Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1-2 Ju-To_43-63

1-2 Ju-To_43-63

Published by panida42222, 2021-01-05 14:14:24

Description: 1-2 Ju-To_43-63

Search

Read the Text Version

ขอ สอบขอเขยี น/สัมภาษณ พระอภธิ รรม ภาคเรยี นที่ ๑-๒ ปก ารศกึ ษา ๒๕๔๓-๖๓ อภิธรรมโชตกิ ะวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ชั้น จฬู อาภธิ รรมกิ ะโท  สอบขอ เขยี น วันแรก วนั เสารท่ี.......มิถุนายน / ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕.... วิชา : ปกณิ ณกสังคหะ สมุจจยสงั คหะ ๑๐ ขอ รวม ๑๐๐ คะแนน เวลา ๔ ชม.  สอบสมั ภาษณ วนั ท่สี อง วนั อาทิตยท่ี.....มิถนุ ายน / ธันวาคม พ.ศ. ๒๕.... วิชา : ปกณิ ณกสงั คหะ สมจุ จยสังคหะ ๕ ขอ ๒๕ คะแนน เวลา ๑๕ นาที. สําเนาหรือแจกได โดยไมต องขออนุญาต (สงวนสิทธห์ิ ากนําไปจาํ หนา ย) ผิดตกขออภยั และกรณุ าแจง (จักขอบพระคณุ ) ท่ี 081-860-2466 fb: Kanrasi Sengking, E-mail: [email protected], [email protected] ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆไดจ าก ขอความเพิ่มเตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

~1~ เฉลยขอ สอบขอ เขยี นพระอภธิ รรม ภาคเรยี นท่ี ๑-๒ ปก ารศกึ ษา ๒๕๔๓-๒๕๖๓ อภิธรรมโชตกิ ะวทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ชน้ั จูฬอาภิธรรมกิ ะโท สอบวนั เสารท่ี ....... มถิ ุนายน / ธันวาคม พ.ศ. ๒๕.... วชิ า : ปกณิ ณกสงั คหะ สมจุ จยสังคหะ ๑๐ ขอ รวม ๑๐๐ คะแนน เวลา ๔ ชม. ขอ ความเบอ้ื งตน ๑. จงแสดงคาถาสงั คหะ ทงั้ บาลี และคาํ แปล ? [P001] ๑. ก. คาถาทแี่ สดงมาตกิ าทง้ั ๖ และคาํ ปฏญิ ญานนั้ แสดงวา อยางไร ? ใหแ ปลมาดว ย ? 45/1, 47/1, 5248/1, 52/1, 53/2, 54/1, 54/2, 55/2, 56/2, 59/1, 60/2, 61/2 ๑. ก. จงแปลคาถาดงั ตอ ไปนี้ สมปฺ ยุตตฺ า ยถาโยคํ ฯลฯ สงคฺ โห นาม นยี เต ? สมปฺ ยตุ ตฺ า ยถาโยคํ ฯลฯ เตสนทฺ านิ ยถารหํ. เวทนาเหตุโต กิจฺจ- ฯลฯ สงฺคโห นาม นยี เต. ? 43/2(1ก), 44/1(1ข), 45/2, 46/1(1), 49/2, 50/2, 51/2, 56/1, 59/2, 60/1, 62/2, 63/2 ตอบ. ก. คาถาทแี่ สดงมาติกาทง้ั ๖ และคาํ ปฏิญญา แสดงดงั น้ี / คาถาสังคหะ สมฺปยุตตฺ า ยถาโยคํ เตปฺ าส สภาวโต จิตตฺ เจตสกิ า ธมมฺ า เตสนทฺ านิ ยถารหํ เวทนา เหตุโต กจิ จฺ - ทวฺ าราลมพฺ นวตถฺ ุโต จติ ตฺ ปุ ฺปาทวเสเนว สงคฺ โห นาม นยี เต ฯ ตอบ (50/2, 51/2, 56/1 ฯ 63/2ฯ) ก. แปลคาถาดังตอ ไปน้ี สภาวธรรม ๕๓ คือ จติ และเจตสิก ชือ่ วา นามเตปฺ าส วา โดยลกั ษณะของตน ๆ ประกอบดวย เอกุปปฺ าทตา เปน ตน ตามที่ประกอบได ดงั แสดงแลวโดยพิสดาร (ในปริจเฉทท่ี ๒) บัดนี้ ขาพเจาจะแสดงปกิณณกสังคหะของ จติ และเจตสกิ วาดว ยอํานาจแหงการเกดิ ข้นึ ของจติ โดยประเภทแหง เวทนา เหตุ กจิ ทวาร อารมณ และ วตั ถุ ตามสมควร. ๑. ข. นามเตปฺ าส คอื สภาวธรรม ๕๓ นนั้ ไดแ กอ ะไร ? [P002] และ ใหแ สดงประเภทของเวทนาโดยนยั ทงั้ ๒ นนั้ ดว ย ? [P004] 45/2, 55/1, 59/1 ตอบ ข. นามเตปฺ าสคอื สภาวธรรม ๕๓ น้ันไดแ ก จิตทง้ั หมดวา โดยลักษณะแลว นบั รวมเปน ๑ เจตสิก ๕๒ และประเภทของเวทนาโดยนัยทง้ั ๒ นัน้ คือ ๑. อารัมมณานุภวนลกั ขณนัย คอื อาการเปน ไปแหงการเสวยอารมณ ๒. อนิ ทรยิ เภทนยั คือ การเปน ใหญเปนผปู กครอง ๑. ก. ปรจิ เฉท ๓ เรยี กวา ปกณิ ณกสงั คหะนน้ั เพราะเหตใุ ด ? 44/1, 52/2, 53/1, 55/1, 58/1 และใหแ สดงมาตกิ าทง้ั ๖ พรอ มดว ยความหมาย ? [P002] 44/2, 46/1(2), 48/2, 49/1(1), 50/1, 57/1, 57/2, 58/1(ข), 58/2, 61/1, 62/1 ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจาก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว)

~2~ ๒. ก. ใหแ สดงมาตกิ าทง้ั ๖ พรอ มดว ยความหมาย ? [P002] 59/1 ตอบ ปริจเฉทท่ี ๓ เรยี กวา ปกณิ ณกสงั คหะ นนั้ เพราะเหตวุ า การแสดงสงเคราะห จิต เจตสกิ โดยเรย่ี รายท่วั ไป คือ แสดงสงเคราะหโดยประเภทแหง เวทนาบาง เหตุบาง กิจบา ง ทวารบาง อารมณบ าง วตั ถุบา ง เพราะเหตุน้ี ปรจิ เฉทท่ี ๓ จงึ เรยี กวา ปกิณณกสงั คหะ (50/1, 57/1, 57/2, 59/1, 63/2) แสดงมาติกาทงั้ ๖ พรอ มดว ยความหมาย ๑. เวทนาสงั คหะ หมายความวา การสงเคราะหจิต เจตสกิ โดยประเภทแหงเวทนา ๓ หรือ ๕ ๒. เหตสุ งั คหะ หมายความวา การสงเคราะหจ ิต เจตสกิ โดยประเภทแหงเหตุ ๖ ๓. กจิ จสงั คหะ หมายความวา การสงเคราะหจิต เจตสกิ โดยประเภทแหงกิจ ๑๔ และฐาน ๑๐ ๔. ทวารสงั คหะ หมายความวา การสงเคราะหจ ติ เจตสกิ โดยประเภทแหงทวาร ๖ ๕. อารมั มณสงั คหะ หมายความวา การสงเคราะหจ ติ เจตสิก โดยประเภทแหงอารมณ ๖ ๖. วตั ถสุ งั คหะ หมายความวา การสงเคราะหจ ติ เจตสกิ โดยประเภทแหงวตั ถุ ๖ เวทนาสงั คหะ ๑. ข. เวทนาสงั คหะ หมายความวา อยา งไร และเมอ่ื นบั เปน นยั ๆ แลว มกี นี่ ยั คอื อะไรบา ง ? [P003-4] 46/2 ตอบ ข. เวทนาสงั คหะ หมายความวา การแสดงสงเคราะหจติ เจตสิก โดยประเภทแหงเวทนา ช่อื วา เวทนาสงั คหะ และเม่ือวา โดยนยั แลวมี ๒ นัย คือ ๑. แสดงโดยอารมั มณานภุ วนลกั ขณนยั คอื อาการเปน ไปแหง การเสวยอารมณ ๒. แสดงโดยอนิ ทรยิ เภทนยั คอื การเปน ใหญ เปน ผปู กครอง ๒. ข. และ ใหแ สดงประเภทของเวทนาโดยนยั ทง้ั ๒ นน้ั ดว ย ? [P003-4] 59/1 ตอบ ข. และประเภทของเวทนาโดยนัยทั้ง ๒ น้นั คอื ๑. อารมั มณานภุ วนลกั ขณนัย คือ อาการเปน ไปแหง การเสวยอารมณ ๒. อนิ ทรยิ เภทนัย คอื การเปนใหญเ ปนผูปกครอง ๒. ก. ใหแปลคาถาดงั ตอไปนี้ ? [P003] 46/2, 47/2(1ก), 50/1, 51/1(1ก), 52/2(1ข), 53/1, 57/1, 61/1, 62/1(1ข) สขุ ํ ทกุ ฺขมเุ ปกขฺ าติ ตวิ ธิ า ตตถฺ เวทนา โสมนสสฺ ํ โทมนสสฺ มติ ิ เภเทน ปจฺ ธา ตอบ ก. คาถาน้แี ปลความวา ในเวทนาสังคหะนนั้ วาโดย อารมั มณานภุ วนลักขณะ คือ ลกั ษณะแหง การเสวย อารมณแ ลว มีเวทนา ๓ อยา ง คอื ๑. สุขเวทนา ๒. ทุกขเวทนา ๓. อุเบกขาเวทนา วาโดย อนิ ทรยิ เภท คือ ประเภทแหง อนิ ทรยี แ ลว มเี วทนา ๕ อยา ง คือ ๑. สุขเวทนา ๒. ทุกขเวทนา ๓. โสมนสั สเวทนา ๔. โทมนสั สเวทนา ๕. อเุ บกขาเวทนา ๒. ก. จงแปลคาถาดังตอ ไปนี้ สขุ เมกตถฺ ทกุ ฺขจฺ โทมนสสฺ ํ ทวฺ เย ต ํ ทวฺ าสฏ ส ุ โสมนสสฺ ํ ปจฺ ปฺ าสเกตรา ? [P003] 44/2, 48/2 ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆไดจ าก ขอความเพม่ิ เติมท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว)

~3~ ตอบ ก. แปลคาถาดงั ตอ ไปนี้ สขุ เวทนาและทกุ ขเวทนาประกอบอยูในกายวญิ ญาณจิต อยา งละ ๑ ดวง โทมนัสเวทนา ประกอบอยูใ นจิต ๒ ดวง โสมนสั เวทนา ประกอบอยใู นจิต ๖๒ ดวง เวทนาที่นอกจากน้ีคือ อุเบกขาเวทนา ประกอบอยใู นจิต ๕๕ ดวง ๒. ใหอ ธบิ ายความเปน ไปแหง ประเภทเวทนา ๓ และ ๕ ? [P004] 48/1 ๑. ข. ใหอ ธบิ ายความเปน ไปแหงประเภทเวทนา ๓ มาดู ? 43/2, 49/2, 50/2, 51/2, 4/2, 56/1, 60/1, 63/2 ๑. ข. ใหอ ธิบายความเปน ไปแหง เวทนา ๓ (อารัมมณานภุ วนลกั ขณนยั ) ? 47/1, 52/1, 53/2, 54/1, 55/2, 56/2, 60/2 ๒. ข. ใหอ ธิบายประเภทแหง เวทนา ๕ คอื อนิ ทรยิ เภทนยั ? 59/1 ๑. ข. แสดงอาการเปน ไปแหง การเสวยอารมณข องสตั วท งั้ หลายมกี อ่ี ยา ง อะไรบา ง ? 62/2 ตอบ (ข.) ความเปน ไปแหง ประเภทเวทนา ๓ มีดังนี้ (62/2) ข. อาการเปนไปแหงการเสวยอารมณข องสัตวท ง้ั หลายมีอยู ๓ อยา ง ๑. ในขณะทเ่ี สวยอารมณอยนู ั้น บางทกี ็รสู ึกสบาย เรียกวา สุขเวทนา ๒. ในขณะท่เี สวยอารมณอยูน ้นั บางทีกร็ ูสึกไมส บาย เรียกวา ทกุ ขเวทนา ๓. ในขณะท่เี สวยอารมณอยูน ้นั บางทกี ็รสู กึ เฉยๆ ไมใ ชสขุ ไมใ ชท ุกข เรียกวา อเุ บกขาเวทนา (48/1) การเสวยอารมณของสตั วท ้งั หลายโดยเวทนา ๕ น้นั คือ ตอบ (59/1) ข. การเสวยอารมณข องสตั วท ้งั หลายนี้ เกย่ี วดวยกายบาง เกีย่ วดวยใจบา ง เกี่ยวดว ยกายมี ๒ คอื รสู ึกสบาย และไมส บาย, เก่ียวดวยใจ มี ๓ คอื รูสึกสบาย ไมส บายและเฉยๆ รวมมี ๕ คือ ๑. ความรสู ึกสบายที่เกี่ยวดวยกายนัน้ เวทนาเจตสกิ ที่อยใู นสขุ สหคตกายวิญญาณจติ เปนใหญ เปน ผูปกครอง เรียกวา สขุ เวทนา ๒. ความรสู กึ ไมสบายท่ีเก่ยี วดวยกายน้ัน เวทนาเจตสิกทอี่ ยใู นทกุ ขสหคตกายวญิ ญาณจิต เปนใหญ เปนผปู กครอง เรียกวา ทุกขเวทนา ๓. ความรสู กึ สบายที่เกย่ี วดว ยใจนัน้ เวทนาเจตสิกท่ีอยใู นโสมนสั สหคตจติ เปน ใหญ เปน ผูป กครอง เรียกวา โสมนัสเวทนา ๔. ความรสู กึ ไมสบายที่เก่ียวดวยใจน้นั เวทนาเจตสกิ ที่อยใู นโทสมลู จติ เปนใหญ เปนผปู กครอง เรียกวา โทมนสั เวทนา ๕. ความรสู กึ เฉยๆ น้นั เวทนาเจตสกิ ที่อยูใ นอุเบกขาสหคตจติ เปนใหญ เปน ผปู กครอง เรียกวา อเุ บกขาเวทนา ๒. ข. ใหจ าํ แนกจติ ๑๒๑ โดยเวทนา ๓ มาดู ? [P005] 45/1(1ข), , 46/2, 47/2(1ข), 48/1(1ข), 50/1, 51/1(1ข), 53/2(2ก), 55/1(2ก), 57/1, 61/1, 63/2 ตอบ ข. จาํ แนกจิต ๑๒๑ โดยเวทนา ๓ ดงั นี้ คือ ๑. จติ ที่เกิดพรอมดว ยสขุ เวทนา มี ๖๓ คือ สขุ สหคตกายวญิ ญาณจติ ๑ โสมนัสสสหคตจติ ๖๒ ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆไดจ าก ขอ ความเพิม่ เตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว)

~4~ ๒. จติ ทเ่ี กดิ พรอ มดว ยทกุ ขเวทนา มี ๓ คอื ทุกขสหคตกายวิญญาณจติ ๑ โทสมูลจิต ๒ ๓. จติ ทเี่ กิดพรอมดว ยอุเบกขาเวทนา มี ๕๕ คือ อุเบกขาสหคตจิต ๕๕ ๒. ใหจ าํ แนกจติ ๑๒๑ โดยเวทนา ๓ และใหแ สดงจํานวนเจตสกิ ดงั ตอ ไปน?้ี [P005] 45/2 ก. เจตสกิ ทเ่ี กดิ พรอ มดว ยเวทนาอยางเดยี ว ? ข. เจตสกิ ทเ่ี กดิ พรอ มดว ยเวทนา ๒ ? ค. เจตสกิ ทีเ่ กดิ พรอ มดว ยเวทนา ๓ ? ง. เจตสกิ ที่เกดิ พรอ มดว ยเวทนา ๕ ? ๑. ใหแ สดงจํานวนเจตสกิ ดงั ตอ ไปน้ี ? 43/1 ๑. เจตสกิ ทเ่ี กดิ พรอมดว ยเวทนาอยางเดยี ว ๒. เจตสิกทเ่ี กดิ พรอมดว ยเวทนา ๒ ๓. เจตสิกทเี่ กดิ พรอมดว ยเวทนา ๓ ๔. เจตสกิ ทเ่ี กดิ พรอมดว ยเวทนา ๔ ๕. เจตสกิ ทเ่ี กดิ พรอ มดว ยเวทนา ๕ ๖. เจตสิกทไี่ มไ ดเ กดิ พรอ มดว ยเวทนา ๗. เจตสิกทเ่ี กดิ พรอ มดว ยโสมนสั เวทนาได แตเ กดิ พรอ มดว ยอเุ บกขาเวทนาไมไ ด ๘. เจตสกิ ทเ่ี กดิ พรอ มดว ยอเุ บกขาเวทนาได แตเ กดิ พรอ มดว ยโสมนสั เวทนาไมไ ด ๙. เจตสกิ ทเ่ี กดิ พรอ มดว ยโสมนสั เวทนา และอเุ บกขาเวทนาไดท้งั สอง ๑๐. เจตสิกทเี่ กดิ พรอ มดว ยโสมนสั เวทนา และอเุ บกขาไมไ ดท งั้ สอง ตอบ แสดงจาํ นวนเจตสิกดงั ตอ ไปนี้ ๑ เจตสกิ ท่ีเกิดพรอ มดว ยเวทนาอยางเดยี ว มี ๖ ดวง คอื ปติเจตสิก ๑ โทจตกุ เจตสกิ ๔ วจิ ิกิจฉาเจตสกิ ๑ ๒. เจตสิกทเี่ กดิ พรอ มดว ยเวทนา ๒ มี ๒๘ ดวง คอื โลตกิ เจตสิก ๓ โสภณเจตสิก ๒๕ ๓. เจตสิกที่เกดิ พรอมดวยเวทนา ๓ มี ๑๑ ดวง คอื ปกณิ ณกเจตสกิ ๕ (เวนปติ) โมจตุกเจตสกิ ๔ ถที กุ เจตสกิ ๒ ๔. เจตสกิ ท่ีเกิดพรอ มดว ยเวทนา ๔ ไมม ี ๕. เจตสิกทเ่ี กดิ พรอมดวยเวทนา ๕ มี ๖ ดวง คอื สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๖ (เวนเวทนา) ๖. เจตสิกทไ่ี มไ ดเ กิดพรอ มดว ยเวทนา มี ๑ ดวง คอื เวทนาเจตสกิ ๗. เจตสิกทเี่ กิดพรอ มดวยโสมนัสเวทนาได แตเ กดิ พรอ มดว ยอเุ บกขาเวทนาไมไ ด ไดแก ปติเจตสกิ ๘. เจตสกิ ที่เกิดพรอมดว ยอุเบกขาเวทนาได แตเ กิดพรอมดว ยโสมนัสเวทนาไมได ไดแก วจิ กิ จิ ฉาเจตสกิ ๙. เจตสิกทีเ่ กดิ พรอมดว ยโสมนัสเวทนาและอุเบกขาเวทนาไดทั้งสอง ไดแก เจตสิก ๔๕ (เวน เวทนา ปต ิ โทจตุก ๔ วิจิกิจฉา) ๑๐. เจตสกิ ที่เกดิ พรอ มดว ยโสมนสั เวทนาและอุเบกขาเวทนาไมไ ดทั้งสอง ไดแก โทจตกุ เจตสิก ๔ ๒. ข. เจตสิกทเ่ี กดิ พรอ มดว ยเวทนาอยางเดียว มกี ่ีดวง ? คอื อะไรบา ง ? และเกดิ พรอ มดว ยเวทนาอะไร ? [P005] 44/2 ตอบ ข. เจตสกิ ทเี่ กดิ พรอ มดวยเวทนาอยางเดยี ว มี ๖ ดวง คือ โทจตกุ เจตสิก ๔ เกิดพรอ มดวย โทมนัสเวทนาอยางเดียว, ปต ิเจตสกิ ๑ เกดิ พรอมดว ย โสมนสั เวทนาอยางเดยี ว, วิจิกจิ ฉาเจตสกิ ๑ เกิดพรอ มดว ย อเุ บกขาเวทนาอยางเดยี ว ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆไดจาก ขอความเพม่ิ เติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

~5~ ๑. ค. เจตสกิ ทเี่ กดิ พรอ มดว ยเวทนา ๓ มเี ทา ไร คืออะไรบา ง ? จงแสดงมาดู และใหบ อกชอ่ื เวทนามาดว ย ? 46/2 ตอบ ค. เจตสิกที่เกดิ พรอมดวยเวทนา ๓ มี ๑๑ ดวง คือ ปกิณณกเจตสิก ๕ (เวนปต)ิ โมจตกุ เจตสิก ๔ ถที ุกเจตสิก ๒ เกดิ พรอมดว ย โสมนัสสเวทนา โทมนสั สเวทนา และ อุเบกขาเวทนา ๒. ข. ในบรรดาจติ ทง้ั ๔ ชาตนิ นั้ ? [P006] 48/2 ๑. จิตทเี่ ปน กศุ ลชาติ เกดิ พรอมดว ยเวทนาไดเ ทา ใด คอื อะไรบา ง ? ๒. จติ ทเ่ี ปน อกศุ ลชาติ เกดิ พรอ มดว ยเวทนาไดเ ทา ใด คืออะไรบา ง ? ๓. จติ ทเี่ ปน วปิ ากชาติ เกดิ พรอ มดว ยเวทนาไดเทา ใด คืออะไรบา ง ? ๔. จติ ทเ่ี ปน กริยาชาติ เกดิ พรอมดว ยเวทนาไดเ ทา ใด คืออะไรบา ง ? ตอบ ข. ในบรรดาจติ ท้งั ๔ ชาติน้ัน ๑. จติ ท่เี ปน กุศลชาติ เกดิ พรอมดวยเวทนาได ๒ คอื โสมนสั เวทนา และ อุเบกขาเวทนา ๒. จติ ทเี่ ปนอกศุ ลชาติ เกดิ พรอ มดวยเวทนาได ๓ คือ โสมนสั เวทนา โทมนสั สเวทนา และ อุเบกขาเวทนา ๓. จิตทเ่ี ปน วปิ ากชาติ เกดิ พรอมดว ยเวทนาได ๔ คือ สขุ เวทนา ทกุ ขเวทนา โสมนัสสเวทนา และ อุเบกขาเวทนา ๔. จิตที่เปนกริ ยิ าชาติ เกิดพรอมดว ยเวทนาได ๒ คอื โสมนัสเวทนา และ อุเบกขาเวทนา เหตสุ ังคหะ ๒. ก. คาํ วา “เหตุ” หมายความวา อยา งไร ? / หมายความวา กระไร ? (และ) ผลทเ่ี กดิ จากเหตนุ น้ั ไดแ กอ ะไร ? [P007] 53/1, 55/2 ตอบ ก. คาํ วา “เหต”ุ หมายความวา เปนธรรมทใ่ี หผลเกดิ ข้นึ และใหผ ลธรรมน้ันตงั้ ม่ันในอารมณ และใหเ จรญิ ขนึ้ ได ผลทเี่ กดิ จากเหตุนน้ั ไดแก กายกรรม วจกี รรม มโนกรรม ทีเ่ ปน กศุ ลบา ง อกศุ ลบา ง อัพยากตะบาง ๒. ใหแ สดงถงึ ผลธรรมทต่ี งั้ มน่ั ไดในอารมณ และเจรญิ ขนึ้ ไดใ นอารมณ โดยอาศยั เหตุ ? [P009] 43/2(2ข), 46/1(3), 47/2, 49/2, 51/2, 62/1 ตอบ เหตทุ ที่ าํ ใหผลธรรมต้งั ม่ันในอารมณน น้ั คอื เมอื่ ตาเห็นรปู หไู ดยนิ เสยี ง เปน ตน ตลอดจนถึงจติ คดิ นกึ เรือ่ งราวตา ง ๆ แลว อกุศลจิตหรอื กุศลจติ ยอ มเกิดขนึ้ และยดึ อารมณต า งๆ เหลา นัน้ ไวอยา งมน่ั คงนแ้ี หละ คอื เปน ผลที่ตง้ั มนั่ ในอารมณอนั เกดิ จากเหตุเหลา นั้น เหตุทที่ ําใหผ ลธรรมเจริญขน้ึ ไดน นั้ คือ เม่ือจติ ที่ยึดเอาอารมณต า งๆ น้ัน คอ ยๆ มกี าํ ลงั มากข้ึนๆ หมายความวา โลภะก็ดี โทสะก็ดี หรอื สัทธา เปน ตน เหลา น้นั ก็ดี เม่ือขณะแรกที่เกดิ ขนึ้ นัน้ ยังมกี ําลังออนอยู ยังไมทําใหลุลว งไปถึงทจุ ริต หรือสุจรติ ได แตเ มอื่ กาํ ลงั มากข้ึนแลว ยอมสามารถทําใหผูนัน้ กระทาํ ทจุ รติ หรอื สุจริต ในบรรดาทจุ รติ ๑๐ หรอื สุจรติ ๑๐ นัน้ ลงไปได นแี้ หละเปนผลทีเ่ จริญขนึ้ ดว ยอาศัยเหตเุ หลาน้ัน ๒. ก. ใหแ สดงการจาํ แนกสเหตุกจติ โดยเหตุ ? [P010]50/1(3ก), 56/2, 57/2, 58/1(2ก), 59/1(3ก), 60/2, 62/2 ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆไดจ าก ขอความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

~6~ ตอบ ก. การจาํ แนกสเหตกุ จติ โดยเหตุ ในสเหตุกจติ ๗๑ หรือ ๑๐๓ น้ัน ๑. เอกเหตกุ จิต จิตที่มีเหตุ ๑ มี ๒ ดวง คอื โมหมูลจิต ๒ มเี หตุ ๑ คือ โมหเหตุ ๒. ทวเิ หตุกจติ จติ ทีม่ ีเหตุ ๒ มี ๒๒ ดวง คอื โลภมูลจิต ๘ มเี หตุ ๒ คือ โลภเหตุ โมหเหตุ โทสมูลจติ ๒ มเี หตุ ๒ คือ โทสเหตุ โมหเหตุ ญาณวปิ ปยุตตจติ ๑๒ มีเหตุ ๒ คือ อโลภเหตุ อโทสเหตุ ๓. ติเหตุกจิต จติ ทีม่ ีเหตุ ๓ มี ๔๗ หรือ ๗๙ ดวง คอื กามาวจรญาณสมั ปยตุ ตจติ ๑๒ มหคั คตจิต ๒๗ โลกตุ ตรจติ ๘ หรือ ๔๐ มีเหตุ ๓ คือ อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ ๒. ใหแ สดงจาํ นวน อกุศลเหตุ กศุ ลเหตุ และกรยิ าเหตุ โดยพสิ ดาร และใหจาํ แนกเหตเุ หลานน้ั มาใหเ หน็ ชดั ดวย ? 45/2(3), 52/2, 53/1(2ข), 54/2, 61/2 ตอบ อกุศลเหตมุ ี ๒๒ คือ โลภเหตุมี ๘ ที่ในโลภมูลจิต ๘ โทสเหตมุ ี ๒ ท่ีในโทสมูลจิต ๒ โมหเหตุมี ๑๒ ที่ในอกศุ ลจติ ๑๒ กุศลเหตมุ ี ๑๐๗ คอื อโลภเหตมุ ี ๓๗ ท่ีใน มหากุศลจิต ๘ มหคั คตกศุ ลจติ ๙ มรรคจิต ๒๐ อโทสเหตมุ ี ๓๗ ท่ีใน มหากุศลจติ ๘ มหัคคตกศุ ลจิต ๙ มรรคจติ ๒๐ อโมหเหตมุ ี ๓๓ ทใ่ี น มหากุศลญาณสัมปยุตตจิต ๔ มหัคคตกุศลจติ ๙ มรรคจิต ๒๐ กรยิ าเหตุมี ๔๗ คอื อโลภเหตุมี ๑๗ ท่ใี น มหากริยาจติ ๘ มหัคคตกริยาจิต ๙ อโทสเหตุมี ๑๗ ทใ่ี นม หากริยาจิต ๘ มหัคคตกริยาจิต ๙ อโมหเหตมุ ี ๑๓ ทีใ่ น มหากริยาญาณสัมปยุตตจติ ๔ มหคั คตกริยาจิต ๙ ๒. ใหแ สดงจติ ทมี่ ีเหตดุ งั ตอ ไปน้ี ? 44/1 ๑. อกศุ ลจติ ทม่ี โี ลภเหตุ แตไ มมโี ทสเหตุ ๒. อกศุ ลจิตทมี่ โี ทสเหตุ แตไ มม โี ลภเหตุ ๓. อกศุ ลจติ ทม่ี โี ลภเหตุ และโทสเหตุ ๔. อกศุ ลจติ ทไ่ี มม โี ลภเหตุและโทสเหตุ ๕. กศุ ลจติ ทม่ี อี โลภเหตุ แตไ มม ีอโมหเหตุ ๖. กุศลจติ ทม่ี อี โมหเหตุ แตไ มม ีอโลภเหตุ ๗. กุศลจติ ทมี่ อี โลภเหตุ และอโมหเหตุ ๘. กศุ ลจติ ทไ่ี มม อี โลภเหตุและอโมหเหตุ ตอบ ๑. อกุศลจิตท่ีมีโลภเหตุ แตไ มมโี ทสเหตุ ไดแ ก โลภมลู จติ ๘ ๒. อกุศลจติ ทีม่ โี ทสเหตุ แตไ มมโี ลภเหตุ ไดแ ก โทสมลู จิต ๒ ๓. อกุศลจิตทม่ี ีโลภเหตุ และโทสเหตุ ไมม ี ๔. อกศุ ลจติ ทไี่ มมโี ลภเหตุ และโทสเหตุ ไดแก โมหมลู จติ ๒ ๕. กศุ ลจติ ท่มี ีอโลภเหตุ แตไ มมอี โมหเหตุ ไดแก มหากศุ ลญาณวิปปยตุ ตจิต ๔ ๖. กุศลจิตท่มี ีอโมหเหตุ แตไ มมอี โลภเหตุ ไมมี ๗. กศุ ลจติ ท่ีมีอโลภเหตุ และอโมหเหตุ ไดแ ก มหากศุ ลญาณสมั ปยุตตจิต ๔ มหคั คตกศุ ลจิต ๙ มรรคจติ ๔ หรอื ๒๐ ดาวนโหลดขอ มลู ตางๆไดจาก ขอความเพิ่มเตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว)

~7~ ๘. กศุ ลจติ ทไ่ี มมอี โลภเหตุ และอโมหเหตุ ไมม ี ๒. ก. เหตโุ ดยพสิ ดารมีจาํ นวนเทา ไร คอื อะไรบา ง ? 43 ตอบ ก. เหตุโดยพสิ ดารมีจาํ นวน ๒๘๓ คอื อกศุ ลเหตุ ๒๒ กุศลเหตุ ๑๐๗ วปิ ากเหตุ ๑๐๗ กรยิ าเหตุ ๔๗ ๓. ก. เมอื่ จาํ แนกจติ โดยเหตุ ๖ แลว มีแต อเหตกุ จติ เอกเหตกุ จติ ทวเิ หตุกจติ ตเิ หตกุ จติ สว นจตเุ หตกุ จติ ปญ จเหตุกจติ ฉเหตุกจติ นน้ั ไมม ี ทเี่ ปน เชน นเี้ พราะเหตใุ ด ? 46/2, 49/1(2ก), 51/1(2ก), 53/2(2ข), 55/1(2ข), 56/1(2ก), 57/1, 59/1(2ก) , 60/1(2ก) , 63/2(2ข) ตอบ ก. การทจี่ ตเุ หตกุ จติ ปญจเหตุกจิต ฉเหตุกจิตไมมนี ั้น เพราะอกุศลเหตุมเี พียง ๓ กศุ ลเหตุและ อพยากตเหตุ กม็ ีเพยี ง ๓ ธรรมดาอกุศลเหตกุ บั กุศลเหตุ หรอื กับอพยากตเหตุนั้น เกิดข้ึนพรอ มกนั ในจติ ดวงเดียวกันไมไ ด ฉะนัน้ จตุเหตุกจติ ปญจเหตกุ จติ ฉเหตุกจติ จึงไมมี ๓. ข. ใหแ สดงความแตกตา งกนั ระหวาง อเหตกุ จติ กบั สเหตกุ จิต ? 46/2, 49/1(2ข), 51/1(2ข), 54/1(2ก), 56/1(2ข), 57/1, 59/1(2ข) , 60/1(2ข) ตอบ ข. ความแตกตา งกันระหวา งอเหตกุ จติ กับ สเหตุกจิตนน้ั คอื ๑. อเหตุกจติ จติ ที่ไมม เี หตนุ ัน้ มีกําลังออน ไมม ั่นคงในการรับอารมณ สเหตุกจติ จิตท่มี เี หตุ มกี ําลงั เขม แขง็ มน่ั คงในการรบั อารมณ ๒. อเหตกุ จติ เมื่อวาโดยชาติแลว มี ๒ ชาติ คือ วปิ ากชาติ กับ กิริยาชาติ สเหตุกจติ เมื่อวา โดยชาติแลว มี ๔ ชาติ คือ กุศลชาติ อกศุ ลชาติ วปิ ากชาติ กิริยาชาติ ๓. อเหตกุ จิต เปน กามพวกเดียว สเหตุกจติ เปน กามะ มหัคคตะ และ โลกตุ ตระไดท ้ัง ๓ ๔. อเหตุกจิต เปนโลกียะ สเหตกุ จิต เปนโลกียะ และ โลกตุ ตระไดทั้ง ๒ ๒. ข. เอกเหตกุ เจตสกิ วา โดยอคหติ ัคคหนนยั และคหติ คั คหนนยั มจี าํ นวนเทา ไรใหแสดงมาดู โดยละเอียด ? 43/1 ตอบ ข. เอกเหตุกเจตสิก เจตสิกที่มเี หตุ ๑ ตาม อคหิตคั คหนนัย มี ๓ ดวง คอื โลภเจตสกิ มเี หตุ ๑ คอื โมหเหตุ โทสเจตสกิ มีเหตุ ๑ คอื โมหเหตุ วิจกิ ิจฉาเจตสิก มีเหตุ ๑ คอื โมหเหตุ เอกเหตุกเจตสกิ ตามคหิตคั คหนนัย มี ๒๐ ดวง คือ อัญญสมานเจตสกิ ๑๑ (เวน ปติ ฉันทะ) ท่ปี ระกอบกับโมหมลู จิต มีเหตุ ๑ คือ โมหเหตุ อหริ กิ ะ อโนตตปั ปะ อทุ ธัจจะ ท่ีประกอบกบั โมหมูลจิต มเี หตุ ๑ คือ โมหเหตุ วจิ ิกิจฉาเจตสิก ๑ มีเหตุ ๑ คอื โมหเหตุ โลภเจตสกิ ๑ มเี หตุ ๑ คือ โมหเหตุ ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆไดจ าก ขอความเพมิ่ เติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว)

~8~ มีเหตุ ๑ คือ โมหเหตุ มเี หตุ ๑ คอื โลภเหตุ โทสเจตสกิ ๑ มเี หตุ ๑ คอื โทสเหตุ โมหเจตสิก ๑ ทป่ี ระกอบกับโลภมูลจิต มเี หตุ ๑ คือ อโทสเหตุ โมหเจตสกิ ๑ ที่ประกอบกับโทสมลู จิต มีเหตุ ๑ คอื อโลภเหตุ อโลภเจตสกิ ๑ ทป่ี ระกอบกบั ญาณวปิ ปยุตตจติ อโทสเจตสกิ ๑ ทปี่ ระกอบกบั ญาณวิปปยตุ ตจิต ๒. ข. อโลภะ อโทสะ ทปี่ ระกอบกบั ญาณวิปปยตุ ตจติ นนั้ เปน เจตสกิ พวกไหน ? ตเิ หตกุ เจตสกิ ๓๕ ดวงนนั้ ไดแ กอ ะไรบา ง เหตุ ๓ นน้ั คอื อะไร ? ใหแ สดงตามคหติ คั คหนนยั ? 44/2(3ก), 48/2(3ก), 50/1(3ข), 56/2, 57/2, 58/1, 58/2(ก) ), 59/1(3ข), 60/2, 61/1, 62/2 ตอบ ข. อโลภะ อโทสะ ท่ีประกอบกบั ญาณวปิ ปยตุ ตจติ นั้น เปนเจตสิกพวกเอกเหตกุ เจตสิก อโลภะ อโทสะ ท่ปี ระกอบกับญาณสัมปยุตตจิตน้ัน เปน เจตสกิ พวกทวเิ หตกุ เจตสิก และ ตเิ หตกุ เจตสกิ ๓๕ ดวงนน้ั ไดแ ก อญั ญสมานเจตสิก ๑๓ โสภณเจตสกิ ๒๒ (เวนอโลภะ อโทสะ ปญ ญา) ท่ีประกอบกับญาณสัมปยตุ ตจิต เหตุ ๓ นนั้ คอื อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ ๒. จงบอกชือ่ ของจติ เจตสิก ตามลาํ ดบั ตอ ไปน้ี พรอ มทงั้ เหตุนน้ั ๆ ดว ย ? 50/2, 52/1 ก. ตเิ หตกุ จิต ๔๗ หรือ ๗๙ ข. ติเหตุกเจตสกิ ๒๗ ตอบ ก. ตเิ หตุกจติ ๔๗ หรอื ๗๙ คอื กามาวจรญาณสมั ปยตุ ตจิต ๑๒ อโลภเหตุ มหัคคตจิต ๒๗ มีเหตุ ๓ คอื อโทสเหตุ โลกตุ ตรจิต ๘ หรือ ๔๐ อโมหเหตุ ข. ติเหตุกเจตสกิ ๒๗ คอื อหริ กิ ะ อโนตตัปปะ อุทธัจจะ ถีนมิทธะ มีเหตุ ๓ คือ โลภเหตุ โทสเหตุ โมหเหตุ โสภณเจตสิก ๒๒ (เวน อโลภะ อโทสะ ปญญา) มเี หตุ ๓ คอื อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ ๒. ใหจาํ แนกอโลภเจตสกิ อโทสเจตสกิ ปญ ญาเจตสกิ โดยเหตุ ตามนยั ทั้ง ๒ คอื นบั แลว ไมน บั อกี และนบั แลว นบั อกี ? 47/1 ตอบ  จําแนกอโลภเจตสกิ อโทสเจตสิก ปญญาเจตสกิ โดยเหตุ ตามนัยทน่ี บั แลว ไมน บั อกี เปน ทวิเหตกุ เจตสิก คือ เจตสกิ ทีม่ เี หตุ ๒ ดังน้ี คอื อโลภเจตสกิ มีเหตุ ๒ คือ อโทสเหตุ อโมหเหตุ อโทสเจตสกิ มีเหตุ ๒ คือ อโลภเหตุ อโมหเหตุ ปญ ญาเจตสกิ มเี หตุ ๒ คอื อโลภเหตุ อโทสเหตุ  จําแนก อโลภเจตสกิ อโทสเจตสิก ปญญาเจตสิก โดยเหตตุ ามนยั ท่นี ับแลวนับอกี ดังน้ี คอื = เปนเอกเหตุกเจตสกิ คอื เจตสกิ ทม่ี ีเหตุ ๑ มี ๒ ดวง คอื อโลภเจตสกิ ทีป่ ระกอบกับญาณวปิ ปยุตตจติ มเี หตุ ๑ คอื อโทสเหตุ อโทสเจตสกิ ที่ประกอบกับญาณวปิ ปยตุ ตจิตมีเหตุ ๑ คอื อโลภเหตุ = เปน ทวิเหตุกเจตสิก คือ เจตสกิ ทม่ี เี หตุ ๒ มี ๓ ดวง คอื ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจาก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว)

~9~ อโลภเจตสกิ ท่ีประกอบกบั ญาณสัมปยุตตจิตมีเหตุ ๒ คอื อโทสเหตุ อโมหเหตุ อโทสเจตสกิ ท่ีประกอบกบั ญาณสมั ปยุตตจิตมเี หตุ ๒ คอื อโลภเหตุ อโมหเหตุ ปญ ญาเจตสกิ ท่ีประกอบกับญาณสมั ปยตุ ตจติ มเี หตุ ๒ คือ อโลภเหตุ อโทสเหตุ ๒. จงอธิบายปรมตั ถธรรมทเี่ ปน มลู เปน รากของจติ เจตสกิ รปู ในหวั ขอ ตอ ไปน?ี้ 45/1 ก. ปรมตั ถธรรมทเี่ ปน มลู รากของ จติ เจตสกิ รปู ไดแ กอ ะไรบา ง ? ข. ปรมตั ถธรรมทเี่ ปน มลู รากของ จิต เจตสกิ รูป เหลา นน้ั ชือ่ วา อะไร ? ค. ผลทเี่ กดิ จากเหตุ ไดแ กอะไรบา ง? ง. เหตทุ ีเ่ กดิ ใน ปถุ ุชน มีเทา ไร อะไรบา ง เหตทุ เ่ี กดิ ใน โสดาบนั บคุ คล มเี ทาไร อะไรบา ง เหตทุ เ่ี กดิ ใน อนาคามบี คุ คล มเี ทา ไร อะไรบา ง เหตทุ เ่ี กดิ ใน พระอรหนั ต มเี ทา ไร อะไรบา ง ตอบ ก. ไดแ ก เจตสิก ๖ ดวง คือ โลภะ โทสะ โมหะ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ข. ชอ่ื วา เหตุ ค. ไดแ ก กายกรรม วจกี รรม มโนกรรม ที่เปน กุศลบา ง อกุศลบาง อพั ยากตบา ง ง. เหตทุ ่ีเกดิ ใน ปุถชุ น มี ๖ ไดแก โลภะ โทสะ โมหะ อโลภะ อโทสะ อโมหะ เหตุท่ีเกิดใน โสดาบนั บุคคล มี ๖ ไดแ ก โลภะ โทสะ โมหะ อโลภะ อโทสะ อโมหะ เหตุทีเ่ กิดใน อนาคามบี คุ คล มี ๕ ไดแก โลภะ โมหะ อโลภะ อโทสะ อโมหะ เหตุที่เกิดใน พระอรหนั ต มี ๓ ไดแ ก อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ ๒. ก. ใหแ สดงเหตทุ เี่ กดิ แกบ คุ คลดงั ตอไปน้ี ? 43/2 ๑. เหตทุ เ่ี กดิ แกพ ระอนาคามีได แตเกดิ แกพ ระอรหนั ตไ มไ ด ๒. เหตทุ เ่ี กดิ แกพ ระอรหนั ตไ ด แตเกดิ แกพ ระอนาคามไี มไ ด ๓. เหตทุ ่ีเกดิ แกพ ระอนาคามี และพระอรหนั ต ไดท ง้ั สอง ๔. เหตทุ ีเ่ กดิ แกพ ระอนาคามี และอรหนั ต ไมไ ดท งั้ สอง ตอบ ก. จะแสดงเหตทุ ี่เกิดแกบ คุ คลดังตอ ไปน้ี ๑. เหตุทเ่ี กดิ แกพระอนาคามไี ด แตเกดิ แกพระอรหันตไ มได ไดแ ก โลภเหตุ โมหเหตุ ๒. เหตทุ เ่ี กดิ แกพระอรหันตได แตเ กดิ แกพ ระอนาคามีไมได ไมม ี ๓. เหตุทเี่ กดิ แกพระอนาคามี และพระอรหนั ต ไดทงั้ สอง ไดแ ก อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ ๔. เหตุทเ่ี กิดแกพระอนาคามี และพระอรหนั ต ไมไดท้งั สอง ไดแ ก โทสเหตุ กจิ จสังคหะ ๒. ข. จติ ทท่ี าํ หนา ทมี่ ากทสี่ ดุ มอี ยกู ดี่ วง เจตสิกทท่ี าํ หนา ทม่ี ากทีส่ ดุ มอี ยกู ด่ี วง คอื อะไรบา ง ? 62/2(3ก) ใหบ อกหนาทนี่ น้ั ๆ มาดว ย ? 44/2(3ข), 48/2(3ข), 55/2, 58/2 ๒. ข. เจตสกิ ทท่ี าํ หนา ทม่ี ากทสี่ ดุ นน้ั มกี ดี่ วง ? คืออะไรบาง ? 62/2(3ข) ใหบ อกหนา ทน่ี ัน้ ๆ มาดว ย ? 61/1 ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆไดจ าก ขอความเพมิ่ เติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

~ 10 ~ ตอบ ข. จิตที่ทําหนา ทีม่ ากที่สุดมี ๒ ดวง คอื อเุ บกขาสนั ตีรณ ๒ ทําหนาท่ี ๕ อยา ง คือ ปฏิสนธกิ ิจ ภวังคกิจ จุติกจิ สนั ตรี ณกจิ ตทารมั มณกิจ (ข.) เจตสกิ ที่ทําหนาท่มี ากที่สดุ มี ๗ ดวง คือ สพั พจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ทาํ หนาท่ี ๑๔ อยา ง คือ ๑) ปฏสิ นธกิ จิ ๒) ภวงั คกิจ ๓) จุตกิ จิ ๔) อาวชั ชนกจิ ๕) ทสั สนกจิ ๖) สวนกิจ ๗) ฆายนกจิ ๘) สายนกิจ ๙) ผสุ นกจิ ๑๐) สัมปฏจิ ฉนกจิ ๑๑) สันตีรณกจิ ๑๒) โวฏฐพั พนกจิ ๑๓) ชวนกิจ ๑๔) ตทารมั มณกิจ ๓. ข. ในจาํ นวนเจตสกิ ๕๒ นน้ั เจตสกิ ทที่ าํ หนา ทน่ี อ ยทส่ี ดุ และมากที่สดุ มจี าํ นวนเทา ไร คอื อะไรบา ง ? พรอ มทง้ั บอกหนาทม่ี าดว ย ? 43/1 ตอบ ข. จาํ นวนเจตสิกที่ทําหนาทน่ี อ ยทีส่ ดุ มี ๑๗ ดวง คอื อกศุ ลเจตสิก ๑๔ วริ ตเี จตสกิ ๓ ทาํ หนาท่ี ๑ กิจ คือ ชวนกิจ, เจตสิกท่ที าํ หนาที่มากท่สี ดุ มี ๗ ดวงคือสัพพจติ ตสาธารณเจตสกิ ๗ ทําหนา ท่ี ๑๔ อยา ง คือ ... ๓. (ก.) กิจมี ๑๔ กจิ แตฐ านของกจิ เหลา นน้ั มเี พยี ง ๑๐ ฐาน ทเี่ ปน เชน นเ้ี พราะเหตใุ ด ? 45/1, 48/1, 54/1, 55/2, 56/2(3ข), 57/2, 60/2, 61/2 และ (ข.) ใหแ สดงฐานโดยพสิ ดารวา มจี าํ นวนเทาใด ? คอื อะไรบา ง ? พรอ มทัง้ ยกหลกั ฐานบาลีขึ้นแสดงดว ย? 45/1, 47/1, 48/1, 54/1, 55/2, 56/2(3ก) => ก+ข ? 49/1, 49/2, 50/2, 60/1, 61/2, 63/2 ๓. ข. ใหแ สดงฐานโดยพสิ ดารวา มจี าํ นวนเทาใด คอื อะไรบา ง พรอ มทงั้ ยกหลกั ฐานบาลขี นึ้ แสดงดว ย ? 48/1, 57/2, 60/2 ๓. ค. เพราะเหตใุ ดกจิ มี ๑๔ กิจ แตฐ านของกจิ มเี พยี ง 10 ฐาน ? 62/2 ตอบ (ก.) กจิ มี ๑๔ กจิ แตฐ านของกิจเหลาน้นั มีเพียง ๑๐ ฐาน ท่ีเปนเชน นเ้ี พราะ ทัสสนกิจ สวนกิจ ฆายนกิจ สายนกจิ ผสุ สนกจิ ทง้ั ๕ น้ี ตอ งตง้ั อยใู นระหวาง ปญจทวารวชั ชนจติ กับ สมั ปฏิจฉนจิตเทา นน้ั ตงั้ อยทู อ่ี นื่ ไมได ฐานน้ีเรียกวา ปญจวญิ ญาณฐาน ดว ยเหตนุ ี้ ฐานจงึ มีเพียง ๑๐ ฐาน (48/1, 57/2, 60/2) (ข.) ฐานโดยพิสดาร มีจํานวน ๒๕ คอื ปฏสิ นธฐิ านมี ๑ ภวังคฐานมี ๖ อาวัชชนฐานมี ๒ ปญจวญิ ญาณฐานมี ๑ สมั ปฏจิ ฉนฐานมี ๑ สันตรี ณ ฐานมี ๑ โวฏฐพั พนฐานมี ๒ ชวนฐานมี ๖ ตทารมั มณฐานมี ๒ จุติฐานมี ๓ รวมเปนฐาน ๒๕ ดงั มีหลกั ฐานบาลีแสดงวา สนธฺ ิ เอกํ ฉ ภวงฺคํ ทฺวาวชฺชนํ ปจฺ าทฺเยกํ เทวฺ โว โช ฉ ตทา เทฺว ติ จุตตี ิ ปจฺ วสี ต.ิ ๓. ใหแ สดงความแตกตา งกนั ระหวางกิจและฐาน และจงชใ้ี หเ ห็นวา ปฏสิ นธฐิ าน ๑ ฐาน ภวงั คฐาน ๖ ฐานนน้ั อยูท ไี่ หน ? 46/1(4), 51/2 ตอบ ความแตกตางกันระหวางกจิ และฐานมดี ังน้ี คือ หนาที่ของจิตเจตสกิ มปี ฏิสนธจิ ิตเปน ตน ช่ือวา กิจ, สถานท่ีทํางานของจิตเจตสิกทง้ั หลาย กลาวคือเมือ่ ดวงที่ ๑ ดบั ลง และในระหวา งดวงท่ี ๓ ยงั ไมเกิดขึ้น มีเวลา ชั่ว ๑ ขณะใหญของจิต ซง่ึ เปนเวลาสําหรบั ดวงท่ี ๒ จะเกดิ ขน้ึ ได และทาํ หนา ที่ของปฏสิ นธกิ ิจเปน ตน ในระหวา ง ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆไดจ าก ขอ ความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

~ 11 ~ นีแ้ หละชือ่ วา ฐาน ถาจะอุปมาแลว การงานของคนทัง้ หลายเหมือนกบั กจิ สํานักงานตา ง ๆ เหมอื นกบั ฐาน ปฏิสนธิฐานมี ๑ คือ ระหวางจตุ ิจิตกับภวงั คจติ ภวงั คค ฐาน มี ๖ คอื ระหวา งปฏสิ นธิจิต กับ อาวัชชนจิต, ตทารัมมณจติ กบั อาวชั ชนจติ , ชวนจติ กับ อาวชั ชนจิต, โวฏฐัพพนจติ กับ อาวัชชนจิต, ตทารมั มณจิต กับ จตุ ิจติ , ชวนจิต กับ จุติจิต ฯ ๓. จง(แสดงการ)จาํ แนกกจิ ๑๔ โดยจติ ๘๙ ? 43/2, 47/2, 48/2(4ก), 52/2, 58/2(ก), 59/1(4), 62/1 ตอบ (แสดงการ) จําแนกกิจ ๑๔ โดยจิต ๘๙ มีดังนี้ จิตที่ทาํ หนา ทป่ี ฏิสนธกิ ิจ ภวงั คกิจ จตุ กิ จิ มี ๑๙ ดวง คือ อุเบกขาสนั ตรี ณจติ ๒ มหาวปิ ากจติ ๘ มหัคคตวิปากจติ ๙ จิตที่ทาํ หนาทอี่ าวัชนกิจ มี ๒ ดวง คอื ปญจทวาราวชั ชนจติ ๑ มโนทวาราวัชชนจติ ๑ จิตทท่ี าํ หนา ทท่ี สั สนกจิ มี ๒ ดวง คอื จกั ขุวญิ ญาณจติ ๒ จติ ที่ทําหนาทส่ี วนกิจ มี ๒ ดวง คือ โสตวญิ ญาณจิต ๒ จิตที่ทําหนา ทฆี่ ายนกจิ มี ๒ ดวง คือ ฆานวิญญาณจิต ๒ จิตทท่ี าํ หนา ทส่ี ายนกิจ มี ๒ ดวง คอื ชวิ หาวญิ ญาณจติ ๒ จติ ทที่ ําหนาทผี่ สุ นกจิ มี ๒ ดวง คอื กายวญิ ญาณจติ ๒ จติ ทีท่ ําหนาทสี่ ัมปฏิจฉนกจิ มี ๒ ดวง คือ สัมปฏจิ ฉนจิต ๒ จติ ทท่ี าํ หนาทสี่ นั ตีรณกจิ มี ๓ ดวง คือ สนั ตรี ณจิต ๓ จติ ทท่ี ําหนาทโ่ี วฏฐพั พนกจิ มี ๑ ดวง คอื มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ จติ ทท่ี าํ หนา ทช่ี วนกิจ มี ๕๕ ดวง คอื อกุศลจิต ๑๒ หสิตุปปาทจติ ๑ มหากศุ ลจติ ๘ มหากรยิ า จิต ๘ มหคั คตกศุ ลจิต ๙ มหคั คตกริยาจติ ๙ โลกุตตรจิต ๘ จิตท่ที ําหนา ทตี่ ทารัมมณกจิ มี ๑๑ ดวง คือ สันตีรณจิต ๓ มหาวิปากจติ ๘ ๓. จงจาํ แนกกิจ ๑๔ โดยอเหตกุ จติ ๑๘ ? 43/1(3ก), 44/1, 46/2, 50/1(4ก), 51/1, 53/1, 54/2, 56/1, 57/1(4), 58/1, 61/1(4) ตอบ จําแนกกจิ ๑๔ โดยอเหตกุ จติ ๑๘ ดงั นี้ คอื จิตท่ีทาํ หนา ท่ี ปฏสิ นธกิ ิจ ภวงั คกจิ จตุ ิกจิ มี ๒ ดวงคอื อเุ บกขาสนั ตรี ณจติ ๒ จติ ที่ทาํ หนาท่ี อาวัชชนกจิ มี ๒ ดวงคอื ปญ จทวาราวัชชนจติ ๑ มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ จติ ทท่ี าํ หนาที่ ทัสสนกิจ มี ๒ ดวงคอื จักขุวญิ ญาณจิต ๒ จิตที่ทาํ หนาท่ี สวนกจิ มี ๒ ดวงคือ โสตวิญญาณจติ ๒ จิตที่ทําหนา ที่ ฆายนกิจ มี ๒ ดวงคอื ฆานวิญญาณจติ ๒ จิตท่ที าํ หนา ท่ี สายนกจิ มี ๒ ดวงคอื ชวิ หาวญิ ญาณจิต ๒ จติ ที่ทาํ หนาท่ี ผสุ นกิจ มี ๒ ดวงคอื กายวิญญาณจติ ๒ จติ ทท่ี าํ หนาท่ี สมั ปฏจิ ฉนกิจ มี ๒ ดวงคือ สมั ปฏิจฉนจิต ๒ ดาวนโ หลดขอ มลู ตา งๆไดจาก ขอความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

จติ ทท่ี ําหนา ที่ สันตีรณกจิ ~ 12 ~ จติ ทท่ี ําหนา ท่ี โวฏฐพั พนกิจ จิตท่ที ําหนาท่ี ชวนกจิ มี ๓ ดวงคอื สนั ตรี ณจติ ๓ จิตที่ทาํ หนา ที่ ตทารมั มณกจิ มี ๑ ดวงคือ มโนทวาราวัชชนจิต ๑ มี ๑ ดวงคอื หสติ ปุ ปาทจิต ๑ มี ๓ ดวงคอื สันตรี ณจติ ๓ ๔. ก. จาํ แนก กจิ ๑๔ โดย อเหตกุ วบิ ากจติ ๑๕ ? 45/2 ตอบ ก. ๑.จติ ท่ีทําหนาท่ี ปฏสิ นธกิ จิ ภวังคกจิ จตุ ิกิจ มี ๒ ดวง คอื อเุ บกขาสนั ตรี ณจติ ๒ ๒. จิตที่ทําหนา ท่ี อาวัชชนกิจ ไมม ี ๓. จติ ทที่ ําหนาที่ ทสั สนกจิ มี ๒ ดวง คอื จักขวุ ญิ ญาณจติ ๒ ๔. จติ ทที่ ําหนา ที่ สวนกิจ มี ๒ ดวง คือ โสตวญิ ญาณจิต ๒ ๕. จิตที่ทําหนาท่ี ฆายนกิจ มี ๒ ดวง คอื ฆานวิญญาณจิต ๒ ๖. จติ ท่ที าํ หนาที่ สายนกิจ มี ๒ ดวง คือ ชวิ หาวิญญาณจติ ๒ ๗. จิตที่ทําหนา ท่ี ผสุ นกิจ มี ๒ ดวง คือ กายวิญญาณจติ ๒ ๘. จิตทท่ี าํ หนาที่ สมั ปฏิจฉนกิจ มี ๒ ดวง คือ สมั ปฏิจฉนจิต ๒ ๙. จิตทท่ี าํ หนา ท่ี สันตรี ณกจิ มี ๓ ดวง คอื สนั ตีรณจติ ๓ ๑๐. จิตที่ทาํ หนา ที่ โวฏฐพั พนกิจ ไมมี ๑๑. จิตที่ทาํ หนาที่ ชวนกิจ ไมมี ๑๒. จติ ท่ที ําหนาท่ี ตทารมั มณกจิ มี ๓ ดวง คอื สนั ตีรณจิต ๓ ๓. ใหแ สดงการจําแนกฐาน ๑๐ โดยจติ ๘๙ หรอื ๑๒๑ มาดู ? 52/1, 53/2, 55/1, 59/2 ตอบ แสดงการจําแนกฐาน ๑๐ โดยจิต ๘๙ หรอื ๑๒๑ ดังนี้ คือ ๑. จิตท่ที ําหนาที่ใน ปฏิสนธิฐาน ภวงั คฐาน จุตฐิ าน มี ๑๙ ดวง คอื อุเบกขาสันตีรณจติ ๒ มหาวิปากจติ ๘ มหคั คตวิปากจิต ๙ ๒. จิตท่ีทําหนาท่ใี น อาวัชชนฐาน มี ๒ ดวง คอื ปญ จทวาราวชั ชนจิต ๑ มโนทวาราวัชชนจติ ๑ ขณะเกิดในมโนทวาร ๓. จิตที่ทาํ หนาทใ่ี น ปญ จวิญญาณฐาน มี ๑๐ ดวง คอื ทวิปญจวิญญาณจติ ๑๐ ๔. จิตทที่ าํ หนาท่ใี น สัมปฏิจฉนฐาน มี ๒ ดวง คอื สมั ปฏจิ ฉนจติ ๒ ๕. จติ ท่ีทาํ หนาที่ใน สันตีรณฐาน มี ๓ ดวง คือ สันตีรณจติ ๓ ๖. จิตที่ทําหนาที่ใน โวฏฐพั พนฐาน มี ๑ ดวง คือ มโนทวาราวัชชนจติ ๑ ขณะเกดิ ในปญจทวาร ๗. จติ ท่ีทําหนาที่ใน ชวนฐาน มี ๕๕ หรอื ๘๗ ดวง คือ อกศุ ลจิต ๑๒ หสิตุปาทจติ ๑ มหากุศลจิต ๘ มหา กริยาจิต ๘ มหัคคตกศุ ลจิต ๙ มหคั คตกริยาจติ ๙ โลกตุ ตรจิต ๘ หรอื ๔๐ ๘. จติ ที่ทาํ หนาที่ใน ตทารมั มณฐาน มี ๑๑ ดวง คือ สนั ตรี ณจิต ๓ มหาวปิ ากจิต ๘ ๔. ข. จงชใ้ี หเ หน็ วาชวนฐานมเี ทา ไร อยู ณ ทไ่ี หน ? 48/2, 58/2(3ข) ดาวนโ หลดขอมูลตางๆไดจาก ขอ ความเพ่มิ เติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว)

~ 13 ~ ตอบ ข. ชวนฐานมี ๖ ฐาน คือ ท่ีเปน ตทารัมมณวาระ ๑. ระหวางโวฏฐัพพนะ กบั ตทารัมมณะ ในปญ จทวารวถิ ี ๒. ระหวา งโวฏฐพั พนะ กับ ภวังค ในปญจทวารวถิ ี ที่เปนชวนะวาระ ๓. ระหวางโวฏฐัพพนะ กบั จุติ ในปญจทวารมรณาสันนวิถี ทเ่ี ปน ชวนวาระ ๔. ระหวา งมโนทวาราวชั ชนะ กับ ตทารัมมณะ ในกามชวนมโนทวารวถิ ี ทเี่ ปนตทารมั มณวาระ ๕. ระหวา งมโนทวารวชั ชนะ กับ ภวังค ในกามชวนมโนทวารวถิ ี ที่เปนชวนวาระ ๖. ระหวา งมโนทวาราวัชชน กบั จุติ ในมโนทวารมรณาสนั นวิถี ท่เี ปน ชวนวาระ ทวารสงั คหะ ๔. ทวารสงั คหะ แปลวากระไร ? คาํ วา ทวารในทนี่ ห้ี มายความวา กระไร ? และมกี ่ีอยา ง ? อะไรบา ง ? ใหบ อกองคธ รรมของทวารนนั้ ๆ มาดว ย ? 49/2(5ก), 50/1(4ข), 56/1(4ก), 60/2 ตอบ ก. ทวารสังคหะ แปลวา การสงเคราะห จิต เจตสกิ โดยประเภทแหงทวาร ชอ่ื วา ทวารสงั คหะ คาํ วา ทวาร ในท่นี ้ี หมายความวา ประตู ซ่งึ เปน ท่ีเขา ออก ของวถิ จี ติ ทั้งหลาย เหมอื นหน่งึ ประตสู ําหรบั เปนทเี่ ขาออก ของคนท้งั หลาย มี ๖ อยา ง คือ ๑. จกั ขทุ วาร องคธรรมไดแก จักขปุ สาท ๔. ชวิ หาทวาร องคธ รรมไดแ ก ชิวหาปสาท ๒. โสตทวาร องคธรรมไดแก โสตปสาท ๕. กายทวาร องคธ รรมไดแ ก กายปสาท ๓. ฆานทวาร องคธรรมไดแ ก ฆานปสาท ๖. มโนทวาร องคธ รรมไดแ ก ภวังคจติ ๑๙ ๔. ทวารมเี ทา ใด คอื อะไรบา ง ใหบ อกองคธ รรมของทวารนน้ั ๆ ดว ย และคาํ วา “ทวาร” แปลวา อยา งไร ? ใหอ ธบิ ายโดยสังเขป ? 51/2, 53/2 ตอบ ทวารมี ๖ พรอมดวยองคธ รรม คือ ......... // คําวา ทวาร แปลวา ประตสู ําหรบั เปนที่เขาออกของ คนทั้งหลาย จักขุปสาทเปนตน ชื่อวา ทวาร เพราะเหมือนหน่ึงประตูเปนที่เขาออกของวิถีจิตท้ังหลาย ธรรมดาสัตวท้ังหลาย ถาไมมีปสาทรูปท้ัง ๕ และภวังคจิตแลว วิถีจิตก็เกิดขึ้นไมได เม่ือวิถีจิตเกิดขึ้นไมได แลว ก็เปนอันวา การทํา การพูด การคดิ ท่ดี ีก็ตาม ไมดีก็ตาม ก็มีไมไ ดเ ชนเดียวกนั ๔. ใหแ สดงจติ ทเ่ี กดิ ในทวารและพน จากทวาร โดยแนน อน และไมแ นน อน ดงั ตอไปน้ี ? ก. จติ ท่เี กดิ ในทวารเดยี ว ข. จิตทเ่ี กดิ ในทวาร ๕ ค. จติ ทเี่ กิดในทวาร ๖ ง. จติ ทีเ่ กดิ พน จากทวาร ๖ 43/1, 44/2, 52/1, 56/2, 57/1(5), 57/2, 58/1, 59/2, 61/2, 62/1, 62/2, 63/2 และจงแปลคาถา ดงั ตอ ไปน้ี เอกทวฺ ารกิ จติ ตฺ านิ ปจฺ ฉทวฺ ารกิ านิ จ ฉทวฺ ารกิ วมิ ุตตฺ านิ วมิ ตุ ตฺ านิ จ สพพฺ ถา ฉตตฺ สึ ติ ตถา ตณี ิ เอกตตฺ สึ ยถากกฺ มํ ทสธา นวธา เจติ ปจฺ ธา ปริทีปเย ฯ ? 45/1, 48/1, 57/1(5) ตอบ ก. จติ ที่เกิดในทวารเดยี ว โดยแนนอนมี ๓๖ หรือ ๖๘ ดวง ไดแ ก ทวิปญจวิญญาณจติ ๑๐ อัปปนา ชวนจติ ๒๖ หรอื ๕๘ ดาวนโหลดขอ มลู ตางๆไดจาก ขอ ความเพม่ิ เตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว)

~ 14 ~ ไมแ นนอน ไดแ ก กามจติ ๔๔ (เวนทวิปญจวิญญาณจิต ๑๐) ข. จิตท่เี กดิ ในทวาร ๕ โดยแนนอนมี ๓ ดวง ไดแก มโนธาตุ ๓ ไมแนนอน ไดแ ก กามจติ ๔๑ (เวนทวปิ ญจวญิ ญาณจิต ๑๐ มโนธาตุ ๓) ค. จิตที่เกิดในทวาร ๖ โดยแนน อน มี ๓๑ ดวง ไดแ ก โสมนสั สันตรี ณจิต ๑ มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ กามชวนจิต ๒๙ ไมแนนอนมี ๑๐ ดวง ไดแ ก อเุ บกขาสันตรี ณจติ ๒ มหาวปิ ากจิต ๘ ง. จิตทเ่ี กดิ พนจากทวาร ๖ โดยแนน อนมี ๙ ดวง ไดแก มหัคคตวปิ ากจิต ๙ ไมแ นนอน ไดแ ก อุเบกขาสันตีรณจติ ๒ มหาวปิ ากจิต ๘ (48/1, 57/1) คาถาน้แี ปลความวา จติ ทเี่ กิดในทวารเดียว จิตที่เกิดในทวาร ๕ จิตที่เกดิ ในทวาร ๖ จิตทบี่ างที เกิดในทวาร ๖ บางทีเกิดพนจากทวาร ๖ และจติ ที่เกิดพน จากทวาร ๖ เสมอ มีจาํ นวนตามลําดับดงั น้ีคือ ๓๖- ๓-๓๑–๑๐–๙ ๔. ใหแ สดงการจําแนกทวารกิ จติ และทวารวมิ ตุ ตจิตโดยอารมณ ๖ ? 52/2, 54/2, 58/2, 60/1 ๔. ข. ใหแ สดงการจาํ แนกจกั ขทุ วารกิ จติ , มโนทวารรกิ จติ และทวารวมิ ตุ ตจิตโดยอารมณ ๖ ? 45/2 ๔. ใหแ สดงการจําแนกทวารกิ จติ และทวารวมิ ตุ ตจิตดงั ตอ ไปนโี้ ดยอารมณ และกาล ? 55/1 ก. จกั ขทุ วารกิ จิต ข. มโนทวารกิ จติ ค. ทวารวมิ ตุ ตจติ และนพิ พานกบั บญั ญตั ทิ ง้ั ๒ นี้ พนจากกาลทง้ั ๓ เรยี กวา กาลวมิ ตุ อารมณ เชน นเี้ พราะเหตใุ ด ? 47/1, 55/1 ตอบ แสดงการจําแนกทวารรกิ จิต และทวารวมิ ุตตจติ โดยอารมณ ๖ ดังนี้ คือ ๑. จักขุทวาริกจติ ๔๖ มรี ปู ารมณ ทีเ่ ปน ปจจุบันอยา งเดียว ๒. โสตทวารกิ จติ ๔๖ มีสทั ทารมณ ท่ีเปนปจ จุบันอยา งเดยี ว ๓. ฆานทวารกิ จิต ๔๖ มคี ันธารมณ ท่เี ปนปจจุบันอยางเดยี ว ๔. ชวิ หาทวารกิ จิต ๔๖ มรี สารมณ ท่เี ปน ปจจุบนั อยางเดียว ๕. กายทวาริกจติ ๔๖ มโี ผฏฐพั พารมณ ทีเ่ ปน ปจ จุบันอยา งเดยี ว ๖. มโนทวารกิ จิต ๖๗ หรือ ๙๙ มีอารมณ ๖ ที่เปนปจจุบัน อดีต อนาคต และกาลวมิ ุตต ตามสมควรแก อารมณ ๗. ทวารวมิ ุตตจิต ท่เี กิดขึ้นทําหนาทป่ี ฏสิ นธิ ภวงั ค จตุ ิ ทง้ั ๑๙ ดวงนมี้ ีอารมณห นึง่ อารมณใ ด ในบรรดา อารมณท ง้ั ๖ ทเ่ี รียกวา กรรม กรรมนิมิต คตินิมิต ซ่ึงเปนปจจบุ นั อดตี และบญั ญัติ ที่ฉ ทวาริกมรณาสันนชวนะ รับเอามาจากภพกอ น เม่ือใกลจ ะตายเปน สวนมาก (47/1, 55/1) และนพิ พาน กับบัญญตั ิทพ่ี นจากกาลทง้ั ๓ เรยี กวา กาลวิมุตอารมณน ้ัน เพราะธรรม ๒ พวกน้ี เปน อสงั ขตธรรม ไมไดถ กู ปรงุ แตงดว ยปจจยั ๔ ฉะนน้ั การเกดิ ข้ึนของธรรม ๒ พวกนี้จึงไมมี เมอ่ื ไมมกี ารเกดิ ขึ้นแลว ก็กลา วไมไ ดว านิพพาน หรอื บัญญัติเหลานี้ เปน ปจ จบุ นั อดตี อนาคต จงึ เรยี กวา กาลวิมตุ อารมณ ๔. ใหแ สดงจติ ทเี่ กดิ ในกายทวาร มโนทวาร และพน จากทวาร โดยแนน อนและไมแ นน อน ? ดาวนโหลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว)

~ 15 ~ 43/2, 49/2, 55/2 (หลกั สูตร หนา ๓๒) ? 50/2 ตอบ จติ ท่เี กิดในกายทวาร โดยแนน อนมี ๒ ดวง คอื กายวญิ ญาณจิต ๒ ไมแ นนอนมี ๔๔ ดวง คือ กามจิต ๔๔ (เวนทวิปญจวิญญาณจติ ๑๐) จิตทีเ่ กดิ ในมโนทวาร แนน อนมี ๒๖ หรอื ๕๘ ดวงคอื อปั ปนาชวนะ ๒๖ หรือ ๕๘ ไมแ นนอนมี ๔๑ ดวง คอื กามจิต ๔๑ (เวน ทวปิ ญ จวิญญาณจติ ๑๐ มโนธาตุ ๓) หรอื มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ กามชวนะ ๒๙ ตทารมั มณจิต ๑๑ จติ ทเ่ี กดิ พนจากทวาร โดยแนนอนมี ๙ ดวงคอื มหคั คตวปิ ากจิต ๙ ไมแ นนอนมี ๑๐ ดวงคอื อุเบกขาสนั ตรี ณจติ ๒ มหาวิปากจิต ๘ ๔. ก. จกั ขทุ วารกิ เจตสิก ปญ จทวารกิ เจตสกิ ทวารวมิ ตุ ตเจตสิก ทงั้ ๓ อยางน้ี โดยแนน อนไมม ีนนั้ เพราะเหตใุ ด ? 46/2, 49/2, 51/1, 53/1, 54/1, 61/1(5) ตอบ ก. จักขุทวาริกเจตสกิ ปญ จทวารกิ เจตสกิ ทวารวมิ ตุ เจตสิก ทงั้ ๓ อยา งนี้ โดยแนนอนไมม นี ัน้ เพราะ เจตสิก ท่ีประกอบกบั จกั ขุวญิ ญาณจติ โดยเฉพาะไมมี เจตสกิ ท่ีประกอบกับมโนธาตุ ๓ โดยเฉพาะไมมี เจตสกิ ทปี่ ระกอบกบั มหคั คตวปิ ากจิต ๙ โดยเฉพาะก็ไมม ี ฉะนัน้ เจตสิกท้งั ๓ อยา งนี้ จงึ เปน เจตสิกทแ่ี นนอนไมไ ด ๕. เจตสิกทเ่ี กดิ ขนึ้ ไมว า ในเวลาใดตอ งเกดิ ในทวารเดยี วเสมอนนั้ มจี าํ นวนเทา ใด คอื อะไร ? ทเ่ี ปน เชน นเี้ พราะเหตใุ ด ? 49/2(5ข), 56/1(4ข) และเจตสิกทเี่ กิดพน จากทวารไมได ตอ งเกดิ ในทวารเสมอมจี าํ นวนเทาใด คอื อะไร เพราะเหตใุ ด ? 50/1 ตอบ ข. เจตสิกที่เกิดขน้ึ ไมวาเวลาใด ตอ งเกดิ ในทวารเดยี วเสมอนน้ั มีจาํ นวน ๒ ดวงคอื อัปปมญั ญา เจตสกิ ๒ ทีเ่ ปนเชนน้เี พราะอัปปมัญญาเจตสิก ๒ ดวงนี้ เกดิ ขน้ึ รับสัตวบัญญตั เิ ปนอารมณ วิถีจิตที่จะรบั สัตวบัญญัตเิ ปนอารมณไ ดน ้ัน ตอ งเปนวิถจี ิตที่เกดิ ทางมโนทวารอยางเดียว ท่กี ลา วเชนนมี้ งุ หมายเอาอัปป มัญญาเจตสิก ทป่ี ระกอบกบั มหากศุ ลจิต มหากริยาจิต รปู าวจรกศุ ลจติ รูปาวจรกริยาจิต เทาน้นั ถา อปั ป มัญญาเจตสิกทป่ี ระกอบกับ รูปาวจรวิปากจติ แลว ก็เปน ทวารวมิ ุตไิ ป ฉะนน้ั อัปปมัญญาเจตสกิ ๒ ดวงนี้ จึง เกิดไดเฉพาะแตใ นมโนทวารเทา นนั้ (50/1) เจตสกิ ทีต่ อ งเกิดในทวารเสมอ มี ๑๗ ดวง คอื อกุศลเจตสกิ ๑๔ วิรตีเจตสกิ ๓ เพราะอกุศล เจตสกิ ๑๓ ประกอบกับอกศุ ลจติ ๑๒ ซ่งึ เปนจิตท่ีเกิดในทวาร ๖ ทวารใดทวารหนง่ึ เสมอ สว นวริ ตเี จตสิก ๓ น้ัน ประกอบกับมหากศุ ลจติ และโลกุตตรจติ ซง่ึ เปนท่เี กิดในทวารใดทวารหน่งึ เสมอเชนเดยี วกัน ฉะนน้ั เจตสกิ ทง้ั ๑๗ ดวงจึงเกิดในทวารโดยแนน อน ๔. ข. ปญ ญาเจตสกิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ โดยไมใ ชท างตา ทางหู ทางจมกู ทางลน้ิ ทางกาย และทางใจนน้ั มหี รอื ไม ถา มเี ปน ปญ ญาเจตสกิ ดวงไหน ? 46/2, 49/2, 51/1, 53/1, 54/1, 61/1(5) ตอบ ข. ปญญาเจตสกิ ที่เกดิ ขน้ึ โดยไมใชทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจนั้นมี เปน ปญญาเจตสิกท่ีประกอบ กบั มหาวบิ ากญาณสัมปยตุ ตจิต ๔ ในขณะท่ที ําหนาท่ีปฏสิ นธิ ภวงั ค จตุ ิ และปญ ญาเจตสกิ ทีป่ ระกอบ กับมหัคคตวปิ ากจิต ๙ ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆไดจาก ขอความเพิม่ เตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว)

~ 16 ~ อารัมมณสังคหะ ๕. ใหแ สดงความหมายแตกตา งกนั ระหวา งคาํ วา อารัมมณะ กบั คาํ วา อาลมั พนะ และอารมณม กี อี่ ยา ง คอื อะไรบา ง ? ใหแ สดงองคธ รรมของอารมณเ หลาน้นั โดยเฉพาะ ๆ ดว ย ? 44/1(4), 53/1, 58/2(ก) ๕. ก. ใหแสดงความหมายแตกตา งกนั ระหวา งคาํ วา อารมั มณะ กบั คาํ วา อาลมั พนะ ? 47/1, 47/2, 49/1, 54/1, 57/1(6ก), 58/1 ตอบ (ก.) ความหมายแตกตา งกันระหวางคําวา อารัมมณะกับอาลัมพนะนัน้ มดี ังน้ี อารมั มณะ หมาย ความวา ธรรมชาติที่เปน ที่ยนิ ดขี องจติ เจตสกิ ท้ังหลาย เสมือนหน่งึ สวนดอกไมอ ันเปน ทีย่ ินดีของคนท้ังหลาย อาลมั พนะ หมายความวา ธรรมชาติอนั เปน เคร่อื งยดึ เหนีย่ วของจิต เจตสกิ ท้ังหลาย เหมือนไมเ ทาหรอื เชือกอันเปน เครื่องยดึ เหน่ียวของคนชรา และคนทพุ พลภาพ ฯ (53/1) อารมณม ี ๖ อยา งคือ ๑. รปู ารมณ องคธ รรมไดแ ก สตี าง ๆ ๒. สัททารมณ องคธรรมไดแ ก เสยี งตา ง ๆ ๓. คันธารมณ องคธ รรมไดแก กล่ินตา ง ๆ ๔. รสารมณ องคธรรมไดแ ก รสตา ง ๆ ๕. โผฏฐพั พารมณ องคธ รรมไดแ ก เย็น รอ น ออน แขง็ หยอ น ตึง ๖. ธรรมารมณ องคธรรมไดแ ก จติ เจตสกิ ปสาทรปู สุขุมรปู นพิ พาน บัญญตั ิ ๕. ก. ใหแปลคาถาดงั ตอ ไปน้ี ? ปจฺ วสี ปริตตฺ มหฺ ิ ฉ จิตตฺ านิ มหคคฺ เต เอกวสี ติ โวหาเร อฏ นิพพฺ านโคจเร 43/2, 45/1, 46/1, 47/2(4ก), 48/1, 49/2(6ก), 50/1(6ก), 50/2, 51/2, 52/2, 55/2, 56/2, 57/2, 58/2(ข), 61/1, 61/2 วสี านตุ ตฺ รมตุ ตฺ มหฺ ิ อคคฺ มคคฺ ผลชุ ฺฌเิ ต ปจฺ สพฺพตถฺ ฉจเฺ จติ สตตฺ ธา ตตถฺ สงฺคโห. 52/1, 53/2, 54/2, 56/1, 59/1, 59/2, 60/2 ๕. ก. จติ ทรี่ บั อารมณโดยแนน อนมกี ป่ี ระเภท คอื อะไรบา ง ? 60/1, 62/1 ๕. จงแปลคาถาทแี่ สดงจติ ทร่ี บั อารมณแ นนอน ๔ ประเภท และไมแ นน อน ๓ ประเภท ? 55/1 ดงั ตอ ไปน้ี ? 45/2 ตอบ (ก. 60/1) จิตที่รบั อารมณโดยแนน อนมี ๔ ประเภท คอื (ตอบ กลมุ จติ ๒๕, ๖, ๒๑, ๘ ดวง) ตอบ (ก.) คาถาน้ีแปลวา / แปลคาถาดังตอ ไปน้ี จิต ๒๕ ดวง คือ ทวิปญ จวญิ ญาณจิต ๑๐ มโนธาตุ ๓ สันตรี ณจติ ๓ มหาวปิ ากจติ ๘ หสติ ปุ ปาทจิต ๑ เกดิ ไดในอารมณ ๖ ที่เปน กามธรรมอยางเดยี ว จติ ๖ ดวง คือ วิญญานญั จายตนฌานจิต ๓ เนวสญั ญานาสัญญายตนฌานจติ ๓ เกดิ ไดในธรรมารมณท ่ีเปนมหัคคตะอยางเดยี ว จติ ๒๑ ดวง คือ รูปาวจรจิต ๑๕ (เวน อภญิ ญาจติ ๒) อากาสานญั จายตนฌานจติ ๓ อากิญจัญญายตนฌาน จิต ๓ เกดิ ไดใ นธรรมารมณท ่ีเปน บญั ญตั ิอยา งเดยี ว ดาวนโหลดขอ มูลตางๆไดจาก ขอความเพิ่มเตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว)

~ 17 ~ จติ ๘ ดวง คือ โลกตุ ตรจิต ๘ เกิดไดใ นธรรมารมณท ่ีเปน นิพพานอยางเดียว (52/1, 53/2, 54/2, 56/1, 59/1) จิต ๒๐ ดวง คอื อกุศลจิต ๑๒ มหากศุ ลญาณวิปปยุตตจติ ๔ มหากรยิ าญาณวิปปยตุ ตจติ ๔ เกิดไดใ นอารมณ ๖ ทเ่ี ปน กามะ มหคั คตะ บัญญตั ิ (เวนโลกุตตรธรรม ๙) จิต ๕ ดวง คอื มหากศุ ลญาณสมั ปยุตตจิต ๔ กศุ ลอภญิ ญาจติ ๑ เกดิ ไดใ นอารมณ ๖ ท่เี ปน กามะ มหคั คตะ โลกุตตระ บญั ญตั ิ (เวน อรหัตตมรรค อรหัตตผล) จิต ๖ ดวง คอื มหากรยิ าญาณสมั ปยตุ ตจิต ๔ กิริยาอภิญญาจิต ๑ มโนทวาราวัชชนจติ ๑ เกิดไดใ นอารมณ ๖ ท่ีเปน กามะ มหคั คตะ โลกตุ ตระ บัญญัติ โดยไมมเี หลือ ในอารัมมณสังคหะนี้ มกี ารสงเคราะหจติ ๗ นัย โดยประเภทแหงเอกันตะ ๔ อเนกันตะ ๓ ดงั ท่กี ลา วมาแลว ดวยประการฉะน้ี. ๕. ข. อารมณ ๖ เมอื่ จาํ แนกโดยประเภทใหญแ ลว มกี ป่ี ระเภทคอื อะไรบา ง ? ใหแสดงองคธ รรมมาดว ย ? 46/1, 47/2(4ข), 49/2(6ข), 50/2, 51/2, 55/2, 56/2, 57/2, 61/2 ตอบ ข. อารมณ ๖ เม่อื จําแนกโดยประเภทใหญแลวมี ๔ ประเภท คือ ๑. กามอารมณ องคธรรมไดแก กามจติ ๕๔ เจตสิก ๕๒ รปู ๒๘ ๒. มหคั คตอารมณ องคธ รรมไดแ ก มหัคคตจติ ๒๗ เจตสกิ ๓๕ ๓. โลกตุ ตรอารมณ องคธ รรมไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ นพิ พาน ๔. บญั ญตั อิ ารมณ องคธ รรมไดแก สทั ทบญั ญัติ อตั ถบัญญัติ ๕. อารมณ ๖ แบง ออกเปนกพ่ี วก คอื อะไรบาง ? จงอธบิ ายความหมายมาใหพ อเขา ใจ ? 46/2, 51/1 ตอบ อารมณ ๖ แบง ออกเปน ๒ พวก คอื ๑. เตกาลกิ อารมณ เปน อารมณท่เี กีย่ วดว ยกาลทง้ั ๓ คอื ปจ จุบนั อดตี อนาคต ไดแก จติ เจตสกิ รปู จติ เจตสกิ รปู ที่เปนปจ จุบนั อารมณน ้ัน หมายถึงขณะทปี่ รากฏอยูเฉพาะหนา ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ คอื กาํ ลังเห็น กําลังไดยิน กําลังไดกลิน่ กําลงั รรู ส กําลงั ถูกตอง กําลังรใู นอารมณท ี่เกิดขึน้ ยังไมดับ ไป เหลาน้ี เรยี กวา ปจ จุบันอารมณ จิต เจตสกิ รปู ทเี่ ปนอดีตอารมณน ัน้ หมายถึง อารมณเ หลาน้ผี านไปแลว คอื ไดเห็นแลว ไดยินแลว ไดก ลิน่ แลว ไดรูรสแลว ไดถ กู ตองแลว สาํ หรับทางใจนัน้ คิดในอารมณท ่ีผานไปแลว จิต เจตสิก รปู ที่เปน อนาคตอารมณน ัน้ หมายถงึ อารมณต า ง ๆ เหลานน้ั จะมาปรากฏในทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ คอื จะเห็น จะไดย นิ จะไดก ล่ิน จะไดร รู ส จะไดถ ูกตอง สาํ หรับทางใจนน้ั คิดนึกถงึ อารมณที่ จะมาปรากฏเหลานั้น ๒. กาลวมิ ตุ ตอารมณ เปน อารมณทไี่ มเ กีย่ วดว ยกาลทง้ั ๓ ไดแ ก นพิ พาน บัญญตั ิ นพิ พาน บญั ญตั ิ ที่เปน กาลวิมตุ ตอารมณน นั้ เพราะธรรม ๒ พวกน้ีเปนอสงั ขตธรรม ไมไดถูกปรุง แตง ดว ยปจ จัย ๔ ฉะน้นั การเกิดข้ึนของธรรมทง้ั ๒ พวกนจ้ี ึงไมมี เม่ือไมมกี ารเกิดแลว กก็ ลา วไมไ ดว า ดาวนโหลดขอมูลตางๆไดจาก ขอ ความเพิ่มเติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว)

~ 18 ~ นิพพานหรอื บญั ญตั ิเหลานี้ เปนปจจุบนั อดีต อนาคต เรยี กวา กาลวิมุตตอารมณ ๕. ข. จงจาํ แนกจติ ทรี่ บั อารมณ โดยแนน อน ดังตอ ไปนี้ ? 47/1 ๑. จิตทรี่ บั นพิ พานอารมณอ ยา งเดยี ว ๒. จติ ทร่ี บั อนาคตอารมณอ ยางเดยี ว ๓. จิตทรี่ บั บญั ญตั อิ ารมณอ ยา งเดยี ว ๔. จติ ทร่ี บั ธรรมารมณอ ยา งเดยี ว ตอบ ข. จําแนกจติ ที่รบั อารมณ โดยแนนอน ดงั น้ี ๑. จติ ท่รี ับนพิ พานอารมณอยา งเดยี ว โดยแนน อน มี ๘ หรือ ๔๐ ดวง คือ โลกตุ ตรจติ ๘ หรอื ๔๐ ๒. จิตทรี่ บั อนาคตอารมณอยางเดยี ว โดยแนน อน ไมมี ๓. จติ ทรี่ ับบญั ญตั ิอารมณอยา งเดยี ว โดยแนนอน มี ๒๑ ดวง คือ รปู าวจรจิต ๑๕ (เวนอภิญญาจติ ๒) อากาสานญั จายตนฌานจิต ๓ อากญิ จัญญายตนฌานจติ ๓ ๔. จิตทร่ี บั ธรรมารมณอยางเดียว โดยแนนอน มี ๓๕ ดวง คือ มหัคคตจิ ต ๒๗ (เวน อภญิ ญาจิต ๒) โลกตุ ตรจติ ๘ ๕. ใหแ สดงจิตเจตสกิ ทร่ี บั อารมณโ ดยแนนอนดังตอ ไปนี้ ? 44/2, 63/2 ๑. นพิ พานอารมณ ๒. นามอารมณ ๓. รปู อารมณ ๔. บญั ญตั อิ ารมณ ๕. ปรมตั ถอารมณ ๕. ก. ใหแ สดงจิตและเจตสกิ ทรี่ บั อารมณด งั ตอ ไปนี้ โดยแนน อน ? 43/1, 49/2 ๑.นามอารมณ ๒.รปู อารมณ ๓.บญั ญตั อิ ารมณ ๔. ปรมตั ถอารมณ ตอบ (49/2) ก. จิตและเจตสิกทร่ี ับอารมณโ ดยแนน อนมดี งั น้คี อื ๑./- จติ ทรี่ ับนิพพานอารมณ โดยแนนอนมี ๘ ดวง คอื โลกตุ ตรจิต ๘ เจตสกิ ทีร่ บั นิพพานอารมณ โดยแนน อนไมม ี ๒/๑. จิตที่รบั นามอารมณโ ดยแนนอน มี ๑๔ ดวง คอื วิญญาณญั จายตนฌานจิต ๓ เนวสญั ญานาสญั ญายตนฌานจติ ๓ โลกตุ ตรจิต ๘ เจตสกิ ทรี่ บั นามอารมณโ ดยแนนอน ไมม ี ๓/๒. จิตท่ีรับรปู อารมณ โดยแนน อน มี ๑๓ ดวง คอื ทวปิ ญจวิญญาณจิต ๑๐ มโนธาตุ ๓ เจตสกิ ทร่ี บั รูปอารมณโ ดยแนน อน ไมม ี ๔/๓. จิตที่รบั บญั ญัตอิ ารมณ โดยแนนอน มี ๒๑ ดวง คือ รปู าวจรจติ ๑๕ (เวน อภิญญาจติ ๒) อากาสานญั จายตนฌานจิต ๓ อากญิ จญั ญายตนฌานจิต ๓ เจตสกิ ทร่ี บั บญั ญัตอิ ารมณโ ดยแนน อน มี ๒ ดวง คอื อปั ปมัญญาเจตสกิ ๒ ๕/๔. จติ ท่ีรบั ปรมัตถอารมณ โดยแนน อน มี ๓๙ ดวง คือ ทวปิ ญจวญิ ญาณจิต ๑๐ มโนธาตุ ๓ สันตีรณจิต ๓ มหาวิปากจติ ๘ หสิตุปปาทจติ ๑ วิญญานัญจายตนฌานจิต ๓ เนวสญั ญานาสัญญายตนฌานจิต ๓ โลกุตตรจิต ๘ เจตสกิ ทรี่ บั ปรมัตถอารมณโ ดยแนน อนมี ๓ ดวงคอื วรี ตีเจตสกิ ๓ วตั ถุสังคหะ ๖. ก. คาํ วา วตั ถุ ในวตั ถสุ งั คหะนี้ หมายความวา อยา งไร ? วัตถมุ กี อี่ ยา ง จงแสดงมาพรอ มองคธรรม ? 49/2(7ก), 50/2, 55/1, 57/2) ดาวนโหลดขอมูลตา งๆไดจาก ขอความเพม่ิ เตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

~ 19 ~ ๕. ข. วตั ถุในวตั ถสุ งั คหะหมายความวา อะไร? วตั ถุมเี ทา ไร จงบอกพรอ มองคธ รรม ? 62/1 ๖. คาํ วา “วตั ถุ” ในวตั ถสุ งั คหะน้ี หมายความวา อะไร วตั ถมุ กี อี่ ยา ง คอื อะไรบา ง ? ใหบ อกองคธ รรมของวตั ถนุ น้ั ๆ มาดว ย ? 44/1(5ก), 60/2 และจงแปลคาถาดงั ตอ ไปนี้ ? 51/1 ๕. ข. จงแปลคาถาดงั ตอ ไปนี้ ? 44/1, 47/2, 54/1, 54/2(6ก), 56/2(6ข), 57/1(6ข), 58/1, 60/1, 61/1(6ข), 61/2(6ก), 62/2 ฉวตถฺ ุ นสิ สฺ ติ า กาเม สตตฺ รเู ป จตพุ ฺพธิ า ตวิ ตถฺ ุ นสิ สฺ ติ า รเู ป ธาเตวฺ กา นสิ สฺ ติ า มตา. ๕. ข. จงแปลคาถาดงั ตอ ไปน้ี ฉวตถฺ ุ นสิ สฺ ติ า กาเม ฯลฯ ธาเตวฺ กา นสิ สฺ ติ า มตา ? 49/1, 49/2, 58/2 ตอบ (ก.) คําวา วตั ถุ ในวตั ถสุ ังคหะน้ี หมายความวา ธรรมเปนทอ่ี าศัยของจิตและเจตสิก ชอื่ วา วัตถุ วตั ถมุ ี ๖ อยา ง คอื ๑. จกั ขวุ ตั ถุ องคธรรมไดแ ก จกั ขุปสาท ๒. โสตวตั ถุ องคธ รรมไดแ ก โสตปสาท ๓. ฆานวตั ถุ องคธรรมไดแ ก ฆานปสาท ๔. ชวิ หาวัตถุ องคธ รรมไดแก ชวิ หาปสาท ๕. กายวตั ถุ องคธ รรมไดแ ก กายปสาท ๖. หทัยวตั ถุ องคธรรมไดแ ก หทัยรปู ตอบ (ข.) คาถานแี้ ปลความวา นักศึกษาทั้งหลาย พงึ ทราบ วญิ ญาณธาตุ ๗ ทอี่ าศัยวตั ถรุ ูป ๖ เกดิ ในกามภมู ิ ๑๑ พึงทราบ วิญญาณธาตุ ๔ คือ จักขุวิญญาณธาตุ โสตวิญญาณธาตุ มโนธาตุ มโนวิญญาณธาตุ ที่อาศัยวัตถุ รูป ๓ คือ จักขุวตั ถุ โสตวตั ถุ หทยวตั ถุ เกดิ ในรปู ภูมิ ๑๕ (เวน อสญั ญสัตตภูม)ิ พึงทราบ มโนวญิ ญาณธาตุ ๑ ทไี่ มอ าศัยวตั ถุรูป เกดิ ในอรปู ภูมิ ๔ ฯ ๖. ก. จงแปลคาถาตอ ไปนี้ ? 44/2 เตจตตฺ าลสี นิสสฺ าย เทวฺ จตตฺ าลสี ชายเร นิสฺสาย จ อนสิ สฺ าย ปาการปุ ปฺ า อนสิ สฺ ติ า ฯ ตอบ ก. แปลคาถา : - จิต ๔๓ ดวง คือ ปญ จวญิ ญาณธาตุ ๑๐ มโนธาตุ ๓ มโนวญิ ญาณธาตุ ๓๐ ไดแก โทสมูลจติ ๒ สนั ตรี ณจติ ๓ หสติ ุปปาทจติ ๑ มหาวปิ ากจติ ๘ รูปาวจรจิต ๑๕ โสตา- ปตติมรรคจติ ๑ เหลาน้ี เกดิ ขนึ้ โดยอาศยั วัตถรุ ูปแนน อน (๑๐ ๓ ๓๐=๒/๓/๑/๘/๑๕/๑) จติ ๔๒ ดวง คอื โลภมลู จติ ๘ โมหมูลจิต ๒ มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ มหากศุ ลจติ ๘ มหากริยาจิต ๘ อรูปาวจรกุศลจิต ๔ อรูปาวจรกริยาจิต ๔ โลกุตตรจิต ๗ (เวนโสดาปต ติมรรค) เหลานี้ เกดิ ข้นึ โดยอาศยั วตั ถรุ ปู ไมแ นนอน (๘ ๒ ๑ ๘ ๘ ๔ ๔ ๗ ) อรปู วปิ ากจติ ๔ ยอ มเกิดขึ้น โดยไมอ าศัยวตั ถุรปู เลย (ปฏิ ภ จตุ =ิ ทวารวิมุตต ) ๕. ข. จิตทอี่ าศยั วตั ถรุ ปู เกดิ โดยแนน อน และไมแ นน อน มีจาํ นวนเทา ไร ? คอื อะไรบา ง ? 43/2 จงแสดงไปตามลาํ ดบั ? 42/1, 45/1 จงแสดงมาโดยละเอยี ด 48/1 ๖. ข. ใหแ สดงจติ ทอี่ าศยั วัตถรุ ปู เกดิ โดยแนน อน จติ ทอ่ี าศยั วตั ถรุ ปู เกดิ โดยไมแ นน อน ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอความเพมิ่ เติมท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

~ 20 ~ และจติ ทเ่ี กดิ ขน้ึ โดยไมต อ งอาศยั วตั ถรุ ปู เลย ? 50/1 ๖. ข. จงแสดงจติ ดงั ตอ ไปนี้ ? 49/2(7ข), 50/2, 55/1(6ข), 57/2 ๑. จติ ทเ่ี กดิ ขนึ้ โดยอาศยั วตั ถุรปู แนน อน ๒. จติ ทอ่ี าศยั วตั ถรุ ูปเกดิ ไมแ นน อน ๓. จิตทเ่ี กดิ ขน้ึ โดยไมไ ดอ าศยั วัตถรุ ปู แนน อน ตอบ ข. ๑). จติ ทีเ่ กิดขึ้นโดยอาศยั วตั ถรุ ปู แนน อน มี ๔๓ ดวง คือ ทวิปญจวิญญาณจิต ๑๐ มโนธาตุ ๓ โทสมูลจติ ๒ ตทารมั มณจิต ๑๑ หสติ ปุ ปาทจติ ๑ รูปาวจรจติ ๑๕ โสดาปตติมรรคจิต ๑ ๒). จติ ท่ีอาศัยวตั ถุรปู เกดิ ไมแนน อน มี ๔๒ ดวง คอื โลภมูลจติ ๘ โมหมูลจิต ๒ มโนทวาราวัชชนจิต ๑ มหากุศลจติ ๘ มหากริยาจิต ๘ อรปู าวจรกศุ ลจิต ๔ อรปู าวจรกริยาจิต ๔ โลกุตตรจติ ๗ (เวน โสดา ปตติมรรค) ๓). จติ ท่ีเกิดขึ้นโดยไมไดอาศัยวตั ถรุ ปู แนน อน มี ๔ ดวง คือ อรปู าวจรวปิ ากจิต ๔ ๖. ก. จติ ทอ่ี าศัยหทยั วตั ถเุ กดิ โดยแนนอนและไมแ นน อน มจี าํ นวนเทาไร คอื อะไรบา ง ? 55/2 ตอบ ก. จติ ทอ่ี าศยั หทัยวัตถเุ กิดโดยแนน อนมี ๓๓ ดวง คือ โทสมลู จิต ๒ มโนธาตุ ๓ ตทารัมมณจติ ๑๑ หสติ ุปปาทจิต ๑ รูปาวจรจิต ๑๕ โสดาปตตมิ รรคจติ ๑ จิตทอ่ี าศยั หทัยวตั ถเุ กดิ โดยไมแ นน อนมี ๔๒ ดวง คอื โลภมลู จิต ๘ โมหมูลจติ ๒ มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ มหากศุ ลจติ ๘ มหากรยิ าจิต ๘ อรปู กุศลจิต ๔ อรปู กรยิ าจติ ๔ โลกุตตรจิต ๗ (เวน โสดาปต ติมรรค) ๖. จงจาํ แนกจติ ทอ่ี าศัยวตั ถรุ ปู เกดิ แนน อน ๔๓ ดวงนนั้ โดยวตั ถรุ ปู ๖ ? 44/2, 51/2 ตอบ จําแนกจิต ๔๓ ดวง ท่ีอาศยั วตั ถรุ ปู เกดิ แนนอนโดยวตั ถรุ ปู ๖ ดงั นีค้ อื ๑. จกั ขุวญิ ญาณธาตุ ๒ อาศยั จักขวุ ตั ถเุ กดิ ๒. โสตวิญญาณธาตุ ๒ อาศัยโสตวัตถเุ กิด ๓. ฆานวญิ ญาณธาตุ ๒ อาศยั ฆานวัตถเุ กิด ๔. ชวิ หาวิญญาณธาตุ ๒ อาศยั ชวิ หาวตั ถเุ กดิ ๕. กายวญิ ญาณธาตุ ๒ อาศยั กายวตั ถุเกิด ๖. มโนธาตุ ๓ โทสมูลจติ ๒ ตทารัมมณจิต ๑๑ หสติ ปุ ปาทจิต ๑ รปู าวจรจติ ๑๕ โสดาปต ติ มรรคจิต ๑ รวม ๓๓ ดวงนี้ อาศัยหทัยวัตถเุ กิด ๕. ข. วญิ าณธาตุ ๗ คอื อะไรบา ง ใหแ สดงองคธ รรมมาดว ย ? 52/2, 54/2, 58/2(6ข), 61/2(6ข) ตอบ ข. แสดงวญิ ญาณธาตุ ๗ พรอมดว ยองคธรรม มีดังน้ี ๑. จกั ขวุ ญิ ญาณธาตุ องคธ รรมไดแก จกั ขวุ ิญญาณจติ ๒ ๒. โสตวญิ ญาณธาตุ องคธ รรมไดแ ก โสตวญิ ญาณจิต ๒ ๓. ฆานวญิ ญาณธาตุ องคธ รรมไดแ ก ฆานวิญญาณจิต ๒ ๔. ชวิ หาวญิ ญาณธาตุ องคธรรมไดแ ก ชวิ หาวญิ ญาณจติ ๒ ๕. กายวญิ ญาณธาตุ องคธ รรมไดแ ก กายวิญญาณจิต ๒ ดาวนโหลดขอมลู ตางๆไดจ าก ขอ ความเพ่ิมเติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

๖. มโนธาตุ ~ 21 ~ ๗. มโนวญิ ญาณธาตุ องคธ รรมไดแ ก สมั ปฏจิ ฉนจิต ๒ ปญ จทวาราวัชชนจิต ๑ องคธรรมไดแก จติ ๗๖ หรือ ๑๐๘ (เวน ทวปิ ญจวิญญาณจติ ๑๐ มโนธาตุ ๓) ๖. ใหแ สดงการจําแนกวญิ ญาณธาตุ ๗ ทเี่ กดิ ในกามภมู ิ ๑๑ โดยวตั ถุรปู ๖ ? 53/2 ตอบ การจําแนกวญิ ญาณธาตุ ๗ ท่ีเกิดในกามภมู ิ ๑๑ โดยวัตถุรูป ๖ ดงั น้ี ๑. จักขุวญิ ญาณธาตุ ๒ อาศัยจักขุวัตถเุ กดิ () ๒. โสตวิญญาณธาตุ ๒ อาศยั โสตวัตถเุ กดิ () ๓. ฆานวญิ ญาณธาตุ ๒ อาศยั ฆานวตั ถเุ กดิ ๔. ชิวหาวิญญาณธาตุ ๒ อาศัยชิวหาวตั ถเุ กิด ๕. กายวญิ ญาณธาตุ ๒ อาศยั กายวตั ถเุ กิด () ๖. มโนธาตุ ๓ อาศัยหทยั วัตถุเกิด () ๗. มโนวญิ ญาณธาตุ ๖๗ ไดแ ก กามจติ ๔๑ (เวนทวิปญจวญิ ญาณ ๑๐ มโนธาตุ ๓) และมหคั คตกศุ ลจติ ๙ มหัคคตกริยาจิต ๙ โลกุตตรจิต ๘ อาศยั หทัยวตั ถุเกิด () ๕. ข. จาํ แนกวญิ ญาณธาตุ ๔ ทเี่ กดิ ในรูปภูมิ ๑๕ โดยวตั ถรุ ปู ๓ ? 43 ตอบ ข. จําแนกวิญญาณธาตุ ๔ ทเี่ กดิ ในรปู ภมู ิ ๑๕ โดยวตั ถรุ ูป ๓ ดังนี้ () ๑. จักขวุ ญิ ญาณธาตุ ๒ อาศยั จักขวุ ตั ถุเกิด () ๒. โสตวญิ ญาณธาตุ ๒ อาศยั โสตวตั ถุเกดิ () ๓. มโนธาตุ ๓ อาศัยหทยวตั ถุเกิด () ๔. มโนวญิ ญาณธาตุ ๖๒ ไดแก โลภมูลจติ ๘ โมหมูลจติ ๒ สันตีรณจิต ๓ มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ หสติ ุป ปาทจติ ๑ มหากุศลจิต ๘ โลกุตตรจิต ๘ มหากริยาจิต ๘ รูปาวจรจิต ๑๕ อรปู าวจรกุศลจิต ๔ อรปู าวจรกรยิ าจิต ๔ เหลา นี้ อาศัยหทยวตั ถุเกิด () ๖. ใหจ าํ แนกเจตสิก ๕๒ โดยวตั ถุรปู ๖ และทกี่ ลา ววา โทจตกุ เจตสกิ ๔ อปั ปมญั ญาเจตสกิ ๒ ตอ งอาศัยวตั ถรุ ปู เกดิ โดยแนน อน เพราะเหตใุ ด ? 47/1 ตอบ จําแนกเจตสกิ ๕๒ โดยวตั ถรุ ปู ๖ นน้ั มดี ังนี้ คือ ในบรรดาเจตสิก ๕๒ ดวงนั้น สัพพจิตตตสาธารณเจตสกิ ๗ ดวง อาศัยวตั ถุรูป ๖ เกดิ กไ็ ด ไมอาศัยวตั ถรุ ูป ๖ เกดิ กไ็ ด เจตสกิ ท่ีเหลอื ๓๙ (เวน โทจตุกกเจตสกิ ๔ อัปปมัญญาเจตสิก ๒) อาศัยหทยวตั ถุรูปเกดิ ก็ได ไมอาศยั หทยวัตถุรปู เกดิ กไ็ ด โทจตกุ เจตสกิ ๔ อัปปมญั ญาเจตสิก ๒ อาศยั หทยวตั ถรุ ปู เกิดแนนอน และท่ีกลา ววา โทจตกุ เจตสกิ ๔ อัปปมญั ญาเจตสิก ๒ ตอ งอาศัยหทยวตั ถุรปู เกิดโดยแนนอนนั้น เพราะเหตุวา โทจตุกเจตสกิ ๔ ดวงนี้ เกิดไดเ ฉพาะแตใ นกามภูมิอยางเดยี ว สว นอัปปมัญญาเจตสิก ๒ เกดิ ไดเ ฉพาะแตใ นปญจโวการภมู ิเทานน้ั สมุจจยสงั คหะ ดาวนโหลดขอ มลู ตางๆไดจาก ขอ ความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

~ 22 ~ ๖. เพราะเหตใุ ด ปรจิ เฉทที่ ๗ จงึ เรยี กวา สมจุ จยสงั คหะ และสมจุ จยสังคหะนม้ี ี สงั คหะอยกู หี่ มวด คอื อะไรบา ง แตล ะหมวดมธี รรมอยูเ ทา ไร คอื อะไรบา ง ? (ใหบ อกมาเฉพาะหวั ขอ) ? 47/2, 51/2(7), 52/2, 56/1, 60/2, 62/1 ๗. ในปรจิ เฉทท่ี ๗ น้ี พระอนุรทุ ธาจารยแ สดงการรวบรวมธรรม ทมี่ สี ภาพเขา กนั ได ใหอ ยเู ปน หมวด ๆ นนั้ มชี อ่ื เรยี กวาอะไร ? มกี ห่ี มวด ? อะไรบา ง ? ใหบ อกความหมายมาดว ย? 47/1 ๖. พระอนรุ ุทธาจารยแสดงการรวบรวมธรรมทมี่ สี ภาพเขา กนั ไดท เี่ รยี กวา สมุจจยสงั คหะนนั้ มกี ่ีหมวด ? ใหบ อกมาพรอ มดว ยความหมาย? 45/2 ๖. ก. ปรจิ เฉทท่ี ๗ เรยี กวา อะไร หมายความวา อะไร ? มธี รรมอยเู ทา ไร ? อะไรบาง ? 63/2 ตอบ [(47/2, 51/2(7), 52/2, 56/1) เพราะเหตุวา] ในปริจเฉทท่ี ๗ น้ี พระอนุรทุ ธาจารยแ สดงการรวบรวมธรรมทม่ี ีสภาพเขากนั ได เรยี กวา สมจุ จยสงั คหะ และในสมุจจยสังคหะ นี้มีสงั คหะอยู ๔ หมวด คอื หมวดหนึง่ ๑. อกุศลสังคหะ การแสดงสงเคราะหธ รรมทเี่ ปน ฝายอกศุ ลโดยสว นเดยี ว ๒. มิสสกสงั คหะ การแสดงสงเคราะหธ รรมท่เี ปน กุศล อกุศล อพยฺ ากต ทัง้ ๓ ปนกัน หมวดหน่งึ ๓. โพธิปก ขยิ สังคหะ การแสดงสงเคราะหธ รรมที่เปนฝา ยมรรคญาณ หมวดหน่งึ ๔. สัพพสงั คหะ การแสดงสงเคราะหจติ เจตสิก รปู นพิ พาน ซงึ่ เปน วัตถุธรรมทง้ั หมดรวมกัน หมวดหนง่ึ [(47/2, 51/2(7), 52/2, 56/1, 60/2] ในอกุศลสังคหะ มธี รรมอยู ๙ หมวด คอื ๑. อาสวะ ๒. โอฆะ ๓. โยคะ ๔. คันถะ ๕. อปุ าทาน ๖. นีวรณะ ๗. อนสุ ยั ๘.สังโยชน ๙. กิเลส ในมิสสกสังคหะ มธี รรมอยู ๗ หมวด คือ ๑. เหตุ ๒. ฌานังคะ ๓. มัคคังคะ ๔. อินทรีย ๕. พละ ๖. อธิบดี ๗. อาหาร ในโพธปิ ก ขยิ สงั คหะมีธรรมอยู ๗ หมวด คอื ๑. สตปิ ฏฐาน ๒. สัมมปั ปธาน ๓. อิทธิบาท ๔. อินทรยี  ๕. พละ ๖. โพชฌงค ๗. มัคคังคะ ในสัพพสงั คหะ มีธรรมอยู ๕ หมวด คือ ๑. ขันธ ๒. อุปาทานขันธ ๓. อายตนะ ๔. ธาตุ ๕. สจั จะ ๖. ก. จงแปลคาถาทแี่ สดงถงึ อนสุ นธแิ ละปฏญิ ญา ทฺวาสตตฺ ตวิ ธิ า วตุ ตฺ า วตถฺ ธุ มมฺ า สลกขฺ ณา เตสํ ทานิ ยถาโยคํ ปวกขฺ ามิ สมจุ จฺ ย.ํ และใหน บั จาํ นวนวตั ถธุ รรม ๗๒ มาใหเ หน็ โดยไมต อ งยกเหตผุ ล ? 59/1 ๖. ก. จงแปลคาถาทแี่ สดงถงึ อนสุ นธแิ ละปฏญิ ญา มี ทวฺ าสตตฺ ติ วธิ า วตุ ตฺ า เปน ตน และใหน บั จาํ นวนวตั ถธุ รรม ๗๒ มาใหเ หน็ โดยไมต อ งยกเหตุผล ฯ ? 52/1 ตอบ ก. คาถานีแ้ ปลวา วตั ถธุ รรม คอื ธรรมท่มี ีสภาพของตนโดยแท ๗๒ ประการนั้น ขา พเจาไดแ สดงไปแลว บดั น้ีจะแสดงสมุจจยสงั คหะ คอื สงั คหะที่รวบรวมธรรมตา ง ๆ ของวตั ถธุ รรม ๗๒ ประการนนั้ ตามทจ่ี ะเขา กันได นับจํานวนวัตถธุ รรม ๗๒ นั้น มีดังนี้ จติ ทง้ั หมดนบั เปน ๑ เจตสิก ๕๒ นปิ ผันนรปู ๑๘ นพิ พาน ๑ ๖. สมจุ จยสงั คหะ หมายความวา อยา งไร ? 53/1(6ก) แบง ออกเปน กหี่ มวดคอื อะไรบา ง ? ใหแ สดงมาพรอ มดว ย ความหมาย ? 49/2, 54/1, 56/2(6ข), 59/2, 61/2(7ก) ดาวนโ หลดขอมูลตางๆไดจ าก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

~ 23 ~ ตอบ ข. สมุจจยสังคหะ หมายความวา ปริจเฉททแี่ สดงการรวบรวมปรมตั ถธรรมทงั้ ๔ ท่มี สี ภาพเขากันไดใหอยูเปนหมวด ๆ ชอ่ื วา สมจุ จยสงั คหะ แบงออกเปน ๔ หมวด คอื ๑. อกศุ ลสังคหะ การแสดงสงเคราะหธรรมทีเ่ ปน ฝา ยอกศุ ล โดยสว นเดียว หมวดหน่ึง ๒. มสิ สกสังคหะ การแสดงสงเคราะหธ รรมท่เี ปนกุศล อกศุ ล อพยฺ ากต ท้งั ๓ ปนกนั หมวดหนึ่ง ๓. โพธปิ กขิยสงั คหะ การแสดงสงเคราะหธรรมทเี่ ปนฝายมรรคญาณ หมวดหน่งึ ๔. สพั พสงั คหะ การแสดงสงเคราะหจติ เจตสกิ รปู นพิ พาน ซ่งึ เปนวตั ถธุ รรมทั้งหมดรวมกัน หมวดหนึง่ ๖. สมจุ จยสงั คหะ หมายความวา อยา งไร ? ใหย กวจนัตถะขนึ้ แสดงดวย และพระอนรุ ทุ ธาจารย แสดงการจําแนก วตั ถธุ รรมทั้ง ๗๒ นน้ั ออกเปน กหี่ มวด คอื อะไรบา ง ใหบ อกความหมายของหมวดนน้ั ๆ ดว ย ? 43/1, 46/1, 61/1 ๖. ก. สมจุ จยสงั คหะ หมายความวา อยา งไร ? ใหย กวจนตั ถะขน้ึ แสดงดวย ? 46/2(7ก), 49/1, 51/1(7ก), 55/2(6ข), 57/1(7ก), 57/2(7ก), 58/1, 60/1, 62/2 ๖. ข. พระอนรุ ทุ ธาจารย แสดงการจาํ แนกวตั ถธุ รรม ๗๒ นน้ั ออกเปน กห่ี มวด ? คอื อะไรบา ง ? ใหบ อกความหมายของหมวดนน้ั ๆ มาดว ย ? 46/2(7ข), 49/1, 51/1(7ข), 52/1, 53/1, 57/1, 57/2, 58/1, 59/1, 60/1, 62/2 ตอบ (ก.) สมุจจยสงั คหะ หมายความวา ปรจิ เฉทท่ีแสดงการรวบรวมปรมัตถธรรมท้งั ๔ ที่มสี ภาพเขา กนั ไดใ หอยูเปนหมวด ๆ ชอ่ื วา สมุจจยสงั คหะ ดงั มีวจนัตถะแสดงวา สห อุจจฺ ยี นฺเต เอตถฺ าติ สมจุ จฺ โย (วา) สํ ปณ เฺ ฑตวฺ า อจุ ฺจยี นเฺ ต เอเตนาติ สมจุ จฺ โย ปริจเฉทที่ช่ือวา สมุจจยะ เพราะเปน ปริจเฉททแ่ี สดงรวบรวมปรมตั ถธรรมทั้ง ๔ ประการพรอ มกัน (หรอื ) ปริจเฉททชี่ ื่อวา สมุจจยะ เพราะเปน เหตุแหง การรวบรวมปรมัตถธรรมที่มสี ภาพเขากันได ใหอ ยเู ปนหมวด ๆ ตอบ ข. พระอนุรุทธาจารย แสดงการจาํ แนกวตั ถธุ รรม ๗๒ น้นั ออกเปน ๔ หมวด คือ ...... ๖. คาํ วา วัตถธุ รรม หมายความวา อยา งไร ? การแสดงรวบรวมธรรมทม่ี สี ภาพเขา กนั ไดใหอ ยเู ปน หมวด ๆ แบง ออกเปน กห่ี มวด ? คอื อะไรบา ง ? 48/1 ตอบ วตั ถุธรรม หมายความวา ธรรมทีม่ อี งคธ รรมปรมัตถข องตนโดยเฉพาะ สามารถปรากฏแกปญญาได การแสดงรวบรวมธรรมทมี่ ีสภาพเขา กันไดใ หอยูเปน หมวด ๆ แบงออกเปน ๔ หมวด คือ ...... อกศุ ลสงั คหะ ๗. ในอกุศลสงั คหะมธี รรมอยกู ่หี มวด คืออะไรบา ง และใหแ ปลพรอมแสดงองคธ รรมของบทดงั ตอ ไปนี้ ? ก. กามาสวะ ข. ภโวฆะ ค. ทฏิ ฐโิ ยคะ ง. อตั ตวาทปุ าทาน จ. อวิชชานวี รณะ 44/1(6), 56/2, 59/1, 61/1, 62/2 (อา โอ โย คนั อุ นี อนุ สัง กิ) ตอบ ในอกศุ ลสงั คหะน้นั มธี รรมอยู ๙ หมวด คือ ๑. อาสวะ ๒. โอฆะ ๓. โยคะ ๔. คันถะ ๕. อุปาทาน ๖. นวี รณะ ๗. อนสุ ยั ๘. สังโยชน ๙. กิเลส แปลและแสดงองคธรรมของบทตอไปนี้ ก. กามาสวะ ธรรมชาตทิ ่เี ปน เครอ่ื งไหลอยูในกามคุณอารมณ องคธ รรมไดแ ก โลภเจตสกิ ท่ใี นโลภมลู จิต ๘ ข. ภโวฆะ ธรรมชาตทิ เี่ ปนเครอื่ งทําใหสัตวจ มอยใู นรปู ภพ อรปู ภพ หรือรปู ฌาน อรปู ฌาน ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆไดจาก ขอความเพม่ิ เตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว)

~ 24 ~ องคธ รรมไดแ ก โลภเจตสิก ทใี่ นทฏิ ฐิคตวปิ ปยุตตจิต ๔ ค. ทฏิ ฐิโยคะ ธรรมชาตทิ ่ีเปนเครื่องประกอบสัตวใหต ดิ อยใู นความเหน็ ผดิ องคธรรมไดแก ทฏิ ฐเิ จตสกิ ทใ่ี นทิฏฐิคตสมั ปยุตตจิต ๔ ง. อตั ตวาทุปาทาน ธรรมชาตทิ ีเ่ ปน เครอ่ื งยึดมั่นในรปู นาม ขนั ธ ๕ วา เปน ตวั เปนตน องคธ รรมไดแก ทฏิ ฐเิ จตสกิ ท่ีในทฏิ ฐิคตสมั ปยตุ ตจติ ๔ จ. อวิชชานวี รณะ ธรรมชาตทิ เี่ ปน เคร่ืองกน้ั ความดคี อื ความหลง ความโง ที่ไมร ตู ามความเปนจริง องคธ รรมไดแก โมหเจตสิก ที่ในอกุศลจิต ๑๒ ๗. ในอกศุ ลสงั คหะ มธี รรมอยูกห่ี มวด คอื อะไรบา ง เมอื่ วา โดยประเภทแลว มเี ทา ไร ? 43/2(6ก) จงแสดงคนั ถะ ๔ พรอ มทงั้ ความหมายและองคธ รรม ? 45/1(6), 49/2(8), 53/1, 58/1, 58/2 ๗. ข. จงแสดงคนั ถะ ๔ พรอ มทงั้ ความหมายและองคธ รรม ? 61/2 ตอบ ในอกุศลสังคหะมีธรรมอยู ๙ หมวด คอื (อา โอ โย คนั อุ นี อนุ สงั กิ) ๑. อาสวะ ๒. โอฆะ ๓. โยคะ ๔. คันถะ ๕. อุปาทาน ๖. นวี รณะ ๗. อนสุ ัย ๘. สงั โยชน ๙. กิเลส เม่อื วา โดยประเภท มี ๕๕ 45/1(6), 49/2(8), 53/1 แสดงคนั ถะ ๔ พรอ มท้งั ความหมายและองคธรรม ๑. อภชิ ฌากายคันถะ ธรรมชาติท่ีเก่ยี วคลองนามกาย รปู กายไวโดยอาการผกู พันอยใู นกามคณุ อารมณ องคธรรมไดแก โลภเจตสกิ ท่ีในโลภมูลจติ ๘ ๒. พยาปาทกายคันถะ ธรรมชาตทิ ี่เกย่ี วคลองนามกายรูปกายไวโดยอาการโกรธ องคธ รรมไดแก โทสเจตสิก ท่ใี นโทสมูลจติ ๒ ๓. สลี พั พตปรามาสกายคนั ถะ ธรรมชาติที่เก่ียวคลองนามกายรูปกายไวโดยอาการยดึ ถอื ในการปฏิบตั ิทผ่ี ิด องคธรรมไดแ ก ทิฏฐิเจตสิก ทีใ่ นทิฏฐิคตสมั ปยุตตจิต ๔ ๔. อทิ งั สัจจาภินเิ วสกายคันถะ ธรรมชาติทเ่ี กี่ยวคลองนามกายรปู กายไว โดยอาการยึดมน่ั ในความเหน็ ผดิ ของ ตนวาถกู ความเหน็ ของคนอ่ืนวาผิด องคธรรมไดแก ทิฏฐเิ จตสกิ ท่ีในทิฏฐิคตสัมปยุตตจติ ๔ ๗. จงแสดงความแตกตา งระหวา ง อภิชฌา และ พยาบาท ทเ่ี ปนมโนทจุ ริต กับ อภชิ ฌา และ พยาบาท ทเ่ี ปน คนั ถะ ? 44/2, 46/1, 50/2, 56/1 ตอบ ความแตกตางระหวาง อภชิ ฌาและพยาบาททเี่ ปน มโนทจุ ริต กับอภิชฌาและพยาบาทท่ีเปนคนั ถะ ๑. อภชิ ฌาที่เปน มโนทุจรติ นน้ั เปน โลภะอยา งหยาบ มีสภาพอยากไดท รพั ย สมบตั ิ ของผอู ่ืนมาเปน ของ ๆ ตนโดยไมชอบธรรม ๒. สว น อภชิ ฌากายคนั ถะ นน้ั เปนไดท ้งั โลภะอยา งหยาบและอยา งละเอียดท้งั หมด ที่เกี่ยวกับความอยากได ความพอใจในทรัพยส มบตั ขิ องผูอนื่ หรอื ของตนเอง โดยชอบธรรมกต็ าม ไมชอบธรรมกต็ าม จัดเปน อภชิ ฌากายคนั ถะ ท้งั สนิ้ ๓. พยาบาททีเ่ ปน มโนทจุ รติ ไดแก โทสะอยา งหยาบ ทเี่ กย่ี วกับความปองรา ยผูอืน่ โดยนึกคิดใหเ ขามคี วาม ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆไดจาก ขอความเพ่มิ เติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

~ 25 ~ ลําบากเสยี หายตาง ๆ หรอื นกึ แชงใหผ ูท่ตี นไมช อบนนั้ ใหถงึ ตาย ๔. สวน พยาปาทกายคนั ถะ นัน้ ไดแ ก โทสะ อยางหยาบกต็ าม อยางละเอยี ดก็ตาม คือความไมชอบ ไมพอใจ โกรธ กลวั กลมุ ใจ เสยี ใจ ไปจนถงึ การทาํ ปาณาตบิ าต ผรสุ วาจา เหลานี้ จัดเปน พยาปาทกายคันถะทงั้ ส้ิน ๖. ข. จงแสดงอปุ าทาน ๔ พรอ มทง้ั ความหมายและองคธ รรม ? 43/2 ๗. ความยดึ มน่ั ในอารมณ เรยี กวา อะไร มกี อ่ี ยา ง คอื อะไรบา ง ใหแ สดงมาพรอ มความหมาย และองคธ รรม ? 60/1 ตอบ (60/1) ความยึดม่ันในอารมณ เรยี กวา อปุ าทาน อปุ าทาน มี ๔ คอื ๑. กามุปาทาน .... ๔. อัตตวาทุปาทาน..... ตอบ ข. แสดงอปุ าทาน ๔ พรอมทัง้ ความหมายและองคธ รรม คือ ๑. กามุปาทาน ธรรมชาตทิ ี่เปนเครือ่ งยดึ มั่นในกามคุณอารมณ องคธ รรมไดแก โลภเจตสิก ที่ในโลภมูลจิต ๘ ๒. ทิฏุปาทาน ธรรมชาติท่ีเปนเคร่ืองยึดม่ันในความเห็นผิด ท่ีนอกจากสีลัพพตปรามาสทิฏฐิ และอตั ตวาททิฏฐิ องคธ รรมไดแก ทิฏฐเิ จตสกิ ทใี่ นทิฏฐคิ ตสมั ปยุตตจติ ๔ ๓. สลี พั พตุปาทาน ธรรมชาติท่ีเปน เคร่อื งยึดมนั่ ในการปฏบิ ตั ิผดิ องคธ รรมไดแก ทฏิ ฐิเจตสิก ทใ่ี นทิฏฐคิ ตสัมปยตุ ตจิต ๔ ๔. อัตตวาทปุ าทาน ธรรมชาตทิ ี่เปน เครือ่ งยดึ ม่ันในรูปนามขันธ ๕ วา เปนตัวเปนตน องคธรรมไดแก ทิฏฐเิ จตสิก ทใ่ี นทฏิ ฐคิ ตสัมปยตุ จติ ๔ ๗. เหตใุ ดความพอใจ ความโกรธ ความถือตวั เปน ตน เหลา น้ี จึงชอ่ื วา สงั โยชนได ? ใหอ ธบิ าย และยกวจนตั ถะขนึ้ แสดงดว ย ? 49/2 ตอบ การท่ีความพอใจ ความโกรธ ความถอื ตัวเปน ตนเหลาน้ี ชือ่ วาสังโยชนไ ดน้นั เพราะความพอใจ ความโกรธ ความถอื ตวั เปนตนเหลานย้ี อ มผูกสัตวท งั้ หลายไวไ มใ หพ น จากวฏั ฏะทุกข อธิบายวา ตามธรรมดาของปุถุชนท้งั หลายนนั้ ยอมมีธรรมชาติชนิดหนึง่ ท่ีเปรียบเหมอื นเชอื กเสน ใหญ ๑๐ เสนดวยกนั ซง่ึ ทําการผกู มัดสตั วท ้ังหลายไวไ มใหหลดุ พน ไปจากกองทุกขไ ด เชอื ก ๑๐ เสนเหลานี้ ถา หากวาเสนหนึ่งเสนใดมีอาการตึงขึ้นแลว สังโยชนเสนนั้นก็จะนําสัตวนัน้ ใหไ ปเกดิ ในภมู ทิ ่ีเกี่ยวกับสังโยชน นัน้ ๆ โดยอาศยั กรรมทส่ี ัตวนัน้ กระทําขึ้น ดังมวี จนตั ถะแสดงวา สโํ ยเชนตฺ ิ พนฺธนตฺ ตี ิ = สโํ ยชนานิ ธรรม เหลา ใด ยอ มผกู สตั วท ้งั หลายไว ฉะนน้ั ธรรมเหลานั้น ช่ือวา สังโยชน ๗. ก. กเิ ลสมจี าํ นวนเทา ใด คอื อะไรบา ง ? ใหแสดงมาเฉพาะชื่อ ? 50/1, 52/1, 53/2, 55/1, 55/2, 57/2(8ก), 59/2, 62/1, 63/2 ตอบ ก. กิเลสมีจํานวน ๑๐ คือ ๑. โลภกิเลส ๒. โทสกเิ ลส ๓. โมหกิเลส ๔. มานกเิ ลส ๕. ทิฏฐกิ เิ ลส ๖. วจิ ิกิจฉากิเลส ๗. ถนี กเิ ลส ๘. อุทธัจจกเิ ลส ๙. อหิรกิ กเิ ลส ๑๐. อโนตตปั ปกเิ ลส ๗. ข. ใหแ สดงการนับกเิ ลสโดยพสิ ดาร ๑๕๐๐ มาดู ? 50/1, 52/1, 53/2, 55/1, 55/2, 57/2(8ข), 59/2, 62/1, 63/2 ดาวนโหลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอความเพิ่มเติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

~ 26 ~ ตอบ ข. แสดงการนบั กเิ ลส โดยพิสดาร ๑๕๐๐ อารมณที่เปน เหตใุ หก เิ ลส ๑๐ เกดิ ขึน้ ไดน น้ั มี ๑๕๐ คอื นามเตปญ ญาสะ คอื นามธรรม ๕๓ นิปผันนรูป ๑๘ ลกั ขณรปู ๔ รวม ๗๕ ในอัชฌัตตสนั ดาน คอื ภายในตัวเรา มี ๗๕ ในพหิทธสันดาน คอื ส่ิงทมี่ ชี วี ติ และไมมชี ีวติ ทอี่ ยูภายนอกตัวเรา มี ๗๕ รวม ๑๕๐ อารมณ ๑๕๐ คณู ดวยกิเลส ๑๐ คงเปน กิเลส ๑๕๐๐ ๘. ใหย กอุปมาเปรยี บเทยี บระหวา งกเิ ลสทงั้ ๓ มอี นสุ ยั กเิ ลสเปน ตน และใหแ สดงกศุ ลทสี่ ามารถ ประหาณกเิ ลสทงั้ ๓ เหลา นน้ั มาโดยเฉพาะ ๆ วา กศุ ลชนดิ ไหน ประหาณกิเลสชนดิ ใด ? 45/1(7), 46/2, 47/2(7), 48/1(7), 50/1(7ค), 52/2, 53/1, 54/2(7), 55/2(7ค), 57/1, 59/2(7ค), 60/2 ตอบ แสดงยกอปุ มาเปรยี บเทยี บระหวางกิเลสทั้ง ๓ มีอนุสยั กิเลสเปน ตน น้นั มีดงั นี้ คอื อนุสยั กิเลส ปรยิ ุฏฐานกเิ ลส วตี กิ กมกเิ ลส ทงั้ ๓ อยา งนี้ เปรยี บเหมอื นไมขดี ไฟ อนสุ ยั กิเลส เปรยี บเหมือนไฟ ที่อยูในหัวไมขีด อารมณตา งๆ ทมี่ ากระทบทาง ตา หู จมกู ลน้ิ กาย ใจ เปรยี บเหมอื นเอากา นไมขดี ไฟขีดที่ ขา งกลอ ง เม่ือไฟปรากฏขน้ึ ไฟนีเ้ ปรียบเหมือนกบั ปริยฏุ ฐานกเิ ลส และเม่ือเอาไฟที่ปรากฏขึ้นนีไ้ ปจุดเขา กบั วัตถสุ ิง่ หนึง่ สิ่งใดแลว ไฟท่ลี ุกติดวัตถนุ นั้ ๆ เปรยี บเหมอื นวตี กิ กมกเิ ลส ดังน้ี และกุศลท่สี ามารถประหาณกเิ ลสทง้ั ๓ เหลาน้ไี ดโ ดยเฉพาะ ๆ น้ันคือ ๑. ศลี กศุ ล สามารถประหาณวตี กิ กมกเิ ลสได ๒. สมาธิกศุ ล สามารถประหาณปริยฏุ ฐานกเิ ลสได ๓. ปญ ญาในมรรค สามารถประหาณอนุสยั กิเลสได ๗. ใหแ สดงอกศุ ลธรรมดงั ตอ ไปนี้ ? 45/2 ก. ธรรมทเ่ี ปน นวิ รณไ ด แตเ ปน สังโยชนไมไ ด ข. ธรรมทเ่ี ปน สังโยชนไ ด แตเ ปน นวิ รณ ไมไ ด ค. ธรรมทเี่ ปน นวิ รณแ ละสงั โยชนไดท ั้ง ๒ ง. ธรรมทเี่ ปน นวิ รณแ ละสงั โยชนไ มไ ดท ง้ั ๒ และอกศุ ลธรรมทเ่ี ปน อาสวะ โอฆะ โยคะ คนั ถะ อปุ าทาน นวิ รณ อนสุ ยั สงั โยชน กิเลส ทงั้ ๙ เหลา น้ี ไดแ กอ ะไร ? อกศุ ลธรรมทเี่ ปนไมไ ดท งั้ ๙ เหลา นี้ ไดแ กอ ะไร ? 45/2 ตอบ แสดงอกุศลธรรมดังตอ ไปน้ี ก. ธรรมท่ีเปนนิวรณไ ด แตเปนสังโยชนไมไ ด ไดแก ถีนะมทิ ธะ กุกกุจจะ ข. ธรรมทเี่ ปน สงั โยชนไ ดแ ตเปน นิวรณไ มไ ด ไดแ ก มานะ ทิฏฐิ อิสสา มจั ฉรยิ ะ ค. ธรรมทเ่ี ปนนวิ รณแ ละสังโยชนไดท้ัง ๒ ไดแ ก โลภะ โทสะ โมหะ อุทธัจจะ วิจิกิจฉา ง. ธรรมทเ่ี ปน นวิ รณแ ละสงั โยชนไ มไดทั้ง ๒ ไดแ ก อกุศลจติ ๑๒ เจตสิก ๑๕ (เวน องคธ รรม ๑๒) และอกุศลธรรมที่เปน อาสวะ โอฆะ โยคะ คนั ถะ อปุ าทาน นวิ รณ อนุสัย สังโยชน กิเลสทง้ั ๙ เหลานไ้ี ดนน้ั ไดแ กโ ลภเจตสกิ อกุศลธรรมที่เปนไมไดท ้งั ๙ เหลาน้ี ไดแ ก อกศุ ลจิต ๑๒ อญั ญสมานเจตสกิ ๑๓ ที่ประกอบกบั อกุศลจิต มสิ สกสงั คหะ ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆไดจ าก ขอ ความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

~ 27 ~ ๘. ก. ในมสิ สกสงั คหะ มธี รรมอยูกหี่ มวดคอื อะไรบา ง ? เม่ือวา โดยประเภทแลว มจี าํ นวนเทา ไร ? 49/1(7ก), 51/1, 54/1(7ก), 54/2, 61/1(9) ตอบ ก.ในมสิ สกสงั คหะน้นั มีธรรมอยู ๗ หมวด คือ ๑. เหตุ ๒. ฌานงั คะ ๓. มคั คงั คะ ๔. อินทรยี  ๕. พละ ๖. อธิบดี ๗. อาหาร เมอื่ วา โดยประเภทแลว มจี าํ นวน ๖๔ ประเภท ๘. ก. ใหแ ปลคาถาทแี่ สดงองคธ รรมในมิสสกสงั คหะทง้ั ๗ หมวดมาดู ? 43/2(7ก), 44/2, 46/1, 49/2(9ก), 49/2, 50/2, 51/2, 55/2, 58/2, 59/1, 61/2 ตอบ ก. แปลคาถาที่แสดงองคธรรมในมสิ สกสังคหะท้ัง ๗ หมวด ดังนคี้ ือ เหตุ เม่ือวาโดยองคธ รรมปรมตั ถแลว มี ๖ (โลภะ โทสะ โมหะ อโลภะ อโทสะ อโมหะ) ฌานงั คะ เมื่อวาโดยองคธ รรมปรมตั ถแลว มี ๕ (วิตก วืจาร ปต ิ เวทนา เอกัคคตา) มคั คงั คะ เมื่อวาโดยองคธ รรมปรมัตถแ ลว มี ๙ (ปญ วติ ก วริ ตี ๓ วริ ยิ ะ สติ เอกัค. ท.ิ ) อนิ ทรีย เมอ่ื วา โดยองคธ รรมปรมัตถแ ลว มี ๑๖ (รูป๘=ปสาท.๕ อติ ปรุ ิส ช-ี รูป, นาม๘=ชี-เจ จติ เว สทั วิริ สติ เอ ปญ ) พละ เม่ือวาโดยองคธ รรมปรมตั ถแ ลว มี ๙ (สทั ทา สติ เอกคั ปญ หริ ิ โอต อหิริ อโนต ) อธบิ ดี เมอื่ วา โดยองคธรรมปรมตั ถแ ลว มี ๔ (ฉนั ทะ วิรยิ ะ จติ ตะ วมี งั สาปญญา) อาหาร เมอ่ื วาโดยองคธรรมปรมตั ถแ ลว มี ๔ เหมอื นกัน (กพฬกี าราหารโอชา ผัสสะ เจตนา จิต) นักศึกษาทงั้ หลายพึงทราบการแสดงมิสสกสังคหะ ที่มีกศุ ลเปนตนปะปนกันโดยมี ๗ หมวดดงั น้ี ๘. ข. คาํ วา ฌาน หมายความวาอยา งใด และธรรมท่เี ปน ปฏิปก ษต อ องคฌ านนน้ั คอื อะไร ใหแ สดงโดยเฉพาะ ๆ ? 43/1(8ก), 45/2(8ก), 49/1, 59/1(9ก) ตอบ ข. คาํ วาฌานหมายความวา การเขา ไปเพงอารมณมกี สิณเปนตน หรือเผาธรรมท่ีเปน ปฏปิ ก ษต อ กนั ฉะน้ันจงึ ชอ่ื วา ฌาน ธรรมทเ่ี ปนปฏิปก ษต อ องคฌ าน น้นั คือ ถนี มิทธนวิ รณ เปนปฏปิ กษกบั วติ ก วจิ ิกจิ ฉานวิ รณ เปนปฏิปกษกบั วิจาร พยาปาทนวิ รณ เปนปฏิปกษกับ ปต ิ กามฉนั ทนิวรณ เปน ปฏปิ กษก ับ เอกคั คตา อุทธจั จกกุ กจุ นิวรณแ ละโทมนสั เวทนา เปน ปฏิปก ษกบั โสมนสั เวทนาและอุเบกขาเวทนา ปต แิ ละโสมนัสเวทนา เปนปฏปิ ก ษก ับ โทมนสั เวทนา ๘. จงอธิบายองคธ รรมทง้ั ๙ มปี ญ ญาเปน ตน ท่ไี ดช อ่ื วามรรค และพระพทุ ธองคท รงแสดงหนทาง ทนี่ อกจากองคม รรค ๑๒ มกี อี่ ยา งคอื อะไรบา ง ? วา โดยองคธรรมไดแ กอ ะไร ? 43/1(10), 47/1 ตอบ องคธ รรม ๙ มปี ญ ญา เปน ตนท่ไี ดชอ่ื วามรรคน้ี เพราะธรรมดาสตั วทั้งหลายทเี่ วียนวา ยตายเกิดอยู ใน ๓๑ ภมู ิ และผูทเี่ ขา ถึงพระนิพพานไดน้นั ยอ มตอ งอาศยั มีเหตุมีหนทางท่ีชวยสงเสรมิ ใหถึง ธรรมที่เปนเหตุ และเปน หนทางใหเ ขาถึงภูมติ า ง ๆ และพระนพิ พานน้นั กไ็ ดแ กองคมรรค ๑๒ มีสมั มาทฏิ ฐเิ ปน ตนน้ันเอง และพระพุทธองคท รงแสดงหนทางท่ีนอกจากองคม รรค ๑๒ มีอยู ๔ อยาง คือ มจิ ฉาวาจา มจิ ฉากัมมนั ตะ มิจฉาอาชวี ะ มจิ ฉาสติ เม่ือวาโดยองคธรรมแลว มิจฉาวาจา ไดแก อกศุ ลจติ ตุปบาท ทเ่ี กี่ยวดว ยวจีทจุ รติ ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆไดจ าก ขอความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว)

มจิ ฉากัมมนั ตะ ~ 28 ~ มจิ ฉาอาชวี ะ มจิ ฉาสติ ไดแ ก อกศุ ลจิตตปุ บาท ท่ีเกีย่ วดวยกายทจุ ริต ไดแก อกศุ ลจิตตุปบาท ทเี่ กย่ี วดว ยการเลย้ี งชพี ในทางทีผ่ ดิ ไดแก อกุศลจติ ตุปบาท ทม่ี ีสญั ญาเปน ประธาน ในการระลึกสงิ่ ทไ่ี มด ตี า ง ๆ นั้นเอง ๘. ก. ใหจ ําแนกอนิ ทรยี  ๒๒ โดยจติ เจตสกิ รปู ? 43/1(7ก), 56/2, 57/1(9ก), 58/1, 60/1,62/2 ตอบ ก. จาํ แนกอนิ ทรีย ๒๒ โดยจติ เจตสิก รปู น้ันมดี ังน้คี ือ ในอนิ ทรีย ๒๒ นนั้ จักขุนทรีย โสตนิ ทรีย ฆานินทรยี  ชิวหนิ ทรีย กายินทรีย อิตถินทรีย ปรุ สิ ินทรีย รวม ๗(อนิ ทรียน้ี) เปน รปู , ชวี ิตินทรยี  เปน เจตสกิ และรูป, มนินทรีย เปน จติ สุขนิ ทรยี  ทุกขินทรีย โสมนัสสนิ ทรยี  โทมนสั สนิ ทรยี  อุเปกขินทรยี  สัทธนิ ทรยี  วิรยิ นิ ทรีย สตนิ ทรยี  สมาธิน- ทรยี  ปญ ญนิ ทรีย อนัญญาตัญญัสสามิตนิ ทรยี  อัญญนิ ทรยี  อัญญาตาวินทรยี  รวม ๑๓(อินทรียน ี้) เปนเจตสกิ ปล. อนิ ทรีย ๒๒=รูป ๘ = จักขุ-โสต-ฆาน-ชวิ หา-กาย+ปสาทรูป(๕), อติ -ปรุ ิส+ภาวรปู , ชวี ิตรปู วตั ถ๕ุ , ภาว๒, รูปชีวิตนิ ทฺ ฺริยํ นาม ๘ = ชวี ิตินทรียเ จ. จติ เวทนา สทั ทา วิรยิ ะ สติ เอกัคคตา ปญญา อรปู โน อนิ ทฺ รฺ ยิ า สมฺปยุตฺตกานํ ๘. ก. จงแสดงความหมาย พรอมองคธ รรม ของอนิ ทรยี ต อ ไปนี้ ? 45/1, 49/1, 50/2, 59/1(9ข) ๑. อนญั ญาตัญญสั สามติ นิ ทรยี  ๒. อญั ญนิ ทรยี  ๓. อญั ญาตาวนิ ทรยี  ๘. ข. จงแสดงความหมายพรอ มทงั้ องคธ รรมของ อนญั ญาตญั ญสั สามติ นิ ทรีย อญั ญนิ ทรยี  อญั ญาตาวนิ ทรยี  ? 43/1(7ข), 56/2, 57/1(9ข), 58/1, 60/1, 62/2 ตอบ ข. แสดงความหมายพรอมท้ังองคธรรมของอนิ ทรีย ดังตอ ไปน้ี อนญั ญาตญั ญสั สามติ นิ ทรีย ธรรมชาติท่ีเปนผูป กครองในการรแู จง อรยิ สจั จ ๔ ทีต่ นไมเ คยรู องคธ รรมไดแก ปญญาเจตสกิ ท่ใี นโสดาปตตมิ รรคจติ ๑ อัญญินทรีย ธรรมชาตทิ ่ีเปน ผูปกครองในการรูแ จงอริยสจั จ ๔ ท่ีตนเคยรู องคธ รรมไดแ ก ปญ ญาเจตสกิ ที่ในมรรคจิตเบือ้ งบน ๓ และผลจิตเบอื้ งตาํ่ ๓ อญั ญาตาวนิ ทรยี  ธรรมชาตทิ ี่เปน ผูปกครองในการรูแจงอรยิ สจั จ ๔ สนิ้ สดุ แลว องคธรรมไดแ ก ปญ ญาเจตสิก ทใี่ นอรหตั ตผลจิต ๑ ปล. (ชอ่ื :เทียบโลกุตตรจติ ๘) = (ช่ือ)ยาว:บนสดุ โส-มคั ๑, (ชื่อ)ส้นั :๖ กลาง ๓+๓, (ชื่อ)กลาง:ทายสดุ อรผ ๑ ๘. ก. จงจําแนกพละธรรม ๙ โดย โสภณ และ อโสภณ มาดู ฯ ? 50/1, 52/1, 54/1, 57/2(9ก), 59/2 ๘. จงจาํ แนกพละธรรม ๙ โดย โสภณะ และ อโสภณะ พรอ มดว ยแสดงความหมายของพละนนั้ ๆ ดว ย ? 53/2 ตอบ (ก.) จําแนกพละธรรม ๙ โดย โสภณะ และ อโสภณะ น้นั มีดงั น้ี สทั ธาพละ สติพละ ปญญาพละ หิริพละ โอตตัปปะพละ รวม ๕ เปนโสภณ อหิรกิ พละ อโนตตปั ปะพละ รวม ๒ เปน อโสภณ วิริยพละ สมาธิพละ รวม ๒ เปน ทงั้ โสภณและอโสภณ (53/2) แสดงความหมายของพละธรรม ๙ ดังนี้ ๑. สัทธาพละ หมายความวา ธรรมชาตทิ ่ไี มหวัน่ ไหวใน ความเช่อื ตอ สงิ่ ท่ีควรเชอ่ื ดาวนโหลดขอมลู ตางๆไดจาก ขอ ความเพม่ิ เตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

๒. วริ ิยพละ ~ 29 ~ ๓. สตพิ ละ ๔. สมาธิพละ หมายความวา ธรรมชาตทิ ีไ่ มหวน่ั ไหวใน ความเพยี ร ๕. ปญ ญาพละ หมายความวา ธรรมชาติท่ีไมหว่ันไหวใน การระลึกชอบ หมายความวา ธรรมชาติทไี่ มห วน่ั ไหวใน การต้งั มั่นในอารมณอันเดียว ๖. หริ พิ ละ หมายความวา ธรรมชาติท่ไี มห วัน่ ไหวใน การรูตามความเปนจรงิ ๗. โอตตัปปพละ หมายความวา ธรรมชาตทิ ไ่ี มหวัน่ ไหวใน ความละอายตอ ทจุ ริต หมายความวา ธรรมชาตทิ ไ่ี มหวัน่ ไหวใน ความสะดุงกลวั ตอทุจริต ๘. อหริ กิ พละ หมายความวา ธรรมชาติทีไ่ มห วั่นไหวใน ความไมล ะอายตอ ทุจรติ ๙. อโนตตัปปะพละ หมายความวา ธรรมชาตทิ ี่ไมห ว่ันไหวใน ความไมส ะดุงกลัวทุจรติ ๘. ข. ใหแ สดงอธบิ ดี ๔ พรอ มทง้ั ความหมายและองคธ รรม ? 49/1(7ข), 51/1, 52/1, 54/1(7ข), 57/2(9ข), 59/2, 61/1, 62/1 ตอบ ข. แสดงอธบิ ดี ๔ พรอ มทงั้ ความหมายและองคธ รรม ดงั น้ี ๑. ฉนั ทาธปิ ติ ธรรมชาติท่ีเปนใหญในความพอใจ (ฉนั ทะ+อธิปต)ิ องคธ รรมไดแ ก ฉันทเจตสกิ ท่ีในทวเิ หตุกชวนะ ๑๘ ตเิ หตุกชวนะ ๓๔ หรอื ๖๖ ๒. วิรยิ าธปิ ติ ธรรมชาติท่ีเปนใหญในความเพยี ร (วิริยะ+อธิปติ) องคธ รรมไดแ ก วริ ยิ ะเจตสิก ท่ีในทวิเหตุกชวนะ ๑๘ ติเหตุกชวนะ ๓๔ หรอื ๖๖ ๓. จิตตาธปิ ติ ธรรมชาตทิ ี่เปน ใหญในการรบั อารมณ (จติ ตะ+อธิปติ) องคธ รรมไดแ ก ทวิเหตุกชวนะ และตเิ หตุกชวนะ ๕๒ หรือ ๘๔ ๔. วีมงั สาธปิ ติ ธรรมชาตทิ ่ีเปน ใหญในการรแู จง ตามความเปน จรงิ (วีมังสา+อธปิ ติ) องคธรรมไดแ ก ปญ ญาเจตสิก ทใ่ี นตเิ หตุกชวนะ ๓๔ หรอื ๖๖ ฯ ๘. ทา นกลา ววา ธรรมใดยอมนาํ มาซงึ่ ผลของตน ธรรมนนั้ ชอ่ื วา อาหาร อยากทราบถงึ คาํ ทวี่ า “นาํ มา” นนั้ นาํ มา อยา งใด ใหอ ธบิ าย และใหแ สดงถงึ การ “นาํ มา” ของอาหารทงั้ ๔ โดยเฉพาะ ๆ ดว ย? 47/2 ๘. ข. จงแสดงถงึ การนาํ มาของอาหารทงั้ ๔ โดยเฉพาะ ๆ ไมต องยกหลกั ฐานบาลขี นึ้ แสดง ? 58/2, 59/1, 61/2 ตอบ คาํ วา “นํามา” ในที่นี้นั้น หมายความวา ทําใหเกิดผลข้ึน และชวยอุดหนนุ ใหต้ังอยไู ด เจริญข้ึนได เหมือนดงั ทีก่ ลาวกนั ทัว่ ๆ ไปวา การงานสิง่ นน้ั ต้งั ขน้ึ ได เจรญิ ไดก ็โดยอาศัยผูจัดการเปนผนู ําถาขาดผูจัดการ เสียแลว กิจการนั้น ๆ กต็ ั้งอยูแ ละเจรญิ ข้ึนไมได ขอนฉี้ ันใด ความเปนอยขู องสัตวท้ังหลายกเ็ ชน เดยี วกนั และ การนํามาของอาหารทง้ั ๔ โดยเฉพาะ ๆ นั้นมีดังน้ี คือ ๑. กพฬกี าราหาร นาํ มาซึ่งอาหารชสุทธัฏฐกกลาป ใหเกิดข้นึ ในสันดานของสัตวท้ังหลาย ๒. ผสั สาหาร นํามาซ่งึ เวทนา คือ การเสวยอารมณเ ปนสุขบา ง เปนทกุ ขบา ง เฉย ๆ บาง ๓. มโนสญั เจตนาหาร นํามาซง่ึ ปฏิสนธวิ ิญญาณ คอื การเกิดเปนมนุษย เทวดา พรหม อบาย สัตว และปวัตติวญิ ญาณ คอื การเห็น การไดย ิน เปนตน ๔. วิญญาณาหาร นาํ มาซงึ่ เจตสิกและกมั มชรูป ดาวนโ หลดขอมูลตางๆไดจาก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

~ 30 ~ ๘. ข. จงแสดงถงึ การนาํ มาของอาหารท้งั ๔ โดยเฉพาะ ๆ ? 45/2 ไมตอ งยกหลกั ฐานบาลขี นึ้ แสดง ? 43/2(7ข), 44/2, 49/2(9ข), 49/2, 50/2, 51/2, 52/2(9ก), 55/2 ตอบ ข. การนาํ มาของอาหารทั้ง ๔ โดยเฉพาะ ๆ มีดังน้ี ......... ๗. ใหแ สดงถงึ การนาํ มาของอาหารทงั้ ๔ โดยเฉพาะ ๆ พรอมทงั้ ยกหลกั ฐานบาลขี นึ้ แสดงดว ย ? 44/1 ตอบ การนํามาของอาหารทัง้ ๔ โดยเฉพาะ ๆ มีดังน้ี คือ ......... ดงั มีหลักฐานบาลีแสดงวา โอชฏฐ มกรปู  เย เวทนํ ปฏสิ นธฺ กิ ํ นามรปู  อาหรนตฺ ิ ตสมฺ าหาราติ วจุ จฺ เร ธรรมเหลา ใด ยอ มนาํ อาหารชสทุ ธฏั ฐกกลาป เวทนา ปฏิสนธวิ ญิ ญาณ เจตสกิ และ กมั มชรปู โดยเฉพาะของตน ๆ ฉะนนั้ ธรรมเหลาน้ัน จงึ ไดชอ่ื วา อาหาร ๘. ข. ให( จง)แสดงอาหาร ๔ พรอ มทง้ั ความหมายและองคธ รรม ? 50/1, 54/1 ตอบ ข. แสดงอาหาร ๔ พรอมทง้ั ความหมายและองคธ รรม ๑. กพฬกี าราหาร ธรรมชาติท่ีเปน ผนู ําใหอาหารชรปู เกดิ องคธ รรมไดแก โอชาท่ีอยูในอาหารตาง ๆ ๒. ผสั สาหาร ธรรมชาตทิ ี่เปนผูน ําใหเวทนาเกิด องคธ รรมไดแ ก ผสั สเจตสกิ ทใี่ นจติ ทั้งหมด ๓. มโนสญั เจตนาหาร ธรรมชาตทิ ่ีเปนผูนําใหวปิ ากวิญญาณมีปฏิสนธิจติ เปน ตน เกิด องคธ รรมไดแก เจตนาเจตสิกทใี่ นจติ ทง้ั หมด ๔. วญิ ญาณาหาร ธรรมชาติที่เปน ผนู ําใหเจตสกิ และกัมมชรปู เกิด องคธ รรมไดแ ก จติ ทงั้ หมด ๑๐. ธรรมทเ่ี ปน อาหารของทกุ ขต า ง ๆ ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ เปน ตน นน้ั คอื อะไร ? ถา ธรรมทเ่ี ปน อาหารของ ทกุ ขเหลา นี้ ไมม แี ลว ชาติ ชรา เปน ตน เหลา นจ้ี ะเกดิ ขนึ้ ไดห รอื ไม ? ใหอธบิ ายยกหลกั ฐานขน้ึ แสดงดว ย ? 51/2, 55/2 ตอบ ธรรมท่ีเปน อาหารของทุกขตาง ๆ มชี าติ ชรา พยาธิ มรณะ เปนตนนน้ั ไดแก ขันธ ๕ คือ รูปขันธ เวทนาขันธ สัญญาขันธ สงั ขารขันธ วิญญาณขันธ ถาธรรมที่เปนอาหารของทุกขเหลาน้ีไมมีแลว ชาติ ชรา เปน ตน เหลาน้กี ็เกิดขึน้ ไมไ ด อธบิ ายวา ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ เหลาน้ีเปน อาการเปน ไปของขันธ ๕ หาใชว า มขี นึ้ เฉพาะไม กลา วคอื การเกดิ ขึ้นของขันธ ๕ เรียกวา ชาติ การสืบตอของขันธ ๕ โดยการเจรญิ เติบโตข้นึ และแกล ง เรียกวา ชรา การเจ็บปวยของรปู เรียกวา พยาธิ การดับไปของขนั ธ ๕ ในภพหน่งึ ๆ เรยี กวา มรณะ ดังมีวจนัตถะแสดงวา อเนกทกุ เฺ ขหิ ขชฺชนตฺ ตี ิ = ขนธฺ า ธรรมท้งั หลาย ทถ่ี กู ทกุ ขตาง ๆ เคยี้ วกิน ฉะนั้น ช่อื วา ขันธ หมายถึง ขันธ ๕ น้ี เปนทเี่ กดิ แหงชาติ ชรา พยาธิ มรณะ เปน ตน ถา ไมมีขันธ ๕ แลว ทุกขต า ง ๆ เหลา นี้กเ็ กดิ ขึ้นไมได โพธปิ ก ขยิ สงั คหะ ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆไดจาก ขอ ความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว)

~ 31 ~ ๙. ในโพธิปก ขยิ สงั คหะมธี รรมอยกู ห่ี มวด คอื อะไรบา ง ? วาโดยประเภทแลวมเี ทา ไร ? ใหแ สดงสมั มปั ปธาน ๔ พรอมทั้งความหมายและองคธรรม ? 45/2, 58/2 ตอบ ก+ข. .......... ๙. ก. ในโพธปิ ก ขยิ สงั คหะมธี รรมอยกู ห่ี มวด คอื อะไรบาง ? วา โดยประเภทแลว มเี ทา ไร ? 46/1, 50/1, 53/1 ตอบ ก. ในโพธปิ กขิยสงั คหะ มีธรรมอยู ๗ หมวด คอื ๑. สตปิ ฏฐาน ๒. สัมมัปปธาน ๓. อิทธิบาท ๔. อนิ ทรีย ๕. พละ ๖. โพชฌงค ๗. มคั คงั คะ วา โดยประเภทมี ๓๗ ๙. ในโพธปิ ก ขยิ สงั คหะ มธี รรมอยกู ห่ี มวด ? คอื อะไรบา ง ? ใหแ สดงความหมายพรอ มองคธ รรมในบทตอไปน้ี ? 44/2, 56/2, 62/2 ก. กายานปุ ส สนาสตปิ ฏ ฐาน ข. ฉนั ททิ ธบิ าท ค. สทั ธินทรยี  ง. สัมมาทฏิ ฐิ ตอบ ในโพธิปก ขิยสงั คหะมธี รรมอยู ๗ หมวด คอื ๑. สตปิ ฏฐาน ๒. สมั มัปปธาน ๓. อิทธิบาท ๔. อนิ ทรยี  ๕. พละ ๖. โพชฌงค ๗. มคั คงั คะ แสดงความหมายพรอมทงั้ องคธรรมของบทดังน้ี ก. กายานปุ ส สนาสติปฏฐาน สติท่ีตงั้ มัน่ อยใู นการพิจารณาเนือง ๆ ซ่ึงกาย คือ รปู ขันธ มีลมหายใจเขาออก อิริยาบถใหญ อิริยาบถนอ ยเปน ตน องคธรรมไดแ ก สตเิ จตสกิ ที่ในมหากุศลจติ ๘ มหากิริยาจิต ๘ อัปปนาชวนจิต ๒๖ ข. ฉันททิ ธบิ าท ความพอใจอยางแรงกลา เปน บาทเบ้ืองตนแหง ความสาํ เรจ็ ฌาน มรรค ผล (ฉันทะ+อิทธิบาท) องคธ รรมไดแ ก ฉนั ทเจตสิกท่ีในกุศลจิต ๒๑ ค. สทั ธนิ ทรยี  ศรทั ธา เปนผปู กครองในความเลือ่ มใสตอสิง่ ท่คี วร องคธ รรมไดแ ก สทั ธาเจตสิกทใ่ี นมหากุศลจิต ๘ มหากิริยาจิต ๘ อปั ปนาชวนจติ ๒๖ ง. สมั มาทฏิ ฐิ ความเหน็ ชอบ เปน หนทางใหถึงมรรค ผล นิพพาน องคธ รรมไดแ ก ปญญาเจตสกิ ทีใ่ น มหากุศลญาณสมั ปยตุ ตจติ ๔ มหากิรยิ าญาณสัมปยตุ ตจิต ๔ อัปปนาชวนจติ ๒๖ ๙. ข. ใหแ สดงสมั มปั ปธาน ๔ พรอ มทั้งความหมายและองคธรรม? 50/1 ตอบ ข. แสดง สมั มปั ปธาน ๔ พรอมท้งั ความหมาย และองคธ รรม ๑. อปุ ปฺ นนฺ านํ ปาปกานํ ปหานาย วายาโม ความพยายามเพ่ือละอกุศลธรรมทเ่ี กิดขน้ึ แลว องคธรรมไดแก วริ ยิ เจตสิกทใ่ี นกศุ ลจิต ๒๑ ๒. อนปุ ปฺ นนฺ านํ ปาปกานํ อนุปฺปาทาย วายาโม ความพยายามเพ่ือใหอกุศลท่ยี งั ไมเ กดิ ข้นึ ไมใหเกดิ ขึ้น องคธรรมไดแก วิรยิ เจตสิกทีใ่ นกศุ ลจติ ๒๑ ๓. อนปุ ฺปนนฺ านํ กสุ ลานํ อุปปฺ าทาย วายาโม ความพยายามเพื่อใหกุศลธรรมที่ยงั ไมเกดิ ข้นึ ใหเกิดขึน้ องคธรรมไดแ ก วิรยิ เจตสกิ ท่ีในกุศลจิต ๒๑ ๔. อปุ ปฺ นนฺ านํ กสุ ลานํ ภยิ โฺ ยภาวาย วายาโม ความพยายามเพื่อใหก ุศลธรรมท่ีเกิดขนึ้ แลวใหเจริญย่งิ ๆ ข้ึนไป องคธรรมไดแ ก วิรยิ เจตสิกที่ในกุศลจิต ๒๑ ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆไดจาก ขอความเพม่ิ เติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว)

~ 32 ~ ๘. ก. อารมณอ นั เปน ทต่ี งั้ แหง การกําหนดของสตมิ เี ทา ไร คอื อะไรบา ง ? 43/2(9ก), 52/2, 60/2(9ก) ตอบ ก. อารมณอ ันเปน ที่ตงั้ แหง การกําหนดของสติ มี ๔ คอื ๑. รปู ขนั ธ เปนอารมณแ หงการกําหนดของสติ เรียกวา กายานปุ สสนาสตปิ ฏ ฐาน ๒. เวทนาขนั ธ เปนอารมณแ หงการกําหนดของสติ เรยี กวา เวทนานปุ ส สนาสตปิ ฏ ฐาน ๓. วิญญาณขันธ เปน อารมณแ หง การกําหนดของสติ เรยี กวา จิตตานปุ สสนาสตปิ ฏฐาน ๔. สญั ญาขันธ และสงั ขารขนั ธ เปน อารมณแ หงการกําหนดของสติ เรยี กวา ธัมมานปุ ส สนาสตปิ ฏ ฐาน ๙. ก. จงแสดงลกั ขณะอนั เปน นมิ ติ ทปี่ รากฏขึน้ และการประหาณวปิ ลาสธรรม ในการเจรญิ สตปิ ฏ ฐานมาดู ? 52/1, 53/2, 58/1(9) ตอบ ก. แสดงลักษณะอันเปนนิมิตทีป่ รากฏขน้ึ และการประหารวิปลาสธรรมในการเจรญิ สตปิ ฏฐาน ดงั นค้ี ือ การกําหนดพจิ ารณาในกายอยเู นอื ง ๆ เปน เหตุใหอ สุภลักขณะปรากฏข้นึ และในขณะเดยี วกนั น้นั ยอม ประหาณ สภุ วปิ ลาสใหหมดไป การกําหนดพิจารณาในเวทนาอยเู นือง ๆ เปนเหตุใหทกุ ขลกั ขณะปรากฏข้ึน และในขณะเดยี วกนั นัน้ ยอ ม ประหาณ สขุ วปิ ลาสใหหมดไป การกําหนดพิจารณาในจติ อยูเนอื ง ๆ เปน เหตุใหอ นิจจลกั ขณะปรากฏขน้ึ และในขณะเดียวกนั นน้ั ยอม ประหาณ นจิ จวิปลาสใหหมดไป การกาํ หนดพจิ ารณาในสภาพธรรม คอื สัญญา สังขาร อยูเ นือง ๆ เปน เหตใุ หอนัตตลกั ขณะปรากฏขน้ึ และ ในขณะเดียวกันนั้น ยอมประหาณอัตตวปิ ลาสใหหมดไป ๘. คาํ วา สตปิ ฏ ฐาน มคี วามหมายวา อยา งไร ? แสดงวจนตั ถะวา อยา งไร ? และทาํ ไมสตดิ วงเดยี ว จึงเปน สตปิ ฏ ฐานทง้ั ๔ ได ? 51/1(9), 53/1(9ข), 54/1(9), 54/2(9), 55/1, 56/1, 61/2(9) ตอบ คําวา สตปิ ฏ ฐาน หมายความวา สติท่เี ปน ประธานในสัมปยตุ ตธรรม แลวตงั้ มน่ั ในอารมณ มกี ายเปนตน ดงั มวี จนตั ถะแสดงวา สติ เอว ปฏานนตฺ ิ สตปิ ฏ านํ (54/2) สตินั้นแหละ เปน ประธานในสมั ปยตุ ตธรรม แลว ตงั้ ม่ันในอารมณ มี กาย เปนตน ฉะน้นั จงึ ช่ือวา สตปิ ฏ ฐาน และการทส่ี ตดิ วงเดยี วเปนสติปฏฐานท้งั ๔ ไดน ้นั ก็เพราะวา ๑. อารมณอันเปน ที่ตั้งแหงการกําหนด กม็ ี ๔ ๒. ลักษณะอันเปน นิมิตทปี่ รากฏข้นึ กม็ ี ๔ ๓. การประหาณวปิ ลาสธรรมก็มี ๔ ดวยเหตนุ ้ี สตดิ วงเดียว จงึ เปน สตปิ ฏฐานทั้ง ๔ ได. ๙. ข. ให (จง) แสดงเหตผุ ลทส่ี ตดิ วงเดยี วเปน สติปฏ ฐานทง้ั ๔ ได ? 48/1(9ก) และวิรยิ ดวงเดียว เปน สมั มปั ปธานทง้ั ๔ ได ? 52/1, 53/2 ๘. ข. แสดงเหตผุ ลทว่ี ริ ยิ ะดวงเดยี ว เปน สมั มปั ปธานท้ัง ๔ ได ? 44/1(8ก), 52/2, 60/1(9ก), 60/2(9ข) ตอบ ข. สตดิ วงเดยี วเปน สตปิ ฏ ฐานทงั้ ๔ ได เพราะ ............ ตอบ วริ ิยะดวงเดยี วเปนสมั มัปปธานทง้ั ๔ ได เพราะกิจของวิรยิ ะในท่นี ้มี อี ยู ๔ อยา ง คือ ดาวนโหลดขอมูลตางๆไดจาก ขอความเพมิ่ เตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

๑. พยายามเพ่อื ละอกศุ ลทเ่ี กดิ แลว ~ 33 ~ ๓. พยายามเพอื่ ใหกศุ ลใหมเ กิด ๒. พยายามเพ่ือไมใ หอ กศุ ลใหมเ กดิ ๔. พยายามเพื่อใหก ุศลท่ีเกดิ แลว เจรญิ รงุ เรอื งขน้ึ ๙. ข. ใหแ สดงอทิ ธบิ าท ๔ พรอ มทงั้ ความหมายและองคธ รรม ฯ ? 47/1 ตอบ ข. แสดงอทิ ธิบาท ๔ พรอมทงั้ ความหมายและองคธรรม ดังนี้ คือ ๑. ฉนั ททิ ธบิ าท ความพอใจอยางแรงกลา เปนบาทเบ้อื งตนแหง ความสาํ เรจ็ ฌาน มรรค ผล (ฉันทะ+อิทธิบาท) องคธรรมไอแ ก ฉันทเจตสิก ทใ่ี นกุศลจติ ๒๑ ๒. วรี ยิ ิทธบิ าท ความพยายามอยา งแรงกลา เปน บาทเบอ้ื งตน แหงความสาํ เรจ็ ฌาน มรรค ผล (วริ ิยะ+อทิ ธิบาท) องคธรรมไดแก วริ ยิ ะเจตสกิ ที่ในกุศลจติ ๒๑ ๓. จติ ตทิ ธบิ าท ความตั้งใจอยา งแรงกลา เปน บาทเบอ้ื งตนแหงความสาํ เรจ็ ฌาน มรรค ผล (จติ ตะ+อทิ ธบิ าท) องคธรรมไดแ ก กศุ ลจติ ๒๑ ๔. วมี งั สิทธบิ าท ปญญาอยางแรงกลา เปนบาทเบื้องตนแหง ความสําเรจ็ ฌาน มรรค ผล (วมี งั สา+อิทธิบาท) องคธ รรมไดแก ปญ ญาเจตสิกทใี่ นกุศลญาณสมั ปยตุ ตจิต ๑๗ ๙. ข. คาํ วา โพชฌงค เมอื่ แยกบทออกแลว ไดก บ่ี ท ? ใหบ อกความหมาย และองคธ รรม ของบทนน้ั ๆ มาดว ย? 43/1(8ข), 48/1 ตอบ ข. คําวา โพชฌงค เมื่อแยกบทออกแลว ได ๒ บท คือ โพธิ + องฺค, โพธิ หมายความวา ธรรมท่ี เปน เหตุใหร ูอรยิ สจั จ ๔ ไดแก องคธ รรม ของโพชฌงค ๗ รวมกัน มสี ติ ปญญา เปน ตน องฺค หมายความวา ธรรมอันเปน เครอ่ื งประกอบ ไดแก องคธ รรมของโพชฌงคโดยเฉพาะ ๆ ๘. ปญ ญาชนดิ ใด ชอื่ วา สมั มาทฏิ ฐมิ รรค ? วติ กชนดิ ไหนชื่อวา สมั มาสงั กปั ปมรรค และจงจาํ แนกมคั คงั คะ ๘ โดยศลี สมาธิ ปญญา ? 48/1 ตอบ ปญ ญา ทีไ่ ดช่ือวา สัมมาทฏิ ฐิมรรคนั้น เปนปญญาทเ่ี หน็ แจงในอรยิ สจั จ ๔ โดยกิจ ๔ อยาง คือ ๑. ทุกเฺ ขาณํ รูในทกุ ขสจั จโ ดยปรญิ ญากิจ ๒. ทกุ ขฺ สมุทเยาณํ รใู นเหตใุ หเกดิ ทุกขโดยปหาณกจิ ๓. ทุกขฺ นโิ รเธาณํ รูใ นพระนพิ พานซึ่งเปนทด่ี บั แหง ทุกข โดยสจั ฉิกรณกิจ ๔. ทุกขฺ นโิ รธคามินปี ฏิปทายาณํ รูใ นขอปฏิบัติอนั เปน เหตใุ หเ ขาถงึ พระนิพพาน ซ่งึ เปนทดี่ บั แหงทุกขท้ังปวง โดยภาวนากจิ เหลา นี้แหละไดชอ่ื วา ปญ ญาทเ่ี ปน สมั มาทิฏฐิมรรค สาํ หรับ วิตก ท่ีไดชือ่ วา สมั มาสงั กปั ปมรรคน้นั เปนวติ กชนดิ ทม่ี คี วามดํารชิ อบ ในเร่ืองท้งั ๓ คอื ๑. นกิ ขมสงั กปั ปะ ความดาํ รทิ ี่ออกจากกามคุณอารมณ ๒. อพั ยาปาทสงั กปั ปะ ความดําริที่ประกอบดวยเมตตา ๓. อวหิ งิ สาสงั กปั ปะ ความดําริท่ีประกอบดว ยกรุณา เหลาน้แี หละไดชอ่ื วาวติ กท่เี ปน สมั มาสงั กปั ปมรรค ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆไดจาก ขอ ความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว)

~ 34 ~ จําแนกมัคคังคะ ๘ โดย ศีล สมาธิ ปญญา ดังนี้ ....... ๙. ข. จงแสดงการจาํ แนก องคม รรค ๘ โดยสีลขนั ธ สมาธขิ นั ธ ปญญาขนั ธ ? 44/1(8ข), 45/1, 50/2, 60/1 ๙. ข. จงจาํ แนกมคั คงั คะ ๘ โดยศลี สมาธิ ปญญา ? 52/2 ตอบ (52/2) ข. จาํ แนกมคั คงั คะ ๘ โดย ศลี สมาธิ ปญ ญา ดังนี้ ............ ตอบ ข. แสดงการจาํ แนกองคมรรค ๘ โดยศลี ขนั ธ สมาธิขนั ธ ปญญาขันธ ๑. สัมมาวาจา ๒. สัมมากมั มันตะ ๓. สมั มาอาชวี ะ องคม รรคท้ัง ๓ น้ี สงเคราะหเขา ใน ศีลขนั ธ ๔. สัมมาวายามะ ๕. สัมมาสติ ๖. สมั มาสมาธิ องคมรรคทัง้ ๓ นี้ สงเคราะหเขาใน สมาธิขันธ ๗. สมั มาทฏิ ฐิ ๘. สมั มาสงั กปั ปะ องคม รรคทัง้ ๒ น้ี สงเคราะหเขาใน ปญ ญาขนั ธ ๙. มคั คงั คะทใ่ี นมสิ สกสงั คหะกบั มคั คงั คะทใ่ี นโพธปิ ก ขยิ สงั คหะนนั้ ตา งกันหรอื เหมอื นกนั ถา เหน็ วา เหมอื นกนั ก็ แลว ไป ถา ตางกนั ตา งทต่ี รงไหน และธรรมสว นนน้ั เปน กศุ ล หรืออกศุ ลใหอ ธบิ าย ? 43/2(8ก), 49/2, 51/2 ตอบ ตางกัน มัคคงั คะทีใ่ นมิสสกสังคหะน้ัน เปนเหตใุ หถึงสุคติภูมิ ทคุ ติภมู ิ และพระนิพพาน เปนไดท งั้ กุศล และอกุศล กลา วคอื ตง้ั แตข อท่ี ๑-๘ เปนเหตใุ หถ ึงสคุ ตภิ ูมแิ ละพระนพิ พานเปนกศุ ล สว นขอที่ ๙-๑๒ เปน เหตุ ใหถงึ ทคุ ติภมู ิ เปนอกศุ ล, สวนมัคคังคะทีใ่ นโพธิปก ขิยสงั คหะนน้ั เปน องคตรสั รมู งุ ตรงตอมรรค ผล นิพพาน โดยตรงและเปน กุศลโดยสว นเดยี ว ๙. ก. ในโพธปิ ก ขยิ สงั คหะทงั้ ๗ หมวดนน้ั เมื่อวา โดยองคธ รรมปรมตั ถแลว มเี ทา ใด ?คอื อะไรบา ง ? 41/2, 47/1 ตอบ ก. ในโพธปิ กขิยสงั คหะท้ัง ๗ หมวดนั้น เม่อื วา โดยองคธ รรมปรมัตถแ ลว มี ๑๔ คอื ๑. ฉนั ทะ ๒. จติ ๓. ตตั ตรมัชฌัตตตา ๔. สทั ธา ๕. ปส สทั ธิ ๖. ปติ ๗. ปญญา ๘. วติ ก ๙. วรี ิยะ ๑๐. สัมมาวาจา ๑๑. สัมมากัมมนั ตะ ๑๒. สมั มาอาชีวะ ๑๓. สติ ๑๔. เอกัคคตา ๙. ข. โพธปิ กขยิ ธรรม เกดิ ขน้ึ ในโลกยี ธรรมไดห รอื ไม ถา ไดจ ะไดใ นขณะไหน ? ใหย กหลกั ฐานพรอ มคาํ แปลมาใหเ หน็ ดว ย ? 43/2(8ข), 46/1 ตอบ ข. โพธปิ กขิยธรรมน้ี เกิดขึน้ ในโลกยี ธรรมได และเกดิ ขึ้นในขณะที่สาํ เรจ็ เปน วสิ ุทธทิ งั้ ๖ (เวนญาณทัสสนวิสุทธิ) ดงั มหี ลักฐานบาลแี สดงวา โลกิเยป ยถาโยคํ ฉพพฺ สิ ทุ ธฺ ิ ปวตตฺ ยิ ํ แมใ นโลกียกศุ ลและกิรยิ าจติ กย็ อมเกิดขึน้ ตามที่ประกอบได สัพพสงั คหะ ๑๐. ก. ในสพั พสงั คหะ มีธรรมอยูกหี่ มวด คอื อะไรบา ง ? 56/2, 60/1, 61/1(5ก), 62/2 ตอบ ก. ในสัพพสงั คหะ มธี รรมอยู ๕ หมวด คือ ๑. ขันธ ๒. อุปาทานกั ขันธ ๓. อายตนะ ๔. ธาตุ ๕. สจั จะ ๑๐. ก. คาํ วา ขนั ธ หมายความวา อยา งไร จงแสดงมาพรอ มความหมายและองคธ รรม ? 53/2 ตอบ ก. คําวา ขันธ หมายความวา เปนกองมี ๕ คอื ๑. รปู ขันธ กองรปู องคธรรมไดแก รูป ๒๘ ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆไดจ าก ขอความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

๒. เวทนาขันธ กองเวทนา ~ 35 ~ ๓. สญั ญาขันธ กองสญั ญา ๔. สงั ขารขันธ กองสงั ขาร องคธรรมไดแก เวทนาเจตสิก ท่ีในจติ ๘๙ หรือ ๑๒๑ องคธ รรมไดแก สัญญาเจตสิก ท่ีในจติ ๘๙ หรือ ๑๒๑ ๕. วิญญาณขันธ กองจติ องคธรรมไดแก เจตสิก ๕๐ (เวนเวทนา สัญญา) ที่ในจิต ๘๙ หรือ ๑๒๑ ตามสมควร องคธรรมไดแ ก จิต ๘๙ หรือ ๑๒๑ ๙. ก. ในปรมตั ถธรรม ๔ ประการ เมอื่ วา โดยอายตนะแลว มี ๑๒ วา โดยธาตุมี ๑๘ ทเี่ ปน ดงั นอ้ี าศยั อะไรเปน หลัก ? 46/2, 47/2, 49/1, 55/1(9ก), 55/2, 56/1(9ก), 59/2, 62/1 ตอบ ก. ในปรมัตถธรรม ๔ ประการ เมือ่ วา โดยอายตนะแลว มี ๑๒ นน้ั เพราะอาศยั มีประเภทตา งกันแหง ทวาร ๖ อารมณ ๖ เมือ่ วาโดยธาตุ มี ๑๘ น้นั เพราะอาศยั ทวาร ๖ อารมณ ๖ และวิญญาณ ๖ ๙. ข. จงแสดงผลทเ่ี กดิ จากอายตนะ ๑๒ โดยเฉพาะ ๆ ? 43/2, 46/2, 47/2, 49/1, 55/1(9ข), 55/2, 56/1(9ก), 59/2, 62/1 ตอบ ข. ผลท่ีเกิดจากอายตนะ ๑๒ โดยเฉพาะ ๆ นั้น มดี งั นี้ คอื ๑. จักขุวญิ ญาณ การเหน็ เปน ผลของ จักขายตนะ กบั รูปายตนะ ๒. โสตวิญญาณ การไดย นิ เปนผลของ โสตายตนะ กับ สัททายตนะ ๓. ฆานวญิ ญาณ การรูกลิ่น เปนผลของ ฆานายตนะ กับ คันธายตนะ ๔. ชวิ หาวิญญาณ การรรู ส เปน ผลของ ชิวหายตนะ กับ รสายตนะ ๕. กายวญิ ญาณ การรูถกู ตอง เปน ผลของ กายายตนะ กับ โผฏฐัพพายตนะ ๖. จติ ๗๖ (เวนทวปิ ญจวิญญาณจิต ๑๐ มโนธาตุ ๓) มกี ารรอู ารมณ และคดิ นึกในเรอ่ื งราวทง้ั ปวง เปน ผลของ มนายตนะ กับ ธมั มายตนะ ๑๐. จงตอบคาํ ถามดงั ตอ ไปน้ี ? 43/1(9), 55/1, 57/2, 59/1 ก. สพั พจติ ตสาธารณเจตสกิ ๗ เปน ขนั ธอ ะไรไดบ า ง ? ข. หทยวตั ถเุ ปนอายตนะอะไร ? ค. อเหตกุ กิรยิ าจติ ๓ เปน ธาตอุ ะไรไดบ า ง ? ง. รปู ๒๘ นพิ พาน เปน สจั จะอะไรไดบ า ง ? จ. องคธ รรมของ ธมั มารมณ ธมั มายตนะ ธมั มธาตุ เหมอื นกนั หรอื ตา งกนั อยา งไร ? ตอบ ก. สพั พจติ ตสาธารณเจตสิก ๗ เปน เวทนาขนั ธ สญั ญาขนั ธ สังขารขันธ ข. หทยวตั ถุ เปน ธมั มายตนะ ค. อเหตกุ กริ ยิ าจิต ๓ เปน มโนธาตุ มโนวญิ ญาณธาตุ ง. รปู ๒๘ เปน ทุกขสจั จะ นพิ พาน เปน นโิ รธสจั จะ จ. องคธ รรมของธัมมายตนะ กับ ธัมมธาตนุ น้ั เหมอื นกัน ไดแก เจตสิก ๕๒ สุขมุ รูป ๑๖ นพิ พาน สวนองคธ รรมของธมั มารมณน น้ั ไดแก จิต ๘๙ เจตสิก ๕๒ ปสาทรูป ๕ สุขุมรปู ๑๖ นิพพาน บัญญตั ิ ๙./๑๐. จงแสดงความหมายพรอ มทั้งองคธ รรมในหัวขอ ธรรม ดังตอ ไปนี้ ? ก. สงั ขารขนั ธ ข. รปู ปุ าทานกั ขนั ธ ค. จกั ขายตนะ ฆ. มโนวญิ ญาณธาตุ ง. มรรคสจั จะ ? 44/1 ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆไดจ าก ขอ ความเพม่ิ เติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

~ 36 ~ ก. สงั ขารขนั ธ ข. วญิ ญาณปู าทานกั ขนั ธ ค. ธมั มายตนะ ง. มโนวิญญาณธาตุ จ. ทกุ ขสัจจะ? 59/2 ก. สังขารขนั ธ ข. ธัมมายตนะ ค. มโนธาตุ ฆ. ทกุ ขสจั จะ ง. มรรคสจั จะ ? 45/1, 52/1, 58/1(10ข) ตอบ แสดงความหมาย พรอมทง้ั องคธ รรมในหัวขอธรรม ดงั ตอไปน้ี ก. สงั ขารขนั ธ กองสงั ขาร องคธ รรมไดแ ก เจตสิก ๕๐ (เวน เวทนา สญั ญา) ท่ใี นจติ ๘๙ หรอื ๑๒๑ ตามสมควร ข. รปู ุปาทานกั ขนั ธ กองรปู ที่เปนอารมณข องอปุ าทาน องคธรรมไดแก รปู ๒๘ ค. จักขายตนะ จกั ขุ ชอ่ื วา อายตนะ เพราะเปน เหตใุ หจิต เจตสิก เกิด องคธ รรมไดแก จกั ขปุ สาท ข./ค. ธัมมายตนะ สภาพธรรมตาง ๆ ช่อื วา อายตนะ เพราะเปนเหตใุ หจิต เจตสกิ เกิด ค. มโนธาตุ องคธรรมไดแ ก เจตสกิ ๕๒ สุขุมรูป ๑๖ นพิ พาน จิต ๓ ดวง ช่อื วา มโนธาตุ เพราะทรงไวซึ่งการรปู ญ จารมณ อยางสามญั องคธ รรมไดแ ก ปญจทวาราวชั ชนจติ ๑ สัมปฏจิ ฉนจิต ๒ ง./ฆ. มโนวญิ ญาณธาตุ จิต ๗๖ ชอื่ วา มโนวญิ ญาณธาตุ เพราะทรงไวซ ่งึ การรอู ารมณ เปน พิเศษ องคธรรมไดแ ก จิต ๗๖ (เวน ทวิปญ จวิญญาณจติ ๑๐ มโนธาตุ ๓) จ./ฆ. ทกุ ขสจั จะ ธรรมที่เปนทกุ ข เปน ความจรงิ ของพระอริยเจาท้ังหลาย องคธรรมไดแ ก โลกียจิต ๘๑ เจตสิก ๕๑ (เวน โลภะ) รปู ๒๘ ง. มรรคสจั จะ ธรรมที่เปนเหตุใหถ ึงความดบั ทกุ ข เปน ความจริงของพระอริยเจา ทัง้ หลาย องคธรรมไดแ ก มัคคังคเจตสกิ ๘ ดวง มปี ญ ญาเจตสิกเปน ตน ท่ีในมรรคจิต ๔ ๙. จงเตมิ คาํ ลงในชอ งวา งใหถ กู ตอ ง ในคาํ ตอ ไปน้ี? 45/1, 58/1(10ก) ราสฏเ น (ราสอิ ฏเ น) ขนโฺ ธ ชอื่ วาขันธ เพราะอรรถวา เปน กลุม เปน กอง คอื ธรรมที่เปน …………………………………………………..รวมกนั เปน กอง ๑ ธรรมทเ่ี ปน …………………………………………………..รวมกนั เปน กอง ๑ ธรรมทเ่ี ปน …………………………………………………..รวมกนั เปน กอง ๑ ธรรมทเ่ี ปน …………………………………………………..รวมกนั เปน กอง ๑ ธรรมทีเ่ ปน …………………………………………………..รวมกนั เปน กอง ๑ ตอบ ธรรมที่เปน ปจ จบุ นั อดตี อนาคต รวมกันเปน กอง ๑ ธรรมท่ีเปน อชั ฌตั ตะ และ พหทิ ธะ รวมกนั เปน กอง ๑ ธรรมที่เปน โอฬารกิ ะ และ สขุ มุ ะ รวมกันเปน กอง ๑ ธรรมที่เปน หนี ะ และ ปณตี ะ รวมกนั เปนกอง ๑ ธรรมท่ีเปน ทรู ะ และ สันตกิ ะ รวมกันเปนกอง ๑ ๑๐. เพราะเหตใุ ด นพิ พาน จงึ เปน ขนั ธวมิ ตุ ต ? จงบอกมาโดยละเอียด ? 45/2 ตอบ เพราะคําวา ขนั ธ ทแ่ี ปลวา เปน กลุม เปนกองนน้ั หมายเอาธรรมท่มี ปี ระเภทตางกนั ๕ ประเภท ดาวนโหลดขอ มูลตางๆไดจ าก ขอความเพม่ิ เตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

~ 37 ~ ซึ่งไดแ ก ธรรมที่เปน ปจ จบุ นั อดตี อนาคต รวมกนั เปนกอง ๑ ธรรมท่ีเปน อชั ฌตั ตะ และ พหิทธะ รวมกันเปน กอง ๑ ธรรมท่ีเปน โอฬารกิ ะ และ สขุ มุ ะ รวมกันเปน กอง ๑ ธรรมท่ีเปน หนี ะ และ ปณตี ะ รวมกันเปนกอง ๑ ธรรมท่ีเปน ทูระ และ สันตกิ ะ รวมกนั เปนกอง ๑ สาํ หรับนิพพาน ไมม ปี ระเภทตางกันดงั กลา วขา งตน คอื ๑. นพิ พาน ไมมปี ระเภทแหง ปจ จบุ ัน อดตี อนาคต มแี ตก าลวมิ ตุ ตอยางเดียว ฉะน้ันจงึ เปนขันธไ มไ ด ๒. นิพพานที่เปน อัชฌตั ตะไมมี เปน พหทิ ธะอยางเดยี ว ฉะนั้นจงึ เปน ขันธไ มไ ด ๓. นิพพานทเ่ี ปนโอฬาริกะไมมี มแี ตส ขุ มุ ะอยางเดยี ว ฉะนนั้ จงึ เปนขันธไ มได ๔. นิพพานทเ่ี ปน หีนะไมม ี เปนปณตี ะอยางเดียว ฉะนนั้ จงึ เปนขนั ธไ มไ ด ๕. นพิ พานท่ีเปน สนั ตกิ ะไมม ี เปน ทรู ะอยางเดยี ว ฉะนัน้ จึงเปนขันธไ มได ทีก่ ลาววา นพิ พานเปน กาลวิมตุ ต พหิทธะ สขุ ุมะ ปณีตะ ทรู ะ เหลาน้ี ก็ไมเ รียกวา นพิ พานมี ๕ ประเภท แตคงเปนอันหนึ่งอันเดยี วกนั คอื นพิ พานท่ีเปนกาลวมิ ตุ ตน ั้นเอง ก็เปน พหิทธะ สขุ มุ ะ ปณตี ะ ทูระ ดว ย เม่ือนพิ พานเปน ขนั ธไ มได จึงชอื่ วา เปน ขนั ธวมิ ตุ ต ๑๐. ทา นกลา ววา นพิ พานเปน ขนั ธวมิ ุตน้นั เพราะเหตใุ ด ? ใหย กเหตผุ ลอธบิ ายโดยละเอียด ? 44/1, 52/2, 54/2, 58/2, 61/1 ตอบ ที่ทา นกลาววา นิพพาน เปนขันธวมิ ตุ น้นั เพราะเหตวุ า ไมม ีประเภททตี่ า งกนั กลา วคือ นพิ พานไมมปี ระเภทแหง ปจ จบุ นั อดีต อนาคต มีแตก าลวมิ ตุ อยา งเดยี ว, นิพพานเปนอัชฌตั ตะไมม เี ปนพหทิ ธะอยางเดยี ว, นิพพานเปน โอฬาริกะไมมเี ปน สขุ ุมะอยางเดียว, นิพพานเปน หนี ะไมม ี เปน ปณตี ะอยางเดียว, นิพพานเปน สนั ตกิ ะไมม ี เปนทรู ะอยา งเดียว ฉะนั้นจึงเปน ขันธไ มไ ด ทก่ี ลา ววานพิ พานเปนกาลวมิ ตุ พหทิ ธะ สขุ มุ ะ ปณีตะ ทูระเหลา น้ีก็ไมเรยี กวา นิพพานมี ๕ ประเภท แตคงเปน อนั หนง่ึ อันเดยี วกัน คือ นิพพานทเี่ ปน กาลวมิ ตุ นัน้ เอง กเ็ ปนพหทิ ธะ สุขมุ ะ ปณตี ะ ทรู ะดว ย ๑๐. ธรรมที่เปน ความจรงิ ของพระอรยิ เจา ทงั้ หลาย มชี อื่ เรยี กวา อะไร ? ใหแ สดงมาพรอ มทงั้ ความหมายและองคธ รรม? 43/2, 46/2, 47/2 ๑๐. ข. ใหแ สดงอริยสจั จะ ๔ พรอ มทัง้ ความหมายและองคธรรม ? 56/2, 60/1, 62/2 ตอบ ธรรมท่เี ปนความจรงิ ของพระอริยเจา ทัง้ หลาย มีชอื่ เรยี กวา อริยสจั จะ แสดงพรอมท้ังความหมายและองคธ รรมดงั น้ี อรยิ สจั จะมี ๔ คอื / อรยิ สัจจะ มี ๔ อยา ง คอื ๑. ทกุ ขสจั จะ ธรรมท่เี ปนทกุ ข เปน ความจริงของพระอริยเจาท้ังหลาย องคธรรมไดแก โลกียจติ ๘๑ เจตสกิ ๕๑ (เวน โลภะ) รูป ๒๘ ๒. สมุทยสจั จะ ธรรมทีเ่ ปนเหตใุ หเ กดิ ทุกข เปนความจรงิ ของพระอรยิ เจา ทั้งหลาย องคธรรมไดแ ก โลภเจตสกิ ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจาก ขอความเพิ่มเติมท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว)

๓. นิโรธสจั จะ ~ 38 ~ ๔. มรรคสัจจะ ธรรมทีเ่ ปน เครอ่ื งดับทกุ ข เปนความจรงิ ของพระอรยิ เจาทั้งหลาย องคธ รรมไดแ ก นิพพาน ธรรมทเ่ี ปน เหตุใหถ งึ ความดับทกุ ข เปนความจรงิ ของพระอริยะเจาทัง้ หลาย องคธรรมไดแ ก มคั คงั คเจตสิก ๘ ดวง มีปญ ญาเจตสิกเปนตน ทใ่ี นมรรคจติ ๔ ๑๐. จงจาํ แนก อรยิ สจั จ ๔ โดยเหตุ ผล และโลกยี ะ โลกตุ ตระ เปน ตน ? 46/1, 47/1, 48/1, 48/2, 49/1, 49/2, 50/1, 50/2, 53/2(10ข), 57/1, 61/2 ตอบ (ข.) จําแนกอรยิ สัจจ ๔ โดยเหตุ ผล และ โลกียะ โลกุตตระ เปนตน นนั้ มีดงั น้ี ทกุ ขสจั จ เปน ผล สมุทยสจั จ เปน เหตุ นโิ รธสัจจ เปนผล มรรคสจั จ เปนเหตุ ทุกขสจั จ ท้ัง ๒ นี้ เปน โลกียธรรม โลกียสจั จะ สมทุ ยสัจจ นิโรธสัจจ ทง้ั ๒ นี้ เปนโลกุตตรธรรม โลกตุ ตรสจั จะ มรรคสจั จ ทกุ ขสจั จะ เปน สจั จะท่มี คี วามเปนไปอยูในวัฏฏสงสาร ชอื่ วา ปวตั ติสจั จะ สมุทยสจั จะ เปน สจั จะท่เี ปน เหตใุ หทุกขสจั จะเกดิ ข้นึ เปนไปอยใู นวฏั ฏสงสาร ชือ่ วา ปวตั ติเหตสุ ัจจะ นิโรธสัจจะ เปน สัจจะทถ่ี อยอออกจากวฏั ฏทกุ ข ช่อื วา นวิ ตั ติสัจจะ มรรคสัจจะ เปน สจั จะท่ีเปน เหตุใหถ ึงความถอยออกจาก วัฏฏทุกข ชอื่ วา นิวัตติเหตสุ ัจจะ ๑o. ก. จงแสดงการเห็นแจง ในอรยิ สจั จ ทงั้ ๔ โดยกจิ ทง้ั ๔ ? 62/1 ตอบ ก. การเห็นแจงในอรยิ สัจจ ท้งั ๔ โดยกจิ ทง้ั ๔ คือ ๑. เหน็ แจงใน ทกุ ขสจั จะ โดย ปริญญากจิ ๒. เห็นแจงใน สมุทยสัจจะ โดย ปหานกจิ ๓. เหน็ แจงใน นิโรธสัจจะ โดย สัจฉิกรณกิจ ๔. เหน็ แจงใน มรรคสัจจะ โดย ภาวนากจิ ๑๐. ข. จงแสดงความดาํ รชิ อบทช่ี อื่ วา สมั มาสงั กปั ปะ มเี ทาไร? อะไรบา ง ? 62/1 ตอบ ข. สมั มาสังกปั ปะ ความดาํ ริชอบ มี ๓ คอื ๑. นกิ ขฺ มสงกฺ ปปฺ ความดาํ ริที่ออกจากกามคุณอารมณ ๒. อพยฺ าปาทสงฺกปปฺ ความดาํ ริท่ีประกอบดวยเมตตา ๓. อวหิ งฺสาสงฺกปปฺ ความดําริท่ีประกอบดวยกรุณา เหลาน้ชี อื่ วา สมั มาสังกปั ปะ ๑๐. ในวตั ถธุ รรม ๗๒ นนั้ วตั ถธุ รรมทแี่ สดงไวใ น อกศุ ลสงั คหะ มสิ สกสงั คหะ โพธปิ ก ขิยสงั คหะ สพั พสังคหะ แตล ะหมวด มจี าํ นวนเทา ใด คอื อะไรบา ง ? 51/1, 53/1, 54/1, 56/1, 60/2 ตอบ ในวตั ถธุ รรม ๗๒ นัน้ วัตถธุ รรมท่ีแสดงไวในอกศุ ลสงั คหะ มี ๑๔ คือ อกศุ ลเจตสกิ ๑๔ ดาวนโหลดขอมลู ตางๆไดจ าก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

วตั ถธุ รรมทแ่ี สดงไวใ นมสิ สกสังคหะ ~ 39 ~ วตั ถธุ รรมท่แี สดงไวใ นโพธปิ ก ขยิ สงั คหะ วัตถธุ รรมที่แสดงไวใ นสัพพสงั คหะ มี ๓๖ คอื จิต ๑ เจตสกิ ๒๖ รปู ๙ มี ๑๔ คอื จติ ๑ เจตสกิ ๑๓ มี ๗๒ คือ จิต ๑ เจตสิก ๕๒ นิปผนั นรูป ๑๘ นพิ พาน ๑ ๑๐. ในฐานะท่ี นกั ศกึ ษาไดศ กึ ษา พระอภิธรรมมาได ๑ ปแ ลว คดิ วา จะนาํ ธรรมะไปใชใ นชวี ิตประจาํ วนั ไดอ ยางไร ? ใหเ ขยี นเลา มาอยา งนอ ย ๕ บรรทดั ? 44/2 ตอบ แลวแตน กั ศกึ ษาจะเขยี นตอบ **************************** สง่ิ ทีส่ าํ คญั คือการเขาศกึ ษากบั อาจารยผสู อน เพือ่ ความรคู วามเขาใจที่ ถกู ตอ ง แจมแจง หากสงสัยจะไดส อบถามทันที การรวบรวมขอ สอบทเ่ี คยออก มาแลว นี้ เปนเพียงแนวทางสําหรับผศู ึกษา นํามาเนน+ทรงจาํ ไว (เม่อื ไดชือ่ วา ศกึ ษาแลว ก็ควรทรงจําใหไดม ากท่ีสดุ หรือทง้ั หมด จงึ จะชื่อวา สตุ ะดวยดี เพือ่ การจนิ ตาและภาวนาตอไป) ขอ มลู ของช้ันจฬู อาภิธรรมกิ ะโทน้ี เปน พน้ื ฐานของชัน้ สงู ขัน้ ไป จนถึงจบมหา อาภธิ รรมกิ ะเอก ดังนน้ั ควรทรงจาํ ไวใหม ากท่ีสุด (ตามเนอื้ หาหลกั สตู ร) หรอื นอยทส่ี ดุ กค็ วรจะทรงจําขอ สอบท่ีเคยออกมาแลว ท้งั หมด การสอบไมใชท่สี ุดของชวี ิต แตขอใหต ั้งจติ ศกึ ษาและทรงจาํ เพ่อื ธาํ รงและรักษาไวซ ่ึงพระศาสนา รูอ รรถะและพยญั ชนะ ทัง้ เขา ใจและเขา ใหถงึ ธรรมะ แมย งั มิบรรลคุ ณุ ธรรมอนั สงู ถงึ ขน้ั อรยิ ะ กข็ อจงเปน ผูร ธู รรมะ (ตามสมควร) และจงเปนผมู ี ธรรมะ วายเมเถว ปรุ โิ ส ยาว อตฺถสสฺ นปิ ปฺ ทา เกดิ เปนคนควรจะพยายาม จนกวา จะประสบความสาํ เรจ็ สําเนาประกอบการเรียนหรือแจกโดยไมต องขออนุญาต (สงวนสทิ ธิ์ในการจาํ หนา ย) ผดิ ตกขออภยั และกรุณาแจงดวยคะ ท่ี 081-860-2466, fb: Kanrasi Sengking, E-mail: [email protected], [email protected] ขออนุโมทนาในการศึกษาธรรมะ และทุกๆกศุ ลท่ีทานกระทาํ ไวด แี ลว และทีจ่ ะกระทําในอนาคต ใหเรานนั้ มปี จจัยถึงพรอ มเพื่อการทาํ กุศลใหส ําเร็จโดยสะดวก งา ยดาย และเร็วไว จนถงึ มคั คกุศล โดยเรว็ พลันเทอญ ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆไดจ าก ขอความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

~ 40 ~ ขอ สอบสมั ภาษณพ ระอภธิ รรม ภาคเรยี นท่ี ๑-๒ ปก ารศกึ ษา ๒๕๔๓-๒๕๖๓ อภธิ รรมโชตกิ ะวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ชนั้ จูฬอาภธิ รรมกิ ะโท สอบวนั อาทติ ยท ี่ ........ มถิ นุ ายน / ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕... วชิ า : ปกิณณกสงั คหะ สมจุ จยสงั คหะ ๕ ขอ ๒๕ คะแนน เวลา ๑๕ นาที ขอ ความเบือ้ งตน ๑. จงแสดงคาถาสงั คหะ ทงั้ บาลแี ละคาํ แปล ? [P001] 46/2ส, 50/1ส, 57/1ส, 57/2ส, 58/2ส, 61/1, 62/1 ๑. จงแสดงมาตกิ าทง้ั ๖ และคาํ ปฏญิ ญานน้ั แสดงวา อยา งไร ? ใหแ ปลมาดว ย ? 49/1ส, 58/1ส ตอบ คาถาสังคหะ / คาถาแสดงมาตกิ าทง้ั ๖ และคําปฏญิ ญา ๑. สมปฺ ยุตฺตา ยถาโยคํ เตปฺ าส สภาวโต จติ ฺตเจตสกิ า ธมฺมา เตสนทฺ านิ ยถารหํ ๒. เวทนาเหตุโต กจิ จฺ - ทฺวาราลมพฺ นวตฺถโุ ต จติ ฺตุปปฺ าทวเสเนว สงคฺ โห นาม นียเต สภาวธรรม ๕๓ คอื จิต และเจตสกิ ช่ือวา นามเตปฺ าส วาโดยลักษณะของตน ๆ ประกอบดว ย เอกุปปฺ าทตา เปนตน ตามท่ีประกอบได ดงั แสดงแลว โดยพสิ ดาร (ในปริจเฉทท่ี ๒) บดั น้ี ขาพเจาจะแสดงปกิณณกสงั คหะของจิต และเจตสกิ วาดว ยอํานาจแหงการเกิดขึ้นของจิตโดย ประเภทแหงเวทนา เหตุ กิจจ ทวาร อารมณ และวัตถุตามสมควร ๑. ก. ปรจิ เฉทท่ี ๓ เรยี กวา ปกณิ ณกสงั คหะนั้น เพราะเหตใุ ด ? 44/2ส, 43/2ส, 45/1ส, 48/1ส, 49/2ส, 50/2ส, 51/2ส, 61/2 ตอบ ก. ปรจิ เฉทท่ี ๓ เรียกวา ปกณิ ณกสงั คหะนน้ั เพราะเหตุวา การแสดงสงเคราะหจ ติ เจตสิก โดยเรย่ี รายท่ัวไป คอื แสดงสงเคราะหโดยประเภทแหง เวทนาบาง เหตบุ า ง กิจบาง ทวารบา ง อารมณบ าง วตั ถุบาง เพราะเหตุน้ี ปริจเฉทท่ี ๓ จงึ เรยี กวา ปกิณณกสังคหะ ฯ ๑. (ก.) ใหแ สดงมาตกิ าทง้ั ๖ พรอ มดว ยความหมาย ? [P001] 44/1ส, 45/1ส, 45/2ส, 47/1ส, 47/2ส, 48/1ส(1ข), 50/2 ส(1ข), 51/1ส, 52/1ส, 52/2ส, 53/1ส, 53/2ส, 54/1ส, 54/2ส, 55/1ส, 55/2ส 56/1ส, 56/2ส, 59/2ส, 60/1ส, 60/2ส, 62/1ส, 62/2ส, 63/2ส ตอบ ก. แสดงมาติกาท้งั ๖ พรอ มดวยความหมาย มีดงั นี้ ๑. เวทนาสงั คหะ การแสดงสงเคราะห จิต เจตสกิ โดยประเภทแหงเวทนา ๓ หรอื ๕ ๒. เหตสุ งั คหะ การแสดงสงเคราะห จิต เจตสกิ โดยประเภทแหงเหตุ ๖ ๓. กิจจสงั คหะ การแสดงสงเคราะห จิต เจตสกิ โดยประเภทแหงกิจ ๑๔ และฐาน ๑๐ ๔. ทวารสงั คหะ การแสดงสงเคราะห จิต เจตสกิ โดยประเภทแหงทวาร ๖ ๕. อารมั มณสังคหะ การแสดงสงเคราะห จิต เจตสกิ โดยประเภทแหงอารมณ ๖ ดาวนโหลดขอ มูลตางๆไดจ าก ขอ ความเพม่ิ เติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

๖. วตั ถุสังคหะ ~ 41 ~ การแสดงสงเคราะห จิต เจตสกิ โดยประเภทแหงวตั ถุ ๖ ๑. ข. นามเตปฺ าส คือสภาวธรรม ๕๓ นั้น ไดแ กอ ะไร ? และใหแ สดงประเภทของเวทนาโดยนัย ทง้ั ๒ มาดว ย ? [P002] 44/1ส, 47/2ส, 51/1ส, 52/1ส, 54/1ส, 54/2ส, 56/1ส, 60/2ส ตอบ ข. นามเตปฺ าสคอื สภาวธรรม ๕๓ นน้ั ไดแกจติ ทัง้ หมดวา โดยลกั ษณะแลวนับรวมเปน ๑ เจตสกิ ๕๒ และประเภทของเวทนาโดยนัยทงั้ ๒ นั้น คอื ๑. อารมั มณานภุ วนลักขณนัย คือ อาการเปนไปแหงการเสวยอารมณ ๒. อินทรยิ เภทนัย คอื การเปน ใหญ เปน ผูปกครอง ๑. ข. คาํ วา นามเตปญ ญาส คอื สภาวธรรม ๕๓ นนั้ ไดแ กอ ะไร มวี ธิ นี บั อยา งไร ใหอ ธบิ ายโดยสงั เขป ? 52/2ส ตอบ ข. คําวา นามเตปญ ญาส คอื สภาวธรรม ๕๓ นัน้ ไดแก จติ ๑ เจตสกิ ๕๒ นี้ นบั ดว ยลกั ษณะ อาการของตนๆ คอื จิต ๘๙ นน้ั เม่ือวา โดยลกั ษณะแลว มลี กั ษณะอยา งเดียวคอื มกี ารไดร บั อารมณอ ยเู สมอ เปนลักษณะเหมือนกนั หมด (อารมมฺ ณวชิ านนลกขฺ ณา) ฉะนั้น จึงนับเปน ๑ สว น เจตสกิ ๕๒ ดวงน้นั มีลกั ษณะของตนโดยเฉพาะๆ ไมเหมอื นกนั เชน ผสั สเจตสกิ มีลกั ษณะ กระทบอารมณ (ผุสนลกขฺ ณา) เวทนาเจตสกิ มีลกั ษณะเสวยอารมณ (อนุภวนลกฺขณา) ดงั น้ีเปนตน ฉะนน้ั เมอื่ รวมจติ และเจตสกิ เขาแลว จงึ เรียกวา นามเตปญ ญาส คือ สภาวธรรม ๕๓ เวทนาสงั คหะ ๑. ข. ใหแ ปลคาถาดงั ตอ ไปน้ี ? [P003] 43/2ส, 44/2ส, 49/2ส, 51/2ส, 59/1ส(ก), 61/2 สขุ ํ ทกุ ฺขมเุ ปกฺขาติ ตวิ ธิ า ตตถฺ เวทนา โสมนสสฺ ํ โทมนสฺส มติ ิ เภเทน ปจฺ ธา ? ตอบ ข. คาถานแ้ี ปลความวา ในเวทนาสงั คหะน้ัน วา โดย อารมั มณานภุ วนลักขณะ คือ ลักษณะแหงการ เสวยอารมณแ ลว มีเวทนา ๓ อยาง คือ ๑. สุขเวทนา ๒. ทกุ ขเวทนา ๓. อุเบกขาเวทนา วาโดย อินทริยเภท คอื ประเภทแหง อินทรยี แ ลว มีเวทนา ๕ อยาง คอื ๑. สขุ เวทนา ๒. ทกุ ขเวทนา ๓. โสมนัสสเวทนา ๔. โทมนสั สเวทนา ๕. อุเบกขาเวทนา ๑. จงใหค าํ อธบิ ายความเปน ไปแหง ประเภทเวทนา ๓ มาดู ? [P004] 46/1ส ตอบ ความเปนไปแหงประเภทเวทนา ๓ มีดังนี้ การเสวยอารมณของสัตวทั้งหลายนั้นยอมมีอยู ๓ อยาง ดวยกนั คอื ๑. ในขณะที่เสวยอารมณอ ยนู ้ัน บางทีก็รสู ึกสบาย เรยี กวา สุขเวทนา ๒. ในขณะทเ่ี สวยอารมณอยนู นั้ บางทกี ็รสู ึกไมส บาย เรียกวา ทุกขเวทนา ๓. ในขณะทเ่ี สวยอารมณอยูนัน้ บางทกี ็รสู ึกเฉยๆ ไมใชสขุ ไมใชทุกข เรยี กวา อเุ บกขาเวทนา ๑. ข. จงจาํ แนกจติ ๑๒๑ โดยเวทนา ? [P005] 47/1ส, 55/2ส ตอบ ข. จําแนกจติ ๑๒๑ โดยเวทนา ๓ ดังนี้ คือ ๑. จติ ทเี่ กิดพรอมดวยสขุ เวทนา มี ๖๓ คอื สขุ สหคตกายวญิ ญาณจติ ๑ โสมนัสสสหคตจิต ๖๒ ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจาก ขอ ความเพิ่มเติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

~ 42 ~ ๒. จติ ที่เกิดพรอมดว ยทุกขเวทนา มี ๓ คือ ทุกขสหคตกายวญิ ญาณจติ ๑ โทสมูลจิต ๒ ๓. จิตทีเ่ กดิ พรอมดวยอุเบกขาเวทนา มี ๕๕ คือ อุเบกขาสหคตจิต ๕๕ ๒. ก. เจตสกิ ทเี่ กดิ พรอ มดว ยเวทนาอยา งเดียว มเี ทา ไร คอื อะไรบา ง ? ใหบ อกช่ือเวทนามาดว ย ? [P005] 50/1ส ตอบ ก. เจตสกิ ทเ่ี กดิ พรอ มดวยเวทนาอยางเดยี ว มี ๖ คือ โทจตกุ เจตสกิ ๔ เกิดพรอ มดว ย โทมนสั เวทนาอยา งเดยี ว, ปตเิ จตสิก ๑ เกดิ พรอ มดวย โสมนัสเวทนาอยา งเดยี ว, วิจกิ จิ ฉาเจตสกิ ๑ เกดิ พรอ มดวย อเุ บกขาเวทนาอยางเดยี ว เหตสุ ังคหะ ๒. ก. คาํ วา เหตุ หมายความวา อยา งไร ? ผล ทเี่ กดิ จากเหตุนนั้ ไดแ กอ ะไร ? 46/2ส, 47/2ส, 49/1ส, 51/2ส, 53/2ส, 56/1ส, 55/1ส, 56/1ส, 57/1ส, 59/1ส(ข), 60/2ส, 61/1ส, 62/1ส, 62/2ส ๑. ก. คาํ วา “เหตุ” หมายความอยา งไร ? 43/1ส, 50/1ส(1ข) ข. ผลทเ่ี กดิ จากเหตนุ น้ั ไดแ กอ ะไรบา ง ? 43/1ส ตอบ ก. คําวา เหตุ หมายความวา เปน ธรรมที่ใหผ ลเกดิ ขึน้ และใหผ ลธรรมนั้นตง้ั ม่นั ในอารมณและใหเจริญ ข้ึนได ผลท่ีเกิดจากเหตนุ ั้น ไดแ กกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทีเ่ ปนกุศลบา ง อกุศลบาง อพยากตะบา ง ๒. ก. เหตเุ มอื่ จาํ แนกโดย อกศุ ล กศุ ล อพยากตแลว มเี ทา ไร คืออะไรบา ง ? 44/1ส, 44/2ส, 45/2ส, 59/1ส ตอบ ก. เหตุเมอื่ จําแนกโดยอกศุ ล กุศล อพยากตแลวมี ๙ คอื อกุศลเหตมุ ี ๓ คือ โลภเหตุ โทสเหตุ โมหเหตุ กุศลเหตมุ ี ๓ คือ อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ อพยากตเหตุมี ๓ คือ อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ ฯ ๒. ก. คาํ วา เหตุ หมายความวา อยา งไร และธรรมทีเ่ ปน เหตไุ ดน นั้ ไดแ กอ ะไรบาง ? 47/1ส, 60/1ส(3ก), 62/2ส ข. จงจาํ แนกเหตเุ หลา นน้ั มาโดยบคุ คล ๕ จาํ พวก มปี ถุ ชุ น เปนตนใหถกู ตอ งตามหลกั ? 47/1ส, 60/1ส(3ข) ตอบ คาํ วา เหตุ หมายความวา เปน ธรรมทใี่ หผลเกิดขน้ึ และใหผลธรรมนน้ั ต้งั มั่นในอารมณ และใหเจริญขึน้ ได และธรรมทเ่ี ปนเหตไุ ดนนั้ ไดแ ก เจตสกิ มีอยู ๖ คือ ๑. โลภะ ความอยากได ๒. โทสะ ความโกรธ ๓. โมหะ ความไมรู ๔. อโลภะ ความไมอ ยากได ๕. อโทสะ ความไมโกรธ ๖. ปญญา ความไมหลง คือ รู ข. ถาจาํ แนกโดยประเภทแหงบคุ คลแลวมี ๒๖ คอื เหตุทเี่ กิดในปถุ ุชน มี ๖ ไดแ ก โลภเหตุ โทสเหตุ โมหเหตุ อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ เหตทุ ี่เกิดในโสดาบนั บคุ คล มี ๖ ไดแ ก โลภเหตุ โทสเหตุ โมหเหตุ อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ เหตุท่เี กดิ ใน สกทาคามีบุคคล มี ๖ ไดแ ก โลภเหตุ โทสเหตุ โมหเหตุ อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ เหตุที่เกิดใน อนาคามีบคุ คล มี ๕ ไดแ ก โลภเหตุ อโมหเหตุ โมหเหตุ อโลภเหตุ อโทสเหตุ ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆไดจ าก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

เหตุท่เี กิดในพระอรหันต ~ 43 ~ มี ๓ ไดแ ก อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหะเหตุ ๑. ค. คาํ วา “อารมณ” ในเหตสุ งั คหะ ไดแ กอ ะไรบา ง ? 43/1ส ตอบ ค. ไดแ ก รปู เสียง กลน่ิ รส สมั ผสั สภาพธรรมท่ีเก่ียวดว ยสิ่งท่มี ชี ีวิตและไมม ชี วี ิต ชือ่ ตาง ๆ คําพูดตาง ๆ เรอื่ งราวตา ง ๆ ๒. ก. เอกเหตกุ เจตสกิ คอื เจตสกิ ประเภทไหน มจี าํ นวนเทา ใด คอื อะไรบา ง (ตามนยั อคหิตคั คหนนยั ) ? 45/1ส(2), 57/2ส ตอบ ก. เอกเหตุกเจตสกิ คอื เจตสกิ ท่ีมเี หตุ ๑ มีจํานวน ๓ ดวง คอื ๑. โลภเจตสกิ มีเหตุ ๑ คอื โมหเหตุ ๒. โทสเจตสกิ มเี หตุ ๑ คือ โมหเหตุ ๓. วจิ กิ ิจฉาเจตสิก มเี หตุ ๑ คือ โมหเหตุ ๒. ก. อโลภะ อโทสะ ทปี่ ระกอบกบั ญาณวปิ ปยตุ ตจิตนน้ั เปน เจตสกิ พวกไหน ? อโลภะ อโทสะ ทปี่ ระกอบกบั ญาณสมั ปยตุ ตจติ นนั้ เปนเจตสิกพวกไหน ? และตเิ หตกุ เจตสกิ ๓๕ ดวงนน้ั ไดแ กอ ะไรบาง เหตุ ๓ นน้ั คอื อะไร ? ใหแ สดงตามคหติ คั คหนนยั ? 43/2ส, 59/2ส ตอบ ก. อโลภะ อโทสะ ท่ปี ระกอบกบั ญาณวิปปยุตตจติ น้นั เปนเจตสกิ พวก เอกเหตุกเจตสิก อโลภะ อโทสะ ที่ประกอบกับญาณสัมปยตุ ตจิตนัน้ เปนเจตสิกพวกทวิเหตุกเจตสิก และติเหตกุ เจตสิก ๓๕ ดวงนนั้ ไดแ ก อัญญสมานเจตสกิ ๑๓ โสภณเจตสกิ ๒๒ (เวน อโลภะ อโทสะ ปญญา) ท่ปี ระกอบกบั ญาณสมั ปยตุ ตจิต เหตุ ๓ นนั้ คอื อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ ฯ ๒. ข. เมื่อจาํ แนกจติ โดยเหต๖ุ แลว มแี ต อเหตกุ จติ เอกเหตกุ จติ ทวเิ หตกุ จติ ตเิ หตกุ จติ สว นจตเุ หตกุ จติ ปญ จเหตกุ จติ ฉเหตุกจิตนน้ั ไมมี ท่เี ปนเชน นี้เพราะเหตใุ ด ? 62/2 ตอบ ข. การท่ีจตเุ หตกุ จติ ปญ จเหตุกจิต ฉเหตุกจติ ไมมนี น้ั เพราะอกุศลเหตมุ เี พียง ๓ กุศลเหตุ และ อพั ยากตเหตุนั้น กม็ ีเพียง ๓ ธรรมดาอกุศลเหตุ กับ กุศลเหตุหรือกบั อพยากตเหตนุ นั้ เกดิ ขนึ้ พรอ มกนั ในจติ ดวงเดยี วกันไมใ ด ฉะน้นั จตุเหตุกจติ ปญจเหตกุ จติ ฉเหตุกจิตจึงไมมี ๓. พระอนาคามี ยงั มคี วามโกรธอยหู รอื ไม ทราบไดอ ยา งไร ? 58/2ส(4), 62/1ส ตอบ พระอนาคามี ไมม ีความโกรธ ทราบไดจากการจําแนกเหตโุ ดยบคุ คล คือ เหตุท่เี กิดกับพระอนาคามี บคุ คล มี ๕ คอื โลภเหตุ โมหเหตุ อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ สาํ หรับตัวโทสเหตุ ซง่ึ เปนตวั เหตุท่จี ะทําให เกดิ ความโกรธน้นั ไมเ กิดกับพระอนาคามี หรอื จะพูดวาพระอนาคามีละโทสะไดเ ดด็ ขาดแลว ก็ได กิจจสงั คหะ ๒. คาํ วา กิจ ในกจิ จสงั คหะ หมายความวา กระไร ? เปน ชอื่ ของอะไร ? และกิจมจี าํ นวนเทาใด ? คอื อะไรบา ง ? ใหบ อกความหมายของกจิ นน้ั ๆ ดวย ? 43/1ส(3), 48/1ส(2ก), 52/2ส, 53/1ส, 54/1ส, 54/2ส, 61/2 ดาวนโหลดขอ มูลตางๆไดจาก ขอความเพม่ิ เติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

~ 44 ~ ตอบ คําวา กิจ ในกจิ จสังคหะน้ี หมายความวา การงานของจติ เจตสกิ ชือ่ วา กจิ 54/1ส(2) การสงเคราะหจ ติ เจตสกิ โดยประเภทแหงกจิ ชอื่ วา กิจจสงั คหะ และ กิจมีจํานวน ๑๔ คือ ๑. ปฏิสนธกิ จิ หมายความวา ทําหนา ที่ สืบตอภพใหม ๒. ภวงั คกจิ หมายความวา ทาํ หนา ท่ี รักษาภพ ๓. อาวชั ชนกิจ หมายความวา ทาํ หนาที่ พิจารณาอารมณใ หม ๔. ทสั สนกจิ หมายความวา ทําหนา ท่ี เห็น ๕. สวนกจิ หมายความวา ทําหนาที่ ไดย นิ ๖. ฆายนกิจ หมายความวา ทําหนาท่ี รกู ลนิ่ ๗. สายนกจิ หมายความวา ทาํ หนาที่ รรู ส ๘. ผสุ นกจิ หมายความวา ทาํ หนา ท่ี รถู กู ตอ ง ๙. สมั ปฏจิ ฉนกิจ หมายความวา ทําหนาท่ี รบั อารมณ ๑๐. สนั ตรี ณกจิ หมายความวา ทําหนาท่ี ไตส วนอารมณ ๑๑. โวฏฐพั พนกจิ หมายความวา ทาํ หนาที่ ตดั สินอารมณ ๑๒. ชวนกจิ หมายความวา ทาํ หนาท่ี เสพอารมณ ๑๓. ตทารัมมณกิจ หมายความวา ทําหนาท่ี รบั อารมณต อจากชวนะ ๑๔. จตุ กิ จิ หมายความวา ทําหนา ที่ สน้ิ จากภพเกา ๓. คาํ วา กิจ ในกจิ จสงั คหะ หมายความวา กระไร ? เปน ชอ่ื ของอะไร ? กจิ มจี าํ นวนเทาใด ? คอื อะไรบา ง ? บอกเฉพาะชอ่ื กจิ ? 45/2ส ตอบ คําวา กจิ ในกิจจสังคหะนี้ หมายความวา การงานของจติ เจตสกิ ชือ่ วา กิจ เปนชอ่ื ของ จิต เจตสกิ กจิ มี ๑๔ คือ ๑. ปฏิสนธกิ ิจ ๒. ภวังคกิจ ๓. อาวัชชนกิจ ๔. ทสั สนกิจ ๕. สวนกิจ ๖. ฆายนกจิ ๗. สายนกิจ ๘. ผุสนกิจ ๙. สมั ปฏจิ ฉนกิจ ๑๐. สันตีรณกิจ ๑๑. โวฏฐัพพนกจิ ๑๒. ชวนกจิ ๑๓. ตทารมั มณกิจ ๑๔. จตุ ิกิจ ๓. ใหแ ปลคาถาดงั ตอ ไปนี้ ? อฎ สฏ  ตถา เทวฺ จ นวาฏ เทวฺ ยถากกฺ มํ เอก ทวฺ ิ ติ จตุ ปจฺ กิจจฺ ฏ านานิ นทิ ฺทเิ ส ? 46/1ส(1), 50/1ส, 63/2ส ตอบ คาถาน้แี ปลความวา แสดงจาํ นวนจติ โดยหนาที่และฐานตามลาํ ดบั ดังนีค้ ือ จติ ท่ีมีหนาที่ ๑ และฐาน ๑ มีจํานวน ๖๘ ดวง จติ ที่มหี นาที่ ๒ และฐาน ๒ มจี ํานวน ๒ ดวง จติ ทมี่ ีหนา ที่ ๓ และฐาน ๓ มจี าํ นวน ๙ ดวง จิตทีม่ ีหนาที่ ๔ และฐาน ๔ มีจํานวน ๘ ดวง จติ ท่มี ีหนา ท่ี ๕ และฐาน ๕ มจี ํานวน ๒ ดวง ๒. ข. จิตทม่ี หี นา ท่ี ๒ และฐาน ๒ มีจาํ นวนเทา ใด คอื อะไรบา ง ? ใหบ อกหนา ทแี่ ละฐานมาดว ย ? 44/1ส, 45/2ส ตอบ ข. จติ ทม่ี หี นาท่ี ๒ และฐาน ๒ มจี ํานวน ๒ ดวงคอื โสมนัสสันตีรณจิต ๑ มสี นั ตรี ณกจิ ตทารมั มณกิจ และ สนั ตีรณฐาน ตทารัมมณฐาน ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอ ความเพิม่ เติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

~ 45 ~ มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ มอี าวัชชนกิจ โวฏฐัพพนกิจ และ อาวชั ชนฐาน โวฏฐพั พนฐาน ฯ ๒. ข. จิตทีท่ ําหนา ทม่ี ากทส่ี ดุ มอี ยกู ด่ี วง ? เจตสกิ ทท่ี าํ หนา ท่มี ากทสี่ ดุ มอี ยกู ด่ี วง ? คอื อะไรบา ง ? ใหบ อกหนาทน่ี น้ั ๆ มาดว ย ? 43/2ส ๒. ข. จิตทที่ าํ หนา ทีม่ ากทสี่ ดุ มกี ด่ี วง คอื อะไรบา ง จงบอกพรอ มทง้ั หนา ทนี่ น้ั ๆ มาดว ย ? 44/2ส, 53/2ส, 55/1ส ๒. ข. เจตสกิ ทที่ าํ หนา ที่มากท่สี ดุ นั้น มกี ด่ี วง ? คอื อะไรบา ง ? ใหบ อกหนา ทนี่ น้ั ๆ มาดวย ? 46/2ส, 47/2ส, 49/1ส, 51/1ส, 51/2ส, 56/1ส, 57/1ส, 60/2ส, 61/1ส, 62/1ส ตอบ ข. จติ ท่ีทําหนาที่มากที่สุดมี ๒ ดวง คอื อเุ บกขาสันตรี ณจิต ๒ ทาํ หนา ท่ี ๕ อยางคือ ปฏิสนธิกจิ ภวังคกจิ จุตกิ จิ สันตรี ณกิจ ตทารัมมณกิจ ตอบ ข. เจตสิกทที่ ําหนา ทมี่ ากทีส่ ดุ นั้นมี ๗ ดวงคอื สัพพจิตตสาธารณเจตสกิ ๗ ทาํ หนา ที่ ๑๔ อยางคอื ๑. ปฏิสนธกิ ิจ ๒. ภวังคกิจ ๓. อาวัชชนกิจ ๔. ทัสสนกิจ ๕. สวนกิจ ๖. ฆายนกจิ ๗. สายนกจิ ๘. ผสุ นกิจ ๙. สมั ปปฏจิ ฉนกิจ ๑๐. สนั ตีรณกจิ ๑๑. โวฏฐพั พนกจิ ๑๒. ชวนกจิ ๑๓. ตทารัมมณกจิ ๑๔. จุติกจิ ฯ ทวารสังคหะ ๓. ก. คาํ วา ทวาร แปลวา อะไร มกี อี่ ยา งคอื อะไรบา ง และใหบอกองคธ รรมของทวารนั้น ๆ มาดวย ? 52/2ส, 58/1ส(2ก) ตอบ ก. คําวาทวารแปลวา ประตูสําหรบั เปนท่ีเขาออกของคนท้ังหลาย มีจกั ขุปสาทเปน ตน ช่ือวา ทวาร เพราะเหมอื นหนง่ึ ประตู ซ่ึงเปนท่เี ขาออกของวถิ ีจติ ท้ังหลาย มี ๖ คอื ......... ๓. คาํ วา ทวาร ในทน่ี ้ีหมายความวา อยา งไร (แปลวา อะไร) ? และมกี อี่ ยา ง คอื อะไรบาง ? ใหบ อกองคธ รรมของทวารนนั้ ๆ มาดว ย ? 45/1ส(3ก), 47/1ส, 57/1ส ตอบ คําวา ทวาร ในทีน่ หี้ มายความวา ประตู ซึ่งเปน ที่เขา ออกของวิถีจติ ทัง้ หลาย เหมือนหน่งึ ประตู สําหรับเปนที่เขา ออกของคนทง้ั หลาย มี ๖ อยาง คอื ๑. จกั ขุทวาร องคธรรมไดแก จกั ขุปสาท ๒. โสตทวาร องคธรรมไดแ ก โสตปสาท ๓. ฆานทวาร องคธ รรมไดแก ฆานปสาท ๔. ชวิ หาทวาร องคธ รรมไดแก ชิวหาปสาท ๕. กายทวาร องคธ รรมไดแ ก กายปสาท ๖. มโนทวาร องคธ รรมไดแ ก ภวงั คจิต ๑๙ ๓. ทวารวมิ ตุ ตจติ คอื จติ อะไร ? มจี ํานวนเทา ไร ? อะไรบา ง ? และใหแ สดงความหมายวาจติ เหลา นน้ั ทาํ หนา ทอ่ี ยางไร ? 44/1ส ตอบ ทวารวมิ ตุ ตจิต คอื จิตที่พน จากทวารทั้ง ๖ ได มี ๑๙ ดวง คือ อเุ บกขาสันตีรณจิต ๒ มหาวปิ ากจิต ๘ มหัคคตวิปากจติ ๙ จิต ๑๙ ดวงนี้ ในขณะทาํ หนาที่ปฏสิ นธิ ภวังค จุติ เปนทวารวิมตุ ต หมายความวา ขณะ ทาํ หนาทีป่ ฏสิ นธิ และจตุ ินนั้ ตัวเองยังไมไ ดเปน มโนทวาร เพราะไมมวี ถิ จี ิตเกิดขึน้ อารมั มณสังคหะ ๒. ก. ใหแสดงความแตกตา งกนั ระหวา งคาํ วา อารมั มณะ กบั คาํ วา อาลมั พนะ ? 49/2ส, 52/1ส, 61/2(3ก) ดาวนโหลดขอ มลู ตางๆไดจ าก ขอความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)

~ 46 ~ ตอบ ก. ความหมายแตกตา งกนั ระหวา งคาํ วา อารมั มณะ กับ อาลมั พนะ คือ อารมั มณะ หมายความวา ธรรมชาตทิ ่ีเปนทีย่ นิ ดีของจิต เจตสกิ ทงั้ หลาย เสมือนหนึง่ สวนดอกไมอนั เปนทีย่ ินดีของคนท้ังหลาย อาลมั พนะ หมายความวา ธรรมชาติอนั เปนเครื่องยดึ เหน่ียวของจติ เจตสกิ ท้ังหลาย เหมอื นไมเทา หรือเชอื ก อันเปน เคร่อื งยดึ เหนยี่ วของ และคนทพุ พลภาพ ๓. ให (จง) แปลคาถาดงั ตอ ไปนี้ ? ปจฺ วีส ปรติ ตฺ มหฺ ิ ฉ จติ ตฺ านิ มหคคฺ เต เอกวสี ติ โวหาเร อฏ นพิ พฺ านโคจเร 44/2ส(4), 46/2ส, 49/1ส, 51/1ส, 54/1ส, ตอบ (ก.) คาถานี้แปลวา / แปลคาถาดังตอไปนี้ จติ ๒๕ ดวง คอื ทวปิ ญ จวิญญาณจิต ๑๐ มโนธาตุ ๓ สนั ตีรณจติ ๓ มหาวิปากจติ ๘ หสติ ุปปาทจติ ๑ เกิดไดในอารมณ ๖ ท่ีเปนกามธรรมอยา งเดยี ว จติ ๖ ดวง คือ วิญญานัญจายตนฌานจติ ๓ เนวสญั ญานาสญั ญายตนฌานจิต ๓ เกดิ ไดในธรรมารมณท ่ีเปน มหคั คตะอยา งเดยี ว จิต ๒๑ ดวง คอื รูปาวจรจิต ๑๕ (เวน อภญิ ญาจิต ๒) อากาสานัญจายตนฌานจติ ๓ อากญิ จญั ญายตน ฌานจติ ๓ เกิดไดใ นธรรมารมณทีเ่ ปน บัญญัตอิ ยา งเดยี ว จิต ๘ ดวง คอื โลกุตตรจิต ๘ เกดิ ไดในธรรมารมณที่เปนนิพพานอยางเดียว ๒. ข. นพิ พาน กับ บญั ญตั ิ ทั้ง ๒ น้ี พนจากาลทง้ั ๓ เรยี กวา กาลวมิ ตุ อารมณ นนั้ เพราะเหตใุ ด ? 44/2ส(3), 49/2ส, 50/2ส, 52/1ส, 61/2(3ข) ๔. เหตใุ ดพระนพิ พานและบญั ญตั จิ ึงไดช่อื วา กาลวมิ ตุ ตอารมณ ? 57/2ส ตอบ (ข.) นิพพานและบญั ญตั ิ จดั เปนกาลวิมตุ อารมณน ้ัน เพราะธรรม ๒ พวกนี้เปน อสงั ขตธรรม ไมไ ด ถกู ปรงุ แตง ดวยปจ จยั ๔ ฉะนั้น การเกดิ ขน้ึ ของธรรมท้งั ๒ พวกนจี้ งึ ไมม ี เมื่อไมม กี ารเกิดขึ้นแลว ก็กลา ว ไมไดว า นพิ พาน หรอื บัญญตั เิ หลา น้ี เปนปจ จบุ ัน อดีต อนาคต จงึ เรยี กวา กาลวมิ ตุ อารมณ ๓. ข. อารมณ ๖ เมอ่ื จาํ แนกโดยประเภทใหญแ ลว มกี ปี่ ระเภท คอื อะไรบา ง ใหบ อกองคธ รรมของอารมณน น้ั ๆ มาดว ย? 45/1ส, 51/1ส, 52/2ส, 58/1ส(2ข), 59/1ส(2ข) ตอบ อารมณ ๖ เม่อื จําแนกโดยประเภทใหญแลว มี ๔ ประเภท คือ ๑. กามอารมณ องคธ รรมไดแ ก กามจติ ๕๔ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ๒. มหัคคตอารมณ \" มหัคคตจิต ๒๗ เจตสกิ ๓๕ ๓. โลกตุ ตรอารมณ \" โลกุตตรจิต ๘ เจตสกิ ๓๖ นพิ พาน ๔. บัญญัตอิ ารมณ \" สัททบญั ญัติ อตั ถบญั ญตั ิ. ๓. ใหแ สดงการจําแนกทวารกิ จติ และทวารวมิ ตุ ตจติ โดยอารมณ ๖ และกาล ? 53/2ส ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆไดจาก ขอความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว)

~ 47 ~ ตอบ แสดงการจําแนกทวารกิ จติ และทวารวิมุตตจติ โดยอารมณ ๖ ดงั นี้ คอื ๑. จกั ขทุ วารกิ จติ ๔๖ มรี ปู ารมณ ท่เี ปน ปจ จุบันอยา งเดียว ๒. โสตทวาริกจติ ๔๖ มีสัททารมณ ที่เปน ปจ จุบันอยา งเดยี ว ๓. ฆานทวารกิ จิต ๔๖ มคี ันธารมณ ที่เปนปจ จุบนั อยา งเดยี ว ๔. ชิวหาทวารกิ จติ ๔๖ มีรสารมณ ท่ีเปน ปจ จุบันอยางเดยี ว ๕. กายทวาริกจติ ๔๖ มีโผฏฐพั พารมณ ทีเ่ ปนปจจุบันอยางเดยี ว ๖. มโนทวาริกจิต ๖๗ หรือ ๙๙ มีอารมณ ๖ ท่ีเปนปจจุบนั อดตี อนาคตและกาลวิมตุ ต ตามสมควรแก อารมณ ๗. ทวารวมิ ตุ ตจติ ทเี่ กดิ ขึน้ ทําหนาทีป่ ฏสิ นธิ ภวงั ค จตุ ิ ท้ัง ๑๙ ดวงน้ี มอี ารมณห น่ึงอารมณใ ดในบรรดา อารมณทั้ง ๖ ที่เรียกวา กรรม กรรมนิมิต คตินิมิต ซ่ึงเปนปจจุบัน อดตี และบัญญัติ ทฉ่ี ทวารกิ มรณาสันนชวนะ รับเอามาจากภพกอน เม่อื ใกลจะตายเปน สวนมาก วตั ถสุ ังคหะ ๒. ข. ใหแ ปลคาถาดงั ตอ ไปน้ี ? 43/1ส(5), 52/1ส(3ก), 55/1ส(3ก), 57/2ส, 59/2(3ก) ฉวตถฺ ุ นสิ สฺ ติ า กาเม สตตฺ รเู ป จตพุ พฺ ธิ า ติวตถฺ ุ นสิ สฺ ติ า รเู ป ธาเตวฺ กา นสิ สฺ ติ า มตา. ตอบ ข. แปลคาถาดงั ตอ ไปนี้ นักศึกษาท้งั หลาย พงึ ทราบ วญิ ญาณธาตุ ๗ ทอ่ี าศยั วตั ถุรปู ๖ เกิดในกามภมู ิ ๑๑ พึงทราบวิญญาณธาตุ ๔ คือ จักขวุ ิญญาณธาตุ โสตวญิ ญาณธาตุ มโนธาตุ มโนวญิ ญาณธาตุ ที่อาศัยวัตถุรปู ๓ คอื จกั ขุวตั ถุ โสตวตั ถุ หทยวตั ถุ เกดิ ในรูปภมู ิ ๑๕ (เวนอสัญญสตั ตภูม)ิ พงึ ทราบ มโนวิญญาณธาตุ ๑ ท่ีไมได อาศยั วัตถุรปู เกดิ ในอรูปภมู ิ ๔ ๓. คาํ วา วตั ถใุ นวัตถสุ งั คหะนหี้ มายความวา อยา งไร วตั ถมุ กี อี่ ยา ง จงแสดงมาพรอ มองคธ รรม ? 59/1ส, 61/1 ตอบ คาํ วา วัตถุ ในวัตถุสังคหะน้ี หมายความวา ธรรมเปน ที่อาศัยของจติ และเจตสกิ ช่ือวาวัตถุ วตั ถุมี ๖ อยา ง คอื ๑. จักขุวตั ถุ องคธรรมไดแก จักขุปสาท ๒. โสตวัตถุ องคธ รรมไดแ ก โสตปสาท ๓. ฆานวัตถุ องคธ รรมไดแก ฆานปสาท ๔. ชิวหาวัตถุ องคธ รรมไดแก ชวิ หาปสาท ๕. กายวัตถุ องคธรรมไดแก กายปสาท ๖. หทยั วตั ถุ องคธ รรมไดแก หทยั รปู ๓. จติ ทอ่ี าศยั วตั ถรุ ปู เกดิ โดยแนน อน และไมแ นน อนมจี าํ นวนเทา ใด คอื อะไรบา ง ? 54/2ส ตอบ จติ ทอี่ าศยั วตั ถรุ ปู เกดิ โดยแนน อนมี ๔๓ ดวง คอื ปญจวญิ ญาณธาตุ ๑๐ มโนธาตุ ๓ มโนวญิ ญาณธาตุ ๓๐ ไดแ ก โทสมูลจติ ๒ สนั ตีรณจติ ๓ หสติ ปุ ปาทจติ ๑ มหาวิปากจิต ๘ รูปาวจรจิต ๑๕ โสดาปตติมรรคจติ ๑ ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอ ความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว)

~ 48 ~ จติ ท่ีอาศยั วตั ถุรูปเกดิ โดยไมแนน อนมี ๔๒ ดวง คือ โลภมลู จติ ๘ โมหมูลจิต ๒ มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ มหากศุ ลจติ ๘ มหากรยิ าจติ ๘ อรูปาวจรกศุ ลจติ ๔ อรปู าวจรกริยาจิต ๔ โลกุตตรจติ ๗ (เวน โสดาปตตมิ รรคจิต ๑) ๒. วญิ าณธาตุ ๗ คอื อะไรบา ง ใหแ สดงองคธ รรมมาดว ย ? 43/2ส(3), 45/1ส(4), 46/1ส(3), 46/2ส(4ข), 48/1ส(3), 50/2ส(3), 51/2ส, 53/1ส(3), 55/2ส, 56/1ส, 56/2ส, 60/1ส ตอบ ข. แสดงวญิ ญาณธาตุ ๗ พรอ มดวยองคธ รรม มีดังน้ี คือ ๑. จกั ขุวญิ ญาณธาตุ องคธรรมไดแ ก จกั ขุวิญญาณจิต ๒ ๒. โสตวญิ ญาณธาตุ องคธ รรมไดแก โสตวิญญาณจติ ๒ ๓. ฆานวญิ ญาณธาตุ องคธรรมไดแ ก ฆานวิญญาณจติ ๒ ๔. ชวิ หาวญิ ญาณธาตุ องคธรรมไดแ ก ชวิ หาวญิ ญาณจติ ๒ ๕. กายวิญญาณธาตุ องคธรรมไดแก กายวญิ ญาณจติ ๒ ๖. มโนธาตุ องคธ รรมไดแก สัมปฏิจฉนจิต ๒ ปญ จทวาราวัชชนจิต ๑ ๗. มโนวญิ ญาณธาตุ องคธรรมไดแ ก จิต ๗๖ หรือ ๑๐๘ (เวน ทวิปญจวญิ ญาณจิต ๑๐ มโนธาตุ ๓) ๓. ทวารมี ๖ วตั ถมุ ี ๖ ทงั้ สองอยา งน้ี องคธ รรมตา งกนั หรอื เหมือนกนั จงแสดงมาดู ? 49/2ส, 63/2ส ตอบ เหมือนกนั ก็มี ตางกันก็มี สวนท่ีเหมือนกันนั้น คอื จกั ขุทวารกบั จักขุวัตถุ องคธรรมไดแ ก จกั ขปุ สาท โสตทวารกบั โสตวตั ถุ องคธ รรมไดแ ก โสตปสาท ฆานทวารกับฆานวัตถุ องคธ รรมไดแ ก ฆานปสาท ชวิ หาทวารกับชิวหาวัตถุ องคธ รรมไดแ ก ชวิ หาปสาท กายทวารกับกายวัตถุ องคธ รรมไดแ ก กายปสาท สว นท่ตี างกันคือ มโนทวาร องคธรรมไดแ ก ภวังคจติ ๑๙, หทยั วตั ถุ องคธ รรมไดแก ทหยั รปู สมุจจยสงั คหะ ๔. ในปรจิ เฉทที่ ๗ น้ี พระอนรุ ทุ ธาจารย แสดงการรวบรวมธรรม ทมี่ สี ภาพเขา กนั ได ใหอ ยเู ปน หมวด ๆ นน้ั มชี อ่ื เรยี กวา อะไร ? มกี ห่ี มวด ? อะไรบา ง ? ใหบ อกความหมายดว ย? 50/2ส ๓. ข. ในสมจุ จยสงั คหะ มธี รรมอยกู หี่ มวด คอื อะไรบา ง ? ใหบ อกความหมายของหมวดนน้ั ๆ มาดว ย ? 55/1ส ๒. พระอนรุ ทุ ธาจารยแ สดงการจาํ แนกวัตถุธรรม ๗๒ นน้ั ออกเปน กหี่ มวด คอื อะไรบา ง ? ใหบ อกความหมายของ หมวดนน้ั ๆ ดว ย ? 58/2ส ตอบ ในปรจิ เฉทที่ ๗ น้ี พระอนรุ ทุ ธาจารย แสดงการรวบรวมธรรม ทมี่ สี ภาพเขากันได ใหอยเู ปน หมวด ๆ น้นั มชี ื่อเรยี กวา สมจุ จยสังคหะมี ๔ หมวดดวยกัน คอื ๑. อกุศลสังคหะ หมายความวา การแสดงสงเคราะหธรรมท่ีเปน ฝา ยอกศุ ลโดยสว นเดียว หมวดหนึ่ง ๒. มสิ สกสงั คหะ หมายความวา การแสดงสงเคราะหธ รรมที่เปน กุศล อกศุ ล อพยากตะ ท้งั ๓ ปนกัน หมวดหนงึ่ ๓. โพธปิ ก ขิยสังคหะ หมายความวา การแสดงสงเคราะหธรรมที่เปน ฝา ยมรรคญาณ หมวดหน่ึง ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆไดจ าก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)

~ 49 ~ ๔. สพั พสังคหะ หมายความวา การแสดงสงเคราะหจิต เจตสกิ รปู นพิ พาน ซึ่งเปน วตั ถุธรรมทั้งหมดรวมกัน หมวดหนึง่ ๓. พระอนุรทุ ธาจารย แสดงการจาํ แนกวตั ถธุ รรมทงั้ ๗๒ นนั้ แบง ออกเปน กหี่ มวด ? คืออะไรบา ง ? ใหบ อก ความหมายของหมวดนน้ั ๆ ดว ย ? 50/1ส(4ก), 52/2ส(4), 54/2ส, 55/2ส ตอบ พระอนรุ ุทธาจารย แสดงการจําแนกวตั ถุธรรม ๗๒ นั้น ออกเปน ๔ หมวด คือ .......... อกศุ ลสงั คหะ ๔. ในอกศุ ลสงั คหะนี้ มธี รรมอยูกห่ี มวด ? 45/2ส(4ก), 51/1ส(4ก), 54/1ส (4ก), 59/2(4ก) คอื อะไรบา ง ? วา โดยประเภทแลว มเี ทา ไร ? 49/2ส และคาํ วา อปุ าทาน แยกบทไดก บ่ี ท ? อะไรบาง ? มคี วามหมายอยา งไร ? เปรยี บเสมอื นอะไร ? 49/1ส ๓. คาํ วา อปุ าทาน เมอ่ื แยกบทแลว มกี บ่ี ท ? คอื อะไรบา ง ? มคี วามหมายวา อยา งไร ? เปรียบเสมือนอะไร ? และให แสดง วจนตั ถะดว ย ? 47/2ส ตอบ ก. อกศุ ลสงั คหะมธี รรมอยู ๙ หมวด คือ (อา โอ โย คนั อุ นี อนุ สัง กิ) ๑. อาสวะ ๒. โอฆะ ๓. โยคะ ๔. คนั ถะ ๕. อุปาทาน ๖. นวี รณะ ๗. อนสุ ัย ๘. สงั โยชน ๙. กิเลส (49/1ส) วาโดยประเภทแลว มี ๕๕ ประเภท ๔. ข. ใหแ สดงโอฆะ ๔ พรอ มทง้ั ความหมายและองคธรรม ? 51/1ส, 54/1ส, 59/2 ตอบ ข. แสดงโอฆะ ๔ พรอมท้งั ความหมายและองคธรรมดงั น้ี ๑. กาโมฆะ ธรรมชาตทิ ่ีเปน เครื่องทําใหส ตั วจ มอยใู นกามคุณอารมณ องคธรรมไดแ ก โลภเจตสกิ ท่ีในโลภมูลจิต ๘ ๒. ภโวฆะ ธรรมชาตทิ ี่เปน เคร่ืองทําใหสัตวจ มอยใู นรูปภพ อรปู ภพ หรือรปู ฌาน อรูปฌาน องคธรรมไดแ ก โลภเจตสกิ ทใี่ นทฏิ ฐคิ ตวปิ ปยตุ ตจิต ๔ ๓. ทฏิ โฐฆะ ธรรมชาติท่ีเปนเครอื่ งทําใหสตั วจ มอยใู นความเห็นผดิ องคธรรมไดแก ทิฏฐิเจตสกิ ท่ีใน ทฏิ ฐิคตสัมปยุตตจิต ๔ ๔. อวชิ โชฆะ ธรรมชาตทิ ่เี ปนเครอ่ื งทําใหส ัตวจ มอยใู นความหลง ความโง องคธ รรมไดแ กโ มหเจตสกิ ทใี่ นอกศุ ลจิต ๑๒ ตอบ คาํ วา อุปาทาน เมื่อแยกบทออกแลว ได ๒ บท คอื อปุ + อาทาน อปุ หมายถงึ มนั่ อาทาน หมายถึงยดึ เม่ือรวม ๒ บทเขา ดวยกันแลว หมายถึง การยึดมน่ั ในอารมณ ธรรมที่ ยดึ มนั่ ในอารมณที่เรยี กวา อุปาทาน น้ี เปรียบเสมือนหนงึ่ งูท่จี บั กบได กัดกบนัน้ ไวแนน ไมย อมปลอย ฉันใด โลภะ ทฏิ ฐิ ทง้ั ๒ ที่มสี ภาพยดึ ม่ันในอารมณ ของตน ๆ ไมยอมปลอ ย ก็ฉันน้ัน (47/2ส) ดงั แสดงวจนัตถะ วา อปุ าทียนตฺ ตี ิ = อุปาทานานิ ธรรมเหลาใด ยอ มยดึ ม่นั ในอารมณ ฉะน้นั ธรรมเหลานัน้ ชอ่ื วา อปุ าทาน ดาวนโ หลดขอ มลู ตา งๆไดจาก ขอ ความเพม่ิ เติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook