บทเรยี นสาเรจ็ รปู หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง จ้ำนวนเตม็ เล่มท่ี 4 ระดบั ชนั ม.1 การคณู จานวนเต็ม นำงสำวสุนษิ ำ คำ้ แหน ต้ำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย โรงเรียนนำ้ ปลกี ศกึ ษำ กระทรวงศึกษำธกิ ำร
ก คำนำ แบบฝึกทกั ษะคณติ ศาสตร์ เร่ือง ระบบจานวนเตม็ เล่มท่ี 4 เรอ่ื ง การคณู จานวนเต็ม จดั ทาขนึ้ เพอ่ื ประกอบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ รายวิชา คณติ ศาสตร์พื้นน ค21101 สาหรบั นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษา ปีที่ 1 ซ่งึ แบบฝกึ ทกั ษะคณติ ศาสตร์เล่มนี้ เปน็ การพฒั นานักเรียนทางดา้ นสตปิ ญั ญา และด้านสงั คม โดยให้ นกั เรียนได้มสี ว่ นรว่ มในการเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง ระบบจานวนเต็ม เพ่อื แกป้ ัญหานกั เรยี นท่ขี าด ทักษะทางคณิตศาสตร์ นักเรยี นสามารถฝกึ ฝนเพ่มิ เติม ทาให้นักเรียนมีความเข้าใจในเรอ่ื งระบบจานวนเตม็ มากขึ้น เกดิ ทักษะในการคานวณ เพ่ือช่วยในการตัดสินใจและแกป้ ัญหา ฝกึ การทางานอย่างเปน็ ระบบ มี ระเบยี บวนิ ัย รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ รวมทงั้ เพ่ือตอบสนองความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล กระตนุ้ ให้ นกั เรยี นมีเจตคติทีด่ ีต่อวชิ าคณติ ศาสตร์ ตระหนักและเห็นคุณค่าของการเรยี น อันจะนาไปสกู่ ารบรรลุผล การเรียนรทู้ ี่คาดหวังของหลักสตู รคณิตศาสตร์ ซ่งึ ไดจ้ ดั ทาแบบฝกึ ทกั ษะคณติ ศาสตร์จานวน 5 เลม่ คอื เลม่ ที่ 1 ความรู้เบอื้ งตน้ ของจานวนเตม็ เลม่ ท่ี 2 การบวกจานวนเตม็ เล่มท่ี 3 การลบจานวนเต็ม เลม่ ที่ 4 การคณู จานวนเต็ม เล่มท่ี 5 การหารจานวนเตม็ แบบฝึกทกั ษะเล่มน้ี เป็นเล่มท่ี 4 เร่อื ง การคณู จานวนเตม็ ซึง่ มรี ายละเอยี ดเกี่ยวกบั การ จาแนกจานวนเตม็ จานวนเตม็ บวก ศนู ย์ จานวนเตม็ ลบ แบบรูปของของจานวนเตม็ การเปรียบเทียบ จานวนเตม็ และการเรียงลาดบั จานวนเต็ม โดยเน้ือหาในเล่มจะประกอบดว้ ย คาแนะนาสาหรบั ครู คาแนะนาสาหรับนกั เรยี น มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชวี้ ดั ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั สาระการเรยี นรู้ เนื้อหา พรอ้ มตวั อย่าง สาหรับนกั เรยี นไดศ้ กึ ษาเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง มีแบบฝึกทกั ษะให้นกั เรยี นไดฝ้ ึก ทกั ษะทางคณติ ศาสตร์ ทาให้นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั จานวนเตม็ มากขน้ึ ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอย่างยงิ่ ว่าแบบฝึกทักษะ เล่มท่ี 4 เร่ือง การคณู จานวนเตม็ จะทาให้ นักเรียนเกดิ การเรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และเหน็ ความกา้ วหนา้ ของตนเองไดอ้ ยา่ งมรี ะบบเกดิ ประโยชน์กบั นกั เรียน สุนษิ า คาแหน 2
ข สำรบญั หนา้ 1 เรื่อง 2 คาแนะนาในการใช้บทเรียนสาเร็จรูปคณติ ศาสตร์ 3 คาแนะนาในการใช้บทเรยี นสาเรจ็ รปู คณติ ศาสตร์สาหรบั ครู 4 คาแนะนาในการใช้บทเรียนสาเรจ็ รูปคณติ ศาสตร์สาหรับนักเรยี น 6 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ดั และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 7 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การคูณจานวนเตม็ 8 ใบความรู้ท่ี 1 เร่อื ง การคณู จานวนเตม็ บวก กบั จานวนเตม็ บวก 9 แบบฝกึ ทักษะที่ 1.1 10 ใบความรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง การคณู จานวนเต็มลบ กับ จานวนเต็มลบ 11 แบบฝึกทักษะท1ี่ .2 12 ใบความรู้ท่ี 3 เรอื่ ง การคูณจานวนเตม็ บวก กับ จานวนเตม็ ลบ 13 แบบฝกึ ทกั ษะท1ี่ .3 14 ใบความรทู้ ่ี 3 เร่อื ง การคณู จานวนเตม็ ลบ กบั จานวนเตม็ บวก 15 ใบงานท่ี 1.1 การคูณจานวนเต็ม(1) 16 ใบงานที่ 1.2 การคูณจานวนเตม็ (2) 17 บรรณานุกรม ภาคผนวก 3
1 คำแนะนำในกำรใช้บทเรียนสำเร็จรูปคณติ ศำสตร์ 1. เอกสารฉบบั น้ีเปน็ บทเรยี นสาเรจ็ รูปคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจานวนเต็ม เลม่ ท่ี 4 เรอื่ ง การคูณจานวนเต็ม จดั ทาขน้ึ เพื่อประกอบการจัดการเรียนการสอน รายวชิ า คณิตศาสตร์ พ้นื ฐาน ค21101 สาหรับนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 2. บทเรยี นสาเร็จรปู คณิตศาสตร์ฉบบั นี้เปน็ เลม่ ท่ี 4 เรื่อง การคณู จานวนเต็ม ประกอบดว้ ย 2.1 คาแนะนาในการใชบ้ ทเรียนสาเรจ็ รูปคณติ ศาสตร์ 2.2 คาแนะนาในการใช้บทเรียนสาเร็จรูปคณิตศาสตร์สาหรบั ครู 2.3 คาแนะนาในการใชบ้ ทเรยี นสาเรจ็ รปู คณิตศาสตรส์ าหรับนักเรยี น 2.4 แบบทดสอบก่อนเรยี น 2.5 ใบความรู้ 2.6 แบบฝกึ ทกั ษะคณติ ศาสตร์ 2.7 แบบทดสอบหลงั เรียน 2.8 บรรณานุกรม 2.9 ภาคผนวก 3. บทเรยี นสาเร็จรูปคณิตศาสตร์เลม่ น้ี ใช้เวลาเรียน จานวน 4 คาบเรียนตามลาดบั ดงั น้ี ชั่วโมงท่ี 1 : ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอ่ื ง การคูณจานวนเต็ม ชัว่ โมงท่ี 2 : ศึกษาใบความรู้ท่ี 1.1 เรอื่ ง การคณู จานวนเตม็ ทาแบบฝกึ ทกั ษะที่ 1.1 เรอื่ ง การคณู จานวนเต็ม (1) ชวั่ โมงที่ 3 : ศึกษาใบความรู้ท่ี 1.2 เรอ่ื ง การคูณจานวนเตม็ ทาแบบฝึกทักษะที่ 1.2 เรอื่ ง การคณู จานวนเตม็ (2) ทาแบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง การคูณจานวนเต็ม 4
2 บทเรยี นสาเรจ็ รูปคณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน รหัสวิชา ค21101 หน่วย การเรยี นรู้ที่ 1 เรอื่ ง ระบบจานวนเต็ม ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ครูผสู้ อนเป็นผูท้ มี่ บี ทบาทสาคัญที่จะ ชว่ ยใหก้ ารดาเนนิ กิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนบรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ ครูผสู้ อนจงึ ควรศึกษา รายละเอียดเก่ียวกับการ ปฏบิ ตั ติ นกอ่ นทีจ่ ะใช้แบบฝกึ ดังนี้ 1. ศึกษาบทเรียนสาเรจ็ รปู และอา่ นเน้ือหาสาระอยา่ งละเอยี ดรอบคอบพร้อมท้ังทา ความเขา้ ใจกับเนอ้ื หาทุกเล่มก่อนการใชส้ อน 2. ควรใชบ้ ทเรียนสาเร็จรูปคณิตศาสตรใ์ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนเรยี ง ตามลาดบั ของแต่ละเลม่ 3. เตรยี มบทเรียนสาเรจ็ รปู ใหค้ รบถว้ นและเพียงพอกับจานวนนกั เรียน เตรียม เครือ่ งมือวัดผลและประเมินผล เพ่อื ให้ทราบความก้าวหน้าของนกั เรียน 4. ชแ้ี จงให้นักเรยี นทราบลาดับขนั้ ตอนและวิธีสอนโดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะอยา่ งชดั เจน และประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั จากการสอนโดยใช้บทเรียนสาเร็จรูป 5. ชีแ้ จงใหน้ กั เรียนทราบเกยี่ วกบั บทบาทของนกั เรียน ในการเรียนโดยใชบ้ ทเรยี น สาเรจ็ รูปให้เข้าใจ 6. ใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี นเพ่อื ประเมนิ ความรเู้ ดมิ ของนกั เรียน 7. ดาเนินการสอนตามกจิ กรรมทกี่ าหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 ถงึ 3 8. ให้นักเรยี นศึกษาเนือ้ หา และทาบทเรียนสาเร็จรปู คณติ ศาสตร์ เล่มที่ 4 แล้วเปล่ยี น กันตรวจตามเฉลย 9. สังเกตความต้ังใจของนกั เรียน ความสนใจในการเรยี น รวมถงึ คอยให้คาแนะนา นักเรียนเม่อื พบปัญหา 10. เวลาในการจัดกิจกรรมการเรยี นโดยใชบ้ ทเรยี นสาเร็จรูปของนักเรียนแตล่ ะคน อาจจะไม่เท่ากนั ครคู วรยืดหยุน่ ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ 11. ใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน เพอื่ ประเมนิ ความกา้ วหน้าของนักเรยี น 5
3 บทเรยี นสาเรจ็ รูปคณิตศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน รหัสวิชา ค21101 หน่วย การเรียนร้ทู ี่ 1 เร่อื ง ระบบจานวนเต็ม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 นกั เรยี นควรปฏบิ ัติตามคาแนะนา ดังน้ี 1. อา่ นคาแนะนาในการใชบ้ ทเรียนสาเร็จรูปคณติ ศาสตรใ์ หเ้ ขา้ ใจ 2. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพ่ือประเมนิ ความรู้เดมิ 3. ศึกษาเนื้อหาและทาแบบฝึกทกั ษะคณติ ศาสตรเ์ ลม่ ที่ 4 ถา้ ทาแบบฝกึ ทักษะไมไ่ ด้ ให้ ศกึ ษาเนอ้ื หาใหม่อีกครัง้ หรอื ปรึกษาครผู สู้ อน 4. หลังจากทาแบบฝึกทกั ษะเสรจ็ แลว้ ใหส้ ่งครูเพอื่ ตรวจและบันทกึ คะแนนไว้ จากน้ัน รว่ มกนั สรุปองคค์ วามรู้ โดยครคู อยชแ้ี นะแนวทางและอธบิ ายเพ่ิมเติม 5. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน เพอื่ ประเมนิ ความกา้ วหนา้ ของตนเองจากการศกึ ษา แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เล่มท่ี 4 จบแล้ว 6. ในการทาแบบฝึกทักษะ แบบทดสอบหลังเรียน ใหน้ ักเรียนพยายามทาด้วยความ ตงั้ ใจและมีความซอ่ื สตั ยต์ อ่ ตนเองใหม้ ากที่สดุ 6
4 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวดั สาระท่ี1 จานวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวนผลท่เี กดิ ข้ึนจากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการ ดาเนินการ และนาไปใช้ ตัวชี้วดั : ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจานวนตรรกยะและความสมั พันธ์ของ จานวนตรรกยะและใชส้ มบตั ขิ องจานวนตรรกยะในการแก้ปญั หาคณิตศาสตร์ และ ปัญหาในชีวิตจริง 7
5 8
7 ใบความร้ทู ่ี 1
8 10
9 ใบความรู้ที่ 2 11
10 12
11 ใบความร้ทู ่ี 3 13
12 14
13 ใบความร้ทู ่ี 4 15
14 16
15 17
จ้ำนวนเตม็ ใบงำน 1.1 กำรคูณจำ้ นวนเตม็ (1) สำระท่ี 1 จ้ำนวนและพชี คณติ 16 มำตรฐำน ค 1.1 ม.1/1 คำ้ ชีแจง 1. ใหน้ ักเรยี นพจิ ำรณำกำรคณู จำ้ นวนเตม็ ทกี่ ำ้ หนดใหต้ อ่ ไปนแี ลว้ ตอบคำ้ ถำม 1) 63 X 24 2) (-10) X (-6) 3) -10(-30) 4) -10(5) 5) 0(-1) เต็มศูนย์ 9) (-8) • 4 6) (-512) X 0 7) 25 X 2 เต็มบวก 8) (-3) X (-50) 13) (-9) X 5 17) 61 • 0 เต็มศูนย์ 10) (-5)12 เต็มลบ 11) (-9) • 4 12) 6 X (-3) เต็มลบ 14) 8 X (-33) 18) -6 X (-3) 15) (-11)(-9) เต็มบวก 16) 2(30) 19) (-9) • (-12) 20) (-1) X 0 1) ข้อทีผ่ ลคณู เปน็ จ้ำนวนเต็มลบ ได้แก่ 10, 12, 2) ข้อที่ผลคณู เป็นจ้ำนวนเตม็ บวก ไดแ้ ก่ 7, 15, 3) ขอ้ ทีผ่ ลคูณเป็นจ้ำนวนเต็มศนู ย์ ได้แก่ 5, 17, คำ้ ชีแจง 2. ให้นกั เรยี นโยงเสน้ จบั คปู่ ระโยคสญั ลกั ษณก์ บั แนวคดิ : ผลคณู ทำงขวำแตล่ ะขอ้ ใหถ้ กู ตอ้ ง การคูณจานวนเต็มบวกด้วยจานวนเต็มลบ ได้ผลคูณเป็นจานวนเต็มลบ การคณู จานวนเต็มลบด้วยจานวนเต็มบวก ได้ผลคณู เป็นจานวนเต็มลบ การคูณจานวนเต็มลบด้วยจานวนเต็มลบ ได้ผลคูณเป็นจานวนเต็มบวก การคูณจานวนเต็มบวกด้วยจานวนเต็มบวก ได้ผลคณู เป็นจานวนเต็มบวก 1) (0)(-8) ❖ ❖ 190 จำนะ 2) -19 X (-10) ❖ ❖ 400 3) (-20) • (-20) ❖ ❖1 (-)(-) = + 4) -7(-4) ❖ ❖ -1 (+)(+) = + (+)(-) = - (-)(+) = - 5) (-1) X 1 ❖ ❖0 6) 100(-3) ❖ ❖ (-72) 7) (-1) X (-1) ❖ ❖ -82 8) 9 X (-1) ❖ ❖ 28 9) (-41)2 ❖ ❖ (-300) 10) (-12) X 6 ❖ ❖ -9
จำ้ นวนเตม็ ใบงำน 1.2 กำรคณู จำ้ นวนเตม็ (2) สำระที่ 1 จำ้ นวนและพชี คณติ 17 มำตรฐำน ค 1.1 ม.1/1 ค้ำชแี จง ให้นกั เรยี นแสดงวธิ หี ำผลคณู ในแตล่ ะข้อตอ่ ไปนี 1. (-4) x 4 2. (-3) x 11 วิธีทำ้ (-3) x 11 = -(3 x 11)…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิธที ำ้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = -33…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอบ -33…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. (-9)12 4. (-50) • (-12) วิธที ำ้ (-50) • (-12) = 50 • 12…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิธที ำ้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = 600…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอบ -33…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. -20(-8) 6. [5 x (-5)] x 6 วิธีทำ้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วธิ ีทำ้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. [-3(-7)] • (-5) 8. 10 x (5 x 2) [-3(-7)] • (-5) = 21 • (-5)วิธที ำ้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = -105…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิธที ำ้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอบ -105…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. (11 x 4) + [11 x (-4)] 10. 6 x [(-7) x 2] วธิ ที ำ้ (11 x 4) + [11 x (-4)] = 44 + (-44)…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = 0…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิธีทำ้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอบ 0…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
18 20
19 บรรณำนุกรม คณิตศาสตร์ เล่ม 1. ม.1 :สถานบนั คุณภาพวิชาการ พว. นางสาวบุษยมาส หม่ืนคมุ้ . แบบฝกึ เสรมิ ทักษะคณิตศาสตร์ เรอ่ื งการคูณและการหาร จานวนเตม็ รายวิชาคณติ ศาสตรพ์ ้นื ฐาน รหัสวิชา ค21101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 21
20 ภำคผนวก 22
16 21 23
22 24
23 25
24 26
จ้ำนวนเตม็ ใบงำน 1.1 กำรคณู จำ้ นวนเตม็ (1) สำระท่ี 1 จำ้ นวนและพชี คณิต 25 มำตรฐำน ค 1.1 ม.1/1 คำ้ ชแี จง 1. ให้นักเรยี นพจิ ำรณำกำรคณู จำ้ นวนเตม็ ทก่ี ำ้ หนดใหต้ อ่ ไปนแี ลว้ ตอบคำ้ ถำม 1) 63 X 24 2) (-10) X (-6) 3) -10(-30) 4) -10(5) 5) 0(-1) 6) (-512) X 0 7) 25 X 2 8) (-3) X (-50) 9) (-8) • 4 10) (-5)12 11) (-8) • 4 12) 6 X (-3) 13) (-9) X 5 14) 8 X (-33) 15) (-11)(-9) 16) 2(30) 17) 61 • 0 18) -6 X (-3) 19) (-9) • (-12) 20) (-1) X 0 1) ข้อท่ผี ลคูณเป็นจ้ำนวนเต็มลบ ไดแ้ ก่ 4, 9, 10, 11, 12, 13, 14 2) ข้อทผ่ี ลคูณเป็นจ้ำนวนเตม็ บวก ไดแ้ ก่ 1, 2, 3, 7, 8, 15, 16, 18, 19 3) ขอ้ ท่ผี ลคณู เป็นจ้ำนวนเต็มศนู ย์ ไดแ้ ก่ 5, 6, 17, 20 แนวคดิ : กำรคูณจ้ำนวนเต็มบวกดว้ ยจ้ำนวนเตม็ ลบ ได้ผลคณู เปน็ จำ้ นวนเตม็ ลบ กำรคณู จำ้ นวนเต็มลบด้วยจำ้ นวนเต็มบวก ไดผ้ ลคณู เป็นจำ้ นวนเตม็ ลบ ค้ำชีแจง 2. ใหน้ กั เรยี นโยงเส้นจบั คปู่ ระโยคสัญลกั ษณก์ บั ผลคณู ทำงขวำแกตำรล่คะูณขจอ้้ำนใหวนถ้ เตกู ม็ ตลบอ้ ดงว้ ยจำ้ นวนเตม็ ลบ ได้ผลคณู เป็นจ้ำนวนเตม็ บวก กำรคูณจำ้ นวนเตม็ บวกด้วยจำ้ นวนเตม็ บวก ไดผ้ ลคูณเป็นจำ้ นวนเต็มบวก 1) (0)(-8) ❖ ❖ 190 2) -19 X (-10) ❖ ❖ 400 3) (-20) • (-20) ❖ ❖1 4) -7(-4) ❖ ❖ -1 5) (-1) X 1 ❖ ❖0 6) 100(-3) ❖ ❖ (-72) 7) (-1) X (-1) ❖ ❖ -82 8) 9 X (-1) ❖ ❖ 28 9) (-41)2 ❖ ❖ (-300) 10) (-12) X 6 ❖ ❖ -9
จำ้ นวนเตม็ ใบงำน 1.2 กำรคูณจำ้ นวนเตม็ (2) สำระท่ี 1 จำ้ นวนและพชี คณิต 26 มำตรฐำน ค 1.1 ม.1/1 คำ้ ชแี จง ใหน้ กั เรยี นแสดงวธิ หี ำผลคณู ในแตล่ ะขอ้ ตอ่ ไปนี แนวคิด: สำมำรถหำผลคูณโดยใชค้ ำ่ สัมบรู ณไ์ ด้ 1. (-4) x 4 2. (-3) x 11 วธิ ที ำ้ (-4) x 4 = -(4 x 4)…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิธที ำ้ (-3) x 11 = -(3 x 11)…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = -16…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = -33…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. (-9)12 4. (-50) • (-12) วธิ ีทำ้ (-9)12 = -(9 x 12)…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วธิ ที ำ้ (-50) • (-12) = 50 • 12…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = -108…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = 600…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. -20(-8) 6. [5 x (-5)] x 6 วิธที ำ้ -20(-8) = 20(8)…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิธที ำ้ [5 x (-5)] x 6 = -25 x 6…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = 160…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = -150…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. [-3(-7)] • (-5) 8. 10 x (5 x 2) วิธีทำ้ [-3(-7)] • (-5) = 21 • (-5)…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิธที ำ้ 10 x (5 x 2) = 10 x 10…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = -105…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = 100…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. (11 x 4) + [11 x (-4)] 10. 6 x [(-7) x 2] วธิ ที ำ้ (11 x 4) + [11 x (-4)] = 44 + (-44)…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วธิ ที ำ้ 6 x [(-7) x 2] = 6 x (-14)…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = 0…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… = -84…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
29
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: