Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อธิบายการวิเคราะห์ตัวชี้วัดที่ 1.1

อธิบายการวิเคราะห์ตัวชี้วัดที่ 1.1

Published by rawissara2018, 2020-03-31 22:18:20

Description: อธิบายการวิเคราะห์ตัวชี้วัดที่ 1.1

Search

Read the Text Version

5. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ (รูปแบบ 5 ข้ันตอน ตามทฤษฏหี ลกั การของ ศ.ดร. ชยั ยงค์ พรหมวงศ์ ) ในการเรยี นการสอนของหน่วยท่ี 1 สัปดาหท์ ่ี 1 ชัว่ โมงที่ 1-2 ในสว่ นของ ทฤษฎี (รวมจานวน 2 ช่วั โมง) 1. ขั้นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. ผูส้ อนมอบหมายให้ผู้เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ ที่ 1 จานวน 10 ขอ้ 2. ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 2. ผู้สอนนาเพาเวอร์พอยท์เครื่องเลอื่ ยกลใหผ้ ู้เรียนช่วยกนั ตอบวา่ รปู เครอ่ื งจักรกลที่เห็นเปน็ เครอื่ งอะไร มีประโยชน์อยา่ งไร 3. ผูส้ อนรว่ มสนทนากับผเู้ รยี นใหผ้ ู้เรยี นช่วยสรุปหวั ข้อเรอื่ งต่างๆ เพอ่ื นา คาตอบตา่ งๆ มาสรปุ เปน็ เนื้อหาที่จะสอนในคร้งั นี้

3. ขัน้ ประกอบกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4. ผ้สู อนมอบให้ผู้เรียนแบง่ กล่มุ ๆ ละ 4-5 คน ให้ศกึ ษาคน้ คว้าจาก เอกสารประกอบการเรียน วิชางานเครอ่ื งมอื กลเบ้ืองตัน ในหน่วยที่ 1 เคร่ือง เลอ่ื ยกลและงานเลอ่ื ย โดยศึกษาในสว่ นทีเ่ ป็นเนื้อหาความรู้ ในหนา้ 1-20 5. ผสู้ อนแบ่งหัวขอ้ ใหเ้ หมาะสมกบั จานวนกล่มุ ทมี่ ี และทาการจับฉลากกลมุ่ ทจ่ี ะนาเสนอวา่ กลมุ่ ไหนจะนาเสนอกอ่ น พรอ้ มกับหวั ข้อทจี่ ะต้องนาเสนอ และให้ ผู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอหวั ขอ้ ทไี่ ดร้ บั มอบหมายจากการจับฉลาก นาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น ใหค้ รบกลมุ่ และครบหวั ข้อ 6. ผูส้ อนทาการประเมินการนาเสนอให้คะแนนเป็นรายกลมุ่ และรายบุคคล และประกาศผลให้ผู้เรียนทราบ 7.ผสู้ อนมอบหมายให้ผู้เรยี นทาแบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 1 เครอ่ื งเลื่อยกลและ งานเลอ่ื ย ตอนท่ี 1 จานวน 10 ขอ้ และตอนที่ 2 จานวน 20 ขอ้ จากเอกสาร ประกอบการเรยี นวิชางานเคร่ืองมอื กลเบื้องตัน ในหนว่ ยท่ี 1 เคร่ืองเลื่อยกลและ งานเลื่อย หนา้ .................. 8. ผ้เู รียนรว่ มกบั ผสู้ อนในการเฉลยและตรวจแบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 1 ด้วย ตนเอง เพ่อื ทาใหผ้ ู้เรยี นทราบวา่ สามารถทาแบบฝึกหดั ถกู -ผิด จานวนเท่าไร 9. พร้อมทัง้ ให้ประเมนิ ตนเองด้วยจากแบบประเมินตนเองจากจานวนขอ้ ทีท่ า ถกู จากหน้าุ.

4. ข้นั สรปุ บทเรยี น 10. ผู้สอนมอบให้ผเู้ รยี นร่วมกนั สรปุ เนอ้ื หาท่เี รียนในหนว่ ยเรียนที่ 1 พรอ้ ม รว่ มสรปุ กับผูเ้ รียนในส่วนทีย่ งั ไม่ครบ หรอื เพ่ิมเตมิ ใหช้ ดั เจน จากสอื่ เพาเวอร์ พอยท์ โดยผู้สอนคอยดแู ลใหค้ าปรกึ ษาและถามนาให้ผู้เรยี นชว่ ยกนั ตอบ เป็นการ กระต้นุ ให้ผูเ้ รียนได้ศึกษาตรงวตั ถปุ ระสงคท์ ่ีต้องการและเปน็ การวัดผลและ ประเมนิ จากการเรยี นรู้และความสนใจของผ้เู รยี นท้ังในดา้ นความรู้และดา้ น คณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ไปดว้ ย 5. ขนั้ ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 11. ผ้สู อนมอบหมายให้ผู้เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยท่ี 1 จานวน 10 ข้อ 12. ผ้สู อนตรวจคะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี น และหลงั เรียนและติดประกาศ ใหผ้ ู้เรยี นทราบ

ในการเรยี นการสอนของหนว่ ยท่ี 1 สปั ดาหท์ ่ี 1 ช่วั โมงท่ี 3-4 และสปั ดาหท์ ่ี 2 ชวั่ โมงที่ 5-8 ในส่วนของปฏบิ ตั ิ (รวมจานวน 6 ชัว่ โมง) แบ่งการสอนออกเปน็ 5 ขน้ั ตอน (ปรบั ประยุกตจ์ าก ทฤษฎี ของ รศ.ดร.สาโรช โสภีรกั ษ์) ดงั นี้ ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ กาหนดจุดประสงค์ 1. ได้กาหนดจุดประสงค์ ในการสาธิตในหน่วยน้ีไว้คือข้นั ตอนการตัด ชิ้นงานด้วยเคร่ืองเลอ่ื ยกลแบบชกั ข้ันท่ี 2 ขนั้ เตรยี มการสาธติ 2. ผู้สอนจดั เตรยี ม ใบงานท่ี 1.1 ปฏบิ ัติงานการตัดชน้ิ งานด้วยเครอ่ื ง เล่อื ยกลแบบชกั พร้อมทง้ั จดั เตรยี มและตรวจสอบ เคร่ืองเลื่อยกลแบบชัก เคร่อื งมือและอุปกรณ์ ไว้ก่อนทาการสาธิต ได้แก่ บรรทัดเหลก็ เวอรเ์ นยี ร์คาลปิ เปอร์ ใบเลอื่ ย และตัวอยา่ งชน้ิ งานท่ีเลื่อยเสรจ็ แล้วไวเ้ ป็นตัวอย่าง พรอ้ ม อุปกรณ์ทาความสะอาด 3. ผ้สู อนได้จัดเตรยี ม เหลก็ St 37  25.4  125 มม. ไวพ้ ยี งพอ ตอ่ จานวนผเู้ รยี น

ขน้ั ที่ 3 ข้ันทาการสาธติ 4. ผสู้ อนนาตวั อย่างชิ้นงานท่ีตดั แลว้ ใหผ้ ูเ้ รียนดู 5.ผู้สอนอธิบายใบงานปฏบิ ตั งิ านการตัดชนิ้ งานดว้ ยเคร่อื งเลอื่ ยกลแบบ ชัก โดยใหผ้ เู้ รียนศึกษาจากใบงานหน่วยที่ 1 6. ขน้ั ตอนการแจ้งวัตถปุ ระสงคข์ องการสาธติ ในข้ันตอนนีจ้ ะให้ผูเ้ รียน ดู จากการสาธติ โดยเนน้ ใหผ้ เู้ รยี นมีส่วนร่วมในการสาธิต และเน้นยา้ ทบทวน เรื่อง ความปลอดภัยจากการเรียนในส่วนทฤษฎี ระหว่างสาธติ ควรมีการหยดุ ซกั ถาม ผเู้ รยี นเปน็ ช่วงๆ เพือ่ ประเมนิ ผล และหลงั จากเสรจ็ จากการสาธิต ก็จะให้ผ้เู รยี น ช่วยกนั สรุป และแจง้ ให้ผ้เู รียนทราบถงึ วตั ถปุ ระสงค์ในการสาธิตในคร้ังน้ี ข้ันท่ี 4 ขัน้ ลงมอื ปฏบิ ตั ิ 7. ผูเ้ รียนลงมือปฏบิ ตั ติ ัดชิ้นงานตามใบงานท่ี 1-1 ทกุ คน ตามข้ันตอน ทีส่ าธิต โดยผสู้ อนต้องควบคมุ ดูแล และให้คาแนะนาอยา่ งใกลช้ ิด ขน้ั ที่ 5 ขน้ั ตรวจและประเมนิ ผลชน้ิ งาน 8. ผู้สอนทาการตรวจประเมนิ ผลช้นิ งานและแจ้งผลให้ผเู้ รยี นทราบ

6. สือ่ การจัดการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นวชิ างานเครอื่ งมือกลเบอ้ื งตัน ในหน่วยท่ี 1 เครือ่ งเลื่อยกลและงานเล่ือย หน้า.......... 2. เพาเวอร์พอยท์ เรอื่ ง เครือ่ งเล่ือยและงานเลือ่ ยกล 3. ใบเลอื่ ย, เครื่องมือวดั ได้แก่ บรรทดั เหลก็ เวอร์เนยี ร์คาลิปเปอร์ และ ช้นิ งานทีต่ ัดแลว้ 7. การวัดผลและประเมินผล 1. คะแนนจากพฤตกิ รรมการเรียนรู้รายบคุ คล 2. คะแนนจากพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. คะแนนแบบจากการทาแบบฝึกหัด หน่วยท่ี 1 เครื่องเลื่อยกลและงาน เลอ่ื ย 4. คะแนนตรวจงานตามใบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานท่ี 1.1ตดั เหล็กเพลา ดว้ ยเครื่องเลอ่ื ยกลแบบชัก 5. คะแนนจากแบบสังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการปฏบิ ตั งิ าน 6. คะแนนจากการสังเกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

8. แหล่งการเรยี นรเู้ พม่ิ เตมิ 1. ศึกษาค้นคว้าในห้องสมุด 2. ศึกษาค้นควา้ จากข้อมลู จากอินเตอร์เน็ต 3. จากการศกึ ษาดูงานในสถานประกอบการ 9. กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้ามี) ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... หมายเหตุ แผนการจดั การเรยี นรู้ กรณีสง่ ผลงานอยา่ งนอ้ ย ควรเป็นแผนรายสัปดาห์

เอกสารประกอบการเรียน วิชา งานเครือ่ งมอื กลเบอ้ื งตน้ หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง เคร่อื งเลอ่ื ยกลและงานเลอื่ ย ........................................ วทิ ยาลัย..................................... สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คาแนะนาสาหรับผเู้ รียน 1. ให้ผเู้ รยี นฟงั คาแนะนาจากผสู้ อน 2. ให้ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จานวน ..... ข้อ เวลา ..... นาที 3. ใหผ้ เู้ รยี นทากจิ กรรมการจัดการเรียนร้ทู ผี่ สู้ อนมอบหมายตาม ข้ันตอนทกุ ขน้ั ตอน 4. ใหผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น จานวน.....ขอ้ เวลา......นาที 5. ให้ผเู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั งิ านตามขนั้ ตอนใบงาน ฟงั ขั้นตอนการ ลงมอื ปฏบิ ตั งิ านตามคาแนะนาผสู้ อน อยา่ งเครง่ ครดั เพอ่ื ปฏบิ ตั งิ าน อย่างถกู วธิ แี ละปลอดภัย

สาระการเรียนรู้ 1. ชนิดของเครอ่ื งเลอื่ ยกล 2. สว่ นประกอบทส่ี าคญั ของเครอ่ื งเลอื่ ยกล 3. เคร่อื งมอื และอปุ กรณท์ ใ่ี ชก้ บั เครอ่ื งเลอ่ื ยกล 4. ขน้ั ตอนการใชเ้ ครอื่ งเลอื่ ยกล 5. การบารงุ รกั ษาเครือ่ งเลอ่ื ยกล 6. ความปลอดภยั ในการใชเ้ ครอ่ื งเลอ่ื ยกล 7. ปฏิบัตกิ ารตดั เหลก็ เพลาดว้ ยเครอ่ื งเลอื่ ยกลแบบชกั

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกชนดิ ของเคร่อื งเลอื่ ยกลได้ 2. บอกสว่ นประกอบท่สี าคญั เคร่อื งเลอื่ ยกลได้ 3. บอกเครอ่ื งมือและอปุ กรณท์ ีใ่ ชก้ บั เครือ่ งเลอื่ ยกลได้ 4. อธบิ ายขน้ั ตอนการใชเ้ ครอื่ งเลอื่ ยกลได้ 5. บอกวธิ กี ารบารงุ รกั ษาเครือ่ งเลอ่ื ยกลได้ 6. อธิบายความปลอดภยั ในการใชเ้ ครอื่ งเลอ่ื ยกลได้ 7. ตดั เหลก็ เพลากลมด้วยเครอ่ื งเลอื่ ยกลแบบชกั ไดถ้ กู ต้อง 8. ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ ปลอดภยั เป็นระเบยี บ สะอาด ตรงต่อเวลา มีความซอื่ สตั ย์ รักษาสภาพแวดลอ้ ม 9. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ี่ผสู้ อนสามารถสงั เกตเหน็ ได้ ในดา้ นความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ ความมวี ินยั ความรบั ผิดชอบ ความเชอ่ื มั่นในตนเอง ความสนใจ ใฝูรู้ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยท่ี.........เรอ่ื ง..............................................................................เวลา......นาที คาสง่ั จงกาเครือ่ งหมาย X เลือกคาตอบทถี่ กู ตอ้ งทส่ี ดุ ในแตล่ ะขอ้ เพยี งคาตอบ เดียว ลงในกระดาษเขียนตอบ 1. เครอ่ื งเล่อื ยที่มลี กั ษณะการทางานแบบเดนิ หนา้ และถอยหลงั กลับ คือเครอ่ื ง เล่ือยชนิดใด ก. เครื่องเลอื่ ยวงเดอื น ข. เคร่ืองเลื่อยกลแบบชกั ค. เครือ่ งเลื่อยสายพานแนวต้ัง ง. เครอื่ งเล่อื ยสายพานแนวนอน 2. เครอื่ งเลอื่ ยท่ีใบเลอื่ ยหมุนวนตดั งานคอื เครือ่ งเล่อื ยกลในข้อใด ก. เครือ่ งเล่ือยสายพาน ข. เครื่องเลื่อยกลแบบชัก ค. เครอื่ งเลอ่ื ยกลแบบชักทางานดว้ ยลม ง. เครอ่ื งเลอื่ ยกลแบบชักทางานดว้ ยไฮดรอลิกส์

3. จากรปู ส่วนประกอบท่ีมีลกู ศรช้ีคือส่วนใดของเครอ่ื งเล่อื ยสายพาน ก. แท่นระดับ ข. หวั เครือ่ ง ค. ฐานเคร่อื ง ง. โตะ๊ งาน รูปประกอบคาถามขอ้ 3 4. จากรปู ส่วนประกอบที่มลี ูกศรช้ีคือส่วนใดของเครื่องเลอื่ ยสายพาน ก. ฐานเครอื่ ง ข. เสาเครื่อง ค. หวั เครื่อง ง. โต๊ะงาน รูปประกอบคาถามขอ้ 4 5.ในการเลอ่ื ยชิน้ งานยาวๆ ด้วยเครอื่ งเลื่อยกลแบบชกั ควรใชอ้ ุปกรณ์ในข้อใด ก. ใช้เหลก็ แท่งรูปตวั V รองรับ ข. ใชเ้ หล็กแท่งรูปตวั U รองรับ ค. ใช้เหล็กแทง่ รปู ตัว C รองรับ ง. ใชฐ้ านรองรับชน้ิ งานรองรับส่วนปลายชิ้นงาน

6. ในการใช้เครื่องเลื่อยกลจะตอ้ งปฏิบตั ใิ นข้อใดเปน็ ขัน้ ตอนแรก ก. นาชนิ้ งานขน้ึ ตัด ข. เปิดสวิตช์เคร่ืองใหต้ ัดงาน ค. นาใบเลอื่ ยจายดึ บนเครื่องเลื่อยกล ง. ตรวจสอบความพรอ้ มเครื่องกอ่ นตดั 7. ในการตดั ชิน้ งานท่ียาวเทา่ ๆกัน จานวนหลายชนิ้ ควรปฏิบตั ิอย่างไร ก. ใช้ชิ้นงานที่ตดั แลว้ ทาบ ข. ใช้เวอร์เนียรว์ ัดทุกครงั้ ทต่ี ัด ค. ใช้ฟุตเหล็กวดั งานทุกครง้ั ท่ีตดั ง. ใช้แขนตั้งระยะตงั้ 8. ในส่วนที่เคลอื่ นที่ของเครอ่ื งเล่ือยควรบารงุ รักษาอยา่ งไร ก. หยอดน้ามันกอ่ นใช้งาน ข. หยอดน้ามันหลงั เลิกใชง้ าน ค. หยอดน้ามนั ทัง้ กอ่ นและหลงั ใชง้ าน ง. หยอดน้ามนั กรณีท่ีมสี นิมทีเ่ ครื่องเล่ือย 9. ถ้าพบว่าสายไฟฟฺามีการชารุดนกั เรียนจะตอ้ งปฏบิ ัติอย่างไร ก. นาเครอ่ื งเลื่อยเก็บไวอ้ ยา่ งดี ข. ทาการตดั ชิ้นงานอย่างระมดั ระวัง ค. แจ้งอาจารยผ์ ู้ควบคุมทราบทนั ที ง. หลงั จากทางานเสร็จต้องแจ้งให้อาจารยท์ ราบ 10. ในการเลอ่ื ยชิ้นงานยาวๆ ควรปฏิบตั อิ ยา่ งไรจงึ จะปลอดภัย ก. ใช้มือรองรับชิ้นงานขณะงานใกลข้ าด

ใบความรู้ หน่วยที่ 1 เร่อื ง เครอ่ื งเลอ่ื ยกลและงานเลอื่ ย 1. ชนดิ ของเครอ่ื งเลอ่ื ยกล เครื่องเล่ือยกลมีหลายชนดิ มีการทางานทีแ่ ตกตา่ งกันออกไป ประโยชนใ์ นการใช้ งาน ลักษณะการทางานก็แตกต่างกัน ในการเลอื กใชง้ านกต็ ้องเลือกใช้เครือ่ ง เลือ่ ยใหเ้ หมาะสมกบั งานทต่ี ้องการตัด ชนดิ ของเครื่องเลอ่ื ยทคี่ วรรจู้ กั มีดงั นี้ 1.1 เครือ่ งเลอ่ื ยกลแบบชกั (Power Hack Saw) เปน็ เคร่อื งเลอื่ ยที่นยิ มใชก้ นั มากในโรงงาน เพราะวา่ ใช้ง่าย สะดวก และราคาไม่แพง ลกั ษณะการ ทางานจะทางานแบบชักเดนิ หน้าและถอยหลงั กลบั ลักษณะงานจะได้งานจังหวะเดยี ว อาจจะเป็นจงั หวะ เดนิ หน้าหรอื ถอยหลงั กลับขึ้นอยู่กับการออกแบบของ เคร่ืองเลือ่ ยนนั้ ๆ จะสงั เกตไดจ้ ากการชักของเครื่อง เลอ่ื ย ถา้ จงั หวะใดเป็นจังหวะยกแสดงวา่ ไม่ใช่จังหวะ รูปท่ี 1-1 เคร่ืองเล่อื ยกลแบบชกั งานเพราะใบเล่ือยไม่ได้ตดั งาน จังหวะงานจะเป็น จงั หวะท่ีไมไ่ ดย้ ก ในการใส่ใบเล่ือยจะต้องใสฟ่ ันใบ เล่อื ยเฉไปตามจังหวะงาน เชน่ เคร่ืองเลือ่ ยมีจงั หวะ งานในจังหวะเดนิ หน้าก็ใสใ่ บเลื่อยเฉไปข้างหน้า

1.2 เครอ่ื งเลอ่ื ยวงเดอื น เป็นเคร่อื งเล่อื ยทีม่ ลี กั ษณะการทางาน ใบเลอ่ื ยทเี่ ป็นวงกลมท่เี ป็นโลหะ มฟี ันอยู่โดยรอบเส้นรอบวง หมนุ ตดั ชิน้ งานอยา่ งต่อเนอ่ื ง ช้ินงานทนี่ ามาตดั จะจับ ยดึ ดว้ ยอปุ กรณ์จบั ยึด สามารถตัดตรงและตัดเอียงเปน็ มุมได้ โดยการเอยี งมมุ ที่ อปุ กรณจ์ ับยดึ มแี บบมฐี านเครื่องและแบบไมม่ ฐี านเครอ่ื งเพ่ือความสะดวกในการ เคลอ่ื นทนี่ าไปตดั บนช้ินงาน รูปที่ 1-2 รปู เคร่ืองเลื่อยวงเดือน

1.3 เครือ่ งเลอ่ื ยสายพาน (Band Saw) เคร่อื งเล่ือยสายพานจะมกี ารทางานท่ีแตกตา่ งจากเครอ่ื งเลอ่ื ยกลแบบ ชัก โดยมีการเล่ือยงานท่ตี อ่ เน่อื งเพราะใบเล่ือยจะหมุนวนตัดงานเหมือนลกั ษณะ การหมุนของสายพาน ดังนน้ั ใบเลื่อยจึงหมุนตัดงานทกุ ฟนั เคร่ืองเลื่อยสายพาน แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คอื 1.3.1 เครอ่ื งเล่อื ยสายพานแนวนอน (Horizontal Band Saw) เคร่อื งจะมีลกั ษณะการทางานในแนวนอน ใบเลือ่ ยจะหมุนวนตดั ชิ้นงานทกุ ฟนั สามารถปรบั ความเร็วของสายพานได้เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกบั ชิ้นงานการปฺอนตดั ช้นิ งานสามารถปอฺ นตัดดว้ ยระบบ ไฮดรอลิก ก่อนนาใบเล่อื ยมาใช้จะตอ้ งนามา ตดั ใหไ้ ด้ความยาวท่ีพอดีกับเคร่อื งเล่ือยนั้นๆ แลว้ ทาการเชอื่ มต่อให้เป็นวง รูปท่ี 1-2 เครอื่ งเลือ่ ยสายพานแนวนอน

แบบฝกึ หดั ทา้ ยหน่วยที่ 1 เร่ือง เคร่ืองเลอื่ ยกลและงานเลอ่ื ย ตอนที่ 1 คาสงั่ จงกาเครอื่ งหมาย X เลือกคาตอบทถี่ กู ตอ้ งทส่ี ดุ ในแตล่ ะขอ้ เพยี งคาตอบเดยี ว 1. ลักษณะการทางานของเคร่อื งเลือ่ ยกลแบบชัก คอื ขอ้ ใด ก. การตดั งานตอ่ เนอ่ื ง ข. จงั หวะงานจงั หวะเดียว ค. จงั หวะงานสองจงั หวะ ง. จงั หวะงานเป็นวงกลม 2. ส่วนที่รับน้าหนักทงั้ หมดของเครอ่ื งเล่อื ยกล คือข้อใด ก. โครงเลือ่ ย ข. ปากกาจับงาน ค. แขนตั้งระยะ ง. ฐานเครื่อง 3. ใบเล่อื ยยดึ อย่กู ับส่วนใด ก. แขนตัง้ ระยะ ข. ฐานเครอื่ ง ค. ปากกาจบั งาน ง. โครงเลอื่ ย 4. สว่ นที่สามารถเอยี งเปน็ มมุ ได้ คอื ก. แขนตั้งระยะ ข. ฐานเคร่อื ง ค. ปากกาจับงาน ง. โครงเล่ือย 5. กรณีตดั งานยาวเท่าๆ กันหลายช้นิ ควรใช้อปุ กรณข์ อ้ ใดช่วยในการตดั ไดเ้ รว็ ก. แขนตั้งระยะ ข. ฐานเครอ่ื ง ค. ปากกาจับงาน ง. โครงเลอ่ื ย

6. นา้ หนักถ่วงทาหน้าท่ใี นขอ้ ใด ก. กาหนดระยะชกั ข. กาหนดความยาว ค. เพิม่ น้าหนักในการกด ง. กาหนดตาแหนง่ การตดั 7. โครงเล่ือยเดนิ หน้าและถอยกลบั เรยี กวา่ อะไร ก. คูจ่ งั หวะชกั ข.คจู่ งั หวะไส ค. คู่จงั หวะงาน ง. คู่จงั หวะถอยกลบั 8. สว่ นที่เปน็ ตน้ กาลงั คือข้อใด ก. โครงเล่อื ย ข. แขนตั้งระยะ ค. มอเตอร์ ง. ฐานเครื่อง 9. วสั ดใุ บเลอื่ ยเครอ่ื งเลือ่ ยกลแบบชกั คือข้อใด ก. High Carbon ข. High Speed Steel ค. Carbide ง. Tungsten 10.วธิ ีบอกความยาวใบเล่ือย คือข้อใด ก. บอกเปน็ ระยะพิตช์ ข. บอกจานวนฟันต่อน้วิ ค. จากระยะจดุ ศนู ย์กลางรูทงั้ สอง ง. วดั ด้านนอกสุดของใบเล่อื ย

ตอนที่ 2 จงเขียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี สั้นๆ พอเขา้ ใจ 1.จงบอกชนิดของเคร่อื งเล่อื ยกลมา 2 ชนิด .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. 2.จงบอกสว่ นประกอบทสี่ าคญั ของเคร่อื งเล่อื ยกลแบบชักมา 5 ชนดิ .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................ 3.การบอกความยาวของใบเลื่อยกลแบบชกั จะมวี ธิ กี ารบอกแบบใด .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................ 4.การบอกระยะห่างของฟันใบเลือ่ ย จะมวี ิธีการบอกแบบใด .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................ 5. จงบอกชนิดของเครือ่ งเลือ่ ยสายพาน .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................

หนว่ ยที่ 1 เคร่ืองเล่อื ยกลและงานเลอ่ื ย ใบงานท่ี จดุ ประสงค์ ตัดเหลก็ เพลาด้วยเคร่ืองเลอ่ื ยกลแบบชกั ได้ 1-1 เหลก็ St 37  25.4  125 มม. เครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ ขัน้ ตอนการทางาน 1.ใบเลื่อยกล 2.บรรทดั เหล็กหรอื เวอรเ์ นยี ร์คาลิ 1. ตรวจสอบปากกาใหต้ งั้ ฉากกับ เปอร์ เคร่ืองเลอื่ ย 2.นาใบเลือ่ ยจับยึดบนโครงเลอื่ ย 3.จบั ชิน้ งานทีจ่ ะเลื่อยดว้ ยปากกา วัดความยาวงานท่จี ะตัดดว้ ยฟุต เหลก็ หรือเวอร์เนยี ร์คาลิเปอร์ ขนั ปากกาจับยดึ งานใหแ้ นน่ 4.เปดิ สวติ ช์เครอ่ื งแลว้ ค่อยๆ วาง โครงเล่ือยลงตดั บนชิน้ งาน

หนว่ ยท่ี 1 ใบประเมินผลปฏบิ ตั ิงาน ใบงานที่ จุดประสงค์ ตัดเหลก็ เพลากลมดว้ ยเคร่อื งเลื่อยกลแบบชักได้ 1-1 กรณมี ใี บมอบหมายงาน กต็ อ้ งมี จดุ ท่ี ขนาดตามแบบ พกิ ดั คะแนน ขนาด คะแนน เฉลย มเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนน เต็ม วดั ได้ ทีไ่ ด้ 1 2 3 4 5 รวมทงั้ หมด คะแนนท่ไี ด้ ผลการ ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรับปรุง ต่ากว่าเกณฑ์ หมายเหตุ เกณฑ์การประเมนิ จุดที่ 1 พกิ ดั ±2 มม. = 10 คะแนน ได้รอ้ ยละ 80 - 100 ดมี าก ±4 มม. = 5 คะแนน 70 - 79 ดี ±6 มม. = 3 คะแนน 60 - 69 พอใช้ อน่ื ๆ = 0 คะแนน 50 - 59 ตอ้ งปรบั ปรุง ได้นอ้ ยกวา่ 50 ไม่ผ่านเกณฑ์

แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยท.่ี ........เรอ่ื ง................................................................................เวลา......นาที คาสัง่ จงกาเครือ่ งหมาย X เลอื กคาตอบทถี่ ูกตอ้ งทสี่ ดุ ในแตล่ ะขอ้ เพียงคาตอบเดยี ว ลงในกระดาษเขียนตอบ 1. เคร่ืองเลอื่ ยทใ่ี บเลื่อยหมนุ วนตัดงานคอื เครอ่ื งเลอ่ื ยกลในข้อใด ก. เคร่ืองเล่อื ยสายพาน ข. เคร่อื งเลื่อยกลแบบชัก ค. เครื่องเลื่อยกลแบบชกั ทางานด้วยลม ง เคร่ืองเลื่อยกลแบบชักทางานด้วยไฮดรอลิกส์ 2. เคร่ืองเลอื่ ยกลแบบชกั มลี ักษณะการทางานตรงกบั ขอ้ ใด ก. การตัดงานต่อเนื่อง ข. จงั หวะงานเปน็ วงกลม ค. จงั หวะงานจงั หวะเดียว ง. จงั หวะงานสองจงั หวะ 3…………………………………………………………………………………………….. ก. .................................................. ข. .................................................. ค. .................................................. ง. ..................................................

ขอ้ แนะนาการเตรยี มส่อื การสอน เตรยี มเครือ่ งมอื อุปกรณ์ในการใชส้ ่ือ 1. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ พรอ้ มโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 ขน้ึ ไป 2. เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์และจอรับภาพมี ขนาดเหมาะสมกับหอ้ งเรียนจานวน 20-40คน 3. โตะ๊ วางชน้ิ งานตวั อยา่ ง 4. สอื่ ของจริงท่ตี อ้ งใช้ ได้แก่ ใบเลื่อย เครอื่ งมอื วัด ตัวอย่างชิ้นงานที่ตัดเสรจ็ แลว้

วิธกี ารใชง้ านสอื่ การสอน วธิ ใี ชส้ ือ่ Power Point และภาพเคลอื่ นไหว 1. นาคอมพิวเตอรต์ อ่ เข้ากบั เครอื่ งฉาย โปรเจกเตอร์ 2. เปดิ โปรเจกเตอร์และคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบสญั ญาณ 3. เปิดโปรแกรมท่ีใช้ Microsoft PowerPoint 4. เปิดไฟล์ท่ีจะใชป้ ระกอบการสอน หนว่ ยท่ี 1 เร่อื งเคร่ืองเลอื่ ยกลและงานเล่ือย 5. ทาการคลก๊ิ เมาส์ หรอื Pointer (ถา้ ม)ี เพอ่ื นาเสนอประกอบการสอน จนจบ 6. ปดิ โปรเจกเตอร์ ปิดโปรแกรม ปดิ คอมพวิ เตอร์ ข้อควรระวัง รอใหโ้ ปรเจกเตอร์เยน็ กอ่ นคอ่ ย ดงึ ปล๊ักออกโดยสงั เกตจากพัดลมหยดุ หมุน

ตวั อย่างสือ่ PowerPoint หนว่ ยที่ 1 เรอ่ื ง เครื่องเลื่อยกลและงานเล่อื ย

บรรณานุกรม ภาษาไทย ชลอ การทว.ี งานเครือ่ งมือกลเบ้อื งต้น ฉบบั สมบรู ณ์. กรุงเทพฯ : เอมพนั ธ,์ 2548. .งานเคร่อื งมอื กล 1 ฉบับสมบรู ณ์. กรุงเทพฯ : เอมพันธ,์ 2548. .งานเครอ่ื งมือกล . กรุงเทพฯ : เอมพนั ธ,์ 2549. .งานเครอ่ื งมือกล 2. กรุงเทพฯ : เอมพันธ,์ 2549. ทศพล สังข์อยุทธ์. ทฤษฎเี ครอ่ื งมือกล 1. สระบรุ ี : ปากเพรียวการช่าง จากัด, 2544. ศุภชัย รมยานนท์และฉวีวรรณ รมยานนท์. ทฤษฎงี านเคร่ืองมือกลเบ้ืองตน้ งานกลงึ . กรงุ เทพฯ : ไทยวฒั นาพานชิ จากัด, 2527. .ทฤษฎงี านเครอื่ งมือกลเบ้อื งตน้ งานกดั . กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานชิ จากดั , 2529. อาพล ซ่อื ตรงและวันชยั จนั ทรวงศ.์ ทฤษฎีชา่ งกลทว่ั ไป. กรงุ เทพฯ : ศูนย์ส่งเสรมิ วิชาการ, 2541. ภาษาอังกฤษ Anderson, James and Tatro E. Shop Theory. New York : McGraw Hill,1968. C.A. Felker. Machine Shop Technology. Milwaukee : The Bruce Publishing Company, 1962. Charles R. Hine. Machine Tools and Processes for Engineers. New York : McGrawHill, 1971.

ภาคผนวก 1. เฉลยแบบฝกึ หดั ท้ายหนว่ ย 2. เฉลยใบงาน (ถ้ามี) 3. กรณีมใี บมอบหมายงาน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ถา้ มี) 4. เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 5. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 6. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้รายบุคคล 7. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ 8. แบบประเมินการนาเสนอผลงานรายบุคคล 9. แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

เฉลยแบบฝกึ หดั ท้ายหน่วย หน่วยท่ี 1 เรอ่ื ง เครื่องเล่ือยกลและงานเลื่อย เฉลยตอนท่ี 1 เฉลยแบบฝกึ หดั ทา้ ยหน่วย หนว่ ยที่ 1 เรื่อง เคร่อื งเล่ือยกลและงานเล่ือย เฉลย 1………… 2………… 3………… 4………… 5………… 6………… 7………… 8………… 9………… 10………… เฉลยตอนท่ี 2 ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ......................................................................................

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยที่ 1 เรอ่ื ง เคร่ืองเลอ่ื ยกลและงานเลอื่ ย เฉลย 1. ข 2. ก 3. ง 4. ก 5. ง 6. ง 7. ง 8. ค 9. ค 10. ง 1………… เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 1 เรอื่ ง เคร่ืองเลื่อยกลและงานเลื่อย เฉลย 1. ก 2. ค 3. ข 4. ก 5. ง 6. ก 7. ง 8. ค 9. ค 10. ข 1…………

แบบสังเกตพฤติกรรมการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนร้รู ายบุคคล เรยี นรู้รายบคุ คล รหัสวชิ า..........วชิ า..................................ชั้น..........สาขาวิชา/สาขางาน.....................กลุ่ม........ ภาคเรยี นท่ี........ปีการศกึ ษา...........................สอนครง้ั ท่ี.................วันท่ี................................... คาช้ีแจง ให้ทาเครอื่ งหมาย  และ หากนกั เรยี นมีพฤตกิ รรมนนั้ ลงในชอ่ งรายการ ท่ี รหสั ช่ือ-นามสกุล การแสดง พฤตกิ รรม การยอมรับฟงั คน ทางาน รวม ความสนใจ ความคดิ เห็น การตอบ อ่นื ตามที่ 1 คาถาม มอบหมาย 2 3 43214321432143214 321 4 5 6 7 8 เกณฑก์ ารวัดผล ใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั นี้ 1. ดีมาก = 4 สนใจฟงั ไม่หลับ ไมพ่ ูดคยุ ในช้ัน มีคาถาม ตอบคาถามถกู ทางานส่งตามเวลา 2. ดี = 3 พฤติกรรมการแสดงออกอยใู่ นเกณฑ์ประมาณ 70% 3. ปานกลาง = 2 พฤติกรรมการแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50% 4. ปรับปรงุ = 1 เข้าชนั้ เรยี น แตก่ ารแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ สง่ งานไมต่ รงเวลา ลงช่อื ....................................ผูส้ งั เกต (..........................................) .........../................/............

แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ รหัสวิชา.............วชิ า..................................ชน้ั ..........สาขาวิชา/สาขางาน.....................กลุ่ม..... ภาคเรยี นที่........ปีการศกึ ษา...........................สอนคร้ังท่ี.................วนั ที่.................................... แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม คาชี้แจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  และ หากนกั เรียนมีพฤตกิ รรมนนั้ ลงในช่องรายการ กิจกรรมกลมุ่ พฤติกรรม ท่ี รหัส ชอื่ -นามสกุล ความรว่ มมอื การแบง่ หน้าท่ี การรับฟงั ความ การตั้งใจทางาน ทางานตามที่ รวม ในกลุ่ม คิดเห็น มอบหมาย 4321432143214321 4 321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑก์ ารวดั ผล ใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤตกิ รรมดังน้ี 1. ดีมาก = 4 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 90 - 100% หรือปฏิบัติบ่อยครั้ง 2. ดี = 3 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 70 - 89% หรือปฏิบตั ิบางครงั้ 3. ปานกลาง = 2 ประสทิ ธภิ าพอย่ใู นเกณฑ์ 50 - 69% หรือปฏบิ ตั คิ รั้งเดยี ว 4. ปรับปรุง = 1 ประสทิ ธิภาพอย่ใู นเกณฑต์ ่ากวา่ 50% หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ิเลย ลงชือ่ .....................................ผสู้ งั เกต (..........................................) .........../................/...........

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่ รหัสวิชา..........วชิ า................................ช้ัน...........สาขาวชิ า/สาขางาน.........................กลุ่ม..... แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ ม ภาคเรียนที่........ปีการศึกษา..........................สอนครั้งท่ี.................วนั ท่ี...................................... กิจกรรมกลมุ่ คาช้แี จง ใหท้ าเคร่ืองหมาย  และ หากนกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมนนั้ ลงในชอ่ งรายการ พฤตกิ รรม การแบ่งหนา้ ท่ี การรบั ฟัง การต้งั ใจทางาน ทางาน ท่ี รหัส ช่อื -นามสกุล ความรว่ มมอื ในกลมุ่ ความคดิ เห็น ตามท่ี รวม มอบหมาย 4321432143214321 4 321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑก์ ารวัดผล ให้คะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะพฤตกิ รรมดงั นี้ 1. ดมี าก = 4 ประสิทธภิ าพอยใู่ นเกณฑ์ 90 - 100% หรือปฏิบตั บิ อ่ ยครั้ง 2. ดี = 3 ประสิทธภิ าพอยใู่ นเกณฑ์ 70 - 89% หรือปฏิบัตบิ างครงั้ 3. ปานกลาง = 2 ประสิทธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 50 - 69% หรือปฏบิ ัตคิ รั้งเดียว 4. ปรับปรุง = 1 ประสทิ ธิภาพอยูใ่ นเกณฑ์ตา่ กวา่ 50% หรอื ไม่ปฏิบัติเลย ลงช่อื .....................................ผสู้ งั เกต (..........................................) .........../................/...........

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานรายบคุ คล รายบคุ คล รหสั วิชา.............วิชา...............................ชั้น..........สาขาวชิ า/สาขางาน........................กลุ่ม..... ภาคเรยี นท่ี........ปกี ารศึกษา...........................สอนครงั้ ที่.................วนั ท่ี.................................... บคุ ลกิ มารยาท การใช้ วิธกี าร เน้อื หาที่ รวม ท่ี รหสั ชอ่ื -ช่ือสกลุ การแตง่ ในการ ภาษา นาเสนอ นาเสนอ กาย พดู 10 10 10 10 10 50 ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม………………………………………………………………… เกณฑผ์ า่ น 25 คะแนน เกณฑก์ ารสังเกต บุคลิก การแต่งกาย : มีความเชื่อมั่นในตนเอง แต่งกายสะอาด ถกู ระเบียบ เสือ้ ไมห่ ลุดล่ยุ ลอยชาย มารยาทในการพดู : มองหน้าและสบตาผู้ฟัง ไม่เหน็บแนม เสยี ดสผี อู้ น่ื การใชภ้ าษา : ชัดเจน ตามหลกั ภาษา ตัว ร ล คาควบกลา้ ถ้อยคาขอ้ ความสุภาพ วิธีการนาเสนอ : นา่ สนใจหลากหลาย เช่น ใชแ้ ผน่ ใส รปู ภาพ ต้ังคาถาม เล่นเกม ไม่เยิน่ เยอ้ เน้อื หาทน่ี าเสนอ : มีสาระสาคัญ ตรงกบั หัวข้อเรอ่ื ง ใช้เวลาตามทกี่ าหนด คะแนนอย่ใู นดุลยพนิ จิ ของผปู้ ระเมินกาหนด ลงช่ือ……………………………….ผปู้ ระเมิน (……………………………….) …………/…………/………..

แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ รหัสวชิ า..........วชิ า................................ชั้น............สาขาวชิ า/สาขางาน......................กลุ่ม........ สอนคร้ังท่ี.................วนั ท่ี.................................................... แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ท่ี รหัส ชือ่ -ชอื่ สกุล ความ ีมม ุนษย รว ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ สัมพัน ์ธ ม ประสงค์ ความ ีม ิว ันย ความ ัรบ ิผดชอบ ความเ ่ืชอ ั่มนใน ความสตนนใเจอใง ่ฝ ู้ร ความรักสา ัมคคี ความกตัญ ูญกตเว ีท 2 1 3 1 1 1 1 10 1 2 3 4 5 6 เกณฑ์การพิจารณา ลงชือ่ ……………….…………………….ผปู้ ระเมิน 1. ความมีมนุษยสัมพันธ์ (………………………..…………….) - แสดงกิริยาทา่ ทางสุภาพตอ่ ผอู้ ่นื …………/…………/……….. - ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผ้อู นื่ 2. ความมีวนิ ัย 4. ความเช่ือม่ันในตนเอง - กลา้ แสดงความคิดเห็นอย่างมเี หตุผล - ปฏิบัตติ ามกฎระเบียบ ขอ้ บังคบั และข้อตกลงตา่ งๆ ของ 5. ความสนใจใฝ่รู้ วทิ ยาลัย - ซักถามปัญหาขอ้ สงสัย ได้แก่ แต่งกายถูกต้องตามระเบยี บ และขอ้ บงั คบั ตรงตอ่ เวลา 6. ความรักสามคั คี 3. ความรบั ผิดชอบ - ร่วมมอื ในการทางาน - มีการเตรยี มความพรอ้ มในการเรียนและการปฏิบตั ิงาน 7. ความกตญั ญกู ตเวที - ปฏิบัติงานด้วยความตัง้ ใจ - มสี มั มาคารวะตอ่ ครู-อาจารย์อย่างสม่าเสมอ ทัง้ ตอ่ หนา้ และ - มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนและการปฏบิ ตั งิ าน ลบั หลงั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook