Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการรียนรู้ภาษาไทย ม.๓ นางสาวจิรภิญญา มหาสวัสดิ์ เลขที่ ๒๘ D๕

แผนการจัดการรียนรู้ภาษาไทย ม.๓ นางสาวจิรภิญญา มหาสวัสดิ์ เลขที่ ๒๘ D๕

Description: แผนการจัดการรียนรู้ภาษาไทย ม.๓ นางสาวจิรภิญญา มหาสวัสดิ์ เลขที่ ๒๘ D๕

Search

Read the Text Version

๔๗

๔๘

๔๙ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เร่ือง เลศิ ลน้ หลกั ภาษา เวลา ๗ ช่ัวโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ ตวั ชว้ี ดั ท ๔.๑ ม.๓/๑ จำแนกและใช้คำภาษาตา่ งประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย ท ๔.๑ ม.๓/๔ ใช้คำทบั ศพั ท์และศัพท์บัญญตั ิ ท ๔.๑ ม.๓/๕ อธิบายความหมายคำศัพทท์ างวชิ าการและวชิ าชีพ ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) - นกั เรยี นจำแนกและใชค้ ำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทยได้ - นกั เรยี นเลอื กใชค้ ำทับศัพทแ์ ละศพั ท์บญั ญัติไดถ้ ูกตอ้ ง - นกั เรยี นอธบิ ายความหมายคำศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี ได้ ดา้ นทกั ษะ (P) - นกั เรยี นนำเสนอชิน้ งานคำภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ในภาษาไทยได้ - นกั เรยี นเขยี นคำทบั ศพั ทแ์ ละศพั ท์บญั ญตั ไิ ดถ้ กู ตอ้ ง - นกั เรยี นเขยี นคำศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพไดถ้ ูกตอ้ ง ดา้ นจิตพิสัย (A) - นกั เรยี นมีความมงุ่ ม่นั ในการเรียนรู้เร่ืองคำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย - นกั เรยี นใหค้ วามรว่ มมอื ในการทำกจิ กรรมเรอ่ื งการใชค้ ำทบั ศัพทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ - นกั เรยี นใหค้ วามรว่ มมอื ในการทำกจิ กรรมเรอ่ื งคำศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ าชีพ

๕๐ ๓. สาระสำคญั การยืมคำภาษาต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทยทำให้ภาษามีความเจริญงอกงามและมีคำใช้มากขึ้น คำ ภาษาต่างประเทศในภาษาไทยมีหลายภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต ภาษา เขมร เป็นต้น คำทับศัพท์ หมายถึง คำที่ถ่ายเสียงมาจากรูปคำในภาษาอื่น และนำมาเขียนในรูปแบบของ ภาษาไทย เพื่อให้คนที่ใช้ภาษาสามารถออกเสียงได้อย่างถูกต้อง ส่วนคำศัพท์บัญญัติ หมายถึง คำที่บัญญัติข้ึน เพื่อใช้แทนคำต่างประเทศ คำศัพท์ทางวิชาการ คือคำศัพท์ที่กล่าวถึงหรืออธิบายเรื่องราวที่เป็นความรู้ทาง วิชาการแขนงต่าง ๆ ศัพท์วิชาการเป็นคำที่ผู้ศึกษาวิชาการนั้น ๆ จะเข้าใจร่วมกันได้ดี ส่วนมากเป็นคำที่รับมา จากภาษาต่างประเทศ คำศัพท์วิชาชีพ คือคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพต่าง ๆ เช่น แพทย์ นัก กฎหมาย ครู นกั ปกครอง เป็นตน้ ๔. สาระการเรียนรู้ ๑. คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต ภาษา เขมร ภาษาญป่ี นุ่ เป็นต้น ๒. คำทับศัพท์และศัพท์บัญญัติ ประกอบด้วย ความหมาย วิธีการใช้คำทับศัพท์และศัพท์บัญญัติใน ภาษาไทย ตัวอยา่ งคำทับศัพทแ์ ละศัพท์บัญญตั ิ ๓. คำศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพ ประกอบด้วย ความหมายและตัวอย่างคำศัพท์ทางวิชาการและ วิชาชีพ ๕. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ( เฉพาะทีเ่ กดิ ในหนว่ ยการเรียนรู้น)้ี  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๖. ทักษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ ๒๑ (๓R ๘C + ๒L)  ทักษะการอา่ น (Reading)  ทกั ษะการเขยี น (Writing)  ทกั ษะการคดิ คำนวณ (Arithmetic)  ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving)  ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation)

๕๑  ทักษะด้านความรว่ มมอื การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ ำ (Collaboration , teamwork and leadership)  ทกั ษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)  ทักษะดา้ นการสอ่ื สาร สารสนเทศ และร้เู ทา่ ทนั สื่อ (Communication information and media literacy)  ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing)  ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)  ทกั ษะการเปลย่ี นแปลง (Change)  ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills)  ภาวะผ้นู ำ (Leadership) ๗. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน ( หลกั ฐาน / รอ่ งรอยแสดงความรู้ ) ๑. ช้นิ งาน “มือใครเซยี น เขยี นไดเ้ ขยี นเอา” ๒. ชิ้นงาน “เพลงน้มี คี ำถาม” ๓. ชุดกระดาษบิงโกคำทับศพั ท์ ๔. ใบงานเร่ืองคำทบั ศพั ท์ ๕. ใบงานเรือ่ งศัพทบ์ ญั ญตั ิ ๖. ใบงานเร่อื งคำศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ ีพ ๘. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยย่อยที่ ๑ เรื่อง คำยมื ภาษาจีน ช่วั โมงที่ ๑ (ใชร้ ปู แบบการเรยี นรโู้ ดยใชก้ จิ กรรมเปน็ ฐาน) ข้ันที่ ๑ ขน้ั เตรียมการ ๑. ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรยี น และสนทนาเก่ียวกบั คำภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย ๒. ครูสุ่มนกั เรยี นให้ยกตัวอย่างคำยืมภาษาจนี ทร่ี ูจ้ ักคนละ ๑ คำ ข้นั ท่ี ๒ ขั้นสอน ๓. ครูสอนเรื่องคำยมื ภาษาจนี โดยใชส้ ่อื ประกอบการเรยี นการสอน power point ขน้ั ที่ ๓ ขั้นกิจกรรมกลมุ่ ๔. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๖ กลุ่มเท่า ๆ กัน เพื่อทำกิจกรรม “มือใครเซียน เขียนได้เขียน เอา” ๕. ครใู ห้นกั เรยี นนงั่ จบั กลมุ่ ตรงมมุ ใดก็ไดต้ ามอธั ยาศัย และแจกกระดาษใหน้ กั เรยี นกลมุ่ ละ ๑ แผน่

๕๒ ๖. ครบู อกโจทยว์ ่าใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันเขยี นคำยมื ภาษาจีนที่รู้จักให้มากที่สุดภายใน เวาลาท่ีกำหนด โดยมีกติกาวา่ ตอบถกู ได้คำละ ๑ คะแนน ตอบผดิ ติดลบคำละ ๑ คะแนน ขัน้ ท่ี ๔ ขน้ั ตรวจสอบผลงานและทดสอบ ๖. เมือ่ ทำกิจกรรมเสร็จแลว้ ให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอชน้ิ งานของกลมุ่ ตนเองและ ให้นกั เรียนกลมุ่ ทเี่ หลอื ช่วยกนั ตรวจความถกู ตอ้ ง กลมุ่ ไหนตอบถกู และได้คะแนนเยอะทีส่ ดุ เปน็ ฝ่ายชนะ ขั้นท่ี ๕ ขั้นสรปุ บทเรียนและประเมินผลการทำกจิ กรรมกล่มุ ๗. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ บทเรยี นคำยมื ภาษาอังกฤษ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒ เร่อื ง คำยมื ภาษาอังกฤษ ชวั่ โมงที่ ๑ (ใชร้ ปู แบบการเรยี นรูแ้ บบรว่ มมอื ) ขน้ั ที่ ๑ ขน้ั เตรยี มการ ๑. ครูกลา่ วทักทายนักเรียน และทบทวนเนือ้ หาทไ่ี ดเ้ รียนในคาบที่แล้ว ๒. ครูสุม่ นักเรียนให้ยกตวั อย่างคำยืมภาษาอังกฤษทร่ี จู้ กั คนละ ๑ คำ ขัน้ ที่ ๒ ขน้ั สอน ๓. ครูสอนเร่อื งคำยืมภาษาอังกฤษ โดยใช้สื่อประกอบการเรยี นการสอน power point ขั้นท่ี ๓ ขน้ั กิจกรรมกลมุ่ ๔. ครูใหน้ ักเรียนแบง่ กลุม่ ออกเปน็ ๖ กลุม่ เทา่ ๆ กนั เพ่ือทำกจิ กรรม “เพลงน้ีมีคำถาม” ๕. ครูมีกระดาษเนื้อเพลง ๖ ใบ แปะไว้ตามมุมต่าง ๆ ของห้องเรียน แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเวียน กันหาคำยืมภาษาอังกฤษในเนื้อเพลงจนครบทั้ง ๖ เพลง ภายในเวลาที่กำหนด โดยมีกติกาว่าตอบถูกได้ คำละ ๑ คะแนน ตอบผดิ ตดิ ลบคำละ ๑ คะแนน ขน้ั ที่ ๔ ขั้นตรวจสอบผลงานและทดสอบ ๖. เมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอชิ้นงานของกลุ่มตนเองและให้ นกั เรยี นกลมุ่ ทเ่ี หลือชว่ ยกนั ตรวจความถูกต้อง กลุ่มไหนตอบถกู และไดค้ ะแนนเยอะทสี่ ดุ เปน็ ฝ่ายชนะ ขั้นที่ ๕ ขน้ั สรปุ บทเรยี นและประเมินผลการทำกจิ กรรมกลมุ่ ๗. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปบทเรยี นคำยมื ภาษาองั กฤษ หนว่ ยย่อยที่ ๓ เรือ่ ง คำยืมภาษาบาลแี ละภาษาสันสกฤต ชัว่ โมงท่ี ๑ (ใชร้ ปู แบบการเรยี นรู้แบบรว่ มมอื ) ขน้ั ที่ ๑ ขน้ั เตรยี มการ ๑. ครกู ล่าวทักทายนักเรยี น และทบทวนเนื้อหาที่ไดเ้ รียนในคาบทแ่ี ล้ว ๒. ครถู ามนักเรยี นว่าคำยมื ภาษาบาลแี ละภาษาสันสกฤตแตกตา่ งกันอยา่ งไร ขัน้ ท่ี ๒ ขั้นสอน

๕๓ ๓. ครูสอนเรื่องคำยืมภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต โดยใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน power point ขัน้ ที่ ๓ ขน้ั กจิ กรรมกลมุ่ ๔. ครูใหน้ กั เรยี นทำกจิ กรรม “น้ำข้นึ นำ้ ลง” โดยครจู ะบอกคำยืมภาษาบาลีสันสกฤตมาทีละคำ ถ้าคำ นั้นเป็นคำยืมภาษาบาลีใหน้ ักเรียนนั่งลง คำใดเป็นคำยืมภาษาสันสกฤตให้นักเรียนยืนขึน้ ใครทำผิดจะตก รอบแล้วออกไปยืนมมุ ใดมุมหน่งึ ของหอ้ งและช่วยครูหาผูช้ นะ ขั้นท่ี ๔ ข้นั ตรวจสอบผลงานและทดสอบ ๕. เมื่อได้ผูช้ นะแล้ว ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยคำตอบท่ีถกู ตอ้ งทีละคำ พรอ้ มท้งั อธบิ ายข้อสงสัย ขั้นท่ี ๕ ขั้นสรปุ บทเรียนและประเมินผลการทำกจิ กรรมกลุม่ ๖. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปบทเรยี นคำยมื ภาษาบาลสี ันสกฤต หน่วยย่อยที่ ๔ เร่อื ง คำยืมภาษาเขมร ช่ัวโมงที่ ๑ (ใช้รูปแบบการเรียนรแู้ บบร่วมมือ) ขั้นที่ ๑ ขัน้ เตรยี มการ ๑. ครูกลา่ วทักทายนักเรยี น และทบทวนเนอ้ื หาทไ่ี ด้เรียนในคาบทแ่ี ลว้ ๒. ครถู ามนักเรียนวา่ คำยืมภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตแตกต่างกนั อยา่ งไร ขนั้ ท่ี ๒ ขัน้ สอน ๓. ครูสอนเรื่องคำยืมภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต โดยใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน power point ขั้นที่ ๓ ขัน้ กิจกรรมกลุ่ม ๔. ครูให้นักเรียนจับคู่เพื่อทำกิจกรรม “ชูป้ายทายภาษา” โดยครูจะบอกคำศัพท์มาทีละคำ ถ้าคำน้ัน เป็นคำยืมภาษาเขมร ให้แต่ละคู่ชูป้าย “ใช่” แต่ถ้าคำนั้นไม่ใช่คำยืมภาษาเขมร ให้แต่ละคู่ชูป้าย “ไม่ใช่” ค่ไู หนตอบผิดจะตกรอบแลว้ ออกไปยืนมุมใดมุมหน่ึงของหอ้ งและช่วยครหู าผู้คทู่ ชี่ นะ ข้ันท่ี ๔ ขน้ั ตรวจสอบผลงานและทดสอบ ๕. เม่ือได้ผู้ชนะแล้ว ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยคำตอบทถ่ี ูกต้องทีละคำ พร้อมทั้งอธบิ ายข้อสงสัย ข้ันท่ี ๕ ข้นั สรุปบทเรยี นและประเมินผลการทำกิจกรรมกลุม่ ๖. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ บทเรียนคำยืมภาษาบาลสี ันสกฤต หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๕ เร่ือง คำทบั ศัพท์ ชั่วโมงท่ี ๑ (ใช้รปู แบบการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเปน็ ฐาน) ขนั้ ที่ ๑ ขนั้ นำ

๕๔ ๑. ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรียน จากน้ันจึงชูบตั รคำที่เป็นคำทับศัพท์ จำนวน ๕ ใบ เพื่อให้นักเรียนทายวา่ ในคาบน้ีจะเรียนเรือ่ งอะไร ๒. ครูเฉลยวา่ จะสอนเรอ่ื ง คำทบั ศพั ท์ พรอ้ มทง้ั บอกกิจกรรมทจ่ี ะใหท้ ำในคาบนน้ั ขน้ั ท่ี ๒ ข้นั ประสบการณ์ ๓. ครูอธิบายความหมายและหลักการเขียนคำทับศัพท์ โดยใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน power point ๔. ครูนำชุดกระดาษบิงโกคำทับศัพท์มาให้นักเรียนเลือกคนละ ๑ แผ่น พร้อมทั้งให้นักเรียนดูใบเช็ก ลสิ ตค์ ำทบั ศัพท์ที่ครเู ตรียมไว้ เพอ่ื จำวิธีการเขยี นคำทับศพั ท์แตล่ ะคำใหถ้ ูกตอ้ ง ขั้นที่ ๓ ขัน้ กิจกรรม ๕. ครูอธิบายวิธกี ารเลน่ บิงโกคำทบั ศพั ท์ ดงั นี้ ๕.๑ ให้นักเรียนเขียนคำทับศัพท์ตามคำบอกของครูโดยสามารถนำคำทับศัพท์แต่ละคำไปไว้ ในช่องไหนกไ็ ด้ของกระดาษบงิ โกจนครบทุกชอ่ ง ๕.๒ เมื่อทุกคนเขียนครบแล้ว ครูสุ่มคำทับศัพท์ออกมาทีละคำ แล้วให้นักเรียนกากบาททับ คำทต่ี รงที่ครสู ่มุ ใครบิงโกกอ่ นเป็นผูช้ นะ ขัน้ ที่ ๔ ข้ันสร้างความรู้ ๖. ครรู วบรวมกระดาษบิงโกแลว้ สมุ่ แจกสลับแถวกัน ๗. ครูเฉลยการเขียนคำทบั ศัพท์ท่ถี กู ต้องทลี ะคำจนครบ ในขณะเดียวกันนกั เรียนก็ตรวจกระดาษบิงโก ที่เพ่ือนเขยี นทลี ะคำจนครบ (เขยี นถูกใหค้ ำละ ๑ คะแนน ฟรี ๑ คะแนน รวมเปน็ ๒๕ คะแนน) ขั้นท่ี ๕ ขนั้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ๘. หากนักเรียนคนใดพบวา่ มีคำที่เพื่อนเขยี นผิด ใหน้ ักเรยี นคนทต่ี รวจออกมาเขียนคำท่ีเพือ่ นเขียนผิด หน้ากระดานเพอื่ แลกเปลยี่ นเรียนรู้รว่ มกนั โดยไมต่ ้องบอกชือ่ วา่ ใครเขียนผิด ข้ันที่ ๖ ขน้ั ประเมินผล ๙. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงานเรื่องคำทบั ศัพทเ์ ปน็ การบ้าน หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๖ เรื่อง ศัพทบ์ ัญญตั ิ ชว่ั โมงที่ ๑ (ใช้รูปแบบการเรยี นรู้โดยใช้กจิ กรรมเป็นฐาน) ขน้ั ท่ี ๑ ขัน้ นำ ๑. ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรียน แล้วให้นักเรยี นสง่ ใบงานเรื่องคำทบั ศพั ทท์ เ่ี ปน็ การบ้านไว้หน้าหอ้ ง ๒. จากนั้นจึงชูบัตรภาพที่เป็นศัพท์บัญญัติ จำนวน ๕ ใบ เพื่อให้นักเรียนทายว่าในคาบนี้จะเรียนเรื่อง อะไร ๒. ครเู ฉลยว่าจะสอนเรอื่ ง ศัพท์บัญญัติ พร้อมทง้ั บอกกจิ กรรมที่จะใหท้ ำในคาบน้นั

๕๕ ขน้ั ที่ ๒ ข้นั ประสบการณ์ ๓. ครูอธบิ ายความหมายและตวั อย่างศัพท์บัญญตั ิโดยใช้สอื่ ประกอบการเรียนการสอน power point ๔. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๕ กลุ่มเท่า ๆ กัน แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเรียงลำดับการเล่นใน กลุ่มตนเอง ต้งั แต่คนแรกจนถงึ คนสุดทา้ ย ขั้นท่ี ๓ ขน้ั กจิ กรรม ๕. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ แข่งกันเขียนศัพทบ์ ัญญตั ิบนกระดานพรอ้ ม ๆ กนั ตามลำดบั ของแต่ละกลมุ่ โดยครจู ะเป็นคนบอกคำศัพทภ์ าษาองั กฤษแล้วใหน้ ักเรียนเขียนศพั ท์บัญญัติของคำนน้ั บนกระดาน ขน้ั ที่ ๓ ขัน้ สรา้ งความรู้ ๖. เมื่อเขียนครบทุกคนแล้ว ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจความถูกต้องของแต่ละกลุ่ม กลุ่มไหนได้ คะแนนมากทสี่ ุดเปน็ ฝ่ายชนะ ในระหวา่ งท่ีตรวจครตู ้องอธิบายความรู้ของคำน้นั ๆ ใหน้ กั เรียนเข้าใจ ขัน้ ท่ี ๔ ขั้นแลกเปลยี่ นเรียนรู้ ๗. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกนั แลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ และถามขอ้ สงสัยจากเรอื่ งที่เรยี น ขนั้ ที่ ๕ ข้นั ประเมนิ ผล ๙. ครูใหน้ กั เรียนทำใบงานเรอ่ื งศัพทบ์ ัญญตั ิเปน็ การบา้ น หนว่ ยย่อยท่ี ๗ เรอ่ื ง คำศพั ท์ทางวิชาการและวชิ าชพี ช่ัวโมงท่ี ๑ (ใชร้ ูปแบบการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเปน็ ฐาน) ขั้นท่ี ๑ ขนั้ นำ ๑. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี น แล้วให้นกั เรียนสง่ ใบงานเรือ่ งคำทบั ศพั ทท์ ่ีเปน็ การบา้ นไว้หน้าหอ้ ง ๒. ครถู ามนกั เรยี นวา่ คำศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี แตกต่างกนั อยา่ งไร ขั้นที่ ๒ ขน้ั ประสบการณ์ ๓. ครูอธิบายความหมาย ลักษณะและตัวอย่างคำศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพโดยใช้สื่อประกอบการ เรียนการสอน power point ๔. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๕ กลุ่มเท่า ๆ กัน แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเรียงลำดับการเล่นใน กลมุ่ ตนเอง ตงั้ แต่คนแรกจนถึงคนสดุ ทา้ ย ขน้ั ท่ี ๓ ขัน้ กิจกรรม ๕. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแข่งกันเขียนจำแนกคำศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพบนกระดานพร้อม ๆ กันตามลำดับของแต่ละกลุ่ม โดยครูจะเป็นคนบอกคำศัพท์แล้วให้นักเรียนเขียนว่าคำที่ครูพูดนั้นเป็น คำศพั ทท์ างวชิ าการหรือคำศัพท์วชิ าชพี

๕๖ ข้ันท่ี ๓ ขัน้ สรา้ งความรู้ ๖. เมื่อเขียนครบทุกคนแล้ว ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจความถูกต้องของแต่ละกลุ่ม กลุ่มไหนตอบ ถกู มากท่ีสุดเป็นฝา่ ยชนะ ในระหวา่ งท่ตี รวจครตู อ้ งอธิบายความรู้ของคำน้ัน ๆ ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ ข้นั ที่ ๔ ข้นั แลกเปลีย่ นเรียนรู้ ๗. ครูใหน้ ักเรียนรว่ มกันแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ และถามขอ้ สงสยั จากเรื่องท่เี รยี น ข้ันท่ี ๕ ขน้ั ประเมนิ ผล ๙. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงานเรอ่ื งคำศพั ทท์ างวชิ าการและวิชาชีพเปน็ การบา้ น ๙. สอ่ื การสอน ๑. ส่ือประกอบการเรียนการสอน power point ๒. กระดาษเนอ้ื เพลง ๖ ใบ ๓. ป้ายทายภาษา “ใช”่ “ไมใ่ ช่” ๔. บตั รคำทับศัพท์ ๕ ใบ ๕. เชก็ ลสิ ต์คำทับศัพท์ ๖. บตั รภาพศัพทบ์ ัญญตั ิ ๕ ใบ ๑๐. แหลง่ เรยี นร้ใู นหรอื นอกสถานท่ี -

๕๗ ๑๑. การวดั และประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีวดั เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การให้ เกณฑ์การ คะแนน ประเมนิ ๑. นักเรียนจำแนกและใช้คำ -ประเมินชิ้นงาน แบบประเมนิ ๑๖–๒๐คะแนน ระดบั พอใชข้ ้ึนไป ภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ก า ร ใ ช้ ค ำ ช้นิ งานคำ ระดับดี ถอื ว่าผ่าน ได้ ภาษาต่างประเทศ ภาษาตา่ งประเทศ ๑๑–๑๕คะแนน ที่ใช้ในภาษาไทย ทใี่ ช้ในภาษาไทย ระดบั พอใช้ (ภาษาจ ี นและ ต่ำกว่า ๑๑ คะแนน ภาษาองั กฤษ) ระดบั ควรปรบั ปรุง - การถามตอบ (ภ า ษ า บ า ลี - สันสกฤตและภาษา เขมร) ๒.นกั เรียนเลือกใชค้ ำทบั ศพั ทแ์ ละ ตรวจใบงานเรอ่ื ง ใบงานเรื่องคำทับ ตอบถูกได้ข้อละ๑ ตอบถกู ๖๐% ศพั ท์บญั ญตั ิได้ถูกต้อง ศพั ท์บญั ญตั ิ ศพั ท์และศัพท์ คะแนน ขนึ้ ไปถอื ว่าผ่าน บัญญตั ิ ๓. นักเรียนอธิบายความหมาย ตรวจใบงานเรื่อง ใบงานเร่ืองคำศัพท์ ตอบถูกได้ข้อละ๑ ตอบถูก๖๐% คำศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ าชีพได้ คำศพั ทท์ าง ทางวชิ าการและ คะแนน ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน วชิ าการและ วิชาชพี วิชาชพี ๔. นักเรียนนำเสนอชิ้นงานคำ ป ร ะ เ ม ิ น ก า ร แบบประเมินการ ๔คะแนน ระดับพอใชข้ ึ้นไป ภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย นำเสนอชิ้นงานคำ นำเสนอชิ้นงานคำ ระดับดี ทั้ง๔กจิ กรรม ได้ ภาษาต่างประเทศ ภาษาตา่ งประเทศท่ี ๓คะแนน ถือวา่ ผา่ น ทใี่ ช้ในภาษาไทย ใช้ในภาษาไทย ระดบั พอใช้ ตำ่ กว่า๓คะแนน ระดบั ควรปรบั ปรุง

๕๘ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ ีวดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารให้ เกณฑ์การ คะแนน ประเมนิ ๕. นักเรียนเขียนคำทับศัพท์และ ประเมนิ การเขียน แบบประเมนิ การ ๘–๑๐คะแนน ระดับพอใชข้ ้นึ ไป ศพั ทบ์ ญั ญัตไิ ดถ้ ูกตอ้ ง คำทับศพั ท์และ เขียนคำทบั ศพั ท์ ระดบั ดี ถอื ว่าผ่าน ศพั ท์บญั ญัติ และศัพทบ์ ญั ญตั ิ ๕–๗คะแนน ระดบั พอใช้ ต่ำกว่า ๕ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง ๖. นักเรียนเขียนคำศัพท์ทาง ประเมินการเขียน แบบประเมินการ ๘–๑๐คะแนน ระดับพอใชข้ ึน้ ไป วิชาการและวิชาชพี ได้ถูกต้อง คำศพั ท์ทาง เขียนคำศพั ท์ทาง ระดบั ดี ถอื วา่ ผ่าน วิชาการและ วชิ าการและ ๕–๗คะแนน วิชาชีพ วชิ าชพี ระดับพอใช้ ตำ่ กว่า๕คะแนน ระดบั ควรปรับปรุง ๗. นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกต ๒-๓คะแนน ระดบั พอใชข้ น้ึ ไป เรียนรู้เรื่องคำภาษาต่างประเทศท่ี การทำกจิ กรรม พฤตกิ รรมการทำ ระดับดี ถอื วา่ ผ่าน ใช้ในภาษาไทย เรื่องคำ กิจกรรมเร่ืองคำ ๑คะแนน ภาษาตา่ งประเทศ ภาษาต่างประเทศท่ี ระดบั พอใช้ ทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย ใชใ้ นภาษาไทย ๐ คะแนน ระดับ ควรปรับปรงุ ๘. นักเรียนให้ความร่วมมือในการ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกต ๒-๓คะแนน ระดับพอใชข้ ้ึนไป ทำกิจกรรมเรื่องการใช้คำทับศัพท์ การทำกิจกรรม พฤตกิ รรมการทำ ระดับดี ถอื ว่าผ่าน และศพั ท์บญั ญตั ิ เร่อื งการใชค้ ำทบั กจิ กรรมเรื่องการใช้ ๑คะแนน ศัพท์และศัพท์ คำทบั ศัพท์และ ระดับพอใช้ บญั ญัติ ศัพท์บัญญตั ิ ๐ คะแนน ระดับควรปรบั ปรุง

๕๙ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ วี ดั เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ ารให้ เกณฑ์การ คะแนน ประเมิน ๙. นักเรียนให้ความร่วมมือในการ สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต ทำกิจกรรมเรื่องคำศัพท์ทาง การทำกิจกรรม พฤติกรรมการทำ ๒ - ๓ คะแนน ระดับพอใช้ขน้ึ ไป วชิ าการและวิชาชีพ เรื่องคำศัพทท์ าง กิจกรรมเร่ือง ระดบั ดี ถือวา่ ผา่ น วชิ าการและ ๑ คะแนน คำศพั ทท์ าง ระดบั พอใช้ วชิ าชพี วิชาการและ ๐ คะแนน วชิ าชพี ระดับ ควรปรับปรุง

๖๐ แบบประเมินชิ้นงานคำภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย รายการประเมิน ระดบั คะแนน ด๓ี คะแนน พอใช้ ๒คะแนน ควรปรับปรงุ ๑ คะแนน กิจกรรม:มือใครเซยี นเขียนไดเ้ ขยี นเอา(คำยืมภาษาจนี ) ๑.จำนวนคำยืมภาษาจนี เขยี นได้ ๓๐คำข้ึนไป เขียนได้ ๒๐-๒๙คำ เขียนได้น้อยกวา่ ๒๐คำ ๒.จำนวนข้อทีต่ อบผดิ ตอบผดิ ไมเ่ กิน๑คำ ตอบผดิ ๒-๔คำ ตอบผดิ ๕คำขึ้นไป กิจกรรม :เพลงน้มี ีคำถาม(คำยืมภาษาอังกฤษ) ๑.จำนวนข้อท่ตี อบถกู ตอบถกู ๑๐คำข้ึนไป ตอบถูก๕-๙คำ ตอบถูกน้อยกว่า๕คำ ๒.จำนวนข้อทีต่ อบผิด ตอบผดิ ไมเ่ กิน๑คำ ตอบผดิ ๒-๔คำ ตอบผิด๕คำขึ้นไป เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนคำภาษาต่างประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย รายการประเมิน ระดบั คะแนน ควรปรบั ปรุง จำนวนคำท่ตี อบถูก ดีมาก ๔ คะแนน ดี ๓ คะแนน พอใช้ ๒ คะแนน จำนวนคำที่ตอบถูก กิจกรรม : นำ้ ขน้ึ น้ำลง (คำยืมภาษาบาลสี นั สกฤต) ตอบถูก ๐ - ๕ คำ ตอบถูก ตอบถกู ตอบถูก ๑๖ - ๒๐ คำ ๑๑ - ๑๕ คำ ๖ - ๑๐ คำ ตอบถกู ๐ - ๕ คำ กิจกรรม : ชปู ้ายทายภาษา (คำยืมภาษาเขมร) ตอบถกู ตอบถกู ตอบถกู ๑๖ - ๒๐ คำ ๑๑ - ๑๕ คำ ๖ - ๑๐ คำ

๖๑ แบบประเมินการนำเสนอชนิ้ งานคำภาษาต่างประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย กจิ กรรม รายการประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน มอื ใครเซียนเขยี นไดเ้ ขียน ๑. มีความพรอ้ มในการนำเสนอ ๔ คะแนน : มีครบทุกข้อ ๒. รกั ษาเวลาตามทก่ี ำหนด ๓ คะแนน : มี ๓ ข้อ ขาด ๑ ขอ้ เอา (คำยืมภาษาจีน) ๓. การใช้ภาษาในการนำเสนอมคี วาม ๒ คะแนน : มี ๒ ขอ้ ขาด ๒ ขอ้ ถกู ต้อง เหมาะสม ๑ คะแนน : มี ๑ ขอ้ ขาด ๓ ข้อ เพลงนี้มคี ำถาม ๔. การนำเสนอได้รับความสนใจและ (คำยมื ภาษาอังกฤษ) ดึงดดู ผู้ฟัง ๔ คะแนน : มคี รบทกุ ขอ้ ๑. มีความพรอ้ มในการนำเสนอ ๓ คะแนน : มี ๓ ข้อ ขาด ๑ ขอ้ น้ำขึน้ นำ้ ลง ๒. รักษาเวลาตามที่กำหนด ๒ คะแนน : มี ๒ ขอ้ ขาด ๒ ขอ้ (คำยมื ภาษาบาลี - ๓. การใช้ภาษาในการนำเสนอมคี วาม ๑ คะแนน : มี ๑ ขอ้ ขาด ๓ ข้อ ถกู ต้อง เหมาะสม สันสกฤต) ๔. การนำเสนอได้รับความสนใจและ ๔ คะแนน : มีครบทุกข้อ ชูป้ายทายภาษา ดงึ ดูดผู้ฟัง ๓ คะแนน : มี ๓ ข้อ ขาด ๑ ข้อ (คำยืมภาษาเขมร) ๑. มคี วามพรอ้ มในการทำกิจกรรม ๒ คะแนน : มี ๒ ขอ้ ขาด ๒ ข้อ ๒. รักษากฎกติกา ๑ คะแนน : มี ๑ ขอ้ ขาด ๓ ขอ้ ๓. มคี วามม่นั ใจในการตอบคำถาม ๔ คะแนน : มีครบทุกขอ้ ๔. มคี วามซ่ือสตั ย์ ๓ คะแนน : มี ๓ ข้อ ขาด ๑ ขอ้ ๑. มีความพรอ้ มในการทำกจิ กรรม ๒ คะแนน : มี ๒ ข้อ ขาด ๒ ข้อ ๒. รักษากฎกตกิ า ๑ คะแนน : มี ๑ ขอ้ ขาด ๓ ขอ้ ๓. มีความมั่นใจในการตอบคำถาม ๔. ความซือ่ สตั ย์

แบบประเมินการเขียนคำทบั ศพั ทแ์ ละศัพท์บัญญตั ิ ๖๒ การประเมนิ คะแนน เกณฑค์ ณุ ภาพ กิจกรรม:บิงโกคำทบั ศพั ท์ ดมี าก ดี เขียนคำทบั ศพั ท์ถกู ต้องทกุ คำ ๕ คะแนน ค่อนขา้ งดี พอใช้ เขียนคำทบั ศัพท์ผดิ ๑-๒คำ ๔ คะแนน ควรปรับปรุง เขยี นคำทับศัพท์ผิด๓-๔คำ ๓ คะแนน ดีมาก ดี เขยี นคำทับศพั ท์ผดิ ๔-๕คำ ๒ คะแนน คอ่ นข้างดี พอใช้ เขียนคำทบั ศพั ท์ผดิ มากกวา่ ๕คำ ๑ คะแนน ควรปรับปรุง กจิ กรรม: แข่งเขียนศัพทบ์ ัญญตั ิ เขียนศัพทบ์ ญั ญัตถิ กู ตอ้ งทกุ คำ ๕ คะแนน เขยี นศัพท์บญั ญตั ผิ ดิ ๑-๒คำ ๔ คะแนน เขียนศพั ท์บญั ญตั ผิ ดิ ๓-๔คำ ๓ คะแนน เขยี นศพั ทบ์ ัญญัตผิ ดิ ๔-๕คำ ๒ คะแนน เขียนศพั ทบ์ ัญญัตผิ ิดมากกว่า๕คำ ๑ คะแนน

๖๓ แบบประเมนิ การเขยี นคำศพั ท์ทางวชิ าการและวิชาชพี รายการประเมิน คะแนน เกณฑค์ ุณภาพ การจำแนกคำศพั ทท์ างวชิ าการและวิชาชพี จำแนกถกู ต้องทุกคำ ดมี าก จำแนกผดิ ๑-๒คำ ๕ คะแนน ดี จำแนกผิด ๓ - ๔ คำ ๔ คะแนน ค่อนข้างดี จำแนกผิด ๔ - ๕ คำ ๓ คะแนน พอใช้ จำแนกผดิ มากกวา่ ๕คำ ๒ คะแนน ควรปรับปรุง ๑ คะแนน เขียนถกู ต้องทกุ คำ ความถกู ตอ้ งของคำศัพท์ ดีมาก เขยี นผดิ ๑-๒คำ ๕ คะแนน ดี เขียนผดิ ๓-๔คำ ๔ คะแนน ค่อนข้างดี เขียนผดิ ๔-๕คำ ๓ คะแนน พอใช้ เขียนผดิ มากกว่า๕คำ ๒ คะแนน ควรปรับปรุง ๑ คะแนน

๖๔ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำกิจกรรมเร่ืองคำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย คำชี้แจง ใหท้ ำเครอ่ื งหมำย  ลงในชอ่ งรำยกำรสงั เกตพฤตกิ รรมทน่ี กั เรยี นปฏบิ ตั ิ รายการ ทำกจิ กรรม ปฏบิ ัติตาม สรปุ ผลการ ดว้ ยความ มีความกลา้ คำสงั่ ในการ เลขท่ี ช่อื -สกลุ ตัง้ ใจ แสดงออก ทำกิจกรรม ประเมนิ ๐๑ ๐๑ ๐ ๑ ผา่ น ไม่ ผา่ น ลงชื่อ ....................................... ผ้ปู ระเมิน (................................................) ............./............./.............

๖๕ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำกิจกรรมเร่อื งการใชค้ ำทบั ศัพทแ์ ละศัพทบ์ ญั ญัติ คำชี้แจง ใหท้ ำเครอ่ื งหมำย  ลงในชอ่ งรำยกำรสงั เกตพฤตกิ รรมทน่ี กั เรยี นปฏบิ ตั ิ รายการ ให้ความ ปฏบิ ัตติ าม สรปุ ผลการ ร่วมมอื ในการ มีความกล้า คำสงั่ ในการ เลขท่ี ช่อื -สกลุ ทำกจิ กรรม แสดงออก ทำกิจกรรม ประเมนิ ๐๑ ๐๑ ๐ ๑ ผา่ น ไม่ ผา่ น ลงชอ่ื ....................................... ผ้ปู ระเมิน (................................................) ............./............./.............

๖๖ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำกจิ กรรมเรือ่ งคำศพั ทท์ างวชิ าการและวิชาชพี คำชี้แจง ใหท้ ำเครอ่ื งหมำย  ลงในชอ่ งรำยกำรสงั เกตพฤตกิ รรมทน่ี กั เรยี นปฏบิ ตั ิ รายการ ใหค้ วาม ปฏิบัตติ าม สรปุ ผลการ ร่วมมอื ในการ มีความกล้า คำสัง่ ในการ เลขที่ ชื่อ-สกุล ทำกิจกรรม แสดงออก ทำกิจกรรม ประเมนิ ๐๑ ๐๑ ๐ ๑ ผา่ น ไม่ ผา่ น ลงช่ือ ....................................... ผ้ปู ระเมิน (................................................) ............./............./.............

๖๗ ๑๒. กิจกรรมเสนอแนะ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ๑๓. บนั ทกึ ผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน นกั เรยี นทง้ั หมดจำนวน.....................คน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จำนวนนกั เรียนทผี่ า่ น จำนวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผ่าน ขอ้ ท่ี ๑. จำนวนคน ร้อยละ จำนวนคน รอ้ ยละ ๒. ๓. ๔. ๕ ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๕. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ๑๖. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................

๖๘ ลงช่ือ........................................................................ (…………………………………………………………..) ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ....................................... ลงชื่อ................................................................ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ (…………………………………………………………..) ลงชอ่ื .......................................................... รองผ้อู ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ (…………………………………………………………..) ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา ได้ทำการตรวจแผนการเรียนรู้ของ....................................................แล้วมีความคดิ เห็นดงั น้ี ๔. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ ๕. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .......................................................... (…………………………………………………………..) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี น…………………………………………………………..

๖๙

๗๐

๗๑

๗๒

๗๓

๗๔