หน่วยที่ 2รูปแบบและประเภทของการจดั ภมู ิทศั น์ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขําศิริ
รปู แบบการจดั ภมู ทิ ศั น์แบบสวนธรรมชาติ เป็ นสวนทมี่ กั ใชเ้ สน้ โคง้ ในการออกแบบ ซง่ึ ชว่ ยใหเ้ กดิ รปู ทรงอสิ ระ สรา้ งรปู แบบทีน่ ่มุ นวล สบายตา โดยเลียนแบบธรรมชาติทัศนยี ภาพของสวนแบบธรรมชาติ - พนื้ ปลกู เป็ นพนื้ แขง็ จงึ ใชพ้ ืชพรรณไมช้ นดิ ปลกู ในกระถาง ทั้งหมดตามภาพตวั อย่างเป็ นการจดั สวนหนา้ บา้ น ขนาดกวา้ ง 5 เมตร x 5 เมตร พ้นื เป็ นพ้ืนแขง็ ปดู ัวยกระเบื้องเซรามคิ เป็ นพื้นเดียวกนั กบั บรเิ วณทจ่ี อดรถ สภาพแสงไดร้ ับแสงแดดจดัตลอดวนั จงึ จัดบรรยากาศสวนใหร้ ่มรนื่ดสู ดชนื่ ดว้ ยไมก้ ระถางท้งั หมด โดยใชพ้ รรณไม้ชนิดทม่ี ีดอกหอม และสรา้ งจดุ เดน่ ดว้ ยนา้ํ พุขนาดเล็ก พรอ้ มตกแตง่ ธรรมชาติดว้ ยการเล่นเสน้ แนวขอบเขตของสวนดว้ ยทอ่ นไมส้ นและระเบยี งไม้ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาํ ศิริ
รปู แบบการจัดภมู ิทศั น์ ทัศนยี ภาพของสวนธรรมชาติ - ใชพ้ ืชพรรณไมช้ นดิ ใหค้ วามรม่ รนื่ ดอกหอม ตกแตง่ ดว้ ยวสั ดธุ รรมชาติ พวกตอไม้ ศลิ าแลง ตามภาพตวั อย่างเป็ นการจดั สวนหนา้ บา้ นขนานกบั ท่ีจอดรถ กวา้ ง 2.5 เมตร ลึก 5 เมตร สภาพแสงไดร้ บั แสงแดดจดั จงึ จดั บรรยากาศสวนใหร้ ่มรนื่ ดว้ ยไมด้ อกหอม ชนดิ พืชพรรณที่ไม่ตอ้ งตดั แตง่ มากนกั และดแู ลรกั ษางา่ ย พรอ้ มทั้งตกแตง่ ดว้ ยตอไมแ้ ละศิลาแลงเป็ นจดุ เดน่ ของสวน คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศริ ิ
รปู แบบการจัดภมู ิทัศน์ ทัศนียภาพของสวนธรรมชาติ - ใชพ้ ชื พรรณไมห้ ลากชนิด หลายหลากวสั ดุ ตกแตง่ พรางแสงดว้ ยซมุ้ ไมเ้ ลอื้ ย ตามภาพตวั อยา่ งเป็ นการจดั สวนในกระบะบริเวณดา้ นหลังบา้ น ขนาดพน้ื ที่กวา้ ง 5 เมตร ลกึ 3 เมตร สภาพแสงไดร้ บั แสงคร่ึงวันเชา้ ซง่ึ ตอ้ งการบรเิ วณสาํ หรับนงั่ พักผ่อนหย่อนใจ พืน้ ท่ีสาํ หรับปลกู เลยี้ งกลว้ ยไม้ และพรางตาถังเกบ็ นาํ้ หลงั บา้ นใหน้ ่าดมู ากขน้ึ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศริ ิ
รปู แบบการจดั ภมู ทิ ัศน์ ทัศนยี ภาพของสวนธรรมชาติ - ใชพ้ ืชพรรณหลากสสี นั ตามภาพตัวอย่างเป็ นการจดั สวนในพน้ื ทหี่ นา้ บา้ นกวา้ ง 2.5 เมตร ลึก 5 เมตรสภาพแสงหนา้ บา้ นแดดจัดมาก จงึ ตอ้ งใชร้ ะแนงพรางแสงใหพ้ น้ื ท่รี ่มรนื่เพือ่ ใชเ้ ป็ นท่ีนงั่ พกั ผอ่ นและชมสวน ใชไ้ มห้ มอนรถไฟ และกอ้ นหนิ เป็ นทางเดินในสวน เพือ่ ใหก้ ลมกลนื และเป็ นธรรมชาติ สรา้ งสสี นั โดยใชพ้ รรณไมห้ ลากชนิด เชน่ โยทะกา โกสน โมกตอ หลิวใบ และผกากรอง เป็ นตน้ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศิริ
แบบสวนเรขาคณิต (สวนฝรงั่ เศส) การจัดสวนอย่างมแี บบแผน มรี ะบบและระเบียบเป็ นลกั ษณะการจดัสวนแบบหนึง่ ของฝรงั่ เศสทนี่ ่าสนใจ คณุ อาจลองนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นบา้ นได้เอกลักษณส์ วนฝรงั่ เศสคือการออกแบบสวนอย่างมแี บบแผน (FormalGarden) มคี วามสมมาตร เสน้ สายที่เป็ นระเบียบมคี วามสมดลุ ของพรรณไมแ้ ละองคป์ ระกอบทางสถาปัตยกรรม ทาํ ใหเ้ กิดความรสู้ กึ ท่สี งบรายละเอยี ดทกุ อย่างในสวนมสี ดั ส่วนทแ่ี นน่ อนแมจ้ ะมคี วามเป็ นแฟชนั่ ตามแบบฉบับฝรงั่ เศสแตก่ ็ใหค้ วามรสู้ ึกท่ีปลอดภัยและความงามที่ไรก้ าลเวลา ปิ ดลอ้ มดว้ ยตน้ ไม้ใบเขยี วที่ถกู ตดั แตง่ เป็ นรปู ทรงเรขาคณิต รวมท้ังดอกไมส้ ีสนั ตา่ ง ๆ ที่จดั เรยี งอย่างสมดลุ ย์ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศริ ิ
แบบสวนเรขาคณิต (สวนฝรง่ั เศส)สวนฝรงั่ เศสกาํ เนดิ ขนึ้ ในชว่ ง ค.ศ. 1650-1750 โดยไดร้ ับอิทธิพลมาจากสวนแบบอิตาเลยี น เมอ่ื คร้ังที่พระเจา้ ชารล์ ท่ี 3 แหง่ ฝรงั่ เศสทรงมีชยั เหนือดนิ แดนอติ าลีและไดร้ ับเอารปู แบบการจดั สวนมาใช้ เอกลักษณข์ องสวนแบบอิตาเลยี นก็คือ การประดบั ประดาดว้ ยประติมากรรมต่างๆ เชน่ เทพปกรณมัตามตาํ นานตะวันตก รปู สัตว์ หรอื รปู สลักใบหนา้ คน สวน ฝรงั่ เศสเนน้มมุ มองของการจดั สวนทีเ่ ป็ นแบบแผนดว้ ยการปลกู พันธไ์ุ มต้ ดั แต่งใหเ้ ป็ นลวดลายเรขาคณติมีขนาดที่สัมพนั ธก์ บั สดั ส่วนของมนษุ ย์และใหค้ วามรสู้ ึกมีชวี ติ ชวี าซ่งึ สวนขนาดใหญ่ประเภทอนื่ ๆไม่อาจใหค้ วามรสู้ ึกเชน่ นี้ได้คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศิริ
แบบสวนเรขาคณิต (สวนฝรง่ั เศส)แนวคดิ หลัก ของสวนฝรัง่ เศสคือ การออกแบบใหเ้ ห็นเสน้ แกน (Axis) ท่ที อดยาวไปจนสดุ สายตา มกี ารคาํ นวณดว้ ยสตู รทางคณติ ศาสตร์ เพ่ือใหเ้ กดิ ทศั นยี ภาพ(Perspective) ที่ไดส้ ดั ส่วนกนั โดยจะยึดแกนหลักเป็ นเกณฑใ์ นการการออกแบบรายละเอียดตา่ ง ๆ อาทเิ ชน่ การกาํ หนดทศิ ทางการมองเห็นภมู ทิ ศั นโ์ ดยรอบซึง่มองเห็นไดใ้ นระยะตา่ ง ๆ กนั จากตวั อาคาร นอกจากนย้ี ังมกี ารตกแตง่ ดว้ ยงานประตมิ ากรรมท่ไี ดแ้ รงบันดาลใจมาจากตาํ นานเทพ ปกรณัมในนยิ ายกรีก เพ่ือสรา้ งเรอื่ งราวและเพิม่ ความนา่ สนใจสวนฝรัง่ เศส นิยมสรา้ งความรสู้ กึ เชอื่ มต่อระหว่างพนื้ ทภ่ี ายในและภายนอกอาคารโดยใชล้ กู เลน่ ในการจดั การสวนใหด้ เู ป็ นส่วนหนึง่ ของพืน้ ท่ีภายในอาคาร เชน่ การจัดสวนใหม้ ีพืน้ ทปี่ ิ ดลอ้ มโดยแบง่ เป็ นเรอ่ื งราวตา่ ง ๆ ตามเทพนิยาย หรือเร่ืองราวในวรรณกรรม เชน่ สวน Jardin des Versailles ในพระราชวังแวรซ์ ายส์ ที่มีการตกแตง่ และแบง่ สวนออกเป็ นส่วนตา่ ง ๆ ประดบั ดว้ ยรปู ปั้นของเทพตา่ ง ๆ ตามตาํ นานเทพนยิ ายกรีก อาทิ โพไซดอน เทพเจา้ แห่งทอ้ งทะเล เป็ นตน้คุณครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศริ ิ
สวนฝรงั่ เศส ประกอบดว้ ยแบบแผนท่ีเป็ นองคป์ ระกอบสาคญั 5 อยา่ งคอื 1. รปู ทรงเรขาคณิต (Geometrical Pattern) สวนฝรัง่ เศสเนน้การควบคมุ ธรรมชาติใหอ้ ย่ภู ายใต้ แบบแผนท่ีกาํ หนดไว้ โดยออกแบบใหเ้ ป็ นรปู ทรงเรขาคณิตแบบสมมาตร (Symmetry) เพือ่ ใหเ้ กดิ บรรยากาศความสงบ 2. ทางเดนิ เลก็ ๆ (Little Path) ทางเดินหลักควรขนาบขา้ งดว้ ยพ่มุ ไมท้ ต่ี กแตง่ อยา่ งเรยี บรอ้ ย ประดบั ตามมมุ ต่าง ๆ ดว้ ยมา้ นงั่ หรอื รปู ป้ันซ่งึ ถือเป็ นจดุ เด่น เพือ่ เป็ นจดุ รวมของสายตาและเพือ่ สมั พนั ธก์ บั แนวคิดการออกแบบสวนโดยรวม รปู ปั้นแบบคลาสสกิ ใหค้ วามรสู้ ึกถึงความงดงามในอดตี สวนฝรงั่ เศสสมยั ใหม่ใหใ้ ชร้ ปู ปั้นแบบโมเดิรน์ เพอื่ สรา้ งบรรยากาศท่ดี ูร่วม สมยั ยิ่งขน้ึ วสั ดปุ ูทางเดินกม็ ีความสาํ คัญไมน่ อ้ ย ไม่ว่าจะเลอื กใชแ้ ผ่นหินขนาดใหญ่ หรอื กอ้ นหนิ ขนาดเล็ก ๆ ปพู ื้นทางเดิน ควรหลกี เล่ียงลวดลายท่ีดวู ่นุ วายเพราะจะไปทาํ ลายบรรยากาศความสงบของสวนได้คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศริ ิ
3. พม่ ุ ไมห้ รอื ซมุ้ ตน้ ไม:้ Berceau (แบรโ์ ซ) องคป์ ระกอบท่ีสาํ คญั ทสี่ ดุ ของสวนฝรัง่ เศสคือ การออกแบบตัดแต่งตน้ ไมใ้ บสเี ขยี วใหเ้ ป็ นรปู ทรงต่าง ๆ เพื่อให้สามารถชนื่ ชมความงามไดต้ ลอดปี ตกแตง่ ทางเดนิ ดว้ ยรปู สลกั หรอื รปู ป้ันหรอื พมุ่ ไม้ที่ตัดแต่งเป็ นรปู ทรงกรวย ควาํ่ เพือ่ เนน้ จดุ สนใจในแนวด่งิ4. บอ่ นา้ (Pond) สวนฝรัง่ เศสทมี่ ีความสวยงามอกี แบบคอื สวนแบบวงกลม(Circle Garden) ทร่ี ายลอ้ มบอ่ นา้ํ และประดบั ดว้ ยตน้ ไมข้ นาดเล็ก ๆ ทีม่ ีสีสัน เพ่อื สรา้ งความน่าสนใจจากเสน้ สายของสวนทีด่ เู รียบ ๆ สวนแบบวงกลมใหค้ วามรสู้ กึ ทส่ี งบและใหค้ วามรสู้ ึกของพืน้ ท่ปี ิ ดลอ้ มได้ มากกว่า5. กระบะตน้ ไม้ (Flower Bed) แมแ้ ตส่ วนขนาดเล็กก็สามารถปรับใหเ้ ป็ นสวน Formal Style แบบสวนฝรัง่ เศสได้ โดยใชเ้ สน้ สายรอบนอกเป็ นองคป์ ระกอบในการสรา้ งความนา่ สนใจใหก้ บั สวน เชน่ กระบะตน้ ไมท้ รงสี่เหล่ยี ม 2 ชดุ ปลกู ตน้ ไมท้ ่ีมีลาํตน้ ในแนวตง้ั เพื่อใหเ้ ป็ นจดุ เดน่ ตัดแตง่ พ่มุ ไมเ้ ป็ นรปู ปิ รามิดหรอื แท่งรปู สเ่ี หลี่ยมปลายแหลม (Obelisk) และปลกู พืชคลมุ ดินท่โี คนตน้ ซ่งึ สามารถนาํ วธิ ีน้ีไปใชไ้ ดไ้ ม่ว่าคณุตอ้ งการสวนสมัยใหม่แบบเรียบงา่ ยหรอื สวนแบบคลาสสิกคุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาํ ศิริ
การจดั สวนแบบเรขาคณิต คอื เป็ นรปู สเ่ี หลี่ยมทั้งหมด ความหมายแสดงถึง ความแนน่ อน มคี วามเชอ่ื มนั่ ในตวั เองสงูคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศริ ิ
แบบสวนรว่ มสมยัเป็ นการออกแบบสวนเมืองรอ้ น ในสไตลร์ ว่ มสมัย เนน้ ความโปรง่ โล่งสบาย ให้ความรสู้ กึ ผอ่ นคลายเมอ่ื ไดส้ มั ผสั นกั ออกแบบส่วนมากจึงนยิ มนาํ การตกแต่งสวนแนวน้มี าใชก้ นั แพร่หลาย เชน่ งานออกแบบสวน บา้ นพกั อาศัย คอนโดรสี อรท์ หลายแห่งที่ตกแตง่ สถานท่ีไวร้ อรับนกั ท่องเท่ยี ว เพอื่ สรา้ งความประทับใจ…ปัจจบุ ันบา้ นสไตลส์ วนร่วมสมัยหรือโมเดิรน์ ทรอปิ คอล มีใหเ้ ลือกมากมายหลายโครงการ เพือ่ เป็ นการตอบรับกบั ความลงตวั การจดั สวนสไตล์โมเดิรน์ ทรอปิ คอลเป็ นอกี หนง่ึ สไตลท์ กี่ าํ ลงั ไดร้ ับความนิยม เป็ นอยา่ งสงูคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศริ ิ
แบบสวนบาหลี มลี กั ษณะโดย พ้นื ฐานเหมือนกบั สวนเมืองรอ้ น โดยทวั่ ไป กล่าวคอื ลกั ษณะพนั ธไ์ุ ม้ ที่ใชเ้ ป็ น พนั ธไ์ุ ม้ ในตระกลู ใกลเ้ คียงกบั พันธไ์ุ ม้ ทีใ่ ชใ้ น สวนเมอื งรอ้ น เชน่ชบา กลว้ ยประดบั เฮลโิ คเนีย พลับพลึง ลนั่ ทม โกสน เฟิ นชนดิ ตา่ งๆ ไผ่ ปาลม์ และไมน้ า้ํ ต่างๆ กก บัว คลา้ นาํ้ เนื่องดว้ ย ชาวบาหลี มีความเชอ่ื ว่า ตน้ ไมแ้ ละพืชพันธ์ุต่างๆ มชี วี ิตและวญิ ญาณ สว่ นต่างๆ ของตน้ ไมจ้ งึ มกั ถกู นาํ มาใชท้ ัง้ เพือ่ เป็ น ยารกั ษาโรค และเพอื่ ใชใ้ นงานพิธกี รรมตา่ งๆ เนื่องจากบรรยากาศของ วถิ ีชวี ิตแบบบาหลี เกยี่ วพันกบั ความเชอ่ื ทางศาสนา และวิถีชวี ติ ประจาํ วนั อย่มู ากประตมิ ากรรมรปู สลักต่างๆ ท้ังรปู คน สตั ว์ อมนษุ ย์ จึงถกู นาํ มา จัดประดบั เพื่อให้เกดิ บรรยากาศเกย่ี วพันกบั การดาํ เนินชวี ิต ของชาวบาหลี ไมท้ นี่ าํ มาใชใ้ น งานประตมิ ากรรมคุณครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศิริ
มีการแบง่ ประเภทเป็ นหลายประเภท โดยแบง่ ตามคณุ สมบตั ิสาํ คัญ ไดแ้ ก่ความสวยงาม ความศกั ด์สิ ิทธ์ิ ความแข็งแรงคงทน และ ความออ่ นของเนื้อไม้สาํ หรับใชใ้ น การแกะสลกั อาทิ ไมข้ นนุ นิยมนาํ มาทาํ ศาลสกั การะ หนา้ กาก และของใชใ้ นพธิ ีกรรมตา่ งๆ มกี ารใชส้ ว่ นประกอบ ทางสถาปัตยกรรม อาทิ ซมุ้ ประตูกาํ แพง เป็ นบริเวณแบ่งสดั ส่วนใน สวนไมไ้ ผ่ เป็ นวัสดสุ าํ คญั ทน่ี ยิ มใชใ้ น การกอ่ สรา้ ง หลงั คาของอาคาร พน้ื ถิ่นนยิ มมงุ ดว้ ยกก โดยเฉพาะตน้ อลัง-อลัง เป็ นชนิดท่ีนยิ มใชก้ บั ศาสนสถานตา่ งๆ ลกั ษณะอยา่ งหนึ่งของสวนบาหลี คอื การใช้สระนา้ํ คนู า้ํ ใหเ้ ป็ นเครอื่ งสะทอ้ นภาพต่างๆ ทป่ี รากฏในสวน สวนนาํ้ ในบาหลี นยิ มทาํ เป็ นบ่อรปู ทรงส่เี หลย่ี ม คอ่ นขา้ งต้ืน และปลกู ไมน้ าํ้ ชนดิ ต่างๆ มสี ิง่ ประดบั ที่สะทอ้ นอารมณ์ แบบบาหลีคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศิริ
พนื้ ฐานและบรรยากาศของสวนแบบบาหลี คอื เคร่ืองหอมเน่อื งจากต้นแบบของสวนมาจากพืน้ ทท่ี ีอ่ ยใู่ นบริเวณส่งิ ศกั ดส์ิ ทิ ธแ์ิ ละพธิ ีกรรม ภายในสวนจงึ ต้องมีกลน่ิ หอมของเคร่ืองหอม ไม่ว่าจากดอกไม้หรือนา้ มนั หอมเช่นนา้ มนั จนั ทน์ท่ีหอมฟ้ งุ ตลบอบอวลไปทงั้ สวน จะชว่ ยให้บรรยากาศดลู ึกลบั มมี นตข์ ลงั วัตถุประดับสวน ความแจม่ จรสั ของสวนบาหลี มีองคป์ ระกอบมาจาก วตั ถทุ ี่นามาประกอบ การจดัสวน ไมว่ ่าจะเป็ นรูปปัน้ ประตมิ ากรรมหรือหินแกะเป็ นซ้มุ ประตู ล้วนเป็ นสง่ิ จาเป็ น แม้ของงา่ ยๆราคาถกู เช่นร่มขนาดใหญ่สสี ดใส ทใ่ี ช้ปัก ริมสระนา้ ก็ชว่ ยเน้นความงามของต้นไม้เฉดสเี ขยี วให้เดน่ ขึน้ มาได้ สง่ิ สาคญั คอื การนาทงั้ ของเก่า และของใหม่มาจดั วางร่วมกนั ได้อย่าง ไม่น่าเกลยี ด ให้ดกู ลมกลนื บอ่ นา้ ของบาหลี ต้องใช้หินสกดั เป็ นแท่งๆประเภทศลิ าแลง แตน่ กั จดั สวนปัจจบุ นั ของไทยนยิ มใช้ไฟเบอร์หล่อเป็ นบ่อนา้ แทนคณุ ภาพใช้แทนกนั ได้โดยไมน่ า่ เกลยี ด สิง่ ทดี่ ขี องบอ่ นา้ แบบบาหลีคอื ไมต่ ้องลงทนุ ทาบอ่ ให้ลึก ความลึกเพยี ง 30-50 เซน็ ตเิ มตร ก็ใช้ได้แล้ว เมือ่ บ่อไม่ลกึ กอ็ าจไม่จาเป็ นต้องใช้ที่กว้าง ถ้าบ้านแคบอาจใช้ผนงั ริมกาแพงด้านหนง่ึ ด้านใด สร้างบ่อนา้ขนาดเลก็ นขี ้ ึน้ มาได้คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาํ ศริ ิ
แบบสวนญี่ป่ นุสวนญ่ีป่ ุนไดร้ บั อทิ ธิพลจากสวนจีน พรอ้ มๆ กบั การเขา้ มา ของศาสนาพทุ ธ ในชว่ งศตวรรษท่ี 6 มีพระภกิ ษญุ ่ีป่ ุน 2 รปู จาริกไปศึกษา ในดนิ แดนจนี และกลบั มาตง้ั ลทั ธิใหม่ 2 ลทั ธิคอื Shingon และ Tendi ซึง่เป็ น ศาสนาพทุ ธ แบบมหายาน ลทั ธิทัง้ สองน้ี เนน้ ทาง ปฏิบตั ิ โดยให้ผปู้ ฏิบตั ธิ รรมหาท่ี วิเวก เขา้ ส่คู วามเงยี บของธรรมชาติ ทาํ สมาธิเพ่ือใหเ้ กิดสตปิ ัญญา การจดั สวน ในญี่ป่ ุน จงึ มีจดุ เริ่มตน้ จากวดัเชน่ เดียวกบั การเกิดขนึ้ ของ สวนจนี จากนน้ั จงึ แผ่ขยาย เขา้ ไปในวงัและ บา้ นคหบดี ในเวลาตอ่ มาคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาํ ศิริ
คติแบบเซ็นเป็ นปัจจัยสาํ คญั ท่ีส่งอิทธิพลตอ่ การจดั สวนหินและสวนทรายซึ่งเป็ น การเสนอแนวคิดทางนามธรรมใน การจดั สวนแบบญ่ีป่ นุ ที่แสดงออกถงึ ความรกั และเคารพใน ผืนดิน กอ้ นหินและพืชพนั ธ์ุ ซึ่งแมจ้ ะเป็ นบรเิ วณเล็กๆ แตก่ ็สามารถนาํจินตนาการ ของผใู้ ชใ้ หส้ ัมผสั ไดถ้ งึ ความยงิ่ ใหญข่ องธรรมชาติสวน Zen อนั เล่ืองชอ่ื ในญี่ป่ นุ ไดแ้ กส่ วน Ryoan-ji ( เรียว อนั จิ )ในเมอื งเกยี วโต ซ่ึง เป็ นสวนหิน ที่มี Theme มาจาก กองเรือ และทะล กล่มุ หิน คอื กองเรอื สว่ นรอยคราดหินเป็ นวงกลม แทนกระแสนา้ํ ที่วนรอบเรอื Stepping Stone มาจากการ simplifyคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศิริ
เกาะเล็ก เกาะนอ้ ยของญ่ีป่ ุน แลว้ หยบิ ออก โดยวิธีการ Subtraction คดิจากรปู ดา้ น เสมือนเมอ่ื นาํ้ ท่วมสงู ขน้ึ จะเหลอื แผน่ ดนิ หรอื เกาะท่ีสงูเท่านนั้ โดยแสดงแนวคดิ ดงั กล่าวออกมาทาง Plan จดั ไดว้ า่ เป็ นสวนAbstract แห่งแรกของโลก ผทู้ ่ีเห็นรอยคราดนจ้ี ะนกึ ถึงนา้ํ โดยท่ีสวนไมม่ ีการใชน้ าํ้ ตกแตง่ เลยแมส้ กั หยด สวน Zen บางแห่งมีการประยกุ ต์ ใหม้ ีตน้ ไมท้ ่ี ควบคมุ Scale ได้ ใหข้ นึ้ เกาะกบั หินเพ่ือเพิ่มชวี ิตใหก้ บั สวนถึงแมว้ า่ สวน Zen จะดเู ป็ น Static Garden กระนน้ั เมือ่ พิจารณาใหล้ กึ ซึ้งสวนยงั มี Mood of Season ท่ีแสดงออกยามมี ใบไมแ้ หง้ ร่วงหลน่ ลงไปหรอื การเปลีย่ นแปลงของมอส หรือตะไคร่ ที่จบั บนกอ้ นหินคุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศิริ
แบบสวนแนวตง้ัรปู แบบการจัดสวนแนวต้งั แบง่ กนั กวา้ งๆ ได้ 2 แบบ คอื สวนแนวตั้งใชก้ ระถาง สวนแนวตงั้ แบบทไ่ี ม่ใชไ้ มก้ ระถางคุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศิริ
สวนแนวตง้ั แบบใชก้ ระถางตวั สวนจะข้นึ โครงเหล็กแลว้ แขวนท่อ PVC ท่ีผา่ เปิ ดดา้ นบนออก เจาะรูระบายนาํ้ ดา้ นล่าง แลว้ นาํ กระถางตน้ ไมใ้ ส่ไวใ้ นท่อ PVC หรอื จะแขวนกระถางกบั โครงเหล็กโดยตรง ตน้ ไมท้ ่ีใชจ้ ะเป็ นพวกไมเ้ ลอ้ื ย หรอื ไมท้ ่ีกิ่งกา้ นหอ้ ย ยอ้ ยลง เพราะรางปลกู จะมกี ารเวน้ ชอ่ งวางระหวา่ งราง เป็ นชอ่ งวา่ งของโครงเหล็กชดั มาก ก่ิงที่เลอ้ื ยยาวจะไปอาํ พรางชอ่ งโหว่ใหแ้ ทนตน้ ไมท้ ่ีเหมาะกบั พื้นท่ีในรม่ ก็เชน่ เคราฤษี พลตู ระกลู ตา่ งๆ ฟิ โลกา้ มกงุ้ ซิงโกเนยี มหรอื เงนิ ไหลมา ทองไหลมา บีโกเนยี เฟิ นชนดิ ตา่ งๆสบั ปะรดสีบางสายพันธ์ุ ผีเส้อื ราตรี พรมกาํ มะหย่ี หรือจะใชเ้ ป็ นพืชผกัสวนครวั ในบา้ นเราก็ไดแ้ ตพ่ วกนอี้ ายจุ ะสน้ั ไม่กเี่ ดือน ตน้ ก็จะโทรม ตอ้ งเปลย่ี นตน้ ไมใ้ หม่ คุณครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาํ ศริ ิ
จดุ อ่อนของมนั คือ เร่ืองของนาํ้ หนกั เนื่องจากในกระถางจะใส่ดนิผสมกาบมะพรา้ ว หรอื กาบมะพรา้ วลว้ นๆ อมุ้ นาํ้ เกง่ รดนาํ้ แลว้หรอื ถา้ ฝนตกเปี ยกจะทาํ ใหน้ า้ํ หนกั ท่ีโครงเหล็กแบกเอาไว้เพิ่มขึ้น สวนไมก้ ระถางก็เลยไมน่ ยิ มทาํ เป็ นแผงใหญๆ่ ส่วนใหญจ่ ะทาํ ยาวไมก่ ีเ่ มตร สงู ไมเ่ กนิ 3เมตร และดว้ ยความท่ีกระถางที่ใชจ้ ะเป็ นกระถางโปรง่ ๆ หรอื แขวนลอยอยกู่ ลางอากาศ พอโดดแดดโดนลมมากๆ ความชน้ื ในกระถางจะระเหยเรว็ มาก ทาํ ใหต้ อ้ งรดนา้ํบอ่ ยๆ ทาํ ใหเ้ หมาะกบั การจดั ในรม่ หรือในอาคารมากกว่ากลางแจง้ แตถ่ า้ รดนา้ํ บอ่ ยเกนิ ไป จนระเหยความชนื้ ออกไมท่ ันรากเนา่ ได้ ถงึ จะมีขอ้ จาํ กดั เร่อื งคุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศริ ิ
สวนรปู แบบนท้ี าํ งา่ ย เจา้ ของบา้ นสามารถใสก่ ระถางตน้ ไมไ้ ดเ้ อง (ยกเวน้งานโครงเหล็กท่ีตอ้ งเรียกชา่ งโครงเหล็กเขา้ มาจดั การให)้ จะปรบั เปลย่ี นยา้ ยตน้ ไมก้ ็งา่ ย หากมีตน้ ไมต้ ายสามารถเปล่ยี นกระถางออกเป็ นกระถางๆ ไปไมต่ อ้ งรือ้ ทง้ั หมด ส่วนเรือ่ งการใหน้ าํ้ ถา้ เจา้ ของบา้ นงบนอ้ ยจะใชส้ ายยางรดเอง ก็คงจะลาํ บาก เลอะเทอะ นา้ํ นองพื้น ผนงั ก็คงจะเปี ยกไปดว้ ยเพราะบงั คบั สายนา้ํ ใหร้ ดแตต่ น้ ไมไ้ มไ่ ด้ ดีไมด่ ี อาจจะรดนาํ้ไม่ทวั่ ถึงเอาดว้ ย (แอบสงสยั เหมอื นกนั วา่ ถา้ เป็ นแผงสงู ๆ จะฉดียงั ไง) หรือถา้ บา้ นไหนมงี บ เลือกใชร้ ะบบท่อเดินตามโครงเหล็กแทนแบบนเี้ วลารดนาํ้ ตน้ ไมก้ ็จะไดน้ าํ้ ทวั่ ถึงกนั หมด แลว้ ก็ไมเ่ ลอะเทอะ พื้น นา้ํไม่นอง หรอื กระเด็นไปโดนผนงัคุณครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศิริ
สวนแนวตง้ั แบบที่ไมใ่ ชไ้ มก้ ระถางจะเป็ นการปลกู ตน้ ไมล้ งบนภาชนะปลกู อืน่ เชน่ แผงปลกู ตน้ ไม้สาํ หรบั ตดิ ตง้ั กบั โครงเหล็ก หรอื ปลกู พืชแบบหม่ ผา้ (ยดึ ผา้ กบั เขา้โครงเหล็ก 2 ชนั้ แลว้ ใชค้ ตั เตอรก์ รีดผา้ ชนั้ นอกสดุ ใหเ้ ป็ นกระเป๋ าแลว้ ปลกู ตน้ ไมไ้ วช้ อ่ งท่ีกรีดระหวา่ งผา้ 2 ชน้ั จากนนั้ ก็ใชป้ ื นลมยิงเยบ็ ผา้ ท้งั สองชนั้ ตดิ กนั ) ในผา้ ชนิดพิเศษที่เขาเรยี กว่า ผา้ จีโอเทก๊ ซไ์ ทล์ ท่ีมีคณุ สมบตั ิพเิ ศษตรง เน้อื ผา้ ทนทาน ทนแดด ทนฝนทนลม เก็บความชื้นไดด้ ี อยไู่ ดเ้ ป็ น 10ปี สวนนา้ํ หนกั เบากว่าแบบใชก้ ระถาง เพราะไมต่ อ้ งใสด่ ิน หรอื กาบมะพรา้ ว สามารถทาํเป็ นแผงขนาดใหญไ่ ด้ คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศิริ
การจัดวางตน้ ไมส้ ามารถเลือกไดว้ ่าตอ้ งการวางใหช้ ดิ กนั แคไ่ หนจะวางเล่นระดบั สงู -ตา่ํ สรา้ งมติ ิยงั ไง อยากไดล้ ายอะไรแลว้ แต่จินตนาการของคนออกแบบ สว่ นตน้ ไมท้ ี่เหมาะกบั สวนรปู แบบน้ี เชน่ สบั ปะรดสี แพงพวย แพรเซี่ยงไฮ้ สรอ้ ยไก่ ชวนชม บลูฮาวาย ฟิ โลสายพนั ธต์ า่ งๆ ฯลฯ เนน้ ตน้ ไมท้ ่ีอายยุ ืนหลายๆ ปีเพราะถา้ เลือกใชไ้ มอ้ ายสุ ้นั การเปล่ียนตน้ ไมจ้ ะเป็ นเรือ่ งยากกว่าสวนแบบท่ีใชไ้ มก้ ระถางคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศิริ
ขอ้ เสียของสวนรปู แบบน้ีก็คือ ตดิ ตงั้ ยาก ซับซอ้ น อปุ กรณ์หลายช้ิน และตอ้ งอาศยั คนท่ีมีความชาํ นาญติดตง้ั ดแู ลยากเพราะระบบการใหน้ า้ํ ตน้ ไมจ้ ะถกู ซอ่ นเอาไวข้ า้ งหลังแผงทงั้ หมด ถา้ มหี นูไปกดั ท่อสง่ นาํ้ หรอื หัวรดนา้ํ เกิดตนั ขนึ้ มา กไ็ มม่ ที างรไู้ ดเ้ ลย การคาํ นวนนาํ้ หนกั สวนที่เหมาะสมกบั ความแขง็ แรงของอาคาร โครงเหล็ก การยึดติดกบั ตวั อาคาร ระบบการใหน้ าํ้ ทาํ แลว้ ปรบั เปล่ียนแกไ้ ขยาก หากตอ้ งแกไ้ ขตอ้ งรือ้ ออกมากกว่าแบบใชไ้ มก้ ระถางคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คคณุ ณุ คครพรู พทัู ทัธวธรวรรณรณขขาํ ศาํ ศริ ริิ ิ
แบบสวนกระถางสวนกระถาง คอื การจดั สวนท่ีมีกระถางเป็ นตวั สาํ คญั หลายๆคนชอบสวนกระถาง เพราะชอบท่ีสามารถจบั เปลย่ี น จดั วางใหมไ่ ดอ้ ยู่เรื่อยๆดแู ลงา่ ย กระถางไหนตน้ ไมป้ ่ วยหรอื ตาย ก็แคโ่ ยกยา้ ยออกไป และหลายๆคนชอบ เพราะหลงรกั กระถางสวยๆ จนตอ้ งนาํ มาจดั เป็ นสวนคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คคณุ ณุ คครพรู พทัู ทัธวธรวรรณรณขขาํ ศาํ ศิริริ ิ
หลากหลายเหตผุ ลของความชอบเหล่านี้ คอื ท่ีมาของสวนทม่ี กี ระถางเป็ นพระเอกโดยมตี น้ ไมเ้ ป็ นนางเอกค่ใู จ ซงึ่ มีหลักในการจัดใหส้ วย ดงั นี้1. เลือกกระถางใหห้ ลากหลาย สีสัน รปู ทรง และวสั ดทุ ี่หลากหลายของกระถางเมอ่ื นาํ มาอย่รู วมกนั จะชว่ ยสรา้ งความนา่ สนใจ หากคณุ เป็ นมือใหมจ่ ดั สวน อาจคมุ โทนสขี องกระถางโดยเลอื กใชแ้ ค่ 2-3 สีกไ็ ด้ เพือ่ ไมใ่ หส้ ใี นสวนดเู ลอะเทอะเกนิ ไป2. ทง้ิ ชอ่ งไฟใหก้ ระถางไดอ้ วดโฉม ตน้ ไมท้ ่จี ับคกู่ บั กระถางไดล้ งตัวนน้ั จะดูสวยงามดว้ ยตวั เอง เมอื่ นาํ มาจดั วางเรียงตอ่ กนั หรือซอ้ นแถว ควรเวน้ ระยะห่างระหว่างกระถางสักเล็กนอ้ ย เพื่อใหเ้ ห็นรปู ทรงของกระถางและตน้ ไมไ้ ดช้ ดั เจนขนึ้3. ยกกระถางใหด้ เู ดน่ ไมก้ ระถางขนาดเล็ก หรอื ที่คณุ โปรดปรานเป็ นพิเศษ อาจวางใหอ้ ย่ใู นระดับที่ชน่ื ชมไดใ้ กลช้ ดิ โดยวางบนโตะ๊ เกา้ อห้ี รือทาํ ชน้ั วาง ปะปนกบักระถางทว่ี างบนพน้ื เป็ นการเพม่ิ มิตใิ หก้ บั สวนไดอ้ ีกทางหนึง่คุณครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาํ ศริ ิ
สวนกระถางขา้ งบา้ น-หลงั ทาวนเ์ ฮา้ ส์สาํ หรบั บา้ นเดย่ี วขนาดเล็กหรอื ทาวนเ์ ฮา้ ส์ มักมพี ื้นทจ่ี ดั สวนเหลือเพยี งเล็กนอ้ ยรอบๆบา้ น แต่พน้ื ทลี่ กั ษณะนี้ก็มีขอ้ ไดเ้ ปรียบ เพราะมผี นงั บา้ นเป็ นฉากหลัง จึงชว่ ยใหส้ วนดูเต็มไดโ้ ดยไม่ตอ้ งใชต้ น้ ไมจ้ าํ นวนมาก แคจ่ ัดวางกระถางชดิ กาํ แพง หรือขนาบสองขา้ งทางเดิน ก็เนรมิตสวนสวยไดไ้ ม่ยากแมจ้ ะท่ีเหลือนอ้ ย แตด่ า้ นบนยงั เปิ ดโลง่ ทางเลือกสาํ หรับตน้ ไมใ้ นกระถางจึงมมี ากชนิด จะตน้ สงู หรอื เต้ยี ไม่มปี ัญหา ท่ีสาํ คัญความกวา้ งของทรงพมุ่ ตอ้ งพอดกี บั พ้นื ที่ และสภาพแสงตอ้ งเหมาะกบั นิสยั ตน้ ไม้ หากที่แคบอยทู่ างฝัง่ ทศิ ใต้ แนะนาํ ใหใ้ ชไ้ มท้ นแดด เชน่ จนั ทนผ์ า สนดินสอ ไทร ปาลม์ บางชนดิ อยา่ งปาลม์หางสนุ ัขจง้ิ จอก ปาลม์ นา้ํ พุ หรือหมากเขยี ว แต่หากไดร้ ม่ เงาจากไมต้ น้ สงู แลว้ ไมต้ น้ เต้ยีกวา่ กส็ ามารถเป็ นไมร้ ม่ ได้ ส่วนทศิ อน่ื ๆ ลว้ นแตไ่ ดร้ ับแดดอย่างนอ้ ยคร่งึ วนั ไมก้ ง่ึ แดดกงึ่ รม่ จึงนา่ จะเหมาะกว่า เชน่ โมก แกว้ หมากแดง หรือหมากเหลอื ง รวมท้งั ไมร้ ม่ ที่เป็ นไมใ้ บสวยๆอกี หลายชนดิ ก็อย่ไู ด้ สวนทกี่ ระถางเป็ นพระเอก เลือกกระถางให้หลากหลาย สสี ัน รปู ทรง และวัสดทุ ห่ี ลากหลายของกระถาง เมอ่ื นาํ มาอยรู่ วมกนั จะชว่ ยสรา้ งความน่าสนใจ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาํ ศิริ คุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ
แตถ่ า้ คณุ เป็ นมือใหม่หัดจัด อาจคมุ โทนสีของกระถางโดยเลือกใชแ้ ค่ 2-3 สกี ็ได้เพ่อื ป้ องกนั ไมใ่ หส้ ใี นสวนดเู ลอะเทอะเกนิ ไป ท้ิงชอ่ งไฟใหก้ ระถางไดอ้ วดโฉมตน้ ไมท้ จ่ี ับคกู่ บั กระถางไดล้ งตัวนัน้ จะดสู วยงามดว้ ยตวั เอง เมื่อนาํ มาจัดวางเรียงต่อกนั หรือซอ้ นแถว ควรเวน้ ระยะห่างระหว่างกระถางสกั เล็กนอ้ ย เพอ่ื ใหเ้ ห็นรปู ทรงของกระถางและตน้ ไมไ้ ดช้ ดั เจนขน้ึ ยกกระถางใหด้ เู ด่น ไมก้ ระถางขนาดเล็ก หรือที่คณุ โปรดปรานเป็ นพิเศษ อาจวางใหอ้ ย่ใู นระดับทช่ี น่ื ชมไดใ้ กลช้ ดิ โดยวางบนโต๊ะ เกา้ อี้ หรือทาํ ชน้ั วาง ปะปนกบั กระถางท่วี างบนพนื้ เป็ นการเพิม่ มติ ิใหก้ บั สวนไดอ้ กี ทางหน่ึงคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาํ ศิริ
สวนกระถางนอกระเบียงพื้นท่ีระเบยี ง มีขอ้ จาํ กดั ในการจดั สวนหลายอย่าง ทัง้ พื้นทีท่ ่สี ว่ นมากจะแคบและยาว รบันาํ้ หนกั มากๆไมไ่ ด้ บางครงั้ มีชายคาเป็ นตวั กาํ หนดความสงู ของตน้ ไม้ และเป็ นทางผา่ นของแสงเขา้ มาสภู่ ายในหอ้ ง (ปลกู ตน้ ไมท้ ึบมาก หอ้ งจะมดื ) การจัดสวนกระถางบนระเบยี ง จาํ นวนของไมก้ ระถางจึงตอ้ งพอดีกบั ขนาดพนื้ ที่ และไม่ควรเลอื กตน้ ไมท้ กี่ นิพ้ืนที่ทางกวา้ งมาก ท่เี หลอื กแ็ คก่ าํ หนดรปู แบบการใชง้ านใหช้ ดั เจน ว่าจะใชน้ งั่ นอนเอกเขนก แค่นงั่ ชมววิ ชวั่ ครู่ หรือ แค่มีไวช้ นื่ ชมจากในหอ้ ง เพอ่ื ใหส้ วนกระถางบนระเบยี งตอบสนองความตอ้ งการไดต้ รงประเด็นขน้ึ อย่กู บั สภาพแสงของมมุ ระเบยี งนั้นๆหากไดร้ บั แดดไมเ่ ต็มวันตอ้ งเลือกใชต้ น้ ไมท้ สี่ ามารถอยรู่ อดได้ เชน่ ไมท้ นร่ม ส่วนใหญ่เป็ นไมใ้ บชนิดต่างๆ อย่างเฟิ น จงั๋ สาวนอ้ ยประแป้ ง หมากผหู้ มากเมีย เดหลี หรอืหนา้ ววั ใบ แตห่ ากระเบียงไดร้ บั แดดเต็มๆ ก็ควรเลอื กตน้ ทที่ นแดดไดด้ ี ระวังอย่าเลือกใช้ไมใ้ บทมี่ ีขนาดใบใหญ่เกนิ ไปเพราะอาจถกู ลมพัด ใบฉีกขาดได้ และไม่ควรเลือกตน้ ไมท้ ่ีลาํตน้ แผน่ กวา้ ง กนิ พ้ืนทม่ี าก อยา่ งปาลม์ พดั ปาลม์ จีน ตน้ ไมท้ ่ีตัดแตง่ ทรงพมุ่ ได้ ประเภทไทร แกว้ หรอื ชาปัตตาเวีย กเ็ ป็ นทางเลือกทีด่ สี าํ หรับสวนระเบียงคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาํ ศริ ิ
สวนกระถางบนดาดฟ้ าการจดั สวนกระถางบนพื้นที่โลง่ แจง้ อยา่ งดาดฟ้ า ควรเลอื กใชไ้ มก้ ระถางทรงสงู ลดทอนความเวง้ิ วา้ ง และจดั วางเป็ นแนวแทนกาํ แพงเพ่ือสรา้ งระนาบปิ ดลอ้ ม เพิ่มความเป็ นส่วนตวั และนา่ เขา้ ไปใชง้ าน บางครง้ั หากพื้นท่ีกวา้ งมากอาจตอ้ งหาวธิ ีพรางกระถางดว้ ยกระบะ เพ่ือใหส้ วนกระถางดเู ป็ นกล่มุ กอ้ นไมย่ ิบยอ่ ยและไมก่ ระจดั กระจาย ที่สาํ คญั คอื เรอ่ื งความรอ้ น ขอ้ จาํ กดั ท่ีทาํ ให้สวนดาดฟ้ ามกั ถกู ทิ้งรา้ ง พื้นสวนดาดฟ้ าจงึ ควรปูวสั ดทุ ่ีไมเ่ ก็บความรอ้ นและเตรยี มระบบระบายนา้ํ ใหด้ ี เพื่อลดปัญหานาํ้ ซมึ สหู่ อ้ งดา้ นลา่ งไมก้ ระถางท่ีเหมาะกบั สวนกระถางบนดาดฟ้ า ควรมผี วิ สมั ผสั ใบละเอียดเล็ก ดนู มุ่ สบายตา และไม่ฉกี ขาดงา่ ยอนั เนอ่ื งมาจากสภาพลมแรง เป็ นไมท้ นแดด และไม่ตอ้ งการนา้ํ มากนกั ตน้ ไมเ้ หลา่ นม้ี ีทงั้ ไมใ้ บ เชน่ ไทร สน ปาลม์ จนั ทนผ์ าจนั ทนห์ อม และไมด้ อกมกี ลิน่ หอม อย่างเชน่ โมก แกว้ ลนั่ ทม ชวนชมคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศริ ิ
แบบสวนหินสวนหนิ Rock garden เป็ นสวนทใ่ี ชห้ ินและกรวดเป็ นองคป์ ระกอบหลกั ในการจดัโดยเลือกใชค้ วามหลากหลายจาก ลักษณะและชนดิ ของหิน ทีแ่ ตกตา่ งกนั ทง้ั สีรปู ร่าง และผิวสมั ผัส จากน้นั ก็นาํ ตน้ ไม้ มาปลกู ประกอบ ใหม้ ีความสมั พนั ธแ์ ละกลมกลืน กบั หนิ ท่เี รา จัดวาง อาจจะจัดบนพน้ื ทีร่ าบเรียบ หรือเป็ นชน้ั เป็ นเนนิ ก็แลว้ แต่นกั ออกแบบจะสรา้ งสรรคข์ นึ้ มา ซ่งึ แนวคิดน้ี ก็คงหนไี มพ่ น้ จาก การนาํรปู แบบธรรมชาติ เชน่ โขดหนิ เนนิ เขา เกาะแกง่ ลาํ ธาร หรือนาํ้ ตก ถอดถ่ายจาํ ลอง เอามาจัดวาง ใหเ้ หมาะสมกบั สถานที่ ท่ีเราจะจัดอาจวางหินรปู ตั้งบา้ งนอนบา้ ง กแ็ ลว้ แตค่ วามเหมาะสม จากนั้นก็นาํ ตน้ ไม้ มาจัดประกอบ หรืออาจมีวสั ดอุ ่ืน ๆ อกี ก็แลว้ แต่ ความตอ้ งการ บางกรณสี ถานที่อาจจะอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มทด่ี อี ย่แู ลว้ เชน่ บา้ นพักในชนบทท่ตี ดิ กบั เขา และธรรมชาติดังกลา่ วคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาํ ศริ ิ
นกั ออกแบบสวน อาจจดั บริเวณใหส้ อดคลอ้ งไปกบั ธรรมชาตริ อบดา้ น เชน่ หักรา้ งถางพงเคลยี รพ์ ืน้ ทร่ี อบ ๆ บริเวณที่พัก คงสภาพหิน หินหรอื เนนิ ท่ีเป็ นธรรมชาตเิ อาไว้ และนาํ ตน้ ไมไ้ ปแต่งประกอบ แตอ่ ย่างไรกต็ อ้ งคงสภาพของเดมิตามธรรมชาติ เอาไว้ ซึ่งกจ็ ะเป็ นอกี รปู หน่ึง ลกั ษณะสวนหินนก้ี ็นิยมทางประเทศแถบยโุ รปมากอ่ นเรยี กว่า Rock Garden สรา้ งความรสู้ ึก ใหเ้ ห็นถึง ความเป็ นปึ กแผน่ มีพลังสนกุ สนาน ทางแถบเอเชยี จีน และญี่ป่ นุ ก็นิยมจดั เชน่ กนัโดยเฉพาะ สวนหนิ ของญปี่ ่ นุ ซง่ึ มกั จะเรียกกนั วา่ Stone Garden ลักษณะสวนหินของญ่ีป่ นุ จะเป็ นลกั ษณะพเิ ศษคือ นอกจากสวนหิน ทเ่ี ป็ นลักษณะ ลอกเลยี นธรรมชาติ แลว้ ยงั มี สวนหินทเ่ี ป็ น ลกั ษณะจินตนาการ ใหผ้ รู้ ับไดใ้ ชฝ้ ึ กสมาธิตามลทั ธิเซน จะเป็ นการจดั ในพน้ื ราบจัดวางหินเป็ นกล่มุ เป็ นกอ้ น สมมตุ แิ ทนโขดเขาและเกาะแกง่ มีกรวดลอ้ มรอบ ทาํ ริ้วรอยลวดลาย คลา้ ยสายนา้ํ และคลนื่สวนหินลักษณะน้ี จะไมน่ ิยมใชต้ น้ ไม้ มาประกอบเลย จะดนู ่งิ ใหใ้ ชฝ้ ึ กสมาธไิ ด้เต็มท่ีคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คคณุ ณุ คครพรู พูทั ัทธธวรวรรณรณขขาํ ศาํ ศริ ริิ ิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: