พฤติกรรมของมนุษย์ นางสาว อาริยา เกษม
การเจริญเติบโตและพัฒนาการ ของมนุษย์ในแต่ละวัย การเจริญเติบโตและพัฒนาการมนุษย์ การเจริญเติบโต หมายถึง กระบวนการพัมนาต่อเนื่องเป็นแบบแผนตามลำดับ ชั้น ความก้าวหน้าของพัฒนาการจำเป็นต้องมีการปรับประสบการณ์ใหม่ให้เข้า มารวมกับประสบการณ์เก่าและเกิดความสามารถใหม่ขึ้น
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก 1 ช่วงวัยของทารก วัยทารก หมายถึง ช่วงเวลาของชีวิตตั้งแต่กำเนิดสู่โลกภายนอก จนถึงอายุ 24 เดือนซึ่งสามารแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ ช่างวัยแรกเกิด (infancy) และช่วงวัยทารก (babyhood) 1 - ช่วงวัยทารกแรกเกิด นับตั้งแต่คลอดจนถึง 2 สัปดาห์เป็นระยะที่ทารกฟื้ นตัวจากการคลอด และมรการ ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะอุณหภูมิภายนอกครรภ์มารดา เนื่องจากขณะอยู่ในครรภ์มารดาจะอุณหภูมิ ระมาร 37 องศาเซลเซียส แต่คลอดออกมาแล้วจะอยู่ในอุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเซียส - ช่วงวัยทารก นับตั้งแต่อายุได้ 2 สัปดาห์ถึง 2 ปี ในช่วงวัยนี้ ทารกจะแสดงความสนใจต่อสิ่งแวดล้อม ภายนอก สามารถสื่อสารกับกับคนรอบตัวได้ดีขึ้น
การเจริญเติบโต พฤติกรรม และพัฒนาการ ของวัยทารกแรกเกิด 1) พัฒนาการทางด้านร่างกาย โดยส่วนใหญ่ทารกแรกเกิดจะมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 3,100 กรัมและมีลำตัวยาว ประมาณ 50 เซนติเมตร สัดส่วนของศีรษะต่อลำตัวของทารกแรกเกิดเป็น 1 ต่อ 4 จะมีแขนขาสั้นและงออยู่แทบตลอด เวลา มือและเท้าค่อนข้างเล็ก ผิวหนังอ่อนนุ่ม มีสีอมชมพู ผมเส้นเล็กอ่อนนุ่ม ตามหน้าผาก หลัง และแขนขามีขนอ่อนๆขึ้น ซึ่งจะค่อยๆร่วงไปในที่สุด โคงกระดูกอ่อน โดยเฉพาะกะโหลกศีรษะ จึงต้องจับด้วยความระมัดระวังกล้ามเนื้อยังมีน้อย และ ควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้ 2) พัฒนาการทางด้านพฤติกรรม ทำอะไรได้ไม่มากนัก เนื่องจากสมองและประสาทยังพัฒนาได้ยังไม่เต็มที่ พฤติกรรมของ ทารกแรกเกิดมีไว้เพื่อตอบสนองต่อการอยู่รอดของชีวิต เช่น การดิ้นไปมาของทารก หรือการหลับตาเมื่อมีแสงจ้า การรู้จัก ดูดนิ้วหรือหัวนิ้วหรือหัวนมแม่ที่มีผู้ใส่เข้าไปในปาก 3) พัฒนาการทางด้านอารมณ์ อารมณ์ของทารกแรกเกิด มี 3 ลักษณะคือ ความรัก ความโกธร และความกลัว ซึ่งมี อิทธิพลมาจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะมารดาซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดู หากมารดามียอมรับและเอาใจใส่ในตัวทารก ก็จะทำให้อารมณ์ แจ่มใส่ 4) พัฒนาการทางด้านบุคลิกภาพ เป็นการพัฒนาตั้งแต่เกิด โดยระยะแรกนั้น เป็นผลมาจากพันธุกรรมต่อมาเป็นผลของ สิ่งแวดล้อมเป็นหลัก โดยสิ่งแวดล้อมนั้นเริ่มมีความสำคัญมากตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์ของแม่ หากทารกได้รับความกระทบ กระเทือน เนื่องจากที่มารดาไม่ดูแลเอาใจใส่สุขภาพของตนเอง ก็จะส่งผลกระทบด้วยเช่นกัน 5) การปรับตัวของทารกแรกเกิด ต้องมีการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม ภายนอกที่แตกต่างจากครรภ์มารดา และยังมีการปรับตัวในการหายใจการดูดและกลืน รวมถึงการขับถ่ายอีกด้วย
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยเด็ก 2 การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยเด็ก 1 ช่วงของเด็ก วัยเด็กหมายถึง เด็กที่มีอายุระหว่าง 2-12 ขวบโดยสามารถแบ่งออกเป็น 2ช่วงใหญ่ๆ คือ ช่วงเด็กวัยเรียน ซึ่งแต่ละช่วง วัยนั้นจะมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการแตกต่างกัน ดังนี้ 1.1 ระยะแรก อายุ 2-3 ปีหรือเรียกว่า วัยเด็กเล็ก หรือเตาะแตะ 1.2 ระยะที่สองอายุ 4-5 ปีเรียกว่า วัยเด็กหรือ วัยอนุบาล - การเจริญเติบโตของร่างกายโดยทั่วไป รูปร่างและสัดส่วนของเด็กวัยก่อนเรียนจะเปลี่ยนไปจากวัยทารก มาก รูปร่างเดิมที่เคยอ้วนกลม ศีรษะใหญ่ และสั้นในวัยทารกนั้น จะค่อยๆ ยืดตัวออก ใบหน้าและศีรษะจะเล็ก ลงเมื่อเปรียบเทียบกับขนากของลำตัว ส่วนแขน ขา
พฤติกรรม และพัฒนาการของวัยเด็ก การเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย - การเจริญเติบโตของร่างกายโดยทั่วไป รูปร่างและสัดส่วนของเด็กวัยก่อนเรียนจะเปลี่ยนไปจากวัยทารกมาก รูปร่างเดิมที่เคยอ้วนกลม ศีรษะใหญ่ และสั้นในวัยทารกนั้น จะค่อยๆ ยืดตัวออก ใบหน้าและศีรษะจะเล็กลงเมื่อเปรียบเทียบกับขนากของลำตัว ส่วนแขน ขา 1)พัฒนาการของร่างกาย - อายุ 2 ปีจะเริ่มวิ่งได้อย่างดี สามารถที่จะเตะฟุตบอล โดนลูกบอลได้ ชี้บอกส่วนบนของอวัยวะต่างๆของร่างกายได้ - อายุ 3 ปี เด็กในอายุขนาดนี้จะสามารถปีนป่ายและกระโดนโหนได้ เดินถอยหลัง ขี่รถสามล้อถีบ - อายุ 4 ปีจะสามารถเดินสลับขาขึ้นบันไดได้ กระโดดข้ามสิ่งของ หรือกระโดดขาเดียวได้ รวมถึงการเขย่งลายเท้าก็สามารทำได้เช่นกัน - อายุ 5 ปีเด็กสามารถกระโดดสลับขา หรือโกรธโดดเชือกได้ เต้นเป็นจังหวะ รวมถึงมีความสามารถในการทรงตัวเป็นอย่างด - อายุได้ 6 ปี ในอายุขนาดนี้ เด็กวัยก่อนเรียน จะสามารถโดดจากที่สูง และสามารถเล่นฟุตบอลแบบคนโตได้ มีความสามารถในการทรงตัว มากยิ่งขึ้น 2) พัฒนาการทางด้านอารมณ์ เด็กวัยก่อนเรียนเป็นวัยที่มีอารมณ์ค่อนข้างรุ่นแรงมาก เมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ก็จะแสดงอารมณ์ออกมาได้ อย่างชัดเจน ล้มตัวลงนอนไปกับพื้น ดิ้นเร่าๆ ทุบตีผู้อื่น หรือกรีดร้องเสียดัง โดยลักษณะอารมณ์ของเด็กจะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่แล้วก็หาย เปลี่ยนแปลงได้ง่ายมาก พัฒนาทางอารมณ์ของเด็กในวัยนี้จะไม่สารมารถจำแนกออกเป็นช่วงอายุในแต่ละปีได้อย่างชัดเจนนัก หากแต่พบว่า เมื่ออายุ 2-3 ปีเด็กจะมีอารมณ์อิจฉาริษยา โดยอารมณ์นี้จะลดลงเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ พัฒนาการทางด้านสังคม เป็นวัยที่เริ่มแน่ใจตัวของตัวเองมากขึ้น มีความต้องการเป็นอิสระ ดังนั้นจึงเริ่มออกห่างจากพ่อแม่ ชอบที่จะมีเพื่อน เล่น จะเห็นว่าในช่วงต้นๆจะเล่นแบบต่างคนต่างเล่น แต่เล่นอยู่ในบริเวณเดียวกัน และอายุมากขึ้นจะเริ่มเล่นเป็นกลุ่มและจะเปลี่ยนเรื่อยๆ ตาม ลักษณะที่ตัวเองสนใจ 3)พัฒนาการทางด้านสติปัญญา โดยทั่วไปแล้ว พัฒนาการทางด้านสติปัญญาของเด็กก่อนวัยเรียนจะเป็นไปตามช่วงอายุที่เพิ่มขึ้น พัฒนาการทางด้านจริยะธรรม เด็กอายุ 3 ขวบยังไม่รู้ว่าอะไรคือความผิดหรือความถูกต้องสามารถเรียนรู้กฎเกณฑ์ง่ายๆ รู้ว่าตนเองทำอะไร บางอย่างไม่ได้ เช่น ตนจะเตะเตาไฟไม่ได้ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเข้าใจในเรื่องของความดี หรือความไม่ดีก็ได้ก็ตาม แต่เด็กเรียนรู้ว่าเขาจะ เป็นเด็กดี เมื่อเขาประพฤติดีหรือประพฤติตามที่พ่อแม่บอกให้ทำ และเขาจะกลายเป็นเด็กไม่ดีเมื่อเขาประพฤติหรือกระทำในสิ่งที่พ่อแม่ไม่ อนุญาตให้ทำ
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กวัยเรียน เด็กวัยเรียน ได้แก่ เด็กที่มีอายุ 6-12 ขวบ คือเริ่มตั้งแต่เข้าเรียนประถมศึกษา จนเข้า วัยรุ่น เด็กวัยนี้มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการอย่างกว้างขวางกว่าเด็กก่อนเรียน 3 โดยมีอิทธิพลมาจาก 2 แหล่งด้วยกันคือ - อิทธิพลจากครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ พี่น้องกับตัวเด็ก จะมีผลต่อ พัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็กโดยเฉพาะด้านจิตใจ - อิทธิพลจากโรงเรียน โดนเฉพาะระหว่างครูกับเด็กและความสัมพันธ์ในระหว่างกลุ่ม เพื่อน
การเจริญเติบโต พฤติกรรม และพัฒนาการ ของวัยเรียน 1 พัฒนาการด้านร่างกาย โดยส่วนใหญ่การเจริญเติบโตด้านร่างกายจะเริ่มช้าลง ส่วนสูงจะเพิ่มร้อยละ 5-6 ต่อปี ปละเป็นร้อยละ 10 เมื่ออายุ 11-12 ขวบ โดยจะไปเพิ่มอย่างรวดเร็วในช่วงวัยรุ่น โดยทั่วไปพบว่าเด็กชายจะมีส่วนสูงมากกว่าเด็กผู้หญิงในช่วงอายุ 6-10 ขวบ จากนั้นเด็กหญิงจะมีส่วนสูงมากกว่า เมื่ออายุ 11-15 ปี เด็กในวัยนี้จะมีการใช้กล้ามเนื้อในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น โดยพบว่าเด็กชายจะมีความแข็งแรง ความว่องไวมากกว่าและมีโครงสร้างของร่างกายใกล้เคียงกับผู้ใหญ่มากกว่าในเรื่องของฟัน นั้นพบว่าฟันน้ำนมจะเริ่มหักเมื่อมีอายุประมาณ 6 ขวบและจะมีฟันแท้ขึ้นครบเมื่ออายุประมาณ 18-30 ปี 2 พัฒนาการทางด้านอารมณ์สังคม เด็กจะต้องมีการปนรับตัวอย่างมากในช่วงต้นชองวัย เนื่องจากการเข้าโรงเรียนจะต้องมีการ ปรับตัวเข้ากับครู เพื่อน และบรรยากาศในโรงเรียน ซึ่งแตกต่างออกไปจากบรรยากาศที่บ้าน โดยเด็กมักจะมีความเครียดอย่างมาก คิดว่าพ่อแม่ไม่รักตน การไปโรงเรียนคือการทำโทษ เด็กจะรู้สึกโดดเดี่ยว ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องอธิบายให้เด็กเข้าใจ และต้องเตรียม ความพร้อมให้เด็กล่วงหน้าก่อนจะเข้าโรงเรียน และคอยช่วยเหลือเมื่อเด็กเกิดปัญหาในการเรียนหรือการเข้ากลุ่มกับเพื่อนที่โรงเรียน 3 พัฒนาการทางด้านสติปัญญา เด็กเกิดกระบวนการคิดมากขึ้น สามารถเรียนรู้สิ่งแวดล้อมต่างๆได้ดีขึ้น มีความเข้าใจในภาษาพูด มากขึ้นและควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเองได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงอายุ 6-9ขวบ เด็กจะมีความสามารถในการใช้ภาษาอาศัย ภาพเป็นสื่อเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การเรียนรู้ที่มีรูปภาพประกอบจึงช่วยดึงดูดความสนใจของเด็กอย่างมากและเมื่อเด็กมีอายุมากขึ้นก็ จะสามารถใช้ภาษาได้ดีมากขึ้น โดยในช่วงอายุ 10-12 ขวบ เด็กจะเริ่มมีแนวคิดของตนเอง สามารถประเมินสถานการณ์และตัดสินใจ เองได้ มีลักษณะหุนหันพลันแล่นน้อยลง ชอบกิจกรรมรู้จักวางแผนและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มากขึ้นด้วย
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น วัยรุ่นเป็นวันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ 4 สังคม และสติปัญญา โดยร่างกายจะมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ อารมณ์จะรุนแรงและเปลี่ยนแปลงง่าย ส่วนด้วยสังคมจะให้ความสำคัญกับ เพื่อนอย่างมาก ช่วงวัยรุ่นจึงถือเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต โดยการ เปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดจากปัจจัยด้านพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และการ อบรมเลี้ยงดูของผู้
การเจริญเติบโต พฤติกรรม และพัฒนาการ ของวัยรุ่น 1)การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายของวัยรุ่นจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงอายุ 10 - 13 ปี และจะลดอัตราการเจริญเติบโต เมื่อเข้าสู้วัยรุ่นตอนกลาง สิ่งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายได้แก่ -ขนาดของร่างกาย -การเปลี่ยนแปลงของกระดูก -การเปลี่ยนแปลงของไขมันและกล้ามเนื้อ -การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้า 2)วัยรุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจและอารมณ์ที่ต่างจากวัยเด็กเป็นอย่างมาก ดังนี้ -วิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย -วิตกกังกลกับอารมณ์ทางเพศที่สูงขึ้น -วิตกกังวลกลัวการเป็นผู้ใหญ่ -วิตกกังวลในความงดงามของร่างกาย -ต้องการความรักความห่วงใย -ต้องการเป็นอิสระทำอะไรด้วยตนเอง -ต้องการเป็นตัวของตัวเอง -ต้องการความถูกต้อง ยุคิธรรม -ต้องการความตื่นเต้นท้าทาย ความแปลกใหม่ -ความอยากรู้ อยากเห็น อยากลองสูง
การเจริญเติบโต พฤติกรรม และพัฒนาการ ของวัยรุ่น 3)การเปลี่ยนเเปลงทางด้านสังคม ช่วงวัยนี้จำทำตัวออกห่างจากทางบ้าน ไม่ค่อยคลุกคลีกับคนในบ้านสักเท่าไหร่ มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนๆและทำกิจกรรมนอกบ้าน -การเปลี่ยนแปลงทางด้านสติปัญญา วัยนี้สติปัญญาจะพัฒนาสูงขึ้นจนมีความคิดเป็นรูปธรรม มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ สิ่งต่างๆได้มากขึ้น จนเมื่อพ้นช่วงวันรุ่นแล้วจะมีความสามารถทางสติปัญญาเหมือนผูั้ใหญ่ -สิ่งเเวดล้อม ซึ่งเป็นปจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ถ้าเกิดในสิ่งแวดล้อมดีๆก็จะทำให่้พัฒนาการด้านต่างๆดีตามไป ด้วยแต่ถ้าเกิดในสถานที่มีสิ่งแวดล้อมไม่ดี เช่น สถานเริงรมย์ ชุมชนแออัด ก็จะมีผลต่อการเจริญเติบโตตามไปด้วย 4)การอบรมเลี้ยงดู 1.ทัศนคติของพ่อแม่ 2.ลักษณะการอบรมเลี้ยงดู 3.ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่นนั้นจะเป็นแบบฉบับเฉพาะของตนเองซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล วัยรุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆหลายด้าน แต่โดยทั่วไปจะเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสติ ปัญญา และที่เห็นได้ชัดมากคือการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของผู้ใหญ่ วัยผู้ใหญ่ตอนต้นเป็นระยะที่ความเจริญเติบโตทางการพัฒนาเต็มที่สมบูรณ์ อวัยวะทุกส่วนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปบุคคลมักมีกายแข็งแรง ใน ด้านอารมณ์นั้นผู้ที่จะเข้าถึงภาวะอารมณ์แบบผู้ใหญ่มีความคับข้องใจน้อย 5 ควบคุมอามรณ์ได้ดีขึ้นมีความแน่ใจและมีความมั่นคงทางจิตใจดีกว่าในระยะวัย รุ่น ส่วนด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือลักษณะพัฒนาการทางสังคมนั้น ระยะนี้ การให้ความสัมพันธ์กับกลุ่ม (Peer Group) เริ่มลดน้อยลง เปลี่ยนมาสู่การมี สัมพันธภาพและผูกพันกับเพื่อนต่างเพศแบบคู่ชีวิตจุดศูนย์กลางของ สัมพันธภาพคือครอบครัว ส่วนผู้ใหญ่ที่ยังไม่มีคู่ครองและครอบครัว ยังคงให้ ความสำคัญ ต่อกลุ่มเพื่อนร่วมวัยแต่ความเข้มของความผูกพันและภักดีเริ่ม ลดน้อยลงจำนวนสมาชิกของกลุ่มมักจะน้อยลง
การเจริญเติบโต พฤติกรรม และพัฒนาการ ของวัยผู้ใหญ่ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น มีดังนี้ 1. การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย ความเจริญเติบโตทางกายสมบูรณ์และพัฒนาเต็มที่ ประสิทธิภาพและความสามารถของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายสูงสุด รวมทั้ง ความสามารถทางด้านการสืบพันธุ์เต็มที่ -ประสิทธิภาพทางร่างกายจะมีสูงสุดในช่วงอายุประมาณ20–30ปีหลังจากนั้นความสามารถต่าง ๆ ก็จะลดลงอย่างช้า ๆ และจะทรงตัวในอายุ 40- 45 ปี แล้วจึงลดลง ต่ออีก - ความสามารถและความแข็งแรงของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายจะมีมากที่สุดในช่วงอายุ 20 – 30 ปี อัตราการตอบสนองสูงสุดในช่วงอายุ 25 ปี หลังจากนั้นก็เริ่มลด ลง 2. การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ผู้ใหญ่ตอนต้นจะมีอารมณ์และความมั่นคงทางจิตใจดีกว่าระยะวัยรุ่น แต่ความสนใจในสิ่งต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงมากไม่คงที่ และ ต้องประสบกับความตึงเครียดทางอารมณ์ในเรื่องต่าง ๆ เพราะเป็นวัยทีมีหน้าที่และความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น 3. การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมแบะการงาน วัยนี้เป็นวัยแห่งการเริ่มสร้างหลักฐานในชีวิต โดยประกอบอาชีพการงาน มีคู่ครอง มีบุตร ฯลฯ ต้องปรับตัวหลายอย่าง เช่น ปรับตัวให้เมาหสมกับงานอาชีพ ชีวิตคู่ เป็นต้น 4. การเปลี่ยนแปลงทางสติปัญญา วัยนี้จะมีประสิทธิภาพทางสมองพัฒนาเต็มที่และคงอยู่สูงสุดไปจนถึงวัยกลางคน จากการวิจัยของ ธอร์นไดค์ ได้ผลว่าระยะเวลาที่ บุคคลเรียนรู้ได้ดีที่สุด คือ อายุระหว่าง 20 – 25 ปี
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยกลางคน 6 สมรรถภาพทางกายเป็นไปในทางเสื่อมถอยการเปลี่ยนแปลงทางกายเช่นนี้ มีผลสัมพันธ์กับอารมณ์จิตใจและ สัมพันธภาพกับบุคคลอื่น ทั้งหญิงและชายวัยกลางคนต้องปรับตัวต่อสภาพเหล่านี้การปรับตัวที่สำคัญ เช่น การ ปรับตัวทางอาชีพ การปรับตัวในบทบาทของสามีภรรยา การปรับตัวต่อการตายของคู่สมรสและความเป็นหม้าย การปรับตัวในชีวิตทางเพศและการเปลี่ยนวัยของชาย การปรับตัวต่อภาวะวิกฤติวัยกลางคนของหญิง ในด้าน ความสัมพันธ์ของคนกลางคนต่อบุตรนั้นก็ต้องเปลี่ยนไป ระยะนี้คนวัยกลางคนมีความสัมพันธ์กับบุตรวัยรุ่น วัย ผู้ใหญ่ เขย สะใภ้ วิธีสัมพันธ์นั้นต้องมีลักษณะแตกต่างไปจากเมื่อลูกยังเป็นเด็กเล็ก แต่วิธีใดจะเหมาะสมนั้นแตก ต่างกันไปในแต่ละบุคคลและครอบครัว คนวัยกลางคนต้องให้ความโอบอุ้มดูแลพ่อแม่ของตนซึ่งเข้าสู่วัยชรา อารมณ์ประจำวัยมีหลายประการที่สำคัญ เช่น อารมณ์อยากกลับเป็นหนุ่มสาวอารมณ์เศร้าและลักษณะอารมณ์ของ หญิงกลางคนเมื่อหมดระดู คนวัยกลางคนควรมีกิจกรรมที่เป็นงานอดิเรกเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและ เตรียมตัวเตรียมใจเพื่อเข้าสู่วัยชราด้วยความสุขสงบในด้านต่างๆ เช่น การดูแลรักษาสุขภาพ การจัดสวน เป็นต้น
การเจริญเติบโต พฤติกรรม และพัฒนาการของวัย 1. การเลือกหาคู่ครอง กลางคน ในวัยผู้ใหญ่ตอนต้นจะมองหาคู่ครองและในการเลือกคู่ครองนั้น สมัยก่อนพ่อแม่ทำ หน้าที่เลือกให้ ซึ่งส่วนใหญ่เลือกมาจากคนใกล้เคียงกันที่พ่อแม่คุ้นเคยด้วย ทำให้คู้สมรสรู้จักเนื้อแท้ของคู่ของตน แต่ในปัจจุบันการเลือกคู่ครองอยู่ภายใต้อิทธิพลของความเด่นเฉพาะตัว เมื่ออยู่ในหมู่เพศตรงข้าม การได้คบหาสมาคมกับเพศตรง ข้าม ถ้าถูกใจกัน ความคิดคล้าย ๆ กัน ฐานะทางบ้านหรือเหมือนกันก็สามารถแต่งงานกันได้ อยู่ที่ความพอใจของฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย พ่อแม่มีบทบาทน้อยมากในการ เลือกคู่ครอง 2. การเรียนรู้ที่จะอยู่กับคู่ครองเป็นสามีภรรยากันตลอดไป การปรับตัวหรือเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตสมรสมีครอบครัวนั้น ฝ่ายหญิงและฝ่ายชายจะต้องรู้จักกันนาน เพื่อจะศึกษาหรือรู้นิสัยใจคอที่แท้จริงซึ่งกันและกัน ก่อนที่จะตกลง แต่งงานกัน และเมื่อแต่งงานแล้วก็ต้องรู้จักทำตนให้เป็นสามีหรือภรรยาที่ดี รู้บทบาทหน้าที่ของตน เพื่อให้ชีวิตสมรสมีความสุข 3. เริ่มต้นชีวิตครอบครัว เมื่อทากรสมรสกันแล้ว ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายก็มีบทบาทใหม่ คือ เป็นสามีภรรยากัน ช่วยกันทำมาหากินเพื่อสร้างครอบครัวให้มั่นคง โดยสามีต้องมีบทบาทเป็นผู้นำ ครอบครัว ปกป้องและต่อสู่เมื่อมีอันตรายมาถึงครอบครัว ภรรยาก็ต้องมีหน้าที่เป็นแม่บ้านและแม่ที่ดีของลูก 4. ภาระหน้าที่ในการอบรมเลี้ยงดูลูก สามีภรรยาต้องทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่ดี อบรมเลี้ยงดูลูกจนกว่าจะช่วยตนเองได้ นอกจากนี้การอบรมเลี้ยงดูลูกยังขึ้นอยู่กับฐานะเศรษฐกิจของครอบครัวด้วย ในสังคม ปัจจุบันแม่บ้าน ต้องออกไปทำงาน จึงต้องจ้างคนเลี้ยงดูลูก ความวิตกกังวลในเรื่องต่าง ๆ จึงเพิ่มมากด้วย ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นพ่อต้องสะสมเงินเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ สำคัญ เช่น เพื่อการศึกษาของลูก หรือเตรียมไว้ในยามเจ็บป่วย 5. การแสวงหาที่พัก รวมทั้งการมีบ้าน ผู้ใหญ่ตอนต้นอาจเช่าบ้านอาศัยผู้อื่นอยู่ หรือมีบ้านเป็นของตนเอง ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของครอบครัวด้วย ดังนั้นหลักในการเลือกหาบ้านที่พักอาศัย ควร พิจารณาดังนี้ - เหมาะสมกับฐานะทางเศรษฐกิ - สะดวกในการประกอบอาชีพ - เหมาะสมกับรสนิยมของทางครอบครัว - สะดวกในการศึกษาของบุตร - สะดวกและปลอดภัยในชีวิตประจำวัน - สามารถรับสภาวะโครงการอนาคตของครอบครัว
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของผู้ใหญ่ 7 วัยชราหรือวัยผู้สูงอายุเป็นช่วงสุดท้ายของวัยผู้ใหญ่ เริ่มประมาณอายุ 60 ปีขึ้นไปจนถึงสิ้น ชีวิต ทั้งนี้ความชราจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เช่น มีอาการชราภาพเร็ว อายุสั้น หรืออายุยืนเป็นต้น วัยนี้จะมีร่างกายและจิตใจเสื่อมลงอย่างรวดเร็วแต่แนวโน้มของคนใน ปัจจุบันนี้ จะมีอายุยืนยาวกว่าสมัยก่อน เพราะวิทยาการต่าง ๆ โดยเฉพาะการแพทย์เจริญ ก้าวหน้ามาก ช่วยส่งเสริมป้องกันรักษาชีวิตมนุษย์ให้ยืนยาว เป็นที่น่าสังเกตว่า ในบรรดาคน ชราทั่ว ๆ ไปมีจำนวนผู้หญิงมากว่าผู้ชาย แม้ว่าอัตราส่วนระหว่างเพศเมื่อเกิดนั้นจะเป็นชาย มากว่าหญิง หรือถ้ามีทารกเกิดเป็นเพศหญิง 100 คน ก็จะมีเพศชาย 106 คน ชายมีจำนวน มากกว่าหญิงเช่นนี้เรื่อย ๆ ไปจนอายุ 30 ปี แต่เมื่ออายุมากขึ้นกว่านี้ ชายจะตายมากกว่าหญิง ดังนั้นผู้หญิงจึงมีอายุยืนยาวกว่าผู้ชาย
การเจริญเติบโต พฤติกรรม และพัฒนาการของวัย ชรา 1. วัยชราเป็นวัยแห่งการรำลึกถึงความหลัง และประเมินผลความสำเร็จหรือความล้มเหลวของชีวิต เนื่องจากขู่วัยสุดท้ายของชีวิต และภาระต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับสังคมและบุคคลอื่นค่อย ๆ หมดไป เวลาว่างส่วนใหญ่จึงนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งจะก่อให้เกิดความทุกข์และความสุข 2. วัยชราเป็นวัยแห่งความสุขสมหวัง สำหรับบุคคลที่ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติตามภารกิจเชิงพัฒนาการที่ผ่านมาแต่ละวัย พอเข้าสู่วัยชราก็จะ ปรับตัวได้ง่าย คนชราจึงมีอิสระและความสุข 3. วัยชราเป็นวัยแห่งความทุกข์ ความสิ้นหวังและหดหู่ ในทางตรงกันข้ามถ้าบุคคลใดผ่านภารกิจเชิงพัฒนาการตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่มาด้วย ความยากลำบากหรือประสบความล้มเหลวจะทำให้มีผลสืบเนื่องต่อไปเมื่อเข้าถึงวัยชรา ทำให้มีปัญหาและปรับตัวไม่ได้ ชีวิตในช่วงสุดท้ายก็จะไม่มีความ สุข 4. วัยชราเป็นวัยแห่งความเสื่อมโทรม ความสามารถทุกด้านน้อยลง มีแต่ความเจ็บไข้สุขภาพไม่ดี ลักษณะความเสื่อมโทรมของผู้ใหญ่วัยชรา สรุปเป็น 3 ด้านดังนี 1. ความเสื่อมในสังขาร ทำให้เฉื่อยชาไม่กระฉับกระเฉง ร่างกายอ่อนแอ ปรับตัวกับสภาพดินฟ้าอากาศได้ยาก ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย 2. ความเสื่อมทางจิตใจ ซึ่งรวมถึงความเสื่อมของสติปัญญา อารมณ์ เพราะคนในวัยชราจะเสื่อมมากทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อารมณ์หงุดหงิดได้ง่าย ขี้หลงขี้ลืม ต้องการให้คนมาเอาใจใส่เหมือนเมื่อยังเป็นวัยเด็ก 3. ความเสื่อมถอยทางสังคมและการงาน ผลจากการเปลี่ยนแปลงทางกาย และทางจิตใจ ทำให้ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานภารกิจประจำวัน ตลอด จนการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมในสังคมทำได้ยากขึ้น เช่น การตัดสินใจที่จะทำอะไรของผู้ใหญ่วัยนี้จะช้า ไม่มั่นใจและไม่แน่นอน
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: