1.ปัญญาประดษิ ฐ์ (AI : Artificial Intelligence) คอื เครื่องจกั ร (machine) ที่มีฟังก์ชนั ทีมคี วามสามารถในการทาความเขา้ ใจ เรียนรู้องค์ ความรูต้ ่างๆ อาทเิ ชน่ การรับรู้ การเรียนรู้ การให้เหตผุ ล และการแกป้ ัญหาตา่ งๆ เคร่ืองจกั รท่มี คี วามสามารถ เหลา่ น้ีก็ถอื ว่าเป็น ปัญญาประดษิ ฐ์ (AI : Artificial Intelligence) นน่ั เอง 2.เพราะฉะน้นั จงึ สามารถกล่าวไดว้ ่า AI ถือกาเนิดข้ึนเมื่อเคร่ืองจกั รมคี วามสามารถทจ่ี ะเรียนรูน้ นั่ เอง ซ่ึง AI กถ็ ูกแบง่ ออกเป็นหลายระดบั ตามความสามารถหรือความฉลาด โดยจะวดั จาก ความสามารถในการ ให้เหตผุ ล การพดู และทศั นคตขิ อง AI ตวั น้นั ๆ เมื่อ เปรียบเทยี บกบั มนุษย์ 3.ส่ิงท่ีมนุษยส์ รา้ งข้นึ ใหม้ คี วามสามารถในการคดิ ไดเ้ องโดยท่ไี ม่ตอ้ งสอน คิดและแสดงออกแบบมเี หตุผลได้ เหมือนมนุษย์
1)การปลดลอ็ คหน้าจอโทรศัพท์ด้วย Face ID สิ่งแรกท่คี นส่วนใหญ่ทาหลงั จากตืน่ นอน คือหยิบสมาร์ทโฟนเพ่ือเชค็ ขอ้ มูลข่าวสารต่างๆ และเม่อื โทรศพั ท์ ถูกปลดล็อคหนา้ จอโดยการใช้ biometrics หรือเทคโนโลยีชีวมิติ* เชน่ Face ID ถือเป็ นการใช้ เทคโลยี AI ในรูปแบบหน่ึง ตวั อย่างท่ีทุกคนน่าจะคนุ้ เคยกนั เป็ นอย่างดี คือ Apple Face ID โดย Apple Face ID สามารถมองเหน็ ไดใ้ นรูปแบบ 3 มติ ิ โดยจะเก็บรายละเอยี ดบนในหนา้ ถึง 30,000 จดุ และใช้อลั กอริท่มึ ของ Machine Learning ในการเปรียบเทียบใบหน้าท่กี าลงั สแกนกับรูปท่เี ก็บเอาไว้ เพ่ือท่จี ะตดั สินว่าคนทก่ี าลงั จะปลดล็อคหนา้ จอใชค้ ณุ หรือไม่ โดย Apple กล่าว ว่าโอกาสท่จี ะหลอก Face ID ได้ คือหน่ึงในลา้ น *Biometrics หรือเทคโนโลยีชีวมิติ คือ เทคโนโลยีท่ีใช้ในการระบตุ วั ตน (Identification) และตรวจพิสูจน์ผใู้ ช้ (Verification) โดยใชเ้ ทคนิคการแปรคา่ เอกลกั ษณ์เฉพาะของแต่ละบคุ คล มา วิเคราะห์และเปรียบเทียบความแตกต่าง ทาให้มีความปลอดภยั มากข้นึ งา่ ยข้นึ เร็วข้ึน และสะดวกย่ิงข้นึ กว่าเดิม
2)โซเชียลมีเดีย สิ่งที่คนมกั ทาต่อไปจากการหยิบโทรศพั ทแ์ ลว้ คือการเช็คข่าวสาร หรือเรื่องราวอพั เดทบนโซเชียลมีเดยี ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter และอ่ืนๆ เทคโนโลยี AI ไม่เพียงแต่อยู่ เบ้ืองหลงั ในการเลือกโพสตต์ ่างๆท่ีเก่ียวขอ้ งกับสิ่งท่คี ุณสนใจข้นึ มาโชว์ โดยดูจากความสนใจ และการมี ปฏิสัมพนั ธ์บนโซเชียลมีเดียในอดตี ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ยงั สามารถแนะนาเพ่อื นท่คี ุณอาจจะรู้จกั กรอง ข่าวปลอม รวมถึง Machine Learning ยงั ช่วยป้องกนั ไม่ให้เกิดการกลนั่ แกลง้ คกุ คามผ่านโลกไซ เบอร์ (Cyberbullying) ไดอ้ ีกดว้ ย
3)การส่งอีเมล์ หรือข้อความต่างๆ เราทุกคนมกี ารส่งอีเมลก์ นั ทกุ วนั มีเครื่องมือ เช่น Grammarly ที่ช่วยเช็คความถูกตอ้ ง ของคาและไวยากรณ์บนอเี มล์ เพ่ือช่วยทาใหก้ ารเขียนอีเมลข์ องคณุ ไม่มีคาผิด หรือ Gmail ท่ี มีการแนะนาคา และไวยากรณ์ที่ถกู ตอ้ งใหก้ บั ผูใ้ ชง้ าน ซ่ึงเครื่องมือเหล่าน้ีไดน้ าเทคโนโลยี AI และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) มาใช้ งาน หรือในการรบั อเี มล์ ฟิ ลเตอร์สแปมใชเ้ ทคโนโลยี AI ในการท่บี ลอ็ กอีเมลท์ อ่ี าจจะเป็ น อเี มลส์ แปม หรือระบวุ ่าอเี มลท์ ่ผี ูร้ ับจะไดร้ ับจะอยใู่ นหัวขอ้ ไหนในอินบอ็ กซ์ของผูร้ ับ รวมถึง โปรแกรมแอนต้ไี วรัสยงั ไดน้ าเทคโนโลยี Machine Learning มาช่วยในการป้องกนั ความปลอดภยั ให้กบั อีเมลข์ องคุณอกี ดว้ ย
4)การค้นหาบน Google เชื่อว่าทุกคนตอ้ งไดใ้ ชก้ ารคน้ หาบน Google กนั ทุกวนั ไม่วา่ จะเป็นการคาตอบ เก่ียวอะไรบางอยา่ ง หรือหาสินคา้ และบริการท่ีเราตอ้ งการรู้จกั หรือใชบ้ ริการอยู่เป็น ประจา Search engines ไม่สามารถคน้ หาขอ้ มูลทวั่ อินเตอร์เน็ตให้เราได้ ถา้ หากไม่มีเทคโนโลยี AI หรือเราอาจจะเคยเจอโฆษณาท่ีตามเราไปทุกท่ี ไม่ว่าเราจะอยู่ ท่ีไหน สิ่งเหลา่ น้ีทาไดด้ ว้ ยเทคโนโลยีของปัญญาประดิษฐ์เช่นกนั โดยดูจากการคน้ หา ในอดีต และนาเสนอให้กบั แต่ละบุคคล (Personalize) โดยมีเป้าหมาย คอื การ นาเสนอส่ิงท่ีผูใ้ ช้แต่ละคนสนใจ
5)การสั่งงานด้วยเสียง ต้ังแต่การสอบถามเส้นทางไปร้านอาหารโปรด จนถึงการสอบถามพยากรณ์อากาศ ประจาวัน ผู้ช่วยในการส่ังงานด้วยเสียงกลายเป็ นส่ิงท่ีหลายๆคนขาดไม่ได้ใน ชีวิตประจาวัน ตวั อย่างผู้ช่วยในการส่ังงานด้วยเสียง ได้แก่ Siri, Alexa, Google home จนถึง Cortana โดยเครื่องมือเหล่านี้ใช้ระบบการ ประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) โดยเทคโนโลยี AI จะประมวลผล และตอบคาถามให้กบั ผู้ใช้งาน
6)อปุ กรณ์สมาร์ทโฮม จากบ้านปกติกลายเป็ นบ้านท่ี “ฉลาด”มากขึน้ ด้วยเทคโนโลยี AI หลายๆบ้านอาจจะ คุ้นเคยกบั เคร่ืองควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ เช่น Nest ที่สามารถเรียนรู้เก่ยี วกับการ ปรับอุณหภูมติ ามความชอบของเจ้าของบ้าน รวมถึงตู้เย็นอัจฉริยะท่ีสามารถบอกได้ว่า ของอะไรบ้างท่คี ุณต้องการ แต่ตอนนี้ไม่มีของน่ันอยู่ในตู้เย็น รวมถึงยังสามารถแนะนา ประเภทของไวน์ท่จี ะเข้ากบั มื้อเย็นของคุณให้ได้อีกด้วย
7)การเดนิ ทางไปทางาน เทคโนโลยี AI เขา้ มาช่วยในการเดินทางมากกว่าการบอกเส้นทาง Google maps และ แอปการเดินทางอ่ืนๆ ใช้ AI ในการตดิ ตามการจราจร เพ่อื แจง้ ขอ้ มูลการจราจร และสภาพ อากาศไดแ้ บบเรียลไทม์ รวมถึงแนะนาเส้นทางท่ีสามารถเล่ียงการจราจรที่หนาแน่นได้ นอกจากน้ันรถบางคนั อาจจะมีระบบเทคโนโลยกี ารช่วยเหลือผูข้ บั เช่นทปี่ ระเทศสหรัฐอเมริกา รัฐแคลิฟอร์เนีย สามารถใชบ้ ริการ Self-driving car จากบริษทั ลูกของ Google ท่ี ชื่อว่า Waymo ได้
8)ธุรกรรมทางการเงนิ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐส์ ามารถนามาประยกุ ตใ์ ช้กบั ระบบของธนาคารไดห้ ลากหลายวิธี ส่วน ใหญ่จะเก่ียวขอ้ งกบั เรื่องของความปลอดภยั ในการทาธุรกรรมทางการเงิน และป้องกนั การทุจริต ระบบ AI เป็ นเทคโนโลยีทอ่ี ยเู่ บ้ืองหลงั กิจกรรมเหล่าน้ี ไดแ้ ก่ การฝากเช็คดว้ ยการสแกนดว้ ยมอื ถอื ระบบแจง้ เตอื นเมอ่ื ยอดเงินคงเหลือตา่ หรือแมก้ ระทง่ั การล็อคอินเขา้ ไปใช้ระบบโมบายแบงค์ กิ้ง ถา้ คุณเขา้ ไปซ้ือกางเกงท่ีร้านเส้ือผา้ แห่งหน่ึง ระบบ AI จะวิเคราะห์ว่าธุรกรรมน้ีเป็ นธุรกรรม ที่คุณใชเ้ ป็ นปกติหรือไม่ เพ่ือทจ่ี ะพิสูจน์ว่ามีบุคคลท่ีไม่พึงประสงคน์ าบตั รเครดิตของคุณไปใช้ หรือไม่
9)การแนะนาสินค้าของอเมซอน (Amazon) บริษทั คา้ ปลีกท่ใี หญ่ท่ีสุดของสหรัฐอเมริกา “อเมซอน” เป็ นท่ีท่ลี ูกคา้ ไดส้ ัมผมั กบั ประสบการณ์ การนาเทคโนโลยี AI มาใชไ้ ดห้ ลากหลายช่องทางจนเป็ นเรื่องปกติ อเมซอนไดใ้ ชอ้ ลั กอรึท่มึ มา เรียนรู้ว่าคุณชอบสินคา้ อะไร และคนท่ีคลา้ ยกบั คุณชอบสินคา้ อะไร เพ่อื ท่จี ะแนะนาสินคา้ ท่ี เหมาะกบั คณุ อเมซอนมน่ั ใจในการวเิ คราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analysis) เป็ นอยา่ งมากว่าจะสามารถแนะนาในสิ่งที่ลูกคา้ ตอ้ งการได้ ก่อนทลี่ ูกคา้ จะกดเพ่ิมสินคา้ น้ันลงใน ตะกร้า
10)เนต็ ฟลิกซ์ (Netflix) เม่ือถึงเวลาพกั ผอ่ น หลายคนเลือกดู Netflix หลงั จากเลิกงาน หรือในวนั หยุด เทคโนโลยี AI เป็นผูอ้ ยู่เบ้ืองหลงั ของการแนะนาหนงั หรือซีรีส์ที่น่าสนใจให้กบั เรา โดยเก็บขอ้ มูลจากประวตั ิการดู นักแสดง ระยะเวลาท่ีดูหนงั เรื่องน้นั และอ่ืนๆ และจาก การสารวจ 80%ของหนัง หรือซีรีส์ท่ีเราดูใน Netflix มาจากระบบการแนะนา น่นั เอง
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: