Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การศึกษาทางวิชาการเพื่อการพัฒนางานขององค์กรปกครองท้องถิ่น

การศึกษาทางวิชาการเพื่อการพัฒนางานขององค์กรปกครองท้องถิ่น

Published by ชัยยะ มหาปราบ, 2021-12-11 07:20:06

Description: การศึกษาทางวิชาการเพื่อการพัฒนางานขององค์กรปกครองท้องถิ่น

Search

Read the Text Version

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป รุ่นที ๘๔ ระบบประปา สวนอุตสาหกรรมบางกะดีมีการผลติ นา้ ประปาโดยโรงผลิตนา้ ประปาเพ่ืออตุ สาหกรรม ซงึ่ หน้า ได้สัมปทานประกอบกจิ การประปาจากกรมทรัพยากรน้า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม 395 มีสถานสบู น้าสาแลโดยสูบน้าจากแหลง่ นา้ ดบิ คลองประปา เข้าในระบบการผลติ นา้ ประปา มีกาลังผลิต 18,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และมีกรมทรัพยากรน้า ตรวจติดตามคุณภาพเป็นประจาทุกปี สามารถ บรกิ ารให้กับโรงงานอตุ สาหกรรม ในสวนอตุ สาหกรรมบางกะดีอยา่ งเพียงพอ บ่อบาบัดน้าเสีย บ่อบาบัดน้าเสียรวมของสวนอุตสาหกรรมบางกะดีเป็นระบบแบบเติมอากาศ (Aerated Lagoon System) รองรับได้ 14,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน แหล่งน้าท้ิงจากโรงงานท่ีต้อง ระบายสู่ระบบบาบัดน้าเสียส่วนกลางมาจาก 3 แหล่ง คือ น้าทิ้งจากกระบวนการผลิต น้าทิ้งจากโรง อาหาร และนา้ ทงิ้ จากหอ้ งนา้ -สว้ ม

นกั บริหารงานท่ัวไป รุ่นที ๘๔ ระบบป้องกนั น้าท่วม จากกรณปี ี พ.ศ. 2554 เกิดน้าท่วมในสวนอุตสาหกรรมบางกะดีปริมาณน้าสูงสุด 4.3 MSL. จึงมีโครงการสร้างกาแพงป้องกันน้าท่วมล้อมรอบสวนอุตสาหกรรมไว้ โดยผนังคอนกรีต 2 หนา้ แบบ คือ แบบผนังคอนกรีตคู่ และผนังคอนกรีตเดี่ยว รวมท้ังมีบ่อกักเก็บน้าก่อนการระบายออก ภายนอกสามารถรองรับน้าปริมาตร 73,500 ลูกบาศก์เมตร และระบบระบายนา้ ออกภายนอกกาลังสูบ 396 นา้ 5 ลกู บาศกเ์ มตรตอ่ วนิ าที

นกั บริหารงานท่วั ไป รนุ่ ที ๘๔ ข้อมลู พน้ื ทสี่ ีเขยี ว หน้า 397 ภายในเขตพื้นที่ตาบลบางกะดี ยังไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลพ้ืนที่สีเขียวไว้ชัดเจน แต่ท้ังน้ีจาก ฐานข้อมูลเทศบาลตาบลบางกะดีระบุว่าในพื้นท่ีตาบลบางกะดีมีพ้ืนที่สีเขียว คือ สวนสาธารณะเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ (สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ) มีเนื้อที่ 2.15 ไร่ และมีโครงการ ปรับภูมิทัศน์ (สวนสาธารณะ) ในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลบางกะดี นอกจากน้ีแผนปฏิบัติการตามแผน แม่บทการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดปทุมธานีมี 2 โครงการ คือ โครงการจัดทาแนว ป้องกนั และพน้ื ทกี่ นั ชนรอบเขตพืน้ ท่ีอตุ สาหกรรมหนาแน่น (Protection Strip & Zone) และโครงการ สร้างพื้นท่ีสีเขียวพื้นท่ีอุตสาหกรรมหนาแน่นและชุมชนโดยรอบ และแนวทางในการเก็บข้อมูลใน อนาคต คือ กาหนดแนวทางในการจัดเก็บข้อมูลและประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ เก่ียวข้อง เพอื่ จดั เก็บข้อมลู ดังกลา่ วใหค้ รบถว้ นตอ่ ไป ขอ้ มูลด้านเศรษฐกิจ ข้อมลู จานวนเงนิ ลงทนุ ของผปู้ ระกอบการในเมอื งอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ในบริเวณพื้นที่ตาบลบางกะดี มีโรงงานทั้งหมด 91 โรงงาน มีจานวนเงินลงทุนของผู้ประกอบการ (ปี 2559) รวมทัง้ สน้ิ 28,644,728,959 บาท ข้อมูลการส่งเสริมสนับสนุนการดาเนินกิจกรรมของวิสาหกิจชุมชน ในพื้นที่ตาบลบางกะดี อาเภอ เมืองปทุมธานี มีจานวนวสิ าหกจิ ชุมชนท่ีไดจ้ ัดต้ังท้งั หมด 2 วิสาหกิจ เช่น วิสาหกิจชุมชนโคกชะพลูล่าง วิสาหกิจชุมชนน้าด่ืมบ้านโคกชะพลู เป็นต้น และระดับจังหวัดมีการจัดตั้งบริษัทประชารัฐรักสามัคคี ปทุมธานี (วิสาหกิจเพ่ือสังคม) จากัด ทั้งนี้จากแผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทเมืองอุตสาหกรรมเชิง นิเวศจังหวัดปทุมธานีมี 3 โครงการ คือ โครงการพัฒนาและส่งเสริม Symbiosis Model ของสวน อุตสาหกรรมบางกะดีกับชุมชน โครงการสานพลังงานประชารัฐตาบลบางกะดีมีศูนย์จาหน่าย/รองรับ ผลิตภัณฑ์ชุมชน และโครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี โดยมีชุมชนนาร่อง อย่างน้อย 2 ชมุ ชนต่อปี

นกั บริหารงานท่วั ไป รนุ่ ที ๘๔ ขอ้ มูลด้านส่งิ แวดล้อม คุณภาพน้าท้ิงเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน กรมโรงงานอุตสาหกรรมไม่มีฐานข้อมูลการระบายน้าของ โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ท่ีโรงงานที่เข้าข่ายจะต้องมีบุคลากรด้านส่ิงแวดล้อมประจาโรงงาน (ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม) ซึ่งไม่เปิดเผยข้อมูลคุณภาพน้าทิ้งต่อสาธารณะ ฐานข้อมูลจากสวน อุตสาหกรรมบางกะดี ในช่วงระยะเวลา 3 ปี (2557-2559) ณ บ่อบาบัดน้าเสียรวม ของโครงการสวน อุตสาหกรรมบางกะดี คุณภาพน้าทิ้ง 5 พารามิเตอร์ (BOD COD pH TDS และSS) มีค่าเป็นไปตาม หนา้ มาตรฐานทีก่ าหนด 398

นกั บริหารงานท่ัวไป รุ่นที ๘๔ ปริมาณน้าใช้ภาคอุตสาหกรรม ปัจจุบันยังไม่มีการรวบรวมปริมาณน้าใช้ภาคอุตสาหกรรมของโรงงาน หน้า ในพ้ืนที่ตาบลบางกะดี อย่างเป็นระบบ แนวทางในการดาเนินการในอนาคต คือ กาหนดแผนในการ 399 จัดเก็บข้อมูลดังกล่าว โดยกาหนดผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บข้อมูลในแต่ละพ้ืนที่ให้ชัดเจน รวมถึงมีการ ตดิ ตามรวบรวมข้อมลู การดาเนนิ การอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ปริมาณนา้ ท้ิงภาคอตุ สาหกรรม ปัจจุบนั ยังไมม่ ีการรวบรวมปริมาณน้าท้ิงภาคอุตสาหกรรมของโรงงาน ในพ้ืนท่ีตาบลบางกะดี อย่างเป็นระบบ แนวทางในการดาเนินการในอนาคต คือ กาหนดแผนในการ จัดเก็บข้อมูลดังกล่าว โดยกาหนดผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บข้อมูลในแต่ละพื้นท่ีให้ชัดเจน รวมถึงมีการ ตดิ ตามรวบรวมขอ้ มลู การดาเนนิ การอย่างตอ่ เนอ่ื ง คุณภาพแหลง่ น้าสาธารณะ ฐานขอ้ มลู จากสวนอตุ สาหกรรมบางกะดี ปี 2559 ณ “ประตนู า้ คลองบาง ง้ิว” ม.5 ต.บางกะดี คุณภาพแหล่งน้า 5 พารามิเตอร์ (BOD COD pH TDS และSS) มีค่าเป็นไปตาม มาตรฐานท่ีกาหนดร้อยละ 100 จากแผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัด ปทุมธานีมีโครงการ 4 คือ โครงการศึกษาความเหมาะสมและก่อสร้างระบบบาบัดน้าเสียชุมชนและ อุตสาหกรรม โครงการส่งเสริม อนุรักษ์ ฟ้ืนฟูทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมและปรับปรุงภมู ิทศั น์ ในชุมชน โครงการพัฒนาและฟื้นฟูคลองชลประทานในพ้ืนท่ีเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เป็นต้น และ โครงการพัฒนาระบบติดตามคุณภาพส่ิงแวดล้อม (คุณภาพน้าแบบต่อเนื่อง) อุตสาหกรรมพื้นท่ีตาบล บางกะดี คุณภาพอากาศบริเวณนิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม และ ชุมชน อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ในพ้ืนที่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดปทุมธานีไม่มีจุดตรวจวัด คุณภาพอากาศอยู่ในพื้นที่ แต่จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดปทุมธานี ปี พ.ศ.2558-2560

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป รนุ่ ที ๘๔ ของสานักคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ ณ สถานีตรวจวัดพื้นท่ีบริเวณมหาวิทยาลัย กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต อ.คลองหลวง พบว่าคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งน้ี แผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ จังหวัดปทุมธานีมี 2 โครงการ คือ โครงการ พัฒนาระบบติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อม (คุณภาพอากาศแบบต่อเนื่อง) อุตสาหกรรมพ้ืนท่ีบางกะดี และโครงการการบริหารจัดการส่ิงแวดล้อมและความปลอดภัยของอุตสาหกรรมในพ้ืนท่ีบางกะดีโดย การอบรม ตรวจประเมิน และปอ้ งกันแก้ไขปัญหามลพษิ ทางอากาศ หน้า 400 จานวนโรงงานอุตสาหกรรมท่ีดาเนินกิจกรรมการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศท่ีมี นัยสาคัญได้ มากกวา่ เกณฑม์ าตรฐาน มีฐานขอ้ มูลการปลอ่ ยมลพิษในโรงงาน ในการย่ืนขอจดประกอบกจิ การ และ ยืน่ ตอ่ ทะเบียนโรงงาน รวมท้งั มกี ารจดั ทาฐานข้อมลู มลพิษทางอากาศของโรงงานทีเ่ ขา้ ข่ายตามประกาศ กระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดทารายงานชนิดและปริมาณสารมลพิษที่ระบายออกจากโรงงาน พ.ศ.2550 และแผนปฏิบัติการตามแม่บทการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดปทุมธานีมี โครงการวิจยั และพัฒนานวัตกรรมการจัดมลพิษอุตสาหกรรม และแนวทางในการดาเนนิ การในอนาคต คือ จัดทาแบบสารวจข้อมูลโรงงาน และจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมือง อตุ สาหกรรมเชงิ นิเวศ เพอื่ พจิ ารณากาหนดผู้รับผดิ ชอบในการสารวจข้อมูลและแนวทางในการรวบรวม ขอ้ มลู ทเ่ี ก่ียวข้องให้ครบถ้วน

นักบริหารงานทว่ั ไป รนุ่ ที ๘๔ ขอ้ มลู ชนดิ และปริมาณกากของเสียและวัสดเุ หลือใช้ของโรงงานในพื้นที่ ปัจจุบนั ยงั ไม่มหี นว่ ยงานใด ในจังหวัดหรือในท้องถ่ินเก็บรวบรวมข้อมูลน้ี จากข้อมูลศูนย์สารสนเทศโรงงานอุตสาหกรรม กรม โรงงานอุตสาหกรรมได้มีการรวบรวมข้อมูลปริมาณกากของเสียอุตสาหกรรม ตามรายงานการขอ อนุญาตนาสิ่งปฏิกูลหรือวสั ดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงาน ในพ้ืนท่ีอาเภอเมืองปทุมธานี โดยในปี 2559 อาเภอเมืองปทุมธานี มีกากของเสียรวม 346,337.10 ตัน จาแนกเป็นกากของเสียไม่อันตราย ร้อยละ 88.56 และกากของเสียอันตรายร้อยละ 11.44 ทั้งน้ีจากแผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทเมือง อตุ สาหกรรมเชิงนิเวศจงั หวัดปทุมธานมี ี 3 โครงการ คือ โครงการส่งเสรมิ สังคม 3R พ้ืนที่ตาบลบางกะดี โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมของโรงงานในพื้นที่ตาบลบางกะดี และ โครงการศนู ย์ข้อมูลกากอุตสาหกรรมเพื่อใชป้ ระโยชน์จากกากอตุ สาหกรรมพืน้ ที่ตาบลบางกะดี หน้า 401 ฐานข้อมูลชนิดและปริมาณขยะชุมชน พ้ืนที่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดปทุมธานีอยู่ในเขต ปกครองสว่ นท้องถนิ่ ทั้งสิน้ 6 องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน โดยพบวา่ 1 องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ คือ เทศบาลตาบลบางกะดี มีฐานข้อมูลปริมาณขยะ และอัตราการเกิดขยะเฉล่ีย 20 ตัน/วัน อัตราการ กาจัด 20 ตัน/วัน และกาจัดด้วยวิธีฝังกลบ คิดเป็นร้อยละ 100 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลชนิดและปริมาณ ขยะชุมชนและการนาไปใช้ประโยชน์ในพื้นท่ีตาบลบางกะดี ยังไม่มีการเก็บรวบรวมไว้ชัดเจน และ แนวทางในการเก็บข้อมูลในอนาคต คือ จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมือง อตุ สาหกรรมเชงิ นิเวศ ในพ้ืนท่ี เพ่อื พิจารณากาหนดผู้รับผิดชอบและแนวทางในการรวบรวมและจัดเก็บ ขอ้ มูลทีเ่ กี่ยวข้องใหค้ รบถว้ น

นกั บรหิ ารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ ข้อมูลการใช้พลังงานทดแทน ยังไม่มีการรวบรวมข้อมูลการใช้พลังงานทดแทนของโรงงาน อุตสาหกรรมในพ้ืนที่ตาบลบางกะดี แนวทางในการเก็บข้อมูลในอนาคต คือ ประสานงานกับบริษัท สวนอตุ สาหกรรมบางกะดี จากัด เพ่อื ให้ทางบริษัทฯ เป็นผูร้ วบรวมข้อมูลในพื้นท่ีของสวนอุตสาหกรรม บางกะดี และจดั ใหม้ กี ารประชุมคณะกรรมการขบั เคลื่อนการพฒั นาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ในพน้ื ที่ เพอื่ พจิ ารณากาหนดผูร้ ับผิดชอบและแนวทางในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมลู ที่เกย่ี วข้องให้ครบถว้ น จานวนข้อร้องเรียนเรื่องเหตุเดือดร้อนราคาญ ในรอบปีงบประมาณ พ.ศ.2559 - 2560 พบข้อ ร้องเรียนด้านเหตุเดือดร้อนราคาญในพื้นที่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนเิ วศจังหวัดปทุมธานี 1 กรณี ในพื้นที่ เปา้ หมายในตาบลบางกะดี อาเภอเมืองปทุมธานี มีการวิเคราะห์ข้อร้องเรยี น และมีการดาเนินการแก้ไข เรียบร้อย จานวนโรงงานอุตสาหกรรมที่มีกระบวนการผลิตท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-Process) หรือ ได้รับการรับรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) จากฐานข้อมูลของสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย ในพืน้ ทเ่ี มืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดปทุมธานี ปจั จุบนั ยังไม่มีโรงงานท่ีได้รับการ รบั รองโรงงานอตุ สาหกรรมเชงิ นิเวศ (Eco Factory) และจากฐานขอ้ มลู ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม มี หน้า โรงงานได้รับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 3 ข้ึนไป จานวน 13 โรงงาน คิดเป็นร้อยละ 14.1 และ 402 แผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ จังหวัดปทุมธานีมีโครงการพัฒนาโรงงาน อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ/อุตสาหกรรมสีเขียว พื้นที่ตาบลบางกะดีโดยการอบรมและส่งเสริมโรงงานใน พื้นท่เี ป้าหมาย และแนวทางในการเก็บข้อมูลในอนาคต คอื จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการขบั เคลื่อน การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ในพื้นท่ี เพื่อพิจารณากาหนดผู้รับผิดชอบและแนวทางในการ รวบรวมและจดั เกบ็ ข้อมูลที่เกี่ยวขอ้ งใหค้ รบถ้วน จานวนโรงงานอุตสาหกรรมที่ดาเนินกิจกรรมหรือมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิ บ ปัจจุบนั ยังไม่มหี น่วยงานใดเก็บรวบรวมขอ้ มลู นี้ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้จัดทาฐานข้อมูล การใช้วัตถุดิบของโรงงาน ในขั้นตอนการแจ้งจดทะเทียนประกอบกิจการและย่ืนต่ออายุใบประกอบ กิจการ รวมท้ังโครงการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศพื้นท่ี 8 จังหวัด มีการจัดทาฐานข้อมูลการใช้ วัตถุดิบของโรงงาน และในระดับจังหวัดมีโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของ อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค (OPOAI) และแนวทางในการเก็บข้อมูลในอนาคต คือ จัดให้ มีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ในพ้ืนที่ เพ่ือพิจารณา กาหนดผู้รับผิดชอบและแนวทางในการรวบรวมและจัดเก็บขอ้ มลู ท่ีเกยี่ วข้องให้ครบถ้วน

นักบรหิ ารงานทัว่ ไป รนุ่ ที ๘๔ จานวนโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพเชิงนิเวศ (Eco Efficiency) การ หนา้ จัดการด้านความปลอดภัยและสุขภาพ ยังไม่มีการรวบรวมข้อมูลจานวนโรงงานอุตสาหกรรมท่ีมีการ 403 วเิ คราะห์ข้อมูลประสทิ ธิภาพเชิงนิเวศ (Eco Efficiency) ในพ้นื ทต่ี าบลบางกะดี และแนวทางในการเก็บ ข้อมูลในอนาคต คือ จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนเิ วศ ในพื้นท่ี เพื่อพิจารณากาหนดผู้รับผิดชอบและแนวทางในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องให้ ครบถว้ น จานวนโรงงานอุตสาหกรรมที่ดาเนินกิจกรรมหรือมาตรการ เพ่ือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจุบันยงั ไม่มหี น่วยงานใดเก็บรวบรวมข้อมูลน้ี โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีการจัดเตรียม ฐานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบันอยู่ในช่วงการรวบรวมข้อมูลทั้ง ประเทศ จากฐานขอ้ มูลขององค์การบริหารจดั การก๊าซเรือนกระจกพบวา่ ในพ้ืนท่ีไมโ่ รงงานท่ีได้รบั ฉลาก ลดคาร์บอน และแนวทางในการเก็บข้อมูลในอนาคต คือ จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการขับเคล่ือน การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ในพื้นที่ เพ่ือพิจารณากาหนดผู้รับผิดชอบและแนวทางในการ รวบรวมและจดั เก็บขอ้ มูลท่ีเกยี่ วข้องใหค้ รบถว้ น จานวนโรงงานอุตสาหกรรมท่ีมีการประเมินผลกระทบจากการดาเนินงานขององค์กรต่อความ หลากหลายทางชีวภาพ และจัดทาแผนป้องกันผลกระทบท่ีจะเกิดข้ึนต่อความหลากหลายทาง ชวี ภาพ ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดเก็บรวบรวมข้อมูลนี้ โดยมีฐานข้อมูลของสานักงานนโยบายแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในส่วนของโรงงานท่ีจะต้องมีการจัดทารายงานผลกระทบ ส่ิงแวดล้อมซ่ึงต้องมีการประเมินความหลากหลายทางชีวภาพ และจัดทาแผนป้องกันผลกระทบที่จะ เกิดขึ้นต่อความหลากหลายทางชีวภาพ โดยในพ้ืนท่ีเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศมีโรงงานที่ต้องมีการ จัดทารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมจานวน 1 โรงงาน ร้อยละ 1.1 และแนวทางในการเก็บข้อมูลใน อนาคต คือ จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการขับเคล่ือนการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ในพ้ืนท่ี เพ่อื พจิ ารณากาหนดผู้รบั ผดิ ชอบและแนวทางในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลทเี่ กย่ี วข้องให้ครบถ้วน จานวนโรงงานที่จดั ทารายงานการประเมินความเสี่ยง จากฐานขอ้ มลู พบว่าในพ้นื ทเ่ี มืองอตุ สาหกรรม เชิงนิเวศมีโรงงานที่ต้องจัดทารายงานวิเคราะห์ความเสี่ยง จานวน 1 โรงงาน คิดเป็นร้อยละ 1.1 ของ โรงงานทัง้ หมดในพ้ืนที่เป้าหมาย จานวนการรั่วไหล และการเกิดอุบัติเหตุของสารเคมีและวัตถุอันตราย ท่ีทาให้เกิดผล กระทบต่อ พนกั งาน ชมุ ชน หรือส่ิงแวดล้อมภายนอก จากขอ้ มูลของสานกั เทคโนโลยีความปลอดภยั กรมโรงงาน

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป รุ่นที ๘๔ อุตสาหกรรม สถิติการเกิดอุบัติเหตุในโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ.2559 ในพื้นที่เมืองอุตสาหกรรมเชิง นิเวศจังหวดั ปทมุ ธานี ไมม่ ีการร่วั ไหล และการเกดิ อุบัตเิ หตขุ องสารเคมแี ละวตั ถุอันตราย ทีท่ าใหเ้ กดิ ผล กระทบตอ่ พนกั งาน ชุมชน หรือสงิ่ แวดล้อมภายนอก และแนวทางในการเก็บข้อมลู ในอนาคต คือ จัดให้ มีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ในพ้ืนที่ เพ่ือพิจารณา กาหนดผูร้ ับผดิ ชอบและแนวทางในการรวบรวมและจัดเกบ็ ข้อมูลทีเ่ ก่ยี วขอ้ งให้ครบถว้ น จานวนโรงงานทมี่ ีระบบการเฝ้าระวังคณุ ภาพส่ิงแวดล้อมอย่างมีส่วนร่วมตามโครงการ GI หรอื EIA Monitoring หรือโครงการอ่ืนที่เทียบเท่า จากฐานข้อมูลของสานักนโยบายแผนทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม โรงงานในพ้ืนที่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดปทุมธานี มีโรงงานที่มีระบบการเฝ้า ระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างมีส่วนร่วมตามโครงการ GI ระดับ 3 ข้ึนไป หรือ EIA Monitoring รวม เป็น 14 โรงงาน คิดเป็นร้อยละ 15.2 ของโรงงานทั้งหมดในพ้ืนที่เป้าหมายดังแสดงใน ท้ังน้ีภายใต้ โครงการยกระดับศูนย์ติดตามตรวจสอบและประเมินผลเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 8 จังหวัด ยังมีการ จัดต้งั เครือข่ายอตุ สาหกรรมเชิงนิเวศทมี่ บี ทบาทเฝ้าระวังคุณภาพสง่ิ แวดล้อมอย่างมสี ว่ นรว่ มอีกดว้ ย หนา้ 404

นักบริหารงานท่ัวไป รุน่ ที ๘๔ หน้า 405 ความหมายของตราเคร่อื งหมายองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรอี ยุธยา รูปสังข์ทักษิณาวัตรประดิษฐานบนพานทองบรรจุไว้ภายในปราสาท หมายถึง เมื่อราวศุภ มสั ดุ 721 ปขี าล โทศก วันศุกร์ เดอื นห้า ข้ึนหกค่า เพลา 3 นาฬกิ า 9 บาท หรือ ตรงกับวันท่ี 3 เมษายน พ.ศ. 1893 พระเจ้าอู่ทองทรงสถาปนากรงุ ศรีอยุธยา ข้ึนที่ตาบลหนองโสน ชีพ่อพราหมณ์ได้ฤกษ์ต้ังพิธี กลบาตรสุมเพลงิ (ชอ่ื พธิ ที าเพอื่ แกเ้ สนียด) ได้สงั ข์ทกั ษิณาวตั รขอนหนึ่งใตต้ น้ หมัน - วงกลม หมายถงึ การทางานทเ่ี ชอ่ื มโยงกนั ในทุกภาคส่วน - ลายไทย หมายถงึ ศาสนา ศลิ ปะ วัฒนธรรม ประเพณีและภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ - สีมว่ ง หมายถึง สปี ระจาองคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั พระนครศรีอยุธยา

นกั บรหิ ารงานทว่ั ไป รุ่นที ๘๔ ประวัติความเปน็ มาขององค์การบริหารส่วนจงั หวดั ประวัติความเป็นมา การจัดรูปแบบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดซึ่งเป็นการปกครองท้องถิ่น รูปแบบหน่ึงที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้มีการปรับปรุงแก้ไขและวิวัฒนาการมาตามลาดับ โดยจัดให้สภาจังหวัดข้ึนเป็น ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2476 ตามความในพระราชบัญญัติจัดระเบียบเทศบาล พ.ศ. 2476 ฐานะของสภาจังหวัด ขณะนั้น มลี ักษณะเป็นองค์การแทนประชาชนทาหน้าท่ีให้คาปรึกษาหารือแนะนาแก่คณะกรรมการจังหวัด ยังมิได้ มีฐานะเป็นนิติบุคคลท่ีแยกต่างหากจากราชการบริหารส่วนภูมิภาค หรือเป็นหน่วยการปกครองท้องถิ่นตาม กฎหมายต่อมาในปี พ.ศ. 2481 ได้มีการตราพระราชบัญญัติสภาจังหวัด พ.ศ. 2481 ข้ึนโดยมีความประสงค์ที่จะ แยกกฎหมายที่เกี่ยวกับสภาจังหวัดไว้โดยเฉพาะ สาหรับสาระสาคัญของพระราชบัญญัติฯ น้ันยังมิได้มีการ เปลยี่ นแปลงฐานะและบทบาทของสภาจงั หวดั ไปจากเดิม กล่าวคอื สภาจงั หวดั ยงั คงทาหนา้ ท่เี ป็นสภาที่ปรึกษาของ คณะกรรมการจังหวัดเท่าน้ัน จนกระท่ังได้มีการการประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2495 ซ่ึงกาหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าปกครองบังคับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบบริหาร ราชการในส่วนจังหวัดของกระทรวง ทบวงกรมต่าง ๆ โดยตรงแทนคณะกรรมการจังหวัดเดิม โดยผลแห่ง พระราชบญั ญตั ิฯ นี้ทาใหส้ ภาจังหวัดมฐี านะเปน็ สภาทป่ี รึกษาของผู้ว่าราชการจังหวดั แต่เนือ่ งจากบทบาทและการ ดาเนินงานของสภาจงั หวัดในฐานะทป่ี รึกษา ซง่ึ คอยให้คาแนะนาและควบคมุ ดูแลการปฏิบัตงิ านของจังหวัดไม่สู้จะ หนา้ ได้ผลตามความมุ่งหมายเท่าใดนัก จึงทาให้เกิดแนวคิดที่จะปรับปรุงบทบาทของสภาจังหวัดให้มีประสิทธภิ าพ โดย 406 ให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนในการปกครองตนเองยิ่งข้ึน ในปี พ.ศ. 2498 อันมีผลให้เกิด \"องค์การบริหารส่วน จังหวัด\" ขึ้นตามภูมิภาค ต่อมาได้มีการประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ลงวันท่ี 29 กันยายน 2515 ซ่ึงเป็น กฎหมายแม่บทว่าด้วยการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กาหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด มีฐานะเป็น หน่วยการปกครองท้องถิ่นรูปหน่ึง เมื่อสภาจังหวัดแปรสภาพมาเป็นสภาการปกครองท้องถิ่นจึงมีบทบาทและ อานาจหนา้ ที่เพ่มิ ข้ึนอยา่ งมาก ดังน้ันเพ่ือประโยชน์ในการทาความเข้าใจในอานาจหนา้ ท่ีและบทบาทของสภาจังหวัดจากอดีตจนถึง ปัจจุบัน จึงขอแบ่งระยะววิ ฒั นาการของสภาจังหวัดออกเปน็ 3 ระยะ ดงั นี้ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2476-2498)นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 ท่ีได้มีการจัดตั้งสภาจังหวัดข้ึน ตาม พระราชบัญญัตริ ะเบยี บเทศบาล พ.ศ. 2476 ซ่งึ นบั เป็นจัดกาเนดิ และรากฐานของการพฒั นาท่ีทาใหใ้ หม้ หี น่วยงาน ปกครองท้องถิ่นในรูปองค์การบริหารส่วนจังหวัดข้ึนจน ถึงปี พ.ศ. 2498 นั้น อาจกล่าวโดยสรุปถึงฐานะอานาจ หน้าทีบ่ ทบาทของสภาจงั หวัดได้วา่ มีลักษณะดังนี้ -ฐานะสภาจังหวดั ในขณะน้ันกย็ ังมิได้มีฐานะเปน็ หน่วยการปกครองท้องถ่ิน -เปน็ นติ บิ คุ คลทีแ่ ยกตา่ งหากจากราชการบริหารส่วนภมู ิภาค -ตามกฎหมายเป็นเพียงองค์กรตัวแทนประชาชนรูปแบบหน่ึง ที่ทาหน้าท่ีให้คาปรึกษาแนะนาแก่ จังหวัด ซึ่งพระราชบัญญัติบริหารราชการแห่งพระราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2476 กาหนดให้จังหวัดเป็นหน่วย

นักบรหิ ารงานทัว่ ไป รุ่นที ๘๔ ราชการบริหารส่วนภูมิภาค อานาจการบริหารงานในจังหวัดอยู่ภายใต้การดาเนินงานของคณะกรรมการจังหวัด หน้า ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานสภาจังหวัด จึงมีบทบาทเป็นเพียงที่ปรึกษาเก่ียวกับกิจการของสภาจังหวัดแก่ 407 คณะกรรมการจงั หวดั และคณะกรรมการจังหวดั ไม่จาเป็นต้องปฏิบัตติ ามเสมอไป กระทัง่ ในปี พ.ศ. 2495 ไดม้ กี าร ตราพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการส่วนแผ่นดิน กาหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น หัวหน้าปกครองบังคับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบบริหารราชการในส่วนจงั หวัดของกระทรวง ทบวงกรมต่าง ๆ โดยตรงแทนคณะกรรมการจงั หวัดเดมิ สภาจังหวดั เปล่ียน บทบาทจากสภาท่ีปรึกษาของกรรมการจังหวัดมาเป็น สภาท่ีปรึกษาของผวู้ า่ ราชการจงั หวดั สาหรับอานาจหน้าท่ีของสภาจังหวัด พระราชบัญญัติสภาจังหวัด พ.ศ. 2481 มาตรา 25 ได้ กาหนดใหส้ ภาจงั หวัดมอี านาจหน้าท่ี ดังต่อไปน้ี 1. ตรวจและรายงานเร่ืองงบประมาณที่ทางจังหวัดตั้งข้ึน และสอบสวนการคลังทางจังหวัดตาม ระเบยี บซ่งึ จะได้มีกฎกระทรวงกาหนดไว้ 2. แบง่ สรรเงนิ ทนุ อดุ หนนุ ของรฐั บาลระหวา่ งบรรดาเทศบาลในจงั หวดั 3. เสนอขอ้ แนะนาและใหค้ าปรึกษาต่อคณะกรรมการจังหวัดในกิจการจังหวดั ดังตอ่ ไปนี้ ก. การรกั ษาความสงบเรยี บร้อยและศีลธรรมอันดขี องประชาชน ข. การประถมศึกษาและอาชวี ศกึ ษา ค. การปอ้ งกันโรค การบาบดั โรค การจัดตัง้ และบารงุ สถานพยาบาล ง. การจัดให้มีและบารุงทางบก ทางนา้ จ. การกสกิ รรมและการขนส่ง ฉ. การเก็บภาษีอากรโดยตรง ซึง่ จะเป็นรายได้ส่วนจงั หวัด ช. การเปลยี่ นแปลงเขตหม่บู ้าน ตาบล อาเภอ และเขตเทศบาล 4. ใหค้ าปรกึ ษาในกิจการคณะกรรมการจังหวัดร้องขอ ระยะท่ี 2 (พ.ศ. 2498-2540) การจัดตั้งและการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบ ราชการส่วนจังหวัด พ.ศ. 2498 ซ่ึงกาหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีฐานะเป็นนิติบุคคลและประกาศของ คณะ ปฏิวัติ ฉบับท่ี 218 ได้กาหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นหน่วยการปกครองท้องถ่ินรูปหนึ่ง ดังนั้น องค์การบริหารส่วนจังหวัดจึงเป็นหน่วยราชการบริหารส่วนท้องถิ่นท่ีมีฐานะเป็นนิติบุคคล และในพระราชบัญญัติ ฯ ดังกล่าว ได้กาหนดอานาจหน้าท่ีขององค์การบริหารส่วนจังหวัดไว้ เช่น การรักษาความสงบเรียบร้อยและ ศีลธรรมอันดีของประชาชน การศึกษา การทานุบารุงศาสนาและการส่งเสริมวัฒนธรรม การสาธารณูปการ การ ป้องกันโรค การบาบัดโรคและการจัดต้ังและบารุงสถานพยาบาล ฯลฯ เป็นต้น นอกจากน้ีองค์การบริหารส่วน จังหวัดยังอาจทากจิ การซงึ่ อยู่นอกเขต เม่อื กจิ การน้ันจาเป็นตอ้ งทาและเป็นการเกี่ยวเน่ืองกบั กิจกรรมทีด่ าเนินตาม

นกั บริหารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ อานาจหน้าที่อยู่ภายในเขตของตน โดยได้รับความยินยอมจากสภาเทศบาล คณะกรรมการสุขาภิบาล สภาจังหวัด หรือ สภาตาบลทีเ่ กยี่ วขอ้ งนนั้ และได้รับอนมุ ัตจิ ากรัฐมนตรวี า่ กากระทรวงมหาดไทยแล้วด้วย ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2540-ปัจจุบัน)พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 ได้ผ่านการ พิจารณาของรัฐสภาและประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 114 ตอนที่ 62 ก ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2540 โดยใช้ บังคับต้ังแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2540 เป็นต้นมา พระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นกฎหมายท่ีกล่าวถึงระเบียบวิธีการ บริหารงานขององค์การบริหารสว่ นจังหวดั ซ่ึงเป็นหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถ่ินแทนท่ีองค์การบริหารสว่ น จังหวัดตามพระราชบญั ญัติระเบียบบรหิ ารราชการส่วนจงั หวดั พ.ศ. 2498สาหรบั เหตุผลของการใชพ้ ระราชบัญญัติ ฉบับน้ีอาจพิจารณาได้จากบทบัญญัติของพระราชบัญญัติซึ่งระบุว่า \"โดยที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จัดต้ังข้ึน ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการส่วนจังหวัด พ.ศ. 2498 เป็นองค์กรปกครองท้องถ่ินท่ีรับผิดชอบใน พื้นท่ีท้ังจังหวัดท่ีอยู่นอกเขตสุขาภิบาล และเทศบาล เม่ือได้มีพระราชบัญญัติสภาตาบลและองค์การบริหารส่วน ตาบล ในการน้ีสมควรปรับปรุงบทบาทและอานาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดให้สอดคล้องกันและ ปรับปรุงโครงสร้างขององค์การบริหารส่วนจังหวัดให้เหมาะสมย่ิงข้ึน\" นอกจากจะพิจารณาในเหตุผลของ พระราชบัญญัติแล้ว จากบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัดคร้ังท่ี 2 วันที่ 13 มีนาคม 2540 ท่ีประชุมได้อภิปรายประเด็น หนา้ วตั ถุประสงค์ของการออกกฎหมายสรุปวา่ 408 1. เพ่ือจัดระบบบริหารให้มีประสิทธิภาพซ่ึงปัจจุบันมีปัญหาด้านการบริหารการ จัดการด้านพ้ืนท่ี และรายไดช้ ้าซอ้ น 2. เพื่อเป็นการปรับเปล่ียนตามการเปล่ียนแปลงของการเมืองการปกครองท้องถิ่นที่มีการ เปลย่ี นแปลงทางด้านการขยายความเจรญิ เติบโตของแตล่ ะท้องถ่ิน 3. เพ่ือเป็นการถ่ายโอนอานาจการปกครองส่วนภูมิภาคมาสู่ท้องถ่ิน โดยให้องค์การบริหารส่วน จังหวัดทาหน้าท่ีในการประสานกับองค์กรปกครองท้องถ่ิน การประสานกับรัฐบาล และตัวแทนหน่วยงานของรัฐ การถา่ ยโอนภารกิจและงบประมาณทีเ่ คยอยูใ่ นภมู ภิ าคไปอยใู่ นองค์การบริหารสว่ นจังหวดั 4. เพื่อเป็นการกระจายอานาจสู่ท้องถ่ินให้มากย่ิงขึ้น โดยจะเพ่ิมอิสระให้กับองค์การบริหารส่วน จงั หวดั มากข้ึนด้วย โดยการลดการกากับดแู ลจากส่วนกลางลง การจดั ต้ังและฐานะ พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 กาหนดให้มีหน่วยการบริหารราชการส่วน ท้องถ่ินรูปแบบหน่ึงเรียกว่า “องค์การบริหารส่วนจังหวัด” โดยมีอยู่ในทุกจังหวัด ๆ ละ 1 แห่ง รวม 75 แห่ง มีฐานะเป็นนิติบุคคลและมีพื้นท่ีรับผิดชอบท่ัวท้ังจังหวัด โดยทับซ้อนกับพื้นที่ของหน่วยการบริหารราชการส่วน ท้องถ่ินอื่น คือ เทศบาล สุขาภิบาล และองค์การบริหารส่วนตาบลในจังหวัดน้ัน ความเป็นนิติบุคคล

นักบริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ กอ่ ใหเ้ กดิ ความสามารถในการทานิติกรรม ความเปน็ หน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถน่ิ ก่อให้เกดิ อานาจ หนา้ ที่ และขอบเขตพน้ื ที่ในการใช้อานาจหน้าทน่ี ั้น ความเป็นมาขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา หน้า สานกั งานองค์การบริหารส่วนจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยาเดิมนน้ั อยรู่ ว่ มกับจงั หวัดที่ศาลากลางจังหวัด 409 หลังเดิม ซ่ึงตั้งอยู่ภายในเกาะเมืองอยุธยา ต่อมาเม่ือจังหวัดได้ก่อสร้างศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ เพ่ือเป็นศูนย์ ราชการของจังหวัด ซ่ึงอยูต่ ดิ ถนนสายเอเชีย องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดก็ได้ย้ายมาอยชู่ น้ั 4 ของอาคารศาลากลาง หลงั ใหม่ ปัจจุบันสานักงานองค์การบริการส่วนจังหวัด ต้ังอยู่เลขท่ี 55 หมู่ที่ 7 ถนนศูนย์ราชการ-สนามกีฬา ตาบลคลองสวนพลู อาเภอพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอาคารสานักงานแห่งน้ีก่อสร้างบนพ้ืนท่ีของหนองแพงพวย จานวน 12 ไร่เศษ ด้วยงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด จานวน 20,890,000 บาท โดยได้ย้ายเข้ามา ปฏบิ ตั ิงานในอาคารแหง่ น้ี เม่ือวนั ที่ 7 มิถุนายน 2542 ทต่ี ้ัง 55 หมูท่ ี่ 7 ถนนศูนย์ราชการ-สนามกฬี า ตาบลคลองสวนพลู อาเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา 13000 โทรศพั ท์ 0-35796-456 / โทรสาร 0-3579-6438 E-mail : [email protected]

นกั บรหิ ารงานทั่วไป รุ่นที ๘๔ จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีเน้ือท่ีประมาณ 1,556.64 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,597,900 ไร่ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับท่ี 62 ของประเทศไทย และเป็นอันดับท่ี 11 ของจังหวัดในภาคกลาง ตั้งอยู่บริเวณท่ีราบลุ่มภาคกลางตอนล่างของประเทศ ลักษณะภูมิประเทศเป็นท่ีราบลุ่มน้าท่วมถึง พ้ืนที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งนา ไม่มีภูเขา ไม่มีป่าไม้ มีแม่น้าไหลผ่าน 4 สาย ได้แก่ แม่น้าเจ้าพระยา แม่น้าป่าสัก แม่น้าลพบุรี และแม่น้าน้อย รวมความยาวประมาณ 200 กิโลเมตรมีลา คลองใหญ่น้อย ประมาณ 1,254 คลอง เชื่อมต่อกับแม่น้าเกือบท่ัวบริเวณพื้นที่ อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครทาง รถยนต์ ประมาณ 75 กิโลเมตร ทางรถไฟประมาณ 72 กิโลเมตร และทางเรือประมาณ 137 กิโลเมตร โดยมี ส่วนกว้างที่สุดของจังหวัดจากบ้านหนองโสน อาเภอวังน้อย ถึง บ้านปอกรวด อาเภอบางซ้าย เป็นระยะทาง ประมาณ 60 กิโลเมตร และสว่ นยาวที่สุดจากบ้านข่อย อาเภอบา้ นแพรก ถึงใตท้ ี่สดุ ทีบ่ ้านปากคลอง ตาบลเชยี งราก น้อย อาเภอบางปะอนิ เปน็ ระยะทางประมาณ 74 กโิ ลเมตร จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา มอี าณาเขตติดตอ่ กับจังหวัดใกลเ้ คยี งดงั นี้ - ทิศเหนือ ติดต่อกบั จังหวัดอ่างทอง จงั หวัดลพบรุ ี - ทิศใต้ ตดิ ต่อกับ จังหวัดนครปฐม จงั หวัดนนทบรุ ี จังหวัดปทมุ ธานี - ทิศตะวันออก ติดต่อกบั จงั หวดั สระบรุ ี หน้า - ทิศตะวนั ตก ตดิ ตอ่ กับ จงั หวดั สุพรรณบรุ ี 410 จงั หวดั พระนครศรีอยุธยาแบ่งเขตการปกครองออกเปน็ 16 อาเภอ ประกอบด้วย 1. อาเภอท่าเรอื 2. อาเภอนครหลวง 3. อาเภอบางซ้าย 4. อาเภอบางไทร 5. อาเภอบางบาล 6. อาเภอบางปะหนั 7. อาเภอบางปะอนิ 8. อาเภอบ้านแพรก 9. อาเภอนครหลวง 10. อาเภอพระนครศรีอยธุ ยา 11. อาเภอภาชี 12. อาเภอมหาราช 13. อาเภอลาดบัวหลวง 14. อาเภอวังน้อย 15. อาเภอเสนา 16. อาเภออุทัย

นกั บรหิ ารงานท่ัวไป รนุ่ ที ๘๔ โครงการพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยบริเวณทุ่งมะขามหย่อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หนา้ ทุ่งมะขามหย่อง ตาบลบ้านใหม่ อาเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 411 มคี วามสาคัญทางประวัตศิ าสตร์ เป็นสมรภมู ิส้รู บระหวา่ งไทยกับพม่า หลายครัง้ เปน็ ท่ีต้ังของพระราชา นุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาท่ีน่าสนใจเป็นอย่างย่ิง เมื่ออดีตทุ่งมะขาม หย่องแห่งนี้ เป็นบริเวณที่กองทัพไทยปะทะกับทัพพม่าในศึก ที่สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ส้ินพระชนม์บน คอช้าง ที่นี่นับเป็นหนึ่งในสถานท่ีสาคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทย นับจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยในสมัย “สมเด็จพระมหาจักพรรดิ” แห่งกรงุ ศรีอยุธยา หลังพระองค์ขึ้นครองราชย์ได้ประมาณ 7 เดือน พม่าได้ ยกทัพนาโดยพระเจ้าหงสาวีตะเบงชะเวตีเ้ ข้ามารุกรานการศึกครง้ั นั้น “สมเด็จพระสุริโยทัย” พระอัคร มเหสีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ได้แต่งพระองค์อย่างมหาอุปราช ทรงช้างออกมาทายุทธหัตถีกับ พระเจ้าแปร แต่ความที่เป็นสตรีทาให้พระองค์พลาดท่าเสียที ต้องพระแสงของ้าวของพระเจ้าแปร ส้นิ พระชนม์บนคอช้าง แตก่ ารศึกครั้งนน้ั ไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะกัน ด้วยวรี กรรมในคร้ังน้นั คร้นั เมื่อเวลา ผ่านเลยมาจนถึงสมัยรัชกาลปัจจุบัน แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดาริให้จัดสร้าง “พระราชานุสาวรียส์ มเด็จพระสุรโิ ยทัย” ขนึ้ ณ บริเวณท่งุ มะขามหย่อง เพ่ือเฉลิมพระเกียรตมิ าวรี กษตั ริย์ไทย และเพอ่ื น้อมเกลา้ นอ้ มกระหม่อมเฉลิมพระเกยี รตสิ มเด็จพระนาง เจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เนื่องในมหามงคลสมยั เฉลมิ พระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2535

นกั บรหิ ารงานทั่วไป รุ่นที ๘๔ ทุ่งมะขามหย่อง เป็นพ้ืนที่ต้ังของ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย เป็นโครงการจัดสร้างขึ้น ตามพระราชดาริรัฐบาลและพสกนิกรชาวไทย ได้ร่วมกันสร้างน้อมเกล้าฯ ถวายเพ่ือเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวาระมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ เม่ือปี พ.ศ. 2535 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ เสด็จพระราชดาเนินมาทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เม่ือวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2534 และสร้างเสร็จ สมบูรณ์เม่ือวันท่ี 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราช ดาเนนิ มาประกอบพธิ บี วงสรวงดวงพระวญิ ญาณสมเด็จพระศรสี รุ ิโยทัย หน้า 412 ทุ่งมะขามหย่อง เป็นพ้ืนท่ีท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพ้ืนที่แก้ม ลิง แก้ไขปัญหาน้าท่วมในฤดูน้าหลาก และในฤดูแล้งจะนาน้าที่กักเก็บไว้ให้เกษตรกรได้ใช้ในการ เพาะปลูก เพ่ือพสกนิกรชาว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสถานท่ีสาคัญท้ัง 2 แห่ง ยังบ่งบอกทาง ประวตั ิศาสตร์ของ “ทงุ่ มะขามหย่อง” และ “ทงุ่ ภเู ขาทอง” ที่ สมเด็จพระศรสี ุริโยทยั และ สมเด็จพระ นเรศวรมหาราช เคยสู้รบกับพม่า นอกจากนี้ผืนแผ่นดินทั้ง 2 แห่ง จึงได้ต้ังชื่อผืนแผ่นดินทั้ง 2 แห่งน้ี ว่า “ผืนแผน่ ดนิ แห่งพระมหากรณุ าธคิ ุณ” สาหรับทุ่งมะขามหย่อง มีเนื้อท่ีท้ังหมด 250 ไร่ ใช้เป็นอ่างเก็บน้า (แก้มลิง) จานวน 180 ไร่ มีความจุ น้าได้ถึง 2,100,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้ในการป้องกันอุทกภัยท่ีจะเกิดในอนาคต และยังสามารถ

นักบริหารงานท่วั ไป รนุ่ ที ๘๔ นาเอาน้าท่ีกักเก็บไว้ ไปใช้เพื่อเกษตรกรรมได้ในฤดูแล้งท่ีต้อง การใช้น้าทุ่งมะขามหย่องยังเป็น สวนสาธารณะที่ประชาชน สามารถมาเที่ยวชมความสวยงามและ เป็นที่พักผ่อนได้ คุณประโยชน์มี มหาศาล 1. ความเปน็ มา วันที่ 10 กรกฎาคม 2534 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดาริ ณวังไกลกังวล ให้การก่อสร้าง โครงการพระราชานุสาวรีย์ฯมีการใชน้ ้าที่เก็บในสระเก็บนา้ จานวนมากเพ่ือประโยชน์ในการเพาะปลูกพชื ฤดแู ลง้ ของราษฎรทม่ี ีพื้นทอ่ี ยรู่ อบบรเิ วณพระราชานุสาวรีย์ฯ วันที่ 24 ตลุ าคม 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั มีพระราชกระแสให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาปล่อยน้าเข้า พ้นื ทข่ี องพระราชานุสาวรยี ์ฯ เพือ่ เป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรที่ถูกน้าทว่ มและเพื่อ เป็นการเก็บน้าไว้ใช้เพ่ือการเกษตรในช่วงฤดูแล้งอีกทางหนึ่งด้วยและนาท่ีได้เก็บกักไว้ในสระ เพื่อให้ เกษตรกรนาไปใช้ประโยชน์ตามแนวพระราชดาริด้านการเกษตรกรรมในช่วงฤดูแล้งโดยส่งเสริมอาชีพ เสรมิ แกร่ าษฎร 4 โครงการ คือโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวนาปรงั โครงการปลูกพชื อายุสั้น และไม้ผล โครงการส่งเสริมอาชีพการเล้ียงปลาและโครงการเล้ียงสัตวแ์ บบผสมผสาน หน้า 413 วันท1ี่ 3 พฤศจิกายน 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดาริให้พิจารณาปรับปรุงบริเวณพื้นท่ี โครงการให้สามารถเก็บน้าได้มากขึ้นเป็น200 ไร่ เหลือเป็นพื้นที่พระราชานุสาวรีย์ไว้ 50 ไร่ และยกระดับ ถนนในพ้ืนท่ขี ้นึ ด้วย วนั ท4่ี ธันวาคม 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชดารัสกับบุคคลต่าง ๆ ท่ีเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลเน่อื งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา สรปุ ความไดว้ ่า ...ในท่ีสุด ปีนี้น้าก็ท่วมและเกิดระลึกข้ึนมาได้ว่ามีโครงการน้ีอยู่...จึงให้คนไปถ่ายรปู มีหลาย ฝา่ ยทั้งทางภาคพ้ืนดิน ทัง้ ทางอากาศ ในรปู ไดเ้ ห็นว่ามกี ารสูบน้าปลายหนงึ่ ของท่อจุ่มอยู่ในสระ และดูด น้าออกจากสระ น้าในสระนั้นมีระดับวัดได้ 3เมตร 50 เซนติเมตร แต่เมื่อดูแล้วข้างนอก น้าข้ึนสูงไป มากกว่านั้นจึงบอกให้ผู้ว่าราชการจังหวัดส่ังหยุดสูบน้าออกไปและถ้าอย่างไรให้เปิดประตูน้าที่เป็น ท่อ และช่องท่ีเปิดน้าให้เข้า-ออกได้ ให้น้าเข้ามา น้าก็ค่อยๆเข้ามาเอ่ือย ๆ น้าจึงขึ้นมาหน่อย แต่ว่าเข้ามาช้า มาก... กเ็ ลยบอกว่าให้ฟนั คัน ใหใ้ ช้รถตกั ทีเ่ ขาเรียกว่าแบ็คโฮตกั คันที่กนั้ น้านัน้ ใหน้ ้าเข้ามา...และในเวลา เดียวกันก็วัดระดับน้า ปรากฏว่าระดับน้าทางด้านตะวันออกคือน้าที่มาจากแม่น้าป่าสักสูงกว่าด้านที่มา จากแม่น้าเจ้าพระยาประมาณ 20 เซนติเมตร ความรู้น้ี ไม่มีใครเคยรู้ว่า น้าท่ีอยู่ในทุ่งด้านป่าสักมีความ

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป ร่นุ ที ๘๔ สูงกว่าแม่น้าเจ้าพระยา และความรู้นี้ทาให้เจ้าหน้าที่ รวมทั้งกรมชลประทานเกิดความรู้ว่า น้าท่วม กรุงเทพฯ มาจากไหนและไปไหน... ...ก็บอกให้ทาต่อไปจนกระท่ังนา้ ข้างนอกกับน้าข้างในเท่ากันและวดั ดูโดยต่อจากมาตรวดั น้า ซึ่ง ทีแรกสูง 4 เมตร ต่อขึ้นมา 5 เมตร ก็ท่วม 5 เมตรจนกระท่ังขึ้นมาถึง 5 เมตร 70 เซนติเมตร เป็นอันว่า น้าที่เข้ามาในบริเวณนั้นจากเดิม3 เมตร 50 เซนติเมตร ขึ้นมาเป็น 5 เมตร 70 เซนติเมตร และน้าใน สระน้ันแทนทจี่ ะมีประมาณห้าแสน ก็ขึน้ มาเกือบสองล้านลูกบาศก์เมตรเมื่อถึงขนาดน้ันแล้ว จึงสั่งให้ปิด ได้ให้ปิดเพื่อที่จะเก็บน้าน้ีไว้ข้างใน ...ทาให้ราษฎรเห็นว่าอนุสาวรีย์น้ีทาประโยชน์และสมเด็จพระสุริโย ทยั นี้เป็นวรี สตรีในอดีต กลบั มาเป็นวรี สตรใี นปัจจุบนั ดว้ ยฉะนนั้ โครงการนี้กไ็ ด้ผลเต็มท.่ี .. ...ทฤษฎีใหมน่ ี่มีไวส้ าหรบั ป้องกันความขาดแคลนในยามปกติก็จะทาใหร้ ่ารวยมากขึน้ ในยามท่ี มอี ทุ กภยั กส็ ามารถทจ่ี ะฟื้นตัวได้เรว็ โดยไมต่ ้องให้ทางราชการไปช่วยมากเกินไปทาให้ประชาชนมีโอกาส พึ่งตนเองได้อย่างดี ฉะน้นั จึงไดส้ นบั สนุนให้มีการปฏิบัตติ ามทฤษฎใี หม่... วนั ที่ 23 มกราคม 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดาเนินไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จ พระสุริโยทัย เพ่ือทรงเย่ียมเกษตรกร และทอดพระเนตรความก้าวหน้าในการดาเนินงานการก่อสร้าง หน้า อ่างเก็บน้าในพื้นท่ีรอบพระราชานุสาวรีย์ในการน้ี ทรงเปิดคันบังคับน้า เพ่ือปล่อยน้าเข้าสู่ท่อส่งน้าที่ 2 414 เพื่อส่งน้าให้แก่พื้นท่ีการเกษตรของราษฎรที่อาศัยอยู่โดยรอบและทรงมีพระราชดาริในเรื่องต่างๆกับ คณะทางานเฉพาะกิจด้านการแก้ไขปัญหาน้าท่วมและเจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้า ท่วมและการประกอบอาชีพของราษฎรโดยพระราชทานพระราชดาริให้ดาเนินการพิจารณานาทฤษฎี ใหม่มาใช้งานโดยใหข้ ดุ สระน้าในพนื้ ทีล่ มุ่ ตา่ ในเขตโครงการและบริเวณใกลเ้ คียงเพือ่ เปน็ แหลง่ เก็บกักน้า ในฤดูฝน และพจิ ารณาเพ่ิมระดับเกบ็ กักรวมท้ังใหข้ ุดลอกสระเกบ็ น้าใหล้ ึกลงไปตามความเหมาะสมเพ่ือ เพิ่มปรมิ าณความจใุ หส้ ระเกบ็ น้า วนั ท่ี 14 พฤษภาคม 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวพรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จ พระราชดาเนินไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยเพ่ือทรงเก่ียวข้าวในนาซ่ึงเป็นโครงการส่งเสริม อาชีพปลูกข้าวนาปรัง และพระราชทานข้าวท่ีทรงเกี่ยวเพื่อไปใช้ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัล แรกนาขวญั ในการนี้ทรงมพี ระราชดาริใหก้ รมชลประทาน กรมโยธาธกิ าร และกรมพฒั นาทีด่ ิน ปรบั ปรุง สระเกบ็ นา้ พระราชานสุ าวรียฯ์ โดยขุดดนิ กน้ สระให้มีความลึกโดยเฉล่ียอีกประมาณ 1 เมตร เพือ่ กกั เก็บน้าให้ มากกวา่ เดิมดินทข่ี ุดไดส้ ่วนหนึง่ ใหน้ าไปทาทางสัญจรดา้ นทิศเหนือขนานไปกับคันกน้ั น้าให้ประชาชนใช้เป็น เส้นทางเช่ือมระหว่างถนนริมแม่น้ากับถนนสายใหญ่ดินอีกส่วนหน่ึงให้นาไปทาถนนเสริมคันก้ันน้าเดิม

นักบริหารงานทว่ั ไป รุ่นที ๘๔ ให้สูงถึงระดับ 6.20 เมตร (รทก.)หากมีน้าไหลหลากมากเหมือนปี 2538 จะได้ระบายน้าเข้ามาในสระ เกบ็ น้าน้าจะได้ไมท่ ว่ มหลงั คนั ก้ันน้าซง่ึ จะทาให้มีน้าเก็บกักไว้ใชใ้ นฤดูแล้งเพ่ิมมากขึน้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั เสด็จ เสดจ็ พระราชดาเนินไปทรงเย่ียมราษฎรและได้ทรงเปิดคนั บงั คับน้า เพ่ือปล่อยน้าเข้าสู่ท่อส่งน้าสายที่2 เพื่อส่งน้าให้แก่พ้ืนท่ีการเกษตรของราษฎรท่ีอยู่อาศัยโดยรอบ พระราชานสุ าวรยี ์สมเดจ็ พระสรุ โิ ยทยั เมือ่ วันท่ี 23 มกราคม 2539 หน้า 415

นกั บริหารงานทว่ั ไป รุน่ ที ๘๔ หนา้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดาเนิน 416 ไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยบริเวณทุ่งมะขามหย่อง เพื่อทรงเกี่ยวข้าวในแปลงนาข้าวของ ราษฎรซึง่ เปน็ โครงการส่งเสริมอาชีพปลูกข้าวนาปรงั รอบพนื้ ที่พระราชานุสาวรยี ์ฯ เม่อื วันที่ 14 พฤษภาคม 2539

นกั บริหารงานทว่ั ไป รุน่ ที ๘๔ 2. ลักษณะของโครงการ โครงการพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยมีพื้นท่ีโดยรวมท้ังสิ้นประมาณ 256 ไร่ ประกอบด้วย หน้า 417 องค์ประกอบ 2 สว่ น ดงั น้ี ส่วนที่ 1 พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยสวนสาธารณะ และอ่ืน ๆ มีพ้ืนท่ีประมาณ 56ไร่ ประกอบด้วยองค์ประกอบตา่ ง ๆ ดงั น้ี - องค์พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยทรงช้างประดิษฐานบนเกาะเนินดิน พนื้ ท่ปี ระมาณ 24 ไร่ - อาคารประกอบอ่ืน ๆในบริเวณเช่น อาคารจาหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตรและ อุตสาหกรรมในครัวเรือน ส่วนแสดงแผนผังบริเวณและอาคารบารุงรักษา ระบายน้าและบ้านพัก เจ้าหนา้ ที่ สว่ นที่ 2 พื้นท่สี ระเกบ็ นา้ มีพ้ืนท่ีประมาณ 200 ไร่ สามารถกักเก็บน้าไว้ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรกรรม ในช่วงฤดแู ล้งและรองรับนา้ ในชว่ งฤดูน้าหลาก - พื้นทผ่ี ิวน้าที่ระดับเกบ็ กัก 158 ไร่ - ปริมาณความจุท่ีระดบั เก็บกกั 1,209,000 ลูกบาศกเ์ มตร - ระดับคันกั้นน้า + 6.20 เมตร (รทก.) - ระดับเกบ็ กักปกติ +4.50 เมตร (รทก.)

นกั บรหิ ารงานทั่วไป ร่นุ ที ๘๔ - ระดบั เก็บกักสงู สดุ +5.760 เมตร (รทก.) (ในปี 2538 เกดิ ปญั หาอทุ กภัยสามารถกักเก็บนา้ ได้1,583,040 ลูกบาศกเ์ มตร) - ปริมาณนา้ เก็บกักที่สามารถ 500,000ลูกบาศก์เมตร นามาใช้ประโยชน์โดยวิธีการ ธรรมชาติ 3.แนวทางการบรหิ ารจดั การนา้ โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยาดาเนินการบริหารจัดการสระเก็บน้าโครงการ พระราชานสุ าวรียส์ มเด็จพระสรุ โิ ยทัยในรูปแบบพื้นที่แกม้ ลิง โดยมแี นวทางการบรหิ ารจัดการ ดงั นี้ 3.1การเติมน้าเข้าสระ การรับน้าเข้าสู่พื้นที่สระเก็บน้าทาโดยใช้ระบบท่อเพื่อเติมน้า ประกอบดว้ ย 3 รปู แบบ ดังนี้ ( 1 ) ท่ อ ส่ ง น้ า จ า ก ค ล อ ง ชั ย น า ท – อ ยุ ธ ย า จ า น ว น 1 ท่ อ ข น า ด เส้นผ่าศูนยก์ ลาง 0.80 เมตร ความยาว 516 เมตร สง่ นา้ ได้ 0.73 ลกู บาศกเ์ มตรต่อวินาทีหรือวนั ละ 63,000 ลูกบาศก์เมตรสามารถส่งน้าได้เฉพาะในฤดูฝนช่วงเดือนตุลาคมน้าในคลองชัยนาท – อยุธยา จะสามารถ ไหลเข้าสระเกบ็ นา้ ไดส้ ว่ นหนง่ึ (2) โรงสูบน้าจากแม่น้าเจ้าพระยาโดยติดตั้งเคร่ืองสูบน้าไฟฟ้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 หน้า น้วิ จานวน 3 เคร่ือง บริเวณหน้าวดั เกตุ ตาบลบ้านใหม่ อาเภอพระนครศรีอยุธยาสามารถสูบน้าได้ 0.60 418 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีหรือวันละ 166,000 ลูกบาศก์เมตร โดยส่งน้าไปตามท่อคอนกรีตเสริมเหล็กจานวน 1 ท่อ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.80 x 254 เมตร สามารถสูบน้าเข้าสระได้ท้ังฤดูแล้งและฤดูฝนและหาก น้าในแม่น้าเจ้าพระยามีระดับสูง จะสามารถไหลเขา้ สระเกบ็ นา้ ได้โดยธรรมชาติ (3) ท่อรับน้าและระบายน้าทรงสี่เหลี่ยมจานวน 2 ท่อ ขนาด1.5 x 1.80 เมตร จานวน 1 แห่ง ในช่วงฤดูน้า สามารถรับน้าเขา้ พน้ื ท่ไี ด้วนั ละประมาณ300,000 ลกู บาศก์เมตร 3.2 การนาน้าไปใช้ประโยชน์ ในช่วงฤดูแล้งจะทาการส่งน้าให้แก่พ้ืนท่ีเกษตรกรรมรอบโครงการฯจานวน 1,037 ไร่ ผ่านระบบชลประทาน ประกอบด้วย (1) อาคารระบายน้าท่ี1 (ด้านทิศเหนือ) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.60 เมตร พร้อม ติดต้ังเคร่ืองสูบน้าด้วยไฟฟ้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง10 นิ้ว จานวน 1 เคร่ือง สามารถสูบน้าได้ 0.20 ลูกบาศกเ์ มตรต่อวนิ าที สง่ นา้ ใหพ้ น้ื ท่กี ารเกษตรทางด้านทิศเหนือ (2) อาคารระบายน้าที่2 (ด้านตะวันออก) ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ย์กลาง 0.60 เมตร พรอ้ ม ติดตั้งเครื่องสูบน้าด้วยไฟฟ้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง10 นิ้ว จานวน 1 เครื่อง สามารถสูบน้าได้ 0.20 ลูกบาศกเ์ มตรต่อวนิ าที สง่ ใหพ้ ้ืนทีก่ ารเกษตรทางด้านทศิ ตะวนั ออก

นักบรหิ ารงานท่ัวไป รุ่นที ๘๔ (3) อาคารระบายน้าที่ 3 (ด้านทิศใต้) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง0.60 เมตร พร้อมติดตั้ง หนา้ เคร่ืองสูบน้าด้วยไฟฟ้า ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว จานวน1 เคร่ือง สามารถสูบน้าได้ 0.20 ลูกบาศก์ 419 เมตรตอ่ วนิ าทีสง่ ให้พื้นท่ีการเกษตรทางด้านทิศใต้ (4) คสู ่งน้าดาดคอนกรีตจานวน 3 สาย ความยาวรวม 4,070 เมตร สายท่ี 1 ขนาดท้องคกู ว้าง0.30 เมตร ยาว 1,290 เมตร มีพน้ื ทีเ่ กษตรกรรมจานวน 242 ไร่ สายที่2 ขนาดทอ้ งคูกว้าง 0.30 เมตร ยาว 1,740 เมตร มีพื้นทเ่ี กษตรกรรมจานวน 522 ไร่ สายที่ 3 ขนาดทอ้ งคกู วา้ ง0.30 เมตร ยาว 1,040 เมตร มีพ้นื ท่เี กษตรกรรมจานวน 165 ไร่ ปัจจุบันโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยาได้ดาเนินการจัดต้ังกลุ่มผู้ใช้น้า (กลุ่มพ้ืนฐาน)“ทุ่งมะขามหย่อง” คิดเป็นพื้นท่ีรับประโยชน์ 1,037 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตาบลบ้านใหม่ ตาบลวัดตูม และตาบลภูเขาทอง อาเภอพระนครศรีอยธุ ยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3.3 การบริหารจัดการนา้ ในช่วงเกิดอุทกภัย ในช่วงน้าหลากและเกิดปัญหาอุทกภัยโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา จะทาการเฝ้า ระวังและติดตามสถานการณ์น้าในสระเก็บน้าตลอดเวลา โดยในปี 2553 และ ปี 2554 ได้ดาเนินการ ดงั น้ี ปี2553 ทาการเปิดรับน้าจากแม่น้าเจ้าพระยาเข้าสู่พ้ืนที่สระเก็บน้าโดยวิธีการ ธรรมชาติ(Gravity) จนเต็มสระเก็บน้าที่ระดับ + 5.0 เมตร (รทก.)ซ่ึงสูงกว่าระดับเก็บกักปกติ 50 เซนตเิ มตรโดยไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสียหายแก่พื้นทภี่ ายในโครงการ ปี2554 เกิดปัญหาอุทกภัยร้ายแรงในหลายพ้ืนที่ระดับน้าในแม่น้าเจ้าพระยามี ระดับสูงตั้งแต่เดือนกันยายน ส่งผลให้ น้าเข้าท่วมเต็มพ้ืนท่ีสระเก็บน้าสูงถึงระดับ+7.00 เมตร (รทก.) สูงกว่าระดับคันกั้นน้ารอบสระที่มีระดับ+6.20 เมตร (รทก.) คิดเป็นปริมาตรน้าประมาณ 5.4 ล้าน ลกู บาศก์เมตรเมตรภายหลังระดับน้าลดลงไม่ปรากฏวา่ อาคารระบบชลประทานได้รับความเสยี หาย การเปิดรับน้าเข้าพื้นท่ีสระเก็บน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยเป็นการ บริหารจัดการตามหลักการของแก้มลิง โดยในยามน้าหลากจะเปิดรับน้าเข้าสระเก็บน้าโดยวิธีธรรมชาติ และในชว่ งฤดแู ลง้ จะบรหิ ารจัดการนา้ ดว้ ยระบบชลประทานเพื่อนาน้าไปใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตรกรรม ซง่ึ เปน็ การพร่องน้าเพ่ือเตรยี มพร้อมท่จี ะรองรับปรมิ าณน้าหลากครง้ั ตอ่ ไป

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป รุ่นที ๘๔ สภาพพ้นื ทโี่ ดยรอบพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสรุ โิ ยทยั บรเิ วณทุ่งมะขามหย่องในชว่ งท่ีเกิดปญั หา หน้า อุทกภัย เดือนตลุ าคม2538 สามารถเก็บกักน้าได้ 1,583,040 ลูกบาศกเ์ มตร 420

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ หนา้ 421

นกั บริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้า 422

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ หนา้ 423

นกั บริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้า 424

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ ชือ่ - นามสกลุ นายชัยยะ มหาปราบ (ยะ) สงั กัด อบจ.สงิ หบ์ ุรี (หวั หน้าฝ่ายส่งเสรมิ การท่องเที่ยว) ท่ีอยู่ 73/1 ม.4 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรอี ยธุ ยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000 โทร.0945165989 Id Line chaiyaliverpoolfc ชือ่ - นามสกุล พ.จ.อ.ฐเดช แกว้ มณี (เตา่ ) หน้า สังกัด เทศบาลตาบลห้วยใหญ่ (หวั หน้าฝา่ ยนติ ิการ) 425 ท่อี ยู่ 28/128 ม.5 ต.สตั หีบ อ.สัตหบี จ.ชลบรุ ี 20180 โทร. 08 0895 4644 Id Line '0808954644

นกั บริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้า 426

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ หนา้ 427

นกั บริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้า 428

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ หนา้ 429

นกั บริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้า 430

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ หนา้ 431

นกั บริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้า 432

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ หนา้ 433

นกั บริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้า 434

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ หนา้ 435

นกั บริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้า 436

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ หนา้ 437

นกั บริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้า 438

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ หนา้ 439

นกั บริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้า 440

นักบริหารงานทวั่ ไป รนุ่ ที ๘๔ ชอื่ - นามสกลุ นางวมิ ล พพิ ฒั น์พล (มล) สงั กัด เทศบาลนครนครปฐม (หวั หน้าฝา่ ยทะเบยี นและบตั ร) ท่อี ยู่ 888 ถนนทหารบก ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000 โทร.08 6816 2863 Id Line : wimolll14 ชอื่ -สกุล นางแสงเดอื น ดีธรรมมา ช่อื เลน่ เดือน หนา้ สังกัด อบจ.เพชรบรู ณ์ (หวั หนา้ ฝา่ ยสรรหาบรรจแุ ละแตง่ ตง้ั ) 441 ทอี่ ยู่ 36 หมู่ท่ี 5 ตาบลสะเดียง อาเภอเมือง จังหวดั เพชรบูรณ์ 67000 โทร 09-5627-1295 Id line 0956271295 ชือ่ -สกลุ นางอรนติ กาญจนวเิ ศษ ชอ่ื เล่น ออ หวั หนา้ ฝา่ ยแผนงานและงบประมาณ สังกัด เทศบาลเมืองปากพนงั จงั หวดั นครศรธี รรมราช ทอ่ี ยู่ 1/5 ซอยหอไตร 1 ถนนพฒั นาการคขู วาง ตาบลในเมือง อาเภอเมือง จงั หวัดนครศรธี รรมราช 80000 โทร 08-8751-7959 ชื่อ-สกลุ นางสาวอชุ ุมา ใจห้าว ชอ่ื เลน่ อุ๊ สงั กดั อบจ.นครศรีธรรมราช หวั หนา้ ฝ่ายนติ กิ าร ท่ีอยู่ 95 หมทู่ ่ี 10 ตาบลเทพราช อาเภอสิชล จงั หวดั นครศรีธรรมราช 80340 โทร 08-1370-2756

นกั บรหิ ารงานท่ัวไป รนุ่ ที ๘๔ ชื่อ-สกลุ นายอนุชา ห่อทรพั ย์ ชอ่ื เลน่ ชา หัวหน้าฝา่ ยปกครอง สงั กัด เทศบาลตาบลนาประดู่ อ.โคกโพธ์ิ จ.ปัตตานี ที่อยู่ 119/16 ถนนนาเกลือ ตาบลบานา อาเภอเมอื ง จังหวดั ปตั ตานี 94180 โทร. 08-4691-5155 Id line 0846915155 เฟสบุ๊ก Tukkata Najangnang ท่ีอยู่ ชื่อ-สกุล นางอรทัย รงั เสาร์ ชอ่ื เล่น ออน Id Line หวั หนา้ ฝ่ายบรหิ ารงานทัว่ ไป สงั กดั เทศบาลเมอื งตากใบ อาเภอตากใบ จงั หวดั นราธวิ าส หนา้ ทอ่ี ยู่ 44/1 หมู่ท1ี่ 0 ตาบลบางปอ อาเภอเมอื ง 442 จังหวดั นราธวิ าส 96000 โทร. 06-2625-6812 Id line 0626256812 ช่ือ-สกุล นางอาพาทพิ ย์ ถูกจิตต์ ช่ือเลน่ ตู่ หัวหน้าฝา่ ยแผนงานและงบประมาณ สงั กดั เทศบาลเมืองพะเยา อาเภอเมอื งพะเยา จังหวดั พะเยา ที่อยู่ 25 หมู่ที่ 9 ตาบลบ้านใหม่ อาเภอเมืองพะเยา จังหวดั พะเยา 56000 โทร. 08-7189-9290 id line : 0871899290 ชื่อ-สกลุ นายอปุ ถัมภ์ ก้อนธิ ชื่อเลน่ เอก หัวหน้าฝ่ายอานวยการ สงั กดั เทศบาลตำบลดงมะดะ อาเภอแม่ลาว จงั หวดั เชยี งราย ท่อี ยู่ 264 หมู่ที่ 3 ตาบลจอมหมอกแกว้ อาเภอแม่ลาว จงั หวดั เชยี งราย 57250 โทร. 09-2103-4569 Id line anut212

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป ร่นุ ที ๘๔ ชื่อ-สกลุ พ.จ.อ.อิสสระ หริ ัญคา ชื่อเล่น เอ๋ สังกดั เทศบาลเมืองหวั หนิ (หัวหนา้ ฝ่ายบรหิ ารงานทั่วไป) ท่ีอยู่ 33/229 ตาบลหัวหนิ อาเภอหัวหนิ จงั หวดั ประจวบครี ีขันธ์ 77110 โทร. 08-1995-6367 ชื่อ-สกลุ นางสาวอาภาพตั ร์ ชาญชยั มงคล ช่อื เลน่ TUKTA หน้า สงั กดั อบจ.นครสวรรค์ (หวั หนา้ ฝา่ ยบริหารงานทวั่ ไป) 443 ท่ีอยู่ 999/121 หมู่ที่ 6 ตาบลวดั ไทร อาเภอเมอื งนครสวรรค์ จังหวดั นครสวรรค์ 60000 โทร. 08-1953-5356 ID line 0819535356 ชอื่ -สกุล นางสาวเสาวณี ลอยใหม่ ชอ่ื เลน่ นอ้ ย สังกัด เทศบาลตำบลพปิ ูน (หวั หนา้ ฝา่ ยอานวยการ) อาเภอพปิ นู จงั หวดั นครศรีธรรมราช ทีอ่ ยู่ 15/3 ตาบลทา่ สะท้อน อาเภอพนุ พนิ จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี 84130 โทร. 08-0537-6562 ID line 0805376562 ชือ่ -สกลุ นางสาวอรลกั ษณ์ หนทู อง ช่อื เล่น อร สังกดั อบจ.นครศรีธรรมราช (หวั หนา้ ฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาบคุ ลากร) ทอี่ ยู่ 70/9 (หมู่บา้ นกฤตมิ า) หมทู่ ่ี 2 ตาบลปากนคร อาเภอเมือง จงั หวัดนครศรธี รรมราช 80000 โทร 08-6782-7942

นกั บริหารงานทัว่ ไป รุ่นที ๘๔ คณะกรรมการนกั ศึกษาหลกั สตู รนกั บริหารงานท่ัวไป รุ่นที่ ๘๔ หน้า General Administration Program, Class 84 Committee, 444