Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รูปเล่มสมบูรณ์(22-2-60)

รูปเล่มสมบูรณ์(22-2-60)

Published by Nichakorn Wongcharoen, 2019-11-13 01:57:15

Description: รูปเล่มสมบูรณ์(22-2-60)

Search

Read the Text Version

การเปรียบเทยี บระหว่างนา้ มะพรา้ วกับนา้ มะเขือเทศหลงั จากการออกกา้ ลังกายที่ทา้ ใหเ้ กดิ ภาวะขาดน้าทส่ี ง่ ผลต่อสมรรถภาพการออกก้าลงั กายระยะยาวในวัยรนุ่ เพศชาย Comparison between coconut water and tomato juice after exercise-induced dehydration on prolonged exercise performance in healthy young men. นางสาวอรอนงค์ แซห่ วาง Miss Onanong Saewang นายโชติอนันต์ เสรมิ สายประสิทธ์ิ Mr. Chotanun Seamsaiprasit นางสาวทักษพร จนี สิน Miss Thaksaporn Jinsin โครงการวจิ ัยนีเป็นสว่ นหนง่ึ ของการศึกษาตามหลกั สตู ร วิทยาศาสตรบัณฑิต (วทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬาและการออกก้าลังกาย) สาขาวชิ าวิทยาศาสตรก์ ารกีฬาและการพฒั นากฬี า คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2559

แบบเสนอรายงานการวจิ ัยของนักศกึ ษาชนั ปีท่ี 4 สาขาวิชาวิทาศาสตร์การกฬี าและการพัฒนากฬี า คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา 1/2559 ……………………………………….……………………… ช่ือเรื่อง การเปรียบเทียบระหว่างน้ามะพร้าวกับน้ามะเขือเทศหลังจากการออกก้าลังกายท่ี ทา้ ใหเ้ กดิ ภาวะขาดน้าทีส่ ่งผลต่อสมรรถภาพการออกกา้ ลงั กายระยะยาวในวยั รนุ่ เพศชาย ชอ่ื งานวิจัย Comparison between coconut water and tomato juice after exercise- induced dehydration on prolonged exercise performance in healthy young men. ช่ืออาจารยท์ ่ีปรกึ ษา อาจารยไ์ กรยศ สุดสะอาดและอาจารยภ์ าคย์ พนั ธมุ ะบ้ารุง หนว่ ยงาน สาขาวิชาวทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬาและการพัฒนากีฬา คณะสหเวชศาสตร์ เนื่องจากการท้าวิจัยได้เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้ว ข้าพเจ้าได้เสนอรายงานวิจยั ฉบับนี เพ่ือขอความ เห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรกึ ษาว่าเป็นรายงานการวจิ ัยท่ีสมบูรณ์ สามารถส่งมอบให้คณะเพื่อเผยแพร่ ให้แกน่ กั ศึกษารุ่นต่อไปได้ ลงช่ือ…………………………………………………… (นางสาวอรอนงค์ แซ่หวาง) ลงช่อื …………………………………………………… (นายโชติอนันต์ เสรมิ สายประสิทธ์ิ) ลงชอื่ …………………………………………………… (นางสาวทกั ษพร จีนสนิ ) ความเหน็ ชอบของอาจารยท์ ่ีปรึกษา ไดต้ รวจแลว้ เหน็ ชอบว่าเปน็ รายงานที่สมบูรณส์ ามารถส่งมอบให้คณะได้ ลงช่อื …………………….…………………………… (อาจารย์ไกรยศ สดุ สะอาด) ลงชื่อ…………………….…………………………… (อาจารย์ภาคย์ พันธุมะบ้ารงุ )

กติ ติกรรมประกาศ การศึกษาเรื่อง “การเปรียบเทียบระหว่างน้ามะพร้าวกับน้ามะเขือเทศหลังจากการออกก้าลัง กายท่ีท้าให้เกิดภาวะขาดน้าที่ส่งผลต่อสมรรถภาพการออกก้าลังกายระยะยาวในวัยรุ่นเพศชาย ” เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา วฬ 371 การวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งการศึกษาในครังนีส้าเร็จได้ ด้วยดี ทางผู้วิจัยจึงขอขอบคุณสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการพัฒนากีฬา คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่ีเอือเฟ้ือสถานท่ีและอุปกรณ์ต่างๆในการด้าเนินงาน อีกทังผู้ท่ีมีส่วน เกี่ยวข้องทกุ ท่านทมี่ สี ่วนช่วยให้การศกึ ษาครงั นีส้าเร็จไปได้ด้วยดี ขอขอบคุณ อาจารย์ไกรยศ สุดสะอาดและอาจารย์ภาคย์ พันธุมะบ้ารุง ที่ให้ค้าปรึกษาในด้าน ต่างๆ ทังโครงร่างการเขียนวิจัย การเขียนจริยธรรม คอยช่วยสนับสนุนให้ค้าแนะน้าแก่ผู้วิจัยทังเรื่อง เล็กและเรื่องใหญ่โดยไม่เคยปฏิเสธ การน้าเสนอ ทังสัมมนาการศึกษาและการน้าเสนองานวิจัย ทัง ภาษาไทยและภาษาตา่ งประเทศ ตลอดจนการศกึ ษาส้าเร็จไปได้ด้วยดี ขอขอบคุณ อาจารย์สุติมา สุวรรณกาล ในการให้ค้าปรึกษาข้อมูลทางสถิติที่ใช้ ในการศกึ ษาครงั นี สุดท้ายแล้วขอกราบขอบคุณคณาจารย์และอาสาสมัครท่ีเข้าร่วมการศึกษาในครังนี เปน็ อย่างสูง คณะผวู้ จิ ัย นางสาวอรอนงค์ แซ่หวาง นายโชติอนันต์ เสริมสายประสทิ ธิ์ นางสาวทักษพร จนี สิน I

Comparison between coconut water and tomato juice after exercise-induced dehydration on prolonged exercise performance in healthy young men. Onanong Saewang, Chotanun Seamsaiprasit, Thaksaporn Jinsin, Kriyot Sudsa-ard and Paak Phantumabamrung Sports Science and Sports Development Department, Faculty of allied health sciences, Thammasat University, Bangkok, Thailand Abstract Background: The study in physical endurance performance after consuming coconut water. The results were positive because it consists of providing energy and electrolyte which are similar to sport drink’s contained nutrients. Furthermore, tomato juice has similar nutrients as both beverages but there has not been a research that experiment effects on endurance performance. Therefore, this research will compare between coconut water and tomato juice after exercise – induced dehydration on prolonged exercise performance in healthy young men. Methods: 8 exercise-trained men (19.74±1.25 yrs.) received coconut water or tomato juice on two occasions (separated by at least 7 days) in a random order, cross over design, single blind (subject and not investigators). After exercise-induced dehydration, subject will take the recovery period by consuming prepared beverages. Then exercise on treadmills until facing exhaustion. Subjective measures of heart rate, rating of perceived exertion and muscle soreness and record the time to exhaustion. Results: Subjects lost approximately 1 .7 1 ±0 . 3 9 % of body weight after exercise- induced dehydration and regained this amount in a relatively similar manner following consumption of all conditions. No differences were noted between coconut water and tomato juice for any measures of total drink (p>0 . 0 5 ) . Regarding exercise performance, no significant difference (p > 0.05) was noted between coconut water (61.00 ± 14.23 min) and tomato juice (62.38 ± 15.27 min). Conclusion: No significant difference at the p>0.05 level in prolonged exercise performance on both beverages. Subjects reported feeling more bloated and experienced greater stomach upset with the coconut water. The result suggested to choose tomato juice. However, the choice of beverages should be based on personal preference. II

การเปรียบเทียบระหว่างนา้ มะพร้าวกับน้ามะเขือเทศหลังจากการออกก้าลังกายที่ท้าให้เกิดภาวะ ขาดน้าท่สี ง่ ผลตอ่ สมรรถภาพการออกก้าลงั กายระยะยาวในวยั ร่นุ เพศชาย อรอนงค์ แซ่หวาง, โชติอนันต์ เสรมิ สายประสทิ ธิ์, ทักษพร จนี สนิ , ไกรยศ สุดสะอาดและ ภาคย์ พนั ธุมะบา้ รุง สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์การกีฬาและการพฒั นากีฬา คณะสหเวชศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ กรงุ เทพ ประเทศไทย บทน้า : การศึกษาผลของสมรรถภาพการออกก้าลังกายด้านความอดทน หลังจากการดื่มเครื่องด่ืม น้ามะพร้าว ผลการศึกษาท่ีได้พบว่าน้ามะพร้าวมีส่วนประกอบของสารอาหารที่ให้พลังงานและมี เกลือแร่คล้ายคลึงกับเครื่องดื่มนักกีฬา ในขณะเดียวกันน้ามะเขือเทศก็มีส่วนประกอบที่ใกล้เคียงกับ เครอ่ื งดมื่ ทัง 2 ชนิดท่กี ลา่ วมาแต่ยังไมม่ ีการศึกษาใดที่ทดสอบในสมรรถภาพการออกกา้ ลงั กายระยะ เวลานานดังนันเพื่อคณะผู้วิจัยจึงได้ท้าการเปรียบเทียบสมรรถภาพในการออกก้าลังกายระยะยาว ของเคร่อื งดม่ื นา้ มะพร้าวและนา้ มะเขือเทศภายหลังจากการออกกา้ ลงั กายท่ีทา้ ใหเ้ กดิ ภาวะขาดน้า วิธีการ : อาสาสมัครเพศชาย 8 คนที่มีอายุ 19.74 ± 1.25 ปี ภายหลังจากการออกก้าลงั กายที่ท้าให้ เกิดภาวะขาดน้าอาสาสมัครจะได้รับเคร่ืองดื่มน้ามะพร้าวและน้ามะเขือเทศในแต่ละครังของการ ทดสอบซงึ่ ห่างกัน 7 วนั โดยวิธีการสุ่ม อาสาสมัครเร่มิ การวดั สมรรถภาพการออกก้าลังกายระยะยาว โดยว่ิงบนลู่วง่ิ ไฟฟ้าจนไม่สามารถวิง่ ต่อได้ บันทึกอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับความพยายามในการ ออกกา้ ลังกายและระดับอาการเมื่อยล้าและท้าการบันทึกเวลา ผล : น้าหนักตัวของอาสาสมัครลดลง 1.71 ± 0.39% ของน้าหนักตัวเกิดภาวะขาดน้าหลังจากการ ออกก้าลังกาย ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยส้าคัญ (p>0.05) ในปริมาตรเครื่องดื่มท่ีบริโภคและไม่มี ความแตกต่างอย่างมีนัยส้าคัญ (p>0.05) ในเวลาของสมรรถภาพการออกก้าลังกายระยะยาวที่ อาสาสมคั รทา้ ได้ในนา้ มะพรา้ ว (61.00 ± 14.23 นาท)ี และนา้ มะเขือเทศ (62.38 ± 15.27 นาท)ี สรปุ ผล : ไมม่ ีความแตกต่างกนั อย่างมนี ัยส้าคญั ทางสถติ ิในเรื่องของสมรรถภาพในการออกก้าลังกาย ระยะยาวซ่ึงวัดจากการวงิ่ บนลู่วิ่งไฟฟ้าจนเหน่อื ยในเคร่ืองด่ืมทัง 2 ชนิด จากผลการศึกษาแนะน้าให้ เลือกดื่มน้ามะเขือเทศเนื่องจากการศึกษาได้พบว่ามีอาสาสมัครท่ีบริโภคน้ามะพร้าวแล้วมีอาการ ท้องอืดและท้องเสียร่วมด้วยแต่ไม่พบในน้ามะเขือเทศทังนีทังนันขึนอยู่กับความนิยมของผู้บริโภคใน การเลอื กตัดสินใจในการบรโิ ภค III

สารบัญ I II กติ ติกรรมประกาศ III บทคดั ย่อภาษาอังกฤษ (English Abstract) V บทคัดย่อภาษาไทย (Thai Abstract) VII สารบญั ตาราง 1 สารบญั รูปภาพ 5 บทที่ 1 บทนา้ (Introduction) 9 บทท่ี 2 ทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) 19 บทท่ี 3 ระเบยี บวิธีวจิ ัย (Method) 22 บทที่ 4 ผลการศึกษา (Result) 25 บทที่ 5 การอภิปรายผล (Discussion) 26 บทที่ 6 สรปุ ผลการทดลอง (Conclusion) 30 เอกสารอา้ งองิ 37 ภาคผนวก ก เอกสารชแี จงผู้เขา้ ร่วมวิจัย (Information Sheet) 40 ภาคผนวก ข หนังสอื แสดงเจตนายินยอมเขา้ ร่วมการวิจัย (Consent Form) 44 ภาคผนวก ค แบบสอบถามส้าหรับคัดเลือกอาสาสมัครเข้าร่วมงานวจิ ัย 45 ภาคผนวก ง ใบบนั ทึกขอ้ มูล (Record information sheet) 61 ภาคผนวก ฉ ภาพประกอบการท้าวิจัย 62 ภาคผนวก ช ใบแจง้ ผลการอนุมตั โิ ครงการวจิ ัย ประวัติผวู้ ิจยั (Curriculum Vitae) IV

สารบญั ตาราง ตารางท่ี 3.1 ข้อมลู ทางโภชนาการของเครื่องดื่มทัง 2 ชนดิ 16 ตารางท่ี 4.1 แสดงข้อมลู พนื ฐานของอาสาสมัครจา้ นวน 8 คนในขนั ตอน 19 การเตรียมอาสาสมัคร ตารางที่ 4.2 แสดงข้อมลู ของอาสาสมคั รในขันตอนการออกก้าลังกายเพ่ือใหเ้ กิดภาวะขาดน้า 20 ตารางที่ 4.3 แสดงข้อมูลส่วนประกอบของเคร่ืองด่ืมแตล่ ะชนดิ ในขนั ตอนการพักฟื้น 20 ตารางท่ี 4.4 แสดงขอ้ มูลการวัดสมรรถภาพในขนั ตอนการวดั สมรรถภาพการออกก้าลงั กาย 21 ระยะยาว V

สารบัญรปู ภาพ แผนภาพที่ 1 แสดงขนั ตอนการเตรียมอาสาสมคั ร การออกกา้ ลงั กายเพ่ือทา้ ให้เกิด 12 ภาวะขาดนา้ ช่วงของการพกั ฟน้ื และการวัดสมรรถภาพการออกกา้ ลังกายระยะยาว แผนภาพที่ 2 แสดงการทดสอบสมรรถภาพในขนั ตอนการทดสอบเพ่อื เข้ารับการทดสอบ 13 แผนภาพที่ 3 แสดงขันตอนการเตรยี มอาสาสมคั ร 14 แผนภาพท่ี 4 แสดงขนั ตอนการออกก้าลงั กายเพื่อให้เกดิ ภาวะขาดนา้ 15 แผนภาพท่ี 5 แสดงขันตอนการพักฟน้ื 17 แผนภาพท่ี 6 แสดงขนั ตอนการวดั สมรรถภาพการออกก้าลังกายระยะยาว 18 VI

บทที่ 1 บทน้า (Introduction) ในการออกก้าลังกายท่ีมีความต่อเนื่องในรูปแบบเดิมซ้าๆกันเป็นระยะเวลานานมากกวา่ 30 นาที โดยมีระดับความหนักในการออกก้าลังกายและอุณหภูมิแวดล้อมที่เป็นปัจจัยก่อให้เกิดการ สูญเสียน้าในร่างกาย เช่น การออกก้าลังกายว่ิงบนลู่วงิ่ ไฟฟ้าท่ีความหนกั 50% ของการใช้ออกซิเจน สูงสดุ ทีอ่ ณุ หภมู ิ 35 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 - 3 ชั่วโมง ท้าให้ร่างกายมีการสญู เสียน้าเกิดขนึ เมื่อ ร่างกายเกดิ การสญู เสยี น้า 1% - 2% ของน้าหนกั ตัวทา้ ให้รา่ งกายเกดิ สภาวะขาดนา้ (1) ภาวะขาดน้า (Dehydration) คือ ภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้าและเกลือแร่บางชนิดจนอวัยวะ ต่างๆไม่สามารถท้างานได้ตามปกติ(2) ซ่ึงจะก่อให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆขึน เช่น เมื่อเร่ิมขาดน้า ความเข้มข้นของของเหลวนอกเซลล์เริ่มสูงขึน ร่างกายจะส่งสัญญาณไปกระตุ้นสมองให้เกิดความ กระหายน้าขึน หากไม่ได้ดื่มน้าหรือด่ืมไม่เพียงพอ ร่างกายจะมีการควบคุมของเสียผา่ นฮอร์โมนหลกั 2 ตัว คือ ฮอร์โมนแอนไทไดยูเรติกและแอลโดสเทอโรนส่งสัญญาณให้ไตเก็บกักน้าและโซเดียมมาก ขึน ปัสสาวะจึงมีปริมาณน้อยลงและมีสีเหลืองเข้ม เกลือแร่ที่ส้าคัญ เช่น โซเดียม (Sodium) เป็นแร่ ธาตุท่ีช่วยในเรื่องการควบคุมสมดุลของน้าในร่างกายและช่ว ยในเร่ืองการท้างานของกล้ามเนือ ที่ ท้างานควบคู่กับโพแทสเซียม (Potassium) โดยโพแทสเซียม (Potassium) เหล็ก (Iron) และ แมกนีเซียม (Magnesium) ก็มีผลเก่ียวข้องกับการท้างานของประสาทและกล้ามเนือ(3) อีกทังการท่ี ร่างกายเขา้ สู่ภาวะขาดน้าระดับน้อย (1%-5% ของน้าหนกั ตวั ) ซง่ึ มีอาการดังนี ผวิ แห้ง ริมฝีปากแห้ง หิวน้า ปัสสาวะน้อยลง ไม่มีแรง ปวดศีรษะ ภาวะขาดน้าในระดับปานกลาง (6% - 9% ของน้าหนัก ตัว) มีอาการดังนี รู้สึกกระหายน้า อ่อนเพลีย เหน่ือยง่าย ปวดศีรษะและปัสสาวะน้อยกว่าปกติและ กรณีที่เกิดภาวะขาดน้าระดับรุนแรง (มากกว่า 10% ของน้าหนักตัว) มีอาการที่ท้าให้กระหายน้า อยา่ งรุนแรง สบั สน กระสับกระสา่ ย ชพี จรเต้นเร็ว หายใจถี่เรว็ และความดนั โลหติ ต้า่ เปน็ ตน้ (4) (5) เมื่อมกี ารออกกา้ ลงั กายท่ีมีความต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจะท้าใหร้ า่ งกายสญู เสียพลังงาน ไปกับการท้างานของกล้ามเนือ จากแหล่งพลังงานสะสมของร่างกายในรูปไกลโคเจน ส่วนใหญ่แล้ว จะสะสมอยู่ที่กล้ามเนือและตับ เมื่อหลังการออกก้าลังกายจะท้าให้แหล่งพลังงานสะสมในรูปไกลโค เจนหายไป ระดับน้าตาลในเลือดลดต่้าลง(6) หากเราสามารถเติมพลังงาน น้าและเกลือแร่จะช่วยท้า ให้ร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะสมดุลและสามารถออกก้าลังกายต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนัน หลังจากการออกก้าลังกายจึงได้มีการเลือกเคร่ืองดื่มที่มีทังสารอาหารท่ีให้พลังงานและเกลือแร่ที่ ชดเชยส่วนที่สูญเสียไป คือ เครื่องด่ืมนักกีฬา (Sport Drink) เป็นเครื่องดื่มที่มีทังสารอาหารที่ให้ 1

พลังงาน(คาร์โบไฮเดรต) เกลือแร่(โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม เหล็ก) ต่อมาผลการศึกษาของ Shirreffs และคณะในปี ค.ศ. 2007(7) กล่าวว่าการเติมน้ากลับด้วยการด่ืมเครื่องดื่มท่ีผสม คารโ์ บไฮเดรตและอเิ ล็กโทรไลต์ภายหลังจากการออกกา้ ลังกายทีท่ ้าให้เกิดภาวะขาดน้าจะสามารถลด การปัสสาวะได้ดีกว่าการด่ืมน้าแร่และจากการศึกษาซ่ึงสอดคล้องกับการศึกษาของ Evan และคณะ ในปี ค.ศ. 2009 (8) ผลการศึกษาพบว่าการเติมน้ากลับภายหลังจากการออกก้าลังกายท่ีท้าให้เกิด ภาวะขาดน้าเครื่องด่ืมท่ีผสมคาร์โบไฮเดรต 10% สามารถท้าให้ลดการปัสสาวะและสามารถออก ก้าลงั กายในระยะเวลานานได้ดีกวา่ น้าเปล่าและเครอื่ งด่มื ทผี่ สมคารโ์ บไฮเดรต 2% ในปัจจุบันคนหันมาใส่ใจกับสุขภาพของตนเองมากขึนและเลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย เช่น น้าผลไม้จากงานศึกษาวิจัยของ Kalman, D.S. และคณะในปี ค.ศ. 2012 (2) ได้มี การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างน้ามะพร้าวและเคร่ืองด่ืมนักกีฬาในการวัดภาวะน้าในร่างกายและ สมรรถภาพทางร่างกาย ผลการศึกษาพบว่าหลังจากดื่มน้ามะพร้าวและเครื่องดื่มนักกีฬาสามารถว่ิง บนลู่วิ่งไฟฟ้าได้เวลาท่ีไม่แตกตา่ งกันและมีระดับน้าในร่างกายไม่แตกตา่ งกัน ซึ่งอาจหมายความไดว้ า่ นา้ มะพร้าวสามารถใชแ้ ทนเครื่องด่ืมนักกีฬาได้และดว้ ยกลไกการตลาดน้าผลไม้ได้ถูกผลติ ออกมาเป็น จ้านวนมากและมีหลากหลายชนิด หน่ึงในนันคือน้ามะเขือเทศ จากการศึกษาเรื่องน้ามะเขือเทศ Bhowmik, Sampath และคณะในปี ค.ศ. 2012 (3) ได้ศึกษาพบว่าเม่ือเราออกก้าลังกายจะท้าให้ รา่ งกายเกดิ กรดเอซิโดซิส กรดเอซิโดซิสนีจะทา้ ให้ระดับแคลเซยี มต้า่ ลง เกดิ ความเม่ือยล้า ปวดศีรษะ นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ปวดเม่ือยกล้ามเนือ เกิดการอักเสบของหลอดเลือดและเกิดความไม่ สมดุลของฮอร์โมน ซึ่งในน้ามะเขือเทศประกอบไปด้วยสารอาหารที่ให้พลงั งาน วิตามินและอิเลก็ โทร ไลต์ เช่น แมกนีเซียม โพแทสเซียมและโซเดียม โดยความแตกต่างของความเข้มข้นของโซเดียมและ โพแทสเซียมระหว่างภายในเซลล์กับภายนอกเซลล์เป็นตัวก้าหนดศักย์ไฟฟ้าของเยื่อหุ้มเซลล์ในขณะ พัก ซึ่งมีผลต่อการท้างานของเส้นประสาท กล้ามเนือและการขนส่งสารผ่านเย่ือหุ้มเซลล์ จากผล การศกึ ษาอาจกล่าวได้วา่ นา้ มะเขือเทศเปน็ เคร่ืองด่มื อีกชนิดหนึ่งทชี่ ่วยฟ้ืนฟูร่างกายจากการเมื่อยล้า และอาการงว่ งนอน จากการศึกษางานวิจัยของ Tsitsimpikou C. และคณะในปี ค.ศ.2013 (9) ได้ท้าการศึกษา เปรียบเทียบระหวา่ งนา้ มะเขือเทศและเครื่องดืม่ ท่ีผสมคาร์โบไฮเดรต โดยศึกษาผลของครีเอทีนฟอส โฟคิเนส (Creatine phosphokinase, CPK) หรือเอนไซม์กล้ามเนือที่ตรวจพบได้เมื่อร่างกายมีการ สลายกล้ามเนือส่งผลให้ขนาดของกล้ามเนือเล็กลงและแลคเตตดีไฮโดรจีเนส (Lactate dehydrogenase, LDH) เป็นเอนไซม์ที่ตรวจพบได้เม่ือเนือเยื่อได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย ซ่ึง การศึกษาผลงานวิจัยนีพบว่าครีเอทีนฟอสโฟคิเนสและแลคเตตดีไฮโดรจีเนสลดลงถึงระดับปกติใน กล่มุ อาสาสมคั รทีด่ มื่ น้ามะเขอื เทศในระดบั นยั สา้ คญั ท่ี 0.028 และ 0.001 ตามล้าดบั 2

แต่ยังไม่มีการศึกษาใดที่ศกึ ษาเปรียบเทยี บระหวา่ งนา้ มะพร้าวกับน้ามะเขือเทศว่า เคร่อื งด่ืม ชนิดใดท่ีสามารถเป็นเครื่องด่ืมที่ช่วยในเร่ืองของการออกก้าลังกายระยะยาวภายหลังจากการออก ก้าลังกายที่ทา้ ให้เกิดภาวะขาดน้าไดด้ ีกวา่ กัน ดังนันเพ่ือให้ทราบถึงผลของน้ามะพร้าวและน้ามะเขือเทศท่ีมีผลต่อสมรรถภาพในการออก กา้ ลงั กายระยะยาวจงึ ไดท้ ้าการวิจัยนีขึน โดยในการวิจยั ในครงั นมี ีเครอ่ื งด่มื 2 ชนดิ ไดแ้ ก่ 1.น้ามะพรา้ ว (Coconut water) 2.นา้ มะเขือเทศ (Tomato juice) วัตถุประสงค์ เพ่ือเปรียบเทียบสมรรถภาพในการออกก้าลังกายระยะยาว ระหว่างน้ามะพร้าวและน้า มะเขอื เทศ ภายหลงั จากการออกก้าลังกายทท่ี า้ ให้เกิดภาวะขาดน้า ขอบเขตการวิจัย การวจิ ยั ในครงั นีเพ่อื ศึกษาการเปรียบเทียบสมรรถภาพในการออกกา้ ลังกายระยะยาวโดยว่ิง บนลู่วิ่งไฟฟ้าระหว่างน้ามะพร้าวและน้ามะเขือเทศ ภายหลังจากการออกก้าลังกายท่ีท้าให้เกิดภาวะ ขาดนา้ ในอาสาสมคั รเพศชาย อายุระหว่าง 18-22 ปี จากนนั อาสาสมคั รจะตอ้ งดมื่ เครื่องด่ืมท่เี ตรียม ไว้ ในปริมาตร 150% ของน้าหนักตัวที่หายไปและมีระยะเวลาพักทังหมด 2 ช่ัวโมง เมื่อสินสุดเวลา พัก อาสาสมัครจะกลับไปว่งิ บนลู่วง่ิ ไฟฟ้าอีกครังเพื่อท้าการทดสอบเพ่ือวัดสมรรถภาพการออกก้าลัง กายโดยให้อาสาสมัครว่ิงบนลู่วิง่ ไฟฟ้าจนไม่สามารถวิง่ ต่อได้ เพ่ือท้าการบันทึกเวลาในการออกก้าลัง กาย ตัวแปรท่ีใช้ : น้ามะพรา้ วและนา้ มะเขือเทศ ตัวแปรตน้ : ระยะเวลาในการว่ิงบนลู่ว่งิ ไฟฟา้ จนไมส่ ามารถวิ่งต่อได้ ตวั แปรตาม สมมติฐาน H0 : การดื่มน้ามะพร้าวกับน้ามะเขือเทศหลังจากการออกก้าลังกายที่ท้าให้เกิดภาวะ ขาดนา้ ทสี่ ่งผลต่อการออกกา้ ลงั กายระยะยาวไมม่ ีความแตกต่างกนั H1 : การด่ืมน้ามะพร้าวกับน้ามะเขือเทศหลังจากการออกก้าลังกายที่ท้าให้เกิดภาวะ ขาดนา้ ทีส่ ่งผลต่อการออกก้าลังกายระยะยาวมีความแตกต่างกัน 3

ประโยชนท์ ี่ได้รับ 1. สามารถทราบถึงผลของความแตกต่างของน้ามะพร้าวและน้ามะเขือเทศที่มีผลต่อ สมรรถภาพในการออกกา้ ลงั กาย 2. สามารถน้าผลของการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในการเลือกเครื่องด่ืมหลังจากการออกก้าลัง กายในระยะยาวได้ 4

บทที่ 2 ทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) ในการออกก้าลังกายที่ระยะเวลานานมากกว่า30 นาทีเป็นต้นไป ร่างกายจะเกิดการสูญเสีย น้าจึงอาจเป็นผลให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะขาดน้า (Dehydration) หากร่างกายได้สูญเสียน้า 1-2% ของ น้าหนักตัวจะสง่ ผลต่อการรบั รู้การตืน่ ตัวและการมีสมาธิลดลง รู้สกึ เหนอ่ื ยอาจจะมีอาการเวียนศีรษะ มากขึนและประสิทธภิ าพความทนทานของระบบหายใจไหลเวยี นเลอื ดลดลง(4, 5) การตรวจวัดภาวะขาดน้าในร่างกายสามารถท้าได้หลายวิธี เช่นการเปรียบเทียบผลต่างของ น้าหนักตัวก่อนและหลังการออกก้าลังกาย การวัดค่าความถ่วงจ้าเพาะของปัสสาวะจะเปรียบเทียบ ความหนาแน่นของปัสสาวะกับน้าบริสุทธิ์ซ่ึงน้าบริสุทธ์ิมีค่าความหนาแน่นเท่ากับ 1.000 หากมีค่า ความถว่ งจ้าเพาะของปสั สาวะมากกวา่ 1.020 หมายถงึ รา่ งกายเข้าสู่ภาวะขาดน้า (10) การออกก้าลังกายอาจท้าให้เกิดภาวะขาดน้าในระดับเบา (1% - 3%ของน้าหนักตัว) ซ่ึง สามารถดูแลรักษาอาการขาดน้าได้จากการเติมน้ากลับ จากการศึกษาของ Shirreffs และคณะในปี ค.ศ. 2007 (7) ได้กล่าวว่าการเติมน้ากลับด้วยการดื่มเครื่องดื่มท่ีผสมคาร์โบไฮเดรตและอิเล็กโทรไลต์ ภายหลังจากการออกก้าลังกายป้องกันภาวะขาดน้าได้โดยผลการศึกษาพบว่าอาสาสมัครลดการ ปัสสาวะได้ดีกว่าการด่ืมน้าแร่ การศึกษาของ Evan และคณะในปี ค.ศ. 2009 (8) ได้ท้าการทดสอบ โดยการเติมน้าเปล่า เครื่องด่ืมท่ีผสมคาร์โบไฮเดรตและอิเล็กโทรไลต์ 2% และ 10% ผลการศึกษา พบว่าการเติมน้ากลับภายหลังจากการออกก้าลังกายท่ีท้าให้เกิดภาวะขาดน้าเคร่ืองดื่มที่ผสม คาร์โบไฮเดรตและอิเล็กโทรไลต์ 10% สามารถท้าให้ลดการปัสสาวะและสามารถช่วยให้อาสาสมัคร อ อ ก ก้ า ลั ง ก า ย ไ ด้ ร ะ ย ะ เ ว ล า น า น ขึ น เ ม่ื อ เ ป รี ย บ เ ที ย บ กั บ ก า ร ด่ื ม น้ า เ ป ล่ า แ ล ะ เ ค ร่ื อ ง ดื่ ม ท่ี ผ ส ม คารโ์ บไฮเดรตและอิเลก็ โทรไลต์ 2% ในการศึกษาของ Kokko and Tannen ในปีค.ศ. 1986 (11) มีการศกึ ษาถงึ เกลือแร่ท่มี ีผลต่อ การท้างานของกล้ามเนือว่าหน้าท่ีของโซเดียมเกี่ยวกับการท้างานของกล้ามเนือ โดยเป็น ส่วนประกอบร่วมในการท้างานเก่ียวกับการกระตุ้นประสาทกล้ามเนือ ( neuromuscular irritability) ซ่ึงถูกก้าหนดการเปล่ียนแปลงศักย์ไฟฟ้า (action potential) ด้วยอัตราส่วนความ เข้มข้นของโซเดียมและโพแทสเซียมและโซเดยี มยังท้างานในระบบไตซึ่งมหี น้าทใี่ นการดูดน้ากลับเข้า สู่ร่างกายและเกี่ยวกับสมดุลโพแทสเซียมและอิเล็กโทรไลต์อ่ืนๆ โดยสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ต่างๆ ภายนอกเซลล์ควบคุมโดยกระบวนการท่ีเก่ียวข้องกับการขนส่งโซเดียมในอวัยวะต่างๆ ได้แก่ ระบบ ทางเดนิ อาหาร ระบบขับถ่ายปัสสาวะและการแลกเปลี่ยนระหว่างภายในกับภายนอกเซลล์ ซ่งึ อาการ 5

และอาการแสดงจะเกิดความผิดปกติที่ระบบทางเดินอาหารก่อนระบบอื่นเพราะเป็นส่วนประกอบ ของน้าย่อยอาหาร หากร่างกายขาดโซเดียมในระดับน้อยจะไม่มีความผิดปกติใดๆ แต่อาจมีอาการ อ่อนเพลียหมดเร่ียวแรง หากขาดโซเดียมปานกลางจะรู้สึกเวียนศีรษะ อ่อนเพลียมาก ปัสสาวะเริ่ม น้อยลง ชีพจรเต้นเร็ว ผิวหนังเหี่ยวยน่ รู้สึกกระหายน้า และหากขาดโซเดียมอย่างรุนแรงจะมีอาการ เพ้อ กระสับกระส่าย ไม่ค่อยรู้สึกตัวและหมดสติในท่ีสุด ชีพจรเต้นเร็ว ผิวหนังเหี่ยวย่นชัดเจน ขอบ ตาลึก ปัสสาวะออกน้อย มือเท้าเย็น ขนลุก เหงื่อออกและเสียชวี ิตได้ ปัสสาวะมีความถ่วงจ้าเพาะต่้า มีปริมาณของโซเดยี มน้อยมาก ภาวะขาดนา้ ท้าให้ปริมาตรเลอื ดลดลงซงึ่ สง่ ผลเสยี ต่อการทา้ งานของหัวใจไหลเวียนเลือด (12) การท่ีปริมาตรเลือดลดลงส่งผลให้ปริมาตรเลือดท่ีหัวใจบีบตัวหนึ่งครัง (Stroke Volume) เพื่อไป เลียงส่วนต่างๆของร่างกายลดลงส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึนเพื่อรักษาระดับเลือดที่หัวใจ บีบตัวเพื่อไปเลียงส่วนต่างๆของร่างกายให้คงท่ี (13) จากท่ีกล่าวมาข้างต้นการเติมน้ากลับจึงเป็น ส่ิงจ้าเป็นเพ่ือเพ่ิมปริมาตรเลือดและรักษาระดับสมดุลน้าภายในร่างกายป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิด ภาวะขาดน้าและชว่ ยป้องกนั ไมใ่ หป้ ระสทิ ธภิ าพในการเลน่ กีฬาลดลง (14) ในปี ค.ศ. 1993 The American College of Sports Medicine and the American Dietetic Association ได้ให้ค้าแนะน้าว่าควรเติมน้ากลับภายหลังจากการออกก้าลังกายในปริมาตร 150% ของน้าหนักตัวที่หายไป ตัวอย่างเช่น หลังจากการออกก้าลังกาย พบว่าน้าหนักตัวของตนเอง ลดลงไป 1 กิโลกรัม ดังนันปริมาตรของเครื่องด่ืมที่ได้รับจะเท่ากับ 1.5 ลิตร (15-17) Melin และคณะ ในปี ค.ศ. 1994 ได้ศกึ ษาเร่ืองผลของการเติมน้ากลับที่ส่งผลตอ่ ความสามารถของออกก้าลังกายแบบ ทนทาน ให้อาสาสมัคร 6 คน เข้ารับการทดสอบ 3 ส่วนโดยให้อาสาสมัครวิ่งบนลู่ว่ิงไฟฟ้าท่ีระดับ ความหนัก 50% ของอัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุดในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมงท่ีอุณหภูมิ 35 องศา เซลเซียส จนเกิดภาวะขาดน้า 2.6% ของน้าหนักตัวและท้าการทดสอบวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าจนกระท่ังไม่ สามารถออกก้าลังกายต่อได้ ในกล่มุ ที่ 1 อาสาสมคั รท้าการทดสอบโดยไม่มีการเติมน้ากลับ ในกลุ่มท่ี 2 อาสาสมัครด่ืมเคร่ืองดื่มน้าแร่ท่ี 26 องศาเซลเซียสโดยเตมิ น้ากลบั 50% ของการสูญเสียน้าในช่วง ของการออกก้าลังกายเพ่ือให้เกิดภาวะขาดน้า โดยแบ่งการเติมน้ากลับเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 เติมน้า กลับโดยด่ืมปริมาตรทังหมดที่ต้องด่ืม ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นการเติมน้ากลับโดยแบ่งปริมาตรที่ต้องดื่ม เป็น 4 ส่วนเท่าๆกันโดยแบ่งเป็น ดื่มน้าก่อนออกก้าลังกาย 15 นาทีและระหว่างออกก้าลังกายเป็น นาทที ่ี 15, 30 และ 45 ซึ่งผลการศึกษาพบว่าการดื่มน้าก่อนออกก้าลังกาย 15 นาทแี ละระหวา่ งการ ออกก้าลังกายนาทีท่ี 15 30 และ 45 ให้ผลในเร่ืองประสิทธิภาพของการออกก้าลังกายแบบใช้ ออกซเิ จนดที ่ีสุด (1) ในช่วงปี ค.ศ. 2007 ได้มีการศึกษาการเติมน้ากลับเข้าสู่ร่างกายโดยเปรียบเทียบเคร่ืองด่ืม เกลือแร่ (2 ชนิด) และน้าแร่ (2 ชนิด) โดยให้อาสาสมัครจ้านวน 8 คนออกก้าลังกายเป็นเวลา 6

50 นาที ท่ีความหนัก 80% ของอัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุด ท้าให้น้าหนักตัวลดลง 1.98% จากนัน ให้ด่ืมเคร่ืองด่ืมทัง 4 ชนิดภายหลังจากการออกก้าลังกาย ผลการศึกษาพบว่าเคร่ืองด่ืมท่ีผสม คาร์โบไฮเดรตและอิเล็กโทรไลต์นันระดับน้าในร่างกายใกลเ้ คียงกับก่อนการออกก้าลังกายและระดับ น้าในร่างกายน้อยกว่าก่อนการออกก้าลังกายในน้าแร่ ซึ่งเม่ือหลังจากการท่ีออกก้าลังกายแล้วควร ได้รับเครื่องดื่มเพ่ือให้ปริมาตรน้าในร่างกายอยู่ในระดับปกติ การดื่มน้าแร่มีความแตกต่างกับ เครอื่ งดมื่ ผสมเกลือแรท่ ่ีสว่ นประกอบ โดยทเี่ ครอื่ งดื่มผสมเกลือแร่จะมีการให้พลังงานเขา้ มาเกี่ยวข้อง พลังงานทไ่ี ด้จากเครื่องดื่มผสมเกลอื แร่นันคือ คารโ์ บไฮเดรต ซึ่งในน้าแรน่ ันไม่มีดงั ท่ีกล่าวมาจึงท้าให้ การดื่มเครื่องด่ืมผสมเกลือแร่ท้าให้มีประสิทธิภาพในการออกก้าลังกายด้านระบบหัวใจและหลอด เลือดมากกวา่ (7) ตอ่ มาในช่วง ค.ศ. 2012 ได้มกี ารศึกษาเปรยี บเทียบการด่มื น้ามะพร้าวและเคร่ืองดื่มนักกีฬา ท่ีมีผลต่อภาวะน้าในร่างกายและสมรรถภาพทางกาย โดยให้อาสาสมัคร 12 คน ออกก้าลังกายเพื่อ ท้าให้เกิดภาวะขาดน้าด้วยการเดินหรือวงิ่ บนลู่วง่ิ ไฟฟ้าเป็นเวลา 30 นาที มีความเร็วเริ่มต้นท่ี 2 ไมล์ ต่อชั่วโมง เพ่ิมความเร็วขึน 1 ไมล์ต่อช่ัวโมง ในทุก 5 นาที จนถึงความเร็วสูงสุดที่ 7 ไมล์ต่อช่ัวโมง จากนันให้อาสาสมัครพัก 10 นาทีแล้วให้ท้าแบบทดสอบเดิมอีกครัง เม่ือท้าการทดสอบเสร็จสิน อาสาสมัครจะไดร้ ับเคร่ืองด่ืม 4 ชนดิ คอื 1. น้าเปล่า 2. ผลติ ภัณ์น์ ้ามะพร้าว 3. นา้ มะพรา้ วจากลูก มะพร้าวธรรมชาติ 4. เคร่ืองดื่มนักกีฬา อาสาสมัครจะได้เครื่องดื่มในปริมาตรเป็น 1.3 เท่าของ น้าหนักตัวท่ีสูญเสียไปภายหลังการออกก้าลังกาย ก้าหนดระยะเวลาในการบริโภคทังหมดภายใน 60 นาที และนั่งพักภายในห้องวิจัยเป็นเวลา 3 ช่ัวโมง ต่อมาให้อาสาสมัครวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าด้วย ความเร็วคงท่ีตลอดช่วงการทดสอบที่ 4.2 ไมล์ต่อช่ัวโมง มีระดับความชัน 0% และเพิ่มระดับความ ชนั ที่ 2.5% ทุกๆ 3 นาที จนถงึ ระดับความชันท่ี 15% และทา้ การวิ่งจนกระทงั่ ไมส่ ามารถว่งิ ต่อได้ ทา้ การบันทึกเวลาที่อาสาสมัครสามารถว่ิงได้ ผลการศึกษาพบว่าอาสาสมัครที่ดื่มน้ามะพร้าวและ เครือ่ งดมื่ นักกีฬาอาสาสมัครสามารถท้าเวลาในการว่งิ บนลูว่ ง่ิ ไฟฟา้ ไม่แตกต่างกัน (2) จากแนวโน้มเครื่องดื่มท่ีผ่านมาหลายๆงานวิจัย คนออกก้าลังกายส่วนใหญ่หันมาสนใจใน เรื่องการรับประทานเคร่ืองดื่มที่ได้จากธรรมชาติ ซ่ึงน้ามะเขือเทศมีโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซีและไลโคปีน เป็นต้น ซึ่งไลโคปีนช่วยลดความดัน โลหิตสูง ลดไขมันท่ีความหนาแน่นต่้าและมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่สามารถต้านการเกิดมะเร็งได้ ดังนันจะเห็นไดว้ ่าข้อมลู ทางโภชนาการของน้ามะเขือเทศคลา้ ยคลึงกบั เคร่ืองผสมเกลือแร่และผลของ การศึกษาเร่ืองน้ามะเขือเทศ ยาธรรมชาติและประโยชน์ต่อสุขภาพยังบอกว่าน้ามะเขือเทศ มี คุณสมบตั ดิ เี ทยี บเทา่ กบั เคร่อื งดื่มเกลือแร่และชว่ ยลดความเมื่อยลา้ ของกลา้ มเนือ (3) จากการศึกษางานวิจัยเรื่องของ Tsitsimpikou C. และคณะในปี ค.ศ.2013 (9) ได้ ท้าการศึกษาในนักกีฬาทังหมด 15 คนแบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 9 คนซึ่งจะได้รับเคร่ืองด่ืมน้ามะเขือเทศ 7

ระหว่างและหลังการออกก้าลังกายและกลุ่มควบคุม 6 คน ได้รับเคร่ืองด่ืมท่ีผสมคาร์โบไฮเดรต โดย ศึกษาผลของครีเอทีนฟอสโฟคิเนสและแลคเตตดีไฮโดรจีเนสซ่ึงการศึกษาผลงานวิจัยพบว่าครีเอทีน ฟอสโฟคิเนส และแลคเตตดีไฮโดรจีเนสลดลงถึงระดับปกติในกลุ่มอาสาสมัครท่ีดื่มน้ามะเขือเทศ ไดผ้ ลไม่ตา่ งกันกับกลมุ่ ทีด่ ื่มเคร่ืองดื่มท่ีผสมคารโ์ บไฮเดรต จากการศึกษาข้างต้นได้มีการเปรียบเทียบระหว่างน้ามะพร้าวกับเครื่องด่ืมผสมเกลือแร่แต่ ยังไม่มีการศึกษาใดท่ีศึกษาการเปรยี บเทียบระหวา่ งนา้ มะพร้าวกับน้ามะเขือเทศวา่ เครื่องด่ืมชนิดใด ท่ีสามารถเป็นเครื่องดื่มท่ีชว่ ยในเรอ่ื งของการเปรียบเทียบสมรรถภาพในการออกก้าลังกายระยะยาว ภายหลังจากการออกกา้ ลังกายท่ีทา้ ให้เกดิ ภาวะขาดนา้ 8

บทท่ี 3 ระเบียบวธิ วี จิ ยั (Method) 3.1. กระบวนการทดสอบ (Experimental procedures) โ ค ร ง ก า ร วิ จั ย นี ไ ด้ คั ด เ ลื อ ก อ า ส า ส มั ค ร จ า ก ก า ร ป ร ะ ก า ศ เ ชิ ญ ช ว น ผู้ ที่ ส น ใ จ เ ข้ า ร่ ว ม โครงการวิจัยนีและได้ท้าการนัดหมายอีกครังเพ่ือชีแจงรายละเอียด วัตถุประสงค์ วิธีการและความ เส่ียงของโครงการวิจัยนี อาสาสมัครลงชื่อยินยอมเข้าร่วมโครงการวิจัยซ่ึงขบวนการวิจัยได้รับการ อนุมัติจากคณะกรรมการวิจัยของคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากนันให้ อาสาสมัครเข้าร่วมท้าแบบสอบถามคัดเลือกอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ข้อมลู ทั่วไป ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ประวตั ิสขุ ภาพและข้อมลู ประเมนิ ระดับกจิ กรรม อาสาสมคั รรวมทังสินเป็นจา้ นวน 8 คน จะต้องเขา้ รับการทดสอบจ้านวน 3 ครัง การเขา้ รับ การทดสอบแต่ละครงั จะเวน้ ระยะเวลาหา่ งกัน 7 วนั เพือ่ ใหก้ ลไกต่างๆในร่างกายกลบั เข้าสู่ภาวะ ปกตแิ ละมรี ะยะเวลาพักฟื้นใหก้ ลา้ มเนอื ไมเ่ กดิ ความเมื่อยล้า 3.1.1 อาสาสมัคร (Subject) เกณฑ์การรบั อาสาสมัครเข้ารว่ มโครงการ (Inclusion Criteria) 1) อาสาสมัครเพศชาย 2) อายุระหวา่ ง 18-22 ปี 3) มีสุขภาพดีและออกกา้ ลงั กายเปน็ ประจ้าอยา่ งน้อย 3 ครงั ต่อสัปดาห์ 4) ผ่านการทดสอบแบบสอบถามสา้ หรับคัดเลอื กอาสาสมคั รเขา้ รว่ มงานวิจัย 5) ผา่ นการทดสอบสมรรถภาพ (Program FIT Test) ทรี่ ะดับคะแนน 44-49 เกณฑก์ ารคดั อาสาสมัครออกจากโครงการ (Exclusion Criteria) 1) อาสาสมัครทสี่ บู บหุ ร่ี 2) อาสาสมคั รทีป่ ่วยเป็นโรคกล้ามเนอื และกระดูก เช่น โรคกระดูกพรนุ โรคขอ้ เส่อื ม 3) อาสาสมัครท่ีป่วยเป็นโรคหัวใจและโรคท่ีเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เชน่ โรคความดันโลหิตสูง โรคหอบหืด 4) อาสาสมัครที่มีการกินอาหารเสริมหรือยาที่ส่งผลต่อระบบการเผาผลาญ พลังงานหรือระบบหายใจและไหลเวียนเลือดหรือระบบประสาทส่วนกลาง ภายใน 24 ชัว่ โมงกอ่ นการทดสอบ 5) อาสาสมัครแพ้น้ามะพร้าวหรอื นา้ มะเขือเทศ 9

เกณฑก์ ารยุตเิ ขา้ ร่วมโครงการ (Discontinuation Criteria) 1) อาสาสมคั รมีความต้องการขอยตุ ิการทดสอบดว้ ยตนเอง 2) อาสาสมัครมีภาวะเจ็บปว่ ย เกิดจากการบาดเจบ็ ระหว่างทา้ การทดสอบหรือ สาเหตุอื่นๆ ทส่ี ่งผลทา้ ให้ไมส่ ามารถทา้ การทดสอบจนเสรจ็ สินได้ 3) อาสาสมัครไม่สามารถทา้ การด่มื น้ามะพร้าวหรือนา้ มะเขือเทศได้ 3.2 ตวั แปรที่สนใจและเครื่องมือ (Parameters of interesting and instrumentation) ตัวแปรและเครอ่ื งมือ 3.2.1 การวดั สัดสว่ นร่างกาย (Anthropometry) 3.2.1.1 สว่ นสงู หนว่ ยเป็น เซนตเิ มตร (ซม.) วดั โดยเคร่อื ง Height meter 3.2.1.2 น้าหนักตัว หน่วยเป็น กิโลกรัม (กก.) วัดโดยเครื่อง Body composition analyzer (Tanita MC-780) 3.2.1.3 เปอร์เซ็นต์ไขมนั หน่วยเปน็ กิโลกรมั (กก.) วัดโดยเครอื่ ง Body composition analyzer (Tanita MC-780) 3.2.2 สญั ญาณชพี (Vital sign) 3.2.2.1 ความดนั โลหิต หนว่ ยเปน็ มลิ ลเิ มตรปรอท (มม.ปรอท) วัดโดยเครื่องวดั ความดนั โลหติ แบบอตั โนมตั ิ (OMRON รนุ่ HEM-7121) 3.2.2.2 อัตราการเต้นของหวั ใจ หนว่ ยเปน็ ครังต่อนาที วดั โดยเคร่อื งวัดอตั ราการ เตน้ ของหัวใจแบบคาดอก (Polar รุ่น RS300X) 3.2.2.3 การประเมินระดับความพยายามในการออกก้าลังกาย (Rate Perceived of Exertion, RPE) วัดโดย Rate Perceived of Exertion scale (Borg, 1998) 3.2.2.4 การประเมินอาการปวดเม่ือยกล้ามเนือ วัดโดย pain scale (Ghaderi, F. et al, 2013) 3.2.3 การวัดอุณหภมู ิและความชืนสัมพันธ์ 3.2.3.1 อุณหภูมิ หน่วยเป็น องศาเซลเซียส วัดโดยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบดิจิตอล (SANITAS ร่นุ SFT65) 3.2.3.2 ความชืนสัมพัทธ์ วัดโดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิและความชืน (Thermo- hygrometer รนุ่ SATO) 3.2.4 การวดั สมรรถภาพ 3.2.4.1 เวลาในการออกก้าลังกายจนไม่สามารถออกก้าลังกายต่อได้ หน่วยเป็น นาที วัดโดยนาฬกิ าจบั เวลา 10

3.2.4.2 การประเมินระดับความพยายามในการออกก้าลังกาย (Rate Perceived of Exertion, RPE) วัดโดย Rate Perceived of Exertion scale (Borg, 1998) 3.2.4.3 การประเมินอาการปวดเม่ือยกล้ามเนือ วัดโดย pain scale (Ghaderi, F. et al, 2013) 3.2.5 สภาวะน้า (Hydration status) 3.2.5.1 ค่าความถ่วงจ้าเพาะปัสสาวะ วัดโดยเครื่องวัดความถ่วงจ้าเพาะปัสสาวะ (Refractometer รนุ่ URC- Ne) 3.2.6 เครอื่ งดม่ื ที่ใชใ้ นการวิจัย 3.2.6.1 น้ามะพรา้ ว (Cocomax ผลติ โดยบริษทั อมั พวาผลติ ภณั ์์มะพรา้ วจา้ กัด) 3.2.6.2 น้ามะเขือเทศ (ดอยค้า ผลติ โดยบริษทั ดอยค้าผลิตภัณ์์อาหารจา้ กดั ) 11

แผนภาพท่ี แ1ผแนสภดางพขท้นั ่ี 1ตอแนสกดางรขเต้นั รตียอมนอวาธิสีกาสารมวคัจิ รยั การเอปอรกียกบาเทลงีัยกบารยะเพห่ือวาท่ งานใ้หามเ้ กะิดพ ที่ส่งผลต่อสมรรถภาพการออกก

ดพภรา้ วะกขบั านด้านม้าะชเข่วืองเขทอศงหกลารงั จพากั กฟก้ื นารแอลอะกการาลวดงั กสามยรทร่ีทถาภใาหพเ้ กิดารภอาอวกะขกาดลนงั ก้าายระยะยาว กาลงั กายระยะยาวในวยั รุ่นเพศชาย 12

3.3 ขนั ตอนการทดสอบ ครังที่ 1 ของการทดสอบเพ่ือคัดเข้ารว่ มงานวิจัย 3.3.1 ขนั ตอนการทดสอบอาสาสมัครเพื่อคัดเข้ารับการทดสอบ อาสาสมัครเพศชายอายุระหว่าง 18-22 ปีมีสุขภาพดีและออกก้าลังกายเป็นประจ้า อย่าง น้อย 3 ครังต่อสัปดาห์ หลังจากอาสาสมัครผ่านการคิดคะแนนแบบสอบถามส้าหรับคัดเลือก อาสาสมัครเข้าร่วมงานวิจัยแล้วผู้วิจัยให้อาสาสมัครท้าการทดสอบสมรรถภาพด้วยโปรแกรม Fit test บนลู่ว่ิงไฟฟ้าโดยท้าการใส่ข้อมูลเบืองต้นคือน้าหนัก อายุ เพศ โดยก้าหนดความเร็วในการ วิ่งเทา่ กับ 7.3 กโิ ลเมตรต่อช่วั โมง ความชันเท่ากบั 5 เปอร์เซน็ ต์แลว้ วิ่งบนลวู่ ่ิงไฟฟา้ เป็นเวลา 5 นาที ภายหลังการทดสอบสมรรถภาพของอาสาสมคั รเสรจ็ สิน โดยลู่วง่ิ ไฟฟ้าจะแสดงระดบั สมรรถภาพของ อาสาสมัคร ซึ่งเกณ์์ในการคัดอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการวิจัย อาสาสมัครต้องได้คะแนนมากกว่า ค่าเฉลย่ี อยูท่ ่ี 44-49 คะแนน แผนภาพท่ี 2 แสดงขันตอนการทดสอบสมรรถภาพด้วยโปรแกรม Fit Test ครังที่ 2 การทดสอบโดยการสุ่มเครื่องด่ืมครังที่ 1 และครังที่ 3 การทดสอบโดยการสุ่ม เครื่องดม่ื ครังท่ี 2 3.3.2 ขนั ตอนการเตรยี มอาสาสมัคร ผู้วิจัยแจ้งอาสาสมัครให้งดอาหาร ก่อนการทดสอบ 10-12 ช่ัวโมง งดเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ และงดการออกก้าลังกายก่อนการทดสอบ 24 ช่ัวโมง ในวันทดสอบอาสาสมัครรายงานตัว ณ ห้อง วิจัย อาคารเมนสเตเดี่ยม เวลา 8.00 น. เม่อื อาสาสมัครมาถึงจะได้รบั การตรวจปัสสาวะเพ่อื ตรวจหา ค่าความถ่วงจ้าเพาะของปัสสาวะ เพ่ือดูว่ามีปริมาตรน้าในร่างกายอยู่ในเกณ์์ปกติหรือไม่ ถ้า อาสาสมัครอยู่ในภาวะขาดน้าคือ มีค่าความถ่วงจ้าเพาะของปัสสาวะมากกว่า 1.020 ให้อาสาสมัคร 13

ด่ืมน้าปริมาตร 500 มิลลิลิตร (18) แล้วตรวจหาค่าความถ่วงจ้าเพาะของปัสสาวะอีกครัง จนกว่าค่า ความถ่วงจ้าเพาะของปัสสาวะจะอยู่ในเกณ์์ปกติคือ 1.001-1.020 จึงจะท้าการทดสอบการต่อไป แตถ่ า้ อาสาสมคั รอยใู่ นภาวะที่นา้ ในรา่ งกายอยใู่ นเกณ์์ปกติให้ท้าการทดสอบตอ่ ไป แผนภาพที่ 3 แสดงขันตอนการเตรยี มอาสาสมัคร 3.3.3 ขันตอนการออกก้าลังกายเพ่ือให้เกิดภาวะขาดน้า ( Exercise-induced dehydration) อาสาสมัครเข้ารับการวัดส่วนสูง น้าหนัก เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ความดันโลหิต อัตรา การเต้นของหัวใจ ระดับความพยายามในการออกก้าลังกาย ระดับอาการปวดเม่ือยกล้ามเนือ อุณหภูมิร่างกาย หากอาสาสมัครมีความดันโลหิตมากกว่า 120/80 มิลลิเมตรปรอทและอัตราการ เต้นของหัวใจขณะพักมากกว่า 100 ครังต่อนาที (19) จะให้อาสาสมัครนั่งพัก 10 นาที หลังจากนันให้ อาสาสมัครท้าการยืดเหยียดกล้ามเนือ 10 ท่าประกอบด้วยท่ายืดเหยียดกล้ามเนือบริเวณต้นคอ ต้น แขน ล้าตัว ต้นขาโดยท้าการยืดเหยียดกล้ามเนือในแต่ละท่านาน 15-30 วินาที หลังเสร็จสินการยืด เหยียดกล้ามเนือให้อาสาสมัครเริ่มว่ิงบนลู่ว่ิงไฟฟ้าท่ีความเร็วเริ่มต้น 3.2 กิโลเมตรต่อช่ัวโมง ระดับ ความชัน 0 เปอร์เซ็นต์และเพิ่มความเร็ว 1.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทุกๆ 5 นาทีจนครบ 30 นาที โดย ทุกครังที่เพิ่มความเร็วผู้วิจัยจะท้าการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับความพยายามในการออก ก้าลังกาย ระดับอาการปวดเม่ือยกล้ามเนือหลังจากนันให้อาสาสมัครพัก 10 นาที ในช่วงเวลาพักจะ ไม่อนุญาตให้อาสาสมัครด่ืมน้าหรือเครื่องด่ืมใดๆเน่ืองจากการด่ืมน้าและเครื่ องดื่มจะส่งผลท้าให้ 14

น้าหนักตัวของอาสาสมัครเพ่ิมขึนและจะท้าให้ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้อาสาสมคั ร ออกก้าลังกายเพื่อให้เกิดภาวะขาดน้า เม่ืออาสาสมัครพักครบ 10 นาทีแล้วจงึ เร่ิมการทดสอบอีกครัง โดยท้าเช่นเดียวกับการทดสอบแรก หลังเสร็จสินการทดสอบท้าการวัดความดันโลหิต อัตราการเต้น ของหัวใจ น้าหนัก เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ระดับความพยายามในการออกก้าลังกาย ระดับ อาการปวดเมื่อยกล้ามเนือ อุณหภูมริ า่ งกายของอาสาสมัครโดยระยะเวลาที่ออกก้าลังกายเพื่อให้เกิด ภาวะขาดน้าใช้เวลาทังสิน 70 นาที โดยให้เปรียบเทียบน้าหนักตัวก่อนและหลังการออกก้าลังกาย เพอ่ื วัดผลการขาดนา้ 1.8 เปอร์เซ็นตข์ องน้าหนักตัว (20) 3.3.4 ขันตอนการพักฟื้น (Recovery period) แผนภาพที่ 4 แสดงข้นั ตอนการออกกาลงั กายเพ่ือใหเ้ กิดภาวะขาดน้า หลังเสร็จสินการออกก้าลังกายเพ่ือให้เกิดภาวะขาดน้า น้าน้าหนักตัวท่ีลดลงมาค้านวณ ปริมาตรเครือ่ งดมื่ ทีอ่ าสาสมคั รต้องดม่ื ภายหลังจากการออกกา้ ลังกาย ซึ่งค้านวณได้จาก ปริมาตรเคร่ืองดมื่ (ลิตร) = [นา้ หนกั ตัวก่อนออกก้าลงั กาย(กก.) - น้าหนักตัวหลังออกก้าลงั กาย(กก.)] X 1.5 อาสาสมัครจะได้รับเคร่ืองดื่มโดยแบ่งการดื่มเป็น 3 ครัง ในครังท่ี 1 จะได้รับเคร่ืองดื่ม ปริมาตร 50% ของปริมาตรเครื่องด่ืมทังหมดในอีก 30 นาทีถัดมาดื่มเคร่ืองดื่ม ในครังท่ี 2 ปริมาตร 25% ของปริมาตรเครื่องด่ืมทังหมดและในอีก 30 นาทีถัดมาดื่มเครื่องด่ืมครังสุดท้ายในปริมาตร 25% ของปริมาตรเครื่องด่ืมทังหมด ในการดื่มแต่ละครังอาสาสมัครจะต้องดม่ื เครอ่ื งด่ืมในปริมาตรที่ ก้าหนดไว้ให้หมดภายในเวลา 5 นาที หลังจากดื่มน้าครบปริมาตรท่ีก้าหนดแล้วให้อาสาสมัครนั่งพัก 15

เปน็ เวลา 1 ชวั่ โมง (21) เมื่อสนิ สดุ เวลาการพักให้อาสาสมัครเริ่มท้าการทดสอบการวัดสมรรถภาพการ ออกก้าลังกาย โดยปริมาตรเคร่ืองด่ืมที่อาสาสมัครต้องดื่มเป็น 150%ของน้าหนักตัวท่ีหายไป เช่น อาสาสมัครน้าหนักตัวลดลง 1 กิโลกรัม ภายหลังจากการออกก้าลังกายอาสาสมัครจะต้องด่ืม เครื่องด่ืมในปริมาตร 1.5 ลิตร โดยแบ่งการด่ืมเคร่ืองด่ืมออกเป็น 3 ครัง ครังที่ 1 ในนาทีท่ี 1 อาสาสมัครดื่มเคร่ืองดื่มปริมาตร 0.75 ลิตร ครังที่ 2 ในนาทีที่ 30 อาสาสมัครด่ืมเคร่ืองดื่มปริมาตร 0.375 ลิตรและครังท่ี 3 ในนาทีที่ 60 อาสาสมัครดื่มเครื่องด่ืมปริมาตร 0.375 ลิตร ซ่ึงข้อมูลทาง โภชนาการของเคร่ืองดมื่ แต่ละชนิดได้แสดงไว้ในตารางท่ี 3.1 แผนภาพที่ 5 แสดงขนั ตอนการพกั ฟนื้ ตารางท่ี 3.1 ข้อมูลทางโภชนาการของเครื่องด่ืมทัง 2 ชนิด สว่ นประกอบ นา้ มะเขอื เทศ น้ามะพรา้ ว พลังงาน(กิโลแคลอรี่) 125 128.5 คาร์โบไฮเดรต(กรัม) 25 30 5 1.4 โปรตนี (กรมั ) - - ไขมัน(กรมั ) 0.675 0.1 โซเดยี ม(กรมั ) 1.173 1.214 โพแทสเซยี ม(กรัม) 4 2 เหลก็ (%) 16

3.3.5 ขันตอนการวดั สมรรถภาพการออกกา้ ลังกายระยะยาว (Prolonged exercise performance test) หลังจากการด่ืมเครื่องด่ืมและพักเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ให้อาสาสมัครเริ่มต้นการทดสอบ ความสามารถการออกก้าลังกายในระยะเวลาเพื่อวัดระยะเวลาในการออกก้าลังกาย การทดสอบ ความสามารถการออกก้าลังกายในระยะเวลา อาสาสมัครวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าด้วยความเร็ว 6 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงด้วยความเร็วคงท่ี ระดับความชัน 5% โดยให้อาสาสมัครท้าการว่ิงบนลู่ว่ิงไฟฟ้าจนไม่ สามารถว่ิงต่อไปได้ ซึ่งสามารถสังเกตได้จาก 1. อัตราการเต้นของหัวใจมากกว่าเกณ์์ท่ีก้าหนด โดย ค้านวณจาก 207-0.7(อายุ) (22) 2.อาสาสมัครรายงานค่าระดับความพยายามในการออกก้าลังกาย เท่ากับ 19-20 3.อาสาสมคั รรายงานค่าระดบั อาการปวดเม่ือยกล้ามเนือเทา่ กับ 9-10 4.อาสาสมัคร ขอหยุดการทดสอบ ให้ผู้วิจัยบันทึกเวลาท่ีอาสาสมัครสามารถวิ่งได้และวัดความดันโลหิต อัตราการ เต้นของหัวใจ น้าหนัก เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ระดับความพยายามในการออกก้าลังกาย ระดับ อาการปวดเม่ือยกล้ามเนืออุณหภูมิร่างกายของอาสาสมัคร ซึ่งการสินสุดการทดสอบผู้วิจัยจะสังเกต จากอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับความพยายามในการออกก้าลังกาย ระดับอาการปวดเม่ือย กล้ามเนือตลอดช่วงเวลาการทดสอบ โดยผู้วิจัยจะท้าการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดโดยเครื่องวัด อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart rate monitor Polar รุ่น RS300X) ระดับความพยายามในการออก ก้าลังกาย วัดโดย Rate Perceived of Exertion scale (Borg, 1998) ระดับอาการปวดเมื่อย กล้ามเนือ วัดโดยใช้วิธีการวดั แบบการบอกความรู้สึกเป็นตัวเลข (numerical rating scales : NRS) ทุก 1 นาทีเป็นการประเมินความปวดด้วยตัวเลข โดยผู้วิจัยจะแจ้งอาสาสมัครว่าถ้าไม่ปวดเลยแทน ด้วยเลข 0 และปวดรุนแรงมากแทนด้วยเลข 10 ให้อาสาสมัครเลือกว่าตอนนีรู้สึกปวดอยู่ที่เลขใด การให้คะแนนความปวด (pain score) 1-2 คือ ยอมรับได้ 3-4 มีอาการปวดเล็กน้อยพอทนได้ 5-6 ปวดปานกลางบางครัง 7-8 ปวดมากและ 9-10 คือปวดรุนแรงมาก ซ่ึงอาการปวดนีหมายถึงอาการ ปวดเม่ือยกล้ามเนอื 17

แผนภาพท่ี 6 แสดงขันตอนการวดั สมรรถภาพการออกก้าลังกายระยะยาว ครงั ท่ี 3 ท้าการทดสอบ 7 วันถดั มาซึ่งท้าการทดสอบเช่นเดียวกับการทดสอบในครังที่ 2 แต่อาสาสมัครจะไดร้ ับเครอ่ื งด่มื ทต่ี า่ งไปจากครังท่ี 2 3.4 การวิเคราะห์ขอ้ มลู ทางสถิติ การวิเคราะห์ผลทางสถิติจะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (SPSS version 22) ทดสอบการแจก แจงแบบปกติของข้อมูลท่ัวไปของอาสาสมัครโดยแสดงผลในรูปค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ช่วงการออกก้าลังกายเพื่อให้เกิดภาวะขาดน้าได้เปรียบเทียบน้าหนักตัวก่อนและหลังการออกก้าลัง กายเพ่ือวัดผลการขาดน้า 1.8 เปอร์เซ็นต์ของน้าหนักตัว ช่วงการวัดสมรรถภาพการออกก้าลังกาย ระยะยาวได้เปรียบเทียบเวลาของความสามารถในการออกก้าลังกายระยะยาว อัตราการเต้นของ หัวใจ ระดับความพยายามในการออกก้าลังกายและระดับอาการปวดเมื่อยกล้ามเนือระหว่างน้า มะพร้าวและน้ามะเขือเทศโดยใช้สถิติ Two-way repeated measures ANOVA ในกรณีข้อมูลมี การกระจายตัวแบบปกติ แต่หากข้อมูลมีการกระจายตัวแบบไม่ปกติจะใช้สถิติ Friedman Two- way ANOVA ทีร่ ะดบั นัยสา้ คญั ทางสถติ นิ อ้ ยกว่า 0.05 18

บทท่ี 4 ผลการศกึ ษา (Result) 4.1 ขนั ตอนการทดสอบ 4.1.1 ขันตอนการเตรยี มอาสาสมคั ร อาสาสมคั รเพศชายจา้ นวน 8 คน (อายุ 19.74 ± 1.25 ปี สว่ นสูง 174.13 ± 7.95 เซนตเิ มตร น้าหนักตัว 68.68 ± 6.94 กิโลกรัม) ได้ท้าการทดสอบครบทุกขันตอนขบวนการวิจัย ในขันตอนการ เตรียมอาสาสมัครพบว่าค่าความถ่วงจ้าเพาะของปัสสาวะ น้าหนักตัว ความดันโลหิต อัตราการเต้น ของหัวใจขณะพักไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ แสดงไว้ในตารางท่ี 4.1 เมื่อ อาสาสมัครตรวจพบว่ามีความถ่วงจ้าเพาะปัสสาวะอยู่ในเกณ์์ปกติ อาสาสมัครจะเร่ิมท้าการออก ก้าลังกายเพื่อให้เกิดภาวะขาดน้า ซ่ึงในขันตอนนีพบว่าน้าหนักก่อนและหลังการออกก้าลังกายท่ีท้า ให้เกิดภาวะขาดน้าและร้อยละของน้าหนักตัวท่ีหายไปในอาสาสมัครทังสองกลุ่มไม่มีความแตกต่าง กันอยา่ งมนี ัยส้าคญั ทางสถติ ิ แสดงไวใ้ นตารางที่ 4.2 ตารางท่ี 4.1 แสดงขอ้ มูลพนื ฐานของอาสาสมคั รจา้ นวน 8 คนในขันตอนการเตรียมอาสาสมัคร ตวั แปร นา้ มะเขือเทศ น้ามะพร้าว อายุ (ป)ี สว่ นสงู (ซม.) 19.74 ± 1.25 น้าหนักตัว (กก.) ความดนั โลหิตขณะหวั ใจบีบตัว (มม.ปรอท) 174.13 ± 7.95 ความดนั โลหติ ขณะหวั ใจคลายตวั (มม.ปรอท) อตั ราการเต้นของหวั ใจขณะพัก (ครงั /นาที) 68.59 ± 6.92 68.64 ± 6.99 ค่าความถว่ งจ้าเพาะของปสั สาวะ 129.50 ± 14.31 125.50 ± 12.57 73.63 ± 6.55 70.50 ± 8.98 67.88 ± 11.53 60.38 ± 6.05 1.016 ± 0.01 1.014 ± 0.01 19

ตารางท่ี 4.2 แสดงขอ้ มูลของอาสาสมคั รในขันตอนการออกก้าลังกายเพ่ือให้เกิดภาวะขาดน้า นา้ หนกั ตวั กอ่ นการออกก้าลงั กายทีท่ า้ ใหเ้ กดิ ภาวะขาดน้า (กก.) นา้ มะเขือเทศ น้ามะพรา้ ว นา้ หนกั ตวั หลังการออกกา้ ลงั กายทที่ ้าใหเ้ กิดภาวะขาดนา้ (กก.) 68.59 ± 6.92 68.64 ± 6.99 น้าหนักตวั ทห่ี ายไปหลังการออกกา้ ลังกายทท่ี า้ ให้เกิด 67.46 ± 6.84 67.42 ± 6.88 ภาวะขาดนา้ (กก.) นา้ หนักตัวทห่ี ายไปหลงั การออกก้าลังกายทท่ี ้าใหเ้ กิด 1.12 ± 0.18 1.22 ± 0.38 ภาวะขาดนา้ (ร้อยละ) 1.64% ± 0.25% 1.77% ± 0.53% 4.2.2 ขันตอนการพักฟนื้ (Recovery period) หลังจากอาสาสมัครออกก้าลังกายเพื่อท้าให้เกิดภาวะขาดน้าเสร็จสิน อาสาสมัครจะได้รับ เคร่ืองด่ืมปริมาตร 150% ของน้าหนักตัวที่หายไป จากการศึกษาพบว่าปริมาตรและพลังงานของ เครื่องดื่มทัง 2 ชนิดไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ แต่จากการศึกษาพบว่าโปรตีน และโซเดียมซึ่งเป็นส่วนประกอบในเครื่องด่ืมมีความแตกต่างอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ แสดงไว้ใน ตารางท่ี 4.3 ตารางที่ 4.3 แสดงขอ้ มลู ส่วนประกอบของเครือ่ งด่ืมแตล่ ะชนดิ ในขันตอนการพกั ฟ้ืน น้ามะเขอื เทศ น้ามะพรา้ ว 1822.50 ± 564.85 เคร่ืองด่ืมทงั หมด (มล.) 1685.63 ± 265.67 911.25 ± 282.4 455.63 ± 141.21 การด่มื ครังท่ี 1 (รอ้ ยละ 50) 842.81 ± 132.84 455.63 ± 141.21 468.38 ± 145.17 การดม่ื ครังท่ี 2 (ร้อยละ 25) 421.41 ± 66.42 109.35 ± 33.89 การด่มื ครังท่ี 3 (ร้อยละ 25) 421.41 ± 66.42 5.10 ± 1.58 0.37 ± 0.11 พลังงาน (กโิ ลแคลอรี)่ 421.41 ± 66.42 4.43 ± 1.37 คาร์โบไฮเดรต (กรมั ) 84.28 ± 13.28 โปรตีน (กรัม) 8.43 ± 1.33 * โซเดียม (กรมั ) 1.14 ± 0.18 * โพแทสเซียม (กรมั ) 3.95 ± 0.62 มีความแตกตา่ งอยา่ งมีนยั ส้าคัญทางสถิติทีร่ ะดับ p<0.05 20

4.2.3 ขนั ตอนการวดั สมรรถภาพการออกกา้ ลงั กายระยะยาว (Prolonged exercise performance test) หลังจากดื่มเคร่ืองดื่มและพักเป็นเวลารวมทังหมด 2 ช่ัวโมง อาสาสมัครเริ่มต้นการทดสอบ วดั สมรรถภาพการออกกา้ ลงั กายระยะยาว โดยทุกๆ 1 นาทผี ูว้ จิ ัยจะท้าการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระดบั ความพยายามในการออกก้าลังกาย ระดับอาการปวดเม่อื ยกล้ามเนือและผ้วู ิจัยจะทา้ การบันทึก เวลาท่ีอาสาสมัครท้าได้ (ว่ิงจนไม่สามารถวิ่งต่อได้) ซึ่งเวลาท่ีอาสาสมัครท้าได้ ค่าเฉลี่ยของอัตราการ เต้นของหัวใจ ระดับความพยายามในการออกก้าลังกายและระดับอาการปวดเมื่อยกล้ามเนือของ เคร่ืองดม่ื ทัง 2 ชนดิ ไม่มคี วามแตกต่างกนั อยา่ งมนี ยั สา้ คญั ทางสถติ ิ แสดงไวใ้ นตารางท่ี 4.4 ตารางที่ 4.4 แสดงข้อมูลการวัดสมรรถภาพในขนั ตอนการวดั สมรรถภาพการออกกา้ ลังกายระยะยาว เวลา (ที่ไมส่ ามารถว่งิ ต่อได้) (นาท)ี น้ามะเขอื เทศ นา้ มะพรา้ ว คา่ เฉลี่ยของอัตราการเต้นของหวั ใจ (ครัง/นาที) 62.38 ± 15.27 61.00 ± 14.23 อตั ราการเตน้ ของหัวใจสูงสดุ (นาทีสุดทา้ ย) (ครัง/นาที) 151.06 ± 7.54 153.08 ± 6.71 ค่าเฉลย่ี ของความพยายามในการออกกา้ ลงั กาย 180.00 ± 7.05 180.25 ± 6.84 ความพยายามในการออกก้าลังกายสูงสดุ (นาทสี ุดท้าย) 12.12 ± 2.26 12.34 ± 2.30 ค่าเฉลีย่ ของความปวดเมื่อยกลา้ มเนือ 19.38 ± 0.52 19.13 ± 1.13 ความปวดเมอ่ื ยกล้ามเนือสงู สุด (นาทีสดุ ทา้ ย) 4.72 ± 1.98 4.53 ± 2.10 ไมม่ ีความแตกต่างอย่างมีนยั ส้าคัญ (p>0.05) 9.50 ± 0.76 8.75 ± 1.67 21

บทที่ 5 การอภปิ รายผล (Discussion) การศึกษาครังนีมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบสมรรถภาพในการออกก้าลังกายระยะยาว ระหว่างนา้ มะพร้าวและน้ามะเขือเทศภายหลังจากการออกก้าลังกายท่ีท้าให้เกดิ ภาวะขาดน้า โดยผล การศึกษาพบว่าสมรรถภาพการออกก้าลังกายระยะยาวซึ่งวัดจากระยะเวลาในการว่ิงบนลู่วิ่ง ไฟฟ้า ระหว่างเคร่ืองดมื่ ทงั 2 ชนดิ ไม่มีความแตกตา่ งกนั อย่างมนี ยั สา้ คัญทางสถติ ิ (62.38±15.27 นาที และ 61.00±14.23 นาที ตามล้าดับ) ซ่ึงอาจเป็นผลมาจากเคร่ืองด่ืมทัง 2 ชนิด มีค่าพลังงานในเคร่ืองดื่ม ใกล้เคียงกัน จึงส่งผลต่ออัตราการคงค้างในระบบทางเดินอาหาร โดยเคร่ืองด่ืมที่มีค่าพลังงานเท่ากนั จะมีอัตราการคงค้างในระบบทางเดินอาหารไม่แตกต่างกันซ่ึงผลของการศึกษาครังนีมีความ สอดคล้องกับงานการศึกษาของ Kalman, Feldman และคณะ ปีค.ศ.2012 (2) ที่ได้ท้าการ เปรียบเทียบสมรรถภาพภาพในการออกก้าลังกายภายหลังจากการออกก้าลังกายท่ีท้าให้เกิดภาวะ ขาดน้าโดยท้าการเปรียบเทียบระหว่างน้าเปล่า ผลิตภัณ์์น้ามะพร้าว น้ามะพร้าวจากลูกมะพร้าว ธรรมชาติและเครื่องดื่มคาร์โบไฮเดรตอิเล็กโทรไลต์ พบว่าสมรรถภาพภาพการออกก้าลังกาย (ด้วย การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าจนไม่สามารถว่ิงต่อไปได้) ระหว่างผลิตภัณ์์น้ามะพร้าว น้ามะพร้าวจากลูก มะพร้าวธรรมชาติและเครื่องดื่มคาร์โบไฮเดรตอิเล็กโทรไลต์ ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญ ทางสถิติ (11.9 ± 6.0 นาที, 12.3 ± 5.8 นาทีและ 12.8 ± 4.9 นาที ตามล้าดับ) ซึ่งอาจเป็นผลมา จากผลติ ภัณ์น์ า้ มะพรา้ ว นา้ มะพรา้ วจากลูกมะพรา้ วธรรมชาติและเครื่องดืม่ คาร์โบไฮเดรตอิเล็กโทร ไลต์มีค่าพลังงานใกล้เคียงกันจึงมีผลการคงค้างในระบบทางเดินอาหารไม่มีความแตกต่างกันท้าให้ สมรรถภาพภาพการออกก้าลังกายไม่แตกต่างกัน ซ่ึงในการศึกษาครังนีค่าพลังงาน คาร์โบไฮเดรต และโพแทสเซียมระหว่างน้ามะเขือเทศและน้ามะพร้าวที่ได้รับไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคญั ทางสถติ ิ (421.41 ± 66.42 กิโลแคลอร่ี และ 468.38 ± 145.17 กโิ ลแคลอร)ี่ , (84.28 ± 13.28 กรมั และ 109.35 ± 33.89 กรัม), (3.95 ± 0.62 กรัม และ 4.43 ± 1.37 กรัม) ตามล้าดับ แต่ปริมาณ โปรตีนและโซเดียมของน้ามะเขือเทศมากกว่าน้ามะพร้าวอย่างมีนัยส้าคัญ ซึ่งปริมาณโปรตีนและ โซเดียมท่ีมากกว่าไม่มีผลต่อสมรรถภาพการออกก้าลังกาย สอดคล้องกับการศึกษาของ Romano-ely และคณะ ปีค.ศ.2006 (23) ได้ท้าการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการออกก้าลังกายของ นักกีฬาจักรยานระหว่างเคร่ืองด่ืม 2 ชนิด ท่ีมีค่าพลังงาน 584 กิโลแคลอรี่ต่อ 750 มิลลิลิตรเท่ากัน แตม่ ีสว่ นประกอบภายในเครื่องดื่มต่างกัน โดยเครอ่ื งดืม่ ชนดิ แรกคือเครื่องด่ืมคารโ์ บไฮเดรตอเิ ล็กโทร ไลต์(CHO) (คาร์โบไฮเดรต 146 กรัม) และเคร่ืองดื่มชนิดท่ีสองเป็นเครือ่ งดื่มคาร์โบไฮเดรตอิเล็กโทร 22

ไลต์ผสมโปรตีน (CHOPA) (คาร์โบไฮเดรต 112 กรัมและโปรตีน 29 กรัม) ผลการศึกษาพบว่า ระยะเวลาในการป่ันจักรยานจนไม่สามารถปั่นต่อไปได้ในนักกีฬาที่ด่ืมเคร่ืองด่ืมคาร์โบไฮเดรตอิเล็ก โทรไลต์และเคร่ืองด่ืมคาร์โบไฮเดรตอิเล็กโทรไลต์ผสมโปรตีนไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญ ทางสถิติ (CHO: 138.1 ± 39.3 นาที, CHOPA: 140.9 ± 43.7 นาทีตามล้าดับ) และจากศึกษาของ Cosgrove, S. D.และ Black, K. E. ปีค.ศ.2013 (24) ท้าการเปรียบเทียบเวลาในการปั่นจักรยาน ระหว่างอาสาสมัครที่รับประทานอาหารเสริมโซเดียม (sodium supplementation) และดื่ม เครื่องดื่มสังเคราะห์ (placebo) ผลการศึกษาพบว่าเวลาท่ีใช้ในทดสอบการป่ันจักรยานระหว่าง อาหารเสริมโซเดียม (sodium supplementation) และเคร่ืองด่ืมสังเคราะห์ (placebo) ไม่มีความ แตกต่างกนั อย่างมนี ัยสา้ คญั (171.3 ± 23.5 นาที และ 172.3 ± 23.3 นาทตี ามลา้ ดับ) แม้ว่าการศึกษาครังนีไม่มีความแตกต่างกันของสมรรถภาพการออกก้าลังกายระยะยาว ระหวา่ งนา้ มะพรา้ วและนา้ มะเขือเทศ แต่มีการรายงานจากอาสาสมคั รทด่ี ่ืมนา้ มะพร้าวว่าอาสาสมัคร มีอาการท้องอืดและท้องเสียร่วมด้วย ซึ่งน่าจะเกิดจากการบริโภคเครื่องดื่มในปริมาณมากภายใน ระยะเวลาสันๆ ซึ่งอาการดังกล่าวมีผลรายงานท่ีคล้ายกับการศึกษาของ Kalman, Feldman และ คณะปคี .ศ.2012 (2) และไม่มกี ารรายงานอาการดังกลา่ วในนา้ มะเขือเทศ 23

ปัญหา ข้อจา้ กดั และข้อเสนอแนะจากการศึกษา 1. อาสาสมัครส่วนน้อยรู้สึกกระหายน้าในช่วงสุดท้ายของการออกก้าลังกายเพ่ือให้เกิดภาวะ ขาดน้า แต่อาสาสมัครจะไม่สามารถด่ืมน้าได้จนกว่าจะเสร็จสินการทดสอบ เพราะ จดุ ประสงคค์ อื การออกก้าลงั กายเพ่ือให้เกิดภาวะขาดนา้ 2. อาสาสมัครส่วนน้อยรู้สึกปวดปัสสาวะในช่วงสุดท้ายของการออกก้าลังกายเพ่ือให้เกิดภาวะ ขาดน้า แต่อาสาสมัครจะไม่สามารถไปเข้าห้องน้าได้จนกว่าจะเสร็จสินการทดสอบ เพราะ จดุ ประสงคค์ ือการออกกา้ ลงั กายเพื่อใหเ้ กิดภาวะขาดน้า 3. อาสาสมัครส่วนน้อยไม่สามารถดื่มน้ามะเขือเทศได้ภายในเวลาที่ก้าหนด เพราะตัว อาสาสมัครเองไม่สามารถดืม่ นา้ มะเขือเทศปริมาณมากในระยะเวลาสันๆ การศกึ ษาในอนาคต 1. ควรท้าการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างท่ีมีความหลากหลายหรือกลุ่มตัวอย่างใหม่ๆ เช่น กลุ่มเด็ก หรอื กลมุ่ ผูส้ งู อายุ เปน็ ต้น เพ่อื ใหผ้ ลการศึกษาครอบคลมุ ตอ่ ประชากรมากขึน 2. ท้าการศึกษาในเคร่ืองดืม่ ชนิดอ่ืนๆ เพิ่มมากขึน เพื่อใหผ้ ลการศึกษาครอบคลมุ มากขึน 3. ควรควบคุมภาวะโภชนาการหรือการออกก้าลังกายอย่างน้อยเป็นเวลา 3 วัน เพ่ือให้ อาสาสมัครทุกคนอยู่ในสภาวะเดียวกันและลดผลที่จะเกิดขึนจากอาหารหรือการออกก้าลัง กายอนื่ ๆนอกเหนอื จากการทดสอบ 4. น้าวิธีการวัดผลหรอื ขันตอนการวัดผลอ่ืนๆมาใช้เพ่ือให้การศึกษาสมบูรณ์ขึน เช่น การวัดผล เลือด เปน็ ต้น การน้าไปใช้ประโยชน์ ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างย่ิงว่าผลการเปรียบเทียบระหว่างน้ามะพร้าวกับน้ามะเขือเทศหลังจาก การออกก้าลงั กายทีท่ ้าให้เกิดภาวะขาดน้าท่ีส่งผลต่อสมรรถภาพการออกก้าลงั กายระยะยาวในวัยรุ่น เพศชาย อายุระหว่าง 18-22 ปี จะเป็นประโยชน์ส้าหรับผู้ท่ีมีความสนใจในการออกก้าลังกาย โดยเฉพาะเพศชายที่มีการออกก้าลงั กายที่ใชร้ ะยะเวลานาน รวมไปถงึ นกั กีฬาเพื่อชดเชยนา้ ทร่ี า่ งกาย สูญเสียไปในขณะออกก้าลังกายท้าให้ร่างกายสามารถเพิ่มสมรรถภาพการออกก้าลังกายหลังจาก ภาวะร่างกายขาดน้าได้และลดผลเสียท่เี กดิ จากภาวะร่างกายขาดนา้ ได้ 24

บทท่ี 6 สรปุ ผลการทดลอง (Conclusion) การศึกษาครังนีได้จัดท้าขึนเพ่ือเปรียบเทียบสมรรถภาพในการออกก้าลังกายระยะยาว ระหวา่ งน้ามะพร้าวและนา้ มะเขือเทศภายหลังจากการออกกา้ ลังกายท่ีท้าใหเ้ กดิ ภาวะขาดน้า ผลการ ทดสอบพบว่าหลังจากอาสาสมัครได้รับเครื่องด่ืมทัง 2 ชนิด มีระยะเวลาในการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าท่ีไม่ แตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ แม้ว่าน้ามะเขือเทศและน้ามะพร้าวจะมีประสิทธิภาพในเรื่อง สมรรถภาพการออกก้าลังกายระยะยาวที่ไม่แตกต่างกันกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ แต่จากผล การศึกษาแนะน้าให้เลือกเครื่องด่ืมน้ามะเขือเทศ เนื่องจากการศึกษาได้พบว่ามีอาสาสมัครที่บริโภค น้ามะพร้าวแล้วมีอาการท้องอืดและท้องเสียร่วมด้วยแต่ไม่พบในน้ามะเขือเทศทังนีทังนันขึนอยู่กับ ความนิยมของผ้บู ริโภคในการเลือกตัดสินใจบริโภค 25

เอกสารอา้ งอิง 1. Melin B, Cure M, Jimenez C, Koulmann N, Savourey G, Bittel J. Effect of ingestion pattern on rehydration and exercise performance subsequent to passive dehydration. Eur J Appl Physiol Occup Physiol. 1994;68(4):281-4. 2. Kalman DS, Feldman S, Krieger DR, Bloomer RJ. Comparison of coconut water and a carbohydrate-electrolyte sport drink on measures of hydration and physical performance in exercise-trained men. J Int Soc Sports Nutr. 2012;9(1):1. 3. Bhowmik D, K. P. K. Sampath, S. Paswan and S. Srivastava. Tomato-A Natural Medicine and Its Health Benefits. Journal of Pharmacognosy and Phytochemistry. 2012;1(1):33-43. 4. Barr SI. Effects of dehydration on exercise performance. Can J Appl Physiol. 1999;24(2):164-72. 5. Maughan RJ. Impact of mild dehydration on wellness and on exercise performance. Eur J Clin Nutr. 2003;57 Suppl 2:S19-23. 6. Coggan AR, Coyle EF. Carbohydrate ingestion during prolonged exercise: effects on metabolism and performance. Exerc Sport Sci Rev. 1991;19:1-40. 7. Shirreffs SM, Aragon-Vargas LF, Keil M, Love TD, Phillips S. Rehydration after exercise in the heat: a comparison of 4 commonly used drinks. Int J Sport Nutr Exerc Metab. 2007;17(3):244-58. 8. Evans GH, Shirreffs SM, Maughan RJ. Postexercise rehydration in man: the effects of osmolality and carbohydrate content of ingested drinks. Nutrition. 2009;25(9):905-13. 9. Tsitsimpikou C, Kioukia-Fougia N, Tsarouhas K, Stamatopoulos P, Rentoukas E, Koudounakos A, et al. Administration of tomato juice ameliorates lactate dehydrogenase and creatinine kinase responses to anaerobic training. Food Chem Toxicol. 2013;61:9-13. 10. Armstrong LE, Soto JA, Hacker FT, Jr., Casa DJ, Kavouras SA, Maresh CM. Urinary indices during dehydration, exercise, and rehydration. Int J Sport Nutr. 1998;8(4):345- 55. 11. Kokko JP, Tannen RL. Fluids and Electrolytes. Philadelphia: W.B. Saunders company; 1986. 305 p. 26

12. Gonzalez-Alonso J, Mora-Rodriguez R, Below PR, Coyle EF. Dehydration markedly impairs cardiovascular function in hyperthermic endurance athletes during exercise. J Appl Physiol (1985). 1997;82(4):1229-36. 13. Nishiyasu TS, Shi XG, Mack GW, Nadel ER. Effect of hypovolemia on forearm vascular resistance control during exercise in the heat. J Appl Physiol (1985). 1991;71(4):1382-6. 14. Desbrow B, Jansen S, Barrett A, Leveritt MD, Irwin C. Comparing the rehydration potential of different milk-based drinks to a carbohydrate-electrolyte beverage. Appl Physiol Nutr Metab. 2014;39(12):1366-72. 15. Shirreffs SM, Watson P, Maughan RJ. Milk as an effective post-exercise rehydration drink. Br J Nutr. 2007;98(1):173-80. 16. Shirreffs SM, Taylor AJ, Leiper JB, Maughan RJ. Post-exercise rehydration in man: effects of volume consumed and drink sodium content. Med Sci Sports Exerc. 1996;28(10):1260-71. 17. Maughan RJ, Leiper JB, Shirreffs SM. Restoration of fluid balance after exercise- induced dehydration: effects of food and fluid intake. Eur J Appl Physiol Occup Physiol. 1996;73(3-4):317-25. 18. Lopez RM, Casa DJ, Jensen KA, DeMartini JK, Pagnotta KD, Ruiz RC, et al. Examining the influence of hydration status on physiological responses and running speed during trail running in the heat with controlled exercise intensity. J Strength Cond Res. 2011;25(11):2944-54. 19. Cole CR, Foody JM, Blackstone EH, Lauer MS. Heart rate recovery after submaximal exercise testing as a predictor of mortality in a cardiovascularly healthy cohort. Ann Intern Med. 2000;132(7):552-5. 20. Armstrong LE, Ganio MS, Casa DJ, Lee EC, McDermott BP, Klau JF, et al. Mild dehydration affects mood in healthy young women. J Nutr. 2012;142(2):382-8. 21. Sudsa-Ard K, Kijboonchoo K, Chavasit V, Chaunchaiyakul R, Nio AQ, Lee JK. Lactose-free milk prolonged endurance capacity in lactose intolerant Asian males. J Int Soc Sports Nutr. 2014;11(1):49. 27

22. Gellish RL, Goslin BR, Olson RE, McDonald A, Russi GD, Moudgil VK. Longitudinal modeling of the relationship between age and maximal heart rate. Med Sci Sports Exerc. 2007;39(5):822-9. 23. Romano-Ely BC, Todd MK, Saunders MJ, Laurent TS. Effect of an isocaloric carbohydrate-protein-antioxidant drink on cycling performance. Med Sci Sports Exerc. 2006;38(9):1608-16. 24. Cosgrove SD, Black KE. Sodium supplementation has no effect on endurance performance during a cycling time-trial in cool conditions: a randomised cross-over trial. J Int Soc Sports Nutr. 2013;10:30. 28

ภาคผนวก 29

ภาคผนวก ก เอกสารชีแจงผูเ้ ข้ารว่ มวจิ ัย (Information Sheet) ชือ่ โครงการ การเปรยี บเทียบระหว่างน้ามะพร้าวกับน้ามะเขือเทศหลังจากการออกก้าลังกายทที่ ้าให้เกิดภาวะขาด นา้ ทสี่ ง่ ผลต่อสมรรถภาพการออกกา้ ลงั กายระยะยาวในวยั รุน่ เพศชาย ชือ่ ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ ช่ือ นางสาวอรอนงค์ แซ่หวาง ท่อี ยู่ 88/81 หมู่บา้ นโกลเด้น วลิ เลจ ถนนกิ่งแก้ว ตา้ บลราชาเทวะ อ้าเภอบางพลี จังหวดั สมุทรปราการ 10540 เบอร์โทรศัพท์ 087-349-5053 จดหมายอเิ ล็กโทรนิกส์ E-mail: [email protected] ผู้รว่ มในโครงการวิจยั ช่อื นายโชติอนันต์ เสริมสายประสทิ ธ์ิ ท่ีอยู่ 5/34 หมู่ 3 ถนนวิ์รยู ด์ ้าริ ซอยว์ิ รยู ์ด้าริ 9 ต้าบลบา้ นบึง อา้ เภอบา้ นบงึ จงั หวดั ชลบรุ ี รหสั ไปรษณยี ์ 20170 เบอร์โทรศัพท์ 085-091-3219 จดหมายอิเลก็ โทรนกิ ส์ E-mail: [email protected] ชอ่ื นางสาวทักษพร จนี สนิ ท่อี ยู่ 23 หมู่ 3 ต้าบลคลองพระอุดม อา้ เภอปากเกรด็ จงั หวัดนนทบรุ ี รหัสไปรษณีย์ 11120 เบอร์โทรศัพท์ 088-934-3779 จดหมายอิเล็กโทรนกิ ส์ E-mail: [email protected] 30

ท่ีปรกึ ษาโครงการวิจัย ชื่อ นายไกรยศ สุดสะอาด ที่อยู่ 28/43 อาคารลมุ พเิ พลสปิน่ เกล้า ถนนบรมราชชนนี แขวงบางบา้ รงุ เขตบางพลัด กรงุ เทพมหานคร รหัสไปรษณยี ์ 10770 เบอร์โทรศัพท์ 086-107-6677 จดหมายอเิ ลก็ โทรนิกส์ E-mail: [email protected] ชอ่ื นายภาคย์ พันธมุ ะบ้ารงุ ท่อี ยู่ 83 ซอยกรุงเทพฯ-นนทบุรี 23 แขวงบางซ่ือ เขตบางซอ่ื กรงุ เทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10800 เบอรโ์ ทรศัพท์ 085-553-9618 จดหมายอิเลก็ โทรนิกส์ E-mail: [email protected] เรียน ผ้เู ข้ารว่ มโครงการวิจัยทุกท่าน อาสาสมัครเพศชายอายุระหว่าง 18-22 ปีมีสุขภาพดีและออกก้าลังกายเป็นประจ้าอย่าง นอ้ ย 3 ครังตอ่ สปั ดาห์ หลังจากอาสาสมัครผา่ นการคดิ คะแนนแบบฟอร์มประวัตสิ ขุ ภาพแล้วผู้วิจัยให้ อาสาสมัครท้าการทดสอบสมรรถภาพด้วยโปรแกรม Fit test บนลู่ว่ิงไฟฟ้าโดยท้าการใส่ข้อมูล เบืองต้นคือน้าหนัก อายุ เพศ ก้าหนดความเร็วในการวิ่งเท่ากับ 7.3 กิโลเมตรต่อช่ัวโมง ความชัน 5 เปอร์เซ็นต์แล้วว่ิงบนลู่ว่ิงไฟฟ้าตามโปรแกรม 5 นาที เป็นการวิ่งเพ่ือทดสอบสมรรถภาพของ อาสาสมคั ร โดยล่วู ง่ิ ไฟฟ้าจะแสดงระดับสมรรถภาพของอาสาสมัครซึ่งเกณ์์ในการรับอาสาสมคั รเข้า โครงการวิจยั อาสาสมคั รต้องได้คะแนนมากกว่าคา่ เฉลย่ี คือ 44-49 คะแนน ท่านสามารถขอค้าแนะน้าในการเข้าร่วมโครงการวิจัยนีจากครอบครัว เพื่อนหรือแพทย์ ประจ้าตัวของท่านได้ ท่านจะได้รับเวลาอย่างเพียงพอในการตัดสินใจโดยอิสระ ถ้าหากท่านตัดสินใจ แล้ววา่ จะเข้าร่วมในโครงการวิจยั นีขอให้ทา่ นลงนามในเอกสารแสดงความยนิ ยอมของโครงการวิจยั นี เหตทุ ี่ตอ้ งทา้ วจิ ัยและเหตผุ ลท่ตี ้องการศกึ ษาในคน เน่ืองจากการศึกษางานวิจัยครังนีต้องการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึนในมนุษย์ ทางด้านสมรรถภาพทางร่างกาย โดยการวิ่งบนลู่ว่ิงไฟฟ้าเพื่อวัดระยะเวลาการออกก้าลังกายจาก เคร่ืองดื่มท่ีอาสาสมัครจะได้รับในช่วงเวลาพัก เคร่ืองดื่มที่อาสาสมัครได้รับชนิดใดจะมีผลต่อ สมรรถภาพทางร่างกายได้ ทังนีเน่ืองจากเคร่ืองดื่มทัง 2 ชนิด คือ น้ามะพร้าวและน้ามะเขือเทศซ่ึง 31

เป็นผลิตภัณ์์ท่ีได้รับเคร่ืองหมายจากส้านักงานคณะกรรมการอาหารและยาและในขณะที่ อาสาสมคั รทา้ การทดสอบอาสาสมัครจะอย่ภู ายใต้ความดแู ลของผวู้ จิ ยั อย่างใกลช้ ดิ วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ เพ่ือเปรียบเทียบสมรรถภาพในการออกก้าลังกายระยะยาวระหว่างน้ามะพร้าวและน้า มะเขือเทศภายหลงั จากการออกกา้ ลงั กายทีท่ ้าให้เกดิ ภาวะขาดนา้ ประโยชนท์ ่อี าจไดร้ บั ท่านจะไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเข้าร่วมในการวิจัยครังนี แต่ผลการศึกษาที่ได้จะ สามารถทราบถึงผลของความแตกต่างกันของน้ามะพร้าวและน้ามะเขือเทศท่ีมีผลต่อสมรรถภาพใน การออกก้าลังกายระยะยาวและสามารถน้าผลของการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในกา รเลือกเครื่องดื่ม หลังจากการออกก้าลังกายในระยะยาวได้ ซึ่งเครื่องดื่มทัง 2 ชนิดนีเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติอีกทัง ยงั ใหพ้ ลงั งานและเกลือแรท่ ีม่ ปี ระโยชนต์ อ่ สขุ ภาพ ข้อปฏิบัติของท่านขณะทร่ี ่วมในโครงการวิจยั เพ่ือให้งานวิจัยนีประสบความส้าเร็จ ผู้ท้าวิจัยใคร่ขอความความร่วมมือจากท่าน โดยจะ ขอให้ท่านปฏบิ ัติตามคา้ แนะนา้ ดงั นี 1. งดอาหารกอ่ นทา้ การทดสอบ 10 ชวั่ โมง 2. งดดื่มเคร่อื งดมื่ แอลกอฮอล์ก่อนทา้ การทดสอบ 24 ชั่วโมง 3. งดการออกกา้ ลงั กายกอ่ นท้าการทดสอบ 24 ชวั่ โมง 4. งดการรบั ประทานอาหารเสริมหรือยาทส่ี ่งผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานหรือระบบ หายใจไหลเวียนเลือดหรอื ระบบประสาทส่วนกลางภายใน 24 ชั่วโมงกอ่ นการทดสอบ ขันตอนและกระบวนการวิจัย ครังที่ 1 ของการทดสอบคือขันตอนการทดสอบอาสาสมัคร เพื่อคัดเข้าโครงการวิจัย ครังที่ 2 ท้าการทดสอบการออกก้าลังกายเพ่ือให้เกิดภาวะขาดน้าและการ วัดสมรรถภาพการออกก้าลังกายระยะยาว หลังจากท้าทดสอบครังท่ี 1 เป็นเวลา 7 วัน โดยสุ่ม เครื่องดืม่ ทจ่ี ะไดร้ บั ครงั ที่ 3 ท้าการทดสอบ 7 วันถดั มาซง่ึ ทา้ การทดสอบเช่นเดียวกับการทดสอบใน ครังที่ 2 แต่อาสาสมัครจะได้รับเคร่ืองดื่มท่ีต่างไปจากครงั ที่ 2 ซ่ึงรายละเอียดของโครงการวิจยั ผวู้ จิ ยั จะแนะน้าสาธิตให้อาสาสมัครเข้าใจถึงวิธีการวิจัยก่อนการทดสอบทุกครัง รวมทังมีการเตรียมตัว ร่างกายกอ่ นและหลงั การทดสอบ 32

โดยการทดสอบครังท่ี 2 และครังท่ี 3 ให้อาสาสมัครรายงานตัว ณ ห้องออกก้าลังกาย (MS 101) ชัน 1 อาคารเมนสเตเด่ียม เวลา 8.00 น. เน่ืองจากต้องมกี ารงดอาหารกอ่ นท้าการทดสอบ 10 ชว่ั โมง หากทา้ การทดสอบในชว่ งบา่ ยจะไม่สามารถควบคุมกิจกรรมระหว่างวันของอาสาสมัครได้ คา่ ตอบแทนท่ีอาสาสมคั รจะได้รับจากการเขา้ ร่วมงานวจิ ัย อาสาสมัครจะไมไ่ ดร้ ับคา่ ตอบแทนจากการเขา้ ร่วมโครงการวิจยั นี ความเส่ยี งหรอื ความไมส่ ะดวกสบายของอาสาสมคั รท่ีอาจไดร้ บั ผู้วิจัยขอชีแจงถึงความเส่ียงและความไม่สบายที่อาจเกิดขึนดังนี เนื่องจากงานวิจัยนีเป็น การเปรียบเทียบผลของการดื่มน้ามะพร้าวกับน้ามะเขือเทศต่อการออกก้าลังกายระยะยาวภาย หลังจากการออกก้าลังกายที่ท้าให้เกิดภาวะขาดน้า ผู้วิจัยจึงได้ก้าหนดเกณ์์การคัดเข้าเพื่อป้องกัน ความเสี่ยงทอ่ี าจเกิดขึน หากเกดิ อบุ ัติเหตุหรืออาสาสมคั รมีความเสี่ยงให้ยตุ ิการเข้าร่วมงานวิจัยทันที ยกตัวอย่างเช่น อาสาสมัครมีอาการหน้ามืด วิงเวียน อาเจียนขณะท้าการทดสอบให้อาสาสมัครหยดุ ท้าการทดสอบทันทีและน่ังพักจนกว่าอาการจะดีขึนแต่หากอาการไม่ดีขึนหรือเกิดเหตุการณ์ที่ รา้ ยแรงจะรบี นา้ สง่ โรงพยาบาลและจะไมบ่ นั ทกึ ผลการทดสอบครงั นัน ความเส่ยี งท่ีไมท่ ราบแนน่ อน ท่านอาจเกิดอาการข้างเคียงหรือความไม่สบาย นอกเหนือจากท่ีได้แสดงในเอกสารฉบับนี ซง่ึ อาการขา้ งเคียงเหล่านเี ปน็ อาการทไี่ มเ่ คยพบมากอ่ น เพ่ือความปลอดภัยของทา่ นควรแจง้ ผู้ท้าวิจัย ให้ทราบทนั ทเี ม่อื เกดิ ความผดิ ปกติใดๆขนึ หากท่านมีข้อสงสัยใดๆเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจได้รับจากการเข้าร่วมในโครงการวิจัย ท่าน สามารถสอบถามจากผวู้ จิ ัยได้ตลอดเวลา หากมีการค้นพบข้อมูลใหม่ๆที่อาจมีผลต่อความปลอดภัยของท่านในระหว่างที่ท่านเข้าร่วม ในโครงการวิจัย ผู้วิจัยจะแจ้งให้ท่านทราบทันทีเพ่ือให้ท่านตัดสินใจว่าจะอยู่ในโครงการวิจัยต่อไป หรอื จะขอถอนตัวออกจากการวิจยั การปอ้ งกนั และการรักษาอาการขา้ งเคยี ง จากความเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้น ผู้วิจัยมีมาตรการในการป้องกันคือ ผู้วิจัยจะมีการสอบถาม อาการเบืองต้น ประวัติการบาดเจ็บก่อนการทดสอบ ถ้าอาสาสมัครมีอาการแทรกซ้อนหรือเกิดการ บาดเจ็บ ผู้วิจัยจะรีบให้อาสาสมัครหยุดการทดสอบทันทีและท้าการปฐมพยาบาลในเบืองต้น ถ้า อาการยังไม่ดีขึนผวู้ จิ ัยจะพาอาสาสมคั รไปพบแพทย์และยินดีออกค่ารกั ษาพยาบาลดงั กลา่ วให้ 33

ความรบั ผดิ ชอบของผ้ทู ้าวิจัย/ผู้สนับสนนุ การวิจัยเม่ือเกิดภาวะแทรกซ้อน หากพบภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการวิจัยเมื่อใดก็ตาม ขอให้ท่านแจ้งผู้วิจัยทราบทันทีเพื่อ ท่านจะได้รับค้าแนะน้าและการรักษาอย่างเหมาะสม ส้าหรับท่านท่ีปฏิบัติตามค้าแนะน้าของทีม ผู้วิจัยแล้วผู้วิจัย/ผู้สนับสนุนการวิจัยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของท่านหรือให้ ค่าชดเชยตามความเหมาะสม การลงนามในเอกสารให้ความยินยอมไม่ได้หมายความว่าท่านได้สละ สิทธท์ิ างกฎหมายตามปกติทีท่ ่านพึงมี ในกรณีทท่ี า่ นไดร้ บั อนั ตรายใดๆท่เี กีย่ วข้องกับโครงการวิจัย ท่านสามารถติดต่อกับผู้วิจยั ได้ท่ี 1. นางสาวอรอนงค์ แซห่ วาง หมายเลขโทรศพั ท์ 087-349-5053 2. นายโชตอิ นันต์ เสรมิ สายประสทิ ธ์ิ หมายเลขโทรศพั ท์ 085-091-3219 3. นางสาวทกั ษพร จีนสิน หมายเลขโทรศัพท์ 088-934-3779 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สถานท่ีท้างาน สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการพัฒนากีฬา คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต โทรศัพท์ 02-9869213-9 ต่อ 7683 เวลา 8.00น.–16.30น. การเข้ารว่ มและการสินสดุ การเขา้ ร่วมโครงการวจิ ัย การเข้าร่วมในโครงการวิจัยครังนีเป็นไปโดยความสมัครใจ หากท่านไม่สมัครใจจะเข้าร่วม การวิจัยแล้วท่านจะได้รับการดูแลรักษาตามปกติ หากท่านสมัครใจเข้าร่วมการศึกษา ท่านสามารถ ถอนตวั ได้ตลอดเวลา ซึง่ จะไม่มีผลตอ่ ทา่ นแตอ่ ย่างใด ผู้วิจัยอาจถอนท่านออกจากการเข้าร่วมการวิจัยเพ่ือเหตุผลด้านความปลอดภัยของท่าน ใน กรณดี ังต่อไปนี 1. อาสาสมัครที่สูบบหุ รี่ 2. อาสาสมคั รท่ปี ่วยเปน็ โรคกล้ามเนอื และกระดูก เช่น โรคกระดกู พรุนโรคขอ้ เสอื่ ม 3. อาสาสมัครที่ป่วยเป็นโรคหัวใจและโรคท่ีเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรค ความดนั โลหิตสงู โรคหอบหดื โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดบวม เป็นตน้ 4. อาสาสมัครที่มีการกินอาหารเสริมหรือยาท่ีส่งผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานหรือ ระบบหายใจไหลเวียนเลือดหรือระบบประสาทส่วนกลางภายใน 24 ช่ัวโมงก่อนการ ทดสอบ 5. อาสาสมคั รมีความต้องการขอยุตกิ ารทดสอบด้วยตนเอง 6. หากอาสาสมคั รแพ้น้ามะพร้าวหรอื นา้ มะเขือเทศจะท้าการคดั ออกจากโครงการวิจัย 34

หลังจากถอนตัวออกจากโครงการวิจัย ผู้วิจัยจะเก็บข้อมูลส่วนตัวของอาสาสมัครไว้เป็น ความลับและไมม่ ีการเผยแพรแ่ ต่อย่างใดและจะไม่นา้ ข้อมลู ของอาสาสมัครมาใช้ในการท้าวิจัย แต่จะ ใหอ้ าสาสมัครสา้ รองทไ่ี ด้เตรียมไว้มาท้าการวิจัยแทน การปกป้องรกั ษาขอ้ มูลความลับของอาสาสมคั ร ข้อมูลที่อาจน้าไปสู่การเปิดเผยตัวท่านจะได้รับการปกปิดและจะไม่เปิดเผยแก่สาธารณชน ในกรณีท่ีผลการวิจัยได้รับการตีพิมพ์ ชื่อและที่อยู่ของท่านจะต้องได้รับการปกปิดอยู่เสมอ โดยจะใช้ เฉพาะรหัสประจ้าโครงการวิจัยของท่านอย่างไรก็ดีจะมีบุคคลบางกลุ่ม เช่น ผู้ก้ากับดูแลการวิจัย ผู้ ตรวจสอบ คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลโดยตรงจากเวช ระเบียนหรือเอกสารอ่ืนๆท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือการตรวจสอบขันตอนการวิจัยและ/หรือข้อมูลในการวิจัย โดยไมล่ ะเมดิ การรักษาความลับของทา่ นภายใต้ขอบเขตท่ีกฎหมายบัญญัติและกฎระเบียบตามที่ท่าน หรือตัวแทน(ที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมาย)ได้ลงนามในใบยินยอมที่เป็นลายลักษณ์อักษร หาก ทา่ นตอ้ งการยกเลิกการให้สิทธดิ์ ังกล่าว ทา่ นสามารถแจ้งหรือเขียนบันทึกขอยกเลิกการให้ค้ายินยอม โดยส่งไปที่ นางสาวอรอนงค์ แซ่หวาง ท่ีอยู่ 88/81 หมู่บ้านโกลเด้น วิลเลจ ถนนก่ิงแก้ว ต้าบลราชา เทวะ อา้ เภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540 หากท่านขอยกเลิกการให้ค้ายินยอมหลังจากที่ท่านได้เข้าร่วมโครงการวิจัยแล้ว ข้อมูล ส่วนตัวของท่านจะไม่ถูกบันทึกเพ่ิมเติม อย่างไรก็ตามข้อมูลของท่านอาจถูกน้ามาใช้เพื่อประเมิน ผลการวิจัย จากการลงนามยินยอมของท่าน ผู้วิจัยสามารถบอกรายละเอียดของท่านที่เก่ียวกับการเข้า ร่วมโครงการวจิ ยั นใี หแ้ กแ่ พทย์ผู้รักษาทา่ นได้ การจัดการกบั ตวั อยา่ งชีวภาพทเี่ หลอื ตัวอย่างชีวภาพท่ีได้จากอาสาสมัครเช่นปัสสาวะ ผู้วิจัยจะจัดการท้าลายตามวิธีมาตรฐาน ทนั ทที เ่ี สรจ็ สินการวิจยั สทิ ธ์ิของผูเ้ ข้ารว่ มในโครงการวจิ ยั ในฐานะทีท่ ่านเป็นผเู้ ข้าร่วมในโครงการวจิ ยั ทา่ นจะมสี ทิ ธ์ิดังต่อไปนี 1. ทา่ นจะได้รบั ทราบถึงลักษณะและวตั ถุประสงค์ของการวจิ ัยในครังนี 2. ท่านจะได้รับการอธิบายเก่ียวกับระเบียบวิธีการของการวิจัยทางการแพทย์รวมทังยาและ อปุ กรณ์ที่ใช้ในการวจิ ยั ครงั นี 3. ท่านจะได้รบั การอธิบายถงึ ความเสยี่ งและความไมส่ บายทจ่ี ะได้รับจากการวิจัย 35

4. ทา่ นจะไดร้ ับการอธิบายถึงประโยชน์ทท่ี ่านอาจจะไดร้ บั จากการวจิ ัย 5. ทา่ นจะมโี อกาสได้ซักถามเกยี่ วกบั งานวจิ ัยหรอื ขันตอนทเ่ี กย่ี วข้องกับงานวิจยั 6. ท่านจะได้รับทราบว่าการยินยอมเข้าร่วมในโครงการวิจัยนี ท่านสามารถขอถอนตัวจาก โครงการเมื่อไรก็ได้ โดยผู้เข้าร่วมในโครงการวิจัยสามารถขอถอนตัวจากโครงการโดยไม่ได้ รบั ผลกระทบใดๆทงั สิน 7. ท่านจะได้รับส้าเนาเอกสารข้อมูลค้าอธิบายส้าหรับผู้เข้าร่วมในโครงการวิจัยและเอกสารใบ ยินยอมที่มีทังลายเซน็ และวนั ท่ี 8. ท่านมีสิทธ์ิในการตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมในโครงการวิจัยหรือไม่ก็ได้ โดยปราศจากการใช้ อิทธิพลบังคบั ข่มขหู่ รือการหลอกลวง โครงการวิจัยนีได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน คณะสหเวช ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หากท่านไม่ได้รับการรักษาพยาบาลหรือการชดเชยอันควรต่อการ บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยท่ีเกิดขึนโดยตรงจากการวิจัยหรือท่านไม่ได้รับการปฏิบัติตามที่ปรากฏใน เอกสารข้อมูลค้าอธิบายส้าหรับผู้เข้าร่วมในการวิจัย ท่านสามารถร้องเรียนได้ที่คณะกรรมการ จรยิ ธรรมการวิจัยในคนคณะสหเวชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ อาคารปิยชาติ ชนั 9 36

ภาคผนวก ข หนังสือแสดงเจตนายนิ ยอมเข้ารว่ มการวจิ ัย (Consent Form) โครงการวจิ ยั เรือ่ ง การเปรียบเทียบระหว่างนา้ มะพร้าวกับน้ามะเขือเทศหลงั จากการออกกา้ ลงั กายท่ี ทา้ ใหเ้ กิดภาวะขาดน้าทสี่ ง่ ผลตอ่ สมรรถภาพการออกก้าลงั กายระยะยาวในวัยรนุ่ เพศชาย วนั ทใี่ ห้ค้ายินยอม วันที่ ………………เดือน ……………………พ.ศ……………………… ก่อนท่ีจะลงนามในใบยินยอมให้ท้าการวิจัยนี ข้าพเจ้าได้รับการอธิบายจากผู้วิจัยถึง วัตถุประสงค์ของการวิจยั วิธีการวิจยั อันตรายหรอื อาการท่ีอาจเกิดขึนจากการวจิ ัยรวมทงั ประโยชน์ ท่ีจะเกิดขึนจากการวิจัยอย่างละเอียดและมีความเข้าใจดีแล้ว ซ่ึงผู้วิจัยได้ตอบค้าถามต่างๆ ท่ี ข้าพเจา้ สงสยั ดว้ ยความเตม็ ใจ ไมป่ ดิ บงั ซ่อนเร้น จนข้าพเจ้าพอใจและเข้ารว่ มโครงการนโี ดยสมัครใจ ขา้ พเจา้ มีสิทธิ์ทจี่ ะบอกเลิกการเข้าร่วมการวิจยั นีเมื่อใดก็ได้ถ้าข้าพเจา้ ปรารถนา โดยไม่ เสยี สิทธิในการรกั ษาพยาบาลทีจ่ ะเกิดขนึ ตามมาในโอกาสต่อไป ผู้วิจัยรับรองว่าจะเก็บข้อมูล เฉพาะเก่ียวกับตัวข้าพเจ้าเป็นความลับและจะเปิดเผยได้ เฉพาะในรปู แบบท่เี ปน็ สรปุ ผลการวจิ ยั การเปิดเผยข้อมูลเก่ียวกับตัวข้าพเจ้าต่อหน่วยงานต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกระท้าได้เฉพาะ กรณีจ้าเป็นด้วยเหตุผลทางวิชาการเท่านันและจะต้องได้รับค้ายินยอมจากข้าพเจ้าเป็นลายลักษณ์ อักษร ผ้วู ิจัยรบั รองว่าหากเกดิ ภาวะแทรกซอ้ นใดๆ ที่มีสาเหตุจากการวจิ ยั ดังกล่าว ข้าพเจา้ จะ ได้รับการรักษาพยาบาลโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายและหรือจะมีการชดเชยค่าตอบแทน ตลอดจนเงิน ทดแทนความพกิ ารท่อี าจเกดิ ขนึ ตามความเหมาะสม อาสาสมคั รสามารถตดิ ต่อผวู้ ิจยั ไดท้ ี่ สาขาวิชาวทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬาและการพัฒนากีฬา คณะสหเวชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ศนู ย์รังสติ 37

โดยผ้ทู ่รี บั ผิดชอบเรือ่ งนี คือ 1. นางสาวอรอนงค์ แซ่หวาง หมายเลขโทรศัพท์ 0873495053 2. นายโชตอิ นนั ต์ เสริมสายประสทิ ธ์ิ หมายเลขโทรศพั ท์ 0850913219 3. นางสาวทักษพร จีนสนิ หมายเลขโทรศัพท์ 0889343779 ข้าพเจ้ายินยอมให้ผู้ก้ากับดูแลการวิจัย ผู้ตรวจสอบ คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัย ในมนุษย์สามารถเข้าไปตรวจสอบบันทึกข้อมูลทางการแพทย์ของข้าพเจ้า เพื่อเป็นการยืนยันถึง ขนั ตอนโครงการวิจยั ทางคลนิ ิก โดยไม่ล่วงละเมดิ เอกสิทธ์ิในการปิดบังข้อมลู ของการสมัครตามกรอบ ทีก่ ฎหมายและกฎระเบยี บไดอ้ นญุ าตไว้  ข้าพเจ้าได้อ่านข้อความข้างต้นแล้วมีความเข้าใจดีทุกประการถึงได้ลงนามในใบยินยอม นดี ว้ ยความเตม็ ใจ  ขา้ พเจา้ ไมส่ ามารถอ่านหนงั สอื ได้ ผวู้ ิจยั ได้อา่ นข้อความในใบยินยอมนใี ห้ข้าพเจ้าฟังจน เข้าใจดแี ล้ว ขา้ พเจ้าจงึ ลงนามในใบยินยอมนีด้วยความเต็มใจ ลงนาม………………………………………….…………… อาสาสมัคร (…………………………………………………) ลงนาม……………………………..…...……...………..…… พยาน (……………………………….………………) ลงนาม………………………………………….………...... พยาน (………………………………………………) 38

ภาคผนวก ค แบบสอบถามส้าหรับคัดเลือกอาสาสมคั รเขา้ รว่ มงานวิจัย เร่ือง การเปรียบเทียบระหว่างน้ามะพร้าวกับน้ามะเขือเทศหลังจากการออกก้าลังกายที่ท้าให้เกิด ภาวะขาดน้าที่ส่งผลตอ่ สมรรถภาพการออกก้าลังกายระยะยาวในวยั ร่นุ เพศชาย ค้าชแี จง โปรดกรอกข้อมลู และคา้ ถามต่อไปนีตามข้อมูลความเป็นจริงทงั หมด แบบสอบถามนีจะถกู เกบ็ เปน็ ความลบั และใช้ในงานวจิ ยั เท่านัน ตอนท1่ี ขอ้ มูลทั่วไป เพศ  ชาย  หญิง อายุ........................ปี น้าหนกั .......................กโิ ลกรัม สว่ นสงู .............................เซนติเมตร ตอนท2่ี ขอ้ มูลเกย่ี วกับประวัติสุขภาพ 1. ทา่ นมโี รคประจ้าตัวหรอื ไม่  ไม่มี  ไมเ่ คยตรวจ  มี...................................................... เป็นมานาน.........................ปี 2. ท่านป่วยเป็นโรค ได้แก่ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ภาวะโลหิตจาง โรคเบาหวาน โรคไต ภาวะผดิ ปกตขิ องตอ่ มไรท้ อ่ เช่น โรคธัยรอยด์ เป็นตน้ หรอื ไม่  ไม่ใช่  ใช่ โปรดระบ.ุ ................................... เปน็ มานาน……………………ปี 39

3. ท่านป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจหรือไม่ เช่น ภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคปอดอุดกันเรืองรัง หรอื ไม่  ไมใ่ ช่  ใช่ โปรดระบุ.................................... เป็นมานาน……………………ปี 4. ท่านป่วยเป็นโรคเกย่ี วกับกระดกู ข้อต่อ และกลา้ มเนือหรือไม่  ไมใ่ ช่  ใช่ โปรดระบ.ุ ................................... เป็นมานาน……………………ปี 5. ทา่ นป่วยเปน็ โรคเกยี่ วกบั สมองและระบบประสาท เช่น ลมชกั ลมบา้ หมหู รือไม่  ไม่มี  มี โปรดระบ.ุ .................................... เปน็ มานาน……………………ปี 6. ทา่ นเคยได้รบั การผา่ ตดั ทบ่ี รเิ วณทรวงอก ช่องท้อง หลงั และบรเิ วณอื่นๆหรือไม่  ไมเ่ คย  เคย โปรดระบ.ุ ................................... เปน็ มานาน……………………ปี 7. ทา่ นเคยไดร้ ับอุบัติเหตุ หรอื บาดเจบ็ รนุ แรงหรือไม่  ไมเ่ คย  เคย โปรดระบุ.................................... เป็นมานาน……………………ปี 8. ทา่ นเคยมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงหรอื ไม่  ไม่เคย  เคย โปรดระบุ.................................... เป็นมานาน……………………ปี 9. ท่านเปน็ โรคตดิ ต่อตอ่ ไปนีหรือไม่  ไวรัสตบั อักเสบ  ภูมคิ มุ้ กนั บกพร่อง (AISD)  โรคตดิ เชือทางผิวหนัง  ไม่เปน็ โรคติดต่อ 10. ปจั จบุ ันทา่ นตอ้ งรับประทานยาเปน็ ประจา้ หรอื ไม่  ไมใ่ ช่  ใช่ โปรดระบชุ อ่ื ยา............................... ระยะเวลาทีใ่ ช้………..…...……ปี 40

11. การตดิ ต่อกรณีฉุกเฉนิ แพทยป์ ระจ้าตัว…..………………………….. เบอร์โทรศัพท์..................................... 12. ปัจจบุ ันทา่ นไดร้ บั ประทานอาหารเสริมเป็นประจา้ หรือไม่  ไม่ใช่  ใช่ โปรดระบุชื่ออาหารเสรมิ ........................................ ระยะเวลาท่ใี ช้………………….…ปี 13. ประวตั กิ ารสบู บุหรี่ และการดื่มเครื่องด่มื แอลกอฮอล์  ไมส่ บู บหุ รี่  สูบบุหรบ่ี างครัง  สบู บหุ ร่ีเป็นประจ้า ระบุ....................................... มวน/วนั  ไมด่ ื่มเครือ่ งดื่มแอลกอฮอล์ใดๆ  ดื่มเครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์บางครงั  ดื่มเครือ่ งดมื่ แอลกอฮอลใ์ ดๆ เปน็ ประจา้ ระบุ……………………….. วนั /สัปดาห์ 14. ประวตั ิการออกกา้ ลงั กาย 14.1 ทา่ นใหเ้ วลากบั การออกก้าลังกายมากน้อยเพียงใด  ไมไ่ ดอ้ อกก้าลังกายมาเป็นเวลามากกวา่ 3 เดอื น  ออกกา้ ลงั กายเป็นบางครังเม่ือมโี อกาส  ออกก้าลังกายเปน็ ประจ้าทุกครงั ทีม่ โี อกาส  ออกกา้ ลงั กายเป็นประจา้ สม้า่ เสมอ 14.2 โดยเฉล่ียทา่ นออกกา้ ลงั กายหรอื เลน่ กีฬากี่วัน/สปั ดาห์  น้อยกวา่ 1 วัน  1 – 2 วัน  3 – 4 วัน  มากกวา่ 4 วนั 14.3 ประเภทกีฬาหรือการออกก้าลังกายชนดิ ใดท่ีท่านปฏบิ ตั ิอยู่ ระบุ............................. 41


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook