Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พินิจข้อคิดจากนิทาน

พินิจข้อคิดจากนิทาน

Published by สุรศักดิ์ เจริญผล, 2021-01-15 10:36:11

Description: Book2

Search

Read the Text Version

๑ คำช้ีแจงในกำรใช้แบบฝึก แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสาคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เป็นนวัตกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในการอ่านจับใจความสาคัญจากนิทานอีสป เพ่ือพัฒนาไปสู่การเรียนรู้ตามมาตรฐานการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสาคัญ เล่มน้ี ประกอบดว้ ยนทิ านอีสป จานวน ๓ เร่ือง ดงั น้ี เรอื่ งที่ ๑ หนูเมอื งกับหนนู า เรอ่ื งที่ ๒ สองสหายกับหมี เรอ่ื งที่ ๓ ขมุ ทรพั ย์ในไร่อง่นุ ซ่งึ แตล่ ะเรอ่ื งมีข้นั ตอนการฝึกทักษะทง้ั หมด ๕ ข้ัน ดงั น้ี ข้ันท่ี ๑ ศึกษาคาศพั ทแ์ ละความหมาย ขน้ั ที่ ๒ ตอบคาถามจากเนื้อเรอ่ื ง ขน้ั ที่ ๓ วิเคราะห์เนอื้ ความ ขน้ั ที่ ๔ สรปุ ใจความสาคญั ตามแผนภาพโครงเรือ่ ง ขน้ั ท่ี ๕ สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากการอา่ น เมื่อนักเรียนฝึกทักษะการอ่านจับใจความสาคัญอย่างสม่าเสมอ จะช่วยให้อ่าน จับใจความได้ตรงประเด็นและรวดเร็วมากขึ้น และสามารถนาไปใช้เป็นพื้นฐานในการ เรียนวิชาอน่ื ๆ ในระดบั การศกึ ษาท่สี งู ขนึ้ ต่อไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

๒ สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้ทกั ษะกระบวนการอา่ นสรา้ งองค์ความร้แู ละความคิด เพ่ือนาไปใช้ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาในการดาเนนิ ชีวิตและมนี สิ ัย รักการอ่าน ตัวชี้วัด ป. ๔/๒ อธิบายความหมายของคา ประโยคและสานวนจากเร่อื งทอี่ า่ น ป. ๔/๓ อ่านเรือ่ งสั้น ๆ ตามเวลาที่กาหนด และตอบคาถามจากเร่อื งทอี่ ่าน ป. ๔/๔ แยกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ จากเรอื่ งที่อา่ น ป. ๔/๖ สรุปความรูแ้ ละข้อคิดจากเรือ่ งทอ่ี ่านเพือ่ นาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถบอกความหมายของคาจากนทิ านอีสปได้ ๒. นักเรยี นสามารถตอบคาถามจากการอ่านนทิ านอสี ปได้ ๓. นักเรียนสามารถแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็นจากนทิ านอสี ปได้ ๔. นักเรยี นสามารถสรปุ ใจความสาคัญตามแผนภาพโครงเรื่องได้ ๕. นักเรยี นสามารถสรปุ ความรู้และข้อคิดจากนทิ านอีสปได้

๓ คำแนะนำกำรใช้แบบฝกึ การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสาคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ นักเรยี นควรปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ ๑. ศกึ ษาคาแนะนาการใช้แบบฝกึ ใหเ้ ข้าใจ ๒. ศึกษาจุดประสงคก์ ารเรยี นร้ใู นแบบฝกึ ให้เข้าใจ ๓. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๔. ศกึ ษาเนอื้ หาในใบความรูแ้ ละตัวอยา่ งใหเ้ ข้าใจ ๕. ปฏิบัติตามขั้นตอนการฝึกให้ครบทุกขั้นตอน ตรวจสอบความถูกต้องของ คาตอบในแบบฝึกทกั ษะจากเฉลยทา้ ยเลม่ ๖. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ๗. ตรวจคาตอบแบบทดสอบหลังเรียนจากเฉลยทา้ ยเลม่ ๘. นักเรียนตอ้ งมคี วามซ่ือสัตย์ต่อตนเอง ไมด่ เู ฉลยกอ่ นทาแบบฝึกทกั ษะหรือ ทาแบบทดสอบเสร็จ เกณฑ์กำรผ่ำนกำรประเมิน ๑. นักเรยี นตอ้ งไดค้ ะแนนการประเมินหลังเรยี นไม่ต่ากว่ารอ้ ยละ ๘๐ ๒. ถ้านักเรียนไดค้ ะแนนไมถ่ งึ รอ้ ยละ ๘๐ ควรกลับไปทบทวนความรู้เพม่ิ เตมิ และทาแบบฝกึ ทักษะใหม่ จนกว่าจะได้คะแนนรอ้ ยละ ๘๐

๔ ขน้ั ตอนกำรใชแ้ บบฝึกทกั ษะ กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำคัญ ๑. ศกึ ษำคำชแ้ี จงสำหรบั นักเรียน ๒. ศึกษำจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ๓. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ๔. ศกึ ษำใบควำมรแู้ ละตัวอย่ำง ๕. ทำแบบฝึกทักษะ ไมผ่ ่ำนเกณฑ์ ๖. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น ๗. ตรวจคำตอบจำกเฉลยท้ำยเล่ม และบันทึกผลคะแนน ผ่ำน ๘. ทำแบบฝกึ ทกั ษะกำรอ่ำนจับใจควำมสำคญั เล่มต่อไป

๕ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอื่ ง พินจิ ข้อคดิ จำกนทิ ำน คำช้ีแจง ให้นักเรียนอ่ำนเรื่อง “ลูกหงส์กตัญญู” แล้วตอบคำถำมข้อ ๑ – ๑๐ โดยทำเครอ่ื งหมำย × เลอื กข้อทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพียง ข้อ เดียว ลงในกระดำษคำตอบ ใช้เวลำ ๒๐ นำที (๑๐ คะแนน) ลูกหงสก์ ตัญญู มหี งสฝ์ งู หนง่ึ อาศัยอยู่ทภ่ี เู ขาริมทะเลสาบ แมห่ งสท์ ุกตัวต่างกกไขอ่ ย่างทะนุถนอม ส่วนพ่อหงสอ์ อกหาอาหารเมอ่ื ลกู หงสฟ์ ักเป็นตวั พอ่ และแมห่ งสจ์ ะลาบากมากข้ึนทั้งกลวั ลูกจะตกจากรัง กลัวลูกจะเจ็บป่วยแสนเหนื่อยยากกว่าจะเลี้ยงลูกให้โต พ่อและแม่หงส์ ตอ้ งสอนการใชช้ วี ติ ใหล้ กู หงส์ เมื่อลูกหงสบ์ ินได้ก็ถงึ เวลาแยกยา้ ยจากพอ่ แม่ไปถน่ิ อ่ืน เวลาผ่านไปหลายปีฝูงลูกหงส์ต่างอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข วันหน่ึงฝูงลูกหงส์ ปรึกษากันว่าจะไปหาพ่อแม่ซึ่งตอนนี้ก็คงแก่ชราแล้ว ระหว่างทางเกิดพายุพัดแรงฝูง ลูกหงส์ต่างช่วยกันประคองจนทุกตัวบินข้ามผ่านทะเลไปได้ถึงปลายทาง เมื่อพบพ่อแม่ ลกู หงสก์ ็คอ่ ย ๆ กม้ ตัวหมอบลงเอาดอกบัวให้พ่อแมแ่ ละปรนนิบัติดูแลจนสน้ิ อายุขยั พรจันทร์ จนั ทรวมิ ล

๖ ๑. “ลูกหงส์ต่างช่วยกันประคองจนทุกตวั บินข้ามผ่านทะเลไปได้ถึงปลายทาง”จากข้อความ คาวา่ ปลายทาง หมายถงึ ท่ีใด ก. จุดสิน้ สดุ ข. จุดจบของชวี ิต ค. รังท่ตี นอาศยั ง. รงั ของพอ่ แม่หงส์ ๒. “เม่ือได้พบพ่อแม่แล้วลูกหงส์ค่อย ๆ ก้มตัวลงเอาดอกบัวให้พ่อแม่และอยู่ปรนนิบัติ ดแู ลจนส้ินอายุขยั ” จากข้อความแสดงว่าลกู หงสม์ คี ุณธรรม ตามข้อใด ก. ความกล้าหาญ ข. ความกตญั ญู ค. ความเมตตากรณุ า ง. ความเออ้ื เฟอื้ เผอื่ แผ่ ๓. จากขอ้ ความ พอ่ แมห่ งส์ไมไ่ ดส้ อนการใชช้ ีวติ ในข้อใด ก. การบิน ข. การสร้างรัง ค. การหาอาหาร ง. การปรนนิบัตพิ ่อแม่ ๔. จากเรือ่ ง ข้อความใดเปน็ ขอ้ เท็จจริง ก. กลัวลกู เจบ็ ปว่ ย ข. กลวั ลูกตกจากรัง ค. ตอนน้พี อ่ แมก่ ค็ งแก่ชราแล้ว ง. เมือ่ ลกู หงส์บนิ ไดก้ แ็ ยกย้ายไปอยูถ่ ่นิ อื่น ๕. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ สาเหตทุ ที่ าให้พ่อแมห่ งสต์ อ้ งลาบากมากขึน้ เมอื่ ลูกหงสฟ์ ักเป็นตัว ก. ต้องสรา้ งรงั ใหมใ่ หญก่ วา่ รังเดิม ข. ตอ้ งสอนใหล้ กู รู้จกั การใชช้ วี ติ ค. กลัวลูกจะเจ็บปว่ ย ง. กลวั ลูกจะตกจากรัง

๗ ๖. ในระหว่างทางท่ีลูกหงส์บินกลับไปหาพ่อแม่ ลูกหงส์พบอุปสรรคแต่สามารถเดินทาง ไดป้ ลอดภยั เพราะเหตใุ ด ก. หยุดพกั ระหวา่ งทาง ข. การช่วยเหลอื ซึง่ กนั ละกนั ค. โชคดที ฝี่ นหยุดตกจึงบนิ ตอ่ ไปได้ ง. ได้รบั ความช่วยเหลอื จากหงสท์ ี่บินตามหลังมา ๗. เม่ือพ่อแม่หงส์สอนให้ลูกรู้จักการใช้ชีวิตแล้วลูกหงส์ต้องทาอย่างไรหลังจากพ่อแม่ สอนใหร้ จู้ กั การใชช้ วี ติ ต่อไป ก. สร้างรงั ให้พอ่ แมใ่ หม่ ข. ต้องหาคูแ่ ละสืบพนั ธุ์ ค. แยกยา้ ยไปอยู่ถน่ิ อนื่ ง. มีหน้าทีห่ าอาหารใหพ้ อ่ แม่กิน ๘. จากเร่ือง เหตุการณ์เกดิ ขึน้ ทไ่ี หน ข. บนเกาะกลางทะเล ก. บริเวณภเู ขารมิ ทะเลสาบ ง. รมิ ป่าแห่งหนึง่ ค. เชงิ เขาแห่งหนงึ่ ๙. จากเร่ืองผลของเหตกุ ารณ์ ตรงกบั ข้อใด ก. ลกู หงสถ์ กู ลมพายุพดั เสยี ชีวิต ข. ลูกหงส์พบพอ่ แมแ่ ลว้ ก็กลับไปอยู่ถนิ่ เดมิ ค. ลกู หงสอ์ ยปู่ รนนบิ ตั ริ บั ใชพ้ อ่ แม่จนทา่ นตาย ง. พอ่ แม่หงส์เสยี ชวี ิตกอ่ นทีล่ กู ๆ จะกลับไปถงึ ๑๐. จากนทิ านอสี ปเร่อื งน้ี ขอ้ ใดสรุปขอ้ คดิ ไดส้ อดคลอ้ งกับเร่ืองไดม้ ากทส่ี ุด ก. ลกู ควรมคี วามกตัญญูตอ่ พอ่ แม่ เลยี้ งดทู ่านยามแกช่ รา ข. คนมีความกตัญญจู ะมีแตค่ วามเจริญในชีวติ ค. ความกตญั ญเู ป็นสง่ิ ดงี าม ง. ความกตัญญนู าสุขมาใช้

๘ กระดำษคำตอบ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบฝึกทักษะกำรอ่ำนจบั ใจควำมสำคัญ เลม่ ท่ี ๒ เร่ือง พนิ ิจข้อคดิ จำกนทิ ำน ชอ่ื – สกุล ___________________________________ ช้นั ______ เลขท่ี _____ คำชีแ้ จง นักเรียนเลอื กคาตอบที่ถูกทสี่ ุดเพียงคาตอบเดียว โดยทาเครอ่ื งหมาย × ลงใน กระดาษคาตอบ จานวน ๑๐ ขอ้ (๑๐ คะแนน) คำตอบ ขอ้ ท่ี ก ข ค ง ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐ สรปุ คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ คะแนน

๙ ศกึ ษำใบควำมรู้ ความหมายของนิทาน นิทาน หมายถึง เร่ืองราวที่เล่าสืบต่อกันมา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความ สนุกสนานเพลิดเพลิน ให้เด็กเกิดจินตนาการจากเร่ืองที่อ่าน อาจจะเป็นเรื่องจริงหรือ เร่ืองท่ีสมมติข้ึน ในนิทานจะแทรกคุณธรรม คติสอน แง่คิด และวัฒนธรรมประเพณี เพือ่ ให้เดก็ นาไปเป็นแบบอย่างหรือประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวันได้ นิทานอสี ป นิทานอีสป เป็นเร่ืองสั้นซ่ึงเป็นคติคาสอน โดยการสอดแทรกศีลธรรมและสอน บทเรียนให้แก่เด็ก ๆ รูปแบบการนาเสนอน่าสนใจสาหรับเด็ก ๆ มักจะมีตัวละครเป็น สัตว์ต่าง ๆ มีการดาเนนิ เรื่องสนกุ สนาน เป็นเร่ืองทเ่ี ล่าตอ่ ๆ กนั มาเปน็ เวลานาน หลักการอา่ นจบั ใจความสาคญั การอ่านจับใจความสาคัญนิทานอีสป เป็นการอ่านเพ่ือหาสาระของเร่ืองน้ัน ๆ อาจมีข้อคิด คติธรรมหรือคาสอนอันเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน การอ่านจับใจความนิทาน อสี ปก็มีหลกั การอา่ นเหมือนกบั การอ่านเรือ่ งทว่ั ไป คือเน้นการสรุปสาระสาคัญของเร่อื ง ซ่งึ มขี น้ั ตอนการอ่าน ดังนี้

๑๐ ขนั้ ท่ี ๑ ศกึ ษำคำศพั ท์และควำมหมำย เมือ่ นกั เรียนอ่านเร่ืองเล่าจากประสบการณ์ แล้วใช้ข้อความบริบทของเร่ือง บอกความหมายของคาศัพท์ที่กาหนดให้ เพื่อช่วยให้เข้าใจความหมายของคาศัพท์และ เขา้ ใจเนือ้ เรอื่ งทอ่ี ่านมากขึ้น ขนั้ ท่ี ๒ ตอบคำถำมจำกเน้อื เรือ่ ง เมื่อนักเรียนค้นหาความหมายของคาแล้วก็จะมีความเข้าใจเน้ือเร่ืองท่ีอ่าน มากข้ึน และนาความรู้จากการอ่านมาตอบคาถามเพ่ือทบทวนเร่ืองราวหรือเหตุการณ์ ตา่ ง ๆ ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในเร่ืองอกี คร้ัง ข้นั ท่ี ๓ วิเครำะห์เนื้อควำม เป็นข้ันท่ีให้นักเรียนวิเคราะห์เนื้อความอย่างละเอียดอีกคร้ังว่า มีเน้ือความส่วน ใดเป็นขอ้ เทจ็ จริง และเนอ้ื ความส่วนใดเป็นข้อคดิ เห็น ข้อเท็จจริง หมายถึง ข้อความท่ีแสดงถึงเรื่องราวเหตุการณ์ท่ีเป็นจริงตาม ธรรมชาติ มีหลกั ฐานสนบั สนนุ ยืนยนั และสามารถพสิ จู นใ์ หเ้ ห็นจรงิ ได้ ข้อคิดเหน็ หมายถึง ขอ้ ความทแี่ สดงความรสู้ ึก ความเช่อื ความคดิ เห็นหรือ การคาดคะเนของบุคคลใดบุคคลหนึ่งทม่ี ตี อ่ สงิ่ ใดส่งิ หน่ึง

๑๑ ข้นั ที่ ๔ สรปุ ใจควำมสำคญั ตำมแผนภำพโครงเรื่อง เป็นข้ันการนาข้อมูลความรู้และข้อเท็จจริงมาจัดเป็นระบบ สร้างเป็นแผนภาพ โครงเรื่องหรือจัดระบบความคิด โดยการกาหนดหัวข้อจากเรื่องที่อ่านมาแยกเป็นหัวข้อ ย่อย แล้วนามาเรียบเรียงความรู้ให้เป็นระบบ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายย่ิงข้ึน โดยใช้เทคนิค คาถาม ๕ W ๑ H ตง้ั ประเดน็ คาถามจากเรอ่ื งท่ีอ่านว่า ใคร ทาอะไร ที่ไหน เมอ่ื ไร ทาไม และผลเป็นอย่างไร ใคร (Who) หมายถงึ ตวั ละครในเร่ือง ทาอะไร (What) หมายถึง เหตกุ ารณ์ทีเ่ กดิ ขึ้น ท่ไี หน (Where) หมายถึง สถานทเี่ กดิ เหตุการณ์ เมอื่ ไร (When) หมายถงึ วันเวลาท่ีเกิดเหตกุ ารณ์ ทาไม (Why) หมายถึง เหตุผลที่ทาเช่นนั้น เพราะเหตใุ ด ผลเปน็ อย่างไร (How) หมายถงึ ผลสุดทา้ ยของเหตุการณท์ เ่ี กดิ ขึ้น ข้ันท่ี ๕ สรุปควำมรู้และข้อคิดจำกกำรอ่ำน การสรุปใจความสาคัญ คือ การนาประเด็นสาคัญจากขั้นที่ ๔ ใคร ทาอะไร ทไ่ี หน เม่ือไร ทาไม และผลเป็นอย่างไร นามาเรียบเรียงใหมด่ ้วยภาษาของตนเองอย่าง สละสลวย ใช้คาเช่ือมโยงให้ข้อความสัมพันธ์กัน ใช้ภาษากระชับ เข้าใจง่ายได้ใจความ ชัดเจน โดยไม่ใช้อักษรย่อ และสรุปข้อคิดจากการอ่านท่ีสามารถนาไปประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ได้ หมำยเหตุ การใช้คาถามตามเทคนิค ๕ W ๑ H จะช่วยไล่เรียงความชัดเจนในแต่ละ เร่อื งไดเ้ ปน็ อย่างดี ครบถว้ นสมบูรณ์ หรอื อาจจะใชไ้ ม่ครบทุกขอ้ ก็ได้

๑๒ ตวั อย่ำง กำรอ่ำนจับใจควำมสำคญั จำกนิทำนอีสป คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่ำนเร่ือง “หมำจิ้งจอกกับแพะ” แล้วทำแบบฝึกทักษะกำรอ่ำน จบั ใจควำมสำคัญใหค้ รบท้ัง ๕ ขน้ั หมำจิ้งจอกกบั แพะ วันหนึ่งหมาจ้ิงจอกตัวหนึ่งตกลงไปในบ่อลึก พยายามตะเกียกตะกายสักเท่าใดก็ ขึ้นไม่ได้ เม่ือจนปัญญาก็เกาะข้างบอ่ นิ่งๆ พอไม่ให้จมน้าตาย เมื่อมีแพะตัวหนง่ึ กระหาย นา้ เดินมาทป่ี ากบ่อ เหน็ หมาจิ้งจอกลงไปอยู่ในบ่อจึงรอ้ งถามหมาจิ้งจอกไปว่าน้าลึกหรือ ตื้น รสจืดสนิทดีหรือกร่อยเค็มเป็นอย่างไร หมาจิ้งจอกได้ฟังดังนั้นก็ดีใจ หมายจะลวง แพะเอาตวั รอดจงึ รอ้ งตอบไปว่า “ลงมาเถิดเว้ย น้าในน้ีจืดเย็นดีนัก ลงมากิน อาบเล่นด้วยกันให้สบายใจเถิด” แพะไม่รู้ทันหมาจิ้งจอกก็กระโจนลงไปทันที หาได้ตรองเสียก่อนไม่ หมาจิ้งจอกได้ช่องก็ เหยยี บเขาแพะกระโดดขนึ้ ฝั่ง แลว้ ชะโงกลงไปพดู กับแพะว่า “ถ้าเจ้ามีความคิดมากเท่ากับเส้นเคราของเจ้า ก็จะไม่เสียท่าเราถึงเพียงน้ี ท่ีถูก เจา้ ตอ้ งคดิ ใหด้ เี สียก่อน แล้วจึงค่อยกระโดดลงไป” นิทานอสี ป: มหาอามาตยโ์ ท พระยาเมธาธิบดี

๑๓ ขั้นที่ ๑ ศึกษำคำศัพท์และควำมหมำย จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถบอกควำมหมำยของคำจำกนิทำนอสี ปได้ คำชี้แจง ให้นักเรียนจับคู่คากับความหมายของคาจากการอ่านนิทานอีสป เรื่อง “หมาจ้ิงจอกกับแพะ” โดยนาตัวอักษรหน้าความหมายทางขวามือ มาใส่ใน หน้าคาทางซา้ ยมือให้มคี วามสมั พันธ์กันข้อละ ๑ คะแนน (๕คะแนน) คำ ควำมหมำย ๑. ง เสยี ทา่ ก. พยายามปา่ ยปีนข้นึ ไป ๒. ฉ จนปญั ญา ข. รู้สกึ คอแหง้ ดว้ ยอยากดม่ื น้า ๓. ก ตะเกยี กตะกาย ค. หมดทางต่อสู้ ๔. ข กระหาย ง. พลาดทา่ ๕. ช ตรอง จ. ประมาทไมร่ อบคอบ ฉ. ไมร่ ู้จะคิดแกป้ ัญหาอยา่ งไร ช. คิดทบทวน

๑๔ ข้ันท่ี ๒ ตอบคำถำมจำกเน้ือเรอ่ื ง จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ นักเรยี นสำมำรถตอบคำถำมจำกกำรอำ่ นนิทำนอีสปได้ คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามจากการอ่านนิทานอีสป เร่ือง “หมาจ้ิงจอก กับแพะ” โดยพิจารณาข้อความท่ีกาหนดให้ว่ามีความสอดคล้องกัน กับเรอื่ งที่อ่านหรือไมแ่ ลว้ ใสเ่ คร่อื งหมาย √ ในช่อง หน้าขอ้ ความ ท่มี ีความสอดคลอ้ งกบั เน้ือเรอื่ งและใส่เคร่ืองหมาย × ในช่อง หน้าข้อความทีไ่ ม่สอดคลอ้ งกับเน้ือหา √ ๑. หมาจ้งิ จอกตวั หนง่ึ ตกลงไปในบ่อลึก และข้นึ ไมไ่ ด้ × ๒. หมาจิ้งจอกเห็นแพะเดินมาที่ปากบ่อจงึ รอ้ งขอความชว่ ยเหลอื √ ๓. แพะกระโดดลงไปในบ่อตามคาชักชวนของสนุ ัขจิ้งจอก √ ๔. หมาจิ้งจอกเหยยี บเขาแพะและกระโดดขึ้นฝ่ังไป × ๕. หมาจิ้งจอกรูส้ กึ สงสารแพะจงึ พยายามหาทางชว่ ยเหลอื

๑๕ ขัน้ ท่ี ๓ วเิ ครำะหเ์ นือ้ ควำม จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ นักเรียนสำมำรถแยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ จำกนทิ ำน อีสปได้ ใหน้ กั เรยี นจาแนกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นจากข้อความท่กี าหนดให้ คำชี้แจง แลว้ เขียนคาวา่ ข้อเทจ็ จริง ลงในช่องว่างหนา้ ขอ้ ความทเี่ ป็นขอ้ เท็จจรงิ และเขยี นคาว่า ข้อคดิ เหน็ ลงในชอ่ งว่างหน้าขอ้ ความทเ่ี ป็นขอ้ คิดเห็น ข้อสังเกต ข้อเทจ็ จรงิ หมายถึง ขอ้ ความทีเ่ ปน็ จรงิ ตามเนอ้ื เรอ่ื ง มีหลักฐานสามารถ พิสจู นใ์ ห้เหน็ จริงได้ ขอ้ คดิ เหน็ หมายถงึ ข้อความท่ีแสดงความรสู้ ึก ความเชือ่ ความคดิ เห็น ของบุคคลตอ่ ส่ิงใดส่ิงหนึ่ง ______ข_้อ_เ_ท__็จ_จ_ร__ิง_____ ๑. หมาจิ้งจอกตัวหนึ่งตกไปในบ่อลกึ และข้นึ ไมไ่ ด้ ______ข_้อ_เ_ท__จ็ _จ_ร__งิ _____ ๒. มีแพะตวั หนงึ่ กระหายนา้ เดินมาทป่ี ากบอ่ ______ข_อ้__ค_ดิ__เห__็น______ ๓. ลงมาเถดิ เวย้ นา้ ในนีจ้ ดื เยน็ ดีนัก ลงมากนิ อาบเล่น ดว้ ยกนั เถดิ ______ข_้อ_เ_ท__็จ_จ_ร__ิง_____ ๔. หมาจงิ้ จอกไดช้ ่องจึงเหยียบเขาแพะแล้วกระโดดข้นึ ฝ่งั ______ข_้อ__ค_ิด__เห__็น______ ๕. ถา้ เจ้ามีความคดิ มากเทา่ เคราของเจ้ากจ็ ะไมเ่ สยี ทา่ เรา ถงึ เพยี งน้ี

๑๖ ขนั้ ท่ี ๔ สรปุ ใจควำมสำคญั ตำมแผนภำพโครงเรื่อง จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นกั เรียนสรปุ ใจควำมสำคัญตำมแผนภำพโครงเร่ืองได้ ให้นักเรียนนาความรู้จากการอ่านนิทานอีสป เรื่อง “หมาจ้ิงจอกกับแพะ” คำชี้แจง มาเขียนแผนภาพโครงเรอื่ ง ตามประเดน็ ทก่ี าหนดไว้ใหถ้ ูกตอ้ ง เรื่อง _________ห__ม_ำ_จ__ิง้ _จ_อ__ก_ก_ับ__แ_พ__ะ_________________ ใคร ________ห____ม__ำ__จ____้ิง__จ__อ__ก__________แ__พ____ะ____________________________________________________________ ทาอะไร หท______ปีม่ ___ำำ______จก___ง้ิบ___จ___่ออ______หก___ตม___ก___ำ___จล___งิ้ง___จไ___ป___อ___ใก___นจ___บ___งึ ___อ่ล___ลว___กึ___ง___แข___พนึ้______ะไ___มใ___หไ่ ___ด้ก___้___รเ___ะม___โอื่___ด___มด___ีแ___ล___พง___ไะ___ปเ___ด___ใ___นนิ ___บม___ำ___่อ___ น__ัน้ __แ__ล_ว้ _ม__นั _ก__เ็ ห__ย_ีย_บ__เ_ข_ำ_แ__พ_ะ__ข_ึน้ __ฝ_ง่ั ____________________ ทไี่ หน เมื่อไร ___________________________________________________ ทาไม ผลเป็นอย่างไร ใ_น__บ_่อ__ล_ึก____________________________________________ __เม____่อื __แ____พ__ะ__เ__ด____นิ __ม__ำ____ท__ี่ป____ำ__ก__บ____อ่ __________________________________________________________ __ห__ม____ำ__ย__จ__ะ____ล__ว__ง__แ____พ__ะ____เอ____ำ__ต__วั____ร__อ__ด____________________________________________________ __แ__พ____ะ__ต__ก____ไป____อ__ย____ูใ่ __น__บ____อ่ __ล__กึ____แ__ท____น__ห____ม__ำ__จ____ิง้ __จ__อ____ก________________________________

๑๗ ขนั้ ท่ี ๕ สรุปควำมรแู้ ละข้อคดิ จำกกำรอ่ำน จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ นกั เรยี นสำมำรถสรุปควำมรแู้ ละขอ้ คดิ จำกนทิ ำนอีสปได้ คำชแี้ จง ให้นักเรียนนาข้อมูลการวิเคราะห์เน้ือความในขั้นที่ ๔ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เม่อื ไร ทาไม และผลเปน็ อย่างไร มาเรยี บเรียงใหม่ดว้ ยภาษาของนักเรยี นเอง พร้อมบอกขอ้ คิดจากการอา่ นให้ถกู ตอ้ ง ใจควำมสำคัญของนทิ ำนอสี ป เรือ่ ง __________ห__ม_ำ_จ__ง้ิ _จ_อ_ก__ก_ับ__แ_พ__ะ________________ ____________________________________________________________________________ ______ห_ม__ำ_จ_งิ้ _จ__อ_ก_ต__ก_ล_ง__ไป__ใ_น_บ__่อ_ล__กึ _ข_ึ้น__ไ_ม_่ไ_ด__้ เ_ม__อื่ _ม_แี__พ_ะ__เด__ิน_ม__ำ_ท_ป่ี__ำ_ก_บ__่อ__ห__ม_ำ_จ__้งิ _จ_อ_ก__ ____________________________________________________________________________ ___จ_ึง_ล__ว_ง_แ_พ__ะ_ใ_ห__้ก_ร_ะ_โ_ด__ด_ล_ง_ไ_ป__ใ_น_บ__่อ_น__น้ั __แ_ล__ว้ _ม__นั _ก_เ็_ห__ย_ีย_บ__เ_ข_ำ_แ__พ_ะ_ข__น้ึ _ฝ__ง่ั _ท_ำ__ใ_ห_้แ_พ__ะ___ ______ต__ก__ล____ง__ไ__ป__อ____ย__ู่ใ__น____บ__อ่ __ล____กึ __แ____ท__น____ห__ม____ำ__จ__้ิง__จ____อ__ก__________________________________________________________________________________ ข้อคิดทไี่ ดจ้ ำกกำรอ่ำนเร่ืองนี้ คอื ____________________________________________________________________________ _______อ_ย__ำ่ _เ_ช_อ่ื _ค__ำ_พ__ดู _ข_อ__ง_ใ_ค_ร_ง__่ำ_ย_ๆ__ค__ว_ร_ค__ดิ _ใ_ห_้ร__อ_บ__ค_อ_บ__ก_่อ__น_ล_ง__ม_ือ_ท__ำ_อ_ะ__ไร__________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________

๑๘ แบบฝึกทกั ษะกำรอ่ำนจับใจควำมสำคัญจำกนทิ ำนอีสป เรอ่ื งท่ี ๑ คำช้ีแจง ให้นักเรียนอ่ำนเร่ือง “หนูเมืองกับหนูนำ” แล้วทำแบบฝึกทักษะกำรอ่ำน จบั ใจควำมสำคญั ให้ครบทง้ั ๕ ข้นั หนเู มืองกับหนนู ำ หนูเมืองกับหนูนาเป็นเพื่อนรักกัน วันหนึ่งหนเู มืองไปเย่ียมหนนู าทช่ี นบท หนูนา ต้อนรับเพื่อนอย่างอบอุ่นดว้ ยการหาอาหารมาเล้ียงอย่างไม่อ้ัน ท้ังถัว่ เนยแข็งและขนมปัง หนูเมอื งประหลาดใจว่าหนูนาทนกับสภาพชวี ิตความเปน็ อยู่แบบน้ีได้อย่างไร จึงชวนหนนู า เข้าไปเที่ยวในเมือง เมือ่ ทั้งสองเดินทางเข้าเมือง หนูเมืองพาหนูนาไปห้องอาหารใหญ่โต หนูนาพบเศษอาหารมากมายที่เหลอื จากอาหารชัน้ เลศิ ท้ังสองรบี กนิ น้าหวาน เยลล่ี เค้ก รวมถึงของอร่อย ๆ อีกมากมาย ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก สุนัขตัวใหญ่วิ่งเข้ามาในห้อง หนูท้ังสองรีบกระโดดหลบหนีไป หนูนากล่าวลาหนูเมืองเพราะคิดว่าท่ีน่ีอาจไม่เหมาะ กับชีวติ ของหนนู า ทม่ี า: นทิ านอสี ป

๑๙ ขนั้ ท่ี ๑ ศกึ ษำคำศพั ท์และควำมหมำย จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นกั เรียนสำมำรถบอกควำมหมำยของคำจำกนทิ ำนอสี ปได้ คำช้แี จง ให้นักเรียนจับคู่คากับความหมายของคาจากการอ่านนิทานอีสป เร่ือง “หนูเมืองกับหนูนา” โดยนาตัวอักษรหน้าความหมายทางขวามือ มาใส่ใน หน้าคาทางซ้ายมือให้มคี วามสมั พันธ์กนั ข้อละ ๑ คะแนน (๕คะแนน) คำ ควำมหมำย ๑. ชนบท ก. ขนมหวานเจลาติน หรอื เรียกวา่ เจลล่ี ๒. เยลล่ี ข. ไม่กาหนดจานวนสูงสุด ๓. เค้ก ค. เขตแดนท่ีพน้ จากเมอื งหลวงออกไป ๔. ไม่อน้ั ง. ห้องอาหารชน้ั เลิศ ๕. เศษอาหาร จ. ขนมฝรัง่ ชนดิ หน่งึ ทาด้วยแป้งสาลผี สมไข่ เนย น้าตาล ฉ. ขนมท่ใี ชใ้ นงานมงคล ช. อาหารทเี่ หลอื จากการบริโภคแลว้

๒๐ ขั้นที่ ๒ ตอบคำถำมจำกเนือ้ เรอื่ ง จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ นักเรยี นสำมำรถตอบคำถำมจำกกำรอ่ำนนทิ ำนอสี ปได้ คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามจากการอ่านนทิ านอีสป เรอื่ ง “หนเู มอื งกบั หนูนา” โดยพิจารณาข้อความที่กาหนดให้ว่ามีความสอดคล้องกัน กับเรื่องที่ อ่านหรือไม่แล้วใส่เครื่องหมาย √ ในช่อง หน้าข้อความท่ีมีความ สอดคลอ้ งกับเนอ้ื เร่อื งและใสเ่ ครือ่ งหมาย × ในช่อง หน้าขอ้ ความ ทีไ่ มส่ อดคลอ้ งกบั เนือ้ หา ๑. หนูเมืองมาเยย่ี มหนนู าที่ชนบท หนูนาจึงต้อนรบั เพื่อนอย่าง อบอนุ่ ๒. หนเู มอื งชอบสภาพชีวติ ความเปน็ อยทู่ เี่ รียบง่ายของหนนู า ๓. หนเู มอื งชวนหนนู าไปเท่ยี วในเมอื ง และพาไปกินเศษอาหาร ในหอ้ งอาหารใหญโ่ ต ๔. เมื่อสนุ ัขตัวใหญว่ งิ่ เขา้ มาในห้องอาหาร หนทู ั้งสองกระโดด หลบหนีไป ๕. หนูนาชอบชีวิตความเปน็ อยใู่ นเมอื ง และบอกวา่ จะกลบั มา เทย่ี วในเมอื งอกี

๒๑ ข้ันท่ี ๓ วเิ ครำะห์เนอื้ ควำม จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นกั เรียนสำมำรถแยกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จำกนิทำน อีสปได้ ใหน้ กั เรียนจาแนกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เหน็ จากขอ้ ความท่ีกาหนดให้ คำชี้แจง แลว้ เขยี นคาวา่ ข้อเท็จจริง ลงในช่องวา่ งหน้าขอ้ ความที่เปน็ ขอ้ เทจ็ จริง และเขยี นคาวา่ ข้อคดิ เห็น ลงในชอ่ งว่างหน้าขอ้ ความท่ีเปน็ ขอ้ คิดเห็น ข้อสงั เกต ขอ้ เทจ็ จรงิ หมายถงึ ขอ้ ความท่ีเปน็ จรงิ ตามเนอื้ เร่ือง มหี ลักฐานสามารถ พสิ จู นใ์ หเ้ ห็นจรงิ ได้ ข้อคิดเหน็ หมายถงึ ข้อความท่แี สดงความรสู้ กึ ความเชอื่ ความคดิ เห็น ของบุคคลต่อส่ิงใดสงิ่ หนง่ึ ____________________ ๑. หนูเมืองไปเยย่ี มหนนู าท่ชี นบท ____________________ ๒. หนเู มืองชวนหนูนาไปเท่ยี วในเมอื ง ____________________ ๓. หนูเมอื งประลาดใจว่าหนนู าทนใช้ชวี ติ แบบน้ีได้อย่างไร ____________________ ๔. ในเมอื งนอ้ี าจไม่เหมาะกับชีวิตของหนูนา ____________________ ๕. สนุ ขั ตัวใหญ่ว่งิ เข้ามาในหอ้ งอาหาร หนูทง้ั สองรบี หลบหนี

๒๒ ข้นั ที่ ๔ สรุปใจควำมสำคญั ตำมแผนภำพโครงเร่ือง จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ นักเรียนสรุปใจควำมสำคญั ตำมแผนภำพโครงเร่อื งได้ ให้นักเรียนนาความรู้จากการอ่านนิทานอีสป เรื่อง “หนูเมืองกับหนูนา” คำชแี้ จง มาเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง ตามประเดน็ ที่กาหนดไว้ใหถ้ ูกตอ้ ง เรือ่ ง ___________________________________________ ใคร ___________________________________________________ ___________________________________________________ ทาอะไร ___________________________________________________ ท่ไี หน ___________________________________________________ เม่อื ไร ___________________________________________________ ทาไม ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ผลเปน็ อย่างไร ___________________________________________________ ___________________________________________________

๒๓ ขัน้ ที่ ๕ สรปุ ควำมร้แู ละขอ้ คิดจำกกำรอำ่ น จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ นักเรียนสำมำรถสรปุ ควำมรแู้ ละขอ้ คดิ จำกนทิ ำนอีสปได้ ให้นักเรียนนาข้อมูลการวิเคราะห์เน้ือความในขั้นท่ี ๔ ใคร ทาอะไร ที่ไหน เมอ่ื ไร ทาไม และผลเปน็ อยา่ งไร มาเรยี บเรียงใหมด่ ว้ ยภาษาของนักเรยี นเอง คำชี้แจง พรอ้ มบอกขอ้ คิดจากการอ่านใหถ้ ูกต้อง ใจควำมสำคัญของนทิ ำนอีสป เรื่อง ___________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ข้อคิดทไ่ี ด้จำกกำรอำ่ นเรอ่ื งน้ี คอื ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________

๒๔ แบบฝึกทกั ษะกำรอ่ำนจับใจควำมสำคัญจำกนิทำนอีสป เร่อื งที่ ๒ คำช้ีแจง ให้นักเรียนอ่ำนเร่ือง “สองสหำยกับหมี” แล้วทำแบบฝึกทักษะกำรอ่ำน จบั ใจควำมสำคัญให้ครบทั้ง ๕ ข้ัน สองสหำยกบั หมี กาลครั้งหน่ึง มีชายสองคนเป็นเพื่อนรักกันมาก วันหน่ึง ทั้งสองเดินทางเข้าไปใน ปา่ และพบหมีหิวโซตัวหนึ่งท่ีกาลังเดินตรงมาท่ีพวกเขา ทันใดนั้นชายคนแรกก็รีบวิ่งหนี แลว้ ปีนขน้ึ ไปบนต้นไม้โดยท้งิ เพอื่ นไว้ด้านล่างเพยี งลาพงั ชายอีกคนหน่ึงรู้สึกตกใจกลัว แต่ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหน จึงแกล้งนอนตายอยู่ใต้ ตน้ ไมน้ น้ั หมีเดินตรงเขา้ มาหาชายคนทแ่ี กล้งตายพร้อมยนื่ จมูกเข้าไปใกล้ ๆ เพอ่ื ดมกลิ่น สักครู่มันก็ร้องคารามและเดินกลับเข้าป่าไป เพราะโดยธรรมชาติของหมีน้ันจะไม่กิน เหยื่อทต่ี ายแลว้ หลงั จากนน้ั ชายคนท่อี ยู่บนต้นไม้จงึ ปนี ลงมาและถามเพอ่ื นของเขาทแี่ กลง้ ตายว่า เมื่อครู่นี้หมีพูดอะไรกับเจ้าบ้าง ชายคนท่ีแกล้งตายลุกข้ึนแล้วตอบว่า “มันบอกกับข้าว่า อยา่ ไดร้ ่วมทางไปกบั คนทที่ ิง้ เพือ่ น และหนเี อาตวั รอดแต่เพียงผเู้ ดียวเปน็ อันขาด” ท่มี า : นิทานอสี ป

๒๕ ขน้ั ที่ ๑ ศึกษำคำศพั ท์และควำมหมำย จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ นกั เรียนสำมำรถบอกควำมหมำยของคำจำกนทิ ำนอีสปได้ คำชี้แจง ให้นักเรียนจับคู่คากับความหมายของคาจากการอ่านนิทานอีสป เร่ือง “สองสหายกับหมี” โดยนาตัวอักษรหน้าความหมายทางขวามือ มาใส่ใน หน้าคาทางซ้ายมือให้มีความสมั พันธ์กันข้อละ ๑ คะแนน (๕คะแนน) คำ ควำมหมำย ๑. หิวโซ ก. แสร้งทาให้เขา้ ใจผดิ ๒. คาราม ข. เพื่อนรว่ มทกุ ขร์ ว่ มสุข ๓. เพยี งลาพงั ค. คนทีท่ ง้ิ เพอ่ื น ๔. แกลง้ ง. ทาเสยี งขู่ ๕. สหาย จ. หิวมาก อดอยาก ฉ. เหยื่อท่ีตายแล้ว ช. เพยี งผูเ้ ดียว

๒๖ ขั้นท่ี ๒ ตอบคำถำมจำกเน้อื เรอื่ ง จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ นกั เรียนสำมำรถตอบคำถำมจำกกำรอำ่ นนทิ ำนอีสปได้ คำชี้แจง ให้นักเรยี นตอบคาถามจากการอ่านนิทานอีสป เรื่อง “สองสหายกับหมี” โดยพิจารณาข้อความที่กาหนดให้ว่ามีความสอดคล้องกัน กับเร่ืองท่ี อ่านหรือไม่แล้วใส่เครื่องหมาย √ ในช่อง หนา้ ข้อความที่มีความ สอดคลอ้ งกบั เน้อื เรื่องและใสเ่ ครื่องหมาย × ในชอ่ ง หนา้ ข้อความ ทไี่ มส่ อดคล้องกบั เนือ้ หา ๑. ชายทง้ั สองเดินทางเขา้ ไปในป่าพบหมีหิวโซเดนิ ตรงมาทพี่ วกเขา ๒. ชายคนแรกรบี วง่ิ หนีขน้ึ ไปบนต้นไม้ทิง้ เพอื่ นไว้ดา้ นลา่ ง ๓. หมีไม่ทาร้ายชายทแ่ี กลง้ ตายเพราะตกใจเสยี งคารามของสิงโต เจ้าป่า ๔. ธรรมชาติของหมีนน้ั จะไม่กนิ เหย่ือทต่ี ายแล้ว ๕. หลังจากที่ชายคนทป่ี ีนขน้ึ ไปบนตน้ ไม้ลงมาทงั้ สองก็เดนิ ทางไป ด้วยกัน

๒๗ ขน้ั ท่ี ๓ วิเครำะห์เน้อื ควำม จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นักเรยี นสำมำรถแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ จำกนิทำน อสี ปได้ ใหน้ ักเรยี นจาแนกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นจากข้อความทก่ี าหนดให้ คำช้แี จง แลว้ เขยี นคาวา่ ขอ้ เท็จจริง ลงในชอ่ งว่างหนา้ ขอ้ ความท่ีเป็นข้อเทจ็ จริง และเขยี นคาว่า ขอ้ คดิ เหน็ ลงในช่องวา่ งหน้าขอ้ ความท่เี ปน็ ขอ้ คดิ เหน็ ขอ้ สงั เกต ข้อเท็จจริง หมายถงึ ขอ้ ความทเ่ี ป็นจริงตามเนอ้ื เรอื่ ง มีหลกั ฐานสามารถ พสิ จู นใ์ หเ้ ห็นจริงได้ ข้อคดิ เหน็ หมายถึง ข้อความท่แี สดงความรสู้ ึก ความเชอ่ื ความคดิ เหน็ ของบุคคลตอ่ สิ่งใดสง่ิ หนึ่ง ____________________ ๑. ชายคนหนง่ึ วง่ิ หนีปนี ข้ึนไปบนต้นไม้ ____________________ ๒. ชายสองคนเดนิ ทางเขา้ ไปในปา่ และพบหมีเดนิ ตรงมา ทพี่ วกเขา ____________________ ๓. ไม่ควรรว่ มทางไปกบั คนท่ที ิ้งเพอื่ น ____________________ ๔. ชายอีกคนรสู้ ึกตกใจกลวั แตไ่ ม่ร้จู ะหนไี ปไหน ____________________ ๕. หมเี ดนิ ตรงเขา้ มาหาชายคนที่แกล้งตายสักครมู่ นั กเ็ ดนิ เขา้ ป่าไป

๒๘ ขั้นที่ ๔ สรุปใจควำมสำคัญตำมแผนภำพโครงเรอ่ื ง จุดประสงค์กำรเรียนรู้ นกั เรียนสรปุ ใจควำมสำคญั ตำมแผนภำพโครงเรื่องได้ ให้นักเรียนนาความรู้จากการอ่านนิทานอีสป เร่ือง “สองสหายกับหมี” คำชแี้ จง มาเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง ตามประเด็นที่กาหนดไว้ให้ถูกต้อง เร่ือง ___________________________________________ ใคร ___________________________________________________ ___________________________________________________ ทาอะไร ___________________________________________________ ทไี่ หน ___________________________________________________ เม่อื ไร ___________________________________________________ ทาไม ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ผลเปน็ อย่างไร ___________________________________________________ ___________________________________________________

๒๙ ขนั้ ท่ี ๕ สรปุ ควำมรู้และขอ้ คิดจำกกำรอำ่ น จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นักเรยี นสำมำรถสรุปควำมรแู้ ละข้อคดิ จำกนทิ ำนอสี ปได้ ให้นักเรียนนาข้อมูลการวิเคราะห์เนื้อความในขั้นที่ ๔ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมอ่ื ไร ทาไม และผลเป็นอย่างไร มาเรยี บเรียงใหม่ดว้ ยภาษาของนักเรยี นเอง คำช้แี จง พรอ้ มบอกขอ้ คดิ จากการอา่ นให้ถูกต้อง ใจควำมสำคัญของนทิ ำนอสี ป เรื่อง ___________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ขอ้ คิดทีไ่ ดจ้ ำกกำรอำ่ นเรอ่ื งนี้ คอื ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________

๓๐ แบบฝกึ ทกั ษะกำรอ่ำนจับใจควำมสำคญั จำกนทิ ำนอสี ป เรอ่ื งท่ี ๓ คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นอำ่ นเรอื่ ง “ขมุ ทรพั ยไ์ รอ่ ง่นุ ” แลว้ ทำแบบฝกึ ทกั ษะกำรอ่ำน จบั ใจควำมสำคัญให้ครบทั้ง ๕ ขั้น ขมุ ทรัพย์ไรอ่ งุ่น ท่ีไร่องุ่นแห่งหน่ึง มีพ่อชรามากกับลูกชายจอมข้ีเกียจ ๓ คนอาศัยอยู่ ต่อมาพ่อ ล้มป่วยลงและก่อนจะสิ้นลมหายใจ ได้เรียกลูกชายท้ังสามมาส่ังเสียว่าอย่าขายท่ีดิน เพราะพ่อได้ซ่อนขมุ ทรัพย์มหาศาลเอาไว้ ใหพ้ รวนดินขุดดินหาให้ทั่วทุกตารางน้วิ ของไร่ เม่ือพ่อเสียชีวิตแล้ว ลูกชายทั้งสามก็ลงมือขุดไถคราดพรวนดิน แต่พวกเขาก็ไม่พบแม้ เศษเงนิ หนึ่งปีผ่านไป ไร่องุ่นทพ่ี วกเขาต้ังหนา้ ต้ังตาขุดพรวนดิน เพ่ือหาขุมทรัพยน์ ั้นกลับ ออกดอกออกผล ลกู ชายทงั้ สามจงึ ชว่ ยกันนาผลองนุ่ ไปขาย และพวกเขาก็รแู้ ลว้ ขุมทรพั ย์ ที่พ่อพูดถึงน้ัน หมายถึงการตั้งใจทางาน ขยันขันแข็ง เอาหยาดเหง่ือแรงงานเข้าแลกใน ท่ีดินทพ่ี ่อของพวกเขาได้ท้งิ ไว้ใหม้ ากกว่าน่ันเอง ทมี่ า: นิทานอสี ป

๓๑ ข้นั ที่ ๑ ศกึ ษำคำศัพท์และควำมหมำย จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ นักเรยี นสำมำรถบอกควำมหมำยของคำจำกนิทำนอีสปได้ คำชีแ้ จง ให้นักเรียนจับคู่คากับความหมายของคาจากการอ่านนิทานอีสป เร่ือง “ขุมทรัพย์ไร่องุ่น” โดยนาตัวอักษรหน้าความหมายทางขวามือ มาใส่ใน หน้าคาทางซา้ ยมือให้มีความสมั พันธ์กันข้อละ ๑ คะแนน (๕คะแนน) คำ ควำมหมำย ๑. สิ้นลมหายใจ ก. อาการป่วยหนัก ๒. ส่ังเสยี ข. ทาให้เกดิ ประโยชน์ หรอื กาไรเพิม่ พูน ๓. ตัง้ หนา้ ตงั้ ตา ค. บอกกาชบั บอกให้เขา้ ใจ ๔. ชรา ง. มุ่งหนา้ ทา ทาดว้ ยความต้ังใจ ๕. ออกดอกออกผล จ. ขาดใจ ตาย ฉ. แก่ดว้ ยอายุ ช. ขุมทรพั ยม์ หาศาล

๓๒ ขัน้ ท่ี ๒ ตอบคำถำมจำกเนอ้ื เร่ือง จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นักเรยี นสำมำรถตอบคำถำมจำกกำรอำ่ นนิทำนอสี ปได้ คำช้ีแจง ให้นักเรียนตอบคาถามจากการอ่านนิทานอีสป เรอ่ื ง “ขุมทรัพย์ไร่องุ่น” โดยพิจารณาข้อความท่ีกาหนดให้ว่ามีความสอดคล้องกัน กับเร่ืองท่ี อา่ นหรือไม่แล้วใส่เครื่องหมาย √ ในช่อง หนา้ ข้อความที่มีความ สอดคล้องกับเน้ือเรื่องและใสเ่ ครอื่ งหมาย × ในชอ่ ง หน้าขอ้ ความ ท่ีไม่สอดคล้องกับเนอ้ื หา ๑. ก่อนท่ีชายชราจะสน้ิ ลมหายใจได้เรยี กลูกชายมาส่งั เสยี วา่ อยา่ ขายทด่ี นิ ๒. ชายชราได้ซ่อนขมุ ทรพั ย์มหาศาลไว้ในไรอ่ งุ่น ๓. เม่ือลกู ชายท้งั สามไดไ้ ถพรวนดินพวกเขาได้พบทรัพยส์ มบตั ิ มากมาย ๔. ลกู ท้งั สามได้นาทรัพยส์ มบตั ิไปขายไดเ้ งินจานวนมหาศาล ๕. ลูกชายท้งั สามรวู้ า่ ขุมทรัพยท์ พี่ อ่ พดู ถงึ นน้ั หมายถงึ ความตงั้ ใจ ทางานขยนั ขันแขง็ นั่นเอง

๓๓ ขั้นท่ี ๓ วเิ ครำะห์เนอื้ ควำม จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ นกั เรยี นสำมำรถแยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เหน็ จำกนิทำน อสี ปได้ ให้นักเรียนจาแนกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจากขอ้ ความทกี่ าหนดให้ คำชี้แจง แล้วเขยี นคาวา่ ขอ้ เทจ็ จริง ลงในชอ่ งวา่ งหน้าขอ้ ความท่ีเป็นข้อเทจ็ จริง และเขยี นคาวา่ ข้อคดิ เห็น ลงในชอ่ งว่างหน้าขอ้ ความทเ่ี ปน็ ขอ้ คดิ เหน็ ขอ้ สังเกต ข้อเทจ็ จริง หมายถึง ขอ้ ความทเ่ี ปน็ จรงิ ตามเนอื้ เรอ่ื ง มหี ลักฐานสามารถ พสิ ูจนใ์ หเ้ ห็นจรงิ ได้ ข้อคดิ เห็น หมายถงึ ข้อความทแ่ี สดงความรูส้ กึ ความเชอ่ื ความคดิ เหน็ ของบุคคลตอ่ สิ่งใดสงิ่ หน่ึง ______________ ๑. ชายชราก่อนสิน้ ใจไดเ้ รยี กลกู ชายมาสัง่ เสียวา่ อย่าขายท่ดี นิ ______________ ๒. ลูกชายทั้งสามลงมือขุดไถคราด พรวนดนิ แตไ่ มพ่ บแม้แต่เศษเงนิ ______________ ๓. ลูกชายทง้ั สามไดช้ ว่ ยกันนาผลองุน่ ไปขาย ______________ ๔. เราควรขยันขันแขง็ เอาหยาดเหงือ่ แรงงานเข้าแลกในทด่ี ินของพอ่ ______________ ๕. ชายชรานา่ จะกลัวลูกชายขายทีด่ นิ หลังจากท่เี ขาตายไปแล้ว

๓๔ ขัน้ ท่ี ๔ สรปุ ใจควำมสำคญั ตำมแผนภำพโครงเรอื่ ง จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ นกั เรยี นสรปุ ใจควำมสำคัญตำมแผนภำพโครงเร่ืองได้ ให้นักเรียนนาความรู้จากการอ่านนิทานอีสป เรื่อง “ขุมทรัพย์ไร่องุ่น” คำช้ีแจง มาเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง ตามประเดน็ ทกี่ าหนดไว้ใหถ้ ูกตอ้ ง เรอื่ ง ___________________________________________ ใคร ___________________________________________________ ___________________________________________________ ทาอะไร ___________________________________________________ ที่ไหน ___________________________________________________ เมอื่ ไร ___________________________________________________ ทาไม ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ผลเปน็ อยา่ งไร ___________________________________________________ ___________________________________________________

๓๕ ขนั้ ท่ี ๕ สรุปควำมรู้และข้อคิดจำกกำรอำ่ น จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นกั เรยี นสำมำรถสรปุ ควำมรแู้ ละข้อคดิ จำกนทิ ำนอสี ปได้ ให้นักเรียนนาข้อมูลการวิเคราะห์เนื้อความในขั้นที่ ๔ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมอ่ื ไร ทาไม และผลเป็นอยา่ งไร มาเรยี บเรียงใหม่ดว้ ยภาษาของนักเรยี นเอง คำช้แี จง พรอ้ มบอกขอ้ คิดจากการอา่ นใหถ้ ูกตอ้ ง ใจควำมสำคัญของนิทำนอสี ป เรื่อง ___________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ขอ้ คิดทีไ่ ดจ้ ำกกำรอำ่ นเรอ่ื งนี้ คอื ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________

๓๖ แบบทดสอบหลงั เรียน เร่อื ง พินจิ ข้อคดิ จำกนิทำน คำช้ีแจง ให้นักเรียนอ่ำนเร่ือง “ลูกหงส์กตัญญู” แล้วตอบคำถำมข้อ ๑ – ๑๐ โดยทำเคร่ืองหมำย × เลอื กขอ้ ทถ่ี ูกตอ้ งทสี่ ดุ เพยี ง ขอ้ เดียว ลงในกระดำษคำตอบ ใชเ้ วลำ ๒๐ นำที (๑๐ คะแนน) ลูกหงส์กตญั ญู มีหงส์ฝูงหนึง่ อาศัยอย่ทู ีภ่ เู ขารมิ ทะเลสาบ แมห่ งส์ทกุ ตัวต่างกกไขอ่ ยา่ งทะนุถนอม ส่วนพ่อหงส์ออกหาอาหารเมื่อลูกหงส์ฟักเป็นตวั พอ่ และแม่หงสจ์ ะลาบากมากขึ้นทัง้ กลัว ลูกจะตกจากรัง กลัวลูกจะเจ็บป่วยแสนเหน่ือยยากกว่าจะเลี้ยงลูกให้โต พ่อและแม่หงส์ ต้องสอนการใช้ชวี ติ ใหล้ ูกหงส์ เมื่อลกู หงสบ์ นิ ได้ก็ถึงเวลาแยกย้ายจากพ่อแมไ่ ปถ่นิ อน่ื เวลาผ่านไปหลายปีฝูงลูกหงส์ต่างอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข วันหน่ึงฝูงลูกหงส์ ปรึกษากันว่าจะไปหาพ่อแม่ซ่ึงตอนนี้ก็คงแก่ชราแล้ว ระหว่างทางเกิดพายุพัดแรงฝูง ลูกหงส์ต่างช่วยกันประคองจนทุกตัวบินข้ามผ่านทะเลไปได้ถึงปลายทาง เม่ือพบพ่อแม่ ลูกหงสก์ ็คอ่ ย ๆ ก้มตวั หมอบลงเอาดอกบวั ให้พ่อแมแ่ ละปรนนิบตั ดิ แู ลจนส้ินอายขุ ยั พรจนั ทร์ จนั ทรวมิ ล

๓๗ ๑. “เม่ือได้พบพ่อแม่แล้วลูกหงส์ค่อย ๆ ก้มตัวลงเอาดอกบัวให้พ่อแม่และอยู่ปรนนิบัติ ดูแลจนส้นิ อายุขยั ” จากข้อความแสดงว่าลกู หงส์มีคุณธรรม ตามข้อใด ก. ความกล้าหาญ ข. ความกตญั ญู ค. ความเมตตากรณุ า ง. ความเอื้อเฟอ้ื เผอื่ แผ่ ๒. “ลูกหงส์ต่างช่วยกันประคองจนทุกตัวบินข้ามผ่านทะเลไปได้ถึงปลายทาง”จากข้อความ คาวา่ ปลายทาง หมายถึงทใ่ี ด ก. จดุ สิน้ สุด ข. จุดจบของชวี ติ ค. รงั ที่ตนอาศยั ง. รังของพอ่ แม่หงส์ ๓. จากเรอื่ ง ข้อความใดเปน็ ขอ้ เท็จจรงิ ก. กลวั ลูกเจ็บปว่ ย ข. กลัวลกู ตกจากรัง ค. ตอนนี้พอ่ แมก่ ็คงแกช่ ราแล้ว ง. เม่อื ลกู หงส์บนิ ไดก้ ็แยกยา้ ยไปอยูถ่ น่ิ อ่นื ๔. จากขอ้ ความ พอ่ แมห่ งสไ์ ม่ไดส้ อนการใช้ชีวติ ในข้อใด ก. การบิน ข. การสรา้ งรงั ค. การหาอาหาร ง. การปรนนิบตั พิ ่อแม่ ๕. ในระหว่างทางท่ีลูกหงส์บินกลับไปหาพ่อแม่ ลูกหงส์พบอุปสรรคแต่สามารถเดินทาง ได้ปลอดภยั เพราะเหตุใด ก. หยุดพักระหวา่ งทาง ข. การช่วยเหลอื ซึ่งกันละกนั ค. โชคดที ฝ่ี นหยุดตกจึงบนิ ตอ่ ไปได้ ง. ไดร้ ับความชว่ ยเหลอื จากหงส์ทีบ่ นิ ตามหลังมา

๓๘ ๖. ข้อใดไมใ่ ช่ สาเหตทุ ท่ี าให้พอ่ แม่หงสต์ อ้ งลาบากมากขนึ้ เม่ือลูกหงสฟ์ ักเปน็ ตัว ก. ต้องสรา้ งรงั ใหม่ใหญก่ วา่ รงั เดิม ข. ตอ้ งสอนใหล้ ูกรจู้ กั การใช้ชวี ิต ค. กลัวลูกจะเจ็บปว่ ย ง. กลวั ลูกจะตกจากรัง ๗. จากเรอื่ ง เหตกุ ารณ์เกิดขึ้นทไี่ หน ข. บนเกาะกลางทะเล ก. บรเิ วณภูเขารมิ ทะเลสาบ ง. รมิ ป่าแหง่ หนงึ่ ค. เชิงเขาแหง่ หน่ึง ๘. เมื่อพ่อแม่หงส์สอนให้ลูกรู้จักการใช้ชีวิตแล้วลูกหงส์ต้องทาอย่างไรหลังจากพ่อแม่ สอนให้รู้จักการใช้ชวี ิตต่อไป ก. สรา้ งรงั ให้พอ่ แม่ใหม่ ข. ต้องหาคแู่ ละสืบพนั ธ์ุ ค. แยกยา้ ยไปอยถู่ ิน่ อน่ื ง. มีหน้าที่หาอาหารใหพ้ ่อแมก่ นิ ๙. จากนทิ านอสี ปเรือ่ งน้ี ขอ้ ใดสรุปข้อคิดได้สอดคลอ้ งกับเรอ่ื งไดม้ ากทสี่ ุด ก. ลูกควรมคี วามกตัญญูต่อพอ่ แม่ เลย้ี งดทู า่ นยามแกช่ รา ข. คนมคี วามกตัญญูจะมีแตค่ วามเจริญในชวี ติ ค. ความกตญั ญเู ปน็ ส่งิ ดงี าม ง. ความกตัญญนู าสุขมาใช้ ๑๐. จากเรื่องผลของเหตุการณ์ ตรงกับข้อใด ก. ลูกหงส์ถูกลมพายุพดั เสยี ชีวิต ข. ลูกหงส์พบพอ่ แม่แลว้ ก็กลับไปอยถู่ น่ิ เดมิ ค. ลกู หงส์อยูป่ รนนบิ ตั ริ บั ใชพ้ ่อแม่จนท่านตาย ง. พอ่ แมห่ งสเ์ สยี ชีวิตกอ่ นท่ีลกู ๆ จะกลับไปถงึ

๓๙ กระดำษคำตอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น แบบฝึกทักษะกำรอำ่ นจับใจควำมสำคัญ เล่มท่ี ๒ เร่ือง พนิ จิ ข้อคดิ จำกนทิ ำน ชือ่ – สกลุ ___________________________________ ช้นั ______ เลขที่ _____ คำช้แี จง นกั เรียนเลอื กคาตอบทถี่ กู ท่ีสุดเพยี งคาตอบเดยี ว โดยทาเครอื่ งหมาย × ลงใน กระดาษคาตอบ จานวน ๑๐ ขอ้ (๑๐ คะแนน) คำตอบ ข้อที่ ก ข ค ง ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐ สรุป คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได้ คะแนน

๔๐ เฉลย เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น กอ่ นเรยี น หลังเรียน 1. ง 1. ข 2. ข 2. ง 3. ง 3. ง 4. ง 4. ง 5. ก 5. ข 6. ข 6. ก 7. ค 7. ก 8. ก 8. ค 9. ค 9. ก 10. ก 10. ค

๔๑ เฉลย แบบฝึกทักษะกำรอ่ำนจบั ใจควำมสำคัญจำกนทิ ำนอีสป เร่ืองท่ี ๑ ข้ันที่ ๑ ศกึ ษำคำศัพท์และควำมหมำย จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ นักเรยี นสำมำรถบอกควำมหมำยของคำจำกนิทำนอสี ปได้ คำช้แี จง ให้นักเรียนจับคู่คากับความหมายของคาจากการอ่านนิทานอีสป เรื่อง “หนูเมืองกับหนูนา” โดยนาตัวอักษรหน้าความหมายทางขวามือ มาใส่ใน หน้าคาทางซา้ ยมือให้มีความสมั พันธ์กนั ข้อละ ๑ คะแนน (๕คะแนน) คำ ควำมหมำย ๑. ค ชนบท ๒. ก เยลลี่ ก. ขนมหวานเจลาติน หรอื เรยี กว่าเจลลี่ ๓. จ เคก้ ๔. ข ไมอ่ นั้ ข. ไมก่ าหนดจานวนสูงสดุ ๕. ช เศษอาหาร ค. เขตแดนทีพ่ น้ จากเมอื งหลวงออกไป ง. อาหารทีเ่ หลอื จากการบริโภคแล้ว จ. ขนมฝรั่งชนดิ หนึ่งทาด้วยแปง้ สาลผี สมไข่ เนย น้าตาล ฉ. ขนมที่ใชใ้ นงานมงคล ช. อาหารท่ีเหลอื จากการบรโิ ภคแล้ว

๔๒ ขั้นท่ี ๒ ตอบคำถำมจำกเนื้อเรื่อง จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นกั เรยี นสำมำรถตอบคำถำมจำกกำรอ่ำนนิทำนอสี ปได้ คำชีแ้ จง ให้นักเรียนตอบคาถามจากการอ่านนทิ านอีสป เรื่อง “หนเู มอื งกบั หนนู า” โดยพิจารณาข้อความท่ีกาหนดให้ว่ามีความสอดคล้องกัน กับเร่ืองท่ี อา่ นหรือไม่แล้วใส่เคร่ืองหมาย √ ในช่อง หน้าข้อความท่ีมีความ สอดคลอ้ งกับเน้ือเรื่องและใส่เครื่องหมาย × ในช่อง หน้าขอ้ ความ ทีไ่ มส่ อดคล้องกบั เน้อื หา √ ๑. หนูเมืองมาเยย่ี มหนนู าทีช่ นบท หนูนาจงึ ต้อนรบั เพ่ือนอยา่ ง อบอุ่น × ๒. หนูเมอื งชอบสภาพชีวิตความเปน็ อยทู่ เี่ รยี บง่ายของหนูนา √ ๓. หนเู มอื งชวนหนนู าไปเท่ยี วในเมอื ง และพาไปกนิ เศษอาหาร ในห้องอาหารใหญโ่ ต √ ๔. เมื่อสุนัขตัวใหญว่ ิ่งเขา้ มาในห้องอาหาร หนูทัง้ สองกระโดด หลบหนไี ป × ๕. หนูนาชอบชวี ิตความเปน็ อยูใ่ นเมอื ง และบอกวา่ จะกลบั มา เทย่ี วในเมอื งอีก

๔๓ ข้ันที่ ๓ วิเครำะหเ์ น้ือควำม จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ นกั เรยี นสำมำรถแยกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จำกนิทำน อีสปได้ ใหน้ กั เรยี นจาแนกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เหน็ จากข้อความที่กาหนดให้ คำชี้แจง แลว้ เขยี นคาวา่ ข้อเท็จจริง ลงในช่องวา่ งหนา้ ขอ้ ความท่เี ป็นข้อเทจ็ จริง และเขยี นคาว่า ข้อคดิ เห็น ลงในช่องว่างหน้าขอ้ ความทเ่ี ปน็ ขอ้ คดิ เหน็ ขอ้ สังเกต ข้อเทจ็ จรงิ หมายถงึ ขอ้ ความทเี่ ปน็ จริงตามเนอื้ เรอื่ ง มีหลกั ฐานสามารถ พสิ จู นใ์ ห้เหน็ จริงได้ ข้อคดิ เห็น หมายถงึ ข้อความทแ่ี สดงความรสู้ ึก ความเชอ่ื ความคิดเห็น ของบุคคลต่อสิ่งใดส่ิงหน่งึ _____ข__อ้ _เ_ท_จ็__จ_ร_ิง______ ๑. หนูเมืองไปเยยี่ มหนนู าทช่ี นบท _____ข__อ้ _เ_ท_จ็__จ_ร_ิง______ ๒. หนเู มอื งชวนหนนู าไปเที่ยวในเมอื ง ______ข_อ้ __ค_ดิ _เ_ห__น็ ______ ๓. หนูเมืองประลาดใจว่าหนูนาทนใชช้ วี ติ แบบนไ้ี ด้อย่างไร ______ข_อ้__ค_ิด_เ_ห__็น______ ๔. ในเมอื งนีอ้ าจไมเ่ หมาะกบั ชวี ติ ของหนูนา _____ข__อ้ _เ_ท_็จ__จ_ร_งิ______ ๕. สุนัขตัวใหญ่วงิ่ เขา้ มาในหอ้ งอาหาร หนูท้งั สองรบี หลบหนี

๔๔ ขนั้ ท่ี ๔ สรปุ ใจควำมสำคัญตำมแผนภำพโครงเรือ่ ง จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นกั เรียนสรปุ ใจควำมสำคญั ตำมแผนภำพโครงเรอ่ื งได้ ให้นักเรียนนาความรู้จากการอ่านนิทานอีสป เร่ือง “หนูเมืองกับหนูนา” คำช้ีแจง มาเขียนแผนภาพโครงเร่ือง ตามประเดน็ ทกี่ าหนดไว้ให้ถูกต้อง เรือ่ ง _____________ห_น__เู _ม_ือ_ง_ก__ับ_ห__น_ูน__ำ_______________ ใคร __ห__น____ูเ__ม__อื __ง____________ห____น__ูน____ำ__________________________________________________________________ ทาอะไร ___________________________________________________ ทไ่ี หน เ___อศ___ำ___ษห___อ___ำ___ำหร___หหน___ำ___นูเร___มทู___ใือ___นัง้ ง___สห___ชอ___อ้ ว___งงน___กอ___หร็ำ___ีบน___ห___หนูำ___รำล___หไ___บป___รห___เู ___ทนพ___่ียีอ___ว___ม___ใสี___น___นุ เ___มขั___อื___ว___งง่ิ ___เ___แข___ลำ้___มะ______พำ___ใำ___นไ___ปห______ก้อ___ินง______ เมอ่ื ไร __ห__้อ____ง__อ__ำ__ห____ำ__ร__ใ__น____เม____อื __ง____________________________________________________________________ ทาไม __ว__นั____ห__น____ง่ึ ________________________________________________________________________________________ __เ__พ____ร__ำ__ะ__ค__ดิ____ว__ำ่ __ท____ี่ใ__น__เ__ม__อื____ง__ไ__ม__่เ__ห____ม__ำ__ะ__ก____ับ__ช____ีว__ิต__ห____น__นู____ำ____________________ ผลเปน็ อยา่ งไร __ห____น__นู ____ำ__ล__ำ__ห____น__เู__ม____ือ__ง__ก__ล____ับ__ช____น__บ____ท__________________________________________________

๔๕ ข้นั ท่ี ๕ สรปุ ควำมรู้และข้อคิดจำกกำรอ่ำน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ นักเรยี นสำมำรถสรุปควำมรแู้ ละขอ้ คดิ จำกนิทำนอีสปได้ ให้นักเรียนนาข้อมูลการวิเคราะห์เนื้อความในข้ันที่ ๔ ใคร ทาอะไร ที่ไหน เมอื่ ไร ทาไม และผลเปน็ อย่างไร มาเรียบเรียงใหมด่ ว้ ยภาษาของนกั เรียนเอง คำช้แี จง พรอ้ มบอกขอ้ คิดจากการอ่านใหถ้ กู ตอ้ ง ใจควำมสำคัญของนิทำนอสี ป เรอื่ ง ____________ห__น_เู _ม_ือ__ง_ห_น__นู _ำ___________________ ____________ว__นั____ห__น____งึ่ __ห____น__เู __ม__ือ____ง__ช__ว____น__ห____น__นู ____ำ__ไ__ป__เ__ท__่ีย____ว__ใ__น__เ__ม____อื __ง____แ__ล____ะ__พ__ำ____ไ__ป__ก__ิน____เ__ศ__ษ____อ__ำ__ห____ำ__ร__ใ__น__ห____อ้ __ง______ ______อ__ำ____ห__ำ__ร__ห____ร__ู __พ____อ__ม__สี____ุน__ัข____ว__งิ่ __เ__ข__้ำ____ม__ำ__ใ__น____ห__อ้ __ง____อ__ำ__ห____ำ__ร__ห__น____ูท__ัง้____ส__อ__ง__ก____็ร__บี __ห____ล__บ______ห__น____นู __ำ__จ____งึ __ล__ำ__________ ______ห__น____เู ม____อื __ง__ก____ล__บั ____ช__น____บ__ท__________________________________________________________________________________________________________________ ขอ้ คิดที่ได้จำกกำรอ่ำนเรอื่ งนี้ คือ ______ค__ว__ร____พ__อ____ใ__จ__ใ__น__ว____ิถ__ชี ____ีว__ิต__ข____อ__ง__ต____น__________________________________________________________________________________________________ ______ค____ว__ำ__ม____เง__ยี____บ__ส____ง__บ__ใ__น____ช__น____บ__ท______ด__ีก__ว____ำ่ __ค__ว__ำ____ม__ห____ว__ำ__ด____ร__ะ__แ__ว____ง__ใ__น__เ__ม__ือ____ง__________________________________________

๔๖ เฉลย แบบฝึกทกั ษะกำรอำ่ นจบั ใจควำมสำคัญจำกนทิ ำนอสี ป เรอื่ งท่ี ๒ ขนั้ ที่ ๑ ศึกษำคำศัพท์และควำมหมำย จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ นักเรียนสำมำรถบอกควำมหมำยของคำจำกนทิ ำนอสี ปได้ คำชแ้ี จง ให้นักเรียนจับคู่คากับความหมายของคาจากการอ่านนิทานอีสป เร่ือง “สองสหายกับหมี” โดยนาตัวอักษรหน้าความหมายทางขวามือ มาใส่ใน หน้าคาทางซ้ายมือให้มีความสมั พันธ์กนั ข้อละ ๑ คะแนน (๕คะแนน) คำ ควำมหมำย ๑. จ หิวโซ ก. แสร้งทาใหเ้ ข้าใจผิด ๒. ง คาราม ข. เพ่ือนรว่ มทกุ ข์รว่ มสุข ๓. ช เพยี งลาพัง ค. คนทที่ ิง้ เพือ่ น ๔. ก แกล้ง ง. ทาเสยี งขู่ ๕. ข สหาย จ. หวิ มาก อดอยาก ฉ. เหย่อื ที่ตายแล้ว ช. เพียงผเู้ ดยี ว

๔๗ ขนั้ ที่ ๒ ตอบคำถำมจำกเนอื้ เรือ่ ง จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ นักเรยี นสำมำรถตอบคำถำมจำกกำรอำ่ นนิทำนอสี ปได้ คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามจากการอ่านนิทานอสี ป เร่ือง “สองสหายกับหมี” โดยพิจารณาข้อความที่กาหนดให้ว่ามีความสอดคล้องกัน กับเร่ืองที่ อา่ นหรือไม่แล้วใส่เครื่องหมาย √ ในช่อง หนา้ ข้อความท่ีมีความ สอดคล้องกับเนื้อเรือ่ งและใส่เคร่ืองหมาย × ในช่อง หน้าข้อความ ทไ่ี ม่สอดคลอ้ งกบั เน้อื หา √ ๑. ชายทง้ั สองเดินทางเข้าไปในป่าพบหมีหวิ โซเดินตรงมาทพี่ วกเขา √ ๒. ชายคนแรกก็รบี ว่ิงหนีขน้ึ ไปบนตน้ ไมท้ ิง้ เพอื่ นไวด้ า้ นล่าง × ๓. หมีไม่ทาร้ายชายทแ่ี กลง้ ตายเพราะตกใจเสยี งคารามของสงิ โต เจ้าป่า √ ๔. ธรรมชาติของหมนี ัน้ จะไมก่ ินเหยอื่ ที่ตายแล้ว × ๕. หลังจากทช่ี ายคนทป่ี ีนข้ึนไปบนต้นไมล้ งมาทงั้ สองก็เดินทางไป ดว้ ยกัน

๔๘ ขั้นท่ี ๓ วเิ ครำะหเ์ นอื้ ควำม จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถแยกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เหน็ จำกนทิ ำน อีสปได้ ใหน้ ักเรยี นจาแนกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เห็นจากข้อความทีก่ าหนดให้ คำชแ้ี จง แลว้ เขียนคาวา่ ขอ้ เทจ็ จรงิ ลงในช่องวา่ งหนา้ ขอ้ ความท่เี ปน็ ขอ้ เท็จจรงิ และเขยี นคาวา่ ขอ้ คดิ เห็น ลงในช่องวา่ งหนา้ ขอ้ ความทเ่ี ปน็ ขอ้ คดิ เห็น ขอ้ สังเกต ขอ้ เท็จจริง หมายถึง ขอ้ ความทเ่ี ปน็ จริงตามเนอื้ เร่อื ง มีหลกั ฐานสามารถ พิสจู นใ์ ห้เหน็ จริงได้ ข้อคิดเห็น หมายถงึ ข้อความทแี่ สดงความรู้สึก ความเชอ่ื ความคดิ เห็น ของบุคคลตอ่ สง่ิ ใดสิง่ หนง่ึ ______ข_้อ_เ_ท__จ็ _จ_ร__ิง_____ ๑. ชายคนหนงึ่ วิ่งหนปี นี ขึน้ ไปบนตน้ ไม้ ______ข_้อ_เ_ท__จ็ _จ_ร__งิ _____ ๒. ชายสองคนเดนิ ทางเขา้ ไปในป่า และพบหมีเดนิ ตรงมา ทีพ่ วกเขา ______ข_อ้__ค_ดิ__เห__น็ ______ ๓. ไมค่ วรร่วมทางไปกับคนทีท่ ิ้งเพอ่ื น ______ข_้อ__ค_ิด__เห__น็ ______ ๔. ชายอีกคนรสู้ กึ ตกใจกลวั แตไ่ มร่ ูจ้ ะหนไี ปไหน ______ข_้อ_เ_ท__จ็ _จ_ร__งิ _____ ๕. หมีเดนิ ตรงเขา้ มาหาชายคนทแ่ี กลง้ ตายสกั ครมู่ นั ก็เดิน เขา้ ปา่ ไป

๔๙ ข้ันที่ ๔ สรุปใจควำมสำคญั ตำมแผนภำพโครงเรื่อง จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ นกั เรยี นสรุปใจควำมสำคญั ตำมแผนภำพโครงเร่อื งได้ ให้นักเรียนนาความรู้จากการอ่านนิทานอีสป เร่ือง “สองสหายกับหมี” คำชี้แจง มาเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง ตามประเดน็ ที่กาหนดไว้ใหถ้ ูกตอ้ ง เรื่อง _____________ส_อ_ง__ส_ห_ำ__ย_ก_ับ__ห_ม__ี _______________ ใคร ___________________________________________________ ทาอะไร _ช_ำ_ย__ส_อ__ง_ค_น__เป__น็ _เ_พ__่อื _น__ก_ัน_____________________________ ท่ไี หน ___________________________________________________ เมื่อไร ทาไม _____เด__ิน_เ_ข__้ำ_ไ_ป_ใ_น__ป_่ำ_แ__ล_ะ_พ__บ_ห__ม_เี_ด__ิน_ต_ร__ง_ม_ำ_ท__ี่พ_ว__ก_เ_ข_ำ____ _ช_ำ_ย__ค_น__ห_น__่งึ _ห_น__ีเ_อ_ำ_ต_วั__ร_อ_ด__ข_้ึน__ต_น้ __ไม__้ _ช_ำ_ย__อ_ีก_ค__น_แ__ก_ล_้ง____ _น_อ__น_ต__ำ_ย_อ_ย__ูใ่ _ต_้ต__น้ _ไ_ม_้_ส__กั _ค_ร_ูห่__ม_ีก__็เ_ด_นิ _เ_ข__ำ้ _ป_่ำ_ไ_ป___________ ___________________________________________________ _ใ_น_ป__ำ่ _แ_ห__ง่ _ห__น_่งึ ______________________________________ ___________________________________________________ _ว_ัน__ห_น__ึง่ ____________________________________________ ___________________________________________________ _ท_ิง้ _เ_พ_ือ่__น_ห_น__ีเอ__ำ_ต_ัว_ร_อ_ด__เพ__ีย_ง_ค_น__เด_ีย__ว_____________________ ผลเปน็ อย่างไร ____ช__ำ__ย____ท__้งั__ส____อ__ง__ค____น__ไ__ม__เ่__ด____นิ __ท____ำ__ง__ร__่ว__ม____ก__ัน____อ__กี ____________________________________


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook