Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมเล่มแผนการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

รวมเล่มแผนการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

Published by ลําเพียร ทาสีภู, 2022-05-26 06:28:59

Description: รวมเล่มแผนการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ม.ปลาย
จัดทำโดย นางสาวลำเพียร ทาสีภู ครูกศน.ตำบล

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ที่ 6 เร่ือง ลักษณะการพดู ที่ดี และมารยาทในการพดู วชิ า ภาษาไทย ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย เรอื่ ง ลกั ษณะการพดู ทดี่ ี และมารยาในการพูด วาทศาสตร์ หรือวาทวิทยา เป็นศาสตร์แห่งการพูด แบ่งเป็นภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เมื่อฝึกฝนจะช่วยสร้าง ความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดี ทั้งนี้ผู้พูดที่ดีควรมีความรู้ในเรื่องต่อไปนี้ โดยทั่วไปแล้ว การพูดจะมีจุดมุ่งหมาย ที่สำคญั ๆ อยู่ 3 ประการ 1. ประเภทของการพูด 1. แบง่ ตามวตั ถุประสงคข์ องผูพ้ ดู มี 3 แบบ คอื 1.1 การพดู เพื่อให้ความรู้ มเี ป้าหมายเพื่อบอกเลา่ หรือชแ้ี จงความรแู้ ละขอ้ เทจ็ จริง แกผ่ ู้ฟัง เช่น การบรรยาย การรายงาน ปาฐกถา แถลงการณ์ เปน็ ตน้ 1.2 การพดู เพ่ือจูงใจหรือโนม้ น้าวใจ มีเปา้ หมายเพ่ือชกั จูงผู้ฟงั ใหค้ ล้อยตาม เชน่ การโฆษณา การปราศรยั หาเสยี ง เป็นตน้ 1.3 การพูดเพ่ือจรรโลงใจ มเี ปา้ หมายเพ่ือสรา้ งคุณคา่ เรื่องทพ่ี ดู ยกระดับจิตใจและ มอบความบนั เทิงกับผู้ฟัง เช่น การเทศนา การกล่าวสดดุ ีวีรชน การเลา่ นิทาน เป็นตน้ 2. แบ่งตามวธิ ีการพูด มี 4 แบบ คอื 2.1 การพูดแบบอ่านจากตน้ ฉบบั คือ พดู โดยอา่ นตน้ ร่างทั้งหมด ใชก้ ับการพดู เป็น ทางการ เชน่ การกล่าวตามรายงาน การแถลงนโยบาย เปน็ ตน้ ต้องอาศยั การฝกึ ซ้อมเพื่อการออกเสียง แบง่ วรรคตอน จังหวะ อารมณ์ และพยายามสบตาผู้ฟัง 2.2 การพูดแบบท่องจำ คือ การพดู โดยอาศยั การท่องจำต้นรา่ งทีเ่ ขยี นไว้ มีข้อเสีย คือขาดความเปน็ ธรรมชาตเิ พราะมักพะวงเน้อื หา 2.3 การพดู แบบการเตรยี มตัวลว่ งหนา้ เป็นวธิ พี ูดท่ไี ดร้ บั ความนิยมมากท่ีสุด เพราะ ผา่ นการฝกึ ซ้อมอย่างดี จึงสร้างความประทับใจได้มาก ทั้งยงั มีความยดื หยุ่นปรับเนื้อหาไดต้ ามสถานการณ์ ใชเ้ ทคนคิ จดหัวข้อสนั้ ๆ เพื่อลำดบั เรอ่ื งพูด 2.4 การพูดแบบไม่มีการเตรียมตัวลว่ งหนา้ คอื การพูดฉับพลนั ตอ้ งใช้ไหวพรบิ และ ประสบการณ์ของผพู้ ดู หากมีผู้พูดหลายคนให้พิจารณาประเดน็ ที่ขาดหายเพื่อพูดเสริม โอกาสสำหรบั การพูด ประเภทนี้ เชน่ การได้รบั เชญิ เพ่อื กลา่ วอวยพร กล่าวแสดงความคดิ เห็น ฯลฯ 2. โอกาสทใ่ี ช้ในการพูด โอกาสทใ่ี ชใ้ นการพดู คือ ช่วงเวลาทเ่ี หมาะสำหรับการพดู และบุคคลตามมารยาท โดยโอกาส ที่ใช้ในการพูดแบ่งออกเปน็ 3 ลักษณะ ดงั น้ี 1. การพดู กนั เฉพาะในกลุ่ม เป็นโอกาสที่ทุกคนในกลมุ่ เปน็ ท้ังผู้พูดและผู้ฟัง เช่น การพดู สนทนา การประชมุ กลุ่ม การอภปิ ราย เปน็ ตน้ 2. การพดู โดยมผี ู้ฟังต่างหาก เป็นโอกาสท่ีพูดโดยมีกลุ่มผู้ฟังเฉพาะ สถานท่ีแยกพ้นื ทขี่ องผ้พู ดู และผู้ฟังอยา่ งชดั เจน เชน่ การปาฐกถา การโต้วาที การอภิปราย เปน็ ต้น 3. การพูดเพ่ือดำเนินกิจกรรมอย่างใดอย่างหน่ึง เป็นโอกาสพูดท่ีมวี ตั ถุประสงคเ์ ฉพาะ เช่น การเปน็ พธิ ีกร โดยมสี ่วนชว่ ยใหก้ จิ กรรมน้นั ๆ ดำเนินไปอย่างราบร่ืน แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 40

การพูดรายงานการศึกษาคน้ คว้า การพูดรายงานการศึกษาค้นควา้ คอื การรายงานความรจู้ ากการคน้ ควา้ โดยวางแผนการพูดเป็น ระบบ อาจมีอปุ กรณ์เสรมิ เพ่มิ ความชัดเจน เช่น รปู ภาพ แผนภมู ิ ฯลฯ หรอื มีกิจกรรม เชน่ เลน่ เกม ฟังเพลง ซักถาม เพื่อเพ่ิมความน่าสนใจ หลกั การพดู รายงานการศึกษาคน้ ควา้ มดี ังนี้ 1. นำเสนอเร่ืองทมี่ ีประโยชน์ น่าสนใจ และค้นควา้ ข้อมูลได้ไม่ยาก 2. กำหนดจดุ มงุ่ หมายและขอบเขตเน้อื หาให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ฟงั และเวลาท่ีกำหนด 3. ลำดับข้อมลู ใหเ้ ป็นระเบียบและสมั พนั ธ์กัน ควรมีแหล่งอ้างอิงเพ่ือความนา่ เชอ่ื ถือ และควรทำความเขา้ ใจเนือ้ หาให้ถ่องแท้เพ่อื ประโยชนใ์ นการอธิบายและตอบข้อซักถาม 4. จดั เตรยี มอปุ กรณ์ประกอบการพูดล่วงหนา้ โดยเฉพาะเครือ่ งมือโสตทศั นูปกรณ์ ควร ทดลองใช้ก่อนเร่มิ การพูด เพื่อป้องกันไมใ่ ห้เกิดข้อผดิ พลาด 5. พดู อธบิ ายให้ชัดเจน เล่ียงการใช้ศพั ท์เทคนคิ แต่หากจำเปน็ ก็ควรอธบิ ายอยา่ งชัดเจน 6. จดโครงเร่อื งไว้ประกอบการพดู เพื่อไม่ให้สบั สนในขณะพูด การพดู ในโอกาสต่าง ๆ 1. การกล่าวตอ้ นรบั การกล่าวต้อนรบั คอื การพดู เมือ่ มผี มู้ าใหม่ มหี ลักการกล่าวดังนี้ 1. กล่าวแสดงความดีใจและความรู้สกึ เปน็ เกยี รติต่อโอกาส 2. กล่าวถึงความสำคญั ของการเยี่ยมชม หรือความสำคญั ของผ้มู าใหม่ 3. กลา่ วแสดงความยินดตี อ้ นรับและอำนวยความสะดวก 2. การกล่าวอำลา การอำลา ใช้ในโอกาสพน้ วาระหนา้ ที่ หรอื โยกย้ายสถานที่ของบุคคล มหี ลกั การกลา่ วดงั นี้ 1. กล่าวถึงความสมั พนั ธ์อนั ดีระหวา่ งกันที่ผ่านมา 2. ขอบคุณผู้ร่วมงาน 3. กลา่ วถึงความจำเปน็ ท่ตี ้องจากไปหรือภาระหน้าท่ีทตี่ อ้ งไปทำ 4. แสดงความหวังวา่ คงจะได้รว่ มมือกันจรรโลงสถาบันให้เจริญรงุ่ เรืองต่อไป 5. กล่าวขอบคณุ กรณีที่ได้รบั มอบของทีร่ ะลกึ 3. การกลา่ วสดุดี การกล่าวสดุดี คือ การพูดยกย่องในโอกาสสำคัญ เชน่ ครบรอบวันเกดิ หรอื วันสนิ้ ชีวติ การเปิด อนุสาวรีย์หรอื อนสุ รณ์สถานบุคคลสำคัญ มีหลักการกลา่ วดงั นี้ 1. กล่าวถึงโอกาสทก่ี ล่าวสดดุ ี 2. กลา่ วถึงความดีของบคุ คลสำคัญ 3. กล่าวเตือนใจให้ทกุ คนประพฤตติ นเจรญิ รอยตามบุคคลสำคัญ 4. การพูดไวอ้ าลัย การพดู ไว้อาลัย คือ การพูดแสดงความระลึกถึงบุคคลหรือสงิ่ ของท่ีเสียไป มหี ลักการพูดดงั น้ี 1. กลา่ วถึงประวตั ิความเป็นมาของบุคคลหรอื ส่ิงของนน้ั ๆ 2. กลา่ วถึงสาเหตขุ องการเสียชวี ติ หรอื การเส่ือมสูญหาย 3. กล่าวถึงความสำคญั ของบุคคลหรอื ส่ิงน้ัน ๆ 4. แสดงความผูกพันและระลึกถึง 5. แสดงความหวงั วา่ ผเู้ สียชวี ติ จะไปสสู่ คุ ติ หรือส่ิงทส่ี ูญสลายให้ขอ้ เตอื นใจอย่างไร 6. กลา่ วเชญิ ชวนให้ท่ปี ระชมุ ยนื ไว้อาลยั แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 41

5. การพูดใหโ้ อวาท โอวาท คอื คำแนะนำหรอื ตักเตือนที่ผใู้ หญ่มอบใหผ้ นู้ อ้ ยในโอกาสต่าง ๆ เชน่ วนั เปิดภาค การศึกษา วนั สำเร็จการศึกษา มหี ลักการพูดดงั น้ี 1. กลา่ วถงึ ความสำคญั ของโอกาสทีใ่ หโ้ อวาท 2. เลอื กประเด็นสำคัญให้เหมาะสมแก่โอกาสและผฟู้ ัง 3. ชแี้ นวทางทจี่ ะนำโอวาทไปใช้ประโยชน์ไดจ้ รงิ 6. การพูดแสดงความเหน็ ใจหรอื เสียใจ ความเหน็ ใจ คือ ความร้สู ึกร่วมในใจ สว่ นความเสยี ใจ คือ ความไมส่ บายใจจากสง่ิ ที่ไม่ ต้องการ การพูดประเภทนี้จงึ นำไปใช้คราวท่ีคนรู้จกั ใกล้ชิดพบภาวะไม่พงึ ประสงค์ โดยมีหลักการพูดดังนี้ 1. เทา้ ความถึงการทราบเร่ืองท่เี กดิ ข้นึ 2. แสดงความเหน็ ใจหรือเสยี ใจและร้สู ึกรว่ มในสภาพการณ์ด้วย 3. ใหก้ ำลังใจว่าสภาพการณ์คงไม่รุนแรงและคืนสปู่ กตโิ ดยเรว็ 4. กลา่ วถงึ ความช่วยเหลือเก้ือกูลท่จี ะใหต้ ่อไป 7. การพดู โนม้ น้าวใจ การพูดโนม้ น้าวใจ คือ การพดู ชกั จูงใหผ้ ้ฟู งั รู้สกึ รว่ มหรือปฏิบตั ิตามคำของผู้พดู เช่น การโฆษณา การพูดหาเสยี ง เป็นตน้ การพดู แนวนี้ผพู้ ดู ต้องแสดงความจริงใจทกุ แง่มุม จงึ จะเกดิ พลังในคำพูด จุดมุ่งหมายของการพูดโน้มน้าวใจ แบง่ เปน็ ๓ ลักษณะ คือ 1. ให้ผฟู้ งั เชือ่ ถือหรือปฏบิ ตั ิตาม 2. ใหผ้ ฟู้ งั เลิกปฏิบัตใิ นสง่ิ ใดสิ่งหนึง่ 3. ให้ผ้ฟู ังปฏิบตั ิสง่ิ นนั้ ต่อไปเพราะเปน็ สง่ิ ทีด่ ีอยูแ่ ล้ว การพดู โนม้ น้าวใจสำเร็จหรือไมข่ นึ้ อยู่กับเทคนิควิธีของผู้พูด หลกั การพูดโน้มน้าวใจดังต่อไปน้ี 1. กำหนดจุดมุ่งหมายทตี่ ้องการจากผูฟ้ ัง เพอื่ เตรยี มเนอ้ื หาและวธิ ีการท่ีเหมาะสม 2. เรยี งลำดบั เนอื้ หาทจ่ี ะพดู ไดแ้ ก่ บทนำทีด่ ึงดดู ใจ เนื้อเร่ืองทแี่ สดงให้เหน็ ถึงความจำเป็น นำไปใชไ้ ดจ้ ริงและเชิญชวนให้ทำตาม บทสรุปท่ีเนน้ ใหผ้ ้ฟู ังประทับใจและเชื่อถือ เปลยี่ นแนวคิดและหันมาทำ ตาม 3. เรมิ่ จากการสรา้ งปฏิสมั พันธก์ ับผ้ฟู งั แลว้ จงึ เชิญชวนดว้ ยความจรงิ จังสนับสนุนดว้ ยเหตผุ ล ชี้ขอ้ ดแี ละโทษโดยอ้างองิ ขอ้ มูลที่นา่ เช่อื ถือสนับสนุน ซงึ่ ตอ้ งใชล้ ีลาการพูดทีส่ ุภาพเหมาะสม 8. การพดู ในฐานะพธิ ีกร คือ ผู้ทำหน้าทด่ี ำเนนิ รายการให้ราบร่ืนตามเป้าหมาย พธิ กี รที่ดคี วรทำตาม หลักการ ดงั นี้ 1. ศกึ ษาข้อมลู ของงาน เชน่ ลักษณะและวัตถุประสงค์ของงาน ผมู้ ารว่ มงาน เปน็ ต้น 2. ลำดับข้อมลู โดยบนั ทึกเปน็ โครงรา่ งเพื่อกันสับสน หรือหากมีสจู บิ ัตรของงานกเ็ ตรียมตามนน้ั 3. ฝกึ พูดให้ชดั เจน ใช้ภาษาท่ีเขา้ ใจงา่ ย เหมาะสมกบั กาลเทศะ เนื้อเรอ่ื งมีความสมั พันธ์กัน 4. ไมพ่ ดู ช้าหรอื เรว็ เกินไป ใช้นำ้ เสยี งท่นี ่าฟงั มีระดับสงู ต่ำทสี่ อดคล้องกับเนอื้ หา 5. ฝกึ อ่านชอื่ –นามสกลุ ตำแหน่ง และยศผมู้ ารว่ มงานให้คล่อง เพื่อไม่ให้เกดิ ขอ้ ผิดพลาด 6. แสดงสหี น้าและท่าทางให้สอดคลอ้ งกับเนื้อหา และสบสายตากับผูฟ้ ังอย่างท่ัวถงึ 7. ฝกึ บคุ ลกิ ภาพให้ดสู ง่างาม เปน็ ธรรมชาติ เชื่อมน่ั ในตนเอง รจู้ ักย้มิ แยม้ แจ่มใส 8. แต่งกายสภุ าพเรียบรอ้ ย เหมาะสมกบั กาลเทศะ แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 42

9. มากอ่ นเวลาเพื่อซักซ้อมและประสานงานกบั ผู้เกย่ี วข้อง ตลอดจนตรวจสอบอุปกรณท์ ่ีตอ้ งใช้ เช่น ไมโครโฟน 10. มีปฏภิ าณไหวพรบิ ในการแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์เฉพาะหน้า 9. การอภปิ ราย การอภิปราย คือ การประชมุ หารอื เร่ืองใดเรื่องหนึง่ มลี กั ษณะคล้ายการสนทนา แต่จะมีการกำหนด ความมุง่ หมายไวแ้ น่นอน หลักเกณฑส์ รปุ การอภปิ รายควรปฏิบตั ิดังน้ี 1. กล่าวถึงจดุ ประสงคใ์ นการอภปิ ราย 2. กล่าวถงึ ประเด็นสำคัญทมี่ ีผอู้ ภปิ ราย 3. กล่าวถงึ ผลการอภิปราย 4. สรปุ ข้อเทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ ของผู้อภปิ รายทุกคน มารยาทในการพดู การพูดท่ดี ไี มว่ ่าจะเปน็ การพูดในโอกาสใด หรือประเภทใด ผพู้ ูดตอ้ งคำนงึ ถึงมารยาทในการพดู ซึง่ จะมีสว่ น สง่ เสริมใหผ้ พู้ ูดได้รับการชน่ื ชมจากผู้ฟงั ซ่ึงจะชว่ ยให้ประสบผลสำเรจ็ ในการพูด มารยาทท่ีสำคญั ของการพดู สรปุ ไดด้ งั นี้ 1. แตง่ กายสภุ าพเหมาะสมกับโอกาสและสถานท่ี 2. เลือกใชถ้ อ้ ยคำเหมาะสมกับผฟู้ ังและเร่ืองท่ีจะพดู 3. ยอมรับความคิดเหน็ ของผูฟ้ ัง ควบคุมอารมณ์ ไม่แสดงความก้าวรา้ วหากความคิดเห็นไม่ตรงกัน 4. ไมพ่ ูดเร่อื งส่วนตวั ของผู้อืน่ หรอื เร่ืองสว่ นตัวของตนเองหากไม่มผี ู้ใดถามถงึ 5. ไม่พดู กระทบ พดู ข่มผู้อน่ื หรอื พดู หยาบคาย 6. ควรเปดิ โอกาสให้ผอู้ น่ื ได้พูดบา้ ง ไม่พดู อย่เู พยี งฝา่ ยเดียว 7. ปฏบิ ัตติ ามธรรมเนียมการพดู เชน่ กลา่ วคำข้ึนตน้ กล่าวคำลงท้าย กล่าวคำขอบคณุ เป็นต้น แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 43

ตัวอยา่ ง เรอ่ื ง เทคนคิ การพดู จากหนงั สือเร่ือง บคุ ลิกภาพคนร่นุ ใหม่ นักพูดที่มีชื่อเสียงอีกท่านหนึ่งที่ใครหลายๆคนชื่นชอบ และชื่อของนักพูดท่านนี้คงครองใจของใคร หลายคนเหมือนกนั หนังสือที่ดิฉันอ่านเปน็ ของนักพูดท่านนี้เชน่ กัน ท่านอาจารย์จตุพล ชมภูนิช หนังสือที่ ท่านเขียนเล่มนี้เป็นการพูดถึงบุคลิกภาพที่ดีของคนรุ่นใหม่ ซึ่งดิฉันติดใจและสะดุดตาตั้งแต่เห็นชื่อเรื่อง \" บุคลิกภาพคนรุ่นใหม่ \" ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าเป็นของใคร แต่พอเหลือบดูภาพบนหน้าปกก็ถึงบางอ้อทันที และไมค่ ิดลังเลทีจ่ ะหยิบไปให้บรรณารักษบ์ นั ทึกลงคอมพวิ เตอรว์ า่ ดิฉันตัดสนิ ใจเลอื กยืมหนังสือเลม่ นี้ เราจะมาตะลุยดูเลยว่าเวลาที่อาจารย์เขียนหนังสือนั้นจะเหมือนกับตอนที่พูดมากน้อยแค่ไหน จะใช้ เทคนิคเดียวกันหรือไม่ อาจารยจ์ ะใชเ้ ทคนิคการพูดอย่างไรทที่ ำใหส้ ามารถครองใจคนทกุ วัยได้ หนังสือเร่ืองนี้ ดูจากชื่อเรื่องก็รู้ได้เลยว่าอาจารย์จตุพลต้องพูดถึงเรื่องบุคลิกภาพอย่างแน่นอน ด้วยความที่ดิฉันเองก็อยาก เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีบุคลิกภาพที่ดีทั้งทางด้านความคิดและบุคลิกภายนอก จะได้ช่วยส่งเสริมให้ตัวเราเป็นท่ี ยอมรบั ของคนรอบข้าง ก่อนอื่นเราจะมาดูก่อนว่าเน้ือหาสำคัญที่อาจารย์จตุพลได้กล่าวไว้ในหนงั สอื เลม่ นีม้ ีอะไรบ้าง ในโลก ธุรกจิ การสรา้ งภาพลักษณ์หรอื บุคลิกภาพให้เปน็ ท่ียอมรบั และเชอ่ื ถือนบั เป็นเร่ืองสำคัญโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ย่ิง ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญมากขึ้น การมีบุคลิกภาพที่ดีถือเป็นบันไดก้าวแรกที่เราจะไต่ไปสู่ความสำเร็จใน อนาคต ดว้ ยเหตุน้บี ุคลกิ ภาพท่นี ่าเชื่อถือจึงเป็นคุณสมบตั ิเบ้ืองตน้ ที่สำคัญของคนรุ่นใหม่ ซ่ึงคงไม่มีใครปฏิเสธ ในความจริงข้อนี้ ทุกคนยินยอมปรารถนาที่จะเป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่ดี มีบุคลิกภาพเป็นที่ยอมรับของสังคม และคนรอบข้าง หนังสอื บุคลกิ ภาพของคนร่นุ ใหม่ ของอาจารย์จตพุ ลน้ไี ด้แดงให้เหน็ ถึงทุกองคป์ ระกอบ ทกุ มมุ มองและ ทุกขั้นตอนปฏิบัติของการนำไปสู่บุคลิกภาพตามแบบมาตรฐานสากลของคนรุ่นใหม่ เนื้อหาที่อาจารย์จตุพล เสนอได้แบ่งออกเป็นตอนๆ เป็นเรื่องๆไป พูดจบเรื่องนี้ให้ชัดเจนและเข้าใจแล้วก็พูดหัวข้อต่อไปอีกโดยมี ลักษณะเป็นเอกภาพตรงทจ่ี ะมวี ธิ ีการจดั การกับตวั เองอย่างไรบา้ งให้ไดเ้ ป็นคนมบี ุคลิกภาพท่ีดี ที่อาจารย์จตุพลพูดไว้ในหนังสือเล่มนี้ มีหลายตอนที่ดิฉันชอบและได้บันทึกไว้ในสมุดเพื่อไว้อ่านเป็น อาหารสมองให้กับตัวเอง อาจจะเก็บไว้สอนลูกสอนหลาน แนะนำเพื่อนที่เขายังไม่รู้ต่อไป คิดว่าต้องเป็น ประโยชน์แน่ บนั ทกึ ไว้ไมเ่ สยี หายอะไร หนึง่ ในตอนท่ดี ิฉนั บนั ทกึ ไวก้ ็คือตอน It's your style : ยงั ไงกเ็ ป็นคุณ อาจารยจ์ ตพุ ลกลา่ ววา่ เรา อาจจะประทับใจใครก็ได้ เราอาจจะเรียนรู้จากใครก็ได้ เราอยากเก่งเหมือนใครก็ได้ เราจะเอาใครเป็น แบบอยา่ งเราก็ได้ แตส่ ดุ ท้าย เราต้องเป็นตัวของเราเอง บคุ ลกิ ภาพที่ดีที่สดุ น้นั ได้แก่บุคลิกภาพที่แสดงออกถึง ความเปน็ ตวั ของตัวเองให้มากท่สี ุด คนที่ประสบความสำเรจ็ คนท่ีเป็นผู้นำ คนทมี่ ีความเช่อื มัน่ คนเหล่านี้มัก มีบุคลิกภาพเป็นของตัวเอง ซึ่งการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือปัจจัยอย่างหนึ่งที่จะทำให้เราก้าวเดินไปสู่ ความสำเร็จได้ไม่ยาก การสร้างสไตล์เฉพาะตัวนั้นสร้างได้หลายทาง เริ่มจากการแต่งกาย การไว้ทรงผม อาหารการกิน รสนิยมการใชช้ ีวิตในการพักผอ่ น อุปกรณ์ของใช้ การทำงาน การมีรูปแบบการใช้ชีวิตและ บุคลิกภาพเฉพาะคนเป็นสิ่งที่ต้องค้นหา เราจึงจะทราบว่าเราเป็นคนแบบไหน มีเอกลักษณ์อะไรที่เหมาะสม กับตัวเอง เราต้องพยายามค้นหาและพิจารณาให้ได้แล้วเราจะเป็นคนหนึ่งที่ที่ใครเห็นก็ทึ่ง ชวนสะดุดตาพา สะดุดใจ เพราะเราไม่ใช่มนุษยโ์ หลที่หาได้ทัว่ ไปตามศนู ย์การค้า เราต้องไมต่ ามกระแส (แฟช่ัน) เสยี จนไร้ความ ภมู ใิ จและในขณะเดียวกันเราก็ไมท่ วนกระแสเสยี จนใครไมก่ ล้าคบหาสมาคม แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 44

ในเรื่องการแต่งกายต้องระลึกไว้เสมอด้วยว่า เราแต่งให้ผู้อื่นดูด้วยไม่ใช่แต่งแล้วดูคนเดียว การแต่ง กายทดี่ ี ต้องใหเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ มิใช่พยายามนุ่งกระโปรงยาวแต่ในชีวิตประจำวนั การเดนิ ทางต้องขึ้นรถ ลงเรือ ซ้อนมอเตอร์ไซค์หลายต่อ จะขึ้นลงทีต้องคอยถลกกระโปรง ดีไม่ดีอาจเกิดอุบัติเหตุได้ แบบนี้ต้อง ปรับตวั เองดว้ ย การเสริมเตมิ แต่ง ทำใหค้ นเราดูดขี ้ึนก็จรงิ แต่ต้องขึ้นอยู่กบั เวลาและสถานที่ มเิ ช่นนน้ั การแต่งท่ีจะทำ ให้เกิดความสวยความงามเหน็ แลว้ คงจะคิดตามนน้ั ไม่ออก อาจารย์จตพุ ลได้แนะนำหลักการง่าย ๆ ที่ใช้ในการ แต่งตัวว่า ไม่ควรแต่งกายหรือเสริมความงามในที่สาธารณะชน เพราะการให้คนอื่นรู้เห็นในวิธีทำให้ตัวเอง งดงามนนั้ ไมใ่ ชส่ ่งิ ท่นี า่ ดนู ่าชม อาจารย์จตุพลได้แนะนำทุกเรื่องราวตัง้ แต่หัวจรดเทา้ ทั้งเรื่องของหญงิ และชาย มีตั้งแต่รูปร่างแบบ ไหนนิสัยอย่างนั้น การแต่งตัว การใส่สูท ทรงผม เครื่องสำอาง รองเท้า นาฬิกา องค์ประกอบทั้งหลาย เหล่านี้เป็นส่วนที่ช่วยส่งเสริมหรือถดถอยบุคลิกภาพของเราได้ทั้งสิ้น เราจึงไม่ควรละเลย จะใส่อะไรจะทำ อะไรก็ให้คำนึงถึงกาลเทศะ ความเหมาะสม ดูให้เหมาะสมกับรูปร่าง เหมาะสมกับโอกาสและที่สำคัญให้ เหมาะกับฐานะ อาจารย์จตุพลยงั บอกอกี ว่า บุคลกิ ของท้งั บรุ ุษและสตรวี ัยทำงาน เส้อื ผา้ ท่ีใสแ่ ลว้ ต้องไม่ล้ำสมัย เก๋ไก๋ สไตล์ล้ำอย่างเดียวแต่ควรจะให้ดูดี มีศรัทธา น่าเชื่อถือ สินค้าที่ดีก็ต้องมีหีบห่อที่ดีฉันใด คนที่ดีก็ต้องมี PACKAGE ท่ดี ีไปดว้ ยฉนั นัน้ สินค้าดเี พยี งใดแตไ่ ม่ใส่ใจในหีบห่อ ก็ไม่มใี ครสนใจซอ้ื คนทำงานที่ดี ก็ต้องมีที่ หุ้มห่อให้ดีจะได้มีคนซื้อ เราควรใส่ใจกับเรื่องการแต่งกายสักนิด แล้วเราจะสามารถพิชิตความสำเร็จในโลก ของมนษุ ยสมั พันธ์และการทำงานได้อย่างไมย่ ากเย็น ดิฉันเห็นด้วยกับที่อาจารย์จตุพลพูด และเป็นที่น่าสังเกตว่า สิ่งที่อาจารยถ์ ่ายทอดออกมานั้นล้วนแต่ เป็นส่ิงทีเ่ คยผ่านเข้ามาในชีวิตของอาจารย์และอาจารย์ได้บนั ทึกลงโปรแกรมประสบการณ์ไว้อยา่ งดี เม่ือ อาจารย์พบเห็นสิ่งใดมาก็จะมีมุมมองแนวคิดที่บางทีใครก็มองข้าม พอนำมาถ่ายทอดให้คนอื่นฟัง ก็เป็นท่ี น่าสนใจ และจะเห็นด้วยว่าทำไมที่ผ่านมาเราถึงได้ไม่มองอย่างนั้นบ้าง และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นนัก พดู ท่ดี ี ตอ้ งร้จู ักสังเกตและมีมุมมองท่ไี มเ่ หมือนใคร เม่ือดิฉนั อา่ นหนังสือเล่มนีจ้ บลงนอกจากจะได้ความรู้เคลด็ ลับของการมีบุคลิกภาพที่ดแี ล้ว ก็ขอมองถึง วธิ กี ารและเทคนคิ การพูดของอาจารยจ์ ตุพลดูบ้าง วา่ อาจารยท์ า่ นมเี ทคนิคการพูดอย่างไรให้ติดอกติดใจผู้ฟังได้ ขนาดนโ้ี ดยดูจากตวั อย่างของหนังสือเล่มน้ี ซึง่ เทา่ ทีด่ กู ข็ อสรุปไวด้ ังนี้ 1. การพูดของอาจารย์มีลักษณะเป็นเอกภาพ เวลาอาจารย์จะพูดหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ท่านก็จะ ตั้งหัวขอ้ ไว้ แลว้ พาผฟู้ ังไปสูเ่ ปา้ หมายของการพดู โดยการยกตวั อยา่ งไปเรื่อยๆ ตวั อยา่ งที่ยกมานนั้ สว่ นใหญ่จะ เปน็ องค์ประกอบของเรอ่ื งท่ีพดู ซึง่ จะทำให้ผู้ฟังสามารถเขา้ ใจและมองเห็นภาพที่อาจารย์ส่ือชดั ยิ่งขึ้น 2. เรือ่ งทพ่ี ดู ใกล้ตวั สงั เกตดูแล้วดฉิ ันพบว่าแต่ละเร่ืองที่อาจารย์จตุพลพดู ลว้ นแลว้ แต่เป็นเร่ืองใกล้ตัว บางทีเปน็ เรอื่ งเสน้ ผมบงั ภูเขา เป็นเร่ืองท่ใี ครๆละเลย มองไม่เห็น แตอ่ าจารยม์ องเห็น แสดงใหเ้ หน็ ไดช้ ดั เลยว่า การที่จะเป็นนักพูดที่ดีนั้น ต้องเป็นคนช่างสังเกต มีมุมมองที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร หรือถึงแม้ซ้ำก็มีความคิด สร้างสรรค์ทำให้เรื่องที่ซ้ำนั้นดูน่าสนใจและแปลกใหม่ขึ้นมา คนที่มีอะไรแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ย่อมเป็นที่ น่าสนใจเสมอ 3. คนท่จี ะเปน็ นักพดู ทดี่ ีตอ้ งมีประสบการณ์มาก ประสบการณ์ในท่ีน้ีคอื มีเรื่องราวผ่านเข้ามาในชีวิต มากๆ ยิ่งมีประสบการณ์มาก ยิ่งทำให้คนพูดมีข้อมูลมากตามไปด้วย อาจจะนำข้อมูลอันเก่านั้นมาพลิกแพลง ให้เขา้ กบั ยุคสมยั ให้ทนั ปัจจุบนั มากขึน้ เพราะคนฟังกย็ อ่ มมีวถิ ีชวี ติ เปลี่ยนไปตามวิถีสังคม อยา่ งอาจารยจ์ ตุพล แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 45

ท่านก็เป็นผู้มีประสบการณ์มาก อายุปูนนี้แล้วยังไม่แต่งงาน แล้วทำไมท่านถึงรู้และมีประสบการณ์เกี่ยวกับ ชวี ติ คู่ หรอื ทำไมท่านถงึ เข้าใจผูห้ ญิง เขา้ ใจทกุ เพศทุกวัยได้ดีเสียเหลือเกนิ ตรงนใี้ หส้ ังเกตนิดนึงค่ะว่า ที่ท่านมี ประสบการณ์เหล่านี้อาจจะไม่ใช่เพราะท่านได้รับประสบการณ์มาโดยตรง ท่านอาจจะได้รับประสบการณ์ เหล่าน้จี ากคนรอบขา้ ง จากหนงั สอื ซึง่ ถ้าอยากเปน็ นักพูดทด่ี ี เราก็ควรทำใหไ้ ดอ้ ย่างนดี้ ว้ ย 4. นกั พดู ท่ีดตี ้องทนั ยุค ทนั สมัย ทันใจ รู้ใจคนฟัง รู้ว่าในขณะนน้ั ผฟู้ งั คิดอะไร อยา่ งไร มีวิถชี ีวิต เป็นอยา่ งไร ใหท้ นั ตามทุกกลุ่มอายุคน อยา่ งอาจารย์จตุพล ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทา่ นถึงเป็นขวัญใจของคน ทุกวยั ได้ ทา่ นเหมือนรใู้ จคนทุกกลุ่ม รูว้ ่าคนกลุ่มไหนกำลังคดิ อะไรยังไง มกี ระแสอะไรท่ีกระทบหรือส่งผลต่อ คนเหลา่ นนั้ ท่านสังเกต และมอง ท่านทำเหมอื นกับท่านเป็นคนเหลา่ นัน้ เสียเอง ตรงน้แี หละค่ะท่ีดฉิ นั คิดว่า ผูฟ้ ังชอบ 5. คนที่จะเป็นนักพูดที่ดี ต้องไม่ลืมอารมณ์ขัน อาจารย์จตุพลนี่พูดเมื่อไหร่ พูดเรื่องอะไรก็ขำได้ แม้แต่เรื่องเครียดๆก็ทำให้ผู้ฟังไม่เครียด ทำให้คนหัวเราะได้ นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเป็นนักพูดที่ดี เพราะทุกครั้งที่อาจารย์พูดเหมือนกับอาจารย์เป็นเทวดาที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ฟังได้ตลอด คนฟังก็มีความสุข หนังสือที่อาจารย์จตุพลเขียนนี้แม้จะเป็นเรื่องหลักการแต่อ่านแล้วเราไม่เครียดเลย มีทั้งมุขตลก ล้อเลียน สรา้ งอารมณ์ขันไดต้ ลอด 6. นักพูดที่ดีต้องเป็นนักยกตัวอย่างที่ดี เมื่อมีประสบการณ์เยอะ มีข้อมูลเยอะ ก็ทำให้สามารถ ยกตัวอย่างได้ดีทันใจ หยิบยกโยงใยเรื่องโน้นมาเป็นตัวอย่างของเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม คนฟังจะได้ไม่ถูก จำกดั กรอบเพียงเรือ่ งเดยี ว มาฟงั เรอื่ งหนึง่ ก็อาจจะได้ความรจู้ ากอีกเรอื่ งหนึง่ แถมไปด้วย เหมอื นเปน็ การแถม ของขวญั ใหก้ ับผูฟ้ ัง 7. จะเป็นนักพูดที่ดี ให้เป็นที่น่าเชื่อถือ ต้องมีบุคลิกที่ดีด้วย เหมือนชื่อเรื่องของหนังสือเล่มนี้เลย ตรงนี้เราก็เห็นได้อีกแล้วว่า อาจารย์จตุพลเนี่ยเป็นคนที่มีบุคลิกดี เราไม่ขอพูดถึงเรื่องหน้าตา เพราะเรื่อง บุคลิกภาพที่ดีเป็นสิ่งที่สร้างได้ อาจารย์จะดูโก้และเหมือนเป็นเทพบุตรเสมอเวลาพูด ดูตั้งแต่แต่งตัวดี แบบน่าเชอื่ ถือ สะอาด ยิง่ พดู นา่ สนใจคนกจ็ ะยง่ิ ไมล่ ะสายตาจากคนพดู เลย 8. อาจารย์จตุพลมักใช้วิธีการเปรียบเทียบ เห็นนักพูดนักเขียนหลายท่านชอบใช้อยู่แล้ว ซึ่งก็เป็น เรอื่ งทีด่ ี เพราะว่าการรจู้ ักเปรียบเทียบส่ิงหน่ึงกับอีกส่ิงหนึง่ นนั้ นอกจากจะเปน็ การให้ความรู้แก่ผู้ฟังแล้วยังทำ ใหก้ ารพดู เปน็ ไปอยา่ งมลี ลี า แสดงใหเ้ ห็นวา่ ผูพ้ ดู มคี วามสามารถ ผู้ฟังกจ็ ะได้มีจินตนาการร่วมไปด้วย เทคนิคและวิธีการพูดที่ดิฉันไดจ้ ากท่านอาจารย์จตพุ ลนี้ เป็นประโยชน์อย่างมากต่อพวกเรา เพราะ ในเมื่อเราชอบและชื่นชมในตัวท่านอาจารย์ อาจารย์เป็นนักพูดที่มีชื่อเสียง ใครอยากเป็นนักพูดที่ดีเหมือน อาจารย์ก็สามารถเรียนรู้เทคนิควิธีการพูดเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง จำได้ไหมในหนังสือเล่มนี้ท่ี อาจารย์บอกไว้ว่า เราจะประทบั ใจใครก็ได้ เราอยากเก่งเหมือนใครก็ได้ เราจะเอาใครเป็นแบบอย่างเราก็ได้ เราอยากเก่งเหมือนใครก็ได้ แต่เราต้องเป็นตัวของเราเอง เมื่อเรียนรู้วิธีการพูดเหล่านี้จากอาจารย์จตุพลไป แลว้ กค็ วรเอาไปปรบั ใช้ใหเ้ หมาะกับตัวเอง สรา้ งความเปน็ เอกลักษณใ์ ห้เกดิ ข้ึน เหมอื นอย่างท่ีอาจารย์จตุพล ทำสำเร็จอยใู่ นขณะน้ี โดย.. อษุ ณีย์ เทพมณี แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 46

ใบงานท่ี 6 เรื่อง ลกั ษณะการพดู ที่ดี และมารยาทในการพูด วิชา ภาษาไทย ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย คำสง่ั ให้นกั ศึกษาอธบิ ายและบอกความหมายในหัวข้อตอ่ ไปนี้ (10 คะแนน) 1. การพูดมีกปี่ ระเภท อะไรบ้าง ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... 2. การพดู เปน็ ทางการ หมายถึง ...................................................... ................................................................................................... ................... ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ......................................................................................................................................................... ................... ............................................................................................................................. ............................................... 3. การพูดไม่เป็นทางการ หมายถึง ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ 4. มารยาทท่ีสำคญั ของการพูด ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ......................................................................................................................................................... ................... ............................................................................................................................ ................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ......................................................................................................................................................... ................... ..................................................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 47

ใบงานท่ี 6 เรอ่ื ง ลักษณะการพูดท่ดี ี และมารยาทในการพดู วิชา ภาษาไทย ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย คำสง่ั ใหน้ กั ศึกษาอธิบายและบอกความหมายในหวั ข้อต่อไปนี้ (10 คะแนน) 1. จงยกตวั อย่างการพดู เปน็ ทางการ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ..................................................................... .................................................................................... ................... ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ 2. จงยกตัวอย่างการพูดไม่เป็นทางการ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ......................................................................................................................................................... ................... ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 48

แผนการจัดการเรียนรคู้ รัง้ ท่ี 7 (พบกลุม่ ) กลุม่ สาระ ความรู้พืน้ ฐาน รายวิชา ภาษาไทย รหสั พท31001 จำนวน 5 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เร่ือง การใช้ศิลปะในการพดู จำนวน 6 ชวั่ โมง เวลา................... สอนวันที่..............เดือน.........................พ.ศ. ......................... ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 *************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มีความรู้ความเขา้ ใจในการพดู เปน็ ทางการและไม่เปน็ ทางการปฏบิ ตั ิตนเป็นผมู้ มี ารยาทในการพดู ตวั ชวี้ ัด อธิบายการใชศ้ ิลปะในการพดู ทีเ่ ปน็ ทางการและไม่เป็นทางการได้อยา่ งเหมาะสมกับโอกาสและบุคคล เน้ือหา เรือ่ ง การใช้ศลิ ปะในการพดู คุณธรรม 1. พดู ความจริงปราศจากความลำเอียงหรืออคติ 2. วาจาสุภาพ กล่าวคำขอบคุณหรอื ขอโทษดว้ ยอยา่ งเหมาะสมตามสถานการณ์ 3. ทำงานทีไ่ ด้รับมอบหมายได้ถกู ต้องและเสร็จทันตามกำหนด กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขน้ั นำ - ครูผสู้ อนทบทวนความรูเ้ ดิม ขน้ั จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ - ครูผู้สอนแจกใบความรู้ ใบงาน และอธบิ ายเก่ียวกบั การนำเสนอความรคู้ วามคดิ เห็นทีไ่ ด้จาก การฟงั และดู - ครูผู้สอนใหผ้ ูเ้ รียนศึกษาเรียนรูจ้ ากใบความรู้ และใหท้ ำใบงานสง่ ในชวั่ โมง ขั้นสรุป - ครูผูส้ อนสรปุ ความร้ทู ่ีได้รบั และเติมเต็มองค์ความรู้พร้อมกบั มอบหมายงานให้ไปศกึ ษา ด้วยตนเองเพิ่มเติม สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1. ใบความรู้ 2. หนังสอื แบบเรียน 3. ใบงาน/การสืบค้นข้อมลู จาก Internet การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรียนรู้ 2. วดั ความรจู้ ากการทำกิจกรรมในใบงาน แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 49

ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศกึ ษา พิจารณาแลว้ .......................................................................................................................................... ......................................................................................................... ...................................................... (นางจีระภา วฒั นกสิการ) ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอโชคชยั แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 50

บนั ทกึ หลังการสอน ความสำเร็จในการจดั การเรียนการสอน ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................ .......... ปญั หา / อปุ สรรค ในการจัดการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ............................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางการแก้ปญั หา ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. .................................................................................................................................................................... ........... ........................................................................................................................ ................................................... ลงชื่อ.......................................ครผู ้สู อน (..............................................) คร.ู ........................................... วนั ท่.ี .........เดอื น..........................พ.ศ. ........................ ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศกึ ษา ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ลงชื่อ ผ้บู งั คับบญั ชา (นางจีระภา วฒั นกสิการ) ผูอ้ ำนวยการศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอโชคชยั แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 51

ใบความรูท้ ่ี 7 เรื่อง การใช้ศิลปะในการพูด วชิ า ภาษาไทย ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย เรอ่ื ง การใชศ้ ลิ ปะในการพดู เป็นวธิ หี น่ึงของการส่ือสาร การถ่ายทอดความคดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความรสู้ ึก หรือความต้องการ ดว้ ยเสยี ง ภาษา และกิรยิ าท่าทาง เพ่ือใหผ้ รู้ ับฟังรับรู้ เข้าใจได้ตรงตามจุดประสงคข์ องผู้พูด การส่อื สารจึงจะ บรรลผุ ลไดห้ ลกั การพูด 1. ประเภทของการพูด ประเภทของการพูดแบง่ ตามลกั ษณะการพดู ได้ 2 ประเภท ดังนี้ 1. การพูดอย่างไม่เป็นทางการ คือ การพูดในชีวิตประจำวัน เช่น การสนทนา การพูด โทรศัพท์ การแนะนำตัว การซักถาม การตอบคำถาม เป็นต้น ผู้พูดต้องฝึกฝนให้เป็นผู้ที่พูดได้ถูกต้อง น่าฟัง และเหมาะสมกับกาลเทศะและบคุ คล 2. การพูดอย่างเป็นทางการ หมายถึง การพูดอย่างเป็นพิธีการในที่ประชุม หรือ การพูดต่อ หน้าชุมชนในโอกาสต่าง ๆ และเพื่อจุดหมายต่าง ๆ ต้องอาศัยความรู้ความสามารถและมีศิลปะในการพูด การ พูดอยา่ งเปน็ ทางการ เชน่ การปาฐกถา การอภปิ ราย บรรยาย การกล่าวสนุ ทรพจน์ เปน็ ต้น รูปแบบของการพูด การพูดมีหลายแบบ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการพูด ผู้พูดควรเลือกแบบการพูดให้เหมาะสมกับ จุดประสงคข์ องการพดู แต่ละครงั้ แบบของการพูด มดี งั นี้ 1. การพดู บอกเลา่ หรอื บรรยาย หมายถึง การพดู ท่มี งุ่ ให้ความรู้ ความเขา้ ใจแก่ผ้ฟู งั เช่น การพูดอบรม ปฐมนเิ ทศ ชี้แจงระเบียบ ข้อบังคบั สรปุ รายงาน การสอน การเล่าเรื่อง เลา่ ประสบการณ์ การแนะนำวิทยากร การพูดตามมารยาทสงั คมในโอกาสตา่ ง ๆ เชน่ การกล่าวตอ้ นรับ แสดงความยนิ ดี อวยพร เป็นต้น 2. การพูดจูงใจหรือโน้มน้าวใจ หมายถึง การพูดที่มุ่งให้ความรู้ ความคิด ปลุกเร้า ให้ผู้ฟังคิดตาม เชื่อถือ คล้อยตาม และปฏิบัติตาม วิธีการพูดต้องสอดใส่อารมณ์ กิริยาท่าทาง ความรู้สึกที่จริงใจ ลงไป เช่น การพูดจูงใจให้คนไปลงคะแนนเสียงเลือกต้ัง การโน้มน้าวชักชวนให้คนประท้วงหรือเดินขบวน โน้มน้าวให้คน บริจาคเงนิ บริจาคโลหิต จูงใจใหซ้ อ้ื สินคา้ เปน็ ต้น 3. การพูดจรรโลงใจหรือการพูดเพื่อความบันเทิง หมายถึง การพูดที่มุ่งให้ความสนุกสนาน รื่นเริง ขณะเดยี วกันกไ็ ดส้ าระ หรือได้แงค่ ดิ บางประการดว้ ย เชน่ การเล่านิทาน การเลา่ เรื่องตลก ขำขัน ปัจจบุ ันมกี าร พดู แบบน้ใี นที่สาธารณะและมีผสู้ นใจฟงั เปน็ จำนวนมาก ในการปฏิบัติ แม้ว่าผู้พูดจะเน้นหนักไปในการพูดแบบใดแบบหนึ่งแต่ก็สามารถนำการพูดทั้ง 3 แบบ มาปรบั ใชใ้ ห้สอดคล้องกบั สถานการณ์ และเน้อื หา เพ่ือใหก้ ารพดู คร้ังนนั้ ๆ ประสบความสำเร็จ วธิ ีการพูด วิธกี ารพูด จำแนกไดด้ งั นี้ 1. พูดแบบฉับพลัน หรือพูดแบบกะทันหัน คือ การพูดที่ผู้พูดไม่มีโอกาส หรือไม่ได้เตรียมตัว ล่วงหน้า ประสบการณ์ ความรู้ ความคิด และปฏิภาณ ไหวพริบ จะช่วยให้ผู้พูด พูดได้ดีในชีวิตประจำวันเรา อาจต้องพูดแบบนเ้ี สมอ ๆ เช่น ในการโต้ตอบสนทนา การให้สมั ภาษณ์ เปน็ ต้น แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 52

2. พูดแบบอ่านจากร่างหรือต้นฉบับ วิธีนี้นิยมใช้แบบเป็นทางการ เช่น การกล่าวรายงาน แถลงการณ์ กลา่ วเปิด กล่าวปดิ งาน กล่าวตอบในพธิ ีการต่างๆ การกล่าวถวายรายงานเฉพาะพระพักตรเ์ ป็นตน้ 3. การพูดแบบท่องจำ บางครั้งเราจำเป็นต้องจำข้อความบางอย่างไปใช้อ้างหรือใช้พูด เช่น โคลง กลอน บทกวีต่าง ๆ คำคม ภาษิต ตัวเลข สถิติ เราสามารถนาสิ่งเหล่านี้ไปประกอบการพูดได้ตามความ เหมาะสม 4. พูดจากความเข้าใจโดยมีการเตรียมตัวล่วงหน้า การพูดจากความเข้าใจ คือการพูดจาก ความรู้ ความสามารถ ความรู้สึกของผู้พูด และจะพูดได้ดียิ่งขึ้นถ้าได้มีการเตรียมตัวล่วงหน้า ผู้ที่คิดว่ายังมี ความรู้ความสามารถนอ้ ยก็จะสามารถพดู ได้ดีถ้าไดม้ ีโอกาสเตรียมตัวและฝกึ ฝน องค์ประกอบของการพูด การพูดคือ พฤติกรรมในการส่ือสาร องคป์ ระกอบของการพูดจะเป็นไปในทำนองเดียวกบั องค์ประกอบ ของการส่ือสาร นน่ั คือมอี งค์ประกอบพนื้ ฐานทสี่ ำคัญคือ 1. ผู้พูด คอื ผู้สง่ สาร (sender) 2. เรื่องทพ่ี ูด คอื สาร หรือเนื้อหาสาระ (message) 3. ภาษา คือสื่อ(media) หรือเครื่องมือที่ถ่ายทอดสาร ทั้งภาษาที่ใช้ถ้อยคำ (วัจนภาษา) และภาษาที่ ไม่ใช้ถ้อยคำ (อวัจนภาษา) และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ประกอบการพูด เช่น ไมโครโฟนคอมพิวเตอร์ สื่อ power point แผนภมู ิ รปู ภาพ ฯลฯ 4. ผฟู้ งั คือ ผู้รับสาร (receiver) นอกจากนน้ั องคป์ ระกอบของการพูดยังหมายรวมถึงผล (effect) ทีเ่ กดิ จากการพดู เช่น ความรู้ ความ เข้าใจ ความรู้สึก ปฏิกิริยาตอบสนอง (feedback) ที่ผู้ฟังแสดงออก เช่น เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ชื่นชม ดีใจ เสยี ใจ และสถานการณแ์ วดล้อมต่าง ๆ ในการพดู เชน่ สถานท่ี เวลา และโอกาสอีกด้วย อวัจนภาษาในการพูด การพูดทด่ี ีนอกจากวจั นภาษา (verbal language) คอื ถ้อยคำภาษาทส่ี ื่อสารเนื้อหาสาระต่างๆ แล้วสิ่ง สำคัญอีกประการหนึ่งที่ช่วยให้การพูดประสบความสาเร็จ ก็คืออวัจนภาษา (non-verbal language) ซึ่งจะ ช่วยสื่อความหมาย ช่วยให้การพูดเป็นธรรมชาติ ช่วยเน้นให้มีน้าหนัก และช่วยให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกเชื่อม่ัน ศรทั ธาในตวั ผพู้ ดู อวจั นภาษาท่สี ำคญั ในการพูด มีดังน้ี 1. การเดนิ ควรเดนิ อย่างกระฉบั กระเฉงมนั่ ใจ มชี วี ติ ชีวาไม่เนบิ เนือยแต่ไม่ เรง่ รีบลกุ ลน ท่าเดินที่ควร หลกี เลี่ยงคือ การเดนิ วางก้ามแบบนักเลงโต เดินตวั ลีบกระมิดกระเมี้ยน ประหม่าอาย หลกุ หลกิ แกว่งแขนมาก เกินไป นวยนาดแบบนางละคร เดนิ หลังงอ เล่นหรอื ตามสบายเกนิ ไป 1.1 การเดินไปสู่ที่พูด ควรเดินช้า ๆ มั่นใจ เมื่อถึงที่พูด ควรหยุดเล็กน้อย กวาดสายตา ไปทว่ั ๆ ผู้ฟงั ย้ิมแยม้ แจ่มใส แล้วจงึ เรมิ่ ปฏิสันถารหรอื ทักทายผฟู้ ัง 1.2 การเดนิ ระหว่างพูด ทำได้บ้าง ใหส้ อดคลอ้ งกับเน้อื หาที่พูด เช่น ก้าวไปขา้ งหน้า หมายถงึ ย้ำเน้น ชี้จุดสำคัญ ถอยหลัง หมายถึง ชะงัก ลังเล หรือคิดทบทวน ก้าวไปข้าง ๆ แสดงการเปรียบเทียบ การ เดินระหว่างพูดช่วยดึงดูดความสนใจของผู้พูด แก้ความจำเจ แต่ถ้าเดินมากเกินไปผู้ฟังจะมึนงง และไม่ควรหนั หลังให้ผฟู้ งั ขณะเดินกลับจากจุดหนึง่ ไปยงั อกี จดุ หน่งึ 1.3 การเดนิ กลบั ควรเดนิ อยา่ งชา้ ๆ และมัน่ ใจเช่นเดยี วกนั แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 53

2. การยืนและการนั่ง การยืนและการนั่ง จะต้องมีการทรงตัวที่สง่างาม ผึ่งผาย ช่วยให้ผู้ฟังศรัทธา การทรงตวั ที่ดี ลำตัวจะต้องตัง้ ตรง หลงั ตรง ไหล่ตรง เก็บพุง ดูสบาย และเปน็ ธรรมชาติ 2.1 การยืน ควรยืนสบาย ๆ วางเท้าให้เหมาะสม ไม่ห่างเกินไป หรือชิดเกินไป ส้นเท้าชดิ หรือห่างเล็กน้อย ปลายเท้าห่างพอสมควร น้ำหนักลงที่ก้อนเนื้อกลมถัดจากหัวแม่เท้า ไม่ยืนเขย่งหรือน้ำหนัก ลงที่สน้ เทา้ ท่ายืนทคี่ วรหลีกเลีย่ ง เช่น ท่าตรงแบบทหาร เพราะไม่เป็นธรรมชาติ ทา่ พกั ขา หรอื หย่อนขาข้างใด ข้างหนง่ึ เพราะดลู ำลอง สบาย ๆ เกนิ ไป ทา่ ทงิ้ สะโพกไปข้างใดขา้ งหนง่ึ หรือสลับกนั เพราะเสียการทรงตวั และ ดตู ลก ท่านางแบบ ทา่ ไหลท่ รุด คอเอยี ง หลกุ หลิก โยกหนา้ -หลงั พงิ โตะ๊ -เกา้ อ้ี หรือแทน่ พูด ฯลฯ 2.2 การน่งั นง่ั ในท่าสง่างาม หลงั ตรง วางเทา้ ใหเ้ หมาะสม สุภาพสตรคี วรเอยี งขาไปข้างใด ข้างหน่ึงหรือไขว้ปลายเทา้ ไม่น่ังไขว่หา้ ง น่ังใหเ้ ตม็ สะโพก เท้ายนั พน้ื 3. การใช้กริ ยิ าทา่ ทาง กิริยาทา่ ทางทส่ี มั พนั ธ์กับการพดู มดี งั นี้ 3.1 การเคลื่อนไหวศีรษะและลำคอ สื่อความหมายบางประการดังนี้ ศีรษะตั้งตรง หมายถึง กล้าหาญ มั่นคง มั่นใจ ภูมิใจ มีอำนาจ ผงกศีรษะ หมายถึง ยอมรับ เห็นด้วย โน้มศีรษะไปข้างหน้า หมายถงึ เคารพ ขอร้อง ขอความเหน็ ใจ ผงะศรี ษะไปข้างหลงั หมายถึง ตกใจ สะด้งุ ส่ันศรี ษะ หมายถึง ปฏิเสธ ไม่เห็นด้วย ไม่ยอมรับ ก้มศีรษะ หมายถึง ขวยอาย สงบ ปลง สุภาพ เอียงศีรษะ หมายถึง คิด สงสัย ไม่แน่ใจ เปน็ ตน้ 3.2 การแสดงสีหน้า การแสดงสีหนา้ จะสอดคล้องกับน้ำเสียง ทา่ ทาง และดวงตา เช่น ย้ิม เศร้า ตกใจ ร่าเริง สงสยั เสียใจ สีหนา้ โดยท่ัวไป ควรย้ิมแย้มแจ่มใส เป็นมิตรกบั ผู้ฟัง 3.3 การใช้ท่ามือ ช่วยเน้นย้ำหรือขยายความเข้าใจ ท่ามือมีหลายแบบ เช่น หงายมือแล้ว ค่อย ๆ เคลื่อนไปสู่ผู้ฟัง เป็นการแสดงความรู้สึกเป็นมิตร ยกย่อง หรือเชื้อเชิญ แบมือทั้งสองข้าง หมายถึง สูญเสีย หมดหวัง ยกมือตั้งสั่น หมายถึง ปฏิเสธ คว่ำมือแล้วลดมือลง แสดงการขอร้องให้สงบ ขอให้ช้าลงหรือ แสดงระดับสูง-ต่ำ ตะแคงมือแล้วเคลื่อนมือไปทางซ้ายหรือขวา แสดงถึงการแบ่ง ตะแคงมือตั้งบนฝ่ามอื แสดง การตัดแบ่ง กำมือแสดงถึงความมั่นคง เอาจริงเอาจัง ชี้นิ้วแสดงถึงลักษณะเฉพาะเจาะจง เน้น ตักเตือน หรือ บอกทศิ ทาง เปน็ ต้น นอกจากนั้นยังมีการใช้มือและแขนแสดงขนาดเล็ก ใหญ่ สูง ต่ำ แสดงรูปร่าง กลม เหลี่ยม แสดงจานวน เชน่ 1, 3, 5 และระดับมือทีใ่ ชม้ ีอยู่ 3 ระดบั คือ สูง ระดับไหล่ข้ึนไป กลาง ระดับเอวถงึ ไหล่ และ ต่ำ คอื ระดบั ตา่ งจากเอวลงไป โดยท่ัวไปจะใชท้ า่ มอื ในระดบั กลางและระดบั สงู หลักการใช้ท่ามือที่ดีต้องเป็นธรรมชาติ จังหวะเหมาะ มีความหมายและใช้ไม่มากเกินไป ไม่ขัดเขนิ หรอื มองดูมือขณะทำทา่ หลกี เลย่ี งการใช้ท่ามือ ชา้ ๆ หรือไมม่ ีความหมาย หรือมลี ักษณะมือไม่อยู่สุข แตะจมกู เกาศีรษะ เปน็ ตน้ 4. การใชส้ ายตา การใช้สายตาชว่ ยใหก้ ารพูดมพี ลังมคี วามหมาย สรา้ งความสมั พนั ธ์กบั ผฟู้ งั ถ่ายทอด ความร้สู กึ ของผพู้ ูด ไดร้ บั ร้ปู ฏิกิรยิ าตอบสนองของผฟู้ งั ลกั ษณะการใช้สายตาท่ีควรฝึกฝน คอื 4.1 การใช้สายตาเมื่อเร่ิมต้นพูด ให้มองผู้ฟังเป็นส่วนรวมก่อน โดยมองไปที่ผู้ฟังที่อยู่ตรง กลางแถวหลังสุด หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนสายตาไปยังจุดอื่น ซ้าย ขวา หน้า หลัง ให้ทั่วถึง และเป็นธรรมชาติ อย่าเปลี่ยนสายตาโดยรวดเร็ว หรือใช้สายตาแบบพัดลมส่าย ควรจับตาและเปลี่ยนสายตาในลักษณะของการ ถ่ายรูป แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 54

4.2 การใชส้ ายตาขณะพูด มองผูฟ้ งั ให้ทว่ั ถึง สบตาผ้ฟู งั นงิ่ อยเู่ ฉพาะคนบ้าง และใช้สายตา แสดงความรู้สึก อารมณ์ ตามเนื้อหาที่พูด อวัจนภาษาเกี่ยวกับสายตาบางประการ เช่น เบิ่งตาโพลง หมายถึง ตกใจ อยากได้ ปิดตา หมายถึง อ่อนเพลีย หรี่ตา หมายถึง สงสัย ไม่แน่ใจ ยั่วเย้า ประสานสายตา หมายถึง จริงใจ แนใ่ จ ลดสายตาลง หมายถงึ เกรง รสู้ กึ ผิด ยอมรบั ชาเลืองตา หมายถึง อาย อิจฉา ดูถกู เปน็ ตน้ ขณะพูด ให้หลีกเลี่ยงการมองเพดาน มองข้ามศีรษะไปที่ผนังหลังห้อง มองออกนอกประตู หน้าต่าง หรือใช้ สายตาหลุกหลิก เหลือบไปเหลือบมาตลอดเวลา ทาใหเ้ สียบุคลกิ ภาพ 5. การใช้เสียง เสียงจะห่อหุ้มอยู่โดยรอบถ้อยคำ ช่วยถ่ายทอดอารมณ์ และความรู้สึกของผู้พูด สิ่งท่ี ต้องคำนึงเกย่ี วกบั การใช้เสยี งมดี งั น้ี 5.1 เสียงและการออกเสียง จะต้องชัดเจน แจ่มใส นุ่มนวลชวนฟัง ไม่ห้วน ไม่สูงแหลมจน ฟังไม่สบายหู ไม่ต่ำจนฟังไม่ถนัดไม่สั่นเครือไม่แหบพร่าและไม่เพี้ยนแปร่ง นอกจากนั้นยังต้องไม่ดังหรือค่อย จนเกนิ ไป หนกั เบา สงู ตำ่ เป็นไปตามธรรมชาติ มีการ เน้นย้ำไมร่ าบเรยี บเสมอกนั ไปโดยตลอด (mo- no-tone) แต่ก็ไม่ควรเปลี่ยนระดับเสียงขึ้น – ลง – สูง - ต่ำ มากเกินไป จนดูเหมือนเสียงแสดงละคร (dramatization) ออกเสียงสระ พยัญชนะ และระดับเสียงวรรณยุกต์ชัดเจน ถูกต้อง การออกเสียงชัดเจน ถกู ตอ้ งช่วยให้การพดู ครงั้ นั้น ๆ น่าฟงั และน่าเชอ่ื ถือ 5.2 จังหวะการพูด ไม่เร็วจนเสียความ ไม่ตัดหรือรวบคำ เช่น “กระทรวงสาธารณสุข” ออกเสียงเป็น “กระทรวงสาสขุ ” “มหาวทิ ยาลยั ” ออกเสยี งเปน็ “มหาลัย” “พจิ ารณา” ออกเสียงเปน็ “พิณา” เป็นต้น และต้องไม่ช้าเนิบนาบจนเกินไป การพูดเร็วเกินไป ผู้ฟังจะฟังไม่ทันและรู้สึกเหนื่อย การพู ดช้า จนเกินไปผู้ฟังก็จะรู้สึกรำคาญ และอึดอัด นอกจากนั้นยังต้องเว้นวรรคตอนให้ถูกต้อง การเว้นวรรคตอนผิดจะ ทาให้สอ่ื ความหมายผิดได้ 2. หลักการพูด การพูดท่ดี ีตอ้ งสอดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงค์ ใช้วจั นภาษา อวัจนภาษา และสื่อ ถูกตอ้ งเหมาะสมกับผู้ฟัง สถานที่ เวลา โอกาส และสถานการณ์แวดล้อมต่าง ๆ หลักการพูดที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือหลักการพูดที่ผู้พูด รตู้ ัวลว่ งหนา้ เพือ่ ให้การพูดประสบความสำเร็จ ผพู้ ดู จะตอ้ งปฏบิ ัติตามหลักการพูดดงั ต่อไปน้ี การเตรยี มตวั ในการพดู กอ่ นพูดทุกครั้งผู้พูดจะต้องเตรียมการพูดให้พร้อม การเตรียมท่คี รบถว้ นคือการเตรียมให้ครบ ตามองค์ประกอบของการพดู โดยจดั ลำดับความสำคญั ก่อน หลัง ดังน้ี 1. วิเคราะห์ผู้ฟงั สถานท่ี เวลา โอกาส และสถานการณแ์ วดลอ้ มต่าง ๆ ผู้ฟงั คอื องค์ประกอบทสี่ ำคัญ ของการพูด ผพู้ ูดตอ้ งวิเคราะห์รายละเอียดของผู้ฟังให้มากทส่ี ุด ทั้งเพศ วัย การศกึ ษา อาชพี ศาสนา หรือลัทธิ ความเชื่อ ความสนใจพิเศษ จำนวน นอกจากนั้นยังต้องวิเคราะห์สถานที่ เวลา และโอกาส ในการพูดครั้งน้ัน ด้วย เช่น พูดในหอประชมุ หรือกลางสนาม เวลาเช้าหรอื บา่ ยระยะเวลา 3 ชว่ั โมง หรอื เพียง 10 นาที พูดเน่ือง ในโอกาสวันปฐมนิเทศ วันฉลองจบการศึกษา หรือ วันขึ้นปีใหม่ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อจะได้เตรียมคาปฏิสันถาร เนื้อหา ภาษา ตวั อย่าง ส่ือ การแต่งกายของผู้พูด ฯลฯ ใหเ้ หมาะสม แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 55

2. เตรียมตัวผู้พูด การเตรียมตัวผู้พูด เน้นในเรื่องการเตรียมบุคลิกภาพ ทั้งบุคลิกภาพภายนอกและ บคุ ลกิ ภาพภายใน 2.1 บุคลิกภาพภายนอก ได้แก่ รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ การแต่งกาย สุขภาพ การยืน การเดิน การใช้สายตา ทา่ ทาง การออกเสียง เปน็ ต้น บคุ ลิกภาพภายนอก จะปรากฏเดน่ ชัดในระยะเวลาอันสั้น คุณจะดแู ลบคุ ลกิ ภาพภายนอกของคุณให้ “ดดู ี” อยา่ งไรได้บ้าง รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ มีอะไรบ้างไหมที่ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ สะอาดสะอ้านหรือเปล่า แกไ้ ขอำพราง ตกแต่ง เพิ่มเตมิ อะไรไดบ้ ้างไหม ดที ีส่ ดุ หรอื ยัง พอใจหรือยัง การแต่งกาย ข้อเสนอแนะในการแต่งกายเพื่อให้เป็นผู้มีบุคลิกภาพดี คือ ยึดหลัก 5 ส. ได้แก่ สะอาด สะดวก สุภาพ สวยงาม และสงา่ ไมจ่ ำเป็นต้องเดน่ สะดดุ ตามากนัก สุขภาพ ผู้พดู จะต้องดูแลสขุ ภาพให้ดีอยู่เสมอ การเจ็บปว่ ยหรอื แม้แต่พกั ผ่อนไม่เพียงพอ มี ผลต่อบุคลิกภาพ อาจหงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี น้ำเสียงไม่แจ่มใส และอาจทำให้ขาดปฏิภาณไหวพริบในการคิด การพดู การสนทนาโต้ตอบ การใช้สายตา ท่าทาง การออกเสยี ง หมายรวมถึง อิรยิ าบถตา่ ง ๆ การใชท้ ่าทาง การแสดง ความรูส้ กึ ทางสหี น้า สายตา เป็นต้น 2.2 บุคลิกภาพภายใน ได้แก่ ลักษณะทางจิตใจ เช่น อุปนิสัย ความสนใจ ความคิด ทัศนคติในการมองโลกและชีวิต ลักษณะทางอารมณ์ เช่น ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ และพฤติกรรม ต่าง ๆ ลักษณะทางสังคม เช่น การมีมนุษยสัมพันธ์ การปรับตัว ลักษณะทางปัญญา เช่น ความเฉลียวฉลาด ความมีไหวพรบิ เปน็ ต้น บุคลิกภาพภายใน อาจมองไม่เห็นในระยะอันสั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของ “ตัวตน” ของบุคคล บุคลิกภาพภายใน เป็นสิ่งที่สร้างเสริมและพัฒนาได้ เช่น การพยายามมองโลกในแง่ดี การมองบุคคลอื่นอย่างเป็นมิตร การระงับ อารมณ์ฉนุ เฉยี ว โกรธง่าย การรู้จักการให้อภัย การมีความหวงั และพลังใจ การรจู้ ักสนใจส่ิงต่าง ๆ รอบตัว การ รจู้ ักเอาใจเขามาใสใ่ จเรา การเพ่มิ พูนความรู้ ความคดิ ประสบการณ์ เปน็ ต้น บุคลิกภาพภายในกับบุคลิกภาพภายนอกย่อมสัมพันธก์ ัน เมื่อคุณปรากฏตัวเพือ่ พูดภายใน 4 นาทีแรก ผู้ฟังจะมองคุณที่บุคลิกภาพภายนอก เช่น รูปร่างหน้าตา เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ หลังจากนั้นผู้ฟังจะสนใจเร่ืองอื่น ๆ เช่น เนื้อหาสาระ สื่อ หรืออุปกรณ์ และบุคลิกภาพภายในที่คุณแสดงออก เช่น ความคิด ทัศนคติ อารมณ์ ความเฉลียวฉลาด ความรู้ ความสามารถ เปน็ ตน้ 3. เตรียมเนื้อหา การเตรียมเนื้อหา ต้องให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เหมาะสมกับผู้ฟัง สถานที่ เวลา และโอกาสทไ่ี ดว้ ิเคราะหไ์ ว้แล้ว โดยมีลำดบั ขั้นในการเตรียมเนื้อหาดงั น้ี 3.1 กำหนดวัตถปุ ระสงคก์ ารพูดให้ชัดเจน 3.2 เลอื กเรื่องท่ีจะพดู 3.3 ค้นควา้ รวบรวมเน้อื หา 3.4 วางโครงเรอื่ งและเรียบเรียงเรือ่ ง 4. เตรียมสื่อ (media) สื่อหรือเครื่องมือถ่ายทอดสารในการพูดคือภาษา ผู้พูดจะต้องเตรียม อวัจนภาษา ได้แก่ ถ้อยคำ คำคม ภาษิต คำพูดที่ประทับใจ เตรียมฝึกการใช้อวัจนภาษา ได้แก่ กริยา ท่าทาง การใช้สีหน้า แววตา ฯลฯ รวมไปถึงการเตรียมสื่อหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ให้พร้อม เพื่อให้การพูดนั้นๆ ประสบ ความสำเร็จทีส่ ดุ เช่น ไมโครโฟม รูปภาพ แผนภูมขิ องจริง ฯลฯ เตรียมการใช้ส่ือน้ันให้คล่องแคล่ว และเป็นไป ตามลำดับสอดคล้องกับเรอ่ื งทพี่ ดู แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 56

การฝึกพดู การพูดเป็นทักษะ ฉะนั้นการฝึกพูดจึงเป็นเรื่องสำคัญ ผู้พูดอาจฝึกคนเดียวหรือฝึกต่อหน้าผู้อ่ืน ข้ันตอนการฝึกพดู มีดงั ต่อไปนี้ 1. ทำบทพูดหรือบันทึกสั้น ปัญหาของผู้พูดหลาย ๆ คน คือตั้งแต่เริ่มต้นพูดก็จำไม่ได้ว่าจะทักผู้ฟัง อย่างไร หรือลืมทักผู้ฟัง จาเนื้อหาไม่ได้หรือสับสน ผู้พูดจะต้องอ่านเนื้อหาที่เตรียมไว้ให้เข้าใจ แล้วทาบทพูด หรือบนั ทกึ สั้น ๆ เฉพาะประเดน็ สำคัญ ลำดับไปตามโครงเร่อื งคือ นำเรอื่ ง เนื้อเรอื่ ง และสรุป หากเกรงวา่ จะจำ คำปฏิสันถารผู้ฟังไม่ได้ก็ควรเขียนไว้ในบทด้วย กระดาษที่ทำบทพูดหรือบันทึกสั้นๆ อาจใช้กระดาษธรรมดา หรือกระดาษแขง็ ขนาดครง่ึ หนึง่ ของกระดาษ A4 2. พูดจากความเข้าใจ เร่ิมตง้ั แตป่ ฏสิ นั ถารผ้ฟู ังแลว้ ลำดับไปตามโครงเร่ือง ถ้าเนื้อหาสั้นควรพูดได้เอง โดยไม่ตอ้ งดูบท ถ้าเน้ือหามากและติดขัด ใหด้ ูบทพดู ทบ่ี ันทึกหัวข้อหรือประเด็นสำคญั ไว้ แล้วพดู อธิบาย ขยาย ความเองจากความเข้าใจ การถือกระดาษบันทึก ควรถือให้เรียบร้อย ไม่ม้วน พับ หักมุม เคาะ ดีดม้วนแล้วนา มากระแทกกับฝ่ามอื ฯลฯ 3. ฝกึ การใชอ้ วัจนภาษา เชน่ การใชเ้ สียง สายตา การยืน การเดนิ การใชท้ า่ ทางประกอบการพดู 4. จับเวลา ต้องพดู ใหจ้ บภายในเวลาท่ีกำหนด 5. ประเมินผล รวบรวมข้อบกพร่องในการพูด วิเคราะห์ และประเมินผล หลังจากนั้นควรฝึกซ้อม โดยแกไ้ ขขอ้ บกพร่องต่างๆ นัน้ การปฏบิ ัติการพูด เมื่อเตรียมพร้อมแล้ว ฝึกพูดแล้วขั้นต่อไปก็คือขั้นปฏิบัติการพูด หรือลงมือพูด ซึ่งเริ่มต้น และสิ้นสุด ตามลำดบั ดังน้ี 1. เดินไปสู่ที่พูด การเดินไปสู่ที่พูด ควรเดินอย่างกระฉับกระเฉง มั่นใจ เมื่อถึงที่พูดควรหยุดเล็กน้อย (ในบางกรณี เช่น การประกวดการพูดอาจทาความเคารพกรรมการ) มองผู้ฟัง ยิ้มแย้มแจ่มใส ยืนสบาย ๆ วางเทา้ ใหเ้ หมาะสมไมห่ า่ งหรอื ชดิ เกินไป 2. กลา่ วปฏิสนั ถารผฟู้ งั เรม่ิ ต้นพูดโดยการกล่าวปฏิสนั ถาร หรอื ทักผ้ฟู ังให้เหมาะสม 3. พูดไปตามลำดับโครงเรื่อง เมื่อกล่าวถึงคาปฏิสันถารผู้ฟังแล้วก็เริ่มต้นพูดไปตามลาดับโครงเรื่อง ต้ังแต่ นำเรอ่ื ง เน้อื เรื่อง และลงทา้ ย ถา้ ติดขัดให้ดูหัวข้อหรือประเด็นสำคัญ ที่ทำบันทกึ เตือนความจำไว้ ขณะพูดใช้อวัจนภาษา เช่น การเดิน การยืน การใชส้ ายตา ท่าทาง เสียง และจงั หวะการพูดให้เหมาะสม ถ้าใช้ สอ่ื ประกอบการพูดกต็ ้องใชอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ และเปน็ ไปตามลำดบั สอดคล้องกบั เนือ้ หา 4. การเดินกลบั เมื่อพดู จบควรเดนิ กลับท่นี ง่ั อยา่ งกระฉบั กระเฉงและมั่นใจ ไมร่ ีบรอ้ นเกนิ ไป (บางกรณี เช่น ในการประกวดการพูด ใหก้ า้ วถอยหลังสองก้าว ทำความเคารพผูฟ้ ัง แล้วเดินกลบั ท่ีน่ัง) ผูพ้ ดู ควรสารวมอริ ิยาบถใหส้ ภุ าพเรียบร้อย นับต้ังแต่การเดินไปสทู่ ่ีพูด จนกระทง่ั การเดินกลับสู่ที่น่ัง เพราะทุก อิรยิ าบถอยู่ในสายตาของผู้ฟัง บางคนเมื่อพูดจบก็โล่งใจ ทาใหล้ มื สารวม บางคนว่งิ กลับมายงั ที่น่ัง บางคนแลบ ล้นิ เพราะเขินอายท่ีผดิ พลาด ทำให้เสียบุคลิกภาพยิ่งขึ้น การประเมนิ การพดู การประเมินการพูดอาจประเมินโดยการบรรยาย หรอื ประเมนิ โดยกำหนดเกณฑ์เปน็ คา่ ระดับคะแนน กไ็ ด้ หวั ขอ้ การประเมนิ ทัว่ ไปมีดังนี้ 1. การปรากฏตัวและการปฏิสันถารผู้ฟัง ผู้พูดปรากฏตัวอย่างกระฉับกระเฉงมั่นใจหรือไม่ กล่าวคำ ปฏิสันถารผ้ฟู ังหรอื ไม่ ถกู ตอ้ งเหมาะสมเพยี งไร แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 57

2. การนาเรื่องหรืออารัมภบท ผู้พูดนำเรื่องได้น่าสนใจชวนให้คิดตามเรื่องต่อไปหรือไม่ การนำเรื่อง ช่วยสร้างบรรยากาศการพูดเพียงใด ทำให้ผู้ฟังเลื่อมใสผู้พูด หรือช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจเรื่องที่จะพูดต่อไปหรือไม่ สดั สว่ นการนำเรอื่ งเหมาะสมเพียงใด เปน็ ต้น 3. เนอ้ื หาและการดำเนินเร่ือง เน้ือหาน่าสนใจหรือไม่ การดำเนินเร่ืองทำให้น่าสนใจและชวนติดตาม เพียงไร สัดส่วนของเนื้อหาเหมาะสมหรือไม่ การลำดับเรื่องไม่สับสน เข้าใจง่ายหรือไม่ ตัวอย่างชัดเจน เหมาะสมน่าสนใจเพียงใด 4. การใช้ถ้อยคำสำนวนภาษา และสื่อหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ถ้อยคำสำนวนภาษาที่ใช้สุภาพ เหมาะสม กับผู้ฟังหรือไม่ ลึกซึ้ง คมคาย สอดคล้องกับเรื่องที่พูดหรือไม่ สื่อที่ใช้เหมาะสม และช่วยสื่อความหมายยิ่งข้ึ น หรอื ไม่ ลักษณะการใช้สอ่ื เหมาะสมเพียงใด 5. การออกเสียง ระดับเสียง และจังหวะการพูด การออกเสียงพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ชัดเจน หรือไม่ น้ำเสียงแจ่มใส และนุ่มนวลชวนฟัง หรือสั่นเครือ แหบพร่า และเพี้ยนแปร่ง ระดับเสียงดังพอสมควร หรือไม่ มีการเนน้ ย้ำพอเหมาะชวนให้สนใจติดตามเร่อื งหรอื ไม่ จังหวะการพูดชา้ -เร็ว เหมาะสมเพียงใด 6. การใชส้ ายตาทา่ ทาง ผ้พู ดู มองผฟู้ งั ทั่วถึงหรือไม่ จบั ตาผ้ฟู งั เฉพาะคนบา้ งหรือไม่ ทา่ ทางท่ีใช้สุภาพ เหมาะสมสอดคล้องกับเร่ืองทพ่ี ดู เพียงใด 7. การลงท้าย ผ้พู ูดมีการลงท้ายหรือการจบการพดู หรือไม่ ประทับใจหรือไม่ สัดส่วนของการลงท้าย เหมาะสมเพียงใด จบเร่ืองภายในเวลาท่กี ำหนดหรือไม่ 8. คณุ คา่ ของเรอ่ื ง เน้อื เร่อื งมีคุณค่าตอ่ ผฟู้ ังมาน้อยเพียงใด 9. บคุ ลิกภาพท่ัวไป บคุ ลกิ ภาพท่ัวไป เชน่ การแตง่ กาย การเดิน การยืน(หรอื นัง่ )เหมาะสมหรอื ไม่ 10. ความสนใจของผู้ฟัง ผู้ฟังให้ความสนใจเพียงไร ตั้งใจฟังหรือไม่ ร่วมซักถามหรือแสดงความ คิดเห็นบ้างหรือไม่ จะเห็นได้ว่าการประเมินการพูด ประเมินไปตามองค์ประกอบของการพูดนั่นเอง ได้แก่ ประเมินผู้พูด เนื้อหาสาระ การใช้ภาษาและสื่อ และประเมินผู้ฟัง การประเมินการพูดอาจใช้หัวข้อเดียวกัน แตแ่ ทนที่จะบรรยายอาจกำหนดเกณฑเ์ ป็นคา่ ระดบั คะแนนก็ได้ 3. การพดู ในชวี ิตประจำวนั หลักการพูดซึง่ ประกอบไปดว้ ยการเตรียมการพดู การฝึกพูด และการปฏิบัติการพูดดังที่กล่าวไปแลว้ นั้น คือหลักการพูดอย่างเป็นทางการในที่ประชุม หรือการพูดต่อหน้าชุมชนในโอกาสต่าง ๆ และเพื่อจุดหมาย ตา่ ง ๆ เปน็ การพูดอย่างมีแบบแผน ส่วนการพูดในชีวิตประจำวันนั้นเป็นการพูดท่ีไม่เป็นทางการ ส่วนใหญ่เป็น การพูดที่ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า เช่นการทักทาย ไต่ถามทุกข์สุข แนะนำตัว การตั้งคำถาม การตอบคำถาม การบอกเล่า การพดู โทรศัพท์ การกล่าวขอโทษ ขอบคณุ เปน็ ต้น มีข้อแนะนำกว้าง ๆ เกี่ยวกับการพูดในชีวิตประจำวันคือต้องสุภาพ ให้เกียรติผู้ที่เราพูดด้วย มีคำลง ท้าย ค่ะ/ครับ ทีเ่ หมาะสม ไม่ละเลยทจี่ ะกล่าวคำขอโทษ ขออภัย ขอบใจ ขอบคณุ หรือขอบพระคณุ ให้ เหมาะสมกับบคุ คล การทักทาย นอกจากกล่าวคำ “สวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับ” แล้วตามวัฒนธรรมไทยบางครั้งเราต้อง “ไหว้” ด้วย หากบุคคลนน้ั มอี าวโุ สกว่า หรือเปน็ หวั หน้า เป็นผบู้ ังคบั บญั ชา หรอื เป็นครูอาจารยข์ องเรา การกล่าวคำ “สวัสดี” ต้องสุภาพ น้าเสียงนุ่มนวล การไหว้ ต้องไหว้อย่างตั้งใจ ไม่ใช่อย่างลวก ๆ ขอไปที เพราะถ้าทำเช่นนั้นการไหว้จะไม่มีคุณค่าใด ๆ เลย การกล่าวคำขอโทษ ขออภัย ขอบคุณ หรือ ขอบพระคุณ ก็เช่นเดียวกัน ต้องกล่าวอย่างตั้งใจ จริงใจ และนุ่มนวล ผู้ฟังจึงจะรับสารได้ตามที่เราต้องการ สือ่ สาร ในกรณที เี่ ราทำส่ิงใดส่งิ หนึ่งให้ แลว้ มีผูก้ ลา่ วขอบคุณ เราอาจกล่าวตอบว่า “ไม่เปน็ ไร” ตามท่ีเราเคย กล่าวกันมา หรือในปัจจบุ นั มผี ใู้ ช้คำวา่ “ด้วยความยนิ ดคี ่ะ/ครบั ” กน็ บั เป็นสำนวนทน่ี า่ นำมาใช้ เชน่ เราช่วย แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 58

เปิดประตูให้ ผู้เดินเข้ามากล่าวขอบคุณ เราอาจตอบว่า “ด้วยความยินดีค่ะ/ครับ” ซึ่งหมายความว่าเรายินดี หรอื เต็มใจทจี่ ะทำใหเ้ ขา นับเป็นสำนวนทีน่ ุ่มนวลมไี มตรีจิต ปัจจุบันการพูดโทรศัพท์ นับเป็นกิจกรรมการพูดที่สำคัญมากในชีวิตประจำวัน การพูดโทรศัพท์ทั้ง สองฝ่ายได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นหน้าผู้พูด น้ำเสียงนุ่มนวล ถ้อยคำสุภาพ ใช้ภาษาชัดเจน กระชับ เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราเป็นฝ่ายโทรศัพท์ไป เมื่อกล่าวคำสวสั ดีแล้ว อาจแนะนำตัวเอง แล้วแจ้งความประสงค์ ถ้าผู้ที่เราต้องการ ตดิ ต่อดว้ ยไมอ่ ยู่ อาจฝากขอ้ ความไว้ ก่อนวางสายอยา่ ลืมกลา่ วคำขอบคุณและสวัสดี ในกรณีที่เราเปน็ ฝ่ายรับโทรศพั ท์ ควรกล่าวคำสวสั ดี แล้วบอกสถานที่ หรือหน่วยงาน ถ้าหากจะต้อง ไปตามบคุ คลท่ีอกี ฝา่ ยต้องการจะพูดโทรศัพทด์ ว้ ย ควรบอกว่า “กรุณารอสกั ครู่คะ่ ” และถ้าหากบคุ คลนั้นไม่อยู่ เสนอแนะให้เลือกใชส้ ำนวนต่อไปน้ตี อบใหเ้ หมาะสม เช่น “กรุณาตดิ ตอ่ มาใหม่นะคะ” “จะฝากขอ้ ความไว้ไหม คะ” “ถา้ ท่านกลบั มาจะใหเ้ รียนทา่ นว่าอย่างไรค่ะ” หรือ “ขออภัยคะ่ จะให้เรียนท่านว่าใครโทรมาคะ” เป็นตน้ และถ้ามีการฝากข้อความ การรับฝากข้อความก็ควรระบุชัดเจนว่า ถึงใคร จากใคร ข้อความคืออะไร ผู้รับ โทรศพั ทค์ ือใคร และอยา่ ลมื ลงวนั ที่และเวลาที่รับโทรศพั ท์ด้วย 4. การพดู เพอ่ื วตั ถปุ ระสงคเ์ ฉพาะ เนื้อหาเกี่ยวกับการพูดเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะที่จะเสนอต่อไปนี้เป็นการพูดที่ใช้มากในการศึกษา ระดับอดุ มศกึ ษา และนักศึกษาจะตอ้ งปฏบิ ัตใิ ห้ถูกต้อง การพูดเพ่ือนำเสนองาน การศึกษาระดับอุดมศึกษา นักศึกษามักตอ้ งศึกษาคน้ คว้าทำรายงาน ทำโครงงานหรอื ทำวิจยั แล้วนาเสนองานนั้นต่อที่ประชุม ส่วนใหญ่เป็นการพูดในลักษณะสรุปผล การพูดคนเดียวเพื่อนำเสนองานต่อที่ ประชมุ มีขนั้ ตอนในการนำเสนอ ดงั นี้ 1. กล่าวคาปฏิสันถารผู้ฟัง ในที่ประชุมมีอาจารย์และนักศึกษา และเป็นการนำเสนอหรือเรียนให้ อาจารย์ทราบถึงงานที่ทำ การกล่าวปฏิสันถารหรือทักที่ประชุม อาจใช้ว่า “เรียนอาจารย์ และสวัสดีเพื่อน นักศึกษาทุกคน” หรือกรณีที่บรรยากาศในการนำเสนอครั้งนั้นไม่เป็นทางการมากนัก อาจทักที่ประชุมโดยใส่ อารมณ์และความรู้สึกด้วยเป็น “เรียนอาจารย์ที่เคารพและสวัสดีเพื่อนนักศึกษาที่รักทุกคน” หากในที่ประชุม นั้นมีบุคคลภายนอกเข้าฟังด้วย อาจใช้คำทักเป็นกลาง ๆ ว่า “เรียนอาจารย์ และท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน” หรือ “เรียนอาจารย์และท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่าน” ถ้าหากเป็นการนำเสนองานในที่ประชุมอื่น ๆ เช่น ห้อง ประชุมของบริษัท อาจทักที่ประชุมว่า “เรียนท่านประธานและคณะกรรมการทุกท่าน” หรือ “เรียนท่าน ประธานและคณะกรรมการทีเ่ คารพทุกท่าน” โปรดพิจารณาใช้คำปฏิสนั ถารใหเ้ หมาะสม เมื่อกล่าวคำปฏิสันถารผู้ฟังแล้วจึงบอกชื่อเรื่องที่จะนำเสนอ และนำเสนอรายละเอียดในสว่ นต้นบาง ประการ เช่น วตั ถุประสงค์ ขอบขา่ ยและทม่ี าของขอ้ มลู เป็นต้น 2. นำเสนอ พูดไปตามหวั ข้อหรือประเด็นสำคญั ของงาน ลกั ษณะการพูด ให้พดู จากความเข้าใจโดยดู หัวข้อที่ทำบันทึกไว้ แล้วอธิบายขยายความหรือยกตัวอย่างเองตามที่เตรียมไว้ กรณีที่เนื้อหาบางตอนมี รายละเอียด และจำเป็นต้องนำเสนอ อาจพูดแบบอ่านจากร่างหรือต้นฉบับ นั่นคืออ่านจากบันทึกโดยเงยหน้า สบตาผูฟ้ งั บ้าง และควรใชว้ ิธนี ี้ในระยะสนั้ ๆ เทา่ น้นั เพราะการอา่ นจากบันทึก แม้จะเงยหน้าสบตากับผู้ฟังบ้าง แต่ก็เป็นการพูดที่ขาดชีวิตชีวา ผู้ฟังจะเบื่อมาก หากมีรายละเอียดมากและจำเป็นต้องนาเสนอ ควรแก้ไขโดย การใช้สื่อหรือเอกสารประกอบการนำเสนอ ขณะพูดใช้อวัจนภาษาต่าง ๆ ให้เหมาะสม เช่น การใช้สายตา นำ้ เสยี ง จังหวะการพดู ท่าทางประกอบ เป็นต้น แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 59

3. การใช้สื่อ ในกรณีที่มีสื่อหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ประกอบการพูดรายงาน ควรฝึกซ้อมและนำเสนอให้ คลอ่ งแคลว่ เปน็ ไปตามลำดับ สอดคลอ้ งกับเรือ่ งท่ีกำลงั พูด จะชว่ ยใหก้ ารนำเสนอประสบความสำเร็จ 4. เปิดโอกาสให้ผู้ฟังซักถามหรือแสดงความคิดเห็น เมื่อสรุปจบการรายงานหรือการนำเสนอแล้ว ควรเปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้ซักถามหรือแสดงความคิดเห็น ผู้นำเสนอควรตอบคำถามอย่างสุภาพ รับฟัง ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติมอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 5. จบการพูด ควรจบการพูดรายงานหรอื การนำเสนอดว้ ยการกล่าวขอบคณุ และกล่าวสวสั ดี ในกรณี ที่ต้องเดินกลับสู่ที่นั่ง ให้เดินกลับสู่ที่นั่งอย่างมั่นใจและสารวม เพราะทุกอิริยาบถของผู้พูดยังอยู่ในสายตาผู้ฟัง โดยตลอด การพดู รายงานคนเดียวตอ่ ทีป่ ระชมุ น้ัน งานทน่ี าเสนออาจเป็นงานที่ทำเด่ยี ว หรือทำเปน็ กลุ่มก็ได้ แต่ มตี ัวแทนกลุ่มพูดรายงานเพียงคนเดียว ในกรณนี ี้ สมาชกิ ลุ่มคนอืน่ ๆ อาจคอยชว่ ยเหลือในตอนใชส้ ่ือ หรือช่วย ตอบคาถาม เป็นต้น การแนะนำและกลา่ วเชิญวิทยากร การศึกษาระดับอุดมศึกษา นักศึกษาต้องศึกษาค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งศึกษา จากผู้เชี่ยวชาญหรือวิทยากร การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ก็อาจเชิญวิทยากรมาบรรยาย อภิปราย สาธิต หรือ ให้ ข้อคิด ข้อเสนอแนะ ซึ่งบางครั้งนักศึกษาอาจต้องมีบทบาทในการแนะนำและกล่าวเชิญวิทยากร ลำดับขั้นใน การแนะนำและกลา่ วเชิญวทิ ยากรหรือผูพ้ ดู มีดงั นี้ 1. กลา่ วปฏิสนั ถารผูฟ้ ัง การกลา่ วปฏิสนั ถารหรือทักผู้ฟงั จะต้องพิจารณาใหเ้ หมาะสม เชน่ อาจกล่าว ปฏิสันถารว่า “ท่านประธาน อาจารย์ นักศึกษา และท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน” หรือ “คณะอาจารย์-นักศึกษา และท่านผู้มีเกยี รตทิ ี่เคารพทกุ ทา่ น” เปน็ ต้น 2. อารมั ภบท คือการกล่าวเกรนิ่ ถึงโอกาสท่ีมีกิจกรรมนั้น ๆ สนั้ ๆ เช่น กจิ กรรมนน้ั ๆ จัดข้ึนเน่ืองใน โอกาสใด ใครเป็นผู้จดั มีความสำคญั อย่างไร โดยพดู เช่อื มโยงให้สัมพันธ์กบั เร่ืองหรือหัวขอ้ ที่เชิญวิทยากรมาพดู 3. แนะนำ แนะนำโดยบอกช่ือ-นามสกุล การศึกษา ตำแหน่งหน้าท่ี ประสบการณก์ ารทำงาน ผลงาน ความรู้ ความสามารถพิเศษในเรอ่ื งที่เชญิ มาพูด ในกรณีที่วิทยากรมตี ำแหนง่ หนา้ ทหี่ รือประสบการณ์การทางาน และผลงานมากมาย อาจเลือกแนะนำเฉพาะที่สำคัญ หรืออาจขอคำแนะนาจากวิทยากรว่าประสงค์จะให้ แนะนำอย่างไรบ้าง การแนะนำไม่ควรยืดยาวเกนิ 2 นาที และไม่ควรสัน้ กว่า 2 นาที ถ้ายาวเกินไปผู้ฟังจะเบอ่ื หากสนั้ เกนิ ไปผูฟ้ ังกจ็ ะจับใจความอะไรไม่ได้ และเกิดความรู้สกึ เหมอื นผ้แู นะนำไมใ่ ห้ความสำคัญแกว่ ิทยากร 4. กล่าวเชิญ เมื่อแนะนำวิทยากรจบแล้ว อย่าลืมกล่าวเชิญ ผู้พูดโดยอาจกล่าวว่า “ขอเชิญคุณ...... ค่ะ/ครบั ” หรือ “เรียนเชญิ ทา่ นวทิ ยากร รองศาสตราจารย์.....คะ่ /ครับ การกลา่ วขอบคณุ วทิ ยากร เมื่อวิทยากรพูดจบลง พิธีกรซึ่งเป็นผู้กล่าวแนะนำจะออกมาขอบคุณวิทยากร หรืออาจกล่าว เชิญให้ผู้ฟังคนใดคนหนึ่ง (ต้องเชิญให้รู้ตัวไวก้ ่อนล่วงหน้า) ออกมาขอบคุณวิทยากรก็ได้ ลำดับขั้นในการกล่าว ขอบคุณมดี งั น้ี 1. กล่าวปฏิสันถารผู้ฟัง กล่าวปฏิสันถารหรือทักผู้ฟังสั้น ๆ ควรทักวิทยากรด้วย เพราะจะขอบคุณ วิทยากร เช่น อาจกล่าวคำปฏิสันถารว่า “ท่านประธาน ท่านวิทยากร ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน” หรือ “ท่าน วิทยากร อาจารย์ และท่านผ้มู ีเกียรตทิ ี่เคารพทกุ ทา่ น” เป็นตน้ 2. กล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการฟัง เช่น ความรู้ ข้อคิดที่ได้รับ ความประทับใจ อาจกล่าว คาดหวงั วา่ วิทยากรจะใหเ้ กยี รติมาพูดอกี ในโอกาสต่อไป 3. กล่าวขอบคุณ อาจมีการเชิญชวนให้ผู้ฟังปรบมือเป็นการรว่ มกันขอบคุณวิทยากรและหลังจากนน้ั อาจมกี ารมอบของท่ีระลกึ แกผ่ ู้พดู หรือวทิ ยากร แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 60

การพูดในโอกาสต่าง ๆ การศึกษาในระดับอุดมศึกษา อาจมีการจัดกิจกรรมพิเศษเนื่องในโอกาสต่าง ๆ เช่น การรับ น้องใหม่ การเลี้ยงส่งรุ่นพี่ การแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัล ฯลฯ ในโอกาสพิเศษเหล่านี้นักศึกษาอาจมี บทบาทต้องกล่าวอวยพร ต้อนรับ หรือแสดงความยินดี ฯลฯ การเตรียมการพูดและขั้นตอนการพูดในโอกาส ต่างๆ เหลา่ นี้ มีหลกั กลาง ๆ เช่นเดยี วกับการพูดท่วั ไป ขอเสนอขั้นตอนการพูดในโอกาสดังกล่าวแตเ่ พียงสังเขป โดยนกั ศึกษาจะตอ้ งปรบั ใช้ใหเ้ หมาะสม ดงั น้ี 1. กล่าวปฏสิ นั ถารผู้ฟงั 2. กล่าวถึงความรูส้ กึ เป็นเกยี รติ ที่ไดม้ าอวยพร ยินดที ่ไี ด้ต้อนรับ ยนิ ดีท่ีไดม้ าแสดงความชน่ื ชมฯลฯ และอาจกลา่ วถึงความสัมพันธ์ระหวา่ งผู้พูดกับผ้ทู บ่ี ุคคลจะอวยพร ตอ้ นรับ หรือ แสดงความยินดดี ้วย นน้ั 3. ใหข้ ้อคิดหรือเหตุผลให้สอดคลอ้ งกบั โอกาสนั้น ๆ เช่น ข้อคิดเกี่ยวกับการปฏบิ ัตติ นของน้องใหม่ เหตุผลที่ช่นื ชมและยนิ ดที มี่ ีความพากเพยี รจนสำเร็จเปน็ บัณฑติ เกยี รตนิ ยิ มอันดับ 1 หรอื เปน็ นกั กีฬาดเี ดน่ ฯลฯ 4. กลา่ วอวยพร ตอ้ นรับ แสดงความยินดี หรอื อาลา ฯลฯ และอาจมีการมอบของทีร่ ะลกึ ของขวญั ของรางวัล แลว้ แต่กจิ กรรมนั้น ๆ การพูดเป็นพฤติกรรมการติดตอ่ ส่ือสารของมนุษย์ทีส่ ำคัญมากการพูดใหไ้ ด้ดีตอ้ งมีการเตรียมการพูด ซึ่งไม่ว่าจะพูดโดยมีวัตถุประสงค์ใดหรือพูดในโอกาสใด ล้วนมีหลักการเตรียมการพูดอย่างเดียวกัน นั่ นคือ เตรยี มไปตามองค์ประกอบของการพูด ได้แก่ เตรียมตวั ผพู้ ูด เน้อื หาสาระภาษา และสอ่ื อ่ืนๆ ทง้ั นต้ี ้องให้เหมาะ กับผู้ฟัง สถานที่ เวลา และโอกาส นอกจากการเตรียมการพูดแล้ว ควรฝึกพูดทบทวนและแก้ไขข้อบกพร่อง จะช่วยให้สามารถพัฒนาการพูดให้ดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตามการพูดและการปฏิบัติจะต้องสอดคล้องกัน ต้องพูดดี และทาดดี ้วย จึงจะประสบความสำเร็จในชีวิต แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 61

ใบงานที่ 7 เร่อื ง การใช้ศลิ ปะในการพดู วชิ า ภาษาไทย ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย คำสงั่ ใหน้ กั ศึกษา สืบค้นตัวอย่างนักพูดทไี่ ดร้ บั การยอมรบั ในชมุ ชน หรือพธิ กี รรายการทางวทิ ยแุ ละโทรทศั น์ ที่ประสบความสำเรจ็ โดยให้ศึกษาเกย่ี วกับประวัตสิ ว่ นตวั ผลงานเด่น และให้กลมุ่ ร่วมกนั วเิ คราะหว์ ่าบคุ คล ตัวอย่างท่ีศึกษามามีคุณสมบัตกิ ารพดู ที่ดอี ย่างไรบ้าง ( 10 คะแนน) นักพูดชื่อ …………………………………………………………………………….………………………………………………… ประวตั สิ ่วนตัว …………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………….………………………………………………………………………………………… ………………………………………….…………………………………………………………………………………… …………………………………………………….………………………………………………………………………… ……………………………………………………………….……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………….……………………………………………… ……………………………………………………………………….……………………………………………………… …………………………………………………………………………….………………………………………………… ………………………………………………………………………………….…………………………………………… ผลงานเด่น ………………………………………………………………………………………………………………..……………… ………………………………………………………………………………………………………..……………………… …………………………………………………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………………………………………………………..……………… ……………………………………………………………………………………………………..………………………… …………………………………………………………………………………………………………………..…………… คณุ สมบตั นิ ักพดู ท่ดี ีเปน็ ที่ยอมรบั ………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………………………………………………………..……………… ……………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………..………… แผนการจดั การเรยี น…ร…ู้ ร…าย…ว…ชิ า…ภ…า…ษ…าไ…ท…ย …พ…ท…๓…๑๐…๐…๑……ระ…ด…บั …มธั …ย…มศ…ึก…ษ…าต…อ…น…ปล…า…ย…ก…ศ…น….อ…ำเ…ภอ…โ.ช.…คช…ัย……………6…2… ………………………………………………………………………………………………………..………………………

แผนการจัดการเรยี นรคู้ รัง้ ที่ 8 (การเรียนรูด้ ้วยตนเอง) กลุ่มสาระ ความรพู้ ้นื ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย รหัส พท31001 จำนวน 5 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เร่ือง ความสำคญั ของการอ่าน ตีความ แปลความ และขยายความ จำนวน 2 ชวั่ โมง เวลา............................. สอนวนั ท่ี..............เดอื น.........................พ.ศ. ......................... ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 *************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ 1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจหลักการตคี วามแปลความและขยายความ 2. มีความร้คู วามเข้าใจการอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ และภาษาถน่ิ สำนวน สภุ าษิตในวรรณกรรม ทอ้ งถนิ่ ตวั ช้ีวัด อธบิ ายการตีความ แปลความ และขยายความเรอื่ งทอ่ี ่าน เน้อื หา เร่อื ง ความสำคัญของการอ่าน หลักการตีความ แปลความ และขยายความ คณุ ธรรม 1. ร่วมกจิ กรรม การเรียนรู้ การทำงานดว้ ยความ ตัง้ ใจ มคี วามเพยี รพยายาม กระตือรือร้น 2. ทำงานท่ไี ด้รบั มอบหมายได้ถกู ต้องและเสร็จทันตามกำหนด 3. แสวงหาความรู้อย่างตอ่ เนื่องสามารถแกป้ ัญหาได้ดว้ ยตนเอง กิจกรรมการเรียนร้ตู อ่ เนื่อง 1. ให้ผู้เรียนสรุปเนื้อหาที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าเรื่อง ความสำคัญของการอ่าน ตีความ แปลความ และขยายความ 2. ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบออนไลน์ สือ่ และแหล่งเรียนรู้ 1. ใบความร้อู อนไลน์/หนงั สือแบบเรยี น 2. การสบื ค้นขอ้ มูลจาก Internet การวดั และประเมนิ ผล 1. ความตรงเวลาของผ้เู รียนในการสง่ งานที่ได้รับมอบหมาย 2. ตรวจแบบทดสอบออนไลน์ แหลง่ การเรียนร/ู้ สบื ค้นขอ้ มูลเพ่มิ เติม 1. หอ้ งสมุดประชาชน 2. กศน.ตำบล 3. แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ 4. Internet 5. ภูมปิ ัญญา / แหล่งเรียนรู้ 6. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 63

ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา พิจารณาแลว้ .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... (นางจรี ะภา วัฒนกสิการ) ผู้อำนวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอโชคชยั แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 64

บนั ทึกหลังการสอน ความสำเรจ็ ในการจัดการเรียนการสอน ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. .......................................................................................................................................................................... ปัญหา / อุปสรรค ในการจดั การเรยี นการสอน ................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................ ............................... .................................................................................................... ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .............................................. ลงชื่อ.......................................ครผู ู้สอน (..............................................) คร.ู ........................................... วันท่ี..........เดือน..........................พ.ศ. ........................ ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. .................................................. ....................................................................................................................................................................... ........ ........................................................................................................................... .................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ผูบ้ งั คับบญั ชา (นางจรี ะภา วัฒนกสิการ) ผู้อำนวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอโชคชัย แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 65

ใบความรู้ท่ี 8 และใบงานที่ 8 เรือ่ ง การอา่ น ตคี วาม แปลความ และขยายความ วชิ า ภาษาไทย ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย QR CORD ใบความรู้ เร่อื ง การอา่ น ตีความ แปลความ และขยายความ QR CORD แบบทดสอบ เรือ่ ง การอา่ น ตีความ แปลความ และขยายความ แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 66

แผนการจดั การเรยี นรคู้ รัง้ ที่ 9 (การเรยี นรู้ด้วยตนเอง) กล่มุ สาระ ความรู้พ้นื ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย รหัส พท31001 จำนวน 5 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย เรอื่ ง วจิ ารณญาณในการอ่าน และความหมายของภาษาท้องถ่นิ จำนวน 22 ชว่ั โมง เวลา............................ สอนวนั ท่ี..............เดือน.........................พ.ศ. ......................... ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 *************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั 1. มีความร้คู วามเขา้ ใจหลกั การตีความแปลความและขยายความ 2. มคี วามรคู้ วามเข้าใจการอ่านอยา่ งมีวิจารณญาณ และภาษาถ่นิ สำนวน สภุ าษิตในวรรณกรรม ท้องถน่ิ ตวั ชว้ี ดั 1. อธิบายวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ความสมเหตสุ มผลการลำดบั ความคิดและความเป็นไปได้ของเร่อื งท่ีอ่าน 2. อธบิ ายความหมายของภาษาถนิ่ สำนวน สภุ าษติ ทปี่ รากฏในวรรคดี วรรณกรรมปัจจุบัน วรรณกรรมท้องถน่ิ 4. เลือกใช้สือ่ ในการคน้ คว้าหาความรทู้ ีห่ ลากหลาย มีมารยาทในการอา่ นและมนี สิ ยั รักการอา่ น เนือ้ หา เรอ่ื งท่ี 1 วิจารณญาณในการอา่ น เรื่องท่ี 2 การอ่านวรรคตอนในวรรณคดี และความหมายของภาษาถนิ่ สำนวน สุภาษติ ในวรรณกรรม ท้องถนิ่ เรือ่ งที่ 3 การมีมารยาทและนสิ ยั รกั การอ่าน คุณธรรม 1. รว่ มกิจกรรม การเรียนรู้ การทำงานด้วยความ ต้ังใจ มคี วามเพยี รพยายาม กระตือรอื ร้น 2. ทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายได้ถูกต้องและเสร็จทนั ตามกำหนด 3. แสวงหาความรู้อย่างต่อเน่ืองสามารถแกป้ ัญหาไดด้ ้วยตนเอง กิจกรรมการเรยี นรู้ตอ่ เนื่อง 1. ใหผ้ ู้เรยี นสรุปเน้ือหาท่ีไดจ้ ากการศึกษาคน้ คว้าเร่ือง วจิ ารณญาณในการอา่ น ความหมายของภาษา ทอ้ งถ่ิน 2. ใหผ้ ู้เรียนทำแบบทดสอบออนไลน์ สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1. ใบความร้อู อนไลน์/หนงั สือแบบเรยี น 2. การสบื คน้ ขอ้ มลู จาก Internet 3. สมุดบันทึกรกั การอ่าน การวดั และประเมินผล 1. ความตรงเวลาของผ้เู รียนในการส่งงานท่ีได้รบั มอบหมาย 2. ตรวจแบบทดสอบออนไลน์ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 67

แหลง่ การเรียนร้/ู สืบคน้ ขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ 1. ห้องสมุดประชาชน 2. กศน.ตำบล 3. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 4. Internet 5. ภูมปิ ญั ญา / แหลง่ เรยี นรู้ 6. ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา พิจารณาแล้ว.................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................................................... (นางจรี ะภา วัฒนกสกิ าร) ผอู้ ำนวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอโชคชัย แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 68

บนั ทกึ หลังการสอน ความสำเร็จในการจัดการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. .......................................................................................................................................................................... ปัญหา / อุปสรรค ในการจัดการเรยี นการสอน ................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................ ............................... .................................................................................................... ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการแก้ปญั หา ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอื่ .......................................ครูผู้สอน (..............................................) ครู............................................ วันท่ี..........เดือน..........................พ.ศ. ........................ ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ........................................................................................................................................ ....................................... ............................................................................................ ................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ผ้บู ังคบั บญั ชา (นางจรี ะภา วัฒนกสกิ าร) ผอู้ ำนวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอโชคชัย แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 69

ใบความรู้ที่ 9 เร่อื ง วิจารณญาณในการอ่าน และความหมายของภาษาท้องถิ่น วิชา ภาษาไทย ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย QR CORD ใบความรู้ เร่ือง วจิ ารณญาณในการอา่ น และความหมายของภาษาท้องถน่ิ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 70

ใบงานท่ี 9 เรื่อง วิจารณญาณในการอา่ น และความหมายของภาษาทอ้ งถ่ิน วชิ า ภาษาไทย ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย คำส่งั จากท่ีนกั ศึกษาไดเ้ รียนรู้ ใบความรู้ ออนไลน์ เร่ือง วจิ ารณญาณในการอา่ น และความหมายของภาษา ทอ้ งถน่ิ 1. ให้นักศกึ ษาอ่านข่าว บทความ หรือขอ้ ความ และใชว้ จิ ารณญาณในการอา่ นตามขั้นตอนท้งั 4 ขั้นตอน และประเมินตนเองวา่ สามารถทำไดค้ รบทุกขั้นตอนหรือไม่ และเมอ่ื ประเมินแลว้ รสู้ กึ สนใจเร่อื งของการอ่าน เพม่ิ ขึ้นหรือไม่ (5 คะแนน) ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ......................................................................................... .............................................................................. ............................................................................................................................. ......................................... ....................................................................................................................................... ................................ .................................................................................................. .................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ................................................................................................................................................ ...................... ............................................................................................................ ........................................................... ............................................................................................................................. ......................................... .......................................................................................................................................................... ............. ..................................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. ......................................... แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 71

2. ให้นักศกึ ษาอธิบายความหมายของภาษาถิ่น ภาษามาตรฐาน และภาษาเฉพาะวงการ (5 คะแนน) ............................................................................................................................. .......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ...................................................................................................................................................................... 3. ยกตวั อยา่ ง คำภาษาถิ่นเหนอื ภาษาถนิ่ อสี าน ภาษาถน่ิ ใต้ และภาษาถิน่ ตะวนั ออก ภาษาถน่ิ ละ 10 คำ (5 คะแนน) ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. ......................................... .................................................................................... ................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... .................................................................................................................................. ..................................... ............................................................................................. ......................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................................................................... ........................... แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 72

แผนการจัดการเรียนรคู้ รงั้ ที่ 10 (สอนเสริม) กลุม่ สาระ ความรพู้ ้ืนฐาน รายวชิ า ภาษาไทย รหสั พท31001 จำนวน 5 หนว่ ยกติ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย เรื่อง การอ่านวรรคตอนในวรรณคดี และสุภาษติ ในวรรณกรรมท้องถ่นิ จำนวน 6 ช่ัวโมง เวลา.............................. สอนวันที.่ .............เดือน.........................พ.ศ.......................... ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 *************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั 1. มีความรู้ความเข้าใจหลักการตคี วามแปลความและขยายความ 2. มีความรคู้ วามเข้าใจการอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ และภาษาถิ่น สำนวน สภุ าษติ ในวรรณกรรม ทอ้ งถิ่น ตวั ชี้วัด อธบิ ายความหมายของภาษาถน่ิ สำนวน สุภาษติ ทป่ี รากฏในวรรคดี วรรณกรรมปัจจุบนั วรรณกรรม ทอ้ งถ่นิ เน้อื หา เรอื่ งท่ี การอา่ นวรรคตอนในวรรณคดี และความหมายของภาษาถิน่ สำนวน สภุ าษติ ในวรรณกรรม ท้องถ่นิ คณุ ธรรม 1. รว่ มกิจกรรม การเรยี นรู้ การทำงานด้วยความ ตัง้ ใจ มีความเพียรพยายาม กระตือรอื รน้ 2. ทำงานท่ไี ด้รับมอบหมายได้ถกู ต้องและเสรจ็ ทนั ตามกำหนด 3. แสวงหาความรูอ้ ย่างตอ่ เนื่องสามารถแกป้ ัญหาไดด้ ้วยตนเอง กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั นำ - ครูผสู้ อนทบทวนความรเู้ ดิม ข้ันจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ - ครูผู้สอนแจกใบความรู้ ใบงาน และอธิบายเกี่ยวกบั การนำเสนอความรคู้ วามคดิ เหน็ ทไ่ี ดจ้ าก การฟงั และดู - ครูผู้สอนให้ผู้เรยี นศกึ ษาเรยี นรู้จากใบความรู้ และใหท้ ำใบงานส่งในช่วั โมง ข้ันสรปุ - ครผู ้สู อนสรุปความรูท้ ่ีได้รบั และเตมิ เต็มองค์ความรู้พร้อมกับมอบหมายงานใหไ้ ปศึกษา ดว้ ยตนเองเพ่ิมเติม ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ 1. ใบความรู้ 2. หนังสอื แบบเรยี น 3. ใบงาน/การสืบคน้ ข้อมูลจาก Internet แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 73

การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี นรู้ 2. วัดความรจู้ ากการทำกิจกรรมในใบงาน ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา พิจารณาแลว้ .......................................................................................................................................... ......................................................................................................... ...................................................... (นางจีระภา วัฒนกสกิ าร) ผอู้ ำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอโชคชัย แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 74

บันทึกหลังการสอน ความสำเรจ็ ในการจดั การเรียนการสอน ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................ .......... ปญั หา / อุปสรรค ในการจัดการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ............................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. .................................................................................................................................................................... ........... ........................................................................................................................ ................................................... ลงชื่อ.......................................ครผู สู้ อน (..............................................) ครู............................................ วันท.่ี .........เดอื น..........................พ.ศ. ........................ ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ลงชื่อ ผู้บังคับบัญชา (นางจีระภา วฒั นกสิการ) ผ้อู ำนวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอโชคชัย แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 75

ใบความรู้ท่ี 10 เรื่อง การอา่ นวรรคตอนในวรรณคดี และสภุ าษิตในวรรณกรรมท้องถ่นิ วิชา ภาษาไทย ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย QR CORD ใบความรู้ เรื่อง การอา่ นวรรคตอนในวรรณคดี และสภุ าษิตในวรรณกรรมท้องถ่ิน แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 76

ใบงานท่ี 10 เรอ่ื ง การอ่านวรรคตอนในวรรณคดี และสภุ าษิตในวรรณกรรมทอ้ งถ่นิ วชิ า ภาษาไทย ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย คำสัง่ จากทน่ี ักศึกษาได้เรยี นรู้ ใบความรู้ ออนไลน์ เร่ือง การอ่านวรรคตอนในวรรณคดี และสุภาษิตใน วรรณกรรมท้องถน่ิ แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 77

............................................................................................................................. .......................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ...................................................................................................................................... ................................ .................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ................................................................................................................................................ ....................... ........................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ......................................................................................................................................................... ............. ..................................................................................................................... .................................................. ............................................................................................................................. ......................................... ................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ......................................... ............................................................................................................................. ......................................... แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 78

แผนการจดั การเรียนรู้ครัง้ ที่ 11 (การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง) กลุม่ สาระ ความรู้พน้ื ฐาน รายวิชา ภาษาไทย รหสั พท31001 จำนวน 5 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เร่อื ง หลักการเขยี น จำนวน 23 ชว่ั โมง เวลา.................. สอนวนั ที่..............เดือน.........................พ.ศ. ......................... ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 *************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจหลกั การเขยี นประเภทตา่ งๆ โดยใชค้ ำในการเขยี นไดต้ รงความหมาย และถูกตอ้ ง ตามอักขระวธิ ี และระดบั ภาษา ตวั ชวี้ ดั อธบิ ายการเขียนแผนภาพ ความคิดเขยี นย่อความ เรยี งความ จดหมาย เขยี นอธบิ าย และหลักการ เขยี นและโวหารต่าง ๆ ได้ถูกตอ้ งตามอักขระวิธี และระดบั ภาษา เนื้อหา เร่ือง หลักการเขียน คณุ ธรรม 1. ร่วมกจิ กรรม การเรียนรู้ การทำงานดว้ ยความ ตง้ั ใจ มีความเพยี รพยายาม กระตือรือร้น 2. ทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายได้ถูกต้องและเสรจ็ ทนั ตามกำหนด 3. แสวงหาความรอู้ ย่างต่อเน่ืองสามารถแก้ปัญหาไดด้ ว้ ยตนเอง กจิ กรรมการเรยี นรตู้ อ่ เนื่อง 1. ใหผ้ ู้เรยี นสรปุ เน้อื หาท่ีได้จากการศึกษาค้นควา้ เรอื่ ง หลักการเขียน 2. ให้ผ้เู รยี นทำแบบทดสอบออนไลน์ สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1. ใบความรู้ออนไลน/์ หนังสือแบบเรียน 2. การสบื คน้ ขอ้ มลู จาก Internet 3. สมุดบนั ทกึ รักการอ่าน การวัดและประเมนิ ผล 1. ความตรงเวลาของผู้เรยี นในการส่งงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. ตรวจแบบทดสอบออนไลน์ แหล่งการเรยี นรู/้ สืบคน้ ข้อมูลเพิม่ เตมิ 1. ห้องสมุดประชาชน 2. กศน.ตำบล 3. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 4. Internet 5. ภมู ปิ ญั ญา / แหล่งเรียนรู้ 6. ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 79

ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา พิจารณาแลว้ .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... (นางจรี ะภา วัฒนกสิการ) ผู้อำนวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอโชคชยั แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 80

บนั ทกึ หลังการสอน ความสำเร็จในการจัดการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. .......................................................................................................................................................................... ปัญหา / อุปสรรค ในการจัดการเรยี นการสอน ................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................ ............................... .................................................................................................... ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการแก้ปญั หา ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอื่ .......................................ครูผู้สอน (..............................................) ครู............................................ วันท่ี..........เดือน..........................พ.ศ. ........................ ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ......................................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................. .................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ผบู้ งั คบั บญั ชา (นางจรี ะภา วัฒนกสกิ าร) ผอู้ ำนวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอโชคชัย แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 81

ใบความรูท้ ี่ 11 เร่อื ง หลักการเขยี น วชิ า ภาษาไทย ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย QR CORD ใบความรู้ เรือ่ ง หลักการเขียน แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 82

ใบงานที่ 11 เรอ่ื ง หลักการเขยี น วิชา ภาษาไทย ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย คำส่ัง จากที่นักศึกษาไดเ้ รียนรู้ ใบความรู้ ออนไลน์ เรือ่ ง การเขียน แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 83

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 84

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 85

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 86

แผนการจดั การเรยี นรคู้ รัง้ ท่ี 12 (การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง) กลุ่มสาระ ความร้พู ืน้ ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย รหัส พท31001 จำนวน 5 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เร่อื ง หลักการแต่งคำประพันธ์ และมมี ารยาทและนสิ ยั รักการเขยี น จำนวน 15 ชว่ั โมง เวลา......................... สอนวันที.่ .............เดือน.........................พ.ศ. ......................... ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565 *************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั มคี วามรูค้ วามเข้าใจหลกั การเขยี นประเภทต่าง ๆ โดยใชค้ ำในการเขียนได้ตรงความหมาย และถูกต้อง ตามอักขระวิธี และระดับภาษา ตัวชวี้ ดั มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั การแตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพย์ กลอด โคลง ฉนั ท์ ร่าย ได้ เนอ้ื หา เรอ่ื งท่ี 1 หลกั การแตง่ คำประพันธ์ เรอ่ื งท่ี 2 มารยาทและนสิ ยั รักการเขียน คณุ ธรรม 1. ร่วมกจิ กรรม การเรยี นรู้ การทำงานด้วยความ ตั้งใจ มคี วามเพยี รพยายาม กระตือรือรน้ 2. ทำงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายไดถ้ ูกต้องและเสรจ็ ทันตามกำหนด 3. แสวงหาความรอู้ ย่างต่อเนื่องสามารถแกป้ ัญหาไดด้ ้วยตนเอง กิจกรรมการเรียนรู้ต่อเน่อื ง 1. ให้ผู้เรียนสรปุ เนื้อหาที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าเรื่อง การเขียนคำประพันธ์ และมีมารยาทและนิสัย รกั การเขียน 2. ใหผ้ ูเ้ รียนทำแบบทดสอบออนไลน์ สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ 1. ใบความรู้ออนไลน์/หนังสือแบบเรียน 2. การสืบคน้ ข้อมูลจาก Internet 3. สมดุ บนั ทึกรักการอ่าน การวดั และประเมนิ ผล 1. ความตรงเวลาของผ้เู รียนในการส่งงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 2. ตรวจแบบทดสอบออนไลน์ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 87

แหลง่ การเรียนร้/ู สืบคน้ ขอ้ มูลเพิ่มเตมิ 1. ห้องสมุดประชาชน 2. กศน.ตำบล 3. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 4. Internet 5. ภูมปิ ญั ญา / แหลง่ เรียนรู้ 6. ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา พิจารณาแล้ว.................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................................................... (นางจรี ะภา วัฒนกสกิ าร) ผอู้ ำนวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอโชคชัย แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชัย 88

บนั ทกึ หลังการสอน ความสำเร็จในการจัดการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. .......................................................................................................................................................................... ปัญหา / อุปสรรค ในการจัดการเรยี นการสอน ................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................ ............................... .................................................................................................... ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการแก้ปญั หา ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอื่ .......................................ครูผู้สอน (..............................................) ครู............................................ วันท่ี..........เดือน..........................พ.ศ. ........................ ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ........................................................................................................................................ ....................................... ............................................................................................ ................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ผ้บู ังคบั บญั ชา (นางจรี ะภา วัฒนกสกิ าร) ผอู้ ำนวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอโชคชัย แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย พท๓๑๐๐๑ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.อำเภอโชคชยั 89