Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore e-book

e-book

Published by nuttida0562, 2021-09-26 05:54:28

Description: e-book

Search

Read the Text Version

รายงาน ความผดิ ของเจ้าพนักงานตอ่ ตาแหน่งหน้าท่ี จดั ทาโดย นางสาวณฐั ธิดา สิทธิราม รหัสนิสิต 631081077 เสนอ อาจารย์ วิรัตน์ นาทิพเวทย์ รายงานฉบบั น้ีเป็ นส่วนหน่ึงของรายวชิ า 0801221 กฎหมายอาญา2 ภาคเรียนท1ี่ /2564 หลกั สูตรนิตศิ าสตร์บัณฑิต สาขานิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลยั ทกั ษิณ วิทยาเขตสงขลา

บทท่1ี คาอธิบายเชงิ โครงสร้างความรับผดิ ทางอาญา มาตรา 153 ผูใ้ ดเป็นเจา้ พนกั งาน มีหนา้ ที่จา่ ยทรัพย์จา่ ยทรัพยน์ ้นั เกนิ กวา่ ที่ควรจา่ ยเพอื่ ประโยชน์สาหรับตนเองหรือผูอ้ ่ืน ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ต้งั แตห่ น่ึงปีถงึ สิบปี และปรบั ต้งั แตส่ อง หม่ืนบาทถงึ สองแสนบาท องคป์ ระกอบภายนอก 1.เป็นเจา้ พนักงาน 2.มีหนา้ ที่จา่ ยทรพั ย์ 3.จา่ ยทรัพยน์ ้นั เกนิ กวา่ ที่ควรจา่ ย องคป์ ระกอบภายใน 1.เจตนา 2.เพ่อื ประโยชน์สาหรบั ตนเองหรือผูอ้ น่ื (เจตนาพเิ ศษ) 1.เป็นเจา้ พนักงาน เจา้ พนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา1(16) หมายความวา่ ผูท้ ่ีไดร้ ับการแตง่ ตง้ั ตามกฎหมายใหป้ ฏิบัติหน้าท่ีราชการ ไม่วา่ เป็ นประจาหรือคร้ังคราว และไม่วา่ จะไดร้ ับ ค่าตอบแทนหรือไม่ ซ่ึงนน่ั หมายถงึ ครอบคลุมถึงเจา้ พนักงานทุกประเภท เชน่ เจา้ พนกั งาน ตารวจ เจา้ พนักงานฝ่ายปกครอง นายอาเภอ กานัน ผูใ้ หญบ่ า้ น เป็นตน้ หากถา้ ไมม่ ีการแตง่ ต้งั แม้จะไดป้ ฏิบตั ิราชการกไ็ มเ่ ป็นเจา้ พนกั งาน หมายถงึ ขา้ ราชการ พนักงานราชการ ลูกจา้ งประจา หรือเจา้ หน้าทที่ ีไ่ ดร้ บั การแตง่ ต้งั ใหท้ าหน้าที่ในเร่ืองน้ันๆ หาก เป็นในระบบราชการเม่ือไดร้ บั การแตง่ ต้งั ให้ปฏิบตั หิ น้าทใี่ ดๆแลว้ ปฏิบตั หิ น้าท่โี ดยมิชอบตอ้ ง ดาเนินการทางวินัยสว่ นหน่ึง แลว้ ยงั ตอ้ งถูกดาเนินคดตี ามประมวลกฎหมายอาญา ผูใ้ ดเป็นเจา้ พนักงาน หมายถงึ บุคคลซ่ึงเป็นเจา้ พนกั งานทุกคนทีม่ ีความกระทาความผดิ

2.มีหนา้ ท่จี า่ ยทรัพย์ มีหน้าท่จี า่ ยทรัพย์คือ เจา้ พนักงานผูน้ ้ันมีหน้าทีจ่ า่ ยทรัพยใ์ หแ้ กผ่ ูอ้ ื่นซ่ึงทรัพยน์ ้นั ไม่ จาเป็นตอ้ งเป็นการชาระราคาเพยี งเทา่ น้นั เชน่ ดนยั เป็นเสมียนประจาทา่ เรือแหง่ ประเทศไทยมี หนา้ ท่ตี รวจปลอ่ ยสินค้าประจาโรงพกั สินค้า ถอื วา่ ดนัยยอ่ มเป็นเจา้ พนกั งานผูม้ ีหนา้ ทจี่ า่ ยทรพั ย์ หรือสินค้า 3.จา่ ยทรัพยน์ ้นั เกนิ กวา่ ทีค่ วรจา่ ย จา่ ยทรพั ยน์ ้ันเกนิ กวา่ ท่ีควรจา่ ย คือ การจา่ ยทรัพยน์ ้นั มากกวา่ ที่มีหน้าท่จี ะตอ้ งจา่ ยตาม กฎหมายหรือตามสญั ญา และทรัพยน์ ้ันจะเป็นของผูใ้ ดไมส่ าคญั เชน่ กนกพรเป็ นเจ้าหน้าทฝ่ี ่ ายการเงินของหนว่ ยงานราชการไดท้ าการจา่ ยเงินเดือน ให้แกป่ ทั มาซ่ึงเป็นลูกจา้ งเกนิ กวา่ จานวนทป่ี ัทมาควรไดร้ บั 4.เจตนา การกระทาดงั กลา่ วผูก้ ระทาประสงค์ตอ่ ผล หรือเลง็ เห็นผลของการกระทาน้ันได้ 5.เพอ่ื ประโยชน์สาหรับตนเองหรือผูอ้ ื่น(เจตนาพิเศษ) การกระทาท่ีการกระทาลงไปเพือ่ ตอ้ งการเอาประโยชน์เป็นของตนเองหรือผู้อน่ื หรือ รว่ มกนั เชน่ นางอรอนงค์กบั นายอดิศรเป็นพี่นอ้ งกนั และนางอรอนงคเ์ ป็นเจา้ หนา้ ท่ีฝ่ายการเงนิ ของหนว่ ยงานราชการไดท้ าการจา่ ยเงินใหแ้ กน่ ายอดิศรไปเกนิ กวา่ จานวนทีน่ ายอดิศรควรไดร้ บั และทาการตกลงกนั วา่ จะแบง่ เงินสว่ นทจี่ า่ ยเกนิ ดงั กลา่ วกนั คนละคร่ึง เจตนาพิเศษ เป็นการไดผ้ ลประโยชนเ์ พิ่มท้งั ตอ่ ตนเองและผูอ้ นื่ ขอ้ ควรระวงั ความผิดจะสาเร็จกต็ อ่ เม่ือไดจ้ า่ ยทรัพยน์ ้นั ไปแลว้ หากเป็นกรณีทไี่ มไ่ ดต้ ้งั ใจ หรือเกดิ ความผดิ พลาดในการจา่ ยทรัพยน์ ้นั เพราะหลง ผิดหรือนบั ผิดทาใหจ้ า่ ยทรพั ยน์ ้นั เกนิ กวา่ ที่ควรจา่ ย ถือวา่ ไมม่ ีความผิด เชน่ แกว้ เป็นเจา้ หนา้ ทธ่ี นาคารไดน้ บั เงินผดิ ทาใหจ้ า่ ยเงินใหแ้ กล่ ูกคา้ เกนิ ไปกวา่ ที่ลูกคา้ ควรไดร้ ับ ซ่ึงกรณีดงั กลา่ วเกดิ จากความผิดพลาดในการนบั เงินทาใหแ้ กว้ ไมม่ ีความผดิ

มาตรา 157 ผูใ้ ดเป็นเจา้ พนักงาน ปฏิบตั หิ รือละเวน้ การปฏิบตั หิ นา้ ที่โดยมิชอบ เพอ่ื ให้ เกดิ ความเสียหายแกผ่ ูห้ น่ึงผูใ้ ด หรือปฏิบตั ิหรือละเวน้ การปฏิบตั ิหน้าทโ่ี ดยทุจริต ตอ้ งระวาง โทษจาคุกต้งั แตห่ น่ึงปีถึงสิบปี หรือปรับต้งั แตส่ องหมื่นบาทถงึ สองแสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ ความผดิ ฐานน้ีเป็นบททวั่ ไป การกระทาจงึ แบง่ ออกได้ 2 กรณี ดงั น้ี กรณีที่ 1 เจา้ พนักงานปฏิบตั ิหรือละเวน้ การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีโดยมิชอบ องค์ประกอบภายนอก 1.เป็นเจา้ พนกั งาน 2.ปฏิบตั ิหรือละเวน้ การปฏิบตั ิหน้าที่โดยมิชอบ องค์ประกอบภายใน 1.เจตนา 2.เพื่อใหเ้ กดิ ความเสียหายแกผ่ ูห้ น่ึงผูใ้ ด(เจตนาพเิ ศษ) กรณีที่ 2 เจา้ พนักงานปฏิบตั หิ รือละเวน้ การปฏิบตั ิหน้าท่ีโดยทจุ ริต องค์ประกอบภายนอก 1.เป็นเจา้ พนักงาน 2.ปฏิบตั หิ รือละเวน้ การปฏิบตั ิหน้าที่ องคป์ ระกอบภายใน 1.เจตนา 2.โดยทุจริต(เจตนาพเิ ศษ) 1.เป็นเจา้ พนกั งาน เจา้ พนกั งาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา1(16) หมายความวา่ ผูท้ ไ่ี ดร้ บั การแตง่ ตง้ั ตามกฎหมายให้ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีราชการ ไมว่ า่ เป็ นประจาหรือคร้ังคราว และไมว่ า่ จะไดร้ บั ค่าตอบแทนหรือไม่ ซ่ึงนั่นหมายถงึ ครอบคลุมถงึ เจา้ พนกั งานทุกประเภท เชน่ เจา้ พนกั งาน ตารวจ เจา้ พนักงานฝ่ายปกครอง นายอาเภอ กานัน ผูใ้ หญบ่ า้ น เป็นตน้

แตห่ ากไมม่ ีการแตง่ ต้งั แม้จะไดป้ ฏิบตั ิราชการกไ็ มเ่ ป็นเจา้ พนักงาน หมายถึง ขา้ ราชการ พนกั งานราชการ ลกู จา้ งประจา หรือเจา้ หนา้ ทที่ ่ไี ดร้ ับการแตง่ ต้งั ใหท้ าหนา้ ท่ีในเร่ืองน้นั ๆ หาก เป็นในระบบราชการเม่ือไดร้ ับการแตง่ ต้งั ใหป้ ฏิบตั หิ น้าทีใ่ ดๆแลว้ ปฏิบตั หิ นา้ ท่ีโดยมิชอบตอ้ ง ดาเนินการทางวินัยสว่ นหน่ึง แลว้ ยงั ตอ้ งถูกดาเนินคดตี ามประมวลกฎหมายอาญา ผูใ้ ดเป็นเจา้ พนกั งาน หมายถงึ บุคคลซ่ึงเป็นเจา้ พนกั งานทกุ คนทีม่ ีความกระทาความผิด 2.ปฏิบตั หิ รือละเวน้ การปฏิบตั หิ นา้ ทโี่ ดยมิชอบ “ปฏิบตั ิ” หมายถึง หน้าทที่ ่อี าจเกดิ จากกฎหมาย ระเบยี บ คาส่ังหรือไดร้ บั มอบหมาย “ละเวน้ การปฏิบตั ิ” หมายถงึ มีหน้าทต่ี อ้ งปฏิบตั ิแตไ่ มป่ ฏิบตั ิ หรืองดเวน้ ไมก่ ระทาการ ตามหน้าท่ี เชน่ หมอไมร่ กั ษาคนไข้ ตารวจไมจ่ บั โจร “โดยมิชอบ” ไมเ่ ป็นไปตามหน้าทที่ ่ตี นตอ้ งพงึ ปฏิบตั ิ ซ่ึงเป็นการปฏิบตั หิ นา้ ทรี่ าชการ ตามอานาจหน้าทขี่ องตนโดยมิชอบ หรือเป็นการละเวน้ ปฏิบตั ิหน้าท่ขี องตนโดยมิชอบ เชน่ ตารวจจบั โดยไมม่ ีหมาย และไมเ่ ป็นความผิดซ่ึงหนา้ ขอ้ พงึ ระวงั “หน้าท่ี” 1.ตอ้ งเป็นเร่ืองท่เี จา้ พนักงานน้ันมีหนา้ ท่ีตอ้ งทา 2.ถา้ เป็นเรื่องนอกหน้าทห่ี รือพน้ หนา้ ท่ีไปแลว้ กไ็ มผ่ ิด 3.รวมท้งั ถา้ ไมม่ ีหน้าท่ีเลยกไ็ มผ่ ดิ เชน่ A เป็นตารวจ และไดเ้ กดิ เหตทุ ะเลาะวิวาทข้ึน แตใ่ นขณะน้ัน Aไดเ้ ลกิ งานแลว้ ซ่ึง เหตุทเี่ กดิ ข้นึ น้ันเกดิ หลงั จากท่ี A พน้ หน้าที่ไปแลว้ Aกไ็ มม่ ีความผดิ 3.เจตนา การกระทาดงั กลา่ วผูก้ ระทาประสงค์ตอ่ ผล หรือเลง็ เห็นผลของการกระทาน้ันได้ 4.เพอื่ ให้เกดิ ความเสียหายแกผ่ ูห้ น่ึงผูใ้ ด ถอื เป็นเจตนาพเิ ศษ การกระทาทีท่ าเพือ่ ให้เกดิ ความเสียหายแกผ่ ูห้ น่ึงผูใ้ ด ซ่ึงความเสียหายในทนี่ ้ีหมายถึง ความเสียหายในทุกๆอยา่ งไมว่ า่ จะเป็นทรัพยส์ ิน ชอื่ เสียง หรือเสรีภาพและต้งั ใจมุง่ ให้เกดิ ความ เสียหายแกใ่ ครโดยเฉพาะ เชน่ ตารวจทาร้ายรา่ งกายผูต้ อ้ งหา คณุ ครูลงโทษนกั เรียนโดยการให้ ยืนหนา้ เสาธงเพอื่ ให้เกดิ ความอบั อาย

5.โดยทุจริต ถอื เป็นเจตนาพิเศษ โดยทจุ ริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา1(1) หมายความวา่ เพอ่ื แสวงหาประโยชน์ ท่มี ิควรไดโ้ ดยชอบดว้ ยกฎหมายสาหรับตนเองหรือผูอ้ น่ื กลา่ วคือ เป็นการกระทาท่ีผิดกฎหมาย และเมื่อกระทาลงไปนน่ั มีผลประโยชน์ตอบแทน เชน่ ผูใ้ หญบ่ า้ นเรียกเกบ็ เงินจากชาวบา้ นเพอ่ื นาไปพฒั นาหมูบ่ า้ น แตก่ ลบั เอาไปซื้อสรอ้ ยทองใสเ่ อง เจตนาพเิ ศษ เป็นการไดผ้ ลประโยชน์เพิ่มท้งั ตอ่ ตนเองและผูอ้ ื่น

บทที2่ คาอธิบายจากบรรทดั ฐานคาพพิ ากษาศาลฎกี า มาตรา153 คาพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 11741/2557 เป็นความผดิ สาเร็จเมื่อเจา้ พนักงานผูม้ ีหนา้ ท่ีจา่ ยทรัพย์ ไดจ้ า่ ยทรพั ยเ์ กนิ กวา่ ทคี่ วรจา่ ย เพ่ือประโยชนส์ าหรับตนเองหรือผูอ้ ืน่ โดยไมจ่ าตอ้ งคานึงวา่ การจา่ ยทรพั ยน์ ้ันตอ้ งทาให้หน้ี ระงับลงด้วย เพราะความผดิ มาตราน้ีต้องการลงโทษเจา้ พนกั งานผู้มีหน้าทจ่ี า่ ยทรัพยไ์ ดจ้ า่ ย ทรพั ยเ์ กนิ กวา่ ที่ควรจา่ ยเทา่ น้ัน แม้จาเลยซ่ึงเป็นเจา้ พนกั งานผูม้ หี นา้ ทีจ่ า่ ยทรัพยจ์ ะชาระหน้ีดว้ ย เชค็ และ ก. ผูไ้ ดร้ ับชาระหน้ียงั ไมไ่ ดน้ าเชค็ ไปเรียกเกบ็ เงินเนื่องจากถกู เรียกทวงคืนกอ่ นอนั ทา ใหห้ น้ีน้นั ยงั ไมร่ ะงับลงกต็ าม การกระทาของจาเลยกเ็ ป็นความผิดสาเร็จตามมาตรา 153 อธิบายคาพพิ ากษาศาลฎีกาที่ 11741//2557 จากคาพพิ ากษาศาลฎีกาที่ 11741/2557 จาเลยเป็ นเจา้ พนกั งานมีหน้าที่จา่ ยทรัพยไ์ ด้ จา่ ยเงินคา่ พนั ธุป์ ลาและวสั ดุการเกษตรเกินกวา่ ที่ควรจา่ ย เป็ นผูก้ ระทาความผิดซ่ึงเป็นเจา้ พนกั งานและมีหนา้ ทจ่ี า่ ยทรพั ยไ์ ดจ้ า่ ยทรัพยน์ ้ันเกนิ กวา่ ทีค่ วร ถอื วา่ การกระทาของจาเลยน้ัน ครบองคป์ ระกอบภายนอกของความผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา153 ทาใหจ้ าเลยได้ เงินสว่ นตา่ ง เป็นการกระทาเพอื่ ประโยชนส์ าหรบั ตนเองหรือผูอ้ ื่นโดยการกระทาดงั กลา่ วน้นั ได้ สาเร็จแลว้ ไมจ่ าเป็นตอ้ งคานึงวา่ การจา่ ยทรัพยน์ ้ันตอ้ งทาใหร้ ะงับลงดว้ ย เพราะความผิดตาม มาตราน้ีตอ้ งการลงโทษเพยี งแค่เจ้าพนักงานผูท้ ่ีมีหนา้ ท่ีจา่ ยทรัพย์เกินกวา่ ท่ีควรจา่ ยเทา่ น้ัน ดงั น้ันจึงไมไ่ ดค้ านึงวา่ หน้ีน้นั ตอ้ งระงบั ลงไปดว้ ย แม้จาเลยจะชาระหน้ีดว้ ยเชค็ และ ก. ผูไ้ ดร้ ับ ชาระหน้ียงั ไมไ่ ดน้ าเชค็ ไปเรียกเกบ็ เงินเน่อื งจากถกู เรียกทวงคืนกอ่ นอนั ทาใหห้ น้ีน้นั ยงั ไมร่ ะงบั ลง การกระทาของจาเลยกเ็ ป็นความผิดสาเร็จแลว้ จาเลยจึงมีความผดิ ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา153

มาตรา 157 คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 13312/2557 จาเลยเป็นเจา้ พนักงานตารวจมีอานาจหนา้ ที่ในการจบั กมุ ผูก้ ระทาความผิดและมีอานาจ ส่งั การใหผ้ ูใ้ ตบ้ งั คับบญั ชานาตวั ผูถ้ กู จบั กมุ สง่ ตอ่ พนกั งานสอบสวน หรือสั่งปลอ่ ยตวั ผูถ้ ูกจบั หากเห็นวา่ เป็นการจับผิดตวั หรือผู้ถูกจบั กมุ ไมไ่ ด้กระทาความผดิ หรือการกระทายงั ไมเ่ ป็น ความผิด จาเลยทราบดีวา่ คนตา่ งดา้ วทถ่ี ูกจบั กมุ เป็นผูก้ ระทาความผิด จาเลยไมม่ ีอานาจสัง่ ปลอ่ ย ได้ แตก่ ลบั สั่งการในฐานะผูบ้ งั คบั บญั ชาให้ผูใ้ ตบ้ งั คับบญั ชาปลอ่ ยตวั ผูก้ ระทาความผิดและรถ ของกลางโดยไมช่ อบ การกระทาของจาเลยจึงเป็นความผดิ ฐานเป็นเจา้ พนกั งานปฏิบัติหน้า ท่ี โดยมิชอบ เพ่ือใหเ้ กดิ ความเสียหายแกผ่ ูห้ น่ึงผูใ้ ดตาม ป.อ. มาตรา 157 อธิบายคาพิพากษาศาลฎีกาที่ 13312/2557 จากคาพพิ ากษาฎีกาที่13312/2557 จากข้อเท็จจริงจาเลยเป็นเจา้ พนกั งานตารวจซ่ึงมี หน้าที่ตอ้ งจบั กมุ ผูก้ ระทาผดิ และในขณะปฏิบตั ิหนา้ ท่จี าเลยไดจ้ บั กมุ คนตา่ งดา้ วทีห่ ลบหนีเขา้ มาในราชอาณาจกั รโดยผิดกฎหมายพรอ้ มยดึ รถกระบะเป็นของกลาง ซ่ึงการกระทาของจาเลย น้นั เป็นการปฏิบตั โิ ดยชอบดว้ ยกฎหมายเนื่องจากเป็นเหตุซ่ึงหน้าเจา้ พนักงานตารวจสามารถ จบั กมุ ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งมีหมายจบั และจาเลยยงั คงมีอานาจสัง่ การใหผ้ ูใ้ ตบ้ งั คับบญั ชานาตวั ผู้ถูก จับกุมสง่ ตอ่ พนกั งานสอบสวน ตอ่ มาจาเลยทราบดีวา่ คนตา่ งดา้ วท่ีถูกจบั กุมเป็ นผู้กระทา ความผิด ซ่ึงจาเลยไม่มีอานาจส่ังปลอ่ ยได้ แตก่ ลบั ส่ังการในฐานะผูบ้ งั คับบญั ชา ให้ ผูใ้ ตบ้ งั คับบญั ชาปลอ่ ยตวั คนตา่ งดา้ วและรถกระบะของกลาง ถือวา่ จาเลยปฏิบตั หิ นา้ ท่รี าชการ ตามอานาจหนา้ ท่ขี องตนโดยมิชอบ หรือเป็นการละเวน้ ปฏิบตั ิหนา้ ทข่ี องตนโดยมิชอบ ซ่ึงการ กระทาของจาเลยน้นั ครบองค์ประกอบภายนอกของความผิด การกระทาดงั กลา่ วจาเลยจงใจและ เจตนาที่จะไมป่ ฏิบตั หิ นา้ ที่ของตน ถอื วา่ จาเลยมีเจตนาพเิ ศษเพื่อใหเ้ กดิ ความเสียหายแกผ่ ูห้ น่ึง ผูใ้ ดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157

คาพิพากษาศาลฎกี าท่ี 1161/2538 จาเลยเป็นขา้ ราชการครู มีหนา้ ทีป่ ฏิบตั ิราชการของวทิ ยาลยั -เทคนิค ร. ไดร้ ับมอบหมาย จากผูอ้ านวยการซ่ึงเป็นผูบ้ งั คบั บญั ชาใหม้ ีหนา้ ทค่ี วบคมุ การกอ่ สร้างตอ่ เติมวิทยาลยั อาชวี ศกึ ษา ส. ซ่ึงเป็นงานราชการของวทิ ยาลยั เทคนิคร. จาเลยจึงมีฐานะเป็นเจา้ พนักงานผูม้ ีหนา้ ทคี่ วบคมุ การกอ่ สร้าง ปรบั ปรุงตอ่ เติมอาคารวิทยาลยั อาชีวศึกษา ส. ดแู ลรกั ษาวสั ดทุ ี่เหลือใชจ้ ากการ กอ่ สร้างการทจ่ี าเลยให้ ก. นาเหล็กไลทเ์ กจ อันเป็นวัสดุท่ีเหลอื ใชซ้ ่ึงอยใู่ นหน้าท่ีความดแู ล รบั ผิดชอบของจาเลยไปเกบ็ ไวท้ ี่ร้าน ก. และให้ ก. เอาเหลก็ ดงั กลา่ วไปเสียจึงเป็นการปฏิบัติ หน้าทโ่ี ดยมิชอบทาใหเ้ กดิ ความเสียหาย แกก่ รมอาชวี ศกึ ษา และเป็นการแสวงหาประโยชน์ทมี่ ิ ควรได้ เป็นการปฏิบตั ิหน้าทโ่ี ดยทุจริต ผดิ ป.อ. มาตรา 157 อธิบายคาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 1161/2538 จากคาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 1161/2538 จาเลยเป็นขา้ ราชการครู มีหนา้ ทป่ี ฏิบตั ิราชการของ วทิ ยาลยั -เทคนิค ไดร้ ับมอบหมายจากผูอ้ านวยการซ่ึงเป็นผูบ้ งั คับบญั ชาให้มีหนา้ ท่ีควบคมุ การ กอ่ สรา้ งตอ่ เตมิ วิทยาลยั อาชวี ศึกษา ตอ่ มาจาเลยไดใ้ ชใ้ ห้ ก. นาเหลก็ ไลทเ์ กจทีเ่ ป็นวสั ดุเหลือใชท้ ่ี อยใู่ นความรบั ผิดชอบดูแลของจาเลยไปเกบ็ ไวท้ ี่รา้ นของ ก. ถอื วา่ การกระทาของจาเลยเป็นการ ปฏิบตั หิ น้าท่ีโดยมิชอบ และทจุ ริตซ่ึงครบองคป์ ระกอบภายนอกของความผิด ทาให้เกดิ ความ เสียหายแกก่ รมอาชวี ศึกษา และการกระทาดงั กลา่ วมีเจตนาพเิ ศษเป็นการแสวงหาประโยชนเ์พอ่ื ตนเองจึงเป็ นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157

บทที่3 สรุป มาตรา153 และมาตรา157 เป็ นความผิดตอ่ ตาแหนง่ หนา้ ที่ของเจ้าพนักงาน ซ่ึงเจา้ พนกั งานในทีน่ ้ีคือผูท้ ี่ไดร้ ับการแตง่ ต้งั ตามกฎหมายใหป้ ฏิบตั ิหน้าที่ราชการ มาตรา153 เป็นการกระทาความผิดของเจา้ พนกั ที่มีหนา้ ทจ่ี า่ ยทรพั ยไ์ ดจ้ า่ ยทรพั ยเ์กนิ กวา่ หนา้ ท่ีท่จี ะตอ้ งจา่ ยตามกฎหมายหรือตามสัญญา และทรัพยน์ ้ันไมจ่ าเป็นตอ้ งเป็นการชาระราคา เทา่ น้ัน แตอ่ าจเป็นการสง่ มอบกไ็ ด้ ซ่ึงการจา่ ยน้ันตอ้ งมีเจตนาพิเศษในการกระทาโดยผูก้ ระทา ไดก้ ระทาลงไปเพ่อื ประโยชน์สาหรบั ตนเองหรือผูอ้ นื่ เวน้ แตก่ รณีที่จา่ ยเกนิ ไปเพราะหลงผิด หรือนบั ผดิ ไมถ่ อื เป็นความผดิ และความผดิ สาเร็จเม่ือไดจ้ า่ ยทรพั ยน์ ้ันไปแลว้ โดยมีโครงสร้าง ความรับผิดอาญา ดงั น้ี องคป์ ระกอบภายนอก 1.เป็นเจา้ พนักงาน 2.มีหนา้ ทจ่ี า่ ยทรัพย์ 3.จา่ ยทรัพยน์ ้นั เกนิ กวา่ ทค่ี วรจา่ ย องคป์ ระกอบภายใน 1.เจตนา 2.เพือ่ ประโยชน์สาหรับตนเองหรือผูอ้ ืน่ (เจตนาพิเศษ) ตวั อยา่ งคาพิพากษาศาลฎีกาท่ี11741/2557 เป็นความผดิ สาเร็จเมื่อเจา้ พนกั งานผูม้ ีหนา้ ทจี่ า่ ยทรัพย์ ไดจ้ า่ ยทรพั ยเ์ กนิ กวา่ ที่ควรจา่ ย เพื่อประโยชน์สาหรับตนเองหรือผูอ้ ่ืนโดยไมจ่ าตอ้ งคานึงวา่ การจา่ ยทรัพยน์ ้ันตอ้ งทาใหห้ น้ี ระงับลงดว้ ย เพราะมาตราน้ีตอ้ งการลงโทษเจา้ พนกั งานผูม้ ีหนา้ ทีจ่ า่ ยทรัพยไ์ ดจ้ า่ ยทรัพยเ์กนิ กวา่ ทค่ี วรจา่ ยเทา่ น้ัน มาตรา157 เป็นการกระทาความผดิ ของเจา้ พนกั งานปฏิบตั หิ รือละเวน้ การปฏิบตั ิหน้าท่ี โดยมิชอบ เพอื่ ให้เกดิ ความเสียหายแกผ่ ูห้ น่ึงผูใ้ ด หรือปฏิบตั ิหรือละเวน้ การปฏิบตั หิ น้าทโี่ ดย ทุจริต กลา่ วคือเป็นการปฏิบตั หิ รือละเวน้ การปฏิบตั ิหนา้ ที่โดยมิชอบหริโดยทุจริต ซ่ึงบทน้ีเป็น ความผิดฐานบททว่ั ไป การกระทาจงึ แบง่ ไดอ้ อกเป็น 2 กรณี คือ 1.เจา้ พนกั งานปฏิบตั หิ รือละ

เวน้ การปฏิบตั ิหน้าทีโ่ ดยมิชอบโดยมิชอบ มีเจตนาพเิ ศษคือกระทาเพอื่ ให้เกดิ ความเสียหายแก ่ ผูใ้ ดผูห้ น่ึง 2.เจา้ พนกั งานปฏิบตั หิ รือละเวน้ การปฏิบตั หิ นา้ ท่ีโดยมชิ อบโดยทุจริต มีเจตนาพเิศษ โดยทุจริตคือเพื่อแสวงหาประโยชนท์ ม่ี ิควรไดโ้ ดยชอบดว้ ยกฎหมายสาหรับตนเองหรือผูอ้ ่ืน โดยมีโครงสร้างความผิดอาญา ดงั น้ี กรณีที่ 1 เจา้ พนักงานปฏิบตั หิ รือละเวน้ การปฏิบตั หิ น้าทโ่ี ดยมิชอบ องคป์ ระกอบภายนอก 1.เป็นเจา้ พนกั งาน 2.ปฏิบตั หิ รือละเวน้ การปฏิบตั ิหนา้ ที่โดยมิชอบ องคป์ ระกอบภายใน 1.เจตนา 2.เพ่อื ให้เกดิ ความเสียหายแกผ่ ูห้ น่ึงผูใ้ ด(เจตนาพิเศษ) กรณีที่ 2 เจา้ พนกั งานปฏิบตั ิหรือละเวน้ การปฏิบตั ิหน้าท่ีโดยทุจริต องคป์ ระกอบภายนอก 1.เป็นเจา้ พนกั งาน 2.ปฏิบตั ิหรือละเวน้ การปฏิบตั ิหนา้ ที่ องค์ประกอบภายใน 1.เจตนา 2.โดยทุจริต(เจตนาพิเศษ) ตวั อยา่ งคาพิพากษาศาลฎีกาทท่ี ี่ 13312/2557 จาเลยเป็นเจา้ พนกั งานตารวจมีอานาจหนา้ ทีใ่ นการจบั กมุ ผกู้ ระทาความผิด จาเลยทราบดี วา่ คนตา่ งดา้ วท่ีถูกจบั กุมเป็นผูก้ ระทาความผิด จาเลยไมม่ ีอานาจส่ังปลอ่ ยได้แตก่ ลบั ส่ังการใน ฐานะผูบ้ งั คบั บญั ชาให้ผูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชาปลอ่ ยตวั ผูก้ ระทาความผดิ และรถของกลางโดยไมช่ อบ การกระทาของจาเลยจึงเป็นความผิดฐานเป็นเจา้ พนักงานปฏิบัตหิ น้าท่ีโดยมิชอบ เพื่อให้เกดิ ความเสียหายแกผ่ ูห้ น่ึงผูใ้ ดตาม ป.อ. มาตรา 157

ข้อเสนอแนะ ควรมีการพิจารณาการลงโทษเจา้ พนักงานผูท้ กี่ ระทาความผิดตอ่ หนา้ ที่น้ันเพ่ิมเติมใน กรณีทย่ี กเวน้ เชน่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 153 มีการยกเวน้ กรณีท่ีหากจา่ ยทรัพยน์ ้นั เกดิ จากความผิดพลาดเพราะนบั ผิด ซ่ึงเหตดุ งั กลา่ วเป็นเหตทุ ่ีวญิ ญชู นพึงคาดหมายไดก้ ต็ ามแต่ ในบางคร้งั หากเจา้ พนักงานจงใจ หรือต้งั ใจท่จี ะนบั ผดิ กถ็ ือได้วา่ ผู้กระทาผิดเจตนาเพอื่ เป็น ประโยชนต์ อ่ ตนเองหรือผูอ้ ื่นไดเ้ ชน่ กนั

บรรณนานุกรม ผูแ้ ตง่ 1ศาสตราจารย์ดร.ทวีเกยี รติ มีนะกนิษฐ , และผูแ้ ตง่ 2ผูช้ ว่ ยสตราจารย์ ดร. รณกรณ์ บุญมี. (2564). คาอธิบายกฎหมายอาญา ภาคความผดิ และลหุโทษ (พมิ พค์ ร้งั ท่ี 18). กรุงเทพมหานคร: สานกั พมิ พว์ ญิ ญูชน. ผูแ้ ตง่ 1สมชาย พงษพ์ ฒั นาศิลป์ , และผู้แตง่ 2เผา่ พนั ธุ์ ชอบน้ าตาล.(2556).ประมวล กฎหมายอาญา วธิ ีพจิ ารณาความอาญา(พิมพค์ ร้ังท่ี5).กรุงเทพมหานคร:สานักพิมพเ์ จริญรัฐการ พิมพ.์ https://wichianlaw.blogspot.com/2016/12/blog-post_9.html


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook