Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกหัดบทที่7 ฐิติยา ชนม์ประกณ์

แบบฝึกหัดบทที่7 ฐิติยา ชนม์ประกณ์

Published by tataeoil12345, 2022-08-09 16:35:01

Description: แบบฝึกหัดบทที่7 ฐิติยา ชนม์ประกณ์

Search

Read the Text Version

แบบฝึ กหดั บทท7่ี เร่ือง ประเภทของเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ จดั ทาโดย นางสาว ฐิตยิ า บุบผา 4631071141139 นาย ชนมป์ ระกรณ์ ศรีพงษ์ 4631071143122 สมทบ

1.จงบอกประเภทของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ ตอบ ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอรเ์ ป็นระบบส่ือสารขอ้ มลู ท่ถี กู ออกแบบใหม้ ีการใช้ ทรพั ยากรเครอื ขา่ ยรว่ มกนั โดย เครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถจาแนกไดห้ ลายวธิ ี ขนึ้ อยกู่ บั เกณฑท์ ่ีใช้ ไดแ้ ก่ ขนาดกายภาพทางภมู ศิ าสตรข์ องเครอื ขา่ ย ลกั ษณะหนา้ ท่กี ารทางานของคอมพิวเตอรใ์ นเครอื ข่าย และระดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู รวมถงึ ลกั ษณะการ แลกเปล่ียนขอ้ มลู ของคอมพิวเตอร์ (อาณตั ิ รตั นถิรกลุ , 2558; Tanenbaum, 2003) โดยท่วั ไปการจาแนกประเภทของเครอื ขา่ ยมีอยู่ 3 วิธี 1.1 ใชข้ นาดกายภาพทางภมู ิศาสตรข์ องเครอื ข่ายเป็นเกณฑ์ แบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทดงั นี้ 1.1.1 เครือขา่ ยทอ้ งถ่ิน (LAN: Local Area Network) 1.1.2 เครอื ข่ายในเขตเมือง (MAN: Metropolitan Area Network) 1.1.3 เครอื ข่ายบรเิ วณกวา้ ง (WAN: Wide Area Network) 1.2 ใชล้ กั ษณะหนา้ ท่ีการท างานของคอมพิวเตอรใ์ นเครอื ขา่ ยเป็นเกณฑ์ สามารถ แบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภทดงั นี้ 1.2.1 เครือขา่ ยแบบเท่าเทียม (Peer-to-Peer Network) 1.2.2 เครือข่ายแบบผใู้ ชบ้ รกิ ารและผใู้ หบ้ รกิ าร (Client-Server Network) 1.3 ใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เป็นเกณฑ์ สามารถแบง่ ไดด้ งั นี้ คอื 1.3.1 เครือข่ายสาธารณะ (Internet) 1.3.2 เครือขา่ ยส่วนบคุ คล (Intranet) 1.3.3 เครอื ข่ายรว่ ม (Extranet)

2. ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอรส์ ามารถจาแนกไดก้ ีป่ ระเภทอะไรบา้ ง ตอบ เครอื ข่ายคอมพิวเตอรส์ ามารถจาแนกออกไดห้ ลายประเภทแลว้ แตเ่ กณฑท์ ่ีใช้ คลา้ ยกบั การจาแนก ประเภทของรถยนต์ ถา้ ใชข้ นาดเป็นเกณฑ์ ก็จะแบง่ ไดเ้ ป็นรถยนตข์ นาด เลก็ รถสิบลอ้ รถไฟ เป็นตน้ ซง่ึ ในท่ีน่ีไดท้ าการจาแนกประเภทของเครอื ขา่ ยตามการแบ่งประเภทของเครือข่ายขา้ งตน้ ประกอบดว้ ย ขนาด กายภาพทางภมู ศิ าสตรข์ องเครอื ข่าย ลกั ษณะหนา้ ท่ีการทางานของคอมพิวเตอรใ์ นเครือข่าย และระดบั ความ ปลอดภยั ของขอ้ มลู ซง่ึ จาแนกประเภทของเครือข่ายได้ 3 ประเภทต่อไปนี้ 1 ประเภทของเครือข่ายคอมพวิ เตอรแ์ บ่งตามขนาดกายภาพทางภมู ศิ าสตร์ ถา้ ใชข้ นาดกายภาพทางภมู ศิ าสตรเ์ ป็นเกณฑ์ เครอื ขา่ ยสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็นสามประเภท คือ 1.เครอื ข่ายทอ้ งถ่นิ (LAN: Local Area Network) ) เป็นรากฐานของเครือข่ายคอมพิวเตอรท์ ่วั ไปเป็นการเช่ือมโยง เครือข่ายคอมพวิ เตอรถ์ งึ กนั ทงั้ หมดโดยอาศยั ส่อื กลาง มกี ารแบง่ แยกเครอื ขา่ ยออกเป็น 2 รูปแบบการเช่อื มโยง คอื การเช่ือมโยงภายในพนื้ ท่ีระยะใกลห้ รอื แลน (LAN) และการเช่ือมโยงระยะไกลหรือแวน (WAN) โดยการ เช่ือมโยงเครอื ขา่ ยแบบแลน มี 3 รูปแบบ 1) แบบบสั (Bus) 2.แบบรงิ (Ring) 3) แบบสตาร์ (Star) 2.เครอื ข่ายในเมือง(MAN: Metropolitan Area Network) คือเครือข่ายคอมพิวเตอรข์ นาดใหญ่มากจะมขี นาดครอบคลมุ เมอื งหรอื บรเิ วณมหาวทิ ยาลยั ระบบโครงสรา้ ง พืน้ ฐานโดยปกติแลว้ จะเป็นระบบไรส้ ายเช่นการใชค้ ล่นื ไมโครเวฟหรอื ใชใ้ ยแกว้ นาแสง เป็นตวั เช่อื มตอ่ ระหวา่ ง สถานท่ีตา่ งๆเขา้ ดว้ ยกนั ตวั วอย่างการใชง้ านจรงิ เชน่ ภายในมหาวทิ ยาลยั หรือในสถานศกึ ษาจะมีระบบแมน เพ่ือเช่ือมตอ่ ระบบแลนของแตล่ ะคณะวชิ าเขา้ ดว้ ยกนั เป็นเครอื ขา่ ยเดยี วกนั ในวงกวา้ ง เทคโนโลยที ่ีใชใ้ น เครือข่ายแมนไดแ้ ก่ ATM FDDI และ SMDS ระบบเครอื ขา่ ยแมนท่จี ะเกดิ ในอนาคตอนั ใกลค้ ือระบบท่ีจะเช่อื มตอ่ คอมพวิ เตอรภ์ ายในเมืองเขา้ ดว้ ยกนั โดยผา่ นเทคโนโลยี Wi-Maxการสง่ ขอ้ มลู ของเครอื ขา่ ยแมนจะขนึ้ กบั ชอ่ งทาง การส่อื สาร ท่อี าจมีความเรว็ ปานกลางจนถงึ ความเรว็ สงู ระบบการสง่ ขอ้ มลู ท่ีใชใ้ นเครอื ข่ายแมนนนั้ มที งั้ แบบ ใชส้ ายสญั ญาณและแบบไมใ่ ชส้ ายสญั ญาณ แตจ่ ะใชค้ ล่นื ไมโครเวฟหรอื คล่นื วทิ ยแุ ทนกไ็ ด้

3.เครอื ขา่ ยบรเิ วณกวา้ ง (WAN: Wild Area Network) คือระบบเครอื ขา่ ยท่ีเช่ือมโยงเครือขา่ ยแบบทอ้ งถ่ินตงั้ แต่ 2 เครือขา่ ยขนึ้ ไปเขา้ ดว้ ยกนั ผ่าน ระยะทางท่ีไกลมาก โดยการเช่ือมโยงจะผา่ นชอ่ งทางการส่อื สารขอ้ มลู สาธารณะของบรษิ ัทโทรศพั ทห์ รอื องคก์ ารโทรศพั ทข์ องประเทศตา่ งๆ เช่น สายโทรศพั ทแ์ บบอนาลอกสายแบบดจิ ิทลั ดาวเทียม ไมโครเวฟเป็นตน้ 3.ประเภทเครือขา่ ยทใ่ี ช้ขนาดทางกายภาพของเครือขา่ ยเป็ นเกณฑแ์ บง่ เป็ นกี่ประเภท อะไรบา้ งจงอธบิ าย 1) แบบบสั (Bus) มีการรบั สง่ ขอ้ มลู ดว้ ยความเรว็ 10-100 MB/s จะเช่อื มต่อกนั บนสายสญั ญาณเสน้ เดียวกนั โดย จะมีอปุ กรณท์ ่เี รยี กวา่ T-Connector เป็นตวั แปลงสญั ญาณขอ้ มลู เพ่ือนาเขา้ สรู่ ะบบคอมพิวเตอรแ์ ละ Terminator ใน การปิดหวั ทา้ ยของสายในระบบเครอื ขา่ ยเพ่อื ดดู ซบั ขอ้ มลู ไม่ใหเ้ กดิ การสะทอ้ นกลบั ของสญั ญาณ ขอ้ ดี - งา่ ยตอ่ การสรา้ งเครอื ข่ายและงา่ ยตอ่ การต่อเตอิ ปุ กรณใ์ หม่ - เหมาะสาหรบั ระบบงานเลก็ เพราะใช้ ตน้ ทนุ ต่า ราคาถกู เพราะใชส้ ายแคส่ ายเดยี ว - งา่ ยต่อการตรวจสอบความผิดพลาดเสียหายของเครือข่าย เพราะมสี ายหลกั เสน้ เดียว ขอ้ เสีย - ใชไ้ ดก้ บั เครือข่ายขนาดเลก็ จานวนโหนดไมม่ าก ระยะไมไ่ กลนกั - ถา้ สายหลกั มีปัญหา ทงั้ ระบบเครอื ข่ายจะไม่สามารถใชง้ านได้ - ประสิทธิภาพการส่อื สารต่าความเรว็ ในการส่อื สารต่า เพราะมกี าร ส่อื สารขอ้ มลู จานวนมากบนสายเสน้ เดยี ว

2.แบบรงิ (Ring) เป็นระบบท่มี ีการสง่ ขอ้ มลู ไปในทิศทางเดยี วกนั โดยจะมีเครอ่ื ง Server หรอื Switch ในการปลอ่ ย Token เพ่อื ตรวจสอบวา่ มีเครอ่ื งคอมพวิ เตอรใ์ ดตอ้ งการสง่ ขอ้ มลู หรอื ไมแ่ ละระหวา่ งการสง่ ขอ้ มลู เครอ่ื ง คอมพิวเตอรอ์ ่นื ๆท่ีตอ้ งการสง่ ขอ้ มลู จะตอ้ งท าการรอใหข้ อ้ มลู ก่อนหนา้ นนั้ ถกู สง่ ใหส้ าเรจ็ เสยี ก่อน(Topology) แบบวงแหวน ขอ้ ดี - ผสู้ ง่ สามารถสง่ ขอ้ มลู ไปยงั ผรู้ บั ไดห้ ลาย ๆ โหนดพรอ้ มกนั โดยตาแหนง่ ปลายทางเหลา่ นนั้ ลงในสว่ นหวั ของแพ็กเกจขอ้ มลู แตล่ ะโหนดจะทาการตรวจสอบเอง วา่ มีขอ้ มลู สง่ มาใหท้ ่โี หนดตนเองหรอื ไม่ - การสง่ ขอ้ มลู ในเครือขา่ ยแบบวงแหวนจะเป็นไปในทศิ ทางเดยี วกนั จากโหนดสโู่ หนด จงึ ไม่มีการชนกนั ของ สญั ญาณขอ้ มลู ขอ้ เสยี - ถา้ มีโหนดใดโหนดหนง่ึ ในเครอื ขา่ ยเสยี หาย ขอ้ มลู จะไมส่ ามารถสง่ ผ่านไปยงั โหนดตอ่ ไปได้ และจะท าใหเ้ ครอื ขา่ ยทงั้ เครอื ข่ายขาดการตดิ ตอ่ ส่อื สารได้ - ขณะท่ีขอ้ มลู ถกู สง่ ผา่ นแตล่ ะโหนด เวลาสว่ นหนง่ึ จะสญู เสียไปกบั การท่ี ทกุ ๆ รีพีเตอรจ์ ะตอ้ งท าการคดั ลอก ขอ้ มลู และตรวจสอบตาแหนง่ ของขอ้ มลู - การติดตงั้ เครอื ข่ายแบบวงแหวนทาไดย้ ากกวา่ แบบ BUS และใชส้ ายสอ่ื สารสมากกวา่

3) แบบสตาร์ (Star) เป็นระบบท่ีมีเป็นการต่อแบบรวมศนู ย์ โดยเคร่ืองคอมพวิ เตอรท์ กุ เครือ่ งจะต่อสายเขา้ ไปท่ี อปุ กรณท์ ่เี รยี กวา่ Hub หรอื Switch โดยอปุ กรณท์ ่เี รียกวา่ Hub หรอื Switch จะท าหนา้ ท่เี ปรยี บศนู ยก์ ลางท่ที าหนา้ ท่ี กระจายขอ้ มลู ขอ้ ดี – การตดิ ตงั้ เครอื ขา่ ยและการดแู ลรกั ษาทาไดง้ า่ ย - หากมีโหนดใดเกดิ ความเสยี หายก็สามารถตรวจสอบไดง้ ่ายและศนู ยก์ ลางสามารถตดั โหนดนนั้ ออกจาก การส่อื สารในเครอื ข่าย ขอ้ เสีย – เครอื่ งท่ที าหนา้ ท่ีเป็นศนู ยก์ ลางมรี าคาแพงและถา้ ศนู ยก์ ลางเกิดความเสียหายจะท าใหท้ งั้ ระบบ ทางานไม่ไดเ้ ลย - เครือข่ายแบบ Star ใชส้ ายส่อื สารมากกวา่ แบบ BUS และ แบบ RING

4.ประเภทเครือขา่ ยทใ่ี ช้ลกั ษณะหน้าทกี่ ารทางานของคอมพวิ เตอรใ์ นเครือขา่ ย เป็ นเกณฑ์ สามารถแบง่ ไดก้ ปี่ ระเภท อะไรบ้างจงอธิบาย 1. เครอื ขายแบบเพียรเ์ พียร์ (Peer to Peer Network) P2P คือรูปแบบการเช่ือมต่อแลนไรส้ ายแบบ Peer to Peer เป็นการเช่ือมตอ่ แบบโครงขายโดยตรงระหวา่ งเครอ่ื งคอมพวิ เตอรโ์ ดยเครอ่ื งคอมพิวเตอรแ์ ตล่ ะ เครอื่ งนนจะมคี วามเท่าเทียมกนั สามารถทางานของตนเองและขอใชบ้ รกิ ารเครอ่ื งอ่ืนได้ จงึ เหมาะสาหรบั นามาใชง้ านเพ่ือจดุ ประสงคด์ า้ นความรวดเรว็ หรอื ตดิ ตงั้ ไดโ้ ดยง่ายเม่ือไมม่ ีโครงสรา้ งพืน้ ฐานทท่จี ะรองรบั ตวั อย่างเชน่ ในศนู ยป์ ระชมุ หรอื การประชมุ ท่ีจดั นอกสถานท่ีอีกทงั้ Peer to Peer เป็นระบบเครอื่ ขายขนาดเลก็ และเหมาะกบั หนว่ ยงานท่มี ีคอมพวิ เตอรน์ อ้ ยกวา่ 10เครอื่ ง ระบบ Peer to Peer นีค้ อมพวิ เตอรแ์ ตล่ ะเครอื่ ง สามารถเขาไปใชไ้ ฟลท์ ่ีเก็บบนเครอื่ งไหนก็ได้ software ท่ใี ชค้ ือ Windows for Workgroups, Windows 95, 98, 2000 การ ตดิ ตงั้ เพียงแตเ่ พ่ิมอปุ กรณท์ ่เี รยี กวา่ LAN Card ในแตล่ ะเครอื่ งคอมพิวเตอรแ์ ละตอ่ สายแลนเขา้ ไปสอู่ ปุ กรณท์ เป็นตวั กลาง ซง่ึ เรยี กวาา HUB หากเปรยี บเทียบแลว้ เทคโนโลยีระบบเครอื ขา่ ยแบบ Peer-to-Peer จะมีการทางาน ในลกั ษณะท่ีเป็น Decentralization สว่ นระบบClient-Server มีการทางานเป็นแบบ Centralization 2.เครอื ขายแบบไคลเอนทเซริ ฟ์ เวอร์ (Client/Server Network)เป็นระบบท่มี ีเครอื่ งคอมพิวเตอรท์ กุ เครอ่ื งมี ฐานะการทางานท่ีเหมือนๆ กนั เทา่ เทยี มกนั ภายในระบบเครอื ขา่ ย แตจ่ ะมีเครอื่ งคอมพิวเตอรเ์ ครอ่ื งหนง่ึ ท่ี ทาหนา้ ท่ีเป็นเครอ่ื ง Server ท่ที าหนา้ ท่ีใหบ้ รกิ ารทรพั ยากรตา่ งๆ ใหก้ บั เครอ่ื ง Client หรอื เครอ่ื งท่ีขอใชบ้ รกิ าร ซงึ้ อาจจะตอ้ งเป็นเคร่อื งท่มี ีประสทิ ธิภาพทคอ่ นขา้ งสงู ถึงจะทาใหก้ ารใหบ้ รกิ ารมประสทิ ธิภาพตามไปดว้ ย ขอ้ ดี ของระบบเครอื ขา่ ย Client - Server เป็นระบบท่ีมีการรกั ษาความปลอดภยั สงู กวา่ ระบบแบบ Peer To Peer เพราะวา่ การจดั การในดา้ นรกั ษาความปลอดภยั นนั้ จะทากนั บนเครอื่ ง Server เพยี งเคร่อื งเดยี วทาใหด้ แู ลรกั ษางา่ ย และ สะดวกีมการกาหนดสทิ ธิการเขา้ ใชท้ รพั ยากรตา่ งๆ ใหก้ บั เครอ่ื งผขู้ อใชบ้ รกิ ารหรอื เครง่ื อง Client

5. ประเภทเครือข่ายทใ่ี ช้ระดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เป็ นเกณฑม์ อี ะไรบา้ งจง อธิบาย Ans- Intranet หรอื เครอื ขา่ ยสว่ นบคุ คล - Internet หรอื เครอื ข่ายสาธารณะ - Extranet หรอื เครอื ข่ายรว่ ม 1. อินเทอรเ์ น็ต (Internet) เครอื ขา่ ยสาธารณะ อนิ เทอรเ์ นต็ เป็นเครอื ข่ายท่คี รอบคลมุ ท่วั โลก ซง่ึ มีคอมพวิ เตอรเ์ ป็นลา้ นๆเครอื่ งเช่ือมต่อเขา้ กบั ระบบและยงั ขยายตวั ขนึ้ เรอ่ื ย ๆ ทกุ ปี อินเทอรเ์ นต็ มีผใู้ ชท้ ่วั โลกหลายรอ้ ยลา้ นคน และผใู้ ชเ้ หลา่ นสี้ ามารถแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ขา่ วสารกนั ไดอ้ ยา่ งอิสระ โดยท่ีระยะทางและเวลาไมเ่ ป็นอปุ สรรค นอกจากนีผ้ ใู้ ชย้ งั สามารถเขา้ ดขู อ้ มลู ต่าง ๆ ท่ีถกู ตพี มิ พใ์ นอนิ เทอรเ์ น็ตได้ อนิ เทอรเ์ นต็ เช่ือมแหลง่ ขอ้ มลู ต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั ไมว่ า่ จะเป็นองคก์ รธรุ กิจ มหาวิทยาลยั หนว่ ยงานของรฐั บาล หรอื แมก้ ระท่งั แหลง่ ขอ้ มลู บคุ คล องคก์ รธุรกิจหลายองคก์ รไดใ้ ช้ อนิ เทอรเ์ น็ตชว่ ยในการทาการคา้ 2. อนิ ทราเน็ต (Intranet) หรอื เครอื ขา่ ยสว่ นบคุ คลตรงกนั ขา้ มกบั อนิ เทอรเ์ นต็ อนิ ทราเนต็ เป็นเครือข่ายสว่ นบคุ คล ท่ใี ชเ้ ทคโนโลยอี นิ เทอรเ์ น็ต เชน่ เว็บ, อเี มล, FTP เป็นตน้ อินทราเนต็ ใชโ้ ปรโตคอล TCP/IP สาหรบั การรบั สง่ ขอ้ มลู เช่นเดยี วกบั อนิ เทอรเ์ นต็ ซง่ึ โปรโตคอลนสี้ ามารถใชไ้ ดก้ บั ฮารด์ แวรห์ ลายประเภท และสายสญั ญาณหลาย ประเภท ฮารด์ แวรท์ ่ีใชส้ รา้ งเครอื ขา่ ยไมใ่ ช่ปัจจยั หลกั ของอนิ ทราเนต็ แตเ่ ป็นซอฟตแ์ วรท์ ่ีทาใหอ้ นิ ทราเนต็ ทางานได้ อนิ ทราเนต็ เป็นเครอื ขา่ ยท่ีองคก์ รสรา้ งขนึ้ สาหรบั ใหพ้ นกั งานขององคก์ รใชเ้ ท่านนั้ 3.เอ็กสท์ ราเนต็ (Extranet) เป็นเครอื ขา่ ยกงึ่ อินเทอรเ์ นต็ ก่ึงอินทราเน็ต กลา่ วคอื เอก็ สท์ ราเน็ตคือเครอื ข่ายท่ี เช่ือมต่อระหวา่ งอนิ ทราเนต็ ของสององคก์ ร ดงั นนั้ จะมบี างสว่ นของเครอื ขา่ ยท่ีเป็นเจา้ ของรว่ มกนั ระหวา่ งสอง องคก์ รหรอื บรษิ ัท การสรา้ งอนิ ทราเนต็ จะไม่จากดั ดว้ ยเทคโนโลยี แตจ่ ะยากตรงนโยบายท่ีเก่ียวกบั การรกั ษา ความปลอดภยั ของขอ้ มลู ท่ที งั้ สององคก์ รจะตอ้ งตกลงกนั เชน่ องคก์ รหนง่ึ อาจจะอนญุ าตใหผ้ ใู้ ชข้ องอีกองคก์ ร หนง่ึ ลอ็ กอนิ เขา้ ระบบอนิ ทราเนต็ ของตวั เองหรอื ไม่ เป็นตน้ การสรา้ งเอก็ สท์ ราเนต็ จะเนน้ ท่ีระบบการรกั ษา ความปลอดภยั ขอ้ มลู รวมถงึ การตดิ ตงั้ ไฟรว์ อลลห์ รอื ระหวา่ งอนิ ทราเน็ตและการเขา้ รหสั ขอ้ มลู และสงิ่ ท่สี าคญั ท่สี ดุ ก็คือ นโยบายการรกั ษาความปลอดภยั ขอ้ มลู และการบงั คบั ใช้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook