ห น ้ า | ๔๖ วิเคราะห์แบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ท่ี ๔ แบบทดสอบเป็นแบบปรนัย ๕ ตัวเลือก มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕ .๑ เข้าใจและแสดง ความคิดเห็น วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคณุ ค่าและนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริง ดงั น้ี ขอ้ คำถาม ตัวช้ีวดั จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ๑. ข้อใดไม่ใชเ่ หตุผลของการเขยี น ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ด้านพทุ ธพิ ิสยั คมั ภีรฉ์ ันทศาสตร์ แพทยศาสตร์ วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์วรรณคดแี ละ สงเคราะห์ วรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณ์ ข้นั ความรคู้ วามจำ ๑. ตอ้ งการรวบรวมตำราแพทยใ์ ห้ เป็นฉบับสมบรู ณ์ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ด้านพทุ ธิพสิ ัย ๒. ต้องการเรยี บเรียงหนงั สือทใี่ ห้ วิเคราะหแ์ ละวิจารณว์ รรณคดีและ ขนั้ ความรูค้ วามจำ ความร้ดู า้ นการแพทย์ วรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์ ๓. ต้องการปรบั ปรุงตำราแพทย์ ทอ้ งถิ่นทข่ี อ้ มลู ผิดเพย้ี น ๔. ต้องการถา่ ยทอดองคค์ วามร้ดู า้ น การแพทย์ทีถ่ กู ต้อง เชือ่ ถอื ได้ ๕. ตอ้ งการจดั ทำหนังสอื แพทยเ์ พ่ือ เทิดพระเกยี รตพิ ระมหากษัตริย์ ๒. “ไหว้ครกู มุ ารภัจ ผเู้ จนจัดใน คัมภรี ”์ บทประพันธ์นี้ คำวา่ “ครู กุมารภัจ” หมายถึงใคร ๑. บิดาแหง่ การแพทย์แผนไทย ๒. แพทยห์ ลวงของพระเจ้าพมิ พสิ าร ๓. เทพเจา้ แหง่ การแพทย์ของศาสนา ฮินดู ๔. นามปากกาของพระยาพศิ ณุ ประสาทเวช ๕. ฤาษีผู้ถา่ ยทอดวิชาแพทยใ์ นสมัย บรรพกาล
ห น ้ า | ๔๗ ขอ้ คำถาม ตัวชี้วดั จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ๓. “ไมร่ ู้คัมภรี เ์ วช ห่อนเหน็ เหตุซ่ึง ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ด้านพุทธิพิสยั โรคทำ แพทยเ์ อ๋ยอยา่ งมดคลำ จักขุ วเิ คราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดีและ ขั้นวิเคราะห์ มืดบเห็นหน” บทประพนั ธข์ า้ งต้น วรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณ์ ตรงกับพฤตกิ รรมตามข้อใด ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย ๑. สพุ จน์ศึกษาประวัตคิ นป่วย ท ๕.๑ ม.๔-๖/๓ ขน้ั ความเขา้ ใจ ทุกคร้ังกอ่ นรักษาจริง วเิ คราะหล์ กั ษณะเด่นของวรรณคดี ๒. มนัสกนิ ยาผีบอกแล้วหายปว่ ย ด้านพุทธิพิสยั จึงแนะนำให้ผู้อื่นกนิ ตาม เชือ่ มโยงกับการเรยี นร้ทู าง ขน้ั วเิ คราะห์ ๓. อุดมเปล่ยี นยาตวั ใหม่ใหค้ นป่วย ประวตั ศิ าสตร์และวิถีชีวติ ของ เมอ่ื เห็นว่ายาตัวเกา่ ใชไ้ ม่ไดผ้ ล ๔. เดชาเป็นหมอท่ีทำงานหามร่งุ หาม สังคมในอดีต คำ่ ดแู ลคนปว่ ยจนตัวเองปว่ ยตาม ๕. ตาคำดเี ป็นปราชญช์ าวบา้ นท่แี ม้ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๓ จะตาบอด แต่ฝมี ือทางการแพทย์กลับ วิเคราะหล์ ักษณะเด่นของวรรณคดี เกง่ กาจ ๔. เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งมีบทไหว้ครู เชื่อมโยงกบั การเรียนรูท้ าง ก่อนการแต่งคำประพนั ธ์ ประวตั ิศาสตร์และวถิ ีชวี ติ ของ ๑. เพื่อเพิม่ ความนา่ สนใจให้เรอื่ ง ๒. เพื่อโนม้ นา้ วผอู้ ่านใหศ้ รัทธาตาม สงั คมในอดีต ๓. เพื่อแสดงความเคารพสิ่งศักด์สิ ิทธิ์ ๔. เพ่อื แสดงถึงความศกั ดสิ์ ทิ ธิข์ อง เร่ือง ๕. เพ่ืออวดอ้างความสามารถของ ผแู้ ตง่ ๕. ขอ้ ใดสะทอ้ นความเชอื่ ได้เดน่ ชดั ที่สุด ๑. ข้าขอประนมหัตถ์ พระไตรรตั นนาถา ๒. แพทยเ์ อย๋ อย่างมคลำ จักชมุ ดื บเห็นหน ๓. ปฐมจนิ ดา โชตรตั ครรภร์ ักษา
ข้อคำถาม ตวั ชว้ี ดั ห น ้ า | ๔๘ ๔. บางทีรู้มิทัน จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ด้วยโรคนน้ั ใช่วิสยั ๕. รแู้ ต่ยามาอา่ องค์ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ด้านพุทธิพิสัย วิเคราะหแ์ ละวิจารณ์วรรณคดีและ ข้ันวิเคราะห์ รักษาใชไ้ มเ่ ขด็ ขาม วรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์ ๖. ขอ้ ใดไม่ใชจ่ รรยาบรรณของ แพทย์ ๑. หมอนวดแลหมอยา ผู้เรียนร้คู มั ภีร์ไสย ๒. อยา่ หมิน่ วา่ รงู้ า่ ย ตำรับรายอยูถ่ มไป ๓. อนงึ่ โสตอย่าซบเซา อย่างว่ งเหงาน้นั มดิ ี ๔. เรียนรใู้ หแ้ จง้ กระจัด เหน็ โรคชดั อย่าสงสยั ๕. รนู้ ้อยอยา่ บังอาจ หมน่ิ ประมาทในโรคา อา่ นบทประพนั ธต์ ่อไปนีแ้ ล้วตอบ คำถามข้อ ๗-๘ ศลี แปดแลศีลห้า เร่งรักษาสมาทาน ทรงไว้เป็นนิจกาล ทง้ั ไตรรตั น์สรณา เหน็ ลาภอย่าโลภนกั อยา่ หาญหักด้วย-มารยา ไขน้ ้อยวา่ ไขห้ นา อบุ ายกล่าวใหพ้ งึ กลวั
ห น ้ า | ๔๙ ข้อคำถาม ตัวชว้ี ัด จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ๗. บทประพนั ธข์ า้ งต้น สอดคล้องกับ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ด้านพุทธพิ ิสัย ศลี ๕ ขอ้ ใดบ้าง วเิ คราะห์และวจิ ารณว์ รรณคดแี ละ ข้ันวิเคราะห์ ๑. ขอ้ ๑ และ ๒ วรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์ ๒. ข้อ ๑ และ ๓ ๓. ขอ้ ๒ และ ๔ ๔. ข้อ ๓ และ ๔ ๕. ขอ้ ๓ และ๕ ๘. บทประพนั ธข์ ้างตน้ กลา่ วถึง ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ดา้ นพทุ ธิพิสัย จรรยาบรรณแพทยอ์ ยา่ งไร วเิ คราะห์และวจิ ารณว์ รรณคดแี ละ ข้นั ความเข้าใจ ๑. ควรรักษาคนจนเท่านั้น วรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณ์ ๒. ควรพจิ ารณาโรคใหห้ นักไว้ก่อน ๓. ควรวินจิ ฉัยโรคตามความเปน็ จริง ๔. ควรรักษาโดยการให้ผปู้ ว่ ยรกั ษา ศีล ๕. ควรมีอบุ ายหลอกลอ่ ผปู้ ว่ ยใหเ้ ช่ือ ฟงั ๙. ข้อใดมสี มั ผสั อักษรมากทสี่ ดุ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๓ ด้านพุทธิพสิ ัย ๑. ยกยักแยกขยายไข วิเคราะห์และประเมนิ คุณค่าดา้ น ขั้นความเขา้ ใจ ๒. เร่งนบนอบให้ชอบที วรรณศิลปข์ องวรรณคดีและ ๓. อยา่ ยืนแกว้ แกว่ านร วรรณกรรมในฐานะท่ีเปน็ มรดกทาง ๔. ประทานท่ัวโลกธาตรี วัฒนธรรมของชาติ ๕. กระจ่างแจง้ ในมรรคา ๑๐. ข้อใดไมป่ รากฏการใชภ้ าพพจน์ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๓ ดา้ นพุทธพิ สิ ยั ๑. อุทธังจงั อย่าอุทธจั เห็นถนัดใน วเิ คราะหแ์ ละประเมินคณุ ค่าดา้ น ข้ันวิเคราะห์ โรคา ใหต้ งั้ ตนดังพระยา ไกรสรราชเขา้ วรรณศิลปข์ องวรรณคดีและ ราวี วรรณกรรมในฐานะที่เป็นมรดกทาง ๒. อยา่ หมิน่ ว่ารงู้ ่าย ตำรบั รายอยู่ถม วัฒนธรรมของชาติ ไป รีบด่วนประมาทใจ ดังนน้ั แท้มิเปน็ การ ๓. ดวงจติ คอื กระษัตรยิ ์ ผ่านสมบตั ิอนั โอฬาร์ ข้าศึกคือโรคา เกิดเข่นฆา่ ใน กายเรา
ขอ้ คำถาม ตัวชว้ี ัด ห น ้ า | ๕๐ ๔. จะกล่าวคัมภีร์ฉัน- ทศาสตรบรรพ์ ทีค่ รูสอน เสมอดวงทินกร แลดวง จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม จันทร์กระจ่างตา ๕. เมื่อออ่ นรักษาได้ แกแ่ ลว้ ไซรย้ าก นักหนา ไข้นนั้ อปุ มา เหมือนเพลงิ ปา่ ไหม้ลกุ ลาม สรุปแบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม ครบทั้ง ๑๐ ข้อ ตรงกับจุดประสงค์เชิง พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย ขั้นความรู้ความจำ ๒ ข้อ ขั้นความเข้าใจ ๓ ข้อ ขั้นวิเคราะห์ ๔ ข้อ และขั้นประเมิน ค่า ๑ ขอ้
ห น ้ า | ๕๑ หนว่ ยท่ี ๕ : โคลนตดิ ล้อ ตอน ความนยิ มเป็นเสมียน แบบฝกึ ที่ ๑ เขียนแสดงความคิดเหน็ ต่อบทวจิ ารณท์ ่ีกำหนด ๑. ความสอดคลอ้ งกบั เน้ือหาและหลักสตู ร : สอดคล้องกบั ตัวชี้วดั ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ วเิ คราะห์ และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น และตรงกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมด้าน พุทธิพิสัย ขั้นการวิเคราะห์ เพราะแบบฝึกต้องการให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งผู้เรียนควรคิดและ วิเคราะห์ว่าบทวิจารณ์ที่กำหนดมาให้นั้นมีความจริงตรงตามที่เข้าใจในเรื่องโคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็น เสมียน ในสว่ นใดบ้าง ประกอบกบั ตอบคำถามว่ามีความคิดเหน็ อยา่ งไรตอ่ ประเด็นน้ี ๒. ความถูกต้องของกิจกรรม : โจทย์มีความชัดเจน การยกตัวอย่างบทวิจารณ์มาให้ผู้เรียน วิเคราะห์มคี วามสอดคล้องกับเน้ือเรื่อง ตรงตามขอ้ เท็จจริง การสะกดคำถกู ตอ้ ง ๓. ความเหมาะสมของกิจกรรม : กิจกรรมนี้นอกจากทดสอบความเข้าใจและการอ่านของ ผู้เรียนแล้ว ยังกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการวิเคราะห์รายละเอียด เพื่อนำข้อเท็จมาตอบประกอบการแสดง ความคิดเห็นของตนเอง แบบฝึกที่ ๑ จึงมีความเหมาะสมกับผู้เรียนเพราะนอกจากจะได้วิเคราะห์แล้ว ยังได้ แสดงความคิดจากมุมมองของผู้เรียนด้วย ในส่วนของภาพประกอบไม่ค่อยมีนอกจากกรอบข้อความเพราะ ตอ้ งการเพ่ิมพ้ืนทแี่ สดงความคิดเหน็ ให้กับผเู้ รยี น ๔. การบรู ณาการ : สามารถบูรณาการกบั กล่มุ สาระการเรยี นรเู้ ดียวกัน ในสาระที่ ๑ การอ่าน สาระที่ ๒ การเขยี น และสาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทย ๕. การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ : มีความสอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ ๒๑ ดังนี้ ๑. Reading คอื สามารถอา่ นออก ๒. (W)Riting คือสามารถเขียนได้ ๓. Critical thinking and Problem solving คือมีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิด อย่างมวี จิ ารณญาณและสามารถแกไ้ ขปัญหาได้ ๔. Communication information and Media literacy คือมที กั ษะในการส่อื สาร และการรู้เทา่ ทนั ส่ือ แบบฝึกที่ ๒ อ่านลักษณะตัวละครที่กำหนด แล้วอธิบายแผนการในชีวิตของตัวละครตามหัวข้อที่ กำหนด โดยศึกษาจากเร่ือง โคลนตดิ ลอ้ ตอน ความนิยมเป็นเสมยี น พรอ้ มใหเ้ หตผุ ลประกอบการอธิบาย ๑. ความสอดคล้องกับเนือ้ หาและหลักสตู ร : สอดคลอ้ งกบั ตัวชีว้ ัด ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ วเิ คราะห์ และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น และตรงกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมด้าน พุทธิพิสัย ขั้นการวิเคราะห์ เพราะผู้เรียนต้องวิเคราะห์ลักษณะของตัวละครที่กำหนด เพื่ออธิบายแผนการใช้
ห น ้ า | ๕๒ ชีวิตของโจทย์ ทั้งนี้ผู้เรียนควรเข้าใจตัวละครจากเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน ก่อนเพื่อให้ คำตอบนั้นสอดคลอ้ งกนั ๒. ความถูกต้องของกิจกรรม : โจทย์มีความชัดเจน การกำหนดลักษณะอาชีพของตัวละคร สอดคลอ้ งกบั เน้ือเรื่อง การจดั วางองคป์ ระกอบของแต่ละคำถามมคี วามเหมาะสม แบ่งสดั ส่วนชดั เจน ๓. ความเหมาะสมของกิจกรรม : กิจกรรมนี้ผู้เรียนต้องอ่านและทำความเข้าใจในตัวละครที่ กำหนด และคำนึงถึงความสอดคล้องของตัวละครจากเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน เพื่อตอบ โจทย์ได้อย่างถูกต้อง จะเห็นว่าผู้เรียนต้องคิดเชื่อมโยงหลายส่วนทั้งตัวละครในเรื่องและตัวละครที่กำหนด จากนั้นความน่าจะเป็นให้กับแผนในชีวิตของตัวละครที่กำหนด แบบฝึกที่ ๒ จึงเหมาะสมกับผู้เรียนวัยนี้ตรงท่ี ได้กระตุ้นการคิดที่หลากหลาย เพิ่มความซับซ้อนมากขึ้น สามารถต่อยอดโดยนำไปปรับใช้กับแผนในชีวิตของ ตนเองได้ ภาพประกอบของกิจกรรมมคี วามสอดคล้องกันระหวา่ งขอ้ มูลกบั การออกแบบของตัวละคร ๔. การบูรณาการ : สามารถบรู ณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรูเ้ ดียวกนั ในสาระที่ ๑ การอ่าน สาระที่ ๒ การเขียน และสาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย นอกจากนยี้ งั มีการบูรณาการกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้ อนื่ คอื กลุม่ สาระการเรียนรูส้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สาระท่ี ๒ ชีวติ และครอบครัว ๕. การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ : มีความสอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษท่ี ๒๑ ดังนี้ ๑. Reading คอื สามารถอ่านออก ๒. (W)Riting คือสามารถเขยี นได้ ๓. Critical thinking and Problem solving คือมีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิด อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ ๔. Communication information and Media literacy คือมีทกั ษะในการสื่อสาร และการรูเ้ ท่าทันสอื่ แบบฝึกที่ ๓ แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นที่กำหนดจากเร่ือง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็น เสมยี น แล้วสรุปข้อคดิ และการนำขอ้ คดิ จากเรื่องไปใช้ในชีวิตประจำวนั ๑. ความสอดคล้องกับเนื้อหาและหลักสูตร : สอดคล้องกับตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม.๔-๖/๔ สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง และตรงกับจุดประสงค์เชิง พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย ขั้นการสังเคราะห์ เพราะแบบฝึกมีการกำหนดประเด็นต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนได้อ่าน และวิเคราะห์ตามแล้วแสดงความคิดเห็น และคำถามเรื่องข้อคิดที่ได้จากการอ่าน คำตอบประเด็นนี้แสดงให้ เห็นวา่ ผูเ้ รียนเขา้ ใจดแี ลว้ ในเนื้อหาจงึ จะสรปุ ข้อคิดได้
ห น ้ า | ๕๓ ๒. ความถูกต้องของกิจกรรม : โจทย์มีความชัดเจน ไม่ซับซ้อน การจัดวางคำถามแต่ละ คำถามมคี วามเหมาะสมของหนา้ กระดาษ สำนวนภาษาเหมาะสมกบั วยั ผูเ้ รยี น ขอ้ ความตวั อย่างใช้ภาษาท่ีอ่าน แลว้ เข้าใจง่าย แบบฝึกมคี วามสอดคล้องกับเรือ่ งทเ่ี รยี น การสะกดคำถูกตอ้ งทัง้ หมด ๓. ความเหมาะสมของกิจกรรม : มีการจำลองบทสนทนาที่เป็นประเด็นให้ผู้เรียนแสดง ความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร โดยมีเหตุผลมาเพิ่มน้ำหนักให้กับคำตอบน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ซ่ึง แบบฝึกที่ ๓ มีความเหมาะสมตรงที่รู้จักนำประเด็นจากเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน มาเป็น โจทย์ แตก่ ระบวนการคดิ ใหอ้ สิ ระกบั ผู้เรยี นเต็มทใ่ี นการแสดงความคิดเห็น อีกทงั้ นำขอ้ คดิ ไปปรบั ใช้ในชวี ติ ได้ นอกจากน้ียังมีภาพการ์ตูนผู้หญิงที่กำลังพูดอยู่ในส่วนของประเด็นที่กำหนด และมีภาพการ์ตูนอีกตัวหนึ่งใน ส่วนทใ่ี ห้ผูเ้ รยี นไดเ้ ขียนตอบคำถามจากประเดน็ นัน้ ด้วย ๔. การบรู ณาการ : สามารถบรู ณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนรเู้ ดยี วกนั ในสาระท่ี ๑ การอ่าน และสาระท่ี ๒ การเขยี น ๕. การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ : มีความสอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ ๒๑ ดงั น้ี ๑. Reading คือสามารถอ่านออก ๒. (W)Riting คือสามารถเขยี นได้ ๓. Critical thinking and Problem solving คือมีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิด อยา่ งมวี ิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ ๔. Communication information and Media literacy คือมที ักษะในการสอื่ สาร และการรู้เท่าทนั สื่อ แบบฝึกที่ ๔ อา่ นขอ้ ความทก่ี ำหนด แล้วเลือกเขยี นแสดงความคิดเห็นตอ่ ฝ่ายท่ีนกั เรยี นสนับสนนุ ๑. ความสอดคล้องกบั เนือ้ หาและหลักสตู ร : สอดคลอ้ งกบั ตัวชี้วดั ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ วิเคราะห์ และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น และตรงกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมด้าน พุทธิพิสัย ขั้นการวิเคราะห์ เพราะสถานการณ์จำลองที่กำหนดมาให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์ต้องตัดสินใจก่อนว่า เลือกสนับสนุนฝ่ายใด ทั้งนี้ผู้เรียนควรมีเหตุผลรองรับกับคำตอบ ดังนั้นควรคิดอย่างมีระบบเพื่อให้คำตอบ ครบถว้ นดแี ละมีความชดั เจน ๒. ความถูกต้องของกิจกรรม : โจทย์มีความชัดเจนไม่กำกวม การจำลองบทสนทนาของคน ๒ คน เป็นการใช้ภาษาแบบกึ่งทางการ การสะกดคำถูกต้อง การจัดรูปแบบข้อความเป็นระเบียบ แบบฝึกมี ความสอดคลอ้ งกบั เนื้อเรอื่ งทไี่ ดเ้ รยี น ๓. ความเหมาะสมของกิจกรรม : เป็นการยกข้อมูลที่ตรงกันข้าม เพื่อให้ผู้เรียนเกิด การตัดสินใจและคิดหาเหตุผลมาสนับสนุนฝ่ายที่เลือก แต่ประเด็นนี้ได้ต่อยอดมาจากเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน
ห น ้ า | ๕๔ ความนิยมเป็นเสมียนเช่นเคย ให้อิสระในการแสดงความคิดเห็นและจุดยืนของผู้เรียน ภาพจำลองสถานการณ์ มีความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ คือ ผู้ชาย ๒ คนที่นั่งทำงานและสนทนาไปพร้อมกัน เหมือนกับการแลกเปลี่ยน ความคิดเหน็ ระหว่างผู้เรยี นทเ่ี ลอื กฝ่ายใดฝา่ ยหนงึ่ และผสู้ อนเปน็ อีกฝา่ ยทีร่ บั ฟังความเห็นต่าง ๔. การบรู ณาการ : สามารถบูรณาการกบั กลุ่มสาระการเรยี นรเู้ ดียวกนั ในสาระท่ี ๑ การอ่าน สาระที่ ๒ การเขียน และสาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย นอกจากนีย้ งั มกี ารบูรณาการกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้ อื่น คือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ ๒ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และ การดำเนนิ ชีวติ ๕. การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ : มีความสอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษท่ี ๒๑ ดงั น้ี ๑. Reading คือสามารถอ่านออก ๒. (W)Riting คือสามารถเขียนได้ ๓. Critical thinking and Problem solving คือมีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิด อย่างมวี ิจารณญาณและสามารถแกไ้ ขปญั หาได้ ๔. Communication information and Media literacy คอื มที กั ษะในการส่อื สาร และการรเู้ ท่าทันสือ่ แบบฝกึ ที่ ๕ ตอบคำถามทก่ี ำหนดโดยอา้ งองิ จากเน้อื เร่อื ง โคลนตดิ ล้อ ตอน ความนยิ มเปน็ เสมียน ๑. ความสอดคล้องกับเน้ือหาและหลกั สูตร : สอดคลอ้ งกับตัวชว้ี ดั ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ วเิ คราะห์ และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น และตรงกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมด้าน พุทธิพิสัย ขั้นการวิเคราะห์ แม้ว่าแบบฝึกจะกำหนดสถานการณ์จำลองมาให้ และตอบโดยการอ้างอิงเนื้อเรื่อง บางส่วนของ โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน นั่นหมายความว่าผู้เรียนควรอ่านและวิเคราะห์โจทย์ได้ อย่างถกู ต้องเสียก่อนจงึ จะเชอื่ มโยงกบั เนอื้ หาและเขียนคำตอบ ๒. ความถูกต้องของกิจกรรม : โจทย์มีความชัดเจน เข้าใจง่าย ในส่วนของข้อความใน กิจกรรมใช้สำนวนภาษาพดู ที่ค่อนขา้ งโบราณเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยม เป็นเสมียน ภาษาจึงต่างจากปัจจุบันอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามผู้เรียนสามารถอ่านและเข้าใจได้ อีกทั้งสะกดคำได้ ถูกตอ้ งและจดั รปู แบบข้อความมีความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย ๓. ความเหมาะสมของกิจกรรม : กิจกรรมนี้เหมือนการมองมุมกลับของคำถามคือ ให้ ข้อความมาพิจารณาว่าตรงกับเนื้อหาส่วนใดของเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน จากนั้นนำมา ตอบคำถามแต่ละข้อ แบบฝึกที่ ๕ ช่วยให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น เป็นการฝึกทั้งการจดจำและความ เข้าใจ เหมาะสมที่ผู้เรียนได้ฝึกในหลาย ๆ แบบ ไม่น่าเบื่อ หรือใช้แต่การแสดงความคิดเห็นอย่างเดียว แต่ได้ การตคี วามและทบทวนเน้อื หาไปในตัว ภาพประกอบมีความสอดคล้องกับขอ้ ความทกี่ ำหนด เน่อื งจากเป็นการ
ห น ้ า | ๕๕ ตั้งคำถามเกี่ยวกับเสมียน จึงเลือกใช้ตัวละครเกษตรกรมาตกแต่ง เพราะเป็นอาชีพท่ีอยู่ในเรื่องและไม่ได้รู้ รายละเอียดเก่ียวกบั ความเปน็ เสมียน จึงมคี วามเหมาะทจี่ ะนำตัวละครนมี้ าตง้ั คำถามแตล่ ะประเด็น ๔. การบูรณาการ : สามารถบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรเู้ ดยี วกนั ในสาระท่ี ๑ การอา่ น สาระที่ ๒ การเขียน และสาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย ๕. การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ : มีความสอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษท่ี ๒๑ ดงั น้ี ๑. Reading คอื สามารถอา่ นออก ๒. (W)Riting คือสามารเขยี นได้ ๓. Critical thinking and Problem solving คือมีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิด อย่างมวี จิ ารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ ๔. Communication information and Media literacy คอื มีทักษะในการส่อื สาร และการรเู้ ทา่ ทันส่อื แบบฝึกที่ ๖ บรรยายลักษณะของ “เสมียน” ในเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน แล้วเปรียบเทยี บความต่างกบั “เสมยี น” ในปัจจบุ นั ตามความคิดของตนเอง ๑. ความสอดคล้องกบั เน้อื หาและหลกั สูตร : สอดคลอ้ งกบั ตัวชี้วดั ท ๕.๑ ม.๔-๖/๒ วเิ คราะห์ ลักษณะเด่นของวรรณคดีเชื่อมโยงกับการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของสังคมในอดีต และตรงกับ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมดา้ นพทุ ธพิ ิสัย ขั้นการวิเคราะห์ เพราะผู้เรียนได้ศึกษาลักษณะของเสมียนในอดีตจาก เรื่อง โคลนตดิ ลอ้ ตอน ความนิยมเปน็ เสมยี น จากนนั้ สบื ค้นลกั ษณะของเสมียนในปัจจบุ นั ว่ามกี ารเปล่ยี นแปลง อย่างไร ขั้นตอนนี้ผู้เรียนจะได้อ่านทำความเข้าใจและวิเคราะห์ระบุลักษณะออกมา เพื่อให้เห็นความต่างอย่าง ชดั เจนระหว่าง ๒ ช่วงเวลานีภ้ ายใต้หัวข้อลักษณะของเสมยี น ๒. ความถูกต้องของกิจกรรม : โจทย์มีความชัดเจน กระชับ และเข้าใจง่าย การสะกดคำ ถกู ต้อง แบบฝกึ มีความสอดคล้องกบั เร่ืองทไ่ี ด้เรียน ๓. ความเหมาะสมของกิจกรรม : กิจกรรมนี้ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้สืบค้นเพิ่มนอกเหนือจาก เรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน เพื่อนำข้อมูลระหว่างอดีตและปัจจุบันมาเทียบกัน โดยผู้เรียน ต้องเขยี นคำตอบ ๒ แผ่น เพ่ือความชดั เจนของช่วงเวลาทตี่ ่างกนั แบบฝึกท่ี ๖ มีความเหมาะสมกับช้นั น้ี เพราะ นอกจากจะให้คิดและวิเคราะห์ ยังเป็นการฝึกให้ใช้เทคโนโลยีเชิงบวก ภาพประกอบที่ใช้มีความสอดคล้องกับ กิจกรรมอย่างชัดเจน โดยมีกระดาษคำตอบจำนวน ๒ หน้า คือ ลักษณะของเสมียนในอดีต และลักษณะของ เสมียนในปัจจุบัน การตกแต่งตรงตามยุคสมัย ในอดีตจดบันทึกลงกระดาษ ใช้โทรศัพท์ระบบหมุนหมายเลข มีเครื่องพิมพ์ดีดและวิทยุ แต่ปัจจุบันใช้แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ตโฟน และมีอุป กรณ์ เครอื่ งเขยี นเปน็ ทางเลอื กในการบนั ทึก
ห น ้ า | ๕๖ ๔. การบรู ณาการ : สามารถบรู ณาการกับกลมุ่ สาระการเรยี นรเู้ ดยี วกนั ในสาระที่ ๑ การอ่าน สาระที่ ๒ การเขียน และสาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย นอกจากน้ียังมกี ารบูรณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้ อ่นื คอื กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระที่ ๒ หนา้ ท่พี ลเมอื ง วัฒนธรรม และการ ดำเนินชีวิตในสังคม ๕. การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ : มีความสอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษท่ี ๒๑ ดงั นี้ ๑. Reading คือสามารถอ่านออก ๒. (W)Riting คือสามารเขยี นได้ ๓. Critical thinking and Problem solving คือมีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิด อย่างมวี จิ ารณญาณและสามารถแกไ้ ขปัญหาได้ ๔. Communication information and Media literacy คือมที กั ษะในการส่ือสาร และการรเู้ ท่าทนั สอ่ื แบบฝึกที่ ๗ เลือกตัวละครจากหนังสือ ละคร ภาพยนตร์ หรือสื่ออื่น ๆ ที่มีพฤติกรรมสะท้อน ค่านิยมเรอ่ื งใดเรือ่ งหน่งึ คลา้ ยกับเร่ือง โคลนติดลอ้ ตอน ความนยิ มเป็นเสมยี น ๑. ความสอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาและหลกั สตู ร : สอดคลอ้ งกับตวั ช้วี ดั ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ วเิ คราะห์ และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น และตรงกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมด้าน พุทธิพิสัย ขั้นการวิเคราะห์ เพราะแบบฝึกช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการวิเคราะห์ทั้งพฤติกรรมที่ปรากฏใน โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน และพฤติกรรมตัวละครจากสื่อบันเทงิ อื่น ๆ ที่เคยดูมาก่อน แล้วนำส่ิง ท่ีได้มาตอบคำถามวา่ สะทอ้ นคา่ นยิ มอยา่ งไร ๒. ความถูกต้องของกิจกรรม : โจทย์มีความชัดเจน เข้าใจง่าย สะกดคำถูกต้องทั้งหมด จัดรูปแบบข้อความเรียบร้อย ท่ีการเว้นวรรคเครื่องหมายวรรคตอนถูกต้องตามหลักการพิมพ์ กิจกรรมเป็น การบรู ณาการเรื่องท่เี รียนกบั วรรณกรรมหรอื ส่ืออนื่ ๆ ๓. ความเหมาะสมของกิจกรรม : กิจกรรมนี้เป็นวิเคราะห์ภาพสะท้อนทางค่านิยมระหว่าง เรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน กับตัวละครจากสื่อบันเทิงที่ผู้เรียนเห็นว่ามีความสอดคล้องกัน แบบฝึกที่ ๗ นั้นดีและเหมาะสมที่ส่งเสริมให้คิดนอกกรอบ ต่อยอดจากวรรณกรรมที่เรียนในห้องเรียน เพ่ือ เชื่อมโยงองค์ความรู้กับสื่อนอกห้องเรียนที่ผู้เรียนเคยดู ได้กระตุ้นความคิดและปลูกฝังไปในตัวว่าสามารถ เรียนรู้ได้ในทุก ๆ ที่ แม้แต่สื่อให้ความบันเทิงก็ตาม ภาพประกอบกิจกรรมตกแต่งเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเป็น กิจกรรมท่ีต้องใชพ้ ื้นที่ในการตอบเยอะพอสมควร ๔. การบูรณาการ : สามารถบรู ณาการกับกล่มุ สาระการเรยี นรเู้ ดียวกนั ในสาระที่ ๑ การอ่าน สาระที่ ๒ การเขียน สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด และสาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย นอกจากนี้ยังมี
ห น ้ า | ๕๗ การบูรณาการกับกลุม่ สาระการเรียนรู้อื่น คือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ ๒ หน้าที่พลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนินชวี ิตในสงั คม ๕. การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ : มีความสอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษท่ี ๒๑ ดงั นี้ ๑. Reading คือสามารถอ่านออก ๒. (W)Riting คือสามารเขียนได้ ๓. Critical thinking and Problem solving คือมีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิด อย่างมวี ิจารณญาณและสามารถแกไ้ ขปัญหาได้ ๔. Communication information and Media literacy คือมีทกั ษะในการสือ่ สาร และการรู้เทา่ ทันสอ่ื ๕. Computing and IT literacy คือมีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และรู้เท่าทัน เทคโนโลยี
ห น ้ า | ๕๘ วิเคราะห์แบบทดสอบหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ แบบทดสอบเป็นแบบปรนัย ๕ ตัวเลือก มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕ .๑ เข้าใจและแสดง ความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง ดังน้ี ขอ้ คำถาม ตัวชี้วัด จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ๑. เพราะเหตใุ ดวรรณกรรมเรอ่ื งนี้จงึ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ด้านพุทธิพิสยั ชื่อว่าโคลนติดล้อ วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์วรรณคดแี ละ ๑. เพราะผแู้ ตง่ เร่มิ แต่งเรือ่ งนขี้ ณะ วรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณ์ ขน้ั ความวิเคราะห์ นง่ั อย่ใู นรถทล่ี ้อเต็มไปดว้ ยโคลน ๒. เพราะผแู้ ต่งต้องการตง้ั ช่อื เรือ่ งให้ เบือ้ งต้น ดา้ นพุทธพิ สิ ัย สอดคลอ้ งกับนามปากกาของตนเอง ขนั้ วเิ คราะห์ ๓. เพราะผแู้ ต่งตอ้ งการตัง้ ชอื่ เรอ่ื งให้ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๒ สอดคลอ้ งกบั หนงั สือของตนเองทอี่ อก วเิ คราะห์ลักษณะเดน่ ของวรรณคดี กอ่ นหน้า ๔. เพราะผแู้ ต่งไดร้ บั แรงบันดาลใจ เชอ่ื มโยงกับการเรียนรู้ทาง จากงานเขียนตา่ งประเทศท่ชี ือ่ เร่ือง ประวัติศาสตร์และวิถีชวี ติ ของ แปลว่า โคลนตดิ ล้อ ๕. เพราะผแู้ ต่งตอ้ งการเปรยี บเทยี บ สังคมในอดีต สิ่งท่ีถ่วงความเจริญของชาติว่าเป็น ประหนึง่ โคลนทต่ี ดิ ล้อ ๒. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกต้องเกยี่ วกบั เรอื่ ง โคลนติดล้อ ๑. เป็นงานเขยี นลงหนงั สอื พมิ พ์ ผูแ้ ตง่ ใช้นามปากกาวา่ อัศวพาหุ ๒. เป็นบทความร้อยแก้วพระราช- นิพนธใ์ นพระราชนพิ นธใ์ น พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอย่หู ัว ๓. เปน็ งานเขียนประเภทรอ้ ยแกว้ ที่ แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั คา่ นิยมของ คนไทย ซึง่ ผู้แตง่ เหน็ วา่ เปน็ คา่ นยิ มที่ ไม่ก่อให้เกดิ ประโยชน์แกช่ าติบา้ นเมือง
ห น ้ า | ๕๙ ข้อคำถาม ตัวชี้วดั จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ๔. เปน็ งานวรรณกรรมทแี่ สดงใหเ้ หน็ ถงึ อิทธิพลของสือ่ ส่ิงพมิ พ์ทม่ี ตี ่อ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ด้านพทุ ธพิ ิสยั สงั คมไทยในสมัยนน้ั สงั เกตไดจ้ ากการ วิเคราะหแ์ ละวิจารณว์ รรณคดีและ ข้ันวิเคราะห์ ท่ผี ู้แต่งเลือกเขยี นเรอ่ื งนี้เพ่อื พมิ พใ์ น วรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์ หนงั สอื พิมพไ์ ทย ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย ๕. เป็นส่อื กลางในการถ่ายทอด เบ้อื งต้น ขัน้ วเิ คราะห์ ขนบธรรมเนียม วฒั นธรรมไทยแก่ผทู้ ี่ อย่นู อกเขตพระราชวัง เพื่อให้คนในยคุ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๒ นน้ั รู้สึกใกล้ชดิ กับพระมหากษตั รยิ ์และ วิเคราะหล์ กั ษณะเดน่ ของวรรณคดี เชื้อพระวงศ์ ๓. ขอ้ ใดมีลกั ษณะคลา้ ยเรื่อง โคลน เช่ือมโยงกบั การเรียนรู้ทาง ติดล้อ ประวตั ศิ าสตร์และวิถชี วี ิตของ ๑. ยวุ ดีเขียนเรอื่ งย่อละครเรอ่ื ง ดง่ั ดวงหฤทัย สังคมในอดตี ๒. ยศวดีเขียนวิจารณน์ วนิยายเรือ่ ง สี่แผน่ ดนิ ๓. เยาวเรศเขยี นนวนยิ ายจรรโลงใจ เร่อื ง รกั ตดิ ลอ้ ๔. ยงยศเขยี นวเิ คราะหภ์ าพยนตร์ เรอื่ ง ข้างหลังภาพ ๕. ยศวมิ ลเขยี นแสดงความคิดเห็น ต่อค่านยิ มเรื่อง ขาวแลว้ สวย ๔. เพราะเหตใุ ดความนยิ มเปน็ เสมียนจึงเป็นปญั หาของประเทศ ๑. เพราะเสมยี นเปน็ อาชพี ทไ่ี ร้ เกยี รติ ๒. เพราะเสมียนทำให้อาชีพอน่ื ตกงาน ๓. เพราะการเปน็ เสมียนทำใหร้ ัฐ เสยี ค่าใช้จ่ายมากขน้ึ ๔. เพราะคนนยิ มเปน็ เสมยี นจึงไม่ กลบั ไปพฒั นาชนบท
ห น ้ า | ๖๐ ขอ้ คำถาม ตัวชว้ี ดั จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ๕. เพราะเสมียนเป็นกลมุ่ กบฏทีส่ รา้ ง ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั ปญั หาหลกั แกป่ ระเทศ วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณว์ รรณคดีและ ขั้นความเขา้ ใจ ๕. “การตงั้ โรงเรยี นข้ึนทวั่ พระ วรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณ์ ราชอาณาจกั ร ใหโ้ อกาสแก่บรรดา ดา้ นพุทธพิ ิสยั ชายหญิงทุก ๆ ชั้นได้ศกึ ษาใหร้ ้อู ่านรู้ เบอื้ งตน้ ขนั้ วเิ คราะห์ เขียนหนังสือนน้ั กลับใหผ้ ลทท่ี ำให้ เปน็ ท่รี ำคาญ” ขอ้ ความข้างต้น ขอ้ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ใดเปน็ เหตุของคำวา่ “กลบั ให้ผลที่ วเิ คราะห์และวิจารณว์ รรณคดแี ละ ทำให้เป็นที่รำคาญ” วรรณกรรมตามหลกั การวิจารณ์ ๑. เดก็ ที่ออกมาจากโรงเรยี นเหล่านี้ ย่อมเหน็ วา่ กจิ การอยา่ งอ่นื ไมส่ มเกียรติ เบื้องต้น ยศนอกจากการเป็นเสมยี น ๒. เพราะฉะนน้ั พวกเสมยี นทเี่ กิน อตั ราเหล่านีจ้ ึงคงอยู่ในเมอื ง เทีย่ ว พยายามแสวงหาตำแหน่งเสมียนต่อไป ๓. นกึ ไปกน็ า่ ประหลาดทส่ี ดุ ทีค่ น จำพวกนส้ี ู้อดทนตอ่ ความลำบากเพื่อ แสวงหาและรกั ษาตำแหน่งเสมียนของ เขา ๔. ชายหน่มุ ซึง่ ไดฝ้ ึกตัวให้คนุ้ แก่ ความสนุกสนานในเมอื ง ย่อมจะรสู้ กึ เบ่ือหน่ายถ่ินฐานบา้ นเดิมของเขาตาม บ้านนอก ๕. สว่ นผู้ทีป่ รารถนาจะช่วยใหค้ นได้ ตั้งตัวเป็นชาวนาชาวสวน หรอื คนทำงานอน่ื ๆ ท่เี ป็นประโยชน์ เหมอื นกนั นน้ั มนี ้อยนกั ๖. ข้อใดไม่เกย่ี วข้องกับพฤตกิ รรม เสมียนในเรอ่ื ง ๑. เธอมักจะจบั จา่ ยใชส้ อยเกินตวั เพอ่ื ใหค้ นมองว่ามีฐานะ
ห น ้ า | ๖๑ ขอ้ คำถาม ตวั ชี้วดั จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ๒. เขาไปหลงแสงสีในเมืองหลวง ไม่ ยอมกลับบ้านมาหลายปแี ล้ว ๓. เขาไม่ยอมสบื ทอดธุรกจิ ของ ครอบครวั เพราะไม่มใี จรักในดา้ นน้นั ๔. หล่อนวาดหวังว่าตอ้ งได้เข้า ทำงานท่ีบริษทั ชน้ั นำ เพราะถือวา่ ตน จบมาสงู ๕. เธอเห็นคนส่วนใหญ่นิยมทำอะไร ก็มกั จะทำเช่นนน้ั ดว้ ย ไหลตามค่านิยม โดยไมจ่ ำเปน็ ๗. “ยังมคี นอยเู่ ปน็ อนั มากทช่ี ว่ ย ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ดา้ นพทุ ธพิ ิสัย เปดิ ทางหาการงานให้แกผ่ ทู้ อี่ ยากจะ วเิ คราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดีและ ขนั้ วเิ คราะห์ เป็นเสมียน” ขอ้ ความนี้สอดคล้องกบั วรรณกรรมตามหลกั การวิจารณ์ คำในข้อใด เบ้อื งตน้ ๑. เด็กดี ๒. เดก็ เส้น ๓. เดก็ แดง ๔. เด็กใหม่ ๕. เด็กอมมือ ๘. ขอ้ ใดเป็นสาเหตทุ ค่ี นนยิ มเปน็ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ด้านพทุ ธพิ สิ ยั เสมยี น วเิ คราะห์และวิจารณว์ รรณคดีและ ข้นั วเิ คราะห์ ๑. เพราะเงินเดอื นเยอะ วรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์ ๒. เพราะไดใ้ กล้ชดิ เชือ้ พระวงศ์ เบื้องตน้ ๓. เพราะเปน็ งานทีไ่ ด้ชว่ ยเหลือผ้อู น่ื ๔. เพราะไดเ้ ดนิ ทางไปต่างประเทศ ๕. เพราะแสดงให้เหน็ ถงึ ความมี การศึกษา ๙. ขอ้ ใดปรากฏการใชโ้ วหาร ท ๕.๑ ม.๔-๖/๓ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั ภาพพจน์ วิเคราะหแ์ ละประเมินคณุ คา่ ด้าน ขั้นวเิ คราะห์ ๑. เขาเหน็ วา่ ไมส่ มเกยี รติยศท่จี ะไป วรรณศลิ ป์ของวรรณคดีและ หาการงานทำกบั ชาวนา ซ่งึ เขาเหน็ วา่ วรรณกรรมในฐานะทเี่ ป็นมรดกทาง เปน็ คนชน้ั ต่ำและสามัญ วฒั นธรรมของชาติ
ห น ้ า | ๖๒ ข้อคำถาม ตัวชวี้ ัด จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ๒. ชายหนุม่ ซึง่ ไดฝ้ กึ ตวั ให้คุ้นแก่ ความสนุกสนานในเมือง ยอ่ มจะรู้สกึ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ด้านพทุ ธพิ ิสัย เบื่อหน่ายถ่ินฐานบ้านเกดิ ของเขาตาม วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดแี ละ ข้ันความรคู้ วามจำ บ้านนอก วรรณกรรมตามหลกั การวิจารณ์ ๓. การเปน็ ชาวนาชาวสวน หรือ คนทำงานการอื่น ๆ น้นั ก็มเี กยี รติยศ เบ้อื งต้น เทา่ กับท่ีจะเป็นผ้ทู ำงานด้วยปากกา เหมือนกนั ? ๔. เขาอาจจะได้ความสนุกสนานอยู่ พัก ๑ แลว้ เขาคงจะต้องยาตราเข้าสู่ ศาลพระราชอาญาและไม่ช้าก็คงจะได้ เข้าไปอยู่ในคุก ๕. อันประเทศอยา่ งเมืองไทยของเรา น้ีชาวนาชาวสวนอาจจะทำประโยชน์ ใหแ้ ก่บา้ นเมอื งไดม้ ากกวา่ เสมยี น ซง่ึ เป็นแตเ่ ครอื่ งมอื เทา่ กับปากกาและ พิมพด์ ดี ๑๐. ข้อใดไมป่ รากฏในเร่อื ง โคลนติด ลอ้ ๑. ฉาก ๒. แนวคดิ ๓. แก่นเรอื่ ง ๔. โครงเรื่อง ๕. การบรรยาย สรุปแบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม ครบทั้ง ๑๐ ข้อ ตรงกับจุดประสงค์ เชงิ พฤติกรรมด้านพทุ ธิพสิ ัย ข้นั ความรูค้ วามจำ ๑ ข้อ ข้ันความเข้าใจ ๑ ขอ้ และข้นั วิเคราะห์ ๘ ขอ้
ห น ้ า | ๖๓ นำพาสมรรถนะ ตามที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กำหนดให้สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียนที่มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชพี สมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถใน การแกป้ ญั หา ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สำนักพิมพ์อักษรเจริญทัศน์ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนตาม หลักสูตรฯ จึงได้ผลิตหนังสือแบบฝึกสมรรถนะและการคิด ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ ๕ เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับครูในการนำไปเป็นสื่อการเรียนการสอน โดยแบบฝึกในหนังสือมี ความสอดคลอ้ งกับสมรรถนะทส่ี ำคญั ของผเู้ รยี น ดังรายละเอียดต่อไปนี้ หน่วยท่ี ๑ : มหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑ์มทั รี แบบฝกึ ท่ี ๑ นยิ ามตวั ละคร แล้วบอกลักษณะนิสยั ทช่ี ื่นชอบและไมช่ นื่ ชอบต่อตวั ละคร สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรยี นคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากกิจกรรมนี้มุ่งให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ ลักษณะและนิสัยของตัวละคร เรื่อง มหาเวสสันดร ชาดก กณั ฑม์ ทั รี แลว้ แสดงความคิดเหน็ วา่ นสิ ยั แบบไหนของตัวละครในเรื่องทีผ่ ู้เรยี นชื่นชอบ และไม่ชืน่ ชอบ แบบฝึกที่ ๒ ทำเคร่ืองหมาย หน้าข้อทถ่ี ูก (ตอบได้มากกวา่ ๑ ขอ้ ) พรอ้ มให้เหตุผลประกอบ แลว้ บอกโครงเร่อื งและเขียนวิเคราะห์วิจารณ์เร่ืองตามความคดิ ของนกั เรยี น สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการคิด เนื่องจากกิจกรรมนี้มี การใหผ้ เู้ รียนไดว้ เิ คราะหล์ ักษณะนสิ ัยของตัวละคร พรอ้ มทัง้ บอกเหตผุ ล อกี ท้งั ยังต้องอา่ นแล้วจับใจความให้ได้ ว่า จากเรื่อง ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เพื่อนำมาเขียนโครงเรื่อง และให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องตาม ความคดิ ของตนเอง แบบฝึกท่ี ๓ อ่านข้อมูลของตัวละครทีก่ ำหนด แล้ววิเคราะหก์ ารกระทำของตวั ละคร หากตัวละคร อยใู่ นยุคปจั จบุ นั จากน้นั สรุปสภาพสังคมที่สง่ ผลตอ่ การแสดงออกเช่นนนั้ ของตวั ละคร สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการคิด เนื่องจากกิจกรรมนี้มี การให้ผู้เรียนคิดเชื่อมโยงว่าหากตัวละครที่อ่านอยู่ในยุคปัจจุบัน จะมีบุคลิกลักษณะเป็นอย่างไร อีกทั้งผู้เรียน ยังไดค้ ดิ พจิ ารณาถงึ สภาพสังคมในอดตี และในปจั จบุ นั วา่ มคี วามแตกตา่ งกนั อยา่ งไร
ห น ้ า | ๖๔ แบบฝกึ ท่ี ๔ ทอ่ งจำบทประพนั ธท์ ี่กำหนด แลว้ ประเมนิ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการคิด เนื่องจากกิจกรรมนี้ มุ่งให้ผู้เรียนได้อ่านคำประพันธ์ในเรื่อง แล้วคิดพิจารณาประเมินคุณค่าทางด้านวรรณศิลป์ของงานประพันธ์ท่ี ไดอ้ า่ นจากเรอ่ื ง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มทั รี แบบฝึกที่ ๕ อ่านสถานการณ์ที่กำหนด แล้วเขียนพรรณนาความรู้สึกของตัวละคร โดยต้องมีการ ใช้ภาพพจนป์ ระกอบการพรรณนา สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากกิจกรรมน้ีฝึกให้ผู้เรียนได้เขียนแสดงความรู้สึกจากภาพสถานการณ์ที่กำหนด โดย สถานการณ์ทีใ่ หม้ านน้ั นำมาจากปญั หาทผี่ ูเ้ รยี นอาจประสบพบเจอในการเรียน แล้วให้ผูเ้ รียนนำขอ้ คิดจากเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑม์ ทั รี มาคดิ เช่ือมโยงกบั การเขยี นพรรณนาท่มี ีการใช้ภาพพจนป์ ระกอบอกี ด้วย แบบฝึกที่ ๖ บรรยายความรู้สึกของตัวละครจากบทประพันธ์ที่กำหนด แล้วให้คำแนะนำตัวละคร อยา่ งเหมาะสม สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากกิจกรรมนี้ต้องการให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์และพิจารณาถึงความรู้สึกของตัวละคร แล้วให้ ผู้เรยี นชว่ ยให้คำแนะนำเสนอวธิ แี ก้ปัญหา จากเหตุการณ์ในเรือ่ งท่นี างมทั รตี ้องพบเจออุปสรรคทม่ี าขัดขวาง แบบฝกึ ท่ี ๗ หาลกั ษณะรว่ มของตัวละครทก่ี ำหนด แลว้ แสดงความคดิ เห็นตอ่ ลกั ษณะร่วมนน้ั สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการคิด เนื่องจากกิจกรรมนี้ ต้องการสอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องของพระคุณแม่ โดยให้นักเรียนได้คิดพิจารณาลักษณะที่เหมือนกันของ ตัวละคร นางมัทรี กับตัวละครจากวรรณคดีเรื่องอื่นที่มีบทบาทเรื่องของความเป็นแม่เช่นเดียวกัน ส่งเสริมให้ ผู้เรยี นได้คิดวเิ คราะห์เชอ่ื มโยง ทั้งยงั สอดแทรกคุณธรรมเก่ียวกับความรกั ของแม่ทมี่ ตี อ่ ลูกอีกด้วย แบบฝึกที่ ๘ อ่านข้อความจากเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีที่กำหนด แล้ววิเคราะห์ เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความต่างกับคำราชาศัพท์ในปจั จบุ นั แล้วสรุปการใชใ้ หถ้ ูกตอ้ ง สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากกิจกรรมน้ีมีการให้ผู้เรียนได้อ่านข้อความที่ตัดตอนจากเรื่องแล้วนำมาคิดพิจารณา เปรียบเทียบกับคำราชาศัพท์ในปัจจุบันว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งเป็นการฝึกให้นักเรียนรู้จัก การเปรยี บเทียบการใชภ้ าษา ทั้งยังมีการใชเ้ ขียนสรุปการใชร้ าชาศพั ทต์ ามความเขา้ ใจ สรุปผลการวิเคราะห์แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ มีความสอดคล้องและช่วยส่งเสริมสมรรถนะท่ี สำคญั ของผูเ้ รยี น ๒ ด้าน ได้แก่ ความสามารถในการสือ่ สารและความสามารถในการคดิ
ห น ้ า | ๖๕ หน่วยที่ ๒ : บทละครพดู คำฉนั ท์ เร่ือง มทั นะพาธา แบบฝกึ ท่ี ๑ พิจารณาการใช้คำอุปมาในบทประพันธ์ แลว้ หาคำตอบอื่นท่สี ามารถนำมาอุปมาแทน คำดังกล่าวได้ พรอ้ มให้เหตผุ ลประกอบ สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้องเลือกสรรหาคำใหม่มาใช้สื่อสารแทนคำคำเดิม และคำที่ได้เลือกมานั้นผู้เรียน ต้องสามารถบอกเหตุผลได้ว่าทำไมถึงเลือกใช้คำนี้ ซึ่งการเลือกใช้คำต้องผ่านกระบวนการคิดเพื่อการสื่อสาร ออกมาได้อย่างเขา้ ใจง่ายและมปี ระสิทธภิ าพ แบบฝึกที่ ๒ อ่านเรื่อง ตำนานดอกกุหลาบที่กำหนด และบอกความเหมือนและความต่างของแต่ ละเรื่องกับบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา จากนั้นสรุปความเหมือนและความต่างของทุกเรื่องโดย ภาพรวม สอดคลอ้ งกับสมรรถนะที่สำคัญของผเู้ รียนคอื ความสามารถในการคิด เนอ่ื งจากกิจกรรมน้ีได้ ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกคิดและเปรียบเทียบความเหมือนและความต่างระหว่างวรรณคดีที่ได้เรียนกับเนื้อเรื่องท่ี ได้อ่านจากแบบฝึก แบบฝึกที่ ๓ อ่านเรื่องต่อไปนี้ แล้วระบุชื่อตัวละครในบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ที่ คลา้ ยกบั ตัวละครในเรอื่ งท่กี ำหนด พร้อมให้เหตผุ ลประกอบ สอดคลอ้ งกับสมรรถนะที่สำคญั ของผเู้ รยี นคือ ความสามารถในการคดิ เนือ่ งจากในกิจกรรมน้ี เป็นการฝึกให้คิดเปรียบเทียบความคล้ายของตัวละครในวรรณกรรมที่กำหนดกับตัวละครในวรรณคดี และฝึก การคดิ อย่างมีเหตผุ ล แบบฝึกที่ ๔ อ่านสถานการณ์ท่ีกำหนด แล้วให้คำแนะนำโดยยกบทประพันธ์จากบทละครพูดคำ ฉันท์ เรือ่ ง มัทนะพาธา พรอ้ มบอกคุณค่าและใหเ้ หตผุ ลประกอบ จากน้นั นำเสนอหน้าชัน้ เรียน สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด และความสามารถในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากกิจกรรมน้ีผู้เรียนต้องพิจารณาบทสนทนาของตัว ละครก่อนที่จะให้คำแนะนำการแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับบทประพันธ์จากสถานการณ์ที่กำหนด พร้อมบอก เหตุผล และมีการให้นักเรยี นพูดนำเสนอหนา้ ชน้ั เรียนซงึ่ เป็นการฝกึ ทกั ษาการสอื่ สารและความกลา้ แสดงออก แบบฝึกท่ี ๕ ถอดบทประพันธท์ ก่ี ำหนด แลว้ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินคณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ป์ สอดคล้องกับสมรรถนะทีส่ ำคญั ของผู้เรยี นคือ ความสามารถในการคิด เนอื่ งจากในกจิ กรรมนี้ ผเู้ รียนตอ้ งถอดคำประพนั ธ์ และฝกึ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินคา่ ดา้ นวรรณศิลป์ ซ่งึ ตอ้ งอาศยั ความรู้ในดา้ น การใชภ้ าษา นอกจากนใี้ นบทประพันธ์ไดส้ อดแทรกขอ้ คิดทีผ่ เู้ รียนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตจรงิ ได้
ห น ้ า | ๖๖ แบบฝึกที่ ๖ เลือกคำคมที่กำหนดแล้วเขียนแสดงความคิดเห็นโดยอิงจากเรื่องราวความรักของตวั ละครในบทละครพดู คำฉนั ท์ เรื่อง มัทนะพาธา สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสือ่ สารและความสามารถ ในการคิดเนื่องจากกิจกรรมน้ีต้องการให้ผูเ้ รยี นแสดงความคิดเห็นอย่างมเี หตผุ ล ถ่ายทอดความรู้สึกของตนเอง ทม่ี คี วามสอดคลอ้ งของคำคมกบั ลักษณะตวั ละครและบริบทน้ัน ๆ แบบฝึกที่ ๗ เลือกเขียนแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่กำหนด โดยยกตัวอย่างเนื้อเรื่องจากบท ละครพูดคำฉนั ท์ เรอื่ ง มัทนะพาธา สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากแบบฝึกมีการให้ผู้เรียนเลือกเขียนแสดงความคิดเห็นในประเด็นเกี่ยวกับคุณธรรม ได้แก่ ความภักดี ความกตัญญู ความซื่อสัตย์ การยึดมั่นในความดี ความเสมอภาค และการยอมรับความจริง ซึ่งการ แสดงความคิดเห็นต้องผ่านกระบวนการคดิ วิเคราะห์จากเรื่องที่ได้เรียนมาผนวกกับความรู้สึกนึกคิดของตนเอง และเขียนส่อื สารออกมาในรปู แบบของตวั อักษร ทง้ั นผี้ เู้ รยี นยงั สามารถนำมาปรับใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ แบบฝึกที่ ๘ เลือกดอกไม้ที่ชื่นชอบมา ๑ ชนิด บอกลักษณะเด่นและลักษณะด้อยของดอกไม้นั้น แล้วนำมาเรียบเรียงเป็นเรอื่ งราวสนั้ ๆ โดยตอ้ งตอ้ งมบี ทประพนั ธ์ จำนวน ๑-๒ บท ประกอบ (แตง่ ด้วยคำ ประพันธ์ชนดิ ใดกไ็ ด้ สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถใน การคิด เน่ืองจากผู้เรียนต้องเลือกดอกไม้ที่ชื่นชอบ สังเกตลักษณะเด่นและลักษณะด้อยของดอกไม้ จากน้ัน นำมาแต่งเป็นเรื่องราวสั้น ๆ และแต่งบทประพนั ธ์ประกอบ ถือว่าเป็นกจิ กรรมที่เสริมสร้างทักษะหลาย ๆ ด้าน เข้าด้วยกัน สรุปผลการวิเคราะห์แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ มีความสอดคล้องและช่วยส่งเสริมสมรรถนะท่ี สำคัญของผู้เรียน ๓ ด้าน ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด และความสามารถใน การแก้ปญั หา หน่วยท่ี ๓ : ลลิ ติ ตะเลงพ่าย แบบฝึกที่ ๑ เรียงตัวอักษรในช่องสี่เหลี่ยมให้เป็นคำ จากนั้นบอกชื่อตัวละครจากเรื่องลิลิตตะเลง พ่ายทส่ี ัมพันธ์กบั คำที่ได้ พรอ้ มใหเ้ หตผุ ลประกอบ สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสาร เห็นได้ว่าแม้เป็น แบบฝึกที่เน้นความรู้ความจำที่ผู้เรียนต้องเรียงตัวอักษรที่สลับอยู่ในตารางมาเรียงเป็นชื่อตัวละครให้ถูกต้อง แล้วบอกความสัมพันธ์กับตัวละครอีกสองตัวที่เหลือซึ่งใช้ความรู้จากในเนื้อเรื่องมาตอบได้ แต่แบบฝึกยังให้ ผูเ้ รียนไดแ้ สดงเหตผุ ล โดยการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความร้สู ึก และทัศนะของตนเอง
ห น ้ า | ๖๗ แบบฝึกที่ ๒ ทำเครื่องหมาย หน้าข้อที่กล่าวถึงคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของบทประพันธ์ได้ ถกู ต้อง (เลือกได้มากกวา่ ๑ ขอ้ ) พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสือ่ สารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้องอ่านบทประพันธ์ วิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ และให้เหตุผลประกอบว่า เหตใุ ดจึงเปน็ คณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ปด์ ้านนี้ แบบฝึกที่ ๓ เลือกบทประพนั ธ์ประเภทโคลงสี่สภุ าพที่กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกดิ ขึ้นในสถานที่ ทก่ี ำหนด จากนนั้ วิเคราะห์ความสมั พันธ์ของเหตกุ ารณด์ ังกลา่ ว สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้อง เลอื กบทประพนั ธท์ ่ีกล่าวถึงเหตุการณ์สำคญั ในเร่อื งมา และตอ้ งวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ทีเ่ กิดขึ้น แบบฝึกที่ ๔ เรียงลำดับคำประพันธ์ให้ถูกต้อง พร้อมถอดความบทประพันธ์ จากนั้นบอกลักษณะ ตวั ละครทไ่ี ดจ้ ากบทประพันธ์ตอนดงั กล่าว สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสือ่ สารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้องเรียงลำดับคำประพันธ์ให้ถูกต้อง บอกลักษณะตัวละครจากบทประพันธ์ในตอน ดังกล่าว และใช้ความสามารถในการสื่อสารโดยการเขียนถอดความบทประพันธ์ให้ถูกต้อง เข้าใจง่าย ได้ใจความ แบบฝึกที่ ๕ อ่านบทประพันธ์ที่กำหนด จากนั้นสรุปข้อคิดที่ได้จากบทประพันธ์ พร้อมให้เหตุผล ประกอบ สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสือ่ สารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้องวิเคราะห์คุณค่าด้านเนื้อหาที่สอดแทรกอยู่ในบทประพันธ์ที่กำหนด พร้อมระบุ เหตผุ ล แบบฝึกท่ี ๖ เรียงลำดบั เหตุการณ์ใหถ้ กู ตอ้ ง จากนั้นจำแนกวา่ แต่ละเหตกุ ารณเ์ กดิ ข้นึ กับฝา่ ยใด สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้อง เรียงลำดบั เหตุการณ์ให้ถกู ตอ้ งตามเนือ้ เรอื่ ง แล้วจึงมาวิเคราะหเ์ พอื่ จำแนกว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขน้ึ กับฝา่ ยใด แบบฝึกที่ ๗ เลือกสถานการณ์ที่กำหนด จากนั้นเขียนบทพูดโน้มน้าวใจ แล้วออกมาพูดเพื่อ แลกเปล่ียนกันหนา้ ช้ันเรียน สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสือ่ สารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้องเลือกสถานการณ์ที่กำหนดให้มาหนึ่งเหตุการณ์และจะต้องการทำความเข้าใจ ความรู้สึกท่ีมีต่อเหตุการณ์และตัวละครนั้น ๆ ซึ่งเป็นการฝึกทักษะการอ่านและการคิด จากนั้นจึงเขียนบทพูด
ห น ้ า | ๖๘ โน้มน้าวใจให้คนฟังคล้อยตามเหตุการณ์ที่ตนเองเลือก โดยหลักการเขียนโน้มน้าวใจสิ่งสำคัญจากหนึ่งคือ จะต้องมีเหตุมีผล ผู้เรียนจะต้องคิดว่าจะต้องเขียนอย่างไรเพื่อที่จะสื่อสารให้ผู้อื่นคล้อยตามได้ อีกทั้งยังเป็น การฝึกทักษะการพูดไดอ้ ีกด้วย สรุปผลการวิเคราะห์แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ มีความสอดคล้องและช่วยส่งเสริมสมรรถนะท่ี สำคัญของผเู้ รียน ๒ ดา้ น ไดแ้ ก่ ความสามารถในการส่ือสารและความสามารถในการคดิ หนว่ ยท่ี ๔ : คมั ภีร์ฉนั ทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ แบบฝกึ ท่ี ๑ ระบคุ ณุ ค่าทางวรรณศิลป์ (เลือกไดม้ ากกว่า ๑ ข้อ) พร้อมให้เหตผุ ลประกอบ สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้อง คดิ วิเคราะห์คุณคา่ ทางวรรณศลิ ป์จากบทประพันธท์ ี่เลือก พร้อมทงั้ ให้เหตผุ ลประกอบที่ถูกต้องและชดั เจนตาม โจทยท์ ี่กำหนดให้ แบบฝกึ ท่ี ๒ เติมคำประพันธ์ใหส้ อดคล้องกับคำประพันธท์ ก่ี ำหนด แล้วสรปุ ความสำคัญของการมี จรรยาบรรณในวชิ าชีพ และการนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั สอดคล้องกับสมรรถนะท่ีสำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถใน การคิด ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เนื่องจากผู้เรียนต้องอ่านทำความเข้าใจ และคิดวิเคราะห์เกี่ยวกับ บทประพันธ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่กำหนด พร้อมทั้งสรุปความสำคัญของการมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และการนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม แบบฝึกที่ ๓ อ่านสถานการณ์ที่กำหนด แล้วยกบทประพันธ์ ๑ บท จากคัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทยศาสตร์สงเคราะห์ทสี่ ัมพนั ธ์กบั สถานการณเ์ ตมิ ลงในช่องว่าง จากนน้ั เขียนวิเคราะห์วิจารณ์เร่อื ง สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้อง อ่านและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำหนด พร้อมทั้งยกบทประพันธ์ ๑ บท จากคัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทยศาสตร์สงเคราะห์เพื่อคิดเชื่อมโยงกับสถานการณ์ที่กำหนด อีกทั้งยังให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์วิจารณ์ วรรณคดเี รอ่ื งนอี้ กี ดว้ ย แบบฝกึ ที่ ๔ อ่านสถานการณแ์ ละบทประพนั ธ์ท่ีกำหนดแล้วเขียนอธบิ ายวิธีการรักษาใหส้ อดคลอ้ ง กับบทประพันธ์ สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้อง อ่านและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์และบทประพันธ์ที่กำหนด โดยอาศัยการคิดวิเคราะห์เพื่อเขียน อธิบายวธิ ีการรักษาใหส้ อดคลอ้ งกับบทประพนั ธ์
ห น ้ า | ๖๙ แบบฝึกที่ ๕ สรุปลักษณะของแพทย์ที่ดีจากคัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทยศาสตร์สงเคราะห์ แล้ว สอบถามผู้สงู อายุทร่ี ู้จกั เกย่ี วกับบทบาทแพทย์ในอดตี เพ่ือนำมาเปน็ ขอ้ มูลเพิ่มเตมิ ในการศกึ ษา สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถใน การคิด เนื่องจากผู้เรียนต้องอ่านเนื้อเรือ่ งแล้วสรปุ ความรู้ที่ไดใ้ นประเด็นลักษณะของแพทย์ที่ดี นอกจากนี้ยังมี การให้ผู้เรียนไปสอบถามผู้สูงอายุเกี่ยวกับบทบาทแพทย์ในอดีต อย่างไรก็ตามกิจกรรมนี้อาจไม่เหมาะสม สำหรับนักเรียนบางคนทีไ่ มม่ ญี าติผ้สู ูงอายุที่สนทิ สนมหรอื อยดู่ ว้ ยกนั แบบฝึกที่ ๖ อ่านวรรณกรรมท่ีกำหนดแล้วเชื่อมโยงกับแนวทางการรักษาหรือจรรยาบรรณแพทย์ ทปี่ รากฏในคมั ภรี ฉ์ นั ทศาสตร์ แพทยศาสตรส์ งเคราะห์ สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการคิด ความสามารถใน การสื่อสาร เนื่องจากแบบฝึกนี้ช่วยให้ผู้เรียนฝึกการคิดเชื่อมโยงระหว่างวรรณคดีเรื่องที่เรียนกับวรรณกรรมท่ี กำหนดให้ คอื เร่ืองพระอภยั มณี ตอนพระอภยั มณหี นีนางผีเสอื้ และนิทานชาดก เร่อื งหมอผโู้ ชคร้าย แบบฝึกที่ ๗ เลือกบทประพันธ์ใดบทประพันธ์หนึ่งในคัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เขยี นสรปุ ความ พรอ้ มยกกรณีตัวอย่างประกอบ แลว้ ออกมาเลา่ หน้าชั้นเรยี น สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้องเลือกบทประพันธ์ใดบทประพันธ์หนึ่งที่สนใจและสามารถคิด วิเคราะห์เขียน สรุปความ พร้อมยกตัวอย่างประกอบที่ถูกต้องและชัดเจน และออกมาเล่าหน้าชั้นเรียนให้กับครูผู้สอนและ เพ่อื น ๆ ฟัง เพอื่ เป็นแลกเปลยี่ นความรแู้ ละความคิดเหน็ ซึ่งกันและกัน สรุปผลการวิเคราะห์แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ มีความสอดคล้องและช่วยส่งเสริมสมรรถนะท่ี สำคัญของผู้เรียน ๓ ด้าน ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด และความสามารถใน การใชท้ ักษะชวี ติ หน่วยที่ ๕ : โคลนติดลอ้ ตอน ความนิยมเป็นเสมยี น แบบฝกึ ที่ ๑ เขียนแสดงความคดิ เหน็ ต่อบทวิจารณ์ทีก่ ำหนด สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้องมีความเข้าใจและมองเห็นรายละเอียดภาพรวมของเนื้อเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน จากนั้นแสดงความคิดอย่างมีเหตุผลตรงตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏและอธิบายชัดเจนโดย ใชภ้ าษาท่ีเหมาะสม
ห น ้ า | ๗๐ แบบฝึกที่ ๒ อ่านลักษณะตัวละครที่กำหนด แล้วอธิบายแผนการในชีวิตของตัวละครตามหัวข้อที่ กำหนด โดยศกึ ษาจากเรอ่ื ง โคลนตดิ ลอ้ ตอน ความนิยมเปน็ เสมียน พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบการอธบิ าย สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถใน การคิดและความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เนื่องจากโจทย์ที่กำหนดไว้ทำให้ผู้เรียนต้องพิจารณาถึง ความสมเหตุสมผลกับแผนการชีวิตของตัวละครที่กำหนด ขณะเดียวกันต้องเข้าใจลักษณะของเสมียนและ ความเป็นไปของสังคมถึงค่านิยมในเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน เพื่อนำข้อมูลทั้ง ๒ มา เชื่อมโยงกัน นอกจากได้คิดวิเคราะห์แล้ว ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการวางแผนชีวิตที่ขาดความเป็นระบบของตัว ละครกำหนด วา่ ควรปฏิบัติตนอยา่ งไรถงึ จะมชี วี ิตท่ีมน่ั คง แบบฝึกที่ ๓ แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นที่กำหนดจากเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็น เสมียน แลว้ สรปุ ข้อคิดและการนำข้อคิดจากเรอื่ งไปใช้ในชีวิตประจำวนั สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถใน การคิด และความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เนื่องจากผู้เรียนต้องวิเคราะห์ข้อคิดจากเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน ให้ได้และควรเข้าใจในประเด็นที่กำหนด รู้จักใช้ภาษาที่เหมาะสมในการตอบคำถาม มีเหตุผลรองรับแสดงถึงการคิดอย่างมีระบบและวิจารณญาณ คำตอบเหล่านั้นสะท้อนว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ดว้ ยตนเองอยา่ งสมวัยหรือไม่ สามารถนำความรหู้ รือแง่คดิ ตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจำวันอยา่ งไร แบบฝกึ ท่ี ๔ อา่ นข้อความท่ีกำหนด แล้วเลอื กเขียนแสดงความคิดเห็นตอ่ ฝ่ายที่นกั เรียนสนบั สนนุ สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถใน การคิด และความสามารถในการแก้ปัญหา เนื่องจากผู้เรียนต้องเข้าใจในคำถามและหลักการเขียนแสดง ความคิดเห็นก่อน อย่างที่แบบฝึกมีเกร็ดความรู้ในการตอบไว้ข้าง ๆ เมื่ออ่านเข้าใจดีแล้วสามารถคิดอย่างมี วิจารณญาณ แสดงถึงการตัดสินใจที่สมวัย อีกทั้งผู้เรียนต้องตระหนักได้ถึงคำตอบของตนเองว่าควรตอบ อยา่ งไรให้เหมาะสม เพื่อไมใ่ ห้เกดิ ผลกระทบเชงิ ลบ หรอื แสดงออกถงึ การขาดทกั ษะคดิ วิเคราะห์ แบบฝกึ ท่ี ๕ ตอบคำถามท่ีกำหนดโดยอา้ งอิงจากเน้ือเรื่อง โคลนตดิ ลอ้ ตอน ความนยิ มเปน็ เสมยี น สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากคำถามแต่ละข้อต้องการคำตอบที่ผ่านการคิดวิเคราะห์ประกอบกับเนื้อเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเปน็ เสมยี น ว่าสอดคล้องกนั อยา่ งไร แบบฝึกที่ ๖ บรรยายลักษณะของ “เสมียน” ในเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน แลว้ เปรยี บเทยี บความต่างกบั “เสมียน” ในปัจจุบัน ตามความคดิ ของตนเอง สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถ ในการคิด เนื่องจากผู้เรียนต้องมีการอ่านเพื่อวิเคราะห์ลักษณะของเสมียนและนำไปเขียนบรรยาย นอกจากนี้
ห น ้ า | ๗๑ ต้องเปรียบเทยี บไดว้ ่าในอดีตและปจั จุบนั ความเป็นเสมียนต่างกันอยา่ งไร ข้อมูลในส่วนนี้ผู้เรียนอาจสบื คน้ ผ่าน เทคโนโลยี นำมาวิเคราะห์ความเปลีย่ นแปลงไปของอาชพี ตามสภาพสงั คม แบบฝึกที่ ๗ เลือกตัวละครจากหนังสือ ละคร ภาพยนตร์ หรือสื่ออื่น ๆ ที่มีพฤติกรรมสะท้อน ค่านยิ มเรื่องใดเรือ่ งหน่ึงคล้ายกับเร่อื ง โคลนติดลอ้ ตอน ความนิยมเป็นเสมยี น สอดคล้องกับสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนคือ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถใน การคิด และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เนื่องจากผู้เรียนมีการประมวลผลตัวละครในเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน และจับคู่กับตัวละครที่มีความคล้ายคลึงกันจากสื่อบันเทิงที่เคยดูหรือสืบค้นจาก แหลง่ ขอ้ มลู อ่ืน ๆ ซงึ่ คำตอบทเ่ี ขียนต้องมเี หตุผลมารองรบั เพ่อื อธบิ ายให้ผู้สอนเขา้ ใจในคำตอบของผู้เรยี น สรุปผลการวิเคราะห์แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ มีความสอดคล้องและช่วยส่งเสริมสมรรถนะท่ี สำคัญของผู้เรียน ๕ ด้าน ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการ แกป้ ญั หา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สรุปจดุ เด่นของหนงั สือ - แบบฝึกแต่ละหน่วยมีความหลากหลายรูปแบบ น่าสนใจ สอดคล้องกับสาระที่ ๕ วรรณคดีและ วรรณกรรม และสอดคล้องกับตัวชวี้ ดั ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ - รปู ภาพประกอบกจิ กรรมสีสันสวยงามและทนั สมัย สถานการณ์ทย่ี กมามีความสมจรงิ - เสริมสร้างทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี ๒๑ ท่ีจำเป็นในการดำรงชีวติ หลากหลายด้าน - การเรียนการสอนแบบเนน้ ผเู้ รียนมสี ่วนรว่ มและมีปฏสิ มั พนั ธ์กบั กจิ กรรม (Active learning) - มแี บบทดสอบท้ายหนว่ ยการเรยี นรทู้ ุกหน่วย ขอ้ เสนอแนะ - ถา้ มีการระบตุ วั ช้ีวดั ให้ชัดเจนในแต่ละแบบฝึก จะช่วยลดภาระของผ้สู อนและเป็นจดุ ขายของหนังสือ เล่มนี้ให้น่าสนใจยง่ิ ขน้ึ - แบบฝึกส่วนใหญ่จะเน้นสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนในด้านความสามารถในการสื่อสารและ ความสามารถในการคิด แต่ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีนั้นมีอยู่น้อย หากมีการเพิ่มเติมสมรรถนะดังกล่าวจะช่วยทำให้หนังสือเล่มน้ี ตอบโจทย์ในเรอ่ื งของสมรรถนะมากขึ้น - แบบฝึกสวนใหญ่เน้นทักษะการคิดและการเขียน หากมีการเสริมเรื่องทักษะการฟัง การพูด จะช่วย ทำใหพ้ ัฒนาทักษะผ้เู รยี นหลากหลายดา้ นมากข้ึน - ควรบอกเกณฑส์ ำหรบั การวัดและประเมินผลของการทำแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั แตล่ ะหน่วยการเรียนร้คู วรมกี ิจกรรมกลุ่มบา้ ง เพอื่ พฒั นาทกั ษะการทำงานเป็นกลมุ่
ห น ้ า | ๗๒ บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๕๑). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพช์ มุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย. นงลักษณ์ เจนนาวี และ ผจงวาด พูลแก้ว. (ม.ป.ป.). แบบฝึกสมรรถนะและการคิด ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ม.๕. กรงุ เทพฯ : ไทยรม่ เกล้า.
ห น ้ า | ๗๓
ห น ้ า | ๗๔
ห น ้ า | ๗๕
ห น ้ า | ๗๖
ห น ้ า | ๗๗
ห น ้ า | ๗๘
ห น ้ า | ๗๙
ห น ้ า | ๘๐
ห น ้ า | ๘๑
ห น ้ า | ๘๒
ห น ้ า | ๘๓
ห น ้ า | ๘๔
ห น ้ า | ๘๕
ห น ้ า | ๘๖
Search