การศกึ ษานกั เรยี นรายกรณี ( Case Study ) จดั ทำโดย นางสาวอภชิ ญา พูลสำราญ รหสั ประจำตวั 594188020 หมู่เรยี น 59/4 สาขาวชิ าการประถมศึกษา นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ครู ศนู ย์ฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู : โรงเรียนเทศบาล 2 วัดเสนหา (สมคั รพลผดงุ ) ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐม
คำนำ การศึกษานักเรียนรายกรณี (Case Study) เป็นการศึกษาเกี่ยวกับปัญหาและพฤติกรรมด้านต่าง ๆ ของนักเรียนซ่งึ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกมานนั้ ผสู้ อนได้สงั เกตเหน็ และคำนึงไดว้ ่าอาจจะเปน็ ปญั หาในอนาคตจึง ได้ศกึ ษานักเรยี นรายกรณเี พื่อชว่ ยแกไ้ ขปัญหาใหด้ ยี ่ิงขึน้ ในการศึกษาหาข้อมูลในการศกึ ษานักเรยี นรายกรณี (Case Study) ในครั้งน้ี สำเรจ็ ลุล่วงได้ดี ผู้จัดทำ ขอขอบพระคณุ ครูเขมณฏั ฐ์ โกศลโชตภิ ัทร์ ซงึ่ เป็นครูพเี่ ลยี้ งผู้ท่ีคอยให้คำปรกึ ษาในการจัดทำตลอดมา คุณครู ประจำชนั้ ของ เด็กชายชนะ ใฝ่เรียน (นามสมมต)ิ นักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ทคี่ อยให้ข้อมูลของนักเรียน เสมอมาจนจบการศกึ ษานักเรียนรายกรณี และขอขอบใจเด็กชายชนะ ใฝ่เรยี น (นามสมมติ) ทีใ่ ห้ความร่วมมือ ในการตอบคำถามต่าง ๆ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะมปี ระโยชน์ตอ่ ผูท้ ีป่ ระกอบวิชาชพี ครู เพราะทำให้ทราบ ปัญหาที่เกิดข้ึนกับนักเรยี นและสามารถแกไ้ ขปญั หาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ตรงจุด หรือเป็นประโยชนต์ ่อผู้ทีต่ ้องการ นำไปใชเ้ ปน็ แนวทางในการจดั ทำการศึกษานกั เรยี นรายกรณีต่อไป นางสาวอภชิ ญา พูลสำราญ
การศึกษารายกรณี (Case Study) 1. ชอื่ ของนกั เรียน ระดบั ช้นั ท่ีกำลังศึกษา ช่อื นกั เรยี น เดก็ ชายชนะ ใฝเ่ รยี น (นามสมมติ ) นักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 2. ผู้ศกึ ษา นางสาวอภชิ ญา พลู สำราญ 3. ระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2564 รวมระยะเวลา 2 เดือน 4. สาเหตุของการศกึ ษา นักเรียนมีพฤติกรรมไมส่ นใจเรียน ไม่เข้าร่วมกิจกรรม ในวิชาภาษาไทยเมื่อถึงครั้งที่ตนเองต้องอ่านคำ นักเรียนจะไม่อ่านคำ และหลบหน้าออกจากจอ เมื่อนักเรียนรู้สึกอ่านคำไม่ได้ จะเกิดความงอแง ไม่อยากเข้า เรียน ข้าพเจ้าจึงต้องการศึกษาพฤติกรรมต่าง ๆ ของเด็กนักเรียนคนนี้เพื่อทราบถึงสาเหตุของปัญหาและช่วย แก้ปญั หาพฤตกิ รรมให้ดขี น้ึ กวา่ เดิม 5. เครือ่ งมอื และเทคนิคทใ่ี ช้ในการรวบรวมขอ้ มูล 5.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 5.2 แบบบนั ทึกการสัมภาษณ์ 5.3 ระเบยี นสะสม 6. ข้อมลู ทไ่ี ดจ้ ากการสงั เคราะห์ขอ้ มลู 6.1 ขอ้ มลู ส่วนตัวและครอบครวั ชื่อเด็กชายชนะ ใฝ่เรียน (นามสมมติ ) ชื่อเล่น ชนะ (นามสมมติ) เกิดวันที่ 5 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ปจั จุบันอายุ 7 ปี เชอ้ื ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนาพุทธ มสี ีผิวขาว สะอาด สงู 120 เซนตเิ มตร น้ำหนกั 20 กโิ ลกรมั ปจั จุบันอาศัยอยูก่ ับ บิดา และมารดา (แมเ่ ล้ียง) หากมาโรงเรียนจะไดค้ า่ ใช้จา่ ยมาโรงเรียนวนั ละ 10 บาท ระยะทางจากบา้ นมาถงึ โรงเรียนประมาณ 5 กิโลเมตร เดนิ ทางมาโรงเรยี นโดยรถจกั รยานยนต์ (ผปู้ กครอง รับ-ส่ง) บิดาชื่อ นายมานะ ใฝ่เรียน (นามสมมติ) อายุ 34 ปี มีอาชีพ รับจ้าง รายได้ประมาณ 9,000 บาทต่อ เดือน มารดาชอื่ นางสาวใส่ใจ ใฝเ่ รยี น (นามสมมต)ิ อายุ 34 ปี มีอาชีพ ธรุ กจิ ส่วนตัว (ร้านเสรมิ สวย) รายได้ ประมา 10,000-15,000 บาทตอ่ เดือน มีสมาชกิ ในครอบครวั จำนวน 4 คน คือ พอ่ แม่ ย่า และตนเอง 6.2 ข้อมลู สุขภาพ สขุ ภาพกาย ไม่มโี รคประจำตวั จงึ มสี ขุ ภาพร่างกายท่แี ข็งแรง สขุ ภาพจิต ปกตดิ ี 6.3 ข้อมูลด้านการเรียน ผลการเรียนของเด็กชายชนะ ใฝ่เรียน (นามสมมติ) ในชว่ งเวลาเรียนท่ีผา่ นมา จัดอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง
และเม่ือศกึ ษาจากความเหน็ เพ่ิมเตมิ ของครปู ระจำชัน้ แลว้ พบว่า เด็กชายชนะ ใฝเ่ รยี น (นามสมมติ) มีอุปนิสัยร่า เริง คุยเก่งชอบเลน่ กบั เพอ่ื นตลอดเวลา เลน่ กฬี าสขุ ภาพแขง็ แรงดี 6.4 ข้อมูลดา้ นสงั คม ทางบ้าน เดก็ ชายชนะ ใฝ่เรยี น (นามสมมติ) สนทิ กบั ยา่ มากทสี่ ุด ทางโรงเรยี น (ในขณะท่เี ขา้ รว่ มกจิ กรรมการจัดการเรียนรู้รปู แบบออนไลน์) เด็กชายชนะ ใฝเ่ รยี น (นาม สมมตมิ ีพฤตกิ รรมไม่สนใจเรียน ไมเ่ ข้าร่วมกิจกรรม ในวิชาภาษาไทยเมื่อถึงครั้งที่ตนเองต้องอ่านคำ นักเรียนจะ ไม่อา่ นคำ และหลบหนา้ ออกจากจอ เมื่อนักเรยี นรูส้ ึกอา่ นคำไมไ่ ด้ จะเกดิ ความงอแง ไม่อยากเขา้ เรยี น 6.5 ความสนใจ งานอดิเรกและประสบการณใ์ นด้านตา่ ง ๆ 1. มคี วามสนใจเกี่ยวกับการคิดเลข (คณติ ศาสตร์) และศลิ ปะ 2. งานอดิเรกชอบวาดรปู เล่นเกมออนไลน์ และเล่นกีฬา 6.6 เป้าหมายและความคาดหวงั ในชีวิต 1. อยากเปน็ ตำรวจ 6.7 ความภูมิใจ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินชีวติ ความภาคภูมใิ จ เปน็ เด็กดีของพ่อแม่และคณุ ย่า ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินชีวิต นักเรยี นมปี ญั หาด้านการอา่ น และมกั จะชอบเลน่ เกมออนไลน์ 7. การวิเคราะห์และวนิ ิจฉัยปัญหา เมื่อสังเกตการณ์การเขา้ รว่ มในกจิ กรรมการจัดการเรียนร้แู ละในช่วงกิจกรรมโฮมรูมของเด็กชายชนะ ใฝ่ เรียน (นามสมมติ) พบว่า ในวิชาคณิตศาสตร์นักเรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เมื่อครูถามคำถาม นักเรียนสามารถคดิ เลขและตอบคำถามเก่ยี วกับโจทยค์ ณิตศาสตร์ได้ถูกต้อง แตเ่ มื่อเข้าสกู่ ิจกรรมวิชาภาษาไทย นกั เรียนมกั จะมีพฤตกิ รรมไมส่ นใจเรยี น ไม่เข้าร่วมกจิ กรรม เมื่อถงึ คร้ังที่ตนเองตอ้ งอา่ นคำ นักเรียนจะไม่อ่านคำ และหลบหน้าออกจากจอ เมอ่ื นักเรียนอา่ นคำไมไ่ ด้ จะเกิดความงอแง และไมอ่ ยากเข้าเรียน ดังนน้ั ขา้ พเจ้า (ครฝู กึ สอน) ได้ปรึกษากับครูพี่เล้ยี งซ่งึ เปน็ ครูประจำชัน้ ได้ความเหน็ ว่า เด็กชายชนะ ใฝ่ เรียน (นามสมมติ) อาจจะมีปัญหาทางดา้ นการอา่ น เพราะเมอ่ื ให้นกั เรยี นฝกึ อา่ นสะกดคำด้วยตนเอง นักเรียนจะ ไม่ยอมอ่าน และไมเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม เมื่อครแู จ้งให้อ่านซ้ำหลายครงั้ นกั เรยี นจะเกดิ ความงอแง ซ่ึงอาจจะมเี หตผุ ล มาจากนักเรียนยงั จำรูปพยญั ชนะและสระไม่ได้ และข้าพเจ้า (ครูฝึกสอน) จึงได้โทรศัพทพ์ ูดคยุ กับผู้ปกครอง (คุณแม่) ของเด็กชายชนะ ใฝ่เรียน (นาม สมมติ) ได้ความว่า คุณแม่มีความกังวล เนื่องจากลูกอ่านหนังสือไมอ่ อก พอลูกอ่านไม่ออก ลูกจึงไม่ตั้งใจเรียน และงานไม่ส่ง อนั เปน็ ผลมาจากนกั เรียนทำงานไมไ่ ด้ แตค่ ณุ แม่พยายามซือ้ สมุดฝกึ คัดลายมือมาใหน้ กั เรียนได้ฝึก เขียนฝึกอ่าน และคุณแม่จงึ อยากจะปรกึ ษากบั ครู เพื่อหาวธิ กี ารชว่ ยพัฒนานักเรยี น 8. การช่วยเหลอื ส่งเสริมและพฒั นา ขา้ พเจา้ (ครฝู กึ สอน) ผ้ศู กึ ษาสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียน พบว่า นกั เรียนมหี วั ค่อนข้างไว เรียนรไู้ ด้เรว็ ผู้ศึกษาจึงได้ค้นหาสิ่งที่นักเรียนชื่นชอบและความถนัดของนักเรียน พบว่า นักเรียนชอบการวาดภาพ เม่ือ นักเรียนได้วาดภาพนักเรียนมีความจดจ่อและมีความตั้งใจในการวาดภาพ ดังนั้นผู้ศึกษาจึงคิดหาวิธีในการ ช่วยเหลือนักเรียนโดยนำขอ้ มูลที่ได้จากการสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียน การโทรศัพท์พูดคุยกับผู้ปกครอง มา
พูดคุยปรึกษากับครูพี่เลี้ยงซึ่งเป็นครูประจำชั้น เพื่อหาแนวทางช่วยพัฒนานักเรียน จากการปรึกษาครัง้ นี้ สรุป ความได้ดังนี้ สาเหตุของปัญหา - นักเรียนอาจจะยงั จำรปู และการอา่ นเสียงของพยญั ชนะและสระไมไ่ ด้ - การที่คุณแม่จัดหาฝึกคัดลายมือมาให้นักเรียนได้ฝึกเขียนฝึกอ่านถือเป็นแนวทางที่ดี แต่การที่จะให้ นกั เรียนจำรปู และการอ่านเสียงของพยญั ชนะและสระได้นั้น คณุ แม่จะตอ้ งมเี วลาสอนให้นกั เรยี นได้ฝึกอ่านเสียง ของพยญั ชนะและสระควบคไู่ ปดว้ ย แนวทางการชว่ ยเหลอื ข้ันท่ี 1 รจู้ ักรปู และการออกเสียงของพยัญชนะ - ข้าพเจ้า (ครูฝึกสอน) และครูพี่เลี้ยงซึ่งเป็นครูประจำช้ัน ร่วมกันปูพื้นฐานให้แก่นักเรียน โดยเริ่มจาก รู้จักรูปพยัญชนะและการอ่านเสียงพยัญชนะ ซึ่งให้นักเรียนดูรูปการเขียนพยญั ชนะ พร้อมทั้งฝึกอ่านออกเสียง ตาม - เมื่อนกั เรยี นรจู้ กั รูปพยญั ชนะและการอา่ นเสียงพยญั ชนะแลว้ จงึ ใหน้ กั เรยี นฝึกเขียนรปู พยญั ชนะ และ ออกเสียงพยญั ชนะไปพร้อม ๆ กัน เพอ่ื ฝกึ การจำรูปพยญั ชนะและการอ่านเสยี งพยัญชนะ รวมทั้งฝึกคัดลายมือ ไปดว้ ยกัน ข้ันที่ 2 รจู้ ักรูปและการออกเสยี งของสระ - หลังจากเริ่มบทเรียนรู้จักรูปสระและการอ่านเสียงสระ ซึ่งให้นักเรียนดูรูปการเขยี นสระ พร้อมทั้งฝึก อ่านออกเสียงตาม - เมื่อนักเรยี นรู้จักรูปสระและการอา่ นเสียงสระแลว้ จงึ ใหน้ ักเรยี นฝกึ เขยี นรปู สระ และออกเสยี งสระไป พร้อม ๆ กนั เพื่อฝึกการจำรูปสระและการอ่านเสียงสระ รวมทั้งฝกึ คัดลายมอื ไปด้วยกัน ข้นั ที่ 3 หนนู ้อยประสมคำ - หากนักเรียนเกิดความแม่นยำในพยัญชนะและสระแล้ว ข้าพเจ้า (ครูฝึกสอน) และครูพี่เลี้ยง จะเร่ิม สอนฝึกใหน้ กั เรียนประสมคำ โดยเรม่ิ จากการประสมคำแบบไม่มีตวั สะกดกอ่ น - เมื่อนักเรียนสามารถประสมคำแบบไม่มีตัวสะกดได้แม่นยำแล้ว ข้าพเจ้า (ครูฝึกสอน) และครูพี่เลี้ยง จะสอนให้นักเรียนฝึกประสมคำแบบมตี ัวสะกด โดยในทุก ๆ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้นี้ นักเรียนจะได้ฝึกอ่าน ฝึกเขียน และนักเรียนจะได้วาด ภาพประกอบที่ตนเองชื่นชอบหลังจากท่ีทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพอ่ื ให้นักเรียนเกดิ ความผอ่ นคลายหลังจากท่ี เรียนและได้แสดงความสามารถในการวาดรูป ซ่งึ ในการสอนทุกครงั้ โดยครจู ะเน้นยำ้ ซ้ำทวนหลาย ๆ ครงั้ เพื่อให้ เกิดความชำนาญและให้นกั เรียนมที ักษะการอ่านและการเขียนคำที่ดีขึ้น 9.การติดตามผล ผู้ศึกษาติดตามผลของการช่วยเหลือนักเรียน โดยเข้าร่วมกิจกรรมโฮมรูมกับนักเรียนทุกครั้ง เพื่อสอน และฝึกนกั เรยี นร่วมกับครูพีเ่ ลี้ยงตามแผนการช่วยเหลอื ข้างต้น ซึ่งตลอดเวลาของการศกึ ษาพบว่า เด็กชายชนะ ใฝเ่ รียน (นามสมมต)ิ มีทักษะการอา่ นที่ดีขึ้น สามารถอา่ นสะกดคำได้ แต่บางคำอาจใช้เวลานาน และเมือ่ เด็กชาย ชนะ ใฝ่เรยี น (นามสมมติ) อา่ นสะกดคำไดถ้ ูกต้อง ครูจะชน่ื ชมนกั เรยี น ทำใหน้ กั เรยี นมีความมั่นใจมากข้ัน กล้า แสดงออกและกล้าเขา้ ร่วมกจิ กรรมในช้ันเรียนมากข้ึน
10.ขอ้ เสนอแนะ 1. ครูผู้สอนคอยให้กำลังและสนบั สนุนความสามารถของนักเรียนในด้านต่าง ๆ ที่นักเรียนถนัดและช่นื ชอบ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นได้พัฒนาความสามารถของตนเองใหไ้ ดด้ ีท่สี ดุ 2. ทกั ษะการอา่ นเขยี น เปน็ ทกั ษะท่ีสำคญั ต้องอาศัยหลักการเนน้ ย้ำซำ้ ทวน โดยครผู ู้สอนจะต้องเริ่มปู พืน้ ฐานจากการจำรปู และการออกเสียงของพยัญชนะและสระใหแ้ มน่ ยำ 3. เนื่องในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเชือ้ ไวรสั โควิด 19 ที่เป็นอุปสรรคต่อการเรยี นรูน้ ี้ อาจทำให้ การจดั การเรยี นร้ใู นชั้นเรียนมีขอ้ จำจัดหลาย ๆ อยา่ ง จงึ ตอ้ งขอความร่วมมอื กบั ผูป้ กครองในการดูแลเอาใจใส่ต่อ การเรยี นของนักเรยี นเปน็ อย่างมาก เพือ่ ที่จะไดพ้ ัฒนานกั เรยี นใหไ้ ดเ้ รียนรู้ไปในทศิ ทางทด่ี ีย่ิงขึ้น
ภาคผนวก
สรุปข้อมูลทไ่ี ด้จากการรวบรวมดว้ ยเคร่อื งมอื ตา่ ง ๆ ระเบยี นสะสม จากการศกึ ษาขอ้ มูลจากระเบยี นสะสม สรุปข้อมูลได้ ดงั น้ี ขอ้ มลู สว่ นตัว เดก็ ชายชนะ ใฝเ่ รียน (นามสมมติ ) ชื่อเล่น ชนะ (นามสมมติ) เกิดวันที่ 5 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ.2557 ปัจจุบันอายุ 7 ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนาพุทธ มีสีผิวขาว สะอาด สูง 120 เซนติเมตร น้ำหนกั 20 กิโลกรมั ปจั จุบนั อาศัยอยู่กับ บิดา และมารดา (แม่เลย้ี ง) อยู่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ 3 ตำบลนครปฐม อำเภอเมือง นครปฐม จังหวัดนครปฐม ระยะทางจากบ้านมาถึงโรงเรียนประมาณ 5 กิโลเมตร เดินทางมาโรงเรียนโดยรถจักรยานยนต์ (ผูป้ กครองรบั -สง่ ) หากมาโรงเรียนจะไดค้ ่าใช้จ่ายมาโรงเรยี นวนั ละ 10 บาท ข้อมูลครอบครัว บิดาชอ่ื นายมานะ ใฝ่เรียน (นามสมมต)ิ อายุ 34 ปี มีอาชพี รบั จ้าง รายได้ประมาณ 9,000 บาทต่อ เดอื น มารดาช่อื นางสาวใสใ่ จ ใฝ่เรียน (นามสมมต)ิ อายุ 34 ปี มอี าชีพ ธุรกิจสว่ นตวั (รา้ นเสริมสวย) รายได้ ประมา 10,000 - 15,000 บาทตอ่ เดอื น สมาชิกในครอบครวั มีสมาชกิ จำนวน 4 คน คอื พอ่ แม่ ย่า และตนเอง บคุ คลท่นี ักเรยี นสนิทและไวใ้ นมากทสี่ ุด คือ คุณย่า ขอ้ มลู สขุ ภาพ - ไมม่ โี รคประจำตวั จงึ มสี ุขภาพร่างกายท่ีแขง็ แรง สุขภาพจติ - ปกตดิ ี ขอ้ มลู ดา้ นการเรียน อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง การสงั เกตและการบันทึกการสังเกต - จากการสงั เกตเด็กชายชนะ ใฝ่เรียน (นามสมมต)ิ ในการเขา้ ร่วมกิจกรรมการจัดการเรียนรู้และในช่วง กจิ กรรมโฮมรูมของเดก็ ชายชนะ ใฝเ่ รียน (นามสมมติ) พบวา่ ในวชิ าคณิตศาสตร์นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมอย่าง สม่ำเสมอ เมอ่ื ครูถามคำถาม นักเรียนสามารถคิดเลขและตอบคำถามเก่ยี วกับโจทย์คณิตศาสตร์ไดถ้ ูกต้อง แตเ่ มอื่ เขา้ สกู่ จิ กรรมวชิ าภาษาไทย นกั เรียนมักจะมีพฤตกิ รรมไมส่ นใจเรยี น ไม่เข้ารว่ มกจิ กรรม เม่ือถึงครั้งที่ตนเองต้อง อ่านคำ นักเรยี นจะไมอ่ า่ นคำ และหลบหน้าออกจากจอ เมือ่ นักเรียนอ่านคำไมไ่ ด้ จะเกดิ ความงอแง และไม่อยาก เขา้ เรียน การสมั ภาษณ์และการบันทึกการสัมภาษณ์ -จากการสัมภาษณ์นักเรียนทำให้ทราบว่า นักเรียนไมช่ อบเรียนวิชาภาษาไทย เพราะนักเรียนสะกดคำ ไม่ได้และครูชอบให้อ่านคำ และวิชาที่นักเรียนชื่นชอบได้แก่วิชาคณิตศาสตร์และวิชาศิลปะ เพราะในวิชา คณิตศาสตร์จะมีเกมใหเ้ ลน่ อีกท้ังเปน็ เดก็ ทช่ี อบคิดเลข และชอบวาดรปู -จากการสัมภาษณ์ผู้ปกครอง นักเรียนอยู่บ้านช่วยพ่อแม่ทำงานบา้ นเป็นครั้งคราว และคุณแม่มีความ กงั วล เนื่องจากลูกอ่านหนังสือไม่ออก ลกู ไมต่ ้ังใจเรียน และไมท่ ำงานส่ง คณุ แมจ่ งึ พยายามซอื้ สมุดฝึกคัดลายมือ มาใหน้ กั เรยี นได้ฝกึ เขียนฝึกอา่ น และคณุ แมจ่ งึ อยากจะปรกึ ษากบั ครู เพือ่ หาวธิ กี ารชว่ ยพัฒนานักเรียน
- จากการสมั ภาษณ์ครูการแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ของนักเรยี นไดค้ วามเหน็ ว่า เดก็ ชายชนะ ใฝเ่ รยี น (นามสมมติ) อาจจะมปี ญั หาทางด้านการอ่าน เพราะเมือ่ ใหน้ กั เรยี นฝกึ อา่ นสะกดคำดว้ ยตนเอง นกั เรยี นจะไม่ ยอมอ่าน และไม่เขา้ ร่วมกิจกรรม เมือ่ ครูแจง้ ให้อ่านซ้ำหลายครงั้ นกั เรียนจะเกิดความงอแง ซึง่ อาจจะมีเหตุผล มาจากนักเรยี นยังจำรูปพยญั ชนะและสระไมไ่ ด้
แบบบันทกึ การสงั เกตพฤติกรรมตรง ครั้งท่ี 1 ชือ่ นกั เรียน เด็กชายกานต์กวินทร์ ภูแ่ กว้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 วันที่ 27 เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19.00 – 20.00 น. สถานที่ แอปพลิเคชน่ั Line meet ของชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1/3 สถานการณท์ ี่สังเกต สังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมโฮมรูม (โดยกจิ กรรมการโฮมรูมน้ี จะเปน็ การสอน ทบทวนวิชาภาษาไทย ด้านการอ่านคำ การเขียนคำตามคำบอก และทบทวนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนและ การบวกเลข เปน็ ต้น และสาเหตุที่ตอ้ งโฮมรูมในเวลา 19.00 – 20.00 น. เนอื่ งจากผู้ปกครองส่วนใหญ่สะดวกใน ชว่ งเวลาน้ี เพราะเปน็ ช่วงทเี่ ลกิ จากการทำงาน) ขอ้ ความทบ่ี นั ทึกจากการสังเกต จากการสงั เกตนักเรยี นในรายวิชาคณิตศาสตร์ พบว่า นกั เรียนมสี ่วนร่วมกจิ กรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ เม่ือครู ถามคำถาม นกั เรยี นสามารถคิดเลขและตอบคำถามเกี่ยวกับโจทย์คณิตศาสตรไ์ ด้ถูกตอ้ ง และเม่ือเข้าสู่กิจกรรม วิชาภาษาไทย นักเรียนมักจะมีพฤติกรรมไม่สนใจเรียน ไม่เข้าร่วมกิจกรรม เมื่อถึงครั้งที่ตนเองต้องอ่านคำ นักเรยี นจะไม่อ่านคำ และหลบหนา้ ออกจากจอ สรุปข้อคดิ เหน็ จากการสังเกต นักเรียนอาจจะมปี ัญหาด้านการอ่าน หรอื อาจจะไม่กลา้ แสดงออก ลงช่ือ ผู้สงั เกต (นางสาวอภชิ ญา พูลสำราญ)
แบบบนั ทึกการสงั เกตพฤติกรรมตรง คร้ังท่ี 2 ชอ่ื นักเรยี น เดก็ ชายกานต์กวินทร์ ภู่แก้ว ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 วันที่ 29 เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19.00 – 20.00 น. สถานที่ แอปพลิเคช่นั Line meet ของช้ันประถมศึกษาปีที่ 1/3 สถานการณท์ ีส่ ังเกต สงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมโฮมรมู (โดยกจิ กรรมการโฮมรูมน้ี จะเปน็ การสอน ทบทวนวิชาภาษาไทย ด้านการอ่านคำ การเขียนคำตามคำบอก และทบทวนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนและ การบวกเลข เป็นต้น และสาเหตุท่ตี ้องโฮมรูมในเวลา 19.00 – 20.00 น. เนอื่ งจากผ้ปู กครองสว่ นใหญ่สะดวกใน ช่วงเวลานี้ เพราะเปน็ ชว่ งที่เลกิ จากการทำงาน) ขอ้ ความท่ีบนั ทึกจากการสังเกต จากการสังเกตนักเรียนในรายวิชาคณิตศาสตร์ พบว่า นักเรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เมื่อ เข้าสู่กิจกรรมเกมคณิตคิดเร็ว นักเรียนสามารถคิดเลขและตอบคำถามเกี่ยวกับโจทย์คณิตศาสตรไ์ ด้ถูกต้อง แต่ เมื่อเข้าสูก่ ิจกรรมวิชาภาษาไทย นักเรียนมกั จะมีพฤติกรรมไม่สนใจเรียน ไม่เข้าร่วมกิจกรรม งอแง และไม่ยอม เขียนตามคำบอก จึงทำให้โดนผ้ปู กครองดอุ ยบู่ ่อยคร้งั สรุปข้อคิดเหน็ จากการสงั เกต นักเรียนอาจจะมีปัญหาดา้ นการอ่าน เพราะเมอ่ื ถงึ กิจกรรมภาษาไทยนักเรยี นจะไมส่ นใจเรยี น เมอ่ื ครูให้ อ่านตามนักเรียนจะไม่กล้าอา่ นออกเสยี ง และชว่ งเขยี นตามคำบอกนกั เรียนจะงอแง ไมอ่ ยากเข้าเรียน ลงชือ่ ผสู้ งั เกต (นางสาวอภิชญา พูลสำราญ)
แบบบนั ทึกการสังเกตพฤติกรรมตรง ครงั้ ท่ี 3 ชือ่ นักเรยี น เดก็ ชายกานตก์ วินทร์ ภแู่ กว้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 วนั ที่ 3 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19.00 – 20.00 น. สถานท่ี แอปพลเิ คช่นั Line meet ของชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1/3 สถานการณท์ ่สี งั เกต สงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมโฮมรูม (โดยกจิ กรรมการโฮมรมู น้ี จะเปน็ การสอน ทบทวนวิชาภาษาไทย ด้านการอ่านคำ การเขียนคำตามคำบอก และทบทวนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนและ การบวกเลข เป็นต้น และสาเหตทุ ตี่ ้องโฮมรูมในเวลา 19.00 – 20.00 น. เน่ืองจากผู้ปกครองส่วนใหญ่สะดวกใน ช่วงเวลานี้ เพราะเป็นช่วงที่เลกิ จากการทำงาน) ข้อความทบ่ี นั ทึกจากการสังเกต ในสัปดานี้กิจกรรมการโฮมรูมทบทวนความรู้จะเริม่ จากวิชาภาษาไทยก่อน จากการสังเกตนักเรียนใน รายวชิ าภาษาไทย พบวา่ นกั เรยี นมีพฤติกรรมไมส่ นใจเรียน ไม่อ่านตามครู หรอื ถ้าอา่ นจะออกเสยี งเบา และเกิด ความงอแง จงึ ทำให้โดนผู้ปกครองดุอยู่บอ่ ยครง้ั และเมอื่ ถึงวชิ าคณติ ศาสตร์ นกั เรยี นเริ่มสนใจเรียน ตอบคำถาม ครู แต่ไม่ค่อยมคี วามมนั่ ใจ สรปุ ข้อคิดเหน็ จากการสงั เกต นักเรียนมีปัญหาดา้ นการอ่าน เพราะเมื่อถึงกิจกรรมภาษาไทยนักเรียนจะไม่สนใจเรยี น เมื่อครูให้อ่าน ตามนักเรียนจะไม่กล้าอ่านออกเสียง และไม่ร่วมกิจกรรมเขียนตามคำบอก จึงทำให้ผู้ศึกษานำข้อมูลการสังกต พฤตกิ รรมน้ีมาปรกึ ษากับครพู ี่เล้ียงซึ่งเป็นครูประจำช้นั เพอื่ หาสาเหตแุ ละหาแนวทางพัฒนานกั เรยี น เปน็ ตน้ ลงช่ือ ผสู้ งั เกต (นางสาวอภิชญา พูลสำราญ)
แบบบันทึกการสงั เกตพฤติกรรมตรง ครั้งท่ี 4 ช่อื นกั เรยี น เด็กชายกานตก์ วนิ ทร์ ภแู่ กว้ ชั้น ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 วันที่ 5 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.00 – 20.30 น. สถานที่ แอปพลเิ คช่ัน Line meet ของช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1/3 สถานการณท์ สี่ ังเกต สงั เกตพฤตกิ รรมหลงั การเข้ารว่ มกิจกรรมโฮมรูม ขอ้ ความที่บันทกึ จากการสังเกต หลังจากจบกจิ กรรมโฮมรมู ของนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1/3 ผูส้ ังเกตและครพู ี่เลี้ยงได้พูดคุยกับคุณ แมแ่ ละเด็กชายชนะ ใฝเ่ รยี น (นามสมมุต)ิ เป็นการส่วนตวั ในด้านของปญั หาที่เกดิ ข้ึนกบั นักเรยี นในขณะเข้าร่วม กิจกรรมโฮมรูม เพื่อชี้แจงพฤติกรรมของนักเรียน และร่วมกันวางแนวทางพัฒนานักเรียน โดยครูจะเริ่มสอน พน้ื ฐานของการอ่านและการเขียนให้กบั นักเรยี นเปน็ รายกรณี เพื่อให้นกั เรียนมีทักษะการอ่านและการเขียนที่ดี ขนึ้ และขอความร่วมมอื กับผูป้ กครองในการดูแลเอาใจใส่ในการเรยี นของนกั เรียน เป็นตน้ สรุปขอ้ คิดเหน็ จากการสงั เกต ผู้ปกครองรับทราบพฤติกรรมของนักเรียน และร่วมฟังแนวทางพัฒนานักเรียน โดยครูจะเริ่มสอน พื้นฐานของการอ่านและการเขียนให้กับนักเรียนเปน็ รายกรณี ซึ่งผู้ปกครองอนญุ าตและให้ความร่วมมือ เพื่อให้ นักเรียนมีทักษะการอา่ นและการเขียนท่ีดีขึน้ และขอความรว่ มมือกับผู้ปกครองในการดูแลเอาใจใส่ในการเรียน ของนักเรยี น ลงชือ่ ผู้สังเกต (นางสาวอภชิ ญา พูลสำราญ)
แบบบันทกึ การสงั เกตพฤติกรรมตรง ครัง้ ที่ 5 ชื่อนักเรยี น เดก็ ชายกานตก์ วนิ ทร์ ภู่แกว้ ช้ัน ประถมศึกษาปที ี่ 1 วนั ที่ 13 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.00 – 20.30 น. สถานที่ แอปพลเิ คช่ัน Line meet ของช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1/3 สถานการณ์ท่ีสงั เกต สงั เกตพฤติกรรมหลงั การเขา้ ร่วมกจิ กรรมโฮมรมู ขอ้ ความที่บันทึกจากการสังเกต หลกั จากที่นกั เรยี นได้เรมิ่ เรียนปพู ื้นฐานตามแนวทางชว่ ยเหลือพฒั นาท่ีครูได้วางไว้แลว้ น้ัน นักเรียนเร่ิม จำรูปพยญั ชนะและการอ่านออกเสียงของพยญั ชนะได้แม่นยำมากขนึ้ เมือ่ นักเรยี นจำพยัญชนะได้ และครูช่ืนชม นกั เรยี นจงึ กล้าแสดงออกในการตอบคำถาม การอา่ น และการเขยี นพยญั ชนะไดม้ ากขึน้ สรุปขอ้ คิดเห็นจากการสงั เกต นักเรียนเริ่มจำรูปพยัญชนะและการอ่านออกเสียงของพยัญชนะไดแ้ ม่นยำมากขึน้ และกล้าเขียน กล้า อ่านออกเสยี งพยญั ชนะไดม้ ากข้นึ ลงช่ือ ผู้สงั เกต (นางสาวอภชิ ญา พูลสำราญ)
แบบบนั ทึกการสงั เกตพฤติกรรมตรง ครง้ั ที่ 6 ช่อื นักเรยี น เด็กชายกานต์กวินทร์ ภแู่ กว้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 วนั ที่ 28 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.00 – 20.30 น. สถานท่ี แอปพลเิ คชัน่ Line meet ของชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1/3 สถานการณ์ทส่ี ังเกต สงั เกตพฤติกรรมหลงั การเขา้ รว่ มกจิ กรรมโฮมรูม ขอ้ ความที่บนั ทกึ จากการสงั เกต หลักจากที่นักเรียนได้เริ่มเรียนเร่ืองรูปและการออกเสียงสระ นักเรียนสามารถจำรูปสระและการอ่าน ออกเสียงของสระได้แม่นยำมากขึ้น เมื่อนักเรียนสระได้ และครูชื่นชมนักเรียนจึงกล้าแสดงออกในการตอบ คำถาม การอา่ น และการเขียนสระไดม้ ากขน้ึ สรุปขอ้ คิดเหน็ จากการสงั เกต นักเรียนจำรูปสระและการอ่านออกเสียงของสระได้แม่นยำมากขึ้น และกล้าเขียน กล้าอ่านออกเสียง สระไดม้ ากขึ้น ลงช่ือ ผูส้ ังเกต (นางสาวอภิชญา พูลสำราญ)
แบบบนั ทึกการสังเกตพฤติกรรมตรง คร้ังท่ี 7 ชือ่ นักเรียน เด็กชายกานตก์ วนิ ทร์ ภูแ่ ก้ว ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 วันท่ี 2 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 20.00 – 20.30 น. สถานท่ี แอปพลเิ คชั่น Line meet ของชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1/3 สถานการณท์ ี่สงั เกต สังเกตพฤตกิ รรมหลงั การเข้ารว่ มกิจกรรมโฮมรมู ข้อความที่บันทกึ จากการสังเกต นักเรียนได้เริ่มเรียนเรื่องการฝึกประสมคำแบบไม่มีตัวสะกด นักเรียนสามารถเริ่มอ่านสะกดคำได้ แต่ บางคำต้องใช้เวลานาน เพราะนักเรียนไม่ค่อยมีความมั่นใจ แต่เมื่อนกั เรียนสะกดถู ครูพูดชื่นชม ทำให้นักเรียน เรม่ิ มคี วามมั่นใจ และอา่ นออกเสียงไดด้ งั ข้นึ สรุปข้อคดิ เห็นจากการสงั เกต นักเรียนสามารถเร่ิมอา่ นสะกดคำได้ แตบ่ างคำต้องใช้เวลานาน เพราะนักเรียนไมค่ อ่ ยมคี วามมนั่ ใจ ลงช่อื ผ้สู งั เกต (นางสาวอภชิ ญา พูลสำราญ)
แบบบันทกึ การสังเกตพฤตกิ รรมตรง ครงั้ ท่ี 8 ช่ือนักเรียน เดก็ ชายกานต์กวนิ ทร์ ภแู่ กว้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 วันท่ี 10 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 20.00 – 20.30 น. สถานท่ี แอปพลิเคชนั่ Line meet ของชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1/3 สถานการณท์ ่ีสังเกต สังเกตพฤตกิ รรมหลงั การเข้าร่วมกจิ กรรมโฮมรูม ข้อความทบ่ี ันทกึ จากการสงั เกต นักเรียนสามารถเริ่มอ่านสะกดคำได้ และนักเรียนความมั่นใจในการอ่านคำมากขึ้น นอกจากนี้ใน กจิ กรรมโฮมรูม ช่วงเวลาเขยี นตามคำบอก นักเรยี นสามารถเขียนคำได้ถูกตอ้ ง 8 คำ จากคำทง้ั หมด 10 คำ สรปุ ขอ้ คดิ เหน็ จากการสงั เกต นักเรียนสามารถเริ่มอ่านสะกดคำได้ และนักเรียนความมั่นใจในการอ่านคำมากขึ้น และเขียนคำได้ ถูกตอ้ งตามเปา้ หมายท่นี ักเรยี นได้วางไว้ . ลงช่ือ ผูส้ ังเกต (นางสาวอภิชญา พูลสำราญ)
แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤตกิ รรมตรง คร้งั ท่ี 9 ชื่อนกั เรียน เด็กชายกานต์กวินทร์ ภู่แก้ว ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 วันท่ี 20 เดือน กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 20.00 – 20.30 น. สถานท่ี แอปพลเิ คชั่น Line meet ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 สถานการณท์ ี่สงั เกต สงั เกตพฤติกรรมหลงั การเขา้ รว่ มกจิ กรรมโฮมรมู ขอ้ ความทบี่ ันทกึ จากการสังเกต นักเรยี นสามารถเริม่ อา่ นสะกดคำแบบมีตัวสะกดได้ดีขน้ึ และนักเรียนความม่ันใจในการอ่านคำมากขึ้น นอกจากนี้ในกิจกรรมโฮมรูม วิชาภาษาไทยและวิชาคณิตสาสตร์ นักเรียนมีการเข้าร่วมกิจกรรมอย่างสมำเสอ และร่วมกจิ กรรมการอา่ นและเขียนกบั เพือ่ น ๆ ในช้ันเรยี นมากขึ้น . สรปุ ข้อคดิ เห็นจากการสังเกต นักเรียนสามารถเริ่มอ่านสะกดคำได้ และนักเรียนความมั่นใจในการอ่านคำมากขึ้น และมีส่วนร่วมใน การเข้าร่วมกจิ กรรมโฮมรมู มากยิ่งขึ้น . ลงช่อื ผู้สังเกต (นางสาวอภิชญา พูลสำราญ)
แบบบนั ทึกการสมั ภาษณ์ (ผปู้ กครอง) ครัง้ ท่ี 1 วนั ทส่ี ัมภาษณ์ 29 กรกฎาคม 2564 สถานท่ี ผา่ นแอปพลเิ คช่นั Line และ พูดคุยทางโทรศัพท์ ชอื่ ผูท้ รี่ ับการสัมภาษณ์ เดก็ ชายกานต์กวินทร์ ภแู่ ก้ว จดุ ม่งุ หมายในการสมั ภาษณ์ 1.เพอ่ื ใหท้ ราบถงึ ทัศนคตทิ ีม่ ีตอ่ การเรียน 2.เพ่ือใหท้ ราบถึงทัศนคติท่ีมีตอ่ ครู 3.เพื่อใหท้ ราบถึงพฤตกิ รรมนักเรียนขณะอย่บู ้านและขณะที่เข้ารว่ มกจิ กรรมโฮมรมู ขอ้ มูลในการสัมภาษณ์ จากการสมั ภาษณผ์ ปู้ กครองทำให้ทราบวา่ นักเรยี นอย่บู ้านช่วยพอ่ แม่ทำงานบา้ นเป็นครงั้ คราว และคณุ แม่มคี วามกังวล เนอื่ งจากลกู อา่ นหนงั สือไม่ออก ลูกไม่ตง้ั ใจเรียน และไมท่ ำงานสง่ คณุ แม่จงึ พยายามซือ้ สมุดฝึก คัดลายมือมาให้นักเรียนได้ฝึกเขยี นฝึกอา่ น และคุณแมจ่ ึงอยากจะปรึกษากับครู เพ่ือหาวธิ กี ารชว่ ยพัฒนา นกั เรียน ขอ้ คิดเห็นจากการสัมภาษณ์ การทน่ี กั เรยี นไม่ชอบเรียนวิชาภาษาไทย อาจจะมีสาเหตุมาจากนกั เรียนอ่านไม่ออก และจำพยญั ชนะ และสระไม่ได้ เมอ่ื เวลาครูเรียกอา่ นคำ จงึ ทำให้นกั เรยี นไม่อยากเข้าเรียน และไม่อยากเข้าร่วมกจิ กรรม จึง จำเปน็ ต้องหาแนวทางช่วยเหลือในการพฒั นานักเรยี นในด้านการอา่ น การเขยี น และการกระตอื รอื รอนในหาร เข้ารว่ มกจิ กรรมโฮมรูม เปน็ ต้น . ลงชอ่ื ผสู้ ัมภาษณ์ (นางสาวอภิชญา พลู สำราญ)
แบบบันทึกการสัมภาษณ์ครปู ระจำชัน้ /ประจำวิชา การสมั ภาษณ์คร้ังที่ 1 ช่ือ/สกุลผู้ให้สัมภาษณ์ คุณครูเขมนัฏฐ์ โกศลโชติภทั ร์ ตำแหน่ง ครู (คศ. 1) โรงเรียน โรงเรียนเทศบาล 2 วดั เสนหา (สมัครพลผดงุ ) ครูประจำช้นั /ประจำวิชา ครปู ระจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 วันท่ี 4 เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09.30 – 12.00 น. สถานท่ี ห้องประจำช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 จุดมุง่ หมายในการสมั ภาษณ์ 1.เพอื่ จะได้ทราบพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะเข้าร่วมกิจกรรมโฮมรมู ของนกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 2.เพือ่ จะไดท้ ราบแนวทางชว่ ยเหลอื ในการพัฒนานกั เรยี นด้านการอา่ น . สรปุ ผลจากการสัมภาษณ์ การแสดงพฤติกรรมต่างๆของนักเรียนในเขา้ ร่วมกจิ กรรมโฮมรูมไดค้ วามเห็นวา่ เด็กชายชนะ ใฝเ่ รียน (นามสมมติ) อาจจะมปี ัญหาทางด้านการอ่าน เพราะเม่อื ใหน้ กั เรียนฝกึ อา่ นสะกดคำดว้ ยตนเอง นักเรียนจะไม่ ยอมอ่าน และไม่เขา้ รว่ มกจิ กรรม เมือ่ ครแู จง้ ใหอ้ า่ นซ้ำหลายครง้ั นกั เรียนจะเกิดความงอแง ซ่งึ อาจจะมีเหตผุ ล มาจากนกั เรยี นยงั จำรปู พยญั ชนะและสระไมไ่ ด้ ความคดิ เห็น จากการศึกษาพฤตกิ รรมและการรวบรวมข้อมลู ทไี่ ด้จากการสมั ภาษณ์ สามารถสรุปไดว้ ่า สาเหตุของ ปัญหาท่นี ักเรยี นไมช่ อบเข้ารว่ มกิจกรรมโฮมรฒู ในวชิ าภาษาไทย อาจะมเี หตมุ าจากนักเรยี นยงั จำรปู และการอ่าน เสยี งของพยัญชนะและสระไมไ่ ด้ จงึ ทำใหไ้ มส่ ามารถอ่านสะกดคำได้ และเม่อื อา่ นไม่ได้ จงึ ไม่มคี วามมนั่ ใจ และ ไมอ่ ยากเขา้ ร่วมกจิ กรรมการโฮมรูมในวชิ าภาษาไทย ดงั นนั้ แนวทางแกไ้ ขปญั หาคือ เร่มิ ปพู ้ืนฐานดา้ นการอา่ น และการเขยี นให้แกน่ กั เรียน แลว้ จงึ ค่อย ๆ ฝึก อ่านเขยี นประสมคำ และต้องขอความร่วมมอื กับผูป้ กครองในการ ดูแลเอาใจใส่ในการฝึกอา่ นของนกั เรียน ข้อเสนอแนะ การพฒั นาดา้ นการอา่ นและเขยี นของนกั เรยี น อาจจะตอ้ งใชเ้ วลานาน โดยครจู ะตอ้ งหม่ันเนน้ ยำ้ ซำ้ ทวน คำอย่างสมำ่ เสมอ และตอ้ งให้กำลงั ใจ หรือ คำชมแกน่ กั เรียน เมอื่ นกั เรยี นทำถูก ทำได้ อเพอ่ื ใหน้ ักเรียนเกิด ความมั่นใจในการอา่ นและเขยี นคำได้มากข้นึ . นดั สัมภาษณ์คร้ังตอ่ ไปวนั ที่ - เวลา - สถานท่ี - . ลงชอ่ื ผสู้ มั ภาษณ์ (นางสาวอภชิ ญา พูลสำราญ)
แบบบนั ทึกการสมั ภาษณ์ (นกั เรยี น) คร้ังที่ 1 วันท่ีสัมภาษณ์ 5 สิงหาคม 2564 สถานที่ สังเกตพฤติกรรมหลงั การเข้าร่วม กิจกรรมโฮมรมู ผา่ นแอปพลเิ คช่นั Line ชื่อผทู้ ีร่ ับการสัมภาษณ์ เดก็ ชายกานต์กวินทร์ ภแู่ กว้ จดุ มุ่งหมายในการสัมภาษณ์ 1.เพอ่ื ใหท้ ราบถงึ ทัศนคตทิ มี่ ีตอ่ การเรยี น 2.เพอ่ื ใหท้ ราบถึงทัศนคตทิ ่มี ีตอ่ ครู 3.เพ่อื ใหท้ ราบถงึ ทัศนคตทิ มี่ ีตอ่ เพอื่ นร่วมชนั้ เรียน ข้อมลู ในการสัมภาษณ์ จากการสัมภาษณน์ ักเรยี นทำให้ทราบวา่ นักเรียนไม่ชอบเรยี นวิชาภาษาไทย เพราะนักเรียนสะกดคำ ไมไ่ ด้และครูชอบใหอ้ ่านคำ และวชิ าทีน่ ักเรยี นช่นื ชอบไดแ้ กว่ ิชาคณิตศาสตรแ์ ละวชิ าศิลปะ เพราะในวชิ า คณติ ศาสตร์จะมีเกมให้เลน่ อกี ทงั้ เปน็ เดก็ ทชี่ อบคิดเลข และชอบวาดรูป ข้อคดิ เหน็ จากการสัมภาษณ์ การท่ีนกั เรียนไม่ชอบเรยี นวิชาภาษาไทย อาจจะมีสาเหตุมาจากนกั เรียนอ่านไมอ่ อก และจำพยญั ชนะ และสระไมไ่ ด้ เมอ่ื เวลาครูเรยี กอา่ นคำ จงึ ทำให้นกั เรยี นไมอ่ ยากเข้าเรยี น และไมอ่ ยากเขา้ ร่วมกจิ กรรม เปน็ ตน้ ลงช่ือ ผู้สัมภาษณ์ (นางสาวอภิชญา พูลสำราญ)
ภาพการพดู คยุ สอบถามถงึ ปญั หา ภาพสมุดของเดก็ ชายชนะ ใฝ่เรยี น (นามสมมต)ิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: