Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 02 การพัฒนาองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เเละเครือข่าย

02 การพัฒนาองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เเละเครือข่าย

Description: 02 การพัฒนาองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เเละเครือข่าย

Search

Read the Text Version

บทที่ 5 การประเมินองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครือข่าย 91 2.2 เกณฑก์ ารประเมนิ และตวั ชว้ี ดั ความเขม้ แขง็ ขององคก์ รเกษตรกร วิสาหกจิ ชมุ ชน และเครือข่าย 2.2.1 ความหมายของเกณฑ์ (criteria) หมายถงึ มาตรฐาน กฎเกณฑ์ หรอื ขอ้ ทดสอบ เพอื่ พจิ ารณา ตดั สนิ เกย่ี วกบั บางสงิ่ บางอยา่ ง หรอื เปน็ ปจั จยั ทใี่ ชเ้ พอ่ื ตดั สนิ หรอื พจิ ารณา บางส่ิงบางอยา่ ง เชน่ อายเุ ขา้ เกณฑ์ หรอื ถือความรูเ้ ป็นเกณฑ์ เป็นต้น 2.2.2 ตัวช้วี ดั ความเขม้ แข็งในการประเมนิ องค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและเครือขา่ ย ในการประเมนิ ความเขม้ แขง็ ของการประเมนิ องคก์ รเกษตรกร วิสาหกจิ ชมุ ชน และเครือขา่ ยจะมีการก�ำหนดตัวชวี้ ดั และเกณฑ์ เพ่อื ช่วย ในการตดั สนิ ใจ อาจก�ำหนดตัวชว้ี ดั เปน็ เชิงปริมาณ หรอื เชิงคณุ ภาพกไ็ ด้ ต่อไปน้ีจะน�ำเสนอตัวอย่างของกรมส่งเสริมการเกษตร ที่เป็นตัวช้ีวัด ความเขม้ แขง็ ของการประเมนิ องคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน และเครอื ขา่ ย

92 การพัฒนาองคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน และเครอื ขา่ ย ตวั อย่าง ตวั ชี้วัดความเข้มแข็งของการประเมินองคก์ รเกษตรกร วิสาหกจิ ชุมชน และเครอื ขา่ ย ประเด็นการประเมนิ ตัวชี้วัด 1. แนวคดิ ในการบรหิ ารจดั การ 1.1 มีการก�ำหนดทิศทาง 1.2 จำ� นวนการมีสว่ นรว่ มของสมาชิก 1.3 วธิ ีการแก้ไขปัญหา 2. ความสามารถในการบรหิ ารจัดการ 2.1 มกี จิ กรรมและแผนงาน ทเ่ี สรมิ สร้างและพฒั นาอย่าง ต่อเนอื่ ง 2.2 มีการก�ำหนดโครงสรา้ งหนา้ ท่ี ของกลมุ่ /เครอื ข่ายทชี่ ัดเจน 2.3 มกี ฎระเบยี บและกตกิ า ทท่ี ุกคนยอมรบั และถอื ปฏิบตั ิ 2.4 จำ� นวนสมาชิกรู้หน้าที่ และทำ� หน้าที่ดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ 2.5 จำ� นวนกรรมการที่มารว่ มประชมุ 2.6 ความถใี่ นการประชุม 3. การมีสว่ นร่วมของสมาชกิ 3.1 ร้อยละของกิจกรรมทีส่ มาชกิ มสี ว่ นรว่ ม ในการตดั สนิ ใจ วางแผน ปฏบิ ตั ิ และตดิ ตามประเมินผล การดำ� เนนิ งาน

บทท่ี 5 การประเมินองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครือข่าย 93 ตวั อยา่ ง ตวั ช้ีวัดความเขม้ แข็งของการประเมินองคก์ รเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครอื ข่าย (ตอ่ ) ประเดน็ การประเมิน ตวั ชีว้ ดั 4. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.1 ความรวดเร็วในการแกป้ ญั หา 4.2 ความสามารถในการจดั การปญั หา 5. การเสียสละตอ่ ชมุ ชน ท่ีหลากหลาย 6. การบริการสาธารณประโยชน์ 4.3 ความชัดเจน ความสอดคลอ้ ง ในการวิเคราะหป์ ัญหา สาเหตุ ทางเลือกในการแกไ้ ขปญั หา 5.1 สวัสดกิ ารแก่ชมุ ชน เชน่ อาหารกลางวนั ทนุ การศกึ ษา 5.2 การสรา้ งงาน สรา้ งอาชพี แกช่ มุ ชน 6.1 จ�ำนวนกิจกรรมทช่ี ่วยเหลอื สงั คม 6.2 จำ� นวนกจิ กรรมทอี่ นรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม 6.3 จ�ำนวนเงนิ ท่ีจดั สรรไวช้ ว่ ยเหลอื สงั คม

94 การพฒั นาองคก์ รเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครอื ขา่ ย 3. กระบวนการประเมนิ องคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน และเครอื ขา่ ย 3.1 ขน้ั ตอนการประเมนิ องคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน และเครอื ขา่ ย การประเมนิ องคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชนและเครอื ขา่ ย จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารวางแผนไว้ล่วงหน้า มกี ารออกแบบการวิเคราะห์ การตดิ ตาม การประเมนิ ไวว้ า่ จะเลอื กใชแ้ บบใดแลว้ จงึ ดำ� เนนิ การจนกวา่ จะไดผ้ ลสำ� เรจ็ ซง่ึ การดำ� เนนิ ไปในลกั ษณะกระบวนการ คอื เปน็ การกระทำ� ทตี่ อ่ เนอ่ื ง ในการ ประเมินองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและเครือข่าย สามารถท�ำงาน เปน็ 7 ขน้ั ตอนตามล�ำดบั ดงั นี้ ข้นั ท่ี 1 ศกึ ษากลมุ่ องคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชนและเครอื ข่าย เปน็ ขนั้ ตอนการ หาความรใู้ นเบอื้ งตน้ ทำ� ใหผ้ ปู้ ระเมนิ มองเหน็ ภาพและแนวทางการประเมนิ ซ่ึงอาจได้จากการศึกษาเอกสาร ท�ำให้ทราบข้อมูลพ้ืนฐานความเป็นมา วัตถปุ ระสงค์ เป้าหมาย ขอบเขต แผนการปฏบิ ัตงิ าน กิจกรรม ขนั้ ตอน หรือแนวทางการปฏิบัติของกลุ่มองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และ เครอื ข่าย วา่ เป็นอยา่ งไร

บทท่ี 5 การประเมินองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครือข่าย 95 ข้นั ที่ 2 ก�ำหนดวัตถปุ ระสงคข์ องการประเมิน โดยทวั่ ไปการก�ำหนดวัตถุประสงค์ มักมี 2 นยั คอื 2.1 ดคู วามกา้ วหนา้ ตามแผนทีก่ �ำหนดไว้ มปี ญั หาและอุปสรรค ใน การดำ� เนินงานเพียงใด และมีแนวทางการแก้ไขอยา่ งไร 2.2 กล่มุ องคก์ รเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและเครือขา่ ย ประสบผล สำ� เร็จ หรือมีประสิทธภิ าพหรือไม่เพยี งใด ขั้นท่ี 3 ก�ำหนดตัวชี้วัดและเกณฑ์ท�ำการออกแบบการประเมิน รวมทั้งก�ำหนด ตวั ชว้ี ดั และเกณฑก์ ารประเมนิ ใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ การประเมนิ ทกี่ ำ� หนดไว้ ต้องมคี วามสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ของการประเมนิ ด้วย

96 การพฒั นาองคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชุมชน และเครอื ข่าย ข้ันท่ี 4 ก�ำหนดเคร่อื งมอื ในการประเมิน ทำ� การพิจารณาว่าจะใช้ขอ้ มลู อะไรบา้ ง จะได้มาจากแหล่งใด โดยวธิ ีใด ระดบั การวดั ข้อมูลอยูร่ ะดบั ใด เพ่อื จะนำ� มาวิเคราะห์ข้อมูลแล้วสร้างเครื่องมือในการประเมินให้เหมาะสม เช่น แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ เปน็ ตน้ ขน้ั ที่ 5 ด�ำเนนิ การเกบ็ รวบรวมข้อมูล โดยท�ำการจดั เกบ็ ข้อมูลแต่ละประเภท เชน่ ข้อมูลปฐมภูมิ ข้อมูลทุติยภูมิ ควรใช้ข้อมูลจากหลายๆแหล่งเพื่อน�ำมา ประกอบการพิจารณา

บทที่ 5 การประเมินองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครือข่าย 97 ขั้นท่ี 6 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู นำ� ขอ้ มลู ทเี่ กบ็ รวบรวมมาได้ มาตรวจสอบ เรยี บเรยี ง หรอื ประมวล และทำ� การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เสยี กอ่ น ซงึ่ อาจใชเ้ ทคนคิ ทางสถติ ิ เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล ท่ีสามารถอ่านได้ง่าย เพ่ือจะได้แปล ความหมาย โดยเปรียบเทียบกบั เกณฑแ์ ละตวั ชว้ี ัด ข้นั ที่ 7 จัดท�ำรายงานการประเมิน ในข้ันตอนสุดท้าย คือการน�ำผลท่ีแปลได้มา จัดท�ำเป็นรายงาน เพ่ือเสนอผลการประเมินให้ผู้อ่ืนทราบ และน�ำไปใช้ ประโยชน์ การเขียนรายงานอาจประกอบด้วยหวั ขอ้ หลกั ท่สี �ำคัญๆ ดังนี้ 7.1 หลกั การเหตผุ ล/ความจำ� เป็นในการประเมนิ 7.2 วตั ถุประสงคใ์ นการประเมนิ 7.3 วิธีการประเมิน 7.4 ผลการประเมิน 7.5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ

98 การพฒั นาองคก์ รเกษตรกร วสิ าหกิจชมุ ชน และเครอื ขา่ ย 3.2 วิธกี ารประเมินองคก์ รเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครอื ขา่ ย วิธกี ารประเมนิ องค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครอื ข่าย มีการพัฒนาวิธีการมาอย่างต่อเน่ือง มีความหลากหลายแตกต่างกันไป การประเมนิ กลมุ่ องคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน และเครอื ขา่ ย เลอื กใชไ้ ด้ ตามความเหมาะสมกับสภาพของกลมุ่ และวตั ถปุ ระสงค์ วิธกี ารบางอยา่ ง เป็นการประเมินจากบุคคลภายนอกกลุ่ม มาเก็บขอ้ มูลสมาชกิ ภายในกลมุ่ เช่น วธิ ีการสงั เกต การสมั ภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม ในขณะท่ีวธิ ีการ บางอยา่ งเปน็ ลกั ษณะทส่ี มาชกิ ภายในกลมุ่ ทำ� การประเมนิ ตนเอง ตวั อยา่ ง เช่น วิธีการวัดแบบสังคมมิติ เป็นวิธีการที่ให้สมาชิกกลุ่มบอกถึงความ สมั พนั ธข์ องตนเองทีม่ ตี ่อบคุ คลอนื่ ภายในกลุ่ม ส�ำหรับวิธีการประเมินองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครอื ขา่ ย ทกี่ รมสง่ เสรมิ การเกษตรนยิ มใช้ จะนำ� เสนอเพยี ง 2 วธิ กี าร ดังนี้ 1) การศกึ ษา/ประเมนิ ตนเอง (self assessment) เปน็ วธิ ีการให้กลมุ่ ทำ� การศกึ ษา วเิ คราะห์ ประเมนิ ตนเอง เปน็ กระบวนการเรยี นรขู้ ององคก์ ร เกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน และเครอื ขา่ ย วา่ ไดป้ ฏบิ ตั ภิ ารกจิ บรรลผุ ลสำ� เรจ็ มากน้อยเพียงใด ทบทวนบทบาทหน้าท่ีของตนเองด้วยตนเอง ค้นหา ปญั หาของตนเอง และหาแนวทางปรบั ปรุงแกไ้ ข สมาชิกทกุ คนจึงตอ้ งมี ส่วนร่วมการประเมิน 2) การวิเคราะห์ SWOT (SWOT Analysis) เป็นวิธีการหรอื เครอ่ื งมือ ท่ีใช้ในการวิเคราะห์กลุ่ม/องค์กร เพื่อวางแผนกลยุทธ์ที่รู้จักและนิยมกัน แพรห่ ลาย

บทที่ 5 การประเมินองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครือข่าย 99 หลักการสำ� คญั ของ SWOT คอื การวเิ คราะห์โดยการสำ� รวจ จากสถานการณ์ 2 ด้าน คอื สถานการณภ์ ายใน และสถานการณ์ ภายนอก จงึ เรยี กไดว้ า่ เปน็ การวเิ คราะหส์ ภาพการณ์ ซงึ่ เปน็ การวเิ คราะห์ จดุ แขง็ จดุ ออ่ น เพอ่ื ใหร้ ตู้ วั เอง รจู้ กั สภาพแวดลอ้ มชดั เจน วเิ คราะหโ์ อกาส และอปุ สรรค การวเิ คราะห์ปัจจยั ตา่ งๆ ทง้ั ภายในและภายนอกองค์กรจะ ชว่ ยใหท้ ราบถงึ การเปลย่ี นแปลงตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ประกอบดว้ ยการวเิ คราะห์ หลกั ๆ ดงั นี้ คอื จดุ แขง็ หมายถงึ ความสามารถและสถานการณ์ ภายในองค์กรที่เป็นทางบวก ซ่ึงสามารถน�ำมาใช้ S = ใหเ้ กดิ ประโยชน์ในการดำ� เนนิ งาน Strengths W = คือ จุดอ่อน หมายถึง สถานการณภ์ ายในองคก์ ร Weaknesses ทเ่ี ปน็ ดา้ นลบและดอ้ ยความสามารถ ซง่ึ ไมส่ ามารถ นำ� มาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนไ์ ด้ O = คือ โอกาส หมายถึง ปัจจัยและสถานการณ์ Opportunities ภายนอกที่เอ้ืออ�ำนวยในการท�ำงานขององค์กร T = บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ Threats คือ อุปสรรค หมายถึง ปัจจัยหรือสถานการณ์ ภายนอกที่ขัดขวางการท�ำงานขององค์กรไม่ให้ บรรลุวัตถุประสงค์

เปา้ หมายของการพฒั นาองคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน และเครอื ขา่ ย คอื กล่มุ สามารถพึง่ พา ตนเองได้ โดยตอ้ งสง่ เสริมสนบั สนนุ ให้กลมุ่ ไดเ้ รยี นรู้ และพัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง มกี ารก�ำหนดเปา้ หมาย การพฒั นากลมุ่ ทชี่ ดั เจน สมาชกิ กล่มุ ตอ้ งเขา้ มา มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมต่างๆ

บทสรปุ

102 การพัฒนาองค์กรเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน และเครือข่าย บทสรปุ ความหมาย องคก์ รเกษตรกร หมายถงึ กลมุ่ ของเกษตรกรทรี่ วมตวั กนั เพอ่ื แกไ้ ข ปญั หาทเี่ ปน็ ข้อจ�ำกัดของเกษตรกรรายย่อย หรอื เพื่อพฒั นาสภาพการ ประกอบอาชพี และชวี ติ ความเปน็ อยขู่ องสมาชกิ ในกลมุ่ โดยมโี ครงสรา้ ง การดำ� เนนิ งานและระเบยี บขอ้ บงั คบั ทช่ี ดั เจน แบง่ ไดเ้ ปน็ 2 ลกั ษณะประเภท คอื แบง่ ตามลกั ษณะประเภทการรบั รองของกฎหมาย และแบง่ ตามลกั ษณะ ประเภทของระดับการพฒั นา วสิ าหกิจชุมชน หมายถึง การประกอบการหรอื กจิ การของชุมชน ที่สมาชิกในชุมชนเป็นเจ้าของและร่วมกันด�ำเนินการผลิตสินค้าหรือ บรกิ าร โดยกลมุ่ คนหรอื คณะบคุ คลทดี่ ำ� เนนิ การอาจเปน็ นติ บิ คุ คลหรอื ไมเ่ ปน็ นติ ิบุคคลก็ได้ แบง่ เปน็ 2 ประเภท คือ ตามกิจกรรมท่ีด�ำเนินการ และตามระดบั การพฒั นา เครอื ขา่ ย หมายถงึ รปู แบบของความสมั พนั ธห์ รอื ความเชอื่ มโยงกนั ระหวา่ งกลมุ่ หรอื องคก์ ร หรอื ชมุ ชน เพอื่ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ชว่ ยเหลอื พึง่ พาซ่งึ กนั และกัน และเสริมสรา้ งพลงั ในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหา รว่ มกนั โดยแตล่ ะกลมุ่ ทเี่ ชอ่ื มโยงกนั จะมคี วามเปน็ อสิ ระตอ่ กนั หากแบง่ ตาม ลกั ษณะความสัมพนั ธ์ มี 2 ประเภท คอื เครือข่ายแบบแนวนอน และ เครือข่ายแบบแนวตั้ง และแบ่งตามขอบเขตของชุมชนหรือพื้นที่ คือ เครือข่ายภายในชมุ ชนและเครือขา่ ยภายนอกชมุ ชน

บทสรุป 103 เป้าหมาย เป้าหมายของการพัฒนาองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และ เครือขา่ ย คือ กลมุ่ สามารถพ่งึ พาตนเองได้ โดยต้องสง่ เสริมสนับสนนุ ใหก้ ลมุ่ ไดเ้ รยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ ง มกี ารกำ� หนดเปา้ หมาย การพฒั นากลมุ่ ทชี่ ดั เจน สมาชกิ กลมุ่ ตอ้ งเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมตา่ งๆ เชน่ ชว่ ยกนั คน้ หาปญั หาของกลมุ่ รว่ มกนั วางแผนดำ� เนนิ กจิ การ และกจิ กรรม ตา่ งๆ ของกลมุ่ และตอ้ งมกี ารประเมนิ หรอื วเิ คราะหส์ ถานการณห์ รอื ผลการ ดำ� เนนิ งานทผ่ี า่ นมาเพอ่ื ใหท้ ราบจดุ ออ่ น จดุ แขง็ ของกลมุ่ เชน่ การวเิ คราะห์ ดว้ ยวิธกี าร SWOT เพื่อน�ำผลการวเิ คราะหไ์ ปพัฒนากลุ่มให้ดยี ่งิ ขึ้นต่อไป และที่ส�ำคัญอีกประการหน่ึงคือต้องสอนให้กลุ่มรู้จักการพึ่งพาตนเอง ด้านเทคโนโลยี ดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นทรัพยากร ดา้ นจิตใจและด้านสังคม การพฒั นากลมุ่ จะประสบความสำ� เรจ็ ไดน้ น้ั จะตอ้ งมกี ารศกึ ษาขอ้ มลู เก่ียวกับกลุ่มและมีการประเมินสถานการณ์ของกลุ่มเพื่อให้ทราบ วตั ถปุ ระสงค์ เปา้ หมาย และกจิ กรรมของกลมุ่ และนำ� ขอ้ มลู ทม่ี มี าวเิ คราะห์ เพอื่ ปรบั ปรงุ เปลยี่ นแปลงกระบวนการทำ� งานใหเ้ หมาะสมตามสถานการณ์ สำ� หรบั การกำ� หนดเปา้ หมายนนั้ จะใชห้ ลกั ของ SMART คอื เฉพาะเจาะจง สามารถวดั ได้ บรรลไุ ด้จรงิ มที รพั ยากรรองรบั และมกี รอบเวลาท่ชี ดั เจน

104 การพัฒนาองคก์ รเกษตรกร วิสาหกจิ ชมุ ชน และเครอื ขา่ ย การประเมินผล การประเมินองค์กรเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชนและเครือข่าย จัดท�ำขึน้ เพื่อเปน็ กระบวนการเกบ็ รวบรวมข้อมลู เพอ่ื ตรวจสอบการท�ำงานและ พจิ ารณาผลสมั ฤทธเ์ิ มอ่ื เปรยี บเทยี บผลกบั เกณฑท์ กี่ �ำหนดขนึ้ ซงึ่ จะทำ� ให้ ทราบถงึ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลของระบบงาน ลดความขัดแย้ง เพราะมีการเรียนรู้ร่วมกัน และใช้ประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์ เป็นต้น โดยจะต้องมีตัวชี้วัดท่ีมีความทันสมัย เหมาะสมกับเวลา และ สถานทีม่ ีความตรง ความเทย่ี ง ความเปน็ ปรนยั และใชป้ ฏิบตั ิไดจ้ รงิ ซง่ึ อาจกำ� หนดเปน็ เชงิ ปรมิ าณหรอื เชงิ คณุ ภาพกไ็ ด้ สว่ นขน้ั ตอนในการประเมนิ จะตอ้ งท�ำเปน็ กระบวนการอยา่ งต่อเนอื่ ง ซ่ึงมี 7 ขน้ั ตอนประกอบดว้ ย 1) การศึกษากลุม่ องค์กรเกษตรกร วสิ าหกิจชมุ ชน และเครือข่าย 2) การ ก�ำหนดวัตถปุ ระสงค์ของการประเมนิ 3) การก�ำหนดตวั ชวี้ ดั และเกณฑ์ การประเมนิ 4) กำ� หนดเครือ่ งมือในการประเมนิ 5) เก็บรวบรวมข้อมลู 6) วเิ คราะหข์ อ้ มลู และ 7) จัดท�ำรายงานการประเมนิ วิธีการประเมินองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายมี หลายวธิ ี แตว่ ธิ ที ก่ี รมสง่ เสรมิ การเกษตรนยิ มใชอ้ ยเู่ สมอๆ ไดแ้ ก่ การศกึ ษา และประเมนิ ตนเอง (Self assessment) โดยการมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ทุกคน และการวเิ คราะห์ SWOT (SWOT Analysis) ซง่ึ เปน็ การวเิ คราะหส์ ภาพการณ์ จากการส�ำรวจสถานการณ์ 2 ด้าน คอื สถานการณภ์ ายใน (จดุ แข็งหรือ S จุดออ่ นหรอื W) และสถานการณภ์ ายนอก (โอกาสหรอื O และอปุ สรรค หรอื T) เพอื่ น�ำไปสู่การวางแผนกลยุทธ์

บรรณานกุ รม

106 การพัฒนาองค์กรเกษตรกร วสิ าหกิจชมุ ชน และเครอื ขา่ ย บรรณานุกรม กรมสง่ เสริมการเกษตร. ม.ป.ป. ขอ้ ควรรูเ้ กยี่ วกับวสิ าหกิจชุมชน. ม.ป.ท. คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2549. ร้อยแปดวิสาหกิจ (ใน) ชุมชน. ม.ป.ท. : โรงพมิ พ์กูดพร้นิ ท์ พริน้ ท์ต้งิ . สาขาวิชาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 2553. ประมวลสาระชดุ วชิ าการพฒั นาชุมชนเกษตร. นนทบุรี : ส�ำนกั พมิ พ์ มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. สาขาวิชาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 2554. ประมวลสาระชุดวิชา การส่งเสริมการเกษตรเพ่ือการพัฒนา หนว่ ยที่ 11 - 12. นนทบรุ ี : ส�ำนักพมิ พ์ มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. สาขาวชิ าสง่ เสรมิ การเกษตรและสหกรณ์ มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช. 2554. เอกสารการสอนชุดวิชาการพัฒนากลุ่ม สถาบัน และองค์กรการเกษตร. หนว่ ยที่ 1 - 7 และหน่วยที่ 8 - 15. นนทบุรี : สำ� นกั พมิ พม์ หาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. เสรี พงศ์พิศ. ม.ป.ป. คู่มือการทำ� วสิ าหกจิ ชุมชน. ม.ป.ท. สำ� นักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชมุ ชน กรมสง่ เสรมิ การเกษตร. ม.ป.ป. พระราชบัญญัติสง่ เสรมิ วสิ าหกิจชมุ ชน พ.ศ. 2548. ม.ป.ท.

รายชอ่ื คณะผจู้ ดั ทำ� คมู่ ือปฏบิ ัตงิ าน เจา้ หน้าทสี่ ง่ เสริมการเกษตร การพฒั นาองคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน และเครอื ขา่ ย

108 การพฒั นาองค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชมุ ชน และเครือขา่ ย รายชื่อคณะผู้จัดท�ำ คู่มือปฏิบัติงานเจ้าหน้าท่ีส่งเสริมการเกษตร การพฒั นาองคก์ รเกษตรกร วิสาหกจิ ชุมชน และเครอื ขา่ ย ISBN 978-974-403-942-2 ทปี่ รึกษา นางพรรณพมิ ล ชญั ญานวุ ตั ร อธิบดกี รมส่งเสรมิ การเกษตร นายนำ� ชยั พรหมมีชยั รองอธบิ ดีกรมส่งเสรมิ การเกษตร ฝา่ ยบริหาร นายวิทยา อธิปอนนั ต์ รองอธบิ ดกี รมสง่ เสริมการเกษตร ฝา่ ยวชิ าการ นายสรุ พล จารพุ งศ ์ รองอธบิ ดกี รมส่งเสรมิ การเกษตร ฝา่ ยส่งเสริมและฝึกอบรม นายพรชยั พรี ะบลู ผอู้ ำ� นวยการส�ำนักพัฒนาการถา่ ยทอดเทคโนโลยี นายชาญยุทธ์ ภาณุทตั ผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั งานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสรมิ วสิ าหกจิ ชมุ ชน นางนิดา สกั กทตั ตยิ กลุ ผอู้ ำ� นวยการสว่ นสง่ เสรมิ และเผยแพร่

รายชอื่ คณะผจู้ ดั ทำ� คมู่ อื ปฏบิ ตั งิ านเจา้ หนา้ ทส่ี ง่ เสรมิ การเกษตร 109 การพฒั นาองคก์ รเกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน และเครอื ขา่ ย เรียบเรยี ง มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช รศ.ดร.เบญจมาศ อยปู่ ระเสรฐิ (ท่ีปรึกษา) กรมสง่ เสรมิ การเกษตร นางยพุ า อนิ ทราเวช นายทวิ า แซมเพชร นางจิระนุช ชาญณรงคก์ ุล นายประยรู แก้วปลอด นายยอดธงไชย รอดแกว้ นางสาวศนั สนยี ์ นติ ิธรรมยง นางสาวรัตนาพร เลศิ ชู จัดทำ� นางอมรทิพย์ ภิรมยบ์ ูรณ์ นางสาวอจั ฉรา สุขสมบรู ณ์ นายพงษเ์ พชร วงศโ์ สภา นางสาวอ�ำไพพงษ์ เกาะเทยี น นางสาวรฐั ฐา ศรญี าณลกั ษณ์ กลมุ่ ส่อื ส่งเสริมการเกษตร ส่วนสง่ เสรมิ และเผยแพร่ สำ� นักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสรมิ การเกษตร

บนั ทึก : Note

บนั ทึก : Note

112 การพฒั นาองคก์ รเกษตรกร วสิ าหกิจชมุ ชน และเครอื ขา่ ย