วสั ดุในชวี ตประจําวนั
ก คํานํา หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์เลม่ นเี ปนสว่ นหนงึ ในวชาออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ชนั มัธยมศกึ ษาปที2ซึงเปนหนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์เกียวกับเรองวสั ดใุ นชวี ต ประจําวนั โดยเกยี วกบั ไมโ้ ลหะพลาสติกและ ยาง ทงั นีผูจ้ ัดทาํ หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เล่มนึจะ เปนประโยชนแ์ กผ่ ้อู ่าน. นักเรยนและผู้ที กาํ ลงั ศกึ ษาอยู่หากผ้จู ัดทาํ มขี อ้ แนะนาํ หรอ ผิดพลาดประการใด ผู้จดั ทําขอน้อมรับและ ข้ออภยั ณ ทีนดี ้วย
สารบญั ข เร่ือง หนา คาํ นาํ ขก1 2 สารบญั 5 8 เกรน่ิ นาํ 11 14 ไม 15 โลหะ พลาสติก ยาง อางอิง จัดทาํ โดย
1 วสั ดใุ นชวี ติ ประจาํ วนั สิง่ ของเครอื่ งใชต างๆสรา งข้ึน จากวัสดุหลายประเภทวัสดุแต ละประเภทมีลักษณะทีแ่ ตกตา งกนั การเลือกใชว สั ดทุ ่ีเหมาะสมจงึ มี ความสาํ คญั ตอ การออกแบบและ สรา งสิง่ ของเคร่อื งใช
ไม (wood) 2 ไมคือวัสดจุ ากธรรมชาตทิ ีไ่ ดม าจาก ลําตน ของตน ไมไมมคี วามแข็งแรง ทนทาน ตานทานไฟ ไมม ีสนมิ มรี ูป รา งคงตวั ผิวเรียบ มีกล่นิ และมี ลวดลายถาไดรับความชื้นเปนเวลา นานอาจบวมผดิ รูปและผไุ ด ไมแ บง ออกเปน 2ประเภทคอื
1.ไมจริงหรือไมธ รรมชาติ 3 คือไมท ีไ่ ดม าจากลําตน ของ ตน ไมโ ดยตรงแบง ได เปน 2ประเภทคอื 1.ไมเนอ้ื แข็ง 2ไมเนือ้ ออ น
2.ไมป ระกอบ 4 คือไมท่ไี ดจ ากการนําช้ินสวน ของไมมาตอ รวมกันโดย กระบวนการตางๆ ไมป ระกอบแบง ไดห ลายปนะเภท เชนไมอดั . ไมบารต เิ คิลบอรด
โลหะ(metals) 5 โลหะคือวัสดุทีไ่ ดจ ากการถลงุ สินแรตางๆ. โลหะทนี่ าํ มาใชง านสว นใหญจะผา นการปรับปรงุ สมบตั ใิ หดขี ึน้ กอนนาํ มาใชง าน โลหะเปนตัวน ความรอนและไฟฟามีความแขง็ แรงสูง มคี วามคง ทาน ไมเสอ่ื มสลายเปนวตั ถุทึบแสงทนตอ กา กดั กรอนโลหะแบง ออกไดเปน 2ประเภทคอื
1.โลหะกลมุ เหล็ก 6 คอื โลหะทม่ี ีเหล็กเปน สว นประกอบแบง ออกเปน เหล็กกลาและเหล็กหลอ ซง่ึ มี ธาตคุ ารบ อนผสมอยูในปริมาณท่ีตา งกัน ต้ังแต0 .1%ไปจนถึง4.0%คารบอนท่ผี สม อยูในเหล็กมีผลตอ ความแข็งและเปราะของ เหล็กโดยทว่ั ไปโลหะกลุมเหลก็ จะเกิดสนิม และมสี มบตั ิดูดติดกับแมเหล็กได
2.โลหะนอกกลมุ เหล็ก 7 คือโลหะที่ไมม เี หล็กเปน สวน ประกอบดงั นัน้ โลหะชนดิ นไ้ี มเกดิ สนิมและไมด ดู ติดกับแมเหล็ก เชนอะลมู เิ นยี ม ทองแดง สังกะสี ทองเหลือง
8 พลาสติก(plastics) พลาสตกิ คอื วัสดุทีม่ นุษยส รางขึ้น สวนใหญเ ปนผลผลิตทีไ่ ดจากการก ลน่ั นาํ้ มนั ดบิ ปจ จุบันพลาสติกนาํ มาใชสรางสิ่งของเครื่องใชมากมาย และมีบทบาทอยา งยิง่ ตอการดาํ เนิน ชวี ติ ประจําวนั พลาสติกแบงออก ได2 ประเภทคอื
1.เทอรโมพลาสติก 9 คือจะออนตวั และหลอมเลว เมอ่ื ถกู ความรอ นและจะแข็งตัว เม่ือทําใหเยน็ ลงพลาสตกิ ท่แี ขง็ ตวั แลวสามารถนํามา หลอมซํ้าไดดวยความรอ น
2.เทอรโ มเซตตงิ พลาสติก 10 คอื เปน พลาสติกทม่ี ีสมบัติ เปน พิเศษคือทนทานตอการ เปล่ยี นแปลงอณุ หภูมแิ ละทนตอ ปฏิกริยาเคมีไดดี
11 ยาง(rubber) ยางคือวสั ดทุ ี่มีความยดื หยุน ถกู นาํ ไปแปรรูปเพ่อื ใช ประโยชนใ นการสรางสงิ่ ของ เครอ่ื งใชหลายชนิดสามารถ แบงออกเปน2ประเภทคอื
1.ยางธรรมชาติ 13 คอื ผลผลติ ที่ไดจ ากตน ยาง เมอ่ื ยางอยูใ นสภาวะอณุ หภมู ิต่าํ จะแขง็ กระดางเมื่อยางอยใู นสภาพอณุ หภมู ิ สูงจะออนนมิ่ มคี วามยืดหยุนสูง ทนตอ การสกึ หรอแตไมท นตอ ตัว ทาํ ละลายพวกนาํ้ มันปโตเลยี ม
14 2.ยางสงั เคราะห คือยางทไี่ ดจากการสงั เคราะห ทางเคมเี พ่ือเลียนแบบยางทาง ธรรมชาตขิ อ ดีคือสามารถ ปรับปรุงสมบัติตางๆได
อ้างอิง 15 สถาบนั สง่ เสรมิ การ สอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลย,ี \"เทคโนโลย(ี การ ออกแบบและเทคโนโลย)ี \",โรง พมิ พแ์ ห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย,ศูนยห์ นงั สอื แห่ง จุฬาลงกรณว์ ทิ ยาลัย,2561หนา้ 57
16 จดั ทําโดย ด.ญ.แจม่ นภา เรอื งเนตร เลขที20. ชนั ม.2/2 เสนอ คณุ ครู ภัทราวรรณ. อุทธสิ งิ ห์ รายวชิ าการออกแบบและเทคโนโลยี ว22103
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: