผลอนั สมควร 9.3.5 กระทาํ โดยประมาท เลนิ เลอ เปน เหตุใหบ รษิ ัทไดร ับความเสยี หายอยา งรา ยแรง 9.3.6 ไดร ับโทษจําคุกตามพพิ ากษาถึงทสี่ ดุ ใหจาํ คุก ในกรณี (9.3.6) ถาเปน ความผดิ ทไี่ ด กระทาํ โดยประมาท หรอื ความผดิ ละหุโทษ ตอ งเปน กรณที เี่ ปนเหตใุ หน ายจา งไดร บั ความเสียหาย 33
ขอ 9.4 โทษทางวินยั บรษิ ทั กาํ หนดโทษทางวนิ ยั สําหรบั พนกั งานผกู ระทาํ ความผิดตามความหนกั เบาของ การกระทาํ ความผดิ ไวเปน 4 (ส)่ี สถาน ดังนี้ 9.4.1 เตือนดวยวาจา 9.4.2 เตอื นเปน หนังสือ 9.4.3 พักงานโดยไมไดร บั คา จาง ไมเ กิน 6 (หก) วนั ทาํ งาน 9.4.4 เลกิ จา ง ขอ 9. 5 เตือนดวยวาจา ใหผ ูบงั คบั บัญชาวา กลาวตักเตือนพนักงานผูกระทําผิดวนิ ัยซึง่ เปนความผิดไมถ ึงขัน้ รายแรงดว ยวาจา โดยใหผูบังคับบัญชาบนั ทกึ ไวเ ปนหลกั ฐาน ขอ 9. 6 เตือนเปนหนงั สอื ในกรณีวากลาวตักเตือนดวยวาจาไมไดผล หรือในกรณีที่พนักงานกระทําความผิด คอนขางรายแรงใหผูบังคับบัญชาตักเตือนเปนหนังสือแจงการกระทําผิดเพ่ือใหโอกาสพนักงาน ปรับปรงุ ตัวเองใหด ีขึน้ โดยแจง คําเตอื นตอ พนักงานและใหพนักงานลงชื่อรับทราบ โดยสงสําเนา ใหฝา ยทรัพยากรมนุษยเ พื่อเขา แฟม ประวัติ ขอ 9. 7 พกั งานโดยไมไ ดรับคา จาง ใหผ บู งั คับบัญชาสง่ั ลงโทษพนักงานท่ีกระทําผิดไดตามขอบเขตท่ีไดรับมอบหมายโดย การพักงานคร้ังละไมเกิน 6 (หก) วันทํางาน โดยไมไดรับเงินคาจางหรือเงินอ่ืนใดท้ังสิ้น โดยเฉพาะถาเปนความผิดรายแรง แตยังไมถึงข้ันใหออก หรือไลออก ใหผูบังคับบัญชาส่ังพัก งานไดทันทีโดยไมจ าํ เปน ตองเตือนดวยวาจาหรอื เตือนเปน หนงั สือกอนได ขอ 9. 8 เลิกจาง บริษทั ลงโทษพนกั งานผูกระทําผิดรายแรงตามขอ 9.3 โดยการเลิกจางทันที ซึ่งอาจ เปนกรณีใดกรณีหนึ่งตามความหนักเบาของการกระทาํ ผิด เชน ใหอ อก หรอื ไลออก เปน ตน 34
ขอ 9. 9 บรษิ ทั จะพจิ ารณาลงโทษพนักงานทกี่ ระทําผิดดว ยความยตุ ธิ รรม ซ่ึงอาจพิจารณาลงโทษสถาน หนึ่งสถานใดไดโดยคํานึงถึงความหนักเบาและลักษณะความผิดเปนสําคัญ โดยไมจําเปนตอง เรยี งลําดับตามขอ 9.4 ขอ 9. 10 พกั งานเพอ่ื การสอบสวน กรณีพนักงานถูกกลาวหาวากระทําความผิดวินัยของบริษัท และบริษัทพิจารณาเห็น ควรใหมีการสอบสวน กรรมการผูจัดการ หรือผูมีอํานาจที่ไดรับมอบหมายอาจส่ังพักงานเปน หนังสือไดไมเกิน 7 (เจ็ด) วัน เพ่ือสอบสวนโดยแจงใหพนักงานทราบและระบุความผิดให พนักงานทราบระหวางการพกั งานเพอื่ สอบสวนดังกลาว บริษัทจะจายคาจางใหเทากับคร่ึงหนึ่ง ของคาจางท่ีไดรับในวันทํางานปกติ หากผลการสอบสวนปรากฏวาพนักงานไมผิดบริษัทจะจาย คา จางสวนท่ขี าดอีกคร่ึงหนง่ึ ระหวางถูกพกั งานใหพ รอมดอกเบ้ยี รอ ยละ 15 (สิบหา) ตอป หมวดที่ 10 การรองทุกข ขอ 10. 1 การรอ งทกุ ข หมายถงึ การรอ งเรยี นของพนกั งานตอ บริษัทในเร่อื งท่เี หน็ วาไมไดรับความเปน ธรรม มีการปฏบิ ตั ทิ ไี่ มถ กู ตอง หรอื มกี ารละเลยไมป ฏบิ ัติตามขอบงั คบั การทาํ งาน หรือสญั ญา หรอื ขอตกลงทร่ี วมกันจัดทาํ ไว โดยผรู องทกุ ขตอ งปฏิบตั ติ ามขั้นตอนหรือกระบวนการรองทกุ ขท ี่ บรษิ ัทกาํ หนดไว ขอ 10. 2 ขอบเขตและความหมายของการรอ งทุกข 10.2. 1 ขอ รอ งทกุ ขข องพนักงานจะตองเปน เรื่องท่ีเกี่ยวกับความคดิ เหน็ หรือขอขัดแยงวาดวย ระบบหรอื วธิ ีการทํางาน สิทธิประโยชนตามสญั ญาหรือสภาพการจา ง ความประพฤติและ ความเปน ธรรมของพนกั งาน 10.2. 2 ขอรองทุกขจ ะตอ งมใิ ชเรื่องรองขอใหแตงตงั้ โยกยา ย เลิกจา ง ปลดออก ไลอ อก เกย่ี วกับตัวบุคคล 35
10.2. 3 ขอรองทกุ ขจะตองเปนเร่ืองเกยี่ วกับการทํางานมใิ ชเรอ่ื งสว นตัว เวน แตเรอื่ งสว นตวั นน้ั จะมผี ลกบั การทํางาน ขอ 10. 3 บรษิ ทั ถือวา การดําเนนิ การดงั ตอไปนี้ ไมถือเปน การรอ งทุกขต ามความหมายของ 10.3. 1 หมวดน้ี 10.3. 2 10.3. 3 เรอื่ งท่นี อกเหนอื จากท่ีระบไุ วใ นขอ 10.2 10.3. 4 เร่อื งทเ่ี ก่ยี วกบั สทิ ธิของฝา ยจดั การในการบรหิ ารและ ปฏบิ ัตงิ าน การรองทุกขท่ีเปนหนังสือที่ไมมีลายมือช่ือผูรองทุกข หรือไมระบุช่ือ นามสกลุ ทถี่ ูกตองของผูรอ ง หนงั สอื แสดงความคดิ เหน็ ทัว่ ไปหรอื บัตรสนเทห หรือใบปลวิ หรอื แถลงการณตาง ๆ ขอ 10. 4 วิธกี ารรองทุกข พนักงานสามารถรอ งทุกขใ นเรื่องตางๆ ไดต ามทีร่ ะบไุ วใ นขอ 10.2 โดยมวี ิธกี าร ดังนี้ 10.4. 1 การรองทุกขอ ยางไมเปนทางการ พนักงานสามารถนําปญหาหรือเรื่อง 10.4. 2 ที่ตองการจะรองทุกขไปปรึกษาหารือกับผูบังคับบัญชาช้ันตน และ/หรือ สายงานทรัพยากรมนุษยได เพื่อขอความเห็นหรือขอแนะนํา ซึ่งอาจ สามารถหาขอ ยุติทเี่ หมาะสมได การรองทกุ ขอ ยางเปนทางการ หากดําเนินการตามขอ 10.4.1 ไมเปนผล หรือ ไมประสงคจ ะใชว ิธีดงั กลา ว พนักงานสามารถย่ืนเร่ืองรองทุกขตาม แบบท่ีบริษัทกําหนด (กรณีรองทุกขเปนหนังสือ) โดยยื่นตอ ผู บั ง คั บ บั ญ ช า ห รื อ ส า ย ง า น ท รั พ ย า ก ร ม นุ ษ ย เ พ่ื อ ดํ า เ นิ น ก า ร ต า ม กระบวนการยุตขิ อรองทกุ ขตอไป ขอ 10. 5 ขัน้ ตอนการรอ งทุกข พนักงานมสี ิทธิยืน่ เรือ่ งรองทุกขไ ด โดยปฏบิ ัติตามข้ันตอน ดังนี้ 10.5.1 รอ งทุกขด ว ยวาจา 10.5.2 รองทุกขเ ปน หนังสอื 10.5.3 การอุทธรณข อรองทุกข ขอ 10. 6 เมือ่ บริษัทไดรบั ขอ รอ งทุกขของพนกั งาน บริษทั จะดําเนนิ การ 36
10.6. 1 พิจารณาวา เปน ขอ รอ งทกุ ขท ถี่ กู ตองตามทกี่ าํ หนดไวห รือไม หากปรากฏวา ไมเ ขา ขาย 10.6. 2 เปนขอ รอ งทุกข บรษิ ัทจะแจงใหพนักงานทราบเปน หนังสือโดยเร็ว หากเปนขอ รอ งทุกขท ี่ถูกตอง บริษทั จะ 10.6.2.1 พจิ ารณาวา ขอรอ งทกุ ขนนั้ เปนเร่ืองใด เฉพาะตัวหรือกลมุ บคุ คล หรอื สวนรวมและเกยี่ วขอ งหรือมผี ลกระทบอยา งใด 10.6.2.2 สอบถามและหาขอ มลู เพือ่ ใหไ ดขอ เทจ็ จรงิ ทีถ่ ูกตอ งและสมบูรณ 10.6.2.3 สอบสวนผูรองทุกขแ ละผูเ กีย่ วของ 10.6.2.4 ศกึ ษาวิเคราะหข อมูลที่ไดร ับทงั้ หมด เพ่อื พจิ ารณาวินจิ ฉัยหรือตัดสิน 10.6.2.5 แจง ผลการพิจารณาใหผ รู อ งทุกขท ราบโดยเรว็ 10.6.2.6 ตดิ ตามผลการตัดสนิ และการปฏิบตั ิ ขอ 10. 7 ในกรณีตอ งมกี ารสอบสวน บริษัทจะดําเนินการโดยตั้งอยูบ นพ้ืนฐานของความถูกตอง 10.7.1 เปนธรรม รวดเร็วและใหเกิดความเขาใจท่ีดีตอกันเพื่อรวมกันปฏิบัติงานใหมี 10.7.2 ประสิทธิภาพตอไป การสอบสวนตามขอน้ี บริษัทจะพิจารณาจัดใหมีคณะกรรมการ 1.07.3 สอบสวนขึ้นตามความจําเปนและเหมาะสมเปนกรณี อยางนอยคณะกรรมการจะ ประกอบไปดว ย ผบู ังคบั บัญชาของผรู องทุกข ผแู ทนหนว ยงานท่เี กยี่ วขอ ง ผูแ ทนสายงานทรพั ยากรมนษุ ย ขอ 10. 8 กระบวนการยตุ ิขอรอ งทุกข 10.8.1 ช้นั ทห่ี นึ่ง การรอ งทกุ ขด วยวาจา ใหพนักงานรอ งทกุ ขต อ ผบู ังคับบัญชาชัน้ ตน หากสามารถทําความเขาใจหรือตกลงได ใหถ ือวาการรอ งทุกขเ ปนอันยตุ ิ กรณเี ร่ืองทร่ี องทุกขเก่ียวของกับผูบังคับบัญชาโดยตรง พนักงานอาจรอง ทุกขตอสายงานทรัพยากรมนุษย และ/หรือ ผูบังคับบัญชาระดับเหนืออีกขั้นหน่ึง หากสามารถตกลงหรอื ทําความเขาใจได ถือวาขอรอ งทกุ ขเปน อนั ยุติ ผูบังคับบัญชา และ/หรือ สายงานทรัพยากรมนุษย ควรดําเนินการ พิจารณาขอรองทุกขใหเรียบรอยภายใน 3 (สาม) วัน ทํางาน และรายงานให ผบู ังคับบัญชาตามสายงานช้นั เหนอื ข้ึนไปทราบเปน หนังสอื 37
10.8.2 ช้นั ทสี่ อง การรองทุกขเ ปน หนงั สอื หากพนักงานไมเห็นพองกับผลการพิจารณาในขั้นที่หนึ่ง หรือยังไมสามารถหาขอยุติ ไดใหพนักงานยื่นคํารองเปนหนังสือและลงลายมือชื่อผูรองทุกขเสนอผูบังคับบัญชา โดยตรงหรือเสนอผานสายงานทรัพยากรมนษุ ย เพื่อดําเนนิ การพจิ ารณาโดยเร็ว พนักงานตองย่ืนคํารองทุกขภายใน 5 (หา) วัน นับแตวันที่ ทราบผลในชั้นท่ีหนงึ่ มิเชนนน้ั จะถอื วา การรอ งทุกขเปน อนั ยตุ ิ ผูบังคับบัญชาจะพิจารณาตอบขอรองทุกขเปนหนังสือให พนักงานทราบภายใน 15 (สิบหา) วันทํางาน นับแตวันไดรับคํารองและรายงานให ผูบ ังคบั บัญชาตามสายงานช้นั เหนอื ขนึ้ ไปทราบเปนหนังสอื 10.8.3 ชน้ั ท่สี าม การอุทธรณข อรองทกุ ข หากพนักงานเห็นวายังไมไดรับความเปนธรรมอีก ใหมีสิทธิอุทธรณตอกรรมการ ผจู ัดการ โดยทาํ เปนหนังสือย่ืนผานสายงานทรัพยากรมนุษยภายใน 7 (เจ็ด) วันนับ แตวันทรี่ ับทราบผลการพจิ ารณาในข้นั ทส่ี อง หากพน กําหนดจะถอื วาพนักงานยอมรับ การพิจารณานนั้ ขอรองทกุ ขเปน อันยตุ ิ กรรมการผจู ัดการจะพิจารณาการวินิจฉัยคํา อุทธรณและแจงใหพนักงานทราบเปนหนังสือภายใน 30 (สามสิบ) วันนับแตวันที่ได รับคําอุทธรณ คาํ วินิจฉัยของกรรมการผูจัดการใหถ อื เปนทสี่ ุด ขอ 10. 9 ในกรณีขอรองทุกขมีผลเก่ียวเน่ืองกับพนักงานอื่น บริษัทจะแจงผลการพิจารณาขั้น ขอ 10. 10 สดุ ทายใหพนกั งานท่มี สี ว นเก่ียวขอ งทราบดวย บริษัทจะใหความคมุ ครองผรู อ งทุกขแ ละผเู กย่ี วขอ ง โดย 10.10.1 กรณพี นกั งานผรู อ งทกุ ขไมประสงคจ ะเปด เผยช่ือ บริษัทจะปกปดเปน ความลบั โดย 10.10.2 เครง ครัด 10.10.3 โดยหลกั การท่วั ไป บริษทั ถอื วา เร่อื งที่พนักงานรองทกุ ข ซ่งึ มีผลเฉพาะตัวบุคคลเปน เร่อื งปกปด ไมพงึ เปด เผย เวน แตผูรอ งทุกขยนิ ยอมหรอื ตกลงใหเ ปด เผย 10.10.4 บรษิ ทั จะไมนําเรอ่ื งท่ผี ูรองทุกขไ ดรองทกุ ข ไปประกอบการพิจารณาเก่ียวกับสิทธิ ประโยชนต าง ๆ ทพ่ี นกั งานพึงไดรับจากบริษัท เวนแตปรากฏวาการรองทุกขนั้นเปน การใหรา ยผูอ น่ื หรือทําใหผูอื่นไดรับความเสียหาย หรือเปนการแจงเท็จ ซ่ึงนอกจาก จะถอื วา เปนการผดิ วนิ ยั แลว บรษิ ทั จะพิจารณาตดั สทิ ธปิ ระโยชนที่ผรู องทุกขพึงไดรับ ตามหลกั เกณฑแ ละเงอื่ นไขทีก่ ําหนดไวอ กี สว นหน่ึงดวย บรษิ ัทจะไมนําเรื่องท่ผี รู อ งทกุ ขไดรองทุกขดว ยความสจุ ริตไปฟองรอ ง หรือดาํ เนินคดี ท้ังทางแพงและอาญา หรือลงโทษทางวินัย หรือถือเปนเหตุที่บริษัทจะกลั่นแกลง หรือเลิกจางหรือดําเนินการใด ๆ ท่ีเกิดผลรายตอพนักงานดังกลาว เวนแตการรอง ทกุ ขเปน ไปโดยมิชอบและทําใหม ีผูไ ดรับความเสยี หายจากการรองทกุ ขน้ัน 38
ขอ 11. 1 หมวดท่ี 11 11.1.1 การพนสภาพการเปนพนกั งาน 11.1.2 พนักงานจะพนสภาพการเปน พนักงานของบรษิ ทั ในกรณีดงั ตอ ไปนี้ 11.1.3 ตาย 11.1.4 ลาออก 11.1.5 เกษยี ณอายุ ปลดออก ขอ 11. 2 ถูกลงโทษทางวินัยถงึ ขั้นเลิกจา ง ตาย หมายถึง พนกั งานถงึ แกค วามตายไมว า ดว ยเหตใุ ดกต็ าม ขอ 11. 3 ลาออก พนักงานท่ีประสงคจะลาออก ตองย่ืนหนังสือตามแบบที่กําหนดตอ ผูบังคับบัญชาตามลําดับช้ันกอนวันที่พนักงานประสงคจะลาออกลวงหนาอยางนอย 30 (สามสิบ) วัน สําหรับพนักงานรายเดอื น และอยางนอย 15 (สิบหา) วัน สําหรับ พนักงานรายวันและรายเหมา พรอมท้ังชี้แจงเหตุผลการลาออก และไดรับอนุญาต โดยถกู ตอ งแลว จงึ จะถอื วา การลาออกมผี ลสมบูรณ ขอ 11. 4 เกษยี ณอายุ 11.4.1 พนักงานจะครบเกษยี ณอายเุ มื่ออายุครบ 60 ปบรบิ ูรณ 11.4.2 พนักงานที่ครบเกษยี ณอายุ บรษิ ัทจะใหพ นักงานนัน้ พนสภาพการเปน พนกั งานต้ังแต 11.4.3 วันท่ี 1 มกราคม ของปถัดไป 11.4.4 ในกรณีจาํ เปนและเพื่อประโยชนข องบรษิ ทั บริษทั อาจพิจารณาทาํ สญั ญาวาจา ง พนักงานท่ีครบเกษียณอายุตอ ไปอกี ตามความเหมาะสมโดยไมข ดั ตอกฎหมาย บรษิ ัทจะจา ยคาชดเชยใหพนกั งานทเ่ี กษียณอายุตามกฎหมาย ขอ 11. 5 ปลดออก บริษัทจะพิจารณาปลดพนักงานออกจากงานโดยไดรับคาชดเชยในกรณี 11.5.1 ดงั ตอ ไปน้ี 11.5.2 ยุบหนว ยงานหรืออัตรากาํ ลัง การปลดออกตามขอ นี้ หากเปนไปตามที่ระบุไวใ นขอ 12.2 พนักงานมีสิทธิไดรบั คา ชดเชยพิเศษตามท่รี ะบุไวในขอ 12.3 ดว ย 11.5.3 เจบ็ ปวย หรอื สขุ ภาพไมแข็งแรง หรอื ถงึ ข้ันทพุ พลภาพ หรอื แพทยแ ผนปจจบุ ัน ชั้นหนึ่งลงความเห็นวาเปนโรคเร้ือรังหรือเปนโรคติดตอรายแรงอันอาจเปนอันตราย ตอ พนักงานอนื่ หยอ นสมรรถภาพในหนาที่การงานหรือไรค วามสามารถหรือจิตฟน เฟอ น 39
11.5.4 การเจ็บปวยเน่ืองจากการทํางานทตี่ องใชเวลาในการรักษาตัวนานเกินกวา 1 (หนงึ่ ) ป ขอ 11. 6 ขึน้ ไปแตใหอยูในดุลยพนิ ิจของบรษิ ทั ดวย เลกิ จา ง บริษทั จะใหพ นกั งานออกจากงานโดยไมจา ยคา ชดเชยในกรณดี งั ตอ ไปน้ี 11.6.1 พนกั งานทอ่ี ยูระหวางทดลองงานและบริษัทเลกิ จางภายในระยะเวลาทดลองงาน 11.6.2 โดยนยั ตามขอ 2.9.2 11.6.3 พนกั งานตามสัญญาจา งท่ีมีกําหนดระยะเวลาจางที่แนนอนและบริษัทเลิกจางเม่ือครบ กาํ หนดสัญญาจา ง พนักงานที่ถกู ลงโทษตามขอ 9.3 หรอื ดวยเหตุอ่นื ท่ีไมมีสทิ ธไิ ดรับคาชดเชย ขอ 11. 7 พนกั งานทพ่ี น สภาพการเปนพนักงานของบริษัทไมวาดวยกรณีใด จะตองสงมอบงาน และทรัพยสินของบริษัทที่อยูในความครอบครองหรือในความรับผิดชอบใหเปนท่ี เรยี บรอยกอนวันพน สภาพการเปน พนกั งานจะมีผล 40
หมวดที่ 12 การจายคา ชดเชย ขอ 12. 1 บริษัทจะจา ยคาชดเชยใหพ นกั งานทีถ่ ูกเลกิ จา งโดยไมมคี วามผิดตามหลกั เกณฑ ดงั น้ี 12.1.1 พนักงานซึ่งทํางานติดตอกันครบหน่งึ รอยยสี่ ิบวนั แตไ มค รบหน่งึ ป (รวมวันหยุด วนั 12.1.2 ลา วนั ที่บริษัทอนญุ าตใหหยุดงานเพ่ือประโยชนข องพนกั งาน และวันทบี่ รษิ ัทส่งั ให 12.1.3 หยดุ เพอื่ ประโยชนของบรษิ ัท) มีสิทธิไดรบั คาชดเชยไมน อยกวาอตั ราคาจา งสดุ ทาย 12.1.4 สามสบิ วนั หรือไมน อ ยกวาคา จา งของการทํางานสามสบิ วนั สุดทายสาํ หรับพนกั งานที่ 12.1.5 ไดร บั คา จา งตามผลงานโดยคํานวณเปนหนว ย 12.1.6 พนกั งานซง่ึ ทํางานตดิ ตอกนั ครบหน่งึ ป แตไ มครบสามป (รวมวันหยดุ วันลา วนั ที่ บริษัทอนุญาตใหหยุดงานเพื่อประโยชนของพนักงาน และวันที่บริษัทส่ังใหหยุดเพ่ือ ประโยชนข องบริษทั ) มีสทิ ธิไดรับคาชดเชยไมนอยกวาอัตราคาจางสุดทายเกาสิบวัน หรอื ไมน อ ยกวา คาจางของการทํางานเกา สบิ วันสุดทายสาํ หรบั พนักงานที่ไดร บั คาจาง ตามผลงานโดยคาํ นวณเปนหนวย พนกั งานซงึ่ ทํางานตดิ ตอกนั ครบสามป แตไมครบหกป (รวมวันหยดุ วนั ลา วนั ที่ บริษัทอนุญาตใหหยุดงานเพื่อประโยชนของพนักงาน และวันที่บริษัทสั่งใหหยุดเพื่อ ประโยชนของบริษัท) มีสิทธิไดรับคาชดเชยไมนอยกวาอัตราคาจางสุดทายหน่ึงรอย แปดสิบวันหรือไมนอยกวาคาจางของการทํางานหนึ่งรอยแปดสิบวันสุดทายสําหรับ พนักงานทีไ่ ดร ับคาจา งตามผลงานโดยคํานวณเปนหนว ย พนักงานซง่ึ ทํางานติดตอกันครบหกป แตไ มครบสบิ ป (รวมวันหยดุ วันลา วันท่บี รษิ ทั อนุญาตใหหยุดงานเพ่ือประโยชนของพนักงาน และวันท่ีบริษัทสั่งใหหยุดเพื่อ ประโยชนข องบรษิ ทั ) มีสทิ ธไิ ดร ับคา ชดเชยไมนอ ยกวาอัตราคาจางสุดทายสองรอยส่ี สิบวนั หรอื ไมน อ ยกวาคาจา งของการทํางานสองรอยส่ีสิบวันสุดทายสําหรับพนักงาน ท่ไี ดร บั คา จา งตามผลงานโดยคํานวณเปน หนว ย พนักงานซึ่งทํางานตดิ ตอ กันครบสิบปขึน้ ไป (รวมวันหยดุ วันลา วนั ท่ีบรษิ ัทอนุญาตให หยุดงานเพ่ือประโยชนของพนักงาน และวันที่บริษัทส่ังใหหยุดเพื่อประโยชนของ บรษิ ัท) มสี ิทธไิ ดรับคาชดเชยไมนอยกวาอัตราคาจางสุดทายสามรอยวันหรือไมนอย กวาคาจางของการทํางานสามรอยวันสุดทายสําหรับพนักงานที่ไดรับคาจางตาม ผลงานโดยคํานวณเปนหนวย พนกั งานซ่งึ ทาํ งานติดตอกันครบย่ีสบิ ปข้นึ ไป (รวมวันหยดุ วนั ลา วันที่บริษทั อนญุ าต ใหหยุดงานเพื่อประโยชนของพนักงาน และวันท่ีบริษัทสั่งใหหยุดเพ่ือประโยชนของ บริษทั ) มีสิทธิไดรับคาชดเชยไมนอ ยกวาอัตราคาจางสุดทา ยส่รี อยวันหรือไมนอยกวา คาจางของการทํางานสามรอยวันสุดทายสําหรับพนักงานที่ไดรับคาจางตามผลงาน โดยคํานวณเปนหนว ย 41
ขอ 12. 2 ใ น ก ร ณี ที่ บ ริ ษั ท จ ะ เ ลิ ก จ า ง พ นั ก ง า น เ พ ร า ะ เ ห ตุ ที่ บ ริ ษั ท ป รั บ ป รุ ง ห น ว ย ง า น ขอ 12. 3 กระบวนการผลติ การจําหนา ยหรอื การบริการอันเน่อื งมาจากการนําเครื่องจักรมาใช ขอ 12. 4 หรือเปลี่ยนแปลงเคร่ืองจักรหรือเทคโนโลยี ซ่ึงเปนเหตุใหตองลดจํานวนพนักงาน บรษิ ทั จะแจง วันท่จี ะเลิกจา ง เหตุผลของการเลิกจางและรายชื่อพนักงานตอพนักงาน ตรวจแรงงานและพนกั งานท่จี ะเลกิ จางทราบไมนอ ยกวาหกสิบวันกอ นวนั ที่จะเลิกจา ง ในกรณีท่ีบริษัทไมแจงใหพนักงานท่ีจะเลิกจางทราบลวงหนา หรือแจง ลว งหนานอยกวา ระยะเวลาท่ีกําหนดตามวรรคแรก บริษัทจะจายคาชดเชยแทนการ บอกกลาวลวงหนาใหพนักงานเทากับคาจางอัตราสุดทายหกสิบวัน หรือเทากับ คาจางของการทํางานหกสิบวันสุดทายสําหรับพนักงานซึ่งไดรับคาจางตามผลงาน โดยคํานวณเปนหนว ย ในกรณีที่มีการจายคาชดเชยแทนการบอกกลาวลวงหนาตามวรรคสอง แลว ถือวาบริษัทไดจายสินจางแทนการบอกกลาวลว งหนา ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ยแ ลว ในกรณที บี่ รษิ ทั เลิกจา งพนกั งานตามขอ 12.2 และพนักงานทํางานติดตอกันครบหกป ข้ึนไปโดยรวมวันหยุด วันลา วันท่ีบริษัทอนุญาตใหหยุดงานเพื่อประโยชนของ พนักงาน และวันท่ีบริษัทสั่งใหหยุดงานเพ่ือประโยชนของบริษัท บริษัทจะจาย คาชดเชยพิเศษเพิ่มขึ้นจากคาชดเชยตามขอ 12.1 สําหรับการทํางานเกินหกปให พนักงานซ่ึงเลกิ จางไมนอยกวา อัตราคาจางสุดทายสิบหาวันตอการทํางานครบหน่ึงป หรือไมนอยกวาคาจางตามผลงานโดยคํานวณเปนหนวย แตคาชดเชยตามขอนี้รวม แลวตองไมเกินอัตราสุดทายสามรอยหกสิบวันหรือไมเกินคาจางของการทํางานสาม รอยหกสิบวันสุดทายสําหรับพนักงานซ่ึงไดรับคาจางตามผลงานโดยคํานวณเปน หนวย เพ่ือประโยชนในการคํานวณคาชดเชยพิเศษ เศษของระยะเวลาทํางานที่ มากกวา หนึ่งรอ ยแปดสบิ วัน ใหน ับเปนการทํางานครบหนึ่งป กรณีบริษัทยายสถานประกอบการไปต้ัง ณ สถานที่อื่น ซึ่งจะมีผลกระทบตอการ ดํารงชีวิตตามปกติของพนักงานหรือครอบครัว บริษัทจะแจงใหพนักงานทราบ ลว งหนาไมน อยกวาสามสิบวันกอนวันยายสถานประกอบการ กรณีบริษัทไมสามารถ แจงหรือแจงการยายนอยกวาสามสิบวัน บริษัทจะจายคาชดเชยพิเศษแทนการบอก กลา วลว งหนาเทากบั คาจางจํานวนสุดทายสามสิบวัน หากพนักงานไมประสงคจะไป ทาํ งานดว ยพนักงานมสี ิทธิบอกเลกิ สญั ญาภายใน 30 (สามสิบ) วันทาํ งาน หลงั จากท่ี ไดร บั แจง จากนายจา งโดยใหม สี ทิ ธิไดรบั คาชดเชยตามขอ 12.1 42
พนักงานมีสิทธิย่ืนคําขอใหคณะกรรมการสวัสดิการแรงงานพิจารณา ภายในสามสิบวันนับแตวันที่บริษัทยายสถานประกอบการวาเปนกรณีที่บริษัทตอง บอกลวงหนาหรือพนักงานมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจางโดยมีสิทธิไดรับคาชดเชยพิเศษ หรอื ไม การจดั สวัสดิการใหกับพนกั งานในบรษิ ัท บริษทั ไดเลง็ เห็นถึงความสาํ คัญของการจัดสวัสดิการตางๆ ใหกับพนักงาน ทั้งนี้ หากบริษัทใดมี การจัดสวัสดิการที่ดีใหกับพนักงานไมวาจะเปนในดานใดก็ตามจะเปนแรงผลักดันอันสําคัญอีกสวนหนึ่ง นอกเหนือจากในเรื่องของคาตอบแทนที่จะกระตุนจูงใจใหกับพนักงานมีความรูสึกทัศนคติอันดีและรักใน องคกร อีกทั้งยังเปนสวนที่ชวยใหพนักงานทุกคนมีขวัญกําลังใจในการปฏิบัติหนาท่ีของตนไดอยางเต็ม ศกั ยภาพและมีความสุข สําหรับในกลมุ ของบริษัทศรีตรัง ไดมีการจัดสวัสดิการใหกับพนักงานในหลายๆดานไมวาจะเปน เรื่องของการประกันสุขภาพ การประกันอุบัติเหตุ การใหความชวยเหลือการจัดการงานศพเม่ือพนักงาน เสยี ชีวิต การจัดสวัสดกิ ารบานพักพนักงาน เปนตน ซึ่งในคูมือพนักงานฉบับนี้จะไดกลาวไวโดยสรุป หากมี ขอสงสยั ใดๆ สามารภศึกษาขอ มลู เพิ่มเตมิ ไดจ ากคูมือและระเบยี บท่ีไดกําหนดไวในแตละเรื่องของสวัสดิการ น้ันๆ โดยอาจมีการพิจารณาแกไขปรับปรุง หรือเพิ่มเติมใหเหมาะสมกับสภาพการณไดในโอกาสตอไป ซึ่ง บรษิ ทั จะประกาศใหท ราบเปน กรณีไป ดานกองทนุ ประกนั ประกันสงั คม 1. วัตถปุ ระสงค เพอื่ เปน กองทนุ ใหห ลักประกนั แกผปู ระกนั ตนใหไดรับประโยชนทดแทน เมื่อตองประสบอันตราย เจบ็ ปว ยทพุ พลภาพหรอื ตาย ซ่ึงไมใ ชเ นือ่ งจากการทาํ งาน รวมทั้งกรณคี ลอดบุตร สงเคราะหบุตร ชราภาพ และกรณีวางงาน 43
2. การเรียกเกบ็ เงินสมทบ สํานักงานและกันสงั คมจัดเกบ็ เงินสมทบเขา กองทนุ ประกนั สังคมจาก 3 ฝา ย คือ 1.นายจา ง 2.ลูกจา ง 3.รัฐบาล โดยใหนายจางเปนผูมีหนาท่ีหักเงินสมทบของลูกจางนําสงประกันสังคมเปนประจําทุกเดือนซ่ึง ฐานคาจางที่คํานวณยึดตามหลักเกณฑท่ีสํานักงานประกันสังคมกําหนดเอาไวระหวางคาจางขั้นต่ํา 1,650 บาท และไมเกนิ 15,000 บาทตอเดอื น โดยคาํ นวณเปนรอ ยละทก่ี าํ หนดในแตล ะปปฏิทนิ 3. หลักเกณฑในการเกิดสิทธิ ลกู จา งจะไดรับสิทธิก็ตอเมือ่ ไดส ง เงนิ สมทบครบตามหลกั เกณฑใ นแตล ะกรณี 4. ประโยชนท ดแทน หมายถึง สทิ ธปิ ระโยชนท ผ่ี ูประกันตนหรือลูกจาง/ผูมีสทิ ธิไดรบั มี 7 กรณี 1) ประโยชนท ดแทนกรณปี ระสบอนั ตราย หรอื เจ็บปว ย 2) ประโยชนทดแทนกรณีคลอดบุตร 3) ประโยชนท ดแทนกรณีทพุ พลภาพ 4) ประโยชนทดแทนกรณเี สียชวี ติ 5) ประโยชนท ดแทนกรณีสงเคราะหบ ุตร 6) ประโยชนท ดแทนกรณีชราภาพ 7) ประโยชนทดแทนกรณีวา งงาน 5. เงอื่ นไขการไดรับเงินทดแทน 5.1 กรณีประสบอนั ตราย หรอื เจ็บปว ย อนั มใิ ชเน่ืองจากการทํางาน เงือ่ นไข ไดร ับสิทธกิ ต็ อเม่อื สง เงินสมทบครบ 3 เดอื น ภายในระยะเวลา 15 เดอื น กอ นการเจ็บปว ย สทิ ธิ • คา บรกิ ารทางการแพทย กรณีเขารับการรักษาในสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิหรือ สถานพยาบาลเครือขาย ไมตองเสียคาใชจายใด ๆท้ังสิ้น จนสิ้นสุดการ รกั ษา 44
กรณีเขารักษาพยาบาลลักษณะเจ็บปวยฉุกเฉิน ยังสถานพยาบาลอ่ืนผู ประกันตนสามารถเบิกคารักษาพยาบาลท่ีเกิดขึ้นจริงตามความจําเปน ภายในระยะเวลาไมเกิน 72 ชั่วโมง นับแตเวลาท่ีผูประกันตนเขารับการ รักษาพยาบาลคร้ังแรก (ไมรวมวันหยุดราชการ) ตามประเภทและอัตรา การจายคา บริการทางการแพทย เบกิ ไดไ มจ ํากัดจาํ นวนครง้ั ประเภทผปู ว ยนอก จายคา รกั ษาพยาบาลท่จี า ยจรงิ แตไ มเกนิ วนั ละ 1,000 บาท คาตรวจวิเคราะหทางหองปฏิบัติการ เชนคาตรวจเลือด คา เอ็กซเรย ครั้งละไมเ กิน 200 บาท คาหัตถการจากแพทย เชน เย็บแผล เขาเฝอก ไมเกินคร้ังละ 200 บาท ประเภทผูป วยใน จา ยคารกั ษาพยาบาลทีจ่ า ยจรงิ แตไ มเ กนิ วันละ 2,000 บาท กรณีจําเปนตองผาตัดใหญ ใชระยะเวลาในการผาตัดไมเกิน 1 ชั่วโมงจายตามจํานวนท่ีจายจริงไมเกิน 8,000 บาท ตอการ เจบ็ ปว ยแตละครงั้ กรณจี ําเปนตอ งผาตัดใหญ ใชระยะเวลาในการผาตัดไมเกิน 2 ชวั่ โมง จา ยตามจํานวนที่จายจริงไมเกิน 12,000 บาท ตอการ เจบ็ ปวยแตล ะคร้ัง กรณีจําเปนตองผาตัดใหญ ใชระยะเวลาในการผาตัดเกิน 2 ช่วั โมง จา ยตามจริงไมเกนิ 16,000 บาท ตอ การเจ็บปวยแตละ คร้งั จายคา หอ ง คาอาหาร ตามจํานวนที่จายจริงไมเกินวันละ 700 บาท กรณีมคี วามจําเปนตอ งรับการรักษาพยาบาลในหอง ICU จาย คารักษาพยาบาลเพ่ิมตามความจําเปนไมเกินวันละ 4,500 บาท กรณีมีการตรวจรักษาดวยเทคโนโลยีขั้นสูงไดแก CT-Scan จายตามจํานวนท่ีจายจริงไมเกิน 4,000 บาท และ MRI จาย ตามจาํ นวนทจ่ี ายจริงไมเกิน 8,000 บาทตอการเจ็บปวยแตละ ครง้ั กรณีมีความจําเปนตองสงตัวผูปวยไปตรวจวินิจฉัยหรือสง ตอไปยังสถานพยาบาลอื่น สถานพยาบาลมีสิทธิ เบิกคา พาหนะไดตามอตั ราทีก่ ําหนด กรณีอบุ ัติเหตุฉกุ เฉิน เขา รับการรักษายังสถานพยาบาลอ่ืน ผูประกันตน สามารถเบิกคารักษาพยาบาลท่ีเกิดข้ึนจริงตามความจําเปนภายใน ระยะเวลาไมเกิน 72 ช่ัวโมง นับตั้งแตเวลาที่ผูประกันตนเขารับการ 45
รักษาพยาบาลคร้ังแรก(ไมรวมวันหยุดราชการ) โดยไมจํากัดจํานวนคร้ัง ตามหลักเกณฑเ ดียวกบั กรณีเจบ็ ปวยฉุก กรณที นั ตกรรม มีสิทธิไดรับคาบริการทางการแพทย 3 กรณี คือ กรณี อุดฟน ถอนฟน และขูดหินปูน เทาที่จายจริงตามความจําเปนแตไมเกิน 900 บาทตอ ป กรณีฟอกเลือดดวยเคร่ืองไตเทียม ผูประกันตนท่ีเจ็บปวยดวยโรคไต วายเรอ้ื รงั ระยะสดุ ทาย มสี ิทธไิ ดร ับบริการทางการแพทย โดยการบําบัด ทดแทนไต เงินทดแทนการขาดรายได กรณีหยุดงานตามใบรับรองแพทยแผน ปจ จุบนั ชั้นหนึง่ ผูป ระกันตนมีสิทธิไดรับเงินทดแทนการขาดรายไดรอยละ 50 ของคาจางครั้งละไมเกิน 90 วัน ปละไมเกิน 180 วัน เวนแตโรค เรื้อรงั ไมเ กนิ 365 วัน แตท้ังนี้จะไดรับสิทธิก็ตอเม่ือสิ้นสุดการจายเงินคา ลาปวยจากนายจา ง แลว เทานัน้ คาอุปกรณในการบําบัดรักษาโรค กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือสูญเสีย สมรรถภาพของอวยั วะบางสวน จะไดรับคาอปุ กรณใ นการบําบัดรักษาโรค เชน เลนสเทียม ไมเทา คา้ํ ยันฯ ตามประเภทและอัตราท่กี ําหนด คา ฟน ฟสู มรรถภาพ กรณีฟน ฟูสมรรถภาพภายหลังการประสบอันตราย หรอื เจ็บปว ย จะไมไดร บั สทิ ธิตามกฎหมาย ข้นั ตอนปฏบิ ัติ >> กรณีเขา รับการรกั ษาพยาบาล 1. เขารักษาพยาบาลตามบัตร และสถานพยาบาลเครือขาย ใหยื่นหลักฐานบัตรรับรองสิทธิ และ บัตรประจําตัวประชาชนใหกับสถานพยาบาลตามบัตร สถานพยาบาลดังกลาวจะใหการรักษา โดยไมต อ งเสียคาใชจ า ยใดๆ ทัง้ ส้ิน 2. เขาสถานพยาบาลอ่ืน(กรณีเจ็บปวยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ) ยื่นหลักฐานสําเนาบัตรรับรองสิทธิ และสําเนาบัตรประจําตัวประชาชน ใหกับสถานพยาบาลนั้นและรีบดําเนินการแจงไปยัง สถานพยาบาลตามบตั รภายใน 72 ชั่วโมงแรก(ไมนบั รวมวนั หยดุ ราชการ) 3. ตามขอ 2 หากผูประกันตนสํารองจายคารักษาพยาบาลไปกอนแลว สามารถเบิกคา รักษาพยาบาลคืนจากสํานักงานประกันสังคมไดตามหลักเกณฑท่ีกําหนด ใหนําหลักฐาน ใบรับรองแพทย ใบเสร็จรับเงิน สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนและสําเนาบัตรประกันสังคม ดําเนนิ การเบกิ เงนิ คนื กบั สาํ นักงานประกนั สังคมภายหลงั ตามหลกั เกณฑที่กาํ หนด >> กรณขี อรบั เงนิ ทดแทนการขาดรายไดจากประกนั สังคม 46
Search