๔๘ ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๕ ๒.จาแนกลกั ษณะของเสียงขับร้องและ ลักษณะของเสยี งนกั ร้องกล่มุ ต่าง ๆ เครอ่ื งดนตรีทอี่ ยู่ในวงดนตรปี ระเภทต่าง ๆ ลกั ษณะเสียงของวงดนตรีประเภทต่าง ๆ ๓.อ่าน เขียนโน้ตดนตรไี ทยและสากล เครือ่ งหมายและสัญลักษณท์ างดนตรี ๕ ระดบั เสียง บันไดเสียง ๕ เสยี ง Pentatonic scale โนต้ เพลงในบันไดเสียง ๕ เสยี ง Pentatonic scale ๔.ใช้เคร่อื งดนตรบี รรเลงจงั หวะ และทานอง การบรรเลงเคร่ืองประกอบจังหวะ การบรรเลงทานองดว้ ยเคร่ืองดนตรี ๕.ร้องเพลงไทยหรือเพลงสากลหรือเพลง การรอ้ งเพลงไทยในอัตราจังหวะสองชนั้ ไทยสากลทเ่ี หมาะสมกบั วัย การรอ้ งเพลงสากล หรอื ไทยสากล การร้องเพลงประสานเสยี งแบบ Canon Round ๖.ดน้ สดง่าย ๆ โดยใชป้ ระโยคเพลง การสรา้ งสรรคป์ ระโยคเพลงถาม-ตอบ แบบถามตอบ ๗.ใช้ดนตรีรว่ มกบั กจิ กรรมในการแสดงออก การบรรเลงดนตรีประกอบกิจกรรมนาฏศลิ ป์ ตามจินตนาการ การสร้างสรรคเ์ สยี งประกอบการเลา่ เรื่อง ป.๖ ๑.บรรยายเพลงทฟ่ี งั โดยอาศัย องคป์ ระกอบดนตรแี ละศพั ทส์ งั คีต องคป์ ระกอบดนตรี และศัพท์สงั คตี ๒.จาแนกประเภทและบทบาทหนา้ ท่ี เครอ่ื งดนตรไี ทยแตล่ ะภาค เคร่อื งดนตรีไทยและเครื่องดนตรที ี่ บทบาทและหน้าท่ีของเคร่ืองดนตรี มาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ ประเภทของเคร่ืองดนตรสี ากล ๓.อ่าน เขียนโน้ตไทย และโนต้ สากลทานอง เครือ่ งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี งา่ ย ๆ โน้ตบทเพลงไทย อตั ราจังหวะสองช้นั โนต้ บทเพลงสากลในบันไดเสียง C Major ๔.ใช้เครอ่ื งดนตรบี รรเลงประกอบ การร้องเพลงประกอบดนตรี การรอ้ งเพลง ดน้ สด ทีม่ จี ังหวะและทานอง การสร้างสรรคร์ ปู แบบจงั หวะและทานองด้วย ง่าย ๆ เครอ่ื งดนตรี ป.๖ ๕.บรรยายความรู้สึกที่มตี ่อดนตรี การบรรยายความร้สู ึกและแสดงความคิดเห็นท่มี ี ๖.แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ทานอง ต่อบทเพลง จังหวะการประสานเสียง และคณุ ภาพเสียง เนอ้ื หาในบทเพลง ของเพลงที่ฟัง องคป์ ระกอบในบทเพลง คุณภาพเสยี งในบทเพลง ม.๑ ๑.อ่าน เขียน ร้องโน้ตไทย และโนต้ สากล เครอ่ื งหมายและสัญลกั ษณ์ทางดนตรี โนต้ บทเพลงไทย อัตราจังหวะสองช้นั
๔๙ ๒.เปรยี บเทียบเสียงรอ้ งและเสยี ง โนต้ สากล ในกุญแจซอลและฟา ในบนั ไดเสียง ของเครอื่ งดนตรีทมี่ าจากวฒั นธรรม C Major ที่ต่างกนั เสียงร้องและเสยี งของเครอ่ื งดนตรี ในบทเพลง จากวัฒนธรรมต่าง ๆ วธิ กี ารขับร้อง เครื่องดนตรีที่ใช้ ๓.รอ้ งเพลงและใชเ้ ครื่องดนตรีบรรเลง การรอ้ งและการบรรเลงเคร่ืองดนตรปี ระกอบการ ประกอบการร้องเพลงด้วยบทเพลง รอ้ ง ที่หลากหลายรูปแบบ บทเพลงพน้ื บา้ น บทเพลงปลุกใจ บทเพลงไทยเดิม บทเพลงประสานเสยี ง ๒ แนว บทเพลงรูปแบบ ABA บทเพลงประกอบการเต้นรา ๔.จดั ประเภทของวงดนตรไี ทยและ วงดนตรีพน้ื เมือง วงดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ วงดนตรีไทย วงดนตรีสากล ๕.แสดงความคดิ เหน็ ที่มตี อ่ อารมณ์ของบท การถา่ ยทอดอารมณข์ องบทเพลง เพลงทีม่ ีความเรว็ ของจังหวะ จงั หวะกับอารมณ์เพลง และความดัง - เบา แตกตา่ งกัน ความดงั -เบากับอารมณ์เพลง ความแตกตา่ งของอารมณเ์ พลง ๖.เปรียบเทยี บอารมณ์ ความร้สู กึ ในการ ฟัง ดนตรีแตล่ ะประเภท ๗.นาเสนอตวั อย่างเพลงทีต่ นเองช่นื ชอบ การนาเสนอบทเพลงทต่ี นสนใจ และอภปิ รายลกั ษณะเดน่ ท่ีทาให้งานน้นั น่าชื่นชม ช้ัน ตัวชี้วดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ม.๑ ๘.ใช้เกณฑส์ าหรับประเมินคุณภาพ การประเมินคุณภาพของบทเพลง งานดนตรหี รือเพลงท่ีฟัง คณุ ภาพดา้ นเนื้อหา คณุ ภาพดา้ นเสยี ง คุณภาพด้านองคป์ ระกอบดนตรี ๙.ใชแ้ ละบารงุ รักษาเคร่ืองดนตรี การใชแ้ ละบารุงรักษาเคร่ืองดนตรขี องตน อยา่ งระมัดระวงั และรับผดิ ชอบ ม.๒ ๑.เปรียบเทียบการใช้องคป์ ระกอบดนตรี องคป์ ระกอบของดนตรีจากแหลง่ วัฒนธรรมตา่ ง ๆ ทม่ี าจากวัฒนธรรมตา่ งกนั
๕๐ ๒.อ่าน เขียนร้องโนต้ ไทย และโน้ตสากลทีม่ ี เครือ่ งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี เคร่อื งหมายแปลงเสยี ง โนต้ จากเพลงไทยอัตราจงั หวะสองชนั้ โนต้ สากล (เครอื่ งหมายแปลงเสียง) ๓.ระบปุ จั จัยสาคัญทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ การ ปัจจัยในการสร้างสรรคบ์ ทเพลง สรา้ งสรรคง์ านดนตรี จนิ ตนาการในการสร้างสรรค์บทเพลง การถา่ ยทอดเร่ืองราวความคิด ในบทเพลง ๔.ร้องเพลง และเลน่ ดนตรเี ดี่ยวและรวมวง เทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรี การรอ้ งและบรรเลงเด่ยี ว การรอ้ งและบรรเลงเป็นวง ๕.บรรยายอารมณข์ องเพลงและความรู้สกึ ที่ การบรรยายอารมณ์และความรู้สึกในบทเพลง มตี อ่ บทเพลงท่ีฟัง ๖.ประเมิน พัฒนาการทกั ษะทางดนตรขี อง การประเมนิ ความสามารถทางดนตรี ตนเอง หลังจากการฝึกปฏบิ ตั ิ ความถกู ต้องในการบรรเลง ความแม่นยาในการอ่านเคร่ืองหมายและสัญลักษณ์ การควบคุมคุณภาพเสยี งในการร้องและบรรเลง ๗.ระบุงานอาชพี ตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ยี วข้องกับดนตรี อาชพี ทางด้านดนตรี และบทบาทของดนตรีในธรุ กิจบันเทิง บทบาทของดนตรีในธรุ กจิ บันเทงิ ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.๓ ๑. เปรียบเทียบองค์ประกอบที่ใชใ้ นงาน การเปรียบเทยี บองค์ประกอบในงานศลิ ปะ ดนตรีและงานศิลปะอน่ื การใช้องค์ประกอบในการสร้างสรรคง์ านดนตรีและ ศิลปะแขนงอน่ื เทคนิคทีใ่ ชใ้ นการสร้างสรรค์งานดนตรีและศิลปะ แขนงอน่ื ๒.ร้องเพลง เลน่ ดนตรเี ดยี่ ว และรวมวง เทคนิคและการแสดงออกในการขับร้องและ โดยเน้นเทคนิคการรอ้ ง การเลน่ การ บรรเลงดนตรเี ด่ยี วและรวมวง แสดงออก และคณุ ภาพสียง ๓.แตง่ เพลงสั้น ๆ จงั หวะง่าย ๆ อัตราจงั หวะ ๒ และ ๔ ๔๔ การประพันธเ์ พลงในอัตราจังหวะ๒และ ๔ ๔๔ ๔.อธิบายเหตผุ ลในการเลือกใช้องค์ประกอบ การเลอื กใชอ้ งค์ประกอบในการสร้างสรรค์บท ดนตรีในการสรา้ งสรรค์งานดนตรขี องตนเอง เพลง การเลือกจงั หวะเพื่อสรา้ งสรรค์ บทเพลง การเรียบเรยี งทานองเพลง
๕๑ ๕. เปรยี บเทยี บความแตกต่างระหว่าง การเปรยี บเทียบความแตกตา่ งของบทเพลง งานดนตรีของตนเองและผู้อื่น สาเนียง อตั ราจงั หวะ ๖.อธบิ ายเกย่ี วกบั อิทธพิ ลของดนตรี รปู แบบบทเพลง ทม่ี ตี ่อบุคคลและสงั คม การประสานเสยี ง เคร่อื งดนตรีทบี่ รรเลง อิทธิพลของดนตรี อิทธพิ ลของดนตรตี ่อบุคคล อิทธิพลของดนตรตี อ่ สงั คม ม.๓ ๗.นาเสนอหรอื จดั การแสดงดนตรี การจัดการแสดงดนตรีในวาระต่าง ๆ ท่ีเหมาะสมโดยการบรู ณาการกับสาระ การ การเลอื กวงดนตรี เรียนรอู้ ื่นในกลุ่มศิลปะ การเลอื กบทเพลง การเลอื กและจัดเตรียมสถานที่ การเตรยี มบคุ ลากร การเตรียมอุปกรณ์เคร่ืองมือ การจดั รายการแสดง ม.๔-๖ ๑.เปรียบเทียบรูปแบบของบทเพลงและ การจดั วงดนตรี วงดนตรีแต่ละประเภท การใช้เครือ่ งดนตรีในวงดนตรีประเภทตา่ งๆ บทเพลงทบี่ รรเลงโดยวงดนตรปี ระเภทต่างๆ ๒.จาแนกประเภทและรูปแบบของ ประเภทของวงดนตรี วงดนตรที งั้ ไทยและสากล ประเภทของวงดนตรีไทย ประเภทของวงดนตรีสากล ๓.อธบิ ายเหตผุ ลที่คนตา่ งวฒั นธรรม ปัจจยั ในการสร้างสรรค์ผลงานดนตรี ในแตล่ ะ สรา้ งสรรคง์ านดนตรีแตกต่างกัน วฒั นธรรม ความเชือ่ กับการสร้างสรรค์งานดนตรี ศาสนากบั การสร้างสรรคง์ านดนตรี วถิ ชี วี ติ กบั การสรา้ งสรรคง์ านดนตรี เทคโนโลยกี บั การสร้างสรรคง์ านดนตรี ๔.อา่ น เขยี น โน้ตดนตรีไทยและสากล เครอ่ื งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ในอตั ราจงั หวะต่าง ๆ เคร่อื งหมายกาหนดอัตราจังหวะ เคร่อื งหมายกาหนดบันไดเสยี ง โน้ตบทเพลงไทยอตั ราจงั หวะ ๒ ชั้น และ ๓ ชน้ั
๕๒ ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.๔-๖ ๕.รอ้ งเพลง หรอื เล่นดนตรีเด่ียวและ เทคนิค และ การถ่ายทอดอารมณเ์ พลงดว้ ยการ ร้อง บรรเลงเครื่องดนตรเี ดยี่ วและรวมวง รวมวงโดยเน้นเทคนิคการแสดงออก และคุณภาพของการแสดง เกณฑ์ในการประเมนิ ผลงานดนตรี ๖.สร้างเกณฑส์ าหรบั ประเมนิ คุณภาพการ คุณภาพของผลงานทางดนตรี ประพันธแ์ ละการเล่นดนตรี คุณคา่ ของผลงานทางดนตรี ของตนเองและผู้อืน่ ได้อยา่ งเหมาะสม การถ่ายทอดอารมณ์ ความรสู้ กึ ของงานดนตรจี าก แต่ละวัฒนธรรม ๗.เปรยี บเทยี บอารมณ์ และความรู้สึก ท่ีได้รับจากงานดนตรีที่มาจากวัฒนธรรม ดนตรกี ับการผอ่ นคลาย ตา่ งกัน ดนตรกี บั การพัฒนามนษุ ย์ ๘.นาดนตรีไปประยุกต์ใช้ในงานอ่ืน ๆ ดนตรกี ับการประชาสัมพนั ธ์ ดนตรกี ับการบาบดั รักษา ดนตรกี บั ธรุ กิจ ดนตรกี ับการศึกษา
๕๓ สำระที่ ๒ ดนตรี มำตรฐำน ศ ๒.๒ เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหวา่ งดนตรี ประวัติศาสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คุณคา่ ของดนตรีที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๑ ๑.เลา่ ถงึ เพลงในท้องถิน่ ท่มี าของบทเพลงในท้องถิน่ ๒.ระบุสิ่งท่ีชนื่ ชอบในดนตรที ้องถิน่ สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน ทีม่ าของบทเพลงในท้องถน่ิ เพลงโนเน ความนา่ สนใจของบทเพลงในทอ้ งถน่ิ ป.๒ ๑.บอกความสมั พันธข์ องเสยี งร้อง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ เสยี งเครอ่ื งดนตรใี นเพลงท้องถิ่น โดยใชค้ างา่ ย ๆ ความนา่ สนใจของบทเพลงในท้องถ่ิน - เพลงโนเน บทเพลงในท้องถน่ิ ลักษณะของเสียงร้องในบทเพลง ลกั ษณะของเสยี งเครื่องดนตรีทีใ่ ช้ ในบทเพลง ๒.แสดงและเข้าร่วมกจิ กรรมทางดนตรี สาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่ ในทอ้ งถิ่น บทเพลงในท้องถิ่น - ลกั ษณะของเสยี งร้องในบทเพลงโนเน - ลักษณะของเสียงเคร่ืองดนตรีทใ่ี ชใ้ นบทเพลง โนเน กจิ กรรมดนตรใี นโอกาสพเิ ศษ ดนตรีกับโอกาสสาคญั ในโรงเรยี น ดนตรกี ับวันสาคญั ของชาติ สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน กิจกรรมดนตรีในโอกาสพเิ ศษ - ปีพ่ ำทย์มอญ ป.๓ ๑.ระบุลักษณะเด่นและเอกลักษณ์ เอกลักษณข์ องดนตรใี นท้องถิน่ ของดนตรีในท้องถ่ิน ลักษณะเสยี งร้องของดนตรีในท้องถ่ิน ภาษาและเนื้อหาในบทร้องของดนตรีในท้องถิ่น เครื่องดนตรีและวงดนตรใี นท้องถิ่น
๕๔ สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่ิน เอกลกั ษณ์ของดนตรีในท้องถิ่น - ลกั ษณะเสยี งรอ้ งของดนตรใี นทอ้ งถน่ิ (เพลง รำพำขำ้ วสำร) - ภาษาและเน้ือหาในบทร้องของดนตรใี น ท้องถน่ิ (เพลงรำพำขำ้ วสำร) - เครือ่ งดนตรีและวงดนตรีในท้องถน่ิ (มอญ รำ) ๒.ระบุความสาคัญและประโยชนข์ องดนตรี ดนตรีกบั การดาเนินชีวติ ในทอ้ งถน่ิ ตอ่ การดาเนินชีวติ ของคนในท้องถ่ิน ดนตรีในชวี ิตประจาวนั ดนตรีในวาระสาคญั ป.๔ ๑.บอกแหลง่ ทีม่ าและความสัมพนั ธ์ สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ ของวถิ ีชวี ติ ไทย ทสี่ ะท้อนในดนตรี และเพลงทอ้ งถน่ิ ดนตรกี บั การดาเนนิ ชวี ติ ในท้องถน่ิ (เพลงรำพำ ขำ้ วสำร) - ดนตรีในชีวติ ประจาวัน (มอญรำ) - ดนตรีในวาระสาคญั (ป่พี ำทย์มอญ) ความสมั พนั ธข์ องวิถชี วี ติ กบั ผลงานดนตรี เน้ือหาเรอ่ื งราวในบทเพลงกบั วิถชี ีวิต โอกาสในการบรรเลงดนตรี ๒.ระบุความสาคญั ในการอนรุ ักษส์ ่งเสริม สาระการเรียนรูท้ ้องถน่ิ วัฒนธรรมทางดนตรี ความสัมพนั ธข์ องวิถีชีวติ กับผลงานดนตรี - เนอ้ื หาเร่ืองราวในบทเพลงกับวถิ ชี ีวิต(ทะแยมอญ) - โอกาสในการบรรเลงดนตรี (ปพ่ี าทย์มอญ : เพลงยกศพ) การอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมทางดนตรี ความสาคญั และความจาเป็นในการอนรุ ักษ์ แนวทางในการอนุรกั ษ์
๕๕ ชนั้ ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๕ ๑.อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหวา่ งดนตรีกับ ดนตรีกบั งานประเพณี ประเพณีในวฒั นธรรมตา่ ง ๆ บทเพลงในงานประเพณีในท้องถนิ่ บทบาทของดนตรีในแต่ละประเพณี สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ ดนตรีกับงานประเพณี - บทเพลงในงานประเพณใี นท้องถิ่น (ประเพณกี ารแหน่ างหงส์ ) - บทบาทของดนตรใี นแตล่ ะประเพณี (ป่ีพำทย์มอญ บา้ นบวั หลวง) ๒.อธบิ ายคุณค่าของดนตรที ี่มาจาก คุณคา่ ของดนตรจี ากแหล่งวัฒนธรรม วฒั นธรรมทตี่ า่ งกัน คณุ ค่าทางสังคม คณุ คา่ ทางประวัติศาสตร์ ป.๖ ๑.อธิบายเร่ืองราวของดนตรีไทย ดนตรไี ทยในประวตั ิศาสตร์ ในประวัติศาสตร์ ดนตรีในเหตุการณส์ าคญั ทางประวัตศิ าสตร์ ๒.จาแนกดนตรีทีม่ าจากยุคสมยั ท่ตี ่างกัน ดนตรีในยุคสมยั ต่าง ๆ ๓.อภิปรายอิทธพิ ลของวัฒนธรรม อทิ ธิพลของวัฒนธรรมทม่ี ีต่อดนตรี ต่อดนตรีในทอ้ งถ่นิ สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ ดนตรไี ทยในประวตั ศิ าสตร์ - ดนตรใี นเหตุการณ์สาคญั ทางประวตั ศิ าสตร์ (ปี่พำทย์มอญ บ้านบัวหลวง) - ดนตรีในยุคสมัยตา่ ง ๆ อิทธิพลของวัฒนธรรมท่ีมีต่อดนตรี (ปีพ่ ำทยม์ อญ : มอญยกศพ) ประเพณกี ารแหน่ างหงส์ ม.๑ ๑. อธิบายบทบาทความสัมพันธแ์ ละอิทธิพล บทบาทและอิทธพิ ลของดนตรี ของดนตรีที่มีต่อสังคมไทย บทบาทดนตรใี นสงั คม อทิ ธพิ ลของดนตรใี นสงั คม ๒. ระบุความหลากหลายขององคป์ ระกอบ องค์ประกอบของดนตรใี นแต่ละวฒั นธรรม ดนตรีในวฒั นธรรมต่างกัน
๕๖ ม.๒ ๑.บรรยายบทบาท และอทิ ธิพลของดนตรี ดนตรใี นวัฒนธรรมต่างประเทศ ในวฒั นธรรมของประเทศต่าง ๆ บทบาทของดนตรีในวฒั นธรรม อทิ ธิพลของดนตรใี นวัฒนธรรม ๒.บรรยายอทิ ธิพลของวฒั นธรรม เหตกุ ารณป์ ระวตั ิศาสตร์กับการเปลี่ยนแปลง ทาง และเหตุการณใ์ นประวตั ิศาสตรท์ ่มี ตี ่อ ดนตรีในประเทศไทย รปู แบบของดนตรใี นประเทศไทย การเปล่ยี นแปลงทางการเมืองกบั งานดนตรี การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีกับงานดนตรี ม.๓ ๑.บรรยายววิ ฒั นาการของดนตรีแต่ละ ยุค ประวัตดิ นตรีไทยยุคสมัยต่าง ๆ สมยั ประวตั ิดนตรตี ะวันตกยคุ สมัยตา่ ง ๆ ๒. อภิปรายลกั ษณะเดน่ ท่ที าให้งานดนตรี ปจั จัยทที่ าใหง้ านดนตรีได้รับการยอมรบั นัน้ ไดร้ บั การยอมรับ ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ม.๔-๖ ๑.วิเคราะห์รูปแบบของดนตรีไทยและดนตรี รปู แบบบทเพลงและวงดนตรไี ทยแต่ละยคุ สมัย สากลในยคุ สมยั ต่าง ๆ รปู แบบบทเพลงและวงดนตรีสากลแตล่ ะ ยุคสมยั ๒.วิเคราะหส์ ถานะทางสงั คมของ ประวตั สิ ังคตี กวี นกั ดนตรีในวัฒนธรรมต่าง ๆ ๓.เปรียบเทียบลักษณะเดน่ ของดนตรี ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวฒั นธรรม ในวฒั นธรรมต่างๆ เคร่ืองดนตรี วงดนตรี ภาษา เนอ้ื ร้อง สาเนยี ง องค์ประกอบบทเพลง ๔.อธิบายบทบาทของดนตรีในการสะท้อน บทบาทดนตรใี นการสะท้อนสงั คม แนวความคิดและค่านิยม คา่ นิยมของสงั คมในผลงานดนตรี ท่เี ปลีย่ นไปของคนในสังคม ความเชอื่ ของสังคมในงานดนตรี ๕.นาเสนอแนวทางในการส่งเสรมิ และ แนวทางและวิธีการในการส่งเสริมอนรุ กั ษด์ นตรีไทย อนุรักษ์ดนตรีในฐานะมรดกของชาติ
๕๗ สำระที่ ๓ นำฏศิลป์ มำตรฐำน ศ ๓.๑ เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศิลปอ์ ย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์ คุณคา่ นาฏศลิ ป์ ถ่ายทอดความรสู้ กึ ความคดิ อย่างอสิ ระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ ในชีวติ ประจาวัน ชัน้ ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๑ ๑.เลียนแบบการเคลื่อนไหว การเคล่ือนไหวลกั ษณะตา่ ง ๆ การเลียนแบบธรรมชาติ การเลียนแบบคน สตั ว์ สงิ่ ของ ๒.แสดงท่าทางงา่ ย ๆ เพอ่ื สื่อความหมาย การใชภ้ าษาท่า และการประดษิ ฐ์ทา่ ประกอบเพลง แทนคาพดู การแสดงประกอบเพลงที่เก่ียวกบั ธรรมชาตสิ ตั ว์ ๓.บอกสิง่ ทีต่ นเองชอบ จากการดหู รอื การเป็นผชู้ มที่ดี รว่ มการแสดง การเคล่ือนไหวอยา่ งมรี ูปแบบ ป.๒ ๑.เคล่ือนไหวขณะอยกู่ ับที่และเคลื่อนที่ การนงั่ การยนื การเดนิ ๒.แสดงการเคลื่อนไหวทส่ี ะท้อนอารมณ์ การประดษิ ฐท์ า่ จากการเคล่ือนไหวอย่างมีรปู แบบ ของตนเองอยา่ งอิสระ เพลงทเี่ ก่ยี วกับสง่ิ แวดล้อม ๓.แสดงทา่ ทาง เพ่ือสื่อความหมาย หลกั และวธิ ีการปฏบิ ตั นิ าฏศิลป์ แทนคาพูด การฝกึ ภาษาท่าสือ่ ความหมายแทนอากัปกิรยิ า การฝึกนาฏยศัพทใ์ นส่วนลาตัว ๔.แสดงทา่ ทางประกอบจังหวะ การใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์ประกอบจังหวะ อยา่ งสรา้ งสรรค์ มารยาทในการชมการแสดง การเข้าชมหรือมสี ว่ น ๕.ระบุมารยาทในการชมการแสดง รว่ ม
๕๘ ชั้น ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๓ ๑.สร้างสรรค์การเคล่อื นไหวในรูปแบบตา่ ง การเคลื่อนไหวในรปู แบบต่าง ๆ ๆ ในสถานการณส์ ั้น ๆ ราวงมาตรฐาน เพลงพระราชนพิ นธ์ สถานการณ์ส้ัน ๆ สถานการณ์ทีก่ าหนดให้ ๒.แสดงทา่ ทางประกอบเพลงตามรปู แบบ หลักและวิธกี ารปฏบิ ตั ินาฏศลิ ป์ นาฏศิลป์ การฝกึ ภาษาท่าสอ่ื อารมณ์ของมนุษย์ การฝึกนาฎยศัพท์ในส่วนขา ๓.เปรียบเทียบบทบาทหน้าที่ของผแู้ สดง หลกั ในการชมการแสดง และผู้ชม ผแู้ สดง ๔.มสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมการแสดงที่ ผู้ชม เหมาะสมกับวยั การมีส่วนรว่ ม ๕.บอกประโยชนข์ องการแสดงนาฏศิลป์ การบูรณาการนาฏศิลป์กับสาระการเรียนรู้อน่ื ๆ ในชีวติ ประจาวัน ป.๔ ๑.ระบทุ ักษะพ้นื ฐานทางนาฏศิลป์และ หลักและวิธีการปฏบิ ตั ินาฏศลิ ป์ การละครที่ใช้ส่ือความหมายและอารมณ์ การฝึกภาษาท่า การฝกึ นาฏยศัพท์ ๒.ใชภ้ าษาท่าและนาฏยศัพท์หรือศพั ท์ การใชภ้ าษาท่าและนาฏยศัพท์ประกอบเพลงปลุกใจ ทางการละครง่าย ๆ ในการถ่ายทอด และเพลงพระราชนิพนธ์ เรอ่ื งราว การใช้ศัพท์ทางการละครในการถ่ายทอดเรื่องราว ๓.แสดง การเคล่อื นไหวในจงั หวะต่าง ๆ การประดิษฐท์ า่ ทางหรอื ทา่ ราประกอบจงั หวะ ตามความคิดของตน พ้ืนเมือง ๔.แสดงนาฏศลิ ป์เปน็ คู่ และหมู่ การแสดงนาฏศลิ ป์ ประเภทคแู่ ละหมู่ ๕.เล่าสิ่งทช่ี ่ืนชอบในการแสดงโดยเน้น ราวงมาตรฐาน จดุ สาคัญของเรอ่ื งและลักษณะเดน่ ระบา ของตวั ละคร การเล่าเร่อื ง จดุ สาคญั ลักษณะเด่นของตวั ละคร
๕๙ ช้นั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๕ ๑. บรรยายองคป์ ระกอบนาฏศิลป์ องคป์ ระกอบของนาฏศลิ ป์ จงั หวะ ทานอง คาร้อง ภาษาท่า นาฏยศัพท์ อุปกรณ์ ๒.แสดงท่าทางประกอบเพลงหรอื เร่ืองราว การประดิษฐ์ทา่ ทางประกอบเพลง หรือท่าทาง ตามความคิดของตน ประกอบเรื่องราว ๓.แสดงนาฏศิลป์ โดยเน้นการใชภ้ าษาทา่ การแสดงนาฏศลิ ป์ และนาฏยศัพท์ในการสอ่ื ความหมายและ ระบา การแสดงออก ฟอ้ น ราวงมาตรฐาน ๔.มสี ว่ นร่วมในกล่มุ กบั การเขียน องคป์ ระกอบของละคร เค้าโครงเร่อื งหรอื บทละครสั้น ๆ การเลือกและเขยี นเคา้ โครงเร่ือง บทละครส้ัน ๆ ๕. เปรียบเทียบการแสดงนาฏศลิ ปช์ ุดตา่ งๆ ทมี่ าของการแสดงนาฏศิลปช์ ดุ ตา่ ง ๆ ๖.บอกประโยชน์ทไี่ ดร้ บั จากการชม หลักการชมการแสดง การแสดง การถา่ ยทอดความรูส้ กึ และคุณคา่ ของการแสดง ป.๖ ๑.สรา้ งสรรคก์ ารเคลื่อนไหวและการแสดง การประดิษฐ์ทา่ ทางประกอบเพลงปลกุ ใจหรือเพลง โดยเน้นการถา่ ยทอดลีลาหรืออารมณ์ พ้นื เมืองหรือทอ้ งถิน่ เนน้ ลีลา หรอื อารมณ์ ๒.ออกแบบเครื่องแต่งกาย หรอื อุปกรณ์ การออกแบบสร้างสรรค์ ประกอบการแสดงอย่างง่าย ๆ เคร่ืองแต่งกาย อปุ กรณ์ ฉากประกอบการแสดง ๓.แสดงนาฏศิลปแ์ ละละครงา่ ย ๆ การแสดงนาฏศิลป์และการแสดงละคร ราวงมาตรฐาน ระบา ฟอ้ น ละครสรา้ งสรรค์
๖๐ ป.๖ ๔.บรรยายความรู้สกึ ของตนเองที่มีตอ่ งาน บทบาทและหน้าที่ในงานนาฏศิลป์และการละคร นาฏศิลป์และการละครอยา่ งสรา้ งสรรค์ ๕.แสดงความคดิ เห็นในการชมการแสดง หลักการชมการแสดง การวิเคราะห์ ความรูส้ ึกชน่ื ชม ๖.อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งนาฏศลิ ป์ องคป์ ระกอบทางนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร และการละครกับส่งิ ที่ประสบ ในชีวติ ประจาวนั ม.๑ ๑.อธิบายอทิ ธพิ ลของนักแสดงชื่อดัง การปฏิบตั ขิ องผแู้ สดงและผู้ชม ที่มีผลต่อการโน้มนา้ วอารมณ์หรอื ความคิด ประวัตินกั แสดงทช่ี น่ื ชอบ ของผ้ชู ม การพฒั นารปู แบบของการแสดง อิทธิพลของนักแสดงทีม่ ผี ลตอ่ พฤติกรรมของผู้ชม ๒.ใชน้ าฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ในการแสดง ในการแสดง ภาษาท่า และการตีบท ท่าทางเคล่ือนไหวทแี่ สดงส่ือทางอารมณ์ ระบาเบ็ดเตลด็ ราวงมาตรฐาน ๓.แสดงนาฏศิลปแ์ ละละครในรปู แบบงา่ ยๆ รปู แบบการแสดงนาฏศิลป์ นาฏศลิ ป์ นาฏศลิ ป์พ้ืนบ้าน นาฏศิลปน์ านาชาติ ๔.ใช้ทกั ษะการทางานเปน็ กลุ่ม บทบาทและหนา้ ที่ของฝ่ายตา่ ง ๆ ในการจดั การ ในกระบวนการผลิตการแสดง แสดง การสร้างสรรค์กิจกรรมการแสดงที่สนใจ โดยแบง่ ฝ่ายและหนา้ ท่ีใหช้ ดั เจน ม.๑ ๕.ใช้เกณฑง์ า่ ย ๆ ท่ีกาหนดให้ในการ หลกั ในการชมการแสดง พจิ ารณาคณุ ภาพการแสดงท่ีชม โดยเนน้ เร่ืองการใช้เสียงการแสดงทา่ และ การเคลอื่ นไหว ม.๒ ๑.อธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอน่ื ๆ ศลิ ปะแขนงอืน่ ๆ กับการแสดง กับการแสดง แสง สี เสยี ง ฉาก เครื่องแต่งกาย
๖๑ อปุ กรณ์ ๒.สร้างสรรคก์ ารแสดงโดยใช้องคป์ ระกอบ หลกั และวิธีการสรา้ งสรรค์การแสดง โดยใช้ นาฏศิลปแ์ ละการละคร องค์ประกอบนาฏศลิ ป์และการละคร ๓.วเิ คราะห์การแสดงของตนเองและผู้อนื่ หลกั และวธิ ีการวิเคราะห์การแสดง โดยใช้นาฏยศัพทห์ รอื ศพั ทท์ างการละคร ท่ี เหมาะสม ๔.เสนอข้อคิดเหน็ ในการปรบั ปรงุ วธิ กี ารวเิ คราะห์ วิจารณ์การแสดง นาฏศิลป์ และ การแสดง การละคร ราวงมาตรฐาน ๕. เช่ือมโยงการเรียนรรู้ ะหว่างนาฏศลิ ป์ ความสมั พันธ์ของนาฏศลิ ป์หรือ การละครกบั สาระ และการละครกับสาระการเรียนรูอ้ ่ืน ๆ การเรยี นรูอ้ ืน่ ๆ ม.๓ ๑.ระบุโครงสร้างของบทละครโดยใชศ้ พั ท์ องค์ประกอบของบทละคร ทางการละคร โครงเรอ่ื ง ตวั ละครและการวางลักษณะนิสยั ของตัวละคร ความคดิ หรือแกน่ ของเรอื่ ง บทสนทนา ม.๓ ๒.ใช้นาฏยศพั ทห์ รือศัพท์ทางการละคร ภาษาท่าหรือภาษาทางนาฏศิลป์ ทเี่ หมาะสมบรรยายเปรยี บเทียบการแสดง ภาษาท่าท่มี าจากธรรมชาติ อากปั กริ ยิ าของผ้คู นในชวี ติ ประจาวนั และ ภาษาทา่ ทมี่ าจากการประดิษฐ์ ในการแสดง ราวงมาตรฐาน ๓.มที ักษะในการใช้ความคิดในการพฒั นา รูปแบบการแสดง รปู แบบการแสดง การแสดงเป็นหมู่ การแสดงเดย่ี ว การแสดงละคร การแสดงเปน็ ชุดเป็นตอน ๔.มีทักษะในการแปลความและ การประดษิ ฐท์ า่ ราและทา่ ทางประกอบ การสือ่ สารผ่านการแสดง การแสดง ความหมาย ความเป็นมา ท่าทางท่ีใช้ในการประดษิ ฐท์ ่ารา
๖๒ ๕.วิจารณเ์ ปรยี บเทียบงานนาฏศิลป์ องคป์ ระกอบนาฏศิลป์ ทม่ี คี วามแตกตา่ งกันโดยใช้ความรู้ จงั หวะทานอง เร่อื งองคป์ ระกอบนาฏศิลป์ การเคลอื่ นไหว อารมณ์และความรู้สกึ ภาษาท่า นาฎยศัพท์ รปู แบบของการแสดง การแต่งกาย ๖.รว่ มจัดงานการแสดงในบทบาทหนา้ ทีต่ า่ ง วธิ ีการเลือกการแสดง ๆ ประเภทของงาน ข้นั ตอน ประโยชน์และคุณคา่ ของการแสดง ๗.นาเสนอแนวคิดจากเนื้อเรอ่ื ง ละครกบั ชวี ิต ของการแสดงทส่ี ามารถนาไปปรบั ใช้ ในชวี ิตประจาวนั ชนั้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.๔- ๖ ๑.มีทักษะในการแสดงหลากหลายรปู แบบ รปู แบบของการแสดง ๒.สร้างสรรคล์ ะครสนั้ ในรปู แบบ ระบา รา ฟ้อน ทช่ี นื่ ชอบ การแสดงพน้ื เมืองภาคตา่ ง ๆ การละครไทย การละครสากล ละครสรา้ งสรรค์ ความเป็นมา องค์ประกอบของละครสร้างสรรค์ ละครพูด ละครโศกนาฏกรรม ละครสขุ นาฏกรรม ละครแนวเหมือนจริง ละครแนวไม่เหมือนจริง
๖๓ ๓.ใช้ความคดิ รเิ รมิ่ ในการแสดงนาฏศลิ ปเ์ ปน็ การประดิษฐ์ทา่ ราท่เี ปน็ คูแ่ ละหมู่ คู่ และหมู่ ความหมาย ประวตั ิความเป็นมา ทา่ ทางที่ใชใ้ นการประดษิ ฐ์ท่ารา เพลงท่ใี ช้ ๔.วจิ ารณ์การแสดงตามหลักนาฏศลิ ป์ และ หลักการสรา้ งสรรค์และการวิจารณ์ การละคร หลักการชมการแสดงนาฏศิลปแ์ ละละคร ๕.วิเคราะห์แกน่ ของการแสดงนาฏศิลปแ์ ละ ประวตั คิ วามเปน็ มาของนาฏศลิ ป์ และการละคร การละครท่ตี ้องการส่ือความหมาย ในการ วิวัฒนาการ แสดง ความงามและคุณคา่ ๖.บรรยาย และวิเคราะห์ อิทธิพลของ เทคนิคการจัดการแสดง เครอ่ื งแต่งกาย แสง สี เสียง ฉากอุปกรณ์ แสงสเี สียง และสถานที่ที่มีผลตอ่ การแสดง ฉาก อปุ กรณ์ สถานที่ เครอ่ื งแตง่ กาย ม.๔- ๖ ๗.พัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินในการ การประเมินคุณภาพของการแสดง ประเมินการแสดง คณุ ภาพด้านการแสดง คุณภาพองคป์ ระกอบการแสดง ๘.วเิ คราะห์ท่าทาง และการเคลือ่ นไหวของ ผคู้ นในชวี ติ ประจาวนั และนามาประยุกต์ใช้ การสรา้ งสรรค์ผลงานการจดั การแสดงในวันสาคัญ ในการแสดง ของโรงเรยี น ชดุ การแสดงประจาโรงเรยี น
๖๔ สำระที่ ๓ นำฏศลิ ป์ มำตรฐำน ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างนาฏศลิ ป์ ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวัฒนธรรมเห็นคณุ ค่าของนาฏศลิ ปท์ ่ี เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล ชนั้ ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๑ ๑.ระบุ และเล่นการละเล่นของเดก็ ไทย การละเลน่ ของเด็กไทย วธิ กี ารเลน่ กติกา สาระการเรียนร้ทู ้องถิ่น การละเล่นประเพณีแข่งขนั ลูกหนู - วธิ ีการเลน่ - กตกิ า ๒.บอกส่งิ ทต่ี นเองชอบในการแสดงนาฏศิลป์ การแสดงนาฏศลิ ป์ ป.๒ ๑.ระบุและเล่นการละเล่นพ้ืนบา้ น การละเลน่ พนื้ บ้าน วิธกี ารเล่น กติกา สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่ การละเลน่ ราพาข้าวสาร - วิธกี ารเลน่ - กติกา ๒.เช่ือมโยงสิ่งทีพ่ บเหน็ ในการละเลน่ พนื้ บา้ น ท่ีมาของการละเลน่ พ้นื บ้าน กบั สิง่ ท่พี บเห็นในการดารงชีวิตของคนไทย สาระการเรียนร้ทู ้องถน่ิ ๓.ระบสุ ิ่งที่ช่ืนชอบและภาคภูมิใจ ทมี่ าของการละเลน่ พนื้ บ้าน ในการละเลน่ พืน้ บา้ น - การละเลน่ ประเพณแี ขง่ ขันลกู หนู การละเลน่ พนื้ บ้าน สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ การละเลน่ พืน้ บา้ น ป.๓ การแสดงนาฏศลิ ป์พืน้ บ้านหรือท้องถ่ินของตน
๖๕ ๑.เลา่ การแสดงนาฏศิลปท์ ี่เคยเห็น สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน ในทอ้ งถน่ิ การแสดงนาฏศิลป์พน้ื บ้านหรอื ทอ้ งถิ่นของตน ๒.ระบุสงิ่ ท่ีเป็นลกั ษณะเดน่ และเอกลกั ษณ์ (มอญรำ) ของการแสดงนาฏศิลป์ การแสดงนาฏศิลป์ ลักษณะ เอกลักษณ์ ๓.อธบิ ายความสาคัญของการแสดงนาฏศลิ ป์ สาระการเรียนรทู้ ้องถนิ่ การแสดงนาฏศิลป์ (มอญรำ) ลักษณะ (มอญรำ) เอกลกั ษณ์ (มอญรำ) ท่ีมาของการแสดงนาฏศลิ ป์ สิง่ ท่เี คารพ สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น ที่มาของการแสดงนาฏศลิ ป์ (มอญรำ) ป.๔ ๑.อธิบายประวตั ิความเปน็ มาของนาฏศิลป์ ความเป็นมาของนาฏศิลป์ หรือชดุ การแสดงอยา่ งง่าย ๆ ที่มาของชุดการแสดง ๒.เปรียบเทียบการแสดงนาฏศิลป์ สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ กบั การแสดงท่มี าจากวฒั นธรรมอน่ื ความเป็นมาของนาฏศิลป์(มอญรำ) ที่มาของชุดการแสดง(มอญรำ) การชมการแสดง นาฏศลิ ป์ การแสดงของท้องถิ่น สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ การชมการแสดง - นาฏศิลป์ (มอญรำ) การแสดงของท้องถิน่
๖๖ ป.๔ ๓.อธบิ ายความสาคัญของการแสดงความ ความเป็นมาของนาฏศิลป์ เคารพในการเรยี นและการแสดงนาฏศิลป์ การทาความเคารพก่อนเรียนและก่อนแสดง ๔.ระบุเหตุผลที่ควรรักษา และสบื ทอด สาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่ การแสดงนาฏศลิ ป์ ความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์(มอญรำ) ท่มี าของชุดการแสดง(มอญรำ) ป.๕ ๑.เปรียบเทยี บการแสดงประเภทต่าง ๆ ของไทย ในแต่ละท้องถิน่ ความเป็นมาของนาฏศลิ ป์ คุณค่า การแสดงนาฏศิลปป์ ระเภทต่าง ๆ การแสดงพื้นบ้าน สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน ความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์ ทะแยมอญ ๒.ระบุหรือแสดงนาฏศลิ ป์ นาฏศิลป์พื้นบา้ น การแสดงนาฏศลิ ป์ประเภทต่าง ๆ ทสี่ ะท้อนถงึ วฒั นธรรมและประเพณี การแสดงพ้ืนบา้ น สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ ความเป็นมาของนาฏศิลป์ คุณค่าทะแยมอญ ป.๖ ๑.อธิบายสิ่งท่ีมีความสาคัญต่อการแสดง ความหมาย ความเป็นมา ความสาคญั ของนาฏศิลป์ นาฏศิลปแ์ ละละคร และละคร บคุ คลสาคญั คุณคา่ ๒.ระบุประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั จากการแสดงหรอื การแสดงนาฏศิลป์และละคร ในวนั สาคญั ของ การชมการแสดงนาฏศิลปแ์ ละละคร โรงเรียน ม.๑ ๑.ระบุปัจจัยท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงของ ปจั จยั ท่มี ผี ลต่อการเปลยี่ นแปลง ของนาฏศิลป์ นาฏศิลป์ นาฏศิลปพ์ ้ืนบา้ น ละครไทย นาฏศิลปพ์ ้นื บา้ น ละครไทย และละครพน้ื บา้ น และละครพนื้ บา้ น ๒.บรรยายประเภทของละครไทย ประเภทของละครไทยในแต่ละยคุ สมยั ในแต่ละยคุ สมยั ม.๒ ๑.เปรยี บเทยี บลกั ษณะเฉพาะของ นาฏศลิ ป์พนื้ เมือง การแสดงนาฏศลิ ป์จากวัฒนธรรมตา่ งๆ ความหมาย ที่มา วัฒนธรรม
๖๗ ลกั ษณะเฉพาะ ๒.ระบหุ รือแสดงนาฏศลิ ป์ นาฏศิลป์พนื้ บา้ น รปู แบบการแสดงประเภทต่าง ๆ ละครไทย ละครพนื้ บา้ น หรอื มหรสพอื่นท่ี นาฏศลิ ป์ เคยนยิ มกนั ในอดตี นาฏศิลป์พ้ืนเมือง ละครไทย ละครพน้ื บ้าน ม.๒ ๓.อธบิ ายอิทธิพลของวฒั นธรรมทม่ี ผี ลต่อ การละครสมยั ตา่ ง ๆ เนอ้ื หาของละคร ม.๓ ๑.ออกแบบ และสรา้ งสรรค์อุปกรณ์ การออกแบบและสรา้ งสรรค์อุปกรณ์และ และเครื่องแต่งกาย เพ่อื แสดงนาฏศิลปแ์ ละ เครื่องแต่งกายเพื่อการแสดงนาฏศลิ ป์ ละครที่มาจากวฒั นธรรมต่าง ๆ ๒.อธบิ ายความสาคญั และบทบาทของ ความสาคัญและบทบาทของนาฏศลิ ป์ และการ นาฏศลิ ป์และการละครในชวี ิตประจาวนั ละครในชวี ิตประจาวัน ๓.แสดงความคดิ เห็นในการอนุรักษ์ การอนรุ ักษ์นาฏศลิ ป์ ม.๔- ๖ ๑.เปรยี บเทียบการนาการแสดงไปใชใ้ น การแสดงนาฏศิลป์ในโอกาสตา่ งๆ โอกาสต่าง ๆ ๒.อภิปรายบทบาทของบุคคลสาคัญ บุคคลสาคัญในวงการนาฏศิลป์และ การละครของ ในวงการนาฏศิลปแ์ ละการละคร ไทยในยุคสมยั ตา่ ง ๆ ของประเทศไทยในยคุ สมยั ต่างๆ ๓.บรรยายววิ ัฒนาการของนาฏศิลป์และ ววิ ฒั นาการของนาฏศลิ ป์และการละครไทยต้งั แต่ การละครไทย ต้ังแตอ่ ดีตจนถึงปจั จุบัน อดีตจนถึงปจั จบุ ัน สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ การละครสมยั ต่าง ๆ ๔.นาเสนอแนวคดิ ในการอนุรักษ์ นาฏศิลป์ การอนรุ ักษน์ าฏศิลป์ ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ไทย
๖๘ โครงสรำ้ งหลกั สตู ร กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศิลปะ ๑.๐ หนว่ ยกิต โครงสรำ้ งหลกั สตู รชนั้ ประถมศึกษำ ๑.๐ หน่วยกิต รำยวิชำพน้ื ฐำน ๑.๐ หน่วยกิต ๒.๐ หน่วยกิต ศ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑ ช่วั โมง / สัปดาห์ ๒.๐ หนว่ ยกิต ศ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ ๑ ชั่วโมง / สปั ดาห์ ๒.๐ หน่วยกติ ศ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ ๑ ชัว่ โมง / สัปดาห์ ศ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔ ๒ ชั่วโมง / สัปดาห์ ศ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕ ๒ ช่ัวโมง / สัปดาห์ ศ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๒ ชัว่ โมง / สปั ดาห์ โครงสร้ำงหลักสูตรชั้นมธั ยมศึกษำตอนต้น รำยวชิ ำพื้นฐำน ศ๒๑๑๐๑ ดนตรี- นาฏศิลป์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ๑ ช่วั โมง / สัปดาห์ ๐.๕ หนว่ ยกิต ๑ ช่วั โมง / สัปดาห์ ๐.๕ หนว่ ยกติ ศ๒๑๑๐๒ ทัศนศิลป์ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ๑ ชว่ั โมง / สัปดาห์ ๐.๕ หน่วยกติ ๑ ช่วั โมง / สัปดาห์ ๐.๕ หน่วยกติ ศ๒๒๑๐๑ ดนตรี- นาฏศลิ ป์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ๑ ชว่ั โมง / สัปดาห์ ๐.๕ หน่วยกิต ๑ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๐.๕ หน่วยกิต ศ๒๒๑๐๒ ทศั นศิลป์ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ศ๒๓๑๐๑ ดนตรี- นาฏศลิ ป์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ศ๒๓๑๐๒ ทศั นศลิ ป์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ โครงสรำ้ งหลักสูตรช้นั มธั ยมศึกษำตอนปลำย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ๑ ชัว่ โมง / สปั ดาห์ ๐.๕ หนว่ ยกติ รำยวิชำพื้นฐำน ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ๑ ชวั่ โมง / สปั ดาห์ ๐.๕ หน่วยกติ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๕ ๑ ชัว่ โมง / สปั ดาห์ ๐.๕ หน่วยกติ ศ๓๑๑๐๑ ศลิ ปะ(ทศั นศิลป์) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ๑ ช่ัวโมง / สัปดาห์ ๐.๕ หนว่ ยกติ ศ๓๑๑๐๒ ศิลปะ(ดนตรี- นาฏศลิ ป์) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ๑ ชว่ั โมง / สปั ดาห์ ๐.๕ หน่วยกติ ศ๓๒๑๐๑ ศิลปะ(ทัศนศลิ ป์) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๖ ๑ ช่วั โมง / สัปดาห์ ๐.๕ หนว่ ยกิต ศ๓๒๑๐๒ ศิลปะ(ดนตรี- นาฏศลิ ป์) ศ๓๓๑๐๑ ศลิ ปะ(ทัศนศลิ ป์) ศ๓๓๑๐๒ ศลิ ปะ(ดนตรี- นาฏศลิ ป์)
โครงสร้ำงเวลำเรียน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปะ ๖๙ รำยวิชำ/กจิ กรรม ชน้ั เวลำเรียน (ชม./ป)ี รำยวิชำพื้นฐำน ป.๑ ๘๐ ศ ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ป.๒ ๘๐ ศ ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ ป.๓ ๘๐ ศ ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ป.๔ ๘๐ ศ ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ ป.๕ ๘๐ ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ป.๖ ๘๐ ศ ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ ม.๑ ๒๐ ศ ๒๑๑๐๑ ดนตรี- นาฏศิลป์ ม.๑ ๒๐ ศ ๒๑๑๐๒ ทัศนศลิ ป์ ม.๑ ๒๐ ศ ๒๑๑๐๓ ดนตรี- นาฏศลิ ป์ ม.๑ ๒๐ ศ ๒๑๑๐๔ ทัศนศลิ ป์ ม.๒ ๒๐ ศ ๒๒๑๐๑ ดนตรี- นาฏศลิ ป์ ม.๒ ๒๐ ศ ๒๒๑๐๒ ทศั นศิลป์ ม.๒ ๒๐ ศ ๒๒๑๐๓ ดนตรี- นาฏศิลป์ ม.๒ ๒๐ ศ ๒๒๑๐๔ ทศั นศลิ ป์ ม.๓ ๒๐ ศ ๒๓๑๐๑ ดนตรี- นาฏศิลป์ ม.๓ ๒๐ ศ ๒๓๑๐๒ ทศั นศิลป์ ม.๓ ๒๐ ศ ๒๓๑๐๓ ดนตรี- นาฏศลิ ป์ ม.๓ ๒๐ ศ ๒๓๑๐๔ ทศั นศลิ ป์ ม.๔ ๒๐ ศ ๓๑๑๐๑ ศลิ ปะ(ดนตรี- นาฏศิลป์) ม.๔ ๒๐ ศ ๓๑๑๐๒ ศิลปะ(ทัศนศลิ ป์) ม.๕ ๒๐ ศ ๓๒๑๐๑ ศลิ ปะ(ดนตรี- นาฏศิลป์) ม.๕ ๒๐ ศ ๓๒๑๐๒ ศิลปะ(ทัศนศลิ ป์) ม.๖ ๒๐ ศ ๓๓๑๐๑ ศิลปะ(ดนตรี- นาฏศิลป์) ม.๖ ๒๐ ศ ๓๓๑๐๒ ศิลปะ(ทัศนศลิ ป์)
๗๐ คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำนศลิ ปะ รหสั วชิ ำ ศ ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๑ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต สำระทศั นศิลป์ อภิปราย รูปร่าง ลักษณะ ขนาดของส่ิงต่างๆ รอบตัว บอกความรู้สึกที่มีต่อสงิ่ แวดล้อม มีทักษะในการใชว้ ัสดุ อุปกรณ์สร้างงานทัศนศลิ ป์ ทดลองใชส้ ีด้วยเทคนิคง่ายๆ วาดระบายสภี าพธรรมชาติตามความรสู้ ึก ระบุงานทัศนศลิ ปใ์ น ชีวติ ประจาวัน โดยใช้กระบวนการทางศลิ ปะ สร้างสรรคแ์ ละใช้จนิ ตนาการให้เป็นผลงานทัศนศลิ ป์ เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ใฝ่รูใ้ ฝ่เรียน มีวินยั มุ่งมัน่ ในการทางาน สำระดนตรี ศกึ ษาการเรยี นรู้ส่ิงต่างๆ ทีส่ ามารถก่อกาเนิดเสียงทแ่ี ตกต่าง พรอ้ มทงั้ บอกลกั ษณะของเสียงดงั - เบา ความช้า - เร็วของจังหวะ สามารถท่อง บทกลอน ร้องเพลง รวมท้ังมีส่วนร่วมในกิจกรรมดนตรีอย่างสนุกสนาน โดยการเล่าถึง บทเพลงและระบุดนตรใี นท้องถนิ่ ทม่ี า ความนา่ สนใจ ของเพลงโนเน เพอ่ื มาปรับใชใ้ นชวี ิติประจาวัน โดยการใช้กระบวนการถา่ ยทอดความรู้ กระบวนการคดิ การฝึกทกั ษะความชานาญ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ และตระหนกั ถงึ คุณค่าของดนตรีที่ถือเป็นเอกลกั ษณ์ประจาชาติ และเห็นคณุ ค่า ของดนตรีท้องถนิ่ สำระนำฏศิลป์ ศึกษาความรู้พ้ืนฐานนาฏศิลป์เบ้ืองต้น สามารถปฏิบัติการเคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆ ใช้ความรู้จากภาษาท่า ประดษิ ฐท์ ่าทางประกอบเพลง มกี ารสังเกตและรับรกู้ ารละเลน่ ของเดก็ ไทยด้วยความสนกุ สนาน โดยใชก้ ระบวนการทางการฝึกปฏิบตั ิ ระบุ และเล่นการละเลน่ ของเด็กไทย ในการละเลน่ ประเพณแี ขง่ ขันลูกหนู เพือ่ ให้เกิดความรู้ ความชานาญ และสามารถนาไปใช้ได้ในชีวิตประจาวนั ทาให้เห็นคุณค่าและรักความเป็นไทย และการอนรุ ักษก์ ารละเลน่ ทอ้ งถนิ่ ตวั ชี้วัด ศ. ๑.๑ ป. ๑/๑ – ป. ๑/๕ ศ. ๑.๒ ป. ๑/๑ ศ. ๒.๑ ป. ๑/๑ – ป. ๑/๕ ศ. ๒.๒ ป. ๑/๑ – ป. ๑/๒ ศ ๓.๑ ป. ๑/๑ – ป. ๑/๓ ศ ๓.๒ ป. ๑/๑ – ป. ๑/๒ รวมท้ังหมด ๑๘ ตัวชีว้ ัด
๗๑ คำอธิบำยรำยวิชำพ้นื ฐำนศิลปะ รหสั วชิ ำ ศ ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ชนั้ ประถมศึกษำปที ี่ ๒ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต สำระทัศนศิลป์ บรรยาย และระบุทัศนธาตุ นามาสร้างงานทัศนศิลป์ มีทักษะในการใช้วัสดุอุปกรณ์สร้างงาน ๓ มิติ สร้างภาพปะ ติด วาดภาพถ่ายทอดเรื่องราวครอบครัวของตนและเพ่ือนบ้าน เลือกและบรรยายส่ิงที่มองเห็น สร้างงานทัศนศิลป์เป็น รูปแบบงานโครงสร้างเคล่ือนไหว ศึกษาความสาคัญของงานทัศนศิลป์ในชุมชนและท้องถิ่น แยกประเภทงานทัศนศิลป์ใน ท้องถิน่ และบอกเลา่ ความเปน็ มาของทัศนศิลปใ์ นท้องถ่นิ โดยใชก้ ระบวนการวิเคราะห์ งานศิลปะสร้างสรรค์และใชจ้ ินตนาการใหเ้ ป็นผลงานทศั นศลิ ป์ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ใฝร่ ้ใู ฝเ่ รียน มงุ่ ม่ันในการทางาน รักความเป็นไทย สำระดนตรี ศึกษาการจาแนกแหล่งกาเนิดของเสียงท่ีได้ยินและคุณสมบัติของเสียงสูง - ต่า ดัง - เบา ยาว - ส้ัน ของดนตรี โดยการเคาะจังหวะ การเคล่ือนไหวรา่ งกายให้สอดคล้องกับเนอื้ หาของเพลง และร้องเพลงง่ายๆ ที่เหมาะสมกับวัย พร้อม ทง้ั บอกความหมาย ความสาคัญของเพลงที่ได้ยิน รวมทั้งบอกความสัมพันธ์ของเสยี งร้อง ของเพลงโนเน บอกลักษณะเสียง เครอื่ งดนตรีในเพลงทอ้ งถิน่ และเข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรใี นทอ้ งถ่ิน โดยการแสดงและเข้าร่วมกจิ กรรมทางดนตรีในท้องถ่ิน ในโอกาสพิเศษ อยา่ งวงป่พี าทยม์ อญ โดยการใชก้ ระบวนการถา่ ยทอด กระบวนการคิด การใฝเ่ รียนรู้ และการฝกึ ฝนทกั ษะจนชานาญ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ การแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ทราบซ่ึงในบทเพลง และตระหนักถึงคุณค่าของ ดนตรีทถี่ อื เป็นเอกลักษณป์ ระจาชาติและเหน็ คณุ ค่าของดนตรที ้องถ่ิน สำระนำฏศลิ ป์ ศกึ ษาการเคล่อื นไหวในรูปแบบต่างๆ สถานการณส์ ั้นๆ อย่างสรา้ งสรรค์ โดยใชห้ ลักและวิธกี ารปฏิบัติทางนาฏศลิ ป์ การใช้ประโยชนข์ องการแสดงนาฏศิลป์ในชีวติ ประจาวนั ใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์แสดงท่าทางประกอบเพลงตามรปู แบบ นาฏศิลป์ อย่างเข้าใจและสนุกสนาน โดยใช้กระบวนการทางการฝึกปฏิบัติ อภิปรายส่งิ ที่เปน็ ลกั ษณะเด่นและเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศิลปห์ รือการ แสดงนาฏศิลป์พ้ืนบา้ น โดยการ ระบุและเลน่ การละเล่นพ้ืนบา้ น ราพาขา้ วสาร ในท้องถน่ิ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ความชานาญ และความคิดท่ีจะสร้างสรรค์ผลงาน รับรู้ประโยชน์ของการแสดง นาฏศิลป์ในชวี ติ ประจาวนั เพอื่ ทาใหเ้ หน็ คุณค่าและรักความเปน็ ไทย ตวั ชว้ี ดั ศ. ๑.๑ ป. ๒/๑ – ป. ๒/๘ ศ. ๑.๒ ป. ๒/๑ – ป. ๒/๒ ศ. ๒.๑ ป. ๒/๑ – ป. ๒/๕ ศ. ๒.๒ ป. ๒/๑ – ป. ๒/๒ ศ ๓.๑ ป. ๒/๑ – ป. ๒/๕ ศ ๓.๒ ป. ๒/๑ – ป. ๒/๓ รวมท้ังหมด ๒๕ ตัวชี้วัด
๗๒ คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำนศลิ ปะ รหัสวิชำ ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ กลุ่มสำระกำรเรยี นรูศ้ ิลปะ ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๓ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต สำระทัศนศลิ ป์ บรรยาย จาแนกทศั นธาตุ ระบุวัสดุ อปุ กรณท์ ใี่ ชเ้ มื่อชมงานทัศนศลิ ป์ และมีทกั ษะในการใชว้ าดภาพ ระบายสีถา่ ยทอดความคิด ความรสู้ ึก จากเหตกุ ารณ์ชวี ติ จริง บรรยายเหตุผลและวธิ กี ารสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ ลักษณะรูปร่าง รปู ทรงในงานออกแบบ บอกความสาคญั และอภปิ รายงานทัศนศลิ ป์ในชีวิตประจาวนั ในท้องถ่นิ เล่าทม่ี า วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการสรา้ งงานทัศนศิลป์ในท้องถ่นิ เช่น พวงมโหตร สไบมอญ เครือ่ งปนั้ ดินเผา ระบุสิง่ ทชี่ นื่ ชมและควรปรบั ปรุงในงานทศั นศิลปข์ องตน โดยใช้กระบวนการทางศลิ ปะ สร้างสรรคแ์ ละใช้จินตนาการให้เปน็ ผลงานทศั นศิลป์ เพอ่ื ให้เกิดความรคู้ วามเขา้ ใจ ใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น มุง่ มัน่ ในการทางาน รกั ทอ้ งถนิ่ รกั ความเป็นไทย สำระดนตรี ศึกษาการระบรุ ูปร่าง ลักษณะของเครือ่ งดนตรีท่ีเห็นและได้ยินในชีวิตประจาวัน โดยการใช้รูปภาพหรือ สัญลักษณ์แทนเสียงและจังหวะเคาะ พร้อมทั้งบอกบทบาทหน้าที่ของเพลง ราพาข้าวสาร ระบุลักษณะเด่นและ เอกลกั ษณ์ ลกั ษณะเสยี งร้องของดนตรี ภาษาและเนอ้ื หาในบทร้องของเพลง ราพาข้าวสาร รวมถงึ เครื่องดนตรีและ วงดนตรีในท้องถิ่น (มอญรา) การเคลื่อนไหวร่างกายท่าทางสอดคล้องกับอารมณ์ของเพลง รวมท้ังแสดงความ คิดเห็นเก่ียวกับเสียงดนตรี เสียงขับร้องของตนเองและผู้อื่นด้วยการนาดนตรีไปใช้ในโอกาสต่างๆ ได้อย่าง เหมาะสม โดยการใชก้ ระบวนการถ่ายทอด กระบวนการคดิ การใฝ่เรียนรู้ การเห็นคุณค่าของความเป็นไทย การ ฝกึ ทกั ษะความชานาญ เข้าถึงอารมณข์ องเพลง เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงคุณค่าของดนตรีที่ถือเป็นการถ่ายทอดเอกลักษณ์ประจา ชาติและเหน็ คณุ คา่ ของดนตรีทอ้ งถน่ิ สำระนำฏศลิ ป์ ศึกษาการเคล่ือนไหวในรูปแบบตา่ งๆ สถานการณ์สั้นๆ อย่างสรา้ งสรรค์ โดยใชห้ ลกั และวิธกี ารปฏบิ ัติทาง นาฏศิลป์ การใช้ประโยชน์ของการแสดงนาฏศิลป์ในชีวิตประจาวัน ใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์แสดงท่าทาง ประกอบเพลงตามรปู แบบนาฏศิลป์ อย่างเขา้ ใจและสนุกสนาน โดยใช้กระบวนการทางการฝึกปฏิบัติ โดยการเล่า ระบุ อธิบายความสาคัญของการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน หรือท้องถ่ินของตน (มอญรา) บอกท่ีมาของการแสดงนาฏศิลป์(มอญรา)อภิปรายส่ิงที่เป็นลักษณะเด่นและ เอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศิลป์หรือการแสดงนาฏศลิ ป์พนื้ บ้านในท้องถิ่น เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ความชานาญ และความคิดที่จะสรา้ งสรรค์ผลงาน รับรูป้ ระโยชนข์ องการ แสดงนาฏศิลป์ในชวี ิตประจาวนั เพ่อื ทาให้เห็นคณุ คา่ และรกั ความเปน็ ไทย ตัวชี้วดั ศ. ๑.๑ ป. ๓/๑ – ป.๓/๑๐ ศ. ๑.๒ ป. ๓/๑ – ป.๓/๒ ศ. ๒.๑ ป. ๓/๑ – ป. ๓/๗ ศ. ๒.๒ ป. ๓/๑ – ป. ๓/๒ ศ ๓.๑ ป. ๓/๑ – ป. ๓/๕ ศ ๓.๒ ป. ๓/๑ – ป. ๓/๓ รวมท้ังหมด ๒๙ ตัวชวี้ ดั
๗๓ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำนศิลปะ รหัสวิชำ ศ ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๔ เวลำ ๘๐ ช่วั โมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกติ สำระทศั นศิลป์ ศกึ ษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้เรียน ให้เรียนรู้ด้วยตวั เองตามความสนใจ ทักษะความถนัดความ สามรถของผเู้ รียนไดอ้ ย่างจรงิ มีระบบและข้ันตอน การปลูกฝังลักษณะท่ีดี การเรียนรใู้ นการทางาน สร้างแบบและ นาเสนอผลงานศิลปะ จากจินตนาการความคิดสร้างสรรค์การสังเกตทางศิลปะ ให้รับรู้เห็นคุณค่า ธรรมชาติ สิง่ แวดล้อม ศิลปะไทยศิลปะท้องถน่ิ อธิบายความหมายของทัศนศิลป์ ทัศนธาตุ องค์ประกอบดนตรี องค์ประกอบ นาฏศิลป์ สารวจ ทดลอง ทักษะในการใช้เทคนิควิธีการใหม่ๆ ให้เกิดความต้องการของตนเอง ศึกษาสังเกต รวบรวมข้อมูล และวิวัฒนาการงานศิลปะที่เก่ียวข้องกับวัฒนธรรมท้องถ่ิน อภิปราย บรรยาย ความเป็นมาของ การทาพวงมโหตร สไบมอญ เคร่ืองปั้นดินเผา โดยเช่ือมโยงความรู้ของวัฒนธรรมท้องถิ่นกับงานทัศนศิลป์ใน ท้องถ่ิน การถ่ายทอดชวี ิต ความประทับใจ เช่น ในประวัติศาสตร์หรือเหตุการณ์ในปัจจุบันท่ีได้รบั อิทธพิ ลจากงาน ศิลปะ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ กลุ่มสาระอื่นๆและธรรมชาติแวดล้อม มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปญั ญาไทย และสากลมาประยุกต์ เพื่อให้เกิดความคิดความเข้าใจ สามารถส่ือสารถึงส่ิงที่เรียนรู้ ความสามารถในการตัดสินใจ สร้างสรรค์ งานศิลปะให้มีคุณค่า การนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ความมั่นใจในการแสดงออก มีความสุขกับการทางาน และยอมรับความคดิ ความสามารถของผู้อนื่ ตระหนัก ชน่ื ชม รบั รู้ เห็นคุณค่าของธรรมชาติสง่ิ แวดล้อม ศลิ ปะไทย ศิลปะทอ้ งถ่ิน อย่างเหมาะสม สำระดนตรี ศึกษาการจาแนกประเภทของเครื่องดนตรีที่ใช้ในเพลงท่ีฟังและบอกประโยคเพลงอย่างง่าย พร้อมท้ังระบุทิศทางการ เคล่ือนท่ีขึ้น - ลงง่ายๆ ของทานอง รูปแบบ ความเร็วของจังหวะเพลงฟัง และระบุดนตรีที่ สามารถใช้ในการส่ือสาร เร่ืองราวความสาคัญในการอนุรักษ์ส่งเสริมวัฒนธรรมทางดนตรี โดยการบอกแหล่งที่มาของความสัมพันธ์ของวิถีชีวิต ไทยทส่ี ะทอ้ นในดนตรแี ละเพลงทอ้ งถิน่ ศกึ ษาเนื้อหาเรอ่ื งราวในบทเพลงกับวิถีชีวิต (ทะแยมอญ) โอกาสในการบรรเลงดนตรี (ปี่พาทย์มอญ : เพลงยกศพ) ท่ีสะทอ้ นในดนตรแี ละเพลงทอ้ งถ่ิน โดยการฝึกทักษะ การฝึกฝนการขับร้องใช้ช่วงเสียงท่ีเหมาะสมกับตนเอง รวมท้ังใช้และเก็บเคร่ืองดนตรีอย่าง ถูกต้องและปลอดภัย เพ่ือให้รู้ประเภท ประโยคของเพลงและเครื่องดนตรี ทิศทาง การเคลื่อนที่ข้ึน - ลงของทานองเพลง ความสาคญั ต่างๆ ในทอ้ งถน่ิ สำระนำฏศิลป์ ศึกษา ฝึกทักษะพื้นฐานทางนาฏศิลป์และการละครที่ใช้สื่อความหมายและอารมณ์โดยใช้ภาษาท่าและ นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครง่าย ๆ ในการถ่ายทอดเรื่องราว แสดง การเคลื่อนไหวในจังหวะต่าง ๆ ตาม ความคิดของตน แสดงนาฏศิลป์เป็นคู่ เป็นหมู่ พร้อมท้ังเล่าสิ่งท่ีช่ืนชอบในการแสดงโดยเน้นจุดสาคัญของเร่ืองและ ลักษณะเด่นของตัวละคร ประวัติความเป็นมาของนาฏศิลป์ หรือชุดการแสดงอย่างง่าย ๆ การแสดงท่ีมาจาก วัฒนธรรมอนื่ ความสาคญั ของการแสดงความเคารพในการเรยี นและการแสดงนาฏศลิ ป์ โดยการอธบิ าย เปรียบเทียบ ความเป็นมาของนาฏศลิ ป์พ้ืนบา้ น(มอญรา) กบั การแสดงวฒั นธรรมอน่ื ๆ ใชก้ ระบวนการถ่ายทอด กระบวนการคดิ การเปรยี บเทยี บ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และทกั ษะความชานาญ สามารถถา่ ยทอดเพ่ือการอนุรักษ์ ตระหนักถงึ คณุ ค่า
๗๔ ของนาฏศลิ ปท์ ี่ถือเป็นเอกลักษณ์ประจาชาติ และนิยมไทย ตวั ชว้ี ัด ศ. ๑.๑ ป. ๔/๑ – ป.๓/๙ ศ. ๑.๒ ป. ๔/๑ – ป.๔/๒ ศ. ๒.๑ ป. ๔/๑ – ป. ๔/๗ ศ. ๒.๒ ป. ๔/๑ – ป. ๔/๒ ศ ๓.๑ ป. ๔/๑ – ป. ๔/๕ ศ ๓.๒ ป. ๔/๑ – ป. ๔/๔ รวมทง้ั หมด ๒๙ ตวั ชีว้ ัด
๗๕ คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้ืนฐำนศิลปะ รหัสวิชำ ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ กลุม่ สำระกำรเรยี นรศู้ ิลปะ ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๕ เวลำ ๘๐ ชั่วโมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกิต สำระทศั นศิลป์ ศึกษาและวิเคราะห์สร้างและนาเสนอและผลงานศิลปะจากจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ การสังเกต ทางศิลปะ รับรู้งานทเ่ี กีย่ วกับวฒั นธรรมในทอ้ งถ่ิน สามารถอภิปรายให้ผู้อื่นเข้าใจประวัติศาสตร์ หรอื เหตุการณ์ใน ปัจจุบันได้รวมถึงการเรียนรู้กับกลุ่มสาระอ่ืนๆ สนใจสร้างงานศิลปะให้มีความสุขกับการทางาน มั่นใจในการ แสดงออกยอมรับความสามารถของผู้อื่น ตระหนักช่ืนชมในคุณค่าของศิลปะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญา ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล ระบุ บรรยาย อภิปราย ศึกษาวิธีการทา ลักษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ใน ทอ้ งถิ่น เช่น พวงมโหตร สไบมอญ เครื่องปั้นดินเผา โดยการถ่ายทอดจินตนาการ ความรู้สึก ความประทับใจในธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมด้วยเทคนิค วิธีการ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ด้วยวิธีการต่างๆ การสารวจ ตรวจสอบ การค้นคว้า การอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถสอ่ื สารสิง่ ท่เี รียนรู้ ความสามารถในการตัดสินใจ เพื่อให้เห็นคุณค่าของศิลปะสาขาต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ใช้รู้จักใช้วัสดุ อุปกรณ์ในการ ทางานอย่างปลอดภัย และรับผิดชอบ รแู้ ละอธิบายความหมายงานทัศนศิลป์ ทัศนธาตุ สนใจรู้ความเป็นมาของภูมิ ปัญญาทอ้ งถิน่ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำระดนตรี ศึกษาการระบุองค์ประกอบของดนตรีในเพลงท่ีใช้ในการสื่ออารมณ์ การจาแนกลักษณะของเสียงขับร้องและ เครื่องดนตรที ี่อยู่ในวงดนตรปี ระเภทตา่ งๆ โดยการอา่ น - เขยี นโน้ตไทย - สากล ๕ ระดับเสียงรวมทงั้ การใชเ้ ครื่องดนตรี บรรเลงจังหวะและทานองร่วมกับกิจกรรมในการแสดงออกตามจินตนาการ พร้อมทั้งร้องเพลงไทย เพลงสากลที่ เหมาะสมกับวัย การด้นสดง่ายๆ การอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีในวัฒนธรรมต่าง ๆ บทเพลงในงานประเพณีในท้องถิ่น (ประเพณีการแห่นางหงส์ ) บทบาทของดนตรีในแต่ละประเพณี (ปี่พาทย์มอญ บ้านบัวหลวง)โดยใช้ประโยคเพลงเพลง แบบถาม – ตอบ และการอธบิ ายความสัมพันธ์ คณุ คา่ ระหว่างดนตรกี บั ประเพณที ่ีมาจากวฒั นธรรมท่ีต่างกัน เพ่ือให้รู้ถึงองค์ประกอบของดนตรี การเขียนโน้ตไทย - สากล ตามลาดับเสียง การแสดงออกตาม จินตนาการของแต่ละคน เห็นคุณค่า ความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีท่ีมาจากวัฒนธรรมที่ต่างกัน ตาม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สำระนำฏศลิ ป์ ศึกษาองค์ประกอบของนาฏศิลป์ การแสดงท่าทางประกอบเพลงหรือเร่ืองราวตามความคิดของตน โดย เน้นการใช้ภาษาท่า และนาฏยศัพท์ในการส่ือความหมายและการแสดงออก มีส่วนร่วมในการเขียนเค้าโครงเรื่อง หรือบทละครสั้น ๆ รวมถึงการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณี ในแต่ละท้องถ่ิน การ แสดงนาฏศลิ ป์ชุดต่าง ๆ รวมทงั้ ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ ับจากการชมการแสดง โดยใช้กระบวนการถ่ายทอด กระบวนการคิด การเปรยี บเทียบ การฝึกทักษะความชานาญ การอธบิ าย ความสาคญั ความเปน็ มาของ ทะแยมอญ ระบเุ หตผุ ลที่ควรรักษา และสืบทอด การแสดงนาฏศลิ ป์ คณุ ค่าของการแสดง ทะแยมอญ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และทักษะความชานาญ สามารถถ่ายทอดเพื่อการอนุรักษ์ ตระหนักถึง คุณค่าของนาฏศลิ ปท์ ี่ถือเปน็ เอกลกั ษณ์ทอ้ งถ่นิ ประจาชาติ และนิยมไทย ตวั ช้วี ัด
๗๖ ศ. ๑.๑ ป. ๕/๑ – ป.๕/๗ ศ. ๑.๒ ป. ๕/๑ – ป.๕/๒ ศ. ๒.๑ ป. ๕/๑ – ป. ๕/๗ ศ. ๒.๒ ป. ๕/๑ – ป. ๕/๒ ศ ๓.๑ ป. ๕/๑ – ป. ๕/๖ ศ ๓.๒ ป. ๕/๑ – ป. ๕/๒ รวมทั้งหมด ๒๖ ตัวช้วี ัด
๗๗ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำนศิลปะ รหสั วิชำ ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ กลุม่ สำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๖ เวลำ ๘๐ ชวั่ โมง จำนวน ๒.๐ หน่วยกติ สำระทศั นศลิ ป์ ศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้เรียน ให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ตามความสนใจทักษะความถนัด ความสามารถของผู้เรยี นไดป้ ฏิบัติจรงิ สามารถส่ือสารงานด้านทัศนศิลป์ให้เป็นเร่ืองราว สร้างและนาเสนอผลงาน ศิลปะจากจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์จะสังเกตความรู้สึกและความประทับใจ รับรู้งานศิลปะท่ีเกี่ยวกับ วัฒนธรรมในท้องถ่ิน ได้แก่ ทัศนธาตุ องค์ประกอบดนตรี องค์ประกอบนาฏศิลป์ การวิเคราะห์และอธิบายให้ ผู้อ่ืนได้เข้าใจในประวัติศาสตร์หรือเหตุการณ์ในปัจจุบันได้ ศึกษาบทบาทของพวงมโหตร สไบมอญ เครอื่ งป้ันดนิ เผา ทีม่ ีตอ่ วถิ ึชวี ติ ของคนในชมุ ชนและสงั คม รวมถึงอิทธิพลของศาสนาทม่ี ตี ่องานทัศนศลิ ป์ในท้องถนิ่ โดยการถ่ายทอดจินตนาการ ความสวยงาม ความมั่นใจในการแสดงออก ยอมรับความสามารถของ ผู้อ่ืนให้ตระหนัก ช่ืนชม ในคุณค่าของศิลปะ ธรรมชาติส่ิงแวดล้อม วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญา ไทยและสากล วธิ ีการสรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ด้วยวิธกี ารตา่ งๆ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ให้เห็นคุณค่าในศิลปะสาขาต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ใน ชวี ิตประจาวนั และการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการทางานอย่างปลอดภยั และรับผิดชอบ รู้ความหมาย รู้ความเป็นมา ของภูมิปญั ญาในท้องถน่ิ ดาเนนิ ชวิ ติ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สำระดนตรี ศึกษาการบรรยายเพลงท่ีฟัง ความรู้สึกที่มีต่อดนตรี โดยอาศัยองค์ประกอบของดนตรีและศัพท์สังคีต และ การจาแนกประเภทประเภท บทบาท หน้าท่ีของเครื่องดนตรีไทย เคร่ืองดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมต่างๆ รวมท้ังการ อ่าน - เขยี นโนต้ ไทย - สากลทานองง่ายๆ โดยการศึกษา การใช้เครื่องดนตรีบรรเลงประกอบ การร้องเพลงด้นสดท่ีมีจังหวะและทานองง่ายๆ พร้อมทั้ง แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับทานอง จังหวะ การประสานเสยี ง คุณภาพเสียงของเพลงที่ฟัง และอธิบายเร่ืองราวของ ดนตรีไทยในประวตั ิศาสตร์ การจาแนกดนตรีทมี่ าจากยุคสมัยท่ตี ่างกนั อีกทั้งอภปิ รายอิทธิพลของวฒั นธรรมต่อดนตรี ในท้องถ่ิน ดนตรีในเหตุการณ์สาคัญทางประวัติศาสตร์ (ป่ีพาทย์มอญ บ้านบัวหลวง) ดนตรีในยุคสมัยต่าง ๆ ประเพณี การแหน่ างหงส์ เพ่ือให้รู้ถึงองค์ประกอบของดนตรี ศัพท์สังคีต การจาแนกประเภท การเขียนโน้ตไทยและโน้ตสากล อธิบายเรือ่ งราวตา่ งๆ ของดนตรีไทยในประวตั ิศาสตร์ เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจในเนอื้ หา สำระนำฏศลิ ป์ ศึกษาการเคล่ือนไหวและการแสดงโดยเน้นการถ่ายทอดลีลาหรืออารมณ์ ออกแบบเครื่องแต่งกาย หรือ อปุ กรณ์ประกอบการแสดงอย่างง่าย ๆ การแสดงนาฏศิลป์และละครงา่ ย ๆ เจตคติทมี่ ีต่องานนาฏศิลป์และการละคร หลักการชมการแสดง ความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์และการละครกับสิ่งที่ประสบในชีวิตประจาวัน ส่ิงท่ีมี ความสาคัญต่อการแสดงนาฏศิลป์และละคร ประโยชน์ที่ได้รับจากการแสดงหรือการชมการแสดงนาฏศิลป์และ ละคร โดยใช้กระบวนการถา่ ยทอด กระบวนการคิด การเปรียบเทียบ การฝึกทกั ษะความชานาญ เพ่ือให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจ และทักษะความชานาญ สามารถถ่ายทอดเพ่ือการอนุรักษ์ ตระหนักถงึ คุณค่า ของนาฏศลิ ปท์ ถ่ี ือเป็นเอกลักษณ์ประจาชาติ ตวั ชวี้ ดั ศ. ๑.๑ ป. ๖/๑ – ป.๖/๗
๗๘ ศ. ๑.๒ ป. ๖/๑ – ป.๖/๓ ศ. ๒.๑ ป. ๖/๑ – ป. ๖/๖ ศ. ๒.๒ ป. ๖/๑ – ป. ๖/๓ ศ ๓.๑ ป. ๖/๑ – ป. ๖/๖ ศ ๓.๒ ป. ๖/๑ – ป. ๖/๒ รวมทั้งหมด ๒๗ ตวั ช้วี ดั
๗๙ คำอธิบำยรำยวิชำดนตรี นำฏศิลป์ รหสั วชิ ำ ศ ๒๑๑๐๑ ดนตรี - นำฏศิลป์ ๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ช้นั มธั ยมศึกษำปที ่ี ๑ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕หน่วยกติ ศกึ ษาเครื่องหมาย สญั ลกั ษณ์ทางดนตรี เสยี งรอ้ ง เสยี งเครอ่ื งดนตรี ร้องเพลง ขับร้องเพลงพ้ืนบ้าน ใช้เครอื่ งดนตรปี ระกอบการร้องเพลง จัดประเภทวงดนตรี อารมณข์ องบทเพลง คณุ ภาพของบทเพลง ใชแ้ ละ บารุงรักษาเครื่องดนตรี บทบาทอิทธิพลของดนตรี องคป์ ระกอบของดนตรใี นแต่ละวฒั นธรรม โดยใชก้ ระบวนการ การอ่าน การเขียน รอ้ งโนต้ ไทยสากล เปรียบเทยี บเสยี ง การรอ้ งและการบรรเลง เครื่องดนตรีจดั ประเภทวงดนตรี เปรยี บเทยี บอารมณ์เพลง นาเสนอผลงานเพลง ประเมินคณุ ภาพใช้และ บารงุ รักษาเครอ่ื งดนตรี อธิบายบทบาทและอิทธิพลของดนตรที แ่ี ตกกัน สรา้ งสรรคผ์ ลงาน เพ่ือใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ และทักษะความชานาญ มุง่ มัน่ ในการทางาน มจี ติ สาธารณะ เหน็ ประโยชน์ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน รหัสตวั ช้ีวัด ศ ๒.๑ ม.๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม.๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖,ม.๑/๗,ม.๑/๘, ม.๑/๙ ศ ๒.๒ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ รวมทั้งหมด ๑๑ ตัวชวี้ ัด
๘๐ คำอธิบำยรำยวิชำทศั นศิลป์ รหัสวิชำ ศ ๒๑๑๐๒ ทัศนศลิ ป์ ๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นรศู้ ิลปะ ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีที่ ๑ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ศกึ ษางานทศั นศิลป์ ทศั นธาตุ หลักการออกแบบ สัญลกั ษณ์ ความเป็นเอกภาพ ความกลมกลืน ความ สมดลุ ระยะไกลใกล้ ๓ มิติ วาดภาพทัศนยี ภาพ งานปนั้ ส่ือผสม กราฟฟกิ ลกั ษณะงานทัศนศลิ ป์ภาคตา่ ง ๆ โดยใชก้ ระบวนการ ระบุ และบรรยาย วิเคราะห์ เก่ยี วกบั ลักษณะ รปู แบบงานทศั นศิลป์ของชาติและของ ท้องถิ่นตนเองจากอดีตจนถึงปัจจุบนั การพฒั นา รูปแบบงานทัศนศลิ ปท์ ้องถิ่น พวงมโหตร สไบมอญ เครอื่ งปน้ั ดินเผา เปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ของภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย รวบรวม นาเสนอความคิด เพ่ือให้เกดิ ความร้คู วามเข้าใจ และทักษะความชานาญ มงุ่ ม่ันในการทางาน มจี ิตสาธารณะ รักความเปน็ ไทย เหน็ ประโยชนข์ องงานทัศนศิลป์ ตัวชว้ี ัด ศ ๑.๑ ม. ๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม .๑/๖ รวมท้ังหมด ๖ ตัวช้ีวดั
๘๑ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำดนตรี นำฏศลิ ป์ รหสั วชิ ำ ศ ๒๑๑๐๓ ดนตรี - นำฏศิลป์ ๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี ๑ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศึกษาอิทธิพลของนักแสดง นาฏยศัพท์ แสดงละคร การจัดการแสดง การแสดงท่าทางการเคลื่อนไหว หลักในการชมการแสดง การเปลย่ี นแปลงนาฏศลิ ป์ไทย ประเภท ยคุ สมัยของละครไทย โดยใช้กระบวนการอธบิ าย ปฏบิ ัติเปน็ ผู้แสดง ผ้ชู ม ใชภ้ าษาทา่ นาฏยศัพท์ เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย ราวง แสดงนาฏศิลป์ง่ายๆและการแสดงนาฏศิลป์พ้นื บ้าน ใช้กระบวนการทางานเป็นกลุ่ม ผลิตการแสดง สร้างสรรค์ กิจกรรมการแสดง พิจารณาคุณภาพการแสดง หลักการชมการแสดง มีมารยาทในการแสดง และการเรียน เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และทักษะความชานาญ มุ่งมั่นในการทางาน มีจิตสาธารณะ รักความเป็น ไทย เหน็ ประโยชน์ของนาฏศิลป์และนาไปใช้ในชีวติ ประจาวัน ตวั ช้ีวัด ศ ๓.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕ ศ ๓.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒ รวมทั้งหมด ๗ ตัวชี้วัด
๘๒ คำอธิบำยรำยวชิ ำทัศนศลิ ป์ รหสั วิชำ ศ ๒๑๑๐๔ ทศั นศลิ ป์ ๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี ๑ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต รเู้ ข้าใจ ส่อื ความหมาย วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ สรา้ งสรรค์ งานทศั นศลิ ป์จากจนิ ตนาการ ประสบการณ์ด้วย วสั ดุ อปุ กรณ์ เทคนคิ ทศั นธาตุและเทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมกับยุคสมัย รับรู้ สนใจและเหน็ คณุ ค่าความงาม ของธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม ศลิ ปวัฒนธรรมไทย ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปญั ญาไทยและสากลตามหลักปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยใชก้ ระบวนการ บรรยายความ เปรยี บเทียบ รวบรวม นาเสนอความคิด เพือ่ ให้เกดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจ และทกั ษะความชานาญ มงุ่ ม่ันในการทางาน มีจิตสาธารณะ รักความเป็นไทย เห็นประโยชน์ของงานทัศนศลิ ป์และนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ์ ตวั ชวี้ ัด ศ ๑.๑ ม. ๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม. ๑/๕,ม. ๑/๖ ศ ๑.๒ ม. ๑/๑ , ม.๑/๒, ม. ๑/๓ รวมทั้งหมด ๙ ตวั ชี้วดั
๘๓ คำอธบิ ำยรำยวิชำดนตรี นำฏศลิ ป์ รหสั วิชำ ศ ๒๒๑๐๑ ดนตรี -นำฏศิลป์ ๑ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี ๒ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศกึ ษาเอกสารประกอบวิชาดนตรี โน้ตไทยและสากล เครื่องหมายแปลงเสยี ง อทิ ธพิ ลต่อการสร้างสรรค์ งานดนตรี หลกั การร้องเพลง หลกั การรวมวง อารมณ์เพลง การขบั ร้องเพลงพื้นบา้ น หลักการฝึกปฏบิ ตั ิ บทบาท ดนตรี เหตกุ ารณแ์ ละประวตั ิศาสตร์ รปู แบบของดนตรีในประเทศ โดยใช้กระบวนการเปรยี บเทียบ อธบิ าย บรรยาย ทกั ษะการอ่าน เขียน ร้องโน้ต ระบุปัจจัยสาคัญขอกการ รอ้ งเพลง การเล่นดนตรเี ดี่ยว และรวมวง ประเมินทกั ษะทางดนตรี ระบอุ าชีพทเี่ ก่ียวข้องกับดนตรี เพ่ือให้เกิดความร้คู วามเข้าใจ และทักษะความชานาญ มงุ่ มัน่ ในการทางาน มีจิตสาธารณะ รักความเป็น ไทย เห็นประโยชนข์ องนาฏศิลปแ์ ละนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ตวั ช้ีวดั ศ ๒.๑ ม๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ , ม.๒/๕ , ม.๒/๖ , ม.๒/๗ ศ ๒.๒ ม.๒/๑ ,ม๒/๒ รวมท้ังหมด ๙ ตัวช้ีวดั
๘๔ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำทัศนศลิ ป์ รหัสวชิ ำ ศ๒๒๑๐๒ ทศั นศิลป์ ๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ ๒ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ศกึ ษาวธิ ีการทางทัศนศิลป์ การเขยี นภาพระบายสี การปั้น การพิมพภ์ าพ การออกแบบตกแต่งภายใน และภายนอกอาคาร การออกแบบงานศิลป์ในรูปแบบและดา้ นต่าง ๆ การใช้เทคนคิ การเขยี นภาพทัศนียภาพใน วธิ กี าร ต่าง ๆ โดยใชก้ ระบวนการบรรยายความ เปรียบเทยี บ รวบรวม นาเสนอความคิด เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจ และทักษะความชานาญ มุง่ มนั่ ในการทางาน มีจิตสาธารณะ รักความเปน็ ไทย เห็นประโยชนข์ องทศั นศิลป์และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ตัวช้ีวดั ศ ๑.๑ ม.๒/๑ ,ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔ รวมท้ังหมด ๔ ตัวช้ีวัด
๘๕ คำอธิบำยรำยวชิ ำดนตรี นำฏศลิ ป์ รหัสวชิ ำ ศ ๒๒๑๐๓ ดนตรี - นำฏศิลป์ ๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ ช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ ๒ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศกึ ษาศิลปะการแสดง องค์ประกอบนาฏศิลป์ และการละคร นาฏยศัพท์ ภาษาท่า ราวงมาตรฐาน เชอื่ มโยงการเรยี นรนู้ าฏศลิ ป์ และการละคร กับสาระอื่น นาฏศลิ ป์พน้ื เมือง ละครไทย ละครพน้ื บ้าน มหรสพท่ีเคย มใี นอดตี ละครสมัยตา่ ง ๆ โดยใชก้ ระบวนการเปรียบเทยี บ อธบิ าย บรรยาย เสนอข้อคิดเหน็ ระบุ สรา้ งสรรคก์ ารแสดง วเิ คราะห์ วิจารณ์การแสดง ปฏิบตั ิทา่ รา แสดงนาฏศลิ ป์รูปแบบต่างๆ เพ่ือใหเ้ กิดความรูค้ วามเข้าใจ และทักษะความชานาญ มุง่ มนั่ ในการทางาน มจี ิตสาธารณะ รักความเปน็ ไทย เหน็ ประโยชน์ของนาฏศิลปแ์ ละนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน ตัวชวี้ ดั ศ ๓.๑ ม๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ , ม.๒/๕ ศ ๓.๒ ม.๒/๑ ,ม.๒/๒ ม.๒/๓ รวมทั้งหมด ๘ ตัวช้ีวดั
๘๖ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ ำ ศ ๒๒๑๐๔ ทศั นศิลป์ ๒ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ศิลปะ ช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๒ เวลำ ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศึกษางานทศั นศลิ ป์ ท่ตี ้องวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับงานทัศนธาตุ ใน งานศิลป์ รหู้ ลกั และความงามในทัศนศลิ ป์ มีความเชื่อทางวัฒนธรรม ศิลปะบนผนงั ตามวดั โบสถ์ ในท้องถิ่น ของเรา และอิทธิพลที่ทาให้ เกิดการสร้างงานศิลปะในยุคสมัยตา่ งๆ ใชภ้ มู ิปัญญามรดกอนั ทรงคุณคา่ ของ ศลิ ปวัฒนธรรมไทย โดยใชก้ ระบวนการบรรยายความ เปรยี บเทยี บ รวบรวม นาเสนอความคดิ มุ่งมน่ั ในการทางาน มจี ิต สาธารณะ รักความเป็นไทย เห็นประโยชนข์ องทัศนศลิ ป์ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเข้าใจ และทักษะความชานาญ มุ่งมนั่ ในการทางาน มีจิตสาธารณะ รกั ความเปน็ ไทย เหน็ ประโยชนข์ องทัศนศลิ ปแ์ ละนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ตัวช้วี ัด ศ ๑.๑ ม.๒/๕, ม.๒/๖ ศ ๑.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒ รวมท้ังหมด ๔ ตัวช้ีวัด
๘๗ คำอธบิ ำยรำยวิชำดนตรี นำฏศิลป์ รหสั วชิ ำ ศ ๒๓๑๐๑ ดนตรี -นำฏศลิ ป์ ๑ กลุม่ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๓ เวลำ ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศึกษาองคป์ ระกอบที่ใช้ในงานดนตรี หลกั การร้องเพลง การเล่นดนตรเี ดย่ี ว หลกั การแต่งเพลงส้ัน ๆ องค์ประกอบในการสร้างสรรค์งานดนตรี อทิ ธิพลของดนตรที ่มี ีต่อบุคคลและสงั คม การจดั การแสดงดนตรี ววิ ัฒนาการดนตรีแต่ละยคุ สมัย ลักษณะเด่นของงานดนตรที ่ไี ด้รบั การยอมรับและการขับร้องเพลงพนื้ บา้ น โดยใชก้ ระบวนการเปรียบเทียบ อธบิ าย บรรยาย นาเสนอ ร้องเพลง เลน่ ดนตรีและการแสดงออก เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ และทักษะความชานาญ มุง่ มั่นในการทางาน มจี ติ สาธารณะ รักความเปน็ ไทย เห็นประโยชนข์ องดนตรีและนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ตวั ช้ีวัด ศ ๒.๑ ม๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ , ม.๓/๔ , ม.๓/๕ , ม.๓/๖ , ม.๓/๗ ศ ๒.๒ ม.๓/๑ ,ม๓/๒ รวมทั้งหมด ๙ ตัวช้ีวดั
๘๘ คำอธิบำยรำยวชิ ำทัศนศิลป์ รหัสวิชำ ศ๒๓๑๐๒ ทัศนศลิ ป์ ๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรศู้ ิลปะ ชั้นมัธยมศกึ ษำปีที่ ๓ เวลำ ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ศึกษาส่ิงแวดล้อม ธรรมชาติ งานทัศนศิลป์ การถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก เก่ียวกับงานจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรมโดยใช้ความรู้เร่ืองทัศนธาตุ และหลักการออกแบบ เทคนิค วิธีการของศิลปินและ ของตนเองในการสร้างงานทัศนศลิ ป์ โดยการฝึกวิเคราะห์และอภิปรายรูปแบบ เน้ือหา วิธีการใช้ทัศนธาตุ หลักการออกแบบ ให้นักเรียนมี ทักษะในการสร้างงานทัศนศิลป์ อย่างน้อย ๓ ประเภท สามารถผสมผสานวัสดุต่าง ๆ ในการสร้างงานทัศนศิลป์ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และจินตนาการให้เป็นเร่ืองราว เพื่อบรรยายเหตุการณ์ต่าง ๆ โดยใช้เทคนิ คท่ี หลากหลาย จนมีทักษะและความชานาญ เพือ่ ใหเ้ กิดความร้คู วามเข้าใจ มุ่งมั่นในการทางาน มีจติ สาธารณะ รกั ความเปน็ ไทย เห็นคณุ ค่าเก่ียวกับ งานทัศนศลิ ป์ท่ีสะท้อนคุณค่าของวัฒนธรรม และนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั อยู่อยา่ งพอเพียง ตวั ชว้ี ดั ศ ๑.๑ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔ ,ม.๓/๕ , ม.๓/๖ , ม.๓/๗ ,ม.๓/๘ ศ ๑.๒ ม.๓/๑ รวมท้ังหมด ๙ ตวั ชี้วดั
๘๙ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำดนตรี นำฏศลิ ป์ รหสั วชิ ำ ศ ๒๓๑๐๓ ดนตรี - นำฏศลิ ป์ ๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ ช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี ๓ เวลำ ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาโครงสร้าง องค์ประกอบของบทละคร ศพั ทท์ างการแสดง นาฏยศัพท์ ภาษาทา่ ทางนาฏศลิ ป์ ราวง มาตรฐาน รูปแบบการแสดง ประดษิ ฐท์ า่ ราประกอบการแสดง องคป์ ระกอบนาฏศิลป์ การจัดการแสดง บทบาท หนา้ ทข่ี องการแสดง ละครกับชีวิต การออกแบบสร้างสรรคเ์ ครอื่ งแต่งกาย ความสาคัญและบทบาทของนาฏศลิ ป์ การละครในชีวิตประจาวัน การอนุรักษ์นาฏศลิ ป์ไทยและการแสดงนาฏศลิ ป์พื้นบา้ น โดยใช้กระบวนการ อธบิ าย ระบุ ปฏบิ ตั ิท่าทางนาฏศิลป์ไทย บรรยายเปรียบเทียบ ทักษะการคิด สร้างสรรค์ การแปลความการสื่อความ วจิ ารณ์เปรียบเทียบ การจัดการแสดง นาเสนอความคิด แสดงความคดิ เหน็ ออกแบบสรา้ งสรรค์อปุ กรณ์เคร่ืองแต่งกาย เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ความเขา้ ใจ และทักษะความชานาญ มงุ่ มน่ั ในการทางาน มจี ติ สาธารณะ รักความเปน็ ไทย เหน็ ประโยชนข์ องนาฏศิลป์และนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ตวั ช้ีวดั ศ ๓.๑ ม๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ , ม.๓/๔ , ม.๓/๕ , ม.๓/๖ , ม.๓/๗ ศ ๓.๒ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒ รวมท้ังหมด ๑๐ ตัวชี้วัด
๙๐ คำอธิบำยรำยวิชำทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ ำ ศ๒๓๑๐๔ ทัศนศิลป์ ๒ กลุ่มสำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ ๓ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศกึ ษางานทศั นศิลป์ ศิลปะการตกแต่ง งานประดษิ ฐ์ของทีร่ ะลึก การวจิ ารณ์งาน การจดั แสดงผลงาน ทางศิลปะ ผลิตภัณฑ์ภมู ิปญั ญาไทย ภูมิปัญญาสากล ศิลปะพน้ื บ้านแตล่ ะภาค ศิลปะบนผนังตามวดั โบสถ์ ใน ท้องถ่ินของเรา คุณค่าในศิลปวฒั นธรรม ดา้ นจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรมและหตั ถกรรม โดยใชก้ ระบวนการบรรยายความ เปรยี บเทียบ รวบรวม นาเสนอความคิด การฝึกทักษะปฏิบตั ิจนเกิด ความชานาญ มงุ่ ม่นั ในการทางาน มจี ติ สาธารณะ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ และทกั ษะความชานาญ มงุ่ มั่นในการทางาน มจี ิตสาธารณะ รักความเป็น ไทย เห็นประโยชน์ของทัศนศิลปแ์ ละนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั อยอู่ ยา่ งพอเพียง ตวั ช้ีวดั ศ ๑.๑ ม.๓/๖ , ม.๓/๙ ,ม.๓/๑๐ ,ม.๓/๑๑ ศ ๑.๒ ม.๓/๒ รวมทั้งหมด ๕ ตัวชี้วดั
๙๑ คำอธิบำยรำยวิชำศิลปะ(ดนตรี นำฏศลิ ป)์ รหัสวิชำ ศ ๓๑๑๐๑ ดนตรี-นำฏศิลป์ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ ๔ เวลำ ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศกึ ษาการอา่ น เขยี นโนต้ ดนตรีไทยและสากลในอัตราจงั หวะต่าง ๆ จาแนกประเภทและรูปแบบของวง ดนตรที ัง้ ไทยและสากล เปรยี บเทียบรปู แบบของบทเพลงและวงดนตรีแต่ละประเภท วเิ คราะหร์ ปู แบบของดนตรี ไทยและดนตรีสากลในยุคสมัยตา่ ง ๆ เปรยี บเทียบลักษณะเด่นของดนตรใี นทอ้ งถน่ิ และในวฒั นธรรมตา่ ง ๆ โดยใชก้ ระบวนการวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ อธบิ าย บรรยาย นาเสนอ รอ้ งเพลง เลน่ ดนตรีและการ แสดงออก เพอ่ื ใหเ้ ห็นคุณค่าของการนาความรดู้ ้านดนตรีไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวัน มวี นิ ัย รบั ผิดชอบ มี คณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามมงุ่ ม่นั ขยัน ซือ่ สัตย์ และมีคา่ นยิ มที่เหมาะสม และนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ตวั ชว้ี ดั ศ ๒.๑ ม.๔/๒, ม.๔/๒, ม.๔/๔, ม.๔/๕ ศ ๒.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๓ ศ ๓.๑ ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม.๔/๖ ศ ๓.๒ ม.๔/๓, ม.๔/๔ รวมท้ังหมด ๑๑ ตัวชว้ี ัด
๙๒ คำอธิบำยรำยวิชำศลิ ปะ(ทศั นศิลป์) รหสั วชิ ำ ศ ๓๑๑๐๒ ทัศนศลิ ป์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปะ ชัน้ มัธยมศึกษำปที ี่ ๔ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศึกษา วิเคราะหก์ ารใช้ทศั นธาตุ และหลกั การออกแบบในการส่อื ความหมาย ในรปู แบบต่างๆและการ เลือกใช้วสั ดุอุปกรณต์ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเลอื กเทคนิคของศลิ ปินในการแสดงออกทาง ทศั นศลิ ป์ บรรยายจดุ ประสงค์และเน้ือหาของงานทศั นศิลป์ โดยใช้ศพั ทท์ างทัศนศลิ ป์ โดยใช้ทักษะและเทคนคิ ในการใช้วสั ดุอุปกรณ์ และกระบวนการทสี่ ูงข้ึนในการสรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป์ สรา้ งสรรค์งานทัศนศิลป์ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ โดยเน้นหลักการออกแบบและการจดั องค์ประกอบศลิ ป์ เพ่ือให้เกิดความมรี ะเบียบวนิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความมงุ่ มั่น ดว้ ยความตง้ั ใจใฝร่ ู้ใฝเ่ รียนมีความซื่อสัตย์ สจุ รติ ต่อการสรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์อย่างเห็นคณุ ค่าและรักความเป็นไทย สามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตัวชี้วดั ศ ๑.๑ ม. ๔/๓, ม.๔/๕, ม.๔/๖, ม.๔/๗, ม.๔/๑๐, ม.๔/๑๑ ศ ๑.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒ รวมทั้งหมด ๘ ตัวช้ีวดั
๙๓ คำอธิบำยรำยวิชำศิลปะ(ดนตรี นำฏศิลป์) รหสั วิชำ ศ ๓๒๑๐๑ ดนตรี - นำฏศิลป์ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ ๕ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศึกษาประวัติสงั คีตกวี เครือ่ งหมายและสญั ลักษณ์ทางดนตรี การถ่ายทอดอารมณ์ความร้สู ึกของงาน ดนตรีจากแต่ละวฒั นธรรม บทบาทของดนตรีในการสะท้อนสังคม การอ่านโนต้ เพลงไทยและสากล เทคนคิ การ ถา่ ยทอดอารมณ์เพลงดว้ ยการขับร้องและบรรเลงเพลง การละเล่นดนตรีพน้ื บา้ นประวัตคิ วามเปน็ มา ความหมาย และรูปแบบของการแสดงระบา รา ฟ้อน การแสดงพ้ืนเมอื ง และนาฏศิลปพ์ ื้นบ้าน รวมท้ังองคป์ ระกอบของการ แสดงนาฏศลิ ป์ประเภทต่าง ๆ โดยนาทักษะการแสดงระบา รา ฟอ้ น การแสดงพื้นเมอื งมาประดษิ ฐท์ ่าราเพลงต่างๆสร้างสรรคผ์ ลงานการ แสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยในโอกาสต่างๆ สามารถประเมนิ คณุ ภาพการแสดงโดยใชอ้ งค์ประกอบทางการแสดง เพือ่ ใหเ้ หน็ คุณค่าในศิลปะการแสดงระบา รา ฟ้อน การแสดงพืน้ เมือง อนรุ กั ษน์ าฏศลิ ป์ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ใฝเ่ รยี นรูแ้ ละมงุ่ ม่ันในการสร้างสรรคผ์ ลงานทางการแสดงเพื่อสืบสานศิลปวฒั นธรรมไทยและนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวนั ตวั ช้ีวดั ศ ๒.๑ ม.๕/๔, ม.๕/๗, ม.๕/๒, ม.๕/๔ , ม.๕/๔ ,ม.๕/๕ ศ ๓.๑ ม.๕/๑, ม.๕/๓, ม.๕/๗, ม.๕/๘ ศ ๓.๒ ม.๕/๑, ม.๕/๔ รวมทั้งหมด ๑๒ ตัวชีว้ ดั
๙๔ คำอธิบำยรำยวิชำศลิ ปะ(ทัศนศิลป)์ รหัสวชิ ำ ศ ๓๒๑๐๒ ทศั นศลิ ป์ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ่ี ๕ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาวิเคราะหแ์ ละอธบิ ายจดุ มุ่งหมายของศลิ ปนิ ในการเลือกใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ เทคนิค และเนือ้ หา โดยจัด กล่มุ งานทัศนศิลปเ์ พอ่ื สะท้อนพฒั นาการและความกา้ วหนา้ ของตนเอง ศึกษาแนวคิดและวิธกี ารสร้างงานของ ศลิ ปินเพื่อแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับสภาพสงั คมในปัจจบุ นั โดยมีทกั ษะการเลือกใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ เทคนิค ในการออกแบบงานทัศนศลิ ปไ์ ทย และสากลอยา่ ง สรา้ งสรรค์ จดั กล่มุ งานทัศนศิลป์ในการจัดทาแฟม้ สะสมงานของตนเอง เพ่อื ใหเ้ กิดความมุ่งมั่น ทางานด้วยความต้งั ใจ ใฝ่รใู้ ฝเ่ รยี น อย่างเห็นคณุ ค่าและรักความเป็นไทยและนาไปใช้ ในชีวติ ประจาวันตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ตวั ชีว้ ัด ศ ๑.๑ ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐, ม.๕/๑๑ รวมทั้งหมด ๕ ตัวชี้วัด
๙๕ คำอธิบำยรำยวิชำศลิ ปะ(ทัศนศิลป)์ รหัสวชิ ำ ศ ๓๒๑๐๒ ทศั นศลิ ป์ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ่ี ๕ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาวิเคราะหแ์ ละอธบิ ายจดุ มุ่งหมายของศลิ ปนิ ในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เทคนคิ และเนือ้ หา โดยจัด กล่มุ งานทัศนศิลปเ์ พอ่ื สะท้อนพฒั นาการและความกา้ วหนา้ ของตนเอง ศึกษาแนวคิดและวิธกี ารสร้างงานของ ศลิ ปินเพื่อแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับสภาพสงั คมในปัจจบุ นั โดยมีทกั ษะการเลือกใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ เทคนิค ในการออกแบบงานทัศนศลิ ป์ไทย และสากลอยา่ ง สรา้ งสรรค์ จดั กล่มุ งานทัศนศิลป์ในการจัดทาแฟม้ สะสมงานของตนเอง เพ่อื ใหเ้ กิดความมุ่งมั่น ทางานด้วยความต้งั ใจ ใฝ่รใู้ ฝเ่ รยี น อยา่ งเหน็ คุณคา่ และรักความเป็นไทยและนาไปใช้ ในชีวติ ประจาวันตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ตวั ชีว้ ัด ศ ๑.๑ ม.๕/๖, ม.๕/๗, ม.๕/๙, ม.๕/๑๐, ม.๕/๑๑ รวมทั้งหมด ๕ ตัวชี้วัด
๙๖ คำอธบิ ำยรำยวิชำศิลปะ(ดนตรี นำฏศิลป)์ รหัสวิชำ ศ ๓๓๑๐๑ ดนตรี-นำฏศิลป์ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศิลปะ ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ่ี ๖ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศึกษาเครอ่ื งหมายและสัญลกั ษณท์ างดนตรีไทย สากลและดนตรีพื้นบ้านสร้างเกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ งานดนตรีและประโยชน์ของดนตรีไทย สากลและดนตรีพื้นบา้ น ในการดาเนินชีวิตประจาวนั การสรา้ งสรรค์ ผลงานทางดนตรี องคป์ ระกอบของบทเพลงและลักษณะเดน่ ของดนตรี ความเชอ่ื และคา่ นยิ มในผลงานทางดนตรี ไทย สากลและดนตรีพ้ืนบ้าน ในแต่ละวฒั นธรรม การสง่ เสรมิ อนรุ ักษด์ นตรี โดยการถ่ายทอดสุนทรยี ภาพของการขับร้องและการบรรเลงดนตรีไทยและสากลในแต่ละวฒั นธรรมอย่าง มุง่ มน่ั ดว้ ยความตั้งใจ การอธบิ ายอทิ ธพิ ลของวัฒนธรรมที่มีผลตอ่ เนื้อหาของละคร และการละครสมัยต่าง ๆ เพื่อใหเ้ กิดการใฝร่ ู้ใฝ่เรยี น อยา่ งเหน็ คุณคา่ สร้างสรรคล์ ะครสัน้ ในรปู แบบต่าง ๆ ศกึ ษาประวตั ิความ เป็นมาองคป์ ระกอบของละครสรา้ งสรรค์ ละครพูด วิจารณ์การแสดงตามหลกั นาฏศิลป์และการละคร รู้จักบุคคล สาคัญในวงการละครของประเทศไทยในยุคสมัยต่าง ๆ และนาไปใช้ในชีวติ ประจาวัน ตวั ชว้ี ัด ศ ๒.๑ ม.๖/๔ , ศ ๒.๑ ม.๖/๖ , ศ ๒.๑ ม.๖/๗ , ศ ๒.๑ ม.๖/๘ , ศ ๒.๒ ม.๖/๕ ศ ๒.๑ ม.๖/๕ ศ ๓.๑ ม.๖/๒, ม.๖/๔, ม.๖/๗ ศ ๓.๒ ม.๖/๒ รวมทั้งหมด ๑๐ ตวั ช้วี ัด
๙๗ คำอธิบำยรำยวิชำศิลปะ(ทัศนศลิ ป)์ รหัสวิชำ ศ ๓๓๑๐๒ ทศั นศิลป์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ่ี ๖ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศึกษา นาหลกั การทางการแสดงมาสรา้ งสรรค์ผลงานในรูปแบบต่างๆ สามารถประเมินคุณภาพการแสดง ละครโดยใช้องคป์ ระกอบการแสดงเหน็ คุณคา่ ในการแสดงละครไทยและสากล ภูมิใจและเหน็ คุณค่าของการ สรา้ งสรรคผ์ ลงาน วเิ คราะห์และเปรยี บเทยี บงานทศั นศิลปใ์ นรปู แบบตะวันตก และตะวนั ออก โดยระบุงานทศั นศลิ ป์ของศิลปนิ ทมี่ ีชอื่ เสยี ง และบรรยายผลตอบรบั ของสงั คม อภปิ รายเกี่ยวกับอิทธิพล ของวัฒนธรรมในท้องถน่ิ และวัฒนธรรมอนื่ ๆท่มี ผี ลต่องานทัศนศิลปใ์ นสังคม ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ ประเมิน และวิจารณ์งานทัศนศิลป์โดยใช้ทฤษฎีการวิจารณ์ศิลปะ บรรยายถึงการเปลย่ี นแปลงของงานทัศนศิลป์ของไทยใน แต่ละยคุ สมัยโดยเนน้ ถงึ แนวคิดและเน้อื หาของงาน ต่อยอดแนวคิดของงานทัศนศิลปท์ ้องถิ่น พวงมโหตร สไบมอญ เครอ่ื งปนั้ ดินเผา และนาเสนอวธิ ีการในการเผยแพรว่ ัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ ใหเ้ ปน็ ทรี่ จู้ กั เพื่อให้เหน็ คุณคา่ และช่นื ชมในความงามทางศิลปวฒั นธรรมไทย ภมู ิปัญญาไทย ภมู ิปัญญาท้องถิ่นและ สากล สามารถนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ตวั ช้วี ัด ศ ๑.๑ ม.๖/๘ ศ ๑.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓ รวมทั้งหมด ๔ ตัวช้ีวัด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114