Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรู้สู่การสร้างสรรค์อนาคต_1544650016

ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรู้สู่การสร้างสรรค์อนาคต_1544650016

Published by pla_enter2, 2019-09-12 08:00:23

Description: ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรู้สู่การสร้างสรรค์อนาคต_1544650016

Search

Read the Text Version

232 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรียนรสู้ ู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต 3. การปรับปรุงการสอน นาผลการประเมินการสอนมาวิเคราะห์และปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียน การสอนให้สอดคลอ้ งกบั ความสนใจ ความต้องการของผ้เู รียน และบริบทของสังคม 4. การทบทวนสอบมาตรฐานผลสมั ฤทธิ์ของผู้เข้าอบรมในหลกั สูตรการฝกึ อบรมฯ ทวนสอบโดยการติดตามคุณภาพของผู้เรียนโดยการสังเกต การตรวจสอบ การประเมิน การสมั ภาษณ์ 5. การดาเนินการทบทวนและการวางแผนปรับปรุงประสิทธิผลของหลักสูตรการ ฝึกอบรมฯ นาผลการประเมินประสิทธิภาพของรายวิชามาวิเคราะห์กาหนดประเด็นการ ปรับปรุงรายวิชาและการจัดการเรียนการสอน ดาเนินการพัฒนาและปรับปรุงให้มี ความสอดคล้องกบั ความสนใจ ความต้องการของผู้เรียนและบรบิ ทของสงั คม

233ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรสู้ ่กู ารสรา้ งสรรค์อนาคต รายละเอียดของหลกั สตู รการฝกึ อบรมระยะสนั้ แบบไม่ประสาทปรญิ ญา บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ ภาคเรยี นที่ ......... ประจาปีการศกึ ษา ................. หมวดท่ี 1 ขอ้ มลู ท่วั ไป 1. ช่อื หลกั สตู รฝึกอบรมระยะส้ันแบบไมป่ ระสาทปริญญา การประเมนิ ผลทเี่ สรมิ พลงั การเรยี นรู้ 2. จานวนชั่วโมงตลอดระยะเวลาการฝึกอบรมฯ บรรยาย 10 ชั่วโมง – ปฏิบตั ิ 10 ชว่ั โมง 3. จานวนหน่วยกติ ในการเทียบเคียง 1 หน่วยกิต 4. รายวชิ าทเ่ี ทียบเคียงในหลักสตู รระดับบณั ฑติ ศกึ ษา ลส701 การพัฒนาหลกั สูตรและการจดั การเรยี นรู้ CL701 Curriculum Development and Learning Management 5. อาจารย์ผู้รบั ผิดชอบและอาจารย์ผูส้ อนในหลักสตู รฝึกอบรมฯ ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.มารตุ พฒั ผล 6. สถานท่เี รยี น หอ้ ง 301 อาคารบัณฑิตวทิ ยาลัย

234 ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรียนรู้สกู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต หมวดท่ี 2 จดุ มุ่งหมายและวัตถปุ ระสงค์ 1. จดุ มุ่งหมายของหลักสตู รฝกึ อบรมฯ ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจแนวคิดหลักการประเมินผลที่เสริมพลังการเรียนรู้ นวัตกรรมการการประเมินผลท่ีเสริมพลังการเรียนรู้ และสามารถแสดงความรู้ ความเข้าใจท่ีเป็นปัจจุบันและเก่ียวข้องกับ การประเมินผลท่ีเสริมพลังการเรียนรู้ ตลอดจนส่อื สารอยา่ งมีประสิทธภิ าพดว้ ยเทคโนโลยที ี่เหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย 2. วตั ถปุ ระสงคใ์ นการพฒั นา/ปรับปรุงหลกั สตู รฝกึ อบรมฯ เพื่อให้รายวิชามีความทันสมัยและสอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงของสังคม ตลอดจนตอบสนองความต้องการของผเู้ ข้ารบั การฝกึ อบรม สามารถพัฒนาผู้เข้ารบั การ ฝึกอบรมให้มีคุณภาพในระดบั สากล หมวดที่ 3 ลกั ษณะและการดาเนนิ การ 1. คาอธบิ ายหลกั สตู รฝกึ อบรมฯ ศึกษาวิเคราะห์แนวคิดหลักการประเมินผลท่ีเสริมพลังการเรียนรู้ นวัตกรรม การประเมินผลท่ีเสริมพลังการเรียนรู้ และปฏิบัติการออกแบบการประเมินผล ท่ีเสริมพลังการเรียนรู้ ท่ีมุ่งพัฒนาผู้เรียนไปสู่สังคมอนาคต ตลอดจนส่ือสารอย่างมี ประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมกบั กลุ่มเปา้ หมาย 2. ความรับผดิ ชอบหลัก/ความรบั ผดิ ชอบรอง ด้านคุณธรรม ด้านความรู้ ด้านทกั ษะทาง ทกั ษะความสัมพันธ์ ด้านทักษะการ จริยธรรม ปญั ญา ระหวา่ งบุคคลและ วเิ คราะหเ์ ชงิ ความรับผิดชอบ ตวั เลข การ ส่อื สารฯ 12345123412345123 4 51234   

235ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรียนรู้สู่การสร้างสรรคอ์ นาคต หมวดที่ 4 การพฒั นาผลการเรียนรู้ของผเู้ ขา้ อบรม 1. คุณธรรม จรยิ ธรรม 1.1 คณุ ธรรม จรยิ ธรรมท่ีตอ้ งพฒั นา 1) สามารถแกป้ ัญหาทางคณุ ธรรมจรยิ ธรรมทีซ่ ับซ้อนในบริบททางวชิ าการ 2) สามารถช้ปี ระเดน็ ปัญหาทางวิชาการและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขอย่าง สรา้ งสรรค์ 3) สามารถใชด้ ุลยพินจิ อย่างผู้รู้ ด้วยความยุตธิ รรม ดว้ ยหลกั ฐาน หลกั การที่มี เหตุผลและคา่ นิยมอันดีงามในการจัดการกับความขัดแย้งท่ีมีผลกระทบต่อ ตนเองและผอู้ ืน่ 1.2 วิธกี ารสอน การใชเ้ ร่ืองเล่า การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ การถอดบทเรยี น 1.3 วิธกี ารประเมินผล การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้ การรายงานตนเอง การประเมินตนเอง 2. ความรู้ 2.1 ความรูท้ ต่ี ้องไดร้ ับ 1) แสดงความรู้ ความเข้าใจท่ีเป็นปัจจุบันและเกี่ยวข้องกับการวิจัย หลักสูตร และการจัดการเรียนรู้ 2) แสดงความเข้าใจอย่างลึกซ้ึงและกว้างขวางเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ส่งผลต่อ กระบวนการพฒั นาระบบการศกึ ษา 2.2 วธิ กี ารสอน การใช้เรือ่ งเล่า การแลกเปล่ียนเรยี นรู้ การถอดบทเรียน

236 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรู้สกู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต 2.3 วธิ กี ารประเมินผล การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้ การรายงานตนเอง การประเมินตนเอง 3. ทักษะทางปญั ญา 3.1 ทักษะทางปัญญาท่ีต้องพฒั นา 1) สามารถใช้ความรู้ทางด้านการวิจัยวิเคราะห์ประเด็นและปัญหาทางด้าน การวิจยั หลักสูตรและการจัดการเรยี นรู้อย่างสร้างสรรค์ 2) สามารถบูรณาการแนวคิดต่างๆ ทั้งในและนอกสาขาวิชาไปสู่การพัฒนา หรือแกไ้ ขปญั หาดว้ ยกระบวนการวจิ ยั 3) สามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางด้านการวิจัย และหลักสูตรสู่การ สรา้ งสรรค์นวัตกรรม 3.2 วธิ ีการสอน การจัดการเรยี นรู้โดยใช้การวิจัยเป็นฐาน การสืบเสาะหาความรู้ การใช้ปัญหา เปน็ ฐาน การฝกึ ปฏิบตั ิ 3.3 วิธกี ารประเมนิ ผล การสงั เกตพฤติกรรม การตรวจผลงาน แฟ้มสะสมผลงาน การประเมินตนเอง 4. ทักษะความสัมพันธร์ ะหว่างบคุ คลและความรับผิดชอบ 4.1 ทักษะความสมั พนั ธ์ระหว่างบุคคลและความรบั ผิดชอบทต่ี อ้ งพฒั นา 1) สามารถแสดงความคดิ เหน็ บนพ้นื ฐานหลกั วิชาการด้วยความรับผดิ ชอบ 2) สามารถวางแผนการพฒั นาตนเองและองค์กรอย่างมีประสิทธภิ าพ 3) แสดงออกถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลในแวดวงวิชาการและบุคคลท่ัวไป อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4.2 วิธกี ารสอน การจัดการเรียนร้โู ดยเน้นทีม การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ และการถอดบทเรียน

237ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรสู้ ูก่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต 4.3 วิธีการประเมินผล การสงั เกตพฤติกรรม การรายงานตนเอง การใหน้ ิสติ ประเมินตนเอง 5. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตวั เลข การส่อื สาร และการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 5.1 ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทตี่ ้องการพัฒนา 1) สามารถส่ือสารอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับ กลมุ่ เปา้ หมาย 2) สามารถสรุปปัญหาและเสนอแนะแก้ไขปัญหาในด้านต่าง ๆ โดยเจาะลึก ทางดา้ นการวจิ ัยและพฒั นาหลักสูตร 3) นาเสนอรายงานทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการผ่านสื่อ สิ่งตีพิมพ์ ทางวชิ าการทง้ั ในระดบั ชาติและ/หรือนานาชาติ 5.2 วิธกี ารสอน การเรยี นรโู้ ดยใชเ้ ทคโนโลยีเป็นฐาน การแลกเปล่ียนเรยี นรู้ และการถอด บทเรียน 5.3 วิธกี ารประเมนิ ผล การสังเกตพฤติกรรม การรายงานตนเอง การให้นิสิตประเมินตนเอง และการ ประเมนิ ซึง่ กันและกัน

238 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นร้สู กู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต หมวดที่ 5 แผนการสอนและการประเมนิ ผล 1. แผนการสอน หัวขอ้ สาระสาคญั จานวนชัว่ โมง วธิ ีการจัดการเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏิบัติ 1 1.1 แนวคดิ หลกั การประเมนิ ผล 5 5 1. การสมั มนาเชิงปฏิบัติการ ท่เี สรมิ พลงั การเรยี นรู้ 2. การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ 1.2 นวัตกรรมการประเมินที่เสรมิ 3. การถอดบทเรยี น พลังการเรยี นรู้ 1.3 ปฏิบัตกิ ารวเิ คราะห์ Big Data เพ่ือการออกแบบการประเมิน ที่เสริมพลังการเรียนรู้ 2 2.1 การออกแบบการประเมนิ 5 5 1. การสัมมนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร ท่เี สรมิ พลงั การเรียนรู้ 2. การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 2.2 ปฏบิ ัตกิ ารออกแบบการ 3. การถอดบทเรยี น ประเมนิ ท่เี สริมพลังการเรยี นรู้ แผนการประเมนิ ผลการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ วิธีการประเมนิ ผลนสิ ติ ชวั่ โมง สัดสว่ นของ ทีป่ ระเมนิ ผล การประเมนิ ผล คุณธรรมจรยิ ธรรม 1. การสังเกตพฤตกิ รรมของผเู้ รยี น 1 – 10 20% ระหวา่ งการสัมมนาเชิงปฏบิ ัตกิ าร 2. การรายงานตนเอง 3. การตรวจผลงาน ความรู้ 1. การสงั เกตพฤตกิ รรมของผูเ้ รยี น 1 – 10 20% ระหว่างการสมั มนา เชิงปฏบิ ัติการ 2. การทดสอบ 3. การรายงานตนเอง 4. การตรวจผลงาน

239ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต ผลการเรียนรู้ วธิ ีการประเมินผลนสิ ติ ช่ัวโมง สัดส่วนของ ท่ีประเมนิ ผล การประเมนิ ผล ทักษะ 1. การสังเกตพฤตกิ รรมของผเู้ รียน 1 – 10 25% ทางปัญญา ระหวา่ งการสัมมนา 1 – 10 20% เชิงปฏบิ ตั ิการ 1 – 10 15% 2. การรายงานตนเอง 3. การตรวจผลงาน ทกั ษะ 1. การสังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรียน ความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งการสัมมนา ระหว่างบุคคลและ เชิงปฏิบตั ิการ ความรบั ผิดชอบ 2. การรายงานตนเอง 3. การตรวจผลงาน ทักษะการ 1. การสังเกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น วิเคราะห์ ระหว่างการสมั มนา เชงิ ตวั เลข เชงิ ปฏิบตั กิ าร การสือ่ สาร และ 2. การรายงานตนเอง การใชเ้ ทคโนโลยี 3. การตรวจผลงาน สารสนเทศ หมวดที่ 6 ทรัพยากรประกอบการเรียนการสอน 1. ตาราและเอกสารหลกั พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต). (2554). นักวิชาการไทย – เทศ หาความรู้ให้แน่ ใช่แค่คิดเอา. นครปฐม: วดั ญาณเวศกวนั . มารุต พัฒผล. (2556). การประเมินหลักสูตรเพ่ือการเรียนรู้และพัฒนา. กรุงเทพฯ: จรลั สนิทวงศก์ ารพมิ พ์.

240 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนรสู้ กู่ ารสร้างสรรค์อนาคต วิชัย วงษ์ใหญ่. (2525). การพัฒนาหลักสูตรและการสอน – มิติใหม่. กรุงเทพฯ: สานักพมิ พโ์ อเดียนสโตร์. . (2533).การพฒั นาหลักสูตรแบบครบวงจร.กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . . (2537). กระบวนการพฒั นาหลกั สูตรและการสอน: ภาคปฏิบตั ิ. กรุงเทพฯ: สวุ ีรยิ ศาสน์ . . (2538). กระบวนทัศน์ใหม่การพัฒนาหลักสูตร. ในชุดวิชาการพัฒนาระบบการสอน มหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช. . (2541). กระบวนทัศน์ใหม่: การจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาศักยภาพของบุคคล. กรงุ เทพฯ: SR: PrintingLimitedPartnership. . (2542). พลังการเรียนรู้ในกระบวนทัศน์ใหม่. กรุงเทพฯ: SR Printing Limited Partnership. .(2551). การประเมินหลักสตู ร. ในประมวลสาระชดุ วชิ าการพฒั นาหลกั สูตร และวิทยวิธที างการสอน.สาขาวชิ าศกึ ษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช. .(2554). นวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้สู่ความเป็นพลเมือง. (พิมพ์คร้ังที่ 2). กรุงเทพฯ: R&N Printing. .(2554). การพัฒนาหลักสูตรระดับอุดมศึกษา. (พิมพ์คร้ังที่ 2). กรุงเทพฯ: R & N Printing. วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2556). จากหลักสูตรแกนกลางสู่หลักสูตร สถานศึกษา: กระบวนทัศน์ใหม่การพัฒนา. พิมพ์คร้ังที่ 6. กรุงเทพฯ: จรลั สนทิ วงศก์ ารพิมพ.์ วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2557). การโค้ชเพื่อการรู้คิด. พิมพ์คร้ังท่ี 2. กรงุ เทพฯ: จรัลสนทิ วงศก์ ารพมิ พ.์ Taba, Hilda. (1962). Curriculum Development. New York: Harcor, Brace and World. Tanner, Daniel and Laurel N. Tanner. (1980). Curriculum Development. New York: Macmillan.

241ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรียนรู้สู่การสรา้ งสรรค์อนาคต Tyler, Ralph W. (1949). Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicago: The University of Chicago Press. Wiles, John. (2009). Leading Curriculum Development. California: Corwin Press. Wiles, Jon W. and Bondi, C. Joseph. (2011). Curriculum Development a Guide to Practice. 8thed. Boston: Pearson. 2. เอกสารและข้อมูลสาคัญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช. (2542). คาพ่อสอน: ประมวล พระบรมราโชวาท และพระราชดารัสเก่ียวกับเด็กและเยาชน. กรุงเทพฯ: อรสดุ า เจริญรัถ บรรณาธกิ าร. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช. (2551). คาพ่อสอน: ประมวล พ ร ะ บ ร ม ร า โ ช ว า ท แ ล ะ พ ร ะ ร า ช ด า รั ส เก่ี ย ว กั บ เศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เพี ย ง . กรุงเทพฯ: มลู นิธพิ ระดาบส. พระธรรมปิฏก (ป.อ.ปยตุ โต). (2546). รุ่งอรุณแห่งการศึกษาเบิกฟ้าแห่งการพัฒนา ท่ีย่ังยนื . กรุงเทพมหานคร: มลู นธิ ิพทุ ธธรรม. 3. เอกสารและข้อมูลแนะนา กระทรวงศึกษาธิการ www.moe.go.th สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน www.obec.go.th สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา www.vec.go.th สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา www.mua.go.th สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา www.onec.go.th

242 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรยี นรู้สกู่ ารสร้างสรรค์อนาคต หมวดท่ี 7 การประเมนิ และปรบั ปรุงการดาเนินการของหลักสตู รการฝึกอบรมฯ 1. กลยุทธ์การประเมนิ ประสิทธิผลของรายวิชาโดยผูเ้ ขา้ อบรม การเปิดโอกาสให้นิสิตได้ประเมินประสิทธิภาพของรายวิชาทั้งในระหว่างการ จดั การเรียนการสอนและเมือ่ เสรจ็ ส้ินการจดั การเรยี นการสอนท้งั รายวิชา 2. กลยุทธก์ ารประเมินการสอน ก า ร ป ร ะ เมิ น ผ ล ต า ม ส ภ า พ จ ริ ง ที่ ยึ ด ห ลั ก ก า ร ใช้ วิ ธี ก า ร ท่ี ห ล า ก ห ล า ย ใช้แหล่งข้อมูลที่หลากหลายการประเมินหลายครั้ง นาผลการประเมินมาปรับปรุง และพฒั นาผู้เรียนอยา่ งตอ่ เนื่อง 3. การปรบั ปรุงการสอน นาผลการประเมินการสอนมาวิเคราะห์และปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียน การสอนใหส้ อดคล้องกบั ความสนใจ ความต้องการของผเู้ รียน และบริบทของสงั คม 4. การทบทวนสอบมาตรฐานผลสมั ฤทธิ์ของผู้เขา้ อบรมในหลักสตู รการฝกึ อบรมฯ ทวนสอบโดยการติดตามคุณภาพของผู้เรียนโดยการสังเกต การตรวจสอบ การประเมนิ การสมั ภาษณ์ 5. การดาเนินการทบทวนและการวางแผนปรับปรุงประสิทธิผลของหลักสูตรการ ฝึกอบรมฯ นาผลการประเมินประสิทธิภาพของรายวิชามาวิเคราะห์กาหนดประเด็นการ ปรับปรุงรายวิชาและการจัดการเรียนการสอน ดาเนินการพัฒนาและปรับปรุงให้มี ความสอดคล้องกบั ความสนใจ ความต้องการของผเู้ รียนและบริบทของสังคม

243ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นร้สู ูก่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต ขนั้ ตอนที่ 7 จัด ท าแ ผ น การจั ด การเรียน รู้ ต าม ห ลั กสู ต ร ก า ร ฝึ ก อ บ ร ม ร ะ ย ะ ส้ั น แ บ บ ไม่ ป ร ะ ส า ท ป ริ ญ ญ า แต่ละหลักสตู ร คาชี้แจง โปรดจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานผลการเรียนรู้ ความคิดรวบยอดหลักความคิดรวบยอดรอง และภาพรวมของการจัดการ เรยี นรู้ ข้ันตอนนี้เป็นการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรการฝึ กอบรม ระยะส้ันแบบไม่ประสาทปริญญาแตล่ ะหลักสตู ร ทป่ี ระกอบด้วย 1. ผลการเรียนรู้ 2. ผังมโนทัศน์สาระสาคญั 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 6. การประเมินผลการเรียนรู้ 7. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้แสดงได้ดงั ตวั อย่างตอ่ ไปนี้ ในท่ีนี้ขอนาเสนอแผนการจัดการเรียนรู้จานวน 1 แผนการจัดการเรียนรู้ สาหรบั รายวิชาแนวคดิ หลกั การพัฒนาหลกั สูตรและการจดั การเรยี นรู้

244 ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรู้สู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 หลกั สูตรการฝกึ อบรมระยะสน้ั แบบไม่ประสาทปรญิ ญา “การพฒั นาหลักสูตรและการเรียนรู้ส่สู งั คมอนาคต” เร่อื ง แนวคิดหลกั การพฒั นาหลกั สูตรและการจัดการเรยี นรู้ เวลา 10 ชั่วโมง (ทฤษฎี 5 ช่ัวโมง – ปฏบิ ัติ 5 ชัว่ โมง) 1. ผลการเรียนรู้ ผู้เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจแนวคิดหลักการพัฒนาหลักสตู รและการจัดการ เรียนรู้ หลักการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์ การพัฒนาหลักสูตรแบบครบวงจร และ นวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ และสามารถแสดงความรู้ ความเข้าใจท่ีเป็น ปัจจุบันและเกี่ยวข้องกับการวิจัย หลักสูตร และการจัดการเรยี นรู้ ตลอดจนส่ือสารอย่างมี ประสิทธิภาพดว้ ยเทคโนโลยีท่เี หมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย 2. ผังมโนทศั น์สาระสาคญั การแสดงความรทู้ ีเ่ ปน็ ปจั จบุ นั แนวคิดหลกั การพฒั นาหลกั สูตร หลักการพัฒนาหลกั สูตร ดา้ นหลกั สตู รและการจดั การเรียนรู้ และการจัดการเรียนรู้ ของไทเลอร์ การส่อื สารดว้ ยเทคโนโลยี แนวคิดหลกั การ หลกั การพัฒนาหลักสตู ร ท่เี หมาะสมกบั กล่มุ เปา้ หมาย พฒั นาหลกั สตู รและการจัดการเรียนรู้ ของทาบา นวตั กรรมหลักสตู ร การพฒั นาหลกั สูตร และการจดั การเรยี นรู้ แบบครบวงจร

245ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์แนวคิดหลักการพัฒนาหลักสูตรและการ จดั การเรยี นรู้ที่เปน็ ปัจจุบันได้ 2. ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์หลักการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์กับการ พัฒนาหลักสูตรแบบครบวงจรได้ 3. ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์และเคราะห์งานวิจัยนวัตกรรมหลักสูตร และการจัดการเรียนรูไ้ ด้ 4. ผู้เรียนสามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม กบั กลมุ่ เป้าหมายได้ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมการเรียนรู้ online 1. ผู้เรียนแต่ละคนศึกษาเอกสารประกอบการเรียนรู้ เร่ือง แนวคิด หลักการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้และทาบทปฏิบัติการท่ี 1 เร่ือง การวิเคราะห์แนวคิดหลักการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ท่ีเป็นปัจจุบัน ที่ผสู้ อนจดั เตรียมไวใ้ หผ้ ่านช่องทาง www.curriculumandlearning.com (ตอบสนอง จดุ ประสงค์การเรียนรูท้ ่ี 1, 2) 2. ผู้เรียนส่งผลการทาบทปฏิบัติท่ี 1 ทาง [email protected] ลว่ งหน้ากอ่ นถงึ วนั สมั มนาในชน้ั เรียน (ตอบสนองจดุ ประสงค์การเรียนรู้ที่ 4) 4.2 กจิ กรรมการเรยี นรใู้ นชั้นเรียน 3. ผู้เรียนนาเสนอผลการทาบทปฏิบัติการท่ี 1 และแลกเปล่ียนเรียนรู้ รว่ มกนั (ตอบสนองจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ท่ี 1 และ 2) 4. ผู้เรียนร่วมกันทาบทปฏิบัติการท่ี 2 เรื่อง การวิจัยนวัตกรรมหลักสูตร และการจัดการเรยี นร(ู้ ตอบสนองจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ที่ 3)

246 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ ูก่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต 5. ผู้เรียนแต่ละคนถอดบทเรียนด้วยเทคนิคตะกร้า 3 ใบ และแลกเปล่ียน เรียนรู้ร่วมกันในช้ันเรียน และส่งผลการถอดบทเรียนทาง [email protected] (ตอบสนองจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ท่ี 1, 2, 3 และ 4) 4.3 กจิ กรรมการเรียนรเู้ พิ่มเตมิ ตามความสนใจ 6. ผู้เรียนเรียนรเู้ พิม่ เตมิ ในประเดน็ ที่สนใจด้วยตนเอง 5. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง แนวคิดหลักการพัฒนาหลักสูตร และการจดั การเรยี นรู้ 2. บทปฏิบัติการท่ี 1 เรื่อง การวิเคราะห์แนวคิดหลักการพัฒนาหลักสูตร และการจัดการเรยี นร้ทู เ่ี ปน็ ปัจจบุ นั 3. บทปฏิบัติการที่ 2 เร่ือง การวิจัยนวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการ เรียนรู้ 4. www.curriculumandlearning.com 6. การประเมินผลการเรยี นรู้ (เน้น assessment for learning) จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เครื่องมอื วัด แหล่งขอ้ มูล เกณฑ์ 1. ผู้เรยี นสามารถวเิ คราะห์ 1. การสงั เกต เกณฑ์ 1. ผเู้ รยี น ระดบั การให้ 2. บทปฏบิ ตั กิ ารที่ 1 ดีขน้ึ ไป แนวคิดหลักการพฒั นา พฤตกิ รรมผู้เรียน คะแนน หลกั สูตรและการจดั การ 2. การสอบถาม ระดับ เรียนรู้ทเี่ ป็นปัจจบุ นั ได้ ดขี ึน้ ไป ในชั้นเรยี น 3. การตรวจ บทปฏิบตั กิ ารที่ 1 2. ผเู้ รยี นสามารถวเิ คราะห์ 1. การสังเกต เกณฑ์ 1. ผเู้ รยี น หลกั การพัฒนาหลักสูตรของ พฤติกรรมผ้เู รียน การให้ 2. บทปฏบิ ัตกิ ารท่ี 1 ไทเลอรก์ บั การพฒั นา คะแนน หลกั สตู รแบบครบวงจรได้ 2. การสอบถาม ในช้ันเรยี น 3. การตรวจ บทปฏิบัตกิ ารท่ี 1

247ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธีการวดั เครือ่ งมอื วัด แหลง่ ข้อมลู เกณฑ์ 3. ผู้เรยี นสามารถวเิ คราะห์ 1. การสังเกต เกณฑ์ 1. ผูเ้ รียน ระดับ การให้ 2. บทปฏบิ ัตกิ ารท่ี 2 ดีขนึ้ ไป และเคราะห์งานวจิ ัย พฤติกรรมผเู้ รียน คะแนน นวตั กรรมหลักสตู ร 2. การสอบถาม ระดับ และการจัดการเรยี นร้ไู ด้ เกณฑ์ 1. ผเู้ รยี น ดขี น้ึ ไป ในชนั้ เรียน การให้ 2. ผลงาน 4. ผเู้ รยี นสามารถสอ่ื สาร 3. การตรวจ คะแนน อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ดว้ ยเทคโนโลยี บทปฏิบตั กิ ารที่ 2 ท่ีเหมาะสมกับ 1. การสงั เกต กลุ่มเปา้ หมายได้ พฤตกิ รรมผ้เู รยี น 2. การตรวจสอบ ผลงาน 7. บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ 7.1 ความรใู้ นเนือ้ หาสาระของผู้เรียนตามท่ีกาหนดในจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ .......................................................................................................................... 7.2 ทกั ษะกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนตามทกี่ าหนดในจดุ ประสงค์การเรียนรู้ .......................................................................................................................... 7.3 คณุ ลักษณะของผเู้ รียนตามท่กี าหนดในจุดประสงค์การเรยี นรู้ .......................................................................................................................... 7.4 จดุ เดน่ ของการจัดการเรยี นรู้ .......................................................................................................................... 7.5 จดุ ทต่ี อ้ งปรบั ปรุงแก้ไขในการจัดการเรียนรู้ครั้งต่อไป ..........................................................................................................................

248 ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรียนร้สู กู่ ารสร้างสรรค์อนาคต บทปฏิบตั กิ ารท่ี 1 (งานเด่ยี ว) เรือ่ ง การวเิ คราะห์แนวคิดหลกั การพัฒนาหลกั สูตร และการจดั การเรยี นรู้ทีเ่ ป็นปจั จุบนั คาชแี้ จง ให้ผู้เรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามลาดบั ดังต่อไปนี้ 1. ศึกษาเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง แนวคิดหลักการพัฒนา หลักสตู รและการจัดการเรยี นรู้ 2. เขียน concept mapping แสดงแนวคิดหลักการพัฒนาหลักสูตรและ การจัดการเรียนรทู้ ่ีเป็นปจั จุบัน และหลกั การพฒั นาหลักสตู รของไทเลอรก์ ับการพัฒนา หลักสตู รแบบครบวงจร 3. ส่งผลการทาบทปฏิบัติท่ี 1 ทาง [email protected] ล่วงหน้า กอ่ นถึงวันสัมมนาในชนั้ เรียนไมน่ ้อยกวา่ 2 วัน

249ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนร้สู ่กู ารสรา้ งสรรค์อนาคต บทปฏบิ ัติการที่ 2 (งานกลุ่ม) เรื่อง การวเิ คราะหแ์ ละเคราะห์งานวิจัยนวัตกรรมหลกั สูตรและการจัดการเรียนรู้ คาชแ้ี จง ใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ัติกจิ กรรมตามลาดับดังต่อไปน้ี 1. จบั คู่กนั ศึกษารายงานการวจิ ัยนวตั กรรมหลักสูตรและการจัดการเรยี นรู้ จานวน 1 เร่อื ง 2. นาเสนอผลการศึกษาวิเคราะห์ต่อเพ่ือนในชั้นเรียนโดยจัดทาเป็น concept mapping 3. ร่วมกันสังเคราะห์ลักษณะร่วมของการวิจัยนวัตกรรมหลักสูตรและการ จดั การเรยี นรู้โดยจดั ทาเปน็ concept mapping

250 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรียนร้สู กู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต เกณฑ์การให้คะแนน การวเิ คราะหแ์ นวคดิ หลักการพัฒนาหลกั สตู รและการจดั การเรยี นรู้ท่เี ป็นปจั จบุ ัน คาช้แี จง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน สอบถามผู้เรียนในชั้นเรียน และตรวจสอบบทปฏิบตั ิการท่ี 1 ของผู้เรยี น แลว้ ใช้เกณฑก์ ารให้คะแนนตอ่ ไปน้ีในการ ประเมนิ เพื่อพัฒนาผเู้ รียนเปน็ รายบุคคล ใหร้ ะดับ 5 คะแนน เมือ่ ผู้เรียนวิเคราะหแ์ นวคิดหลกั การพัฒนาหลักสูตร และการจัดการเรียนรู้ที่เปน็ ปัจจบุ ันไดอ้ ยา่ งถูกต้อง และชดั เจน (ดีเยย่ี ม) ให้ระดบั 4 คะแนน เม่ือ ผเู้ รยี นวิเคราะห์แนวคิดหลักการพฒั นาหลักสตู ร และการจัดการเรียนรู้ทีเ่ ป็นปัจจบุ นั ได้อย่างถกู ต้อง (ดมี าก) ใหร้ ะดบั 3 คะแนน เมื่อ ผู้เรียนวิเคราะหแ์ นวคดิ หลกั การพฒั นาหลักสตู ร และการจัดการเรยี นรทู้ เี่ ปน็ ปัจจุบันได้อยา่ งถกู ตอ้ ง เม่อื ไดร้ ับคาแนะนา (ด)ี ใหร้ ะดับ 2 คะแนน เม่ือ ผูเ้ รียนวเิ คราะหแ์ นวคดิ หลักการพัฒนาหลกั สตู ร และการจัดการเรยี นรทู้ เ่ี ปน็ ปัจจุบนั ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง เมอ่ื ไดร้ ับการชว่ ยเหลอื จากเพื่อน (พอใช้) ใหร้ ะดับ 1 คะแนน เมื่อ ผู้เรียนวิเคราะห์แนวคิดหลักการพัฒนาหลกั สตู ร และการจัดการเรยี นรทู้ ี่เป็นปัจจบุ นั ได้อยา่ งถูกตอ้ ง เมื่อได้รบั การช่วยเหลือจากผูส้ อน (ปรบั ปรงุ )

251ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรียนรสู้ กู่ ารสร้างสรรค์อนาคต เกณฑก์ ารให้คะแนน การวเิ คราะหห์ ลกั การพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์ กบั การพฒั นาหลักสตู รแบบครบวงจร คาชแ้ี จง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน สอบถามผู้เรียนในชั้นเรียน และตรวจสอบบทปฏิบตั ิการท่ี 1 ของผู้เรียน แลว้ ใช้เกณฑก์ ารให้คะแนนตอ่ ไปนี้ในการ ประเมินเพอ่ื พัฒนาผ้เู รยี นเปน็ รายบุคคล ให้ระดับ 5 คะแนน เม่อื ผู้เรยี นวเิ คราะห์หลักการพฒั นาหลกั สูตรของไทเลอร์ กบั การพัฒนาหลกั สูตรแบบครบวงจรไดอ้ ย่างถกู ต้อง และชัดเจน (ดีเยี่ยม) ให้ระดับ 4 คะแนน เม่อื ผเู้ รยี นวิเคราะหห์ ลกั การพฒั นาหลักสูตรของไทเลอร์ กบั การพัฒนาหลักสตู รแบบครบวงจรไดอ้ ย่างถูกต้อง (ดีมาก) ให้ระดบั 3 คะแนน เมอื่ ผูเ้ รยี นวเิ คราะหห์ ลักการพฒั นาหลกั สูตรของไทเลอร์ กบั การพฒั นาหลกั สตู รแบบครบวงจรได้อย่างถกู ต้อง เมอ่ื ได้รบั คาแนะนา (ดี) ใหร้ ะดบั 2 คะแนน เมอ่ื ผู้เรยี นวิเคราะหห์ ลกั การพัฒนาหลกั สูตรของไทเลอร์ กับการพัฒนาหลกั สตู รแบบครบวงจรไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เม่อื ได้รบั การช่วยเหลอื จากเพื่อน (พอใช้) ให้ระดบั 1 คะแนน เม่อื ผู้เรยี นวเิ คราะหห์ ลักการพฒั นาหลกั สูตรของไทเลอร์ กับการพฒั นาหลกั สูตรแบบครบวงจรเมอื่ ได้รับ การช่วยเหลอื จากผูส้ อน (ปรับปรงุ )

252 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรู้ส่กู ารสร้างสรรค์อนาคต เกณฑก์ ารให้คะแนน การวิเคราะหแ์ ละเคราะหง์ านวิจยั นวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการเรยี นรู้ คาช้แี จง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน สอบถามผู้เรียนในชั้นเรียน และตรวจสอบบทปฏิบัติการท่ี 2 ของผู้เรียน แลว้ ใช้เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนต่อไปนี้ในการ ประเมนิ เพอ่ื พัฒนาผู้เรยี นเปน็ รายบคุ คล ให้ระดบั 5 คะแนน เมอ่ื ผู้เรยี นวเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะห์งานวจิ ัยนวัตกรรม หลักสูตรและการจัดการเรยี นรูไ้ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และชัดเจน (ดีเยี่ยม) ใหร้ ะดับ 4 คะแนน เม่อื ผู้เรยี นวเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะห์งานวจิ ยั นวัตกรรม หลักสูตรและการจดั การเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง (ดมี าก) ให้ระดบั 3 คะแนน เม่ือ ผู้เรยี นวเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะห์งานวจิ ยั นวตั กรรม หลักสูตรและการจดั การเรยี นรู้ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเม่ือไดร้ ับ คาแนะนา (ด)ี ให้ระดับ 2 คะแนน เมื่อ ผ้เู รยี นวิเคราะห์และสังเคราะหง์ านวิจยั นวัตกรรม หลกั สตู รและการจัดการเรยี นรู้ได้อย่างถูกต้องเม่อื ได้รบั การช่วยเหลือจากเพ่ือน (พอใช้) ใหร้ ะดบั 1 คะแนน เม่อื ผู้เรียนวเิ คราะห์และสงั เคราะหง์ านวจิ ยั นวัตกรรม หลักสตู รและการจดั การเรียนร้ไู ดอ้ ยา่ งถูกต้องเมอื่ ไดร้ บั การช่วยเหลือจากผสู้ อน (ปรับปรุง)

253ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นร้สู ่กู ารสร้างสรรคอ์ นาคต เกณฑ์การใหค้ ะแนน การสื่อสารอย่างมีประสทิ ธิภาพดว้ ยเทคโนโลยีท่เี หมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย คาชแี้ จง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน และตรวจสอบผลงานต่างๆ ของผู้เรียน แล้วใช้เกณฑ์การให้คะแนนต่อไปน้ีในการประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียน เป็นรายบุคคล ให้ระดับ 5 คะแนน เมอ่ื ผ้เู รียนสามารถสอ่ื สารอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ด้วยเทคโนโลยีทีเ่ หมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย และลักษณะของการสื่อสารมีความสรา้ งสรรค์ (ดีเยยี่ ม) ให้ระดบั 4 คะแนน เมื่อ ผูเ้ รยี นสามารถสือ่ สารอย่างมีประสทิ ธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย (ดีมาก) ใหร้ ะดบั 3 คะแนน เมอ่ื ผู้เรียนสามารถส่อื สารด้วยเทคโนโลยที เ่ี หมาะสมกับ กลมุ่ เป้าหมาย (ดี) ให้ระดบั 2 คะแนน เมื่อ ผู้เรียนสามารถส่ือสารไดเ้ หมาะสมกับกลุม่ เป้าหมาย (พอใช)้ ให้ระดับ 1 คะแนน เมื่อ ผเู้ รียนสอ่ื สารยงั ไม่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย (ปรบั ปรุง)

254 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรู้สกู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต ขัน้ ตอนท่ี 8 ขออนุมัติหลักสตู รจากหน่วยงานทม่ี ีอานาจหนา้ ที่ อนุมตั ิหลกั สตู ร ในกรณีท่ีเป็นหลักสูตรฝึกอบรมระยะส้ันแบบไม่ประสาทปริญญาในระดับ บัณฑิตศึกษา ผู้รับผิดชอบจัดทาหลักสูตรมีแนวทางปฏิบัติในการนาเสนอหลักสูตร ไปตามขัน้ ตอนตงั้ แตต่ น้ จนกระทัง่ เปดิ ทาการเรยี นการสอน 5 ขัน้ ตอน ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ขอความเห็ นช อบ จากค ณ ะกรรม การบ ริห ารห ลักสูต ร เพื่อพิจารณาในการประชุมของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและปรับปรุงแก้ไข ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตร 2. ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการประจาคณะเพื่อพิจารณา และปรับปรุงแกไ้ ขตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการประจาคณะ 3. ขอค วาม เห็ น ช อบ จาก ค ณ ะก รรม ก าร การศึ ก ษ าระดั บ บัณฑิตศึกษา เพ่ือพิจารณาและปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ การศึกษาระดับบณั ฑิตศึกษา 4. เสนอคณะกรรมการสภาวิชาการของสถาบันเพ่ือพิจารณา และปรับปรงุ แกไ้ ขตามขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการสภาวิชาการสถาบัน 5. เสนอสภามหาวิทยาลัยอนุมัติ และปรับปรุงแก้ไขตามคาแนะนา ของสภามหาวทิ ยาลัย (ถา้ ม)ี

255ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรียนร้สู กู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต ข้อควรคานึง การพัฒนาหลักสูตรฝกึ อบรมระยะสนั้ แบบไม่ประสาทปริญญา ท่ีสามารถเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เข้ากับหลักสูตรปกตินี้ จาเป็นต้อง ดาเนินการตามขั้นตอนทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันปัญหาท่ีอาจเกิดขึ้นในอนาคต และยัง ต้องพัฒนาหลักสูตรตลอดจนการจัดการเรียนการสอนและประเมินผล ให้มีมาตรฐาน เชน่ เดียวกันกบั การจดั การเรียนการสอนตามหลกั สตู รปกติ

256 ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรยี นรูส้ ู่การสร้างสรรคอ์ นาคต บรรณานุกรม วิชัย วงษ์ใหญ่. (2554). การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา. (พิมพ์ครั้งท่ี 2). กรุงเทพฯ: จรลั สนิทวงศ์การพิมพ.์ วิชัย วงษ์ใหญ่. (2554). “การพัฒนาหลักสูตรแบบครบวงจร”. เอกสารประกอบการ สอนรายวิชา ทฤษฎีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงหลักสูตร. กรุงเทพฯ: บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวโิ รฒ. Armstrong, David G. (2003). Curriculum Today. New Jersey: Merrill Prentice Hall. Henson, Kenneth T. (2001). Curriculum Planning: Integrating Multiculturalism, Constructivism, and Education Reform. 2nded. New York: McGraw - Hill. Oliva, Peter F. (2009). Developing the Curriculum. 7thed. Boston: Allyn and Bacon. Taba, Hilda. (1962). Curriculum Development: Theory and Practice. New York: Harcourt Brace Jovanovich. Tyler, Ralph W. (1949). Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicago: The university of Chicago press. Wiles, Jon W. (2009). Leading Curriculum Development. California: Corwin Press. Wiles, Jon W. and Bondi, C. Joseph. (2011). Curriculum Development a Guide to Practice. 8thed. Boston: Pearson.

257ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรียนรู้สู่การสรา้ งสรรค์อนาคต ดรรชนีคำสำคญั หนำ้ 145 คำสำคัญ 184 กรอบความคิด 97 กระตนุ้ แรงจูงใจภายใน 185 กระตุ้นใหผ้ เู้ รยี นใชก้ ระบวนการเรยี นร้อู ย่างหลากหลาย 20 กระตุ้นใหผ้ ้เู รยี นคดิ หาคาตอบ 90 กระตนุ้ ความอยากรู้ 98 กระตนุ้ คณุ ลักษณะความรบั ผิดชอบ 90 กระต้นุ ผูเ้ รยี นใหเ้ กดิ ความต้องทจ่ี ะการเรยี นรู้ 156 กระตุ้นผู้เรยี นใหส้ ะท้อนผลการเรยี นรู้ 42 กระบวนการ Action learning 45 กระบวนการเชอื่ มโยง 4,11,37,63,65,125 กระบวนการเทคโนโลยี 41 กระบวนการเรียนรู้ 40 กระบวนการเรยี นรู้โดยใชก้ ารวจิ ยั 41 กระบวนการเรียนร้ทู างภาษา 45 กระบวนการแกป้ ญั หา 56 กระบวนการกลมุ่ 24 กระบวนการคดิ 98 กระบวนการคดิ และทักษะการเรียนรู้ 22 กระบวนการคดิ และหาคาตอบ กระบวนการคดิ ข้นั สงู 5 กระบวนการคดิ วิเคราะห์ 42 กระบวนการคดิ สร้างสรรค์ 39 กระบวนการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ 40 กระบวนการตัดสินใจ 38 กระบวนการทกั ษะปฏิบตั ิ 38 กระบวนการทางเจตคติ

258 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรียนรูส้ ่กู ารสร้างสรรค์อนาคต หน้ำ 3 ดรรชนีคำสำคัญ 128 คำสำคัญ 130 กระบวนการทางความคิดเพื่อการเตบิ โต กระบวนการทางความคิดแบบเตบิ โต 5 กระบวนการทางความคิดแบบเตบิ โตระดับสากล 69 กระบวนการทางความคดิ ทเี่ น้นการเตบิ โต 42 กระบวนการทางความคดิ สรา้ งสรรค์ 48 กระบวนการทางประวตั ิศาสตร์ 46 กระบวนการทางประวัตศิ าสตร์ 178 กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 38 กระบวนการทางสตปิ ัญญา 46 กระบวนการทางสมอง 40,44 กระบวนการทางาน 40,63 กระบวนการฟงั 157 กระบวนการวิเคราะห์ 48 กระบวนการวิเคราะห์หลังการปฏบิ ัติ 39 กระบวนการสรา้ งเจตคติ 48 กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด 39 กระบวนการสร้างความตระหนกั 48 กระบวนการสร้างความร้คู วามเขา้ ใจ 46 กระบวนการสร้างค่านยิ ม 45 กระบวนการสรา้ งทักษะการปฏบิ ตั ิ 41 กระบวนการสรา้ งผลงานจติ กรรม 42 กระบวนการสืบเสาะแสวงหาความรู้ 44 กระบวนการส่อื สาร ส่อื ความหมาย และการนาเสนอ 175 กระบวนการอา่ น 131 กรณุ า กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์

259ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรยี นรู้สู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต ดรรชนคี ำสำคญั หนำ้ 131 คำสำคญั 184 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ 185 การ Feed – up ผู้เรียน 79 การ Feedback และ Feed-forward ผเู้ รียน 79 การเช่ือมโยงเนอ้ื หาสาระกบั สถานการณท์ ี่เกดิ ขึ้นจรงิ รอบตวั 133 การเช่ือมโยงสาระสาคญั (main concepts) 136 การเติบโตและเจรญิ งอกงาม 19 การเปลยี่ นแปลง 2,3 การเปลยี่ นแปลงไปสู่ coaching 17 การเปลยี่ นแปลงกระบวนการทางความคดิ 25 การเปลยี่ นแปลงการเรยี นรู้ 27 การเปลย่ี นแปลงจาก Follow เปน็ Create 26 การเปลย่ี นแปลงจากดา้ นใน 19 การเปลยี่ นจาก Order เปน็ Empower 27 การเปลยี่ นจาก Passive เปน็ Active 25 การเปลย่ี นวธิ คี ดิ 11 การเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นได้คดิ และสรา้ งสรรค์ 20 การเรยี นรเู้ ชิงรกุ 98 การเรยี นรเู้ ป็นเรื่องของธรรมชาติ 20 การเรยี นรู้เพอื่ การเปลย่ี นแปลงตนเองไปสสู่ ิ่งท่ีดีข้นึ 95 การเรยี นร้แู บบ active 75 การเรยี นรโู้ ดยใช้วจิ ัยเปน็ ฐาน 169 การเรยี นรู้โดยการลงมอื ปฏิบตั ิ การเรยี นรู้ในโลกยุคใหม่ 6 การเรยี นรใู้ หม่ 82 การเรยี นรใู้ หมเ่ กดิ มาจากความรู้เดิม 65 การเรยี นรูข้ องคนยุคใหม่

260 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นร้สู ่กู ารสร้างสรรค์อนาคต หน้ำ 95 ดรรชนีคำสำคัญ 82 169 คำสำคัญ 1 การเรยี นรู้ด้วยตนเองผ่านกระบวนการวจิ ัย 4 การเรยี นรตู้ ามแนวทฤษฎคี อนสตรคั ตวิ สิ ต์ซมึ 177 การเรยี นรู้ทางไกลผา่ นดาวเทยี ม 136 การเรยี นรทู้ ไ่ี รพ้ รหมแดน 38 การเรยี นรทู้ ีท่ าให้สง่ิ ต่างๆ ดีข้ึน 135 การเรยี นรู้ที่มคี วามหมาย 65 การเรยี นรพู้ ฒั นาทกั ษะ 78 การเรยี นรู้ยคุ ใหม่ 1 การเรยี นรู้รว่ มกนั 129 การเรยี นรสู้ ว่ นบคุ คล 7,15,158 การเรยี นรู้อย่างสรา้ งสรรค์ 136 การเรยี นรูอ้ อนไลน์ 10,129 การเอาใจใสผ่ เู้ รยี น 10 การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ 98 การแลกเปล่ียนประสบการณ์ 178 การโคช้ 18 การโคช้ เปน็ การปลุกพลงั บวกใหผ้ เู้ รียน 16 การโคช้ เป็นมากกว่าการสอน 185 การโค้ชเพือ่ การรู้คดิ 95 การโค้ชให้ความสาคญั กบั การเรยี นรู้ส่วนบุคคล 67,89 การโคช้ ของผู้สอน 89 การใช้พลังคาถามกบั ผเู้ รยี น 31,67,89 การใฝร่ ู้ การให้ขอ้ มูลเพอื่ การเรยี นร้ตู อ่ ยอด การใหข้ ้อมลู กระต้นุ การเรยี นรู้ การให้ขอ้ มูลยอ้ นกลับ

261ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรสู้ ู่การสรา้ งสรรค์อนาคต ดรรชนีคำสำคญั หน้ำ 84 คำสำคญั 30 การใหข้ ้อมลู ยอ้ นกลับเพือ่ การเรยี นรู้ 30 การให้ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั ไปยงั ผ้เู รียน 31 การใหข้ อ้ มูลยอ้ นกลบั ด้วยการสะทอ้ นคดิ 31 การใหข้ ้อมูลยอ้ นกลบั ทีห่ ลากหลาย 23 การใหข้ อ้ มูลยอ้ นกลบั สรา้ งสรรค์เชิงสร้างสรรค์ 29 การไมด่ ่วนสรุป 63 การกาหนดเป้าหมายและวิธีการเรยี นรู้ 147 การคาดการณ์บนพื้นฐานข้อมลู 11 การคิดเชงิ ออกแบบ 146 การคดิ แบบโยนิโสมนสิการ 19 การคดิ แบบนวตั กรรม 84 การคดิ ขัน้ สงู 70 การคดิ ซบั ซอ้ น 146 การคดิ ทีห่ ลากหลาย 74 การคิดบวก 128 การคิดอย่างสรา้ งสรรค์ 75 การจัดการเรียนรู้ 80 การจัดการเรยี นรูแ้ บบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน 80 การจดั การเรยี นรู้แบบบรู ณาการ 75 การจดั การเรยี นรู้แบบบรู ณาการทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ 12 การจัดการเรยี นรู้โดยใชโ้ ครงงานเปน็ ฐาน 83 การจัดการเรยี นรตู้ ามแนวคิด Active learning 76 การจัดการเรยี นรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคตวิ สิ ต์ซึม 157 การจัดการเรยี นรู้ทเ่ี สรมิ สรา้ งทักษะสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม 173 การจดั การความรู้ การจัดการชัน้ เรยี น

262 ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรียนรู้สู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต หนำ้ 87 ดรรชนคี ำสำคัญ 63 63 คำสำคัญ 23 การจัดการชวี ติ ตนเอง 186 การจัดหมวดหมู่ 67 การจาแนก 184 การดารงชวี ติ ในอนาคต 124 การดูแลช่วยเหลือผู้เรยี นใหเ้ กิดการเรยี นร้เู ปน็ รายบุคคล 23 การตรวจสอบความเขา้ ใจของผเู้ รยี น 16 การตรวจสอบความเข้าใจระหว่างการเรยี นรู้ 83 การตลาดและงานขาย 24 การตอบคาถาม 157 การตอบสนองแบบการเรยี นรู้ 137 การตง้ั คาถามใหผ้ เู้ รยี นคิดมากกวา่ การบอกความรู้ 135 การตั้งคาถามกลับคนื 123 การถอดบทเรยี น 2 การถอดบทเรยี นด้วยความซ่อื สตั ย์ 74 การทางานแบบรว่ มมือร่วมใจ 129 การทางานในโลกอนาคต 9 การทางานไรพ้ รหมแดน 124 การทางานรว่ มกับบุคคลอนื่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 81 การทางานอยา่ งสรา้ งสรรค์ 81 การนาข้อมูลมาวเิ คราะหพ์ จิ ารณ์ 81 การบรหิ ารห่วงโซอ่ ปุ ทาน 81 การบูรณาการเป็นการเช่ือมโยงความคดิ รวบยอด 81 การบรู ณาการแบบโครงการ การบูรณาการแบบคขู่ นาน การบูรณาการแบบสหวทิ ยาการ การบูรณาการโดยผสู้ อนคนเดยี ว

263ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนรู้สู่การสร้างสรรค์อนาคต ดรรชนคี ำสำคญั หน้ำ 82 คำสำคัญ 28 การปฏิบัตกิ จิ กรรมการเรยี นรู้ตามสภาพจรงิ 28 การประเมนิ เพ่อื การพัฒนา 99 การประเมนิ เพอื่ ปรบั ปรุงและพฒั นาผู้เรยี น 99 การประเมนิ เพอ่ื พฒั นาการเรียนรู้ 90 การประเมินเพอื่ พฒั นาการเรยี นรู้ 29 การประเมนิ ตนเองโดยผ้เู รยี น 84 การประเมนิ ตามสภาพจรงิ 99 การประเมนิ ตามสภาพจรงิ 6 การประเมินตามสภาพจริง 29 การประเมินทีเ่ สริมพลังตามสภาพจริง 84 การประเมินทเ่ี สรมิ พลงั ตามสภาพจริง 164 การประเมินที่สอดคล้องกบั กจิ กรรมการเรียนรู้ 91 การประเมินผล PLC 63 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 158 การประยกุ ตใ์ ช้ในสถานการณ์ใหม่ 7 การปรบั ปรุงและพัฒนา 193 การฝกึ ปฏบิ ัติ 124 การฝึกอบรมความรู้และทกั ษะใหมๆ่ 124 การพฒั นา 133 การพัฒนาโปรแกรม 4 การพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา 172 การพัฒนาคุณภาพชีวติ และส่ิงแวดล้อม 173 การพัฒนาวิชาชีพครู 174 การฟัง 64 การฟัง 3 ระดับ การมจี ติ ใจจดจ่อ

264 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรียนรูส้ กู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต หน้ำ 82 ดรรชนคี ำสำคญั 133 126 คำสำคัญ 124 การมีปฏสิ ัมพนั ธก์ ับสังคม 124 การรวมกลุ่มกนั ทางวิชาการ 78 การวิเคราะห์ Big Data 79 การวิจยั 23 การศกึ ษา 4.0 79 การส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียนมีทักษะการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม 79 69,85,95 การส่งเสรมิ สนบั สนนุ และกากับตดิ ตามกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการคดิ 75 124 การสร้างเงื่อนไขการเรยี นรู้ 63 การสรา้ งแรงจงู ใจ 78 การสรา้ งแรงบันดาลใจ 78 การสรา้ งสรรค์นวตั กรรม 30 การสร้างสรรคน์ วัตกรรมใหส้ าเร็จ 157 การสร้างสรรคผ์ ลิตภณั ฑ์และนวัตกรรม 27 การสรปุ อยา่ งสมเหตสุ มผล 27 การสอนที่สง่ เสรมิ การสร้างสรรค์ 27 การสอนอย่างสรา้ งสรรค์ 6 การสะทอ้ นคดิ 56 การสะท้อนคดิ 7 การสะท้อนคดิ หรอื reflective 128,173 การสะทอ้ นคดิ เป็นวธิ กี ารเรียนร้ใู หม่ 124 การสะท้อนคดิ จะมพี ลังมากกวา่ การสะทอ้ นผลการประเมนิ การสังเคราะห์ การสมั มนา การสื่อสาร การออกแบบ

265ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรู้สู่การสร้างสรรค์อนาคต ดรรชนคี ำสำคัญ หน้ำ 81 คำสำคญั 181 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 61 กาหนดเป้าหมายที่ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกับผเู้ รียน 5 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการคดิ วิเคราะห์ 86 แกน่ ของความรู้ 124 แกป้ ญั หาทีม่ ีความสลบั ซับซ้อนไดต้ รงจดุ 9 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรู้ 10 ขอบฟา้ ใหมก่ ารเรยี นรู้ 28 ข้อมลู เชงิ ลกึ 20 ขอ้ มลู สารสนเทศทางการเรยี นรู้ 20 ขาดแรงจูงใจ 2 ขาดความรสู้ ึกเป็นเจ้าของการเรยี นรู้ 6 เข้าถึงได้ทกุ เวลา 126 ครูท่เี ก่งใชก้ ารจงู ใจภายใน 6 ครูมอื อาชพี 66 ครยู ุคดจิ ิทลั 16 ครูอยูใ่ นโลกออนไลน์ 136 ความเช่ือม่ันในตนเอง 15 ความเทา่ เทยี มกันทางความคดิ 26 ความเป็นประชาธิปไตย 136 ความไวว้ างใจ 146 ความกา้ วหน้าทางวิชาการและวชิ าชพี 14 ความคดิ และทัศนคติ 14 ความคดิ รวบยอด 14 ความคิดรวบยอดทเี่ ป็นเหตุเปน็ ผลกนั 14 ความคดิ รวบยอดที่เป็นไปตามธรรมชาติ ความคิดรวบยอดทเ่ี ป็นการแยกลกั ษณะ

266 ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรสู้ ่กู ารสรา้ งสรรค์อนาคต หน้ำ 15 ดรรชนีคำสำคญั 15 14 คำสำคญั 14 ความคดิ รวบยอดที่เป็นขอ้ มลู ความจริง 15 ความคดิ รวบยอดท่ีเป็นคณุ ค่า 14 ความคิดรวบยอดที่เป็นรูปธรรม 14 ความคิดรวบยอดที่เปน็ ลกั ษณะร่วม 14 ความคิดรวบยอดที่เป็นวธิ กี าร 72 ความคิดรวบยอดทเ่ี ป็นสงิ่ ท่ีสมั พนั ธ์กัน 71 ความคดิ รวบยอดทก่ี าหนดคาจากดั ความ 137 ความคดิ รวบยอดมี 10 ประเภท 10 ความคิดสร้างสรรค์และนวตั กรรม 136 ความซบั ซอ้ น 136 ความซ่อื สัตยต์ อ่ สงิ่ ท่ีตนเองไดเ้ รียนรู้ 9 ความตอ้ งการ 137 ความต้องการของผรู้ ับบรกิ าร 28 ความต้องการทจ่ี ะเรียนรรู้ ว่ มกัน 31 ความตอ้ งการส่วนบคุ คล 31 ความปรารถนา 26 ความปลอดภยั ทางจิตวิทยาแกผ่ ู้เรยี น 124 ความพอประมาณ 37 ความมเี หตุผล 193 ความมีวนิ ยั ในการเรยี นรู้ 22 ความรกั ความเมตตาและเออื้ เฟื้อเผ่ือแผค่ นอื่น 136 ความรู้เปล่ียนแปลงได้ 56 ความรูแ้ ละทักษะเฉพาะทางเฉพาะดา้ น ความรู้ความเข้าใจทีล่ กึ ซงึ้ ความรทู้ มี่ าจากการปฏบิ ัติ ความรู้ท่ลี ึกซ้งึ

267ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต ดรรชนคี ำสำคัญ หน้ำ 2 คำสำคัญ 10 ความรมู้ อี ยทู่ กุ ท่ี ความสนใจ 158 ความสนใจใฝร่ ู้ 26 ความสบายใจ ม่นั ใจ 137 ความสรา้ งสรรค์ 15 ความสขุ ในการเรยี นรู้ 134 ความอดทน และเวลา 5 คากญุ แจ 22 คาถามกระตุ้นการคดิ 90 คาถามชแ้ี นะทางปญั ญา 2 คาถามที่นาไปสู่ mind shift 24 คาถามสะท้อนคิด 27 คดิ และเปลยี่ นแปลงเอง 3 คิดใครค่ รวญ 130 คดิ กอ่ น ทากอ่ น เรยี นรกู้ อ่ น 10 คุณค่าของการพัฒนาผเู้ รียน 10 คุณภาพการเรยี นรู้ 10 คุณภาพการศกึ ษา 134 คุณภาพผู้เรยี น 134 คุณภาพผ้สู อน 158 คณุ ลกั ษณะของครู PLC ที่เอือ้ ตอ่ การถอดบทเรยี น 7 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 56 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 136 เคารพซ่งึ กนั และกัน 6 เคารพศักดศ์ิ รีความเป็นมนุษย์ 137 โค้ช

268 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต หน้ำ 5 ดรรชนคี ำสำคัญ 83 คำสำคัญ 123 โคช้ การเรยี นรู้ 31 โค้ชการรู้คดิ ให้กบั ผูเ้ รยี น 31 งานสรา้ งสรรค์ (creative work) 98 เงื่อนไขความรู้ 182 เง่ือนไขคุณธรรม 30 จดั เตรยี มทรพั ยากรและแหล่งการเรียนรู้ 29 จัดบรรยากาศท่เี อือ้ ตอ่ การเรยี นรู้ 6 จาก feedback เปน็ creative feedback 22 จาก standard เปน็ authentic 6 จติ ใจเปิดกว้าง 73 จิตคิดวเิ คราะหข์ ้อมูล 25 จิตท่ีเมตตา 145 จิตนวัตกรรม 17 จนิ ตนาการ 25 จนิ ตนาการสาคัญกวา่ ความรู้ 134 จดุ เน้นทีค่ วร Transform 136 จุดประกายทางความคิด 184 จุดรวมของนักวิชาชพี 141 เจตคติทดี่ ตี ่อวชิ าชพี 137 แจ้งจดุ ประสงค์ 18 ใจ (mind) 133,135 ใจทจ่ี ะเรียนรู้ 134 ช้แี นะและจูงใจ 7 ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรเู้ ชิงวชิ าชพี ชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี ครู เช่อื มต่อโลกออนไลน์

269ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ กู่ ารสร้างสรรค์อนาคต ดรรชนคี ำสำคัญ หน้ำ 80 คำสำคัญ 29 เชอ่ื มโยงการเรยี นรสู้ าระสาคัญ 185 เชอ่ื มโยงกจิ กรรมการเรียนร้กู ับการประเมิน 29 ใช้คาถามอยา่ งหลากหลาย 11 ใชผ้ ู้ประเมนิ หลายฝ่าย 29 ใชว้ จิ ารณญาณตอ่ ขอ้ มลู 184 ใช้วธิ กี ารและเครือ่ งมือประเมนิ ทหี่ ลากหลาย 56 ซักถาม 9 ฐานขอ้ มูล 11 ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ 28 ดึงคนเขา้ มามีปฏิสมั พนั ธ์กนั 90 ดแู ลช่วยเหลือทางด้านวิชาการ 184 ได้เรยี นรู้วิธกี ารประเมินตนเอง 136 ตรวจสอบผลงาน 125 ตอบสนองการเปลย่ี นแปลง 125 ตอบสนองความต้องการและความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลของผเู้ รยี น 98 ตอบสนองความต้องการของชุมชนและสังคม 185 ต้งั คาถามกระตุ้นการคิด 97 ตัง้ คาถามกระตนุ้ การคิดข้นั สงู 27 ตั้งคาถามกระตุ้นความอยากรู้ 130 ตดั สินใจเปลยี่ นแปลงด้วยตนเอง 85 ตดั สนิ ใจใหไ้ วและถกู ต้อง 84 ตัดสนิ ใจท่ีจะกระทาหรอื ไมก่ ระทาส่ิงต่างๆ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง 72 ตัวบง่ ชี้นวตั กรรม 5,99,174 เติบโตอยา่ งมสี ว่ นรว่ ม 182 เต็มตามศักยภาพ เตรียมและเลอื กใชส้ ื่อให้เหมาะสมกบั กิจกรรม

270 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรียนรสู้ ู่การสร้างสรรคอ์ นาคต หน้ำ 183 ดรรชนคี ำสำคญั 183 186 คำสำคญั 137 เตรียมความพรอ้ มผเู้ รียน 56 เตรยี มวัสดุ อปุ กรณ์ สถานท่ี 184 ถอดบทเรยี น ถอดบทเรยี นออกมาเป็นองค์ความรู้ 8 ถักทอความรู้ 70 ทบทวนสาระสาคญั 177 ทรานฟอร์ม 70 ทฤษฎโี ครงสร้างทางสตปิ ญั ญา 7 ทฤษฎีการเรยี นรู้อยา่ งมคี วามหมาย 43 ทฤษฎอี งคป์ ระกอบของการคดิ สรา้ งสรรค์ 41 ทักษะ Digitization 43 ทกั ษะกระบวนการ 9 ขัน้ 37 ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 7 ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 25 ทักษะการเรยี นรตู้ ลอดชวี ิต 69,73 ทักษะการแปลงขอ้ มลู 139 ทกั ษะการสร้างสรรค์ 10 ทกั ษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรม 47 ทักษะของผูบ้ รหิ ารกบั การพฒั นาผู้สอนโดยใช้ PLC 86 ทัศนคตทิ ่ดี ีต่อวชิ าชีพ 87 ทัศนธาตุ 140 ทางานอย่างเป็นระบบและมปี ระสทิ ธภิ าพ 137 ทาน้อยไดม้ าก 63 ทาอย่างมีสติและปญั ญา เทคโนโลยี Digital ธรรมชาติและความต้องการของผูเ้ รยี น

271ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรสู้ ู่การสร้างสรรค์อนาคต ดรรชนีคำสำคญั หน้ำ 81 คำสำคัญ 5,69,72,145 ธรรมชาติของผเู้ รียน 128 นวตั กรรม 128 นักคิดสรา้ งสรรค์ 25 นักพฒั นา 157 นกั สรา้ งสรรคน์ วตั กรรม 99 นาไปสูก่ ารเปลย่ี นแปลง 97 นาผลการประเมนิ ไปพฒั นาผเู้ รียนเป็นรายบุคคล 80 นาผลการวิจยั ใหมๆ่ มา update ใหก้ บั ผู้เรยี น 73 นาสาระสาคญั ทีเ่ รยี นร้มู าประยกุ ตใ์ ช้ 57 แนวความคิด 56 แนวทางการบันทกึ หลังการสอน 83 แนวทางการพัฒนาผู้เรยี น 91 77 บทบาทของผู้สอนในการจัดการเรยี นรูต้ ามแนวทฤษฎีคอนสตรคั ตวิ ิสต์ซมึ 77 91 บทบาทของผู้สอนในการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 56 38 บรรยากาศการเรียนรทู้ ่เี อ้ือต่อการพฒั นาทกั ษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรม 28 136 บรรยากาศของการเรยี นรู้ 87 บันทกึ ผลการประเมนิ 79 บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ 62 บูรณาการ 60 บรู ณาการเขา้ กับกิจกรรมการเรยี นรู้ 58 บรู ณาการเปน็ องคร์ วม บูรณาการงานต่างๆ เขา้ ดว้ ยกนั ไดอ้ ยา่ งลงตวั บูรณาการทกั ษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรม แบบทดสอบความเขา้ ใจในการทางานบ้าน แบบประเมนิ การคดิ วเิ คราะห์ แบบประเมนิ ความมวี ินยั

272 ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรียนรูส้ กู่ ารสร้างสรรค์อนาคต หน้ำ 59 ดรรชนีคำสำคัญ 100 137 คำสำคญั 139 แบบประเมินความรับผดิ ชอบ 182 แบบประเมนิ ทักษะการเรียนรู้โดยใชก้ ระบวนการวจิ ยั 195 ปฏบิ ัติจริงด้วยตนเอง 186 ประเภทของโค้ชสาหรับ PLC 29 ประเมนิ ความกา้ วหน้าของผเู้ รียน 5 ประเมินผลการเรยี นรู้ 82 ประเมนิ รวบยอด 32 ประเมนิ หลายชว่ งเวลาของการเรยี นรู้ 91 ประคับประคอง 137 ประสบการณ์การเรียนรอู้ ยา่ งหลากหลาย 137 ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 140 ปรับปรงุ หลักสตู รและการเรยี นการสอน 136,137 ปราศจากอคติ 8 ปัจจัยสนับสนนุ PLC 92 ปญั ญา 91 ปัญญาปฏบิ ตั ิ 91 ปัญญาประดิษฐ์ 3 เป็นผจู้ ดั การคณุ ภาพ 6 เปน็ ผชู้ แ้ี นะ 28 เป็นพเี่ ลีย้ ง 17 เปลย่ี นแปลงไปสูส่ ิง่ ที่ดขี ้นึ 24 เปลี่ยนแปลงความคดิ ใหม่ 22 เปลี่ยนจาก judgment เปน็ improvement เปลี่ยนจาก teaching เปน็ coaching เปล่ียนจากการตอบคาถามมาเป็นการตงั้ คาถาม เปลีย่ นจากบอกใหจ้ าเป็นถามใหค้ ดิ

273ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรียนรู้ส่กู ารสรา้ งสรรค์อนาคต ดรรชนคี ำสำคญั หน้ำ 5 คำสำคญั 98 เป้าหมายของการเรียนรู้ 90 เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนไดเ้ รียนรู้ในสง่ิ ท่ีผู้เรียนสนใจ 37 เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นต้ังคาถาม ผลการเรยี นรู้ 2,38 ผลผลติ 21,49,65 ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ ผูเ้ รยี นเกดิ การเรยี นรูใ้ นสาระสาคญั 172 ผู้เรยี นเกดิ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง 17 ผู้เรยี นเช่อื มโยงการปฏิบตั ิกบั เน้ือหาสาระ 13 ผ้เู รยี นใช้กระบวนการวจิ ยั ในการเรยี นรู้ 96 ผเู้ รยี นในยุคดจิ ิทลั 2 ผู้เรยี นไดเ้ รียนรรู้ ว่ มกัน 13 ผู้เรยี นไดใ้ ชก้ ระบวนการคดิ 20 ผเู้ รยี นไดใ้ ชผ้ ลการประเมินตนเอง 90 ผเู้ รยี นไดป้ ฏิบัติกจิ กรรมการเรียนรู้ 171 ผเู้ รยี นไดร้ ับการพัฒนาสมรรถนะ 172 ผู้เรยี นไดล้ งมือปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการเรียนรู้ 83 ผู้เรยี นกาหนดสาระและกิจกรรมการเรยี นรู้ 19 ผเู้ รยี นควรต้งั คาถามตรวจสอบการเรียนรูข้ องตนเอง 90 ผู้เรยี นทุกคนสามารถเรยี นรแู้ ละพฒั นาได้ 6 ผู้เรยี นทุกคนสามารถสร้างความรคู้ วามเข้าใจของตนเองได้ 82 ผู้เรยี นมีจดุ มงุ่ หมายในการเรยี นรู้ 171 ผเู้ รยี นมีบทบาทในกจิ กรรมการเรยี นรู้ 11 ผเู้ รยี นมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การประเมินผลการเรยี นรู้ 90 ผเู้ รยี นมีอสิ ระทางความคดิ 13 ผู้เรยี นรับผดิ ชอบตอ่ การเรยี นรู้ 13

274 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรยี นรู้สกู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต หน้ำ 13 ดรรชนคี ำสำคัญ 95 96 คำสำคัญ 4 ผู้เรยี นลงมือปฏบิ ัติ 13,30 ผเู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ัตกิ ารวจิ ยั ดว้ ยตนเอง 98 ผู้เรยี นศึกษาผลการวิจยั ในการเรียนรู้ 95 ผเู้ รยี นสรา้ งสรรคน์ วัตกรรม 75 ผเู้ รยี นสะทอ้ นคดิ 97 ผูกพันอย่กู ับการเรียนรู้ 67 ผู้สอนเปน็ ผชู้ ี้แนะ 172 ผู้สอนเปดิ โอกาสใหผ้ ้เู รยี นได้เรยี นรู้รว่ มกัน 79 ผู้สอนใช้กระบวนการวจิ ยั ในการจดั การเรยี นรู้ 96 ผสู้ อนควรทาหน้าทเ่ี ปน็ โคช้ 97 ผ้สู อนคือปจั จยั ชข้ี าดคุณภาพการศกึ ษา 170 ผู้สอนทาหนา้ ทีเ่ ปน็ โค้ชการรคู้ ิด 83 171 ผสู้ อนนาผลการวจิ ยั ใหมๆ่ มาใชป้ ระโยชน์ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ 171 171 ผู้สอนนาผลการวิจยั มาใช้ในการออกแบบการจัดการเรยี นรู้ 171 ผสู้ อนมคี วามรู้ความเข้าใจในสาระสาคญั 194 ผสู้ อนมีบทบาทเป็นผเู้ อื้ออานวยความสะดวกในการเรียนรู้ 128 ผสู้ อนสามารถโค้ชผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคล 174 ผู้สอนสามารถจดั การชั้นเรยี น 10 ผสู้ อนสามารถประเมินผลการเรยี นรู้ของผู้เรยี นได้อยา่ งเปน็ ระบบ 5 ผสู้ อนสามารถสะท้อนผลเพ่ือปรับปรุงและพฒั นา 134 ฝึกปฏบิ ตั ทิ ักษะและนาไปสกู่ ารมคี วามรู้ ใฝ่เรยี นรู้ พรหมวหิ าร 4 พลเมืองตืน่ รู้ พลังขับเคลอื่ นกระบวนการเรยี นรู้ พลังความสามัคคีของนกั วิชาชพี

275ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรยี นรูส้ ่กู ารสร้างสรรค์อนาคต ดรรชนีคำสำคัญ หน้ำ 8 คำสำคัญ พลังงานสะอาด 146 พลงั ทางความคิด 26 พลังที่จะเรียนรู้ 25 พลงั สร้างสรรคจ์ ะเปล่งประกายออกมา 31 พอเพียง 26 พัฒนาตนเอง 137 พฒั นาอย่างกา้ วกระโดดและถกู ทศิ ทาง 72 พื้นท่แี ห่งความปลอดภยั 5 พื้นทก่ี ารเรยี นรู้ 7 ไฟลข์ ้อมลู ดจิ ทิ ัล 1 ไฟล์ดิจิทลั 173 ภาวะผ้นู า 70 มติ ิด้านเนื้อหา 70 มติ ิดา้ นกระบวนการคดิ 70 มติ ิดา้ นผลผลติ ของการคดิ 18 มเี ป้าหมายการเรียนรู้เดยี วกนั 13 มีแต่กจิ กรรมแตไ่ มม่ สี าระ 12 มีการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 12 มีคุณลักษณะ/สมรรถนะท่ีพึงประสงค์ 11 มชี ีวติ ชีวาและตื่นตัว 27 มีพลงั เปลย่ี นแปลงวธิ คี ดิ (way of thinking) 31 มีภมู ิคมุ้ กนั ทดี่ ีในตวั 12 มีวิธีการเรยี นรู้ 12 มีวธิ กี ารคดิ 141 มสี ติอยทู่ กุ ขณะจติ 164 มงุ่ เนน้ การประเมินเพือ่ พฒั นา

276 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรยี นรู้สกู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต หน้ำ 175 ดรรชนีคำสำคญั 175 164 คำสำคัญ มทุ ติ า 9 เมตตา 173 ไมม่ มี าตรฐานและตวั บ่งชก้ี ารประเมนิ 183 ไม่มหี ลกั สตู รและการสอนเตรยี มไว้ให้ผ้เู รยี น 173 ระยะก่อนการเรยี นรทู้ างไกลผา่ นดาวเทยี ม 183 ระยะก่อนการเรยี นรู้ทางไกลผา่ นดาวเทยี ม 173 ระยะระหว่างการเรยี นรทู้ างไกลผา่ นดาวเทียม 186 ระยะระหวา่ งการเรยี นรทู้ างไกลผา่ นดาวเทยี ม ระยะหลงั การเรยี นรู้ทางไกลผา่ นดาวเทียม 3 ระยะหลงั การจัดการเรียนรทู้ างไกลผา่ นดาวเทยี ม 140 รากฐานทางสังคมและวฒั นธรรม 141 รตู้ ัวว่ากาลงั ทาอะไร 77 รตู้ วั อยตู่ ลอดเวลา 140 รปู แบบการจดั การเรยี นการสอน 18 รวู้ า่ จะต้องทาอย่างไร 141 รู้อะไรก็บอกไป เรยี กสตกิ ลับคนื มา 1 เรยี นรไู้ ดท้ ุกเวลาและสถานท่ี 130 เรยี นรจู้ ากคนที่เกง่ กวา่ 5,12,19,26,67,176 แรงจูงใจภายใน 177 แรงจูงใจมีอทิ ธิพลตอ่ การเรยี นรขู้ องผู้เรยี น แรงบันดาลใจ 5 ลงมอื ทาแล้วถอดบทเรียนออกมาเป็นองค์ความรู้ 136 ลกั ษณะของการคดิ ซบั ซ้อน 84 ลักษณะนสิ ัยของผ้เู รียน 31 เลอื กช่องทางสิง่ ท่ีตอ้ งการจะบอก 11

277ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ ู่การสร้างสรรค์อนาคต ดรรชนคี ำสำคัญ หน้ำ 194 คำสำคญั 11 แลกเปลยี่ นเรยี นรปู้ ระสบการณ์ 77 วัฒนธรรมการใช้ข้อมลู 182 วเิ คราะหธ์ รรมชาตขิ องผเู้ รยี น 181 วิเคราะหผ์ ลการประเมนิ 10 วิเคราะหผ์ เู้ รียนเป็นรายบคุ คล 10 วิชาชีพสร้างคนใหก้ บั สังคม วิถีการใชช้ ีวิต 9 วทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ 173 วธิ กี ารโค้ช 96 วธิ ีการจัดการเรยี นรู้โดยใช้วจิ ยั เปน็ ฐาน 157 วธิ ีการถอดบทเรียน 144 วิธกี ารสรา้ งนวตั กรรม 5I 141 วินยั (discipline) 5,26 วินัยในตนเอง วสิ ัยทัศนท์ มี่ องไปในอนาคต 8 ศกึ ษาแผนการจดั การเรียนรู้ในคมู่ อื 183 ศกึ ษาความรู้เพม่ิ เตมิ เกีย่ วกับสาระสาคญั 183 ส่งเสรมิ กระบวนการเรยี นรู้ 80 ส่งเสริมการเรยี นรู้ด้วยตนเองของผเู้ รยี น 81 สง่ เสรมิ การพฒั นากระบวนการคดิ ข้ันสงู 80 สง่ เสรมิ การพฒั นาทักษะการเรียนรู้ 80 ส่งเสริมทักษะการเรยี นรทู้ ่จี าเปน็ ต่อการวจิ ยั 97 สง่ มอบการเรยี นร้ทู ดี่ ีทสี่ ุด 64 สติ 140 สมรรถนะและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 81 สมรรถนะทางวชิ าชีพ 133

278 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนรู้สกู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต หน้ำ 98 ดรรชนีคำสำคญั 183 98 คำสำคัญ 184 สร้างแรงจูงใจ 130 สร้างแรงจูงใจภายใน 21 สรา้ งโอกาส 86 สรา้ งความเชอื่ มน่ั 130 สรา้ งพลังเครอื ขา่ ย 185 สรา้ งสรรคผ์ ลผลิตการเรียนรู้ 14 สร้างสรรคผ์ ลติ ภณั ฑ์ 185 สร้างสรรคผ์ ลติ ภณั ฑใ์ หมๆ่ 99 สรปุ สาระสาคญั 186 สรปุ อา้ งองิ 30 สะทอ้ นจุดดีและจดุ ที่ตอ้ งพัฒนา 99 สะทอ้ นผลการประเมิน 184 สะท้อนผลการประเมิน 194 สะท้อนผลการประเมินเพอ่ื การพฒั นาผูเ้ รยี น 49 สงั เกตและประเมนิ พฒั นาการ 132 สงั เกตพฤตกิ รรม 37,81,125 สาธิตการปฏิบตั ิและใหป้ ฏบิ ัตดิ ้วยตนเอง 135 สาระและกจิ กรรม 69 สาระการเรยี นรภู้ ูมิศาสตร์ 92 สาระสาคญั 185 สานกึ ความรบั ผดิ ชอบ 26,29 สิ่งประดษิ ฐ์ 19 สื่อสารผลการประเมินไปยงั ผเู้ กยี่ วขอ้ งทกุ ฝ่าย เสนอแนะแนวทางการปรับปรุง เสรมิ พลังการเรยี นรู้ เสรมิ สรา้ งทกั ษะการเรียนรู้

279ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ กู่ ารสร้างสรรค์อนาคต ดรรชนคี ำสำคญั หน้ำ 23 คำสำคญั 98 แสวงหาขอ้ มูลขอ้ เทจ็ จรงิ เพิ่มเตมิ 31,137 หลักการโค้ช 65 หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 65 ห้องเรยี นในโลกเสมือน 10 หอ้ งเรียนออนไลน์ 185 เห็นคณุ คา่ ของการจดั การเรยี นรู้ 5 เหน็ คณุ คา่ คาตอบของผู้เรยี น 6 แหลง่ การเรียนรทู้ ี่อยู่ในโลกดจิ ทิ ัล 185 ให้โอกาสและพ้นื ท่ีการเรียนรู้ 195 ใหก้ าลังใจ 184 ใหข้ ้อมลู ย้อนกลับอย่างสร้างสรรค์ 5 ให้ความชว่ ยเหลือ 5 ให้คาแนะนา 26 ให้คาช้แี นะ 95 ใหอ้ านาจการตดั สนิ ใจ 13 องค์ความรู้ใหม่ 47 องค์ความรทู้ ่เี กิดจากการปฏบิ ตั ิ 47 องคป์ ระกอบของดนตรี 10 องค์ประกอบของนาฏศลิ ป์ 181 อยากสร้างผู้เรยี นให้มคี ณุ ภาพ 22 ออกแบบการเรียนรู้ 95 อาวธุ ทางปญั ญา 65,66 อานวยความสะดวกในการเรยี นรู้ 49 อนิ เทอร์เนต็ ความเร็วสูง 175 อิสระจากเน้ือหาสาระ อเุ บกขา

280 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรยี นรู้สกู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต หนำ้ 27 ดรรชนคี ำสำคญั 27 129 คำสำคัญ 128 Transformative learning 87 Transformative thinking 143,144 3C ของครูท่ี Transform 82 5B ของผสู้ อนยคุ ใหม่ 135 80 – 20 ของพาเรสโต 156 A: Analyze 10 Accommodation 11,12,15,21 Accountable 23 Action learning 143,144 Active citizen 8 Active Learning 123 Answering 134 APP Model 89 Artificial Intelligence 28 Artificial Intelligence (AI) 88 Assembly Point 91 Assessment as learning 82 Assessment for improvement 56 Assessment for learning 128 Assessment of learning 128 Assimilation 128 Based – line data 128 Be communication Be creator Be developer Be learner

281ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรยี นรูส้ ่กู ารสร้างสรรคอ์ นาคต ดรรชนคี ำสำคัญ หน้ำ 128 คำสำคัญ 130 Be learning management 9,11,86,125,126 Best Practice Big Data 9 Bioscience 129 Care 67 Checking for understanding 173 classroom management Clean power 8 Coach 129 Coaching 10,18127,128 Coaching for learning Cognitive coaching 5 Cognitive style 79,178 collaborative learning Complexity 10 Concept 1233 Concrete concept 71,84 Conditions of learning Conjunctive concept 13 Constructivism 14 Content free 23 Creative 14 Creative mind 82 Creative pedagogy 49 Creative teaching 129 Cresititive thinking 73 78 78 146