Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore e-book เรื่อง เครื่องโทรศัพท์

e-book เรื่อง เครื่องโทรศัพท์

Published by Kamol Masuk, 2019-06-27 23:38:05

Description: e-book เรื่อง เครื่องโทรศัพท์

Keywords: telephone set

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ที่ 2 การโทรศัพท์เบื้องต้น เครื่องโทรศัพท์ เครื่องโทรศพั ท์ (Telephone Set) ทมี่ ีใชง้ านในปัจจุบนั มีรูปแบบหลายรูปร่าง หลายขนาด หลาย ราคา มีท้งั รูปแบบท่ที นั สมยั บางรุ่นมีหน่วยความจา หรือมีป่ มุ อานวยความสะดวกมากมาย มีท้งั แบบป่ มุ กด หรือแบบหมุน ใหเ้ ลือกใชง้ านตามความสะดวก ตามความตอ้ งการ แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม เคร่ืองโทรศพั ทท์ ุก เครื่องมีหนา้ ทเี่ หมือนกนั คอื ใชส้ าหรบั ตดิ ต่อสนทนากนั ส่วนทเี่ พม่ิ เตมิ เขา้ มาน้นั เป็ นการเพมิ่ เพอ่ื ใหช้ ่วยให้ เกิดความสะดวกสบายในการใชง้ านมากยงิ่ ข้นึ ส่ วนประกอบเบื้องต้ นของเคร่ื องโทรศัพท์ เน่ืองจากเครื่องโทรศพั ทท์ ม่ี ีในทอ้ งตลาดปัจจุบนั จะมีส่ิงอานวยความสะดวกเพมิ่ เตมิ เขา้ ไป มากมาย แทจ้ ริงแลว้ ถา้ ไม่มีส่ิงเหล่าน้ีเคร่ืองกส็ ามารถทางานได้ ในส่วนน้ีจะกล่าวเฉพาะส่วนประกอบ เบ้อื งตน้ ทส่ี าคญั ของเครื่องโทรศพั ท์ รูปแสดงส่ วนประกอบภาพภายนอกเคร่ืองโทรศัพท์

วงจรเบื้องต้นของเคร่ืองโทรศัพท์ รูปสัญลักษณ์ของเคร่ืองโทรศัพท์ 1. Transmitter โดยทว่ั ไปเราเรียกวา่ “ปากพูด” อุปกรณ์ตวั น้ีแทจ้ ริงแลว้ ก็คือ Microphone ซ่ึงทา หนา้ ทเ่ี ปลี่ยนเสียงพดู ใหเ้ ป็นสญั ญาณไฟฟ้า Transmitter ที่ใชใ้ นเครื่องโทรศพั ทป์ ัจจบุ นั มีอยู่ 3 แบบ 1 แบบ Carbon 2 แบบ Dynamic 3 แบบ Condenser เคร่ืองโทรศพั ทร์ ุ่นใหม่ ๆ จะนิยมใช้ Condenser เป็ น Transmitter เพราะขนาดเล็ก ราคาถูก ความ ไวสูงกวา่ แบบอื่น ๆ 2. Receiver โดยทวั่ ไปเรียกว่า “หูฟัง” ซ่ึงก็คือ ลาโพง Speaker ทาหนา้ ที่เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าเป็ น สญั ญาณเสียง ลกั ษณะโครงสร้างของ Receiverอาจไม่เหมือนลาโพงทวั่ ๆไปเพราะตอ้ งออกแบบใหม้ ีขนาด เล็กและมีรูปร่างทีถ่ ูกจากดั ไวด้ ว้ ยพ้นื ท่ี แตห่ ลกั การทางานเหมือนเดิม 3. Hook Switch ลกั ษณะของ Hook Switchก็คือSwitch2ทางทาหน้าท่ีเลือกวา่ จะให้Lineโทรศพั ท์ ตอ่ เขา้ กบั วงจรกระดิ่ง (Ringer) หรือตอ่ เขา้ กบั วงจรปากพดู หูฟัง

รูปแสดงลกั ษณะ และสัญลษั ณะของ Hook Switch Block Diagram แสดงหน้าท่ี Hook Switch ในขณะท่ไี ม่มีการใชโ้ ทรศพั ท์ Hook Switch จะตอ่ เขา้ กบั Line เขา้ กบั วงจรกระดิ่ง แต่เมื่อมีการยกหู Hook Switch จะตอ่ Line เขา้ กบั วงจร ปากพดู หูฟังทนั ที โดยตดั วงจรกระดิ่งออกไปHook Switch จะทางาน เม่ือมีการยกหู หรือวางหู เพราะ Hand Set จะวางทบั Hook Switch ไวเ้ วลายกข้ึน ก็จะปล่อยเวลาวางลงก็จะ ทบั ทาให้ Hook Switch ทางาน 4. HAND SET โดยทว่ั ไปเราจะเรียกวา่ “มือถือ” หรือ “หูโทรศพั ท”์ ดงั เช่น เรามกั จะพดู ว่า “ถือ หูโทรศพั ท์” หรือ “ยกหูโทรศพั ท์” เป็ นตน้ Hand Set จะทาหน้าที่เป็ นที่อยูข่ องปากพูดและหูฟัง ซ่ึงจะ ออกแบบ Hand Set ใหเ้ หมาะสม ง่ายตอ่ การพดู และฟัง พร้อม ๆ กนั

เน่ืองจาก Hand Set จะมีปากพดู และหูฟังภายใน เวลาโทรศพั ทต์ อ้ งใหต้ าแหน่งปากพดู อยใู่ กลป้ าก และหูฟังอยใู่ กลห้ ู จงึ ทาการสนทนาได้ 5. DIAL หรือหนา้ ปัดโทรศพั ท์ ทาหน้าท่ีให้ผโู้ ทรศพั ทห์ มุนหรือกดหมายเลขปลายทางท่ีตอ้ งการ หมุนหรือกดแลว้ จะมีวงจรสร้างสญั ญาณรหสั ข้นึ มาตามตวั เลขที่เรากดหรือหมุนส่งไปยงั ชุมสายโทรศพั ทใ์ ห้ ถอดรหสั แลว้ คน้ หาผรู้ ับต่อไป หนา้ ปัดของเครื่องโทรศพั ทม์ ี 2 แบบ 1 แบบหมุน (Rotary Dial) 2 แบบกดป่ ุม (Pulse Button) ลกั ษณะของหนา้ ปัดโทรศพั ท์ 6. INDUCTION COIL ขดลวดเหน่ียวนา ในเคร่ืองโทรศพั ท์ จะทาหน้าท่ีปรับอิมพีแดนซ์ให้ เหมาะสมกบั Line และป้องกนั ไม่ใหเ้ กิด Side Tone ระหวา่ งปากพดู และหูฟัง

รูปแสดงการต่อ Induction Coil ในปัจจบุ นั โดยเฉพาะเคร่ืองทมี่ ีอุปกรณ์ Semiconductor อยดู่ ว้ ยจะไม่มี Inductor Coil ใหเ้ ห็น แต่จะ มีการออกแบบวงจรชดเชยดา้ นอ่ืน 7. PROTECTOR หรือตวั ป้องกนั จะทาหน้าท่ีป้องกนั เคร่ืองไม่ให้ไดร้ บั อนั ตรายจากไฟสูงหรือไฟ กระชากที่อาจเกิดข้ึนไดเ้ สมอโดยเฉพาะฟ้าผา่ หรือไฟกระชาก ที่เกิดจากการยกหู วางหู หรือหมุนหนา้ ปัด อนั ทาให้อุปกรณ์เสียหายได้ โดยท่วั ไปจะมีตวั ป้องกันไฟสูงต่ออยู่ก่อนท่ี Line จะเขา้ บ้านอยแู่ ลว้ แต่ใน เคร่ืองกย็ งั คงมีอีก เพอื่ ใหเ้ กิดความปลอดภยั รูปอปุ กรณ์ Protector 8. RINGER หรือ Bell เป็ นตวั ทีท่ าให้เกิดกระด่ิงดงั ข้ึนในเคร่ืองโทรศพั ท์ เพอ่ื เรียกใหผ้ รู้ ับโทรศพั ท์ ปัจจบุ นั มี 3 แบบ 8.1 Magneto Ringer เป็ นวงจรกระดิ่งท่ีมีอยใู่ นเครื่องรุ่นเก่า โครงสร้างแสดงตามรูป

รูปวงจรเครื่องรับโทรศัพท์ในระบบ Magneto จากวงจรโทรศัพท์ในระบบ Magneto จะเห็นว่ามีส่ิงสาคัญอยู่ 3 อย่าง คือ Battery , Magneto , Generator และวงจรโทรศพั ท์ วงจรน้ีจะมี Battery อยู่ด้วย เพ่ือเป็ นไฟเล้ียงวงจร และเล้ียง Line เพราะใน ระบบน้ี จะเป็ นระบบ Local Battery คือผเู้ ช่า (Subscriber) จะตอ้ งมี Battery ประจาทุกเครื่อง ส่วน Magneto Generator น้ันมีไว้เพ่ือให้ผู้โทรศัพท์ (ผูเ้ รียก) หมุนเพ่ือเรียก Operator ซ่ึงเม่ือหมุน Magneto จะมีไฟ ประมาณ 50 VAC วง่ิ ไปตาม Line เพอ่ื ใหห้ ลอดไฟ หรือกระดิ่งของ Operator ทางาน การทางานของ Magneto Ringer เมื่อไฟกระดิ่งจากชุมสายประมาณ 50 VAC เขา้ มาขดลวดจะทา ใหเ้ กิดสนามแม่เหลก็ ไฟฟ้าข้นึ ในขดลวดและทาให้ P1 และ P2 เกิดเป็นสนามแม่เหลก็ ข้ึนมา โดยมีข้วั สลบั N-S กนั ตลอดเวลา และดูดกา้ นตใี หเ้ คลื่อนท่ี กา้ นตีจะไปตีดว้ ยกระด่ิงความเร็วตามความถี่ของไฟกระดิ่ง ประมาณ 25Hz 8.2 Buzzer Ringer ในเคร่ืองรุ่นใหม่จะนิยมใช้ Buzzer เพราะมีขนาดเล็กราคาถูกกิน กระแสนอ้ ย และยงั สามารถเลือกชนิดของเสียงไดต้ ามชนิดของ Buzzer

รูปแสดงวงจร Buzzer Ringer การทางาน Buzzer Ringer เมื่อมีไฟกระด่ิง 90 VAC 25 Hz จะถูก R1 ลดขนาด Voltage ลงให้ เหลือพอเหมาะ D1-D4 จะ Rectifier และ C1 จะทาการ Filter ให้เป็ น DC ส่วน Z1 จะ Regulate Voltage ให้ คงที่ เพื่อป้อนไฟเล้ียง ให้ IC1 ให้ IC1 กาเนิด Pulse ออกมาใหม่ มีความถี่ประมาณ 10 Hz เพ่ือให้ Buzzer โดยมี R3 และ R4 เป็นตวั เร่ง – ลดเสียง รูปสัญญาณทจ่ี ดุ ต่าง ๆ ในวงจรกระด่งิ ปกตแิ ลว้ Buzzer ทใ่ี ชจ้ ะเป็นแบบ Piezo Buzzer ซ่ึงจะทางานดว้ ย AC Pulse ถา้ เราเอาสญั ญาณ AC 25 Hz ที่เขา้ มาแลว้ ลดขนาดลงใหพ้ อเหมาะป้อนให้ Buzzer โดยตรงกไ็ ด้ แตค่ วามถี่ AC 25 Hz สูงเกินไป ทา ใหเ้ สียงทอี่ อกมาไม่น่าฟัง จงึ ตอ้ งมี IC1 สร้าง Pulse ทมี่ ีความถี่เหมาะสมข้นึ มาใหม่ 8.3 SPEAKER RINGER เครื่องทม่ี ีราคาสูง มีส่ิงอานวยความสะดวกมากมาย เช่น มี วงจร Hand Free (สนทนาโดยไม่ตอ้ งยกหู) ส่วนมากจะใช้ Speaker เป็น Ringer เพราะเครื่องทีม่ ี Speaker ใช้ อยแู่ ลว้ จงึ ไม่จาเป็นตอ้ งมี Buzzer อีก โดยดดั แปลงวงจร Buzzer Ringer ใหส้ ามารถใชก้ บั Speaker ได้ แสดง ตามรูป

วงจร Speaker Ringer จะดดั แปลงมาจาก Buzzer Ringer โดยนาสัญญาณ IC1 ป้อนเขา้ หม้อแปลง (Transformer) หรือ ลดหรือเพิ่ม Voltage และลดเหล่ียมของ Pulse ใหม้ ี Slop บา้ ง ซ่ึงจะทาให้ Speaker ไม่ เสียหาย รูปแสดงสัญญาณจดุ ต่าง ๆ ในวงจร Speaker Ringer สัญญาณ TONE

ในการใชง้ านโทรศพั ทท์ ุก ๆ คร้ัง เราจะไดย้ นิ เสียง Tone ดงั อยใู่ นหูฟังในสภาวะต่าง ๆ โดย Tone เหล่าน้นั จะมีความหมายแตกตา่ งกนั บอกใหร้ ู้วา่ ชุมสายพรอ้ มหรือไม่ หรือผรู้ บั ปลายทางเป็ นอยา่ งไร เรา สามารถรู้ไดจ้ ากสญั ญาณ Tone เหล่าน้ี 1. DIAL TONE Dial Tone เป็ นสญั ญาณเสียงท่ีบอกใหผ้ เู้ รียกทราบวา่ ขณะน้ีชุมสายพร้อมแลว้ ให้ ผเู้ รียกเริ่มหมุนหมายเลขได้ ลกั ษณะสญั ญาณ Dial Tone จะเป็นความถี่ 400 ถึง 450 Hz Modulate กบั ความถี่ 50 Hz ดงั ตอ่ เน่ืองประมาณ 30 วนิ าที ถา้ ผเู้ รียกไม่หมุนหมายเลข ชุมสายจะตดั เป็น busy ทนั ที รูปสัญญาณ Dial Tone 2. BUSY TONE เป็ นสญั ญาณเสียงที่บอกให้ผเู้ รียกทราบวา่ ถึงความไม่พร้อมของชุมสาย ลกั ษณะ สญั ญาณมีความถี่ 400-450 Hz ดงั จงั หวะ 0.5 sec ON, 0.5 sec OFF 3. RINGIN TONE เป็ นสญั ญาณกระด่ิงดงั ข้นึ ท่ีเครื่องโทรศพั ท์ แสดงวา่ มีคนเรียกเขา้ มา เสียง กระดิ่งจะดงั ท่เี คร่ืองรบั เท่าน้นั ลกั ษณะสญั ญาณจะเป็นไฟ 90 Volt 25 Hz 1 sec ON, 4 sec OFF

รูปสัญญาณ Ringing Tone 4. RING BACK TONE เป็ นสญั ญาณที่ดงั ข้ึนในหูฟังของผเู้ รียกบอกใหร้ ูว้ า่ ทีป่ ลายทางวา่ ง โดย สญั ญาณน้ีจะสอดคลอ้ งกบั Ringing Tone ลกั ษณะสญั ญาณจะมีความถ่ี 400-450 Hz 1 sec ON, 4 sec OFF รูปสัญญาณ Ringing Back Tone 5. NU TONE (NUMBER UNOBTAINED TONE) เป็ นสญั ญาณที่บอกใหผ้ เู้ รียกรู้วา่ เบอร์น้นั ยงั ไม่ไดต้ ิดต้งั มีลกั ษณะเป็ นความถ่ี 400 -450 Hz ดงั 0.1 sec ON, 0.1 sec OFF


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook