Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore The sae world

The sae world

Published by Nitchakarn Sriwisud, 2021-05-20 12:43:23

Description: The sae world

Search

Read the Text Version

HET WSAOERLD MAGAZINE

สารบัญ หน้า 1 เรื่อง 2 What is the sea? 7 7 สัตว์มหศั จรรย์ ใต้ทอ้ งทะเลอนั ดามนั 9 11 แหลง่ ก�ำ เนิดขยะทะเล การอนุรกั ษ์ทางทะเล 12 ปะการงั 15 ชนิดปะการังในประเทศไทย ประโยชนข์ องปะการัง

1 What is the sea ? ทะเล เปน็ แหลง่ นำ้�เค็มขนาดใหญ่ที่ลอ้ มรอบด้วยพื้นดนิ ทั้ งหมดหรอื บางส่วน เม่อื กลา่ วถึงกว้าง ๆ ทะเล คอื ระบบทเ่ี ชื่อม กันระหว่างผนื น�้ำ มหาสมุทรน้ำ�เคม็ บนโลก ถือเป็นมหาสมทุ รโลก หรอื แยกเปน็ มหาสมทุ รหลาย ๆ แหง่ ทะเลบรรเทาภมู ิอากาศของโลก และมีบทบาทส�ำ คญั ในวัฏจกั รนำ้� และวัฏจักรคาร์บอน แมว้ า่ มกี ารเ ดนิ ทางและส�ำ รวจทะเลตั้งแตย่ ุคก่อนประวัติศาสตร์ การวิจัยทางวิ ทยาศาสตร์สมยั ใหมเ่ กยี่ วกับทะเลทเี่ รยี กว่า สมุทรศาสตร์ สบื ยอ้ นไ ปไดถ้ ึงคณะเดินทางแชลเลนเจอรข์ องชาวองั กฤษในครสิ ต์ทศวรรษ 1870 ทะเลถูกแบง่ ออกเปน็ ส่วน ๆ ได้ 5 ส่วน รวมถงึ มหาสมทุ ร 4 แห่ง ท่ีตงั้ ชือ่ โดยองค์การอุทกศาสตรส์ ากล (มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมทุ รแปซิฟิก มหาสมุทรอนิ เดีย และมหาสมทุ รอารก์ ตกิ ) และมหาสมุทรใต้ ทะเลที่มขี นาดเลก็ กวา่ และอยใู่ นระดบั รองลงมา เช่น ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

2 7 สตั ว์มหศั จรรย์ ใตท้ อ้ งทะเลอันดามนั !! เปน็ กันไหม ? เวลาไปดำ�น้ำ�ทีไรเราก็เจอปลานู่นน่ี ประการังอัน นั้นอันนี้ตงั้ หลายอยา่ ง แต่พอข้นึ จากนำ้�มาเราจำ�ปลานีโมไ่ ดต้ วั เดียว อาจจะเปน็ เพราะว่ามนั จำ�งา่ ย นา่ รัก และเคยเป็นพระเอกหนงั การต์ ูนมา กอ่ น เราเลยคุน้ กบั มันมากกว่าปลาตัวอ่นื ๆ หรือบางทีเราไปดำ�นำ�้ หวังจะ พ่ึงให้ไกดพ์ าไปท�ำ ความร้จู ักกับปลาตัวใหม่ๆ ไกด์กจ็ ะชอบพาเราไปดูแต่ ปลาการ์ตูน 555555 บางทีก็อยากรูจ้ ักปลาตัวอนื่ บา้ งไงคุณพี่ ชา่ งมนั ช้นั ไมง่ อ้ อ ว่ายไปถ่ายรูปมาเก็บไวแ้ ละก็เอามาเสิร์ชหาในอินเทอรเ์ นต็ เองละ กัน วันนห้ี มา่ ม๊กี ็เลยได้รวบรวมสิ่งมีชวี ติ ต่างๆ ใต้ทอ้ งทะเลไทยท่หี มา่ มไ๊ี ด้เคยไปพบเจอมาฝากทุกคนกันคะ่

3 ปลาการ์ตูน (Clownfish) เพราะว่า พ่แี กมีเมือกทเ่ี ปน็ เกราะปอ้ งกันพษิ จากด ขาดสุดหล่อน่ีไปไมไ่ ด้เลย เป็นปลาพระเอกทีใ่ ครไปท อกไมท้ ะเลอยู่ ถา้ เม่อื ไหรท่ ่เี มอื กนั้นหายไปนางก็จะเ ะเลทางใต้ยงั ไงกต็ อ้ งไดเ้ จอ นน่ั ก็คือ “ปลาการ์ตนู ปน็ เหมอื นปลาตวั อน่ื ๆ คะ่ ม่องเทง่ ตามๆ กนั ไป หรือเจา้ นโี ม่นน่ั เอง” แตพ่ ระเอกตัวน้ีเจอแลว้ ขอลายเซ็น แตน่ โี มเ่ ขากไ็ มไ่ ดม้ าอาศัยอยู่เฉยๆ นะคะ ตอนกลา งคืนเวลาทีอ่ อกซิเจนในน�้ำ ลดลงนโี ม่จะคอยโบกครี ตไ์ มไ่ ด้นะคะ หยิง่ ใหถ้ า่ ยรูปอย่างเดยี ว ถา้ ด�ำ ๆ น้�ำ อยู่แลว้ เจอดงดอกไม้ทะเลสยายหนวดพรว้ิ ไ บไปมา เพอื่ ใหเ้ กิดกระแสนำ�้ ไหลผ่านดอกไม้ทะเลเพื่ หวไปกบั สายน้�ำ อย่กู ็นนั่ แหละค่ะ บา้ นของเจา้ นโี มเ่ ขาเลย อใหอ้ อกซิเจนกบั ดอกไม้ทะเลอกี ดว้ ย นโี มก่ บั ดอกไม้ทะเลเขาเป็นเพ่ือนบา้ นทีร่ กั กันดสี ุดๆ ค่ะ พ่ึงพาอาศยั กนั ตลอด นโี มจ่ ะใชด้ อกไม้ทะเลเปน็ หลมุ หลบภยั และแหลง่ หาอาหาร เพราะในปลายหนว ดทีอ่ ่อนนุ่มของดอกไม้ทะเลจะมีเขม็ พษิ จำ�นวนมหาศ าล พอมปี ลาว่ายหลงผ่านมา ดอกไมท้ ะเลก็จะใชห้ น วดพิษท่มิ เหย่ือใหเ้ ป็นอัมพาต และใชห้ นวดจบั เขา้ ปาก ทำ�ให้ไม่มปี ลาตัวไหนกล้าเขา้ ใกล้ดอกไม้ทะเล ยกเวน้ เจา้ นีโม่นี่แหละคะ่ ทเี่ ทีย่ วว่ายหาสาหร่ายกนิ อยู่ร อบๆ พอมีศัตรูมาบกุ จะได้รบี หนีวา่ ยหลบเข้าไปในดงด อกไม้ทะเลไดอ้ ยา่ งปลอดภัย สาเหตุท่ีพีแ่ กไม่เปน็ อะไรก็ ปลาขตี้ งั เบ็ดฟ้า (Blue tang) เปน็ อกี หน่งึ ปลาท่ีโดดเดน่ เป็นดาราไม่แพ้น่โี ม่เลยคือ “ปลาข้ตี ังเบด็ ฟา้ ” หรอื เจา้ ดอรีข่ ้ีลืม ที่รู้จกั กันดใี นการ์ตนู Finding Nemo และ Finding Dory ในวงการเล้ยี งปลาสวยงามจะเลี้ยงเจ้าดอรก่ี นั วา่ บลูแทงก์ นางจะหากนิ ตามแนวปะการัง จงึ มคี วามสำ�คัญต่อระบบนเิ วศทา งท้องทะเลมาก เพราะจ�ำ นวนปลาบลแู ทงค์สามารถชว้ี ัดความสม บรู ณข์ องแนวปะการงั ในแถบนัน้ ๆ ได้ บลแู ทงก์จะชอบอยู่ตามแน วปะการงั แข็ง ถ้าในไทยนี่จะพบมากในแถวหมเู่ กาะสรุ นิ ทร์ สมิ ลิ นั ส่วนแก็งคน์ ีห้ ม่ามเี๊ จอท่สี มิ ิลันคะ่

5 เป็นแรรไ์ อเท็มเลยนะตวั นี้ เปน็ เตา่ ที่มขี นาดคอ่ นข้างใหญ่ พบเจอได้บอ่ ยท่ี หมู่เกาะสรุ นิ ทร์และสมิ ิลนั ค่ะ เตา่ ตนุ เต่าตนุ (Green sea turtle) เปน็ เต่าท่กี ินทัง้ พชื และสตั ว์ แต่จะกนิ พืชเป็นหลกั พวก หญ้าทะเลหรือสาหร่ายทะเล และสตั วท์ กี่ นิ กจ็ ะเปน็ พว ตัวนี้เรยี กไดว้ า่ เปน็ ผเู้ ฒา่ แหง่ ท้องทะเล กปลาหรือแมงกะพรุน และด้วยความไรเ้ ดยี งสาของมั นบางคร้งั ก็กินถุงพลาสตกิ เข้าไปเพราะคิดว่าเป็นแมง กะพรุน พอกนิ เขา้ ไปเยอะๆ กส็ ะสมแล้วก็เปน็ เหมอื นเ จา้ เต่าออมสินอย่างทท่ี กุ คนได้เห็นในขา่ วกนั และจะมี ข่าวท�ำ นองน้เี กดิ ข้นึ เยอะมากซง่ึ มันแสดงให้เหน็ เลยว่า ทะเลบา้ นเรามีขยะเยอะ ซึง่ ก็ไม่ได้เกิดจากใครเลยค่ะ นอกจากมนุษย์ผูม้ กั งา่ ย ถา้ ยังอยากใหผ้ ู้เฒา่ เต่าเหล่า นี้อยู่กบั เราไปนานๆ กต็ ้องชว่ ยกนั ดแู ล และรกั ษาทะเล เบอ้ื งตน้ แคไ่ มท่ ง้ิ ขยะลงทะเลกพ็ อแลว้ ค่ะ ปลาฉลามครบี ดำ� (Blacktip reef shark) สิง่ มีชีวิตตัวแรกพดู ชือ่ มาหลายคนคงจะกลวั จนไม่กลา้ ลงนำ้�เลย ไมใ่ ช่ใครท่ีไหนเขาก็คอื “ปลาฉลามครบี ด�ำ ” ซ่ึ งตัวนจ้ี ะมนี ิสัยไม่ดุร้ายเท่าปลาฉลามสายพนั ธ์ุอื่นๆ คะ่ ตอนทไ่ี ปเจอกนั ครั้งแรกหมา่ ม๊กี ็กลัวมากว่าเราจะโดนกินไ หม เนอ้ื ยิ่งเยอะๆ อยู่ 5555 แต่จริงๆ ถ้าเราไมไ่ ปรบกวนเขา เขาก็ไม่ท�ำ รา้ ยเราคะ่ สามารถเจอไดท้ ง้ั ฝง่ั อ่าว ไทยและอันดามนั เลยค่ะ ส่วนเจา้ ตวั น้หี มา่ มี๊เจอตอนทไี่ ปเกาะหวั ใจมรกต ทีท่ ะเลพมา่ คะ่ ปกติแล้วปลาฉลามพวกน้ี จะออกหากินตอนกลางคนื ตอนกลางวนั ก็จะไปอยกู่ ลางทะเลลึกดังนั้นเวลาทเี่ ราเจอปลาฉลาครีบด�ำ ตอนกลางวัน แต่ละครงั้ กเ็ ลยเปน็ ขา่ วตลอด เป็นปลาเซเลบเวอ้ อ แค่ออกมาหากินกเ็ ปน็ ข่าวละ 555 นับเปน็ ปลาฉลามสายพนั ธุท์ สี่ ามารถพบได้บอ่ ยทีส่ ุดในทะเลเลยกว็ า่ ได้

ปลาดาวสีนำ้�เงิน (Bฺ lue Sea Star) 6 เจ้าตวั น้เี จอแล้วว้าวเลยคะ่ เพราะหมา่ ม๊เี พง่ิ เคยเจอครง้ั แรก ไมเ่ คยเจอกันมากอ่ น พีแ่ กคือปลาดาวสีน�้ำ เงิน ปลาดาวเป็นสตั วท์ ะเลท่ี ไม่มกี ระดกู สันหลัง จะมีแฉกแยกออกไปตรงน้จี ะเ รียกวา่ แขน และใต้แขนแตล่ ะข้างก็จะมหี นวดสั่นๆ ที่เอาไวส้ ำ�หรับยึดเกาะ หรือเคลื่อนท่ี ส่วนปากก็จะอยู่ ปลาสิงโต (Lion Fish) ตรงกลางด่านล่างล�ำ ตวั ปลาดาวจะกนิ หอยสองฝา เปน็ อีกตัวนึงท่เี ห็นแลว้ ขนลุก โดยเฉพาะ หอยนางรม เปน็ อาหารหรือพวก กุ้ง ปู เพราะหน้าตามนั ไมเ่ ป็นมิตรสดุ ๆ ตอนเห็นปลาตัวน้ีคร้ั หนอน และ สัตวไ์ มม่ กี ระดูกสันหลงั อน่ื ๆ ยกเวน้ แต่ งแรกท่ีเกาะหวั ใจมรกต แลว้ ยงั ไมเ่ คยรู้จกั กันมาก่อน เจา้ ปลาดาวสนี ้�ำ เงินตัวนเ้ี ทา่ นน้ั ค่ะ นางไมท่ านเน้อื หมา่ ม๊ีเรียกมนั ว่าปลาง้ิว 555 เพราะนางมีเคร่ืองหวั เ นางกนิ มงั สวริ ตั ิ 55555 ตอนหมา่ ม๊ไี ปเกาะรอกเก คร่ืองตวั อลงั การระโยงระยางมาก แตพ่ อมาร้อู กี ทอี อ่ าะหา้ ทก่ี ระบ่จี ะเจอปลาวดาวชนดิ น้อี ย่เู ยอะมากเลยค่ะ นางคือปลาสงิ โตจ้า หนา้ ตาไมเ่ ปน็ มิตรแถมยงั เปน็ ปลา นา่ รักเวอ้ อ ทีม่ ตี อ่ มพิษทกี่ า้ นครีบแข็งทุกก้าน รวมถึงมีถุงพิษเล็กๆ อยู่เต็มรอบไปหมด แต่วา่ ถา้ เกิดอบุ ตั ิเหตุไปโดนพิษเข้า จรงิ ๆ พษิ กจ็ ะไม่ร้ายแรงอะไรเทา่ ไหรก่ ็แค่ ท้ังอมั พาต อมั พาตชวั่ คราว หรือแผลพพุ อง แคน่ น้ั เอง 5555 ปลาปกั เป้ายักษ์ (stellate puffer) พค่ี นน้ีน่ีหน้าตากวนประสาทมาก ตอนไปเจอที่เกาะรอกน่ี คอื นางกำ�ลงั มองแรง ถ้าพ่ีเขาพดู ได้คงพูดวา่ ไมเ่ คยเหน็ ปลาปกั เป้าหรอื ไงมมนษุ ย์!! ธรรมชาตขิ องพเ่ี ปา้ นเ่ี ขาจะ ชอบหากนิ ตามระดับหนา้ ดิน อาศัยอย่ตู ามแนวปะการัง คอยกนิ ปลาเลก็ ปลาน้อยตามหนา้ ดินเป็นอาหาร ตวั นีถ้ ้า เวอรช์ นั่ แบบตัวโตเตม็ วยั ใหญไ่ ด้ถงึ 120 เซนติเมตรเลย เปน็ ปลาปักเปา้ ชนิดทใ่ี หญ่ท่ีสดุ ที่พบได้ในประเทศไทย

7

8

9 การอนุรักษท์ างทะเล การศึกษาการอนุรกั ษ์ทรัพยากรทางทะเลทาง และการเปลีย่ นแปลงของระบบนิเวศ รวมถึงมุง่ เน้น กายภาพ และทรพั ยากรทางทะเลทางชวี ภาพต ไปทีก่ ารจำ�กดั ความเสียหายของมนุษยต์ อ่ ระบบนเิ ว ลอดจนระบบนเิ วศ โดยเป็นการปอ้ งกนั และรกั ษ ศทางทะเล, การฟนื้ ฟูระบบนเิ วศทางทะเลท่เี สียหาย าระบบนเิ วศในมหาสมทุ รและทะเลผา่ นการจดั ก และรกั ษาสายพนั ธุ์ท่อี ่อนแอ ตลอดจนระบบนเิ วศของส่ิงมี ารตามแผนเพ่อื ปอ้ งกนั การแสวงประโยชนจ์ าก ชวี ิตทางทะเล การอนุรกั ษท์ างทะเลเปน็ ระเบยี บวนิ ัยที่ค่อ ทรัพยากรเหล่านี้ การอนุรักษท์ างทะเลเปน็ ผล นข้างใหม่ซึ่งได้พฒั นาขนึ้ เพ่อื ตอบสนองต่อประเด็นทางชี มาจากผลกระทบท่เี กดิ ขน้ึ ในสิ่งแวดลอ้ มของเรา ววทิ ยา เช่น การสญู พนั ธุ์ และท่ีอยูอ่ าศัยใต้ทะเล เชน่ การสญู พันธ์,ุ การท�ำ ลายถิน่ ฐานธรรมชาติ ทีเ่ ปลยี่ นไป

10 นกั อนรุ ักษ์ทางทะเลพ่ึงพาหลกั การทางวทิ ยาศา สตร์ที่ไดจ้ ากชวี วทิ ยาทางทะเล, สมุทรศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การประมง ตลอดจนปจั จัยต่าง ๆ ของมนษุ ย์ เชน่ ความต้องการทรัพยากรทางทะเลแล ะกฎหมายทางทะเล, เศรษฐศาสตรแ์ ละนโยบาย เพื่อ กำ�หนดวธิ กี ารทีด่ ที ีส่ ุดในการปกปอ้ งและอนรุ กั ษ์สายพั นธุร์ วมถงึ ระบบนเิ วศทางทะเล การอนุรักษท์ างทะเลอ าจอธิบายไดว้ ่าเป็นสาขายอ่ ยของชวี วิทยาเชงิ อนุรกั ษ์ การอนุรักษ์ทางทะเลได้รบั การกลา่ วถงึ ในเป้าหมายก ารพัฒนาท่ยี ัง่ ยนื ที่ 14 เพือ่ ให้แนใ่ จว่ามกี ารใชท้ รัพยา กรทางทะเลอย่างย่งั ยนื เพื่อการพัฒนาทยี่ ง่ั ยนื [2]

11 ปะ ปะการงั หรอื กะรงั เป็นสิง่ มีชวี ติ ท่อี าศัยอยู่ในทะเล จัดอยู่ในช้ันแอน โธซัวและจดั เป็นพวกดอกไม้ทะเล มีขนาดเลก็ เรยี กวา่ โพลฟิ แตจ่ ะอาศั กา ยรวมกันอยู่เปน็ โคโลนที ี่ประกอบไปดว้ ยโพลฟิ เด่ยี ว ๆ จำ�นวนมาก เป็ นกลมุ่ ทีส่ ร้างแนวปะการังท่ีสำ�คัญพบในทะเลเขตรอ้ นท่สี ามารถดึงสาร รงั แคลเซยี มคารบ์ อเนตจากน�ำ้ ทะเลมาสร้างเป็นโครงสรา้ งแข็งเพอื่ เป็นท่ี อยู่อาศยั ได้ หวั ของปะการงั หนง่ึ ๆ โดยปรกตจิ ะสงั เกตเหน็ เป็นส่ิ เจริญเตบิ โตไดใ้ นน�ำ้ ทะเลใสตน้ื ๆ โดยปรกตแิ ล้วจ งมชี ีวิตเดี่ยว ๆ อนั หนง่ึ แตท่ จ่ี ริงน้ันมนั ประกอบข้ึน ะอาศยั อยูบ่ ริเวณท่ีมคี วามลึกนอ้ ยกวา่ 60 เมตร มาจากสง่ิ มชี ีวิตเดย่ี วๆขนาดเล็กนับเป็นพัน ๆ โพลฟิ ปะการังเหลา่ น้ีถอื ว่าเป็นผู้สร้างโครงสร้างทางกา โดยในทางพนั ธศ์ุ าสตรแ์ ลว้ จะเปน็ โพลฟิ ชนิดพนั ธเ์ุ ดีย ยภาพของแนวปะการงั ทพ่ี ฒั นาข้นึ มาในทะเลเขตร้ วกันทงั้ หมด โพลิฟจะสร้างโครงสรา้ งแข็งทีม่ ลี ักษณ อนและเขตก่งึ รอ้ นอยา่ งเชน่ เกรตแบริเออรร์ ฟี บริเว ะเฉพาะของปะการงั แตล่ ะชนดิ หัวของปะการงั หน่ึง ณนอกชายฝั่งของรัฐควนี สแ์ ลนด์ของประเทศออส ๆ มีการเจรญิ เติบโตโดยการสืบพันธ์แุ บบไมใ่ ชเ้ เตรเลีย แต่ก็มปี ะการงั บางชนดิ ทด่ี ำ�รงชวี ติ อยู่ได้โ พศของโพลฟิ เดย่ี ว ๆ แตป่ ะการงั กส็ ามารถสืบ ดยไมเ่ กีย่ วข้องกับสาหร่ายเนื่องจากอยใู่ นทะเลลึก พนั ธุอ์ อกลูกหลานโดยการใชเ้ พศกบั ปะการงั ชนิ อยา่ งในมหาสมทุ รแอตแลนติกและมหาสมทุ รแปซิ ดเดียวกันด้วยการปล่อยเซลลส์ ืบพันธพ์ุ รอ้ ม ๆ ฟกิ เช่น ปะการังสกลุ “โลเฟเลีย” ที่อย่ไู ด้ในนำ้�เ กนั ตลอดหนงึ่ คืนหรือหลาย ๆ คนื ในช่วงเดอื นเพ็ญ ย็นๆทรี่ ะดับความลึกไดม้ ากถึง 3000 เมตร[2] แมว้ า่ ปะการงั จะสามารถจบั ปลาและสัตว์เล็ก ๆ ตัวอยา่ งของปะการงั เหล่านีส้ ามารถพบไดท้ ดี่ าร์วิ ขนาดแพลงตอนไดโ้ ดยใช้เขม็ พิษ (เนมาโตซสิ ต์) นมาวดท์ างตะวันตกเฉียงเหนือของเคพแวรธ็ ในสก๊ ทอ่ี ย่บู นหนวดของมัน แตส่ ว่ นใหญแ่ ลว้ ปะการังจะได้ อตแลนด์ และยงั พบได้บริเวณนอกชายฝง่ั รัฐวอชิ รับสารอาหารจากสาหร่ายเซลลเ์ ดยี วที่สังเคราะห์แ งตันและทีห่ มเู่ กาะอะลเู ชียนของอะแลสกา สงไดท้ เี่ รยี กว่าซูแซนทาลา นน่ั ทำ�ใหป้ ะการังท้งั หลา ยมีการดำ�รงชีวติ ทีข่ ้นึ ตรงต่อแสงอาทิตย์และจะ

12 ชนิดปะการงั ในประเทศไทย รายช่ือชนดิ ปะการงั ในประเทศไทย และเอกสารแสดงชนิดปะกา รังท่พี บในประเทศไทย พบรวม 18 วงศ์ 71 สกุล 389 ชนิด ทั้งนจ้ี ำ�นวน273 ชนดิ เป็นพวกที่มตี วั อย่างรวบรวมไวต้ ามพพิ ธิ ภัณฑ์ทีส่ ถาบนั ต่างๆ ดงั กลา่ วข้างตน้ สว่ นอกี 116 ชนิด เปน็ พวกที่คาดว่าน่าจะมโี อกาสพบในนา่ นน้ำ�ไทย ซึ่งจ�ำ นวนชนิด ปะการงั ท่พี บท้ังทางฝัง่ ทะเลอันดามนั และอ่าวไทย โดยมีตวั เลข แสดงจำ�นวนชนดิ ที่มีรายงานการพบและจ�ำ นวนชนิดที่ยงั ไม่มรี าย งานการพบแตค่ าดวา่ มีในพ้นื ที่ โดยการคาดการณ์น้ี ยึดจากแผนทก่ี ารแพรก่ ระจายของชนิดปะการงั จากหนังสอื Coral of the World สรุปจำ�นวนชนิดปะการังแข็งทพ่ี บในประเทศไทย ฝั่งทะเล จำ�นวนชนดิ ทม่ี รี ายงานการคน้ พบ จ�ำ นวนชนิดทีย่ งั ไมม่ ีรายงานการค้นพบ แต่คาดว่ามใี นพ้นื ท่ี อา่ วไทย อันดามัน 240 102 รวมทัง้ หมด 269 26 273 116

13

14

15 ประโยชนข์ องปะการัง แนวปะการังเป็นระบบนเิ วศน์ทมี่ ีคณุ คา่ และประโยชน์นานัปกา รแตม่ ักถูกมองขา้ มวา่ เป็นแหล่งธรรมชาติทัว่ ๆไป ซ่ึงอย่ใู ตน้ �ำ้ และไมค่ อ่ ยพบเห็น จงึ ไมไ่ ด้รับการให้ความสำ�คญั มากนัก ซงึ่ ประโยชน์ของแนวปะการงั มมี ากมาย ดงั น้ี 1.เปน็ แหล่งทีอ่ ยู่อาศัยของพืชและสัตวน์ านาชนดิ ทัง้ นเี้ พราะลกั ษณะท่ีมซี อกมีโพรงอยทู่ ว่ั ๆไป ท�ำ ให้ เหมาะต่อการหลบภัย เปน็ ที่อยู่ และหาอาหารหลายชนิดทม่ี คี ่าทางเศรษฐกจิ สามารถทจี่ ะจับมาใช้ อย่างถกู วิธีการอนรุ กั ษไ์ ด้ เชน่ กุง้ หอย ปู ปลา หลายชนดิ เปน็ ท่ีนยิ มการบริโภค ตลอดไปจนถงึ การเกย็ สะสม ทำ�ให้มรี าคาแพง เปน็ ที่ตอ้ งการของตลาดมาก และแนวปะการังก็เปน็ แห ลง่ ทรัพยากรประมงทีส่ ำ�คัญ ทำ�ให้ประเทศไทยสง่ ออกผลติ ภัณฑ์สัตว์น�้ำ ติ ดอนั ดับ1ใน10ของโลกและเป็นรายได้สงู ที่สดุ 1ใน5ของรายไดป้ ระเทศ 2.แนวปะการังตามแนวชายฝง่ั มสี ว่ นในการช่วยลดคว ามรนุ แรงของคลื่นทก่ี ระทำ�ต่อชายฝง่ั ได้ เมอ่ื คลนื่ ปะทะกับปะกา รังทีข่ อบแนวปะการัง คล่นื จะแตกตัวท�ำ ใหค้ วามรนุ แรงทกี่ ระทบหาด ทรายลดลง ในหลายๆแหง่ ซง่ึ ปะการงั ถกู ทำ�ลายไปชายฝัง่ ทะเลจะถู กกัดเซาะและพงั ทลายท�ำ ให้เกดิ ความเสยี หายอย่างมาก

16 3.แนวปะการังเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วใต้ทะเลเนอ่ื งจากความสวยงาม ความหลากหลายของส่งิ มชี ีวติ น�ำ้ ท่ีใสสะอาด และองค์ประกอบอ่ืนๆอีกมากมาย ท�ำ ใหบ้ ริเวณแนวปะ การังเป็นแหล่งพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ และดึงดูดนกั ท่องเท่ียวไดเ้ ป็นอย่างดี และขณะน้จี �ำ นวนนักด�ำ นำ้�ก�ำ ลังเ พิม่ ขึน้ อย่างรวดเร็วในประเทศไทย นักท่องเทย่ี วท้งั ไทยและต่างประเทศก�ำ ลังนยิ มมาดำ�นำ�้ ในประเทศไท ยกนั มากขึ้น ในแตล่ ะปีมีนกั ท่องเทยี่ ว ต่างชาตหิ ลายแสนคน เดนิ ทางเข้ามาเพือ่ ชมแนวปะการงั ไทยหนึ่ งในจดุ ด�ำ น�ำ้ ทส่ี วยทสี่ ดุ ในโลกระบบนเิ วศแหง่ นี้ทำ�เงินเข้าประเทศปีละหลายหมืน่ ลา้ นบาท 4.ความส�ำ คัญของปะการงั และสิง่ มีชวี ิตหลายชนิดในทางดา้ น การแพทย์ และสาธารณสขุ กำ�ลังขยายตวั อยา่ งมาก เพราะสามารถสกดั ส ารเคมจี ากสง่ิ มชี วี ิตเหลา่ นีไ้ ปใชป้ ระโยชน์กันได้นานปั การ เช่น ท�ำ ครบี ป้องกัน แสงอลั ตราไวโอเลต ซึ่งทำ�ลายเซลล์ผิวหนัง การสกดั สารต่างเพ่ือใช้ประโยชนใ์ นการทดลองเก่ียวกบั ดรคมะเร็ง การค้นหาสารเพือ่ ขบั ไล่ปลาฉลามเป็นตน้ 5.นอกจากคณุ ค่าดงั กล่าวมาแลว้ ปะการังยงั มีคุณคา่ ในการทำ�ใ ห้เกดิ ทรายกับชายหาด โดยเกิดจากการ สกึ กร่อนแตกยอ่ ยของโครงสรา้ ง หนิ ปูน โดยการกดั กร่อนโดยสตั วท์ ะเลบางชนิด และโดยคลืน่ เปน็ ตน้ แทนอฐิ ในเมอื งไทยกพ็ บรอ่ งรอยได้ท่ีเกาะสมยุ และเกาะพะงัน ปัจจบุ ันในประเทศไทย ไม่มกี ารใชป้ ระโยชน์ ในรปู แบบน้ีแลว้ แตใ่ นบางประเทศยงั มอี ยู่ เช่น ฟิลปิ ปินส์ เปน็ ต้น บางแหง่ ก็ขกุ เอาปะการงั มา ท�ำ ปูนขาวโดยวิธเี ผา เช่น ในศรลี งั กา หรือขุดเอาซากโบราณของหอยมอื เสอื มาใช้ผลิตกระเบื้อง เพราะทำ�ใหเ้ กิดลวดลายสวยงาม เชน่ ในอนิ โดนเี ซีย นอกจากน้ยี งั มีการขุดทรายจากแ นวปะการงั ไปใชใ้ นการเล้ยี งปลาตู้ ซึ่งวิธีการตา่ งๆเหล่านี้ ถึงแมจ้ ะไดป้ ระโยชน์บางอยา่ ง แตก่ ็เป็นการทำ�ให้ เกิดการขุดทำ�ลายแนวปะการงั จึงไมส่ มควรสนบั สนุน

17 #ทะเลและมหาสมุทร กว่ารอ้ ยละ 80 ของสรรพชวี ติ บนโลกล้วนซอ่ นตวั อยภู่ ายใต้เกลียวคลืน่ และท้องทะเล มหาสมทุ รมรี ะบบนิเวศทางทะเลทหี่ ลากหลาย เปน็ แหลง่ อาหารของโลก ชว่ ยสร้างอ อกซเิ จนมากกว่าครึ่งหน่งึ ของปรมิ าณออกซเิ จนท้ังหมด อกี ท้ังยงั เปน็ ตั วขับเคลอื่ นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและรักษาสมดลุ ของชีวิตบนโลก ทำ�ให้โลกเปน็ ที่อยูอ่ าศยั ของสิง่ มีชวี ิตทุกชนิดได้จนถึงปจั จบุ ัน ทะเลและม หาสมุทรของโลกกำ�ลังเผชิญกับวกิ ฤตการเปล่ียนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ วกิ ฤตของมหาสมุทร ขยะพลาสติกในมหาสมทุ รสีนำ้�เงนิ มหาสมุทรของเราก�ำ ลงั เผชญิ กับ มหาสมุทรก�ำ ลงั สำ�ลกั ขยะพลาสตกิ วิกฤต ระบบนเิ วศมหาสมุทรและ พลาสติกชิ้นเล็กๆ ทะเลทอ่ี ดุ มสมบูรณ์กำ�ลงั ถกู คกุ ค มอี ย่ใู นมหาสมุทรทกุ แหง่ บนโลก ทกุ ๆ ปี เร ามจากกจิ กรรมตา่ งๆ ของมนุษย์ าเพมิ่ จำ�นวนขยะพลาสตกิ หลายล้านตันในสง่ิ ไมว่ ่าจะเปน็ การประมงเกินขนาด แวดลอ้ มทางทะเล นักวจิ ัยจากมหาวิทยาลัย มลพิษพลาสตกิ จอรเ์ จียประมาณการไว้วา่ มนษุ ย์เพ่มิ ขยะให้ การปนเป้อื นของสารพษิ กบั มหาสมทุ รไปประมาณ 12 ล้านตนั ต่อปี และการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู ิอากาศ

18 นางสาวณิชกานต์ ศรวี สิ ทุ ธ์ิ T รหัสนกั ศกึ ษา 6111522012 H สาขา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอตุ สาหกรรมดจิ ทิ ลั E คณะเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม A มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครศรีธรรมราช U T H O R O F E- B O O K

‘โลก’ ของเรานน้ั ประกอบไปดว้ ยทะเลมากกวา่ 70% แนน่ อนวา่ แม้จะทำ�การศกึ ษาอยา่ งจริงจงั มาแล้วก็ยังคงมีเร่อื งราวอีกมากทยี่ งั คงเปน็ ปริศนาอยู่ บรรยากาศจากทะเลตา่ งกั นไปแตล่ ะที่บางคนชอบไปทคี่ นเยอะๆ คกึ คักจะได้สนุกมีเพ่ือนใหม่ๆ ได้เลน่ น�้ำ กิจกรรมกลมุ่ บางคนชอบความเงยี บสงบของชายหาด นง่ั เงยี บๆ มองทะเลอย่อู ย่างน้ัน ไมว่ า่ จะอารมณ์ ไหนทะเลกเ็ ป็นสอื่ กลางใหเ้ ราได้เปน็ อย่างดี นอกจากทะเลจะลกึ ลบั แล้ว มันยังมีความสวยงามในตัวมนั เอง ท่เี ปน็ สถานทพี่ กั ผ่อนหยอ่ นใจ เรยี กไดว้ ่าหากไม่สบายใจ หรอื เหนอื่ ยจากอะไรก็ตาม ใหล้ องไปทะเลแล้วชวี ติ คณุ จะดขี น้ึ ว/ด/ป ทจ่ี ัดทำ� 20/05/2564 ราคา 159 บาท


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook