สารบัญ ๑ สาระการอ่าน ๒ ๑ ขอ้ เทจ็ จรงิ กับข้อคดิ เหน็ ๔ ๒ ความหมายโดยตรงและความหมายโดยนยั ๕ ๓ การอา่ นจบั ใจความสาคญั ๘ ๔ การอา่ นเรอ่ื งต่าง ๆ แล้วเขยี นย่อความ ๑๑ ๕ การประเมินเรอื่ งทีอ่ ่านโดยใชก้ ลวิธีการเปรยี บเทียบ ๑๒ ๖ การประเมินความถกู ต้องของข้อมลู ทใี่ ช้สนับสนนุ ๑๔ ๗ การลาดับความเปน็ ไปได้ของเรอื่ ง ๑๖ ๘ การแสดงความคดิ เหน็ โต้แยง้ จากเร่อื งทีอ่ ่าน ๑๘ ๙ การตีความและประเมินคณุ คา่ จากงานเขยี น ๒๑ สาระการเขียน ๒๓ ๑๐ การเขยี นสอื่ สารโดยใช้คาถกู ต้อง ๒๕ ๑๑ การเขยี นบรรยายและเขยี นพรรณนา ๒๗ ๑๒ การเขียนเรียงความ ๑๓ การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ ๒๙ ๓๑ การฟัง การดู และการพูด ๑๔ การพดู ในโอกาสต่าง ๆ ๓๓ ๑๕ การพดู โนม้ น้าวใจ ๓๖ ๓๙ หลกั การใช้ภาษาไทย ๔๑ ๑๖ การสรา้ งคาในภาษาไทย ๔๔ ๑๗ ชนดิ และหน้าท่ีของคา ๔๘ ๑๘ สานวนทเ่ี ปน็ คาพงั เพยและสภุ าษติ ๕๐ ๑๙ โครงสรา้ งประโยค ๕๒ ๒๐ คาภาษาตา่ งประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย ๒๑ ระดับภาษา ๕๕ ๒๒ ภาษาพดู และภาษาเขียน ๕๗ ๒๓ โคลงสีส่ ุภาพ ๖๐ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ๒๔ สรุปเน้ือหาวรรณคดแี ละวรรณกรรมทอี่ า่ น ๒๕ วถิ ไี ทยและคณุ คา่ จากวรรณคดีและวรรณกรรม ๒๖ สรปุ ความรู้และขอ้ คิดจากการอ่านเพือ่ นาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ ปกั หมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒ ข้อเท็จจริงกบั ขอ้ คิดเห็น ขอ้ เท็จจรงิ ข้อคดิ เหน็ ข้อความหรอื เหตุการณ์ทีเ่ ป็นมาหรอื เปน็ ความเห็น ความรู้สกึ นกึ คดิ หรอื ขอ้ เสนอแนะ อยู่ตามความจรงิ และต้องสามารถพสิ จู น์ ท่สี อดแทรกอยใู่ นเนือ้ หา ไม่สามารถสนบั สนุน สนบั สนนุ ยนื ยันได้ ยืนยนั ได้ ลกั ษณะของข้อเท็จจรงิ ลักษณะของข้อคดิ เหน็ o มคี วามเป็นไปได้ o เปน็ ขอ้ ความทแ่ี สดงความรู้สกึ o มคี วามสมจริง o เปน็ ขอ้ ความทแี่ สดงการคาดคะเน o มีหลักฐานเชื่อถอื ได้ o เปน็ ขอ้ ความทีเ่ ปน็ การเสนอแนะ o มีความสมเหตุสมผล o เปน็ ขอ้ ความที่แสดงความคดิ ของผูพ้ ูด หรือผ้เู ขยี นเอง แนวข้อสอบ ๑. ขอ้ ความตอ่ ไปน้ี ตอนใดเป็นขอ้ ความแสดงความคิดเหน็ (O-NET’๕๙) ๑) ไผส่ สี กุ เป็นไผ่ที่นยิ มนามาทาเคร่อื งจักสานมากท่สี ดุ ๒) เพราะมผี ิวเรยี บเป็นมัน เนื้อหนาและแข็ง ลาตน้ ตรง พบอยู่ทว่ั ไปแทบทุกภาคของประเทศ ๓) ส่วนไผซ่ างเปน็ ไผ่ขนาดกลาง ปลอ้ งยาว เน้ืออ่อน ขน้ึ ทัว่ ไป ในภาคเหนอื ๔) ชาวบ้านนามาทาตะกร้า หรือทาตอก ใชม้ ัดส่ิงของ ๑. ตอนที่ ๑) ๒. ตอนที่ ๒) ๓. ตอนท่ี ๓) ๔. ตอนที่ ๔) ๒. ขอ้ ใดเปน็ ขอ้ ความแสดงข้อเทจ็ จริง (O-NET’๖๐) ๑. ปจั จบุ นั วนั ตรษุ ไทยกลายเปน็ เทศกาลเลน่ นา้ สนุกสนานไปเสียแล้ว ๒. ในวันตรุษจีน ชาวจนี มักเชื่อวา่ การไมม่ หี นส้ี นิ เปน็ มงคลแก่ชวี ติ ใหม่ ๓. เราควรละวางทุกขเ์ ปน็ ประจาทกุ คืน เพราะเมอื่ หลบั เราจะไม่รับรู้อะไรอีกแลว้ ๔. ก่อนเขา้ พธิ ดี ่ืมชาต้องทาความสะอาดรา่ งกาย สวมชุดญี่ปุ่น แลว้ คลานเขา้ ไปนั่งในหอ้ งพธิ ี ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓ ๓. ข้อความตอนใดเปน็ ขอ้ ความแสดงข้อคิดเหน็ (O-NET’๖๑) ๑) นกเงือกมีบทบาทชว่ ยกระจายเมล็ดพันธไ์ุ มใ้ นปา่ ๒) พวกมันจะบนิ ครอบคลุมและใช้ประโยชนใ์ นพ้นื ท่ี ป่ากว้างมาก ๓) ทาให้ป่าเกิดความสมดุลจากการกระจายเมล็ดพันธุ์ผ่านมูลนก ๔) หากอนุรักษ์นกเงือกไว้ก็ น่าจะสามารถอนุรักษแ์ ละสร้างสมดุลพืชพรรณในปา่ ได้อกี มาก ๑. ตอนท่ี ๑) ๒. ตอนท่ี ๒) ๓. ตอนท่ี ๓) ๔. ตอนที่ ๔) ๔. ข้อความตอนใดเปน็ ขอ้ ความแสดงความคิดเห็น (O-NET’๖๒) ๑) คีโตเจนิคไดเอท คือการลดน้าหนักที่เน้นอาหารประเภทไขมันและโปรตีนพร้อมกับงดแป้งและน้าตาล ๒) หลักการก็คือ ไม่กินแป้งทาให้ไม่มีคาร์โบไฮเดรตไปช่วยสร้างพลังงาน ๓) ทาให้ร่างกายดึงไขมันท่ีสะสมอยู่ ออกมาใช้น่ันเอง ๔) ส่วนผู้ทม่ี ภี าวะเบาหวานควรอยใู่ นความดูแลของคณุ หมออยา่ งใกลช้ ิด ๑. ตอนที่ ๑) ๒. ตอนท่ี ๒) ๓. ตอนที่ ๓) ๔. ตอนท่ี ๔) ๕. ข้อความต่อไปนสี้ ่วนใดเป็นข้อความแสดงขอ้ เท็จจรงิ (O-NET’๖๓) ๑) ผูเ้ ขยี นเปน็ นกั ประพนั ธ์สมคั รเลน่ ในชว่ งทม่ี กี ารระบาดของโรคโควดิ -๑๙ ๒) นบั วา่ เปน็ การเลอื กทางานไดถ้ กู ทถ่ี กู ทางและถกู เวลาเป็นอย่างมาก ๓) เพราะไดท้ างานอยกู่ บั บา้ นดีกวา่ ออกไปพบปะผคู้ นนอกบา้ น ๔) แต่ละวันจึงผ่านไปอย่างมชี ีวิตชวี า ๑. ส่วนท่ี ๑) ๒. ส่วนที่ ๒) ๓. สว่ นท่ี ๓) ๔. ส่วนท่ี ๔) ๖. ข้อใดเป็นข้อความแสดงขอ้ คิดเหน็ (O-NET’๖๓) ๑. คณุ ปา้ บรจิ าคทีด่ นิ ท่ีเปน็ มรดกตกทอดให้โรงเรยี นเทศบาลวดั ทา้ วโคตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ๒. โรคระบาดโควิด-๑๙ เร่มิ ระบาดในนครอู่ฮ่ัน ประเทศสาธารณรฐั ประชาชนจีน ตง้ั แต่ช่วงปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ๓. ตู้หนงั สอื ของบา้ นในอดีตเปน็ แรงบันดาลใจให้ฉนั อยากมีบา้ นหนงั สือ เพอื่ ช่วยใหเ้ ด็กได้เรยี นรูส้ ังคมอย่างมี ความสขุ ๔. หอสมดุ แห่งชาติเดมิ ชอื่ หอพระสมดุ วชิรญาณสาหรบั พระนคร ได้ดาเนินการมาตัง้ แต่รัชกาลท่ี ๕ ถงึ ปจั จุบนั ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔ ความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย ๑. คาท่ีมีความหมายโดยตรง คอื คาทีม่ ีความหมายตรงตวั ไม่ตอ้ งตีความ เช่น กล้วย คือ ผลไม้ชนิดหน่ึง เมอื่ ผลสกุ จะมสี ีเหลอื ง ดาว คือ ส่งิ ที่เหน็ เปน็ ดวงมแี สงสว่างในท้องฟา้ เวลามืด ๒. คาทีม่ คี วามหมายเปรียบเทยี บหรือความหมายแฝง (โดยนยั ) คอื คาทีม่ ีความหมายไมต่ รงตามตัวต้องอาศยั การ ตคี วาม (แปล) เชน่ คา ความหมายตรง ความหมายเปรยี บเทียบ (แฝง) หมู แม่พาฉันไปกนิ หมูกระทะ แบบฝกึ หดั ท่โี รงเรียนวันน้ีหมูมาก ๆ ลงิ ลิงตัวน้นั เกาะอยู่บนตน้ ไม้ เด็กพวกนี้ซนเปน็ ลิงเลย แนวขอ้ สอบ ๑. ขอ้ ใดมคี วามหมายโดยนัย (O-NET’๕๙) ๒. แม่มลี ูกมอื ทาขนมหลายคน ๑. เขามีอาชพี เปน็ ลูกหาบ ๔. ดาราตลกช่ือดงั เปน็ ลูกบ้านของกานันคนใหม่ ๓. ลกู พ่ขี องเดก็ แว้นกลมุ่ นค้ี ่อนข้างมเี หตผุ ล ๒. คาที่ขีดเสน้ ใตข้ ้อใดมคี วามหมายโดยนยั (O-NET’๖๐) ๒. เขาทอดลกู เต๋าเพ่อื เลน่ เกมเศรษฐมี หาสนกุ ๑. เธอทอดสะพานใหช้ ายหนมุ่ เข้ามาจบี ๔. ผมเตรยี มทาทอดมันเพอ่ื ทาบุญเล้ียงพระเพล ๓. ฉันทอดผ้าปา่ สามัคคีเพ่อื ระดมเงินทนุ เข้าวัด ๓. ขอ้ ใดไม่มีความหมายโดยนัย (O-NET’๖๑) ๒. ฉนั ชอบกินเสน้ ใหญ่ ๑. เธออยา่ นงั่ กนิ ท่ี ๔. รถคนั น้ีกินน้ามนั มาก ๓. เพลงน้ีมเี นื้อหากนิ ใจ ๔. คาทข่ี ดี เสน้ ใตใ้ นข้อใดมีความหมายทง้ั โดยตรงและโดยนยั (O-NET’๖๒) ๑. รายการวันนีข้ อแนะนาดนิ แดนแห่งไข่มกุ อนั ดามัน ๒. ทแ่ี หง่ นม้ี ีธรรมชาติสวยงามดัง่ สวรรคข์ องนกั ทอ่ งเที่ยว ๓. นิทรรศการอาหารท้องถ่นิ ทาใหค้ นทว่ั ไปรูจ้ ักภูมหิ ลังของภูเก็ต ๔. นทิ รรศการแสดงการอพยพของลกู หลานพญามังกรมายังภเู ก็ต ๕. ขอ้ ใดมคี วามหมายโดยนัยไมส่ อดคลอ้ งทจ่ี ะเติมในช่องวา่ งทก่ี าหนดให้ (O-NET’๖๓) “การแก้ปญั หาความขัดแย้งในหนว่ ยงานจะสาเร็จลลุ ว่ งได้หากทกุ คน.......” ๑. จับเขา่ คุยกนั ๒. เปดิ อกคุยกนั ๓. หนั หน้าเข้าหากนั ๔. สวมหน้ากากเข้าหากัน ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๕ การอา่ นจบั ใจความสาคัญ การอ่านจบั ใจความสาคญั การอา่ นจับใจความสาคญั เปน็ การอ่านเพ่อื จับใจความสาคญั ทีเ่ ปน็ สาระสาคญั ของเร่อื ง ในหนึง่ ยอ่ หน้าจะมี ใจความสาคัญท่ีสุดเพียงใจความเดียว ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นประโยค ซ่ึงมักปรากฏอยู่ตอนต้น ตอนกลาง หรือ ตอนท้ายของยอ่ หนา้ หลักการอา่ นจบั ใจความสาคญั ๑. อ่านเรอ่ื งครา่ ว ๆ เพอื่ ใหท้ ราบวา่ เร่อื งที่อ่านเกย่ี วกบั อะไร จุดใดเป็นสาระสาคญั ของเรือ่ ง ๒. อ่านโดยละเอยี ดเพือ่ ทาความเข้าใจเร่ืองทอ่ี ่านอย่างชดั เจน ๓. อ่านซา้ ตอนท่ีไม่เข้าใจและตรวจสอบความเขา้ ใจให้ถูกต้อง ๔. เรยี บเรยี งใจความสาคัญทไ่ี ดจ้ ากการอ่านดว้ ยตนเอง แนวขอ้ สอบ อา่ นข้อความตอ่ ไปนีแ้ ลว้ ตอบคาถามขอ้ ๑ อะไรคือความหวัง ความหวังเกิดขึ้นเม่ือไหร่ เพราะอะไร ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าความหวังเป็นสัญลักษณ์ของ ความไร้เดยี งสา เพราะคนทเี่ คยเจบ็ ปวดกบั ความผดิ หวงั มาแล้วย่อมบอกตวั เองว่าไม่ควรคาดหวัง หรืออย่างน้อยก็ควร ลดความคาดหวังลง แตค่ วามหวังเปน็ เรื่องท่ีห้ามยาก มันเกิดขึ้นของมันเอง ที่แปลกก็คือทุกคร้ังท่ีมีความหวัง เราจะมี พลงั กลบั ไปเยาวว์ ัยอกี ครั้ง แววตาเราจะเปลยี่ นไป หวั ใจเตน้ แรง เลือดลมสบู ฉดี “ความหวงั ” เกิดขึ้นพร้อม “ความรัก” เรารกั เราจึงคาดหวัง ไม่วา่ กบั คนหรืองานหรอื เรื่องตา่ ง ๆ ในชีวิต เรา ร้สู กึ เป็นส่วนหน่ึงกับสิ่งนนั้ หลอมรวมตวั เองเข้ากบั ส่งิ น้นั เปน็ เน้ือเดยี วกัน ความหวังในเร่ืองน้ัน ในส่ิงน้ัน ถึงท่ีสุดแล้ว คอื ความหวงั กับตัวเอง หากสมหวงั เรากจ็ ะเปน็ คนท่ีเรารัก เป็นคนที่เราอยากเปน็ ๑. ขอ้ ใดเปน็ ประโยคใจความสาคัญของขอ้ ความตอนนี้ (O-NET’๕๘) ๑. ความหวงั เป็นสัญลกั ษณข์ องความไร้เดยี งสา ๒. ความหวังเป็นเรอื่ งที่หา้ มยาก มนั เกิดข้นึ ของมนั เอง ๓. ทุกครง้ั ท่ีมีความหวังเราจะมีพลังกลบั ไปเยาวว์ ัยอกี คร้ัง ๔. เรารกั เราจงึ คาดหวงั ไม่วา่ กบั คนหรอื งาน หรือเรื่องตา่ ง ๆ ในชีวติ ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๖ ๒. ข้อใดเปน็ ใจความสาคัญของขอ้ ความตอ่ ไปน้ี (O-NET’๕๙) คนเราเกิดมาไม่มีใครสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้ ต่างต้องพึ่งพาอาศัยซ่ึงกันและกันท้ังนั้น ย่ิงเรารู้จักคนมาก เท่าใด กย็ ่งิ เป็นคนกวา้ งขวางและจะเปน็ ประโยชน์แก่ตวั เราเองมากยิ่งขึ้นเท่านัน้ ความสาเรจ็ ทกุ อยา่ งไม่ว่าจะเป็นทาง ราชการ ทางการค้าหรือในกิจการส่วนตัว ล้วนข้ึนอยู่กับความกว้างขวางของตัวเราเป็นสาคัญ ฉะน้ันการมีเพื่อนจึง จาเป็นท่ีสุด เราจะต้องพยายามร้จู กั คนให้มากท่ีสุดเท่าที่จะมากได้โดยไม่ต้องเลือกว่าใครเป็นใคร แต่ว่าการคบเพ่ือน นัน้ มที ั้งคุณและโทษ ฉะนนั้ จงึ ต้องระวงั ให้มาก ๑. ทุกคนตอ้ งพึง่ พาอาศัยกนั ๒. การคบเพ่ือนจะต้องรอบคอบ ๓. คนเราจะขาดการคบเพือ่ นไมไ่ ด้ ๔. การรจู้ กั คนมากเปน็ ประโยชน์ในการทางาน อ่านขอ้ ความตอ่ ไปน้แี ล้วตอบคาถามข้อ ๓ (O-NET’๖๐) องค์การนาซากลา่ วถึงการคน้ พบดาวเคราะหน์ อกระบบสุริยะจากการสง่ ยานอวกาศไปสารวจดาวเคราะห์ท่ีมี ขนาดใกลเ้ คยี งกบั โลกเมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ยานอวกาศดังกลา่ วจะมองหาดาวฤกษ์และดวงดาวทอ่ี ยใู่ กล้ ๆ กาแล็กซีทาง ช้างเผือกของเรา การค้นพบครง้ั ใหม่นี้สรา้ งความตน่ื เต้นให้แกน่ กั ดาราศาสตร์เป็นอยา่ งมากเนื่องจากบรรดาดวงดาวท่ี คน้ พบทงั้ ๑๐ ดวงซึง่ มขี นาดและอุณหภมู ใิ กลเ้ คียงกับโลก เออ้ื ตอ่ การอยูอ่ าศัยของสง่ิ มีชีวิต ๓. ขอ้ ใดคอื ใจความสาคญั ของข้อความข้างต้น ๑. การคน้ พบครงั้ นีเ้ ปน็ การคน้ พบครัง้ ใหมซ่ ง่ึ น่าต่นื เตน้ มาก ๒. ดาวเคราะห์ทง้ั ๑๐ ดวงน้นี า่ จะมีขนาดและอณุ หภูมิใกลเ้ คยี งกบั โลก ๓. ข้อมูลการคน้ พบดาวเคราะหไ์ ดม้ าจากยานอวกาศขององคก์ ารนาซา ๔. องคก์ ารนาซาคน้ พบดาวเคราะห์ ๑๐ ดวงนอกระบบสุรยิ ะท่ีสิง่ มีชวี ติ อาจอยอู่ าศยั ได้ ๔. ข้อใดคอื ใจความสาคัญของข้อความตอ่ ไปน้ี (O-NET’๖๑) เกษตรกรรมทางเลือกเปน็ การทาเกษตรที่หลกี เลย่ี งการใช้สารเคมี เน้นการใช้ปุ๋ยอนิ ทรยี ผ์ สมผสานการปลกู พืชและเลย้ี งสัตว์ งดเวน้ หรือลดการใชส้ ารเคมีใหน้ ้อยลง ปจั จุบันมคี วามต้องการพืชผักปลอดสารพิษในกลุ่มผู้รักษา สขุ ภาพ ทาใหเ้ กษตรกรรมทางเลือกเปน็ แนวทางท่ีเกษตรกรน่าจะอย่รู อดได้ ๑. สารเคมเี ป็นอันตรายตอ่ สุขภาพของทกุ คน ๒. เกษตรกรรมทางเลือกช่วยให้เกษตรกรอยรู่ อด ๓. พชื ผกั ปลอดสารพษิ เปน็ ทนี่ ยิ มของผรู้ ักสุขภาพและคนทั่วไป ๔. เกษตรกรรมทางเลอื กเป็นการทาเกษตรทง่ี ดเวน้ หรอื ลดการใชส้ ารเคมี ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๗ อา่ นข้อความต่อไปนแี้ ล้วตอบคาถามข้อ ๕ (O-NET’๖๒) ๑) เหง่ือเปน็ ของเหลวท่ีถูกขับออกตามผิวหนังเพื่อช่วยระบายความร้อนจากการทากิจกรรมต่าง ๆ ๒) ไม่ว่าจะ เป็นการออกกาลังกาย การเดินหรือการอยู่ในท่ีที่มีอากาศร้อน แม้แต่สภาวะเครียดก็ทาให้เกิดเหงื่อได้เช่นกัน ๓) เหง่ืออาจจะสรา้ งความราคาญใหใ้ ครหลาย ๆ คน แต่ร้หู รอื ไม่ว่าข้อดีของเหง่ือประการหนึ่ง คือ ช่วยทาให้ผิวของเรา สะอาด ๔) เนอื่ งจากเหงอ่ื จะช่วยขับสารพษิ ท่ีสะสมอยใู่ นผวิ หนงั ลดการเกิดผดผ่ืน สิว หรือปัญหาที่เกิดจากการติด เชอ้ื บริเวณผิวหนังได้ ๕. ข้อใดสรปุ ใจความสาคญั ของขอ้ ความข้างต้นไดถ้ ูกตอ้ ง ๑. เหงือ่ เป็นของเหลวที่ถูกขบั ออกตามผิวหนัง ๒. แมเ้ หงื่อจะนา่ ราคาญแตก่ ็มีประโยชนต์ อ่ มนษุ ย์ ๓. ข้อดีประการเดียวของเหงอ่ื คอื ชว่ ยทาใหผ้ วิ ของเราสะอาด ๔. เหงอื่ ชว่ ยขับสารพษิ และลดการติดเชอ้ื บริเวณผวิ หนงั เทา่ นนั้ อ่านข้อความตอ่ ไปนีแ้ ลว้ ตอบคาถามขอ้ ๖ และขอ้ ๗ (O-NET’๖๓) เกดิ กระแสขา่ วดาวเคราะหน์ อ้ ยชนโลกอีกคร้งั ครั้งนี้พดู ถงึ “ดาวเคราะห์น้อย ๒๐๑๘” ซ่ึงจะโคจรเข้าใกล้ โลกทีส่ ดุ ในวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ก่อนหน้าวันเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาเพียง ๑ วัน แต่ความเป็นไปได้ที่จะ เกดิ อันตรายต่อโลกค่อนข้างน้อยมาก เนอ่ื งจากมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง ๒ เมตร ซึ่งหากพุ่งเข้าชนโลกจริงก็ เปน็ ไปได้ท่จี ะเผาไหมใ้ นชนั้ บรรยากาศเกือบหมดก่อนลงสู่พื้นโลก ๖. ข้อใดสรปุ ใจความสาคัญของข้อความข้างต้นได้ถูกตอ้ ง ๑. “ดาวเคราะหน์ อ้ ย ๒๐๑๘” ที่จะพงุ่ ชนโลกเปน็ เพยี งขา่ วลือ ๒. “ดาวเคราะหน์ ้อย ๒๐๑๘” ท่ีเป็นอันตรายตอ่ โลกอยา่ งใหญ่หลวง ๓. “ดาวเคราะหน์ ้อย ๒๐๑๘” จะโคจรเขา้ ใกลโ้ ลกแต่ก่อใหเ้ กดิ อันตรายน้อย ๔. “ดาวเคราะหน์ อ้ ย ๒๐๑๘” จะมีขนาดเสน้ ผา่ นศนู ย์กลางเพียง ๒ เมตรเมอ่ื มาถึงพืน้ โลก ๗. ข้อใดไม่ไดก้ ลา่ วถงึ ในข้อความข้างตน้ ๑. วนั ทีโ่ คจรเข้าใกลโ้ ลก ๒. ขนาดของดาวเคราะหน์ ้อย ๓. ลกั ษณะภมู ิอากาศของโลก ๔. การโคจรของดาวเคราะหน์ อ้ ย ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๘ การอ่านเร่ืองตา่ ง ๆ แลว้ เขียนย่อความ การเขยี นยอ่ ความ ยอ่ ความ คือ การนาใจความสาคญั แต่ละตอนจากเนอื้ เรอ่ื งมาสรุปและเรยี บเรยี งใหมใ่ ห้เหลือสั้นกวา่ เดิม มี ลักษณะกะทัดรดั และได้ใจความสาคญั ครบถว้ น หลกั การยอ่ ความ ๑. อ่านเรือ่ งโดยตลอดจนจบ เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจเรื่องท้งั หมด ๒. จบั ใจความสาคัญของแต่ละย่อหน้า ๓. นาใจความสาคญั มาเรยี บเรียงดว้ ยสานวนของตนเอง ๔. เขียนใหถ้ ูกตอ้ งตามรปู แบบการเขยี นย่อความ รปู แบบการเขียนยอ่ ความ ย่อ ประเภทงาน เร่ือง ช่ือเรื่อง ของ ผูแ้ ต่ง จาก ช่อื หนังสอื หนา้ เลขทห่ี น้า มีใจความวา่ เนื้อหาท่ียอ่ . ตวั อยา่ งเชน่ ย่อ นิทานคากลอน เรื่อง พระอภยั มณี ของ สุนทรภู่ จากหนังสอื เรอื่ งพระอภัยมณี หน้า ๑๐๐-๑๖๐ มีใจความวา่ พระอภัยมณีอยกู่ ับนางผีเสอื้ สมทุ รจนมลี ูกดว้ ยกัน คอื สินสมุทร............................. แนวข้อสอบ ๑. ข้อใดเขยี นคานายอ่ ความไม่ถกู ตอ้ ง (O-NET’๖๐) ๑. ยอ่ บทความเร่อื งพระผู้ทรงเปน็ ครแู ห่งแผ่นดิน ของสานักงานเลขาธกิ ารคุรสุ ภา จากหนังสอื สมเด็จพระบรม ราชินี “คร”ู ศรีแผ่นดิน หนา้ ๔๑ – ๕๕ มใี จความวา่ ๒. ยอ่ สารคดเี รือ่ งมวิ นคิ หรอื มึนเชน ของเรือใบสองสี จากหนงั สอื เลยี บเสน้ ทางโรแมนติก บาวาเรยี ออสเตรยี หนา้ ๖๗ – ๗๐ มีใจความว่า ๓. ยอ่ ขา่ วเรื่องค่าไฟพุง่ คา่ ครองชีพพรวด จากหนังสอื พมิ พ์ B.L.T. ฉบบั วนั ท่ี ๒๗ กรกฎาคม - ๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ หนา้ ๕ มีใจความวา่ ๔. ย่อคาบรรยายวิชาพิเศษเรือ่ งอุปัชฌาย์ ของสมเด็จพระธีรญาณมนุ ี บรรยายถวายเจ้าคณะจงั หวัด เจ้าคณะ อาเภอ ณ โรงเรยี นพระสงั ฆาธกิ ารส่วนกลางวัดสามพระยา กรุงเทพฯ มีใจความว่า ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๙ อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปนแ้ี ลว้ ตอบคาถามข้อ ๒ (O-NET’๖๑) คลองแสนแสบเปน็ คลองขุดใหม่ในรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระน่งั เกล้าเจ้าอยหู่ วั รัชกาลท่ี ๓ ใช้เวลาในการขุด ๓ ปี คอื ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๐ - ๒๓๘๓ คลองแสนแสบเริ่มขุดตั้งแต่บริเวณคลองบางลาพูกับคลองโอ่งอ่างบรรจบกัน มาถงึ วงั สระปทุม ผ่านเขตหนองจอก ถงึ ตาบลบางน้าเปรีย้ ว จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา แล้วเชอื่ มต่อกบั คลองบางขนากเพื่อออก ส่แู มน่ า้ บางประกง ๒. ขอ้ ใดเปน็ ใจความสาคัญที่นาไปใช้เขยี นยอ่ ความได้ถูกตอ้ ง ๑. คนไทยอาศัยคลองแสนแสบทาการคา้ ขาย ๒. การขุดคลองแสนแสบทาใหก้ ารเกษตรอดุ มสมบูรณ์ ๓. คลองแสนแสบขุดเช่อื มตง้ั แตก่ รงุ เทพฯถงึ ฉะเชงิ เทรา ๔. การเดนิ ทางตอ้ งอาศยั คลองแสนแสบเปน็ เสน้ ทางหลกั เทา่ นนั้ อ่านข้อความตอ่ ไปน้ีแล้วตอบคาถามข้อ ๓ (O-NET’๖๑) เมื่อมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมในตอนต้นพุทธศตวรรษท่ี ๒๔ มนุษย์รู้จักการใช้เคร่ืองจักรแทนแรงงานคน ทาให้ การผลติ สนิ คา้ ตา่ ง ๆ มคี วามหลากหลายชนดิ มากข้นึ และผลิตได้ในปริมาณมากภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่การช่างท่ี ใชฝ้ ีมือและศิลปะก็ยงั คงมอี ยตู่ อ่ มา และยงั ได้พัฒนาทง้ั ในด้านรูปแบบและคุณภาพ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับสินค้าท่ีผลิต จากโรงงานอุตสาหกรรมได้ ๓. ขอ้ ใดเปน็ สาระสาคัญทน่ี าไปใชเ้ ขียนยอ่ ความได้ถูกตอ้ ง ๑. การปฏวิ ตั ิอุตสาหกรรมเรมิ่ ตน้ เม่อื ตอนต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๔ กอ่ นการช่างฝมี อื ๒. การชา่ งฝมี ือและเครื่องจักรอุตสาหกรรมสามารถผลิตสนิ ค้าท่มี ีคุณภาพเทา่ เทียมกนั ๓. ผลติ ภัณฑ์ของชา่ งฝีมือมีรปู แบบสวยงามเปน็ ที่นยิ มมากกว่าผลิตภณั ฑเ์ ครอ่ื งจักรอุตสาหกรรม ๔. แม้โรงงานอตุ สาหกรรมจะผลิตสนิ คา้ ไดป้ รมิ าณมาก แต่การชา่ งฝมี ือกส็ ามารถผลติ สนิ คา้ คุณภาพแข่งขันได้ อ่านขอ้ ความตอ่ ไปนี้แล้วตอบคาถามข้อ ๔ (O-NET’๖๒) ๑) เหง่อื เปน็ ของเหลวทถ่ี กู ขับออกตามผิวหนงั เพ่อื ช่วยระบายความร้อนจากการทากิจกรรมต่าง ๆ ๒) ไม่ว่าจะ เป็นการออกกาลังกาย การเดินหรือการอยู่ในท่ีท่ีมีอากาศร้อน แม้แต่สภาวะเครียดก็ทาให้เกิดเหง่ือได้เช่นกัน ๓) เหงื่ออาจจะสรา้ งความราคาญให้ใครหลาย ๆ คน แตร่ ู้หรือไมว่ า่ ข้อดีของเหง่ือประการหน่ึง คือ ช่วยทาให้ผิวของเรา สะอาด ๔) เน่ืองจากเหงอ่ื จะช่วยขับสารพษิ ทสี่ ะสมอยใู่ นผวิ หนัง ลดการเกิดผดผื่น สิว หรือปัญหาที่เกิดจากการติด เช้ือบรเิ วณผิวหนงั ได้ ๔. ขอ้ ความตอนใดไม่ตอ้ งใช้ในการย่อความ ๒. ตอนที่ ๒) ๑. ตอนท่ี ๑) ๔. ตอนท่ี ๔) ๓. ตอนที่ ๓) ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๑๐ ๕. จากข้อความตอ่ ไปน้ี ข้อความสว่ นใดสามารถนาไปใชเ้ ขียนยอ่ ความได้ (O-NET’๖๓) ๑) เชียงรายเป็นเมืองสาคัญของภาคเหนือที่เศรษฐกิจการค้ากาลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะมีเส้นทางขนส่ง ตา่ ง ๆ ๒) ทางน้ามแี มน่ ้าโขงไหลผ่านทีต่ ดิ ต่อไปยังจนี เมียนมา และลาวได้สะดวก ๓) ทางบกมสี ะพานมติ รภาพไทย - ลาว ๔ และถนนสายเอเชียหมายเลข ๒ ท่ีไปสิ้นสุดที่จุดผ่านแดนถาวรพรมแดนไทย - เมียนมาในอาเภอแม่สาย ๔) ทางอากาศมที า่ อากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวงเป็นสนามบินท่ีสามารถขนส่งสินค้าระหว่างประเทศได้ ๕) ด้วย ทาเลท่ีต้งั และระบบขนส่งทัง้ ทางนา้ ทางบก และทางอากาศนี้เองที่ทาให้จงั หวัดนเ้ี จริญอย่างมาก ๑. สว่ นที่ ๑ และ สว่ นที่ ๔ ๒. ส่วนที่ ๑ และ สว่ นที่ ๕ ๓. สว่ นท่ี ๒ และ สว่ นที่ ๓ ๔. ส่วนท่ี ๓ และ สว่ นที่ ๕ ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๑๑ การประเมินเรอื่ งท่อี า่ น โดยใช้กลวิธกี ารเปรยี บเทียบ การอ่านโดยประเมนิ คณุ ค่างานเขียนดว้ ยกลวิธเี ปรยี บเทยี บจะให้ผ้อู า่ นเข้าใจเนอื้ หาทอ่ี า่ น อกี ทัง้ ยังไดร้ ู้จัก สงั เกตลักษณะของถอ้ ยคาและภาษาที่ใช้ในการเปรยี บเทียบด้วย แนวข้อสอบ อา่ นข้อความต่อไปน้ี แล้วตอบคาถามข้อ ๑ (O-NET’๖๑) ๑) ข้าวยา เป็นอาหารท้องถิ่นทางภาคใต้ ท่ีนาข้าวมาคลุกรวมกับเครื่องปรุง และผัก ๒) โดยเครื่องปรุงจะ ประกอบด้วย กุ้งแห้งป่น มะพร้าวค่ัว และน้าบูดู ๓) ส่วนผัก ได้แก่ ถั่วฝักยาว ถ่ัวงอก ถั่วพู ตะไคร้ และใบยอ เช่นเดียวกับขา้ วคลกุ กะปิของภาคกลาง ๔) แต่ชาวใตจ้ ะนยิ มนาสจี ากพชื ดังเชน่ สเี ขียวจากใบเตยมาหุงขา้ วเพื่อให้ ขา้ วมสี ีสันนา่ รับประทาน ๑. ขอ้ ความตอนใดแสดงการเปรียบเทียบ ๑. ตอนท่ี ๑ ๒. ตอนที่ ๒ ๓. ตอนที่ ๓ ๔. ตอนที่ ๔ อา่ นข้อความต่อไปนแ้ี ล้วตอบคาถามข้อ ๒ (O-NET’๖๒) ๑) สงั คมผ้สู งู อายโุ ดยสมบูรณ์ หมายถึง สังคมทม่ี ปี ระชากรอายุ ๖๐ ปขี ึน้ ไป เป็นอัตราส่วนอย่างน้อยร้อยละ ๒๐ ของประชากรทัง้ หมดในสังคม ๒) ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ประเทศไทยได้เปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์เป็น คร้ังแรกในประวตั ศิ าสตร์ ๓) สถานการณน์ ้เี ปน็ ผลมาจากอัตราการเกิดและอัตราการตายของประชากรลดลง ทาให้ สัดสว่ นประชากรของไทยเปน็ รูปพีระมิดคว่า ๔) ประเทศไทยเป็นประเทศกาลังพัฒนาเพียงไม่ก่ีประเทศท่ีอยู่ในกลุ่ม สงั คมผสู้ งู อายุ เนอื่ งจากประเทศท่ีอยูใ่ นกลุม่ สงั คมผ้สู งู อายุสว่ นใหญ่เปน็ ประเทศพฒั นาแลว้ ๒. ข้อความตอนใดใช้กลวธิ ีการเปรียบเทียบ ๑. ตอนที่ ๑) ๒. ตอนที่ ๒) ๓. ตอนที่ ๓) ๔. ตอนท่ี ๔) อ่านข้อความตอ่ ไปนแี้ ลว้ ตอบคาถามขอ้ ๓ (O-NET’๖๓) ๑) “ภาวะข้อมูลเกนิ ขนาด” เกิดจากการแข่งขนั กันนาเสนอข้อมูลบนโลกดจิ ทิ ัลเปน็ จานวนมหาศาลเกนิ กวา่ สมองของคนจะรบั ไหว ๒) สง่ ผลใหผ้ ู้เสพขอ้ มูลเกิดความสับสน กลา่ วคอื ไม่สามารถเข้าใจบางประเดน็ ได้ ๓) นน่ั หมายความวา่ ทกุ คนเหมือนกาลงั แหวกว่ายอยทู่ ่ามกลางมหาสมทุ รของข้อมูลขา่ วสารอยา่ งไรจ้ ุดหมาย ๔) ทาใหส้ มอง เต็มไปดว้ ยข่าวปลอม ข้อมลู ที่ผลติ ซา้ แบบไรค้ ุณภาพและบทสนทนาชวนฉงน ๓. ขอ้ ความส่วนใดใช้กลวธิ ีการเปรยี บเทยี บ ๑. ส่วนที่ ๑) ๒. สว่ นที่ ๒) ๓. ส่วนที่ ๓) ๔. ส่วนที่ ๔) ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๑๒ การประเมนิ ความถูกต้องของขอ้ มูลท่ีใช้สนบั สนนุ ในเร่ืองท่อี ่าน การประเมินความถูกตอ้ งของข้อมูลที่ใช้สนับสนุนในเรื่องท่ีอ่าน เป็นการวิเคราะห์สารประเภทต่าง ๆ ตาม แนวทางการเขียนสารนัน้ ๆ เชน่ บทความ มีสว่ นประกอบคอื คานา เน้ือเรอ่ื ง สรปุ สว่ นข่าวมีส่วนประกอบคือ พาดหัว ข่าวหลัก หวั ขา่ วรอง รายละเอยี ดของขา่ ว และสรปุ ขา่ ว ท่สี าคญั ทีส่ ดุ คอื ต้องพจิ ารณาภาษาหรือถ้อยคาท่ีใช้ด้วย เพราะ งานเขียนแตล่ ะประเภทจะใช้ภาษาทแ่ี ตกตา่ งกนั ไป การประเมนิ ค่าจากเร่อื งท่อี า่ นควรยึดหลักดังน้ี ๑. อา่ นสารน้ันอย่างคร่าว ๆ คร้งั หนึ่งก่อน ครัง้ ตอ่ ไปจงึ อา่ นสารอย่างละเอียด ๒. วเิ คราะห์ให้ไดว้ า่ สารที่อา่ นเป็นสารประเภทใด เช่น ข่าว บทวิจารณ์ คานา เพลง หรือบทความ ๓. วิจารณ์แนวความคดิ และการนาเสนอของผู้เขียนสารนน้ั ตามลักษณะการเขียน ทงั้ รปู แบบ เน้ือหา และการ ใช้ภาษา แนวข้อสอบ ๑. ข้อใดไมไ่ ดก้ ล่าวสนบั สนนุ ข้อความตอ่ ไปนี้ (O-NET’๕๙) การสหกรณ์เป็นของสาคัญมาก เพราะจะนาความมั่งค่ังมาสู่ราษฎรท้ังหลาย นอกจากน้ันยังสอนให้ช่วยกันทา การงานเปน็ คณะ ตามธรรมดาการทางานคนเดยี วสชู้ ว่ ยกันทางานหลาย ๆ คนไม่ได้ เพราะจะได้ช่วยกันทางความคิด และตลอดจนออกแรง ถ้าเราคิดอะไรคนเดียว อาจพลาดพลั้งได้โดยไม่รู้ตัว เม่ือเราประชุมช่วยกันคิดจะได้ผลดีกว่า มาก ๑. สมองคนคนเดยี วจะคดิ การใหร้ อบคอบไปทุกอย่างนั้นไม่ได้ ๒. ปญั หาทกุ อย่างมีทางแกไ้ ขได้ ถา้ แกค้ นเดียวไม่ได้ ก็ช่วยกนั คดิ ช่วยกนั แกห้ ลาย ๆ คน ๓. สมาชิกของกลุ่มจะต้องตกลงกันว่า ใครจะทาอะไร ไม่ต้องทะเลาะกัน แล้วแต่ละคนจะได้สิ่งที่ดีคือ ความสาเรจ็ ๔. ถ้าเราคิดอยา่ งรอบคอบดีแล้ว ก็ควรลงมอื ทาเองโดยทนั ที เพ่ือให้งานสาเร็จได้อย่างรวดเร็ว และสร้างความ มั่นใจใหต้ วั เอง ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๑๓ อ่านบทสนทนาตอ่ ไปน้ีแล้วตอบคาถามขอ้ ๒ (O-NET’๖๒) นกั เรียน ๑ แสดงความเหน็ การวาดรปู ของนกั เรยี น ๒ ดังนี้ นกั เรยี น ๑ ไม่ไหว ไม่ไหว วาดแบบน้ีใช้ไม่ได้ รถดับเพลงิ คันนม้ี ันเหมือนรถดบั เพลิงจรงิ ๆ มากเกนิ ไป นกั เรียน ๒ วาดใหเ้ หมือนจริง ไม่ไดห้ รอื นักเรียน ๑ การวาดใหเ้ หมอื นของจริง ใคร ๆ ก็ทาได้ ถา้ ฉันจะวาดรถดบั เพลงิ ฉันคงจะวาดใหเ้ หมือน ซาลาเปาสีแดงมากกว่า นกั เรยี น ๒ แล้วทาไมตอ้ งเปน็ อยา่ งนน้ั ดว้ ยละ่ นกั เรียน ๑ ทาไมน่ะหรือ ก็เพราะการวาดแต่ส่ิงท่ตี ามองเหน็ จะไม่มีคา่ อะไรเลยนะ่ สิ รูปทด่ี ีกค็ ือรูปที่วาดในส่งิ ที่ใจมองเห็นต่างหาก ๒. บทสนทนาขา้ งตน้ สนับสนุนเรอ่ื งใด ๒. นนั ทนาการ ๑. พัฒนาการ ๔. ศลิ ปวิทยาการ ๓. จนิ ตนาการ ปกั หมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๑๔ การลาดบั ความและความเป็นไปไดข้ องเรือ่ ง การลาดบั ความ คอื การลาดับเรอ่ื งราว เหตกุ ารณ์ ความเปลย่ี นแปลงตามช่วงเวลาหรือขน้ั ตอน ต้ังแต่ ต้นจนเห็นผลลพั ธ์ วธิ ดี กู ารลาดับความ ๑. ดปู ระโยคประธาน เพอื่ ท่ีจะให้อยลู่ าดบั ที่ ๑ ๒. หาคาทแ่ี สดงความสัมพันธ์ระหวา่ งข้อความลาดับที่ ๑ และลาดับต่อไป ๓. หาคาลงท้าย ส่วนใหญ่มกั มีคาว่า “และ” หรอื “เปน็ ตน้ ” ๔. ลองอา่ นเรียบเรียงเนอื้ ความ ตามตัวเลือกท่ีโจทย์ให้มา แนวขอ้ สอบ ๑. ขอ้ ใดเรยี งลาดบั ข้อความตอ่ ไปนี้ได้ถูกตอ้ งสมบูรณ์ (O-NET’๕๙) ๑. วรรณคดเี ป็นศลิ ปะชั้นสูง มีถอ้ ยคาภาษาเปน็ เครื่องอุปกรณ์ ๒. ความไพเราะงดงามเกดิ จากความรูส้ กึ ความเขา้ ใจ ๓. ถ้อยคาภาษานั้นไม่ปรากฏแกต่ าให้เหน็ เปน็ รูปงดงามอยา่ งภาพเขียน ๔. ไมป่ รากฏเสยี งไพเราะอย่างดนตรี ๕. จงึ ถอื กนั วา่ วรรณคดเี ปน็ ศิลปะชัน้ สงู ๑. ๑ - ๒ - ๓ - ๔ - ๕ ๒. ๑ - ๓ - ๔ - ๒ - ๕ ๓. ๑ - ๔ - ๓ - ๒ - ๕ ๔. ๑ - ๒ - ๔ - ๓ – ๕ ๒. ข้อใดเรียงลาดับข้อความตอ่ ไปนอ้ี ย่างเป็นข้ันตอน (O-NET’๖๐) ๑. สภาพใตน้ า้ ในบรเิ วณนไ้ี ม่ใสนกั ๒. แยกยา้ ยกันดาดงิ่ ลงไปสูค่ วามลึกสเี ขียวเขม้ ๓. ทาให้ทัศนวิสัยบรเิ วณนั้นไม่แจม่ ใสจากแรงลม ๔. นักดาน้ากระโดดลงน้าบริเวณหนา้ ของเหล่ยี มหนิ ๕. แต่นกั ดาน้ากไ็ ด้พบกับทุ่งกลั ปงั หาสีขาวในความลกึ ประมาณ ๑๐ เมตร ๑. ๑ – ๒ – ๓ – ๔ – ๕ ๒. ๑ – ๕ – ๒ – ๓ - ๔ ๓. ๔ – ๒ – ๑ – ๓ – ๕ ๔. ๔ – ๓ – ๕ – ๒ - ๑ ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๑๕ ๓. ข้อใดเรียงลาดับความตอ่ จากขอ้ ความ “การสรา้ งพระบรมราชานุสาวรียพ์ ระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้า เจา้ อย่หู ัว..........” ได้ถกู ตอ้ ง (O-NET’๖๑) ๑. ยกเว้นพระบรมรปู ทรงมา้ แห่งเดียวเทา่ นนั้ ๒. ถอื เป็นความมหศั จรรยอ์ ย่างยงิ่ ประการหน่ึง ๓. อกี ท้งั ยังได้เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปเปิดคลุมพระบรมรปู ด้วยพระองคเ์ องอีกดว้ ย ๔. ท่ีพสกนิกรพรอ้ มใจกนั สรา้ งถวาย ขณะทพ่ี ระองคย์ ังทรงพระชนมช์ พี อยู่ ๕. เนอื่ งดว้ ยอนุสาวรยี ์ของบุคคลใดมกั สร้างภายหลงั ที่บคุ คลนั้นเสียชีวติ ไปแล้ว ๑. ๔ – ๓ – ๕ – ๑ – ๒ ๒. ๒ – ๕ – ๑ – ๔ – ๓ ๓. ๒ – ๕ – ๔ – ๓ – ๑ ๔. ๓ – ๑ – ๕ – ๔ – ๒ ๔. ข้อใดเขยี นลาดับความคดิ อยา่ งสมเหตุสมผล (O-NET’๖๒) ๑. ไผเ่ ป็นไม้มลี าตน้ สูงและเป็นปล้อง ๆ เพราะมผี ิวสวย แตเ่ รยี บเปน็ มนั ๒. ไผ่มีมากมายหลายชนดิ ท้งั ไผ่สสี กุ ไผ่ซาง ไผ่ตง แต่ละชนดิ ใช้ประโยชน์ได้ตา่ งกนั ๓. ไผน่ ามาทาเครอื่ งจักสานไดห้ ลายชนิด แต่หน่อไผส่ ามารถนามาทาอาหารได้หลากหลาย ๔. ไผ่แตล่ ะชนิดตัง้ ราคาจาหน่ายตา่ งกนั ขึน้ อยกู่ บั คณุ ภาพของไผ่ เริ่มจากการนามาทาเป็นรว้ั บา้ น ๕. ขอ้ ใดเขียนลาดับความคดิ ได้อยา่ งสมเหตสุ มผล (O-NET’๖๓) ๑. สมุนไพรมหี ลายชนดิ แต่ละชนดิ มสี รรพคณุ ทางยาเพื่อใช้บาบดั รกั ษาโรคต่างกนั ๒. สมุนไพรบางชนิดปลกู มาเพียงพอกับความต้องการของคนไทยและเป็นไมล้ ม้ ลกุ ท่ีมีอายุยนื ๓. ความรเู้ ร่อื งสมุนไพรรวมท้งั วิธใี ชย้ งั พบเห็นได้ตามชนบทห่างไกลมที ัง้ ประเภทไม้พมุ่ และไมเ้ ถา ๔. สมุนไพรสว่ นใหญ่ไดจ้ ากพืชจงึ นิยมใชค้ าวา่ \"พชื สมุนไพร\" เช่น สรรพคุณดีไกม่ ีรสขม นมผงึ้ มีรสหวาน ปกั หมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๑๖ การแสดงความความคดิ เหน็ โตแ้ ย้งจากเรือ่ งท่อี ่าน การโต้แย้ง เป็นการแสดงความคิดเห็นลักษณะหน่ึง โดยมุ่งที่จะโต้แย้งข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน ตลอดจนโตแ้ ย้งความคดิ เหน็ ของผอู้ ื่นด้วยความคิดเห็นในทางสร้างสรรค์ เพ่ือสื่อให้ผู้อ่ืนได้ทราบว่าตนมีความคิดเห็น อย่างไร วธิ ีการแสดงความคดิ เหน็ โต้แยง้ จากเร่อื งทีอ่ า่ น ๑. ตั้งประเด็นที่จะโต้แยง้ ว่า จะโต้แย้งในประเด็นใด เช่น ประเด็นทเ่ี กี่ยวกับขอ้ เท็จจรงิ คุณค่า เปน็ ตน้ ๒. ระบุหรือชีใ้ ห้เหน็ จุดดอ้ ยและความผิดพลาดของสง่ิ หรอื เร่ืองที่จะโต้แยง้ ๓. หาเหตผุ ลและขอ้ สนับสนุนความคิดของตน ๔. เรียบเรยี งใหเ้ ปน็ ภาษาท่ีเข้าใจงา่ ย กระชบั รดั กมุ และใชค้ าทีม่ ีการกระต้นุ ใหเ้ กิดความคดิ เห็นคล้อยตาม แนวข้อสอบ ๑. ขอ้ ใดมลี กั ษณะกล่าวโต้แย้งกบั ข้อความตอ่ ไปนี้ (O-NET’๕๙) มีคากล่าวท่ีน่าคิดว่า “จงพูดในสิ่งที่อยากพูด” เน่ืองจากเรามักจะเสียใจและเสียดายว่าไม่ได้พูดในส่ิงท่ีเรา อยากจะพูดกับหลาย ๆ คนเม่ือหมดโอกาสไปแล้ว เราจะมีโอกาสบอกความรู้สึกที่แท้จริงต่อผู้อื่นได้ก็ต่อเม่ือเขายังมี ชวี ิตอยู่เทา่ นนั้ ดงั น้นั ถา้ เรารักชอบหรอื ประทบั ใจใครก็จงบอกให้เขารู้ บางทเี ราอาจจะได้รับส่ิงดี ๆ ตอบแทนกลับมา ในลักษณะเดียวกันหรอื มากกวา่ กเ็ ปน็ ได้ ๑. ปากเปน็ เอก เลขเปน็ โท ๒. ไดด้ ีเพราะปาก ได้ยากเพราะคา ๓. พดู เปน็ ดศี รีแกต่ ัว พดู ช่วั อปั ราชัย ๔. พูดไปสองไพเบ้ีย นง่ิ เสียตาลึงทอง อ่านขอ้ ความตอ่ ไปนีแ้ ลว้ ตอบคาถามขอ้ ๒ (O-NET’๖๐) ผักและผลไม้สดจะมีเอนไซม์ท่ีเป็นตัวช่วยย่อยอาหารให้เป็นโมเลกุลท่ีเล็กที่สุดเข้าสู่กระแสเลือดไปใช้ ประโยชน์ในรา่ งกายอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพมากท่สี ุด และเรง่ ปฏกิ ริ ยิ าการยอ่ ยอาหารให้สมบูรณ์ เอนไซม์หลายชนิดเป็น เอนไซมท์ ีร่ า่ งกายไม่สามารถสร้างข้นึ มาได้จึงต้องได้รับจากการรับประทานผัก ผลไม้เท่าน้ัน เอนไซม์บางชนิดยังช่วย เปลย่ี นอนุมลู อสิ ระเปน็ นา้ และออกซเิ จน บางชนิดชว่ ยเผาผลาญพลังงาน สลายไขมนั และกาจัดสารพิษในร่างกาย ๒. ขอ้ ใดกล่าวโต้แยง้ กับข้อความข้างต้น ๑. ร่างกายสรา้ งเอนไซมไ์ ด้ไมด่ ีเทา่ กบั ผักและผลไม้สด ๒. ผักและผลไม้สดอาจชว่ ยบรรเทาอาการทอ้ งอดื จากอาหารไม่ยอ่ ยได้ ๓. หากต้องการใหร้ ะบบการย่อยอาหารดีควรรับประทานผักและผลไมส้ ด ๔. เอนไซม์จากผกั และผลไมส้ ดทาหนา้ ท่ีกาจัดสารพิษในร่างกายไดเ้ ทา่ น้ัน ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๑๗ ๓. ข้อใดแสดงความคิดเห็นโต้แยง้ กับข้อความต่อไปน้ี (O-NET’๖๑) ขอ้ มูลปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ประเทศไทยมีเด็กอายุต่ากว่า ๕ ปี ร้อยละ ๑๖ ขาดสารอาหารเรื้อรัง คือมีภาวะเต้ีย แคระแกร็น สง่ ผลให้สมองเด็กไม่พัฒนาเต็มท่ี จนปัจจบุ นั สถานการณไ์ มด่ ขี ้ึน ตัวเลขล่าสุดปี พ.ศ. ๒๕๕๙ มีเด็กไทย แรกเกิดถึง ๕ ปี เตี้ยและน้าหนักตัวต่ากว่ามาตรฐานเพิ่มขึ้น มีปัญหาเด็กไทยเต้ียติดต่อกันมา ๑๐ ถึง ๑๕ ปี (รายงานประจาปี ๒๕๕๙ - ๒๕๖๐ CCF) ๑. แสดงว่าหลายปีทผี่ ่านมา การแก้ปัญหาเรื่องน้ียงั ไมไ่ ดผ้ ล ๒. เดก็ ไทยถึงจะแคระแกรน็ กเ็ รียนเก่ง สรา้ งช่อื เสยี งให้ประเทศได้ ๓. ทางหนว่ ยงานของเราจะมีโครงการช่วยเหลือเด็กกลุ่มนีอ้ ยา่ งไร ๔. เราควรจดั โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนทมี่ เี ดก็ ยากจนทุกโรงเรยี น ๔. บุคคลขอ้ ใดแสดงความคดิ เหน็ โตแ้ ยง้ กบั ขอ้ ความข้างตน้ (O-NET’๖๒) ดีดีทีเป็นยาฆ่าแมลงที่นิยมใช้มากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ เพื่อควบคุมโรคมาลาเรีย ท่ีมียุงเป็นพาหะ ประสิทธิภาพของดีดีทีทาให้เกิดความนิยมใช้ในการกาจัดแมลงศัตรูพืชด้วย อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ. ๑๙๖๒ นัก ชีววิทยาชาวอเมริกัน ราเชล คาร์สัน เขียนหนังสือเกี่ยวกับผลกระทบของพิษดีดีทีต่อสุขภาพและส่ิงแวดล้อมท่ี ก่อให้เกดิ มะเร็งในมนษุ ยแ์ ละทาให้สัตวป์ ่าหลายชนิดโดยเฉพาะนก เชน่ อนิ ทรหี ัวขาวมีจานวนลดลงจนเส่ยี งต่อการสูญ พันธุ์ อิทธิพลของหนังสือดังกล่าวทาให้เกิดการศึกษาวิจัยสืบเน่ืองจนมีการรณรงค์ให้ยกเลิกการใช้ดีดีที และเกิด อนุสญั ญาสต็อกโฮล์มทีห่ า้ มการใชด้ ีดที ที ั่วโลกในปี ค.ศ. ๒๐๐๑ ๑. น้องบอกวา่ ดดี ีทชี ว่ ยกาจัดแมลงไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ ไม่จาเป็นต้องเลกิ ใช้ ๒. พอ่ บอกว่าดีดที ชี ่วยในการกาจัดแมลงได้ดี แต่มีผลกระทบต่อสัตวน์ านาชนดิ ด้วย ๓. แม่บอกว่าราเชล คารส์ นั ไมเ่ ห็นด้วยกับการใช้ดีดีที เพราะพบวา่ สารนเ้ี ปน็ พิษตอ่ นกอินทรี ๔. พบ่ี อกว่าอนุสญั ญาสตอ็ กโฮลม์ ห้ามใชด้ ีดีทีในทุกประเทศท่วั โลก เนือ่ งจากพษิ มผี ลในวงกวา้ ง ๕. ข้อใดแสดงความคิดเห็นโตแ้ ย้งกบั ข้อความต่อไปนี้ (O-NET’๖๓) สมเดจ็ พระสุริโยทัยเป็นพระมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เม่ือคร้ังอยุธยายกกองทัพออกไปบริเวณทุ่ง ภูเขาทอง กองทัพอยุธยาปะทะกับกองทัพพระเจ้าแปร ช้างทรงของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเกิดเสียทีหันหลังให้ ขา้ ศึกพระเจ้าแปรจงึ ขบั ช้างไลต่ ามมาอย่างกระชั้นชิด พระสุริโยทัยเห็นพระราชสวามีอยู่ในอันตรายจึงรีบขับช้างเข้า ขวาง ทาให้พระสุริโยทัยทายุทธหัตถีกับพระเจ้าแปรแทน ด้วยความเร่งรีบพระนางจึงอยู่ในลักษณะเสียเปรียบ เป็น จงั หวะใหพ้ ระเจา้ แปรฟนั พระสุริโยทยั ดว้ ยพระแสงของา้ วต้องพระองั สาขาด ๑. สมเด็จพระสุรโิ ยทัยไมน่ ่าตอ้ งส้ินพระชนม์ แตท่ รงเลือกสละชีวิตเพื่อรักษาสงิ่ ทส่ี าคัญกวา่ คอื ชีวติ พระราชสวามี ๒. สมเดจ็ พระมหาจักรพรรดิไม่สามารถบงั คับชา้ งได้ตามประสงค์ ชา้ งจงึ หนั หลงั ให้ขา้ ศกึ จนทาใหเ้ สยี เปรียบ ๓. พระเจ้าแปรไมไ่ ดล้ ังเลท่จี ะใช้จังหวะที่เหมาะสมในการรบ ฉวยโอกาสการาบฝา่ ยตรงขา้ มจนชนะศกึ ได้ ๔. สมเด็จพระสุริโยทัยไมค่ วรรบกับพระเจา้ แปรเพราะเป็นหญงิ มีทักษะการรบน้อยกวา่ ทาให้เส่ยี งชีวติ ปกั หมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๑๘ การตคี วามและประเมินคุณค่าจากงานเขยี น การประเมินคุณค่างานเขียน เป็นพัฒนาการอีกขั้นหน่ึงของการรับสาร ซ่ึงผู้รับสารจะต้องวิเคราะห์ แยกแยะรายละเอียด และตีความก่อนที่จะประเมินคุณค่างานเขียนอย่างมีเหตุผล ทาให้เห็นคุณค่าและเข้าใจ เจตนารมณข์ องผู้ส่งสารไดอ้ ยา่ งถอ่ งแท้ หลักการประเมนิ คุณคา่ งานเขยี น ๑. ทราบว่าเรือ่ งทเ่ี ราอ่านนัน้ เปน็ งานเขยี นประเภทใด ๒. อา่ นอย่างถ่ีถ้วนเพือ่ วิเคราะหเ์ รอ่ื งที่อ่าน ๓. ตคี วามความหมายของคาและประโยคตา่ ง ๆ ๔. ประเมินคุณคา่ และตดั สินเรอื่ งทีอ่ า่ นอย่างมเี หตผุ ล แนวข้อสอบ ๑. บทประพนั ธ์ต่อไปนี้ใหค้ วามสาคัญในเรื่องใดอย่างชัดเจน (O-NET’๕๙) เดก็ เอ๋ยเดก็ นอ้ ย ความร้เู รายงั ดอ้ ยเร่งศกึ ษา เมื่อเติบใหญเ่ ราจะไดม้ วี ชิ า เปน็ เคร่ืองหาเลยี้ งชพี สาหรบั ตน ได้ประโยชน์หลายสถานเพราะการเรียน จงพากเพียรไปเถิดจะเกดิ ผล ถงึ ลาบากตรากตรากจ็ าทน เกิดเป็นคนควรหมนั่ ขยนั เอย ๑. ความอดทน ๒. สถานศกึ ษา ๓. การศกึ ษาเล่าเรยี น ๔. ความขยันหมน่ั เพยี ร อ่านข้อความต่อไปน้ีแลว้ ตอบคาถามขอ้ ๒ (O-NET’๖๐) ฝายแม้วเปน็ ช่ือเรียกโครงการตามแนวพระราชดาริเกี่ยวกับวิศวกรรมแบบพ้ืนบ้าน ฝายแม้วเป็นฝายชะลอน้า กึ่งถาวร ประเภทหนึ่ง ใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถ่ิน เช่น ก่ิงไม้ ก้อนหิน เพ่ือกั้นชะลอน้าในลาธารหรือทางน้าเล็ก ๆ ให้ไหลช้าลง ลด ความรนุ แรงของกระแสนา้ ลดการชะลา้ งพังทลายของตลง่ิ และขงั น้าให้อย่ใู นพื้นทนี่ านพอท่ีพ้ืนดินจะดูดซึมไปใช้ เป็นการฟื้นฟู พ้นื ที่ปา่ เสื่อมโทรมใหเ้ กดิ ความชุ่มช้ืนมากพอท่ีจะพัฒนาการเป็นป่าท่ีอุดมสมบูรณ์ขึ้น เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ สัตว์ ป่า สตั วน์ า้ ไดอ้ าศยั นา้ ในการดารงชีวิต เมอ่ื ดนิ ชน้ื ปา่ ช้ืน ก็กลายเป็นแนวกันไฟป่า ช่วยลดความรุนแรงของไฟได้และฝายแม้ว ยงั อาจใช้เพอื่ การทดน้าให้มีระดับสูงพอทจ่ี ะดงึ น้าไปใช้ในคลองสง่ นา้ ไดใ้ นฤดแู ล้ง ๒. ข้อใดไม่ได้กลา่ วถงึ คณุ คา่ ของขอ้ ความข้างตน้ ๒. ใชภ้ าษาถูกต้องชัดเจน ๑. เนอื้ หาสาระให้ความรู้ ๓. มีหลักฐานอา้ งอิงนา่ เช่ือถือ ๓. ส่งเสรมิ ให้เกดิ จินตนาการ ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๑๙ ๓. ข้อความตอ่ ไปน้ีไม่ปรากฏคุณคา่ ด้านใด (O-NET’๖๑) พระสยามเทวาธริ าช คือเทวรูปที่เป็นเทพยดาพิทักษ์คุ้มครองประเทศไทย มีลักษณะเป็นเทวรูปยืน สูง ๘ น้ิว หลอ่ ด้วยทองคาแทง่ ทง้ั พระองค์ ทรงเคร่ืองกษัตริยาธริ าช พระหตั ถ์ขวาทรงพระแสงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นจีบพระ ดรรชนเี สมอพระอรุ ะ สถิตในเรอื นแก้วทาดว้ ยไม้จันทน์ แบบวิมานเกง๋ จนี ประดิษฐาน ณ พระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ ใน พระบรมมหาราชวัง ๑. การใชภ้ าษาถกู ต้อง ๒. เนอื้ หาสาระให้ความรู้ ๓. การอา้ งเหตุผลถูกต้อง ๔. การใช้กลวธิ ีบรรยายชัดเจน อา่ นคาประพันธ์ตอ่ ไปนีแ้ ล้วตอบคาถาม ขอ้ ๔ (O-NET’๖๑) ฝูงชนกาเนิดคล้าย คลงึ กนั ใหญย่ ่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง ความรอู้ าจเรียนทนั กันหมด เว้นแต่ช่วั ดีกระด้าง หอ่ นแก้ฤๅไหว ๔. คาประพันธ์ขา้ งต้นแสดงคุณคา่ ด้านใดอยา่ งชัดเจน ๒. ข้อคดิ ในการใชช้ ีวติ ๑. เนอื้ หาให้ความรู้ ๔. การอา้ งองิ นา่ เชอื่ ถอื ๓. วิธกี ารเปรยี บเทยี บ อา่ นข้อความต่อไปน้แี ละตอบคาถามขอ้ ๕ (O-NET’๖๑) การเขียนนามผู้รับบัตรเชิญ ผู้มีมรรยาทย่อมระบุนามบุรุษผู้เป็นแขกก่อน และเติมคาว่า “และภริยา” ลง ภายหลัง ในกรณีทภ่ี ริยาของบุรษุ นน้ั มีบรรดาศกั ดข์ิ องตนเอง ก็ควรระบุบรรดาศกั ดิ์และนามสตรีผู้นั้นลงภายหลังนาม ของสามี ผู้มีมรรยาทไม่ออกนามสตรผี เู้ ปน็ แขก แลว้ เติมคาว่า “และสามี” ลงภายหลงั นามสตรผี ู้เป็นภรยิ าเปน็ อนั ขาด ในกรณที ่ีไม่สามารถทราบนามสามีของสตรีผูเ้ ป็นแขกได้ กจ็ าเปน็ ต้องเชญิ เฉพาะสตรีผูน้ น้ั แตผ่ เู้ ดียว ๕. ข้อความขา้ งต้นมีคุณคา่ ตามข้อใด ๑. ให้ความรู้และแนวทางปฏิบตั ิ ๒. ให้เขา้ ใจความเป็นไปของชีวติ และสงั คม ๓. ใหเ้ กิดจินตนาการจากการใชภ้ าษาวรรณศิลป์ ๔. ให้เหน็ ความสาคญั ของสตรีมากกว่าบรุ ุษ ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒๐ พจิ ารณาขอ้ ความประชาสัมพันธ์ต่อไปนีแ้ ล้วตอบคาถามข้อ ๖ (O-NET’๖๒) ดื่มไม่ขับ ขบั ไม่ซ่ิง ง่วงไม่ขบั กลับบ้านปลอดภัย ๖. จากขอ้ ความประชาสัมพันธข์ า้ งต้น บุคคลในข้อใดนาความรมู้ าปรับใชใ้ นการดาเนินชีวิตอย่างสมเหตุสมผล ๑. ปา้ เลกิ ขับรถตลอดชีวติ ๒. ลงุ ขับรถเรว็ ตามทก่ี ฎหมายกาหนด ๓. นา้ ง่วงนอนจึงรีบขบั รถกลับไปนอนที่บา้ น ๔. อาดม่ื เหลา้ หลงั เลิกงานแลว้ ขับรถไปเที่ยวต่อ อ่านข้อความต่อไปนีแ้ ล้วตอบคาถามขอ้ ๗ (O-NET’๖๓) กุ้ง : น่ีไง นติ ยสารออนไลน์ฉบบั ใหม่ เสอ้ื ยดื กางเกง กระเป๋า เท่ ทนั สมยั ท้งั นน้ั เลย แกว้ : เราอา่ นแลว้ กุ้ง : เดีย๋ วเราจะส่งไปให้เพื่อนดใู นไลน์ เผอ่ื จะไปเดินดูตามรา้ นขายเสอื้ ผา้ หลังเลิกเรียนวันน้ีไปกันมั้ย แกว้ : ไมไ่ ปหรอก บทความในนติ ยสารออนไลนน์ ้ีก็นา่ อา่ นนะ มีหลายเร่ืองทก่ี ลุม่ เราสรปุ เอาไปใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลทา รายงานท่อี าจารยใ์ ห้ทาสง่ ไดด้ ้วย อา่ นดสู ิ กุ้ง : เรายังไมอ่ ่านดกี ว่า กว่าจะส่งอกี ตงั้ หลายวัน ไว้ใกล้ ๆ วนั ส่งคอ่ ยทากย็ ังทนั ๗. ข้อใดประเมินค่าไดถ้ ูกต้องตามบทสนทนาข้างต้น ๑. กงุ้ รับผดิ ชอบในการทางานกลุ่มคอ่ นขา้ งน้อย ๒. แกว้ ชอบดภู าพในนิตยสารออนไลนม์ ากกว่าอา่ นเน้อื หา ๓. นิตยสารออนไลน์มีรูปแบบการนาเสนอทีด่ ึงดูดใจผู้อา่ นทกุ คน ๔. ปัจจบุ นั สื่อสงิ่ พมิ พ์มอี ิทธิพลต่อชวี ิตประจาวนั มากกว่าส่อื ออนไลน์ ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒๑ การเขยี นส่ือสารโดยใชค้ าถูกต้องเหมาะสม การเขียนส่อื สาร เป็นการเขียนเพอื่ สอื่ ความหมายผา่ นตวั อักษรเพอ่ื ให้ผอู้ า่ นได้ทราบ เข้าใจเรอื่ งราวในส่งิ ที่ ผเู้ ขียนต้องการสื่อความออกมา จงึ ตอ้ งมกี ารใช้คาใหถ้ ูกต้องเหมาะสม ตรงตามบรบิ ท แนวขอ้ สอบ ๑. ข้อใดใชภ้ าษาเขยี นแนะนาตนเองเหมาะสม (O-NET’๕๙) ๑. ผม/ดฉิ นั อายุ ๑๕ ปี และงานอดิเรกของฉันคืออา่ นการต์ ูน ๒. หนูอายุ ๑๔ ขวบ ชอบเลน่ เกมมัน ๆ ในมอื ถือเปน็ งานอดเิ รก ๓. ปจั จบุ ันผม/ดิฉัน อายุ ๑๔ ปี มีความประสงคเ์ ป็นนกั กฬี าโอลมิ ปกิ ๔. ขณะนีห้ นูอายุ ๑๔ ขวบ เวลาว่าง ๆ หนูชอบไปเดินเล่นกบั เพือ่ น ๆ เสมอ ๒. ข้อใดใชค้ าถูกความหมายและเหมาะกับบริบท (O-NET’๖๐) ๑. ความเจรญิ รุกรานเขา้ มาในพืน้ ทก่ี ารเกษตรของคลองลัดมะยม ๒. ผู้นาชุมชนจงึ เปิดเป็นตลาดน้าให้ชาวบา้ นในอาณานคิ มนน้ั นาผลผลิตมาขาย ๓. ในตลาดมีข้าวของกระจุบกระจิบท่สี ืบทอดกันมาตงั้ แต่บรรพบุรษุ วางขายท่ัวไป ๔. รา้ นคา้ ที่นีก่ วา่ ร้อยละ ๘๐ จะขายของกนิ หลากหลายประเภท มใี ห้เลือกมากมายจนลายตา ๓. การเขียนแนะนาสถานที่ข้อใดใช้ถอ้ ยคาไม่ถกู ต้องตามบรบิ ท (O-NET’๖๑) ๑. วดั ร่องขุ่นเป็นวัดทอ่ งเทย่ี วท่สี าคญั ยง่ิ มีนักทอ่ งเท่ยี วมาเย่ียมเยียนไม่ขาดสายเลย ๒. ภายในวดั ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามทอี่ าจารยเ์ ฉลมิ ชยั โฆษิตพพิ ัฒน์เปน็ ผู้ออกแบบ ๓. การออกแบบพระอโุ บสถเนน้ สถาปัตยกรรมทมี่ ีความอ่อนชอ้ ย ประดบั ดว้ ยกระจกเงาและใชส้ ขี าวลว้ น ๔. วัดรอ่ งขนุ่ ไดร้ บั การขนานนามจากชาวต่างชาติทมี่ าเที่ยวชมวา่ วัดสีขาวหรอื “ไวท์เทมเพิล” ในภาษา อังกฤษ ๔. คาในขอ้ ใดใชเ้ ติมลงในชอ่ งว่างตอ่ ไปนี้ได้ถูกตอ้ ง (O-NET’๖๒) อุทยานประวตั ศิ าสตรศ์ รีสัชนาลยั จังหวัดสโุ ขทยั เปน็ โบราณสถานทีม่ ี __________การตั้งถ่นิ ฐานต้งั แต่ สมยั กอ่ นประวัติศาสตร์ ๑. หลักฐาน ๒. หลกั แหลง่ ๓. หลักเกณฑ์ ๔. หลักประกัน ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒๒ ๕. จากการเขียนแนะนาสถานที่สาคัญตอ่ ไปนี้ ข้อความสว่ นใดใชภ้ าษาต่างระดับจากส่วนอืน่ (O-NET’๖๓) ๑) อุทยานประวตั ศิ าสตร์ศรสี ชั นาลยั ตัง้ อย่ตู าบลศรีสชั นาลัย อาเภอศรสี ชั นาลยั จงั หวัดสโุ ขทัย ๒) มโี บราณสถาน ทั้งหมด ๒๘๓ แห่ง สารวจแล้ว ๒๐๔ แห่ง รวมทั้งสุสานวัดชมช่ืนและเตาสังคโลกโบราณ ๓) กรมศิลปากร พบว่า สถานที่นเ้ี ปน็ อทุ ยานประวตั ศิ าสตร์ทยี่ งั คงรกั ษาภมู ทิ ัศน์ไว้ได้เป็นอย่างดี ๔) ในเม่ืออุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เป็นท่ที ่ีนา่ สนใจขนาดนีแ้ ลว้ ทาไมคนไทยไมอ่ อกเดนิ ทางไปเท่ียวทน่ี ก่ี ันใหม้ ากกวา่ น้ี ๑. สว่ นที่ ๑ ๒. ส่วนท่ี ๒ ๓. ส่วนที่ ๓ ๔. สว่ นท่ี ๔ ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒๓ การเขียนบรรยายและการเขยี นพรรณนา บรรยายโวหาร โวหารที่มุ่งอธิบายหรือเล่าเร่อื งตา่ ง ๆ อย่างตรงไปตรงมา เน้นสาระสาคัญ มักใช้ในการเขียน พรรณนาโวหาร ท่วั ๆ ไป เชน่ การเขียนยอ่ หน้า การเขียนบทความ การเขยี นหนงั สือหรือตารา การเขียนเพ่ือ เลา่ เร่ือง เป็นตน้ บรรยายโวหาร คอื โวหารทีม่ ุ่งอธิบายหรอื เล่าเรื่องตา่ ง ๆ อย่างตรงไปตรงมา เน้น สาระสาคญั มกั ใชใ้ นการเขียนท่วั ๆ ไป เช่น การเขียนยอ่ หนา้ การเขียนบทความ การเขยี น โหวนหังาสรือทห่มี รุง่ อืใหต้เากรดิาภกาาพรหเขรียือนจเินพตอื่ นเลาา่ กเรา่อืรงมีการใช้ภาพพจน์ หรือการเล่นเสียง ดังนั้นผู้อ่านจะ เกิดอารมณ์ซาบซึ้ง เพลิดเพลนิ ไปกบั ขอ้ ความทอ่ี า่ น แนวขอ้ สอบ ๑. ขอ้ ความตอนใดใชพ้ รรณนาโวหาร (O-NET’๕๙) นิทานดาวลกู ไก่ ๑) ณ ชายปา่ ทร่ี ม่ ร่ืนด้วยแมกไมน้ านาพรรณ มกี ระทอ่ มหลังหน่งึ ตากับยายอาศัยอยู่ ทงั้ สองเลย้ี งแม่ไก่สี น้าตาลสวยงามไวต้ ัวหนึ่ง แมไ่ ก่ตวั น้มี ีลกู เจย๊ี บตัวน้อย ๆ น่ารกั อยู่ ๗ ตวั ๒) วันหนง่ึ มีพระภิกษุรูปหนึง่ มาปกั กลดอยใู่ กล้ ๆ กระทอ่ มของตากับยาย ตากับยายจึงคิดจะฆา่ แม่ไก่ เพื่อ ทาเปน็ อาหารถวายพระ ๓) แมไ่ ก่ไดย้ นิ สองตายายคบคิดกันจะฆา่ ตนแมจ้ ะเสยี ใจ แตด่ ว้ ยความกตญั ญใู นบญุ คณุ ของสองตายาย แมไ่ ก่ จงึ ไมห่ นีไปไหน กลบั เรยี กลูกท้ัง ๗ มาส่งั เสียก่อนตาย ๔) วันรุ่งขึ้นแม่ไก่กถ็ ูกฆ่า ขณะทต่ี ายายก่อไฟเตรียมปรงุ อาหาร ลกู ไก่ทง้ั ๗ พากันกระโดดเข้ากองไฟตายตาม แม่ไก่ ด้วยอานิสงสแ์ ห่งการสละชวี ติ ของลกู ไก่จึงไดไ้ ปเกดิ เปน็ “ดาวลูกไก่” ๑. ตอนที่ ๑) ๒. ตอนท่ี ๒) ๓. ตอนท่ี ๓) ๔. ตอนที่ ๔) ๒. ข้อใดไม่ใช่พรรณนาโวหาร (O-NET’๖๐) ๑. ดอยหัวแมค่ าเปน็ หมูบ่ ้านชาวเขาซ่งึ แตง่ กายดว้ ยสสี ันงดงามราวกบั ลกู กวาดหลากสี ๒. ในหบุ เขายังมกี ลมุ่ หมอกคลอเคลยี ภูเขาเหมอื นเป็นทะเลขาวกวา้ งไกลสุดลูกหลู ูกตา ๓. ชว่ งฤดูหนาวทงุ่ ดอกบวั ตองสีเหลอื งอรา่ ม บานสะพรั่งเปน็ พรมดอกไมง้ ดงามไปท่ัวท้งั ขุนเขา ๔. เราเดนิ ทางจากตัวเมอื งเชียงรายไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๑๓๐ ประมาณ ๑ ชว่ั โมง ก็จะถงึ ดอยหัวแม่คา ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒๔ ๓. ข้อความใดไมใ่ ช่การเขียนพรรณนา (O-NET’๖๑) ๑. นา้ ตกชว่ งสุดท้ายยังพงุ่ ลงเป็นสายกระทบลานหนิ กวา้ งสะทอ้ นแสงตะวนั งามระยับตา ๒. นา้ ตกสายนมี้ เี สน่ห์ตดิ ตาตรึงใจผู้มาเยอื นดว้ ยสายธารที่ตกลงมาไหลรนิ โอบกอดลานหิน ๓. นักท่องเท่ียวจะไดต้ ืน่ ตากบั ฝูงผเี สอื้ ที่บินวนเวียนเหนอื นา้ ตกราวกับกลีบดอกไมโ้ ปรยปราย ๔. หนมุ่ สาวนิยมมาเทย่ี วพกั ผอ่ นหยอ่ นใจทน่ี ้าตกแหง่ นี้ จึงขนานนามนา้ ตกนี้วา่ “นา้ ตกลานรัก” ๔. ขอ้ ใดเปน็ การเขียนบรรยาย (O-NET’๖๒) ๒. ยามลมหนาวพัดโบกโบยโชยชนื่ ๑. แสงรุ้งเล่ือมลายพรง่ั พรายนภา ๔. น้าทิพย์สาดเปน็ สายพรายพล้ิวทวิ งาม ๓. พระพรหมท่านบันดาลให้ฝนหล่ัง ๕. ขอ้ ใดเป็นการเขยี นพรรณนา (O-NET’๖๓) ๑. หนังสือวรรณกรรมเยาวชนทส่ี รา้ งแรงบนั ดาลใจให้ฉนั ชอบอา่ นหนังสอื มี ๒ เล่ม คือ ต้นสม้ แสนรักและ โต๊ะโตะจงั เดก็ หญงิ ขา้ งหนา้ ต่าง ๒. ป้ายช่อื ของบา้ นหนังสอื ทาสแี ดงสดใสและตวั หนังสอื สีขาวสะอาดเข้ากับประตูรัว้ บา้ นที่มีรูปหนงั สอื เรยี งราย งดงามตระการตายิ่งนัก ๓. ผลงานท่เี ดก็ ภาคภมู ใิ จมากคือ การทาหนา้ กากด้วยกระดาษเป็นรูปต่าง ๆ ลงสีตามจนิ ตนาการ แล้วเจาะรู ดา้ นข้าง สอดยางหนงั สต๊กิ คลอ้ งหู ๔. บา้ นของฉันเป็นบ้านโบราณครงึ่ ไมค้ ร่งึ ตกึ ติดกับถนนใหญ่ มสี วนหลังบ้าน มีรวั้ รอบบา้ น ด้านขา้ งบ้านเป็น คลอง มชี าวบ้านพายเรือขายของในคลอง ๖. ข้อใดใชบ้ รรยายโวหาร (O-NET’๖๓) ๒. พืชพนั ธด์ุ ื่นดาษตา ไร่นารวงทองไสว ๑. ทะเลแสนงาม ในนา้ มีปลา ๔. เราลูกหลานไทย จงร่วมใจรกั ษาใหม้ นั่ ๓. สินทรพั ยม์ ีเกลอ่ื นกลน่ บรรพชนให้ไว้ ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒๕ การเขียนเรยี งความ การเขียนเรยี งความ เป็นการเขียนเพ่ือถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ของผู้เขียน ไปสผู่ ้อู ่าน ทาให้ผูอ้ า่ นไดร้ บั ความรูแ้ ละแนวความคดิ ใหม่ องคป์ ระกอบของการเขยี นเรยี งความ ๑. คานา เปน็ ข้อความนาเรอื่ ง เพอ่ื ใหผ้ ูอ้ ่านสนใจในเรื่องน้ัน ๆ อาจขึ้นต้นด้วยบทกลอน ภาษิต คาคม หรือ คาทาย รวมถงึ เหตุการณ์สาคัญต่าง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั เรือ่ งทเ่ี ขียน ๒. เนือ้ เร่ือง เปน็ ข้อความแสดงเนือ้ หาสาระสาคัญของเนือ้ เรื่อง และต้องเขยี นใหส้ อดคล้องกบั ชอื่ เรอื่ ง ๓. สรปุ เปน็ ข้อความสุดทา้ ยของเนอื้ เร่ือง เพ่ือให้ผู้อ่านเข้าใจอย่างชัดเจนถึงจุดประสงค์ของผู้เขียน บทสรุป จะต้องจบดว้ ยเนอื้ ความท่ีทาให้ผู้อา่ นประทบั ใจ แนวขอ้ สอบ ๑. ขอ้ ใดไม่ใชข่ ้อมูลหลกั ในการเขียนเรียงความเรือ่ ง “พระยาอนมุ านราชธน : บคุ คลท่ีเยาวชนไทยควรยึดถือเป็น แบบอย่าง (O-NET’๕๙) ๑. พระยาอนมุ านราชธน เกดิ ในตระกลู สามญั ชน แต่ดว้ ยความวริ ิยะ อตุ สาหะ และใฝร่ ้ใู นศาสตร์ต่าง ๆ จึง ได้รับการยกยอ่ งจากยูเนสโกให้เปน็ ผูม้ ผี ลงานดีเดน่ ด้านวัฒนธรรมระดับโลก ๒. พระยาอนุมานราชธน เกดิ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๓๑ ได้รบั นามสกลุ พระราชทานว่าเสฐยี รโกเศศ ตอ่ มาเปลย่ี นไปใช้ นามสกลุ อนุมานราชธน ตามราชทินนาม สมรสกับคุณหญิงละไม มบี ุตรธดิ า ๙ คน ๓. พระยาอนมุ านราชธนเรม่ิ รับราชการครัง้ แรกตาแหน่งเสมียนในกรมศุลกากรดว้ ยความอุตสาหะและตง้ั ใจ จงึ ไดเ้ ลื่อนตาแหน่งข้ึนโดยลาดบั จนไดต้ าแหน่งเปน็ อธิบดกี รมศิลปากร ๔. พระยาอนุมานราชธน เปน็ ผู้เห็นคณุ คา่ ของความรู้ จึงมอบหนังสอื จานวนมากใหห้ อสมุดแห่งชาติเพ่อื ใหค้ น ไทยไดม้ ีโอกาสค้นคว้าหาความรู้จากหนังสอื เหลา่ น้นั อ่านขอ้ ความตอ่ ไปนแ้ี ล้วตอบคาถามข้อ ๒ (O-NET’๖๐) การอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาตนิ ั้นกระทาได้หลากหลายแนวทาง แนวทางหน่ึงที่เยาวชนสามารถทาได้ไม่ ยากนักคือการทิ้งขยะลงในถังที่จาแนกตามประเภทของขยะ เช่น ถังขยะสาหรับภาชนะประเภทแก้ว พลาสติก กระดาษ เป็นต้น จุดประสงค์หนึ่งก็เพื่อนาทรัพยากรมาหมุนเวียนใช้ใหม่ ซึ่งจะช่วยให้เรามีทรัพยากรใช้ในกิจกรรม ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวันไปได้อกี เป็นเวลานาน ๒. ขอ้ ใดไมป่ รากฏในส่วนสรุปของเรียงความขา้ งต้น ๑. นิยาม ๒. เหตุผล ๓. ตัวอย่าง ๔. รายละเอยี ด ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒๖ ๓. ขอ้ ใดลาดับโครงเรอื่ ง เพ่ือเขียนเรียงความเรอ่ื งซอ่ื สตั ย์ ได้ถูกตอ้ ง (O-NET’๖๑) ๑. ช้ีแจงข้อดี ขอ้ เสีย ๒. ใหร้ ายละเอียด ๓. บอกนิยาม ๔. ให้ข้อคิด ๑. ๑ – ๓ – ๔ – ๒ ๒. ๒ – ๑ – ๔ – ๓ ๓. ๓ – ๒ – ๑ – ๔ ๔. ๔ – ๓ – ๑ – ๒ ๔. ข้อใดเป็นสว่ นเนอ้ื เรื่องของเรียงความ เร่อื ง “เพลินชมตลาดมงิ กาลา” (O-NET’๖๒) ๑. ย่างก้งุ เป็นเมอื งท่อี ย่ใู กล้แม่นา้ เป็นทา่ เรอื หน้าด่านของการค้า ๒. หากมโี อกาสเดินทางไปประเทศเมียนมา ขอเชญิ ชวนใหแ้ วะชมตลาดมงิ กาลา ๓. ในสมัยท่ีอยูใ่ ตก้ ารปกครองของอังกฤษ เมียนมาจดั เปน็ ประเทศที่ร่ารวยท่ีสุดในเอเชียอาคเนย์ ๔. สนิ ค้าในตลาดมตี ง้ั แตข่ องมีคา่ ชน้ิ เลก็ อย่างพลอย ไปจนถึงผา้ หลากชนิดและของแขง็ อยา่ งกะละมัง ๕. การเขียนเรียงความเรอ่ื ง “พระจอมเกลา้ ฯกับภาษาไทย” ขอ้ ใดใช้เปน็ คานาและสรปุ ตามลาดบั (O-NET’๖๓) ๑. แมจ้ ะยกมาเลา่ เพียงส่วนน้อย ก็คงพอจะเห็นไดว้ ่าทรงพระปรีชาสามารถในเร่อื งการใช้ภาษาไทยเพยี งใด ๒. พระองค์ทรงพิถพี ถิ นั เรื่องการใช้ศัพทใ์ หเ้ หมาะสมและตรงความหมายเปน็ อย่างยง่ิ ๓. คนไทยทว่ั ๆ ไปย่อมทราบกนั อยู่วา่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยูห่ ัวทรงพระปรชี าสามารถทางด้าน ภาษาไทยเป็นอนั มาก ๔. ครง้ั หนง่ึ ทรงอธบิ ายว่า “คนอ้างการซง่ึ นาน ๆ มคี ร้งั หน่งึ และเปน็ การอวมงคลมาเรียกเป็นชื่อ ทุ่งพระเมรุ นั้น หาชอบไม่ ตง้ั แต่น้สี บื ไปใหเ้ รยี กวา่ ท้องสนามหลวง ๑. ข้อ ๓ และ ขอ้ ๑ ๒. ขอ้ ๒ และ ข้อ ๓ ๓. ขอ้ ๒ และ ข้อ ๔ ๔. ข้อ ๔ และ ขอ้ ๑ ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒๗ การเขยี นจดหมายกิจธรุ ะ จดหมายกิจธรุ ะ เปน็ จดหมายทีเ่ ขยี นถึงกนั เพือ่ แจ้งรายละเอยี ดถงึ กจิ อันพึงกระทารว่ มกนั เน้อื หาของ จดหมายประเภทน้จี ะเก่ียวกบั การนดั หมาย ขอความอนุเคราะห์ เชญิ ชวน และขอบคณุ มกั ใชภ้ าษาเป็นทางการ จดหมายกจิ ธรุ ะมี ๒ รูปแบบ ได้แก่ ๑. จดหมายกิจธุระเต็มรูปแบบ ใชใ้ นการเขียนท่ีเปน็ ทางการ เหมอื นหนังสอื ราชการภายนอก และใชภ้ าษาที่ เปน็ ทางการ ๒. จดหมายกิจธุระไมเ่ ตม็ รปู แบบ ใช้ในการเขียนจดหมายกจิ ธุระสว่ นตัว ใช้รปู แบบเหมือนจดหมายสว่ นตวั สง่ิ ที่ตา่ งจากจดหมายส่วนตัว คือวตั ถปุ ระสงค์และใชภ้ าษาก่ึงทางการหรือทางการ ขอ้ สอบ O-NET สว่ นใหญ่จะถามถึงการใช้ภาษาทเ่ี หมาะสมในจดหมายกิจธุระ แนวข้อสอบ ๑. หากนกั เรยี นเปน็ นักเรยี นชั้น ม.๖ ท่ีโรงเรียนไม่ได้สง่ ช่อื เขา้ สอบ และนกั เรียนจะเขียนจดหมายถึงนายทะเบยี น ของโรงเรยี นทน่ี ักเรยี นสงั กัด ควรใช้ข้อความใดในย่อหน้าสดุ ท้ายของจดหมาย (O-NET’๕๘) ๑. จงึ เรียนมาเพ่อื โปรดทราบและช่วยดาเนินการตอ่ จะเปน็ พระคณุ ย่ิง ๒. จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดตรวจสอบความผิดพลาดของโรงเรียน จะเปน็ พระคุณยิ่ง ๓. จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดพิจารณาดาเนนิ การเสนอเร่ืองตอ่ ตามระเบยี บ ๔. จึงเรียนมาเพื่อโปรดดาเนินการตอ่ ตามกระบวนการ จะเป็นพระคณุ ยิ่ง ๒. ข้อความตอ่ ไปน้ี ส่วนใดใชภ้ าษาเหมาะสมในการเขียนจดหมายกิจธรุ ะ (O-NET’๕๙) ๑) ทางบริษทั ของเราได้พจิ ารณาแล้วเหน็ วา่ ทา่ นเป็นผู้รอบรู้และชานาญในด้านน้ี / ๒) จึงใคร่ขอเรียนเชิญ ท่านเป็นผู้ประเมนิ คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์ชนดิ ใหมข่ องเราในเร็ววันนี้ / ๓) แต่หากท่านไม่อยากจะประเมินผลิตภัณฑ์ ดังกล่าว ขอความกรุณาให้ท่านบอกให้ทางเราทราบด้วย หลังจากท่ีได้รับหนังสือเชิญน้ี / ๔) จึงเรียนมาเพื่อโปรด พจิ ารณาใหค้ วามอนเุ คราะห์ และขอขอบพระคณุ เปน็ อยา่ งสูง มา ณ โอกาสนี้ ๑. สว่ นท่ี ๑) ๒. ส่วนที่ ๒) ๓. ส่วนที่ ๓) ๔. สว่ นพ่ี ๔) ๓. ข้อใดใชเ้ ปน็ ย่อหน้าบอกวัตถุประสงค์ในการเขยี นจดหมายกจิ ธุระ (O-NET’๖๐) ๑. จงึ เรียนมาเพ่อื โปรดให้ความอนเุ คราะห์ และขอขอบพระคณุ มาในโอกาสนี้ ๒. ดว้ ยคณะนกั เรียนของโรงเรยี นจะเดนิ ทางไปทัศนศึกษาสถานท่ีสาคัญในจงั หวดั ของท่าน ๓. เน่อื งในโอกาสวนั คล้ายวนั สถาปนาโรงเรยี นในวนั ที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ครบรอบ ๕๙ ปี ๔. ตามทีโ่ รงเรียนได้รับความอนเุ คราะห์จากท่านให้เย่ียมชมกจิ การของโรงงานผลิตรถยนต์น้นั ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒๘ อา่ นข้อความต่อไปน้ีและตอบคาถามข้อ ๔ (O-NET’๖๑) การเขียนนามผู้รับบัตรเชิญ ผู้มีมรรยาทย่อมระบุนามบุรุษผู้เป็นแขกก่อน และเติมคาว่า “และภริยา” ลง ภายหลัง ในกรณีทภี่ รยิ าของบรุ ุษน้นั มบี รรดาศักดขิ์ องตนเอง ก็ควรระบบุ รรดาศกั ดแ์ิ ละนามสตรีผู้น้ันลงภายหลังนาม ของสามี ผู้มมี รรยาทไมอ่ อกนามสตรีผู้เปน็ แขก แล้วเตมิ คาว่า “และสามี” ลงภายหลังนามสตรีผ้เู ป็นภริยาเปน็ อันขาด ในกรณีท่ไี ม่สามารถทราบนามสามีของสตรีผู้เปน็ แขกได้ กจ็ าเปน็ ตอ้ งเชิญเฉพาะสตรีผนู้ ้นั แต่ผู้เดยี ว ๔. จากขอ้ ความขา้ งต้น การจา่ หนา้ ซองบตั รเชิญข้อใดไม่ถูกตอ้ ง ๑. เรยี น นางสาวสดุ สวย รวยทรพั ย์ ๒. เรียน นายเข้มแขง็ มมุ านะ และภริยา ๓. เรยี น นายและนางสดุ โสภา ลลี าวดี ๔. เรียน นายโชคช่วย และคุณหญงิ ชงโค เด่นดี ๕. ข้อใดใช้สานวนภาษาไทยไดเ้ หมาะสมกับการเขยี นจุดประสงค์ในจดหมายเชิญวิทยากร (O-NET’๖๒) ๑. จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดดาเนนิ การต่อไปจะเปน็ พระคุณยงิ่ ๒. จงึ กราบเรยี นมาเพือ่ โปรดอนมุ ัติเป็นวทิ ยากรจะขอขอบคณุ ย่งิ ๓. จงึ แจง้ มาเพอื่ โปรดมาเป็นวิทยากรจัดกจิ กรรมดว้ ยจะขอขอบคุณย่งิ ๔. จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดใหค้ วามอนุเคราะห์เป็นวิทยากรจะเปน็ พระคุณยิง่ ๖. ข้อความใดขึ้นต้นยอ่ หนา้ แรกของจดหมายขอบคุณวทิ ยากรได้ถูกตอ้ งตามรปู แบบ (O-NET’๖๓) ๑. ตามที่โรงเรียนได้รบั ความอนุเคราะห์จากท่านมาเป็นวิทยากร ๒. เน่อื งจากท่านได้โปรดมาเป็นวทิ ยากรบรรยายแก่นักเรียนคร้งั นี้ ๓. ตามวาระท่โี รงเรยี นได้รบั ความกรณุ าจากทา่ นวิทยากรให้ความรู้ ๔. เนือ่ งในโอกาสทโ่ี รงเรยี นไดร้ บั ความเมตตาจากวทิ ยากรผู้ทรงคุณวฒุ ิ ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๒๙ การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ การพูด เป็นการส่ือสารความหมายด้วยเสียงท่ีมีความสาคัญย่ิง การพูดสามารถถ่ายทอดได้ท้ังความรู้ ความคดิ ทัศนคติ และความร้สู ึกต่าง ๆ จากผู้พดู ไปยังผฟู้ ัง การพูดแต่ละครง้ั ต้องมีจดุ มุ่งหมายในการพดู ได้แก่ ๑. การพูดเพื่อใหค้ วามรู้ ความเข้าใจ ให้ข้อมลู ทเ่ี ปน็ ความจริงมีเหตผุ ลอา้ งอิงและพสิ จู นไ์ ด้ ๒. พดู เพ่อื จูงใจ เปน็ การพูดเพื่อต้องการให้ผูฟ้ งั เหน็ คล้อยตาม หรืออาจเปลี่ยนแปลงความคดิ ๓. การพูดเพือ่ ให้ความบนั เทิง เปน็ การพูดเพอ่ื สร้างความสนุกสนาน ผู้พูดต้องมศี ลิ ปะในการพูดอย่างสูง ๔. การพูดเพ่อื แสดงความคิดเห็น เป็นการพูดแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องใดเร่ืองหนึ่ง เพ่ือให้ผู้ฟังสนใจและ เห็นดว้ ยตามทผี่ ูพ้ ูดไดน้ าเสนอ ประเภทของการพดู ๑. แบ่งตามวิธีการนาเสนอ ได้แก่ การพูดโดยฉับพลัน การพูดโดยอาศัยตน้ ร่าง การพูดโดยท่องจามา และ การพูดโดยวิธอี า่ นจากรา่ ง ๒. แบ่งตามความมุ่งหมาย ได้แก่ การพูดเพ่อื ใหค้ วามรู้ การพดู เพอื่ โน้มนา้ วใจ การพูดจรรโลงใจ และการพดู เพ่ือหาคาตอบ ๓. แบ่งตามเนอื้ หาท่พี ดู ไดแ้ ก่ การพดู เกี่ยวกับนโยบาย การพดู เก่ยี วกับข้อเท็จจริง และการพดู เก่ียวกบั คณุ ค่าและคณุ งามความดี ๔. แบ่งตามโอกาส ได้แก่ การพูดอยา่ งเปน็ ทางการ การพูดก่ึงทางการ และการพดู อย่างไมเ่ ป็นทางการ ๕. แบง่ ตามรปู แบบ ได้แก่ การบรรยาย การอภิปราย และการโต้วาที แนวข้อสอบ ๑. ขอ้ ใดเป็นการพดู แสดงความคิดเห็น (O-NET’๖๐) ๑. สภานกั เรียนอภปิ รายเร่ืองวยั รุ่นกับยาเสพติด ๒. พระสงฆเ์ ทศนเ์ รอ่ื งมหาชาติ ในเทศกาลเข้าพรรษา ๓. ครูสอนวชิ าภาษาไทยให้แก่นักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ๔. พธิ กี รแนะนาวทิ ยากรที่เชิญมาบรรยายเรื่องวัยรุ่นกบั ยาเสพติด ๒. ข้อใดเปน็ การพดู แสดงความคิดเห็นในการอภปิ ราย (O-NET’๖๑) ๑. จากการศกึ ษาพบว่า กาแฟเปน็ เครอ่ื งดมื่ ทแี่ พรห่ ลายมาตั้งแตศ่ ตวรรษที่ ๑๕ เปน็ ต้นมา ๒. นักวจิ ยั ในมหาวิทยาลัยคน้ พบวา่ นา้ มนั จากปลาทะเลช่วยระงบั อาการปวดศรี ษะขา้ งเดยี วได้ ๓. อย่างไรกต็ าม วธิ แี ก้ปัญหาเรื่องของการเรียนการสอนในปัจจบุ ัน วธิ หี นึ่งก็คอื จะต้องมกี ารใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศในการเรียนการสอนใหม้ ากขน้ึ ๔. เราได้ธาตุเหล็กจากการกินเน้ือสัตว์ และผักผลไม้ เมื่ออาหารถูกย่อย ธาตุเหล็กจะถูกดูดซึมผ่านผนัง กระเพาะและลาไส้ รา่ งกายก็จะนาไปใชป้ ระโยชน์ตอ่ ไป ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓๐ ๓. ขอ้ ใดเปน็ คาพูดของผดู้ าเนนิ การอภิปราย (O-NET’๖๐) ๑. สวสั ดคี รบั ทา่ นผฟู้ ัง ผมตอ้ งขอบคณุ ทกุ ท่านทีส่ นใจมาฟังเรื่องเกา่ ๆ จากคนแก่ ๆ อย่างผม ๒. ดฉิ นั ก็เก่าและแกไ่ ม่แพท้ า่ นทีเ่ พิง่ พดู จบไป ไม่เช่นนน้ั คงไมไ่ ด้รับเชิญใหม้ าเล่าเรือ่ งจากภาพโบราณเหล่านี้ ๓. เราได้รบั เกียรติจากวิทยากร ๓ ท่าน ซึง่ ล้วนเป็นผู้ทรงคณุ วุฒิทางด้านประวตั ศิ าสตร์ทมี่ ีชือ่ เสยี งเปน็ ทรี่ ูจ้ ักกนั ดี ๔. ภาพโบราณสถานท่ีเห็นน้ีแสดงถึงศิลปะในสมัยอยุธยาตอนต้นอย่างชัดเจน ผมจะอธิบายแต่ละส่วนให้ท่าน เข้าใจ ๔. ข้อใดเป็นคากล่าวลงทา้ ยของผูน้ าเสนอโครงการ (O-NET’๖๒) ๑. ขอขอบคณุ ท่ีให้โอกาสแสดงแนวความคิดในวนั น้ี ๒. ขอตอบแทนนา้ ใจอันดงี ามทช่ี ว่ ยเหลอื นักเรียนทกุ คน ๓. ขอแสดงความยนิ ดีทไ่ี ด้ประดิษฐผ์ ลงานจนสาเร็จลลุ ่วง ๔. ขอชืน่ ชมในความมุ่งมน่ั ทาโครงงานนีจ้ นไดร้ ับรางวลั ชนะเลศิ ๕. เมื่อทา่ นเปน็ ผูแ้ ทนขึ้นรับรางวัลชนะเลิศโครงงานประกวดสงิ่ ประดิษฐ์ ท่านจะกลา่ วบนเวทีตามข้อใด (O-NET’๖๓) ๑. ต่อไปเราไม่ต้องทนลาบากร่วมกันอกี แล้ว ๒. ความสาเร็จนี้ได้มาเพราะทุกคนร่วมแรงร่วมใจกนั ๓. ภูมใิ จท่ขี า้ พเจา้ มสี ว่ นสาคญั นาพาทุกคนสูค่ วามสาเรจ็ ๔. ขอใหท้ กุ คนลมื ขอ้ ผิดพลาดทเี่ กิดขนึ้ และเร่ิมต้นกนั ใหม่ ๖. ข้อความตอ่ ไปน้เี หมาะสมที่จะนามาใชใ้ นการพูดในท่ีประชุมชนประเภทใด (O-NET’๖๓) “ท่านผฟู้ ังทีเ่ คารพทกุ ท่าน ท่านคงเห็นดว้ ยวา่ ขอ้ คิดทีว่ ทิ ยากรท้งั ๓ ทา่ นนามาพดู ในวนั นเี้ ป็นความจริง เป็นสง่ิ ทเี่ ราทุกคนควรทาตาม...” ๑. การอภปิ ราย ๒. การกลา่ วปาฐกถา ๓. การกลา่ วสนุ ทรพจน์ ๔. การเปดิ ประชมุ สัมมนา ๗. โอกาสใดไมจ่ าเป็นต้องใชก้ ารพดู แสดงความยินดี (O-NET’๖๑) ๑. คลอดบตุ ร ๒. ขนึ้ บ้านใหม่ ๓. สาเรจ็ การศกึ ษา ๔. สมัครสอบเข้าศกึ ษาต่อ ๘. เมือ่ ครูไดเ้ ลอ่ื นตาแหน่งเป็นครูใหญ่ ประธานนกั เรียนควรกลา่ วอยา่ งไร จึงจะเหมาะสม (O-NET’๖๒) ๑. พวกเรารูส้ ึกยินดีท่ีครูได้รบั ตาแหนง่ ใหม่ ๒. พวกเรารู้สกึ ซาบซ้ึงท่คี รไู ดร้ บั ตาแหนง่ ใหม่ ๓. พวกเรารสู้ กึ ประทับใจท่คี รูได้รบั ตาแหนง่ ใหม่ ๔. พวกเรารู้สึกเป็นเกยี รติทีค่ รูได้รบั ตาแหน่งใหม่ ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓๑ การพูดโนม้ น้าวใจ การโนม้ น้าวใจ คอื การใช้ความพยายามทจ่ี ะเปลี่ยนความเชือ่ ทศั นคติ ค่านยิ ม และการกระทาของบคุ คล อนื่ ดว้ ยกลวธิ ที ่ีเหมาะสม เพ่ือให้บคุ คลน้นั ยอมเปลี่ยนใจหรือเหน็ คล้อยตามทผ่ี ู้โน้มน้าวใจต้องการ กลวธิ กี ารโน้มนา้ วใจ ๑. การแสดงใหเ้ ห็นถึงความน่าเช่ือถือ ๒. การแสดงใหเ้ ห็นถึงกระบวนการและเหตผุ ล ๓. การแสดงให้เหน็ ถึงอารมณ์และความรูส้ กึ รว่ มกัน ๔. แสดงให้เหน็ ถึงทางเลือกดา้ นดแี ละดา้ นเสยี ๕. การเรา้ ให้เกิดอารมณอ์ ยา่ งแรงกลา้ ๖. สร้างความหรรษาแก่ผู้รบั ฟงั ภาษาท่ใี ชใ้ นการโน้มนา้ วใจจะตอ้ งเปน็ ไปในเชงิ เสนอแนะ ขอร้องวิงวอน หรอื เร้าใจให้เหน็ ชดั ด้วยตนเอง แนวข้อสอบ ๑. ขอ้ ใดพูดโน้มน้าวใจให้ “คดิ ก่อนพูด” (O-NET’๕๙) ๑) แล้วสอนว่าอยา่ ไว้ใจมนุษย์ มนั แสนสุดลกึ ลา้ เหลือกาหนด ถึงเถาวัลยพ์ ันเกย่ี วทีเ่ ลย้ี วลด ก็ไม่คดเหมอื นหนึง่ ในนา้ ใจคน บดิ ามารดารกั มักเปน็ ผล ๒) มนษุ ยน์ ท้ี ่ีรักอยู่สองสถาน เกดิ เป็นคนคดิ เห็นจึงเจรจา ท่พี ่งึ หน่ึงพงึ่ ไดแ้ ต่กายตน ใหร้ อบคอบคดิ อ่านนะหลานหนา รู้รกั ษาตวั รอดเปน็ ยอดดี ๓) แมน้ ใครรักรกั ม่งั ชังชงั ตอบ จะได้ยากโหยหวิ เพราะชิวหา รูส้ ิ่งใดไมส่ รู้ ู้วชิ า จะพูดจาจงพเิ คราะห์ให้เหมาะความ ๔) เปน็ มนุษยส์ ุดนิยมเพยี งลมปาก แมน้ พดู ดมี คี นเขาเมตตา ๑. บทที่ ๑) และ บทท่ี ๓) ๒. บทที่ ๒) และ บทท่ี ๔) ๓. บทที่ ๒) และ บทที่ ๓) ๔. บทที่ ๑) และ บทท่ี ๔) ๒. ข้อใดโนม้ น้าวใจด้วยการใชเ้ หตุผลสนับสนุน (O-NET’๖๐) ๑. ผู้รู้กล่าววา่ การเรยี นร้คู ือชีวติ ๒. คนทห่ี ยดุ พัฒนาตวั เองคอื มะเรง็ ร้ายทีเ่ กาะกินสังคม ๓. ผมู้ ีประสบการณช์ วี ิตมากยอ่ มมีโอกาสเจรญิ ก้าวหนา้ สูง ๔. การรจู้ ักมองและใชป้ ระโยชน์จากสิง่ รอบ ๆ ตวั นัน้ จะทาใหเ้ ราฉลาดข้ึน ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓๒ ๓. “กรรมเราเป็นคนทา เรากค็ วรจะตอ้ งเป็นคนแก้ จะไปให้คนอืน่ แก้ใหไ้ ม่ได้” ข้อความน้ีใช้ภาษาในการพดู โนม้ น้าวใจตามขอ้ ใด (O-NET’๖๐) ๑. การใชภ้ าษาเชิงเสนอแนะ ๒. การใช้ภาษาเชิงวงิ วอน ๓. การใช้ภาษาเชิงขอร้อง ๔. การใช้ภาษาเชงิ เรา้ ใจ ๔. การโน้มน้าวใจในข้อใดไม่มีการแสดงเหตุผล (O-NET’๖๑) ๑. บุฟเฟต่ ์ข้าวแกงอร่อยท่ีสุดในย่านน้ี ๒. ผลติ จากสมนุ ไพรคุณภาพดี ชว่ ยใหผ้ ิวเนยี นนมุ่ ๓. รบั ประกันความอร่อย เพราะเปดิ ขายมานานกวา่ ๕๐ ปี ๔. ถ้าโทรมาตอนนี้ คณุ จะไดร้ ับส่วนลดทันที ๕๐ เปอร์เซน็ ต์ ๕. ข้อความต่อไปนี้ใช้กลวธิ โี นม้ น้าวในตามข้อใด (O-NET’๖๒) แม่บอกลูกว่า “อย. เตือนให้ระวงั ผกั และผลไมท้ ่ซี อื้ มาจากตลาด ผกั ผลไมพ้ วกน้ันมแี ตส่ ารเคมี และส่ิง สกปรกต่าง ๆ ตดิ อยูท่ ั้งนั้น ตอ้ งลา้ งนา้ หลาย ๆ ครง้ั ใหส้ ะอาด เพ่อื สขุ ภาพที่ดี” ๑. ให้เหตุผลท่ีนา่ เชอ่ื ถือ ๒. ใช้วิธีการเปรยี บเทียบ ๓. เรา้ ให้เกิดอารมณอ์ ยา่ งแรงกล้า ๔. ให้ทางเลอื กท้ังด้านดแี ละดา้ นเสีย ๖. การโนม้ น้าวใจในข้อใดไม่มีการแสดงเหตุผล (O-NET’๖๒) ๑. ครมี บารุงนปี้ ลอดภยั ต่อผู้ใช้ดว้ ยสารสกดั บริสทุ ธิ์จากธรรมชาติ ๒. การกดซ้ือบัตรคอนเสิร์ตของศลิ ปินบางคนให้ได้ท่ีติดเวทีเปน็ เร่อื งยาก ๓. กล้ามเน้อื ที่แข็งแรงจากการออกกาลงั กายชว่ ยใหส้ มรรถภาพร่ายกายดขี ้นึ ๔. ห่านย่างรา้ นน้รี บั ประกนั ความอรอ่ ย จากรางวัลร้านอาหารยอดเยยี่ ม ๓ ปีซอ้ น ๗. ขอ้ ความตอ่ ไปน้ีใช้กลวิธีโน้มน้าวใจตามขอ้ ใด (O-NET’๖๓) ผมจัดส่งกระบองเพชรให้ลกู ค้าได้ทกุ วัน เฉลี่ยรายไดต้ อ่ เดอื นไมต่ า่ กว่า ๕๐,๐๐๐ บาท การขายกระบองเพชร ของผมบอกเลยวา่ ตลาดออนไลนช์ ว่ ยในเร่อื งการซ้อื ขายได้ดีมาก เพราะแม้ลูกค้าจะอยู่ห่างไกลกัน ก็ยังซ้ือต้นไม้ของ เราได้ ดงั นนั้ กระบองเพชรจึงเปน็ ต้นไมท้ ขี่ ายได้ไมย่ าก ตลาดแบบไหนก็ทาได้สบาย ๆ ในยุคนี้ และช่วยให้เกิดรายได้ รา่ รวยแน่นอน ๑. ทาให้เกิดความรสู้ ึกร่วมกัน ๒. เร้าให้เกิดอารมณ์อย่างแรงกล้า ๓. มีหลักฐานและเหตผุ ลที่นา่ เชอ่ื ถือ ๔. ใหท้ างเลือกท้งั ดา้ นดแี ละดา้ นเสยี ๘. การโนม้ น้าวใจขอ้ ใดแสดงเหตุผลไม่น่าเชือ่ ถือ (O-NET’๖๓) ๑. พ่ชี าย: นายควรซ้ือไมแ้ บดมินตนั ยหี่ ้อนนี้ ะ ไมน้ ้มี นี ้าหนกั เบามากท่สี ุดจากการวจิ ัยของประเทศญ่ีปนุ่ ๒. น้องชาย: พก่ี ็ควรซ้อื ลูกขนไกย่ ห่ี อ้ นีไ้ ปตีด้วยกนั นะ แบรนด์นี้ได้รบั รางวัลนวัตกรรมดา้ นอุปกรณก์ ฬี าเลย ๓. พีช่ าย: นายซือ้ รองเท้ากับถงุ เทา้ กีฬาน้ไี ปดว้ ยสิ ใครใส่ของใหม่ ๆ ตอนไปเลน่ แบดมินตนั กต็ ชี นะทกุ คร้ัง ๔ . น้องชาย: ไม่ละ ผมวา่ ผมเลือกใชค้ ูเ่ ก่าดีกวา่ คู่เก่ายังใช้ไดอ้ ยเู่ ลยครับ เศรษฐกจิ ชว่ งน้ีไมด่ เี ราควรใช้เทา่ ทจ่ี าเปน็ นะ ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓๓ การสร้างคาในภาษาไทย การสรา้ งคาในภาษาไทย มดี ังน้ี ๑. คามูล คือ คาทีม่ ใี ช้แตด่ ้งั เดิม หรอื อาจยมื ภาษาต่างประเทศมาก็ได้ และคามลู ไมส่ ามารถแยกออกเปน็ หนว่ ยยอ่ ยลงไปอีกได้ คามลู แบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท คือ - คามลู พยางคเ์ ดียว มคี วามหมายในตวั เอง เชน่ หนู นก ลุง บาท โปรด กราฟ - คามูลหลายพยางค์ ถ้าแยกพยางคอ์ อกจากกันจะเปน็ คาทไี่ มม่ คี วามหมาย เช่น มะละกอ อลั บมั้ ตารวจ ๒. คาประสม คอื การนาคามลู ๒ คามาประสมกันเพอ่ื ให้เกดิ ความหมายใหม่หรอื คงมเี ค้าความหมายเดิม เชน่ ใจบญุ เตารีด ทางผ่าน นา้ ปลา พัดโบก ลูกน้า ๓. คาซอ้ น (คาค)ู่ เปน็ การนาคาท่ีมีความหมายเหมือนกัน ใกล้เคียงกัน หรือตรงขา้ มกันมาประสมกนั ได้แก่ - คาซอ้ นที่มคี วามหมายเหมอื นกนั เชน่ ครบู า รวดเร็ว เข็ดหลาบ ถว้ ยชาม บ้านเรอื น - คาซ้อนทมี่ คี วามหมายใกล้เคียงกัน เช่น หนาแนน่ เดือดรอ้ น ซ่อื ตรง กักขงั ยืนยนั - คาซ้อนท่มี ีความหมายตรงกันขา้ ม เช่น ช่ัวดี ผดิ ชอบ ซอื้ ขาย ๔. คาซา้ คอื การซา้ คาทท่ี าหน้าทเ่ี ดยี วกนั ในประโยค ปัจจุบนั ใช้ไมย้ มกแทน (ๆ) เช่น เด็ก ๆ ชอบไปทะเล เขาใสเ่ สอ้ื สีแดง ๆ เธอควรพดู เป็นประเด็น ๆ ไป เป็นต้น ๕. คาสมาส เป็นการประสมคาระหว่างคามูลที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต แล้วเกิดเป็นคาที่มี ความหมายใหม่ เวลาอา่ นออกเสยี งตอ้ งอา่ นตอ่ เน่ืองกันไป การแปรจะต้องแปรจากหลังมาขา้ งหนา้ คาสมาสมี ๒ ชนดิ - คาสมาสแบบสมาส จะนาภาษาบาลีหรือสันสกฤตมารวมกัน เวลาอ่านจะมีเสียง อะ หรือ อิ อยู่กลางคา เช่น ภูมิศาสตร์ อันธพาล ราชรถ วีรกรรม ประวตั ิศาสตร์ **คาสมาสจะไม่ใสส่ ระ “ ะ ” กลางคา - คาสมาสแบบสนธิ (กลมกลนื เสยี ง) คือ การเอาคามลู ท่มี าจากภาษาบาลีและสนั สกฤตมาเช่ือมเข้ากับคามูล คาหลัง เพอ่ื ให้เกิดเสียงกลมกลืนเป็นคาเดียวกัน ตัวที่เป็นทุ่นเช่ือมคือตัว อ เมื่อเช่ือมกันแล้วตัว อ หายไป เหลือแต่ สระที่กลมกลืนกนั เป็นคาใหม่ เรยี กวา่ สนธิ เช่น ศลิ ปะ+อาชพี = ศิลปาชีพ วทิ ยา+อาลยั = วทิ ยาลัย โรคา+อาพาธ = โรคาพาธ แนวข้อสอบ ๑. บุคคลใดตอ่ ไปน้ี เขา้ ใจหลักการสร้างคาของคามูล (ตอบ ๒ ขอ้ ) (O-NET’๕๘) ๑. สมชายพิจารณาวา่ คาสองคาทน่ี ามาสร้างเปน็ คาใหม่นน้ั มีความหมายเหมือนกนั หรือไม่ ๒. สมศกั ดพิ์ จิ ารณาว่า คาทีโ่ จทย์ใหม้ านนั้ เมอ่ื แยกออกตามพยางคแ์ ลว้ มคี วามหมายหรือไม่ ๓. สมนกึ พิจารณาวา่ คาทโี่ จทย์ใหม้ าน้ันสรา้ งข้นึ จากคาทมี่ าจากภาษาบาลี-สนั สกฤตหรอื ไม่ ๔. สมควรพิจารณาวา่ คาที่สร้างข้นึ เกดิ ความหมายใหมห่ รือมเี คา้ ความหมายเดมิ ของคาท่นี ามาสร้างคาหรอื ไม่ ๕. สมเกยี รตพิ ิจารณาวา่ คาสองคาท่นี ามาสรา้ งเปน็ คาใหม่น้นั มคี วามหมายเกยี่ วข้องกบั คาที่สร้างใหมห่ รือไม่ ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓๔ ๒. คาทีข่ ีดเส้นใตใ้ นขอ้ ใดเป็นคาประสมทกุ คา (ตอบ ๒ ขอ้ ) (O-NET’๕๘) ๑. บางครั้งเรายอมแพ้เพราะแคก่ ลวั วา่ เราจะไม่ชนะ ๒. เมื่อความรักหมดลงสงิ่ ทเ่ี หลอื คือความพยายาม ๓. คนรกั ทุกคนลว้ นเคยเป็นคนแปลกหน้ากันมากอ่ นทัง้ นนั้ ๔. ความเหงาไม่ไดข้ ึน้ อยู่กับขนาดกว้างใหญข่ องพ้ืนทีร่ อบตวั ๕. ผิดหวังกบั ใครซ้าแลว้ ซ้าเล่าแปลวา่ เขาสาคัญกับเราพอสมควร ๓. คาบาลี สนั สกฤต ๒ ขอ้ ใดเป็นคาซ้อนทีเ่ กดิ จากคาที่มคี วามหมายตรงข้ามกัน (O-NET’๖๐) ๑. วจิ ติ รอลังการ ๒. ทรัพยศ์ ฤงคาร ๓. บาปบญุ คณุ โทษ ๔. เทพยดายกั ษ์มาร ๕. คฤหาสนเ์ คหสถาน ๔. ข้อใดเป็นคาสมาสทุกคา (O-NET’๕๙) ๑. คณุ ค่า อิทธิฤทธ์ิ ธนบัตร นาทีทอง ๒. ผลไม้ บดิ ามารดา วฒั นธรรม รัฐศาสตร์ ๓. โลกาภิวตั น์ พสกนกิ ร ๔. ศกั ด์สิ ิทธ์ิ พลเมอื ง ๕. ขอ้ ใดมีคาสมาส (O-NET’๖๐) ๑. ดินแดนท่ีเป็นประเทศไทยทุกวนั นี้ มผี ้คู นอยอู่ าศัยมานานนบั หมื่น ๆ ปี ๒. ดงั หลกั ฐานสาคัญคือ โครงกระดกู และขา้ วของเครื่องใชต้ ่าง ๆ ทพ่ี บในทฝี่ ังศพ ๓. ผู้คนดังกลา่ วไดส้ ร้างสมความเจรญิ และพัฒนาตอ่ เนือ่ งจากยคุ หนิ ส่ยู ุคโลหะอยู่รวมกนั เป็นชมุ ชน ๔. ครัน้ เมื่อถงึ พทุ ธศตวรรษที่ ๑๑ ก็เริ่มมีการก่อตั้งเปน็ แวน่ แควน้ และเรม่ิ มีกษตั รยิ ์เป็นผู้ปกครอง ๖. ข้อความ ๒ ขอ้ ใดมีคาสมาสทมี่ ีการสนธิ (O-NET’๖๐) ๑. คนรกั ษาคาสัตยน์ ัน้ แมต้ ัวจะตายไป โลกกย็ ังยกย่องมิร้ลู ืม ๒. พงึ ออ่ นน้อมต่อผู้ที่อ่อนนอ้ มถอ่ มตนด้วย พงึ คบหากบั ผทู้ ีเ่ ต็มใจจะคบหาสมาคมด้วย ๓. สตกิ บั ปัญญาเปน็ ส่ิงท่มี ปี ระโยชน์มากในการทางานทกุ อยา่ ง และจะตอ้ งใหม้ คี กู่ นั ไป ๔. วางได้บา้ ง ก็จะมสี ุขไดบ้ ้าง วางไดห้ มด กจ็ ะเปน็ สุขไดท้ งั้ หมด น่แี หละคอื สจั ธรรมแหละลกู เอ๋ย ๕. ความใฝ่ฝันนน้ั เป็นการจุดประกายจนิ ตนาการและเปน็ แรงกระตุ้นให้คนมมี านะทาฝนั ใหเ้ ปน็ จริง ๗. ขอ้ ใดมคี าสมาสชนดิ ท่ีมีการสนธิ (O-NET’๖๐) ๒. วัฒนธรรมประจาถนิ่ นนี้ ่าศึกษา ๑. ฝงู ววั ควายผ้ายลาทิวากาล ๔. เมตตาธรรมเป็นเครื่องค้าจุนโลก ๓. ธรรมาธรรมสงครามมีคติสอนใจ ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓๕ ๘. ข้อใดมคี าสมาส (O-NET’๖๑) ๑. ดินแดนสวุ รรณภูมเิ ป็นแคว้นของชนชาวไทย ๒. ทุกสงิ่ ทกุ อยา่ งบรเิ วณรอบชายหาดเงียบสงบ ๓. ประเทศเขตแคว้นน้มี ีภาพทอ้ งทะเลงดงามย่งิ นัก ๔. นางผเี สือ้ สมทุ รแสดงความโกรธพโิ รธร้องอยา่ งน่ากลัว ๙. ขอ้ ความ ๒ ข้อใดมีคาสมาสประเภทเดยี วกับคาว่า “ธนาคาร” (O-NET’๖๒) ๑. กระทรวงศกึ ษาธิการดแู ลดา้ นการศึกษา ๒. ตัวแทนนกั เรยี นรุน่ ใหม่มภี ารกิจมากข้ึน ๓. คณบดีคณะต่าง ๆ กล่าวตอ้ นรบั นกั ศกึ ษาใหม่ ๔. ประชาธปิ ไตยคอื ระบอบการปกครองที่ถือมติปวงชนเปน็ ใหญ่ ๕. จุดทศนยิ มคือจุดที่ใสห่ ลงั จานวนเตม็ และหนา้ เศษตามวธิ ที าเลข ๑๐. คาประพันธ์ ๒ ข้อใดมคี าสมาส (O-NET’๖๒) ๑. ตัวพ่มี ไิ ดล้ วนลาม จะถือความสิง่ นน้ี ไ่ี มไ่ ด้ ๒. ไปเจดยี ท์ ชี่ ่ือภเู ขาทอง ดูสงู ส่องลอยฟ้านภาลัย ๓. อยู่กลางทงุ่ ร่งุ โรจนด์ ูโดดเดน่ เป็นทเ่ี ลน่ นาวาคงคาใส ๔. กระน้ีหรอื ชอื่ เสียงเกียรตยิ ศ จะมิหมดล่วงหน้าทนั ตาเห็น ๕. โอเ้ จดีย์ที่สรา้ งยังร้างรกั เสียดายนักนึกน่านา้ ตากระเดน็ ๑๑. ขอ้ ความ ๒ ข้อใดมีคาสมาส (O-NET’๖๒) ๑. เพ่ือนของฉนั มภี ูมลิ าเนาเดิมมาจากต่างจงั หวดั ๒. นกั ธรุ กิจชาวจนี หนั ไปลงทนุ ในภูมภิ าคแอฟริกา ๓. คนเป็นโรคภมู แิ พค้ วรหมน่ั ออกกาลงั กายสม่าเสมอ ๔. พ่อแมภ่ มู ใิ จท่ลี กู ทุกคนสอบเข้าโรงเรยี นท่ีมชี อื่ เสียงได้ ๕. สวนสาธารณะแหง่ นีม้ ภี มู ิทัศน์ทีด่ ูโลง่ โปรง่ และสบายตา ๑๒. คาประพันธ์ ๒ ขอ้ ใดมคี าสมาส (O-NET’๖๓) เคร่ืองสาอางแบบไทยสโมสร ๑. ควรไทยเราช่วยบารุงวชิ าช่าง อย่าใหห้ ยอ่ นกวา่ เขาเราจะอาย ๒. ช่วยบารุงช่างไทยใหถ้ าวร เอออานวยช่างไทยใหท้ าของ ๓. แมพ้ วกเราชาวไทยตั้งใจชว่ ย มีร่องรอยเจริญไกลไปภายหน้า ๔. อันการใดมีระเบยี บและเรยี บร้อย พอไมอ่ ายเพื่อนบา้ นจึง่ จะดี ๕. สมเป็นเมืองใหญโ่ ตมโหฬาร ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓๖ ชนิดและหน้าทีข่ องคา ชนดิ ของคาในภาษาไทยมี ๗ ชนดิ ไดแ้ ก่ ๑. คานาม คือ คาเรียกคน พชื สัตว์ สง่ิ ของ สถานท่ี หรอื อาการต่าง ๆ เช่น ชา้ ง พอ่ บ้าน คานามแบ่งได้ ๕ ชนดิ ดงั นี้ ๑. สามานยนาม คอื คานามที่ไม่ช้ีเฉพาะเจาะจง เชน่ รถ ขนม ครู นก โรงเรียน ๒. วิสามานยนาม คอื คานามท่ีชีเ้ ฉพาะเจาะจง เชน่ ครลู ูกน้า นกแกว้ จังหวัดเลย ๓. ลักษณนาม คือ คานามท่ีบอกลักษณะของคาด้านหน้า เชน่ ฟนั ๑ ซ่ี บา้ น ๑ หลงั ๔. สมุหนาม คือ คานามท่ีบอกหมวดหมู่หรือความเปน็ กล่มุ เช่น กองทหาร ฝงู นก ๕. อาการนาม คือ คานามที่บอกกริ ิยาอาการของคน สัตว์ และส่ิงของ - การ + คากริยา เพื่อบอกการกระทา เช่น การเดนิ การวิ่ง การพูด - ความ + คาวิเศษณ์ เพื่อบอกความร้สู กึ เช่น ความดี ความรกั ความรู้ ๒. คาสรรพนาม คือ คาทีใ่ ชแ้ ทนคานามท่ีกล่าวมาแลว้ เพ่ือจะได้ไมต่ อ้ งกลา่ วซ้าอีก แบ่งได้ ๖ ชนดิ ดงั นี้ ๑. บุรษุ สรรพนาม คือ คาสรรพนามทีใ่ ชเ้ รียกบคุ คล แบ่งได้ ๓ ลกั ษณะ ได้แก่ - บรุ ุษที่ ๑ แทนผ้พู ูด เชน่ ฉัน ผม ข้าพเจ้า เรา อาตมา - บรุ ษุ ท่ี ๒ แทนผูฟ้ ัง เช่น ท่าน คุณ เธอ เอ็ง โยม - บุรษุ ท่ี ๓ แทนผ้ทู ่ีถูกกลา่ วถงึ เชน่ เขา มัน แก หล่อน ๒. ปฤจฉาสรรพนาม คอื คาสรรพนามที่ใชแ้ สดงคาถาม มักใช้คาว่า ใคร อะไร ท่ีไหน ๓. วิภาคสรรพนาม คือ คาสรรพนามท่ีใชช้ ้ซี า้ หรือแยกสว่ นคานามท่ีอย่ดู ้านหนา้ ใชค้ าวา่ ตา่ ง บา้ ง กัน เช่น นักเรยี นบา้ งกเ็ ลน่ บา้ งกค็ ยุ ๔. อนยิ มสรรพนาม คอื คาสรรพนามทใ่ี ช้คาแสดงคาถามมาแทนคานาม โดยไมก่ าหนดชีเ้ ฉพาะ และ ไมใ่ ชป่ ระโยคคาถาม เชน่ ใครจะไปอ่านหนงั สอื จนจบเล่ม ๕. นิยมสรรพนาม คอื คาสรรพนามที่ใชแ้ ทนคานามเพื่อบอกระยะใกล้-ไกล มักใช้คาว่า นี่ นนั่ โนน่ นี้ น้นั โน้น เชน่ น่คี อื โรงเรยี นของฉนั ๖. ประพันธสรรพนาม คอื คาสรรพนามท่ีใชแ้ ทนคานามดา้ นหนา้ เพอื่ เชือ่ มกบั อีกประโยคหนง่ึ ให้ ต่อเนอื่ งกัน มกั ใชค้ าว่า ผู้ ท่ี ซ่ึง อนั เชน่ ครชู อบคนที่มีมารยาทดี **เกร็ดควรรู้ ประพันธสรรพนาม ใช้ในประโยคความซอ้ น ๓. คากรยิ า คือ คาทแ่ี สดงการกระทา เชน่ กนิ เดิน นอน น่งั ยม้ิ รอ้ งไห้ แบ่งได้ ๔ ชนดิ ไดแ้ ก่ ๑. อกรรมกรยิ า คอื คากรยิ าท่ีมีความหมายสมบรู ณ์ ไม่ต้องมกี รรมมารับ เชน่ ฝนตก ๒. สกรรมกรยิ า คอื คากรยิ าท่ีต้องมีกรรมมารบั ความหมายจงึ จะสมบรู ณ์ เชน่ ครูกนิ ขา้ ว ปกั หมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓๗ ๓. กรยิ านุเคราะห์ หรือกรยิ าชว่ ย คอื คาท่ีวางไวห้ น้าคากริยา เพอื่ เสรมิ กรยิ าให้มีความหมายชัดเจนข้นึ มักมคี าวา่ กาลัง คง ตอ้ ง อาจ ถูก เช่น สนุ ขั กาลงั เห่า ๔. วกิ ตรรถกริยา คอื คากรยิ าท่ีไมส่ มบูรณ์ ตอ้ งใช้สว่ นเตมิ เตม็ ได้แก่ คานาม คาสรรพนาม หรอื คา วเิ ศษณม์ าทาให้มีใจความสมบรู ณ์ มกั มีคาวา่ เปน็ เหมือน คล้าย เท่า เช่น เขาเป็นนกั รอ้ ง ๔. คาวเิ ศษณ์ คือ คาทีท่ าหนา้ ที่เป็นบทขยายส่วนต่าง ๆ ของประโยค แบง่ ได้หลายชนิด ดงั นี้ ๑. ลกั ษณวิเศษณ์ ใชบ้ อกลกั ษณะชนดิ สี ขนาด รส กลน่ิ เสียง ไดแ้ ก่ เปรย้ี ว หวาน เล็ก ใหญ่ หอม เหมน็ ดัง ดี ร้อน เยน็ ๒. กาลวเิ ศษณ์ ใชบ้ อกเวลา เช้า สาย บ่าย เยน็ คา่ วนั น้ี เมอื่ วาน ๓. สถานวิเศษณ์ ใช้บอกสถานท่ี ใกล้ ไกล บน ลา่ ง ซา้ ย ขวา หนา้ หลงั ๔. ประมาณวิเศษณ์ ใชบ้ อกจานวนมาก นอ้ ย หลาย หรือลาดบั หนึ่ง สอง สาม ๕. ปฤจฉาวเิ ศษณ์ ใชถ้ ามคาถาม มักมีคาวา่ ใคร อะไร ท่ีไหน ทาไม อยา่ งไร ๖. ประติชญาวิเศษณ์ ใชแ้ สดงการขานรบั คา คะ ขา ครับ ขอรับ จ๋า จ๊ะ ๗. ประติเษธวเิ ศษณ์ ใชบ้ อกความปฏิเสธ ไม่ ไมใ่ ช่ ไมไ่ ด้ ๘. นิยมวเิ ศษณ์ ใช้บอกความชี้เฉพาะ น้ี นนั้ โนน่ ทัง้ น้ี ท้งั น้นั ๙. อนยิ มวเิ ศษณ์ ใช้บอกความไมช่ ีเ้ ฉพาะ มกั มคี าวา่ อะไร ใด ไหน ใคร แต่ไม่ใชป่ ระโยคคาถาม ๑๐. ประพันธวิเศษณ์ เปน็ คาทที่ าหนา้ ท่เี ชอื่ มคาหรอื ประโยคให้มคี วามเก่ียวข้องกัน มักมีคาวา่ ท่ี ซึง่ อนั ดังท่ี เพื่อว่า อยา่ งที่ ชนดิ ท่ี ๕. คาบพุ บท คือ คาท่ใี ชเ้ ช่ือมคาหรือกลมุ่ คาเพ่อื แสดงความสัมพนั ธ์ภายในประโยค ดงั นี้ ๑. บอกความเก่ียวข้องและสถานะของผูพ้ ูดและผรู้ ับ มักใชค้ าว่า กบั แก่ แด่ ต่อ ๒. บอกตาแหน่งทตี่ ง้ั มกั ใช้คาวา่ หน้า หลงั นอก ใน ใกล้ ไกล บน ลา่ ง ๓. บอกความเปน็ เจา้ ของ มักใช้คาวา่ ของ แห่ง ๔. บอกชว่ งเวลา มักใชค้ าว่า ตงั้ แต่ จน เมอ่ื กระทั่ง ๕. บอกความประสงค์ มกั ใช้คาวา่ เพ่ือ สาหรับ ๖. บอกความเปรยี บเทียบ มกั ใช้คาว่า เทา่ เท่ากับ กวา่ ๖. คาเชอื่ ม (สันธาน) คอื คาทใี่ ช้เช่ือมประโยคให้มคี วามสมั พนั ธ์กนั แบง่ ได้ ๔ ประเภท ตามเนือ้ ความของ ประโยค ไดแ้ ก่ ๑. เช่ือมเนอ้ื ความคลอ้ ยตามกัน มักใช้คาวา่ และ พอ...ก็ แล้ว...ก็ เมื่อ...จึง ๒. เชอื่ มเน้อื ความขัดแยง้ กัน มักใชค้ าว่า แต่ แตก่ ็ กวา่ ...ก็ แต่ทวา่ ๓. เชอ่ื มเนอ้ื ความเปน็ เหตเุ ปน็ ผลกนั มกั ใชค้ าวา่ จึง เพราะ เพราะฉะนนั้ ๔. เชอ่ื มเนอื้ ความเลอื กเอาอยา่ งใดอย่างหนง่ึ มกั ใช้คาวา่ หรอื หรือไมก่ ็ มิฉะนน้ั มิฉะนั้น...ก็ **เกร็ดควรรู้ คาเชือ่ มจะใช้ในประโยคความรวม ปกั หมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓๘ ๗. คาอทุ าน คอื คาทใ่ี ช้แสดงอารมณ์ความร้สู กึ ของผูพ้ ดู แบง่ ออกเปน็ ๒ ชนิด ไดแ้ ก่ ๑. คาอุทานแสดงอารมณ์ความรู้สกึ สงสยั ดีใจ ตกใจ เจ็บปวด เช่น โอย๊ อา้ ว วา๊ ย โอ๊ย ตายจริง คณุ พระชว่ ย โอ้โฮ ๒. คาอทุ านเสรมิ บท คอื คาอุทานทใ่ี ช้เสริมคาใหส้ ละสลวยขึน้ โดยไมม่ คี วามหมาย เช่น อาบนา้ อาบท่า , ไปวดั ไปวา , หนังสอื หนงั หา **เกรด็ ควรรู้ คาอุทานแสดงอารมณ์ตอ้ งมีเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) กากบั แนวข้อสอบ ๑. ขอ้ ใดเปน็ ประโยคทมี่ ีทัง้ คานามและคากรยิ าเป็นคาหลัก (O-NET’๖๐) ๑. ทุก ๆ เชา้ เดก็ ๆ และผ้ใู หญ่ทกุ คน ๒. สมาร์ทโฟนเครอื่ งใหมข่ องฉันเครอื่ งน้ี ๓. พอต่ืนเชา้ ออกกาลงั กายแล้วก็รีบไปโรงเรียน ๔. ทั้งเด็กและผใู้ หญ่ควรฝกึ ให้มีนา้ ใจดตี ่อกันเสมอ ๒. ข้อใดมคี านามทใ่ี ชอ้ ย่างคาบรุ ษุ สรรพนาม (O-NET’๖๑) ๑. หัวหนา้ บอกวา่ จะซ้ือผลไม้เอง ๒. นกขุนทองในกรงทกั ทายผ้คู นท้งั วนั ๓. นักเรยี นหญิงสว่ นมากชอบร้องเพลง ๔. โทรศัพทร์ นุ่ ใหม่ล่าสดุ มีราคาแพงมาก ๓. คาว่า “ที่” ในข้อใดไม่ใช่คาเชอื่ มอนุประโยค (O-NET’๖๒) ๑. ฉนั มโี อกาสรจู้ กั อาจารย์ที่มคี วามสามารถหลายท่าน ๒. เขานาความรูท้ ีไ่ ดม้ าจากการอบรมไปชว่ ยเหลือชาวบา้ น ๓. ภาวะโลกรอ้ นทาให้ธารนา้ แข็งที่ขั้วโลกละลายเพิ่มขึน้ ๔. การดานา้ ครัง้ น้ีตอ้ งเผชญิ กับนา้ ทะเลท่ีมีอณุ หภมู ิเย็นจัด ๔. ประโยคใดใชล้ ักษณนามไม่ถกู ต้อง (O-NET’๖๒) ๑. พายุใต้ฝนุ่ ทาใหป้ ระชาชนต้องอพยพกว่า ๔๐๐ ครวั เรอื น ๒. การผลิตรถไฮเปอร์คารร์ ุ่นน้จี ากดั ไว้เพียง ๕๐๐ คันเทา่ นน้ั ๓. ถงั หมักตัวนีม้ ีลกั ษณะพเิ ศษคอื มีการควบคุมอุณหภูมิดว้ ย ๔. ผู้ป่วยกว่าแสนรายตอ่ ปีจะเขา้ ถึงการรกั ษาแบบใหมง่ ่ายข้ึน ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๓๙ สานวนทีเ่ ป็นคาพงั เพยและสุภาษติ o สานวน หมายถึง ถอ้ ยคาท่ีเรียบเรียงเปน็ ข้อความหรือคาพูดท่เี ป็นช้ันเชงิ ไมต่ รงตามรปู แบบภาษา มีลักษณะเฉพาะตัวและมีความหมายเป็นนัยแฝงอยู่ o คาพังเพย หมายถึง การกล่าวเปรียบเทยี บ (อปุ มา) ต่อเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ o สุภาษิต หมายถึง ถอ้ ยคาทก่ี ล่าวแนะนาส่ังสอน เตือนสตดิ ว้ ยหลักความจรงิ มักเป็นคาคล้องจอง การใชส้ านวนท่เี ปน็ คาพงั เพยและสภุ าษิตใหเ้ กิดประสิทธิผล มีดังนี้ ๑. ใชใ้ ห้ถกู ตอ้ งตามความหมาย ๒. ใชใ้ หถ้ ูกตอ้ งตามกาลเทศะ ๓. ใชใ้ ห้เหมาะกับสถานการณ์ นักเรยี นต้องไปศึกษาความหมายของสานวนต่าง ๆ ให้มาก แนวข้อสอบ ๑. สานวนในขอ้ ใดต่อไปน้ีมีความหมายตา่ งจากข้ออ่นื (ตอบ ๒ ขอ้ ) (O-NET’๕๘) ๑. เงาตามตัว ๒. กงเกวยี นกาเกวียน ๓. ทาดีได้ดที าช่วั ได้ชั่ว ๔. ขวา้ งงไู มพ่ ้นคอ ๕. วัวของใครเขา้ คอกคนน้ัน ๒. คาประพันธ์ในขอ้ ใดไม่ปรากฏสานวนไทย (ตอบ ๒ ขอ้ ) (O-NET’๕๘) ๑. ตนี งูงูไซรห้ าก เหน็ กัน นมไกไ่ กส่ าคัญ ไกร่ ู้ ๒. ร้นู อ้ ยว่ามากรู้ เริงใจ กลกบเกดิ อยู่ใน สระจอ้ ย ๓. หมูเห็นสหี ราชท้า ชวนรบ กูสีต่ นี กูพบ ท่านไซร้ ๔. สูงอยา่ ใหส้ งู กวา่ ฐานนานไปล้ม จะเรยี นคมเรียนเถิดอย่าเปดิ ฝกั ๕. ไฟไหมย้ งั ไมเ่ หมอื นคนทจ่ี นเอง ทาอวดเบ่งกับขอ่ื คาว่ากระไร ๓. ข้อใดเป็นสานวนทีม่ ีความหมายต่างกับขอ้ อน่ื อย่างชดั เจน (O-NET’๕๙) ๑. กระดีไ่ ดน้ ้า ๒. ไกไ่ ด้พลอย ๓. หวั ลา้ นไดห้ วี ๔. วานรไดแ้ ก้ว ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔๐ ๔. สานวน ๒ ข้อใดมคี วามหมายสอดคล้องกนั (O-NET’๖๐) ๑. ขมิน้ กับปนู ๒. ถงึ ไหนถึงกัน ๓. เขา้ รูปเขา้ รอย ๔. เปน็ ปีเ่ ป็นขลุย่ ๕. คอหอยกบั ลูกกระเดือก ๕. สานวน ๒ ขอ้ ใดถูกต้องตามความหมาย (O-NET’๖๐) ๒. เขาเกบ็ ความลบั เก่งแบบคมในฝกั ๑. พอเขาอกหัก เขาก็หันหน้าเขา้ วดั ๔. สาวสมยั นแี้ ตง่ หน้าเก่งเพราะมเี สน่หป์ ลายจวัก ๓. นางงามปนี ี้หนา้ ตาแคไ่ ปวัดไปวาได้ ๕. ทางเดนิ ไปขึ้นรถไฟไกลมากเหมอื นเขน็ ครกขน้ึ ภเู ขา ๖. สานวนข้อใดใชเ้ ตอื นให้ระมัดระวังเรื่องการถูกหลอกลวง (O-NET’๖๑) ๑. อยา่ หมายน้าบอ่ หนา้ ๒. เดนิ ทางอย่าเดินเปล่ยี ว ๓. อยา่ ไวใ้ จทาง อยา่ วางใจคน ๔. โทษตนผิดราพึง อย่าคะนงึ ถึงโทษทา่ น ๗. สานวนขอ้ ใดไมไ่ ดเ้ กดิ จากการละเล่นหรือกีฬา (O-NET’๖๑) ๑. สู้ยบิ ตา ๒. ตาบอดคลาช้าง ๓. ไมด่ ูตาม้าตาเรอื ๔. งงเปน็ ไกต่ าแตก ๘. ข้อความ ๒ ข้อใดใชส้ านวนผดิ ความหมาย (O-NET’๖๒) ๑. แมค่ า้ ปลาคนน้นั ปากปลารา้ ชอบวา่ ลกู คา้ หยาบ ๆ คาย ๆ ๒. พรงุ่ นีต้ ้องสอบทอ่ งอาขยาน นอ้ งจึงซอ้ มทอ่ งจนปากเปยี กปากแฉะ ๓. นักเขยี นคอลมั น์นปี้ ากหนักมาก ใชค้ ารมคมคายเหน็บแนมผ้คู นเกง่ จรงิ ๆ ๔. เขาเป็นคนปากเปราะเราะรายจงึ ไม่แปลกที่มเี รื่องทะเลาะกบั ชาวบา้ นไปท่ัว ๕. ลกู เตา่ มากมายเหล่านเี้ มอื่ ปล่อยลงทะเลไป ก็เหลอื รอดปากเหยี่ยวปากกาเพยี งเล็กน้อย ๙. ข้อความ ๒ ขอ้ ใดมีความหมายเกีย่ วขอ้ งกับคาพูดหรอื การพูด (O-NET’๖๒) ๑. หวานเย็น ๒. หวานคอแร้ง ๓. หวานอมขมกลืน ๔. หวานนอกขมใน ๕. หวานเป็นลมขมเป็นยา ๑๐. ข้อความ ๒ ขอ้ ใดใชส้ านวนผิดความหมาย (O-NET’๖๓) ๑. ลกู ตนื่ ได้แลว้ จะนอนกินบา้ นกนิ เมืองไปถึงไหน ลงไปชว่ ยงานข้างลา่ งบ้าง ๒. การทารายงานนกั เรียนตอ้ งไปคน้ ควา้ หาขอ้ มูล ไมใ่ ชน่ ่ังเทยี นเขียนเอาเอง ๓. เขาทาผิดแล้วไม่ยอมรบั ผดิ พดู แกต้ ัวไปไหนมาสามวาสองศอก เถยี งข้าง ๆ คู ๆ ๔. สถานการณโ์ ควิด-๑๙ ทาให้หลายคนตอ้ งปากกัดตีนถบี ทางานทกุ อย่างเพือ่ เลยี้ งครอบครวั ๕. นักร้องคนนม้ี ชี ่อื เสยี งเป็นทนี่ ยิ มมาก รายการที่เปดิ เพลงของเขาก็ตกกระไดพลอยโจนไดร้ บั ความนยิ มไปด้วย ปกั หมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔๑ โครงสรา้ งประโยค ประโยคแบ่งตามโครงสร้างได้ ๓ ชนิด ไดแ้ ก่ ๑. ประโยคสามญั คือ ประโยคทก่ี ล่าวถึงส่งิ ใด ส่งิ หนง่ึ เพยี งสิง่ เดยี ว และส่งิ นน้ั แสดงกริ ิยาอาการหรอื อย่ใู น สภาพเดยี ว เชน่ - ลมพดั แรง - สุนัขกดั ไก่ ๒. ประโยครวม คอื ประโยคทมี่ ีประโยคสามัญมารวมกัน ๒ ประโยคขนึ้ ไป โดยมคี าเช่อื มประโยค เพอ่ื ให้มี ใจความตอ่ เนอื่ งเปน็ ประโยคเดียวกัน ***ประโยคความรวมมี ๔ ประเภท ได้แก่ ๒.๑ ประโยคท่มี คี วามคลอ้ ยตามกนั สนั ธานทใี่ ชเ้ ชอื่ ม คอื และ , ทัง้ ...และ , พอ...ก็ เช่น - น้องหวีผม - นอ้ งรอ้ งเพลง นา ๒ ประโยคมารวมกนั จะได้ นอ้ งหวีผมและร้องเพลง ๒.๒ ประโยคที่มีความขัดแยง้ กัน สันธานทใ่ี ชเ้ ชอ่ื ม คือ แต่ , กวา่ ...ก็ , ถึง...ก็ เชน่ - ฉันชอบภาษาไทย - น้องชอบคณิตศาสตร์ นา ๒ ประโยคมารวมกนั จะได้ ฉันชอบภาษาไทยแต่น้องชอบวชิ าคณิตศาสตร์ ๒.๓ ประโยคที่มคี วามให้เลอื ก สันธานที่ใช้เชือ่ ม คอื หรือ , ไม.่ ..ก็ เชน่ - เธอตอ้ งการชา - เธอต้องการกาแฟ นา ๒ ประโยคมารวมกันจะได้ เธอตอ้ งการชาหรือกาแฟ ๒.๔ ประโยคที่มคี วามเป็นเหตุเป็นผลกัน สนั ธานทใ่ี ช้เชอ่ื ม คอื จงึ , เพราะ...จงึ , ฉะนั้น...จงึ เชน่ - เขาทุจรติ ในการสอบ - เขาถูกปรบั ตกทุกวิชา นา ๒ ประโยคมารวมกนั จะได้ เขาทจุ ริตในการสอบจึงถูกปรบั ตกทกุ วิชา ๓. ประโยคซอ้ น คือ ประโยคทมี่ ีใจความสาคัญเป็นประโยคหลกั และมีประโยคย่อยแทรกอยู่ด้วยประโยค ย่อย ทาหน้าท่ีขยายนามหรือขยายกริยาในประโยคหลัก สันธานที่ใช้เชื่อม คือ ท่ี , ซึ่ง , อัน , เมื่อ , ผู้ , ย่อม เช่น - ฉันอาศยั บ้านซึ่งอย่บู นภเู ขา - คนทาดียอ่ มได้รับผลดี แนวขอ้ สอบ ๑. ข้อใดเปน็ ประโยคความซอ้ น (ตอบ ๒ ขอ้ ) (O-NET’๕๘) ๑. ขนาดก้อนหนิ ยังแหลกจนเปน็ เมด็ ทรายนับประสาอะไรกบั หวั ใจ ๒. ไม่เคยจะทาอะไรแบบน้ีมาก่อนและไมเ่ คยรู้สึกแบบน้ีมาก่อน ๓. แค่เธอพูดจาดดี ใี ห้กนั แคเ่ พยี งเท่าน้ันกย็ อมจะกลนื กลืนน้าลายตวั เอง ๔. เธอคอื คนที่สอนใหไ้ ดร้ จู้ ักว่ารักเป็นเหมอื นรอยสักท่เี จบ็ ปวดแต่งดงาม ๕. มันคงไม่ยากเย็นเท่าไร ถา้ วนั นไ้ี ม่มีเขาและคงไม่ยากเยน็ อะไรถ้าพรงุ่ นมี้ ีเพียงเรา ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔๒ ๒. ข้อใดอธิบายประโยคต่อไปนี้ถกู ตอ้ ง (ตอบ ๒ ข้อ) (O-NET’๕๘) \"ถา้ เธอรกั ใครมากสกั หนึง่ คนและผลคือเขาจะไปเพราะรักนัน้ เธอจะไม่ยอมแมแ้ ต่ปล่อยใหเ้ ขากังวลแม้แต่น้อย\" ๑. ประโยคใหญ่เปน็ ประโยคความรวมซบั ซ้อน ๒. ประโยคใหญ่เปน็ ประโยคความซ้อนซับซ้อน ๓. ประโยคย่อยเป็นประโยคความรวมทั้งหมด ๔. ประโยคย่อยเป็นประโยคความรวมและประโยคความซอ้ นตามลาดับ ๕. ประโยคยอ่ ยเป็นประโยคความซ้อนและประโยคความรวมตามลาดบั ๓. ขอ้ ใดเป็นประโยคซ้อนทแ่ี ตกต่างกบั ข้ออนื่ (O-NET’๕๙) ๑. ฉันหัวเราะที่เขาทาตลก ๒. มาลดี พู ระอาทติ ยต์ กดนิ ๓. ดารานัน้ ไม่ชอบคนพดู โวยวาย ๔. เจา้ หน้าทีต่ ้องแจ้งผ้เู ข้าสอบว่าพวกเขาจะตอ้ งใชด้ ินสอ ๒ B ๔. ข้อใดเปน็ ประโยคซอ้ น (O-NET’๖๐) ๑. แพนดา้ ท่ศี นู ยเ์ ฉงิ ตูถูกถอนขนทอ่ นล่างกอ่ นการผ่าตัด ๒. โลกกาลังเข้าส่ยู ุคสญู พนั ธค์ุ รั้งใหญโ่ ดยเฉพาะทีเ่ อเชยี ใต้ ๓. สตั ว์ท่หี ายไปจากโลกคือสตั ว์มีกระดกู สันหลงั กว่า ๒๐๐ ชนดิ ๔. ผลเสียของการสูญเสยี ความหลากหลายทางชวี ภาพจะอยู่ทีร่ ะบบนเิ วศ ๕. ประโยค ๒ ข้อใดเปน็ ประโยคชนิดเดียวกับประโยคตอ่ ไปน้ี (O-NET’๖๐) “โลกดจิ ทิ ัลในยคุ ปัจจุบันมคี วามกา้ วหนา้ มาก” ๑. วนั มาฆบชู าเป็นวนั สาคัญทางพุทธศาสนา ๒. วันมาฆบูชามีเหตกุ ารณส์ าคัญทเี่ กิดขนึ้ พรอ้ มกัน ๔ ประการ ๓. พระพุทธองคท์ รงแสดงโอวาทปาติโมกข์ท่ามกลางทป่ี ระชุมสงฆ์ ๔. มาฆบูชาหมายถึงการบชู าในวนั เพ็ญเดือนมาฆะ ซึง่ กค็ ือวนั เพญ็ เดอื น ๓ ๕. วนั จาตรุ งคสันนบิ าตเปน็ วันสาคัญทางศาสนาท่มี ีการประชุมพรอ้ มด้วยองค์ ๔ ๖. ข้อความ ๒ ขอ้ ใดเป็นประโยคสามญั (O-NET’๖๑) ๑. แม่ทาไข่พะโลท้ ลี่ ูกชอบกนิ ไวแ้ ลว้ ๒. ข้าวเหนยี วมะม่วงร้านนี้อร่อยมาก ๓. คณุ แม่และคณุ ป้าทาอาหารอยูใ่ นครวั ๔. ไมน่ า่ เชื่อว่าพระรามลงสรงเป็นอาหารจีน ๕. แม่ครวั ซอยตะไคร้ละเอยี ดยบิ ด้วยความชานาญ ปักหมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔๓ ๗. ข้อความ ๒ ข้อใดอธิบายประโยคต่อไปน้ไี ด้ถูกตอ้ ง (O-NET’๖๑) “ยโุ รปตะวนั ออกมเี ส้นทางท่องเท่ียวที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ” ๑. เป็นประโยครวม เพราะมคี าเช่ือมประโยค ๒. เปน็ ประโยคซอ้ นท่มี ีอนุประโยคทาหนา้ ท่บี ทขยายกริยา ๓. เปน็ ประโยคซ้อนท่มี อี นุประโยคทาหนา้ ท่ีบทขยายกรรม ๔. เป็นประโยครวมที่ประกอบดว้ ยประโยคสามญั ๒ ประโยค ๕. เป็นประโยคซอ้ นที่มคี าว่า “ท่ี” เป็นคาเชอ่ื มอนุประโยค ๘. ข้อความ ๒ ข้อใดเป็นประโยคสามัญ (O-NET’๖๒) ๑. อาหารลาวมีรสชาตทิ ใ่ี กล้เคยี งกบั อาหารไทย ๒. สาเนยี งภาษาลาวคล้ายกบั ภาษาอีสานของไทย ๓. วถิ ชี ีวิตของคนลาวมลี ักษณะท่ีไม่ตา่ งกบั คนไทยมากนกั ๔. ชอ่ื ทางการของเมอื งลาวคอื สาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาว ๕. การเดนิ ทางทางบกจากประเทศลาวโดยสะพานมติ รภาพไทย - ลาว ๙. ขอ้ ความ ๒ ขอ้ ใดเป็นประโยคซ้อน (O-NET’๖๒) ๑. คนทปี่ ระสบความสาเรจ็ สว่ นใหญ่เปน็ คนขยนั หมนั่ เพียร ๒. ความสขุ ของคนเราอยทู่ ี่คนรอบขา้ งไม่ใชท่ รัพยส์ นิ เงนิ ทอง ๓. นกั เรียนของโรงเรียนเราสอบได้คะแนนอนั ดบั ทหี่ นง่ึ ของจังหวดั ๔. บรรยากาศทโ่ี รงแรมนี้เหมาะกับการมาพกั ผอ่ นในวันหยุดสดุ สัปดาห์ ๕. งานวจิ ยั เพอื่ หาความสุขของมนุษย์เป็นงานวจิ ยั ทใี่ ชเ้ วลานานท่สี ดุ ในโลก ๑๐. ข้อความ ๒ ขอ้ ใดเป็นประโยคซ้อน (O-NET’๖๓) ๑. ฉนั พยายามทางานใหส้ าเรจ็ ลลุ ่วงตามเป้าหมายท่ตี ง้ั ไว้ ๒. ที่ดนิ แห่งนั้นถกู ปลอ่ ยให้รกรา้ งวา่ งเปลา่ มานานหลายปี ๓. หากไม่ดูเป็นการรบกวนฉนั ก็อยากจะชวนเธอไปทาบุญทว่ี ัด ๔. รองเทา้ คู่นีอ้ อกแบบมาเปน็ พิเศษและเป็นที่หมายปองของนักกีฬาหลายคน ๕. กระเช้าไฟฟา้ กาลังพานกั ท่องเท่ยี วทะยานขนึ้ สสู่ ถานที่ท่องเที่ยวทอ่ี ยบู่ นยอดเขา ปกั หมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔๔ คาภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย คาไทยแท้ คอื คาภาษาไทยดง้ั เดมิ ใช้ตัวสะกดตรงตามมาตรา มีรปู วรรณยกุ ต์กากับเพื่อเปลีย่ นความหมาย ของคา ไม่นยิ มใช้ตัวการนั ต์และคาควบกลา้ และใช้สระ “ใ” (ไม้มว้ น) ๒๐ คา **ยกเว้น ฆ่า เฆี่ยน ระฆัง ฆ้อง ตะเฆ่ ใหญ่ หญ้า เฒา่ ณ ธ ธง เธอ สาเภา ภาย เศรา้ ศึก ศอก ศอ ศก ภาษาบาลีและสนั สกฤต มีลกั ษณะดงั น้ี ภาษาเขมร มีลักษณะดงั น้ี ๑. เปน็ คาหลายพยางค์ ๑. สะกดด้วย จ ญ ร ล เชน่ เผดจ็ บาเพ็ญ กาธร ๒. ตัวสะกดไมต่ รงตามมาตรา ๒. เป็นคาควบกลา้ เช่น ไกร ขลงั ปรงุ ๓. นยิ มใช้ตวั การนั ต์ ๓. มักข้ึนต้นด้วยคาวา่ บงั บนั บา และบรร ๔. ประสมดว้ ยพยญั ชนะ ฆ ฌ ญ ฎ ฏ ฐ ๔. นิยมใช้อักษรนา เชน่ สนกุ สนาน เสดจ็ ถนน ฑฒณธภศษฬ เฉลียว เปน็ ต้น ๕. เป็นคาท่ีมพี ยัญชนะ ๒ ตัว แตอ่ อก ๕. มกั แผลงคาได้ เชน่ ข แผลงเปน็ กระ เสียงตัวเดยี ว เช่น ขดาน เปน็ กระดาน ขจอก เป็น กระจอก คาทมี่ าจากภาษาตา่ งประเทศ ภาษาอังกฤษ แบ่งออกเปน็ ๓ วิธี คอื ๑. การแปลศพั ท์ เป็นการยืมคาท่ีเราไม่เคยมีหรอื ภาษาจีน มลี ักษณะดงั น้ี ๑. มกั พยญั ชนะตน้ คือ ก จ ต ฉ ห ฮ ซ ไม่เคยรูจ้ กั มาแปลเพ่อื ใช้สอ่ื สาร ๒. การบญั ญัตศิ พั ท์ เป็นการยืมคาจาก เชน่ ก๋วยเตยี๋ ว เตา้ ฮวย โจ๊ก ๒. มกั ใชว้ รรณยกุ ต์ ตรี จัตวา เช่น เฉากว๊ ย ภาษาอังกฤษมาสร้างเป็นคาใหม่ เพ่อื ใช้สอื่ สาร ๓. ไมน่ ิยมใช้ตัวการันต์ ๓. การทบั ศัพท์เป็นวิธีการยมื คามาใช้ในอกี ภาษา ๔. ส่วนใหญเ่ ป็นช่ืออาหาร หนึ่งโดยการถ่ายเสียง และถอดอกั ษร ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔๕ แนวขอ้ สอบ ๑. ขอ้ ความตอนใดมคี าที่มาจากภาษาจีน (ตอบ ๒ ขอ้ ) (O-NET’๕๙) ๑) ห้างสรรพสินคา้ แหง่ หนึง่ ร่วมมือกับมูลนธิ ิดูแลเด็กท่ีมีปัญหาการฟังจัดกิจกรรมให้คนทั่วไปได้บริจาคของ ใหแ้ กเ่ ด็ก ๆ ในวันครสิ ต์มาส ๒) โดยใหเ้ ด็กเขยี นการด์ คนละหน่งึ ใบว่าอยากได้อะไร ๓) ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแสดงความ จานงและไปซ้อื ของที่เดก็ ๆ เขียนขอไว้ แล้วมอบไว้ที่พนักงานของมูลนิธิ ๔) จากน้ันก็จะให้เด็ก ๆ มารับของภายใน สองสปั ดาห์ นบั เปน็ เร่อื งทค่ี วรยินดี ๕) เพราะในสภาวะเศรษฐกิจซบเซา ค่าโสหุ้ยต่าง ๆ สูง ก็ยังมีคนท่ีมีจิตใจเป่ียม ด้วยความเมตตาบรจิ าคครบตามจานวนการ์ดทกุ ใบ ๑. ตอนท่ี ๑) ๒. ตอนท่ี ๒ ) ๓. ตอนที่ ๓) ๔. ตอนท่ี ๔) ๕. ตอนที่ ๕) ๒. คายมื ภาษาตา่ งประเทศ ๒ ขอ้ ใดไม่ใช่คายืมภาษาจีน (O-NET’๖๒) ๑. จับเลย้ี งร้านนขี้ ายดีทุกวนั ๒. กระเทียมไทยมีกลิน่ หอมมาก ๓. เขาชอบดื่มนา้ เกก็ ฮวยอุ่น ๆ ๔. จนั อับกล่องไหนเปน็ ของฉนั ๕. ชะเอมใช้ทายามีรสหวานชุ่มคอ ๓. คายืมภาษาตา่ งประเทศ ๒ ขอ้ ใดเปน็ คายืมภาษาจีน (O-NET’๖๓) ๑. กระจกสอ่ งหนา้ บานนชี้ ัดมาก ๒. ป้ายสินค้ารา้ นนอ้ี อกแบบได้สวยงามดี ๓. ผ้คู นสว่ นมากนิยมซอ้ื หนุ้ จากบรษิ ทั ที่มชี อื่ เสยี ง ๔. ปลาซาบะเป็นปลาทะเลขนาดกลาง ลาตวั กลมยาว ๕. เสอื้ ม่อฮ่อมเปน็ เส้อื คอกลม แขนสนั้ มักยอ้ มสีนา้ เงนิ เข้มหรอื ดา ๔. ขอ้ ความตอ่ ไปน้ี ตอนใดไม่มคี าทีม่ าจากภาษาบาลีสนั สกฤต (ตอบ ๒ ข้อ) (O-NET’๕๙) ตอนท่ี ๑ พวกเราต้องเข้าควิ เม่ือไปกินข้าวแบบบฟุ เฟต์ม้ือเย็น ตอนที่ ๒ คณุ แม่ฝากซื้อกะละแมกบั สบ่ดู ว้ ยนะ หลงั จากฟงั คอนเสริ ์ตแลว้ ตอนท่ี ๓ หลงั จากนนั้ ขอเชญิ ทุกคนไปชมการแสดงบลั เลตท์ ่โี รงละครศนู ยว์ ัฒนธรรม ตอนที่ ๔ นัง่ แทก็ ซี่ไปอีก ๒๐ นาทีกจ็ ะถงึ สถานกงสลุ ใหญ่ ภายในนั้นปลกู กุหลาบมากมาย ตอนที่ ๕ อาหารรา้ นนอ้ี รอ่ ยดี เพราะเขาไม่ใสเ่ ครือ่ งเทศมากและต้องกินตอนรอ้ น ๆ ด้วย ๑. ตอนที่ ๑ ๒. ตอนที่ ๒ ๓. ตอนท่ี ๓ ๔. ตอนท่ี ๔ ๕. ตอนที่ ๕ ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔๖ ๕. คาตา่ งประเทศภาษาใดไม่ปรากฏในคาประพันธ์ตอ่ ไปนี้ (ตอบ ๒ ขอ้ ) (O-NET’๕๙) ไอยราฤทธิเลศิ ลา้ ลอื ดนิ ดูด่ังพาหนะอนิ ทร์ เอี่ยมฟ้า อาจค้าคชะอรนิ ทร์ รอนชีพ ชาญศีกฮึกหาญกลา้ กลนั่ แกล้วกลางสมร ๑. คาจีน ๒. คาบาลี ๓. คาเขมร ๔. คาองั กฤษ ๕. คาสนั สกฤต ๖. ข้อความ ๒ ข้อใดมีคาตา่ งประเทศที่ไมจ่ าเป็นต้องใช้ (O-NET’๖๑) ๑. เด็กวยั รุน่ สว่ นมากชอบเผยแพรข่ ่าวทางเฟสบคุ๊ ๒. ผปู้ กครองควรนาเด็กเล็กไปฉีดวัคซีนตามกาหนด ๓. นกั กีฬาทกุ คนต้องใหค้ วามเคารพและเชือ่ ฟงั โค้ชเสมอ ๔. คอมพวิ เตอร์รุ่นใหมท่ าใหก้ ารพิมพง์ านสะดวกมากข้นึ ๕. อยา่ ลืมคอนเฟริ ์มการนัดทันตแพทย์ภายในวนั ท่ี ๙ มนี าคม ๒๕๖๒ ๗. ขอ้ ใดมคี าทับศัพท์ทใ่ี ช้คาไทยแทนได้ (O-NET’๕๙) ๑. ขณะนร้ี าคาปาลม์ นา้ มนั ตกต่ามาก ๒. กรุณาเดนิ บนฟุตปาธจะปลอดภัยกว่า ๓. พ่อกลบั จากงานเลีย้ งคอ็ กเทลตั้งแต่หัวค่าแล้ว ๔. นอ้ งเป็นนักเรยี นโควตาของภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ๘. ขอ้ ใดไมม่ ีคาภาษาไทยใชแ้ ทนคาทับศัพทภ์ าษาอังกฤษ (ตอบ ๒ ขอ้ ) (O-NET’๕๙) ๑. เขานัดพบเพอ่ื นตอนเทีย่ งท่ลี ็อบบโ้ี รงแรม ๒. ประธานตดั รบิ บิน้ เปดิ แพรคลุมปา้ ย งานวันเด็กแห่งชาติ ๓. บรษิ ัทผลิตชดุ กฬี ามกั ใชด้ ารายอดนยิ มเปน็ พรีเซ็นเต้อรส์ นิ ค้า ๔. เขากลายเป็นฮีโรไ่ ปแลว้ หลงั จากไดร้ ับเหรียญทองกฬี าเยาวชนโลก ๕. รกั บี้เป็นกฬี าชนดิ หนึ่งมีกาเนิดจากประเทศแถบตะวันตก มผี ู้เลน่ ไม่เกิน ๑๕ คน ๙. ขอ้ ใดไมจ่ าเป็นต้องใช้คาทบั ศพั ท์ (O-NET’๖๐) ๒. เขาชอบสตรอเบอร์รชี ีสเคก้ มาก ๑. คณุ หมอใหก้ ินแอสไพรินแกไ้ ข้ ๔. ปจั จบุ ันนค้ี นมไี ลฟส์ ไตลท์ แี่ ตกตา่ งกนั มากขน้ึ ๓. พชื ใช้คลอโรฟลิ ลใ์ นการสังเคราะห์แสง ปกั หมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔๗ ๑๐. ขอ้ ความ ๒ ข้อใดไม่จาเป็นตอ้ งใชค้ าทบั ศัพท์ (O-NET’๖๑) ๑. เทคโนโลยสี ารสนเทศมีบทบาทสาคัญตอ่ ชวี ิต ๒. ธรุ กจิ เพ่อื สขุ ภาพเป็นเทรนด์ทีก่ าลงั มาแรงในปีน้ี ๓. อินเทอรเ์ นต็ เป็นแหลง่ รวบรวมความร้ทู ีใ่ หญ่ทส่ี ดุ ๔. ลูกคา้ สว่ นใหญน่ ิยมซอ้ื เสอ้ื ผ้าทมี่ ีสไตลส์ วยหรูทันสมัย ๕. การเกบ็ ขอ้ มูลในรูปแบบดิจิทัลชว่ ยใหป้ ระหยดั พ้ืนที่ได้ ๑๑. ขอ้ ใดจาเปน็ ต้องใชค้ าทบั ศัพท์ (O-NET’๖๒) ๑. กระแสเกมออนไลนก์ าลงั มาแรงและทาเงนิ ไดม้ หาศาล ๒. การนาเสนอข้อมูลในสื่อตา่ ง ๆ ผใู้ ชส้ อื่ จาเปน็ ต้องชัวรก์ ่อนแชร์ ๓. พิธีกรรายการทีวีถูกปลดจากรายการเนือ่ งจากพดู จาไม่เหมาะสม ๔. เมื่อเราเดินทางไปตา่ งประเทศ จาเปน็ ต้องใช้พาสปอร์ตเพ่ือแสดงตน ๑๒. ข้อใดจาเปน็ ต้องใช้คาทบั ศพั ท์ (O-NET’๖๓) ๑. ไฮโซหน่มุ มปี ัญหาเรือ่ งชสู้ าวและทาร้ายดาราสาวคนสนทิ ๒. นกั วทิ ยาศาสตรค์ ้นพบฟอสซลิ ยุคจแู รสซกิ อายุหลายล้านปี ๓. นกั ท่องเท่ียวควรมลี ิสต์รายการของใชจ้ าเป็นและแพลนการเดนิ ทาง ๔. การระบาดของโรคปอดอกั เสบทาใหง้ านปารต์ ้หี ลายงานต้องยกเลกิ ๑๓. ข้อความ ๒ ข้อใดมีทั้งคาทบั ศพั ท์และคาศัพท์บัญญัติ (O-NET’๖๑) ๑. ตรีโกณมิตเิ ปน็ สาขาหนงึ่ ของวชิ าคณิตศาสตร์ ๒. ขยะพลาสตกิ มสี ว่ นทาลายสมดลุ ของระบบนเิ วศ ๓. ตารวจบุกค้นคลนิ กิ ศัลยกรรมความงามแห่งหนึง่ ๔. กระทรวงศึกษาธกิ ารจดั อภิปรายเร่อื งปัญหาวยั รุ่น ๕. ครูทาวีดิทัศน์ประกอบการสอนวชิ าประวตั ศิ าสตร์ ๑๔. ข้อใดมีศัพทบ์ ัญญตั ิ (O-NET’๖๒) ๑. นกั เรียนในแถบเอเชยี มคี วามเครยี ดจากจากการสอบแขง่ ขันมาก ๒. ขอ้ มลู สารสนเทศในยคุ ปจั จบุ ันช่วยใหช้ วี ติ ของเราสะดวกสบาย ๓. ผู้ที่ต้องการจะไปเรยี นต่อตา่ งประเทศตอ้ งใช้ผลการสอบโทเฟล ๔. นกั การเมืองมแี ฟนคลับคอยให้กาลังใจไมต่ ่างกบั นกั ร้องนักแสดง ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔๘ ระดบั ภาษา ระดับภาษา เปน็ การใช้ภาษาให้ถกู ตอ้ งสัมพนั ธก์ ับบุคคล โอกาส และกาลเทศะ ระดบั ของภาษาท่ีนิยม แบ่งออกเป็น ๓ ระดบั ได้แก่ ๑. ภาษาทางการ คือ ภาษาทมี่ รี ะเบียบแบบแผน มศี ัพทเ์ ทคนิคหรอื ศัพท์วิชาการปะปน มกั ใชเ้ ขียนตารา ติดตอ่ ราชการ ๒. ภาษากึง่ ทางการ คอื ภาษาที่ไม่เปน็ ทางการมากนกั มีศพั ท์วิชาการเท่าทจี่ าเป็น มกั ใช้ในการอภปิ ราย การเขยี นขา่ ว เรอื่ งส้ัน การกลา่ วคาปราศรัย ๓. ภาษาไม่เปน็ ทางการหรอื ภาษาปาก คือ ภาษาที่ใชท้ ัว่ ไปในชีวติ ประจาวนั มักใช้สนทนาระหวา่ งคนคุ้นเคย *ขอ้ ควรจา คาที่ไม่ปรากฏในภาษาทางการ ไดแ้ ก่ คาขานรับ เช่น จะ๊ ขา - คาลงทา้ ย เชน่ นะ ซิ เถอะ - คาขยายทไ่ี ม่เปน็ ทางการ เช่น เปรย้ี วจดี๊ เค็มปี๋ - คาซา้ เชน่ นิด ๆ หน่อย ๆ ตา่ ง ๆ นานา - - ชื่อย่อต่าง ๆ เชน่ ผอ. ผวู้ า่ ฯ แนวขอ้ สอบ ๑. ขอ้ ความตอนใดใช้ระดบั ภาษาทางการ (ตอบ ๒ ขอ้ ) (O-NET’๕๙) ๑) เครอ่ื งป้นั ดนิ เผาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาต้ังแต่อดีต เพราะเป็นเครื่องมือท่ีใช้ประโยชน์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และได้ ปรบั ปรุงเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เรื่อยมา / ๒) เคร่ืองป้ันดินเผาจึงเป็นศิลปวัตถุท่ีแสดงถึงพัฒนาการ ทางสงั คม วฒั นธรรม และ เทคโนโลยีของชนแต่ละเชื้อชาตไิ ด้ / ๓) ประเทศไทยก็ผลติ เครื่องปั้นดินเผามาเป็นเวลาช้า นานแล้ว เพราะอุดมดว้ ยวตั ถุดิบคือดนิ เหนียว / ๔) แตท่ ุกวนั นม้ี กี ารแข่งขันทางการค้ากันอย่างหนักหน่วง / ๕) หาก ชาวไทยไมพ่ ฒั นาผลิตภัณฑด์ ังกลา่ ว ภมู ปิ ญั ญาไทยด้านเครือ่ งปน้ั ดินเผาตอ้ งสญู สนิ้ ไปจากสงั คมไทย ๑. ตอนที่ ๑) ๒. ตอนที่ ๒) ๓. ตอนท่ี ๓) ๔. ตอนที่ ๔) ๕. ตอนที่ ๕) ๒. บุคคลในขอ้ ใดใช้ระดับภาษาไดเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ (O-NET’๖๐) ๑. เพ่ือนกล่าวทกั ทายเพ่ือนสนทิ ว่า “ทา่ นสบายดหี รือขอรับ” ๒. พ่ีสาวใชค้ าว่า “คอมพวิ เตอร์” ในรายงานวชิ าการหลายครั้ง ๓. นอ้ งชายลงทา้ ยจดหมายกจิ ธรุ ะว่า “ขอแสดงความนับถอื อยา่ งสงู ” ๔. พธิ กี รกลา่ วทักทายในงานสัมมนาวชิ าการวา่ “ทา่ นสภุ าพบรุ ุษ สภุ าพสตรี และเพศทเ่ี หลือทุกท่าน” ปักหมุด O-NET ภาษาไทย ม. ๓
๔๙ ๓. ขอ้ ความ ๒ ขอ้ ใดเป็นภาษาระดบั ทางการ (O-NET’๖๑) ๑. นับวนั ววิ ฒั นาการของสังคมมนุษยจ์ ะมีอทิ ธพิ ลต่อสง่ิ แวดล้อมมากขน้ึ ทุกที ๒. ฝา่ ยหารายไดจ้ ดั ทาของทร่ี ะลึกออกมาจาหนา่ ย ปรากฏว่าขายดิบขายดจี นตอ้ งส่ังผลติ เพ่มิ อกี ๓. สตรไี ทยนยิ มแต่งกายด้วยผ้าซนิ่ และโจงกระเบน มาต้งั แต่สมัยสโุ ขทัยจนถงึ สมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนต้น ๔. แคคตัสเป็นต้นไมท้ ่ีมเี สน่ห์ แตม่ องเผนิ ๆ แล้วอาจจะรสู้ ึกว่าตน้ ไมน้ ีม้ ีอันตรายเพราะลาต้นเตม็ ไปด้วยหนาม ๕. ทุเรียนเป็นผลไม้มีฤทธิร์ อ้ น ตอ้ งรบั ประทานมังคดุ ท่เี ปน็ ผลไมม้ ฤี ทธิเ์ ยน็ ด้วยรา่ งกายจงึ จะคลายความรอ้ นได้ ๔. ข้อความ ๒ ข้อใดเป็นภาษาระดับทางการ (O-NET’๖๒) ๑. เขาเป็นนกั ปลกู บัวทมี่ ีฝมี ือและมคี วามร้ชู นดิ หาตัวจับยากคนหนง่ึ ๒. บวั เป็นต้นไม้ทด่ี ูแลไมย่ าก เติบโตรวดเรว็ ภายในเวลาแค่ไม่ก่เี ดอื นเท่าน้ันเอง ๓. นอกจากเขาจะขายกาแฟแลว้ ในเร็ว ๆ น้ี เขามแี พลนวา่ จะตอ่ ยอดธรุ กิจการเล้ยี งผง้ึ อกี ด้วย ๔. เรือนเพาะชากล้วยไม้ ควรมีหลงั คาทใี่ ช้วสั ดชุ นิดโปรง่ แสงป้องกันฝน และให้อากาศถ่ายเทไดด้ ี ๕. คริสโตเฟอร์ โคลัมบสั เดนิ ทางไปยงั หมู่เกาะเวสต์อนิ ดสี และได้พบแคคตสั ขนาดใหญส่ ายพนั ธุ์ต่าง ๆ ๕. ข้อความ ๒ ขอ้ ใดใช้ระดับภาษาทางการในการเขยี นรายงาน (O-NET’๖๒) ๑. การเดนิ ทางเปน็ การแสวงหาประสบการณช์ วี ิต ๒. หนา้ กากอนามยั กนั ฝนุ่ พิษจวิ๋ ๆ ๒.๕ พี เอม็ หาซือ้ ยาก ๓. สังคมในยคุ ปัจจบุ นั มีเคร่ืองอานวยความสะดวกนานาชนิด ๔. หน้าร้อนนหี้ ลายครอบครัวเดนิ ทางไปเทีย่ วชายทะเลจงั หวดั ตา่ ง ๆ ๕. ดารานกั แสดงตา่ งตั้งตาคอยการประกาศผลนักแสดงยอดเยยี่ มประจาปี ๖. ขอ้ ความ ๒ ขอ้ ใดเป็นภาษาระดบั ทางการ (O-NET’๖๓) ๑. บา้ นพักตากอากาศแหง่ นี้ มีบรรยากาศสงบแบบบา้ น ๆ ง่าย ๆ แต่อบอุ่น ๒. สกั พกั ใหญ่ ครกู ็ชช้ี วนให้นกั เรียนอา่ นหนังสอื ทาให้เกดิ ความสนุกสนานเพลดิ เพลิน ๓. คณุ ปา้ เป็นหญิงวยั หา้ สบิ ต้น ๆ มรี ูปรา่ งท้วมเลก็ นอ้ ยตามประสาคนไมช่ อบออกกาลงั กาย ๔. ชมรมภาษาไทยของโรงเรียนไดร้ บั มอบหมายใหด้ าเนินกจิ กรรมวันสุนทรภู่ในปกี ารศึกษาน้ี ๕. พิพธิ ภณั ฑสถานแห่งชาตพิ ระนครเปดิ ทาการวนั พุธถงึ วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ น. ถงึ เวลา ๑๖.๐๐ น. ปกั หมดุ O-NET ภาษาไทย ม. ๓
Search