ชื่อ นวตั กรรม LSR Mathematics Model รปู แบบการพฒั นาการบริหารงานการ เรยี นการสอนกลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนวัดลาสารอง ความเป็นมาและความสาคัญ การศึกษาเป็นรากฐานสาคัญของการพัฒนาประเทศที่คาดหวังที่มี ผลต่อบทบาท ต่างๆ ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งขับเคล่ือนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และ ความรุ่งเรอื งของประเทศ ปัจจุบนั การพฒั นาการศึกษาไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปตาม บริบทของโลกทไี่ ม่อยู่น่ิง เพื่อก้าวสู่ศตวรรษใหม่ โดยมีเป้าประสงค์หลัก ของการศึกษาท่ีชัดเจน มีระบบและกลไกที่จะขับเคล่ือน แนวนโยบายและยุทธศาสตร์ ของชาติโดยต้องดาเนินการทั้งระบบครบวงจรอย่างมีความเข้าใจในภาพรวม เพ่ือให้ สามารถกาหนดทิศทางในการพัฒนาและผลักดันให้ทุกองค์ประกอบสามารถดาเนิน ไปได้อย่าง สอดคล้องด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการศึกษาให้มีทักษะเพื่อการ ดารงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ซ่ึงต้องให้ได้ท้ังสาระวิชาและทักษะ 3 ด้าน คือ ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี และ ทักษะชีวิตและอาชีพ เพ่ือความสาเร็จท้ังด้านการทางานและ การดาเนินชีวิต ดังนั้น การใช้นวัตกรรมการบริหารการศึกษาจึงเป็นสิ่งจาเป็นทั้งด้านหลักสูตรที่หลากหลาย หลักสูตร บูรณาการท่ีสอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียน ด้านการจัดการเรียนการสอนท่ี ส่งเสริม การเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้านสื่อการสอนที่ทันสมัยใช้เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ ด้านการประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และด้านการบริหาจัดการท่ีอิสระและสอดคล้องกับศักยภาพและ ความพร้อมของโรงเรียนและชุมชน เพื่อสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย โดยร่วมกันขับเคลื่อน ให้เกิดผลสาเร็จ ในการพัฒนาการศึกษาได้อย่างสมดุลและยั่งยืนตอบสนองพลวัตรการเปลี่ยน แปลง ในศตวรรษที่ 21 เพื่อเสริมสร้างสังคมไทยให้ก้าวสู่สังคมแห่งปัญญาการเรียนรู้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลง ตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในทศวรรษทีผ่ ่านมา มีหลักฐานเชิง ประจักษ์ทแ่ี สดงใหเ้ ห็นว่าโลกปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้า อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างย่ิง องค์ความรู้ในศาสตร์ด้านส่ือและเทคโนโลยีท่ีก้าวล้าที่ได้รับการพัฒนา ให้สามารถเชื่อมโยง ข้อมูลข่าวสารได้ทั่วถึงกันและมีบทบาทสาคัญในวิถีมนุษย์ กระแสการเปล่ียนแปลง ที่เกิดขึ้นในศตวรรษท่ี 21 ซึ่งเป็นโลกของเศรษฐกิจการค้า โลกของสิ่งแวดล้อมและ พลังงาน โลกาภิวัตน์ และเครือข่าย ความเป็นเมือง ความอยู่ดีมีสุข การมีอายุยืนยาว ล้วน ส่งผลต่อการดารงชีพของคนในสังคม อย่างชัดเจนท้ังทางบวกและทางลบ ผู้มีชีวิตอยู่ ต้องปรับตัวให้สามารถดารงอยู่ได้ การใช้องค์ความรู้เดิม ย่อมไม่เพียงพอต่อการมี คุณภาพชีวิตท่ีดี ดังน้ันส่ิงสาคัญท่ีจะช่วยพัฒนาให้สามารถอยู่ได้คือการปรับตัว ดา้ น การศกึ ษาอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะหลักสตู ร การจัดการเรียนการสอนซึ่งถอื เป็นหวั ใจสาคญั ของการพัฒนา คุณภาพการศึกษาที่จะทาให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีคุณภาพ มีความเจริญงอกงาม มีทักษะที่จาเป็นท่ีจะสามารถ ดารงชีวิตในศตวรรษท่ี 21 อย่างไรก็ตามในการพัฒนาการศึกษาต้องอาศัยพลังและการขับเคลื่อนด้วย โดยมีความรว่ มมือจากทกุ ฝา่ ย เพ่ือใหท้ นั กับความเปลยี่ นแปลงโดยคิดสร้างสรรค์ แนวทางการพฒั นาการศึกษา ใหม่ๆ ซึ่งต่างไปจากเดิมหรือท่ีเรียกกันว่านวัตกรรม การศึกษา เพ่ือให้เกิดผลการเปลี่ยนแปลงในการเรียนรู้ เกดิ ประสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ล สูงสุดแก่ผู้เรียนและใหเ้ ป็นไปตามพระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ 2553 ท่ีมีเป้าหมาย คือการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลท่ีมีคุณภาพด้วยกระบวนการเรียนรู้ โดยการถ่ายทอด ความรู้ การฝึกอบรม การสืบสานทางวฒั นธรรม ความกา้ วหนา้ ทางวิชาการ ซึง่ การที่จะ พัฒนาผูเ้ รยี นเพื่อนาไปสู่
ทักษะเพื่อการดารงชีวิตในศตวรรษที่ 21 นั้นต้องมีความเข้าใจ ภาพรวมของการศึกษาท้ังระบบ และเห็น ความสาคัญในการท่ีจะร่วมกันพัฒนาการ ศึกษาไทยแบบองค์รวมครบวงจรต้ังแต่ระดับนโยบายจนถึงระดับ ปฏิบัติการซ่ึงไม่อาจ ทาการพัฒนาแบบแยกส่วนได้ เพ่ือให้สามารถกาหนดทิศทางและกระบวนการผลักดัน ให้ทุกองคป์ ระกอบสามารถขับเคล่ือนได้อย่างเปน็ รูปธรรม วัตถุประสงค์ การจัดการศึกษาจึงมีความจาเป็นในการยกระดับคุณภาพผู้เรียนให้มีคุณภาพท่ีพึง ประสงค์ และมี ความรู้ ความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแก้ปัญหา มีทักษะชีวิต และมีความสามารถ ทางเทคโนโลยี โรงเรียนเป็นหน่วยบริการทางการศึกษาท่ีสาคัญในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีศักยภาพเป็น พลโลก ครูและ บุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ต้องมีความสนใจ เป้าหมายในการพัฒนาการจัด การศึกษา กระบวนการ จัดการเรียนรู้สามารถนาไปพัฒนาผู้เรียนได้อย่าง มีประสิทธิภ าพ (กระทรวงศึกษาธิการ. 2556 :ออนไลน์) ผลจากการใช้นวัตกรรม LSR Mathematics Model รูปแบบ การพัฒนาการบริหารงานการเรียนการสอนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนวัดลาสารอง พบวา่ ผลการ ดาเนนิ งานโครงการ/กิจกรรมจากนวตั กรรม 3 ด้าน อยใู่ นระดับ ดีมาก แต่จะต้องมกี ารพฒั นาให้สอดคล้องกับ หลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล และความต้องการ ของผู้ปกครอง นักเรียน และสังคมปัจจุบัน รวมถึงการ พัฒนารูปแบบนวัตกรรมให้ครอบคลุมการบริหารงาน ทุกด้าน เพ่ือพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและครูผู้สอนสู่ความ เป็นเลิศ 1. เพอื่ พัฒนารปู แบบการบรหิ ารจดั การในทกุ ดา้ นสู่ความเปน็ เลิศ 2. เพือ่ พฒั นาคุณภาพผู้เรยี นตามมาตรฐานโรงเรียนมาตรฐานสากล 3. เพอ่ื พฒั นาคุณภาพครผู สู้ อน กรอบแนวคดิ การออกแบบนวตั กรรม นวตั กรรม LSR Mathematics Model รูปแบบการพฒั นาการบริหารงานการเรียนการสอนกลุ่ม สาระคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนวัดลาสารอง ได้พัฒนามาจากนวัตกรรม กลยุทธ์สู่การพัฒนาการบริหารงาน โดยมีรูปแบบการใช้ LSR Mathematics Model รูปแบบการพัฒนาการบริหารงานการเรียนการสอนกลุ่ม สาระคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนวัดลาสารอง ดาเนินการจัดโครงการ/กิจกรรมให้สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ พันธกิจของโรงเรียน โดยนาสมรรถนะ หลักของโรงเรียนมากกาหนดรูแบบการจัดโครงการ/กิจกรรม ใช้ทฤษฎีระบบ (System Theory) และวงจร คุณภาพเดมมิ่ง P-D-C-A และใช้หลักการเพ่ิมประสิทธิผลของ ก า ร ท า ง า น แ ล ะ ภ า ว ะ ผู้ น า 7 Habits of Highly Effective People ข อ ง ส ตี เ ฟ น อ า ร์ . โ ค ว์ วี ย์ ซ่ึงจะมีความสัมพันธ์ระหว่างวิธีปฏิบัติท่ีเป็นเลิศกับเป้าหมายและจุดเน้นของ สพป./สพฐ./สถานศกึ ษา ในการ พฒั นาคุณภาพผู้เรียนนั้น ทางโรงเรียนได้บริหารจัดการ ตามวิสัยทัศน์ของโรงเรียน คือ “โรงเรียนวัดลาสารอง จัดการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา มุ่งผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เนน้ คุณธรรม พัฒนาบุคลากร จดั การเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กา้ วทันเทคโนยีสู่ศตวรรษท่ี 21” นอกจากน้ี ยงั ได้ นาพันธกิจของโรงเรยี น สู่การปฏิบัติ คือ “ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ พัฒนา แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย และสง่ เสรมิ ศักยภาพของผเู้ รียน” และสอดคล้องกับจุดเนน้ ของโรงเรียนในด้าน คุณภาพผู้เรยี นคอื
1. การพัฒนาคุณลักษณะและสมรรถนะผู้เรียน 2)การยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน นอกจากนี้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้วย LSR Mathematics Model ในคร้ังนี้ ยังสอดคล้องกับนโยบายของ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ดังน้ี 1. ด้านผู้เรียน ข้อ 1.1 นักเรียนมีสมรรถนะสาคัญ สูม่ าตรฐานสากล ในประเด็น 1.2นักเรียน ป.6 มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนจากการทดสอบระดับชาติ (O-net) กลุ่มสาระหลัก เพิ่มขึ้นเฉล่ียไม่ น้อยกว่า รอ้ ยละ 3 ข้อ 1.3 นกั เรียนท่ีมคี วามตอ้ งการพิเศษ ได้รบั การสง่ เสริม และพัฒนาเต็มศักยภาพ วิธีปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ (BEST PRACTICES) และโรงเรียนวัดลาสารองมี เด็กนักเรียน ทุกคน ได้รบั โอกาสทางการศึกษาทีม่ คี ุณภาพ ตามมาตรฐานการเรยี นรู้ของหลกั สตู ร 2. ด้านครู ข้อ 2.1 ครูได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ และสมรรถนะ ผ่านการปฏิบัติจริงและ การ ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง มีประเด็นสาคัญ ดังน้ี“1) ครูได้รับการพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาการ คิด การวัดประเมินผลของครู ให้สามารถพัฒนาและประเมินผลนักเรียนเป็นรายบุคคล 2) ครูสามารถ จัดการเรียนรู้ในวิชาที่โรงเรียนต้องการ ได้ด้วยตนเองหรือใช้สื่อเทคโนโลยี 3)ครูได้รับการนิเทศแบบ กัลยาณมิตร โดยเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และโดยเพ่ือนครูท้ังในโรงเรียนเดียวกัน หรือระหว่างโรงเรียน หรือ ภาคส่วนอ่ืน ๆ ตามความพร้อมของโรงเรียน 4) ครูได้รับการช่วยเหลือให้จัดการเรียนรู้ได้อย่างมี ประสิทธิผล โดยชุมชนแหง่ การเรียนรูข้ องครูในพ้นื ที่ทง้ั ในโรงเรยี นเดยี วกนั ระหวา่ งโรงเรียน หรอื อืน่ ๆ 3. ด้านการบริหารจัดการ ข้อ 3.1 สถานศึกษาและสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา บริหารจัดการ โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์เน้นการมีส่วนร่วม และมีความรับผิดชอบต่อผลการดาเนินงาน ในประเด็น “สถานศึกษา บริหารจัดการโดยมุ่งผลสัมฤทธ์ิ เน้นการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และการมีความรับผิดชอบต่อผล การ ดาเนินงาน” ข้อ 3.2 สถานศึกษาและสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา จัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ตาม มาตรฐาน ในประเด็น “สถานศกึ ษา มีระบบประกันคุณภาพภายใน ได้ระดับมาตรฐานของสานักงานเขต พื้นท่ีการศึกษา และหรือผ่านการรับรองจากสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน)” 6. แนวคิด หลักการ ทฤษฎีท่นี ามาใช้ในการพัฒนา BP การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียนดว้ ย LSR Mathematics Model ครั้งน้ี ข้าพเจ้าได้บูรณาการ แนวคิดดังนี้ 1)การบริหารด้วยวงจรเดมม่ิง (PDCA) 2) ทฤษฎีระบบ (Input, Process, Product) 3)แนวคิดในการจัดการศึกษาใน ศตวรรษท่ี 21 ของรุ่งนภา จิตรโร จนรักษ์(2556: ออนไลน์) ที่ กล่าวเน่ืองในวนั ครูแห่งชาติ ปี 2556 ว่าสานักงานส่งเสรมิ สังคมแห่งการเรียนรู้ และคณุ ภาพเยาวชนได้ สารวจความเห็นของครสู อนดจี านวน 210 คน โดยกลมุ่ ตวั อย่างกระจายใน 4 ภูมิภาค ของประเทศ เพือ่ สอบถามถงึ ปจั จัยท่เี ป็นอปุ สรรคของการทาหน้าท่ีครู และแนวทางการส่งเสริมครใู หส้ ามารถ ปฏิบัติหน้าท่ี ได้ดีย่ิงข้ึน ซ่ึงพบ 6 ปัญหาสาคัญที่กลายเป็นอุปสรรคของการทาหน้าที่ครู ประกอบด้วย 1) ภาระหนัก นอกเหนือจากการสอน 22.93% 2) จานวนครูไม่เพียงพอ สอนไม่ตรงกับวุฒิ 18.57% 3) ขาดทักษะด้าน ไอซีที 16.8% 4) ครูรุ่นใหม่ขาดจิตวิญญาณ ขณะท่ีครูรุ่นเก่าไม่ปรับตัว 16.49% 5) ครูสอนหนัก ส่งผลให้ เด็กเรียนมากขึ้น 14.33% และ 6) ขาดอิสระในการจัดการเรียนการสอน 10.88% สว่ นปัจจัยส่งเสริมการ ทาหน้าท่ีของครูให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นพบว่า อันดับ 1 คือการอบรม แลกเปลี่ยน และสร้างเครือข่าย การเรียนรู้ 19.32%, การพัฒนาตนเองในเร่ืองไอซีที 19%, การเพ่ิมฝ่ายธุรการ 18.01%,ปรับการประเมนิ 3 วทิ ยฐานะ 17.12%,
การลดช่ัวโมงการเรียนการสอนของครูและการเรียนของเด็ก 13.42% อย่างไรก็ตาม ปัจจัยส่งเสริมที่ ครูต้องการพบว่า 39% เป็นปัจจัยเพื่อการพัฒนากระบวนการสอน เพื่อถ่ายทอดความรู้แก่ศิษย์ให้มี ประสิทธิภาพย่ิงข้ึนจึงสะท้อนให้ถึงจิตวิญญาณของความเป็นครู 4)แนวคิดในการจัดการศึกษาใน ศตวรรษที่ 21 ของไพฑูรย์ สินลารัตน์(2556: ออนไลน์) ที่กล่าว ว่า ครูไทยยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 ตอ้ งเปล่ียนบทบาท จากผู้ถ่ายทอดความรู้เป็นผู้อานวย ความรู้แนวทางในการพัฒนาทักษะครูไทยในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย ทักษะ 7 ด้าน ได้แก่ 1) ทักษะใน การต้ังคาถาม เพ่ือช่วยให้ศิษย์กาหนดรู้เป้าหมายและคิดได้ด้วยตนเอง 2) ทักษะที่สอนให้เด็กหาความรู้ได้ ด้วยตัวเองและด้วยการลงมือปฏิบัติ 3)ทักษะในการคัดเลือกความรู้ ตาม สภาพแวดล้อมจริง 4)ทักษะใน การสร้างความรู้ ใช้เกณฑก์ ารทดสอบและตรวจสอบความถูกตอ้ งอย่างไร เพ่ือ ทาให้ศิษย์เกิดความเข้าใจ อย่างชัดแจ้ง 5)ทักษะให้ศิษย์คิดเป็น หรือตกผลึกทางความคิด 6)ทักษะในการ ประยุกต์ใช้ และ 7)ทักษะใน การประเมินผล ซ่ึงครูยุคใหม่จาเป็นต้องมีทักษะทั้ง 7 ด้านในการเป็นผู้อานวย ความรใู้ หเ้ ด็ก แทนท่ีจะเป็น ผู้ถ่ายทอดความรู้เหมอื นก่อน การบูรณาการแนวคดิ ดังกล่าว สรปุ เป็นภาพได้ ดงั น้ี ภาพท่ี 1 แนวคิดในการบูรณาการ LSR Mathematics Model จากนั้น ทางโรงเรียนได้บูรณาการแนวคิด ดงั กล่าวเปน็ LSR Mathematics Model โรงเรยี นวดั ลาสารองดังนี้ ทฤษฎรี ะบบ 7 Habits of Highly System Theory LSR model
นวัตกรรม LSR Mathematics Model รูปแบบการพัฒนาการบริหารงานการเรียนการสอนกลุ่มสาระ คณิตศาสตร์ ของโรงเรียนวัดลาสารอง ได้พัฒนามาจากนวัตกรรม กลยุทธ์สู่การพัฒนาการบริหารงาน โดยมีรูปแบบการใช้ LSR Mathematics Model รูปแบบการพัฒนาการบริหารงานการเรียนการสอนกลุ่ม สาระคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนวัดลาสารอง ดาเนินการจัดโครงการ/กิจกรรมให้สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ พันธกิจของโรงเรยี น โดยนาสมรรถนะ หลักของโรงเรียนมากกาหนดรูแบบการจัดโครงการ/กิจกรรม ใชท้ ฤษฎี ระบบ (System Theory) และวงจร คุณภาพเดมม่ิง P-D-C-A และใชห้ ลักการเพ่ิมประสิทธิผลของการทางาน ให้มปี ระสทิ ธิภาพมากขึ้น BPL B: Basic to be the best 1.Student Quality model (สร้างพืน้ ฐานเพื่อการศึกษาทม่ี ี (คุณภาพผเู้ รียน) 2.Teacher Quality P ประสิทธภิ าพ) (คุณภาพผเู้ รียน) AD 3.Assurance Quality Pm: oPdlaeln C P: Participate (มสี ่วนร่วม) model L: Learn to teach (ครูเรียนรู้วธิ ีสอน) : Learn to know (นักเรียนเรียนรู้วธิ ีรู้)
กระบวนการพฒั นา 1. กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดลาสารอง ปีการศึกษา 2561 จานวนนักเรียน 8 คน 2. ข้ันตอนการพัฒนา กลวิธีในการขับเคล่ือนสู่ LSR Mathematics Model โรงเรียนวัดลาสารอง การ ปฏบิ ัติจริงใหเ้ กดิ ผลสาเรจ็ น้ัน ทางโรงเรยี นได้ดาเนนิ การ ดงั น้ี 1) L: (Learning) การเรียนรู้ไม่ว่าเราจะทาอะไรทุกอย่างก็เกิดการเรียนรู้ไดท้ ั้งสิน้ เพียงแต่เราต้องใช้ความคิด ไปด้วยกับการทาสงิ่ น้ันๆ คอื ทาไปคิดไป ขอ้ สาคัญคอื เราใช้ความคิดให้เปน็ หรอื ไม่ ความคดิ ท่ดี ี สร้างสรรค์มันก็เกิดประโยชน์แต่ความคิดไม่ดีหรือไม่รู้เท่าทันก็เกิดโทษได้ ความหมายของการเรียนรู้ในทาง จิตวิทยาน้ัน หมายถึง “การเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของบุคคลอย่างค่อนข้างถาวร อันเป็นผลมาจากการ ฝึกฝนหรือการมีประสบการณ์” การเรียนรู้นั้นไม่ใช่เปน็ การส่งั สอนหรือการบอกเล่าให้เข้าใจและจาได้ เท่าน้ัน แต่ความหมายคลุมไปถึงการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมอันเป็นผลจากการสังเกตพิจารณา ไตร่ตรอง แก้ปัญหาท้ังปวง การเรียนรู้เป็นการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม การเรียนรู้เป็นความเจริญงอกงาม การ เปล่ียนแปลงพฤติกรรมที่เป็นการเรียนรู้ต้องเน่ืองมาจากประสบการณ์หรือการฝึกหัดและพฤติกรรมท่ี เปลี่ยนแปลงไปนั้นควรจะต้องมีความคงทนถาวรเหมาะแก่เหตุเมื่อพฤติกรรมด้ังเดิมเปลี่ยนไปสู่ พฤติกรรมที่ มงุ่ หวงั ก็แสดงว่าเกดิ การเรยี นรขู้ ้นึ แล้ว หลักการการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ตามทฤษฎีของ Bloom (Bloom's Taxonomy)ได้แบ่งการเรยี นรู้เป็น 6 ระดับดงั น้ี พฤติกรรมเก่ียวกับสติปัญญา ความคิด ความสามารถในการคิดเรื่องราวต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพซ่ึง พฤติกรรมน้แี บ่งเป็น 6 ระดบั ได้แก่ 1. ความรู้ (Knowledge) เป็นความสามารถในการจดจาแนกประสบการณ์ต่างๆและระลึกเรื่องราวนั้นๆ ออกมาได้ถกู ต้องแม่นยา 2. ความเข้าใจ (Comprehension) เป็นความสามารถบ่งบอกใจความสาคัญของเร่ืองราวโดยการแปล ความหลัก ตคี วามได้ สรปุ ใจความสาคัญได้ 3. การนาความรู้ไปประยุกต์ (Application) เป็นความสามารถในการนาหลักการ กฎเกณฑ์และ วธิ ดี าเนินการตา่ งๆของเรื่องท่ีได้รมู้ า นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในสถานการณใ์ หมไ่ ด้ 4. การวิเคราะห์ (Analysis) เป็นความสามารถในการแยกแยะเร่ืองราวที่สมบูรณ์ให้กระจายออกเป็น ส่วนยอ่ ยๆไดอ้ ยา่ งชัดเจน 5. การสังเคราะห์ (Synthesis) เป็นความสามารถในการผสมผสานส่วนย่อยเข้าเป็นเรื่องราวเดียวกัน โดย ปรบั ปรุงของเกา่ ให้ดีข้นึ และมคี ณุ ภาพสงู ข้นึ 6. การประเมินค่า (Evaluation) เป็นความสามารถในการวินิจฉัยหรอื ตัดสินกระทาส่ิงหนึ่งส่ิงใดลงไป การ ประเมินเกีย่ วขอ้ งกบั การใช้เกณฑ์คือ มาตรฐานในการวัดที่กาหนดไว้
ลาดับขน้ั ของการเรียนรู้ ในกระบวนการเรียนรู้ของเราน้นั จะประกอบด้วยขน้ั ตอนพื้นฐานทส่ี าคญั 3 ข้ันตอนดว้ ยกัน กล่าวคือ 1. ประสบการณ์ (experience) ในบุคคลปกติทุกคนจะมีประสาทรับรู้อยู่ด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนใหญ่ท่ีเป็นที่ เข้าใจก็คือ ประสาทสัมผัสทั้งห้า ซึ่งได้แก่ ตา หู จมูก ล้ิน และผิวหนัง ประสาทรับรู้เหล่านี้จะเป็นเสมือน ชอ่ งประตูที่จะให้บุคคลได้รับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ถ้าไม่มีประสาทรับรู้เหล่านี้แลว้ บุคคลจะไม่ มีโอกาสรับรู้หรือมปี ระสบการณ์ใด ๆ เลย ซึ่งก็เท่ากับเขาไม่สามารถเรียนร้สู ่ิงใดๆ ได้เลย ประสบการณ์ ต่างๆ ที่บุคคลได้รับนั้นย่อมจะแตกต่างกัน บางชนิดก็เป็นประสบการณ์ตรง บางชนิดเป็นประสบการณ์ ทางอ้อม บางชนดิ เป็นประสบการณร์ ปู ธรรมและบางชนิดเป็นประสบการณ์นามธรรม 2. ความเข้าใจ (understanding) หลังจากบุคคลได้รับประสบการณ์แล้ว ขั้นต่อไปก็คือตีความหมายเป็น หลักการ(concept) ในประสบการณ์น้ัน กระบวนการน้ีเกิดขึ้นในสมองหรือจิตของบุคคลเพราะสมองจะ เกิดสัญญาณ (percept) และมีความทรงจา (retain) ข้ึนซ่ึงเราเรียกกระบวนการน้ีว่า \"ความเข้าใจ\"ในการ เรียนรู้นั้น บุคคลจะเข้าใจประสบการณ์ท่ีเขาประสบได้ก็ต่อเมื่อเขาสามารถจัดระเบียบ (organize) วิเคราะห์(analyze) และสังเคราะห์ (synthesis) ประสบการณ์ต่างๆ จนกระท่ังหาความหมายอันแท้จริง ของประสบการณ์นั้นได้ 3. ความนึกคิด (thinking) ความนึกคิดถือว่าเป็นขั้นสุดท้ายของการเรียนรู้ ซึ่งเป็นกระบวนการท่ีเกิดข้ึนใน สมอง Crow (1948) ได้กล่าวว่า ความนึกคิดที่มีประสิทธิภาพนั้น ต้องเป็นความนึกคิดที่สามารถจัด ระเบียบ (organize) ประสบการณ์เดิมกับประสบการณ์ใหม่ที่ได้รับให้เข้ากันได้ สามารถท่ีจะค้นหา ความสัมพันธ์ระหว่างประสบการณท์ ้ังเก่าและใหม่ ซึ่งเปน็ หัวใจสาคัญทจ่ี ะทาใหเ้ กิดความสมบรู ณ์ของการ เรียนรอู้ ยา่ งแทจ้ ริง พฤติกรรมของบุคคลทีเ่ กดิ จากการเรยี นรู้จะต้องมีลักษณะสาคญั ดงั นี้ 1. พฤตกิ รรมที่เปลย่ี นไปจะตอ้ งเปลีย่ นไปอย่างค่อนขา้ งถาวร จงึ จะถอื วา่ เกิดการเรยี นรขู้ ้ึน 2. พฤติกรรมทเ่ี ปลี่ยนแปลงไปจะต้องเกิดจากการฝกึ ฝนหรือเคยมีประสบการณน์ ้นั ๆ มาก่อน การเรียนรู้เป็นพ้ืนฐานของการดาเนนิ ชีวิต มนุษย์มีการเรียนรู้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงก่อนตายและการ เรยี นรูเ้ กิดขน้ึ ไดต้ ลอดเวลาทั้งท่ตี ัง้ ใจและไม่ตง้ั ใจ การเรยี นรู้จะชว่ ยในการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี 2) S: Lesson Study ความหมายของการศึกษาชั้นเรียน คาว่าการศึกษาชั้นเรียน เป็นคาท่ีคิดข้ึนมาเพ่ือใช้แทนคา ภาษาอังกฤษว่า Lesson Study โดยคานี้เป็นคาท่ีใช้แทนคาว่า Jugyokenkyu ในภาษาญ่ีปุ่นอีกทีหน่ึง คา ว่า Jugyokenkyu ประกอบด้วยคา 2 คา คอื Jugyo ซ่ึงหมายถึง ชัน้ เรียน กับ kenkyu ซึ่งหมายถึงการศึกษา (study) ส่ิงท่ีครูทาก็คือ เขาจะเข้าร่วมในกระบวนการท่ีสร้างไว้อย่างดี ซึ่งประกอบด้วยการอภิปรายเก่ียวกับ แผนการสอน (lessons) ที่พวกเขาวางแผนและสังเกตการสอนร่วมกัน แผนการสอนดังกล่าวนี้ เรียกว่า kenkyujugyo ซึ่งเป็นคาที่กลับกันกับคาว่า jugyokenkyu และแปลตามตัวว่า ศึกษา หรือ วิจัย บทเรยี น หรือกล่าวให้เฉพาะเจาะจงลงไป บทเรียนในความหมายของญป่ี ุ่นมีความหมายเฉพาะลงไปว่า เป็นสิ่ง ที่คนใดคนหนึง่ ศึกษา การศึกษาบทเรียนหรือ การศึกษาช้ันเรียน คอื การ “ศกึ ษา” ด้วยการดาเนินตามขนั้ ตอน ในการพยายามเพื่อบรรลุจดุ ม่งุ หมายของการวิจยั ที่ครูทุกคนเลือกว่าจะทางานรว่ มกนั (เช่น การทาความเข้าใจ
ว่ า จ ะ ท า อ ย่ า ง ไ ร จึ ง จ ะ ส่ ง เ ส ริ ม นั ก เ รี ย น ใ ห้ เ ป็ น ผู้ เ รี ย น ท่ี ส า ม า ร ถ เ รี ย น รู้ อ ย่ า ง เ ป็ น อิ ส ร ะ ) ถึงแม้ว่า การศึกษาช้ันเรียน จะแพร่หลายไม่นาน แต่การให้ความหมายการศึกษาชั้นเรียนของนักวิชาการ ปจั จบุ ันยังแตกต่างกันไป การศึกษาชั้นเรียนคอื วิธีการหนงึ่ ในการพัฒนาวชิ าชพี ซ่ึงมฐี านอย่บู นความพยายาม ท่ีจะปรับปรุงโรงเรียนจากภายในจากที่ยกมาจะเห็นได้ว่า ถึงแม้ว่านักวิชาการแต่ละท่านจะได้ให้ความหมาย ของการศึกษาชั้นเรียนแตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามทุกความหมายก็จะกล่าวถึง การศึกษาช้ันเรียนในลักษณะ ดังต่อไปนี้ เป็นแนวทาง (Approach) หรือวิธีการ (Method) หน่ึงในการพัฒนาวิชาชีพครูหรือการเรียนรู้ทาง วิชาชีพ ดังน้ัน ในงานวิจัยนี้ จึงสรุปความหมายของการศึกษาช้ันเรียน เพ่ือเป็นแนวทางในการวิจัยว่า การศึกษาช้ันเรียน คือ นวตั กรรมในการพัฒนาวชิ าชีพแนวทางหนงึ่ ท่กี ระทาโดยครูในโรงเรียนเอง โดยการทค่ี รู ทากจิ กรรมรว่ มกันอยา่ งน้อย 4 กิจกรรม คือ พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ จดั การเรยี นรู้และสังเกตการจดั การ เรียนรู้ สะท้อนผลช้ันเรียน และช่วยกันสรุปผลการเรียนรู้ของตนเอง การศึกษาช้ันเรียนเป็นนวัตกรรมในการ พฒั นาวชิ าชีพครทู ส่ี ามารถชว่ ยใหค้ รูพัฒนาตัวเองและพัฒนานักเรียนไปพร้อมๆกนั 3) R: Reflective learning) การเรียนรู้ด้วยการสะท้อนคิด (Reflective learning)การสะท้อนคิดหมายถึง กระบวนการคิด ไตร่ตรองทบทวน พินิจพิเคราะห์และพิจารณาส่ิงต่างๆ อย่างเป็นระบบเก่ียวกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้น ทาให้ เกิด ความเข้าใจท่ีลกึ ซ้ึงในเรอ่ื งนน้ั ๆจนเกดิ การเรียนรู้ส่ิงใหม่ๆ อันนาไปสู่การแกป้ ญั หาน้ันๆในอนาคตได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ดังนั้นการบริหารจัดการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ เทคนิคการสะท้อนคิด จึงหมายถึง กลวิธี ท่คี รู ผู้สอน นามาใช้เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการคิดพิจารณาประสบการณท์ ่ี ผ่านมาอย่างรอบคอบ จนทาใหเ้ กิดการ เรียนรู้ที่จะนาไป ปรับปรุงการปฏิบัติงานของตนเองในอนาคตให้ดีข้ึน สาหรับประเภทของการสะท้อนคิด สามารถแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังน้ี 1. การสะท้อนคิดในขณะที่กาลังบรหิ ารงาน หมายถึง ผู้บริหารควรมีการคิดใคร่ครวญอย่างถ่องแท้ เกี่ยวกับสิ่งที่กาลัง ปฏิบัติ โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์เดิมเป็นฐานเพื่อ ขยายความรู้ใหม่มาใช้ ประกอบการตัดสินใจขณะทา กิจกรรมนั้นๆ เช่น ครูผู้สอนมปี ญั หาเร่ืองใดเร่อื งหน่ึง ผู้บริหารจะต้องคดิ สะทอ้ น การแก้ปัญหา ตามข้ันตอน มีอะไรท่ีทาผิดพลาดหรือยังบกพร่องที่ ต้องแกไขในคร้ังต่อไปหรือไม่ การสะท้อน คือการ ทวนคิดภายหลังสถานการณ์การปฏิบัติงานการบริหารงานท่ีส้ินสุด ไปแล้ว เพื่อวิเคราะห์ประเมิน หาข้อสรุปจากการบริหาร หรือจาก ประสบการณ์น้ันๆเช่น. การสะท้อนคิดสาหรับการลงมือปฏิบัติ (Reflection for action) หมายถึง ผู้บริหาร มีการทวนคิดว่า ส่ิงที่ตนเองปฏิบัตินั้นมีคุณคา่ กับงานที่ตนเองทา และแนวทางในการพัฒนา คุณภาพงาน โดยการตั้งคาถามว่าจะทาอย่างไรให้งานดีขึ้น โดยการบูรณาการ ความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ส่งผลให้ เกิดคุณภาพและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องและประการ สาคัญคือ เม่ือครู ผู้เรียนมกี ารฝึกการสะท้อนคิดอย่างสม่าเสมอ จะทาให้ผูเ้ รียนคนนั้นสามารถเชื่อมความรู้สกึ ของตนเอง ใหเ้ ขา้ กับทุกอย่างที่อยู่รอบตัวของเขา และจะสามารถแกป้ ัญหาไดจ้ ากประสบการณต์ รง
การประเมนิ ผลการใช้นวัตกรรม หลังจากท่ีได้นานวัตกรรม LSR Mathematics Model โรงเรียนวัดลาสารองรูปแบบการพัฒนา การบริหารกลุ่มสาระคณิตศาสตร์โรงเรยี น วัดลาสารองไปใช้ มีการนิเทศ กากับ ติดตาม โดยใชร้ ะบบการนเิ ทศ แบบครบวงจร ประกอบด้วย ผู้บริหาร หัวหน้า สายช้ัน หัวหน้ากลุ่มสาระ เพ่ือนครู ประเมินคุณภาพภายใน การจัดการศึกษาภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ทั้ง จากกรรมการภายในโรงเรียนและสานักงานเขตพ้ืนที่ การศกึ ษา ประเมินความพึงพอใจการใช้นวัตกรรม ประเมินผลการดาเนนิ ตามเกณฑ์ หลังจากนนั้ นาผลจากการ ดาเนนิ งานตามข้ันตอนการพัฒนานวตั กรรมมาจัด นิทรรศการแลกเปลยี่ นเรียนรู้ เผยแพร่ ประชาสมั พนั ธ์ให้กับ เพื่อนครู ในโรงเรียนและโรงเรียนใกล้เคียง ผู้ปกครอง ชุมชนและองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน การปรับปรุง แก้ไข นาผลการดาเนินงาน ข้อเสนอแนะ การดาเนินงานตามนวัตกรรม LSR Mathematics Model โรงเรียนวัดลาสารองรูปแบบการพัฒนาการบริหารกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ โรงเรียน วัดลาสารองไป ขอ้ เสนอแนะจากการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา และ ข้อเสนอแนะจากกรรมการติดตามกรณีตัวอย่าง การดาเนินโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล จากสานักงาน การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน คณะกรรมการประเมิน คุณภาพภายในจากสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ความสามารถด้านบริหารจัดการองค์กร ซ่ึงจะ นาไปสู่กิจกรรมในการพัฒนาปีต่อไป ประโยชน์ของนวัตกรรม หลังจากที่นานวัตกรรม ไปใช้แล้วโรงเรียนมี หลักสูตรสถานศึกษาท่ีสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชน สภาพสังคมปัจจุบัน มีระบบ Internet Technology ที่ทันสมัย ทาให้การจัดการศึกษา มีความคล่องตัวสูง สอดคล้องกับการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 มีงบประมาณ แหล่งเงินทุนสนับสนุน เอื้อต่อการจัดกิจกรรมพัฒนา คุณภาพผู้เรียน อานวย ความสะดวกแก่ครูในหลาย ๆ ด้าน ทาใหร้ ะบบการบรหิ าร จัดการศึกษาขบั เคล่ือนไปด้วย ความรวดเรว็ พร้อม เพรียง มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ทาให้เกิดกระบวนการจัดการเรียนรู้แนวใหม่ ผู้เรียนได้รับการ พัฒนาอย่างต่อเน่ือง สมา่ เสมอ สามารถนาความรู้ทไี่ ด้รบั ไปปรับใช้ในการดารงชีวิตและเขา้ รว่ ม การแข่งขนั บน เวทีท้ังระดับเขตพื้นที่ ระดับจังหวัด และระดับประเทศได้ สร้างความพึงพอใจแก่ผู้ปกครอง ชุมชน และ ผ้ทู ีม่ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งตอ่ องค์กร ส่งผลใหน้ ักเรียน ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สถานศกึ ษาบรรลุผลสาเรจ็ ผลสาเรจ็ ที่เกดิ จากการบรหิ ารจัดการตามนวตั กรรมท่ีใช้ ผลที่ได้รับ 1. นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงข้ึน จากผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) สงู กว่าระดบั ประเทศทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้ 2. นักเรยี นผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ร้อยละ 100 3. นักเรียนผ่านการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนส่ือความหมาย ร้อยละ 100 4. นักเรียนได้รับรางวัลจากการแข่งขันทักษะวิชาการท้ังระดับประเทศ ระดับจังหวัด ระดับเขตพ้ืนที่ 5. ครูและ บุคลากรทางการศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ มีความคล่องตัว สูง ในการ ดาเนินงาน ส่งผลให้ได้รับการเล่ือนวิทยฐานะสูงขึ้นและได้รับรางวัลจากผลการดาเนินงาน 6. สถานศึกษา มีหลักสูตรสถานศึกษาท่ีสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและ สภาพสังคมปัจจุบัน 7. มสี ื่อ แหล่งเรยี นรู้ และเทคโนโลยที ีท่ ันสมยั หลากหลายเอื้อตอ่ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ดา้ นผลสัมฤทธขิ์ องนักเรยี นจากทดสอบของโรงเรยี นและจากการสอบ Onet และรายงานการประเมิน ตนเองของโรงเรียน ปีการศึกษา 2561 ตลอดจน จ้างครูสาขาที่ขาดแคลนมาสอนวิชาท่ีผล Onet ต่า เช่น ครูอังกฤษ เป็นต้น และได้มีการนาหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน หลักสูตรท้องถิ่น และโครงสร้างข้อสอบ Onet มา วางแผน และกาหนดตารางสอนโดยครูวิชาการเป็นหัวหน้าคณะทางานร่วมกับครูระดับช้ันต่าง ๆ ผู้บริหาร สถานศึกษาเป็นที่ปรึกษา โดยภาคเรียนที่ 1 และ ภาคเรียนที่ 2 จนถึงเดือนธันวาคม ครูทุกคน กาหนด เป้าหมายว่า ต้องสอนนักเรียนชั้นกลุ่มเป้าหมายที่จะสอบ Onet ให้เสร็จสิ้นตามหลักสูตร จากนั้น เดือน มกราคมเป็นต้นไปให้ครูสอนแบบสรุป ทบทวน และติว วางแผนการใช้ส่ือประกอบการเรียนการสอน แหล่งเรียนรู้ รูปแบบวิธีสอน การใช้ งบประมาณ และ วางแผนการนิเทศของครูวิชาการ และผู้บริหาร สถานศึกษา 3) L: Learn to teach (ครูเรียนรู้วิธีสอน), Learn to know (นักเรียนเรียนรู้วิธีรู้) คือ ครูลง มือ สอนตามแผน ที่กาหนดไว้ ครูจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ภายใต้แนวคิด “bring the best out of the pupils(การสอนโดยดึงความสามารถในตัวเด็กออกมา)” และส่งเสริมให้ผู้เรียน แสวงหา ความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้ังในห้องเรียน นอกห้องเรียน อินเทอร์เน็ต เรียนทางไกลผ่าน ดาวเทียม เป็นตน้ ภายใต้แนวคิด “build the best learning environment (สรา้ งสภาพแวดลอ้ มที่ ดใี นการเรยี นรู้)” ผู้บริหารสถานศึกษาและครูวิชาการ นิเทศ ติดตาม ช่วยเหลือครูทุกคน และสุ่มสอนนักเรียน ในบางชั่วโมง แล้วนาข้อมูลจากการนิเทศมาเสนอในที่ประชุมครูเพื่อสรุปเป็นภาพรวมของโรงเรียน ครูปรับรูปแบบ การจัดการเรียนการสอนตามข้อเสนอแนะของผู้นิเทศ ผู้บริหารสถานศกึ ษา ติดตามการปรับปรุงการสอนของ ครูจากสมุดนักเรียน และกาลังใจครู ชื่นชมนักเรียนท่ีมีผลการปฏิบัติที่ดี ครูสรุปเน้ือหา และติวสอบนักเรียน เพ่ือเตรียมพร้อมสู่การวัดและประเมินผลปลายภาคเรียน และปลายปี รวมท้ัง การสอบ Onet ครูวิชาการ รายงานผลการทดสอบและรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และ รายงาน ผลการประกันคุณภาพ ภายในสถานศึกษา การตรวจสอบคุณภาพ การติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา โดยผู้บริหาร ติดตาม จากกิจกรรม ตอ่ ไปนี้ 1) ตดิ ตามจากการนเิ ทศของครูวิชาการ และการนเิ ทศของผู้บริหารสถานศึกษา และการ ตรวจ สมุดนักเรียน 2) ติดตามจากผลการทดสอบ ปลายภาค/ปลายปี และ การสอบ Onet 3) ติดตาม จากรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) แนวทางการนาไปใช้ประโยชน์ และการเผยแพร่ ผลงานในการนาประโยชน์จากการนา LSR model โรงเรยี นวัดลาสารองไปใช้นน้ั ทางสถานศึกษาไดน้ ามา ปรบั ใช้ในการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียนในระดบั ชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 6 และประถมศึกษาปที ี่ 6 ได้ร่วมกันวางแผนพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน ดังนี้ 1) เพ่ิม กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นฐานเก่ง ดี มสี ุข ในคาบบ่ายวนั พุธ และเนน้ ทกั ษะภาษา โดยเปดิ ชมุ นมุ ภาษาส่อู าเซยี นใน บ่ายวันพฤหสั บดี โดยให้ผเู้ รียนเลือกเรียนตามความสนใจ เช่น ภาษาไทย 2) ปรับตารางสอนกลุม่ เป้าหมายให้ ตรงกับโรงเรียนไกลกังวลเพ่ือให้เด็กและครูเรียนรู้ ร่วมกันในวิชาหลัก 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และจัด ตารางสอนเสริมและติวทุกคาบสุดท้ายของแต่ละวัน วัน ละ 1 สาระการเรียนรู้ 3) และประชุมช้ีแจงครูท้ัง โรงเรียน เพ่อื รว่ มกนั พฒั นาการเรยี นการสอน นกั เรยี นใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพ นาผลการตรวจสอบซา้ มาพฒั นาและ ปรับปรุง จากการนา LSR Mathematics Model โรงเรียนวัดลาสารองมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพงาน วิชาการ และ คณุ ภาพผเู้ รยี นน้ัน ทาให้ผลการเรียนของผเู้ รียนในภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 – 2564
สูงข้ึนกว่าระดับประเทศ นอกจากน้ีทางสถานศึกษาได้มีการประชาสัมพันธ์ผลสาเร็จ และการเผยแพร่ รายการเสียงตามสายของหมู่บ้าน และ แจ้งในท่ีประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อประชาสัมพันธ์ ให้ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนรับทราบ เกิดภาคภูมิใจและศรัทธาในสถาบัน ปิดป้าย ประชาสัมพันธ์หน้าโรงเรียน เพื่อประกาศให้ชุมชนและผู้มาติดต่อราชการรับทราบ และมีการเผยแพร่ ในวารสารโรงเรียนวัดลาสารองสัมพันธ์ ปีการศึกษา 2562 - 2564 เพ่ือแจกให้ผู้ปกครอง คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และ หน่วยงานในท้องถ่ิน ตลอดจน แขกผู้มาเยือนโรงเรียนวัดลาสารองได้รับทราบ และมีการ จัดกิจกรรม วันแห่งความสาเร็จ เพ่ือมอบใบประกาศนียบัตร และมอบทุนการศึกษา เพื่อเป็น ขวัญ กาลังใจแกค่ ณะครู และนกั เรยี นตอ่ ไป นวตั กรรมผลงานดเี ดน่ ท่ีเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาและพัฒนานักเรยี นใหม้ ีผลสัมฤทธ์ิสูงขึน้ ผลงานเรื่อง “ การพฒั นาทักษะกระบวนการคณิตศาสตร์เพอ่ื พิชติ O-Net ชัน้ ป.6” ครูผู้สอนศึกษาสภาพปัญหาโดยทั่วไปของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที๖ โดยจัดระบบการเรียนการสอน การเรียนรู้แบบBrain-Based Learning (BBL)ซ่ึงเป็นกระบวนการจัดการเรียนที่นาเอาความรู้ความเข้าใจท่ี เกี่ยวกับสมองไปใช้เป็นเครื่องมือในการออกแบบ การจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญอย่างแท้จริง และ พบว่าปัญหาของผู้เรียนมีความสามารถในการคิดคานวณที่แตกต่างกันและขาดทักษะการบวก ลบ คูณ หาร จากนั้นผู้สอนทาการคัดกรองนักเรียน โดยแบ่งเป็นกลุ่ม เรียนเก่ง ปานกลาง และกลุ่มอ่อน หลังจากน้ัน ทาการศึกษาหาวิธีการในการจัดทาชุดแบบฝึกทักษะต่างๆ ในเรื่องการบวก การลบ การคูณ และการหาร โดย วเิ คราะห์หลักสตู ร เก็บรวบรวมขอ้ มูล และเอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ งกับสาระ และมาตรฐานการเรยี นรู้ในด้านทกั ษะการ บวก ลบ คูณ หารหลังจากทาการวางแผนทุกข้ันตอน ทาการคัดแยกช้ันเรียน โดยได้รับความร่วมมือจากครู ประจาชั้นป.6 โดยทาการคดั แยกนักเรยี น เป็น 2 กลมุ่ กลุ่มนกั เรยี นเรยี นเกง่ ปานกลาง และกลุ่มนกั เรยี น เรยี น ออ่ น หลังจากนั้นเร่ิมดาเนินการสอนโดยใช้แผนจัดการเรียนรู้เดียวกันแต่ต่างกันที่กจิ กรรมและแบบการประเมิน การเรียนการสอน และการวัดผล โดยนักเรียนที่เรียนเก่งและปานกลาง จะใช้กิจกรรมที่เน้นเสริมทักษะความรู้ เพื่อต่อยอดสมองซีกซ้ายให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน โดยใช้ส่ือใบงานและชุดแบบฝึกทักษะจากปานกลางไปยาก และยากยิ่งขน้ึ เพ่อื ให้นักเรยี น มีประสบการณใ์ นการเรียนทใี่ ช้ทกั ษะในการคิดคานวณท่ีหลากหลาย ซับซ้อนมาก ข้ึน ส่วนนักเรียนท่ีเรียนอ่อน จะใช้กิจกรรมท่ีเน้นเสริมทักษะข้ันพ้ืนฐาน ให้สมองซีกซ้ายทางานด้านการคิด คานวณให้มีการพัฒนาข้ึน โดยใช้สื่อ ใบงานและชุดแบบฝึกทักษะจากง่าย ปานกลาง เพ่ือให้นักเรียนในช้ัน ที่ เรียนอ่อน มีประสบการณ์และพืน้ ฐานในการเรยี น การคิดคานวณ ซ่ึงจะนาข้อมูลจากปัญหาทพ่ี บมาสร้างแบบฝึก เลือกในส่วนที่ผู้เรียนส่วนใหญ่ทาผิดมาทบทวน ต้ังแต่การบวก ลบ คูณ หาร เริ่มจากง่ายไปยากของระดับสมอง ทาซ้า ทาบ่อยๆ จนเข้าใจและสามารถผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ คอยแนะนาผู้เรียนชา้ อย่างใกลช้ ิด เพื่อใหบ้ รรลุ จดุ ประสงคท์ ี่กาหนด โดยใชเ้ วลาการสอนซ่อมเสรมิ ในช่วง 15.30 น. – 17.00 น.น.ทุกวันเมอื่ ดาเนินงานตาม กิจกรรมการเรียนรู้แต่ละครั้ง ผู้สอนจะต้องประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม หรือตรวจสอบว่ามีปัญหาเกิดขึ้น ระหว่างการปฏบิ ัติหรอื ไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อประสิทธภิ าพและคุณภาพของการปฏิบตั ิกิจกรรม การ ตดิ ตาม ตรวจสอบ จงึ เป็นส่ิงสาคญั เพ่อื ประโยชน์ของการพัฒนาคุณภาพของผเู้ รียนและการบรรลุตามจดุ ประสงค์ ท่ีกาหนด จากการที่ผูเ้ รียนได้ทากจิ กรรม พบปัญหาทัง้ 2 กลุ่ม ดงั นี้ นกั เรยี นทีเ่ รียนเกง่ และปานกลาง
มีปัญหา คือ ผู้เรียนเป็นกังวลเร่ืองเวลา กลัวไม่เสร็จตามเวลาท่ีกาหนด จนละเลยความถูกต้องสมบูรณ์ของแบบ ฝึก ผู้เรียนละเลยการอ่านหัวเรื่องของแบบฝึกว่าแบบฝึกชุดนี้ให้ทาเกี่ยวกับเรื่องอะไร ทาให้ทาแบบฝึกหัด ชุด แบบฝึกไม่ถูกต้อง นากลับไปแก้ไขจนทาได้ถูกต้อง ร้อยละ100 ส่วนช้ัน นักเรียนที่เรียนอ่อน พบปัญหาคือ ทางานช้าจะไม่ค่อยทันเวลา แต่สามารถทาแบบฝึกหัด และชดุ แบบฝกึ ทักษะตา่ งๆ ไดเ้ กินร้อยละ 75 หลังจากได้ ทาการสอน และเสริมเตมิ ซ้าบ่อยๆ ตรวจสอบแลว้ การปรบั ปรงุ อาจเปน็ การแกไ้ ข แบบเร่งด่วน เฉพาะหนา้ เพ่ือ ป้องกันการเกิดปัญหาซ้ารอยเดิม เม่ือพบปัญหาท่ีได้กล่าวข้างต้น ผู้สอนทาความเข้าใจกับผู้เรียนทันที และคอย กระตุ้นให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ได้เต็มศักยภาพของผู้เรียนเม่ือส้ินสุดการดาเนินงานของ กิจกรรมกิจกรรม การบริหารจัดการ การจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาทักษะการบวก การลบ การคูณ การหาร การคิดวิเคราะห์โจทย์ปัญหา ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้สรุปความก้าวหน้า ปัญหาอุปสรรคของการดาเนินงาน และ พิจารณาความเป็นไปไดว้ ่าจะดาเนนิ การในปีต่อไป จากการใช้นวัตรกรรมนส้ี ่งผลให้ สถานศึกษามผี ลคะแนน O –Net ของกลุ่มสาระคณิตศาสตร์มีคะแนนสูงกว่าระดับประเทศ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2562 – ปีพ.ศ.2564 และ สถานศึกษาได้รับรางวัลผลคะแนน O-Net เป็นอันดับท่ี 2 ของจังหวัด และมีนักเรียน จานวน 1 คน ที่ได้ คะแนนในกลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ คะแนนเตม็ 100 คะแนน (ผลสมั ฤทธ์ิภาคผนวก) แนวทางการนาไปใช้ประโยชน์ และการเผยแพร่ นอกจากน้ีทางสถานศึกษาได้มีการใช้ LSR Mathematics Model ทดลองบูรณาการกับกลุ่ม สาระการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้หลักเช่นกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมและกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และนามาใช้ในการบริหาร จัดการจัดการเรียนรู้ของฝ่ายบริหารและงานวิชาการ นอกจากนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์ผลสาเร็จ และการ เผยแพร่ ใหก้ บั โรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาบ้านใหม่ มีการแจ้งในที่ประชุมคณะกรรมการ สถานศึกษา เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนรับทราบ เกิดภาคภูมิใจ และศรัทธาในสถาบัน ปิดป้ายประชาสัมพันธ์หน้าโรงเรียน เพ่ือประกาศให้ชุมชนและผู้มาติดต่อราชการ รับทราบ และมีการเผยแพร่ในวารสารโรงเรียนวัดลาสารองสัมพันธ์ ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นมาเพ่ือเป็น การประชาสัมพันธผ์ ลงาน ผลสาเรจ็ จากการใช้นวตั รกรรม LSR Mathematics Model
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: