วา่ นงาชา้ ง ช่ือวิทยาศาสตร์ : Sansevieria cylindrica Bojer. ชอ่ื วงศ์ : Dracaenaceae ชื่ออ่นื : ว่านงาชา้ งเขยี ว, หอกสรุ กาฬ, วา่ นงาชางลาย, หอกสุรโกฬ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไมล้ ้มลุก ลำต้นอยู่ใต้ดิน สงู ประมาณ 40-60 ซม. เป็นวา่ นที่ไม่มใี บ โผลข่ ึ้นมาจากพื้นดินเหมือนงาช้าง แทงข้ึนมา หน่อทุกหน่อก็แทงข้ึนมาไม่มีก่ิงก้านสาขา ลักษณะเป็นพุ่ม ว่านน้ีมี 2 ชนิด ชนิดหน่ึงมีสีเขียวล้วน อกี ชนดิ หน่ึงมีสเี ขียวแก่ลายดำๆ ดอกออกจากเหงา้ โผล่ขึ้นมาต้ังตรง ดอกสีขาวว มีกลิน่ หอมอ่อนๆ สรรพคุณทางสมนุ ไพร เป็นยาบำรงุ โลหติ ใช้ตำโขลกหรอื ห่ันเปน็ แว่นๆ ผสมกับสรุ ารบั ประทานแกเ้ ลือดตีข้ึนในโรคบาดทะยัก ปากมดลูกในเรือนไฟ จะดองสุราหรือต้มกินก็ได้ น้ำค้ันจากรากใช้เป็นยาเบ่ือพยาธิและรักษาริดสีดวงงอกได้ดี โดยใชร้ ากสด 5-10 กรัมนำมาล้างใหส้ ะอาด โขลกใหล้ ะเอียดอาจผสมเหล้าโรง ค้นั เอาแต่น้ำจิบ ผูท้ ม่ี ใี บหน้าเปน็ สิว ฝ้าหนา้ ตกกระ จะชว่ ยฟอกโลหติ ใหใ้ บหน้าหายจากสวิ ฝ้า เกลี้ยงเกลาผิวพรรณผดุ ผอ่ ง เอาใบไปอังไฟแล้วบีบเอาน้ำหยอดหู แก้ปวดในหู หรือคั้นเอาน้ำไปทาผมเป็นยาบำรุงรากเส้นผม ทำให้ผมดก ดำเป็นเงางาม เป็นยาสำหรับสตรกี ินหลังคลอดบุตร ชว่ ยขบั โลหิตเสยี โลหิตเป็นพิษ ตำผสมเหล้า หนั่ เป็นแวน่ ๆ หรือ โขลกกับเหลา้ โรง หรอื น้ำซาวข้าว หรอื ต้มดื่ม วนั ละ 2-3 คร้งั ปลูกไวใ้ นบ้านจะชว่ ยป้องกนั ภัยทั้งมวล
Search
Read the Text Version
- 1 - 1
Pages: