วิชา โปรแกรมสานักงานเร่อื ง ขอ้ มลู การออกแบบสารสนเทศ จดั ทาโดย ด.ญ.มณฑติ า เครอื บญุ มา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท1่ี /6 โรงเรยี นแมเ่ มาะวทิ ยา
รายงาน เรือ่ ง ข้อมลู การออกแบบและสารสนเทศ เสนอ คณุ ครู สรุ ฉิ าย เป็นเอก ผ้จู ัดทา ด.ญ. มณฑิตา เครอื บญุ มา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที 1่ี /6รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา โปรแกรมสานกั งาน รหสั วชิ า ง 22201 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2561 โรงเรยี น แมเ่ มาะวิทยา
ข้ อ มู ล แ ล ะ ส า ร ส น เ ท ศ | ก คำนำ รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา โปรแกรมสานักงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/6 โดยมีจุดประสงค์เพอื่ ศกึ ษาหาความรู้ที่ได้จากเร่ือง ข้อมลู และสารสนเทศ ซง่ึ มีเนอ้ื หาเก่ยี วกับ ข้อมลู และสารสนเทศ ขอ้ เทจ็ จริงในข้อมลู น้นั ๆ เหตกุ ารณ์ที่เกี่ยวขอ้ งกับส่งิ ตา่ งๆ และประมวลด้วยวิธกี ารทีเ่ หมาะสมและถกู ตอ้ ง ผูจ้ ัดทาหวังว่า รายงานฉบับนี้จะเปน็ ประโยชน์กบั ผู้อ่านท่ีกาลงั หาข้อมูลเก่ียวกบั ข้อมลู และสารสนเทศหากมขี ้อแนะนาหรอื ข้อผิดพลาดประการใด ผู้จดั ทาขอน้อมรบั ไว้และขออภัย มา ณ ท่นี ้ดี ว้ ย มณฑิตา เครือบุญมา ผู้จดั ทา
ข้ อ มู ล แ ล ะ ส า ร ส น เ ท ศ | ข สำรบญัคานา หนา้สารบญัการออกแบบฐานขอ้ มูล กสารสนเทศ ขฐานข้อมูล 1แผนผงั สรุปเนอื้ หา 3บรรณานุกรม/อ้างองิ 4 5 6
ข้ อ มู ล แ ล ะ ส า ร ส น เ ท ศ | 1การออกแบบฐานขอ้ มูล สิ่งสำคัญที่สุดในกำรพัฒนำระบบสำรสนเทศใด ๆ คือ กำรออกแบบระบบท่ีดี ระบบท่ีได้รับกำรออกแบบมำเป็นอย่ำงดีแล้วน้ันเมื่อนำไปดำเนินกำรพัฒนำก็จะสำมำรถสนองตอบต่อวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ได้อย่ำงถูกต้องและครบถ้วนฐำนข้อมูลนับเป็นปัจจัยหน่ึงที่มีบทบำทสำคัญอย่ำงยิง่ สำหรับระบบสำรสนเทศแบบต่ำง ๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรประมวลผลเนื่องจำกฐำนข้อมูลเป็นส่วนที่ใช้จัดเก็บข้อมูลนำเข้ำของทุกระบบสำรสนเทศ ดังน้นั กำรออกแบบระบบสำรสนเทศจงึ จำเป็นต้องให้ควำมสำคัญต่อกำรออกแบบฐำนข้อมูลด้วย วัตถุประสงค์หลักในกำรออกแบบฐำนข้อมูล คือ กำรสร้ำงฐำนข้อมูลที่มีประสิทธิภำพเพื่อตอบสนองควำมต้องกำรของผู้ใช้งำน ซึ่งกำรออกแบบฐำนข้อมูลในที่นี้จะมีควำมหมำยครอบคลุมถึงกำรออกแบบฐำน ข้อมูลในระดับแนวคิด (Conceptual Level) และกำรออกแบบฐำนข้อมูลในระดับภำยในหรือเชิงกำยภำพ (Internal Level หรอื Physical Level) อย่ำงไรก็ตำมกำรออกแบบฐำนข้อมูลที่ดีและสมบูรณ์นั้นเป็นเร่อื งท่ีค่อนข้ำงทำได้ยำก ซึ่งปัจจัยสำคญั ในกำรออกแบบฐำนขอ้ มูล คือ ควำมสำมำรถในกำรสรรหำวิธีเพ่ือแก้ไขปญั หำนัน้ ๆ อย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพซึ่งโดยทั่วไปกำรออกแบบฐำนข้อมูลเพื่อนำมำใช้งำนภำยในองค์กรสำมำรถจำแนกได้ 2วิธี คือ วิธีอุปนัย(Inductive Approach) และวธิ นี ิรนยั (Deductive Approach) ข้อมูล คือค่ำของตัวแปรในเชิงคุณภำพหรือเชิงปริมำณ ที่อยู่ในควำมควบคุมของกลุ่มของส่ิงต่ำง ๆ ข้อมูลในเรอ่ื งกำรคอมพวิ เตอร์ (หรือกำรประมวลผลขอ้ มลู ) จะแสดงแทนดว้ ยโครงสร้ำงอยำ่ งหนึง่ ซ่งึมักจะเป็นโครงสร้ำงตำรำง (แทนด้วยแถวและหลัก) โครงสร้ำงต้นไม้ (กลุ่มของจุดต่อที่มีควำมสัมพันธ์แบบพ่อลกู ) หรือโครงสร้ำงกรำฟ (กลมุ่ ของจุดต่อที่เชื่อมระหว่ำงกัน) ข้อมูลโดยปกตเิ ปน็ ผลจำกกำรวดั และสำมำรถทำให้เห็นได้โดยใช้กรำฟหรือรูปภำพ ข้อมูลในฐำนะมโนทัศน์นำมธรรมอันหน่ึง อำจมองได้ว่ำเป็นระดับต่ำที่สุดของภำวะนำมธรรมที่สบื ทอดเป็นสำรสนเทศและควำมรู้ ขอ้ มลู ดบิ หรือ ขอ้ มลู ท่ียงั ไม่ประมวลผล เป็นศัพท์อีกคำหน่ึงท่ีเก่ียวข้อง หมำยถึงกำรรวบรวมจำนวนและอักขระต่ำง ๆ ซึ่งมักจะเกิดข้ึนตำมปกติในกำรประมวลผลข้อมูลเป็นระยะ และ ข้อมูลท่ีประมวลผลแล้ว จำกระยะหนึ่งอำจถือว่ำเป็น ข้อมูลดิบ ของระยะถัดไปก็ได้ข้อมูลสนำมหมำยถึงข้อมูลดิบท่ีรวบรวมมำจำกสภำพแวดล้อม ณ แหล่งกำเนิด ท่ีไม่อยู่ในกำรควบคุม ข้อมูลเชิงทดลองหมำยถึงข้อมูลที่สร้ำงขึ้นภำยในสภำพแวดล้อมของกำรค้นคว้ำทำงวิทยำศำสตร์โดยกำรสังเกตและกำรบนั ทึก
ข้ อ มู ล แ ล ะ ส า ร ส น เ ท ศ | 2ความหมายของขอ้ มูล สารสนเทศ และความรู้ ศัพท์คำว่ำข้อมูล สำรสนเทศ และควำมรู้ บ่อยครั้งถูกใช้แทนมโนทัศน์ท่ีทับซ้อนกัน ระดับของภำวะนำมธรรมคือควำมแตกต่ำงหลักท่ีจะนำมำพิจำรณำ ข้อมูลคือระดับของภำวะนำมธรรมต่ำท่ีสุดสำรสนเทศอยู่ในระดับถัดไป และสุดท้ำยควำมรู้คือระดับสูงที่สุดในสำมส่ิงนี้ [1] ข้อมูลโดยตัวมันเองน้ันไม่มีควำมหมำยอะไร เมื่อข้อมูลกลำยเป็นสำรสนเทศ มันจะต้องถูกตีควำมและมีควำมหมำยเกิดข้ึน ตัวอย่ำงเช่นควำมสูงของยอดเขำเอเวอเรสต์โดยท่ัวไปถือว่ำเป็นข้อมูล หนังสือเก่ียวกับลักษณะภูมิประเทศของยอดเขำเอเวอเรสต์ก็อำจถือวำ่ เปน็ สำรสนเทศ และรำยงำนเก่ียวกับสำรสนเทศเชงิ ปฏบิ ัติ เร่ืองเส้นทำงที่ดีที่สดุ ในกำรปีนยอดเขำเอเวอเรสต์ก็เรียกได้ว่ำเป็นควำมรู้ เบย์นอน-เดวีส์ใช้มโนทัศน์ของป้ำยเพ่ือแยกแยะระหว่ำงข้อมูลกับสำรสนเทศ กลำ่ วคือ ข้อมูลคือสญั ลกั ษณต์ ำ่ ง ๆ ในขณะที่สำรสนเทศจะเกิดขึ้นเมื่อสญั ลักษณ์เหล่ำนั้นใช้อ้ำงถึงบำงส่งิ บำงอย่ำง สารสนเทศ (information) [1] เป็นผลลัพธ์ของกำรประมวลผล กำรจัดดำเนินกำร และกำรเข้ำประเภทข้อมูลโดยกำรรวมควำมรู้เข้ำไปต่อผู้รับสำรสนเทศน้ัน สำรสนเทศมีควำมหมำยหรือแนวคิดท่ีกว้ำงและหลำกหลำย ตง้ั แต่กำรใชค้ ำว่ำสำรสนเทศในชีวติ ประจำวนั จนถงึ ควำมหมำยเชิงเทคนิค ตำมปกตใิ นภำษำพูด แนวคิดของสำรสนเทศใกล้เคียงกับควำมหมำยของกำรส่ือสำร เง่ือนไข กำรควบคุม ข้อมูล รูปแบบ คำสั่งปฏบิ ตั กิ ำร ควำมรู้ ควำมหมำย สอื่ ควำมคดิ กำรรับรู้ และกำรแทนควำมหมำย ปัจจุบันผู้คนพูดเกี่ยวกับยุคสำรสนเทศว่ำเป็นยุคที่นำไปสู่ยุคแห่งองค์ปัญญำ นำไปสู่สังคมอุดมปัญญำ หรือสงั คมแหง่ สำรสนเทศ และ เทคโนโลยีสำรสนเทศ แม้วำ่ เมอื่ พูดถึงสำรสนเทศ เป็นคำที่เกี่ยวข้องในศำสตร์สองสำขำ คือ วิทยำกำรสำรสนเทศ และ วิทยำกำรคอมพิวเตอร์ ซึ่งคำว่ำ \"สำรสนเทศ\" ก็ถูกใช้บ่อยในควำมหมำยท่ีหลำกหลำยและกวำ้ งขวำงออกไป และมีกำรนำไปใช้ในสว่ นของ เทคโนโลยีสำรสนเทศ และ กำรประมวลผลสำรสนเทศ ส่ิงที่ได้จำกกำรนำข้อมูลท่ีเก็บรวบรวมไว้มำประมวลผล เพ่ือนำมำใช้ประโยชน์ตำมจุดประสงค์สำรสนเทศ จึงหมำยถึง ข้อมูลท่ีผ่ำนกำรเลือกสรรให้เหมำะสมกับกำรใช้งำนให้ทันเวลำ และอยู่ในรูปที่ใช้ได้สำรสนเทศที่ดีต้องมำจำกข้อมูลที่ดี กำรจัดเก็บข้อมูลและสำรสนเทศจะต้องมีกำรควบคุมดูแลเป็นอย่ำงดี เชน่อำจจะมีกำรกำหนดให้ผู้ใดบ้ำงเป็นผู้มีสทิ ธ์ใิ ชข้ ้อมูลได้ ข้อมูลที่เป็นควำมลับจะต้องมีระบบข้ันตอนกำรควบคุม
ข้ อ มู ล แ ล ะ ส า ร ส น เ ท ศ | 3กำหนดสทิ ธิ์ในกำรแก้ไขหรือกำรกระทำกับข้อมูลว่ำจะกระทำไดโ้ ดยใครบำ้ ง นอกจำกน้ีข้อมลู ทเ่ี ก็บไว้แล้วต้องไมเ่ กิดกำรสูญหำยหรือถูกทำลำยโดยไม่ได้ตงั้ ใจ กำรจดั เกบ็ ข้อมูลที่ดี จะตอ้ งมกี ำรกำหนดรปู แบบของข้อมูลให้มีลักษณะง่ำยต่อกำรจัดเก็บ และมีรูปแบบเดียวกันอย่ำงมีระบบ ข้อมูลแต่ละชุดควรมีควำมหมำยและมีควำมเปน็ อิสระในตวั เอง นอกจำกนไี้ มค่ วรมกี ำรเกบ็ ข้อมูลซ้ำซ้อนเพรำะจะเปน็ กำรสิน้ เปลอื งเนื้อทเ่ี กบ็ ข้อมลู 1. ฐานขอ้ มลู (Database) หมำยถงึ กลมุ่ ของข้อมูลทมี่ คี วำมสัมพนั ธ์กัน นำมำเก็บรวบรวมเขำ้ ไว้ดว้ ยกันอย่ำงมรี ะบบและขอ้ มูลทปี่ ระกอบกนั เป็นฐำนขอ้ มลู นัน้ ตอ้ งตรงตำมวตั ถปุ ระสงค์กำรใช้งำนขององค์กรด้วยเช่นกัน เช่น ในสำนักงำนก็รวบรวมข้อมูล ตั้งแต่หมำยเลขโทรศัพท์ของผู้ที่มำติดต่อจนถึงกำรเก็บเอกสำรทุกอย่ำงของสำนักงำน ซ่ึงข้อมูลส่วนน้ีจะมีส่วนที่สัมพันธ์กันและเป็นท่ีต้องกำรนำออกมำใช้ประโยชน์ต่อไปภำยหลัง ข้อมูลน้ันอำจจะเก่ียวกับบุคคล สิ่งของสถำนที่ หรือเหตุกำรณ์ใด ๆ ก็ได้ท่ีเรำสนใจศึกษำ หรืออำจได้มำจำกกำรสังเกต กำรนับหรือกำรวัดก็เป็นได้ รวมท้ังข้อมูลที่เป็นตัวเลข ข้อควำม และรูปภำพต่ำง ๆ ก็สำมำรถนำมำจัดเก็บเป็นฐำนข้อมูลได้ และที่สำคัญข้อมูลทุกอย่ำงต้องมีควำมสัมพันธ์กัน เพรำะเรำต้องกำรนำมำใช้ประโยชน์ตอ่ ไปในอนำคต 2. ระบบฐานข้อมูล(Database System) หมำยถึง กำรรวมตัวกันของฐำนข้อมูลตั้งแต่ 2ฐำนข้อมูลเป็นต้นไปที่มีควำมสัมพันธ์กัน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นกำรลดควำมซ้ำซ้อนของข้อมูล และทำให้กำรบำรุงรกั ษำตวั โปรแกรมง่ำยมำกข้ึน โดยผ่ำนระบบกำรจัดกำรฐำนขอ้ มูล หรือ เรยี กย่อ ๆ วำ่ DBMS3. ระบบจัดกำรฐำนข้อมูล หมำยถึง กลุ่มโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ชนิดหน่ึง ที่สร้ำงข้ึนมำเพ่ือทำหน้ำท่ีบริหำรฐำนข้อมูลโดยตรง ให้มีประสิทธิภำพมำกที่สุด เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยควำมสะดวกให้ผู้ใช้สำมำรถเข้ำถึงข้อมูลได้ โดยท่ีผู้ใช้ไม่จำเป็นตอ้ งรบั รเู้ กีย่ วกับรำยละเอยี ดภำยในโครงสรำ้ งฐำนข้อมูล พูดง่ำย ๆ กค็ ือ DBMS น้ีเป็นตัวกลำงในกำรเชื่อมโยงระหว่ำงผู้ใช้ และโปรแกรมต่ำงๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับระบบฐำนข้อมูล ตัวอย่ำงของDBMS ทน่ี ยิ มใชใ้ นปจั จบุ นั ได้แก่ Microsoft Access, FoxPro,SQL Server, Oracle, Informix, DB2 เปน็ ต้น
ข้ อ มู ล แ ล ะ ส า ร ส น เ ท ศ | 4หนา้ ทีข่ องระบบจัดการฐานข้อมูล มีดังน้ี1. กำหนดมำตรฐำนข้อมลู2. ควบคุมกำรเข้ำถึงข้อมลู แบบตำ่ ง ๆ3. ดูแล-จัดเก็บข้อมลู ให้มคี วำมถกู ตอ้ งแมน่ ยำ4. จัดเรอื่ งกำรสำรอง และฟนื้ สภำพแฟม้ ขอ้ มลู ระบบสำรสนเทศเป็นกำรปฏิบัติงำนเก่ียวกับเอกสำรจำนวนมำก กำรทำงำนในรูปแบบกำรทำด้วยมือ(Manual)จะต้องใช้เวลำในกำรประมวลผลนำน และขำดควำมน่ำเช่ือถือ ต่อมำจึงมีกำรพัฒนำระบบสำรสนเทศด้วยกำรนำคอมพิวเตอร์มำใช้ในรูปแบบระบบสำรสนเทศทำงคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้ทำงำนได้รวดเร็ว และสำรสนเทศที่ได้ก็มีควำมถูกต้องมำกขึ้น ตัวอย่ำงระบบสำรสนเทศทำงคอมพิวเตอร์ที่นำมำใช้ในปจั จุบนั ไดแ้ ก่ กำรคนื หนงั สอื ในหอ้ งสมุด กำรเก็บ รวบรวมรำยชือ่ หนงั สือ และกำรทำบตั รรำยกำรกระบวนกำรทำงำนระบบสารสนเทศประกอบด้วยกระบวนการทางานหลกั ๆ ดังต่อไปน้ี 1.กำรนำเข้ำข้อมูล (Input) เป็นกำรนำข้อมูลดิบ (Data) ท่ีได้จำกกำรเก็บรวบรวมเข้ำสู่ระบบเพอื่ นำไปประมวลผลให้เปน็ สำรสนเทศ เช่น กำรบนั ทึกกำรขำยรำยวนั ,บันทกึ คะแนนเก็บของนักเรยี น ฯลฯ 2.กำรประมวลผลข้อมูล (Process) เป็นกำรคิด คำนวณ หรือเปล่ียนแปลงข้อมูลดิบให้เป็นสำรสนเทศ อำจทำได้ด้วยกำรเรียงลำดับ กำรคำนวณ กำรจัดรูปแบบ และกำรเปรียบเทียบตัวอย่ำงกำรประมวลผล เช่น กำรคำนวณรำยไดข้ องผ้ปู กครอง กำรนบั จำนวนวนั หยุดรำชกำรบนปฏทิ นิ ฯลฯ 3.กำรแสดงผล (Output) เป็นกำรนำผลลัพธ์ท่ีได้จำกกำรประมวลผลมำแสดงในรูปแบบที่ผู้ใช้ต้องกำร เพ่อื ส่งเสรมิ หรือชว่ ยในกำรตดั สนิ ใจ 4.กำรจัดเก็บข้อมูล (Storage) เป็นกำรจัดเก็บข้อมูลดิบหรือสำรสนเทศทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับระบบสำรสนเทศ เนื่องจำกกำรนำข้อมูลดิบเข้ำสู่ระบบมีกำรจัดเก็บจนถึงระยะยำวระยะหนึ่งแล้วจึงนำไปประมวลผล
ข้ อ มู ล แ ล ะ ส า ร ส น เ ท ศ | 5 ขอ้ มูลและสารสนเทศ ข้อมูล คือ ส่งิ ตา่ งๆ หรือข้อเท็จจริงทเ่ี ราสนใจ ซึ่งไดร้ ับจากประสาท สัมผสัความหมายและประเภท หรือส่ิงต่างๆ การแบง่ ประเทของผู้รบั ข้อมูลขึน้ อยกู่ ับความต้องการ ของของข้อมลู และสารสนเทศ ผูใ้ ช้ ลักษณะของผู้ที่นาไปใช้ และเกณฑท์ นี่ ามาพจิ ารณา การจดั การสารสนเทศ สารสนเทศ คอื ส่ิงท่ีไดจ้ ากการประมวลผลข้อมลู เพ่ือนามาใชป้ ระโยชน์ใน ด้านการวางแผน การพฒั นา การควบคมุ และการตัดสินใจการแบ่งวิธีการประมวลผลขอ้ มลู ประเภทของสารสนเทศสามารถแบ่งได้หลายรปู แบบ เชน่ การแบ่ง สารสนเทศตามหลกั แหง่ คุณภาพ ตามแหล่งกาเนดิ ตามสาขาความรแู้ ละ ระดบั ของสารสนเทศ ตามการนาไปใช้งาน การจดั การสารสนเทศเปน็ การดาเนนิ การหรือกิจกรรมต่างๆ ที่เกยี่ วกบั สารสนเทศ นามาจดั เปน็ ฐานขอ้ มลู โดยมุ่งเนน้ ที่จะรวบรวม ประมวลผล และเผยแผข่ ้อมลู ซ่ึงสามารถดาเนนิ การได้ โดยการเกบ็ รวบรวมและ ตรวจสอบขอ้ มลู การประมวลผลขอ้ มูลและการดแู ลรักษาข้อมูล การประมวลผลข้อมูล สามารถทาไดด้ ้วยการประมวลผลแบบกล่มุ คือ การ ประมวลผลทีเ่ ก็บสะสมข้อมลู ไวช้ ่วงเวลาหน่งึ แล้วจึงทาการประมวลผลใน ครงั้ เดยี ว และการประมวลผลแบบทันที คือ การประมวลผลที่เกิดขนึ้ พรอ้ มกบั ข้อมูลท่ีได้รบั ข้อมูลท่ีไดร้ ับขณะนี้ สารสนเทศมีความสาคญั กบั ผ้ใู ช้ในทกุ ระดบั องคก์ ร สามารถแบง่ สารสนเทศตามระดบั ขององค์กรเป็นสารสนเทศระดบั บคุ คลสารสนเทศ ระดบั กลมุ่ สารสนเทศระดบั องค์กร นอกจากนี ้ยงั สามารถแบง่ สารสนเทศตามระดบั ของผ้บู ริหารได้เป็นผ้บู ริหารระดบั ลา่ ง ผ้บู ริหาร ระดบั กลาง และผ้บู ริหารระดบั สงู อีกด้วย
ข้ อ มู ล แ ล ะ ส า ร ส น เ ท ศ | 6 อ้างองิ รศ.ดร.อานวย เดชชัยศรี. (2556). เทคโนโลยีสารสนเทศ ม.1. กรุงเทพมหานคร :วัฒนาพานิชจากัด จุฬาลัย ปานพยับ. (2556). หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ (ออนไลน์). แหล่งท่ีมา :http://neung.kaengkhoi.ac.th/mdata/mainda2.html สืบคน้ เมอ่ื 18 กรกฎาคม 2561 ชู ติ วั ต ท อ ง ค า . ( 2 5 5 9 ) . ข้ อ มู ล แ ล ะ ส า ร ส น เ ท ศ ( อ อ น ไ ล น์ ) . แ ห ล่ ง ที่ ม า :https://www.mindmeister.com/798183521/_ สบื คน้ เมื่อ 18 กรกฎาคม 2561
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: