Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การวินิจฉัยชุมชน

การวินิจฉัยชุมชน

Published by niramol.st, 2018-03-28 23:32:41

Description: การวินิจฉัยชุมชน

Search

Read the Text Version

ลกั ษณะกระบวนการพยาบาล1. เป็นกระบวนการใช้ความคิด มีการดาเนินการเป็นพลวตั ร เป็น กระบวนการที่เป็นสากล2. เป็นวธิ ีการแก้ปัญหาตามหลกั วทิ ยาศาสตร์3. เป็นแนวทางในการปฏิบตั กิ ารพยาบาลท่ีต้องใช้ความรู้ ทกั ษะ ความสามารถและการตดั สนิ ใจของพยาบาล4. มีขนั้ ตอนการดาเนนิ งานที่มีระบบระเบียบ

ลกั ษณะกระบวนการพยาบาล5. แตล่ ะขนั้ ตอนมีการสอดคล้องสมั พนั ธ์ซง่ึ กนั และกนั6. เน้นการบริการที่เฉพาะเจาะจง มีเปา้ หมายชดั เจน7. เน้นผ้รู ับบริการเป็นศนู ย์กลางและใช้ศกั ยภาพของผ้รู ับบริการ8. เป็นกระบวนการที่เน้นความสมั พนั ธ์ระหวา่ งพยาบาลและ ผ้รู ับบริการทกุ ระดบั9. ใช้กบั ผ้รู ับบริการได้ทกุ กลมุ่ และทกุ วยั

ลกั ษณะกระบวนการพยาบาล10. สามารถใช้ได้ในทกุ สถานการณ์และเป็นการวางแผนปฏิบตั กิ าร ลว่ งหน้า

กระบวนการพยาบาลในงานอนามยั ชุมชนI. การประเมนิ ภาวะอนามยั ชมุ ชน (Community Health Assessment)II. การวนิ ิจฉยั และการลาดบั ความสาคญั ของปัญหาอนามยั ชมุ ชน (Community Diagnosis & Priority setting)III. การวางแผนการดาเนินการเพื่อแก้ปัญหา(Planning)IV. การดาเนินงานตามแผนทีก่ าหนด(Intervention = Implementation)V. การประเมนิ ผลการดาเนินงาน(Evaluation)

กระบวนการพยาบาลในงานอนามยั ชุมชน

การประเมินภาวะอนามยั ชุมชน (Community Health Assessment)Concept  กระบวนการค้นหาความต้องการตามการรับรู้ของชมุ ชนObjective  ประเมนิ ภาวะเสี่ยงภาวการณ์เจบ็ ป่วยและปัจจยั ทม่ี ผี ลต่อปัญหาจาแนกประชาชนกลมุ่ ปกติ กลมุ่ เสย่ี ง กลมุ่ เจบ็ ป่วยตามความจาเป็นทราบทรัพยากร ความพร้อม ความเข้มแข็ง การมีสว่ นร่วม จดุ ออ่ น จดุ แขง็ของชมุ ชนเป็นพนื ้ ฐานในการตดั สินใจเพือ่ วางแผนการดแู ลทงั้ 4 มติ ิ คาดการณ์ใช้บริการคา่ ใช้จ่ายประเมนิ สถานการณ์จริงเพอ่ื พฒั นาทกั ษะการทางานในชมุ ชนแหลง่ ฝึกงาน

การประเมนิ ภาวะอนามยั ชุมชน (Community Health Assessment)Concept  กระบวนการค้นหาความต้องการตามการรับรู้ของชมุ ชนObjective เพือ่ ทราบข้อมลู ด้านสง่ิ แวดล้อมท่ีเกี่ยวข้องกบั สขุ ภาพเพ่อื ทราบความเป็นอยพู่ ฤตกิ รรมเสีย่ งคา่ นิยม ความเช่ือปัญหาสขุ ภาพเพือ่ สร้างสมั พนั ธภาพและความค้นุ เคยกบั ประชาชนในชมุ ชนช่วยกระต้นุ ความสนใจของประชาชนทาให้ทราบปัจจยั เสริม ปัญหา อปุ สรรคที่อาจเกิดขนึ ้ ขณะทากิจกรรม ทาให้สามารถหาแนวทางปอ้ งกนั

เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน1. เคร่ืองมอื ทางระบาดวทิ ยา (Epidermiology) ปัจจยั กาหนด สขุ ภาพ อตั รา(Rate) เปรียบเทียบความถ่ีของการเจ็บป่วย อตั ราสว่ น(Ratio) เปรียบเทียบคา่ ของตวั เลขจานวน หนงึ่ กบั อีกจานวนหนงึ่ สดั สว่ น(Proportion) เปรียบเทียบระหวา่ งตวั ตงั้ ซง่ึ เป็นสว่ นหนงึ่ ของตวั หาร

เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน1. เคร่ืองมอื ทางระบาดวิทยา (Epidermiology) ปัจจยั กาหนด สขุ ภาพ สถิติและดชั นีทางวทิ ยาการระบาด Incidence Rate Prevalence Rate Blobidity Rate Mortality Rate

เครื่องมือทใี่ ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน1. เครื่องมือทางระบาดวิทยา (Epidermiology) ปัจจยั กาหนด สขุ ภาพ ดชั นีอนามยั อ่ืนๆที่เก่ียวข้องกบั สขุ ภาพ Crude Birth Rate Vital Index or Birth Death Rate Natural Increase

เครื่องมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน2. เคร่ืองมอื การวดั พฤตกิ รรมสขุ ภาพ(KAP Survey) แบบสอบถามความรู้ทางสขุ ภาพ แบบสารวจทศั นคติ แบบสารวจทางการปฏบิ ตั ิ

เครื่องมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน3. เคร่ืองมอื การสารวจแบบเร่งดว่ น (Rapid Survey)มี 6 ขนั้ ตอนI. การดาเนนิ การก่อนการเก็บข้อมลูII. การเตรียมเครื่องมือการสารวจIII. การเตรียมทีมเก็บข้อมลู (ทีมสารวจ)IV. การฝึกอบรมทีมเก็บข้อมลู

เครื่องมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน3. เคร่ืองมือการสารวจแบบเร่งดว่ น (Rapid Survey)มี 6 ขนั้ ตอนV. การดาเนนิ การเก็บข้อมลู (การสารวจ)VI. การดาเนินการหลงั สารวจ

เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน4. เครื่องมอื ประเมินชมุ ชนโดยใช้ครอบครัวเป็นฐาน แฟม้ สขุ ภาพครอบครัว (Family Folder/Family File)  แผนท่ีบ้าน  ผงั เครือญาติ (Genogram)  การลงทะเบียนครอบครัว  ชีวประวตั ิและข้อมลู ทางเศรษฐกิจสงั คมแบบสารวจความจาเป็นพืน้ ฐาน จปฐ. (Basic Minimum Needs)

เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน5. เครื่องมือประเมนิ ชมุ ชนโดยใช้แนวคดิ การประเมนิ ชมุ ชนในฐานะ ผ้รู ับบริการ (Community as a Client)  Community as a place  Community as a people  Community as a Social System

เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน6. เคร่ืองมือการประเมินชมุ ชนโดยวิธีทางมานษุ ยวทิ ยา เป็นการพฒั นา โดย อ. โกมาตร จงึ เสถียรพงษ์ (2545) เคร่ืองมือการศกึ ษาชมุ ชนทงั้ 7 ชิน้ ประกอบด้วย แผนที่เดินดนิ ชว่ ยให้ผ้ศู กึ ษามองเหน็ ภาพชมุ ชน ผงั เครือญาติ ทาให้เข้าใจความสมั พนั ธ์เชิงเครือญาติ อนั เป็นรากฐานของชมุ ชน โครงสร้างองค์กรชมุ ชน เข้าใจโครงสร้างและองค์กรที่ เป็นทางการและไมเ่ ป็นทางการ

เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชนระบบสขุ ภาพชมุ ชน วธิ ีคิดทศั นคตคิ วามรู้สกึ ของชมุ ชนกระบวนการรักษาโรคปฎิทินชมุ ชน วถิ ีชีวติ กิจกรรมท่ีเก่ียวข้องกบัชีวติ ประจาวนั จดุ เริ่มการสร้างสมั พนั ธภาพท่ีดีกบั ชุมชนประวตั ศิ าสตร์ชมุ ชน ความเป็นมาของชมุ ชนในด้านเศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรมและการเมือง ลดช่องวา่ งในการติดต่อประวตั ชิ ีวติ รายละเอียดของชีวิต มติ ิความเป็นมนษุ ย์เข้าใจและมีความละเอียดอ่อนในการให้บริการอนามยั

แหล่งและประเภทของข้อมูลแหลง่ ของข้อมลู อนามยั ชมุ ชนPrimary DataSecondary Dataประเภทของข้อมลูข้อมลู เชิงปริมาณ (Quantitative Data)ข้อมลู เชิงคณุ ภาพ (Quanlitative Data)ข้อมลู เชิงเวลา บนั ทกึ ชีบ้ อก เวลา ปี เดอื นข้อมลู เชิงภมู ิศาสตร์

วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูลอนามยั ชุมชนวธิ ีการศกึ ษาเชงิ คณุ ภาพ (Quanlitative Methods)ObservationIndepth InteviewsFocus GroupWindshield and Walking Toursวธิ ีการศกึ ษาเชิงปริมาณ (Quantitative Methods)การใช้แบบสอบถามการใช้แบบสมั ภาษณ์

ข้อมูลทเี่ ป็ นประโยชน์ในการประเมนิ ภาวะอนามยั ชุมชนI. ข้อมลู ทว่ั ไปของชมุ ชน ที่ตงั้ อาณาเขต ถนน สภาพพืน้ ท่ี แมน่ า้ ภเู ขา สง่ิ ก่อสร้าง ลกั ษณะการตงั้ บ้านเรือนII. ข้อมลู ด้านประชากร โครงสร้างประชากร ความหนาแนน่ คณุ ภาพ การศกึ ษา

ข้อมูลทเ่ี ป็ นประโยชน์ในการประเมินภาวะอนามยั ชุมชนIII.ข้อมลู ด้าน ที่ตงั้ อาณาเขต ถนน สภาพพืน้ ที่ แมน่ า้ ภเู ขา สง่ิ กอ่ สร้าง ลกั ษณะการตงั้ บ้านเรือนII. ข้อมลู ด้านประชากร โครงสร้างประชากร ความหนาแน่น คณุ ภาพ การศกึ ษา

ข้อมูลทเี่ ป็ นประโยชน์ในการประเมนิ ภาวะอนามยั ชุมชนIII. ข้อมลู ด้านเศรษฐกิจสงั คม ที่อยอู่ าศยั อาชีพ ผลผลติ การศกึ ษา การเมือง การปกครองIV. ข้อมลู ด้านสขุ ภาพ การป่วย การตาย ความพิการ ภมู คิ ้มุ กนั โรคแม่ & เดก็V. ข้อมลู ด้านพฤตกิ รรม พฤตกิ รรมสง่ เสริมสขุ ภาพ ความเชื่อ พฤตกิ รรมเส่ียง พฤตกิ รรมเมื่อเจ็บป่วย

ข้อมูลทเ่ี ป็ นประโยชน์ในการประเมนิ ภาวะอนามยั ชุมชนVI. ข้อมลู ด้านอนามยั สงิ่ แวดล้อมของชมุ ชน นา้ ด่ืม นา้ ใช้ในชมุ ชน การกาจดั ขยะมลู ฝอย สง่ิ ปฏิกลู แมลงและสตั ว์นาโรคใน ชมุ ชนVII. ข้อมลู ด้านบริการสขุ ภาพ ระบบบริการสขุ ภาพ ความ พอเพยี ง ครอบคลมุ ความพงึ พอใจ การสามารถเลอื กใช้แพทย์ ทางเลือกภาครับและเอกชน

การทาแผนที่ชุมชน (Community Mapping) Tophography  แผนที่สังเขปประกอบด้วย1. ชื่อของแผนที่2. ทิศทาง(Direction)3. มาตราสว่ น(Scale) = ระยะความยาวของเส้นบนแผนท่ี  ระยะความยาวของพืน้ ภมู ิประเทศ4. ระยะทาง (Distance)5. เครื่องหมายตา่ งๆ เส้น สี ตวั อกั ษรท่ีเขียนบนแผนที่

การทาแผนทีช่ ุมชน (Community Mapping) Tophography  แผนท่สี ังเขป6. วนั เดอื น ปี7. ช่ือผ้ทู าแผนท่ี8. คาอธิบายเคร่ืองหมายในแผนท่ี

วธิ ีการและข้อแนะนาในการทาแผนท่ีI. อาจนาแผนท่ีเก่ามาเป็นข้อมลู เบือ้ งต้นII. สร้างความค้นุ เคยกบั ชาวบ้านในชมุ ชนควบคกู่ บั การเขียนแผนที่III. ไม่ควรพงึ่ รถยนต์ อาจใช้จกั รยานหรือจกั รยานยนต์IV. ต้องเดินสารวจให้ทว่ั โดยเฉพาะบ้านคนจน คนทกุ ข์ยาก ชมุ ชนชายขอบ โดดเด่ียวV. มองกายภาพของพืน้ ท่ี แตต่ ีความทางสงั คมในการวเิ คราะห์VI. ควรเดินสารวจร่วมกนั ทงั้ ทีมVII.หมนั่ สงั เกตและพดู คยุ กนั ในทีมวา่ พืน้ ท่ีบอกอะไรบ้างที่เป็นการเรียนรู้

วธิ ีการและข้อแนะนาในการทาแผนท่ีVIII. ข้อมลู บางอยา่ งไมส่ ามารถสงั เกตได้ด้วยตา ต้องสอบถามเพ่ิมเตมิIX. เมื่อให้ชาวบ้านนาทาง ข้อมลู อาจมีอคตจิ ากผ้พู าเดนิX. พยายามเขียนข้อสงั เกต ความสมั พนั ธ์ของคนในชมุ ชน กิจกรรมในชมุ ชน

วธิ ีการนาเสนอข้อมูลทไ่ี ด้จากการเกบ็ รวบรวมข้อมูล1. การนาเสนอข้อมลู ในรูปของข้อความ (Text Presentation)2. การนาเสนอในรูปกึ่งข้อความกง่ึ ตาราง (Semi –Tabular Presentation)3. การนาเสนอในรูปตาราง(Tabular Presentation)4. การนาเสนอด้วยวิธีอน่ื ๆ การนาเสนอด้วยกราฟเส้น (Line Graphic) การนาเสนอด้วยแผนภมู แิ ทง่ (Bar Chart) การนาเสนอด้วยแผนภมู ิวงกลม (Pie Diagram) การนาเสนอด้วยปิรามดิ ประชากร การนาเสนอด้วยแผน่ ภาพ(Pietogram)

• 1) การนาเสนอด้วยบทความ ใช้ในกรณีที่จานวนข้อมลู ท่ี นาเสนอมนี ้อย แตต่ ้องการอธิบายในรายละเอยี ดของข้อมลู เชน่ ลกั ษณะท่ีตงั้ ของ ชมุ ชน ประวตั คิ วามเป็นมาของชมุ ชนซง่ึ มีหนว่ ยงานการศกึ ษาเพยี งหนง่ึ ชมุ ชน แตม่ ีรายละเอยี ดที่ต้องพรรณนาให้ผ้อู ื่นเข้าใจ เป็นต้น

2) การนาเสนอด้วยบทความกง่ึ ตาราง ใช้ในกรณีข้อมลู มาก ขนึ ้ แตไ่ ม่ซบั ซ้อนมากนกั ต้องการให้ข้อเปรียบเทียบที่เดน่ ชดั มากขนึ ้ เพือ่ ความสะดวกในการอา่ น เช่น การน าเสนออาณาเขตของชมุ ชน ที่ระบวุ า่ ทศิ เหนือ ติดตอ่ กบั ตาบลบ้านท่มุ ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กบั ตาบลบ้านเป็ด ทศิ ตะวนั ออก ตดิ ตอ่ กบั ตาบลพระลบั ทศิ ตะวนั ตก ตดิ ตอ่ กบั ตาบลเมืองเก่า

3) การนาเสนอด้วยตาราง มกั ใช้ในการนาเสนอข้อมลู เชิง ปริมาณ(quantitative data) โดยการจดั ข้อมลู และสารสนเทศให้เป็นแถวตามแนวตงั้ และแนวนอน มีความสมั พนั ธ์กนั เพอื่ สะดวกในการน าเสนอข้อมลู และสารสนเทศท่ีมีจานวนมาก นอกจากนีย้ งั มีวตั ถปุ ระสงค์เพอื่ ใช้เปรียบเทียบ ข้อมลู ได้ด้วย การน าเสนอข้อมลู ด้วยตารางจะต้องกาหนดช่ือและรูปแบบการ ใช้ตารางให้ถกู ต้องตามหลกั การนาเสนอข้อมลู ด้วย

4) การนาเสนอข้อมลู ด้วยภาพ เป็นการแสดงข้อมลู โดยการ ใช้รูปกราฟแผนภมู ิ หรือแสดงด้วยภาพถ่าย ภาพวาดตา่ งๆ เพ่อื ให้เกิดความ เข้าใจง่าย สามารถเปรียบเทียบข้อมลู ได้เดน่ ชดั รวมทงั้ แสดงความสมั พนั ธ์ของข้อมลู ตา่ งๆ ด้วย นอกจากนีย้ งั ดสู วยงาม การใช้ภาพเพอ่ื น าเสนอข้อมลู –สารสนเทศมีหลายชนิด ขนึ ้ อยกู่ บั ระดบั การวดั ข้อมลู และจดุ ประสงค์ของการนาเสนอ

ซงึ่ สรุปได้ดงั นี ้- กราฟเส้น (line graphs) ใช้แสดงความสมั พนั ธ์ของ ข้อมลู เชิงปริมาณ 2 ตวั แปร โดยตวั แปรอิสระจะอยบู่ นแกนนอน (แกน x) และ ตวัแปรตามอยบู่ นแกนตงั้ (แกน y) ข้อมลู ที่อยตู่ ามแกน xจะเป็นข้อมลู ที่มีความ ตอ่ เนื่อง เช่น อายเุ ด็กหน่วยเป็นเดอื น เวลาท่ีมีหนว่ ยเป็นเดือนตา่ งๆหรือปีตา่ งๆ ฯลฯ ข้อมลู บนแกน y เป็นการเปลย่ี นแปลงของนา้ หนกั เม่ืออายเุ พ่มิ ขนึ ้ เร่ือยๆ หรือข้อมลู จานวนผ้ปู ่วยแตล่ ะเดือน หรืออตั ราตายเฉพาะโรคท่ีเฝา้ ระวงั ในแตล่ ะปี เป็นต้น อาจเป็นกราฟเส้นตรงเส้นเดียวหรือหลายเส้นในภาพเดียวกนั ก็ได้

- กราฟแทง่ (bar graph) ใช้แสดงข้อมลู ที่เป็นกลมุ่ ๆ (categoricaldata) หรือมีระดบั การวดั นามบญั ญตั ิ(nominal scale) ท่ีแกน xโดยกราฟอาจมีลกั ษณะแสดงในแนวตงั้ หรือ แนวนอนก็ได้ แล้วแตค่ วามเหมาะสมและความสวยงาม นอกจากนีย้ งั อาจใช้ข้อมลู มากกวา่ 1 ชดุ ในการ น าเสนอก็ได้ การน าเสนอต้องมจี ดุ เร่ิมต้นท่ีศนู ย์ (0) เพ่ือให้สามารถเปรียบเทียบข้อมลู ได้อยา่ งถกู ต้อง

- กราฟวงกลม (circle or pie graph) ใช้แสดงข้อมลู ในระดบั การ วดั เช่นเดยี วกบั กราฟแทง่ โดยการเปรียบเทียบข้อมลู ทงั้ หมดเป็น้อย (100) ภาพท่ีใช้แสดงความแตกตา่ งของสดั สว่ น (proportion) และควร ให้สญั ลกั ษณ์ของแตล่ ะสว่ นท่ีแตกตา่ งกนั อยา่ งชดั เจน- - กราฟรูปภาพ (pictorial graph) ใช้นาเสนอข้อมลู ที่ มีระดบั การ วดั เชน่ เดยี วกบั กราฟแทง่ และกราฟวงกลม แสดงความแตกตา่ ง กนั ระหวา่ งกลมุ่ จะต้องระมดั ระวงั วา่ ภาพท่ีเป็นสญั ลกั ษณ์แทนคา่ ตวั เลข จะต้องมีขนาดท่ีเทา่ กนั

- กราฟฮีสโตแกรม (histogram) เป็นกราฟแทง่ ที่มี ความตอ่ เนื่องกนั ของข้อมลู ตวั แปรอสิ ระหรือตวั แปรท่ีแกน x เชน่ ทกุ ๆ ปี 5 ปี หรือทกุ ๆ ช่วงเวลา 1 สปั ดาห์ 1 เดือน เป็นต้น ลกั ษณะท่ีสาคญั ของกราฟ ฮีสโต แกรมเนื่องจากแตล่ ะช่วงเทา่ กนั ดงั นนั้ ความกว้างของแทง่ กราฟต้อง เท่ากนั และตอ่ เนื่องกนั- กร าฟ แน วโน้ ม (trend graph) เป็ น ก ร าฟ ที่ใช้ พยากรณ์หรือ บอกแนวโน้มของข้อมลู เกิดจากการสร้างกราฟด้วยสมการ เช่น กราฟ สมการเส้นตรง เป็นต้น

ความหมายและการใช้ประโยชน์ข้อมูล จากการประเมนิ อนามยั ชุมชนI. ข้อมลู ประชากร ทราบจานวนประชากรทงั้ หมดขนาดของกลมุ่ คนตา่ งๆท่ี รับผดิ ชอบ แสดงขนาดของกลมุ่ เสยี่ งตอ่ การเกิดโรค แนวโน้มของโรคII. ข้อมลู ทางเศรษฐกิจสงั คม ทราบลกั ษณะอาชีพของประชาชนท่ีเช่ือมโยงถึงภาวะ เศรษฐกิจ แสดงถึงรายได้ของครอบครัวภาวะเส่ียงตอ่ การเกิดโรค จากการประกอบอาชีพ อตั ราการวา่ งงาน ปัญหาที่จะเกิดจากการ วา่ งงาน

ความหมายและการใช้ประโยชน์ข้อมูล จากการประเมนิ อนามยั ชุมชนIII.ข้อมลู ด้านสงิ่ แวดล้อมและบริการสขุ ภาพ ชีใ้ ห้เหน็ สภาวะอนามยั สงิ่ แวดล้อมท่ีมีผลตอ่ การเกิดโรค ระบบทางเดนิ อาหารและโรคพยาธิ ความครอบคลมุ ของบริการอนามยั แมแ่ ละเด็ก คณุ ภาพของ การดแู ลก่อนและหลงั คลอด การปอ้ งกนั ภาวะเสย่ี งและอนั ตรายท่ี อาจเกิดขนึ ้ วดั คณุ ภาพชีวติ ของประชากร แนวโน้มของภาวะเจริญพนั ธ์ เศรษฐกิจของครอบครัว ประสทิ ธิภาพของงานสร้างเสริมภมู คิ ้มุ กนั โรค

ความหมายและการใช้ประโยชน์ข้อมูล จากการประเมนิ อนามยั ชุมชนIV. ข้อมลู สถิตชิ ีพและภาวะสขุ ภาพ เคร่ืองชีว้ ดั สถานภาพอนามยั ของเด็กวยั กอ่ นเรียนของชมุ ชนท่ี เสยี่ งตอ่ การเกิดโรคตา่ งๆ โรคเรือ้ รัง จานวนผ้รู ับบริการที่สถานี อนามยั การเส่อื มสมรรถภาพของประชาชน ทราบสถานภาพ อนามยั ของประชากรกลมุ่ ตา่ งๆ โรคท่ีเป็นปัญหาและสาเหตกุ าร ตายในชมุ ชน

การวนิ ิจฉัยและการจดั ลาดับความสาคญั ของปัญหา (Community Diagnosis Priority setting)การวินิจฉัยปัญหาสุขภาพ / ระบุปัญหา (Identity Problem)ปัญหาอนามยั ชมุ ชน หมายถงึ ภาวะอนามยั ของชมุ ชนที่ยงั ไมเ่ ป็นไปตาม ความคาดหวงั หรือเปา้ หมายของผ้รู ับผดิ ชอบการระบปุ ัญหาเป็นการกาหนดข้อความที่เป็นปัญหาทงั้ หมดท่ีมีสมการปัญหาสุขภาพ = (สุขภาพท่ีควรจะเป็ น - สุขภาพท่เี ป็ นอยู่) x ความ ห่วงใยโดยการนาข้อมูลท่ีวเิ คราะห์มาระบุปัญหา โดยใช้หลักดงั นี้ 1. ให้หลัก 5 D  Death  Disability

การวนิ ิจฉัยและการจดั ลาดับความสาคญั ของปัญหา (Community Diagnosis Priority setting)1. ให้หลัก 5 D  Disease  Discomfort  Disatisfaction2. เปรียบเทยี บกับเกณฑ์หรือค่ามาตรฐานต่างๆ  เกณฑ์ จปฐ. แผนฯ 9  เป้าหมายแผนพัฒนาสุขภาพ  เกณฑ์เมอื งไทยแขง็ แรง3. กระบวนการกลุ่มโดยให้ชุมชน/ผู้นา/ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสนิ ใจด้วยตนเอง

การจัดลาดบั ความสาคญั ของปัญหาอนามยั ชุมชน (Priority Setting) หมายถึง กระบวนการตดั สนิ ใจเลอื กปัญหาที่จะต้องแก้ไข ตามลาดบั ความสาคญั ก่อน – หลงั โดยใช้วิธีการที่เหมาะสม ซง่ึ มี 6 วิธีด้วยกนั วธิ ีของ John J. Halon วธิ ีขององค์การอนามยั โลก วธิ ีของ 5D. วิธีกระบวนการกลมุ่ วธิ ีของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย วิธีของคณะสาธารณสขุ ศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล

วธิ ีของ John J. Halonปัญหาระดบั นโยบาย มี 4 องค์ประกอบA = ขนาดของปัญหา ให้คะแนนระหวา่ ง 0-10B = ความรุนแรงของปัญหา ให้คะแนนระหวา่ ง 0-20C = ประสิทธิภาพของการปฎิบตั ิงาน ให้คะแนนระหวา่ ง 0-10D = ข้อจากดั ให้คะแนน 0-1สูตรBasic Priority Rating(BPR) = (A + B)C/3xD

Basic Priority Rating(BPR)

วิธีขององคก์ ารอนามยั โลกเหมาะกบั ปัญหาทเ่ี ก่ียวข้องกบั ความเจบ็ ป่ วย / โรคมี 2 วธิ ีPublic Health In Western Pacific ความเหมาะสมขนาดของปัญหาความสนใจของชมุ ชนการสนบั สนนุ ด้านนโยบายGuide Index  ใช้สาหรับปัญหาสขุ ภาพทไ่ี มซ่ บั ซ้อนมเี กณฑ์ ขนาดของปัญหา ความสาคญั ของปัญหา ความเหมาะสมของเทคโนโลยี

วิธีของ 5D. สามารถใช้ระบปุ ัญหาและจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหาโดยใช้หลกั การทางระบาดวิทยาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาDeath  Mortality Rateของชมุ ชนDisability  จานวนประชากรท่มี แี นวโน้มทก่ี ่อให้เกิดความพกิ ารDisease  Mortality Rate ทเ่ี กิดขนึ ้ ในชมุ ชนDiscomfort  ความรู้สกึ ไมส่ ขุ สบาย/การตระหนกั ถงึ ความสาคญัของปัญหาDissatisfaction  ความรู้สกึ ไม่พงึ พอใจของประชาชนต่อปัญหาทเ่ี กิดขนึ ้ คานวณคะแนนตามระบบ Composition Index คอื ให้คะแนน 3 2 1 แล้วเอาคะแนนทงั้ หมดมารวมกนั

วธิ ีกระบวนการกลุ่ม (Norminal Group Process) ประชาชนเป็นคนตดั สนิ ใจเลอื กแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยให้ประชาชนอภปิ รายผลดี ผลเสียของแตล่ ะปัญหาแล้ว ให้สมาชิกลงคะแนนเสียงโดยการยกมือ / ใช้บตั ร

วธิ ีของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ใช้กบั ปัญหาทวั่ ไป โดยมีเกณฑ์ ดงั นี ้ ขนาดของกลมุ่ ชนที่ถกู กระทบ มีคา่ คะแนน 1-5 ความร้ายแรงและเร่งดว่ น มีคะแนน 1-5 ความเสยี หายในอนาคต มีคะแนน 1-5 การยอมรับร่วมกนั ของชมุ ชน มีคะแนน 1-5

วธิ ีของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล เป็นวิธีที่นิยมในปัจจบุ นั มีเกณฑ์การพจิ ารณา 4 องค์ประกอบ ขนาดของปัญหา (Size of Problem) ความรุนแรงของปัญหา (Severity of Problem) ความยากงา่ ยและความพร้อมในการท่ีจะแก้ไขปัญหา (Feasibility of Management) ในด้านตา่ งๆ :- เทคโนโลยี / ความรู้ทางวชิ าการ กาลงั คน , เวลา , ทรัพยากร , งบประมาณ , นโยบาย , ศีลธรรม

การจดั ลาดับความสาคญั ของปัญหา1. ขนาดของปัญหา คือจานวนผู้ประสบปัญหาหรือได้รับผลกระทบ โดยตรงจากปัญหาน้ัน- แบบองิ เกณฑ์ขนาดของปัญหา คะแนนไม่มีเลย 0มากกว่าร้อยละ 0-25 1ร้อยละ 26-50 2ร้อยละ 51-75 3ร้อยละ 76-100 4


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook