Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศจีน

กลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศจีน

Published by Apinya pimonpattanakui, 2018-10-14 02:19:12

Description: เกี่ยวกับชนเผ่าฮาหนี

Search

Read the Text Version

1กล่มุ ชาตพิ นั ธ์ุฮาหนี(Hani) 哈尼族

2 กลุ่มชาตพิ นั ธ์ุฮาหนี (Hani) 哈尼族ชนเผ่าฮานีอาศยั อย่ทู างตะวนั ตกเฉียงใต้ของมณฑลยูนนาน แถบหุบเขาอายหลาว ด้ านตะวนั ตกของคลองหง ตอนปลายของแมน่ ํา้ หล่ี รวมพืน้ ท่ีหลายตําบล เช่น ซินผิง(新平 Xīnpínɡ)เจิน้ หยวน(镇源 Zhènyuán) โม่เจียง(墨江 Mòjiānɡ) หยวนเจียง(元江 Yuánjiānɡ) หงเหอ(红河 Hónɡhé) หยวนหยาง(元阳 Yuányánɡ) ลวี่ ชุ น( 绿春Lǜchūn)จินผงิ (金平 Jīnpínɡ) เจียงเฉิง(江城 Jiānɡchénɡ) เป็นต้น จากการสาํ รวจจํานวนประชากรครัง้ ท่ี 5 ของจีนในปี 2000 ชนกลมุ่ น้อยเผา่ ฮานีมีจํานวนประชากรทงั้ สนิ ้ 1,439,673 คน พดู ภาษาฮานี จดั อย่ใู นตระกูลภาษาจีน-ทเิ บต สาขาทเิ บต-พมา่ แขนงภาษาอ๋ี ไม่มีภาษาอกั ษร ในปี 1957 รัฐบาลจีนได้สนบั สนนุ และให้ความช่วยเหลือในการพฒั นาอกั ษรขนึ ้ ใช้ โดยใช้อกั ษรภาษาลาติน จากหลกั ฐานบันทึกทางประวตั ิศาสตร์ บรรพบุรุษของชาวฮานี น่าจะเป็นกล่มุ ชนท่ีอาศัยอย่ทู างตอนใต้ของแม่นํา้ ต้าต้(ู 大渡河 Dàdùhé) บริเวณเมือง “เหออ๋ี” (和夷 Héyí) ซึ่งในสมยั โบราณเป็นที่อย่อู าศยั ของชาวเชียงท่อี พยพลงมาจากเหนอื นบั ตงั้ แตค่ ริสตศวรรษที่ 4 ถงึ คริสต์ศตวรรษท่ี 8 อพยพไปทางตะวนั ตกตงั้ ถิ่นฐานอยบู่ ริเวณลมุ่ แมน่ ํา้ หยวน (元江 Yuánjiānɡ) ตลอดแนวยาวไปจนถึงลมุ่ แม่นํา้ หลานชาง (澜沧江 Láncānɡjiānɡ)ในบนั ทกึ ชาวถงั เรียกบรรพบรุ ุษของชาวฮานีว่า “เหอหมาน” (和蛮 Hémán ) หลงั การจดั ตงั้ เขตการปกครองน่านเจ้า (南诏 Nánzhào) และต้าหล(ี่ 大理 Dàlǐ) แล้ว สว่ นการปกครองในระดบั ย่อยท่ีอยภู่ ายใต้การปกครองของสองเมืองนี ้เช่น เขตกวานกุ้ยซือถัว (官桂思陀部 Guānɡuì sītuó bù) เขตซีชู่เตีย้ น(溪处甸部Xīchùdiàn bù) เขตป้านซีลวั่ ขง่ (伴溪落恐部 Bànxīluòkǒnɡ bù) เขตเถ่ียหรงเตีย้ น (铁容甸部Tiě rónɡ diàn bù) เป็นต้น ล้วนครอบคลมุ บริเวณที่อยอู่ าศยั ของชาวฮานีแทบทงั้ สนิ ้ และสืบทอดเผ่าพนั ธ์ุอย่ทู ี่ชายฝ่ังลมุ่ แม่นํา้ แดง(红河 Hónɡhé)เรื่อยมา ถึงสมยั ราชวงศ์หยวน ทางการได้รวบรวมเอาเมืองเหล่านีไ้ ว้ในการปกครองของมณฑลยนู นาน ทําให้เริ่มเห็นภาพของการควบคมุ และปกครองชนเผา่ ฮานีชดั เจนขนึ ้ ในสมยั หมิงมีนโยบายการควบคมุ กรรมสทิ ธ์ิทีด่ ิน ล้มล้างระบบกรรมสทิ ธิ์ที่ดนิ ในชนกลมุ่ น้อยตา่ ง ๆ รวมทงั้ ฮานีด้วย

3ชาวฮานีมีความพยายามบกุ เบกิ ดินแดนป่าเขาลําเนาไพรในเขตชายแดนของจีนมาเป็นเวลานบัร้อยนบั พนั ปีมาแล้ว ทําไร่ไถนา เลีย้ งปลา ปลกู ชาปลกู ข้าว จนได้ชื่อวา่ เป็นเมืองอขู่ ้าวอนู่ ํา้ แหง่ หบุ เขาเลยทีเดียว ใบชาท่ีมาจากอําเภอลวี่ชนุ (绿春县Lǜchūnxiàn) ของชาวฮานีเป็นใบชาคณุ ภาพดี สีเขียวใส สง่ ขายทว่ั ประเทศ หมบู่ ้านชาวฮานีบนเขาหนานนว่ั (南糯山 Nánnuòshān) นบั เป็นแหลง่ ผลติ ชาผเู ออ่ ร์(普洱茶 Pǔ’ěrchá) แหลง่ สําคญั แหง่ หนงึ่ของประเทศ นอกจากปลกู ชาแล้ว ชาวฮานียงั ปลกู พืชจําพวกฝา้ ย งา ต้นครามที่ใช้ย้อมผ้า ซงึ่ ผ้าทอมือย้อมครามก็เป็นสินค้าพืน้ เมืองที่สําคญั ของชาวฮานีอีกอยา่ งหนง่ึ นอกจากนีต้ ามพงศาวดารราชวงศฮ์ น่ั มีหลกั ฐานท่ีแสดงให้เห็นว่าชาวฮานีรู้จกั การใช้แร่ดีบกุ มาตงั้ แต่ 2000 ปีกอ่ นแล้ว แตท่ วา่ พฒั นาการด้านเศรษฐกิจสงั คมของชนเผา่ ฮานีตงั้ แตอ่ ดีตมาถึงปัจจบุ นั ไมส่ ้รู าบรื่นนกั ชาวฮานีบริเวณโมเ่ จียง (墨江 Mòjiānɡ) ซินผิง(新平 Xīnpínɡ) เจิน้ หยวน (镇源 Zhèn yuán) ซ่งึ เป็นพืน้ ท่ีชนั้ ในได้รับผลกระทบจากการติดตอ่ สมั พนั ธ์กบั ชาวฮนั่ มาตลอด จนถึงสมยั ชิงเร่ิมเข้าส่สู งั คมแบบศกั ดินาการถือครองกรรมสิทธ์ิท่ีดนิ ปริมาณผลผลิตทดั เทียมกับชาวฮน่ั มีการซือ้ ขายท่ีดิน การเช่าที่ดินเกิดขนึ ้ แต่ชา วฮ า นี ใ นสิ บ สอ งปั น นา ( 西双版纳 Xīshuānɡbǎnnà)แ ล ะบ ริ เ ว ณแ ม่นํ า้ หล าน ช าง ( 澜沧江Láncānɡjiānɡ) กลบั ยงั คงถูกควบคมุ จากกล่มุ ชนชนั ้ ศกั ดินาอยู่ บางกล่มุ ยังคงใช้วิธีการเพาะปลกู แบบ ดงั้ เดมิ อยู่ ด้วยระบบสงั คมแบบศกั ดินาและกดข่ีขดู รีดของชนชนั้ ศกั ดิ นา ชาวฮานีตกอยู่ในสภาวะลําบากและยากจนอย่างมาก โดยเฉพาะในยคุ จกั รวรรดนิ ยิ มเชื่อมตอ่ กบั ยคุ กว๋อหมินตง่ั ชาวฮานี ประสบกบั ความเดือดร้อน ยากเขญ็ ทวั่ ทกุ หยอ่ มหญ้า

4 หลงั จากการกอ่ ตงั้ สาธารณรัฐประชาชนจีน รัฐบาลสนบั สนนุ ให้ชนกลมุ่ น้อยมีสทิ ธิใน การปกครองตนเอง ชมุ ชนเผา่ ฮานีได้รับการ ยกฐานะเป็นเขตปกครองตนเองในหลายๆ ท้องท่ี เชน่ - เขตปกครองตนเองเผา่ ฮานีและเผา่ อ๋ีเมือง หงเหอ (红河哈尼族彝族自治州 Hónɡhé Hāní Zú Yí Zú zìzhìzhōu) - อําเภอปกครองตนเองเผา่ ฮานีเผา่ อี๋เผา่ ไตเมืองหยวนเจียง (元江哈尼族彝族傣族自治县 Yuánjiānɡ Hāní Zú Yí Zú Dǎi Zú zìzhìxiàn)- อําเภอปกครองตนเองเผา่ ฮานีโมเ่ จียง(墨江哈尼族自治县 Mòjiānɡ Hāní Zú zì zhìxiàn)- อําเภอปกครองตนเองเผา่ ฮานีเผา่ อ๋ีเจียงเฉิง(江城哈尼族彝族自治县 Jiānɡ chénɡ Hāní Zú Yí Zúzìzhìxiàn) จากการพฒั นาประเทศในระยะ 40 ปีมานี ้เศรษฐกิจในเขตปกครองตนเองชาวฮานีในทกุ พืน้ ท่ีตา่ งพฒั นาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ปัจจบุ นั มีการสร้างถนนหนทางไปทว่ั ทกุ ตําบลและหม่บู ้านน้อยใหญ่ ในหมบู่ ้านของชาวฮานีมีการกอ่ ตงั้ โรงกําเนิดไฟฟ้าขนาดเลก็ เพื่อเป็นกําลงั สําคญั ในการผลิตภาคอตุ สาหกรรมตอ่ มาโรงงานอตุ สาหกรรมเคร่ืองจกั รกล เคมีภณั ฑ์ ปนู ซีเมนต์ การทอผ้า พลาสตกิ ยาสบู และการแปรรูปอาหารเกิดขึน้ มากมาย อาชีพการเกษตร ป่ าไม้ ปศสุ ตั ว์ ประมง เหมืองแร่ ก็ได้รับการพฒั นาเพ่ิมมากขึน้อยา่ งรวดเร็วเชน่ กนั เมื่อเศรษฐกิจความเป็นอยดู่ ขี นึ ้ ชาวฮานีจงึ เริ่มพฒั นาและฟื น้ ฟูศลิ ปวฒั นธรรมขนึ ้ โดยเร่ิมจากการศึกษา มีการก่อสร้ างโรงเรียนประถมมัธยมขึน้ มากมาย การสาธารณสุขและโรงพยาบาลพฒั นาขนึ ้ ชาวฮานีมีสิทธิทางการเมือง และมีสิทธิในการเป็นสมาชิกคณะกรรมการปกครองตงั้ แตใ่ นระดบัหมบู่ ้าน ชาวฮานีมีคณุ ภาพชีวิตท่ีดขี นึ ้ มีความสงบสขุ ในฐานะพลเมืองจีนด้วยดีมาตลอด เมื่อความเป็นอยดู่ ีขนึ ้ ชาวฮานีจงึ มีพลงั ท่ีจะฟื น้ ฟูและสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะและ วฒั นธรรมของชนเผ่า ด้านวรรณกรรมชาวฮานีมีเทพนิยาย ตํานาน เพลง กลอน ภาษิตคําพังเพย เพลงพืน้ เมืองปริศนาคําทาย เทพนิยายหรือตํานานที่โดดเด่นของชาวฮานีเช่น เร่ือง《创世纪》Chuànɡ shìjì“ศตวรรษสร้างโลก” เรื่อง《洪水记》Hónɡshuǐ jì “บนั ทกึ อทุ กภยั ” เร่ือง 《哈尼祖先过江来》Hānízǔxiān ɡuò jiānɡ lái “บรรพบรุ ุษชาวฮานีข้ามแมน่ ํา้ มา

5เพลงของชาวฮานมี สี องประเภทคอื เพลงชื่อ ลาปาเร่อ (拉八热 Lābárè) เป็นการร้องเพลงประสานสยี งใช้ในพิธีแต่งงานงานศพ งานเทศกาลสาํ คญั ตา่ งๆ ทว่ งทาํ นองเป็นเพลงท่จี ริงจงั เคร่งขรึม เพลงอีกประเภทหนง่ึ คือ เพลงชื่อ อาจีก(ู 阿基估Ā jīɡū) เป็นเพลงภเู ขาท่ีใช้ร้องเกีย้ วพาราสีตอบโต้กนั ของหน่มุ สาว เคร่ืองดนตรีของชาวฮานีท่ีสาํ คญั ได้แก่ พิณสามสายพิณสี่สาย ขล่ยุ ไม้ ขลยุ่ นํา้ เต้า นอกจากนีช้ าวฮานีรักการเต้นรําเป็นชีวิตจิตใจ การเต้นรําท่ีเป็นที่นิยมเช่น ระบําปรบมือระบําพัด ระบํานกยูง ระบําขล่ยุ นํา้ เต้า เป็นต้น ลกั ษณะของการเต้นรํามีจังหวะคล่องแคล่วให้ บรรยากาศของความสนกุ สนานร่ืนเริงอยา่ งมาก ชาวฮานตี งั้ บ้านเรือนอยตู่ ามป่ าเขา บ้านสร้างจากวสั ดธุ รรมชาติ ฝาบ้านทําจากดิน หลงั คามงุ ด้วยหญ้าแห้ง ใช้หนิ เป็นฐานราก แล้วใช้ไม้เป็นโครงบ้าน บ้านแบง่ เป็นสามชนั้ ชนั้ ลา่ งเป็นคอกเลยี ้ งสตั ว์ ชนั้ สองเป็นทีอ่ ยอู่ าศยั และเก็บของชนั้ บนหรือชนั้ หลงั คาเป็นทเี่ ก็บเสบยี งอาหารแห้ง และสงิ่ ของเคร่ืองใช้ ชาวฮานที เี่ มืองโมเ่ จียงสร้างบ้านด้วยดนิ เป็นบ้านชนั้เดยี ว สว่ นที่สบิ สองปันนาสร้างบ้านด้วยไม้ไผ่ มีชนั้ ลอยไว้เป็นทีเ่ ก็บเสบียง และตากอาหารจําพวกอาหารแห้ง ชาวฮานีรู้จกั การทอผ้าและย้อมสี เสอื ้ ผ้าเคร่ืองแต่งกายตดั เย็บขนึ ้ ใช้เอง ชายสวมเสอื ้ ผา่ อก และกางเกงขายาวใช้ผ้าสดี ําหรือขาวโพกหวั ใช้เครื่องประดบั เงิน หญิงสวมเสอื ้ แขนยาวผา่ อกไมม่ ีปก สวมกางเกงขายาว สว่ นหญิงชาวฮานีท่ีสบิ สองปันนาสวมกระโปรงสนั้ และใช้ผ้าดําพนั ขาสูงถึงเข่า สวมหมวกคลมุ ศีรษะทรงกลมท่ีประดบั ประดาด้วยเครื่องเงินหญิงชาวฮานที ่เี มอื งโมเ่ จียงสวมผ้าถงุ ยาว รัดเขม็ ขดั การแตง่ กายของหญิงที่แตง่ งานแล้วกบั ยงั ไมแ่ ตง่ งานมีความแตกตา่ งกนั บางท้องท่ี หญิงที่ยงั ไมแ่ ตง่ งานใช้การถกั เปีย แตห่ ญิงทแี่ ตง่ งานแล้วจะเกล้าผม บางท่ีหญิงที่ยงั ไมแ่ ต่งงานคาดเข็มขดัคนละสกี บั หญิงท่แี ตง่ งานแล้ว เป็นต้น

6 ครอบครัวของชาวฮานีเป็นครอบครัวเล็ก การแต่งงานเป็นแบบมีสามีภรรยาคนเดียวโดยเฉพาะชาวฮานีท่ีสิบสองปันนาเคร่งครัดมาก หากชายมีภรรยาหลายคนถือเป็นการผิดขนบธรรมเนียม แต่หากแต่งงานกนั มานานยงั ไม่มีลกู ชายจะอนุญาตให้ชายมีภรรยาอีกคนได้หน่มุ สาวสามารถเลือกค่คู รองได้ด้วยตนเอง แต่การจดั การแต่งงานพ่อแม่เป็นผ้เู ห็นชอบและจดั การให้ แตก่ ็มีบางท่ีที่ใช้วิธีคลมุ ถงุ ชน ชาวฮานีที่เมืองโม่เจียงมีวธิ ีการเลือกค่คู รองท่ีเป็นธรรมเนียมปฏิบตั ิสืบทอดกนั มา คือธรรมเนียมการแต่งงานแบบ “เหยียบถนน” คือเม่ือหน่มุ สาวตกลงรักใคร่ชอบพอกัน ผ้อู าวุโสของทงั้ สองฝ่ ายร่วมเดินไปบนถนนสายเดียวกนั ช่วงที่เดินไปบนถนนหากไมพ่ บกบั สตั ว์ป่า ก็ถือวา่ สามารถแตง่ งานกนั ได้

7พธิ ีศพของชาวฮานีกระทาโดยการเผา ยงั มีธรรมเนียมการตงั้ ชื่อของชาวฮานีน่าสนใจมาก คือการสืบทอดสายตระกลู จากพ่อสู่ลกู โดยการใช้คําสดุ ท้ายของชื่อพอ่ มาเป็นคําแรกในการตงั้ ช่ือลกู และเม่ือตนเองมีลกู ก็จะใช้คําสดุ ท้ายของชื่อตนมาตงั้ เป็นคําแรกของช่ือลกู เช่นกนั เช่นนี ้ก็จะเป็นเหมือนห่วงโซค่ ล้องต่อๆกนัไปจากรุ่นส่รู ุ่น ความเชื่อของชาวฮานีสว่ นใหญ่นบั ถือบชู าเทพเจ้า และบรรพบรุ ุษ การบชู ามีหมอผีเป็นผ้กู ระทําพิธี และมีการใช้ยาสมนุ ไพรรักษาโรคแบบหมอผี ในต้นศตวรรษท่ี 20 ศาสนาคริสต์เผยแพร่เข้าส่ชู นเผ่าฮานี นอกจากนีศ้ าสนาพทุ ธก็เผยแพร่เข้ามาส่เู ผ่าฮานีบางท้องที่เช่นกนั แต่ชาวฮานีเชื่อและนบั ถือศาสนาที่เพง่ิ เผยแพร่เข้ามาใหม่นีไ้ ม่มากนกั หลงั จากก่อตัง้ สาธารณรัฐประชาชนจีนการนบั ถือศาสนาของชาวฮานียิ่งลดน้อยลง เทศกาลสําคญั ของชาวฮานีมี เทศกาลเดือนหก และเทศกาลเดือนสิบ ชาวฮานีนบั เดือนสบิ เป็นเดือนแรกของปี เพราะฉะนนั้ ชาวฮานีจะฉลองวนั ขนึ ้ ปีใหม่ในเดือนสิบนี ้ระยะเวลาเฉลิมฉลอง 5 – 6 วนั หรือยาวนานถึงคร่ึงเดือน ส่วนเทศกาลเดือนหกเรียกว่า “ข่จู าจา” จดั ในวนั ท่ี24 เดือนหก นอกจากนีย้ งั รับเอาเทศกาลตา่ งๆของชาวฮนั่ เช่น เทศกาลไหว้พระจนั ทร์ เทศกาลไหว้ขนมบะจา่ ง และตรุษจีนเป็นเทศกาลเฉลมิ ฉลองประจําเผ่าด้วย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook