Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Published by bbcmarketing5, 2020-10-28 04:01:19

Description: ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Search

Read the Text Version

พระราชบัญญตั ิส่งเสรมิ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม พ.ศ. 2543\" มาตรา 3 ในพระราชบัญญัติน้ี \"วิสาหกจิ \" หมายความวา่ กจิ การผลติ สินค้า กิจการใหบ้ รกิ าร กจิ การค้าสง่ กจิ การค้าปลกี หรอื กิจการอื่น ตามที่รฐั มนตรปี ระกาศในราชกิจจานุเบกษา \"กองทุน\" หมายความว่า กองทนุ ส่งเสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม \"องค์การเอกชน\" หมายความว่า องค์การของเอกชนที่จดั ตัง้ ขึน้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ยห์ รือ ตามกฎหมายเฉพาะทมี่ ีสมาชิกจานวนไมน่ ้อยกวา่ กง่ึ หนงึ่ ของจานวนสมาชกิ ทั้งหมดเปน็ วิสาหกจิ ขนาดกลางหรอื วสิ าหกจิ ขนาดยอ่ ม \"สานกั งาน\" หมายความว่า สานกั งานสง่ เสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม \"คณะกรรมการ\" คือ คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม \"คณะกรรมการบริหาร\" หมายความวา่ คณะกรรมการบรหิ ารสานักงานส่งเสริมวสิ าหกจิ ขนาดกลางและ ขนาดย่อม \"ผอู้ านวยการ\" หมายความว่า ผ้อู านวยการสานักงานสง่ เสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม \"รัฐมนตร\"ี หมายความวา่ รัฐมนตรผี ้รู กั ษาการตามพระราชบัญญตั นิ ี้

สานกั งานส่งเสริมวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม มาตรา 16 ให้จัดตัง้ สานกั งานขนึ้ เรียกว่า \"สานกั งานสง่ เสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม\" และให้เปน็ นิติ บุคคล มวี ตั ถุประสงคด์ งั ตอ่ ไปนี้ (1) กาหนดหลักเกณฑ์เกีย่ วกบั การกาหนดประเภทและขนาดวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพือ่ ให้ สอดคล้องกบั สภาพเศรษฐกิจและสังคม (2) กาหนดประเภทและขนาดของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ มท่สี มควรได้รับการส่งเสริมรวมทั้งเสนอแนะ นโยบายและแผนการสง่ เสริมวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม (3) ประสานและจัดทาแผนปฏิบตั กิ ารสง่ เสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มกับสว่ นราชการ หนว่ ยงานของ รฐั รฐั วิสาหกจิ หรือองคก์ ารเอกชนท่เี กีย่ วขอ้ ง (4) ศกึ ษาและจดั ทารายงานสถานการณว์ ิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศ (5) เสนอแนะต่อคณะกรรมการเกี่ยวกบั การปรบั ปรงุ พระราชบญั ญตั ิน้ี รวมทง้ั การดาเนินการให้มกี ฎหมายใหมก่ าร แก้ไขเพ่ิมเติมหรอื การปรับปรุงกฎหมายเกยี่ วกับการสง่ เสรมิ วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (6) บริหารกองทนุ ตามนโยบายและมติของคณะกรรมการและคณะกรรมการบรหิ าร (7) ดาเนนิ งานธุรการของคณะกรรมการ คณะกรรมการบรหิ าร และคณะอนกุ รรมการ ซงึ่ คณะ กรรมการหรือคณะ กรรมการบริหารแตง่ ต้งั (8) ปฏิบตั งิ านอืน่ ใดตามทีก่ ฎหมายกาหนดใหเ้ ป็นอานาจหนา้ ทข่ี องสานกั งานหรือตามท่ีคณะ กรรมการหรอื คณะ กรรมการบริหารมอบหมาย

มาตรา 17 สานกั งานมอี านาจหน้าท่กี ระทาการตา่ งๆ ภายในขอบแห่งวตั ถปุ ระสงค์ ตามทีร่ ะบุไวใ้ นมาตรา 16 และ อานาจหนา้ ที่เชน่ ว่านีใ้ ห้รวมถึง (1) จดั ใหไ้ ด้มา ถือกรรมสทิ ธิ์ มีสิทธิครอบครองหรือมีทรัพยสทิ ธิตา่ ง ๆ เช่าใหเ้ ช่า เชา่ ซอื้ ให้เชา่ ซื้อ โอนหรอื รบั โอน สิทธิการเช่าหรอื สทิ ธิการเชา่ ซื้อ ขายหรอื จาหนา่ ยโดยวิธีอื่นใดซึ่งสังหารมิ ทรัพยห์ รอื อสงั หารมิ ทรพั ย์ ตลอดจนรบั ทรพั ย์สนิ ท่ีมีผู้ อุทิศให้ (2) ก้ยู ืมเงนิ หรือใหก้ ้ยู มื เงนิ โดยมีหลกั ประกันดว้ ยบคุ คลหรอื ทรัพย์สนิ หรือลงทนุ ท้ังน้ีเพ่ือการวิจัย พฒั นา และส่งเสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มใหม้ ีประสิทธภิ าพเพมิ่ ข้นึ โดยรวมเท่านน้ั (3) ให้ความอดุ หนุนหรือชว่ ยเหลอื เพอื่ การส่งเสรมิ วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (4) เข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่น หรอื ถือหนุ้ ในบรษิ ัทจากัด หรอื บริษัทมหาชนจากดั เพ่อื ประโยชน์แก่การสง่ เสริม วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (5) รว่ มมือกับส่วนราชการ หนว่ ยงานของรฐั รฐั วิสาหกิจ หรือองคก์ ารเอกชนทัง้ ในและต่างประเทศ เพื่อประโยชนใ์ น การส่งเสรมิ วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (6) รบั ค่าตอบแทนและคา่ บรกิ ารในการให้บริการภายในขอบเขตแห่งวตั ถุประสงค์ของสานกั งานรวมทั้งทาความตก ลงกาหนดเงอื่ นไขเก่ยี วกับค่าตอบแทนและคา่ บรกิ ารนั้น (7) กระทาการอย่างอ่นื บรรดาท่ีเก่ยี วกบั หรอื เน่อื งในการจดั ให้สาเร็จตามวตั ถปุ ระสงค์ของสานักงาน

กองทนุ สง่ เสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม มาตรา 32 ให้จดั ต้งั กองทนุ ขน้ึ กองทนุ หนง่ึ ในสานักงานเรียกว่า \"กองทุนสง่ เสริม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม\" ประกอบดว้ ย (1) เงินทุนประเดมิ ทีร่ ฐั บาลจดั สรรให้ (2) เงินอุดหนุนท่รี ัฐบาลจดั สรรใหจ้ ากงบประมาณรายจ่ายประจาปี (3) เงนิ หรือทรพั ยส์ ินทีม่ ผี ้มู อบใหเ้ พอื่ สมทบกองทุน (4) ดอกผลหรอื รายไดข้ องกองทนุ (5) เงนิ อืน่ ทไ่ี ด้รับมาเพือ่ ดาเนินการกองทนุ เงินทนุ ประเดมิ ตาม (1) และเงนิ อดุ หนุนตาม (2) นั้น รัฐบาลพึงจดั สรรใหแ้ ก่สานกั งาน โดยตรงเป็นจานวนท่ีเพยี งพอสาหรบั คา่ ใชจ้ า่ ยท่ีจาเปน็ ในการดาเนนิ การตามวตั ถปุ ระสงค์ของ สานกั งาน

พระราชบญั ญตั ทิ ะเบยี นพาณิชย์ พทุ ธศักราช 2499 พระราชบัญญัตฉิ บับนี้เปน็ กฎหมายท่กี าหนดใหผ้ ูป้ ระกอบการพาณิชย์ ต้องไปจดทะเบียนภายใน 30 วนั นบั แต่วนั เรม่ิ เปิดประกอบกิจการ โดยให้ไปจดทะเบียน ณ สานักงานทะเบยี นในท้องถนิ่ การจดทะเบยี นพาณชิ ยต์ ามพระราชบัญญัตทิ ะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 ผู้มีหน้าที่จดทะเบยี นพาณิชย์ ไดแ้ ก่ (1) บุคคลธรรมดาคนเดียว (กิจการเจา้ ของคนเดียว) (2) ห้างหุน้ สว่ นสามัญ (3) นติ ิบุคคลที่ตั้งขนึ้ ตามกฎหมายตา่ งประเทศทมี่ าตั้งสานกั งานสาขาในประเทศไทย (4) หา้ งห้นุ สว่ นสามัญนติ บิ คุ คล หา้ ง หนุ้ สว่ นจากดั (5) บรษิ ทั จากดั บริษทั มหาชนจากดั โดยบคุ คลต้องประกอบกิจการคา้ ซ่ึงเป็นพาณชิ ยกจิ ตามทีร่ ัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณชิ ย์กาหนด กจิ การค้าที่เป็นพาณชิ ยกจิ ทต่ี ้องจดทะเบียนพาณิชย์ 1) บคุ คลธรรมดา (กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว) ห้างหนุ้ สว่ นสามัญ และนติ บิ คุ คลทตี่ ้งั ขน้ึ ตามกฎหมาย ตา่ งประเทศที่มาตัง้ สานกั งานสาขาในประเทศไทย ตาม (1) - (3) ซ่ึงประกอบกิจการดงั ต่อไปนี้ ต้องจดทะเบยี นพาณิชย์ 2) ห้างหุน้ สว่ นสามญั นติ ิบุคคล ห้างห้นุ ส่วนจากัด บรษิ ทั จากัด และบริษทั มหาชนจากดั ตาม (4) - (5) ซ่งึ ประกอบกจิ การดังตอ่ ไปน้ี ตอ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ย์

พาณิชยกิจที่ได้รบั การยกเว้นไม่ตอ้ งจดทะเบียนพาณชิ ย์ ไดแ้ ก่ 1) การค้าเร่ การคา้ แผงลอย 2) พาณชิ ยกิจเพื่อการบารงุ ศาสนาหรือเพอ่ื การกุศล 3) พาณชิ ยกจิ ของนิตบิ คุ คลซึ่งไดม้ พี ระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎกี าจดั ต้งั ขึน้ 4) พาณชิ ยกิจของกระทรวง ทบวง กรม 5) พาณิชยกิจของมูลนธิ ิ สมาคม สหกรณ์ 6) พาณิชยกจิ ของกลุม่ เกษตรกรทไ่ี ด้จดทะเบยี นตาม ปว.141 ลงวนั ที่ 1 พฤษภาคม 2515 เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนพาณิชย์ *ทา่ นสามารถ Download แบบพมิ พไ์ ปใชใ้ นการจดทะเบียนได้ที่ www.dbd.go.th /ดาวน์ แบบฟอรม์ /ทะเบยี นพาณชิ ย์ หรือขอรับแบบพิมพไ์ ดท้ ่ี สานักงานเศรษฐกจิ การคลงั กรงุ เทพมหานคร สานกั งานเขตทกุ เขต เทศบาล องค์การบริหารส่วนตาบล และเมืองพัทยา

สถานที่จดทะเบียน 1) ในเขตกรงุ เทพมหานคร ย่ืนจดทะเบียนพาณชิ ยไ์ ด้ท่ี : (1) สานักงานเศรษฐกจิ การคลัง สานกั การคลัง กรงุ เทพมหานคร รับจดทะเบียน พาณชิ ยกิจของผู้ประกอบพาณิชยกจิ ที่มสี านักงานแหง่ ใหญ่ตั้งอย่ใู นเขตกรุงเทพมหานคร (2) ฝา่ ยปกครอง สานกั งานเขตทกุ แห่ง รับจดทะเบยี นพาณชิ ยกิจของผปู้ ระกอบ พาณิชยกจิ ทีม่ ีสานกั งานแห่งใหญ่ต้งั อยใู่ นทอ้ งท่ีของเขตนั้น สอบถามรายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ ไดท้ ี่ : สานกั งาน เศรษฐกจิ การคลงั สานักการคลงั โทร. 0-2224-1916, 0-2225-1945 หรือท่ี ฝา่ ยปกครอง สานักงานเขตทกุ แหง่ และที่เวบ็ ไซต์ www.bangkok.go.th/fiic 2) ในภมู ภิ าค ยน่ื จดทะเบยี นไดท้ ่ี : เทศบาล องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล หรอื เมอื งพัทยา รบั จด ทะเบียนพาณชิ ยข์ องผูป้ ระกอบพาณชิ ยกิจที่มีสานกั งานแหง่ ใหญ่ตัง้ อย่ใู นท้องท่ีเทศบาล องค์การบริหารสว่ น ตาบล หรือเมืองพทั ยาแลว้ แต่กรณี สอบถามรายละเอียดเพม่ิ เตมิ ไดท้ ี่ : สว่ นบริหารการจดทะเบยี น สานัก ข้อมลู ธรุ กจิ กรมพฒั นาธรุ กิจการคา้ โทร. 0-2547-4446-7 และสานกั งานพัฒนาธรุ กจิ การคา้ จังหวดั ทกุ จงั หวดั

กาหนดระยะเวลาการจดทะเบียนพาณชิ ย์ 1) จดทะเบยี นพาณชิ ยต์ ง้ั ใหม่ ต้องจดทะเบยี นภายใน 30 วันนบั แตว่ ันเร่ิมประกอบพาณชิ ยกจิ 2) การเปลย่ี นแปลงรายการท่ีจดทะเบยี นไว้ตาม (1) ต้องจดทะเบียนภายใน 30 วันนับแตว่ นั ทีม่ กี ารเปลี่ยนแปลง 3) เลิกประกอบพาณชิ ยกิจ ต้องจดทะเบียนภายใน 30 วนั นับแต่วันทเี่ ลิกประกอบพาณิชยกิจ 4) ใบทะเบียนพาณชิ ยส์ ญู หายต้องย่นื ขอใบแทนภายใน 30 วันนบั แตว่ ันสญู หาย หนา้ ทข่ี องผู้ประกอบพาณิชยกจิ 1) ตอ้ งขอจดทะเบยี นต่อนายทะเบยี นภายในระยะเวลาทกี่ าหนดตามแตก่ รณี 2) ตอ้ งแสดงใบทะเบยี นพาณชิ ยห์ รือใบแทนใบทะเบียนพาณชิ ย์ไว้ ณ สานักงานในท่เี ปิดเผยและเหน็ ได้งา่ ย 3) ตอ้ งจัดใหม้ ปี า้ ยชอื่ ทใ่ี ช้ในการประกอบพาณชิ ยกิจไวห้ น้าสานกั งานแห่งใหญ่และสานักงานสาขาโดย เปิดเผยภายใน เวลา 30 วนั นบั แต่วนั ทีจ่ ดทะเบียนพาณชิ ย์ ปา้ ยชอ่ื ให้เขียนเปน็ อกั ษรไทย อา่ นงา่ ยและชดั เจน จะมอี กั ษร ต่างประเทศในปา้ ยชอ่ื ดว้ ย ก็ได้ และจะตอ้ งตรงกบั ช่ือท่จี ดทะเบียนไว้ หากเป็นสานักงานสาขาจะต้องมีคาวา่ \"สาขา\" ไว้ดว้ ย 4) ตอ้ งไปใหข้ อ้ เท็จจรงิ เกี่ยวกับรายการจดทะเบียนตามคาส่ังของนายทะเบยี น 5) ต้องอานวยความสะดวกแกน่ ายทะเบียนและพนักงานเจ้าหนา้ ที่ ซง่ึ เขา้ ทาการตรวจสอบในสานกั งานของผปู้ ระกอบ กจิ การ

บทกาหนดโทษ 1) ประกอบพาณชิ ยกจิ โดยไม่จดทะเบยี น แสดงรายการเท็จ ไมย่ อมใหถ้ อ้ ยคา ไม่ยอมให้พนักงานเจา้ หน้าท่เี ขา้ ไป ตรวจสอบในสานกั งาน มคี วามผิดตอ้ งระวางโทษปรบั ไม่เกิน 2,000 บาท กรณไี มจ่ ดทะเบยี นอนั เปน็ ความผิด ตอ่ เน่อื ง ปรบั อีกวนั ละไม่เกิน 100 บาท จนกวา่ จะได้ปฏบิ ัติใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิ 2) ถา้ ใบทะเบยี นพาณิชย์สูญหายไมย่ นื่ คาร้องขอใบรับแทน หรอื ไมแ่ สดงใบทะเบียนพาณิชย์ไว้ทส่ี านักงาน ทเ่ี ห็น ได้งา่ ย ไม่จัดทาปา้ ยชื่อ มีความผดิ ปรับไม่เกิน 200 บาท และถา้ เปน็ ความผดิ ตอ่ เนอ่ื ง ปรบั อกี วนั ละไมเ่ กนิ 20 บาท จนกวา่ จะได้ ปฏบิ ตั ใิ หถ้ ูกต้อง 3) ผูป้ ระกอบพาณิชยกิจซ่ึงกระทาการฉ้อโกงประชาชน ปนสินค้าโดยเจตนาทุจริต ปลอมสินคา้ หรอื กระทาการ ทุจรติ อน่ื ใดอย่างรา้ ยแรงในการประกอบกิจการจะถูกถอนใบทะเบยี นพาณชิ ย์ เมื่อถูกสั่งถอนใบทะเบยี น พาณิชยแ์ ล้วจะประกอบ กิจการตอ่ ไปไม่ได้ เวน้ แต่รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงพาณชิ ยจ์ ะสัง่ ให้รับจดทะเบียนพาณชิ ย์ใหม่ 4) ผปู้ ระกอบพาณิชยกจิ ทีถ่ ูกสั่งถอนใบทะเบยี นพาณิชย์แลว้ ยังฝา่ ฝืนประกอบพาณชิ ยกจิ ต่อไป มีความผิดตอ้ ง ระวางโทษปรับไม่เกินหนงึ่ หมน่ื บาท หรือจาคกุ ไมเ่ กนิ หน่งึ ปหี รอื ทงั้ ปรับทง้ั จา

คา่ ธรรมเนยี มการจดทะเบยี นพาณชิ ย์ การขอดาเนนิ การตาม พ.ร.บ. ทะเบยี นพาณชิ ยฯ์ จะต้องเสยี ค่าธรรมเนียมตามประเภท ของการดาเนนิ การดังตอ่ ไปนี้ 1) จดทะเบยี นพาณิชย์ต้งั ใหม่ 50 บาท 2) จดทะเบยี นเปล่ียนแปลงรายการจดทะเบยี น ครง้ั ละ 20 บาท 3) จดทะเบียนเลกิ ประกอบพาณิชยกจิ 20 บาท 4) ขอใหอ้ อกใบแทนใบทะเบยี นพาณชิ ย์ ฉบับละ 30 บาท 5) ขอตรวจเอกสารของผู้ประกอบพาณิชยกจิ รายหนงึ่ คร้ังละ 20 บาท 6) ขอใหเ้ จ้าหนา้ ทีค่ ดั สาเนาและรับรองสาเนาเอกสารของผู้ประกอบพาณิชย กิจ ฉบับละ 30 บาท (หนง่ึ คาขอ คดิ เป็น หน่ึงฉบับ)

งานที่ไดร้ บั ความคุม้ ครองลิขสิทธิ์ พระราชบัญญตั ิลขิ สทิ ธิ์ พุทธศักราช 2537 สิทธิแต่ผูเ้ ดียวในการกระทาใดๆ เก่ยี วกับงานทตี่ นไดส้ รา้ งสรรค์ขึน้ งานทีไ่ ดร้ ับความคมุ้ ครอง มีดังน้ี งานวรรณกรรม ได้แก่ งานท่ีพมิ พข์ น้ึ ทกุ ชนดิ รวมท้ังโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ เช่น หนังสอื สงิ่ พิมพ์เป็นต้น คุ้มครองตลอด ชวี ติ ของผู้สรา้ งสรรค์ และนับต่อไปอีก 50 ปี นบั แต่ผู้สรา้ งสรรคต์ าย งานนาฏกรรม ไดแ้ ก่ การรา การเตน้ หรือการแสดง คุม้ ครองตลอดชวี ิตของผ้สู รา้ งสรรค์ และอีก 50 ปี นบั แตผ่ ู้ สร้างสรรคต์ าย งานศลิ ปกรรม ไดแ้ ก่ งานจิตกรรม ประตมิ ากรรม ภาพพมิ พ์ สถาปัตยกรรม ภาพถ่าย ภาพประกอบงานศิลปประยุกต์ คมุ้ ครองตลอดชวี ิตและอีก 50 ปี นับแตผ่ ู้สรา้ งสรรคต์ าย ยกเว้นงานศิลปประยุกตค์ ้มุ ครอง 25 ปี งานดนตรกี รรม ไดแ้ ก่ เพลง หนังสอื เพลง โนต้ เพลง คุ้มครองตลอดชีวิตของผู้สรา้ งสรรค์ และอกี 50 ปีนบั แตผ่ ูส้ ร้างสรรค์ ตาย งานโสตทศั นะวัสดุ ไดแ้ ก่ งานบันทกึ ภาพลงในวัสดนุ ามาเลน่ ซา้ ไดอ้ ีก เช่น VDO, DVD, Laser Disc ค้มุ ครอง 50 ปนี บั แต่ ได้สรา้ งสรรค์งานข้ึน งานภาพยนตร์ ได้แก่ ภาพยนตร์ทกุ ชนิด คุ้มครอง 50 ปนี ับแต่สร้างสรรคง์ านขน้ึ สง่ิ บนั ทึกเสยี ง ไดแ้ ก่ เทปบนั ทกึ เสยี ง C.D. บนั ทกึ เพลง ค้มุ ครอง 50 ปีนบั แตส่ ร้างสรรคง์ านข้ึน งานแพรเ่ สยี งแพร่ภาพ ไดแ้ ก่ วทิ ยุกระจายเสยี ง โทรทัศน์ เคเบิลทวี ี ค้มุ ครอง 50 ปีนับแตส่ รา้ งสรรค์งานข้นึ

พระราชบญั ญัติสิทธบิ ัตร พุทธศกั ราช 2542 งานทีไ่ ดร้ บั ความคุ้มครองสทิ ธิบตั ร หนงั สือสาคัญที่ออกให้เพือ่ คมุ้ ครองการประดิษฐ์ หรอื การออกแบบผลติ ภัณฑท์ ี่เปน็ การประดิษฐ์ ข้นึ ใหม่ มอี ายุ 20 ปี การประดษิ ฐท์ ่ไี ดร้ ับความคุม้ ครอง ไดแ้ ก่ 1) เป็นงานประดษิ ฐ์ขน้ึ ใหม่ ได้แก่ การประดิษฐท์ ไ่ี ม่เปน็ งานท่ปี รากฏอยู่แลว้ 2) เป็นงานประดิษฐ์ท่ีมขี ้ันตอนการประดิษฐส์ งู ขึ้น 3) เป็นงานประดษิ ฐท์ ี่สามารถประยุกต์ทางอตุ สาหกรรมได้ สทิ ธิท์ ี่ได้รบั การคมุ้ ครอง ตอ้ งยื่นคาขอจดทะเบียนสทิ ธบิ ตั รตอ่ กรมทรัพย์สนิ ทางปญั ญา ผูไ้ ดร้ บั สิทธิบัตรมสี ทิ ธิ์ ดงั นี้ 1) มสี ทิ ธใิ นการผลิต ใช้ ขาย มีไว้เพื่อขายหรอื นาเขา้ มาในราชอาณาจกั ร 2) มีสิทธใิ ชค้ าวา่ “สิทธบิ ัตรไทย” ให้ปรากฏที่ผลิตภณั ฑ์ 3) อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สทิ ธขิ องตน บทลงโทษ ผู้ละเมิดสทิ ธิบัตร ต้องโทษจาคุกสูงสุดไมเ่ กิน 2 ปี หรอื ปรบั สงู สดุ ไมเ่ กิน 4 แสนบาท หรือ ทง้ั จาทัง้ ปรบั โทษทางแพง่ จะถูกฟอ้ งเรยี กค่าเสียหาย

พระราชบญั ญัตเิ ครอื่ งหมายการคา้ พุทธศกั ราช 2534 งานทไี่ ด้รบั ความคมุ้ ครองเคร่อื งหมายการคา้ เคร่ืองหมายท่ีใชก้ บั สินคา้ ซง่ึ ทาใหผ้ ซู้ ื้อรู้ว่าสินค้านน้ั แตกต่างจาก สนิ คา้ ท่ีใช้เครือ่ งหมายการค้าของบุคคลอ่ืน เคร่อื งหมายการคา้ มอี ายุ 10 ปี ลักษณะของเครอื่ งหมายการค้าทจ่ี ะขอจดทะเบยี นได้ ตอ้ งมีลกั ษณะ ดังน้ี 1) มลี ักษณะบ่งเฉพาะ อาจเปน็ ชือ่ คา ข้อความ ภาพ ลายมือ สี 2) ไมม่ ลี ักษณะต้องหา้ ม เช่น คล้ายตราแผ่นดิน ประปรมาภไิ ธย ภาพลามก ฯลฯ 3) ไม่คลา้ ยกับเคร่อื งหมายของผอู้ ่ืนทจี่ ดทะเบยี นไว้แลว้ ผู้ขอเครอื่ งหมายการค้าต้องยื่นจดทะเบียน ขอเครื่องหมายการค้าตอ่ กรมทรัพยส์ ินทางปญั ญาและขอตอ่ อายทุ กุ 10 ปี บทลงโทษ ผ้ลู ะเมิดลอกเลยี นหรือปลอมเครือ่ งหมายการค้า มีความผดิ อาญาโทษสูงสุดจาคกุ ไมเ่ กนิ 4 ปี หรอื ปรบั ไม่เกนิ 4 แสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ โทษทางแพง่ จะถกู ฟ้องเรยี กค่าเสยี หาย

การออม การบริหารเงินทนุ

การออม คือ รายไดเ้ ม่อื หกั รายจา่ ยแล้วจะมสี ่วนซงึ่ เหลอื อยู่ ส่วนของรายได้ท่ี เหลืออยซู่ ง่ึ ไม่ไดถ้ กู ใชส้ อยออกไปนี้ เรียกว่า เงินออม ความสาคัญของเงนิ ออม เงนิ ออมเป็นปจั จัยทจี่ ะทาให้เปา้ หมายซ่ึงบคุ คลกาหนดไว้ในอนาคตบรรลุ จุดประสงค์ เช่น กาหนดเป้าหมายไวว้ า่ จะตอ้ งมีบา้ น เป็นของตนเองในอนาคตให้ได้ เงนิ ออมจะเป็นปัจจยั สาคัญท่กี าหนดเป้าหมายทว่ี างไว้เป็นจริงขนึ้ มาได้ นอกจากนเ้ี งนิ ออม ยงั ใช้สาหรับแก้ไขปัญหา ความเดือดรอ้ นทางการเงนิ ทอี่ าจเกิดข้นึ อยา่ งคาดไม่ถงึ ของบคุ คล ได้ด้วย ดงั น้นั บุคคลจงึ ควรมีการออม อย่างสมา่ เสมอในชวี ติ

ปจั จัยทจ่ี ูงใจใหเ้ กดิ การออม ปัจจัยที่ทาใหเ้ กดิ การออมทรพั ย์ ผลตอบแทน จะเป็นสิง่ จงู ใจโดยตรงต่อการออมทรัพย์ เชน่ การ ฝากเงนิ กับธนาคาร หากอตั ราดอกเบย้ี เงินฝากสูงขึ้น จะจูงใจให้มกี ารฝาก เงินเพม่ิ มากขึ้น ความมั่นคงของสถานบนั การเงนิ เป็นการเพม่ิ ความมนั่ ใจ ความ เชื่อมั่น ของผ้ฝู าก ควบคมุ ระดับราคาสินค้าหรอื บริการ หากระดบั ราคาสนิ คา้ หรอื บริการ มรี าคาถกู ลงจะทาใหป้ ระชาชนมีเงนิ เหลอื เพ่อื เก็บออมเพมิ่ ขึ้น ประโยชน์ของการออมเงิน

ประโยชนต์ อ่ ผอู้ อม เพื่อลดความผันผวนของการบริโภคและเพือ่ เหตฉุ กุ เฉนิ โดยท่ี รายได้ของครัวเรอื นส่วนใหญ่ไมม่ คี วามแนน่ อนจึงต้องออมเงินไวใ้ ชบ้ รโิ ภค เม่อื รายได้ตกตา่ หรือขาดรายได้ ขณะเดยี วกัน ก็ต้องออมไว้ใชใ้ นยามฉุกเฉิน เจบ็ ปว่ ย เป็นตน้ เพ่อื สร้างความมน่ั คงในชวี ิต ซึ่งได้วางแผนไว้ลว่ งหน้าเช่นการออม เพื่อใชจ้ า่ ยยามเกษียณอายุ การออมเพอ่ื การศกึ ษา การออมเพอ่ื ซ้อื ทอี่ ยู่ อาศัยโดยหวังผลตอบแทนในรปู ดอกเบี้ย เงนิ ปันผลและกาไรจาก สว่ นตา่ ง ราคาซอ้ื ขาย

ประโยชน์ต่อประเทศ การออมเปน็ ปจั จัยสาคญั ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจเปน็ รากฐานและ เป็นปจั จยั สาคญั ในการกาหนดการลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจเปน็ อยา่ งมากเนือ่ งจาก เปน็ การช่วยสนับสนุนการลงทนุ การผลติ ของประเทศและการจา้ งงาน เปน็ ต้น สร้างเสริมความมีเสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ และลดผลกระทบจากความ ผนั ผวนทางเศรษฐกิจ เนอ่ื งจากการออมในระดบั สูงจะทาใหก้ ารลงทนุ ใน ระดบั ประเทศไมจ่ าเปน็ ตอ้ งอาศยั เงนิ ทุนจากตา่ งประเทศ การออมจึงนบั วา่ มี ความสาคัญค่อนข้างมากเพอ่ื รองรบั การลงทนุ และเพอ่ื พัฒนาเศรษฐกจิ และตอ่ ผู้ ออมเองเพ่ือเป็นหลักประกนั ความมนั่ คงในชีวติ ระยะยาว

เงินทุนสาหรบั ธุรกิจ เงนิ ทนุ หมายถึง เงินสด สินทรัพย์ท้งั หมด ท่ีกิจการนามาเพอ่ื ความ คล่องตวั ในการดาเนนิ งานทีก่ อ่ ให้เกิดผลตอบแทนเพ่ือเพ่มิ ความมั่งคงั่ ให้กับ กิจการ ผูป้ ระกอบการเม่อื เขา้ ใจถงึ เงินทนุ แลว้ จะเหน็ ความสาคัญของ เงินทุนมีผลต่อการประกอบกิจการ ซง่ึ กจิ การจะบรรลผุ ลตามเป้าหมายก็ตอ้ ง มีเงินทุนท่เี หมาะสม มกี ารบรหิ ารจดั การที่ดเี พอื่ ประกอบกจิ การให้มีความ เจริญและความมั่งค่งั สาหรบั กจิ การต่อไป

ประเภทของเงินทนุ สาหรบั ธุรกจิ เริม่ กอ่ ต้ัง เพ่ือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) ทุนหมุนเวียน คือ เงินทุนที่กจิ การต้องใช้หมุนเวียนสาหรบั การดาเนนิ งานก่อนทีก่ จิ การจะได้รับเงินสดจากการ ขายสินคา้ และบริการ หรอื การชาระหนี้จากลกู หนี้การค้า เพอ่ื ลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets) สินทรัพย์ถาวร คือ สินทรัพย์ท่ี กิจการมิได้มีไว้เพ่ือขายหรือเปลี่ยนเป็นสินค้าที่ขายได้ แต่มีไว้เพื่อใช้งาน และอายุการใช้ งานของสนิ ทรพั ย์เหลา่ นจ้ี ะต้องเกินกว่าหน่ึงปี เพื่อเป็นค่าใชจ้ า่ ยกอ่ นเรมิ่ ดาเนินงาน และระยะเร่ิมแรก กอ่ นทกี่ ิจการจะเร่ิมดาเนินงานต้องมคี า่ ใชจ้ า่ ยหลายประการเกิดขึน้ เพื่อเป็นค่าใชจ้ ่าย สว่ นตวั ของผูป้ ระกอบการ สาหรบั ธุรกจิ การวางแผนจดั ทาเงินควรจดั เตรยี มไวส้ าหรบั การใชจ้ า่ ยสว่ นตัว ของเจ้าของและครอบครวั ในช่วงการดาเนนิ งานในระยะแรก

แหล่งเงนิ ทนุ สาหรับการเร่ิมกอ่ ตั้งธรุ กิจ 1 เงนิ ออมของตนเอง 2 เงนิ กยู้ มื นอกระบบ 3 เงนิ กู้ยืมจากสถาบันทางการเงนิ 4 สนิ เชื่อการค้า 5 ขายหุ้น 6 ชวนคนอ่นื เขา้ เป็นหุ้นสว่ น 7 เล่นแชร์

สถาบันทางการเงินในประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ หมายถึง ธนาคารที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประเภทรับ ฝากเงินที่ต้องจ่ายเมื่อทวงถามหรือสิ้นระยะเวลาที่กาหนดไว้และใช้ประโยชน์เงินนั้นในทาง หนงึ่ หรอื หลายทาง มีบทบาทและความสาคัญมากท่ีสุดของประเทศ เพราะเป็นแหล่งระดม เงินออม และเป็นแหล่งให้กู้ยืมเงินใหญ่ที่สุดของประเทศ อาทิเช่น ธนาคารกรุงไทย จากัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณชิ ย์ จากัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จากดั (มหาชน) เปน็ ต้น บริษัทเงินทุนและบริษัทหลักทรัพย์ หรือเรียกกันท่ัวไปว่า บริษัทการเงิน สถาบันนี้เป็นสถาบันท่ีก่อตัวเม่ือ พ.ศ.2512 แต่เป็นสถาบันที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จานวนบริษัทเงินทุนและบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้ต้ังข้ึนโดยถูกต้องตามกฎหมายมีจานวน มากกวา่ รอ้ ยแหง่

สถาบนั ทางการเงินในประเทศไทย (ตอ่ ) ธนาคารออมสิน เป็นสถาบันทางการเงินท่ีตั้งขึ้นในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2456 มีวัตถุประสงค์เพ่ือ สนับสนุนให้ประชาชนรู้จักการประหยัด อดออม มีหน้าที่ในการรับฝากเงินและให้กู้ยืม เงินแก่ประชาชนทั่วไป ออกสลากออมสินและพันธบัตรออมสิน มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ สงั กดั กระทรวงการคลัง กิจการประกันชีวิต หมายถึง ธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกากับดูแลของสานักงาน คณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ดาเนินธุรกิจการประกัน ชีวิตด้วยการรับประกันโดยตกลงจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้รับประโยชน์หรือ ทายาทผูเ้ อาประกันเม่ือผเู้ อาประกนั เจบ็ ปว่ ย ไดร้ บั อบุ ตั ิเหตุทุพพลภาพ หรอื เสยี ชีวติ

สถาบันทางการเงนิ ในประเทศไทย (ตอ่ ) ธนาคารเพือ่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ต้ังข้ึนเม่ือ พ.ศ. 2509 โดยความ ร่วมมือของกระทรวงการคลงั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารแห่งประเทศไทย มี วตั ถุประสงค์เพ่อื สง่ เสรมิ อาชีพหรือการดาเนินงานของเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์ การเกษตร เพอื่ ให้เกษตรกรสามารถเพ่มิ ผลผลิตมรี ายได้และมีฐานดีขึน้ บรรษัทเงินทุนอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นสถาบันการเงินเพ่ือการพัฒนา จัดต้ังข้ึนโดยพระราชบัญญัติบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2502 มี วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือการก่อตั้ง ขยาย หรือปรบั ปรุงกิจการอุตสาหกรรมส่วนเอกชนให้ ก้าวหน้าและทันสมัย และเพื่อระดมทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศมาใช้ในการ ดาเนนิ การ

สถาบันทางการเงนิ ในประเทศไทย (ตอ่ ) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดต้ังขึ้นโดย พระราชบัญญัติธนาคารอาคาร สงเคราะห์ พ.ศ. 2496 ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการคลัง มีวัตถุประสงค์เพ่ือ ช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย และปานกลางให้มีท่ีอยู่อาศัยเป็นของตนเองโดยให้กู้ยืม เพ่ือการปลูก ซ้ือที่อยู่อาศัย ไถ่ถอน จานอง เช่าซื้อท่ีดินหรืออาคาร และรับฝากเงินจาก ประชาชน ธนาคารอาคารสงเคราะหม์ ฐี านะเป็นรฐั วิสาหกจิ สานักงานธนกิจอุตสาหกรรมขนาดย่อม เป็นสานักงานภายในกรมส่งเสริม อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม มีวัตถุประสงค์ให้ทุนกู้ยืมและให้ความช่วยเหลือ วิชาการแก่อุตสาหกรรมขนาดย่อม และอุตสาหกรรมครัวเรือน วิธีการให้กู้ยืมร่วมกับ ธนาคารกรงุ ไทย

สถาบันทางการเงนิ ในประเทศไทย (ตอ่ ) สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ คือ องค์การที่จัดตั้งและดาเนินงานโดยกลุ่ม ที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน เพ่ือขจัดปัญหาเดือดร้อนในหมู่สมาชิก จัดต้ังข้ึนในกลุ่ม เกษตรกร มีวัตถุประสงค์เพอ่ื การจัดสรรเครดติ ใหแ้ ก่สมาชกิ เพอื่ ใชใ้ นการเกษตร สหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นสหกรณ์ท่ีจัดต้ังขึ้นโดยกลุ่มผู้มีวัตถุประสงค์ เดียวกัน เพ่ือขจัดปัญหาความเดือดร้อนในหมู่สมาชิก สมาชิกส่วนใหญ่ของสหกรณ์ ออมทรัพย์ได้แก่ผู้มีรายได้ประจา เช่น ข้าราชการตารวจข้าราชการครู เป็นต้น นอกจากบริการดา้ นรบั ฝากแลว้ สหกรณ์ออมทรพั ยย์ งั มีบรกิ ารใหก้ ยู้ มื เงนิ แกส่ มาชกิ ผู้ มีความเดือดรอ้ น ในอตั ราดอกเบีย้ ต่าดว้ ย

สถาบันทางการเงนิ ในประเทศไทย (ตอ่ ) บริษัทเครดติ ฟองซิเอร์ หมายถงึ ธรุ กจิ ทป่ี ระกอบกจิ การให้ กู้ยืม โดยวธิ กี ารรับจานอง รบั ซอื้ อสังหาริมทรพั ยต์ ามสัญญาขายฝาก โดยใชว้ ธิ กี ารระดมเงินจากประชาชนในรปู ของตั๋วสญั ญาใช้เงนิ ปัจจุบันมจี านวนมากกว่า 30 บริษทั โรงรับจานา เป็นธรุ กจิ การเงนิ ขนาดเล็กทีม่ ีอยู่ตามชุมนมุ ชน ทาหน้าท่ใี หก้ ยู้ มื โดยการรับจานาส่งิ ของเครือ่ งใชต้ ่างๆ

ความรู้เบ้อื งต้นในการบรหิ ารงานคุณภาพใน องค์กร

คุณภาพ หมายถึง คุณลักษณะเฉพาะ (Characteristics) ของสินค้า หรือบริการท่ีสามารถตอบสนองตามความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้แก่ ลูกคา้ ได้และไม่เป็นภัยตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มรวมถงึ ประโยชนต์ อ่ สังคม การบริหารงานคุณภาพ หมายถึง กระบวนการดาเนินงานด้าน คณุ ภาพทั้งหมดอย่างต่อเน่ืองโดยมเี ปา้ หมายทีส่ นองความต้องการของลกู ค้า

ววิ ฒั นาการของการบรหิ ารงานคุณภาพ ช่วงกอ่ นการปฏวิ ัติ ชว่ งของการปฏวิ ตั ิ ชว่ งของการแขง่ ขนั อุตสาหกรรม อุตสาหกรรม ที่เขม้ ข้นขึ้น • รูปแบบของการ • ใชเ้ คร่ืองจกั รแทง • ยุคของโลกาภิวฒั น์ ตรวจสอบ แรงงานคน เปิดโลกเสรีการคา้ (Inspection) • ผลิตสนิ ค้าเปน็ • เกิดการแข่งขนั กัน • ผลิตสนิ คา้ เพือ่ กระบวนการผลติ มากในดา้ นธรุ กิจ ตอบสนองความ จานวนมาก การค้า ต้องการของลูกค้า

หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพ องค์กรที่มุง่ เน้นลูกค้า (Customer-Focused Organization) องค์กร ต้องกาหนดนโยบายและวัตถุประสงค์ขององค์กรให้เป็นนโยบายและ วตั ถปุ ระสงคท์ ีส่ ามารถตอบสนองความต้องการของลูกคา้ การบริหารด้วยความเป็นผู้นา ผู้บริหารขององค์กรทุกระดับต้องใช้ภาวะ ผู้นา จัดการบริหารให้องค์กรดาเนินงานไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ขององค์กรอยา่ งเป็นเอกภาพ การมีส่วนร่วมของบุคลากร (Involvement of People) การ ดาเนนิ งานให้บรรลุเป้าหมายต้องอาศยั ความร่วมมือของบุคลากรในองคก์ าร การบรหิ ารงานอยา่ งเป็นระบบ

หลกั การบริหารงานคุณภาพ (ตอ่ ) การดาเนินการอย่างเป็นกระบวนการ (Process Approach) คือ การ นาเอาทัพยากรหรือปัจจัยการผลิตป้อนเข้าสู่ระบบการทางานต่างๆ เพอื่ ให้ได้ ผลงานตามเปา้ หมาย การปรับปรุงงานอย่างต่อเน่อื ง (Continual Improvement) องคก์ ารตอ้ ง ปรับปรุงสมรรถนะโดยรวมขององค์การอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ข้อมูลที่เป็นจริง (Data)การตัดสินใจที่ถูกต้องและเกิดประสิทธิภาพ ต่อการ บริหารงานตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ได้จากข้อมูลที่ถูกต้องและมีการ วเิ คราะห์อย่างเป็นระบบ การสร้างความสัมพันธ์ (Relationship) องค์การและผู้ขาย/ ผู้ให้บริการ ตอ้ งพงึ พาอาศัยซึง่ กนั และกนั

กระบวนการบริหารงานคณุ ภาพ กระบวนการบริหารงานคุณภาพ คือ กระบวนการ ดาเนินงานที่เก่ียวข้องกับปัจจัยนาเข้า (Input) กระบวนการ ดาเนินงาน (Process) ผลดาเนินงาน (Output) ซ่ึงปัจจัยนาเข้าของ กระบวนการบริหารคุณภาพ คือ ความต้องการของลูกค้า องค์การมี หน้าทีน่ าเอาความตอ้ งการของลูกค้าเข้าสูก่ ระบวนการดาเนินงานแล้ว ดาเนนิ กจิ กรรมต่างๆ เพอ่ื ใหไ้ ด้ผลการดาเนินงานท่ีสามารถตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าได้ ผลของกระบวนการบริหารคุณภาพ คือ ความพึงพอใจของลกู ค้า

กระบวนการบรหิ ารงานคณุ ภาพ องค์ประกอบของกระบวนการบริหารงานคณุ ภาพ กระบวนการบริหารงานคุณภาพประกอบดว้ ยองค์ประกอบหลกั 3 องคป์ ระกอบ คือ 1 ปัจจยั นาเข้า การบริหารงานคุณภาพ คือการดาเนินกิจกรรมใน การตอบสนองความต้องการของลูกค้า สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ดังนั้น ปัจจัยนาเข้าของกระบวนการบริหารงานคุณภาพก็คือข้อมูลความต้องการของ ลูกคา้ 2 กระบวนการดาเนินงาน (Process) เพอ่ื ให้บรรลุเป้าหมายหลัก ของการดาเนินงานบริหารงานคุณภาพขององคก์ าร 3. ผลการดาเนินงาน (Output) เป้าหมายของการบริหารงาน คุณภาพองค์การ คือ ความพึงพอใจของลูกค้า ดังน้ันผลการดาเนินงานในการ บริหารงานคุณภาพ คือ องค์การสามารถสร้างความพึงพอใจในสินค้าหรือ บรกิ ารลกู ค้า

ประโยชน์ของการบรหิ ารงานคณุ ภาพ 1. เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนางานช่วยให้สามารถจัดการหรือ กาหนดการทางานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องรวมถึงส่งเสริมให้เกิดการ ตรวจสอบ ตดิ ตาม และปรบั ปรงุ ผลการดาเนนิ งาน 2. ลูกค้ามีความพงึ พอใจในตัวสินค้าและบริการซึ่งส่งผลให้มีการใช้บริการ ต่อเนอ่ื งหรือแนะนาลูกคา้ รายอืน่ มาใช้บรกิ ารเพิ่ม 3. สร้างภาพพจนท์ ดี่ ใี ห้กับองค์การ รวมถึงสภาพการยอมรับจากลูกค้าและ สงั คม 4. เพ่ิมประสิทธิภาพขององค์การ เน่ืองจากดาเนินงานเหมาะสมและ ประหยัดค่าใช้จา่ ย 5. เพิม่ ขวัญกาลงั ใจให้กับพนักงาน เนอ่ื งจากองค์การมีกาไร พนกั งานไดร้ บั ผลตอบแทนทม่ี ากขนึ้

เทคนคิ การบริหารงานคณุ ภาพ กิจกรรม 5ส เป็นแนวทางการปฏิบัติงานเพื่อก่อให้เกิด สภาพการทางานท่ีดี ปลอดภัย มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย อันจะ นาไปสู่การเพมิ่ ประสิทธใิ นการทางาน กิจกรรม Quality Circle Control (Q.C.C) เป็น กิจกรรมกลุ่มคุณภาพท่ีมีบุคลากรปฏิบัติงานอยู่ในแผนกเดียวกัน รวมตัวกันจานวน 4-10 คน เพือ่ แก้ไขปัญหาหรือข้อบกพร่องท่ีเกิด จากการปฏิบตั งิ าน กิ จ ก ร ร ม ข้ อ เ ส น อ แ น ะ เ พ่ื อ ป รั บ ป รุ ง ง า น (Suggestion)กจิ กรรมข้อเสนอแนะเพ่อื ปรับปรุงงาน เป็นกิจกรรมท่ี ให้โอกาสพนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารเพ่ือเสนอความ คิดเหน็ ตอ่ ฝา่ ยบรหิ าร

การเพม่ิ ผลผลติ ในองคก์ ร กกกก

ความเป็นมาและแนวคิดเร่ืองการเพ่ิมผลผลิตนั้น เริ่มต้นท่ีประเทศ สหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ.2454 โดย เฟรดเดอริค ดับบลิว เทเลอร์ (Federick W.Taylor) ได้รบั การยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการบริหารเชิงวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษาเพอ่ื หาแนวทางการ แก้ปัญหาเกี่ยวกับความสิ้นเปลืองวัตถุดิบ และพลังงานในกระบวนการผลิตท่ีมีสาเหตุมา จากการท่ีคนงานปฏิบัติงานไม่ตรงกับความรู้ความสามารถ และความถนัด ตลอดจนขาด ขวัญกาลังใจในการทางาน รวมถึงการบริหารงานท่ีขาดประสิทธิภาพ ทาให้ผลผลิตตกต่า Federick W.Taylor เน้นหลกั การบรหิ ารแบบวิทยาศาสตร์ ตอ้ งการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ของพนักงานและฝ่ายบริหาร ใหม้ องเห็นความจาเป็นในการนาหลักวิทยาศาสตร์มาใช้ใน การบริหารงาน ได้ทาการศึกษาเกี่ยวกับเร่ืองเวลา และการเคลื่อนไหวในการทางานของ คนงาน และได้ประกาศแนวทางการบริหารเชงิ วิทยาศาสตรใ์ นหนงั สือชอ่ื Principles of Scientific Management

การเพิ่มผลผลิต (Productivity) หมายถึง กระบวนการในการ ปฏบิ ัตงิ านเพอื่ ให้ได้สนิ ค้า บริการ หรอื งานที่มคี ุณภาพสอดคลอ้ งกับความตอ้ งการ ของลูกค้า ด้วยวิธกี ารในการลดตน้ ทุน ลดการสญู เสยี ทกุ รูปแบบ การใช้ทรัพยากร อย่างคุ้มค่า การใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม การพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานใน องค์กร และการใช้เทคนิคการทางานต่าง ๆ เข้ามาเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการ ทางาน

วตั ถุประสงค์ของการเพม่ิ ผลผลิต วัตถุประสงค์ของการผลิตองค์กรผู้ผลิตต่าง ๆ ควรยึดถือแนวทางจากท่ี เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford) ได้เขียนหนังสือไว้ในปี ค.ศ.1962 ที่ช่ือ Today and Tomorrow หลกั การคอื 1. เพอ่ื สรา้ งความพอใจใหแ้ ก่ลกู คา้ 2. เพ่ือทาให้มีกาไรทเ่ี หมาะสม 3. เพ่ือการใชเ้ งินทุนในการผลิตอย่างมปี ระสิทธิภาพ 4. เพื่อการสรา้ งความพอใจใหแ้ กผ่ ถู้ ือห้นุ 5. เพื่อการให้รางวัลตอบแทนแกผ่ มู้ สี ว่ นรว่ มอย่างเสมอภาค 6. เพอ่ื การปฏิบตั ติ ่อผ้สู ่งมอบและลกู ค้าอย่างยุติธรรม 7. เพ่ือการเป็นผ้มู คี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม

องค์ประกอบของการเพมิ่ ผลผลิต การเพิ่มผลผลิตทด่ี นี ัน้ มอี งค์ประกอบทส่ี าคัญ 7 ประการ คอื QCDSMEE Q : Quality คณุ ภาพ คณุ ภาพ C : Cost ตน้ ทุน ต้นทนุ D : Delivery การส่งมอบ การส่งมอบ S : Safety ความปลอดภัย M : Morale ขวญั และกาลงั ใจในการทางาน E : Environment สงิ่ แวดล้อม E : Ethics จรรยาบรรณในการดาเนินธุรกจิ

ประเภทของการผลิต 1 การผลิตตามความตอ้ งการของลกู คา้ หรอื ผลิตตามสัง่ (Customer-unit of Job Shop Process) 2 การผลติ เป็นชุดหรือผลิตเป็นครั้งคราว(Batch of Intermittent Process) 3 การผลติ แบบกระบวนการหรอื ผลิตแบบตอ่ เนือ่ ง (Process of Continuous Process) 4 การผลิตแบบซา้ ๆ (Repetitive Process) 5 การผลติ ประเภทที่รฐั ควบคมุ เป็นการผลิตทรี่ ัฐควบคมุ โดยมีหลกั เกณฑบ์ ังคับเข้มงวด

ความสาคญั ของการเพมิ่ ผลผลติ ความสาคัญของการเพิ่มผลผลติ มดี ังนคี้ อื 1 ชว่ ยใหค้ นงานได้มสี ว่ นรว่ มในการปรบั ปรุงวิธีการทางานของตนเองหรอื ของ หนว่ ยงานของตน 2 ช่วยใหม้ ีการนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เขา้ มาสู่กระบวนการผลติ 3 ช่วยให้มกี ารพฒั นาและทักษะในการปฏิบัติงานใหด้ ขี ึ้น 4 ช่วยให้ลกู ค้าได้ใชส้ นิ คา้ ทมี่ คี ณุ ภาพและราคาถู 5 ช่วยทาให้คนงานมคี ณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ีขน้ึ 6 ชว่ ยใหอ้ งคก์ รสามารถแข่งขันกับคู่แขง่ ในดา้ นคณุ ภาพและบรกิ าร 7 ชว่ ยทาใหล้ ดตน้ ทนุ ในการผลติ สนิ ค้าหรือบรกิ าร

ประโยชน์ทีไ่ ด้รบั จากการเพิ่มผลผลติ 1 ดา้ นผูบ้ ริโภค คอื จะไดร้ บั สนิ ค้าและบรกิ ารทมี่ ีคุณภาพสูง มีความหลากหลายมากขึ้น ราคา ถูกลง มีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการมากข้ึน 2 ด้านพนกั งาน คือพนกั งานถือว่าเป็นส่วนหนึง่ ในการเพ่มิ ผลผลติ สิง่ ทจ่ี ะไดร้ ับจากองคก์ รก็ คือ ไดผ้ ลตอบแทนสงู ขน้ึ สวสั ดิการเพม่ิ ข้นึ มีความมนั่ คงในการทางานและในชวี ิต 3 ด้านผ้ปู ระกอบการหรือองคก์ ร คอื ในองคก์ รนัน้ ต้องการผลตอบแทนคือ กาไร เป็นส่ิงสาคัญ ในการดาเนินธุรกจิ ชว่ ยให้องค์กร สามารถผลติ และทางานในปรมิ าณที่สงู ข้นึ ขยายธุรกจิ สร้างความมนั่ คง ให้กบั องคก์ ร 4 ดา้ นรฐั บาลและประเทศชาติ ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขน้ึ ประเทศชาตกิ ็ดขี ้นึ ตามลาดบั สามารถพฒั นาประเทศชาติ ทัง้ ทางด้านเศรษฐกจิ อัตราการจ้างงาน สภาพแวดล้อมความเป็นอยูใ่ นสงั คม

การตลาดสาหรบั ธุรกจิ และการเขยี นแผนธุรกจิ

การตลาด คือ การจัดทากิจกรรมทางการตลาดอย่างมีระบบในการให้สินค้าและบริการผ่าน จากผผู้ ลติ ไปสู่ผู้บริโภค ดว้ ยความพึงพอใจทงั้ สองฝา่ ยอย่างมีประสิทธภิ าพสูงสดุ จากคาจากัดความดงั กลา่ ว ประเด็นสาคญั ของความหมายการตลาด มดี งั นี้ 1) กิจกรรมทท่ี าใหส้ นิ คา้ หรือบริการไปถึงมือผู้บรโิ ภคคนสดุ ทา้ ย หรอื ผู้ใช้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ 2) การตอบสนองและความต้องการ หรอื ความพอใจของผ้บู รโิ ภคคนสดุ ท้ายหรอื ผู้ใช้ 3) เคลอ่ื นยา้ ยสินคา้ หรือบริการ จากผู้ผลิตไปยงั ผู้บริโภคคนสุดทา้ ย หรอื ผใู้ ช้ 4) บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ องกิจการ คือการทากาไร

ความสาคญั ของการตลาด การตลาดมคี วามสาคญั ต่อเศรษฐกจิ และสงั คม 1) สร้างรายได้ให้กับประเทศ เพราะการตลาดก่อให้เกิดการซื้อ-ขายสินค้าทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ 2) ทาให้มีการลงทุนและมีการจ้างงานเพิ่มข้ึน ซ่ึงทาให้ประชาชนมีงานทา และส่งผลทาให้เพ่ิม อานาจซือ้ ให้กบั ประชาชน 3) จากการมีงานทา ช่วยในการยกระดับการครองชีพของประชาชน ซ่ึงมีผลต่อการอยู่ดีกินดี มี คณุ ภาพชีวิตที่ดีขนึ้ 4) ทาให้เกิดการหมุนเวียนของปัจจัยการผลิต มีการนาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มาแปรรูปซ่ึง สามารถสร้างคุณคา่ ใหก้ บั สินคา้ ทาใหส้ นิ คา้ มีมูลค่าเพม่ิ ขึ้น 5) มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และปรับปรุงให้ได้มาตรฐานเพื่อสนองความต้องการของ ตลาดโลก

ความสาคัญของการตลาด การตลาดมีความสาคญั ต่อธรุ กจิ หรือองค์การ 1) สร้างกาไรให้กับธรุ กิจ 2) สรา้ งมลู คา่ เพม่ิ ของสนิ ค้าใหก้ ับธุรกจิ ก่อให้ธุรกิจมีรายไดเ้ พิ่มขนึ้ 3) ปจั จบุ ันการตลาดได้นาเทคโนโลยมี าใชใ้ นการผลิต สามารถทาให้ผลติ สนิ คา้ ไดค้ ราวละ มากๆ ซึ่งมผี ลตอ่ การลดต้นทุนตอ่ หนว่ ยในการผลติ 4) ทาให้ธรุ กจิ มสี นิ คา้ ใหมๆ่ ออกส่ตู ลาด เนื่องจากมีการพฒั นาสนิ คา้ อยเู่ รื่อยๆ ซ่ึงทาให้ ธรุ กจิ มีความตนื่ ตัวอยเู่ สมอ

ความสาคญั ของการตลาด การตลาดมีคามสาคัญต่อบคุ คล 1) การตลาดทาให้ผบู้ ริโภคพงึ พอใจในรูปแบบ ในอรรถประโยชน์ของสินคา้ ทน่ี ามาจาหนา่ ย และสะดวกในการเลือกซือ้ สนิ ค้า ในเวลา สถานท่ี ปริมาณสินคา้ ท่ีเหมาะสม 2) การตลาดทาให้ผบู้ รโิ ภคเลอื กซื้อสนิ คา้ อย่างฉลาด เนื่องจากมขี ้อมูลข่าวสารจากแหล่ง ต่างๆ มากมายไมว่ ่าจากสอ่ื ส่ิงพิมพ์ (หนงั สือพมิ พ์ นติ ยสาร ใบปลิว ฯลฯ) หรือสอื่ การกระจายเสียง (วิทยุ โทรทศั น์) เปน็ ตน้ 3) การตลาดสร้างอาชีพให้กบั บุคคล ชว่ ยให้เกดิ อาชีพต่างๆ เชน่ การขาย การโฆษณา การ ขนสง่ (รบั จ้าง แบก ขน) เจา้ หนา้ ท่รี กั ษาความปลอดภยั การวจิ ัยตลาด การธนาคาร เป็นตน้ 4) จากการทีม่ ีอาชพี ทาให้ความเปน็ อยขู่ องบคุ คลดีขึ้น สามารถพัฒนาชวี ติ หรือมีคุณภาพ ชวี ิตทดี่ ีขึน้ มกี ารกินดอี ยดู่ ี

สว่ นประสมของการตลาด ( Marketing Mix ) ส่วนประสมการตลาด (Marketing Mix) คือ องค์ประกอบที่สาคัญในการดาเนินงานการตลาด เป็นปัจจัยที่กิจการสามารถควบคุมได้ กิจการธุรกิจจะต้องสร้างส่วนประสมการตลาดที่เหมาะสมในการวาง กลยทุ ธท์ างการตลาด สว่ นประสมการตลาด ประกอบด้วย ผลติ ภัณฑ์ (Product) การจัดจาหนา่ ย (Place) การกาหนด ราคา (Price) การส่งเสริมการตลาด (Promotion) เราสามารถเรียกส่วนประสมทางการตลาดได้อีกอย่าง หน่ึงว่า 4’Ps ส่วนประกอบทั้ง 4 ตัวนี้ ทุกตัวมีความเกี่ยวพนั กัน P แต่ละตัวมีความสาคัญเท่าเทียมกัน แต่ ขึ้นอยู่กับผู้บริหารการตลาดแต่ละคนจะวางกลยุทธ์ โดยเน้นน้าหนักท่ี P ใดมากกว่ากัน เพ่ือให้สามารถ ตอบสนองความต้องการของเปา้ หมายทางการตลาด คือ ตวั ผูบ้ ริโภค


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook