หลกั การตลาด
หน่วยที่ 11 เทคโนโลยกี บั การตลาด และจรรยาบรรณนกั การตลาด จัดทาโดย นางสาวเจนจริ า บญุ ฤทธิ์ ชั้น ปวส.2 แผนกวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ ห้อง 2 วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาเพชรบรุ ี
หน่วยที่ 11 เทคโนโลยีกบั การตลาดและจรรยาบรรณนักการตลาด การดาเนนิ กจิ กรรมด้านการขายและการตลาดจะถือเป็นภาระงานที่สาคัญภายใตโ้ ซค่ ุณคา่ ขององคก์ าร ท่ีสืบเน่ืองจากแนวคิดการดาเนินธุรกจิ ในปัจจุบนั มกั เนน้ ท่ีความพอใจของลูกคา้ เป็นสาคญั องค์การจาเป็นต้อง ให้ความสาคัญกบั การดาเนนิ งานดา้ นการตลาด รวมท้งั การสรา้ งแรงจงู ใจให้กบั บุคลากรของทุกหนว่ ยงาน ใน การสรา้ งมลู คา่ ของผลิตภณั ฑท์ ีส่ ่งมอบต่อลูกค้าทุกราย อันจะนาไปสูร่ ะดบั ความพงึ พอใจของลูกค้าท่เี พิ่มมาก ข้ึน ระบบสารสนเทศทางการตลาด เป็นเคร่ืองมือหน่งึ ของการนาเสนอสารสนเทศเพือ่ ใช้สาหรับงานดา้ น การตลาดในส่วนการพฒั นาผลติ ภณั ฑแ์ ละโปรแกรมทางการตลาดท่ีดี จึงจาเป็นตอ้ งใชส้ ารสนเทศท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั ความต้องการของลูกคา้ คู่แขง่ ขนั ผูข้ าย ตลอดจนผูท้ ี่มีบทบาทอืน่ ทางการตลาดด้วย เนอื่ งจากในปัจจุบนั ขนาด ของตลาดใหญข่ ้นึ ผูซ้ ื้อมที างเลือกเพ่ิมข้นึ วิธีการทางการตลาดมีความซับซอ้ นข้ึนอีกท้งั ธุรกจิ ยงั จาเป็นต้อง เผชิญกบั สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเรว็ และมกี ารแขง่ ขนั สูง ดว้ ยเหตุน้ี การใช้สารสนเทศที่ทนั ต่อ เหตุการณ์จึงย่งิ จะทวีความจาป็นมากยงิ่ ข้ึน การตลาด (marketing) เป็นหนา้ ทส่ี าคัญทางธุรกจิ เนื่องจากหนว่ ยงานด้านการตลาดจะรบั ผดิ ชอบใน การกระจายสินค้าและบริการไปสู่ ลูกค้า ต้งั แต่การศึกษา และวิเคราะหค์ วามต้องการ การวางแผนและการสร้าง ความตอ้ งการ ตลอดจนสง่ เสริมการขายจนกระท้งั สินค้าถึงมอื ลกู คา้ ปกติการตัดสินใจทางการตลาดจะเกยี่ วข้อง กบั การจดั สว่ นประสมทางการตลาด (marketing mix) หรือ ส่วนประกอบทที่ าให้การดาเนินงานทางการตลาด ประสบความสาเรจ็ ซ่ึงประกอบดว้ ยปัจจยั หลกั 4 ประการ ไดแ้ ก่ผลิตภณั ฑ์(product) ราคา (price) สถานที่ (place) และการโฆษณา (promotion) หรือทเ่ี รียกวา่ 4P’s
1.1 เทคโนโลยีกับธุรกจิ 1. อยา่ มองการใช้เงินดา้ นเทคโนโลยีเป็นค่าใช้จา่ ยแตใ่ หม้ องวา่ เป็น “การลงทุน” การทาธุรกิจหลายประเภท เรามกั จะต้องจา่ ยค่าโฆษณา ค่าจัดงานโปรโมทสินค้า ค่าจ้างนกั บญั ชี และ อ่ืนๆ อีกมากมาย แตพ่ อเป็นเรื่องเทคโนโลยี หลายคนมกั จะเลือกจา่ ยเฉพาะค่าเทคโนโลยีท่ี“จาเป็น” ต้องใช้ และ ไมม่ ียอมจ่ายคา่ เทคโนโลยีที่คิดว่าไมไ่ ด้ใช้ซ่ึงเป็นข้อผิดพลาดอยา่ งย่ิง ถ้าคุณต้องการใหธ้ ุรกจิ ของคุณยืนยาว ตลอดไป การลงทุนดา้ นเทคโนโลยเี พ่อื ใหธ้ ุรกิจของคุณเตบิ โตน้นั มีความจาเป็นอยา่ งยิง่ เพราะการเลือกใช้ เทคโนโลยที ่ีเหมาะสมจะชว่ ยใหค้ ุณประหยดั ท้งั เงินและเวลา ดังน้นั อยา่ มองธุรกจิ ของคุณแค่ในวนั น้แี ต่ให้มอง ไปถึงอีก 5 ปี หรือ 10 ปี ข้างหนา้ แลว้ เลอื กลงทนุ ด้านเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมสาหรบั ธุรกจิ ของคุณ 2. ให้ความสาคญั กบั การส่ือสารออนไลน์ ไมว่ ่าจะเป็น Social Media ย่ีหอ้ ไหนกต็ ามการได้แสดงความเหน็ กบั ลูกค้า ตอบสนองในส่ิงทีพ่ วกเขา เรียกรอ้ ง อพั โหลดวีดโี อทน่ี า่ สนใจฯลฯ การสื่อสารในรูปแบบน้ไี มใ่ ช่แค่การนาเสนอเนอื้ หาดีๆหรือการส่ือสาร ทางเดียวแบบที่ผ่านๆมา แต่การใช้ Social Media ชว่ ยให้คุณได้พูดคุยกบั ลูกคา้ ตวั จริงให้ลูกคา้ ของคุณได้พดู คยุ กนั เองเก่ียวกบั คุณและผลิตภณั ฑข์ องคุณ แตก่ ารจะใชป้ ระโยชนข์ องส่งิ เหลา่ น้ใี ห้คมุ้ ค่าคุณจะตอ้ งมหี ลายปัจจยั รวมกนั ไมใ่ ชแ่ ค่ปัจจัยเดียว อาทิเวบ็ ไซตท์ ่ี ใชง้ านง่าย เนอื้ หาทีด่ ี มหี นา้ บลอ็ ก เว็บบอร์ดใหค้ นเขา้ รว่ มมีจดหมายอิเลคทรอนิกสท์ ่ีอา่ นง่าย เป็นประโยชน์ ตอ่ ผู้อ่านและสง่ หาลูกคา้ สมา่ เสมอ ตลอดจนการส่ือสารผา่ นเวบ็ เครือขา่ ยทางสงั คมทรี่ วดเรว็ ทนั ใจครอบคลุมใน หลายช่องทางที่ไดร้ ับความนิยม
3. นาเทคโนโลยีเคลื่อนท่ีมาใช้ในธุรกจิ ถ้างานของคณุ จาเป็นต้องไปไหนมาไหนบา้ งเทคโนโลยีเคล่ือนท่เี ป็นตวั เลอื กทจ่ี าเป็นกบั คุณมิใช่นอ้ ย เพราะการใช้เทคโนโลยเี หล่าน้ีจะทาให้คุณเข้าถึงอีเมล์ แฟกซ์ ไฟล์งานตา่ งๆใน ออฟฟิ ศไดเ้ สมอื นอยใู่ นออฟฟิ ศโดยท่ไี มต่ อ้ งคอยบอกลูกคา้ วา่ ยงั ไมไ่ ดร้ ับแฟกซ์หรือขอ้ ความใดๆ เพียงเพราะคุณไมไ่ ดอ้ ยใู่ นท่ีทางานซ่ึงทาให้คุณปราศจากความคลอ่ งตวั ในการท างานหรืออาจจะ ถึงข้นั สูญเสียลูกคา้ กเ็ ป็นได้ 4. หาตัวชว่ ยด้านเทคโนโลยี ไมจ่ าเป็นวา่ คุณจะต้องจดั การและดูแลเทคโนโลยตี า่ งๆเหล่าน้ดี ว้ ยตวั เอง คณุ อาจจะมคี วาม เช่ียวชาญด้านธุรกจิ ของคุณมากแต่ไมไ่ ด้หมายความวา่ คุณตอ้ งมีความเช่ียวชาญดา้ นเครือข่าย เทคโนโลยี การส ารองข้อมลู ในคอมพิวเตอรฯ์ ลฯ ทางเดียวที่จะช่วยใหค้ ุณใชเ้ ทคโนโลยีไดอ้ ยา่ ง เหมาะสมและมปี ระสิทธิภาพทส่ี ุดกค็ ือการวา่ งจา้ งบริษทั หรือผูเ้ ช่ียวชาญให้มาดแู ลงานส่วนน้แี ทน คุณ
1.2 ความจาเป็ นที่ต้องมีการนาเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจ 1. โลกเกดิ การเปล่ียนแปลงคร้ังใหญใ่ นเทคโนโลยกี ารส่ือสารข้อมลู และเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์องค์กร ตา่ งๆท้งั องค์กรธุรกจิ และ องคก์ รทไ่ี มใ่ ชธ่ ุรกจิ ไดป้ รบั ตัวเชื่อมโยงขอ้ มูลเขา้ ดว้ ยกนั แล้วเป็นสว่ นใหญ่ องคก์ ร ใดท่ไี มเ่ ชื่อมโยงข้อมลู ถึงกนั จะโดดเด่ียวและดาเนนิ ธุรกิจได้ลาบาก จึงตอ้ งนาเอาเทคโนโลยเี ขา้ ไปเป็นส่วน หน่งึ ขององคก์ ร ตลอดจนขอ้ บงั คบั ทางกฎหมายในบางเรื่องอาจมกี ารบงั คบั ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการ ควบคุมเชน่ การขออนญุ าตจดทะเบียนการค้าและการภาษีอากร ในอนาคตทุกองคก์ รการคา้ อาจต้องถูก บงั คับให้เช่ือมโยงข้อมลู การขายและสินคา้ คงคลงั เพ่ือการจัดเกบ็ ภาษีผา่ นเครื่องบนั ทกึ เงนิ สด 2. องคก์ รธุรกิจในอนาคตมีการแขง่ ขนั สูง ทกุ องค์กรตอ้ งการเข้าถึงผูบ้ ริโภคของตวั เองดว้ ยความแตกตา่ งจากคูแ่ ข่งใหม้ ากท่สี ุด (Customer approach with high differentiated products and services) ดว้ ยสินค้าและ บริการทร่ี าคาถูกด้วยความรวดเรว็ และคุณภาพดีเทา่ ที่ลูกคา้ ต้องการ และระบุไดด้ ้วยตนเอง (Customization) ซ่ึง ในปัจจุบนั เทคโนโลยีสารสนเทศเอื้อประโยชนใ์ ห้แต่ละองค์กรสามารถทาธุรกจิ อีเลก็ ทรอนิกส์ (e-Business) ได้ เช่น การซื้อขายสินค้าและทาธุรกรรมผา่ นเว็บไซต์ หรือ การพาณิชยอ์ ีเลก็ ทรอนิกส์ (e-Commerce) 3. องค์กรตอ้ งมีการปรับตวั และออกแบบองค์กรใหม่ เพราะถูกผลกระทบจากแรงกดดนั ในหลายด้าน ไดแ้ ก่ แรงกดดนั จากเทคโนโลยี แรงกดดันจากสงั คมและแรงกดดนั จากตลาดหรือลกู คา้
1.3 การนาเทคโนโลยีมาใช้ในงานด้านการตลาด 1. การปฏิบตั ิงาน (operations) เป็นข้อมูลท่ีแสดงถงึ ยอดขายและการดาเนินงานดา้ นการตลาด ตลอด ชว่ งระยะเวลาท่ผี า่ นมา โดยขอ้ มลู การปฏิบตั ิงานจะเป็นขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกดิ ข้ึนจากการดาเนนิ งานที่ช่วย ในการ ตรวจสอบ ควบคุมและวางแนวทางปฏิบตั ิใหม้ ีประสิทธิภาพสูงข้ึนในอนาคต 2. การวิจยั ตลาด (marketing research) เป็นขอ้ มูลทีไ่ ด้จากการศึกษาและวิเคราะห์ขอ้ มลู ทาง การตลาด โดยเฉพาะพฤติกรรมและความสัมพนั ธข์ องผูบ้ ริโภคที่มตี อ่ ผลิตภณั ฑห์ รือบริการ ของธุรกจิ โดยนกั การตลาด จะทาการวิจัยบนสมมติฐานและการเกบ็ ขอ้ มลู จากกลุ่มตวั อยา่ งปกติข้อมูลในการวิจยั ตลาดจะได้มาจากการ รวบรวมขอ้ มูลปฐมภมู ิ เช่น การสงั เกต การสัมภาษณ์ และการใชแ้ บบสอบถามการวิจยั ตลาดชว่ ยผูบ้ ริหารใน การวางแผนและการตดั สินใจทางการตลาด แตอ่ าจมีข้อจากดั ของความถูกตอ้ งและความนา่ เชื่อถอื ในการอธิบาย พฤติกรรมของ กลุม่ เป้าหมาย
3. คู่แข่ง (competitor) คากลา่ วท่ีวา่ “รูเ้ ขารู้เรา รอบร้อยคร้ังชนะท้งั รอ้ ยคร้งั ” แสดงความสาคญั ทธี่ ุรกจิ ตอ้ งมคี วามเข้าใจในคูแ่ ขง่ ขนั ท้งั ดา้ นจานวนและ ศกั ยภาพโดยข้อมูลจากการ ดาเนินงานของคูแ่ ขง่ ขันช่วยใหธ้ ุรกิจสามารถวางแผนการตลาดอยา่ งเหมาะสมปกติขอ้ มูลจากคู่แขง่ ขันจะมี ลกั ษณะไมม่ ีโครงสรา้ ง ไมเ่ ป็นทางการ และมแี หลง่ ทีม่ ีไมช่ ัดเจนเชน่ การทดลองใช้สินคา้ หรือบริการ การ สัมภาษณ์ลูกคา้ และตวั แทนจาหนา่ ย การติดตามข้อมลู ในตลาด และขอ้ มลู จากสื่อสารมวลชนเป็นต้น 4. กลยุทธข์ ององคก์ าร (corporate strategy) เป็นขอ้ มูลสาคญั ทางการตลาด เนอ่ื งจากกลยทุ ธ์ จะเป็นเคร่ืองกาหนดแนวทางปฏิบตั ขิ องธุรกจิ และเป็นฐานในการกาหนดกลยุทธ์ทางการตลาดขององคก์ าร 5. ขอ้ มลู ภายนอก (external data) การเปลี่ยนแปลงทเ่ี กิดข้ึนทางเศรษฐกิจ การเมอื ง สังคมและ เทคโนโลยี ซ่ึงจะส่งผลตอ่ โอกาสหรืออปุ สรรคของธุรกิจ โดยทาใหค้ วามตอ้ งการของผบู้ ริโภคที่มีตอ่ ผลิตภณั ฑ์ หรือบริการของลูกค้าขยาย หรือหดตวั ตลอดจนสร้างคู่แข่งขันใหมห่ รือ เปล่ียนข้ันตอนและรูปแบบในการ ดาเนนิ งาน
สารสนเทศดา้ นการตลาดอาจจะมคี วามแตกตา่ งกนั ตามประเภทของธุรกจิ ซ่งึ เราสามารถจาแนกระบบยอ่ ยของ ระบบสารสนเทศดา้ นการตลาดได้ดังต่อไปน้ี 1. ระบบสารสนเทศสาหรบั การขาย สามารถแบง่ ออกเป็นระบบยอ่ ย 3 ระบบดงั ต่อไปน้ี - ระบบสารสนเทศสาหรับสนบั สนนุ การขาย จะรวบรวมข้อมลู ตา่ งๆเพ่ือสนบั สนนุ การดาเนนิ งานของฝ่ ายขาย เพ่ือใหก้ ารขายเป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ซ่ึง ขอ้ มลู ที่ระบบตอ้ งการจะเกย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑท์ ี่จะทาการขาย รูปแบบ ราคา และการโฆษณาต่าง ๆเพ่ือดึงดูดความ สนใจของลูกคา้ นอกจากน้ีอาจเก่ยี วกบั ชอ่ งทางและ วิธีการขายสินคา้ ผา่ นตวั แทนจาหนา่ ยในเรื่องของ ความสัมพนั ธ์ระหว่างบริษทั กบั ลูกค้า ตลอดจนคูแ่ ขง่ ของผลติ ภณั ฑท์ จ่ี ะขายและจาหนา่ ยสินค้าคงคลังของ บริษทั - ระบบสารสนเทศสาหรับวิเคราะหก์ ารขาย จะรวบรวมสารสนเทศในเรื่องของกาไรหรือขาดทนุ ของผลิตภณั ฑ์ความสามารถของพนกั งานขายสินค้า ยอดขายของแตล่ ะเขตการขาย รวมท้งั แนวโนม้ การเติบโตของสินคา้ ซ่ึงสามารถหาข้อมลู ได้จากรายงานต่าง ๆ เช่น รายงานการขาย รายงานของตน้ ทุนสินคา้ และวตั ถุดิบ เป็นตน้ - ระบบสารสนเทศสาหรบั การวเิ คราะหล์ ูกค้า จะช่วยในการวิเคราะห์ลกู คา้ เพอ่ื ใหท้ ราบถงึ รูปแบบของการซอื้ และ ประโยชนท์ ่ีลูกค้าจะไดร้ ับ เพ่ือท่ีธุรกจิ จะ สามารถให้บริการลูกคา้ ได้อยา่ งเหมาะสมและมปี ระสทิ ธิภาพ
2. ระบบสารสนเทศสาหรับการวิจยั ตลาด สามารถแบง่ ออกเป็นระบบยอ่ ยตามหนา้ ที่ได้ 2 ระบบ ดงั ตอ่ ไปน้ี - ระบบสารสนเทศสาหรับการวจิ ยั ลกู คา้ การ วิจัยลูกคา้ จะต่างกบั การวิเคราะหล์ ูกค้าตรงท่ีวา่ การวิจยั ลูกค้าจะมขี อบเขต ของการใช้สารสนเทศกวา้ งกว่าการวิเคราะหล์ ูกค้า โดยการวิจยั ลูกคา้ จะตอ้ งการ ทราบสารสนเทศ ทเ่ี กย่ี วกบั ลูกคา้ ในดา้ นสถานะทางการเงนิ การดาเนินธุรกจิ ความพอใจ รสนิยมและ พฤติกรรมการบริโภค - ระบบสารสนเทศสาหรบั การวิจยั ตลาด การวิจยั ตลาดจะให้ความสาคญั กบั การหาขนาดของตลาดของแต่ละผลิตภณั ฑท์ ี่จะนาออก จาหนา่ ย ซ่ึงอาจ ครอบคลุมท้งั ในระยะส้นั และระยะยาว หลังจากน้นั กจ็ ะกาหนดสว่ นแบง่ ตลาดของผลติ ภณั ฑเ์ พ่ือทาการวางแผน กาหนดเป้าหมาย กาหนดกลยทุ ธแ์ ละวางแผนกลยุทธ์ สารสนเทศทเ่ี ป็นท่ตี อ้ งการของการวิจยั ตลาดคือสภาวะ และแนวโนม้ ทาง เศรษฐกิจ ยอดขายในอดีตของอุตสาหกรรมหรือผลิตภณั ฑช์ นดิ เดียวกนั ในตลาด รวมท้งั สภาวะการแขง่ ขนั ของผลติ ภณั ฑน์ ้ีดว้ ย
3. ระบบสารสนเทศสาหรับการส่งเสริมการขาย เป็นระบบทีใ่ ห้ความสาคญั กบั แผนงานทางด้านการ โฆษณาและส่งเสริมการขาย โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พื่อสง่ เสริมการขาย เพ่ิมยอดขายสินค้า และเพิ่มสว่ นแบง่ การตลาดใหส้ ูงข้ึน สารสนเทศที่เป็นท่ีต้องการคือยอดขายของสินคา้ ทกุ ชนิดในบริษทั เพ่ือให้รวู้ ่าสินคา้ ใด ต้องการแผนการสง่ เสริมการขาย และสารสนเทศท่ีเก่ยี วกบั ผลกาไรหรือขาดทนุ ของสินคา้ แต่ละชนดิ เพ่ือให้ ความสาคัญกบั สินคา้ ตวั ที่ทากาไร 4. ระบบสารสนเทศสาหรบั การพฒั นาผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ เป็นระบบสารสนเทศท่วี ิเคราะหถ์ งึ ความเป็นไปไดข้ องผลติ ภณั ฑใ์ หม่ๆลักษณะและความตอ้ งการของลกู คา้ ตอ่ ผลติ ภณั ฑใ์ หม่หรือผลติ ภณั ฑท์ ่ี เป็นท่ตี อ้ งการของลูกคา้ แตย่ งั ไมม่ ีตลาด โดยสารสนเทศที่เป็นท่ตี อ้ งการของระบบได้แก่ยอดขายของผลติ ภณั ฑ์ ประเภทเดียวกนั ในอดีต เพ่ือใหท้ ราบถึงขนาดและลกั ษณะของตลาด และการประมาณการต้นทุนเพื่อตอบ ค าถามให้ได้ว่าสมควรที่จะออกผลติ ภณั ฑใ์ หมห่ รือไม่ 5. ระบบสารสนเทศสาหรบั พยากรณก์ ารขาย เป็นระบบท่ใี ช้ในการวางแผนการขายแผนการทากาไร จากสินค้าหรือบริการในชว่ งเวลาใดเวลาหน่งึ ของบริษทั ซ่ึงจะสง่ ผลไปถึงการวางแผนการผลิต การวางกาลงั คน และงบประมาณทจ่ี ะใช้เกีย่ วกบั การขาย โดยสารสนเทศที่เป็นทต่ี ้องการคือ ยอดขายในอดีต สถานะของคู่ แข่งขันสภาวการณ์ของตลาด และแผนการโฆษณา
6. ระบบสารสนเทศสาหรบั การวางแผนกาไร เป็นระบบสารสนเทศทีใ่ ห้ความสาคญั กบั การวางแผน ทากาไรท้งั ในระยะส้ันและระยะยาวของ ธุรกจิ โดยสารสนเทศทเ่ี ป็นที่ต้องการคอื สารสนเทศจากการวิจยั ตลาด ยอดขายในอดีต สารสนเทศของคแู่ ข่งขันการพยากรณ์การขาย และการโฆษณา 7. ระบบสารสนเทศสาหรบั การกาหนดราคา การกาหนดราคาของสินค้านบั วา่ เป็นจติ วิทยาอย่างหน่งึ ทางการตลาด เพราะต้องคานงึ ถึงความตอ้ งการของลกู ค้า คู่แข่งขนั กาลงั ซื้อของลูกค้า โดยปกติแลว้ ราคาสินค้า จะต้ังจากราคาตน้ ทนุ รวมกบั ร้อยละของกาไรท่ีตอ้ งการ โดยสารสนเทศที่ตอ้ งการไดแ้ ก่ตัวเลขกาไรของ ผลิตภณั ฑใ์ นอดีต เพ่ือทาการปรับปรุงราคาใหไ้ ดส้ ัดส่วนของกาไรคงเดิม ในกรณีที่ต้นทนุ มกี ารเปล่ียนแปลง 8. ระบบสารสนเทศสาหรับการควบคุมค่าใชจ้ า่ ย บคุ คลทีเ่ ป็นผูค้ วบคมุ ค่าใชจ้ า่ ยสามารถควบคุมได้ โดยดูจากรายงานของผลการท า กาไร กบั คา่ ใช้จ่ายท่เี กิดข้ึนจริงหรือสาเหตุของการคลาดเคล่ือนของคา่ ใช้จ่าย ค่าใชจ้ า่ ยที่เก่ียวกบั การขายรวมถึงค่าใช้จา่ ยตา่ ง ๆเช่น เงินเดือนคา่ โฆษณา ค่าส่วนแบง่ การขาย เป็นต้น ปัจจุบนั เทคโนโลยสี ารสนเทศไดเ้ ขา้ มามสี ่วนสาคญั ตอ่ การดาเนนิ ธุรกิจ โดยเฉพาะการขยายโอกาส และเปล่ียนแปลงรูปแบบทางการคา้ ซ่ึงทาใหน้ กั การตลาดสมยั ใหมต่ อ้ งสามารถประยุกตเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่ือกอ่ ใหเ้ กดิ โอกาสและสรา้ งความไดเ้ ปรียบในการแขง่ ขนั แกอ่ งค์การ ซ่ึงจะสง่ ผลตอ่ ความกา้ วหนา้ ในอาชีพ ของตน
ระบบสารสนเทศด้านการผลิตและการดาเนินงาน การผลิต (production) เป็นกระบวนการแปรรูปทรพั ยากรการผลิต เช่นวตั ถุดิบ แรงงานและ พลงั งาน ใหเ้ ป็นผลิตภณั ฑท์ พี่ ร้อมในการจดั จาหนา่ ยแกล่ กู คา้ โดยผูผ้ ลิตตอ้ งพยากรณป์ ริมาณของผลิตภณั ฑท์ ่ีเหมาะสม กบั ความต้องการของลกู คา้ โดยไมใ่ หม้ จี านวนมากหรือนอ้ ยจนเกนิ ไป ตลอดจนควบคุมคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ เป็นท่ีตอ้ งการของลูกค้า โดยมตี น้ ทุนการผลิตท่เี หมาะสมปัจจุบนั การขยายตวั ของธุรกจิ จากการผลิตเข้าสสู่ ังคม บริการ ทาให้มีการประยุกต์หลกั การของการจัดการผลิตกบั งานด้านบริการ ซ่ึงเราจะเรียกการผลิตในหนว่ ย บริการวา่ “การดาเนินงาน(operations)” โดยที่แหลง่ ข้อมลู ในการผลิตและการดาเนนิ งานขององค์การมี ดังต่อไปน้ี 1. ข้อมลู การผลิต/การดาเนนิ งาน(production/operations data) เป็นขอ้ มลู จากกระบวนการผลิตหรือ การใหบ้ ริการ ซ่ึงจะแสดงภาพปัจจบุ นั ของระบบการผลติ ของธุรกจิ วา่ มปี ระสิทธิภาพมากนอ้ ยเพียง ใด และมี ปัญหาอยา่ งไรในการดาเนนิ งาน ซ่ึงจะเป็นประโยชนต์ อ่ การวางแผนในการแกป้ ัญหาและการพฒั นา ประสิทธิภาพการ ดาเนนิ งานในอนาคต 2. ข้อมูลสินคา้ คงคลงั (inventory data) บนั ทึกปริมาณวัตถุดิบและสินคา้ สาเรจ็ รูปท่ีเกบ็ ไว้ในโกดงั โดยผูจ้ ัดการตอ้ งพยายามจดั ใหม้ สี ินค้าคงคลงั ในปริมาณไมเ่ กนิ ความจาเป็นหรือ ขาดแคลนเม่อื เกดิ ความต้องการ ข้ึน
3. ขอ้ มูลจากผู้ขายวตั ถุดิบ (supplier data) เป็นขอ้ มูลเกยี่ วกบั ปริมาณคุณสมบตั ิ และราคาวตั ถดุ ิบ ตลอดจนช่วงทางและตน้ ทนุ ในการลาเลียงวตั ถุดิบ ปัจจุบนั การพฒั นาระบบแลกเปลี่ยนขอ้ มลู อิเลก็ ทรอนิกส์ (electronic data interchange) หรือทเ่ี รียกวา่ EDI ช่วยใหก้ ารประสานงานระหวา่ งผู้ขายวัตถุดิบ ธุรกิจ และลูกคา้ มปี ระสิทธิภาพมากข้ึน 4. ขอ้ มลู แรงงานและบุคลากร (labor force and personnel data) ขอ้ มลู เกีย่ วกบั พนกั งานใน สายการผลิตและปฏิบตั กิ าร เชน่ อายุ การศึกษา และประสบการณ์ เป็นตน้ ซ่ึงจะเป็นประโยชนใ์ นการจดั บุคลากรให้สอดคลอ้ งกบั งานขณะท่ีข้อมลู ภายนอกเกย่ี วกบั ตลาดแรงงานจะเป็นประโยชนใ์ นการวางแผนและ จัดหา แรงงานทดแทนและการกาหนดอตั ราคา่ จ้างอยา่ งเหมาะสม 5. กลยทุ ธ์องค์การ (corporate strategy) แผนกลยุทธ์ขององค์การจะเป็นแมบ่ ทและแนวทางในการ กาหนดกลยทุ ธก์ ารผลิตแลการดาเนนิ งานให้มีประสิทธิภาพ
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศในการดาเนนิ งานขององค์การ นอกจากจะสง่ ผลตอ่ การพัฒนาผลิตผล (productivity) ของธุรกิจ โดยเฉพาะการปฏิบตั ิ ต้ังแตก่ ารตดั สินใจเกย่ี วกบั การออกแบบและการพฒั นา ผลิตภณั ฑห์ รือบริการ การปรับปรุงกระบวนการผลิต การควบคุมสินคา้ คงคลงั การวางแผนคุณภาพการเพิ่ม ผลผลิต และการควบคุมตน้ ทนุ ขององคก์ ารให้มปี ระสิทธิภาพข้ึน ทาให้ระบบอุตสาหกรรมและระบบเศรษฐกิจ โดยรวมเติบโตแล้ว ยงั สง่ ผลตอ่ ความคลอ่ งตวั ในการปฏิบตั ิงานและการจัดรูปแบบความสมั พนั ธ์ทาง สังคมโดย ทางตรงและทางอ้อม การวางแผนความต้องการวสั ดุ การบริหารทรัพยากรการผลิต โดยเฉพาะวัตถดุ ิบ (raw materials) เป็นหวั ใจสาคญั ของการจดั การดา้ นการ ดาเนินงานการผลิต ถ้าธุรกิจมปี ริมาณวตั ถุดิบมากเกนิ ไปจะทาใหค้ า่ ใชจ้ า่ ยในการเกบ็ รกั ษาสูงแต่ถา้ มปี ริมาณ วัตถุดิบนอ้ ยเกนิ ไปกจ็ ะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ แผนและกระบวนการ ผลิต ตลอดจนกอ่ ใหเ้ กดิ คา่ เสยี โอกาสทาง ธุรกจิ การวางแผนความตอ้ งการวสั ดุ (material requirement planning) หรือท่ีเรียกวา่ MRP เป็น ระบบสารสนเทศท่รี วบรวมข้อมลู เกยี่ วกบั ระบบการผลิต เพ่ือประกอบการวางแผนความตอ้ งการวัสดุเพื่อใหธ้ ุรกิจ สามารถจัดการวัตถุดิบ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ โดย MRP ให้ความสาคญั กบั สิ่งตอ่ ไปน้ี 1. ไมเ่ กบ็ วตั ถุดิบเพอ่ื รอการใชง้ านไวน้ านเกนิ ไป ซ่ึงกอ่ ใหเ้ กดิ คา่ ใช้จา่ ยในการเกบ็ รกั ษาและความเสี่ยงในการ สูญหายหรือสูญเสีย 2. รายงานผลการผลติ และความเสยี หายท่ีเกดิ ข้ึนตามระยะเวลาที่กาหนด 3. ควบคุมสินค้าคงคลงั อยา่ งเป็นระบบ 4. มกี ารตรวจสอบ แกไ้ ข และติดตามผลขอ้ ผิดพลาดทีเ่ กิดข้ึน
โดยท่ี MRP มีบทบาทตอ่ ระบบการผลิตขององคก์ ารต้งั แตก่ ารจดั หาวสั ดุ เพ่ือทาการผลิต โดยการ กาหนดปริมาณและระยะเวลาในการส่งั ที่ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ย ตลอดจนจดั เตรียมรายละเอียด ของการผลิตใน อนาคตซ่ึงเราสามารถสรุปวา่ MRP มีขอ้ ดีดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ลดการขาดแคลนวตั ถุดิบทีจ่ าเป็นในการผลิต 2. ลดค่าใชจ้ า่ ยในการเกบ็ รกั ษาวตั ถดุ ิบและสินคา้ คงคลงั 3. ช่วยใหบ้ คุ ลากรมเี วลาในการปฏิบตั ิงานอื่นมากข้ึน 4. ประหยดั แรงงาน เวลา และคา่ ใชจ้ า่ ยในการติดตามวตั ถดุ ิบ 5. ช่วยใหอ้ งค์การสามารถปรบั ตวั อยา่ งรวดเร็วตามการเปล่ียนแปลงทเ่ี กิดข้ึน
1.4 สาระสาคัญของการใช้พาณิชย์อเิ ล็กทรอนิกส์ พาณิชยอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ใชต้ ดิ ตอ่ กนั ได้หลายระดับ ไดแ้ ก่ธุรกิจกบั ธุรกิจ ธุรกิจกบั ภาครฐั ธุรกิจกบั ลูกคา้ ลูกค้ากบั ลูกคา้ หรือแมแ้ ต่รัฐบาลกบั รัฐบาล สาระสาคญั ของการใช้พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ มีดังน้ี 1. การขาย การโฆษณา แสดงสินคา้ เสนอสินค้า ส่งั ซื้อ คานวณราคา 2. การชาระเงินการตกลงวธิ ีการชาระเงินสงั่ โอนเงินใหข้ อ้ มลู บญั ชีธนาคารทใี่ ห้ตดั บญั ชี ตลอดจน เงินดิจิทลั รูปแบบใหม่ 3. การขนส่ง แจง้ วิธีการสง่ มอบของคา่ ขนส่ง สถานทต่ี ิดตอ่ และระบบตดิ ตามสินคา้ ที่ส่ง 4. บริการหลังการขาย การติดตอ่ ภายในบริษทั ธุรกจิ นาพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์มาใชต้ ิดตอ่ บคุ คลหนว่ ยงานหรือองคก์ รหลายระดบั เช่นใชพ้ าณิชย์ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ระหว่างธุรกิจกบั ลูกคา้ ในการซ้อื ขายสินคา้ การาระเงินหรือการบริการหลงั การขาย เป็นตน้
1.5 ข้อดแี ละข้อจากดั ของพาณิชย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ข้ อดี 1. ประหยดั ค่าใช้จา่ ยเพ่ือการเดินทางไปซื้อสินค้า เพียงแคเ่ ลอื กซื้อผา่ นเว็บไซตเ์ ทา่ นน้ั 2. ประหยดั เวลาในการติดตอ่ แคใ่ ชเ้ วลาไมน่ านแคเ่ พียงไมก่ ี่วนิ าทีเรากส็ ามารถตดิ ต่อซ้ือ สินค้าได้ 3. การเปิ ดร้านคา้ ในอินเตอร์เนต็ เป็นการขยายตลาดสู่ทวั่ โลกไมจ่ ากดั เฉพาะแค่ในประเทศ และยงั ทาให้ผู้บริโภคมีตวั เลือกในการได้เลือกซื้อสินค้ามากยงิ่ ข้นึ 4. ผูข้ ายสามารถเปิ ดรา้ นได้ทกุ วนั ตลอด 24 ชัว่ โมงไมม่ วี นั หยดุ และผูบ้ ริโภคกส็ ามารถซ้ือ สินคา้ ไดท้ ุกวนั ข้ อเสี ย 1. ผู้ซื้ออาจไมแ่ นใ่ จวา่ สัง่ ซื้อแล้วจะได้รบั สินค้าจริง หรือไดร้ ับสินค้าทีไ่ มเ่ ป็นไปตามคาดหวงั หรือสินค้าชารุดเสียหายหรือสูญหาย 2. สินค้าอาจเป็นสินค้าท่ไี มผ่ า่ นการทดสอบ หรือสินคา้ ไมม่ คี ุณภาพ 3. เส่ียงต่อการถกู ฉ้อโกง หรือถูกโกงราคาหรือถกู หลอกลวงไดง้ า่ ย 4. ขอ้ มูลสินค้าบางอยา่ งอาจมีการโออ้ วดคุณภาพสินค้าเกนิ จริง โดยท่ีเราไมส่ ามารถตรวจสอบ ได้ 5. ในระบบกฎหมายของไทย ยงั ไมม่ กี ารให้ความคุ้มครองอยา่ งทว่ั ถงึ เพียงพอ ความปลอดภยั ในขอ้ มลู ทางอินเตอร์เนต็ จึงยงั ไมป่ ลอดภยั พอ
1.6 ประโยชน์ของพาณิชย์อิเลก็ ทรอนิกสาเสนอสินค้าผลติ ภัณฑ์ และบริการต่างๆ ปัจจุบนั จะเห็นไดว้ า่ พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ เป็นชอ่ งทางการค้าที่นา่ สนใจมาก เพราะนบั วันกย็ งิ่ มี ผู้ใช้งานอินเตอรเ์ นต็ เพิ่มมากข้ึนเร่ือยๆซ่ึงสง่ ผลใหก้ ารค้าทางอินเตอรเ์ นต็ ขยายตวั ไดอ้ ยา่ ง รวดเรว็ และการท า ธุรกจิ บนเวบ็ ไซตน์ ้นั สามารถใช้ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยีไดม้ ากมายหลายประการ ไดแ้ ก่ 1. ท าการคา้ ไดต้ ลอด 24 ชงั่ โมง และขายสินค้าไดท้ วั่ โลก นกั ทอ่ งอนิ เตอร์เนต็ จากทวั่ ทุกมมุ โลกสามารถ เข้ามาในเว็บไซตข์ องบริษทั ได้ตลอดเวลาผูข้ ายสามารถนาเสนอสินคา้ ผลิตภณั ฑ์และบริการต่างๆ 2. ข้อมลู ทนั สมยั อยูเ่ สมอ และประหยดั ค่าใชจ้ ่าย พาณิชยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ น้นั มปี ระโยชนท์ สี่ าคัญมากอีก ประการหน่งึ คือสามารถ เสนอขอ้ มลู ทีใ่ หมล่ ่าสดุ ให้กบั ลูกค้าไดท้ นั ที 3. ง่ายต่อการชาระเงินพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์สามารถชาระเงินได้อยา่ งสะดวกสบายโดยวธิ ีการตดั ผ่านบตั ร เครดิตหรือการโอนเงนิ เขา้ บญั ชีซ่ึงจะเป็นระบบอตั โนมตั ิ
1.7 จรรยาบรรณนักการตลาด ทกุ วันน้ภี าพลักษณข์ องนกั การตลาดในสายตาบุคคลทว่ั ไปอาจจะไมด่ ีนกั เนอื่ งจากมนี กั การตลาด จานวนมากท่ใี ชย้ ุทธวิธีต่าง ๆนานา เพ่ือกระตุน้ และเร่งเรา้ ให้ลูกคา้ ตัดสนิ ใจซื้อโดยที่ไมไ่ ดค้ านงึ ถึงผลกระทบ ต่าง ๆ ทจี่ ะตามมาในภายหลัง หรือแมก้ ระทง่ั การกระตุ้นใหผ้ ูบ้ ริโภคมกี ารใชจ้ า่ ยทเ่ี กนิ ตวั จนกอ่ ใหเ้ กดิ ภาระ หน้สี ินจานวนมาก แมว้ ่าหลักการตลาดโดยทว่ั ไปมุง่ เนน้ ทจี่ ะกระตุ้นใหผ้ บู้ ริโภคเกดิ การตัดสินใจซื้อ แตน่ ้นั ตอ้ ง อยบู่ นหลกั การทีว่ ่าไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ความเดือดรอ้ นแกผ่ ูซ้ ื้อด้วยเชน่ กนั ดงั น้นั สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยจึง ได้จัดทาจรรยาบรรณนกั การตลาดเพอื่ เป็นแนวทางปฏิบตั สิ าหรับบคุ คลในวงการธุรกิจและการตลาด เพื่อให้ อาชีพนกั การตลาดเป็นอาชีพทีม่ ีเกยี รติและศกั ด์ิศรีอยา่ งแทจ้ ริง ความรูค้ วามชานาญ ทางด้านการตลาดมใิ ชเ่ พื่อ นาไปเอารดั เอาเปรียบผู้บริโภคหรือกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ การพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมของชาติแตจ่ ะตอ้ ง เป็นการสรา้ งสรรค์และยกระดบั มาตรฐานวงการตลาดไทยให้ทดั เทียมกบั อารยประเทศ
จบการนาเสนอคะ่
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: