Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

Published by Intiras58, 2016-02-12 23:37:17

Description: ดอยอินทนนท์

Keywords: none

Search

Read the Text Version

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อพ.ศ.2515 ประกาศเป็นอุทยานฯ เป็นล าดับที่ 6 ของประเทศไทย มีพื้นที่ 482.4 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ในเขต อ าเภอจอมทอง อ าเภอแม่แจ่ม อ าเภอแม่วาง และกิ่งอ าเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ดอยอินทนนท์แต่เดิม ดอยนี้มีชื่อว่า 'ดอยหลวง' หรือ 'ดอยอ่างกา'ดอยหลวง มาจากขนาดของดอยที่ใหญ่มาก ชาวบ้านจึงเรียกกัน ว่า 'ดอยหลวง' (หลวง: เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ใหญ่) ดอยอินทนนท์ อดีตกาลก่อนป่าไม้ทางภาคเหนืออยู่ในความควบคุมของเจ้าผู้ครองนครต่าง ๆ สมัย พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ (องค์สุดท้าย) พระองค์ให้ความส าคัญกับป่าไม้อย่างมาก โดยเฉพาะป่าในบริเวณดอยหลวง ทรงรับสั่งว่า หากสิ้นพระชนม์ลงให้น าอัฐิบางส่วนขึ้นไปสร้างสถูปบรรจุ ไว้บนดอย ดอยนี้จึงมีนามเรียกขานว่า 'ดอยอินทนนท์' แต่มีข้อมูล บางกระแสกล่าวว่า ที่ดอยหลวงเรียกว่า ดอยอินทนนท์ นั้น เป็นเพราะเนื่องจากว่าเป็นการให้เกียรติ เจ้าผู้ครองนคร จึงตั้งชื่อจากค าว่า 'ดอยหลวง' ซึ่งเป็นชื่อที่มีความซ ้ากับดอยหลวง ของอ าเภอเชียงดาว แต่ภายหลังมีชาวเยอรมัน มาท าการส ารวจและวัด ซึ่งปรากฎผลว่า ดอยหลวง หรือดอยอ่างกา ที่อ าเภอแม่แจ่มมีความสูงกว่า ดอยหลวง ของอ าเภอเชียงดาว จึง เปลี่ยนชื่อใหม่ เพื่อไม่ให้มีความซ ้าซ้อนกัน และเรียกดอยแห่งนี้ว่า 'ดอยอินทนนท์' อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เดิมเป็นส่วนหนึ่งของ 'ป่าสงวนแห่งชาติดอยอินทนนท์' ต่อมาได้ ถูกส ารวจและจัดตั้งเป็นหนึ่งในสิบสี่ ป่าที่ทางรัฐบาลให้ด าเนินการเป็นอุทยานแห่งชาติซึ่งครั้งแรกกรมป่า ไม้เสนอ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก าหนดพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ให้มี พื้นที่ 1,000 ตร. กม. หรือประมาณ 625,000 ไร่ แต่เนื่องจากพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ อาศัยอยู่ก่อนหลายชุมชน จึงท าการส ารวจใหม่ และกันพื้นที่ที่ราษฎร อยู่มาก่อน และคาดว่าจะมีปัญหาในอนาคตออก จึงเหลือพื้นที่ที่จะประกาศเป็น อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 270 ตร.กม. หรือประมาณ 168,750 ไร่ ประกาศลงวันที่ 2 ตุลาคม 2515 และ ในวันที่ 13 มิถุนายน 2521 รัฐบาลประกาศพื้นที่เพิ่มอีกเป็น 482.4 ตร.กม. อ าเภอจอมทอง อ าเภอแม่แจ่ม

อ าเภอแม่วาง และกิ่งอ าเภอดอยหล่อ มีความสูงจากระดับน ้าทะลปานกลาง 400-2,565.3341 เมตร เป็นภูเขาที่ สูงที่สุดในประเทศไทยส าหรับวัตถุประสงค์ในการก าหนดที่ดินให้ เป็นอุทยานแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ. อุทยาน แห่งชาติ พ.ศ. 2504 หมวด 1 มาตรา 6 สถานที่ท่องเที่ยวดอยอินทนนท์ สถานที่ท่องเที่ยว ดอยอินทนนท์ : สูงสุดแดนสยาม ดอยอินทนนท์ แห่งนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย น ้าตกแม่ยะ น ้าตกแม่ยะ : เป็นน ้าตกขนาดใหญ่สูงประมาณ 260 เมตร อยู่ทางตอนใต้ของอุทยาน เกิดจากล าห้วย แม่ยะ มีคนกล่าวว่าน ้าตกแม่ยะนี้มีความสวยงามติดอันดับน ้าตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย ในฤดูแล้งน ้าอาจ ลดน้อยลงแต่สายน ้าตกจะใสสะอาดกว่า การเดินทาง เมื่อเข้าสู่ถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ ได้ ประมาณ 1 กม. จะมีทางแยกซ้ายไปอีกประมาณ 14 กม. กิจกรรม : ดูนก, ดูผีเสื้อ, เที่ยวน ้าตก, แคมปิ้ง, ชื่น ชมกับดอกไม้สวยๆ

น ้าตกแม่กลาง น ้าตกแม่กลาง : เป็นน ้าตกขนาดใหญ่ซึ่งมีน ้าไหลตลอดปี และมีแอ่งน ้าขนาดใหญ่ให้เล่นน ้าหลาย แห่ง แต่ในช่วงฤดูฝนกระแสน ้าไหลแรงจนอาจเป็นอันตรายต่อการเล่นน ้า น ้าตกแม่กลางอยู่ทางทิศ ตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ จากถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ ประมาณ กม.ที่ 8 ก่อนถึงด่านตรวจ ของอุทยานแห่งชาติ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงน ้าตกแม่กลาง สามารถเดินลัดเลาะ ตามเส้นทางเดินไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากน ้าตกแม่กลางประมาณ 400 เมตร ผ่าน เหมืองฝายและภาพเขียนสีผาคันนา กิจกรรม : เที่ยวน ้าตก, ชมทิวทัศน์ น ้าตกวชิรธาร น ้าตกวชิรธาร: เป็นน ้าตกขนาดใหญ่ เดิมชื่อ ตาดฆ้องโยง ตัวน ้าตกอยู่สูงจากระดับน ้าทะเลประมาณ 750 เมตร น ้า จะดิ่งจากผาด้านบนตกลงสู่แอ่งน ้าเบื้องล่าง ในช่วงที่มีน ้ามากละอองน ้าจะสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณรู้สึกได้ถึงความเย็น และชุ่มชื้น สะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปหาหน้าผานั้นจะเปียกลื่นอยู่ตลอดเวลาในฤดูน ้ามากแต่หากเดินเข้าไปจนสุดจากจุด นั้นจะได้สัมผัสกับความงามของน ้าตกมากที่สุด การเดินทาง : จากเชิงดอยอินทนนท์ขึ้นไปถึงกิโลเมตรที่ 21 จะเห็นป้ายบอกทางแยกขวาเข้าน ้าตก ลงไป 500 เมตร ถนนจะ ถึงที่ตัวน ้าตก อีกเส้นทางหนึ่งซึ่งเป็นเส้นทางเดิมอยู่เลยจากทางแยกแรกไปประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามป้ายและเดิน จากลานจอดรถลงไปอีก 351 เมตร หากใช้เส้นทางนี้จะได้สัมผัสกับงามของธรรมชาติรอบด้านตลอดทางเดิน

น ้าตกสิริภูมิ น ้าตกสิริภูมิ : เดิมชื่อ น ้าตกเลาลี ตามชื่อของชาวเขา ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่อยู่ใกล้น ้าตกนี้ ต่อมา ม.ร.ว.จักรทอง ทองใหญ่ เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขนานนามว่า 'สิริภูมิ' เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนาง-เจ้าพระบรมราชินีนาถ น ้าตก นี้อยู่ที่บ้านขุนกลาง ใกล้ กม.ที่ 31 ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ เป็นน ้าตก 2 สาย ที่ไหลคู่กันลงมาจาก หน้าผาสูงซึ่งสามารถมองเห็นได้ กิจกรรม : ดูนก, ดูผีเสื้อ, เที่ยวน ้าตก, ชื่นชมกับดอกไม้สวยๆ น ้าตกสิริธาร น ้าตกสิริธาร : ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เดิมน ้าตกแห่ง น ้ามีชื่อว่า “น ้าตกป่าคา” ต่อมาเมื่อ นที่ 28 มีนาคม 2545 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เสด็จ มาเยื่อน และ ทอดพระเนตร ทรงพระราชทานนามน ้าตกว่า “น ้าตกสิริธาร” น ้าตกแห่งนี้ไหลลงมาผ่านหินผา ที่มีความสูงที่ของน ้าตกประมาณ 50 เมตร ไหลลดหลั่นกันลงมาเป็น 2 ชั้นต่อกันอย่างสวยงามมากและมีน ้า ไหลตกลงมาตลอดทั้งปี เป็นน ้าตกที่ไหลมาจากล าน ้าแม่กลาง ซึ่งไหลลงมาจากบริเวณเทือกเขาดอยอิน ทนนท์ มีสัตว์น ้าหลายชนิดเช่น กบ เขียด ปลาหลายชนิดและปลาที่หายาก เช่นปลาค้างคาว มีนักท่องเที่ยวทั้ง ชาวไทยและ ต่างประเทศนิยมมาท่องเที่ยวเป็นจ านวนมาก เพื่อชมความสวยงามของน ้าตกที่ไหลลงมาจากผา หินขนาดใหญ่แล้ว กิจกรรม - ชมทิวทัศน์ - ดูนก - ดูผีเสื้อ - เดินป่าศึกษาธรรมชาติ - เที่ยวน ้าตก

น ้าตกวังควาย น ้าตกวังควาย เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีลักษณะน ้าตกที่ไหลเซาะลดเลี้ยว ตามลานหินลงมาเป็นชั้นๆ พื้นน ้าเป็นทรายเม็ดละเอียด ซึ่งทางต้นน ้าจะดูไหลแรงเล็กน้อยมักเป็นมุมที่คน มักจะเข้ามาถ่ายภาพ ส่วนทางด้านล่างน ้าไหลช้ามีลักษณะเป็นธารกว้าง จึงเหมาะกับการลงเล่นน ้าอีกทั้งยังมี ห่วงยางให้เช้าอีกด้วย ถ ้าบริจินดา ถ ้าบริจินดา: อยู่ใกล้น ้าตกแม่กลาง ตั้งอยู่ในเทือกเขาดอยอ่างกา ถ ้าความลึกหลาย กิโลเมตร เพดานถ ้ามีหินงอกเรียกว่า 'นมผา' ภายในถ ้ามีการประดิษฐานพระพุทธรูป นอกจากนั้นเมื่อมี แสงกระทบธารหินจะเกิดแสงสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ ลักษณะถ ้าเป็นถ ้าทะลุภายในเห็นได้ชัด เนื่องจากเป็นอุโมงค์ที่ซึ่งแสงลอดเข้ามาได้ ที่ปากทางเข้ามีประวัติของถ ้าเขียนไว้อยู่ พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ: ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยอิน ทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นพระธาตุที่ทางกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ ร่วม ใจสร้างถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา เมื่อปีพุทธศักราช 2530 และเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระ ชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2535 โดยรอบบริเวณพระมหาธาตุเจดีย์ทั้ง 2 องค์ สามารถ มองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์โดยรอบได้อย่างชัดเจน พระมหาธาตุทั้ง 2 องค์นี้ มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือ มีฐานเป็นรูป 12 เหลี่ยม มีระเบียงแก้วโดยรอบเป็น 2 ระดับ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและ พระพุทธรูปบูชา

ผาแง่มน้อย “แง่ม” เป็นภาษาเหนือความหมายเดียวกับค าว่า “ง่าม”ในภาษากลาง ผาแง่มน้อยเป็นหิน 2 แท่ง ตั้งอยู่คู่ กันริมเส้นทางธรรมชาติกิ่ว-แม่ปาน หินที่ผาแง่มน้อยเป็นหินแกรนิตเนื้อปานกลางยุคไทรแอสซิก มีอายุ ประมาณ 200 ล้านปี โดยหินในบริเวณนี้เกิดจากหินหลอมเหลวที่ดันตัวตัดผ่านหินไนส์ที่อายุกว่า530ปี เมื่อ หินหลอมเหลวที่ยังอยู่ใต้ผิวโลกเย็นตัวลง มวลของหินแกรนิตมีการหดตัวและปรากฏรอยแตกบริเวณขอบ ของมวลหิน เมื่อเวลาผ่านไปเปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ปรากฏการณ์ที่ส าคัญเกิดขึ้นคือ กระบวนการก่อเทือกเขา ท าให้ผิวโลกมีการยกตัวขึ้นเป็นภูเขา ปรากฏการณ์ที่ส าคัญต่อมาหลังจากที่หิน ปรากฏบนผิวโลกคือการผุพังอยู่กับที่ และการกัดกร่อน หินแกรนิตเกิดจากแร่ประกอบหินหลายชนิด เช่น ควอรตซ์ เฟลด์สปาร์ ไบโอไทต์ และมัสโคไวท์ แร่ประกอบหินแต่ละชนิดมีอัตราการผุพังที่ต่างกัน เช่น แร่ เฟลด์สปาร์ จะผุพังง่าย และเร็วกว่าแร่ควอรตซ์ ผาแง่มน้อยเป็นหินแกรนิตเช่นเดียวกับหินที่อยู่ข้างเคียง แต่เนื้อหินของผาแง่มน้อยมีปริมาณแร่ควอรตซ์ มากกว่าหินที่อยู่ข้างเคียง และหินข้างเคียงก็มีปริมาณแร่เฟลด์สปาร์ที่มากกว่าหินส่วนที่เป็นหน้าผา ผาแง่ม น้อยจึงเป็นผลลัพธ์ของความต่างของอัตราเร็วในการผุพัง โดยส่วนที่เป็นผาแง่มน้อยมีความทนทานต่อการผุ พังมากกว่าหินที่อยู่ข้างเคียง นอกจากนี้อาจเกี่ยวข้องกับความถี่ของรอยแตกที่หินข้างเคียงมีมากกว่าหินส่วน ที่เป็นผาแง่มนี้ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน : อยู่ตรง กม.ที่ 42 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอิน ทนนท์ ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เส้นทางนี้จะผ่านสภาพธรรมชาติที่ แตกต่างกัน 2 ลักษณะ คือ ป่าดิบเขากับทุ่งหญ้าบนสันเขา ทางช่วงแรกผ่านเข้าไปในป่าดิบเขาซึ่งมี บรรยากาศร่มครึ้ม มีแสงแดดส่องลงมาเพียงร าไรตามพื้นป่าเต็มไปด้วยเฟินหลากหลายชนิด มีมอสสีเขียว

ขึ้นคลุมตามโคนต้นไม้และบริเวณริมห้วยที่ชุมชื้น ทางจะเดินขึ้นเขาจนทะลุออกยังทุ่งหญ้าโล่งกว้างของสัน กิ่วแม่ปานซึ่งมีแสง แดดจ้าและสายลมแรง ท าให้บรรยากาศเปลี่ยนไปจากสภาพที่ผ่านมาทันที ทุ่งหญ้า บริเวณนี้เคยเป็นป่าดิบเขามาก่อน แต่ได้ถูกบุกรุกท าลายไปจนมีสภาพดังเช่นปัจจุบัน จากนี้ทางเดินจะเลียบไปตามสันเขาที่มีดงต้นกุหลาบพันปี รวมทั้งไม้พุ่มขนาดเล็กอย่างช้ามะยม ดอยและต่างไก่ป่า ซึ่งเป็นตัวอย่างของสังคมพืชกึ่งอัลไพน์ให้ศึกษา ทางช่วงสุดท้ายจะเข้าสู่ป่าดิบเขาอีกครั้ง และไปสิ้นสุดที่จุดเริ่มต้นของ เส้นทาง รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน 2-3 ชั่วโมง เส้นทางนี้อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตรจากระดับน ้าทะเล ผู้สนใจต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่ น าทางที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมคือ เดือนธันวาคม-มกราคม ส่วน ในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เส้นทางนี้ปิดให้บริการเพื่อให้เวลาธรรมชาติฟื้นตัว เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา : อยู่บนยอดดอยอินทนนท์ เส้นทางนี้สามารถสัมผัสกับธรรมชาติอัน ชวนหลงไหลของป่าดิบเขาได้ง่ายที่สุด ภายในจัดท าเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 300 เมตร โดยใช้สะพานไม้ทั้งหมด กิจกรรม : ศึกษาธรรมชาติ

สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เป็นแหล่งวิจัย รวบรวมพันธุ์พืชและผลิตไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว นานาชนิด อีกทั้งยังมีพืชผักสมุนไพร และไม้ผลขนาดเล็ก ซึ่งจัดจ าหน่ายภายใต้ตร ดอยค า กิจกรรมต่าง ๆ ภายในสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ที่น่าสนใจดังนี้ 1. การท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศภายในสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ 2. เส้นทางเดินเท้า น ้าตกสิริภูมิ 3. การดูนก 4. ชมแปลงพืชผักเมืองหนาว ไม้ดอก ผักไฮโดรโพนิกส์ และงานวิจัยพืชเมืองหนาว 5. สวนกุหลาบพันธุ์ปี รวบรวมพืชสกุล Rhododendron เช่น อาซาเลีย (Azalia) และกุหลาบพันปีชนิดต่างๆ หลายชนิด เป็นพืชการค้าในต่างประเทศและหลายชนิดได้ขยายพันธุ์มาจากต้นที่ขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ค า แดง หรือค าดอย (Rhododendron arboreum) ที่มีการกระจายพันธุ์อยู่ตามพื้นที่สูงของประเทศไทย เช่น ดอน อินทนนท์ ดอยอ่างขาง จุดชมทิวทัศน์ กม.41

จุดชมทิวทัศน์ กม.41 : จุดชมทิวทัศน์อยู่ตรงกิโลเมตรที่ 41 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอิน ทนนท์ สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของขุนเขาสลับซับซ้อน โดยเฉพาะยามเช้าจะมีทะเลหมอกปก คลุมเหนือหุบเขาน่าชมมาก จากจุดชมทิวทัศน์สามารถมองเห็นพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุน ภพลภูมิสิริสูงเด่นอยู่คู่กัน กิจกรรม : ชมทิวทัศน์ เส้นทางดูนก กม.38 เส้นทางดูนก กม.38 หรืออีกชื่อที่นักดูนกนิยมเรียกคือ jeep track ใกล้กับด่านตรวจอุทยานแห่งชาติ กม. ที่ 37.5 เป็นทางเดินราบไปตามป่าดิบเขาที่ระดับความสูง1,500เมตร พันธุ์ไม้ที่สามารถพบเจอได้ก็ ได้แก่ พญาไม้มณฑาดอย หรือนกที่สามารถพบเห็นได้อย่าง นกมุ่นรกตาแดง นกขมิ้นแดง นกเปลือกไม้ นกปลีกล้วยลาย นกติ๊ดแก้มเหลือง หรือนกปีกแพรสีม่วง และนกปีกแพรสีเขียว ซึ่งเป็นนกหายาก ยอดดอยอินทนนท์ ยอดดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นยอดเขาสูงสุดของประเทศ อากาศบนยอดดอยหนาวเย็นประดุจดังอยู่ในเมืองหนาว ยามฤดูหนาวหนาวจัด มีเมฆหมอกครึ้ม บรรยากาศ ดังกล่าวไม่อาจหาได้ในส่วนอื่นของประเทศ โดยเฉพาะบริเวณ อ่างกาหลวง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับศูนย์บริการ นักท่องเที่ยว เป็นจุดที่สามารถสัมผัสกับธรรมชาติอันชวนหลงไหลของป่าดิบเขาได้ง่ายที่สุด ภายในจัดท า เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 300 เมตร โดยใช้สะพานไม้ทั้งหมด เพื่อป้องกันมิให้เหยียบ ย ่าธรรมชาติอันเปราะบางเสียหาย เส้นทางจะวนกลับมา ณ จุดเริ่มต้น มีป้ายให้ความรู้เรื่องธรรมชาติตลอด เส้นทาง บรรยากาศในอ่างกาหลวงปกคลุมด้วยเมฆที่ลอยพัดผ่านเข้ามาตลอดเวลา อากาศจึงชื้นและเต็มไป ด้วยละอองน ้า ท าให้ต้นไม้ใหญ่ในป่าดิบเขามีมอสและเฟินขึ้นหุ้มเต็มต้นจนแลดูราวกับป่าในยุคดึกด าบรรพ์ จุดเด่นของเส้นทางนี้ ได้แก่ ต้นกุหลาบพันปีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ กุหลาบ พันปีจะบานอวดดอกสีแดงสดดึงดูดให้นกมากินน ้าหวานและช่วยผสมเกสร เช่น นกกินปลีหางยาวเขียว นก

กินปลีหางยาวคอสีฟ้าฯลฯ ส่วนตามโคนต้นกุหลาบพันปีมีข้าวตอกฤาษีขึ้นปกคลุมราวกับพรมธรรมชาติ ข้าวตอกฤาษีเป็นมอสชนิดหนึ่งขึ้นอยู่หนาแน่นมีสีเขียวสลับส้มกับสีน ้าตาลอ่อนๆ มอสชนิดนี้จะขึ้นได้ เฉพาะที่สูง ความชื้นมาก และอากาศหนาวเย็นเท่านั้น กิจกรรม - ชมพรรณไม้ - ดูนก - เดินป่าศึกษาธรรมชาติ - ชมทิวทัศน์ - ชมประวัติศาสตร์ เส้นทางศึกษาธรรมชาติน ้าตกผาดอกเสี้ยว เส้นทางศึกษาธรรมชาติน ้าตกผาดอกเสี้ยว ระยะทางประมาณ 2,500 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง เหมาะส าหรับการศึกษาในเรื่องของสังคมป่าเต็งรังผสมป่าสน คุณประโยชน์ของป่า วิถีชีวิตชาวปกา เกอญอ นาขั้นบรรได และชมน ้าตกผาดอกเสี้ยว โดยกิจกรรมอย่างการเดินศึกษาป่าไม้ กับเที่ยวน ้าตก แล้ว ยังสามารถชมนกชนิดต่างๆได้อีกด้วย หมู่บ้านม้งขุนยะน้อย หมู่บ้านม้งขุนยะน้อย สัมผัสการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมม้งขุนยะน้อย หมู่บ้านชาวเขา ราวมีทั้งหมดราว 70หลังคาเรือน ยังคงใช้วิถีชีวิตวัฒนธรรมแบบเดิม เช่น การแต่งกาย ตีมีด โม่ข้าวท าเหล้า ทอผ้าและการจัดประเพณีต่างๆ มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี สามารถมองเห็นวิวได้ไกลและเป็นมุมกว้าง โดยรอบเป็นป่าดิบเขาที่ยังคงความสมบูรณ์มีการอนุรักษ์ป่า “ดงเซ้ง”พร้อมต้นไม้ขนาด7-8คนโอบ หมู่บ้านกะเหรี่ยงแม่แอบใน หมู่บ้านกะเหรี่ยงแม่แอบใน สัมผัสการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวเขาเผ่า กะเหรี่ยงแม่แอบใน ใช้วิถีชีวิตวัฒนธรรมแบบเรียบง่ายและคงความดั้งเดิม เช่น ทอผ้า ต าข้าว การเล่นเต หน่า ร าดาบ การขับกล่อมบทกลอน'ทา' 'ซอ' หรือจะเป็นพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เช่น ผีนา ผี ฝ้าย

การเดินทางดอยอินทนนท์ การเดินทางไปดอยอินทนนท์ : ระยะทางจากตัวเมืองขึ้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ ประมาณ 106 กม. โดยเดินทางตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่ - จอมทอง ถึงหลักกม.ที่ 57 ก่อนถึงอ าเภอจอมทอง 1 กม. แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 สายจอมทอง-อินทนนท์ ระยะทาง 48 กม. ถึงยอดดอยอินทนนท์ เป็นถนนลาดยางอย่างดีแต่ค่อนข้างสูงชัน ผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว รถจะต้องมีสภาพดี ผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถเช่ารถสองแถวที่น ้าตกแม่กลางได้ ส่วนการน ารถขึ้นไปเองนั้น จะต้องเสียค่าผ่านทาง ตรงด่านตรวจ และจ าหน่ายบัตรค่าธรรมเนียมบริเวณหลักกม.ที่ 8 ทางอุทยานฯ มีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยว สนใจติดต่อ จองล่วงหน้าที่ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร.579-5734, 579-7223 แผนที่ดอยอินทนนท์ แผนที่ดอยอินทนนท์ เดินทางไปดอยอินทนนท์ ระหว่างทางจะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย สามารถดู ได้จากแผนที่ดอยอินทนนท์ ที่เราหามาให้ท่าน มีทั้ง อ าเภอต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยว จุดชมวิว น ้าตก และ อื่นๆ

เอกสารอ้างอิง ที่มา http://xn--l3cgagba3dxeb4e9n.com/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook