Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เนื้อหาหน่วยที่ 4 เรื่อง การบัญชีที่ไม่สมบูรณ์

เนื้อหาหน่วยที่ 4 เรื่อง การบัญชีที่ไม่สมบูรณ์

Published by jongpat2506, 2020-06-14 23:32:52

Description: เนื้อหาหน่วยที่ 4 เรื่อง การบัญชีที่ไม่สมบูรณ์

Search

Read the Text Version

หนว่ ยที่ 4 เรื่อง การบันทกึ บญั ชีที่ไมส่ มบรู ณ์ ธุรกิจการคา้ โดยส่วนใหญจ่ ะทำการบันทกึ บญั ชตี ามหลักบัญชคี ู่ (Double Entry System) ซึ่งจะบนั ทึก รายการคา้ ท่ีเกิดขึน้ ตามหลักการบัญชที ร่ี ับรองโดยทั่วไป โดยเร่มิ จากการบนั ทึกรวมการคา้ ในสมุดบนั ทกึ รายการขัน้ ตน้ แล้วผ่านรายการไปยงั บญั ชีแยกประเภทท่ีเกย่ี วข้อง และเมอื่ วันสิน้ งวดบญั ชีจะทำการรวบรวม ยอดในบญั ชีแยกประเภทเพ่ือจัดทำงบทดลอง และจดั ทำรายงานทางการเงินของกิจการได้โดยถกู ต้องสมบูรณ์ เพอื่ เสนอตอ่ ผบู้ ริหาร เจา้ หน้ี หรือนกั ลงทุน เพื่อใช้ในการตดั สินใจในการลงทุนต่อไป แตก่ ย็ งั มีกิจการบางแหง่ ทจ่ี ัดทำบัญชีไมถ่ ูกตอ้ งตามหลักบญั ชคี เู่ นอื่ งจากเจ้าของกจิ การเป็นผดู้ ูแลรบั ผดิ ชอบกิจการเอง ท้ังผ้ทู ่ี รบั ผดิ ชอบเก่ียวกบั การบันทกึ บญั ชไี ม่มคี วามรเู้ กยี่ วกับหลกั การบญั ชีท่ีรบั รองโดยท่ัวไป ซึง่ การบนั ทกึ บัญชตี าม ระบบน้ีเรยี กว่า “ระบบบญั ชีเด่ยี ว” 1. ความหมายและลกั ษณะของระบบบัญชเี ด่ียว ระบบบัญชเี ดย่ี ว (Single Entry System) หมายถงึ ระบบการบนั ทกึ บัญชีทไี่ ม่สมบรู ณไ์ ม่ถกู ต้องตามหลักการ บันทึกบัญชีท่ีรบั รองโดยท่ัวไป โดยจดบันทกึ เฉพาะรายการทสี่ ำคญั ๆ เชน่ การจ่ายเงิน การรับชำระหนี้ เปน็ ตน้ โดยรายการท่จี ดบนั ทึกอาจบันทึกรายการค้าดา้ นเดบิต หรอื เครดติ เพยี งด้านเดยี วเฉพาะบัญชีท่เี กี่ยวข้อง เท่านนั้ หรอื บางรายการอาจมเี พยี งการจดั ทำเอกสารหลกั ฐานไว้เท่าน้ัน ลักษณะของระบบบัญชเี ดีย่ ว กจิ การที่ บันทกึ บญั ชีตามระบบบัญชเี ด่ยี วน้ีสว่ นใหญเ่ ป็นกจิ การขนาดเล็ก มรี ายการค้าไมม่ ากนัก ความหมายของระบบบัญชีเด่ียว ระบบการบันทกึ บญั ชีทไ่ี ม่สมบูรณไ์ มถ่ ูกต้องตามหลกั การบันทกึ บัญชที ร่ี ับรองโดยทั่วไป การบันทึก บัญชอี าจเป็นด้านเดบิตหรือเครดิต เพยี งด้านเดียว ส่วนใหญเ่ ป็นกิจการขนาดเล็กหรอื เจ้าของกจิ การดูแลและ รับผิดชอบด้วยตนเอง 2. สมดุ บญั ชที ใ่ี ช้ในระบบบญั ชเี ดยี่ ว โดยทัว่ ไปกจิ การทบี่ ันทึกรายการค้าตามระบบบญั ชเี ดี่ยวส่วนใหญเ่ ป็นกจิ การขนาดเล็กหรือเจ้าของกิจการเป็น ผจู้ ดั ทำบัญชเี อง จงึ ไม่เห็นความสำคัญของการจัดทำบญั ชมี ากนัก อาจมีสมดุ บัญชที ีใ่ ชด้ ังนี้ 1. สมุดเงนิ สด เพ่อื ใชใ้ นการบันทึกการรับ-จ่ายเงิน ประจำวนั 2. สมดุ บญั ชแี ยกประเภท จะเปดิ เพยี งบางบัญชที ีเ่ จา้ ของกิจการตอ้ งการทราบขอ้ มูลเทา่ น้ัน เชน่ บญั ชีลกู หน้ี บญั ชีเจา้ หนี้ บัญชีทุน เปน็ ต้น 3 . สมุดรายวนั บนั ทกึ รายการท่ไี ม่เก่ียวกบเงนิ สด เชน่ การซ้อื -ขายสนิ ค้าเป็นเงนิ เชือ่

3. ข้อบกพรอ่ งของระบบบญั ชีเดีย่ ว ระบบบญั ชเี ดย่ี วบนั ทึกรายการคา้ ไมส่ มบรู ณ์ตามหลกั บญั ชีคู่ จึงไม่ ่ ่สามารถพิสูจนค์ วามถกู ต้องของการ บนั ทึกบัญชี จงึ มขี อ้ บกพร่อง ดังน้ี 1. ไมม่ ีการผ่านรายการไปยงั บญั ชแี ยกประเภท จะผา่ นไปบญั ชีแยก ประเภทลูกหนี้ เจ้าหนรี้ ายตวั เทา่ นน้ั ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบความถูกตอ้ งได้ 2. ไมเ่ ปิดบัญชีแยกประเภทรายได้และคาใชจ้ ่าย จงึ ไมส่ ามารถจัดทำงบทดลองและงบกาไรขาดทนุ ตามหลกั การบญั ชคี ู่ ได้ 3. ไมไ่ ด้จดทะเบยี นเก่ยี วกับสนิ ทรพั ย์และหน้ีสนิ (ยกเว้นเจา้ หน้)ี ต้องไปดจู ากสมดุ เงนิ สดและสมุด รายวันทั่วไป ซ่ึงอาจจะคลาดเคล่อื นได้ ่ 4. การจัดทำงบกำไรขาดทนุ และงบดลุ จากหลกั ฐานตามระบบบัญชเี ดี่ยว ต้องใชก้ ารวิเคราะห์รายการ จากบญั ชเี งนิ สด เจ้าหนี้ ลกู หนี้ ทำใหม้ ีข้อบกพร่องเพราะอาจจะหลงลืมจดบนั ทึกรายการคา้ หรอื วิเคราะห์ รายการผิดพลาดได้ 5.ระบบบญั ชเี กีย่ วเหมาะสำหรบั กิจการเจา้ ของคนเดยี วทีม่ ขี นาดเล็ก ซง่ึ มรี ายการคา้ ไม่มากนกั เจ้าของสามารถควบคมุ ได้ทวั่ ถงึ ถ้าหากเปน็ กจิ การคา้ ขนาดใหญจ่ ะยากตอการควบคมุ และตรวจสอบ ทำให้ เกิดข้อผิดพลาดเสียหายตอ่ กิจการได้ 4. งบแสดงฐานะทางการเงินของกจิ การ กิจการทบ่ี นั ทกึ บัญชีตามระบบบัญชเี ด่ยี วจะบนั ทกึ บญั ชเี ก่ียวกับบญั ชีสินทรัพย์ หน้สี นิ และทนุ ไมค่ รบถ้วน สมบรู ณ์ ในการรวบรวมเพ่อื จดั ทำรายงานทางการเงนิ จงึ ไดม้ าจากการตรวจสอบหลกั ฐาน และการสอบถาม ข้อมลู จากขั้นตอนดังนี้ 1). รวบรวมสินทรัพย์ หน้สี นิ และทุน ณ วนั ต้นงวด 2). รวบรวมรายการคา้ ทีเ่ กดิ ขน้ึ ระหวา่ งงวด 3). รวบรวมสนิ ทรพั ย์ หนีส้ นิ และทุน ณ วันสิ้นงวด 5. การคำนวณกำไรขาดทนุ ตามระบบบญั ชเี ดี่ยว การคาํ นวณกาไรขาดทนุ ตามระบบบญั ชเี ดย่ี วมี 2 วิธี 1 . การเปรยี บทนุ 2 . การวเิ คราะห์รายละเอยี ดทางการค้าการคาํ นวณกาํ ไรขาดทุน

1 . การเปรยี บทนุ การคำนวณกำไร (ขาดทนุ ) สุทธิประจำปี คำนวณได้ดงั น้ี กำไร (ขาดทุน) สทุ ธิ = ทุนปลายงวด – ทนุ ต้นงวด กรณีท่มี ีรายการที่ทำใหท้ นุ เกดิ การเปลีย่ นแปลงทม่ี ผี ลตอ่ การดำเนนิ งาน ทที่ ำให้ทุน ณ วนั ส้ินงวดเพิม่ ขนึ้ หรอื ลดลงดงั นี้ 1). รายการซึง่ ทำใหท้ ุน ณ วนั ส้นิ งวดเพิ่มขนึ้ ได้แก่ ก. รายการเพม่ิ ทุน ข. ดอกเบย้ี ซึ่งคิดให้ทุน ค. เงนิ เดอื นคิดใหแ้ ก่ผเู้ ปน็ หนุ้ ส่วนที่ไดร้ ับโดยยังไม่ไดร้ ับเป็นตวั เงินสด ง. ผลประโยชน์อน่ื ทีไ่ ด้รับโดยยงั ไม่ได้รบั เปน็ ตัวเงินสด ทีท่ ำให้ทุนเพิม่ 2). รายการซ่งึ ทำใหท้ ุน ณ วนั สน้ิ งวดลดลง ไดแ้ ก่ ก. รายการถอนทนุ ข. การถอนเงนิ กำไรไปใชล้ ว่ งหนา้ ค. ดอกเบยี้ ซ่ึงกิจการคิดจากยอดการถอนทนุ ง. ผลประโยชนอ์ น่ื ที่ทำให้ทนุ ลด ในกรณที ี่มรี ายการเก่ียวกับทนุ ดงั กล่าวขา้ งต้น สามารถนำมาคำนวณหากำไร (ขาดทุน) สทุ ธสิ รปุ ไดด้ งั น้ี กำไร (ขาดทนุ ) สทุ ธิ = ทนุ ปลายงวด + ถอนทุน + เงินถอน – ทุนต้นงวด – เพม่ิ ทนุ ตัวอยา่ ง เมื่อวนั ที่ 1 มกราคม 2553 กิจการ มีทนุ ยกมา 50,000 บาท และวันที่ 31 ธันวาคม 2553 มี ทุน 110,000 บาท ในระหว่างงวดมีการ นําเงินมาลงทนุ เพิม่ 30,000 บาท ถอนใชส้ ว่ นตวั 24,000 บาท วธิ ีคำนวณ ทนุ ปลายปี 50,000 110,000 บวก ถอนใชส้ ่วนตวั 30,000 24,000 รวม 134,000 หกั ทนุ ต้นปี 80,000 ลงทุนเพ่ิม กำไรสทุ ธิ 54,000

2 . การวิเคราะห์รายละเอยี ดทางการคา้ การคาํ นวณกาํ ไรขาดทนุ การคำนวณกำไรหรือขาดทนุ ตามระบบบญั ชเี ด่ียว เนอื่ งจากกิจการไมไ่ ด้บันทึกบญั ชรี ายไดแ้ ละค่าใช้จ่ายตา่ ง ๆ ตามระบบบัญชีค่ดู ังไดก้ ล่าวมาแลว้ การ คำนวณหาผลกำไรหรอื ขาดทุนจงึ ไม่อาจเปรียบเทียบระหวา่ งรายไดแ้ ละคา่ ใช้จ่ายโดยจัดทำงบกำไรขาดทุนตาม ระบบบัญชีคไู่ ด้ อย่างไรกด็ ี จากผลของการดำเนินงานกำไรสุทธิจะมีผลให้ทนุ ของกจิ การเพม่ิ ขึ้น และขาดทนุ สทุ ธิมีผลใหท้ นุ ของกิจการลดนอ้ ยลง ดังนัน้ ตามระบบบญั ชเี ดี่ยวจึงคำนวณหากำไรหรอื ขาดทุนสทุ ธิ โดย เปรยี บเทยี บระหว่างยอดทนุ ในวันสน้ิ งวดบญั ชกี ับทุนวันต้นงวดบญั ชโี ดยถอื หลักวา่ ทนุ ที่เพิม่ ข้นึ ระหว่างงวดก็ คือกำไรสทุ ธขิ องงวดนนั้ และในทางตรงขา้ มทนุ ทีล่ ดลงระหวา่ งงวดก็คอื ผลขาดทุนสทุ ธิของงวดบัญชนี นั้ งบแสดงฐานะการเงนิ งบแสดงฐานะการเงินตามระบบบญั ชีเด่ียว ก็คอื งบดลุ ตามระบบบัญชคี ่นู ่นั เอง เพราะเป็นงบท่ีจดั ทำขน้ึ เพื่อ แสดงฐานะทางการเงินของกิจการ ณ วนั ใดวนั หนงึ่ ว่ามีสนิ ทรพั ย์ หนี้สนิ และทนุ เปน็ จำนวนเท่าใด ดังที่ได้ กลา่ วมาแล้วว่าวธิ กี ารบญั ชีตามระบบบญั ชเี ด่ียว มไิ ดม้ กี ารบนั ทึกรายการเกยี่ วกับสนิ ทรัพยแ์ ละหน้ีสินไดโ้ ดย ครบถ้วนมีเฉพาะบางรายการทจ่ี ดั ทำไว้โดยสมบูรณ์ จากเอกสารบางอย่างและจากการสอบถามความจำของ เจา้ ของกจิ การด้วยดงั น้ี เงนิ สดคงเหลอื สามารถทราบยอดได้จากบญั ชเี งินสด เพราะเจ้าของไดล้ งรายการไวโ้ ดยครบถว้ นสมบูรณ์ และ ควรตรวจสอบโดยการตรวจนบั ตัวเงินคงเหลือจรงิ เปรียบเทยี บกนั ดว้ ย นอกจากนีร้ ายการรบั จา่ ยในบญั ชีเงินสด ยงั อาจใหไ้ ดข้ ้อมลู เก่ยี วกบั การซอื้ สนิ ทรพั ย์เพิ่มเติม การลงทนุ เพิม่ ถอนทนุ รายการก้เู งนิ จากธนาคารหรือ บคุ คลภายนอกอีกดว้ ย เงินฝากธนาคารจะทราบยอดไดโ้ ดยดูจากยอดในสมุดค่ฝู าก หรอื ยอดคงเหลือในต้นขวั้ สมดุ เชค็ และยอดตามใบ แจ้งยอดของธนาคารเทยี บกับยอดในบัญชเี งินฝากธนาคาร ลกู หนี้ จะทราบยอดได้โดยรวมยอดคงเหลอื ในบัญชีลกู หนีร้ ายตวั หรอื บิลค้างชำระจากลูกหนีซ้ ง่ึ กจิ การทำโดย ถูกตอ้ งสมบูรณ์เป็นปกติอยแู่ ล้ว ท้งั นี้ควรคำนงึ ถึงจำนวนหนีท้ ี่สงสยั หรอื คาดวา่ จะเก็บเงนิ ไม่ได้ซงึ่ ควรประมาณ เปน็ ค่าเผอื่ หนสี้ งสยั จะสูญไวห้ ักจากยอดลูกหนเี้ มื่อทำงบด้วย ตว๋ั รับ โดยปกติเจา้ ของยอ่ มทราบวา่ ตนมีตั๋วรบั อยใู่ นความครอบครองเป็นจำนวนมากนอ้ ยเพียงใด การ สอบถามจากเจ้าของและขอดเู อกสารจะชว่ ยไดท้ ราบยอดสนิ ทรพั ยน์ ี้

สินค้าคงเหลือ จะทราบได้โดยการตรวจนบั ตรี าคาสินคา้ คงเหลือในขณะใดขณะหนึ่งน้ันซ่งึ หลกั การตรี าคา สนิ ค้านิยมตีราคาตามราคาทนุ หรือราคาตลาดราคาใดราคาหนงึ่ ที่ต่ำกว่า วสั ดสุ ำนักงาน เช่นเดยี วกับสินคา้ คงเหลอื เพราะจะปรากฏเปน็ ยอดคงเหลอื ใหส้ ามารถตรวจนับและตรี าคาได้ ค่าใช้จ่ายล่วงหนา้ นอกจากสงั เกตรายจ่ายจากบัญชีเงินสดว่ามรี ายการใดทอี่ าจจ่ายโดยรวมส่วนของงวดบัญชี ต่อไปไว้ด้วยบา้ งแล้ว ยังอาจทราบไดโ้ ดยการขอดเู งอ่ื นไขหรือเอกสารการจ่ายบางอย่างจากเจา้ ของได้ด้วย เชน่ กรมธรรมป์ ระกนั ภยั ยอ่ มชีใ้ หเ้ หน็ จำนวนค่าเบ้ยี ประกันสว่ นที่เป็นของงวดปัจจุบันและของทจ่ี า่ ยล่วงหนา้ รายได้คา้ งรบั อาจสอบถามจากเจา้ ของว่ามีรายได้ประเภทใดซึ่งควรจะไดร้ ับแต่ยังคา้ งรับบา้ งหรอื ไม่ สนิ ทรพั ยถ์ าวร เจ้าของของกจิ การทำทะเบยี นสนิ ทรัพยจ์ ะช่วยให้ทราบราคาทนุ ของสนิ ทรพั ยน์ นั้ ๆ ทราบโดย การซ้ือเพิม่ เตมิ หรือจำหน่ายจากบญั ชเี งนิ สด ตรวจนับสนิ ทรัพยถ์ าวรทอ่ี ยูใ่ นรา้ นคา้ ขณะน้นั และสอบถามจาก เจ้าของหรอื ขอดูเอกสารเก่ยี วกบั สินทรัพย์บางอย่าง เชน่ โฉนดทีด่ นิ สญั ญาก่อสร้างอาคารหรอื สัญญาเช่า อาคาร ทั้งนี้เพอ่ื สามารถทราบราคาทุนของสินทรพั ย์นัน้ ๆ และสามารถประมาณการใชง้ านว่าควรจะมีการคิด ค่าเสอื่ มราคามากนอ้ ยเพยี งใด เพื่อแสดงรายการหักราคาทนุ ของสนิ ทรัพย์ในวันทำงบดว้ ย เจ้าหน้ี จะทราบได้จากบัญชีเจา้ หน้ีรายตัวซงึ่ ได้ทำบัญชไี วอ้ ยา่ งสมบูรณ์หรอื ดบู ลิ ค้างชำระแกเ่ จา้ หน้ี ตั๋วจ่าย ตอ้ งสอบถามเจา้ ของกจิ การวา่ มขี ้อผกู พนั ทจี่ ะต้องชำระเงนิ ตามต๋ัวซ่งึ ยังไมถ่ ึงกำหนดบ้างหรือไม่ เพยี งใด อาจดหู ลกั ฐานการซ้อื และการชำระหนีด้ ว้ ยต๋วั เงินอกี สว่ นหนง่ึ ประกอบด้วย รายไดร้ บั ล่วงหนา้ อาจสอบถามเจา้ ของและขอดเู อกสารประกอบว่ามีรายรบั ใดบ้างหรือไมท่ ่เี ป็นส่วนของงวด บญั ชีต่อไป หนีส้ นิ ระยะยาว เช่น เงนิ กูจ้ ะทราบไดจ้ ากรายการรับเงนิ ในบญั ชเี งนิ สดและสอบถามเจ้าของพร้อมทง้ั ขอดู เอกสารประกอบ เช่น สัญญากู้ ทุน เมอื่ ทราบสินทรพั ย์ต่าง ๆ ของกจิ การโดยครบถว้ นและทราบหน้ีสินตา่ ง ๆ โดยครบถว้ นแลว้ ก็จะสามารถ ทราบยอดทุนของกิจการได้โดยคำนวณหาผลต่างระหว่างสินทรพั ย์และหนีส้ นิ ซึง่ จะเทา่ กับทุนของกจิ การตาม

หลักสมการบญั ชี (สนิ ทรพั ย-์ หนี้สิน=ทนุ ) หรอื คำนวณหาผลตา่ งโดยการจัดทำงบแสดงฐานะการเงิน ซ่งึ ถ้า ต้องการทราบยอดทนุ ตน้ งวดก็จดั ทำงบแสดงฐานะการเงนิ ณ วนั ตน้ งวด และถ้าตอ้ งการทราบยอดทนุ วันสนิ้ งวดก็จะทำงบแสดงฐานะการเงนิ ณ วนั ส้ินงวด ในการจัดทาํ งบการเงนิ โดยปกตขิ องกจิ การจะตองใชการบนั ทกึ ตามหลกั การบัญชีคู ซง่ึ ตาม หลักการ บัญชีคูนน้ั ตองการวิเคราะหรายการถงึ ความเปลยี่ นแปลงทางสนิ ทรพั ย = หนี้สนิ + ทุน และจะ ใชหลักการ บัญชคี ูในการบนั ทึกบญั ชใี นดานแดบติ และเครดิต การบันทึกรายการตามหลกั การบญั ชีคอู าจจะไมพบในธรุ กิจขนาดเลก็ โดยเฉพาะในกจิ การ เจาของคน เดียวซ่ึงมปี รมิ าณรายการคาไมมากนกั จนไมคมุ คาทจ่ี ะจางพนกั งานบัญชีมาอยปู ระจาํ ดงั นน้ั ในธรุ กจิ ขนาดเล็ก จึงมกั มีการบนั ทึกรายการคาท่เี กดิ ขน้ึ ไมครบตามหลักการบญั ชคี ู เมอื่ ตองการจะจัดทาํ งบการเงินก็จะจาง พนักงานบัญชีมาเปนผูจัดทํางบการเงนิ ใหเปนคราวๆ ไป การบนั ทกึ รายการคาทไ่ี ม เปนไปตามหลกั การบัญชคี ู ท้ังทางดานเดบติ และเครดติ จะเรียกระบบการบนั ทึกรายการน้ันวา บัญชีเดี่ยว (Single Entry) การบันทกึ รายการในระบบบญั ชีเด่ียวมักจะบันทกึ ไวตั้งแตบนั ทกึ สมุดบันทึกประจําวนั บันทึก แยก เฉพาะรายการทส่ี าํ คัญเอาไว เชนรายละเอยี ดของลกู หนก้ี ารคา รายละเอียดเจาหนี้การคา การ บนั ทึกในสมดุ บนั ทึกประจําวันมักจะจดบนั ทึกเก่ียวกบั รายการซอ้ื ขาย และรบั -จายเงินสด การรบั คนื สงคนื สนิ คา อยางไรก็ ตามรายการทบี่ นั ทึกตามระบบบัญชีเดีย่ วนห้ี ากตองการจะจัดทาํ งบทดลองตาม หลกั การบัญชคี กู จ็ ะสามารถ ทําไดเมอื่ สน้ิ งวด ระยะเวลาทต่ี องการสรุปผลการดําเนนิ งาน การคาํ นวณกาํ ไร (ขาดทุน) การบนั ทกึ รายการโดยระบบบัญชเี ดยี่ ว ในระบบบัญชเี ดยี่ วมกั จะ ประกอบดวยรายละเอียดของลกู หนก้ี ารคาและเจาหนกี้ ารคา รายละเอียดของการรับจายเงินสด รายละเอียด อนื่ ๆ ซึง่ จะบนั ทึกไวในสมุดบนั ทกึ ประจําวัน ดังนนั้ การ คาํ นวณกาํ ไร (ขาดทุน) จึงใชวิธเี ปรียบเทียบทุนซง่ึ อาศยั ความแตกตางของทนุ ตนงวดและทุนปลายงวด และปรบั ปรุงโดยการลงทนุ เพมิ่ ถอนทุนหรือเจาของ กิจการเบิกใชสวนตัวระหวางงวดตนงวดและทนุ ปลายงวดจะคาํ นวณหายอดไดจากงบแสดงฐานะการเงนิ ใน งวดกอนและยอดทนุ ในงวดปจจุบัน สวนยอด การลงทนุ เพิม่ ถอนทุนหรือเบิกใชสวนตัวจะคํานวณจาก รายละเอียดของสมุดเงนิ สดหรือสมุดบนั ทกึ ประจําวันโดยมีขั้นตอนดังน้คี ือ คาํ นวณรายละเอยี ดของสนิ ทรพั ยและหน้สี นิ ตนงวดและปลายงวด ซงึ่ จะไดยอดทุนตนงวด และทุนปลายงวด รายการสนิ ทรพั ยและหนส้ี นิ จะถูกคํานวณดงั นี้

เงินสด คํานวณยอดคงเหลือไดจากการนาํ เอายอดเงนิ สดรบั -จายในรายจายงวดท่ีถกู บนั ทึกไวในสมดุ เงินสดกระทบ ยอดกบั เงนิ สดคงเหลือในมอื และยอดเงนิ ฝากธนาคาร ลกู หนกี้ ารคาและเจาหนี้การคา สรปุ ไดจากยอดลกู หนี้การคาและเจาหนก้ี ารคาทบ่ี ันทกึ ไว สนิ คาคงเหลือและวสั ดคุ งเหลือ คํานวณไดจากการตรวจนับและตีราคา สนิ ทรัพยไมหมนุ เวียน เกบ็ ยอดรายละเอียดไดจากงบการเงินในงวดกอนและจากรายละเอยี ดของเงนิ สดรบั จายเมอ่ื มี การซอ้ื สินทรัพย เพิ่มหรอื ขายสินทรัพยออกไป ซึง่ สามารถคาํ นวณคาเสอื่ มราคาและคาเสอ่ื มราคาเพิ่ม จากอายุการใชงานและ รายละเอียดของคาเสื่อมราคาสะสมในงบการเงินงวดกอน คาใชจายลวงหนา คาใชจายคางจายรายไดรับลวงหนาและรายไดคางรับ เกบ็ ยอดรายละเอียดไดจากการตรวจสอบรายการที่บนั ทึกไวในสมดุ บนั ทกึ ประจําวัน เอกสารรบั แจงหน้ี ใบ วางบิล ทุน 1. คาํ นวณไดจากการนาํ ยอดสินทรัพยท้ังหมดหักดวยงวดหนี้สินทงั้ หมด 2. ปรับปรุงดวยยอดลงทนุ เพิม่ ยอดลดทุนหรือยอดการเบิกใชสวนตวั ตวั อยางการคาํ นวณกาํ ไร (ขาดทุน) โดยวิธเี ปรยี บเทียบทนุ ตวั อยางท่ี 1 เมอ่ื วันที่ 1 มกราคม มียอดทนุ เทากบั 7,500 บาท และในวันที่ 31 ธนั วาคม มียอดทุนจาํ นวน 10,000 บาท และพบรายละเอยี ดในสมดุ บันทึกประจําวนั วาในระหวางปมกี ารลงทุนเพิ่มอีก 1,000 บาท เจา ของกจิ การมกี ารเบิกใชสวนตวั ไปจาํ นวน 3,000 บาท กาํ ไรทคี่ ํานวณไดจะเทากับ 4,500 บาท ทุน (31 ธ.ค.) 10,000 บาท ทุน (1 ม.ค.) 7,500 บาท จาํ นวนทเี่ พม่ิ ข้ึนในทนุ 2,500 บาท ปรับปรงุ เบกิ ใชสวนตวั 3,000 ลงทุนเพ่มิ (1,000) 2,000 บาท กําไรสุทธิประจําป 4,500 บาท สรปุ เปนสตู รไดวา ทนุ ตนป + เพ่ิมทุน + กําไรสทุ ธิ = ทุนปลายป + เบิกใชสวนตัว

การคํานวณกาํ ไร (ขาดทุน) จากวธิ ีเปรียบเทียบทุนนจ้ี ะไดเพยี งยอดกาํ ไร (ขาดทนุ ) โดยไม แสดง รายละเอียดของรายไดและคาใชจายท่เี กดิ ขน้ึ ซ่งึ ไมเพียงพอหากเจาของกิจการจะนาํ ขอมูลมาใช เพือ่ การ ตดั สินใจหรือสาํ หรับเจาหนี้ทีจ่ ะตัดสินใจในการใหสนิ เชอ่ื สําหรับรัฐบาลทตี่ องการจัดเก็บภาษี ดงั นน้ั จากระบบ บัญชีเดีย่ วทเี่ ปนอยจู ะสามารถแสดงงบกําไร (ขาดทุน) โดยแสดงรายละเอียดของรายได และคาใชจายเชนเดยี ว กบั งบกาํ ไร (ขาดทนุ ) ท่ถี ูกบนั ทึกรายการตามหลักการบญั ชีคูได 2 วิธคี อื 1. บันทึกรายการทีเ่ กิดขน้ึ ใหมทง้ั หมดตามหลกั การบญั ชคี ู 2. วเิ คราะหรายการเงนิ สดรบั -จายรวมกบั รายการเปล่ยี นแปลงของสินทรพั ยและหน้ีสินจาก ขอมูลท่ี เกบ็ ในระบบของบัญชเี ดีย่ วซึ่งบนั ทกึ รายการเพยี งเงินสดรับ-จายในสมุดเงนิ สด สมดุ บนั ทึก รายการประจาํ วัน รายละเอียดของลูกหน้กี ารคาและเจาหนก้ี ารคา เปนการยากอยางย่งิ ทจี่ ะบันทกึ รายการท่เี กิดขึ้นตามหลักบัญชคี ใู หมทงั้ หมด จึงเหลือเพียงวธิ ที ี่ 2 นัน่ คอื วเิ คราะหรายการเงนิ สดรับ-จาย รวม กับรายการเปล่ยี นแปลงของสินทรพั ยและหน้ีสนิ ซึง่ เปนไปดังนี้คือ ในสมดุ เงนิ สดของระบบบัญชีเดี่ยวจะมีการสรปุ รายการรับ-จายเงนิ สดดงั นี้ เงนิ สดทไี่ ดรับจะไดรับมาจาก เงนิ สดท่ีจายไปเปนการจายเพอื่ 1. ขายสนิ คา/บรกิ ารเปนเงนิ สด 1. ซือ้ สินคาเปนเงนิ สด 2. รายไดอนื่ ๆ 2. จายคาใชจายอืน่ ๆ 3. การเก็บหนจี้ ากลกู หนี้ 3. จายชาํ ระหนี้ใหเจาหน้ี 4. ขายสนิ ทรพั ยทน่ี อกเหนอื จากสินคา 4. จายซอื้ สนิ ทรัพยอื่นๆนอกเหนอื จากสินคา 5. การกยู ืม 5. จายชาํ ระหนี้เงนิ กยู มื 6. การเพ่มิ ทุนของเจาของ 6. การลดทนุ หรอื เบกิ ใชสวนตัวของเจาข การวเิ คราะหรายการเพอื่ หายอดรายไดและคาใชจายประเภทตางๆ มีข้ันตอนดงั นี้ 1. หายอดสนิ ทรพั ย หนสี้ ินของส้นิ ปกอนและสิ้นปปจจุบนั ยอดสนิ ทรพั ย หนีส้ ินของสิ้นปกอนจะเปนยอดจากงบแสดงฐานะการเงินท่ีทาํ ไวแลว หากเพม่ิ เป ดกจิ การใหมจะไมมีสินทรัพย หน้ีสนิ ของสิน้ ปกอน สําหรบั สินทรพั ยและหนีส้ นิ ปปจจุบนั ให รวบรวมขึ้น ตามวธิ กี ารท่ีไดกลาวมาแลว 2. พจิ ารณาสมุดเงินสดรายรับ-จายท่บี ันทกึ ไวระหวางป ในสมุดเงนิ สดรับ-จายจะมีรายการที่บันทกึ ไวแยกรายละเอยี ดตางๆ หากไมมกี ารรวบรวมสรุปไว เป นประเภทกต็ องทาํ การสรปุ รายการรบั -จายเงนิ สดใหเปนประเภทตางๆ ที่ตองการโดยรายการรบั เงนิ สดแยกเปน 1. ขายสนิ คา/บรกิ ารเปนเงินสด 2. การรบั เงนิ สดจากรายไดอ่ืนๆ 3. การเก็บหน้จี าก ลกู หนี้ 4. การรับเงนิ สดจากการขายสินทรพั ยอ่นื นอกเหนอื จากสินคา 5. การรับเงนิ จากการกูยืม 6.

การรับเงิน จากการเพิ่มทุน รายการจายเงินสดแยกเปน 1. ซอื้ สินคาเปนเงนิ สด 2. จายคาใชจายอ่ืนๆ เปนเงนิ สด 3. จายเงนิ สดชําระหนี้ใหเจาหน้ี 4. จายเงนิ สดซอ้ื สินทรัพยอื่นๆ นอกเหนือจากสนิ คา 5. จ ายชาํ ระหนี้เงิน กูยืม 6. การจายคนื เจาของ 3. รวบรวมการเปลยี่ นแปลงของสินทรัพย หนส้ี นิ ทุนในระหวางป จากการหายอดสินทรัพย หนสี้ นิ ของสน้ิ ปกอนเปรยี บเทียบกับยอดสินทรพั ย หนสี้ ินของป ปจจุบันจะ ไดการเปลย่ี นแปลงของสินทรพั ย หน้ีสินทนุ ในระหวางป การเปลย่ี นแปลงของยอดสินทรัพย หน้สี ินในระหวางป เมื่อนาํ มาวเิ คราะหตามหลักการบญั ชคี ู จะ สามารถคํานวณหายอดรายไดและคาใชจายไดตามความสัมพนั ธไดดงั นี้ บัญชีลูกหน้ีการคา ยอดยกมา (ตนป) เงนิ สด/เงนิ ฝากธนาคาร (Dr. เงนิ สด/เงินฝาก Cr. ขายเช่อื (Dr. ลกู หนี้การคา Cr. ขาย) ลกู หน้ี) รบั คืน (Dr. รับคนื Cr. ลูกหนก้ี ารคา) สวนลดจาย (Dr. สวนลดจาย Cr. ลกู หน้ีการคา) คาเผอ่ื หน้ีสงสัยจะสญู (Dr. คาเผื่อหนส้ี งสัยจะสญู Cr. ลูกหน้ีการคา ตัว๋ เงนิ รบั (Dr. ตั๋วเงนิ รบั Cr. ลูกหนี้การคา) ) ยอดยกไป (สนิ้ ป) บัญชเี จาหนกี้ ารคา เงินสด/เงนิ ฝาก (Dr. เจาหนก้ี ารคา Cr. เงินสด/เงิน ยอดยกมา (ตนป) ฝาก) สงคนื (Dr. เจาหน้ีการคา Cr. สงคนื ) ซื้อเชอ่ื (Dr. ซอ้ื Cr. เจาหน้กี ารคา) สวนลดรบั (Dr. เจาหนก้ี ารคา Cr. สวนลดรับ) ตว๋ั เงนิ จาย (Dr. เจาหน้กี ารคา Cr. ต๋วั เงนิ จาย) ยอดยกไป (ส้ินป)

ลกู หนกี้ ารคา (Dr. คาเผอื่ หนส้ี งสยั Cr. ลูกหนี)้ บัญชีคาเผ่อื หนีส้ งสยั จะสูญ ยอดยกไป (สิ้นป) ยอดยกมา (ตนป) หนีส้ งสัยจะสญู (Dr. หน้ีสงสยั จะสญู Cr. คาเผือ่ หนี้ สงสัยจะสญู ) ยอดยกมา ต้นปี บัญชีคาใชจายจายลวงหนา เงนิ สด คา่ ใช้จา่ ย ยอดยกไปส้นิ ปี บัญชคี า่ ใช้จ่ายค้างจ่าย เงนิ สด (Dr. คาใชจายคางจาย Cr. เงินสด) ยอดยกมา (ตนป) ยอดยกไป (สิน้ ป) คาใชจาย (Dr. คาใชจาย Cr. คาใชจายคางจาย) บญั ชรี ายไดรบั ลวงหนา รายได (Dr. รายไดรบั ลวงหนา Cr. รายได) ยอดยกมา (ตนป) ยอดยกไป (สิ้นป) เงินสด (Dr. เงินสด Cr. รายไดรบั ลวงหนา) ยอดยกมา (ตนป) บัญชรี ายไดคางรบั รายได (Dr. รายไดคางรบั Cr. รายได) เงนิ สด (Dr. เงนิ สด Cr. รายไดคางรับ) ยอดยกไป (สิน้ ป)

ตวั อยางการคาํ นวณหารายไดและคาใชจายประเภทตางๆ ยอดขาย ประกอบดวย การขายเปนเงินสดและขายเปนเงนิ เชื่อ ยอดขายจะคํานวณไดจากการ วเิ คราะห รายการรับเงินสดจากคาขายและรายการเปลย่ี นแปลงของสนิ ทรัพยจากงบแสดงฐานะการเงนิ ส้ินปกอนและ สิ้นปปจจุบนั ยอดขาย ขายเปนเงินสด 5,500 ขายเปนเงนิ เช่ือ ลกู หน้ีการคาสิ้นป 1,000 ต๋วั เงนิ รบั สิน้ ป 500 เก็บเงนิ จากลูกหนก้ี ารคา 2,000 เกบ็ เงนิ ตามต๋วั เงินรับ 1,000 รบั คืนสนิ คา 300 สวนลดจาย 700 หน้สี ญู (คาเผอื่ หนสี้ งสัยจะสญู ) 100 5,600 หัก ลกู หนกี้ ารคาตนป 700 ตว๋ั เงินรบั ตนป 1,000 1,700 3,900 ขายท้ังส้นิ 9,400 ตว๋ั เงนิ รบั และลกู หน้กี ารคาทใี่ ชในการคาํ นวณนเ้ี กดิ ขึ้นจากการขายสนิ คาของกจิ การเทาน้นั บญั ชลี ูกหนก้ี ารคา ลูกหนก้ี ารคาตนป (ยอดยกมา) เกบ็ เงินจากลกู หนกี้ ารคา (เงินสด) 700 2,000 ตั๋วเงินรบั (Dr. ต๋วั เงินรับ Cr. ลูกหนี้การคา) ขาย (เช่อื ) 500 รับคนื สนิ คา 3,900 300 สวนลดจาย 700 หน้สี ญู (คาเผอื่ หน้ีสงสยั จะสูญ) 100 ลกู หนี้การคาส้ินป (ยอดยกไป) 1,000 .

บญั ชตี ั๋วเงนิ รับ บญั ชตี ัว๋ เงนิ รบั ตั๋วเงนิ รับตนป (ยอดยกมา) เก็บเงินตามตัว๋ เงินรบั 1,000 ลูกหนก้ี ารคา (Dr. ตว๋ั เงินรบั Cr. ลูกหนี้ 1,000 ต๋ัวเงินรับสนิ้ ป (ยอดยกไป) การคา) 500 500 จากขอมลู ขางตน ยอดขายสด 5,500 ยอดขายเชอื่ 3,900 ยอดขายรวม 9,400 สวนลดจาย 700 รบั คืนสินค้า 300 เปนรายการทใ่ี ชสําหรบั จัดทาํ งบกาํ ไรขาดทุน ยอดซอื้ ไดแกตนทุนสนิ คาท่ีซือ้ เปนเงินสดและเงนิ เชื่อซึ่งคาํ นวณไดจากรายการจายเงินสด ยอดเจาหนกี้ ารคา ตนปและส้นิ ป ยอดต๋วั เงินจายตนปและสนิ้ ป หากในสมุดบันทกึ ประจําวันไดมกี าร บันทกึ การสงคนื สินคาและ สวนลดรับตองนาํ มาคาํ นวณยอดซอ้ื เชอื่ ดวย ยอดซอ้ื ซ้อื เงินสด 1,500 ซื้อเปนเงินเชอ่ื เจาหนกี้ ารคาส้ินป 1,500 ต๋วั เงินจายสิ้นป 500 จายชาํ ระหนเ้ี จาหนก้ี ารคา 3,500 จายชําระหน้ตี ามตัว๋ เงินจาย 1,500 สงคนื สินคา 400 สวนลดรับ 600 8,000 หกั เจาหนก้ี ารคาตนป 1,200 ต๋วั เงินจายตนป 1,800 3,000 5,000 ซอ้ื ทั้งสน้ิ 6,500 ตว๋ั เงนิ จายและเจาหนก้ี ารคาท่ใี ชในการคํานวณน้เี กิดขนึ้ จากการซอื้ สนิ คาของกิจการเทานัน้

บญั ชเี จ้าหนี้การคา้ จายชาํ ระหนี้เจาหนก้ี ารคา เจาหน้ีการคาตนป (ยอดยกมา) 3,500 ตว๋ั เงนิ จาย (Dr. เจาหนกี้ ารคา Cr. ต๋วั เงนิ จ 1,200 ซ้ือเชอื่ าย) 200 สงคืนสนิ คา 5,000 400 สวนลดรบั 600 เจาหน้ีการคาสิน้ ป (ยอดยกไป) 1,500 เก็บเงินตามตัว๋ เงินจาย บญั ชตี ว๋ั เงนิ จ่าย 1,500 ตัว๋ เงินจายสิ้นป 500 ตวั๋ เงินจาย ตนป 1,800 เจาหนี้การคา (Dr. เจาหน้กี ารคา Cr. ตว๋ั เงินจ าย) 200 จากขอมลู ขางตน ซ้ือเปนเงนิ สด 1,500 ซอ้ื เปนเงนิ เช่ือ 5,000 ซ้อื ทั้งสิน้ 6,500 สวนลดรบั 600 สงคนื สินคา้ 400 เปนรายการที่ใชสาํ หรับจัดทาํ งบกําไรขาดทุน คาใชจายอน่ื ๆ คาใชจายอื่นๆ นอกเหนอื จากตนทุนขาย หนส้ี งสยั จะสูญ วัสดใุ ชไป คาเสื่อม ราคา คาใชจายอ่ืนๆ เชน เงนิ เดอื น คาโฆษณา คาเบี้ยประกนั ภยั คารับรอง ฯลฯ จะสามารถคํานวณได จากยอดเงินสดทจ่ี ายใน ระหวางป ปรับปรุงดวยจาํ นวนคางจายหรือจํานวนจายลวงหนาตนปและสนิ้ ป

คาใชจายอ่นื ๆ เงนิ สดจายเปนคาใชจายระหวางป 1,000 บวก คาใชจายท่ไี มรวมอยใู นเงนิ สดจายระหวางป แตคิดเปนคาใชจายในปปจจุบนั 400 1,400 คาใชจายจายลวงหนาตนป 250 300 คาใชจายคางจายสิ้นป 150 1,100 หกั คาใชจายทร่ี วมอยใู นคาใชจายระหวางปแต ไมคิดเปนคาใชจายปปจจุบัน คาใชจายจายลวงหนาสิน้ ป 200 คาใชจายคางจายตนป 100 คาใชจายสาํ หรบั ป คาใชจายจายลวงหนาตนปและคาใชจายคางจายสิน้ ปจะเปนคาใชจายของปปจจุบนั จึงถือเปน รายการบวกกบั คาใชจายท่จี ายเปนเงินสดระหวางป คาใชจายจายลวงหนาสิน้ ปและคาใชจายคางจายตนปไมใชคาใชจายของปจงึ ถอื เปนรายการหัก จาก คาใชจายทีจ่ ายเปนเงินสดระหวางป คาใชจายของป = คาใชจายระหวางป + คาใชจายจายลวงหนาตนป - คาใชจายจายลวงหนาส้ินป – คาใชจายคางจายตนป + คาใชจายคางจายส้นิ ป ในการคาํ นวณคาใชจายนี้ไมจําเปนตองมรี ายการบวกและหักทั้งสี่รายการทกุ คร้ังและถาไมมี รายการปรับปรงุ เลยคาใชจายของปคือ คาใชจายจากเงนิ สดที่จายเปนคาใชจายระหวางป จากตัวอยางสามารถแทนคาไดดังนี้ คาใชจายของป = 1,000 + 250 – 200 – 100 + 150 = 1,100 บาท คาใชจายจายลวงหนา บัญชคี าใชจายจายลวงหนา ยอดยกมา (ตนป) คาใชจาย (Dr. คาใชจาย Cr. คาใชจายจายลวงหนา) 250 50 ยอดยกไป (สน้ิ ป) 200

ยอดยกไป (ส้ินป) บัญชีคาใชจายค้างจ่าย 150 ยอดยกมา (ตนป) 100 คาใชจาย (Dr. คาใชจาย Cr. คาใชจายคางจาย) 50 บญั ชีคาใชจายคา้ งจ่าย เงินสด (จายระหวางป) 1,000 คาใชจายจายลวงหนา Dr. คาใชจาย Cr. คาใชจายจายลวงหนา) 50 คาใชจายคางจาย 1,100 รายไดอืน่ ๆ รายไดอ่นื ๆ นอกเหนอื จากยอดขาย เชน คาเชารับ ดอกเบ้ียรบั ฯลฯ จะสามารถ คํานวณ ไดจากยอดเงินสดทร่ี ับในระหวางปปรับปรุงดวยจาํ นวนคางรบั หรอื จาํ นวนรบั ลวงหนาตนปและ สน้ิ ป รายไดอ่ืนๆ เงินสดรับเปนรายไดระหวางป 800 บวก รายไดทีไ่ มรวมอยใู นเงนิ สดรบั ระหวางป แตคิดเปนรายไดในปปจจุบนั รายไดรับลวงหนาตนป 100 รายไดคางรับสิน้ ป 50 150 950 หกั รายไดที่รวมอยใู นรายไดระหวางป แตไมคิดเปนรายไดปปจจบุ ัน รายไดรับลวงหนาส้ินป 200 รายไดคางรบั ตนป 150 350 รายไดสําหรับป 600 รายไดรบั ลวงหนาตนปและรายไดคางรบั สน้ิ ปเปนรายไดของปปจจบุ ันจงึ ถอื เปนรายการบวกกับรายได ทร่ี บั เปนเงนิ สดระหวางป รายไดรับลวงหนาสิ้นปและรายไดคางรบั ตนปไมใชรายไดของปจึงถือเปนรายการหกั จากรายได ที่ รบั เปนเงนิ สดระหวางป

รายไดของป = รายไดระหวางป + รายไดรบั ลวงหนาตนป - รายไดรบั ลวงหนาสนิ้ ป – รายไดคางรับตนป + รายไดคางรบั สนิ้ ป ในการคํานวณรายไดนไ้ี มจําเปนตองมีรายการบวกและหกั ทงั้ สีร่ ายการทกุ ครง้ั และถาไมมี รายการ ปรับปรงุ เลยรายไดของปคือ รายไดจากเงนิ สดทร่ี ับเปนรายไดระหวางป จากตวั อยางสามารถแทนคาไดดังน้ี รายไดของป = 800 + 100 – 200 – 150 + 50 = 600 บาท บญั ชรี ายไดรบั ลวงหนา ยอดยกไป (ส้ินป) ยอดยกมา (ตนป) 200 100 รายได (Dr. รายได Cr. รายไดรบั ลวงหนา) 100 ยอดยกมา (ตนป) บัญชีรายไดคา้ งรับ 150 รายได (Dr. รายได Cr. รายไดคางรบั ) รายไดรับลวงหนา 100 ยอดยกไป (สนิ้ ป) 100 50 รายไดคางรบั 100 บญั ชรี ายได้ เงนิ สด (รบั ระหวางป) 800

วัสดใุ ชไป คํานวณไดจากวัสดคุ งเหลอื ตนป การจายเงนิ สดซ้ือระหวางปและวสั ดคุ งเหลอื ส้ินป วสั ดุใชไป วัสดคุ งเหลอื ตนป 300 บวก จายเงินสดซือ้ วัสดุระหวางป 1,000 1,300 หกั วัสดคุ งเหลือสิน้ ป 800 วสั ดุใชไป 500 วัสดุใชไประหวางป = วสั ดคุ งเหลือตนป + ซอ้ื วัสดุระหวางป - วัสดุคงเหลอื ส้นิ ป จากตวั อยางสามารถแทนคาไดดังน้ี วสั ดุใชไประหวางป = 300 + 1,000 – 800 = 500 บาท บัญชวี ัสดุ ยอดยกมา (ตนป) วสั ดุใชไป 300 เงินสด (ซอ้ื ระหวางป) 500 ยอดยกไป (ส้ินป) 1,000 800 หน้สี งสยั จะสญู คาํ นวณไดจากคาเผือ่ หน้ีสงสัยจะสูญตนป จาํ นวนท่ีตัดบัญชลี ูกหน้ีเปนหน้ีสูญ ระหวางปและ คาเผ่อื หนี้สงสัยจะสญู สิ้นป คาเผ่ือหน้ีสงสยั จะสูญสนิ้ ป 1,000 บวก ตดั หนสี้ ูญระหวางป 500 1,500 หกั คาเผ่อื หน้ีสงสัยจะสญู ตนป 700 หนสี้ งสยั จะสญู 800 หนส้ี งสยั จะสญู = คาเผ่อื หนสี้ งสยั จะสญู ส้นิ ป+ตดั หน้ีสูญระหวางป-คาเผ่ือหน้ีสงสัยจะสญู ตนป จากตวั อยางสามารถแทนคาไดดังน้ี หนสี้ งสัยจะสญู = 1,000 + 500 – 700 = 800 บาท

บัญชคี า่ เผื่อหนสี้ งสยั จะสญู ตัดหน้ีสูญ (Dr. คาเผอื่ หน้ีสงสัยจะสญู Cr. ลูกหน้)ี ยอดยกมา (ตนป) 500 ยอดยกไป (สิ้นป) 700 หนส้ี งสยั จะสูญ 1,000 800 คาเสอ่ื มราคา คาเส่อื มราคาจะถูกคิดแยกเปนกรณตี าง ๆ ดังตอไปน้ี 1. สนิ ทรัพยไมหมุนเวียนท่ีใชตลอดทั้งป คดิ คาเสอื่ มราคาเต็มป การคดิ คาเสือ่ มราคาจะตองคดิ จาก ราคาตนทุนจากสนิ ทรพั ยนั้น เชน อาคาร 1,000,000 บาท ซื้อมาเม่อื วนั ท่ี 1 มกราคม 25x1 อายกุ ารใชงาน 20 ป มูลคา คงเหลอื 40,000 บาท คิดคาเสือ่ มราคาโดยวิธีเสนตรง คาเสอ่ื มราคาประจําป 25x5 จะเทากับ 48,000 บาท คาเสอื่ มราคาสะสม ณ 31 ธนั วาคม 25x5 มจี าํ นวน 240,000 บาท 2. ซอื้ สินทรัพยไมหมุนเวยี นในระหวางป ทราบไดจากรายการเงินสดจายระหวางป คาเส่อื ม ราคาใน ปท่ีซ้ือจะเทากบั ระยะเวลาตั้งแตวนั ซือ้ จนถงึ วนั ส้นิ รอบระยะเวลาบัญชี เชน เม่ือวนั ท่ี 1 สงิ หาคม 25x1 ซอ้ื อุปกรณสํานักงานจํานวน 48,000 บาท อายุการใชงาน 5 ป คิดคาเสอ่ื มาราคาโดยวิธีเสนตรง คาเสอื่ มราคา ของอุปกรณสาํ นกั งานประจาํ ป 25x1 เทากบั 48,000หาร 5 × 5 หาร 12 เทากับ 4,000 บาท 3. จําหนายสนิ ทรพั ยไมหมนุ เวียนในระหวางป ทราบไดจากรายการรับเงินในระหวางป ให คํานวณ กาํ ไร (ขาดทนุ ) จากการจําหนายสินทรัพยและนํารายการกาํ ไร (ขาดทนุ ) จากการจําหนาย สินทรัพยทไ่ี ดไป แสดงในงบกําไรขาดทนุ ดวย เชน อปุ กรณสาํ นกั งานซ้ือมาเม่ือวนั ท่ี 1 มกราคม 25x1 ในราคา 30,000 บาท อายกุ ารใชงาน 5 ป คดิ คาเสื่อมราคาโดยวธิ ีเสนตรง เมอื่ วันที่ 1 มนี าคม 25x5 ขายอุปกรณสาํ นักงานช้นิ น้ไี ป ในราคา 6,000 บาท คาเส่อื มราคา สาํ หรับป 25x5 = 30,000 x 2 = 1,000 บาท 5 12 กําไร (ขาดทนุ ) จากการขายสนิ ทรพั ย อุปกรณสํานักงาน 30,000 คาเสอ่ื มราคา 1 ม.ค. 25x1 – 31 ธ.ค. 25x4 24,000 คาเสือ่ มราคาป 25x5 2 เดือน 1,000 25,000 5,000 ราคาจําหนายได 6,000 กําไรจากการขายสินทรัพย (แสดงในงบกําไรขาดทุน) 1,000

ตวั อยางการจดั ทํางบกําไรขาดทนุ และงบแสดงฐานะการเงนิ จากระบบบญั ชเี ด่ียวโดยใชหลักการ บญั ชีคู รานมะลิการคาไมไดใชระบบบัญชคี ูในการบนั ทึกรายการ ตองการจดั ทํางบกําไรขาดทุน และงบ แสดง ฐานะการเงนิ จากหลักฐานและสมดุ บัญชีตามระบบบญั ชีเด่ยี วในป 25x2 ตอไปน้เี ปนขอมูลท่ีรวบรวมไดจากสมุดบัญชแี ละหลกั ฐานตางๆ ในป 25x2 1. ไดรบั สวนลดจํานวน 600 บาท จากการจายชาํ ระหน้เี จาหนก้ี ารคาที่ซื้อเปนเงินเชือ่ ในระหวาง ป 25x2 2. รานมะลกิ ารคามสี ินทรัพยและหนสี้ นิ ดงั น้ี 1 ม.ค. 25x2 31 ธ.ค. 25x2 สนิ ทรัพย เงนิ สด 4,000 8,500 ดอกเบีย้ คางรับ 60 80 ลกู หนก้ี ารคา สนิ คาคงเหลือ 6,000 5,000 วสั ดุสาํ นกั งาน 14,000 15,000 ดอกเบย้ี จายลวงหนา อปุ กรณสํานักงานสุทธิ 400 150 หน้สี นิ - 30 3,600 5,650 เงินเดือนคางจาย 100 50 ต๋วั เงนิ จาย - 4,000 เจาหนีก้ ารคา 5,000 6,500 คาเชารับลวงหนา 100 150 สรปุ การรับ-จายเงนิ สดในระหวางป 25x2 มีดงั น้ี 4,000 เงนิ สดคงเหลือตนป 9,200 รายรบั 48,000 ขายสนิ คาเปนเงินสด 1,550 เก็บเงนิ จากลกู หน้กี ารคา รับคาเชา 50 ดอกเบย้ี รบั

ขายอปุ กรณสํานกั งาน 350 69,000 ขายลดต๋วั เงินใหธนาคาร 9,850 73,000 รายจาย 40,000 64,500 จายเงินใหเจาหนี้การคา 4,200 8,500 จายเงนิ เดอื น 4,400 จายคาโฆษณา 200 ซ้ือวสั ดสุ าํ นักงาน 3,500 ซื้ออุปกรณสาํ นักงาน 1,200 จายคาใชจายเบ็ดเตล็ด 6,000 จายชําระหนี้ตั๋วเงนิ จาย 5,000 เบกิ ใชสวนตวั เงนิ สดคงเหลือสนิ้ ป 3. อปุ กรณสํานกั งานไดขายไปเมอื่ วันท่ี 1 ม.ค. 25x2 ในราคา 350 บาท อุปกรณสาํ นกั งานชน้ิ น้ี มี ราคาทนุ 1,600 บาท และไดคิดคาเสอื่ มราคาไปแลวครึ่งหน่ึงจากราคาทนุ 4. ต๋วั เงินที่นาํ ไปขายลดใหกับธนาคารในระหวางปและไดรับเงนิ สดมาจาํ นวน 9,850 บาท ราคา หน าตวั๋ คอื 10,000 บาท ธนาคารไดหกั ดอกเบย้ี ไว 150 บาท 5. ตัว๋ เงนิ จายท่ีปรากฏ ณ วนั ที่ 31 ธ.ค. 25x2 เปนตัว๋ เงนิ จายท่ไี มไดเกดิ ขน้ึ จากการซือ้ สินคา จาก โจทย สามารถจัดทํางบกาํ ไร (ขาดทนุ ) และงบแสดงฐานะการเงินไดดงั นี้

รานมะลิการคา งบกาํ ไรขาดทนุ สาํ หรบั ป สน้ิ สดุ 31 ธนั วาคม 25x2 ขาย (1) 56,200 หัก ตนทนุ ขาย 40,500 15,700 สนิ คาคงเหลือ (1 ม.ค.) 14,000 10,850 ซือ้ (2) 42,100 41,500 4,850 55,500 1,570 หัก สวนลดรับ (3) 600 15,000 570 5,850 ตนทุนสนิ คามีไวขาย 4,150 4,400 หกั สินคาคงเหลอื (31 ธ.ค.) 450 650 ตนทนุ ขาย 1,200 กําไรขั้นตน 70 1,500 คาใชจายในการดาํ เนนิ งาน 120 เงนิ เดอื น (4) 450 คาโฆษณา (5) วสั ดุสํานักงานใชไป (6) คาเส่ือมราคาอปุ กรณสาํ นักงาน (7) คาใชจายเบด็ เตลด็ (8) รวมคาใชจายในการดําเนนิ งาน กาํ ไรจากการดาํ เนินงาน รายไดอ่นื ๆ ดอกเบีย้ รบั (9) คาเชารับ (10) คาใชจายอนื่ ๆ ดอกเบี้ยจาย (11) ขาดทุนจากการขายสนิ ทรัพย (12) กาํ ไรสุทธิ

รายละเอียดแสดงการคํานวณรายไดและคาใชจายตางๆ (1) ขาย ขายเงินสด 5,000 9,200 ขายเชอื่ 48,000 53,000 47,000 ลูกหน้กี ารคา 31 ธ.ค. 6,000 56,200 เก็บเงินจากลกู หนก้ี ารคา 6,500 (2) ซ้ือ หัก ลกู หนกี้ ารคา 1 ม.ค. 40,000 ขายรวม 600 ซอ้ื เชื่อ 47,100 เจาหนก้ี ารคา 31 ธ.ค. 5,000 จายชาํ ระหนี้ 42,100 สวนลดรับ 4,200 หัก เจาหน้กี ารคา 1 ม.ค. 50 ซ้ือ (3) สวนลดรบั สวนลดรบั จากโจทยกําหนดจํานวน 600 บาท 4,250 (4) เงนิ เดอื น 100 จายเงินเดือนระหวางป 4,150 บวก เงนิ เดือนคางจาย 31 ธ.ค. (5) คาโฆษณา หัก เงนิ เดอื นคางจาย 1 ม.ค. เงนิ เดือน จายคาโฆษณาตามโจทยกําหนด 4,400 บาท

(6) วัสดสุ ํานักงานใชไป 200 ซอ้ื วัสดสุ ํานักงานระหวางป 400 บวก วัสดสุ ํานกั งานคงเหลือ 1 ม.ค. 600 150 หกั วสั ดุสํานักงานคงเหลือ 31 ธ.ค. 450 วสั ดุสาํ นกั งานใชไป 3,600 (7) คาเส่ือมราคา 2,700 อุปกรณสาํ นักงานสุทธิคงเหลอื 1 ม.ค. 6,300 5,650 บวก ซื้ออปุ กรณสาํ นักงานสทุ ธิที่เพมิ่ ใชระหวางป 25x1 650 ซอ้ื อุปกรณสาํ นกั งาน 3,500 50 80 หกั อปุ กรณสํานักงานสุทธิที่จาํ หนาย 130 60 ระหวางป (ราคาตามบัญช)ี 800 70 หัก อุปกรณสํานกั งานสุทธิคงเหลือ 31 ธ.ค. คาเสื่อมราคา-อปุ กรณสํานักงาน (8) คาใชจายเบ็ดเตลด็ คาใชจายเบ็ดเตล็ดตามโจทยกาํ หนด 1,200 บาท (9) ดอกเบี้ยรบั ดอกเบยี้ รับระหวางป บวก ดอกเบยี้ คางรับ 31 ธ.ค. หกั ดอกเบ้ยี คางรบั 1 ม.ค. ดอกเบย้ี รบั

(10) คาเชารบั 1,550 คาเชารบั ระหวางป 100 บวก คาเชารับลวงหนา 1 ม.ค. 1,650 150 หกั คาเชารบั ลวงหนา 31 ธ.ค. 1,500 คาเชารับ 150 30 (11) ดอกเบ้ียจาย 120 ดอกเบ้ยี จายจากตัว๋ เงินขายลด 800 350 ราคาตราไวของตวั๋ เงนิ 10,000 450 ไดรับเงินจากการขายลด 9,850 ดอกเบย้ี จายสําหรับป หกั ดอกเบ้ยี จายลวงหนา 31 ธ.ค. ดอกเบ้ียจาย (12) ขาดทุนจากการขายสินทรพั ย มลู คาตามบัญชขี องอปุ กรณสํานกั งานทข่ี าย ไดรับเงินจากการขาย ขาดทนุ จากการขายสินทรพั ย

รานมะลิการคา งบแสดงฐานะการเงิน 31 ธันวาคม 25x2 สนิ ทรัพย สินทรพั ยหมุนเวียน หนี้สนิ และทนุ 8,500 28,760 เงินสด 5,000 5,650 ลูกหน้ีการคา 15,000 34,410 สินคาคงเหลือ ดอกเบ้ียคางรับ 80 10,700 วัสดุสํานกั งาน 150 23,710 ดอกเบีย้ จายลวงหนา 130 34,410 สินทรพั ยไมหมุนเวยี น 6,500 อุปกรณสาํ นักงานสทุ ธิ 4,000 รวมสินทรพั ย 50 หน้สี นิ หมุนเวยี น 150 เจาหน้ีการคา ต๋วั เงนิ จาย เงนิ เดอื นคางจาย คาเชารบั ลวงหนา รวมหน้สี ิน ทุน ทุน-มะลิ รวมหน้ีสินและทุน

การคํานวณการเปล่ียนแปลงในสวนทนุ 23,710 ทนุ -มะลิ 31 ธ.ค. 25x2 22,860 ทุน-มะลิ 1 ม.ค. 25x2 * ทนุ เพม่ิ ขึ้นสทุ ธิ 850 บวก เบกิ ใชสวนตัว 5,000 กําไรสุทธิ 5,850 * ทุนมะลิ 1 ม.ค. 25x2 คํานวณไดจาก 28,060 สินทรพั ย 1 ม.ค. 5,200 หัก หนส้ี ิน 1 ม.ค. 22,860 ทนุ มะลิ 1 ม.ค. การเปลี่ยนจากระบบบญั ชีเดีย่ วมาเปนระบบบัญชคี ู เมื่อใดกต็ ามรายการท่บี นั ทึกมจี าํ นวนมากขึ้นตามการเติบโตของกจิ การ อาจจะมีความจาํ เปนที่ ตอง เปลยี่ นวธิ กี ารบนั ทกึ รายการจากระบบบญั ชเี ด่ยี วมาเปนระบบบัญชีคู เมอ่ื ตองการทจ่ี ะเปลย่ี นมาเปน ระบบ บญั ชคี ูใหเรมิ่ ตัง้ แตการจัดทํางบแสดงฐานะการเงนิ ในวนั ท่ีมกี ารเปลี่ยนแปลง จากน้ันใหจดั ทําผงั บญั ชที ่จี าํ เป นตองใชทัง้ หมดและเปดบญั ชแี ยกประเภทบันทกึ รายการสินทรัพยหนีส้ ิน เมือ่ เริ่มตนระบบ บัญชีคูในสมดุ รายงานทั่วไปแลวผานรายการไปยงั บญั ชีแยกประเภท หลงั จากน้ันใหบนั ทกึ รายการคาที่ เกิดขึน้ ตามหลักการ บัญชีคูตอไป การใชระบบบญั ชเี ด่ยี วในการบันทึกบญั ชี ระบบบญั ชเี ด่ยี วทีก่ ลาวถึงในบทนีเ้ ปนระบบทนี่ กั บัญชีจะถกู เรยี กมาเพื่อจดั ทํางบการเงินประจํา งวด บญั ชี หรอื เพอ่ื ตรวจสอบรายการทีบ่ นั ทึกไวในสมุดบันทึกและตรวจสอบเอกสารตางๆ และเพ่ือทจ่ี ะ เตรยี มงบ การเงนิ สําหรบั ใชในการเสยี ภาษี ระบบบญั ชีเด่ียวยังคงใชอยูในกิจการขนาดเล็ก กิจการท่ีไม หวงั ผลกําไร เนอื่ งจากบันทึกไดงายและประหยัดคาใชจายโดยมอบหมายใหผทู ่ีไววางใจไดทาํ การบันทกึ รายการ อยางไร กต็ ามในระบบบัญชีเดยี่ วจะมีขอบกพรองซ่ึงผูใชระบบตองคาํ นึงถึงดังน้ี 1. บันทกึ รายการไมครบถวน 2. ในการจัดทาํ ยอดสนิ ทรัพยและหนส้ี ินอาจจะมีการหลงลมื ในบางรายการซ่งึ ตองใชขอมูลทจ่ี ะ จัดทาํ จากหลายแหลง และบางรายการอาจจะไมมีการบันทึก ทาํ ใหยอดสนิ ทรัพยและหนสี้ ินท่ไี ดไมตรง กับความ เปนจรงิ 3. ไมมบี ัญชีแยกประเภทอยางชดั เจน การบันทึกรายการสนิ ทรัพยไมครบอาจสงผลไปถงึ การ คํานวณคาเสื่อมราคาท่ผี ดิ พลาดได


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook