คณุ ธรรม จริยธรรมมาตรฐานวิชาชีพ และจรรยาบรรณของ วิชาชีพ
ครูคือเทยี นทองสอ่ งสว่างทา่ มกลางความมืดมวั หม่น ครูคือปูชนียบุคคล ปวงชนซาบซ้ ึงศรทั ธา (มล.ป่ิ น มาลากุล)
การเป็ นครูน้นั ไซรไ้ ม่ลาบาก แตส่ อนดนี ้นั ยากเป็ นหนกั หนาเพราะตอ้ งใชศ้ ิลปวิทยา อกี มีความเมตตาอยใู่ นใจ
จะมีวนั ท่ีฉลาดไดห้ รอื ไม่มีไมเ้ รยี วท่ีเกร้ ียวกราด ไม่มีเสียงดุดา่ หาไดฤ้ า จะมีหรือวนั น้ ีท่ีเฝ้ารอ
ความหมายครู จากความหมายดงั กลา่ ว สรุปไดว้ ่า ครู มาจากคาว่า“ครุ” แปลว่า หนกั ซึ่งเป็ นภูมิปัญญาทบ่ี รรพบุรุษกาหนดใหบ้ ุคคลท่ีทาหนา้ ทใ่ี นการสืบทอด และถา่ ยทอดองคค์ วามรูจ้ ากภายนอกท่ีมองเห็น ความรูจ้ ากภายใน อีกท้งั ทาความรูใ้ หก้ ระจา่ งและเป็ นผูท้ ีม่ ีหนา้ ทีส่ รา้ งบุคคลใหม้ ีคณุ ภาพท้งั วิชาการ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมสามารถดารงชีวิตอยไู่ ดใ้ นสงั คมอยา่ งมีความสขุ และเป็ นกลั ยาณมิตร
วิชาชีพครู ไดร้ บั การยกยอ่ งว่าเป็ นวิชาชีพช้นั สูง เนื่องดว้ ยเป็ นอาชีพทต่ี อ้ งมีใบประกอบวิชาชีพ และจะตอ้ งประกอบวิชาชีพเพอ่ื บรกิ ารสาธารณและ ยงั มีบทบาทสาคญั ตอ่สงั คมและความเจริญกา้ วหนา้ ของประเทศ ดงั น้นั การทาใหบ้ ุคคลทวั ่ ไปทกุ ระดบั ไดม้ ีความรูส้ ึกทด่ี ีตอ่ อาชีพครู จงึ ตอ้ งมีกลยุทธ์ กลวิธีหลายประการท่ีตอ้ งทาใหเ้ ห็นประจกั ษใ์ นเรอื่ งของครู
สมญานามท่ีเนน้ ใหเ้ ห็นความสาคญั ของครู ครู คือ นกั ปฏิวตั ใิ นสนามรบทางการศึกษา ครู คอื ผใู้ ชอ้ าวุธลบั ของชาติ ครู คอื ทหารเอกของชาติ ครู คอื แม่พิมพข์ องชาติ ครู คือ กระจกเงาของเด็ก ครู คอื ดวงประทีปสอ่ งทาง ครู คือ ผสู้ รา้ งโลก ครู คือ ผกู้ ุมความเป็ นตายของชาตไิ ว้ ครู คือ ปูชนียบุคคล ครู คอื วิศวกรทางสงั คม
ลกั ษณะของวิชาชีพ วิชาชีพ (Profession) เป็ นอาชีพใหบ้ ริการแก่สาธารณชนที่ตอ้ งอาศยั ความรู้ ความชานาญเป็ นการเฉพาะ ไม่ซ้าซอ้ นกบั วิชาชีพอ่ืน และมีมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพ โดยก่อนประกอบวิชาชีพตอ้ งฝึ กอบรมท้งั ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั อิ ยา่ งเพยี งพอก่อนทีจ่ ะประกอบวิชาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล สตั ว-แพทย์ วิศวกร สถาปนิกทนายความ และครู เป็ นตน้ ซึ่งจะแตกตา่ งกบั อาชีพ (career) ซึ่งเป็ นกิจกรรมทตี่ อ้ งทาใหส้ าเร็จ โดยมุ่งหวงั คา่ ตอบแทนเพอ่ื การดารงชีพเทา่ น้นั
วิจติ ร ศรีสอา้ น (2535) อธิบายลกั ษณะของวิชาชีพช้นั สูงไว้ 6 ลกั ษณะดงั น้ ี1. วิชาชีพช้นั สูงจะตอ้ งมีบรกิ ารท่ีใหแ้ ก่สงั คมที่มีลกั ษณะเฉพาะเจาะจงและจาเป็ น2. สมาชิกของวิชาชีพช้นั สูงจะตอ้ งใชว้ ิธีการแห่งปัญญาในการใหบ้ รกิ าร3. สมาชิกของวิชาชีพช้นั สูงจะตอ้ งไดร้ บั การศกึ ษาอบรมใหม้ ีความรูก้ วา้ งขวางลึกซ้ ึงโดยใชร้ ะยะเวลานานพอสมควร4. สมาชิกของวิชาชีพช้นั สูงจะตอ้ งมีเสรภี าพในการใชว้ ิชาชีพน้นั ๆตามมาตรฐานวิชาชีพ5. วิชาชีพช้นั สูงจะตอ้ งมีจรรยาบรรณ6. วิชาชีพช้นั สูงจะตอ้ งมีสถาบนั วิชาชีพเป็ นแหล่งกลางในการสรา้ งสรรคจ์ รรโลงมาตรฐานของวิชาชีพ
กฎหมายท่เี กี่ยวขอ้ งกบั มาตรฐานวิชาชีพ พ(มราะตรารชาบ5ญั 3ญ)ตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 พระราชบญั ญตั สิ ภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546
พระราชบญั ญตั สิ ภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 มาตรา 7 เรียกว่าให“ม้คีสรุ ุสภภาคา”รูแลมะีฐบาุนคละเาปก็ นรทนิตางบิ กุคาครศลใึกนษกาากบั ของกระทรวงศึกษาธิการ
พระราชบญั ญตั สิ ภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 มาตรา 9 กาหนดใหค้ รุ ุสภามีอานาจหนา้ ท่ี 1. กำหนดมำตรฐำนวชิ ำชีพและจรรยำบรรณของวชิ ำชีพ2. ควบคุมควำมประพฤติและกำรดำเนินงำนของผปู้ ระกอบ วชิ ำชีพทำงกำรศึกษำใหเ้ ป็ นไปตำมมำตรฐำนวชิ ำชีพและจรรยำบรรณของวชิ ำชีพ3. ออกใบอนุญำตใหแ้ กผ่ ขู้ อประกอบวชิ ำชีพ4. พกั ใชห้ รือเพิกถอนใบอนุญำตประกอบวชิ ำชีพ
5. สนับสนุน สง่ เสริม และพฒั นำวชิ ำชีพตำมมำตรฐำนวชิ ำชีพ และจรรยำบรรณของวชิ ำชีพ6. สง่ เสรมิ สนับสนุน ยกยอ่ ง และผดุงเกยี รติผูป้ ระกอบ วชิ ำชีพทำงกำรศึกษำ7. รบั รองปริญญำ ประกำศนียบตั ร หรือวฒุ ิบตั รของสถำบนัต่ำง ๆ ตำมมำตรฐำนวชิ ำชีพ
8. รบั รองควำมรแู้ ละประสบกำรณท์ ำงวชิ ำชีพ รวมท้งั ควำมชำนำญในกำรประกอบวชิ ำชีพ9. สง่ เสริมกำรศึกษำและกำรวจิ ยั เก่ยี วกบั กำรประกอบวชิ ำชีพ10. เป็ นตวั แทนผูป้ ระกอบวชิ ำชีพทำงกำรศึกษำของประเทศไทย11. ออกขอ้ บงั คบั ของคุรุสภำ ฯลฯ
พระราชบญั ญตั สิ ภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546มาตรา 49 ใหม้ ีขอ้ บงั คบั วำ่ ดว้ ยมำตรฐำนวชิ ำชีพ ประกอบดว้ ย (1) มำตรฐำนควำมรแู้ ละประสบกำรณว์ ชิ ำชีพ (2) มำตรฐำนกำรปฏิบตั ิงำน (3) มำตรฐำนกำรปฏิบตั ิตน
มาตรฐานวิชาชีพ : การประกอบวิชาชีพ เขา้ สูว่ ิชาชีพ ขอรบั ใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพมาตรฐานความรูแ้ ละประสบการณว์ ิชาชีพมาตรฐานการปฏิบตั ิงาน คณุ ภาพ - ตอ่ ใบอนุญาต - ประเมินความชานาญ ตามระดบั คณุ ภาพ - ประเมินความชานาญเฉพาะดา้ นมาตรฐานการปฏิบตั ิตน เกียรติและศกั ด์ิศรี (จรรยาบรรณของวิชาชีพ) - จติ วิญญาณของความเป็ นครู - การยอมรบั ของสงั คม
มาตรฐานความรูว้ ิชาชีพครู .1 มีคณุ วุฒิไม่ตา่ กว่าปรญิ ญาตรีทางการศึกษา หรือเทียบเทา่ หรือคุณวุฒิอ่ืนท่ีคุรุสภารบั รอง โดยมีความรู้ดงั ตอ่ ไปน้ ี (1) ภาษาและเทคโนโลยสี าหรบั ครู (2) การพฒั นาหลกั สูตร (3) การจดั การเรียนรู้ (4) จติ วิทยาสาหรบั ครู
(5) การวดั และประเมินผลการศึกษา(6) การบริหารจดั การในหอ้ งเรยี น(7) การวิจยั ทางการศึกษา(8) นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทางการศึกษา(9) ความเป็ นครู
มาตรฐานประสบการณว์ ิชาชีพครูผ่านการปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษาตามหลกั สูตรปริญญาทางการศึกษา เป็ นเวลาไม่นอ้ ยกว่า 1 ปีและผ่านเกณฑก์ ารประเมินปฏิบตั ิการสอนตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขทีค่ ณะกรรมการคุรุสภากาหนด ดงั ตอ่ ไปน้ ี 1. การฝึ กปฏิบตั วิ ิชาชีพระหว่างเรียน 2. การปฏิบตั กิ ารสอนในสาขาวิชาเฉพาะ
มาตรฐานการปฏิบตั งิ านของครูผูป้ ระกอบวิชาชีพครู ตอ้ งปฏิบตั งิ านตามมาตรฐานการปฏิบตั ิงาน ดงั น้ ี 1. ปฏิบตั ิกิจกรรมทางวิชาการเกี่ยวกบั การพฒั นาวิชาชีพครูอยู่เสมอ 2. ตดั สินใจปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ โดยคานึงถึงผลทีจ่ ะแก่ผเู้ รียน 3. มุ่งมนั ่ พฒั นาผเู้ รียนใหเ้ ต็มตามศกั ยภาพ 4. พฒั นาแผนการสอนใหส้ ามารถปฏิบตั ไิ ดเ้ กิดผลจริง 5. พฒั นาส่ือการเรียนการสอนใหม้ ีประสิทธิภาพอยเู่ สมอ 6. จดั กิจกรรมการเรียนการสอน โดยเนน้ ผลถาวรที่เกิดแก่ผเู้ รียน
7. รายงานผลการพฒั นาคุณภาพของผเู้ รียนไดอ้ ยา่ งมีระบบ8. ปฏิบตั ติ นเป็ นแบบอยา่ งทด่ี ีแก่ผูเ้ รียน9. ร่วมมือกบั ผอู้ ื่นในสถานศึกษาอยา่ งสรา้ งสรรค์10. รว่ มมือกบั ผอู้ ื่นในชุมชนอยา่ งสรา้ งสรรค์11. แสวงหาและใชข้ อ้ มูลขา่ วสารในการพฒั นา12. สรา้ งโอกาสใหผ้ ูเ้ รียนไดเ้ รียนรูใ้ นทกุ สถานการณ์
มาตรฐานการปฏิบตั ติ น ประมวลความประพฤตขิ องผปู้ ระกอบวิชาชีพ ซ่ึงเป็ นการประพฤตปิ ฏิบตั ติ นเกี่ยวกบั การประกอบวิชาชีพ อนั เป็ นคุณลกั ษณะของความเป็ นครู คณุ ธรรม จริยธรรมของวิชาชีพ จรรยาบรรณของวิชาชีพ
พระราชบญั ญตั สิ ภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 มาตรา 50 มาตรฐานการปฏิบตั ติ น ใหก้ าหนดเป็ นขอ้ บงั คบั ว่าดว้ ยจรรยาบรรณของวิชาชีพ ประกอบดว้ ย (1) จรรยาบรรณตอ่ ตนเอง (2) จรรยาบรรณตอ่ วิชาชีพ (3) จรรยาบรรณตอ่ ผรู้ บั บรกิ าร (4) จรรยาบรรณตอ่ ผรู้ ว่ มประกอบวิชาชีพ (5) จรรยาบรรณตอ่ สงั คม การกาหนดแบบแผนพฤตกิ รรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพตามวรรคหนึ่ง ใหเ้ ป็ นไปตามขอ้ บงั คบั ของคุรุสภา
มาตรฐานดา้ นการปฏิบตั ติ นครูตอ้ งมีจรรยาบรรณครู 9 ขอ้ ดงั น้ ี
1. ครูตอ้ งรกั และเมตตาศิษย์2. ครูตอ้ งอบรม สงั ่ สอน ฝึ กฝน สรา้ งเสริมความรู้ ทกั ษะและนิสยั ที่ถูกตอ้ งดีงาม3. ครูตอ้ งประพฤติ ปฏิบตั ติ นเป็ นแบบอยา่ งท่ดี ี แก่ศิษย์4. ครูตอ้ งไม่กระทาตนเป็ นปฏิปักษต์ อ่ ความเจริญทางกาย สตปิ ัญญา จิตใจ อารมณแ์ ละสงั คมของศิษย์5. ครูตอ้ งไม่แสวงหาประโยชนอ์ นั เป็ นอามิสสินจา้ งจากศิษย์6. ครูยอ่ มพฒั นาตนเองท้งั ทางดา้ นวิชาชีพ ดา้ นบุคลิกภาพและวิสยั ทศั น์7. ครูตอ้ งรกั และศรทั ธาในวิชาชีพครูและเป็ นสมาชิกท่ดี ีตอ่ องคก์ รวิชาชีพครู8. ครูพึงช่วยเหลือเก้ ือกูลครูและชุมชนในทางสรา้ งสรรค์9. ครูพึงประพฤตปิ ฏิบตั ติ น เป็ นผนู้ าในการอนุรกั ษ์ และพฒั นาภมู ิปัญญาและวฒั นธรรมไทย
ขอ้ บงั คบั ครุ ุสภา พ.ศ. 2550ว่าดว้ ยแบบแผนพฤตกิ รรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ
จรรณยาบรรณตอ่ ตนเอง- มีวินยั ในตนเอง- พฒั นาตนเองดา้ นวิชาชีพ บุคลิกภาพ และวิสยั ทศั นใ์ หท้ นั ตอ่ การพฒั นาทางวิทยาการเศรษฐกิจสงั คมและการเมืองอยเู่ สมอ
จรรณยาบรรณตอ่ วิชาชีพรกั ศรทั ธา ซื่อสตั ยส์ ุจริต รบั ผิดชอบตอ่ วิชาชีพ เป็ นสมาชิกท่ีดขี ององคก์ รวิชาชีพ
จรรณยาบรรณตอ่ ผรู้ บั บริการ - ประพฤตปิ ฏิบตั ติ นเป็ นแบบอยา่ งท่ดี ที ้งั ทางกาย วาจา และจติ ใจ - ไม่กระทาตนเป็ นปฏิปักษต์ อ่ ความเจริญทางกาย สตปิ ัญญา จติ ใจ อารมณ์และสงั คมของศษิ ยแ์ ละผรู้ บั บรกิ าร
จรรณยาบรรณตอ่ ผรู้ บั บรกิ าร- ใหบ้ ริการดว้ ยความจรงิ ใจ และเสมอภาคโดยไม่เรยี กรบั หรอื ยอมรบัผลประโยชนจ์ ากการใชต้ าแหน่งหนา้ ท่ีโดยมิชอบ
จรรณยาบรรณตอ่ ผรู้ ว่ มประกอบวิชาชีพ - พงึ ช่วยเหลือเก้ ือกูลซึ่งกนั และกนั อยา่ งสรา้ งสรรคโ์ ดยยดึ มนั ่ ในระบบคณุ ธรรม สรา้ งความสามคั คีในหมู่คณะ
จรรณยาบรรณตอ่ สงั คม- เป็ นผนู้ าในการอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาเศรษฐกิจ สงั คม ศาสนา ศลิ ปวฒั นธรรม ภมู ิปัญญา ส่งิ แวดลอ้ ม รกั ษาผลประโยชนข์ องสว่ นรวมและ ยดึ มนั ่ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็ นประมุข
การประกอบวิชาชีพควบคมุผปู้ ระกอบวิชาชีพควบคมุ ไดแ้ ก่ 1. ครู 2. ผบู้ ริหารสถานศึกษา 3. ผบู้ ริหารการศึกษา 4. บุคลากรทางการศึกษาอ่ืน (ศกึ ษานิเทศก)์
คณุ สมบตั ผิ ขู้ อรบั ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู1. มีอายุไม่ตา่ กว่า 20 ปี บริบูรณ์2. มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทยี บเทา่ หรือ มีคณุ วุฒิอ่ืนที่ครุ ุสภารบั รอง3. ผ่านการปฏิบตั กิ ารสอนในสถานศึกษาตาม หลกั สูตร เป็ นเวลาไม่นอ้ ยกว่า 1 ปี และ ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ตามที่คณะกรรมการ คุรุสภากาหนด
คณุ สมบตั ผิ ขู้ อรบั ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ผูบ้ รหิ ำรสถำนศึกษำ ผูบ้ ริหำรกำรศึกษำ บุคลำกรทำงกำรศึกษำอ่ืน (ศึกษำนิเทศก)์1. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู2. มีความรูแ้ ละประสบการณว์ ิชาชีพตามท่ี คณะกรรมการครุ ุสภากาหนด
ผไู้ ม่ตอ้ งมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ1. ผูม้ าใหค้ วามรูเ้ ป็ นคร้งั คราว2. ผูไ้ ม่ไดป้ ระกอบวิชาชีพหลกั ดา้ นการเรยี นการสอนแตบ่ างคร้งั ตอ้ งสอน3. นกั เรียน นกั ศกึ ษา หรือผรู้ บั การอบรม หรือผไู้ ดร้ บั ใบอนุญาตปฏิบตั กิ าสอน4. ผจู้ ดั การศกึ ษาตามอธั ยาศยั5. ผูท้ าหนา้ ทสี่ อนในศนู ยก์ ารเรียนตามพระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาตฯิ6. ผปู้ ระกอบวิชาชีพในระดบั อดุ มศึกษา7. ผบู้ รหิ ารการศึกษาระดบั เหนือเขตพ้ นื ท่ีการศึกษา8. บุคคลอื่นตามท่ีคณะกรรมการคุรุสภากาหนด เช่น พระภกิ ษุผูท้ าหนา้ ที่สอน ผูส้ อนศาสนาอ่ืน ผูส้ อนตามโครงการแลกเปล่ียนระหว่างประเทศ ตารวจตระเวนชายแดนทที่ าหนา้ ทส่ี อน ผปู้ ระกอบวิชาชีพในสถานศกึ ษาเฉพาะทาง
การควบคมุ การประกอบวิชาชีพ
การควบคมุ การประกอบวิชาชีพ โดย มาตรา ๔๓ ใหว้ ิชาชีพครู ผูบ้ ริหารสถานศึกษาและผบู้ ริหารการศึกษาเป็ นวิชาชีพควบคุม การกาหนดวิชาชีพควบคมุ อ่ืนใหเ้ ป็ นไปตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง หา้ มมิใหผ้ ูใ้ ดประกอบวิชาชีพควบคุมโดยไม่ไดร้ บั ใบอนุญาต
การควบคมุ การประกอบวิชาชีพ โดยมาตรา ๗๘ ผูฝ้ ่ ำฝืนมำตรำ ๔๓ คือ “ประกอบวชิ ำชีพโดยไมไ่ ดร้ บั อนุญำตจำกคุรุสภำ”ตอ้ งระวำงโทษจำคุกไมเ่ กิน ๑ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ ๒๐,๐๐๐ บำท หรอื ท้งั จำท้งั ปรบั
การควบคมุ การประกอบวิชาชีพ โดย มาตรา ๗๙ ผูใ้ ดฝ่ ำฝืนมำตรำ ๔๖ หรือมำตรำ ๕๖ คือ “แสดงใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจว่าตนมีสทิ ธิหรอื พรอ้ มท่ีจะประกอบวิชาชีพ โดยไม่ไดร้ บั อนุญาตจากครุ ุสภา และสถานศกึ ษารบั ผไู้ ม่ไดร้ บั ใบอนุญาตเขา้ ประกอบวิชาชีพ เวน้ แตจ่ ะไดร้ บั อนุญาตจากคุรุสภา” หรอื “ประกอบวิชาชีพควบคุม หรอื แสดงใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจว่าตนมีสทิ ธหิ รือพรอ้ มที่จะประกอบวิชาชีพระหว่างถูกสงั ่ พกัใชใ้ บอนุญาต” ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกิน ๓ ปี หรอื ปรบั ไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท หรอืท้งั จาท้งั ปรบั
วนิ ิจฉยั ช้ ีขำดผูถ้ ูกกล่ำวหำวำ่ กระทำผิดจรรยำบรรณ (๑) ยกขอ้ กล่ำวหำ (๒) ตกั เตือน (๓) ภำคทณั ฑ์ (๔) พกั ใชใ้ บอนุญำต ไดไ้ มเ่ กนิ 5 ปี (๕) เพกิ ถอนใบอนุญำต
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างจรรยาบรรณกบั วินยั ขา้ ราชการมาตรา ๕๗ วรรคสอง ขำ้ รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำผูใ้ ดถูกพกั ใชใ้ บอนุญำตประกอบวชิ ำชีพตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยสภำครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำผูน้ ้ัน อำจถูกเปลี่ยนตำแหน่งหรือยำ้ ยตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนดเวน้ แต่ถูกสงั่ พกั รำชกำร หรอื ถูกสงั่ ใหอ้ อกจำกรำชกำรไวก้ ่อน
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างจรรยาบรรณกบั วินยั ขา้ ราชการมาตรา ๘๔ ขำ้ รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตอ้ งปฏิบตั ิหนำ้ ที่รำชกำรดว้ ยควำมซื่อสตั ยส์ ุจริตเสมอภำคและเที่ยงธรรมมีควำมวริ ิยะอุตสำหะ ขยนั มนั่ เพียร ดูแลเอำใจใส่ รกั ษำประโยชน์ของทำงรำชกำร และตอ้ งปฏิบตั ิตำมมำตรฐำนและจรรยำบรรณวชิ ำชีพอยำ่ งเครง่ ครดั
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างจรรยาบรรณกบั วินยั ขา้ ราชการมาตรา ๑๐๗ (๖) ขำ้ รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำออกจำกรำชกำรเมื่อ ถูกเพิกถอนใบอนุญำตประกอบวชิ ำชีพ เวน้ แต่ไดร้ บั แต่งต้งั ใหด้ ำรงตำแหน่งอื่น ที่ไมต่ อ้ งมใี บอนุญำตประกอบวชิ ำชีพ ตำมมำตรำ ๑๐๙
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างจรรยาบรรณกบั วินยั ขา้ ราชการ มาตรา ๑๐๙ เมือ่ ขำ้ รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำผูใ้ ดถูกสงั่ เพิกถอนใบอนุญำตประกอบวชิ ำชีพ และไมม่ ีกรณีเป็ นผูถ้ ูกสงั่ ใหอ้ อกจำกรำชกำรตำมมำตรำอ่ืน ตอ้ งใหไ้ ปดำรงตำแหน่งอื่นที่ไมต่ อ้ งมใี บอนุญำตประกอบวชิ ำชีพ ภำยใน ๓๐ วนั ภำยในระยะเวลำ ๓๐ วนั ถำ้ หน่วยงำนกำรศึกษำใดไม่มีตำแหน่งวำ่ ง หรอื ตำแหน่งท่ีสำมำรถยำ้ ยไปแต่งต้งั ใหด้ ำรงตำแหน่งได้ ผูน้ ้ันจะตอ้ งถูกสงั่ ใหอ้ อกจำกรำชกำรโดยพลนั
ของฝาก ครมู ำสำย “สอนน้อยหน่อย สำยมำกหน่อย อรอ่ ยกำลงั เหมำะ” ครคู ำ้ ขำย “ครทู ี่มคี วำมเพยี รตอ้ งทำโรงเรยี นใหเ้ ป็ นตลำด ครทู ่ีมีควำมสำมำรถ ตอ้ งทำตลำด ใหเ้ ป็ นโรงเรยี น” ครคู ุณนำย “อยอู่ ยำ่ งคุณนำยสบำยทุกอยำ่ ง หนทำงสะดวกพรรคพวกมำกมี ครสู ุรำบำล “ศุกรเ์ มำ เสำรน์ อน อำทิตยถ์ อน จนั ทรเ์ กยี จครำ้ น องั คำรพธุ ลำ พฤหสั กม้ หนำ้ ไม่ สคู้ น” ครเู กยี จครำ้ น “สอนมงั่ ไมส่ อนมงั่ สตำงคเ์ ท่ำเดิม”
ของฝาก ครหู วั โบรำณ “คิดเป็ น ก็คิดไป แกป้ ัญหำเป็ นก็แกป้ ัญหำไป แต่ฉนั จะสอนอยำ่ งไร ใครอยำ่ มำ ยุง่ ” ครปู ำกมำ้ “นินทำวนละมำก ๆ ปำกผ่องใส” ครหู น้ำใหญ่ “ใหญ่ท่ีโรงเรยี น ไปเป็ นเสมยี นที่อำเภอ เห่อเจำ้ นำยไดส้ องขน้ั ”
ครูดอ้ ยพฒั นา โดดเด่ียว ด้ ือยำ ชำลน้ ถว้ ย ป่ วยไมร่ กั ษำ หำประโยชน์สว่ นตน มองคนแงร่ ำ้ ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: