Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่6 หลักการออกแบบภูมิทัศน์ 2

หน่วยที่6 หลักการออกแบบภูมิทัศน์ 2

Published by phatthawan.kk, 2018-06-10 22:42:19

Description: หน่วยที่6 หลักการออกแบบภูมิทัศน์ 2

Search

Read the Text Version

หน่วยที่ 5หลกั การออกแบบภมู ิทศั น์2 คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาศริ ิ

1. การเขยี นภาพในงานเขยี นแบบ ภาพที่ใชใ้ นงานเขียนแบบเป็ นภาพสามมิติ ประกอบดว้ ยแกนของภาพ 3 แกน ไดแ้ ก่ ความกวา้ ง ความยาว และความสงูทามมุ ซึ่งกนั และกนั ใหเ้ ห็นในลกั ษณะคลา้ ยรปู ทรงชิน้ งานจริงโดยผอู้ า่ นแบบจะมองเห็นไดช้ ดั เจนและเขา้ ใจงา่ ย ภาพสามมิตทิ ี่นิยมใชง้ านมดี งั นี้ คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาศิริ

1. ภาพออบลิค (Oblique) เป็ นภาพสามมติ ทิ ่ีตอ้ งมองเห็นดา้ นหนา้ ของวัตถุ ซ่ึงโครงสรา้ งประกอบไปดว้ ย เสน้ แนวนอน เสน้ แนวดิ่ง และเสน้ เอียง 45 องศา หลักในการเขยี นภาพ ออบลคิ มีดงั น้ี 1) เขยี นภาพดา้ นหนา้ ของวตั ถตุ ามมาตรส่วน โดยไม่ใหเ้ กดิ ความบดิเบ้ียว 2) ดา้ นขา้ ง และ ดา้ นบน เขยี นโดยทามมุ 45 องศา กบั แกนนอน 3) ความยาวของดา้ นที่เขยี นตามแกนทามมุ 45 องศา จะยาวเป็ นครงึ่ หนึง่ ของอีกดา้ น เพอ่ื ใหด้ เู หมอื นของจริงมากขนึ้ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาศริ ิ

คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาศริ ิ

2. ภาพไอโซเมตรกิ (Isometric) เป็ นภาพสามมติ ทิ ่ีเสน้ แนวตงั้ จะแสดงดา้ นตง้ั ของวตั ถุ ส่วนแนวนอนจาใชเ้ สน้ ที่ทามมุ 30 องศา กบั แกนนอน และเสน้ ทกุ เสน้ ในภาพจะใชม้ าตราสว่ นเดียวกนั หลกั การเขียนภาพไอโซเมตริก มีดงั น้ี 1) เขยี นภาพฉายเพ่ือใหท้ ราบความยาวและความกวา้ งจากภาพดา้ นบน ความยาวและความสงู จากภาพดา้ นหนา้ และความกวา้ งหรือความหนาและความสงู จากภาพดา้ นขา้ ง 2) เขยี นวตั ถรุ ปู แบบกลอ่ งสี่เหลี่ยมท่ีประกอบดว้ ยแกนสามแกนทามมุ กนั 120 องศา แกนแรกเขยี นในแนวด่งิ และแกนท่ีเหลอื สองแกนเขยี นไปทางซา้ ยและทางขวา โดยทามมุ 30 องศา กบั เสน้ แนวนอน คณุ ครพู ัทธวรรณ ขาศิริ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาศริ ิ

3. ภาพเพอรส์ เปกทฟี (Perspective) หรือภาพทศั นยี ภาพ เป็ นภาพสามมติ ิท่ีมองจากระยะไกล มลี กั ษณะการมองเสน้ ฉายไม่ขนานกนั และมีจดุ รวมของสายตาจดุ หนงึ่ โดยลกั ษณะของเสน้ ฉายจะไปสิ้นสดุ ที่ระยะขนาดของวตั ถนุ ั้น เป็ นภาพเหมือนจรงิ มากทสี่ ดุ เม่ือมองจนสดุ สายตา หลกั ในการเขยี นภาพเพอรส์ เปกทฟี มดี งั นี้ 1) ร่างกรอบของวตั ถทุ ี่จะวาดกอ่ น 2) รา่ งรปู ทรงพื้นฐานของวัตถใุ หอ้ ย่ภู ายในกรอบ 3) เพม่ิ เตมิ รายละเอยี ดในภาพร่างและเติมความเขม้ ของเสน้ ตา่ งคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาศิริ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาศริ ิ

วธิ กี ารเขยี นแบบ โดยทวั่ ไปมี 2 วธิ ี คือ การเขยี นแบบดว้ ยมือเปล่า และการเขยี นแบบดว้ ยเครื่องมอื และอปุ กรณ์ การเขยี นแบบด้วยมอื เปล่า คอื การเขียนภาพสเกตช์ ซ่งึ เป็ นการเขียนแบบร่างง่าย ๆ ด้วยมอื เพอ่ื เป็ นต้นแบบในการปรับปรงุ ทดลอง และแก้ไข หรือเป็ นต้นแบบเพ่ือที่จะเขยี นให้เรียบร้อยและถกู ต้องอีกครงั้ หนึง่ ตวั อยา่ งการสเกตชภ์ าพการสเกตซ์ภาพทศั นยี ภาพคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ทั ธวรรณ ขาศิริ

ภาพช้นิ งานแบบที่ตอ้ งการสเกตซเ์ ป็ นภาพออบลคิ หมายถึงส่วนสัดของส่ิงตา่ งๆ เชน่ สว่ นสดั ของอาคาร ส่วนสดั ของตน้ ไม้ ส่วนสดั ของหิน หรือกลา่ วงา่ ยๆก็คือ ความสมั พันธข์ องความกวา้ งความสงู ความยาว ของส่งิ หนึง่ กบั อีสิง่ หนึง่ เชน่ เปรยี บเทยี บระหว่างตน้ ไม้ 2ตน้ ว่ามีสดั ส่วนแตกตา่ งกนั หรอื เท่ากนั อยา่ งไร สเกตซแ์ นวเสน้ หลกั ของภาพออบลิค 3 เสน้คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ัอทวรรณ ขาศิรแิ

สเกตซโ์ ครงกล่องส่เี หล่ยี มของภาพออบลคิคุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คคณุ ณุ คครพรู พูทั อัธทววรรรรณณขขาาศศิริริ ิแ

รา่ งรายละเอยี ดของภาพดา้ นหนา้ คุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

สเกตซร์ า่ งเสน้ เอยี งลึกลงไปในภาพดา้ นบนและภาพดา้ นขา้ งใหค้ รบทกุ สว่ นคุณครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

เขยี นเสน้ เตม็ หนกั เสน้ ขอบรปู ภาพดา้ นบนและภาพดา้ นขา้ งคุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ัอทวรรณ ขาศิรแิ

การสเกตซภ์ าพสามมติ แิ บบไอโซเมตริก สเกตซแ์ นวเสน้ หลักของภาพออบลคิ 3 เสน้คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู ัอทวรรณ ขาศิรแิ

สเกตซโ์ ครงกล่องส่ีเหลี่ยมของภาพไอโซเมตริกคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิริแ

รา่ งรายละเอยี ดของภาพดา้ นหนา้ คุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

สเกตซร์ า่ งเสน้ เอียงลกึ ลงไปในภาพดา้ นบนและภาพดา้ นขา้ งใหค้ รบทกุ สว่ นคุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ัอทวรรณ ขาศิรแิ

เขยี นเสน้ เต็มหนกั เสน้ ขอบรปู ภาพดา้ นบนและภาพดา้ นขา้ งคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

สญั ลกั ษณใ์ นงานภมู ิทศั น์ สญั ลักษณ์ต้นไม้ ไม้ยนื ต้นคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

ไมพ้ มุ่ /ไมค้ ลมุ ดินคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิริแ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

สะพานคุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิริแ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

ขนาดมาตรฐานของสนามกฬี าคณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

สระวา่ ยนา้คุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิริแ

รปู แบบสระวา่ ยนา้คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

การเขียนภาพแปลนขนั้ ตอนการออกแบบแปลนสวนการออกแบบ (design process) จดั สวนมขี นั้ ตอนของการออกแบบเพื่อให้ผอู้ อกแบบไดเ้ ขา้ ใจถงึ สถานที่และ จดุ ประสงคข์ องเจา้ ของ การออกแบบจะเป็ นเรือ่ งไมย่ ากสาหรบั ผทู้ ่ีคนุ้ เคย กบั งานทางดา้ นการออกแบบ แต่สาหรบั ผทู้ ่ีเร่มิ เรียนรแู้ ละ ไมค่ อ่ ยไดจ้ บั ดนิ สอ วาดรปู ก็จะเป็ นการยากซึ่งการปฏิบตั เิ พ่ือออกแบบจะยากกว่า การเรียนรใู้ นเร่ืองทฤษฎีอย่างมาก ในการออกแบบครงั้ แรกอาจจะยงุ่ ยาก ตดิ ขดั แตใ่ นครง้ั ตอ่ ๆ ไปก็จะเร่ิมงา่ ยขน้ึ เป็ นลาดบั โดยทวั่ ไป หลกั การในการออกแบบสวน มีขน้ั ตอนดงั น้ีคุณครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิริแ

1. สารวจสถานท่ี (site analysis) เป็ นการสารวจหาขอ้ มลู ของสถานทีใ่ หม้ ากท่สี ดุ ผอู้ อกแบบจะตอ้ งศึกษา สภาพภมู ิประเทศของสถานทน่ี น้ั ๆ ขอ้ มลู ทค่ี วรทราบ คอื 1.1 สภาพภมู อิ ากาศ บรเิ วณนั้นมอี ากาศรอ้ นหนาว แหง้ แลง้ ชนื้ มากนอ้ ยเพยี งใด ขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ะทาใหส้ ามารถเลือกใชพ้ รรณไมไ้ ด้ ถกู ตอ้ ง นอกจากนี้บริเวณดังกลา่ วส่วนไหนจะไดร้ ับแสงสว่างมากนอ้ ย อย่างไร ฝนตกชกุ หรือไม่ เพอ่ื เป็ นขอ้ มลู ในเรือ่ งการระบายนา้ จากพืน้ ท่ี ทศิ ทางลมเป็ นอยา่ งไร ลมพัดแรงจนทาใหพ้ รรณไมเ้ สยี หายหรือไม่คุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

1.2 บริเวณพื้นท่ี สภาพดนิ เป็ นอย่างไร เป็ นกรด ดา่ ง ดินเหนยี ว ดนิ ร่วน หรอื ดินปนทราย ลกั ษณะพื้นท่ีสงู ตา่ มากนอ้ ย จะตอ้ งถมดินตรงไหน ขนาดของพ้ืนที่กวา้ งยาวเท่าไร อย่บู ริเวณไหนของบา้ น 1.3 ทิศ ทิศเหนอื อย่ทู างไหน การรทู้ ิศจะชว่ ยใหท้ ราบเร่อื งแสงสวา่ งและทิศทางลม ซึง่ ส่งผลในการกาหนดพรรณไมแ้ ละสิ่งอนื่ ๆคุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิริแ

1.4 ส่ิงกอ่ สรา้ ง ลักษณะอาคาร รวมท้งั สิง่ กอ่ สรา้ งอน่ื ๆ ในบรเิ วณนน้ัเป็ นลกั ษณะใด เพราะการออกแบบจัดสวนจะตอ้ งใหก้ ลมกลนื และเสรมิ ใหอ้ าคารสถานท่ีนน้ั สวยงามเดน่ สงา่ รวมทง้ั เกดิ ประโยชนใ์ ชส้ อยอยา่ งเต็มท่ี 1.5 พรรณไมเ้ ดิม มมี ากนอ้ ยอยใู่ นตาแหนง่ ใด รวมท้ังชนดิ ของพรรณไมน้ ั้น ๆ ในการสารวจสถานท่ี ผอู้ อกแบบอาจจะเขยี นแปลนครา่ ว ๆ โดยรวมว่าตัวอาคาร บา้ นและสิ่งกอ่ สรา้ งต่าง ๆ ตั้งอยอู่ ยา่ งไรในบริเวณที่จะจดั สวน เพราะการจัดจะตอ้ งมีความกลมกลืนระหวา่ งสวนกบั บา้ น อาคารและส่ิงแวดลอ้ มอน่ื ๆดว้ ย ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการ สารวจสถานท่จี ะนามา หาความสัมพนั ธจ์ ากภายนอกสู่ภายใน และจากภายในอาคารส่ภู ายนอก หาจดุ เด่นในสวน ท่ภี ายในจะมองออกมาไดช้ นื่ ชมความงามของสวนคุณครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิริแ

สมั ภาษณเ์ จา้ ของสถานที่ (client analysis)เพอ่ื หาขอ้ มลู เกยี่ วกบั ความชอบ รสนยิ ม รวมท้ังงานอดเิ รกต่าง ๆของสมาชกิ ในครอบครัว หรือสถานทน่ี ้นั ๆ ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ะโดยการสอบถามสังเกต รวมทั้งการพจิ ารณาจากสภาพทวั่ ๆ ไป เพื่อใหไ้ ดข้ อ้ มลู เกยี่ วกบัลกั ษณะของสวน ชอบสวนแบบใด เป็ นสวนธรรมชาติ สวนญีป่ ่ นุ หรือสวนนา้เป็ นตน้ เวลาท่ีจะใชใ้ นการดแู ลรักษาสวน มีมากนอ้ ยเพยี งใด เจา้ ของบา้ นชอบการทาสวนหรือไม่สมาชกิ ในครอบครวั มีจานวนเทา่ ใด เพศหญิง/ชาย เด็ก/ผใู้ หญ่ตอ้ งการทาท่ีเลน่ สาหรบั เด็กหรอื ไม่ สมาชกิ ในครอบครัวชอบเลน่ กฬี า ทาสวนทาอาหารนอกบา้ นฯลฯ ตอ้ งการมมุ สงบ เพื่อใชพ้ ักผ่อนหรือไม่ แนวโนม้ ในอนาคตตอ้ งการจะเปลีย่ นแปลงสถานที่เหลา่ นอี้ ย่างไรรสนิยมเร่อื งสี และวัสดุอนื่ ๆ เป็ นอยา่ งไรความชอบเรื่องพรรณไม้ ในเรื่องของดอก สีดอกเป็ นอยา่ งไรงบประมาณทจ่ี ะใชจ้ ดั สวนประมาณเท่าใด ขอ้ มลู ทีไ่ ดจ้ ากการสมั ภาษณ์จะทาใหร้ ถู้ ึงความตอ้ งการของเจา้ ขคอุณคงรูพทั ธวรรณขาศริ ิ คณุ ครพู ัอทวรรณ ขาศิรแิ

วเิ คราะหข์ อ้ มลู (data analysis) จากการสารวจสถานทแี่ ละสัมภาษณข์ อ้ มลู ต่าง ๆ จากเจา้ ของแลว้ นาขอ้ มลู ท้ังหมดมาแยกเป็ นส่วน ๆ จดั เรยี งลาดับความสาคัญ จากมากไปหานอ้ ยขอ้ มลู ความตอ้ งการของเจา้ ของอาจจะมมี ากกวา่ งบประมาณ หรือไมส่ มั พันธก์ บัแบบของสวน ก็อาจจะตอ้ งเลอื ก ส่ิงทจ่ี าเป็ นกอ่ น สิ่งใดท่ีมี ความจาเป็ นนอ้ ย หรอื ใช้สิง่ อน่ื ที่จาเป็ นกวา่ ทดแทนไดก้ ็ตัดทงิ้ ไป ขอ้ มลู ต่าง ๆ ทไ่ี ดจ้ ะชว่ ยใหก้ ารจัดสวนตอบสนองความตอ้ งการประโยชนใ์ ชส้ อยของเจา้ ของ แตใ่ นเร่อื งความสวยงามจะเป็ นหนา้ ที่ที่ ผอู้ อกแบบ จะตอ้ งเลือก ชนิดของพรรณไมแ้ ละองคป์ ระกอบอ่ืน ๆ ให้สมั พนั ธก์ นั เชน่ ในครอบครัว มีคนชราซึง่ ตอ้ งการทพ่ี ักผ่อนเดนิ เล่น กจ็ ะตอ้ งจัดสวนใหม้ ีทางเดินเทา้ ไปส่จู ดุ พักผ่อน มีสนามหญา้ ใหค้ วามสดชน่ื หากมีเด็กเล็กกต็ อ้ งการพน้ื ทเ่ี ลน่ ภายนอก กอ็ าจจะตอ้ งมีบอ่ ทราย ชงิ ชา้ ไวบ้ ริเวณ ใกลบ้ า้ นและหากตอ้ งการแปลงไมด้ อก แปลงพชื ผักสวนครวั ก็จะตอ้ งหาจดุ ทต่ี อบสนองความตอ้ งการเหล่าน้ีได้ ในเรอ่ื งงบประมาณหากวิเคราะหข์ อ้ มลู ครา่ ว ๆ แลว้ จะเกนิงบประมาณ ทีว่ างไว้ กอ็ าจจะตอ้ งหาสง่ิ อ่ืนทดแทน ตามความเหมาะสม คุณครูพทั ธวรรณ ขาศิริ คณุ ครพู ัอทวรรณ ขาศิริแ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ

คณุ ครูพทั ธวรรณ ขาศริ ิ คณุ ครพู อั ทวรรณ ขาศิรแิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook