Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Nutri-Note

Nutri-Note

Published by Nutrinote, 2019-12-02 05:42:55

Description: Nutri-Note

Search

Read the Text Version

Nutri-note Afeenee Aleekae 5920310296 Nutrition and dietetics

สารบญั เร่ือง หนา้ ศัพทท์ างการแพทย์ 2 A 2 B 2 C 2 D 3 E 3 F 3 G 3 H 3 I 3 J 4 L 4 M 4 N 4 O 4 P 4 R 5 S 5 T 5 U 5 V 6 W 6 6 Screening and assessment tool 6 Screening tool 7 MST 8 NRS

MUST 9 SNAQ 10 Assessment tool 10 การแปลผลเคร่อื งมอื คดั กรองและประเมนิ ภาวะโภชนาการ 17 การคานวณพลังงาน 19 Resting Energy Expenditure (joint FAO/WHO/UNU) 19 BMR คานวณจาก Schofield Equations 19 Classifications of nutritional status 19 Overweight and obesity 20 การคานวณพลงั งานอยา่ งง่ายจากดัชนมี วลกายเทียบกับระดบั กิจกรรม 20 BMI ผ้สู ูงอายุ 21 คานวณIBWอย่างง่าย 21 น้าหนักทีล่ ดลงโดยไมไ่ ด้ตัง้ ใจ (%weight loss) 21 การคานวณพลังงานอาหารทางหลอดเลือดดา 22 ขอ้ บง่ ชใี้ นการใชอ้ าหารทางหลอดเลอื ดดา 22 การให้สารอาหารผ่านทางหลอดเลอื ดดาใหญ่ (TPN) 22 การใหส้ ารอาหารทางหลอดดาส่วนปลาย (PPN) 22 ปริมาณความต้องการไขมัน 23 ความตอ้ งการโปรตีนและพลงั งานในผู้ใหญ่ 23 โปรตนี 23 พลงั งาน 24 Diabetes mellitus 25 คา่ ในการวนิ จิ ฉยั และเปา้ หมายในการตดิ ตามโรคเบาหวาน 25 ตารางการแปลผลระดบั พลาสมากลูโคสและ A1C เพอื่ การวนิ จิ ฉัย 25 เปา้ หมายในการติดตามโรคเบาหวาน 26 เป้าหมายในการควบคมุ ระดบั นา้ ตาลในเลือดสาหรับผูป้ ่วยเบาหวานสงู อายุ และผ้ปู ่วยระยะสุดท้าย 26 การตรวจวินิจฉยั โรคและตรวจคดั กรองเบาหวานขณะตงั้ ครรภ์ 26 เกณฑ์ของ Carpenter และ Coustan 26

เป้าหมายของระดบั น้าตาลในเลือดของผูป้ ่วยเบาหวานขณะตั้งครรภ์ 27 การตรวจระดับน้าตาลในเลอื ดด้วยตนเอง 27 27 ขอ้ บ่งชกี้ ารทา SMBG 27 ความถ่ขี องการทา SMBG ความถ่ขี องการทา SMBG 29 กาหนดคาร์บในแต่ละมื้อสาหรบั หญิงตัง้ ครรภ์ (GDM) 29 Nutrient or food type 29 recommendation 29 Meal planning tips 30 ความรุนแรงของภาวะน้าตาลต่าในเลอื ด 30 ภาวะนา้ ตาลต่าในเลือดระดับไมร่ นุ แรง ให้กนิ อาหารท่มี คี าร์โบไฮเดรต 15 กรัม 30 ภาวะน้าตาลต่าในเลอื ดระดับปานกลาง ให้กินอาหารทม่ี ีคารโ์ บไฮเดรต 30 กรมั 33 ศพั ท์ทางเภสชั จลนศาสตร์ (Pharmacokinetic) 34 Hypertension 34 ค่าในการวินิจฉยั ความดันโลหิตสูง 34 ตารางการจาแนกโรคความดนั โลหิตสูงตามความรุนแรงในผู้ใหญ่อายุ18 ปี ข้นึ ไป 35 DASH diet 36 ตัวอย่างการจดั อาหารแบบ DASA Diet 38 เปา้ หมายการควบคมุ ปัจจยั เสีย่ งของภาวะแทรกซอ้ นท่หี ลอดเลอื ด 39 Classification of Blood Cholesterol Levels 39 ค่าทีใ่ ชใ้ นการติดตาม 40 CKD 40 การแบง่ ระยะของCKD 40 พยากรณโรคไตเร้อื รงั ตามความสัมพนั ธของ GFR และระดบั อัลบมู ินในปสสาวะ 41 โภชนาการสาหรบั ผูป้ ว่ ยโรคไต 44 การคานวณพลงั งานจากนา้ ยาล้างไตผ่านชอ่ งท้อง CAPD 45 อาหารคโี ตเจนิค (Ketogenic diets) 46 ภาวะนา้ ตาลในเลอื ดสูงชนิด Diabetic ketoacidosis 46 อาการและอาการแสดง

สาเหตุ 46 การดแู ลรกั ษาเม่อื ผ่านพน้ ภาวะ DKA 47 ข้อควรปฏบิ ัตเิ พอ่ื ปอ้ งกันกระดกู หกั เน่อื งจากกระดูกพรุน (Fracture liaison service : FLS) 49 ตวั อย่างอาหารที่มแี คลเซยี ม 49 ธาลัสซีเมยี (Thalassemia) 50 อาหารท่ีเหมาะสมสาหรับผู้ปว่ ยโรคธาลัสซีเมีย 50 อาหารทค่ี วรหลีกเลย่ี งสาหรับผปู้ ่วยโรคธาลัสซีเมีย 50 ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่มปี รมิ าณธาตุเหล็กสงู 50 ผลิตภัณฑ์จากธญั พชื และเหด็ ทม่ี ีปรมิ าณธาตเุ หลก็ สูง 51 ชนดิ /สูตรนมผงเด็กตามวัย 51 Percent of free water in enteral formulas 52 Drug and food interaction 53 Effect of drug on food intake 53 Drug that may increase apatite 53 Drug can decrease nutrition absorption 53 Drug can increase a loss of a nutrition 53 Effect of food or drug intake 54 Absorption Distribution 54 แหลง่ ของสารอาหาร 56 ปริมาณฟอสฟอรสั ในอาหาร 56 ปรมิ าณโพแทสเซยี มในอาหาร 58 ปริมาณแคลเซยี มในอาหาร 59 ปรมิ าณแมกนเี ซียมในอาหาร 60 ปริมาณคอเลสเตอรอลในอาหาร 61 ปริมาณโซเดียมในอาหาร 63

categories company Name Caloric distribution (%) Co CHO PRO FAT CH 11.2 fresenius kabi Fresubin 45 20 35 14 15.6 abbott Ensure 56 15 29 11. 12. abbott Jevity 62.72 16.32 31.68 12. 13.7 polymeric formula Nestle Boost optimum 46.8 16.8 36 11.2 10.7 Nestle Nutren-fibre 50 16 34 11.2 8.2 Nestle Isocal 50 13 37 11.8 13.1 Thai-otsuka Blendera-MF 54.88 16.28 29.79 15. 12.4 Nestle Nutren-balance 45 15 40 12.4 13.2 abbott GlucernaSR triple care 43 20 37 15.2 8.7 diabetic abbott GlucernaSR triple care 45 20 35 10.6 abbott Glucerna liquid 33 18 49 12. Thai-otsuka ONCE PRO 47.4 19.52 40.05 Thai-otsuka Gen-DM 52.56 16.92 30.51 disease- hepatic Thai-otsuka Aminoleban-oral 61.6 25.6 15.3 specific Thai-otsuka Neo-mune 49.72 24.6 25.65 immuno- Neo-mune 49.72 24.64 25.74 modulatin Thai-otsuka oral-impact 53 22 25 Prosure 61 21 18 g Nestle abbott renal abbott Nepro 35 18 47 semi- Thai-otsuka Pan-Enteral 42.72 12 45.27 elemental Nestle Peptamen 50 16 34

omposition (g/100kcal) Electrolyte and 1 micronutrients (mg or HO PRO FAT Na mEq/1K00kcal) P Remark 25 5 3.89 30 80 60 4 3.75 3.22 84.35 156.52 54.78 2kcal fiber drink 68 4.08 3.52 94.56 159.52 60.96 fiber and FOS 1.7 4.2 4 37 120.6 47 mixed fiber and FOS 2.5 4 3.78 74.40 107.60 49.20 synbiotic added 2.5 3.25 4.2 50 125 50 72 4.07 3.31 78.35 108.76 55.72 prebiotic 25 3.75 4.44 87.00 126.00 68.00 only for tube feeding | fiber free 75 5 4.11 93.78 164.44 74.67 25 5 3.89 98.21 154.71 61.88 FOS 25 4.5 5.44 93.20 156.00 72.00 fructose free | high soluble fiber 85 4.88 4.45 97.4 162.5 66.5 14 4.23 3.39 70.11 130.46 50.14 oral/ feeding (powder) 5.4 6.4 1.7 22.6 77.1 39.9 only for oral (liquid in box) 43 6.15 2.85 78.49 99.32 22.43 oral/ feeding (liquid in can) 43 6.16 2.86 78.61 99.46 22.46 whey PRO | omega-3,6,9 25 5.5 2.78 105.94 132.67 71.29 25 5.25 2 119.05 158.73 83.49 FOS | plant-based 75 4.5 5.22 58.82 58.82 40 BCAA 68 3 5.03 44 110.46 43 2.5 4 3.78 67.97 89.45 55.86 Vanilla flavor melon flavor 100% whey | tropical fruit energy dense for dialysis | high protein | low Na, K, P whey pro 100% | MCT:LCT = 70:30

2 ศพั ท์ทางการแพทย์ A โรคหัวใจเตน้ ผิดจงั หวะ ไมส่ ม่าเสมอ โรคหอบหืด Atrial Fibrillation (AF) การดแู ลกอ่ นคลอด(การฝากครรภ)์ Asthma โรคภูมแิ พ้,แพ้ Ante natal care (ANC) ลาไส้อักเสบฉับพลนั Allergy ภาวะเลอื ดเป็นกรด Acute Gastroenteritis (AGE) ไตวายฉับพลนั Acidosis โรคหลอดเลอื ดแดงหัวใจแข็ง Acute Renal Failure (ARF) Atherosclerotic heart disease B แผลไหม้ ไดร้ ับการกระแทกทห่ี น้าอก Burns Blunt chest ความดันโลหิต Blood pressure (BP) โรคต่อมลกู หมากโต Benign Prostatic Hyperplasia (BPH) ปมประสาท ท่ีมีหน้าท่ีเก่ียวข้องกับการสั่งการการเคล่ือนไหวของ Basal ganglia รา่ งกาย การเรียนรู้ การตดั สนิ ใจและกจิ เก่ยี วกับอารมณ์ความร้สู ึก C C-Spine injury การบาดเจ็บทกี่ ระดูกต้นคอ Crushing การบดทบั Concussion สมองกระทบกระเทือน Coma ภาวะหมดสติ ไม่รูส้ ึกตวั Complication โรคแทรกซ้อน Cesarian Section (C/S) การผา่ คลอด Chief Complaint (CC) ประวัตสิ าคญั ทม่ี าโรงพยาบาล Computed Tomography (CT) การตรวจเอก็ ซเ์ รยค์ อมพิวเตอร์ Cerebrovascular Accident (CVA) โรคทางหลอดเลือดสมอง Constipation ทอ้ งผกู Coronary Care Unit (CCU) หออภิบาลผูป้ ว่ ยหนกั เฉพาะโรคหัวใจ Colonic polyp ต่งิ เนอ้ื ทลี่ าไสใ้ หญ่ Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis (CAPD) การลา้ งไตทางช่องทอ้ งชนดิ ต่อเนอ่ื งด้วยตนเอง CTF (Capture the fracture) เปน็ โครงการดูและผปู้ ว่ ยโรคกระดูกหักจากโรคกระดูกพรนุ โดย ทีมสหวิชาชพี ปัจจบุ นั ใช้คาวา่ FLS (Fracture Liaison service)

D 3 Dyslipidemia (DLD) Diagnosis (Dx) โรคไขมนั ในเลอื ดสูง Dyspnea การวินิจฉยั โรค Discharge หอบเหนอื่ ย ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลแลว้ E Emergency room (E.R) ห้องฉุกเฉนิ F การแตกหกั ของกระดูก Fracture กระดกู ตน้ ขาหกั Fracture Femur นัดตรวจตดิ ตามอาการ Follow up (F/U) ประวัตกิ ารเจ็บป่วยของคนในครอบครวั Family history (FH) ลกั ษณะภายนอกทั่วไป G เปน็ ความผดิ ปกติของภาษาพูด เกิดจากพยาธิสภาพที่สมอง General Appearance (GA) ผ้ปู ่วยจะพูดไมค่ ล่อง ไมช่ ัดและมีปัญหาเร่อื งความเข้าใจ Global aphasia การได้รบั บาดเจบ็ ทศี่ ีรษะ H หอ้ งลา้ งไต Head injury ความดนั โลหิตสงู Hemodialysis HT (Hypertension) แผนกรกั ษาผู้ป่วยใน การติดเช้อื I ปริมาณน้าเข้าออกในแตล่ ะวนั In patient Department (IPD) หออภิบาลผู้ป่วยหนักรวม Infection โรคหลอดเลือดสมองตบี หรืออุดตัน Intake/Outtake (I/O) โรคหลอดเลือดสมองแตกจากการฉกี ขาดของหลอดเลอื ดในสมอง Intensive care unit (I.C.U) Ischemic stroke Intracerebal hemorrhage

4 J ดซี า่ น Jaundice L หอ้ งคลอด โรคไตทเ่ี ป็นผลกระทบจากโรค SLE Labour room (L.R) LN (Lupus Nephritis) M อายรุ กรรม ภาวะอ้วนอยา่ งรนุ แรง Medication (MED) Morbid obesity N Nervous System (N/S) สญั ญาณชีพทางระบบประสาท Not applicable (N/A) ไม่มีขอ้ มลู Nephrotic syndrome (NS) ไตอักเสบ Nasogastric Tube (NG Tube) การใส่สายยางทางจมูกถงึ กระเพาะ NASH (Nonalcoholic steatohepatitis) เปน็ ภาวะที่มไี ขมันสะสมในตบั รวมกบั การอักเสบ Non-ST Elevated Myocardial Infarction (NSTEMI) ภาวะหวั ใจขาดเลอื ดเฉียบพลนั O Observe สงั เกตอาการ Orthopedic (ORTHO) กระดูกและขอ้ Out Patient Department (OPD) แผนกผู้ปว่ ยนอก Operating room (O.R) ผ่าตัด ORIF (Open Reduction Internal Fixation) การผ่าตัดกระดูกให้เข้าที่ โดยการตรึงกระดูกท่ีหักด้วย โลหะซง่ึ จะใส่อยู่ภายนอกร่างกายของผ้ปู ่วย P ภาวะลมในช่องปอด Pneumothorax ชีพจร Pulse ความปวด Pain ซดี Pale Physical therapy แผนกกายภาพบาบัด Pharmacy ห้องจา่ ยยา Physical Examination (PE) Past History (PH) การตรวจร่างกาย Present Illness (PI) ประวัติอดีต Physical therapy (PT) ประวัติปัจจุบนั Past medical history (PMH) กายภาพบาบดั ประวตั ิอดตี ของการรกั ษา

5 R R/O สงสัยว่าจะเปน็ S Swelling อาการบวม Surgical (SUR) ศลั ยกรรม (รักษาด้วยการผ่าตัด) Side effect ผลขา้ งเคยี ง Sputum เสมหะ Stress เครียด Surgery ศัลยกรรม Septicemia ติดเชอ้ื ในกระแสเลอื ด SLE (Systemic lupus erythematosus) โรคแพภ้ ูมิตัวเอง Septic shock ภาวะชอ็ กเหตพุ ษิ ติดเช้อื เกดิ ข้นึ หลงั จากการติดเชื้อในกระแส เลอื ด Surgical Intensive Care Unit (SICU) หออภบิ าลผปู้ ว่ ยวกิ ฤตศัลยกรรม ST Elevated Myocardial Infarction (STEMI) ภาวะหวั ใจขาดเลอื ดเฉยี บพลัน SGOT (Serum Glutamic-Oxaloacetic Transaminase) หรอื AST (Aspartate Transaminase) เป็นเอนไซม์ทใี่ ชช้ ว่ ยตรวจภาวะโรคตับ SGPT (Serum glutamate pyruvate transaminase) หรือ ALT (Alanine transaminase) เปน็ เอนไซม์ทใี่ ชช้ ่วยตรวจภาวะโรคตบั T การรักษา การย้ายผ้ปู ว่ ย Treatment การรักษา Transfer การบาดเจ็บที่สมอง Therapy วัณโรค Traumatic Brain Injury (TBI) Tuberculosis U ไม่รู้สกึ ตัว การเกบ็ ปัสสาวะส่งตรวจ Unconscious ลมพษิ Urine analysis Urticaria โรคประจาตัว Underlying disease (U/D) การติดเช้อื ทางเดนิ หายใจสว่ นบน Upper Respiratory Infection (URI) Urinary Tract Infection (UTI) การติดเช้อื ทางเดินปสั สาวะ

6 V สัญญาณชีพ อาเจียน Vital sign (V/S) กลา้ มเนื้อหวั ใจอักเสบจากไวรสั Vomit Viral myocarditis W แผล อ่อนเพลีย Wound ตึกผปู้ ่วย Weak Ward Screening and assessment tool Screening tool อ้างองิ Ferguson et al. (1999) เคร่อื งมอื Rubenstein et al. (2001) Malnutrition Screening Tool (MST) Kondrup et al. (2003) Mini Nutritional Assessment Short-Form (MNA-SF) Stratton et al. (2004) Nutritional Risk Screening (NRS 2002) Kruizenga et al. (2005) Malnutrition Universal Screening Tool (MUST) Chittawatanarat et al. (2016) Short Nutritional Assessment Questionnaire (SNAQ) Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT)

7 MST

8 NRS

9 If the answer is ‘Yes’ to any question, the screening in Table 2 is performed MUST Score BMI 0 >20 1 18.5-20 2 <18.5 Unplanned weight loss in past 3-6 months 0 <5% 1 5-10% 2 >10% 2 If patient is acutely ill and there has been or is likely to be no nutritional intake for >5 days total

10 SNAQ Assessment tool อ้างองิ Detsky et al. (1999) เคร่ืองมอื Guigoz et al. (2001) Subjective Global Assessment (SGA) Ottery et al. (2004) Mini Nutritional Assessment (MNA) Patient generated subjective global assessment (PG- Komindrg et al. (2005) SGA) Chittawatanarat et al. (2016) Nutrition Alert Form (NAF) Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT)

11

12

13

14

15

16

การแปลผลเครือ่ งมือคดั กรองและประเมนิ ภาวะโภชนาการ 17 Screening Tools คะแนน เกณฑ์ No risk of malnutrition Malnutrition Screening Tool (MST) 0-1 Risk of malnutrition ≥2 Normal At risk of malnutrition Mini Nutritional Assessment Short-Form 12-14 (MNA-SF) 8-11 Malnourished Normal 0-7 Nutritionally at-risk Nutritional Risk Screening (NRS 2002) 0-2 Low risk 3 Medium risk High risk Malnutrition Universal Screening Tool 0 (MUST) 1 Well nourished Moderately malnourished ≥2 Severely malnourished Short Nutritional Assessment Questionnaire 0-1 Normal (SNAQ) 2 Nutritionally at-risk ≥3 เกณฑ์ Normal Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT) 0 Mild-Moderate Malnutrition Severe Malnutrition ≥1 Normal Risk of malnutrition Assessment Tools คะแนน Malnutrition Subjective Global Assessment (SGA) A B C Mini Nutritional Assessment (MNA) 24-30 17-23.5 0-16

Screening Tools คะแนน 18 Patient generated subjective global A assessment (PG-SGA) B เกณฑ์ C Normal Nutrition Alert Form (NAF) 0-5 Moderate Malnutrition 6-10 Severe Malnutrition Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT) ≥11 Normal-Mild Malnutrition 0-4 Moderate Malnutrition 5-7 Severe Malnutrition 8-10 Normal ≥11 Mild Malnutrition Moderate Malnutrition Severe Malnutrition

19 การคานวณพลังงาน Resting Energy Expenditure (joint FAO/WHO/UNU) อายุ(ป)ี เพศชาย เพศหญิง 0-3 (60.9xkg)-54 (61.0xkg)-51 3-10 (22.7xkg)+495 (22.5xkg)+499 10-18 (17.5xkg)+651 (12.2xkg)+746 18-30 (15.3xkg)+679 (14.7xkg)+496 30-60 (11.6xkg)+879 (8.7xkg)+829 >60 (13.5xkg)+487 (10.5xkg)+596 -World Health organization. Energy and protein requirements. Geneva: World Health organization, 1985. Technical report Series No. 724. BMR คานวณจาก Schofield Equations อายุ (ปี) เพศชาย เพศหญิง 0-3 0.167W+15.174H-617.6 16.252W+10.232H-413.5 3-10 19.59W+1.303H+414.9 16.969W+1.618H+371.2 10-18 16.25W+1.372H+515.5 8.365W+4.65H+200 W=weight(kg), H=height(cm) -Schofield WN. Predicting basal metabolic rate, new standard and review of previous work. Hum Nutr Clin Nutr 1985; 39 (Suppl 1): 5-41. Classifications of nutritional status ดชั นี Normal Mild Moderate Severe Nutrition status %W/A >90 75-90 60-75 <50 Underweight %W/H >90 80-90 70-80 <70 Wasting %H/A >95 90-95 85-90 <85 Stunting -Gomez F, Galvan RR, Cravioto J, Frenk S. Malnutrition in infancy and childhood, with special reference to kwashiorkor. Adv Prediatr. 1955;7:131-169 -Warelow JC. Classification and definition of protein-calorie malnutrition. Br Med J. 1972;3(5826):566-9.

20 Overweight and obesity วนิ จิ ฉยั โดยใช้เกณฑอ์ า้ งองิ ได้ 2 แบบ 1. ใชก้ ราฟหรอื ตารางค่าอ้างอิง BMI ตามอายุ และเพศขององค์การอนามยั โลก เนื่องจากขณะนยี้ ังไมม่ ี เกณฑอ์ า้ งองิ BMI สาหรับเดก็ ไทย 2. ใช้คา่ น้าหนักตามเกณฑส์ ว่ นสงู %W/H* >110-120 >120-140 >140-160 >160-200 >200 Nutritional Overweight Mild obesity Moderate Severe Morbid status* obesity obesity obesity น้าหนักเกนิ อ้วนเล็กน้อย อว้ นปานกลาง อ้วนมาก อ้วนรุนแรง เปรยี บเทียบกับกราฟ** Overweight Obesity Morbid กรมอนามยั พ.ศ. 2542 เร่ิมอ้วน โรคอ้วน obesity โรคอว้ นรุนแรง * ค่า%W/H เป็น ก ารปร ะ เมิ น คว ามรุ น แรง ขอ ง โ ร คอ้ว น ใน เด็ก ใน ทาง เว ชปฏิบัติ **จากการเปรียบเทียบกับกราฟเกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตของเด็กไทย กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2542 พบวา่ เดก็ ท่ีได้รบั การวนิ ิจฉยั วา่ เป็น “โรคอ้วน” คือ นา้ หนกั ตามเกณฑ์ส่วนสงู มากกว่าค่ามัธยฐาน +3SD จะมี น้าหนักคิดเป็น 135-153 % ของค่า ideal weight for height (W/H) และ +2SD จะมีน้าหนักคิดเป็น 122- 135 %W/H ดังน้นั ถ้าใช้เกณฑเ์ ดมิ ตามตาราง จะทาให้การวนิ ิจฉยั โรคอว้ นในเดก็ ไทยมากเกินกว่าทคี่ วรจะเปน็ อ้างอิงจากแนวทางการดูแลรักษาและป้องกันภาวะโภชนาการเกินในเด็ก ชมรมโภชนาการเด็กแห่ง ประเทศไทย การคานวณพลงั งานอย่างง่ายจากดัชนมี วลกายเทียบกับระดบั กจิ กรรม ดชั นมี วลกาย(BMI) กจิ กรรมเบา กจิ กรรมปานกลาง กจิ กรรมหนัก นา้ หนกั เกนิ 20-25 30 35 นา้ หนกั ปกติ 30 35 40 นา้ หนกั ต่ากว่าเกณฑ์ 30 40 45-50 ท่มี า : สณุ ีย์ ฟงั สงู เนิน (นกั โภชนาการระดับชานาญการ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา)

21 BMI ผสู้ ูงอายุ ภาวะโภชนาการ BMI (kg/m2 ) ผอม 18.5-19.9 ระดับ 1 17.0-18.4 ระดับ 2 16.0-16.9 ระดับ 3 ระดบั 4 <16 18.5-24.9 ปกติ 25.0-29.9 อ้วน 30.0-39.9 ระดับ 1 ระดบั 2 >40.0 ระดับ 3 คานวณIBWอย่างง่าย - ชาย: IBW (kg) = ส่วนสูง (cm) –105 - หญิง: IBW(kg) = ส่วนสูง (cm) - 110 น้าหนกั ทลี่ ดลงโดยไมไ่ ดต้ ั้งใจ (%weight loss) ระยะเวลา 1 สัปดาห์ ลดลง 1-2% 1 เดอื น ลดลง 5% 3 เดือน ลดลง 7.5% 6 เดอื น ลดลง 10%

22 การคานวณพลังงานอาหารทางหลอดเลอื ดดา ความหมายของอาหารทางหลอดเลอื ดดา : เป็นส่วนประกอบทีอ่ ยู่ในรปู ของแร่ธาตุ หรอื สารอาหารก่อนย่อยมา จาก คาร์โบไฮเดรต : นา้ ตาลเดกโตส (dextrose) โปรตีน : กรดอะมโิ น (amino acid) ไขมัน : ไขมันอิมัลชนั (lipid emution) วติ ามิน แรธ่ าตุ และอิเล็คโทรไลต์ อาหารทางหลอดเลือดดา แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท 1. PPN : Peripheral Parenteral Nutrition : การใหส้ ารอาหารผ่านทางหลอดเลือดดาสว่ นปลาย 2. TPN : Total Parenteral Nutrition : การใหส้ ารอาหารผ่านทางเสน้ เลือดดาใหญ่ ขอ้ บ่งช้ีในการใชอ้ าหารทางหลอดเลอื ดดา  ระบบทางเดนิ อาหารไม่ทางาน (non function GI tract) เชน่ severe malabsorbtion , short bowel syndrome  ตอ้ งการใหร้ ะบบทางเดนิ อาหารได้พกั (bowel rest) เช่น Severe Pancreatitis  ผปู้ ่วยมภี าวะทุพโภชนาการอย่างรุนแรง หรอื อยใู่ นภาวะ hypercatabolic state และไม่สามารถ รบั ประทานอาหารทางปากได้มากกวา่ 5 วัน  ผูป้ ว่ ยไมส่ ามารถไดร้ ับสารอาหารเพยี งพอเมอื่ ใชว้ ิธีทางปาก  ผปู้ ่วยทีต่ ับออ่ นอักเสบอย่างรุนแรง  ผ้ปู ่วยทตี่ ดั ตอ่ ลาไส้  ผ้ปู ่วยเสน้ เลือดทีเ่ ลีย้ งลาไสข้ าดเลอื ด  ผู้ป่วยท่ีลาไส้ไมบ่ ีบตัว  ผู้ป่วยที่ลาไส้เล็กอุดตัน  ผู้ปว่ ยทร่ี ะบบทางเดินอาหารทะลุ การให้สารอาหารผ่านทางหลอดเลอื ดดาใหญ่ (TPN)  ส่งอาหารผา่ นทางหลอดเลอื ด femoral lines , internal jugular และ subclavian vein  Peripherally inserted central catheters (PICC) ถูกสอดสายใหอ้ าหารผ่านทาง cephalic และ basilica veins  จะใหส้ ารอาหารผ่านทางเสน้ เลอื ดดาใหญ่ ในกรณีถ้าให้ผ่านทางหลอดเลอื ดดาส่วนปลายเกิดการอัก เสยในระหว่างการรักษา เน่ืองจากคา่ pH , osmolarity และปรมิ าณสารอาหาร การใหส้ ารอาหารทางหลอดดาสว่ นปลาย (PPN)  คาดวา่ ทาการรกั ษาในระยะเวลาสั้น (10-14 วัน)  ความตอ้ งการพลังงานและโปรตีนอยใู่ นระดับปานกลาง  กาหนดคา่ osmolarity อยใู่ นระหวา่ ง <600-900 mOsm/L  ไม่จากดั สารน้า (A.S.P.E.N. Nutrition Support Practice Manual, 2005; p. 94)

23 คารโ์ บไฮเดรท  แหลง่ สารอาหาร : Monohydrous dextrose , Dextrose  คุณสมบตั ิ : เปน็ แหลง่ พลังงาน และเป็นแหล่งทไ่ี ม่มีไนโตรเจน (N2) : 3.4 Kcal/g : Hyperosmolar Coma : ภาวะน้าตาลในเลอื ดสงู มาก ***ปรมิ าณท่ีแนะนา: 2 – 5 mg/kg/min 50-65% of total calories กรดอะมิโน  แหล่งสารอาหาร: Crystalline amino acids - standard or specialty  คุณสมบัติ : 4.0 Kcal/g : กรดอะมิโนจาเป็น EAA(Essential amino acids) 40–50% : กรดอะมิโนไม่จาเป็น NEAA (Non Essential amino acids) 50-60% Glutamine / Cysteine ปริมาณที่แนะนา: 0.8-2.0 g/kg/day 15-20% of total calories ไขมนั  แหล่งสารอาหาร: นา้ มันดอกคาฝอย น้ามนั ถ่ัวเหลือง ไข่  คณุ สมบัติ : เป็นไตรกลเี ซอไรด์สายยาว (Long chain triglycerides) : เป็นสารละลายนอกเซลล์ท่ีมีความเข้มข้นที่น้อยกว่าเซลล์ และเท่ากับเซลล์ (Isotonic or hypotonic) : เปน็ สารอมิ ลั ชัน10 Kcals/g – ปอ้ งกันการขาดกรดไขมันทีจ่ าเปน็  ปริมาณทีแ่ นะนา: 0.5 – 1.5 g/kg/day (not >2 g/kg) 12 – 24 hour infusion rate ปริมาณความตอ้ งการไขมนั  ใหก้ รดไขมันจาเปน็ (Essential amino acids) 4% - 10% kcals หรือ linoleic acid 2% - 4% kcals  โดยทว่ั ไปให้ 500 mL มไี ขมนั 10% 2 ครัง้ ต่อสัปดาห์ หรือให้ 500 mL มีไขมัน 20% 1ครั้งตอ่ สัปดาห์ เพ่ือปอ้ งกัน EFAD(Essential amino acids Deficiency) ***ระดบั ปกติ 25% to 35% of total kcals ***ระดับสงู สุด 60% of kcal หรือ 2 g fat/kg ความต้องการโปรตนี และพลงั งานในผใู้ หญ่ โปรตนี ปกติ 0.8 – 1.0 g/kg Catobolic patients 1.2 – 2 g/kg

24 พลังงาน พลังงานทงั้ หมด 25 – 30 kcal/kg ปรมิ าตรสารนา้ ท่ีควรจะได้รบั 20 – 40 ml/kg แหลง่ ทมี่ า : งานพฒั นาคุณภาพและวิจัย กลุม่ งานโภชนศาสตร์ โรงพยาบาลขอนแก่น

25 Diabetes mellitus ค่าในการวนิ จิ ฉยั และเป้าหมายในการตดิ ตามโรคเบาหวาน ตารางการแปลผลระดบั พลาสมากลโู คสและ A1C เพอื่ การวินิจฉัย โรคเบาหวาน ปกติ ระดับนา้ ตาลในเลอื ดทเี่ พ่ิมความเสย่ี งการ 126 มก./ดล. เป็นเบาหวาน 200 มก./ดล. impaired fasting impaired glucose 200 มก./ดล. 6.5% glucose (IFG) tolerance (IGT) พลาสมากลูโคสขณะอด <100 มก./ดล. 100-125 มก./ดล. - อาหาร (FPG) พลาสมากลูโคสที่ 2 <140 มก./ดล. - 140-199 มก./ดล. ชวั่ โมงหลงั ดม่ื น้าตาล กลูโคส 75 กรัม 2 h-PG (OGTT) พลาสมากลโู คสทีเ่ วลาใดๆ - - - ในผู้ทมี่ อี าการชัดเจน ฮีโมโกลบินเอวันซี (A1C) < 5.7 % 5.7-6.4% *IFG เปน็ ภาวะระดับนา้ ตาลในเลือดขณะอดอาหารผดิ ปกติ *IGT เปน็ ภาวะระดบั น้าตาลในเลอื ดสงู หลงั ได้รับกลูโคส

26 เป้าหมายในการตดิ ตามโรคเบาหวาน - เปา้ หมายการควบคุมเบาหวานสาหรับผใู้ หญ่ การควบคุม เบาหวาน ควบคมุ เข้มงวดมาก เปา้ หมาย ควบคมุ ไม่เขม้ งวด >70-110 มก./ดล. ควบคุมเข้มงวด 140-170 มก./ดล ระดับนา้ ตาลในเลอื ดขณะอดอาหาร ระดบั นา้ ตาลในเลือดหลังอาหาร 2 ชวั่ โมง <140 มก./ดล 80-130 มก./ดล - ระดบั น้าตาลในเลือดสงู สดุ หลงั อาหาร - A1C (% of total hemoglobin) - - <180 มก./ดล <6.5% 7.0-8.0% <7.0% เปา้ หมายในการควบคุมระดบั นา้ ตาลในเลอื ดสาหรบั ผ้ปู ่วยเบาหวานสูงอายุ และผปู้ ่วยระยะสดุ ท้าย สภาวะผปู้ ว่ ยเบาหวานสงู อายุ เปา้ หมายระดบั A1C ผู้มีสขุ ภาพดี ไมม่ ีโรครว่ ม <7% ผมู้ โี รครว่ ม ชว่ ยเหลือตัวเองได้ 7.0-7.5% ผู้ป่วยท่ตี ้องได้รับการชว่ ยเหลอื ไม่เกนิ 8.5% มีภาวะเปราะบาง ไมเ่ กนิ 8.5% มีภาวะสมองเสอ่ื ม หลกี เลีย่ งภาวะน้าตาลในเลือดสงู จนทาให้เกิดอาการ ผปู้ ว่ ยที่คาดวา่ จะมีชวี ิตอยไู่ ด้ไม่นาน การตรวจวนิ ิจฉยั โรคและตรวจคัดกรองเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เกณฑ์ของ Carpenter และ Coustan หญงิ ตง้ั ครรภ์ดื่มนา้ ท่ลี ะลายน้าตาลกลูโคส 100 กรัม (100 gm OGTT) เวลา ระดบั น้าตาลในเลอื ด (มก./ดล.) ก่อนด่ืมน้าตาล 100 กรัม 95 หลังด่ืมน้าตาล 1 ชวั่ โมง 180 หลงั ดื่มนา้ ตาล 2 ชว่ั โมง 155 หลังดม่ื นา้ ตาล 3 ชว่ั โมง 140 *ต้งั แต่ 2 ค่าข้นึ ไปจะถอื ว่าเป็นโรคเบาหวาน ขณะต้ังครรภ์ - เกณฑข์ อง International Diabetes Federation (IDF) หญงิ ตง้ั ครรภ์ดม่ื น้าทีล่ ะลายน้าตาลกลโู คส 75 กรมั (75 gm OGTT) เวลา ระดบั นา้ ตาลในเลอื ด (มก./ดล.) กอ่ นดมื่ น้าตาล 100 กรมั 92 หลงั ดืม่ น้าตาล 1 ชั่วโมง 180 หลังดื่มนา้ ตาล 2 ชว่ั โมง 153 *ต้ังแต่ 1 คา่ ข้นึ ไปจะถอื วา่ เปน็ โรคเบาหวานขณะตง้ั ครรภ์

27 เป้าหมายของระดับนา้ ตาลในเลือดของผูป้ ่วยเบาหวานขณะตง้ั ครรภ์ เวลา ระดับนา้ ตาลในเลอื ด (มก./ดล.) ก่อนอาหารเชา้ อาหารมอ้ื อื่น และก่อนนอน 60-95 หลงั อาหาร 1 ช่ัวโมง <140 หลงั อาหาร 2 ช่วั โมง <120 เวลา 02.00 – 04.00 น. >60 ทม่ี า: แนวทางเวชปฏิบตั สิ าหรบั โรคเบาหวาน 2559 การตรวจระดบั นา้ ตาลในเลอื ดดว้ ยตนเอง ขอ้ บง่ ช้กี ารทา SMBG 1. ผปู้ ่วยเบาหวานทีม่ คี วามจาเปน็ ในการทา SMBG 1.1 ผู้ที่ต้องการคุมเบาหวานอย่างเข้มงวด ได้แก่ ผู้ป่วยเบาหวานท่ีมีครรภ์ (pre-gestational DM) และผปู้ ว่ ยเบาหวานขณะตงั้ ครรภ์ (gestational DM) 1.2 ผปู้ ว่ ยเบาหวานชนิดท่ี 1 1.3 ผูป้ ่วยเบาหวานท่มี ีภาวะน้าตาลต่าในเลอื ดบ่อยๆ หรือ รุนแรง หรือมีภาวะน้าตาลต่าในเลือด โดย ไม่มีอาการเตอื น 2. ผู้ป่วยเบาหวานที่ควรทา SMBG 2.1 ผู้ป่วยเบาหวานชนดิ ที่ 2 ซง่ึ ได้รับการรักษาดว้ ยการฉดี อินซูลิน 3. ผู้ป่วยเบาหวานที่อาจพจิ ารณาให้ทา SMBG 3.1 ผู้ป่วยเบาหวานชนดิ ที่ 2 ซง่ึ ไม่ได้ฉดี อินซูลินแตเ่ บาหวานควบคุมไม่ได้ พิจารณาให้ทา SMBG เมื่อ ผปู้ ว่ ย และ/หรือผูด้ แู ลพรอ้ มท่จี ะเรยี นรู้ ฝกึ ทกั ษะ และนาผลจาก SMBG มาใช้ปรับเปล่ยี น พฤติกรรม เพอื่ ควบคมุ ระดบั นา้ ตาลในเลอื ดใหไ้ ดต้ ามเปา้ หมาย 3.2 ผู้ที่เพ่ิงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน เพื่อเรียนรู้ในการดูแลตนเองทั้งเรื่องอาหาร การออก กาลงั กาย หรอื ได้ยาลดระดับน้าตาลในเลอื ดใหเ้ หมาะสมกับกจิ วตั รประจาวัน ความถ่ขี องการทา SMBG ความถี่ของการทา SMBG 1. ผู้ปว่ ยเบาหวานระหวา่ งการต้ังครรภค์ วรทา SMBG ก่อนอาหารและหลงั อาหาร 1 หรือ 2 ช่วั โมง ท้ัง 3 มอื้ และก่อนนอน (วันละ 7 ครั้ง) อาจลดจานวนคร้งั ลงเมอ่ื ควบคุมระดบั น้าตาลในเลือดไดด้ ี 2. ผปู้ ว่ ยเบาหวานชนดิ ท่ี 1 ทไี่ ดร้ บั การรกั ษาด้วย insulin pump ควรทา SMBG วนั ละ 4-6 ครง้ั 3. ผู้ป่วยเบาหวานท่ีฉีดอินซูลินต้ังแต่ 3 คร้ังขึ้นไป ควรทา SMBG ก่อนอาหาร 3 มื้อทุกวัน ควรทา SMBG กอ่ นนอน และหลังอาหาร 2 ชม.เปน็ ครั้งคราว หากสงสัยว่ามีภาวะน้าตาลต่าในเลือดกลางดึก หรือมี ความเส่ยี งท่จี ะเกดิ ควรตรวจระดับนา้ ตาลในเลอื ดชว่ งเวลา 02.00-04.00 น. 4. ผู้ป่วยเบาหวานท่ีฉีดอินซูลินวันละ 2 คร้ัง ควรทา SMBG อย่างน้อยวันละ 2 คร้ัง โดยตรวจก่อน อาหารเช้าและเย็น อาจมีการตรวจก่อนอาหารและหลังอาหารมื้ออ่ืนๆ เพื่อดูแนวโน้มการ เปลยี่ นแปลงของ ระดับน้าตาลในเลือด และใชเ้ ปน็ ข้อมลู ในการปรบั ยา 5. ควรทา SMBG เมื่อสงสยั ว่ามภี าวะนา้ ตาลตา่ ในเลือดและหลังจากให้การรักษาจนกว่าระดับน้าตาล ใน เลือดจะกลบั มาปกตหิ รือใกลเ้ คยี งปกติ

28 6. ควรทา SMBG ก่อนและหลังการออกกาลังกาย หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น การขับรถ ในผู้ป่วย เบาหวานที่ไดร้ บั ยาซึ่งมีความเสี่ยงท่ีจะเกิดภาวะนา้ ตาลตา่ ในเลอื ด 7. ในภาวะเจ็บป่วยควรทา SMBG อย่างน้อยวันละ 4 ครั้ง ทุก 4 ถึง 6 ช่ัวโมง หรือก่อนมื้ออาหาร เพื่อ ค้นหาแนวโน้มทจี่ ะเกดิ ภาวะนา้ ตาลตา่ ในเลอื ดหรือระดับน้าตาลในเลือดสูงเกนิ ควร 8. ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดท่ี 2 ซ่ึงฉีดอินซูลินก่อนนอน ควรทา SMBG ก่อนอาหารเช้าทุกวันหรืออย่าง น้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ในช่วงที่มีการปรับขนาดอินซูลิน อาจมีการทา SMBG ก่อนและหลังอาหารม้ือ อ่ืนๆ สลับกัน เพ่ือดูแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของระดับน้าตาลในเลือด ถ้ายังไม่ได้ค่า A1C ตาม เปา้ หมาย ทม่ี า: แนวทางเวชปฏบิ ัตสิ าหรับโรคเบาหวาน 2559

29 กาหนดคาร์บในแตล่ ะมอ้ื สาหรับหญิงตง้ั ครรภ์ (GDM) Nutrient or food type recommendation Meal planning tips Energy Intake should be sufficient to promote Include 3 small- to moderate sized Carbohydrate adequate , but not excessive , weight meals and 2-4 snacks. Space snacks and Protein gain to support fetal development and meals least 2 hours apart. A bedtime to avoid ketonuria . Daily minimum of snack ( or even a snack in the middle of Fat Sodium 1700-1800 kcal is an appropriate starting the night) is recommended to diminish Fiber goal of hours fasting. Non-nutritive sweeteners A minimum of 175 g CHO daily , allowing Common carbohydrate guidelines : 2 Vitamins and mineral for the approximately 33 needed for carbohydrate choices (15-30 g) at Alcohol fetal brain development. breakfast , 3-4 choices (45-60g) for Recommendations are based on effect lunch and evening meal, 1-2 choices of intake on blood glucose levels. Intake (15 to 30 g) for snacks. should be distributed throughout the Recommendations should be modified day. Frequent feedings, smaller portions, based on individual assessment and with intake sufficient to avoid ketonuria. blood glucose self-monitoring test 1.1 g/kg results. Protein foods do not raise post-meal blood glucose levels. Add protein to meals and snacks to help provide enough calories and to satisfy appetite. Limit saturated fat. Fat intake may be increased because of increased protein take; focus on leanerprotein choices. Not routinely restricted For relief of constipation , gradually Use whole grains and raw fruits and increase intake and increase fluids. vegetables.Activity and fluids help relieve constipation. Use only FDA-approved sweeteners. Saccharin crosses the placenta but has not been shown to be harmful Preconception folate . Assess for specific Take prenatal vitamin, if it causes individual need : multivitamin throughout nausea,try taking at bedtime. pregnancy ,iron at12 weeks, and calcium, especially in the last trimester and while lactating Avoid all alcohol even in cooking

30 ความรุนแรงของภาวะนา้ ตาลต่าในเลือด ระดับ 1 (level 1) glucose alert value หมายถงึ ระดบั นา้ ตาลในเลือดท่ี 70 มก./ดล. ระดบั 2 (level 2) clinically significant hypoglycemia หมายถึง ระดับนา้ ตาลในเลอื ด ท่ี <54 มก./ดล. ระดบั 3 (level 3 ) ภาวะน้าตาลต่าในเลอื ดระดับรุนแรง หมายถงึ การทผ่ี ปู้ ว่ ยมอี าการสมองขาด กลโู คสที่ รุนแรง (severe cognitive impairment) ซง่ึ ต้องอาศัยผอู้ ื่นช่วยเหลือ ภาวะน้าตาลตา่ ในเลอื ดระดับไมร่ นุ แรง ใหก้ นิ อาหารทม่ี ีคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม  กลโู คสเม็ด 3 เมด็  น้าสม้ ค้นั 180 มล.  น้าอัดลม 180 มล.  น้าผึ้ง 3 ช้อนชา  ขนมปงั 1 แผ่นสไลด์  นมสด 240 มล.  ไอศกรีม 2 สคปู  ข้าวตม้ หรือ โจก๊ ½ ถ้วยชาม  กล้วย 1 ผล ภาวะนา้ ตาลต่าในเลอื ดระดบั ปานกลาง ให้กนิ อาหารทม่ี คี ารโ์ บไฮเดรต 30 กรัม  ผู้ป่วยเบาหวานทม่ี สี ายกระเพาะอาหาร หรือสาย PEG สามารถใหน้ ้าหวาน นา้ ผลไม้ สารละลาย กลูโคสหรืออาหารเหลวท่ีมคี าร์โบไฮเดรต 15-30 กรัม ทางสายกระเพาะอาหาร หรือสาย PEG ได้  ตดิ ตามระดับกลูโคสในเลือดโดยใช้เครื่องตรวจน้าตาลในเลือดชนดิ พกพา หรอื point-of-care device (ถ้าสามารถทาได)้ ที่ 15 นาที หลงั กนิ คาร์โบไฮเดรตครงั้ แรก กินอาหารท่ีมีคาร์โบไฮเดรต 15 กรมั ซ้า ถา้ ระดบั กลโู คสในเลอื ดที่ 15 นาที หลังกินคาร์โบไฮเดรตครั้งแรกยงั คง <70 มก. /ดล. ทมี่ า : แนวทางเวชปฏิบัติสาหรบั โรคเบาหวาน 2560 Clinical Practice Guideline for Diabetes 2017

ยาอนิ ซลู ินและเภสัชศาสตรข์ องอนิ ซลู นิ

31



32 (ภวินท์พล โชติวรรณวริ ชั , 2559)

33 ศพั ทท์ างเภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetic) 1. Onset คอื ระยะเวลาตง้ั แต่ให้ยาไปจนกระทง่ั ถงึ ยาเริ่มออกฤทธ์ิ 2. Peak คือ ระยะเวลาตั้งแต่ใหย้ าไปจนถึงระดบั สูงสดุ ของยา ชว่ ง peak เปน็ ช่วงท่ีตอ้ งกังวลกบั การเกดิ hypoglycemia ใหม้ าก 3. Duration คือระยะเวลาท่ยี าออกฤทธิ์ท้ังหมด

34 Hypertension คา่ ในการวนิ จิ ฉัยความดนั โลหิตสงู ตารางการจาแนกโรคความดนั โลหิตสงู ตามความรนุ แรงในผู้ใหญอ่ าย1ุ 8 ปี ขน้ึ ไป Category SBP DBP (มม.ปรอท) (มม.ปรอท) Optimal < 120 และ < 80 Normal 120-129 และ/หรอื 80/84 High normal 130-139 และ/หรอื 85-89 Grade 1 hypertension (mild) 140-159 และ/หรือ 90-99 Grade 2 hypertension (moderate) 160-179 และ/หรอื 100-109 Grate 3 hypertension (severe) >180 และ/หรอื >110 Isolated systolic hypertension (ISH) >140 และ < 90 หมายเหตุ:SBP = systolic blood pressure; DBP = diastolic blood pressure. เม่ือความรุนแรงของ SBP และ DBP อยู่ต่างระดับกัน ให้ ถือระดับที่รุนแรงกว่าเป็นเกณฑ์ สาหรับ ISH ก็แบ่งระดับ ความรุนแรง เหมือนกันโดยใช้แต่SBP ท่ีมา:แนวทางการรักษาโรคความดันโลหติ สูงในเวชปฏิบัติทวั่ ไป พ.ศ.2558

35 DASH diet DASH Diet (Dietary Approaches to Stop Hypertension Diet) โดยช่ือ DASH Diet หมายถงึ แนวทาง โภชนาการเพื่อหยุดความดันโลหิตสูง หลักการ : ลดการบรโิ ภคอาหารท่ีมีเกลอื โซเดยี ม ไขมันอิม่ ตัว ไขมนั รวมและคอเรสเตอรอลลง และ เพม่ิ การรับประทานใยอาหาร โปรตนี แคลเซยี ม แรธ่ าตตุ ่างๆอยา่ ง โปแตสเซียมและแมกนเี ซยี ม รวมถงึ ปรมิ าณสารไนเตรททีม่ ีผลการศึกษาถงึ การลดความดันโลหติ สงู ได้ สดั ส่วนการรับประทานอาหารตามหลกั DASH ใน 1 วัน : ชนดิ อาหาร สัดสว่ น ธัญพชื ชนิดต่างๆ โดยเน้นเป็นธญั พืชไมข่ ัดสี 7-8 สว่ นบริโภค (หรือประมาณ 7-8 ทพั พ)ี ผักและผลไม้ อยา่ งละ 4-5 สว่ นบรโิ ภค (หรือประมาณ 4-5 ทัพพี และผลไม้ 3-4 สว่ น) เนื้อสตั ว์ไขมันตา่ อยา่ งเนือ้ ปลา ลดการรับประทานสตั ว์ 2-3 สว่ นบริโภค (หรือประมาณ 4-6 ช้อนกนิ ข้าว) เน้อื แดง การตดั สว่ นไขมันหรือหนงั ของเน้อื สตั วแ์ ละ เลอื กรบั ประทานเน้อื สตั วไ์ ขมนั ตา่ น้ามนั หรอื ไขมัน 2-3 ส่วนบรโิ ภค (หรือไมเ่ กนิ 6 ช้อนชา) ถวั่ ชนดิ ตา่ งๆ เช่น อัลมอนด์ ถว่ั เลนทลิ 4-5 ส่วนบรโิ ภค(หรอื ประมาณ 4-5 ฝา่ มอื )ตอ่ สปั ดาห์ ของหวานชนดิ ต่างๆ ไม่เกิน 5 ส่วนบรโิ ภคตอ่ สปั ดาห์* แนะนาให้ รับประทานนานๆครั้ง แนะนาใหใ้ ช้เคร่อื งเทศหรอื สมนุ ไพรตา่ งๆในการเสรมิ รสชาตอิ าหาร และลดการใชเ้ กลอื หรอื เครือ่ งปรุงที่มี โซเดยี มสงู ในการปรุงแตง่ อาหาร -Mayo Clinic Staff. DASH diet: Healthy eating to lower your blood pressure [online document]. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in- depth/dash-diet/art-20048456. October 3, 2017. -Siervo, M., Lara, J., Chowdhury, S., Ashor, A., Oggioni, C., & Mathers, J. (2015). Effects of the Dietary Approach to Stop Hypertension (DASH) diet on cardiovascular risk factors: A systematic review and meta-analysis. British Journal of Nutrition, 113(1), 1-15. doi:10.1017/S0007114514003341.

36 ตัวอยา่ งการจัดอาหารแบบ DASA Diet

37 ที่มา : national cholesterol Education Program Adult Treatment Panel III, 2001 TLC ยอ่ มาจาก Therapeutic Lifestyle Change Diet เป็นวิธีการดแู ลทางโภชนบาบัดทางการแพทย์วิธีหน่ึง ที่มีประสิทธิภาพในการดแู ลผปู้ ่วยทมี่ ีภาวะไขมันในเลือดผดิ ปกตไิ ด้เป็นอยา่ งดี

38 เป้าหมายการควบคมุ ปัจจยั เสย่ี งของภาวะแทรกซ้อนทห่ี ลอดเลอื ด การควบคมุ /การปฏบิ ตั ิตัว เป้าหมาย ระดับไขมันในเลือด* <100 มก./ดล ระดบั ไขมนั ในเลอื ด ระดับแอล ดี แอลคเลสเตอรอล* <150 มก./ดล. ระดบั ไตรกลเี ซอไรด์ ระดับ เอช ดี แอล คอเลสเตอรอล : ผชู้ าย 40 มก./ดล 50 มก./ดล ผู้หญงิ <140 มม.ปรอท ความดนั โลหติ ** <90 มม.ปรอท ความดนั โลหิตซิสโตลิค (systolic BP) ความดนั โลหิตไดแอสโตลคิ (diastolic BP) 18.5-22.9 กก./ม.² หรือใกลเ้ คยี ง ไม่เกินสว่ นสูงหารดว้ ย 2 น้าหนกั ตัว <90 ซม. ดัชนีมวลกาย <80 ซม. รอบเอวจาเพาะบุคคล (ทงั้ สองเพศ)*** ไม่สบู บุหรแ่ี ละหลีกเล่ียงการรับควันบุหรี รอบเอว : ผชู้ าย ตามคาแนะนาของแพทย์ ผูห้ ญิง การสูบบหุ ร่ี การออกกาลังกาย * ถ้ามีโรคหลอดเลอื ดหัวใจหรือมปี จั จัยเสี่ยงของโรคหลอดเลอื ดหวั ใจหลายอย่างร่วมด้วยควรควบคุมให้ LDL-C ต่ากว่า 70 มก./ดล. ** ผ้ปู ว่ ยทมี่ ีความเส่ียงสงู ต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตซิสโตลิคไม่ควรต่ากว่า 110 มม. ปรอท ผูป้ ว่ ย ทอี่ ายนุ ้อยกว่า 40 ปหี รอื มภี าวะแทรกซ้อนทางไตร่วมด้วยควรควบคุมความดันโลหิตให้น้อยกว่า 130/80 มม.ปรอท ถา้ ไม่ทาให้เกดิ ภาวะแทรกซอ้ นของการรกั ษา

39 Classification of Blood Cholesterol Levels คา่ ที่ใช้ในการตดิ ตาม Source: American Association Of Clinical Endocrinologists Medical Guidelines for Clinical Practice, 2012

40 CKD การแบ่งระยะของCKD พยากรณโรคไตเร้ือรังตามความสัมพันธของ GFR และระดับอลั บูมนิ ในปสสาวะ ท่ีมา:คาแนะนาสาหรับการดูแลผ้ปู ว่ ยโรคไตเรื้อรงั กอ่ นการบาบัดทดแทนไต พ.ศ.2558

41 โภชนาการสาหรบั ผู้ปว่ ยโรคไต

42


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook