แบบบันทึกองค์ความรู้รายบุคคล พลากร

แบบบันทึกองค์ความร้รู ายบุคคล 1. ชือ่ องคค์ วามรู้ กระบวนการสร้างสัมมาชพี ชุมชน ตามโครงการสรา้ งความม่ันคงด้านอาชพี และ 2. ชอ่ื เจ้าของความรู้ รายได้ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 อาเภอป่าตวิ้ จงั หวัดยโสธร นายพลากร นิยมญาติ ตาแหน่ง นักวชิ าการพฒั นาชุมชนชานาญการ สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอปา่ ติว้ 3. องคค์ วามรู้ที่บง่ ชี้ (เลือกได้จานวน 1 หมวด) หมวดที่ 1 เทคนิคการสร้างและพัฒนาผนู้ าในการขบั เคลอ่ื นสมั มาชีพชุมชน หมวดที่ 2 เทคนคิ การพัฒนาหม่บู ้านเศรษฐกจิ พอเพยี ง หมวดที่ 3 เทคนคิ การแก้ไขปญั หาความยากจน หมวดที่ 4 เทคนิคการเพ่มิ ศกั ยภาพผผู้ ลิต ผ้ปู ระกอบการหนึ่งตาบล หน่ึงผลิตภณั ฑ์ (OTOP) ส่กู ารพัฒนายกระดับมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ หมวดท่ี 5 เทคนคิ การส่งเสริมช่องทางการตลาดหน่ึงตาบล หนึ่งผลติ ภัณฑ์ (OTOP) หมวดที่ 6 เทคนิคการเชอ่ื มโยงเส้นทางการทอ่ งเท่ียว OTOP นวัตวถิ ี หมวดท่ี 7 เทคนคิ การสง่ เสรมิ กองทนุ ชุมชนใหเ้ กดิ การบริหารงานตามหลกั ธรรมาภบิ าล หมวดที่ 8 เทคนคิ การเสรมิ สรา้ งองคก์ รใหม้ ีสมรรถนะสูง (เปน็ บุคลากรทันสมัย พัฒนาองคก์ ร) 4. ทมี่ าและความสาคญั ในการจัดทาองคค์ วามรู้ แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 12 (พ.ศ.2560-2564) ไดก้ าหนดยุทธศาสตรก์ าร สร้างความเป็นธรรมลดความเหลือ่ มลา้ ในสงั คมเปน็ 1 ใน 10 ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาตามแผนฯ และรฐั บาลได้ กาหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน จานวน 11 ด้าน ซ่ึงมีนโยบายการลดความเหลื่อมล้าของสังคม และการสร้างโอกาสเขา้ ถงึ บรกิ ารของรัฐเป็นหนึ่งในนโยบายสาคัญ ท่มี ่งุ หวงั แกไ้ ขปัญหาเกยี่ วกบั ปากท้องของ ประชาชนในระดับลา่ งทเี่ ป็นคนสว่ นใหญข่ องประเทศ โดยมีแผนงานท่ีสาคญั คือ แผนงานการพฒั นาเศรษฐกิจ ฐานรากและชุมชนเข้มแข็ง ซง่ึ ได้มอบใหก้ ระทรวงมหาดไทยท่ีมีกรมการพฒั นาชมุ ชนเปน็ หนว่ ยงานหลกั บูรณา การไปสูก่ ารปฏิบตั ิ การส่งเสริมการขับเคลื่อนการสร้างสัมมาชีพชุมชน ตามโครงการสร้างความมั่นคงด้านอาชีพและ รายได้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ตามแผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน เขม้ แข็งของรัฐบาล ซึ่งตอบสนองนโยบายรัฐบาลเร่ืองการลดความเหลื่อมล้าทางสังคมและการสร้างโอกาส เข้าถงึ บรกิ ารของรัฐ โดยพน้ื ทีข่ องอาเภอปา่ ติ้ว จังหวัดยโสธร มีเป้าหมายในการดาเนินงานในปีงบประมาณ 2563 จานวน 2 ตาบล 5 หมูบ่ ้าน ซึ่งไดก้ าหนดกระบวนการขับเคลื่อนที่เริ่มต้นด้วย การพัฒนาทักษะการ ถ่ายทอดองคค์ วามร้ใู ห้กับปราชญ์ชมุ ชนเพ่อื ให้กลบั ไปสรา้ งทมี และจดั ฝึกอบรมอาชีพใหก้ บั ครวั เรอื นเป้าหมาย ที่ต้องการฝกึ อาชีพในหมู่บา้ น โดยใช้พนื้ ทใ่ี นบา้ นปราชญช์ มุ ชนหรือศนู ยเ์ รยี นรชู้ มุ ชนเปน็ แหล่งเรียนรู้ เพ่ือมุ่ง หมายใหค้ รัวเรือนท่ีเข้ารับการฝึกอาชีพ มีความรู้ และปฏิบัติอาชีพได้จริง จนพัฒนาเป็นอาชีพท่ีสร้างรายได้ ใหก้ บั ครวั เรือน และตอ่ ยอดส่กู ารรวมกลุ่มจัดตง้ั เปน็ กลมุ่ อาชีพท่ีมีความเข้มแขง็ ตอ่ ไป

5. ปัญหาที่พบและแนวทางการแก้ไขปัญหา ปญั หาที่พบ 1. การอบรมใช้ระยะเวลา 2 วนั ผูอ้ บรมบางคนมอี าชีพหลักทที่ าอยู่แลว้ ด้วย และภารกิจสว่ นตวั อน่ื ๆ ทีจ่ ะต้องทา 2. ผเู้ ข้าอบรมบางสว่ นจะเป็นผู้สงู วยั หรือผู้ทมี่ หี นา้ ทร่ี บั ภาระในการดแู ลบตุ ร หลาน คนวยั แรงงานจะ เดินทางไปทางานต่างถ่ินท่ีมีค่าตอบแทนสูงกว่า จึงส่งผลต่อการรับรู้และปฏิบัติตามนโยบาย โดยเฉพาะ กระบวนการคิด ความคิดสร้างสรรค์ 3. ปญั หาการบูรณาการการทางานของหนว่ ยงานภาคใี นพน้ื ที่ เน่อื งจากงานตามหนา้ ท่แี ละงานตาม นโยบายของแตล่ ะหนว่ ยงานมีจานวนมาก ทาให้มขี ้อจากดั ในการดาเนนิ การร่วมกนั และไม่สามารถสนบั สนนุ การขบั เคล่อื นกจิ กรรมไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ วธิ กี ารแกไ้ ขปญั หา 1. กระต้นุ ด้วยเทคนิควิธกี ารตา่ งๆ เพ่ือใหเ้ นือ้ หาสน้ั กระชับเขา้ ใจง่ายกว่าปกติ 2. ใชห้ ลกั เขา้ ใจ เข้าถึง แล้วจงึ พฒั นา เพอ่ื ให้เกดิ การพงึ่ พาตนเองไดอ้ ย่างยั่งยืน ประชาชนมีคุณภาพ ชวี ิตทีด่ ี มีความสขุ โดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3. การคัดเลือกผู้นาสัมมาชีพและปราชญ์ชุมชน ควรเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเสียสละ อดทน ใจสู้ และเรยี นรเู้ รว็ 4. ประสานงานตดิ ตามความก้าวหนา้ อยา่ งต่อเน่อื ง เพอ่ื ใหม้ กี ารดาเนินการอยา่ งต่อเนอื่ งโดยประสาน ขอความร่วมมอื จากหน่วยงานภาคกี ารพัฒนา เพือ่ ใหห้ น่วยงานต่างๆ เขา้ มามสี ว่ นร่วมในการพฒั นาเพื่อให้เกิด ความยงั่ ยืน ผลของการแก้ปัญหา ผลของการสรา้ งสัมมาชีพชุมชน ตามโครงการสร้างความมน่ั คงดา้ นอาชีพและรายได้ ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง มีดังน้ี 1. ปราชญช์ ุมชนเกิดทักษะดา้ นการถ่ายทอดความรแู้ ละการจดั กระบวนการสัมมาชีพชมุ ชน 2. ครัวเรือนสัมมาชีพชุมชนได้เรียนรู้เก่ียวกับอาชีพ ซึ่งดาเนินการตามแนวทางสัมมาชีพชุมชนที่มี ความเปน็ ไปได้เหมาะสมกับครัวเรือนและพน้ื ที่ 3. ทีมวทิ ยากรสมั มาชพี ชมุ ชนระดบั หมู่บ้านสามารถจดั การฝกึ อาชีพให้กบั ประชาชนในหมูบ่ า้ น 4. ประชาชนมีอาชีพ และมีรายได้จากการประกอบอาชีพตามแนวทางสัมมาชีพชุมชน โดยมีการ รวมกลุ่มจัดตง้ั กลุ่มอาชีพ 5. ผลิตภัณฑห์ รอื สนิ คา้ ของกลุ่มอาชพี ทจี่ ดั ตัง้ เข้าสูร่ ะบบ OTOP 6. ประโยชน์ขององค์ความรู้ ๑. ประโยชน์ต่อตนเอง ได้นาแนวคิดหลักกระบวนงานพัฒนาชุมชนไปใช้ในพื้นที่ เกิดทักษะในการ ทางานพัฒนาชุมชน สามารถขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในพน้ื ทไ่ี ด้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ๒. ประโยชน์ต่อหน่วยงานและองค์กร หน่วยงานและภาคีพัฒนา ได้มีพ้ืนท่ีการทางานที่ชัดเจนข้ึน ใชพ้ ืน้ ทีห่ ม่บู ้าน/ชุมชนเป็นพ้ืนทใี่ นการบูรณาการการทางานร่วมกัน นาหลักการและกระบวนการงานพัฒนา ชมุ ชนมาใชใ้ นการเตรียมความพร้อมหม่บู า้ น ในการที่จะพัฒนาไปสู่หมบู่ ้านเศรษฐกจิ พอเพยี งต่อไป

๓. ประโยชน์ต่อประชาชนและหมู่บา้ น ทาใหป้ ระชาชนในหมู่บ้านได้รับการฝึกอาชีพท่ีเกิดจากความ ต้องการของตนเอง ทาให้เกิดการพัฒนาที่ตรงจุดและย่ังยืน รวมทั้งมีความพร้อมที่จะพัฒนาเป็นหมู่บ้าน เศรษฐกิจพอเพียงตน้ แบบ และกจิ กรรมอืน่ ๆ ตอ่ ไป 7. เทคนิคในการปฏิบัติงาน ดาเนินการโดยใชก้ ระบวนการ “ชาวบ้านสอบชาวบา้ น” หลักการทรงงาน “ระเบดิ จากข้างใน” และปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ดงั นี้ 7.1 ขน้ั เตรียมการ ๑) ศึกษาแนวทาง ขัน้ ตอนการสร้างสมั มาชีพชมุ ชนตามแนวทางของการการพัฒนาชุมชนการเตรียม ความพรอ้ มในการขบั เคลอ่ื นการสรา้ งสมั มาชพี ชมุ ชนในระดบั หม่บู า้ น ตอ้ งศกึ ษาทาความเขา้ ใจในนโยบายและ แนวทางการปฏบิ ตั ิงาน และวธิ ีการทางานให้ถกู ต้องชดั เจน ดงั นี้ (๑.๑) ดาเนินการศกึ ษาแนวทางการปฏบิ ัติงานกจิ กรรมตามยุทธศาสตรก์ รมการพฒั นาชมุ ชน หนังสือสั่งการ เอกสารคู่มือแนวทางการส่งเสริมการขับเคล่ือนการสร้างสัมมาชีพชุมชน ตามโครงการสร้าง ความมั่นคงดา้ นอาชพี และรายได้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (๑.๒) ทาความเข้าใจบทบาทหน้าทีข่ องพัฒนากรทีจ่ ะดาเนินการขับเคล่อื นการสรา้ งสัมมาชพี ชมุ ชน โดยยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๒) สร้างความรู้ ความเขา้ ใจให้กับผู้นาชุมชน เพ่ือเตรียมความพร้อมดาเนินกิจกรรมการสรา้ งสัมมาชีพ ชมุ ชน ๓) ร่วมกบั ผ้นู าชุมชนศกึ ษาและวิเคราะห์ข้อมูลชุมชน เตรียมข้อมูลพื้นฐานของชุมชนและครัวเรือน ได้แก่ ข้อมูลทางด้านกายภาพ สังคม การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ ข้อมูลความจาเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ข้อมลู พื้นฐานระดบั หมู่บ้าน (กชช.๒ค) ข้อมูลสารสนเทศชุมชน เพื่อวิเคราะห์ประเภทอาชีพเพื่อฝึกอบรมให้ เป็นอาชพี ตามความประสงค์ของครัวเรอื นเป้าหมาย 7.2 ข้นั วางแผน รว่ มกับผนู้ าชมุ ชนและภาคเี ครอื ข่ายจัดทาแผนการดาเนินกิจกรรมการสร้างสัมมาชีพชุมชนในระดับ หมู่บ้าน เพ่ือให้การขับเคลื่อนการดาเนินงานเป็นไปอย่างต่อเน่ืองและเกิดประโยชน์ ข้าพเจ้าได้ประสาน หนว่ ยงานภาคี และผมู้ ีสว่ นเกย่ี วขอ้ งในการวางแผนในการดาเนนิ งานให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ ดงั น้ี ๑) พฒั นากรผปู้ ระสานงานตาบล ประสานการทางานกับผ้นู าชมุ ชน โดยสร้างความรคู้ วามเข้าใจให้กบั ผู้ใหญบ่ า้ น คณะกรรมการหมบู่ า้ น สมาชกิ องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล กลมุ่ องคก์ ร กลุ่มอาชีพ และอาสาพัฒนา ชุมชน ให้ความรู้ความเข้าใจในวัตถุประสงค์ของการดาเนินงาน และแนวทางการขับเคล่ือนการสร้าง สัมมาชพี ชุมชน ๒) พัฒนากรผู้ประสานงานตาบล นาข้อมูลพื้นฐานของชุมชนร่วมกันวิเคราะห์ในเวทีแกนนาชุมชน เพ่อื กาหนดกรอบขั้นตอนและเป้าหมายการทางานให้สอดคล้องกับสภาพทั่วไปของชุมชนรวมถึงแบ่งหน้าท่ี รับผิดชอบในการติดตามและขบั เคลอื่ นกิจกรรมที่ไดว้ างแผนรว่ มกนั ไว้ 7.๓ ขั้นการดาเนินงาน ๑) ชแ้ี จงสร้างความเข้าใจในการดาเนินโครงการการสร้างสัมมาชีพชุมชนในระดับหมู่บ้าน ซ่ึงต้องมี การบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกัน จึงต้องมีการประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจกับทีมสนับสนุนการขับเคลื่อน สัมมาชีพชมุ ชน คณะทางานระดับตาบล เพอ่ื ให้การปฏิบัตงิ านเป็นไปในทิศทางและเป้าหมายเดียวกนั ดงั นี้ (๑.๑) จัดประชุมทีมสนับสนนุ การขับเคลื่อนสัมมาชพี ชมุ ชน คณะทางานระดบั ตาบล และหมู่บา้ นเป้าหมาย เพอ่ื สร้างความเข้าใจรว่ มกันในการขับเคลอ่ื นหม่บู ้านสมั มาชพี ชมุ ชน

(๑.๒) จดั ประชุมหัวหนา้ ครัวเรือน เพอื่ ช้แี จงวัตถปุ ระสงคก์ ารดา เนนิ งานแลกเปล่ียนเรียนรู้ สร้างความเขา้ ใจกระบวนการขับเคล่อื นสมั มาชีพชมุ ชน จากน้นั กาหนดแผนปฏบิ ัติการขบั เคล่ือนโครงการสรา้ ง สัมมาชีพชุมชนร่วมกัน (๑.๓) รว่ มกับผู้ใหญบ่ ้าน คณะกรรมการหมบู่ ้าน ผู้นากลมุ่ /องค์กรในหมบู่ ้านหัวหน้าคุม้ และ แกนนาหมู่บ้าน เพื่อคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ การคัดเลือกปราชญ์ชุมชนเข้ารับการฝึกอบรมเพ่ิมทักษะ ด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ การคัดเลือกทีมวิทยากรสัมมาชีพระดับหมู่บ้าน และการคัดเลือกครัวเรือน เป้าหมายทตี่ ้องการฝกึ อาชพี จานวน ๒๐ ครวั เรือน ๒) ดาเนินกจิ กรรมตามแผนที่กาหนด โดยมีการดาเนนิ กจิ กรรมตามข้ันตอน ดงั น้ี (๒.๑) สรา้ งความรู้ ความเข้าใจในเรอ่ื งอาชพี ทตี่ อ้ งการเรยี นรู้ จานวน 1 วัน (๒.2) ฝกึ ปฏบิ ัติอาชพี ครวั เรอื นเป้าหมาย จานวน ๑ วนั (๒.3) สนับสนนุ การจัดต้ังและพฒั นากลุม่ อาชีพ จานวน ๑ วัน 7.๔ ข้นั ติดตามประเมินผลการดาเนินงาน ๑) พฒั นากรผปู้ ระสานงานตาบล ร่วมกับทีมงานพัฒนาชุมชนอาเภอป่าติ้ว และภาคีในระดับตาบล ติดตามผลการดาเนินงานอย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง ร่วมกับภาคีเครือข่ายติดตามประเมินผลร่วมกับชุมชน หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทางานเพื่อนาไปเป็นเครื่องมือในการกากับทิศทางการพัฒนาอาชีพใน หมู่บ้าน ๒) จดั เวทตี ิดตามประเมนิ ผล และสรปุ บทเรยี นการดาเนินงาน โดยพฒั นากรผู้ประสานงานตาบลสรุป บทเรยี นและการจัดการความร้จู ากการดาเนินงาน ร่วมกับผใู้ หญบ่ า้ น คณะกรรมการหมู่บ้านผู้นากลุ่ม/องค์กร ในหมบู่ า้ น หัวหนา้ ค้มุ และครวั เรอื นเป้าหมาย ๓) จัดทาเอกสารสรปุ บทเรยี นการดาเนินงานและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แก่คนในชมุ ชน บุคคลภายนอกและประชาชนท่ีสนใจ