Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการสอน วิชาธุรกิจ ม2 ส่ง 29 มีนาคม64 ล่าสุดทำ 27 มีค.64

เอกสารประกอบการสอน วิชาธุรกิจ ม2 ส่ง 29 มีนาคม64 ล่าสุดทำ 27 มีค.64

Published by orasathong05, 2021-05-15 16:00:41

Description: เอกสารประกอบการสอน วิชาธุรกิจ ม2 ส่ง 29 มีนาคม64 ล่าสุดทำ 27 มีค.64

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการสอนรายวชิ า การงานอาชพี 1 รหัสวชิ า ง 22101 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 ผ้จู ดั ทา นางอรษา ทองขาว นายชนนิ ทร์ แท่งทอง ครู ชื่อ………………………………............................ชั้น…………….. เลขที่…………… โรงเรยี นมหาวชิราวุธ จังหวดั สงขลา สานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษาสงขลา สตลู

เอกสารประกอบการสอนรายวชิ า การงานอาชีพ 1(ง 22101) ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ผู้จดั ทา นางอรษา ทองขาว นายชนินทร์ แท่งทอง ครู ชื่อ………………………………............................ชั้น…………….. เลขท่ี…………… โรงเรยี นมหาวชริ าวธุ จงั หวดั สงขลา สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามัธยมศกึ ษาสงขลา สตลู

คํานํา เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง 22101การงานอาชีพ 1 จดั ทําขึ้นตามตัวชว้ี ดั และมาตรฐานการ เรียน หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2562) สําหรบั นักเรียนระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาป่ีท่ี 2 โดยมีเปูาหมายเพ่ือใชเ้ ป็นสื่อประกอบการเรยี นการสอน เพ่ือพัฒนา คณุ ภาพดา้ นความรู้และสมรรถนะสําคัญของนกั เรียนให้ไดม้ าตรฐานตามท่ีกําหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลาง พทุ ธศักราช 2551 อีกทงั้ พัฒนานักเรียนให้มีคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และบรรลตุ ามพระบรมราโชบาย ดา้ นการศึกษาของในหลวงรชั การท่ี 10 มุ่งสรา้ งพน้ื ฐานให้ผู้เรียนมีทัศนคติทถ่ี ูกต้องต่อบ้านเมืองมพี ้ืนฐานชีวติ ท่มี ั่นคงมีงานทํา มีอาชีพและเปน็ พลเมืองดีเพ่ือให้สามารถดํารงชวี ติ อย่รู ่วมกบั ผอู้ น่ื ในสังคมไทยและสังคมโลก อยา่ งมีความสุข โดยยึดแนวคิดการจัดการเรียนรทู้ ีเ่ น้นนักเรยี นเปน็ สาํ คัญ เน้นใหน้ กั เรียนได้เรยี นรู้ดว้ ยการ ปฏบิ ัติ (Active Learning) สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นตระหนักและเห็นแนวทางในการประกอบอาชีพสจุ รติ สามารถ นําความรู้ ทกั ษะ ไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาํ วันไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพและย่ังยนื นางอรษา ทองขาว นายชนนิ ทร์ แท่งทอง สารบัญ

คํานํา ก สารบญั ข ตารางวิเคราะห์หลักสูตร ค คาํ อธบิ ายรายวิชา ง โครงสร้างรายวิชา จ หนว่ ยท่ี 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจ 1 - แบบทดสอบก่อนเรยี น 3 - ความหมายของธรุ กจิ 5 - ความสาํ คัญของธรุ กจิ 6 - วัตถปุ ระสงค์ของการประกอบธรุ กจิ 7 - ประเภทธรุ กจิ 9 - ปัจจัยในการดาํ เนินธรุ กจิ 11 - สภาพแวดลอ้ มท่เี กย่ี วข้องในการประกอบธรุ กจิ 12 - บคุ คลทเี่ กย่ี วข้องในการประกอบธรุ กจิ 13 - ประโยชนใ์ นการประกอบธุรกจิ 13 - ความรบั ผิดชอบของธุรกิจต่อสงั คม 15 - แบบฝึกหดั 19 - รูปแบบขององค์กรทางธรุ กิจ 30 - แบบฝึกหัด 40 - เอกสารอ้างองิ 41 หน่วยท่ี 2 บญั ชีครวั เรือน 44 - ความหมายความสาํ คัญและประโยชนข์ องการจัดทําบัญชีครวั เรือน 48 - ประมาณการรายรับ-รายจา่ ยของตนเองและครอบครวั 51 - การบนั ทกึ รายการรบั -จา่ ยเงนิ ในสมดุ เงนิ สด - แบบฝึกหัด

คาอธิบายรายวชิ า ง22101 การงานอาชีพ 3 (งานธรุ กิจ) รายวชิ าพนื้ ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ค้นควา้ นาํ เสนอ และบันทกึ ข้อมูล เพื่อพฒั นาการทํางานวางแผน และสรุปแนวทาง การแกป้ ัญหาใน การทํางานใหเ้ หตผุ ลและแสดงความคดิ เหน็ ในการทํางานและใช้ทรพั ยากรในการปฏิบตั งิ าน อย่างประหยัด และคุม้ คา่ โดยใช้ทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการปฏิบัติ ทักษะการทํางานร่วมกัน ทักษะการแก้ปัญหาใน การทาํ งาน มจี ติ สํานกึ ในการทาํ งานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงานอย่างประหยดั และคมุ้ ค่า เพ่ือให้นักเรียนมีความสามารถในการสื่อสารความสามารถในการคิดความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีมีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัยใฝุเรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทํางาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะบรรลุตาม พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 มุ่งสร้างพื้นฐานให้ผู้เรียนมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อ บ้านเมืองมีพน้ื ฐานชวี ิตที่มน่ั คงมงี านทาํ มีอาชพี และเปน็ พลเมืองดี รหสั ตัวชีว้ ดั ง 1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 รวมทง้ั หมด 3 ตัวชีว้ ดั

โครงสร้างรายวชิ าพืน้ ฐาน (งานธุรกิจ) ง22101 การงานอาชีพ (งานธรุ กิจ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 20 ช่วั โมงจานวน 0.5 หน่วยกิต หน่วยการเรยี นรู้ท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสาคัญ เวลา คะแนน ตวั ช้ีวัด (ชั่วโมง) 50 1. ความรู้เบื้องตน้ เกยี่ วกับ - ความหมาย ธรุ กจิ ง 1.1 ความสาํ คญั วตั ถปุ ระสงค์ 10 ม. 2/1 และประโยชนข์ องธุรกจิ ม. 2/2 - รปู แบบองคก์ รธุรกิจ ม..2/3 - การจดั ตัง้ ธุรกจิ -คณุ สมบตั ิ และ จรรยาบรรณในการ ประกอบธรุ กิจ 2. บญั ชคี รัวเรือน ง 1.1 -ความหมาย ความสาํ คัญ ม. 2/1 และประโยชน์ของการ ม. 2/2 จดั ทาํ บญั ชีครัวเรือน ม. 2/3 -ประมาณการรายรบั - รายจ่ายของตนเองและ ครอบครวั 10 50 -สมุดบัญชีรายรับ- รายจา่ ย ของตนเองและ ครอบครัว รวม 20 100

แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยท่ี 1 ความรู้เบอื้ งต้นเกี่ยวกบั ธรุ กจิ คาช้ีแจงจงทําเครื่องหมาย X ทบั ข้อทถี่ ูกที่สดุ เพียงข้อเดียว 1. ธรุ กิจหมายถงึ ข้อใด ก. การจัดตั้งองค์กรหรือกิจการ ข. กระบวนการนําทรัพยากรธรรมชาตผิ า่ นกรรมวิธีการผลติ ค. ความตอ้ งการซ้ือของผบู้ รโิ ภค ง. การดาํ เนินงานโดยกลมุ่ บุคคลท่มี ีความต้องการคลา้ ยคลึงกัน 2. ข้อใดเปน็ ความสาํ คัญของธุรกิจ ก. สรา้ งความเจรญิ กา้ วหน้าทางเทคโนโลยี ข. เพิ่มผลประโยชนห์ รือกําไร ค. เพอ่ื สรา้ งความม่ันคงใหก้ ิจการ ง. เพอ่ื พฒั นาผลติ ภณั ฑ์และธรุ กิจ 3. ขอ้ ใดต่อไปนเี้ ป็นจริยธรรมของนักธรุ กจิ ตอ่ คูแ่ ขง่ ขนั ก. จําหนา่ ยสินคา้ ที่มีคุณภาพกวา่ คู่แข่งขันในราคาแพง ข. จําหน่ายสินคา้ ที่ดอ้ ยคุณภาพกวา่ คู่แข่งขันในราคาแพง ค. ละเวน้ การให้ความร่วมมือในการทําธุรกิจ ง. ละเวน้ การกลั่นแกลง้ ให้รา้ ยปูายสคี ่แู ข่งขัน 4. กล่มุ บุคคลที่มีความสาํ คญั มากต่อธรุ กจิ คือข้อใด ก. ผู้ขาย ข. รัฐบาล ค. ผู้ซอ้ื ง. ลกู จา้ ง 5. กจิ การประเภทใดทีเ่ ปน็ ทน่ี ิยมและมีจํานวนมากที่สุด จัดต้งั ง่าย เงนิ ลงทุนน้อย ก. กิจการเขา้ ของคนเดยี ว ข. ธรุ กิจเฟรนไชส์ ค. ห้างห้นุ ส่วนจาํ กัด ง. สหกรณ์ 6. ปจั จยั ในการดําเนินธุรกิจท่ีสําคัญท่ีสดุ ได้แก่ข้อใด ก. Material ข. Money ค. Management ง. Man 7. ขอ้ ใดไมใ่ ชเ่ ปูาหมายของธรุ กจิ ก. ความเจริญเตบิ โตของธุรกิจ ข. การเอารดั เอาเปรยี บสังคม ค. มงุ่ หวงั กาํ ไร ง. ความอยู่รอดของธุรกิจ

8. การจัดหาทรพั ยากรบุคคลใหเ้ หมาะสมกับงานคอื อะไร ก. จดั งานให้เหมาะสมกบั ความสามารถของคน ข. เพอื่ ใหง้ านมปี ระสิทธภิ าพ ค. คา่ จ้างถูก ง.เพ่อื ให้งานสาํ เร็จเปน็ ไปตามเปาู หมายทวี่ างไว้ 9. สภาพแวดล้อมทางธุรกจิ ใดทผ่ี ้ปู ระกอบธุรกิจไม่สามารถควบคุมได้ ก. เวลา ข. เงินทนุ ค. บคุ ลากร ง. การใชจ้ ่ายของผู้บริโภค 10. ขายสนิ คา้ และบรกิ ารในราคาที่ยุตธิ รรมเปน็ จริยธรรมของใคร ก. จรยิ ธรรมของนกั ธรุ กจิ ต่อคู่แขง่ ขนั ข. จรยิ ธรรมของนกั ธรุ กิจต่อลูกคา้ ค. จริยธรรมของนักธุรกิจต่อพนักงาน ง. จริยธรรมของนกั ธรุ กิจต่อสังคม ‘’

หน่วยท่ี 1 ความรูเ้ บื้องต้นเกี่ยวกบั ธรุ กจิ บทนํา ธุรกิจมคี วามสําคญั ตอ่ การดําเนินชวี ิตของมนษุ ย์ในสงั คมปัจจบุ ันมาก เพราะเปน็ องค์การท่ีผลิตสินค้า และบรกิ ารทเ่ี ป็นปจั จยั พื้นฐานของการดาํ เนินชีวติ ตามปจั จัย 4 ธรุ กิจจงึ เปน็ กลไกสาํ คัญทีส่ ่งผลทาํ ให้ เศรษฐกิจและสงั คมเกดิ การพัฒนาและเจริญก้าวหนา้ ในสภาพเศรษฐกจิ ปัจจบุ ันมกี ารแขง่ ขนั กนั อย่างรนุ แรง การทาํ ธรุ กจิ ใดๆ ส่งิ แรกท่ีควรคํานึงถึงคือ ธุรกิจทีต่ งั้ ขน้ึ มานัน้ จะต้องสามารถตอบคําถามไดว้ ่า สนิ ค้าและ บรกิ ารทผ่ี ลติ ขึ้นมาน้นั จะผลิตอะไร ผลิตเพอ่ื ใคร ผลิตอย่างไร และราคาขายเปน็ เทา่ ไหร่ จะตอ้ งมกี ารวิจัย และพฒั นาผลติ ภัณฑร์ ูปแบบใหม่ ๆ โดยการนาํ เทคโนโลยีทีท่ นั สมัยมาเพิ่มประสิทธภิ าพในการผลติ และ ออกแบบสินค้าออกมาสตู่ ลาด เพอื่ ตอบสนองความพงึ พอใจของผบู้ รโิ ภคให้มากทส่ี ดุ โดยไดร้ บั กาํ ไรเปน็ ผลตอบแทน ทําให้กจิ การอยู่รอดมคี วามเจรญิ เติบโต และดาํ เนินงานต่อไปไดอ้ ย่างตอ่ เนื่อง ผู้ประกอบธุรกิจ จึงมคี วามจาํ เปน็ อยา่ งย่งิ ทีจ่ ะต้องมีจรยิ ธรรมในการประกอบธุรกจิ รวมถึงความรับผดิ ชอบของธรุ กจิ ต่อสังคม ซง่ึ ถือว่ามคี วามจาํ เป็นต่อการดาํ เนินธรุ กิจในเศรษฐกจิ ปจั จุบนั เป็นอย่างย่ิง 1. ความหมายของธุรกิจ(The meaning of a business) คาํ ว่าธรุ กิจได้มีผู้ให้คํานิยามความหมายต่าง ๆ ดงั น้ี พจนานกุ รมราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ.2542 (2554 ออนไลท์) ได้ใหค้ วามหมายธรุ กิจว่า การงาน ประจาํ เก่ยี วกับการอาชีพค้าขายหรือกจิ การอื่นทส่ี ําคญั และไม่ราชการ(กฎ) การประกอบกจิ การในทาง เกษตรกรรม อุตสาหกรรม หตั ถกรรม พาณชิ ยกรรม หรือกจิ การอย่างอ่นื เปน็ การคา้ เพญ็ ศรีเลิศเกียรติวทิ ยา (2551:15) ไดใ้ หค้ วามหมายของธรุ กจิ หมายถึงกจิ กรรมต่างๆท่กี ่อใหเ้ กิดการ ผลติ สินคา้ และบรกิ ารโดยมีการซื้อขายแลกเปลย่ี นกันและมีวัตถปุ ระสงคเ์ พื่อต้องการประโยชนห์ รอื กาํ ไรจาก การกระทาํ กิจกรรมนั้น ดํารงศักด์ชิ ัยสนิทและก่อเกยี รติวริ ยิ ะกิจพัฒนา(2548:2) ได้ใหค้ วามหมายของธุรกจิ หมายถึงการกระทํา กิจกรรมของมนุษย์อย่างต่อเนื่องกันเก่ยี วกับการผลิตการจําหน่ายการซ้ือขายแลกเปลี่ยนและการใหบ้ ริการโดย มงุ่ หวังผลกาํ ไรเปน็ สงิ่ ตอบแทนและมคี วามเส่ยี งต่อการขาดทุน ระวังเนตรโพธิแ์ กว้ (2547:1)ได้ให้ความหมายของธุรกิจหมายถงึ องคก์ ารหรือกจิ การที่ก่อให้เกิดสนิ คา้ และบรกิ ารธรุ กจิ เป็นกระบวนการทั้งหมดของการนําเอาทรัพยากรธรรมชาตมิ าเปลี่ยนสภาพตามการผลติ ดว้ ย แรงคนและเคร่ืองจักรใหเ้ ป็นสินค้าเพื่อประโยชน์แกผ่ ู้ที่ต้องการกจิ กรรมของธรุ กิจจึงรวมทั้งการผลติ การซื้อการ ขายการจาํ แนกแจกจ่ายสินคา้ การขนสง่ การธนาคารการประกนั ภยั และอืน่ ๆ ศศิธรกาญจนวงศามาศ(2554:7) ไดใ้ หค้ วามหมายของธุรกจิ หมายถึงกจิ กรรมใดๆทเี่ กี่ยวข้องกับการ ผลติ สนิ ค้าหรอื บรกิ ารให้กับสังคมการดําเนินธุรกิจดาํ เนนิ ไปอย่างต่อเน่ืองมจี ดุ ประสงคเ์ พ่ือแสวงหากําไรและ อาจมีความเสี่ยงต่อการขาดทุนและได้กําไร อาจารย์คณะวทิ ยาการจดั การ(2550:2) ไดใ้ ห้ความหมายของธุรกจิ หมายถงึ กระบวนการของธรุ กจิ นบั ตงั้ แต่การผลติ การจําหน่ายสินคา้ และบริการตามความตอ้ งการของผบู้ ริโภคโดยไดร้ ับกาํ ไรเป็นผลตอบแทน

จากความหมายของธรุ กจิ ข้างตน้ จงึ สรุปลกั ษณะของธุรกิจท่ีสาํ คญั ดังน้ี (1) ธรุ กจิ คอื กิจกรรมใดๆทเี่ กี่ยวขอ้ งกับการผลติ สนิ คา้ หรือบริการ (2) ธรุ กจิ จะตอ้ งผลติ จดั หาสนิ คา้ หรอื บรกิ ารให้กับสงั คม (3) การดาํ เนนิ ธรุ กิจตอ้ งดําเนินไปอยา่ งตอ่ เน่ือง (4) การประกอบธรุ กิจมีจุดประสงคเ์ พื่อแสวงหากาํ ไร (5) การประกอบธุรกิจอาจมคี วามเสี่ยงตอ่ การขาดทุนและไดก้ ําไร \\

2. ความสาคญั ของธุรกิจ เพ็ญศรีเลิศเกียรติวทิ ยา (2551:15-16) ไดส้ รุปบทบาทสาํ คัญของธุรกจิ ว่ามนุษยท์ ุกคนมีความตอ้ งการ ท่เี หมอื นกนั อยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆคือประเภทแรกเปน็ ความต้องการทจี่ าํ เปน็ ขนั้ พนื้ ฐานต่อการดาํ รงชีวติ (Needs) ไดแ้ ก่ปัจจัย 4 คอื อาหารเครื่องนุ่งห่มท่ีอยอู่ าศยั และยารักษาโรคสว่ นความต้องการอีกประเภทหน่งึ น้ันเปน็ สิ่งทีม่ นุษย์อยากมี (Wants) แตถ่ า้ ไม่มีสิ่งเหล่าน้ีมนุษย์กย็ งั สามารถดาํ รงชีวิตอยู่ไดต้ วั อย่างเช่นรถยนต์ โทรทศั นเ์ ครื่องปรบั อากาศเป็นตน้ ดังนนั้ ธรุ กจิ จงึ มคี วามสําคญั ต่อการดําเนินชีวิตของมนุษย์ดงั นี้ ความสาคญั ของธุรกจิ 2.1 สรา้ งความเจรญิ ก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เนื่องจากการท่จี ะผลิตสนิ คา้ และบรกิ ารใหมๆ่ เกิดขน้ึ หมายความวา่ สนิ คา้ นั้นจะต้องจาํ หนา่ ยใหก้ บั ประชาชนในประเทศและตา่ งประเทศทาํ ให้ต้องมีการใช้ เคร่ืองจักรเครื่องมือที่ทันสมัยหรือใชเ้ ทคโนโลยชี นั้ สงู ในบริเวณทีท่ าํ การประกอบธรุ กิจจะเจริญกา้ วหน้าเช่นการ คมนาคมจะมีการสรา้ งถนนเพ่ือความสะดวกในการขนยา้ ยสินคา้ และวตั ถุดิบนําเขา้ จะเกิดความเจรญิ ทางด้าน สาธารณปู โภคระบบไฟฟูาประปาและโทรศพั ท์ 2.2 ทาใหเ้ ศรษฐกิจดีข้ึน จากผลของการเกดิ ธุรกจิ นน้ั ประชาชนที่อยู่รอบบรเิ วณบริษัทหรือโรงงาน อุตสาหกรรมก็จะมงี านทาํ ก่อใหเ้ กดิ รายได้มีกระแสการเงนิ หมนุ เวียนสง่ ผลใหเ้ ศรษฐกิจดขี ึ้นเม่ือมีการประกอบ ธรุ กจิ เกิดข้ึนภายในประเทศมากๆจะทําให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศดขี ึ้นตามไปดว้ ย 2.3 ยกระดับคา่ ครองชีพของประชาชนให้สูงขนึ้ เมื่อมธี ุรกิจเกิดข้นึ ในชุมชนหรือเขตพื้นที่ใดจะทาํ ใหเ้ กดิ รายไดห้ รือเม็ดเงินตราตกไปสใู่ นเขตและชมุ ชนนนั้ เม่ือประชาชนมรี ายได้ดสี าธารณูปโภคตลอดจนระบบ การสื่อสารติดต่อกันดีจะทําใหร้ ะดบั คา่ ครองชีพของประชาชนและชมุ ชนน้นั สงู ขนึ้ ตามไปด้วย 2.4 เพิ่มรายไดใ้ ห้กับรัฐบาล เนอ่ื งจากธรุ กจิ ท่เี กิดขึน้ จะต้องมีการส่งสนิ คา้ ออกไปขายทุกภมู ภิ าคของ ประเทศ ทําใหไ้ ด้เงนิ ตราของต่างประเทศหมนุ เวยี นเข้ามาสู่ประเทศไทย รฐั บาลมีรายได้เพม่ิ ข้นึ จากการเกบ็ ภาษี 2.5 ช่วยเหลือด้านสวสั ดิการตา่ ง ๆ ใหก้ บั สงั คม การทป่ี ระชาชนงานทําทาํ ใหม้ รี ายได้มาเลีย้ ง ครอบครัว รัฐบาลไมต่ ้องเสยี งบประมาณบางสว่ นที่ใชช้ ว่ ยเหลือผู้วา่ งงาน หรอื ตกงาน สามารถนําเงนิ นี้มาจัด สวัสดกิ ารตา่ ง ๆ ใหก้ บั ประชนทง้ั ประเทศ ประกนั สังคม สาธารณสขุ และการศึกษา เปน็ ต้น

3. วตั ถุประสงค์ของการประกอบธรุ กจิ (Business Goals) ในการประกอบธุรกจิ ทกุ ประเภทย่อมมีแรงจูงใจที่กระตุ้นให้ผูป้ ระกอบธุรกจิ กล้าเสยี่ งในการลงทุน ประกอบธรุ กิจต่างๆเช่นการผลติ การจําหน่ายสินค้าหรือบริการผปู้ ระกอบธุรกจิ ย่อมมีวตั ถปุ ระสงคส์ าํ คญั ในการ ประกอบธรุ กจิ ดังนี้ 1) เพื่อความมั่นคงของกจิ การ เมอ่ื ธรุ กิจเรมิ่ ดําเนินการขนึ้ เจ้าของธุรกจิ ก็มีความประสงค์จะผลิต สนิ คา้ หรอื บริการเพื่อสนองความต้องการของผู้บรโิ ภคต่อไปอยา่ งต่อเนื่องโดยไม่มีท่สี ิ้นสดุ 2) เพ่ือความเจรญิ เตบิ โตของธุรกจิ ธรุ กจิ ยงั ต้องการท่ีจะเจริญเติบโตขน้ึ เร่อื ยๆโดยการขยายกจิ การ ให้ใหญ่ขนึ้ มีสาขาเพม่ิ ขน้ึ มพี นักงานเพิ่มขน้ึ เพอ่ื ให้เกดิ ความมน่ั คงทั้งการเงินและฐานะทางสงั คม 3) เพื่อผลประโยชน์หรอื กาํ ไร ส่งิ ทจ่ี งู ใจใหเ้ จา้ ของธุรกจิ ดําเนนิ ธุรกิจต่อไปคือกาํ ไรถา้ ธรุ กิจไม่มีกาํ ไร กจิ การน้นั ก็ไมส่ ามารถดาํ เนนิ ต่อไปได้การท่ีธุรกจิ จะมีกําไรไดน้ ้นั คือต้องจําหน่ายสนิ ค้าหรอื ไดร้ ับค่าบริการใน ราคาสูงกว่าค่าใช้จ่ายหรือต้นทนุ ท่ีได้เสียไปในการผลติ สนิ ค้าหรือบริการนั้น 4) ธุรกิจต้องมคี วามรับผดิ ชอบต่อสังคม หรือคนื ประโยชน์ใหก้ ับสังคมหรือทเ่ี รยี กวา่ “การคนื กําไร ใหก้ บั สังคม” การทาํ ธุรกจิ นอกจากจะมงุ่ หวังใหเ้ กิดกาํ ไรสูงสุดแลว้ สง่ิ หนง่ึ ทที่ ุกธุรกิจควรคํานงึ คือผลกระทบ ของการทําธรุ กิจทงั้ ในด้านบวกและในด้านลบโดยมงุ่ เน้นให้เกดิ ผลกระทบทางดา้ นบวกให้มากท่ีสดุ และ ทางด้านลบใหน้ ้อยทส่ี ุดเชน่ ธรุ กจิ ต้องซื่อสตั ยแ์ ละให้ความเป็นธรรมกบั ลูกคา้ สงั คมรบั ผิดชอบต่อสภาพแวดล้อม อกี ท้ังยงั ต้องชว่ ยพัฒนาสังคมและชีวติ ความเปน็ อยู่ของประชาชนใหด้ ีข้นึ วตั ถปุ ระสงค์ของธรุ กิจ กาไร ความอยู่รอดม่นั คง ความเจรญิ เตบิ โต ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม

4. ประเภทธุรกจิ 4.1 แนวคิดที่1 ใช้วิธกี ารประกอบธรุ กจิ เปน็ หลักในการแบง่ จัดเปน็ 3 ประเภท ดงั นี้ 1)ธุรกจิ อุตสาหกรรม ม่งุ ผลิตสินคา้ 2)ธุรกิจการคา้ เปน็ การซ้ือมาขายไป 3) ธุรกจิ บรกิ าร เปน็ การเสนอขายบริการตา่ ง ๆ 4.2 แนวคดิ ที่2 ใชผ้ ลผลิตเปน็ หลักในการแบ่ง จัดออกเป็น 8 ประเภท ดังน้ี 1)ธรุ กจิ การเกษตร 2)ธุรกิจเหมืองแร่ 3)ธรุ กิจอตุ สาหกรรม 4)ธุรกิจการพาณิชย์ 5)ธุรกิจการเงิน 6)ธรุ กิจการให้บริการ 7)ธุรกจิ การก่อสร้าง 8)ธุรกิจอื่น ๆ 4.3 แนวคดิ ที่ 3 เปน็ แนวคิดของนักการเงนิ ใช้วิธกี ารได้เงินมาเปน็ หลักในการแบง่ แบ่งอาชพี ออกเปน็ 4 ประเภทดงั น้ี 1) อาชพี ลูกจา้ ง 2) อาชีพทาํ ธรุ กจิ ส่วนตวั 3) อาชพี การเป็นเจ้าของกิจการ 4) อาชพี นักลงทนุ 4.4 แนวคดิ ท่ี 4 การจดั ประเภทธุรกิจของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแบง่ บริษทั ตา่ งๆทจี่ ดทะเบียนใน ตลาดหลกั ทรัพย์ออกเป็น 31 กลุ่มดงั น้ี 1) ธุรกจิ การเกษตร 2) ธนาคาร 3) วัสดกุ อ่ สรา้ งและตกแต่ง 4) เคมีภัณฑแ์ ละพลาสติก 5) พาณชิ ย์ 6) การส่อื สาร 7) เคร่อื งใชไ้ ฟฟาู และคอมพวิ เตอร์ 8) ชิน้ ส่วนอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 9) พลงั งาน 10) บันเทิงและนันทนาการ 11) เงนิ ทุนหลกั ทรัพย์ 12) อาหารและเคร่อื งดื่ม 13) การแพทย์ 14) โรงแรมและบริการท่องเทย่ี ว 15) ของใช้ในครัวเรือน 16) ประกันภยั และประกันชีวิต 17) อัญมณีและเคร่ืองประดับ

18) เครอื่ งมือและเคร่ืองจักร 19) เหมืองแร่ 20) บรรจุภัณฑ์ 21) เวชภณั ฑ์และเคร่ืองสําอาง 22) การพิมพ์และสิง่ พมิ พ์ 23) บริการเฉพาะกจิ 24) พฒั นาอสังหาริมทรัพย์ 25) เย่อื กระดาษและกระดาษ 26) ส่ิงทอเครื่องนงุ่ ห่มและรองเท้า 27) ขนส่ง 28) ยานพาหนะและอุปกรณ์ 29) คลงั สนิ ค้าและไซโล 30) โครงการจดั การลงทุน 31) อ่ืนๆ

5. ปัจจยั ในการดาเนนิ ธรุ กิจ 8 ดา้ นยคุ ใหม่ จากการท่ีโลกในยุคปัจจุบันได้มีการพฒั นากา้ วหนา้ ไปอย่างต่อเนื่อง การทาํ ธรุ กิจทั้งในภาคการผลติ และการบริการก็มีการเติบโตและพัฒนาข้ึนไปด้วยอยา่ งรวดเรว็ ทําให้แนวคดิ ในเร่ือง 1. ทรัพยากรมนุษย์ (Man) คอื คนงาน พนกั งาน หรอื บคุ ลากรทัง้ จากภายในและภายนอก ซ่งึ ถอื ว่าเป็น ปัจจัยในการดาเนนิ ธรุ กิจ 4 ด้าน (4M in Business) มรี ายละเอียดปัจจยั ในแต่ละกลมุ่ เรียงตามลําดบั ความสําคญั ดังนี้ปจั จัยหลักท่ีสําคัญที่สดุ เพราะการทําธุรกิจหรอื ดําเนินการใดๆ จะตอ้ งเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยคน ทง้ั ในด้านความคิด การวางแผน การดําเนินการ หรือจัดการทาํ ใหเ้ กดิ ผลทางธรุ กิจทุกรูปแบบ การพฒั นาคนจึง เปน็ สิ่งสาํ คญั ทส่ี ุดเพ่อื ใหป้ ระสบความสาํ เรจ็ ในการดาํ เนินธุรกจิ 2. วธิ ปี ฏบิ ตั ิงาน (Method) คอื วิธกี าร ขน้ั ตอน หรอื ขบวนการในการทาํ ธุรกจิ ความสําเร็จของการดําเนนิ ธุรกจิ ส่วนใหญ่จะมาจากการทอ่ี งคก์ รมีการกาํ หนดข้ันตอนแนวทางในการดําเนนิ งานท่ีดี การที่จะมีแนว ทางการปฏบิ ตั งิ านและขนั้ ตอนของการดําเนนิ ธุรกจิ ที่ดีได้ ควรตอ้ งมีการกาํ หนดนโยบายท่ีชดั เจน มีวิสยั ทัศนท์ ี่ ดี มีการวางแผนจดั การ การตดิ ตามความก้าวหนา้ ของงาน การตรวจสอบคณุ ภาพผลงานทไี่ ด้ และการควบคุม การทําธรุ กิจอย่างต่อเนือ่ ง 3. ทรพั ยากร (Resource) ในเรือ่ งของทรัพยากรนเี้ ราอาจแยกพิจารณาใน 2 สว่ นคอื 3.1 เงนิ ทุน (Money) คือ เงนิ หรอื ทุน ท่ใี ช้ในการดาํ เนินธุรกจิ ท้งั จากเงินทนุ ภายในและภายนอก ในทางธรุ กิจ เงนิ ทุนถือว่าเป็นปัจจัยหลักท่ีสําคัญท่ีสดุ เพราะการทาํ ธุรกิจทุกอย่างไมส่ ามารถดาํ เนินไดด้ ีหากขาดทุนในการ ดาํ เนนิ งาน กลา่ วไดว้ ่าการทําธรุ กิจทกุ อย่างจะต้องเกดิ ข้ึนได้ตอ้ งอาศยั เงนิ ทนุ เพราะจะเปน็ ตัวขับเคลอ่ื นธุรกิจ และปัจจัยต่างๆ ให้ดาํ เนินการไปได้ทงั้ ในดา้ นค่าแรงคน คา่ ใช้จ่ายในการดําเนินงาน คา่ ใชจ้ ่ายในการซือ้ วัสดมุ า ใชใ้ นการดาํ เนนิ ธรุ กจิ การม่งุ เปาู ไปท่ีการพัฒนาเงินจงึ เปน็ สิ่งสาํ คัญทีส่ ดุ เพ่ือให้ประสบความสําเร็จในการ ดําเนินธรุ กิจ 3.2 วสั ดุ (Material) คือ วัสดุสิ่งของ วัตถดุ ิบ ช้นิ สว่ นอะไหล่ ผลติ ภณั ฑ์ บริการหรืออุปกรณ์อ่ืนๆ ซึง่ มีส่วน นํามาใชใ้ นการผลติ สนิ คา้ เป็นสิ่งท่สี าํ คญั อนั ดบั ต่อมา เพราะทกุ ธรุ กิจต้องอาศยั สิง่ ทไ่ี ดใ้ นกลมุ่ น้ีมาใช้ในการ ผลติ ดงั น้ันต้องรจู้ ักบรหิ ารจัดการวัตถุดบิ ให้มีประสทิ ธภิ าพสามารถมีเพียงพอในการผลติ บริหารจัดการใหไ้ ด้ ตน้ ทุนทต่ี าํ่ ในการผลติ และทําใหธ้ ุรกจิ ไดผ้ ลกําไรสงู สุด 4. เคร่อื งมือ (Machine) คอื เครือ่ งจักร เครอ่ื งมอื เครื่องใช้หรืออปุ กรณ์อาํ นวยความสะดวกในการดาํ เนิน ธรุ กจิ ปัจจยั ในกลุ่มนจ้ี ะเป็นสว่ นทมี่ าชว่ ยเติมเตม็ ในส่วนท่ีความสามารถของมนุษย์ไม่สามารถทําได้เชน่ ช่วย ผ่อนปรนการทาํ งานโดยคน เพ่มิ ระยะเวลาทาํ งานทต่ี ่อเนื่อง ความถกู ต้องแมน่ ยํา ความเรว็ ในการผลติ ความ สมํ่าเสมอที่เป็นมาตรฐาน หรือความทนทานในบางสถานการณท์ ่มี นุษย์ทําไม่ได้เช่น สภาพอากาศในท่ีอุณหภมู ิ สูงหรอื ต่าํ สภาพแวดลอ้ มอากาศที่มกี ๊าซพษิ เปน็ ต้น และในโลกเครอื ข่ายออนไลน์เครือ่ งมือทางดา้ นไอทีก็เปน็ สว่ นสําคัญที่นาํ มาใช้มากขึ้นในทางธรุ กิจ แต่ในยุคการทําธรุ กิจในปจั จบุ ันจะเหน็ ได้วา่ ปจั จัยในการดาเนนิ ธรุ กจิ 4 ดา้ น (4M in Business) เริ่มไม่ เพยี งพอ สาํ หรบั การท่ีองค์กรจะสามารถบรรลุสเู่ ปาู หมายทางธรุ กิจในด้านการผลิตหรือบรกิ ารได้ ผู้บริหารงาน ด้านธุรกิจในยุคปัจจบุ ันจงึ พยายามหาวิธสี ร้างความสมบรู ณ์ในงานโดยเพมิ่ ปจั จัยที่สําคัญขึ้นอกี 4 ปจั จยั เพอ่ื ใหบ้ รรลคุ วามสาํ เรจ็ ในงานเป็น 8M โดย M ทเ่ี พิม่ มาอีก 4 ตวั ได้แก่

5. การตลาด (Market) คือ กระบวนการของการส่ือสารคณุ ค่าของผลติ ภณั ฑ์หรอื บริการทเี่ รามี สง่ ไปยัง กลุม่ เปาู หมายหรือลกู ค้า การตลาดบางครงั้ อาจมองเป็นเรื่องของการขายสนิ ค้า แต่ในความเป็นจริงแล้วการ ขายนน้ั เปน็ เพียงสว่ นย่อยในงานดา้ นการตลาด การตลาดมักรวมการส่งสนิ ค้าและการสอื่ สารคุณค่าไปยังลกู คา้ สร้างความสัมพันธท์ ่ีดีต่อลูกค้าในทางทเี่ ป็นประโยชนแ์ ก่องคก์ าร การตลาดควรมกี ารเลือกตลาดเปูาหมาย สามารถรักษาลกู ค้าใหไ้ ด้ตลอดไป 6. ข้อมลู ขา่ วสาร (Message) คือ การให้ความสําคัญในการจัดการขา่ วสาร เริม่ เม่ือโลกก้าวเขา้ สูย่ ุคโลกา ภวิ ตั น์ (Globalization) มกี ารใชร้ ะบบเครือขา่ ยการสอ่ื สาร (Social Network) และก้าวเขา้ สกู่ ารเปน็ โลกไร้ พรมแดน การติดต่อเช่อื มโยงสื่อสารกันเปน็ ระบบเครือข่ายมีความสามารถทาํ ไปได้ครอบคลุมท่วั โลกทําให้การ ตดิ ต่อส่ือสารรวดเรว็ คนท่ีไม่สามารถปรับเปลีย่ นหรือพฒั นาการใช้ข้อมูลยอ่ มเสยี เปรียบด้านธุรกจิ 7. ขวญั และกาลังใจ (Morale) คอื การทาํ งานท่มี องเห็นถงึ ความสําคัญของคน จึงมกี ารเพิ่มในส่วนของ คณุ ค่าจิตใจผูท้ าํ งานทคี่ วรมีการใหก้ ําลงั ให้ความสาํ คัญกับการทํางานสรา้ งความพึงพอใจในการทาํ งานให้มี มากขน้ึ 8. ข้อมลู ทเ่ี พียงพอ (More Data) คือ การเชอ่ื มโยงข้อมูลในทุกส่วนเข้าหากนั ตามเทคโนโลยที ีก่ ้าวหนา้ ใน ยุคของการผลิตปจั จุบัน ท่ีเริ่มนาํ เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตเข้ามาเชอ่ื มโยงข้อมลู การผลิตระหว่างเครือ่ งจักร มกี าร เช่ือมโยงกนั ตลอดทัง้ โซ่อปุ ทานต้งั แต่ตน้ นา้ํ ไปจนถงึ ปลายน้ํา การท่เี ป็นยุคใหม่ของการรวมพลงั ระหว่าง เทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการควบคุมการผลิต เชน่ เครอื่ งจกั รใหเ้ ครื่องจกั รส่ือสารข้อมูลกนั เอง ซง่ึ เรามกั เรยี ก กันวา่ ยคุ อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) ซง่ึ เทคโนโลยีท่ีเป็นกญุ แจสาํ คัญในดา้ นนี้คือข้อมูล (Data) และใน ปัจจุบันเราจะคนุ้ เคยกับคําว่าข้อมลู ขนาดใหญ่ (Big Data) คือ การเก็บข้อมูลจากแหลง่ ข้อมลู ทง้ั หมดทงั้ ภายใน และภายนอก เพ่ือนาํ มาวเิ คราะห์เพ่ือค้นพบสง่ิ ต่าง ๆ ดว้ ยการทํา Analytics จะทําให้เราสามารถตดั สนิ ใจได้ดี ข้นึ (Smarter Decisions) จากการท่ีมีการเพ่ิมปัจจัยทรัพยากรเขา้ ไปในกระบวนการดําเนนิ ธุรกจิ เป็น 8M และมีแนวโน้มว่าจะมีการปรบั เพิ่มปจั จัยใหม่ๆ เพิ่มขึน้ ไปเรื่อยไมส่ ิ้นสดุ ตราบเท่าที่โลกยังมีการเปลีย่ นแปลง การดําเนินธรุ กิจดา้ นการผลิต และการบริการยงั คงพัฒนาและก้าวไปอยา่ งต่อเนื่อง ‘

6. สภาพแวดลอ้ มทเี่ ก่ียวข้องในการประกอบธรุ กจิ สภาพแวดล้อมทางธรุ กจิ หมายถงึ ปัจจัยตา่ งๆท่ีเป็นอุปสรรคหรอื มีอทิ ธพิ ลรวมถงึ แรงผลักต่างๆท่ีมีผล ตอ่ การดําเนินงานทางธรุ กิจซึ่งการจดั การธรุ กจิ ให้ประสบความสําเรจ็ นน้ั ผปู้ ระกอบการทุกคนต้องศึกษาและทํา ความเข้าใจเกีย่ วกับปัจจัยตา่ งๆท่ีจะส่งผลกระทบต่อการดาํ เนนิ งานท่เี รียกว่า “สภาพแวดล้อมทางธรุ กิจ” แบ่ง ออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือสภาพแวดล้อมภายนอกทางธุรกิจและสภาพภายในทางธุรกิจ 6.1 สภาพแวดล้อมภายนอกทางธรุ กจิ เปน็ ปัจจยั ทธ่ี ุรกจิ ไม่สามารถจะควบคุมกาํ หนดหรือ เปล่ยี นแปลงให้เปน็ ไปในทิศทางที่กจิ การตอ้ งการไดไ้ ด้แก่ 6.1.1 สภาพแวดลอ้ มทางเทคโนโลยีในปัจจบุ นั ความก้าวหนา้ ทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีไดเ้ ขา้ มามบี ทบาทท่ีสาํ คัญอย่างมากต่อการดําเนินธรุ กจิ ธรุ กจิ ใดก็ตามท่ีมีเทคโนโลยที กี่ า้ วหน้าเหนอื คแู่ ข่งขันธรุ กิจนนั้ จะมขี อบข่ายของธุรกจิ กวา้ งขวางมากขึ้น 6.1.2สภาพแวดลอ้ มทางรัฐบาลการเมือง รูปแบบของระบบการเมอื งการปกครอง สังคม นิยม เสรีนยิ ม หรอื ประชาธิปไตย ความมีเสถยี รภาพหรือคามมัน่ คงทางการเมือง นโยบายการพัฒนา เศรษฐกจิ หรอื การเตบิ โตทางเศรษฐกจิ การเปล่ียนแปลงโยบายของภาครฐั ลว้ นแตส่ ง่ ผลต่อการประกอบ ธุรกจิ ผู้ประกอบการต้องศึกษาถึงบทบาทหน้าทข่ี องรฐั บาลที่จะเปน็ ตัวควบคุมดูแลธรุ กิจ รวมทง้ั รูปแบบใน การปกครอง เพราะเปน็ ปจั จัยบ่งช้ีถงึ ลกั ษณะเศรษฐกจิ นของประเทศ เน่ืองจากเป็นข้อจาํ กดั ท่หี นว่ ยงานหรอื องค์กรธรุ กิจท่ีจาํ เป็นต้องปฏิบตั ิตามและหลีกเล่ยี งไม่ได้ตามขอบเขตของการเมืองบางกรณีอาํ นาจการา ควบคมุ ดแู ลธรุ กจิ ของรัฐบาลสามารถที่จะเอ้ือผลประโยชนต์ ่อกลมุ่ การเมืองของตนในการประกอบธรุ กจิ มากกว่านักธุรกจิ ท่วั ไปมักพบเหน็ ได้จากรฐั บาลหรอื กลมุ่ การเมืองของประเทศท่ีกาํ ลงั พฒั นาและด้อยพฒั นา สรุปปจั จยั ทางการเมืองที่ส่งผลต่อธรุ กิจดงั น้ี 1) รูปแบบของการเมืองเชน่ คอมมวิ นิสต์เสรีนิยมเปน็ ตน้ 2) ความมีเสถยี รภาพและความมั่นคงทางการเมือง 3) จาํ นวนพรรคการเมือง 4) การกระจายอํานาจหน้าท่รี ะหว่างพรรคการเมือง 6.1.3 สภาพแวดลอ้ มทางกฎหมายกฎหมายนบั ว่ามีผลกระทบต่อการทําธุรกิจโดยตรงทง้ั จากกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์กฎหมายภาษีอากรกฎหมายแรงงานฯลฯซ่งึ ผปู้ ระกอบการทกุ คนต้องปฏบิ ตั ติ าม ข้อกฎหมายและห้ามฝุาฝืนดังนน้ั การดําเนนิ ธรุ กจิ ในบางคร้ังอาจมีความยุ่งยากและซับซอ้ นอนั เน่อื งมาจาก ความชดั เจนของข้อกฎหมาย วตั ถปุ ระสงค์ของการใชก้ ฎหมายในการควบคุมธรุ กิจ 1) เพื่อรกั ษาการแขง่ ขันใหเ้ กิดความยุตธิ รรม 2) ปกปูองผลประโยชนข์ องประชาชน 3) ควบคมุ การผูกขาด 6.1.4 สภาพแวดลอ้ มทางวัฒนธรรมและสังคมไดแ้ ก่ค่านิยมความเช่ือทัศนคตปิ ระเพณี วฒั นธรรมของประชาชนซง่ึ ใช้ในการบ่งชลี้ กั ษณะกลุ่มผบู้ รโิ ภคและเป็นปจั จยั ที่มีความเกี่ยวข้องกับการบรโิ ภค สนิ คา้ หรือบริการของผ้บู ริโภคในสงั คมทเี่ ป็นกลุ่มเปูาหมายเนอ่ื งจากผ้บู รโิ ภคผบู้ รโิ ภคจะสรา้ งแรงกดดนั ต่าง ๆ ให้เกิดต่อธุรกิจ ซง่ึ เป็นสงิ่ ยากสาํ หรบั ผปู้ ระกอบการในการคาดเดาความตอ้ งการสินค้าหรือบรโิ ภคของ ผู้บริโภคได้อยา่ งแมน่ ยํา ซง่ึ ส่งผลกระทบในการดาํ เนนิ ธุรกิจประสบความสาํ เร็จหรือลม้ เหลวได้ 6.2 สภาพแวดลอ้ มภายในธุรกิจเปน็ ปจั จยั แวดล้อมที่มีอิทธิพลภายในองค์กรธุรกจิ ซ่ึงผบู้ ริหารองค์กร ต้องควบคุมให้ไดเ้ พื่อไมใ่ ห้เกดิ ผลเสียตอ่ ธุรกจิ ไดแ้ ก่ 1) เจ้าของกจิ การและผู้ถอื หุ้น

2) การบริหาร 3) พนักงานหรอื ลูกจา้ ง 4) วฒั นธรรมขององค์กร 5) ด้านการเงิน 7. บคุ คลทเี่ กยี่ วขอ้ งในการประกอบธุรกจิ ธุรกิจทุกชนดิ ทําการแลกเปล่ียนการคา้ กบั บุคคลทวั่ ไปและมกี ลมุ่ บุคคลทเ่ี กี่ยวข้องกบั ธุรกจิ น้นั ได้รบั ผลกระทบจากธุรกิจหรอื มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ในธุรกจิ น้ันและอาจกลา่ วได้วา่ บคุ คลเหลา่ นน้ั เปน็ เจา้ ของห้นุ สว่ น (Stakeholders) หรอื บุคคลที่มีเดิมพันหรือมีสว่ นได้ส่วนเสยี ในธุรกจิ ซง่ึ บคุ คลดังกลา่ วที่เกี่ยวขอ้ งกับธุรกจิ มอี ยู่ 5 กลุ่มด้วยกนั คือ 7.1 เจ้าของธุรกจิ (Owners) คือผู้เร่มิ ต้นความคิดเกยี่ วกับผลติ ภัณฑ์หรอื บรกิ ารจากบุคคลคนเดียว หรอื มากกวา่ นัน้ ท่ีเรยี กวา่ เจา้ ของกิจการ (Entrepreneurs) เป็นผู้ทจ่ี ัดองค์การจดั การและรับเอาความเสยี่ งใน การเรมิ่ ตน้ ธุรกจิ คนจํานวนมากในวงการธุรกจิ กระทํากิจการเก่ียวกับการเปลย่ี นแปลงในการพัฒนาธุรกิจใหม่ เพือ่ สรา้ งสนิ ค้าใหม่ตามทีล่ กู ค้าต้องการ 7.2 เจา้ หน้ี (Creditors) คือผ้ใู ห้สินเชอื่ แกธ่ รุ กิจซงึ่ ได้แกส่ ถาบันการเงนิ ตา่ งๆรวมท้ังเจ้าหนกี้ ารคา้ และเงนิ กูย้ ืมจากญาตมิ ิตรเพ่อื นฝูงคนใกล้ชดิ ถือเป็นเจ้าหนท้ี างธุรกิจเจ้าของธรุ กจิ ห้าง 7.3 ลกู จ้าง (Employees) คอื ผ้ทู ีธ่ ุรกจิ จดั จ้างมาเพ่อื ทาํ ให้งานทางธุรกจิ ดําเนนิ ไปบางหา้ งรา้ นก็มี ลกู จา้ งเพียงเล็กนอ้ ย 7.4 ผู้จัดหา (Suppliers) คอื กลุ่มบุคคลท่จี ดั หาวัตถดุ ิบหรอื สินค้าปูอนใหก้ ับธรุ กิจเพื่อใหธ้ รุ กจิ ทํา การผลิตและจําหน่ายปกตธิ รุ กิจต้องใชว้ ัตถดุ บิ ในการผลิตสนิ คา้ เชน่ บรษิ ัทรถยนตก์ ็ต้องใช้เหลก็ กล้าในการผลติ รถยนต์หรอื การสรา้ งบ้านก็ต้องใชซ้ เี มนต์ใช้ไม้และวัสดุอ่ืนๆถา้ หากวา่ องค์การธุรกิจไมส่ ามารถจัดหาวตั ถดุ ิบมา ปูอนได้ก็จะทาํ ให้องค์การไม่สามารถผลิตสินคา้ ดังนั้นประสิทธิภาพและความสาํ เร็จขององค์การกข็ ึน้ อยู่กับ ความสามารถของผจู้ ัดหาวตั ถุดบิ ปอู นให้ธรุ กิจไดต้ รงตามกําหนดเวลาหรือไม่ 7.5 ลกู ค้า (Customers) คือกลุ่มผู้บรโิ ภคทส่ี นใจจะซอ้ื สินค้าของธรุ กิจไปใช้ธรุ กจิ ปจั จบุ ันให้ ความสาํ คัญต่อลกู ค้าอย่างยิ่งเพราะธุรกิจไมส่ ามารถดํารงอยูไ่ ด้หากปราศจากลูกค้าเพ่อื เป็นการดงึ ดูดลูกคา้ บริษัทผูผ้ ลิตตอ้ งทาํ การผลิตสินค้าหรอื บรกิ ารภายใตร้ าคาที่เป็นธรรมซง่ึ ต้องแนใ่ จวา่ สนิ ค้าหรอื บรกิ ารท่ผี ลิต ออกมามีคุณภาพตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเพียงพอถ้าผูผ้ ลิตไม่สามารถผลติ สนิ คา้ หรอื บริการใน ราคาและคณุ ภาพเป็นทตี่ ้องการของลูกคา้ แลว้ ตัวลกู คา้ เองก็จะหนั ไปหาสินค้าหรือบรกิ ารจากบรษิ ัทคู่แข่งขัน ทนั ที 8. ประโยชน์ในการประกอบธุรกจิ การดาํ เนินการทางธรุ กจิ มีประโยชนต์ อ่ บคุ คลชมุ ชนสงั คมและประเทศชาตดิ งั นี้ 8.1 ธุรกิจผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ในสงั คม 8.2 ธรุ กจิ ชว่ ยกระจายสินค้าจากผผู้ ลติ ไปส่ผู บู้ รโิ ภค ท้งั ในประเทศและตา่ งประเทศ 8.3 ธรุ กิจชว่ ยลดปญั หาสังคม 8.4 ธรุ กิจทําให้เกดิ การพฒั นาทางเทคโนโลยี

8.5 ธุรกิจเป็นแหลง่ เพิ่มรายได้ใหแ้ ก่รัฐบาล 8.6 ธุรกิจชว่ ยพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศเม่ือธรุ กจิ ขยายตัวเตบิ โตขน้ึ สามารถผลติ สนิ ค้าและบรกิ าร ไดม้ ากเกนิ ความต้องการของคนในประเทศจึงต้องส่งสินค้าออกไปจาํ หนา่ ยยังต่างประเทศทํารายได้เข้าสู่ ประเทศเป็นการพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดความเจรญิ กา้ วหน้า 9. ความรบั ผิดชอบของธุรกิจตอ่ สงั คม(Social Responsibility of Business) ธุรกจิ เปน็ หน่วยหน่ึงของสงั คมการดาํ เนินงานของธรุ กจิ เกี่ยวข้องกบั บุคคลหลายฝุายใน ลกั ษณะของการพึง่ พาอาศัยซึ่งกนั และกันซึ่งอาจจะสง่ ผลกระทบต่อธุรกิจได้ทกุ ๆดา้ นเพ่ือให้การดาํ เนินงานของ ธุรกิจเปน็ ไปตามเปาู หมายธุรกิจจําเป็นตอ้ งให้ความสนใจและรับผดิ ชอบต่อสงั คมดังนี้ 9.1 ความรบั ผดิ ชอบของธุรกิจตอ่ สังคมภายในของธรุ กจิ ได้แก่เจ้าของกจิ การหรอื ผ้ถู ือหุ้นผู้บรหิ าร และลกู จ้างหรือพนักงานความรบั ผิดชอบของธรุ กจิ มดี ังน้ี 1) ความรับผิดชอบต่อเจ้าของกิจการหรือผู้ถือหนุ้ ด้วยการดําเนินงานอย่างมปี ระสิทธิภาพมงุ่ ผลประโยชนส์ งู สุดให้กับกิจการและมผี ลกําไรจากการดาํ เนินงานเพยี งพอแก่การจดั สรรใหก้ ับเจา้ ของกจิ การ หรือผู้ถือหนุ้ ในอัตราทีพ่ ึงพอใจและมีผลกําไรบางส่วนสะสมไว้สาํ หรับขยายกจิ การในอนาคตดว้ ย 2) ความรับผดิ ชอบต่อผ้บู รหิ ารดว้ ยการจ่ายเงินเดอื นและคา่ ตอบแทนในรปู ของสวสั ดิการตา่ งๆท่ี เหมาะสมเพื่อเปน็ แรงจงู ใจและสรา้ งความมัน่ คงตลอดจนเป็นการกระตนุ้ และสนับสนนุ ให้เกดิ ความ เจรญิ กา้ วหนา้ ในการทาํ งาน 3)ความรับผดิ ชอบต่อลูกจ้างหรอื พนักงานการจา่ ยเงนิ เดือนและคา่ จ้างให้กบั ลูกจ้างหรือพนักงานใน อัตราทเ่ี หมาะสมและจัดสวัสดกิ ารตา่ งๆเชน่ เงนิ คา่ เชา่ บ้านค่าการศึกษาบตุ รค่ารักษาพยาบาลฯลฯยอ่ มเปน็ การ สร้างขวัญและกําลังใจมีความมัน่ คงในการทํางานและยงั เป็นการสรา้ งความจงรักภกั ดีของพนกั งานให้มีต่อ องค์กรด้วย 9.2 คามรบั ผดิ ชอบของธรุ กิจต่อสงั คมภายนอกของธรุ กิจได้แกล่ ูกคา้ เจา้ หน้รี ัฐบาลคู่แข่งขนั สาธารณชนและ ส่งิ แวดลอ้ มความรบั ผิดชอบของธุรกิจมีดังนี้ 1) ความรับผดิ ชอบต่อลูกคา้ หน้าทส่ี ําคัญของธรุ กจิ คอื การตอบสนองความต้องการของผูบ้ รโิ ภคหรือ ลกู คา้ ทุกๆดา้ นท้ังการผลิตสินค้าและบริการทมี่ ีคุณภาพบริการดว้ ยความรวดเร็ว ในราคาและสถานที่ท่ีเหมาะสมยอ่ มนํามาซึ่งความสาํ เรจ็ ของธรุ กิจได้ 2) ความรบั ผิดชอบต่อเจา้ หน้ีการดาํ เนนิ ธรุ กิจจากการนําเงินออมสว่ นตัวมาลงทนุ แลว้ เพื่อให้ธรุ กจิ เกิด ความคลอ่ งตวั ในการทํางานผู้ประกอบการจําเป็นตอ้ งกยู้ ืมเงินจากสถาบันการเงินต่างๆเช่นธนาคารพาณชิ ย์ บรรษทั เงนิ ทุนอุตสาหกรรมหรือแหลง่ เงนิ ทุนตา่ งๆล้วนคือเจ้าหนข้ี องกิจการธุรกจิ ต้องรับผิดชอบดว้ ยการจ่าย ดอกเบย้ี และเงินตน้ คนื ในระยะเวลาท่ีกําหนดตรงตอ่ เวลาซ่ือสตั ย์มีความรบั ผิดชอบคุณสมบัตเิ หล่านีย้ ่อมสร้าง ความเช่อื ถือความศรัทธาและความไว้วางใจต่อเจา้ หนแี้ ละบุคคลภายนอกซ่ึงจะมผี ลต่อการจดั หาแหล่งเงินทนุ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี 3) ความรับผิดชอบต่อคู่แขง่ ขันผู้ประกอบธุรกิจเปน็ สว่ นหนงึ่ ของสังคมการปฏบิ ตั ิตนเคารพกฎเกณฑ์ ของสงั คมและอุตสาหกรรมที่กาํ หนดรว่ มกันระหว่างองค์กรต่างๆจึงเปน็ หนา้ ท่ีของทุกคนตอ้ งยดึ ถือและปฏบิ ตั ิ เช่นไมโ่ จมตคี ู่แขง่ ขันไม่ละเมิดลขิ สิทธฯ์ิ ลฯ 4) ความรับผดิ ชอบต่อรัฐบาลธรุ กจิ ตอ้ งให้ความรว่ มมือกับภาครฐั ด้วยการปฏบิ ัติตนตามกฎหมายและ ระเบียบของสังคมด้วยการเสียภาษอี ากรอยา่ งถกู ต้องดําเนินธุรกิจถกู กฎหมายและรักษาสภาพแวดล้อมเปน็ ต้น 5) ความรบั ผิดชอบต่อสาธารณชนการสร้างความร้สู กึ และทัศนคติทีด่ ีตอ่ ธุรกิจให้เกดิ ข้ึนแก่ สาธารณชนเปน็ สง่ิ จาํ เปน็ อยา่ งย่งิ ในปจั จุบนั เพราะสาธารณชนคือลกู คา้ ซึ่งมีผลต่อความสําเร็จของธรุ กจิ ดังน้ัน

ธรุ กิจจึงควรมสี ว่ นรว่ มในการสรา้ งสรรคส์ ังคมและอุทศิ ตนแกส่ งั คมเช่นการรักษาสภาพแวดล้อมการรณรงค์ ความสะอาดการบริจาคเงนิ เพื่อสาธารณประโยชนก์ ารให้ทนุ การศึกษาการสรา้ งสะพานลอยฯลฯ 6) ความรบั ผิดชอบต่อสิ่งแวดลอ้ มปจั จบุ ันสภาพสังคมเปล่ียนแปลงไปโดยเฉพาะท่ีอยู่อาศัยทผี่ คู้ น หนาแน่นเกิดชุมชนแออัดกอ่ ให้เกดิ ปัญหาเก่ยี วกับส่งิ แวดล้อมเปน็ พิษเชน่ น้ําเสียอากาศเป็นพิษสง่ิ ปฏกิ ลู ตา่ งๆ การจราจรติดขัดและเกิดโรคําภัยไขเ้ จ็บส่ิงต่างๆเหลา่ นี้ลว้ นเกิดจากการขาดความรับผดิ ชอบของธรุ กิจซ่ึง กอ่ ให้เกิดผลเสียแกส่ ังคมและประชาชนท่ัวไปธุรกจิ ควรเกิดจติ สาํ นึกและตระหนกั ถึงผลกระทบท่สี ังคมจะได้รบั จากการดําเนนิ งานไม่ควรคาํ นึงถงึ ผลประโยชนข์ องตนเองแต่เพียงฝาุ ยเดยี วแตจ่ ะต้องหาแนวทางและ มาตรการปูองกนั แก้ไขส่ิงแวดลอ้ มเหลา่ น้ใี ห้ดีขนึ ้ เพื่อให้สงั คมนา่ อยนู่ า่ อาศยั เชน่ การสร้างบอ่ บาบดั นา้ เสีย การลดระดบั เสียงในโรงงานการตรวจสขุ ภาพพนกั งานการระบายความร้อนในโรงงานเป็นต้น

หน่วยที่ 1 ความร้เู บ้อื งตน้ เกยี่ วกับธุรกิจ ใบงานที่ 1.1 - 1.3 หนว่ ยที่ 1 ความรูเ้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกบั ธรุ กิจ ตัวชว้ี ัด ง 1.1 ม. 2/1-2 คําชแี้ จง ให้ผู้เรียนฝกึ ปฏิบัติตามรายละเอยี ดดังนี้ แนวทางการปฏิบตั ิ 1. แบง่ กลุ่มออกเป็น 6 กลมุ่ ๆละเทา่ ๆกัน 2. ให้ศึกษาระดมความคิดเห็นเพ่ือสรุปเน้ือหาที่เรียนในหน่วยท่ี 1 โดยทาํ เป็นแผนผังความคิด (Mind Map) ตามหวั ข้อที่กาํ หนดดงั น้ี เรอ่ื งท่ี 1 ความหมายและความสาํ คัญ วตั ถปุ ระสงค์ และประโยชน์ของธรุ กิจ เรื่องท่ี 2 ปจั จยั สาํ คัญในการประกอบธุรกิจ เรือ่ งที่ 3 สภาพแวดล้อมและบุคคลที่เกีย่ วข้องในการประกอบธุรกจิ 3. กาํ หนดเวลาในการปฏบิ ัตงิ านภายใน 1 ชว่ั โมง 4. ใหต้ ัวแทนกลุม่ ทุกกลุ่มออกนาํ เสนอรายงานหนา้ ชนั้ เรียนในช่ัวโมงตอ่ ไป 5. ครูและผู้เรยี นทกุ คนร่วมแสดงความคดิ เหน็ และสรุปสาระสาํ คญั รว่ มกัน แนวทางการประเมนิ ผล 1. ความถูกต้องของเนื้อหา 2. ใช้วัสดุและอุปกรณ์ถูกต้องเหมาะสมกบั งาน 3. การนําไปใชป้ ระโยชน์ 4. การใชภ้ าษา 5. ความคิดสรา้ งสรรค์และการคิดวเิ คราะห์

ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ความหมายความสาคัญ วตั ถุประสงค์ และประโยชนข์ องธรุ กจิ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………............................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................

ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ปจั จยั สําคัญในการประกอบธุรกจิ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...

ใบงานท่ี 1.3 เรื่อง สภาพแวดล้อมและบุคคลทเ่ี กีย่ วข้องในการประกอบธรุ กจิ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ใบงานท่ี 1.4 เรื่อง วเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มท่ีเกย่ี วข้องในการประกอบธุรกจิ ในสภาวะปจั จุบนั มผี ลกระทบ อย่างไรบา้ งในการประกอบธรุ กจิ ตวั ช้ีวัด ง 1.1 ม. 2/1-2 คาํ ช้แี จง ให้นักเรยี นวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมทเ่ี กย่ี วข้องในการประกอบธุรกจิ ในสภาวะปจั จุบนั มผี ลกระทบ อยา่ งไรบ้างในการประกอบธุรกจิ ในขณะน้ี ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 1.5 เรอ่ื ง ความรับผดิ ชอบของธุรกิจท่ีมีต่อสังคม ตวั ชี้วดั ง 1.1 ม. 2/1-3 คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนนาภาพข่าว ในเรื่อง ความรบั ผดิ ชอบของธรุ กิจทีม่ ตี ่อสังคม มา 1 ข่าว แล้ว วิเคราะห์ สิง่ ท่ธี รุ กจิ นัน้ มีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคมอย่างไร ภาพขา่ วความรับผิดชอบของธุรกิจทม่ี ีตอ่ สงั คม ให้นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นต่อภาพกจิ กรรมดังกลา่ วขา้ งต้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….

ประเภทธรุ กิจ 4.1 แนวคิดท่ี1 ใช้วิธีการประกอบธุรกิจเปน็ หลักในการแบง่ จัดเป็น 3 ประเภท ดงั น้ี 1)ธุรกิจอุตสาหกรรม มุ่งผลิตสนิ คา้ 2)ธรุ กจิ การคา้ เป็นการซ้ือมาขายไป 3) ธุรกิจบรกิ าร เป็นการเสนอขายบริการตา่ ง ๆ 4.2 แนวคดิ ท่ี2 ใชผ้ ลผลิตเป็นหลกั ในการแบ่ง จดั ออกเปน็ 8 ประเภท ดงั นี้ 1)ธรุ กิจการเกษตร 2)ธุรกิจเหมืองแร่ 3)ธรุ กจิ อุตสาหกรรม 4)ธุรกจิ การพาณิชย์ 5)ธรุ กิจการเงิน 6)ธุรกจิ การใหบ้ ริการ 7)ธรุ กิจการก่อสร้าง 8)ธุรกจิ อน่ื ๆ 4.3 แนวคดิ ท่ี 3 เปน็ แนวคดิ ของนักการเงินใช้วธิ กี ารได้เงนิ มาเปน็ หลักในการแบง่ แบ่งอาชพี ออกเป็น 4 ประเภทดงั นี้ 1) อาชีพลูกจา้ ง 2) อาชีพทาํ ธรุ กิจส่วนตัว 3) อาชพี การเปน็ เจ้าของกจิ การ 4) อาชพี นักลงทนุ 4.4 แนวคดิ ท่ี 4 การจดั ประเภทธุรกิจของตลาดหลกั ทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทยแบ่งบริษทั ตา่ งๆท่ีจดทะเบยี นใน ตลาดหลกั ทรพั ย์ออกเป็น 31 กลุม่ ดงั นี้ 1) ธุรกิจการเกษตร 2) ธนาคาร 3) วสั ดกุ อ่ สรา้ งและตกแตง่ 4) เคมภี ณั ฑแ์ ละพลาสตกิ 5) พาณชิ ย์ 6) การส่ือสาร 7) เคร่อื งใช้ไฟฟูาและคอมพิวเตอร์ 8) ชิน้ สว่ นอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 9) พลงั งาน 10) บันเทงิ และนนั ทนาการ 11) เงนิ ทุนหลกั ทรัพย์ 12) อาหารและเครอื่ งดื่ม 13) การแพทย์ 14) โรงแรมและบรกิ ารทอ่ งเทีย่ ว 15) ของใช้ในครัวเรือน 16) ประกันภยั และประกันชวี ิต 17) อญั มณแี ละเคร่ืองประดบั

18) เครอื่ งมือและเคร่ืองจักร 19) เหมืองแร่ 20) บรรจุภัณฑ์ 21) เวชภณั ฑ์และเคร่ืองสําอาง 22) การพิมพ์และสิง่ พมิ พ์ 23) บริการเฉพาะกจิ 24) พฒั นาอสังหาริมทรัพย์ 25) เย่อื กระดาษและกระดาษ 26) ส่ิงทอเครื่องนงุ่ ห่มและรองเท้า 27) ขนส่ง 28) ยานพาหนะและอุปกรณ์ 29) คลงั สนิ ค้าและไซโล 30) โครงการจดั การลงทุน 31) อ่ืนๆ

รูปแบบองค์กรธรุ กิจ ในการประกอบธรุ กจิ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ ตอ้ งตัดสินใจเลอื กรูปแบบการดําเนนิ ธุรกิจของตนเองว่าจะ ดําเนินงานในรูปแบบองคก์ รธุรกจิ ประเภทใด ซึ่งองค์กรธรุ กิจที่ดําเนนิ กจิ การอยู่ในประเทศไทยมหี ลายรปู แบบ แตล่ ะรูปแบบมีวิธีดําเนินงานผลดีและผลเสยี ทแ่ี ตกต่างกนั จําแนกตามลักษณะเจ้าของธุรกิจได้ 6 รูปแบบดงั น้ี 1.กจิ การเจ้าของคนเดียว ( Single Proprietorship) 2.กิจการหา้ งหุ้นสว่ น ( Partnership) 3.กจิ การบริษทั จาํ กัด (Limited Company) 4.กิจการสหกรณ์ ( Co-operative Society) 5.กจิ การแฟรนไชส์ (Franchise) 6.กจิ การรฐั วสิ าหกจิ (State Enterprise) 1. กิจการเจา้ ของคนเดียว ( Single Proprietorship)คอื กจิ การท่ีมบี คุ คลคนเดยี วเป็นเจ้าของ หรอื ลงทนุ คนเดียว ควบคุมการดําเนนิ เองทั้งหมด เม่ือกิจการประสบผลสําเรจ็ มผี ลกําไร ก็จะไดร้ บั ผลประโยชน์เพียงคนเดยี ว ในขณะเดยี วกันก็ยอมรับการเสีย่ งภัยจากการขาดทุนเพยี งคนเดียวเช่นกนั กจิ การ ประเภทนมี้ ีอยทู่ วั่ ประเทศจํานวนมาก ไดร้ บั ความนยิ มสูงสุดและเปน็ ธรุ กิจที่เก่าแกท่ ่สี ดุ การดาํ เนินงานไม่ สลบั ซบั ซ้อน มคี วามคล่องตัวสูงในการตัดสนิ ใจดําเนนิ งาน กิจการมีขนาดเล็กกวา่ ธรุ กิจ ประเภทอน่ื ตัวอย่าง กิจการประเภทนี้ เชน่ หาบเรแ่ ผงลอย ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านเสริมสวย ร้านตดั เยบ็ เสื้อผ้า การทําไร่ การ ทาํ นา เปน็ ตน้ ลกั ษณะของกิจการเจา้ ของคนเดียว 1. มเี จา้ ของกจิ การเพยี งคนเดียว ใช้เงนิ ลงทนุ น้อย 2. เจา้ ของกิจการมีความรับผิดชอบในหนส้ี นิ ท้ังหมดไมจ่ ํากัดจาํ นวน เจา้ หน้มี สี ิทธิเรียกร้องเอาทรัพยส์ นิ ของ เจ้าของได้ ถา้ ทรพั ย์สนิ ของกิจการ ไมเ่ พียงพอ ชาํ ระหนี้ 3. เจ้าของกจิ การไดร้ ับผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งผลกําไรและผลขาดทนุ เพียงคนเดียว 4. การควบคมุ การดาํ เนนิ งานโดยเจ้าของกจิ การคนเดียว ขอ้ ดแี ละข้อเสยี ของกจิ การเจ้าของคนเดยี ว ขอ้ ดี 1. จัดตงั้ งา่ ยใชเ้ งนิ ทนุ น้อย 2. มีอิสระในการตัดสินใจดําเนนิ งานโดยเจ้าของกจิ การเพียงคนเดียว ทาํ ใหเ้ กิดความรวดเรว็ คลอ่ งตัวในการ ดําเนนิ งาน 3. ผปู้ ระกอบการได้รับผลกาํ ไรท้ังหมดเพยี งคนเดียว 4. รกั ษาความลับของกิจการไดด้ ี เพราะผูร้ มู้ ีเพียงคนเดยี ว 5. มีขอ้ บังคบั ทางกฎหมายน้อย 6. การเลิกกิจการทาํ ไดง้ ่าย

ขอ้ เสีย 1. การขยายกิจการใหใ้ หญ่ขน้ึ ทาํ ได้ยาก เพราะเงนิ ทุนมจี ํากัด และถา้ ต้องการก้ยู มื เงนิ จากภายนอกจะทาํ ได้ ยากเพราะขาดหลกั ประกัน 2. การตดั สนิ ใจโดยเจ้าของกิจการเพียงคนเดยี วอาจมขี ้อผิดพลาดได้ง่าย 3. ถา้ มผี ลขาดทุน ผู้ประกอบการรับผิดชอบในหน้สี ินของกิจการไมจ่ าํ กดั จาํ นวนเพียงคนเดยี ว 4. ระยะเวลาดําเนินงานมักไม่ยนื ยาว ขน้ึ อยกู่ ับเจา้ ของกิจการ ถ้าเจา้ ของกจิ การปวุ ยหรือเสยี ชีวิตอาจ หยดุ ชะงักหรอื เลิกกิจการ 5. ความสามารถในการคิดและบรหิ ารงานมีจาํ กดั เพราะเกิดจากเจา้ ของเพยี งคนเดียว กิจการเจ้าของคนเดียว

2. กจิ การห้างห้นุ ส่วน ( Partnership) ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ มาตรา 1012 บญั ญัติวา่ \"หา้ งห้นุ ส่วน คือ สญั ญา ซงึ่ บุคคล ต้ังแตส่ องคนขึ้นไปตกลงเขา้ กัน เพื่อกระทํากจิ การรว่ มกนั ด้วยประสงค์จะแบง่ ปันกําไรอันจะพึงได้แกก่ จิ การท่ี ทํานัน้ \" จากบทบญั ญัติดังกล่าวสามารถสรปุ ไดว้ า่ กจิ การห้างหนุ้ สว่ น คอื กิจการที่มีบคุ คลตั้งแต่ 2 คน ขนึ้ ไป ร่วมกนั ลงทนุ และดําเนนิ กิจการ โดยมีวตั ถุประสงค์เพือ่ แบ่งผลกาํ ไรที่ไดจ้ ากการดําเนนิ งาน ซงึ่ ธุรกจิ ประเภทน้ี สบื ตอ่ มาจากธรุ กจิ เจ้าของคนเดยี ว เมอ่ื กิจการดาํ เนินงานก้าวหน้าขึ้น ต้องการเงนิ ทนุ และการจดั การเพ่ิมขน้ึ จึงตอ้ งหาบุคคลท่ีไวว้ างใจไดเ้ ข้ามาเป็นหนุ้ ส่วนรว่ มดําเนินงาน ทาํ ให้กิจการ มขี นาดใหญ่ขึน้ การบริหารงานมี ประสทิ ธภิ าพมีสงู กวา่ เดมิ ลักษณะของกจิ การหา้ งหนุ้ ส่วน 1. มีผ้รู ่วมเป็นหุ้นส่วนต้ังแต่ 2 คนขน้ึ ไป ตกลงทาํ สญั ญาร่วมกนั ดาํ เนนิ งาน ซึง่ อาจกระทําด้วยวาจาหรอื เป็น ลายลักษณ์อักษร 2. มีการร่วมกนั ลงทุน โดยนําเงนิ สด ทรพั ย์สินหรอื แรงงานมาลงทุนตามขอ้ ตกลง 3. มีการกระทํากิจการอย่างเดยี วกันรว่ มกนั 4. มีความประสงคแ์ บง่ ผลกาํ ไรกันตามข้อตกลง ประเภทกิจการห้างห้นุ ส่วน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ แบง่ ห้างหุน้ สว่ นออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. หา้ งหุ้นสว่ นสามญั หา้ งหุ้นส่วนสามญั คอื ห้างหุ้นส่วนท่ีผเู้ ป็นหนุ้ สว่ นทุกคนต้องรบั ผิดในหน้สี นิ ทัง้ หมดของห้างหนุ้ ส่วนโดย ไม่จาํ กัดจาํ นวน ดังนน้ั ผ้เู ป็นหุ้นสว่ นทุกคนจงึ มสี ิทธิ ดําเนินกจิ การในนามหา้ งหุ้นส่วนได้ ซง่ึ ห้างหุน้ สว่ น สามัญจะจดทะเบยี นหรือไม่ก็ได้ จึงแบง่ ห้างห้นุ สว่ นสามัญได้เปน็ 2 ประเภท คือ 1.1 ห้างหุน้ ส่วนสามัญจดทะเบยี นหรือห้างห้นุ ส่วนสามัญนติ ิบุคคล มสี ภาพเป็นนิติบุคคล จะต้องใชค้ าํ ว่า ห้างหุ้นสว่ นสามัญนติ ิบุคคล ประกอบหนา้ ช่อื หา้ งเสมอ หา้ งหุ้นสว่ นประเภทนี้จะต้อง ระบชุ อื่ ผู้เปน็ หุน้ ส่วนผจู้ ดั การไวช้ ัดเจน ซ่งึ จะมคี นเดยี วหรอื หลายคนก็ได้ และหนุ้ ส่วนผจู้ ัดการเท่านั้น ท่ี มสี ทิ ธิเข้าจดั การงาน ของห้างหุน้ ส่วน และทํานิติกรรมต่าง ๆ ในนามหา้ งหนุ้ ส่วนได้ 1.2 หา้ งหุน้ สว่ นสามญั ไมจ่ ดทะเบียน มีฐานะเปน็ บุคคลธรรมดา ถ้าผู้เปน็ หุ้นส่วนไมไ่ ด้ตกลงกันไว้ ในสัญญาของห้างหุน้ สว่ น กฎหมายใหถ้ ือว่า ผู้เป็นหุ้นส่วน ทกุ คน มีสทิ ธิเข้าจดั การงานของหา้ งห้นุ ส่วน ได้ 2. ห้างห้นุ ส่วนจากัด ห้างหนุ้ สว่ นจํากัด คอื ห้างหนุ้ สว่ นทตี่ ้องจดทะเบียนเปน็ นิตบิ คุ คลตามกฎหมาย ห้างหุ้นสว่ น ประเภทนีต้ ้องใชค้ ําวา่ \"หา้ งหุ้นสว่ นจํากดั \" ประกอบหน้าชื่อของ หา้ งหุ้นสว่ นเสมอ ห้างหุ้นสว่ นจํากัด ประกอบดว้ ยผเู้ ป็นหุ้นส่วน 2 ประเภท คือ 2.1 หุ้นส่วนประเภทจากดั ความรบั ผดิ ชอบ เปน็ หุ้นสว่ นประเภททีจ่ าํ กดั ความรับผิดชอบในหนี้สนิ ของห้างหนุ้ สว่ นเพียงไมเ่ กิน จํานวนเงนิ ทีต่ นรบั จะลงทุน ในห้างหุ้นสว่ น หุ้นสว่ นประเภทนี้ไม่มสี ทิ ธิเขา้ จัดการ งานของหา้ งหนุ้ สว่ น มีสทิ ธเิ พียงออกความเห็น รับเป็นทป่ี รึกษาและทุนท่ีนํามาลงทุนต้องเปน็ เงนิ หรือ ทรัพย์สนิ เท่านัน้ จะเป็นแรงงานไม่ได้ 2.2 หนุ้ ส่วนประเภทไม่จากดั ความรับผิดชอบ เป็นห้นุ สว่ นประเภทที่ต้องรับผิดชอบรว่ มกนั ในหน้ีสนิ ของห้างหนุ้ สว่ นโดยไมจ่ าํ กดั จํานวน กฎหมายระบุว่า ต้องมีหนุ้ สว่ นไมจ่ ํากดั ความรับผดิ ชอบอยา่ งนอ้ ย 1 คน

ในหา้ งหุ้นส่วนจาํ กดั หุ้นส่วนประเภทน้ีมีสทิ ธเิ ขา้ จัดการงานของหา้ งหุ้นสว่ น และทุนทน่ี ํามา ลงทนุ เป็นเงนิ ทรัพย์สนิ หรือแรงงานก็ได้ 3. บริษัทจากดั (Limited Company) ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1096 บัญญตั วิ ่า \"บริษทั จาํ กดั คือ บรษิ ัทประเภทซึ่งตั้งขึน้ ดว้ ย แบง่ ทุนเป็นหุ้นมีมลู คา่ ห้นุ เทา่ ๆ กนั โดยผถู้ ือหุ้นตา่ งรับผิดจาํ กดั เพยี งไม่เกินจํานวนเงนิ ที่ตนยงั สง่ ใช้ไม่ครบ มูลคา่ ของหุ้นทีต่ นถือ\" จะเห็นไดว้ า่ ปจั จบุ นั น้ี การประกอบกิจการในรูปแบบ บรษิ ัทจํากดั นีเ้ ปน็ ท่ีนยิ มมาก เพราะการประกอบธรุ กิจสว่ นใหญ่มกั ต้องใชเ้ งนิ ทนุ จาํ นวนมาก การระดมเงนิ ทนุ กิจการในรูปแบบนีจ้ ัดทําได้ งา่ ยและไดจ้ าํ นวนมาก นอกจากเงนิ ทุนทไ่ี ดจ้ ะไดจ้ ากเจา้ ของกจิ การผู้เริ่มกอ่ ตั้งแลว้ ยังมกี ารระดมเงนิ ทนุ จาก บุคคลท่วั ไปด้วย รวมทงั้ การบรหิ ารงานท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ โดยผู้บรหิ าร ที่มคี วามสามารถร่วมกันดาํ เนนิ กจิ การ ส่งผลใหเ้ ป็นกิจการท่ีมีความม่ันคงและน่าเช่ือถือมากประเภทหนง่ึ ลักษณะของบรษิ ัทจากัด ตามบทบญั ญัติของประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ บรรพ 3 มาตรา 1096 ได้บญั ญัติวา่ บริษัทจาํ กัด คือ บริษทั ประเภททจ่ี ัดตั้งขึ้นดว้ ยการแบง่ ทุนเป็นหุ้น มมี ูลคา่ เท่า ๆ กัน ผู้ถอื หุ้นต่างรบั ผิดชอบจํากัดไมเ่ กินจํานวน เงินท่ีตนสง่ ใช้ใหค้ รบมลู คา่ ห้นุ ทีต่ นถือ 1. ความเป็นเจ้าของ เน่ืองจากลักษณะของบรษิ ัทมีการแบ่งทุนออกเป็นหนุ้ ผู้ซือ้ หุ้นของบริษัทเรยี กว่า \"ผู้ ถอื หนุ้ \" จะมีฐานะเปน็ เจ้าของหนุ้ ไมใ่ ช่ เจ้าของ กิจการ แตม่ ีสิทธไิ ดร้ บั ประโยชนต์ อบแทนจากบริษทั คือ \"เงินปันผล\" ผู้เป็นเจา้ ของกจิ การกค็ ือนิตบิ คุ คลท่เี ปน็ บริษัทจํากดั นัน่ เอง 2. การก่อตงั้ บริษทั จํากดั มีข้นั ตอนในการกอ่ ตงั้ ตามกฎหมาย ดังน้ี 1.1 มบี ุคคลอย่างน้อย 3คน มารวมกนั จดั ต้ัง บุคคลกลุ่มนเี้ รียกวา่ \"คณะผู้ก่อการ\" 1.2 ทําหนังสอื บริคณห์สนธิ ซ่งึ มรี ายละเอียดตา่ ง ๆ เกีย่ วกับบรษิ ทั ทจ่ี ัดตั้งขน้ึ ได้แก่ ช่อื บรษิ ัท สถาน ทีต่ งั้ วตั ถปุ ระสงค์ ช่ือผู้ก่อการ อาชีพผู้ก่อการ ชนดิ ของหุ้นที่ออกจาํ หน่าย จาํ นวนหนุ้ มูลค่าห้นุ และนํา

หนงั สอื บรคิ ณหส์ นธิไปจดทะเบียนทกี่ รมการคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ 1.3 คณะผู้กอ่ การจะต้องทําหนังสือช้ีชวน เพ่อื ให้มีผสู้ นใจมาซ้อื หุ้นของบรษิ ัทและจะต้องดาํ เนนิ การ ให้ มีผู้มาจองหุ้นของบริษทั จนครบจาํ นวนห้นุ ที่ขอ จดทะเบียน 1.4 เมือ่ มีผู้จองหุ้นจนครบทุกหุ้นแลว้ บริษัทเรียกผ้จู องหนุ้ ทกุ คนประชมุ จดั ตง้ั บริษทั โดยในทป่ี ระชุม จะต้องเลอื กตัง้ กรรมการบริหารบรษิ ัทอย่างน้อย 1 คน และกําหนดอาํ นาจหน้าทข่ี องกรรมการในการ กระทําการแทนบรษิ ัท และดําเนินการเรยี กเก็บค่าหนุ้ คร้งั แรกอยา่ งน้อย 25% ของมูลค่าหนุ้ 1.5 หลังจากเรียกเก็บค่าหนุ้ ครง้ั แรกแล้ว จึงไปขอจดทะเบยี นเป็นบริษัทจํากัดเพื่อใหม้ สี ภาพเป็นนิติ บคุ คลตามกฎหมาย โดยนําสาํ เนาการประชมุ หนงั สือบริคณหส์ นธิระเบียบข้อบงั คับไปขอจดทะเบยี น 1.6 ตอ้ งมีผสู้ อบบญั ชีรบั อนญุ าตเปน็ ผสู้ อบบัญชขี องบรษิ ัทจํากัด 1.7 ตอ้ งมีสํานักงานใหญ่ตั้งอยูภ่ ายในราชอาณาจักร 3. จาํ นวนเงินทุนท่ตี ้องใช้ ทุนของบริษัทจาํ กัดจะได้มาเน่ืองจากการนาํ ใบหุ้นออกจําหน่าย กฎหมายระบุ ว่ามูลคา่ หุน้ จะต้องมีมูลค่าหนุ้ ละเท่า ๆ กนั เงินทนุ ของบริษัท แบ่งไดด้ ังนี้ 3.1 ทุนจดทะเบียน (Authorized Capital) คอื จาํ นวนทุนทั้งส้ินท่ีได้ระบุไวใ้ นหนังสอื บริคณห์สนธิ 3.2 ทุนชําระแล้ว (Paid - up Capital) คือ จํานวนเงินทีผ่ ้ถู ือหนุ้ ได้ชาํ ระคา่ หุน้ ให้แก่บริษัทตามทบี่ ริษทั ได้ เรียกรอ้ งให้ชําระแลว้ หุน้ ของบริษัทจํากดั แบ่งออกเปน็ 2 ชนิด คือ 1. หนุ้ สามัญ (Common Stock) คอื หนุ้ ที่มผี ู้ลงจองหุ้นด้วยเงิน เมือ่ เริ่มตั้งแต่มีการใหจ้ องหุน้ ผถู้ ือหุ้น สามญั มสี ทิ ธิออกเสียงในท่ีประชุมทกุ เร่ือง มีสทิ ธิได้เงนิ ปนั ผล และไดร้ บั คนื ทุนเมื่อบริษัทเลิกดาํ เนนิ กิจการ 2. หุน้ บุรมิ สิทธิ (Preferred Stock) คือ หนุ้ ท่ีมีสทิ ธพิ ิเศษเหนือหนุ้ สามัญโดยมีสิทธไิ ดเ้ งนิ ปันผลและคืนทุน กอ่ นหุ้นสามัญ แตผ่ ู้ถือหุ้นบุริมสิทธิไมม่ ีสิทธิออกเสยี งในที่ประชุม 4. ความรับผดิ ชอบและการบรหิ ารงาน ในทป่ี ระชุมจัดตั้งบริษทั ทป่ี ระชุมใหญ่จะตอ้ งออกเสียงเลือกตัง้ คณะกรรมการของบริษัทซง่ึ จะตอ้ งมีจํานวนไมน่ อ้ ยกว่า 3 คน โดยท่ีประชุมผู้ถือหุ้น เปน็ ผู้มสี ิทธิแต่งตั้ง และถอดถอนคณะกรรมการได้ โดยแต่งตงั้ กรรมการคนใดคนหนง่ึ เป็นกรรมการผู้จัดการ หน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบของกรรมการตามกฎหมาย มดี งั น้ี 1. ดาํ เนนิ งานเพ่ือใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ของบรษิ ทั 2. ควบคุมการชาํ ระเงนิ คา่ หุ้นของผ้จู องห้นุ 3. จดั ทําบัญชีและจดั เก็บรกั ษาบัญชีและเอกสารตามทก่ี ฎหมายกาํ หนด 4. จา่ ยเงินปนั ผลและดอกเบยี้ 5. ปฏิบตั ิตามมตขิ องทปี่ ระชุมใหญ่ผถู้ ือหุ้น 6. กรรมการของบริษัทจะทาํ การค้าแข่งขันกบั บรษิ ัทของตนเองไมไ่ ด้ 7. มีอํานาจหน้าท่ีอ่นื ๆ ตามทไ่ี ดร้ ะบุไวใ้ นข้อบังคับของบริษัท สาํ หรบั ผู้ถอื หนุ้ มสี ิทธเิ ปน็ เจา้ ของหุ้น ตามทีต่ กลงซอ้ื ไว้ แตไ่ มม่ สี ทิ ธิเป็นเจา้ ของสินทรพั ย์ของบริษัท 5. ผลตอบแทนจากการลงทุน ผลประโยชน์ท่ีผถู้ ือหนุ้ จะได้รบั คือสว่ นแบง่ จากกําไร เรียกวา่ เงินปันผล หรอื ผลประโยชนอ์ ่นื ใดตามที่ระบไุ ว้ใน หนงั สอื บริคณหส์ นธิ โดยปกตผิ ลกาํ ไรของบริษัทจะไมน่ ํามา แบง่ เปน็ เงนิ ปันผลท้งั หมด ส่วนหนึ่งจะกันสะสมไว้เพอ่ื บริษัทนาํ ไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ เชน่ เพอื่ ไว้ ขยายโรงงาน เพื่อซ้ือเคร่ืองจักรใหม่ เพื่อผลขาดทุนในภายหน้า กําไรส่วนที่กนั สะสมไวน้ ้ันเรียกวา่ เงนิ สาํ รอง (Reserves) 6. การควบคุมการบริหารงาน การบริหารงานของบรษิ ัทจะอย่ใู นรูปของคณะกรรมการซึ่งจะมีการ บริหารงานท่กี ระจายงานตามหนา้ ท่แี ละความรบั ผดิ ชอบ เปน็ ระบบและมีขัน้ ตอนที่ถูกต้อง โดยกฎหมาย กาํ หนดให้จะต้องมกี ารตรวจสอบบัญชีของบรษิ ัทปลี ะครั้ง โดยมผี สู้ อบบัญชีรับอนุญาตรบั รองงบดุล และ บญั ชีกาํ ไรขาดทนุ ยืน่ ต่อนายทะเบียนบริษัท

7. การประเมินผลการดําเนินงาน บรษิ ัทจะทําการประเมินผลการดําเนินงานโดยดจู ากงบการเงนิ คือ งบ กาํ ไรขาดทุน และงบดุลของบริษัท 8. การขยายกิจการ บริษทั สามารถขยายกจิ การไดด้ ว้ ยการขอจดทะเบียนเพ่มิ ทุนหรือกู้ยืมจากธนาคาร หรือสถาบันการเงินอน่ื 9. การเลกิ กจิ การ บริษทั จาํ เปน็ ต้องเลกิ กิจการเน่ืองจากสาเหตุดงั ต่อไปนี้ 1. ถ้าในการจดั ต้ังบริษทั ระบเุ พ่อื ทํากิจการอย่างใดอยา่ งหนึ่งโดยเฉพาะ เม่อื เสรจ็ สิน้ กจิ การน้นั แลว้ บรษิ ัทก็ต้องเลกิ กิจการ 2. ถ้าในการจดั ตง้ั บรษิ ทั กาํ หนดระยะเวลาของการดาํ เนินงานไว้ เมอ่ื ครบกาํ หนดระยะเวลาทีร่ ะบุ บริษัทกต็ ้องเลิกกจิ การ 3. ถ้าในข้อบังคับของบริษทั ระบเุ หตทุ ่ีบริษทั ต้องเลกิ ไว้ เม่ือเกิดเหตนุ ั้นบริษัทก็ต้องเลิกกิจการ 4. เม่อื มมี ติพิเศษจากผู้ถอื ห้นุ ใหเ้ ลิกบริษัท 5. เมื่อบรษิ ัทจดทะเบยี นตั้งบริษัทมาแลว้ 1 ปีเต็ม โดยบรษิ ัทไม่ไดเ้ ริม่ ดําเนินกิจการ หรือหยุด ดําเนนิ การมาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม 6. เม่ือผถู้ อื หุน้ ของบรษิ ทั ลดลงจนเหลือไม่ถึง 7 คน 7. เมือ่ บริษัทล้มละลาย ขอ้ ดีของบริษทั จํากัด 1. สามารถจดั หาเงนิ ทุนไดจ้ ํานวนมากตามท่ตี ้องการ โดยการออกหุ้นจาํ หนา่ ยเพิม่ หรอื จัดหาโดยก้ยู ืมจาก สถาบันการเงิน ซง่ึ จะได้รบั ความเชอ่ื ถือมากกว่า กจิ การประเภทอน่ื 2. การดําเนินกจิ การบรษิ ัทไม่จาํ กัดระยะเวลาตามอายุของผู้ถือห้นุ ดังน้ันระยะเวลาในการดาํ เนินกจิ การจึงยาว กวา่ การดาํ เนนิ กจิ การประเภทอน่ื 3. ผู้ถือหุน้ รบั ผิดชอบเฉพาะมูลคา่ หุ้นส่วนทยี่ ังชําระค่าหุน้ ไมค่ รบเท่านน้ั โดยไมต่ ้องรับผดิ ชอบตอ่ หนส้ี ินใด ๆ ข้อเสียของบริษัท 4. การบรหิ ารงานสามารถหาผู้ทม่ี ีความรู้ ความสามารถ และมปี ระสบการณจ์ ดั การแทนได้ เพ่ือให้มี ประสิทธภิ าพในการบริหารงาน 5. ผ้ถู อื หนุ้ ของบริษทั สามารถโอนหรือขายห้นุ ใหผ้ ้ใู ดก็ได้ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากบริษทั ก่อน ข้อจํากดั ของบรษิ ัทจํากัด 1. การจดั ตัง้ บริษทั มีข้นั ตอนตามกฎหมายที่ยุ่งยาก 2. กจิ การบรษิ ทั เน่ืองจากต้องเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ถอื หนุ้ และบคุ คลภายนอกทราบจึงไม่อาจรักษาความลบั ได้ 3. เน่อื งจากในการดําเนินการของบริษทั จํากัด มผี ถู้ ือห้นุ คณะกรรมการ บริษัทและพนักงาน ดงั นนั้ ในการ ปฏบิ ตั งิ านอาจจะมีบางส่วน ที่ขาดความตั้งใจใน การทํางานเพราะไม่ได้เป็นเจา้ ของกจิ การเอง 4. การเสียภาษขี องกจิ การประเภทบริษัทจะเสยี ภาษคี ่อนข้างสูงและซาํ้ ซ้อนคอื บริษัทจดทะเบยี นเปน็ นติ ิบุคคล แยกตา่ งหากจากเจา้ ของกิจการ ดงั นน้ั จะตอ้ งเสียภาษนี ติ ิบคุ คลเม่ือบริษทั จ่ายเงินปนั ผลใหผ้ ู้ถอื ห้นุ ในฐานะผู้ ถอื ห้นุ เปน็ บุคคลธรรมดาต้องเสียภาษีบคุ คลธรรมดาอีกด้วย

สหกรณ์(Co-operative Society) พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 ได้ใหค้ วามหมายของสหกรณ์ไวด้ ังน้ี \"สหกรณ์ หมายความวา่ คณะ บุคคล ซ่ึงรวมกันดําเนนิ กจิ การเพือ่ ช่วยเหลือ ซ่งึ กัน และกัน และไดจ้ ดทะเบยี นตามพระราชบญั ญัตินี้\" จาก ความหมายของสหกรณ์ตามพระราชบญั ญตั ิสหกรณ์ จะเหน็ ได้ว่า สหกรณ์ คือธรุ กจิ รปู แบบหนง่ึ ท่จี ัดตัง้ และ ดําเนนิ การโดยกลุ่มบุคคลที่มีความประสงคอ์ ย่างเดียวกันร่วมกันจัดตง้ั ลงทุน ดาํ เนินการและเป็นเจา้ ของ ร่วมกันดว้ ยความสมคั รใจ ทําหนา้ ทใ่ี น ธรุ กิจเพื่อช่วยเหลอื สมาชกิ โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพ่ือขจัดปญั หาความ เดือดรอ้ นทางเศรษฐกจิ และสังคมในหม่สู มาชกิ รวมท้ังรักษาและส่งเสริมผลประโยชน์ ของสมาชิกใหด้ ขี ึ้น ลักษณะของกิจการสหกรณ์ 1. เปน็ การร่วมทุนของบุคคลตงั้ แต่ 10 คนขนึ้ ไป โดยไม่จาํ กัดจาํ นวน 2. เป็นการรว่ มมือกนั เพ่ือแก้ไขความเดือดร้อนของบุคคลทมี่ ีปัญหาทางดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คมโดยไม่ คาํ นึงถึงสินทรัพย์ 3. ผูส้ มัครเขา้ เปน็ สมาชิกตอ้ งเป็นไปดว้ ยความสมัครใจ ไม่ใช่การบังคับ เพราะสหกรณด์ าํ เนินงานในรูป \"โดยสมาชิกเพือ่ สมาชิก\" 4. สมาชกิ ทุกคนมีสทิ ธิเท่าเทยี มกนั ในการดําเนินงานสหกรณ์ เพราะการดําเนนิ งานเป็นไปในรปู แบบ ประชาธปิ ไตยสมาชิกแต่ละคนมีสทิ ธิออกเสยี งได้ 5. มีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือชว่ ยเหลือตนเอง และช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั ในหมู่สมาชิก โดยไม่คํานึงถงึ ผลกําไร 6. การจัดตงั้ มีการจดทะเบียนตามพระราชบญั ญตั ิการสหกรณ์ ไมไ่ ด้อยูใ่ นบงั คับของประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ ประเภทของสหกรณ์ กิจการสหกรณ์มหี ลายประเภท แต่ละประเภทมลี กั ษณะการก่อตงั้ และการดาํ เนนิ งานแตกต่างกนั โดยใน ประเทศไทยได้แบ่งประเภทของสหกรณ์ ตามประกาศของนายทะเบียนสหกรณเ์ ก่ยี วกับ เรอ่ื งการจดั ประเภท สหกรณต์ ามกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกตามความในพระราชบญั ญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511เมอ่ื วันท่ี 28 พฤศจิกายน 2516 กําหนดประเภทสหกรณ์ทร่ี ับจดทะเบยี นรวมมี 6 ประเภท ดังน้ี 1. สหกรณ์การเกษตร เปน็ สหกรณ์ที่มีสมาชิกประกอบดว้ ยเกษตรกร มหี น้าท่ีในการจัดหาและให้บรกิ าร แก่สมาชิกในดา้ นการผลติ การเกษตร เช่น การจัดหาเงินทุน การจดั หาวัสดุ เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ต่าง ๆ มาจาํ หน่ายใหส้ มาชิกในราคาถูก การรวบรวมผลิตผลออกจําหนา่ ย และการแปรรูปผลิตผล ออกจําหน่ายให้ได้ราคาดี 2. สหกรณ์การประมง จดั ตง้ั ขนึ้ ในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพประมง ซึ่งสว่ นใหญ่อยู่ในจงั หวดั ชายทะเลทาํ หน้าท่เี ก่ยี วกบั การส่งเสรมิ และประกอบอาชีพ ด้านการประมง รวมถงึ การจดั หาเงนิ ทุนแลอปุ กรณ์ เก่ียวกับการประมงจําหน่ายใหแ้ ก่สมาชกิ ในราคาถูก และการจดั การดา้ นการตลาด เพ่ือให้สามารถ จําหนา่ ย ผลติ ผลให้ไดร้ าคาดี จดั ตั้งข้นึ ครง้ั แรกเมื่อ พ.ศ. 2492 ทอ่ี าํ เภอพรหมพราม จงั หวัดพิษณโุ ลก มีชือ่ ว่า \"สหกรณป์ ระมงพิษณุโลก จํากดั \" เป็นสหกรณ์ประมง นา้ํ จดื เดมิ สหกรณ์ประมงได้รวมอยู่กับ สหกรณก์ ารเกษตร ปัจจุบันได้แยกสหกรณป์ ระมงออกจากสหกรณก์ ารเกษตร เพราะวา่ เปน็ อาชีพท่ี แตกต่างกนั นับว่า เปน็ การให้ความสาํ คญั แกอ่ าชีพประมงเป็นอยา่ งมาก

3. สหกรณน์ ิคม เปน็ สหกรณ์ที่มีหน้าทีเ่ กี่ยวกับการจดั หาหรือจดั สรรทีด่ นิ ใหแ้ กส่ มาชิกในการประกอบ อาชีพ รวมถึงการจัดหาและอํานวยความสะดวก ในการประกอบอาชีพใหแ้ ก่สมาชิก เชน่ การจัดหา เงินทนุ อุปกรณ์การผลิตและเครื่องมือการผลติ มาจาํ หน่าย ตลอดจนการจัดหาน้ํา และการจดั การด้าน การตลาดให้อกี ดว้ ย 4. สหกรณ์รา้ นค้า เป็นสหกรณ์ทจี่ ัดตั้งข้นึ เพื่อให้บริการดา้ นการจดั หาสินค้าอุปโภคบริโภคจําหนา่ ยใหแ้ ก่ สมาชิกในราคายุติธรรม ส่วนใหญ่จะต้ังอยูใ่ น เขตชมุ ชน ทม่ี ีประชาชนหนาแน่น ในสถาบันศึกษา และ หน่วยงานอื่น ๆ 5. สหกรณ์บริการ เปน็ สหกรณ์ทใ่ี หบ้ ริการแก่สมาชิกในดา้ นสาธารณูปโภคต่าง ๆ เชน่ สหกรณไ์ ฟฟูา สหกรณ์แท็กซี่ รถรบั จา้ ง สหกรณก์ ารเคหสถาน เป็นต้น โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พื่อจดั หาบรกิ ารอยา่ งใด อยา่ งหน่งึ ท่สี มาชิกต้องการ และจะเรียกเกบ็ ค่าบริการทสี่ หกรณ์จดั นัน้ จากสมาชกิ ตามส่วนทแ่ี ตล่ ะคน ใชป้ ระโยชน์ เมือ่ สมาชิกหมดความจําเปน็ ทจี่ ะใช้บริการอาจเลกิ ได้ เชน่ สหกรณ์การไฟฟูา เมื่อใดทอ้ งท่ี นั้นมไี ฟฟูาใช้ สมาชกิ กห็ มดความจําเปน็ ทจี่ ะใช้บริการของสหกรณ์ สหกรณก์ จ็ ะเลิกได้ 6. สหกรณ์ออมทรัพย์หรอื สหกรณธ์ นกจิ เป็นสหกรณท์ ่สี มาชิกรว่ มกนั จัดตงั้ ขึน้ เพ่ือส่งเสริมการออมเงนิ ในหม่สู มาชกิ เพื่อใหส้ มาชกิ ได้กู้ยืมเงนิ ในยามจําเปน็ ด้วยอัตราดอกเบย้ี ตา่ํ ตลอดจนใหบ้ ริการทางการ เงินแก่สมาชิก โดยมีเงินปันผลคืนตามส่วนให้อีกด้วย สหกรณ์ประเภทนี้ได้รบั ความนิยม และจดั ตง้ั ขนึ้ ใน หม่ผู ู้มีรายไดป้ ระจาํ เช่น ข้าราชการ ครู ตาํ รวจ รัฐวิสาหกจิ ตา่ ง ๆ รฐั วสิ าหกจิ รฐั วิสาหกจิ หมายถึง องค์การของรฐั บาล หน่วยงานธรุ กจิ ท่ีรฐั บาลเปน็ เจ้าของหรือบริษัท ห้างหนุ้ สว่ นนิติ บคุ คล ท่สี ่วนราชการหรือหน่วยงานธุรกจิ ของรัฐบาล มที นุ รวมอยู่ด้วยเกนิ กว่าร้อยละ 50 มกี ารบริหารงานอยู่ ระหวา่ งระบบราชการและระบบธุรกิจ สาเหตทุ ี่รฐั บาลเขา้ ดําเนินงานรฐั วสิ าหกจิ 1. เพอ่ื ประโยชน์ของส่วนรวม กิจการบางประเภทเป็นส่ิงจําเป็นและมคี วามสาํ คัญต่อส่วนรวม ถา้ เอกชน ดาํ เนินการ อาจทําใหป้ ระชาชนไมไ่ ดร้ บั การบรกิ ารท่ีดแี ละเปน็ ธรรม 2. เพอ่ื ปูองกนั การผูกขาด การใหเ้ อกชนดาํ เนนิ การโดยใหม้ ีการแข่งขันเสรี ผผู้ ลติ รายยอ่ ยอาจสู้ผู้ผลิตราย ใหญ่ไม่ได้ ทําใหเ้ กิดการผูกขาด ทําใหป้ ระชาชน ถูกเอาเปรียบได้ 3. กิจการบางประเภทต้องอาศัยการลงทุนที่สูงมาก เชน่ การผลิตไฟฟาู ต้องลงทนุ สรา้ งเขอ่ื น อา่ งเกบ็ น้ํา เครือ่ งมือเครอ่ื งจักร และกาํ ลังคนจาํ นวนมาก ซึ่งเอกชนไม่สามารถดําเนินการได้ 4. เพอ่ื หารายได้เขา้ รัฐ รฐั บาลจาํ เป็นต้องหารายไดเ้ ขา้ รฐั นอกจากการเกบ็ ภาษอี ากรเพือ่ นาํ ไปใชจ้ ่ายใน การทาํ นุบํารงุ และพัฒนาประเทศชาติ 5. เพื่อความม่ันคงของประเทศ ในยามสงครามสนิ คา้ บางชนิดมีความจาํ เปน็ ต่อส่วนรวม เพ่ือเป็นการ ปอู งกันการขาดแคลนในยามฉุกเฉนิ รฐั จําเป็นต้อง เขา้ มาดําเนนิ การเอง ได้แก่ กิจการเก่ียวกับการผลิต เชอ้ื เพลงิ ยารักษาโรค เปน็ ต้น 6. เพือ่ เปน็ การสง่ เสรมิ เอกลักษณ์ วัฒนธรรมและเผยแพร่ช่อื เสียงของประเทศชาติ เชน่ การทอ่ งเทย่ี วแห่ง ประเทศไทย

การจัดต้งั การจัดต้ังรฐั วสิ าหกจิ ทาํ ได้ 4 ลักษณะ คือ 1. จดั ต้งั โดยพระราชบัญญตั ิ โดยมีทนุ ทัง้ สิน้ เปน็ ของรัฐ เช่น องค์การโทรศัพทแ์ ห่งประเทศไทย การรถไฟ แห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย ฯลฯ 2. จัดตง้ั โดยพระราชกฤษฎกี า โดยมที ุนท้ังสิ้นเป็นของรฐั เชน่ องค์การอุตสาหกรรมปาุ ไม้ องค์การสวน ยาง องค์การสวนสัตว์ ฯลฯ 3. จัดตั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยรัฐบาลเปน็ เจา้ ของท้งั สิ้น หรอื ถือห้นุ เกินกวา่ รอ้ ยละ 50 เชน่ บริษัทการบินไทย บริษัทไมอ้ ดั ไทย บรษิ ัทขนส่ง จาํ กัด ฯลฯ 4. จัดตั้งตามมติคณะรฐั มนตรี เช่น สํานักงานสลากกินแบง่ รัฐบาล โรงงานยาสูบ สถานธนานุเคราะห์ กิจการแฟรนไชส์ (Franchise) กจิ การแฟรนไชส์ อาจเรยี กอีกอยา่ งวา่ ธุรกจิ สมั ปทาน คือ ธุรกิจท่ีเกิดจากความสัมพนั ธ์ระหว่าง บคุ คล2 กลุ่มขน้ึ ไปหรือมากกวา่ ซงึ่ มีบทบาทและหน้าทรี่ ับผดิ ชอบต่างกัน แตจ่ ะส่งเสรมิ ซ่งึ กันและกนั ในระบบธุรกิจ โดยมวี ัตถปุ ระสงคจ์ ะกระจายสินค้าหรือบริการไปสู่ผู้บรโิ ภคอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ดังน้นั จากลักษณะของ ธุรกจิ แฟรนไชสจ์ ึงมผี ้เู ก่ียวข้องกบั ธรุ กจิ ประเภทนี้ 2 ฝาุ ยคือ 1. แฟรนไชซอร์ หรือ เจ้าของธรุ กจิ คือ ผูใ้ หส้ ัมปทาน 2. แฟรนไชซี คือ ผขู้ อรับสมั ปทาน ประเภทของธุรกจิ แฟรนไชส์ ธรุ กิจแฟรนไชส์หรือธุรกจิ แบบสัมปทานมี 2 ประเภทคือ 1. ธรุ กิจแฟรนไชส์หรอื แบบสัมปทานที่ใช้สนิ คา้ และชอ่ื การค้า เปน็ รูปแบบธรุ กจิ ทผ่ี ้ผู ลิตหรอื ผจู้ าํ หน่าย หรอื ผูใ้ หส้ มั ปทานใหส้ ิทธแิ กผ่ ้รู บั สัมปทานหรือตัวแทนจาํ หนา่ ย ในการจาํ หนา่ ยสนิ ค้าหรือ ผลติ ภัณฑ์ ใดผลิตภณั ฑห์ นงึ่ ของผู้ให้สมั ปทาน โดยผู้รบั สมั ปทานจะไดร้ ับช่อื สนิ ค้า เครื่องหมายการค้า โดย ถอื เสมือนวา่ เป็นผูจ้ าํ หน่ายในสายผลติ ภณั ฑ์เดียวกบั ผู้ให้สมั ปทาน เช่น ตวั แทนจาํ หนา่ ยนํา้ อดั ลมโคคา-โค ลา่ สถานบี ริการนํา้ มนั เชลล์ ตัวแทนจาํ หนา่ ยรถยนต์ฟอร์ด เปน็ ต้น 2. ธรุ กิจแฟรนไชสห์ รือแบบสัมปทานทีใ่ ช้รูปแบบทางธรุ กจิ เปน็ รปู แบบธรุ กจิ ทผ่ี ู้ให้สมั ปทาน ใหส้ ทิ ธิแก่ผู้รับสัมปทานในการขายสนิ ค้าหรอื บริการโดยใชเ้ คร่ืองหมายการค้าของผใู้ ห้สมั ปทาน เชน่ พซิ ซ่าฮัทเคเอฟซเี ซเว่น-อีเลฟเวน เป็นตน้

สรุปความรเู้ บ้ืองต้นเกย่ี วกบั ธุรกิจ ธรุ กิจมคี วามสําคัญเปน็ อย่างย่ิงตอ่ การดํารงชีวิตของประชาชนในทุกระดบั เกย่ี วข้องกับทุกๆคนโดยทาํ การผลิต สนิ ค้าและบริการสนองความต้องการของผู้บรโิ ภคทาํ ใหม้ าตรฐานการครองชีพดีขนึ้ และในการดําเนนิ ธุรกิจ ต่างๆจะต้องมีความรคู้ วามเข้าใจในการบริหารจัดการธุรกจิ ทีด่ ําเนนิ การอย่ทู ้ังการเพื่อทีจ่ ะพัฒนากระบวนการ ผลติ ใหท้ นั สมัยนําเทคโนโลยสี มัยใหมเ่ ข้ามาใชใ้ นการทาํ ธุรกิจให้มีกาํ ไรมีการเจริญเติบโตของธรุ กจิ ท่มี นั่ คงโดย ไดร้ ับกาํ ไรเปน็ ผลตอบแทนทาํ ใหก้ ิจการอย่รู อดมีความเจริญเตบิ โตและดําเนนิ งานตอ่ ไปได้อยา่ งต่อเนอ่ื งรวมถึง ความรบั ผดิ ชอบของธุรกจิ ต่อสงั คมในการทาํ ธุรกจิ ทั้งภายในและภายนอก

ใบงานที่ 1.6 เรือ่ ง กจิ การเจ้าของคนเดยี ว กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว หมายถึง……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………. การจัดตั้ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใหน้ ักเรียนเปรียบเทียบข้อดี ขอ้ เสีย ของกจิ การเจา้ ของคนเดียว ข้อดี ขอ้ เสีย 1…………………………………………………………………….. 1…………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………….. 2…………………………………………………………………………… 3…………………………………………………………………….. 3………………………………………………………………………….. 4…………………………………………………………………….. 4……………………………………………………………………………

.ใบงานท่ี 1.7 เร่ือง ห้างห้นุ สว่ นจากดั หา้ งหนุ้ ส่วนจาํ กดั หมายถึง……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………. การจัดต้ัง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใหน้ กั เรียนเปรยี บเทียบข้อดี ข้อเสีย ของห้างหนุ้ ส่วน ขอ้ ดี ขอ้ เสยี 1…………………………………………………………………….. 1…………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………….. 2…………………………………………………………………………… 3…………………………………………………………………….. 3………………………………………………………………………….. 4…………………………………………………………………….. 4…………………………………………………………………………… 5…………………………………………………………………….. 5…………………………………………………………………………… ใบงานท่ี 1.8 เรื่อง บริษัทจากดั

บริษทั จํากดั หมายถึง……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………. การจัดตงั้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.4.3ให้นักเรยี นเปรยี บเทยี บข้อดี ขอ้ เสีย ของบริษทั จากดั ขอ้ ดี ข้อเสยี 1…………………………………………………………………….. 1…………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………….. 2…………………………………………………………………………… 3…………………………………………………………………….. 3………………………………………………………………………….. 4…………………………………………………………………….. 4…………………………………………………………………………… 5…………………………………………………………………….. 5…………………………………………………………………………… ใบงานท่ี 1.9 จงอา่ นข้อความและเตมิ เคร่ืองหมายทถ่ี กู ต้องหนา้ ข้อความต่อไปนโ้ี ดยใส่เคร่อื งหมายถกู (/)

หนา้ ข้อความทีถ่ กู และเครอื่ งหมายผิด (x) หนา้ ข้อความที่ผิด _____1.ธรุ กิจเปน็ กิจกรรมท่ีทาํ ให้เกิดสนิ ค้าหรือบริการมากมาย _____2.ธุรกิจหมายถงึ การดําเนนิ กิจกรรมท่ีไม่ได้มุ่งหวังกาํ ไรสูงสดุ แตม่ ่งุ หวงั เพื่อสาธารณกุศล _____3.บคุ คลทธ่ี ุรกจิ ควรให้ความใสใ่ จและดแู ลคือลูกค้าหรอื ผู้บริโภค _____4.ธรุ กิจไมส่ ามารถแก้ไขปัญหาสงั คมได้เพราะธรุ กิจทําใหส้ ังคมเกิดการแขง่ ขนั _____5.ทกุ ธรุ กิจมวี ตั ถุประสงค์ในการดาํ เนนิ กิจการเพียงวัตถุประสงค์เดียวคือกําไร _____6.การให้ทุนการศกึ ษาแกเ่ ดก็ ท่ดี ้วยโอกาสถือว่าเป็นการคืนกําไรให้กบั สังคม _____7.การจัดหาวัตถุดบิ เพื่อผลิตสนิ ค้านน้ั ควรเนน้ จัดหาวตั ถดุ บิ ทร่ี าคาถกู เพื่อให้เกิดกําไรสูงสดุ _____8.ธรุ กิจมีบทบาทและมีความเกย่ี วข้องกับการดาํ เนนิ ชีวติ ของประชาชนทุกคน _____9.การขยายขนาดกิจการของธรุ กจิ นัน้ จาํ เป็นเน่อื งจากธุรกจิ ต้องการเจรญิ กา้ วหนา้ _____10.การศกึ ษาพฤติกรรมของผูบ้ รโิ ภคทาํ ให้ธรุ กิจทราบถึงความต้องการของสนิ ค้าหรอื บริการ ตอนที่ 3 จงจับคใู่ ห้ถกู ต้องโดยนําตวั อักษรด้านขวาเติมหน้าขอ้ ความที่ถูกต้อง --------1. สนิ ค้าอปุ โภค ก. การจัดจาํ หน่าย --------2. บริการโดยตรง ข. ชายส่ีบะหมเี่ ก๊ียว --------3. วัตถปุ ระสงค์หลักของการทําธุรกิจ ค. สถานธนานุเคราะห์ --------4. การกระจายสนิ ค้าหรือบรกิ ารส่ผู ู้บรโิ ภค ง. ลกู คา้ หรือผบู้ รโิ ภค --------5. บคุ คลที่สําคัญทส่ี ุดในระบบเศรษฐกิจ จ. โรงภาพยนตร์ --------6. กิจการรัฐวิสาหกิจ ฉ. ห้างหนุ้ สว่ น ............7. ธรุ กิจเฟรนไชส์ ช. บริษทั จํากัด …………8. ลงทนุ โดยการออกหุน้ จาํ หนา่ ย ซ. ยารักษาโรค …………9.หนังสอื บรคิ ณหส์ นธิ ฌ.รัฐวสิ าหกิจ …………10.กจิ การเจ้าของคนเดยี ว ญ. กําไร ฎ.ระยะเวลาดําเนินการมักไมย่ ืนยาว ใบงานท่ี 1.10 เรอ่ื ง รปู แบบธรุ กจิ

จงตอบคาํ ถามต่อไปนี้ใหไ้ ด้ใจความสมบูรณ์ 1. ปัจจัยอะไรบ้างทน่ี ักธรุ กิจต้องนาํ มาพจิ ารณาก่อนเลือกรูปแบบในการดําเนนิ ธุรกจิ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. สรุปข้อดี-ขอ้ เสีย ของการดําเนนิ ธรุ กจิ เฟรนไชส์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. จงเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหวา่ งห้างหุ้นส่วนสามญั และหา้ งหุ้นสว่ นจํากดั ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. การประกอบธรุ กจิ รปู แบบบรษิ ัทเอกชนจํากดั มีลักษณะอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 5. การประกอบธรุ กิจรูปแบบบริษัทมหาชนจาํ กัดมลี กั ษณะอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 6. หนงั สอื บรคิ ณห์สนธิมีลกั ษณะอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 7. “สหกรณ์” มลี ักษณะอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 8. สาเหตุท่รี ัฐบาลเขา้ ดําเนินงานรัฐวสิ าหกจิ ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... 9. ธุรกจิ เฟรนไชส์มลี กั ษณะอย่างไร จงอธบิ าย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. ประเทศไทยมกี ฎหมายรับรองสิทธใิ์ นทรัพย์สนิ ทางปัญญาก่ีประเภท อะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ใบงานท่ี 1.11 ให้นักศึกษาเลือกข้อท่ีถกู ท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว โดยทาํ เคร่อื งหมาย (X) ลงหนา้ ข้อท่ีถกู ต้องท่ีสดุ

1. การประกอบธุรกิจรูปแบบใดทจ่ี ัดตั้งง่ายและเลิกง่ายที่สุด ก. สหกรณ์ ข. หา้ งหุน้ ส่วน ค. รัฐวิสาหกจิ ง. กจิ การเจา้ ของคนเดียว 2. ธรุ กิจรปู แบบใดท่มี บี ุคคลตั้งแต่2 คนขึน้ ไป ร่วมกนั ลงทุน โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์จะแบ่งกําไรร่วมกนั มคี วามเส่ยี ง ในการขาดทนุ น้อยกวา่ กิจการคนเดียว ก. สหกรณ์ ข. บริษทั จํากัด ค. รัฐวิสาหกิจ ง. ห้างหุ้นส่วนจาํ กัด 3. ธุรกิจรูปแบบใดที่มีผรู้ ิเริ่มต้งั แต่3คน เข้าช่อื กันทาํ หนงั สือบรคิ ณห์สนธแิ ล้วนําไปจดทะเบียนต่อนาย ทะเบียน และจดั การให้หุ้นทงั้ หมดของบริษทั มผี ลู้ งชอ่ื จองจนครบ ก. สหกรณ์ ข. บรษิ ทั จาํ กัด ค. รัฐวสิ าหกจิ ง. หา้ งหนุ้ สว่ นจาํ กัด 4. ธุรกจิ รปู แบบใดท่จี ดั ต้ังขนึ้ โดยมขี อ้ ดีในการชว่ ยใหเ้ ศรษฐกิจของประเทศดีขน้ึ เป็นแหลง่ ราย ไดข้ องรัฐและยงั ควบคมุ สนิ คา้ บางตวั ทเ่ี ป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ ก. รฐั วสิ าหกิจ ข. บริษทั จาํ กัด ค. ห้างหุน้ ส่วนจํากดั ง. สหกรณ์ออมทรัพย์ 5. ข้อใดเปน็ ขอ้ เสียของธรุ กิจประเภทบรษิ ัทจาํ กัด ก. มีข้อจาํ กดั ในดา้ นกฎหมาย ข. ขนั้ ตอนในการจัดตงั้ ย่งุ ยากมาก ค. สิ้นเปลอื งค่าใชจ้ า่ ยในการบริหารงาน ง. ถกู ทกุ ข้อ 6. ธุรกจิ รูปแบบใดยึดการดาํ เนนิ การตามหลกั ประชาธิปไตยและช่วยเหลอื สมาชิก ก. สหกรณ์ ข. รฐั วสิ าหกจิ ค. บรษิ ัทจํากัด ง. ห้างหุ้นส่วนจํากดั 7. รปู แบบธรุ กิจใดทจ่ี ัดตงั้ ขนึ้ ดว้ ยทนุ ท้งั หมดของรัฐบาลหรือรฐั บาลมที นุ มากกว่าร้อยละ50 ก. สหกรณ์ ข. รัฐวิสาหกจิ ค. บรษิ ทั จาํ กดั ง. ห้างหนุ้ สว่ นจํากัด 8. หากหา้ งห้นุ ส่วนสามัญจดทะเบียน จะมสี ภาพเปน็ ข้อ ใด

ก. หา้ งหนุ้ สว่ นจาํ กดั ข. หา้ งห้นุ สว่ นสามัญนิตบิ ุคคล ค. หา้ งหุน้ สว่ น (ชอ่ื หา้ ง) จํากัด ง. ห้างหนุ้ สว่ นสามัญจํากัด 9. สหกรณว์ ัดจนั ทร์ไมจ่ ํากดั สินใช้ คอื สหกรณป์ ระเภทใด ก. สหกรณน์ คิ ม ข. สหกรณ์บรกิ าร ค. สหกรณ์การเกษตร ง. สหกรณอ์ อมทรัพย์ 10. ธนาคารกรุงไทย เป็นรัฐวิสาหกิจประเภทใด ก. รัฐวิสาหกิจทีจ่ ดั ตงั้ ขน้ึ โดยพระราชบญั ญัติ ข. รฐั วิสาหกจิ ทจ่ี ัดต้ังขน้ึ โดยพระราชกฤษฎีกา ค. รัฐวสิ าหกจิ ท่ีจดั ตง้ั ข้ึนมฐี านะเปน็ บริษัทจํากดั ง. รัฐวิสาหกิจทจี่ ัดตั้งขน้ึ ตามมติของ คณะรัฐมนตรี แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องตน้ เกย่ี วกับธรุ กิจ

คาชี้แจงจงทําเคร่ืองหมายทบั ขอ้ ท่ีถูกทีส่ ุดเพยี งข้อเดยี ว 1. ธุรกิจหมายถงึ ข้อใด ก. การจัดตั้งองค์กรหรือกจิ การ ข. กระบวนการนําทรัพยากรธรรมชาติผา่ นกรรมวธิ กี ารผลติ ค. ความต้องการซื้อของผู้บรโิ ภค ง. การดําเนนิ งานโดยกลมุ่ บุคคลท่ีมคี วามตอ้ งการคล้ายคลงึ กนั 2. ขอ้ ใดเปน็ ความสําคัญของธุรกิจ ก. สรา้ งความเจริญก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยี ข. เพ่มิ ผลประโยชนห์ รือกําไร ค. เพือ่ สร้างความม่ันคงให้กิจการ ง. เพอื่ พัฒนาผลติ ภัณฑ์และธุรกจิ 3. ข้อใดต่อไปนีเ้ ปน็ จริยธรรมของนักธุรกิจตอ่ คู่แขง่ ขนั ก. จาํ หนา่ ยสินคา้ ท่มี ีคุณภาพกวา่ คแู่ ข่งขันในราคาแพง ข. จําหน่ายสินคา้ ทด่ี อ้ ยคณุ ภาพกวา่ คู่แขง่ ขันในราคาแพง ค. ละเว้นการใหค้ วามร่วมมือในการทําธรุ กิจ ง. ละเว้นการกลนั่ แกล้งให้ร้ายปูายสคี แู่ ข่งขัน 4. กลุ่มบคุ คลท่ีมคี วามสาํ คัญมากต่อธุรกิจคือข้อใด ก. ผขู้ าย ข. รัฐบาล ค. ผู้ซ้อื ง. ลูกจา้ ง 5. กิจการประเภทใดท่ีเป็นที่นิยมและมีจํานวนมากทสี่ ดุ จัดตงั้ งา่ ย เงินลงทุนน้อย ก. กิจการเข้าของคนเดียว ข. ธรุ กิจเฟรนไชส์ ค. หา้ งหนุ้ ส่วนจํากดั ง. สหกรณ์ 6. ปัจจัยในการดาํ เนินธุรกิจที่สาํ คัญท่สี ดุ ได้แก่ขอ้ ใด ก. Material ข. Money ค. Management ง. Man 7. ขอ้ ใดไม่ใชเ่ ปูาหมายของธุรกจิ ก. ความเจรญิ เตบิ โตของธุรกิจ ข. การเอารัดเอาเปรยี บสังคม ค. มุง่ หวงั กําไร ง. ความอยรู่ อดของธรุ กิจ 8. การจดั หาทรัพยากรบคุ คลใหเ้ หมาะสมกับงานคืออะไร ก. จัดงานให้เหมาะสมกับความสามารถคน

ข. เพอื่ ให้งานมปี ระสทิ ธภิ าพ ค. คา่ จ้างถกู ง. เพื่อให้งานสาํ เรจ็ เปน็ ไปตามเปูาหมายทว่ี างไว้ 9. สภาพแวดลอ้ มทางธุรกจิ ใดทีผ่ ู้ประกอบธุรกจิ ไมส่ ามารถควบคุมได้ ก. เวลา ข. เงนิ ทุน ค. บุคลากร ง. การใช้จา่ ยของผบู้ ริโภค 10. ขายสนิ คา้ และบริการในราคาท่ียตุ ิธรรมเปน็ จริยธรรมของใคร ก. จริยธรรมของนกั ธุรกิจต่อคู่แขง่ ขัน ข. จรยิ ธรรมของนกั ธรุ กจิ ต่อลูกคา้ ค. จรยิ ธรรมของนกั ธรุ กจิ ต่อพนกั งาน ง. จรยิ ธรรมของนักธรุ กจิ ต่อสังคม เอกสารอา้ งอิง จรญู โกสยี ์ไกรนิรมล.(2547).ธรุ กิจทวั่ ไป.พมิ พค์ รงั้ ท่ี2.กรุงเทพฯ:เอด็ ดูเท็กซ์. ดาํ รงศกั ด์ิชัยสนทิ และก่อเกียรติวิริยะกิจพัฒนา.(2548).ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับการประกอบธรุ กจิ . กรุงเทพฯ:สาํ นกั พมิ พว์ ังอักษร. ดํารงศักด์ิชัยสนิทและสนุ ีเลศิ แสวงกิจ.(2548).ความรเู้ บ้อื งตน้ เก่ยี วกบั การประกอบธรุ กจิ . พิมพค์ รั้งที่ 4.กรงุ เทพฯ:สํานกั พมิ พว์ งั อกั ษร. พจนานุกรมราชบณั ฑติ สถานพ.ศ. 2542.(2554). http://rirs3.royin.go.th/new-search/word-search-all-x.asp พรพรหมพรหมเพศ.(2551).ธุรกิจเบือ้ งต้น.กรุงเทพฯ:สาํ นักพมิ พท์ อ้ ป. เพญ็ ศรเี ลิศเกยี รติวิทยา. (2551). ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ.กรงุ เทพฯ:สาํ นักพิมพเ์ อมพันธ.์ ประภัสสรบญุ ม.ี (2550). ความรูเ้ บื้องต้นเก่ียวกับการประกอบธรุ กิจ.มหาสารคาม:สารคามการพมิ พ์. ระวังเนตรโพธิแ์ ก้ว.(2547).ความรู้เบ้ืองต้นเก่ยี วกบั การประกอบธรุ กจิ .กรงุ เทพฯ:พทิ กั ษ์อักษร. ศิวลีดลิ กหตั ถการและจนั ทิมาบญุ พยงุ .(2554).ธุรกจิ ท่วั ไป.กรงุ เทพฯ:สํานกั พิมพ์พัฒนาวชิ าการ. ศิริวรรณเสรรี ัตนแ์ ละคณะ.(2546).ธุรกิจทั่วไป:ความร้เู บือ้ งต้นเกีย่ วกับการประกอบธุรกจิ . กรงุ เทพฯ:ธีรฟลิ ์มและไซเท็กซ.์ ศศิธรกาญจนวงศามาศ .(2554).ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ.พิมพค์ รั้งท2่ี . นนทบรุ ี:ศนู ย์หนงั สือเมอื งไทย. สมคดิ บางโม.(2553).การเป็นผปู้ ระกอบการ.พมิ พ์คร้งั ท4่ี .กรุงเทพฯ:สํานักพมิ พเ์ อสเคบคุ๊ ส์. สโุ ขทยั ธรรมาธิราช.(2555).การสรา้ งธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ.หนว่ ยท1ี่ -8. นนทบรุ ี:สํานกั พมิ พ์มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช. สโุ ขทยั ธรรมาธิราช.(2555).การสร้างธุรกิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ.หน่วยท9ี่ -15. นนทบรุ ี:สาํ นักพิมพ์มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. อาจารย์คณะวิทยาการจัดการ.(2550).ความรเู้ บื้องต้นเกยี่ วกับการประกอบธุรกิจ. กรุงเทพฯ :โครงการศนู ยห์ นังสอื มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. เอกสารประกอบการสอนวิชาธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการหนา้ 33 www.kroobannok

หนว่ ยที่ 2 บัญชีครัวเรอื น ใบความรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง การใชบ้ รกิ ารกบั สถาบันการเงิน ความหมายของการออม เงินออม หมายถึง สว่ นของรายไดท้ ีเ่ หลอื อยู่ หรือทก่ี นั เอาไว้ไม่นาํ มาใชจ้ า่ ยในการบรโิ ภคและอปุ โภคในปัจจุบนั โดยมจี ุดประสงค์เพอ่ื เก็บไว้ใชจ้ ่ายในอนาคต เชน่ ในยามปวุ ยไข้ เมื่อแกช่ ราหรือลงทนุ เป็นต้น ถ้าเกบ็ ไวก้ ับ ตัวเองเฉย ๆ เช่น ไสต่ ุ่มฝงั ดนิ ไว้ หรอื เก็บใสต่ นู้ ิรภยั ไว้ เงินจํานวนนจ้ี ะไมห่ มุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจนกว่าจะ ไดม้ กี ารนํามาใชจ้ า่ ยเกดิ ขน้ึ การเกิฐเงนิ ในลกั ษณะน้ีเรียกวา่ \"Hoarding\" เงินออมไมจ่ ําเป็นต้องถูกเกบ็ ไว้เฉย ๆ ในรูป Hoarding เสมอไป เพราะนอกจากจะไม่ใหป้ ระโยชน์งอกเงยแลว้ ยงั อาจจะขาดทุนอกี ด้วย ในภาวะเงิน เฟูอ เงินที่เกบ็ อยู่เฉย ๆ จะมีค่าลดนอ้ ยลงไปทุกที เม่ือราคาของสินคา้ และบริการสงู อยตู่ ลอดเวลา อํานวจของ เงินจะลดลงเรอื่ ย ๆ เปน็ อัตราส่วนกลับกับอตั ราเงนิ เฟูอ คนในสมยั นี้ เมอื่ รายไดม้ ากกวา่ รายจา่ ยและมีเงินออม จงึ ไมน่ ยิ มเกบ็ ใส่ไหฝงั ดนิ ไว้ หรือเก็บใส่ไวใ้ ตห้ มอนอีกต่อไป แตห่ าทางทําให้เงนิ ออมน้นั เกิดประโยชน์ อาจจะ ดว้ ยการนาํ ไปฝากไว้กับสถาบันการเงนิ ผ้ฝู ากเงนิ จะได้รับผลตอบแทนเปน็ ดอกเบี้ยและสถาบันการเงินทรี่ ับ ฝากเงนิ จะนาํ เงนิ นัน้ ไปใหผ้ ู้ลงทนุ หรือผ้บู รโิ ภคกตู้ ่อไป บางครง้ั จึงเรยี กการนําเงินออมไปฝากสถาบันการเงินว่า เปน็ การลงทุนทางอ้อม ในบางกรณผี มู้ ีเงินออมอาจจะทาํ การลงทุนเพ่ือประกอบธรุ กิจเองก็ได้ ในกรณนี ้ีถือเปน็ การลงทนุ ทางตรง วตั ถุประสงค์ของการออม 1. สรา้ งหลักประกันชวี ติ ในระหวา่ งยงั ทํางานและความมนั่ คงทางดา้ นการเงนิ 2. เพื่อใหม้ ีเงนิ ไว้ใชใ้ นวยั ชราไมเ่ ปน็ ภาระต่อลูกหลานและสังคม 3. เพอ่ื ไว้ใช้ทางด้านการศึกษาในการนํามาสร้างความกา้ วหนา้ ในหน้าท่กี ารงานและสร้างเงินในอนาคต 4.. เพอ่ื ไว้เปน็ มรดกใหล้ กู หลานและสงั คม 5. เพอื่ เป็นเงนิ ทนุ ในการประกอบอาชพี หรือเปล่ยี นอาชีพ 6. เพอ่ื ไวใ้ ชจ้ ่ายนอกเหนือจากรายจา่ ยประจํา 7. เพือ่ ไวใ้ ชย้ ามฉุกเฉินและยามเจบ็ ปวุ ย หลักการออม ผบู้ ริโภคส่วนมากมีความคิดท่ีจะออมทรพั ยเ์ พือ่ ไว้ใช้จา่ ยในอนาคตแต่มีเฉพาะบางคนเทา่ นนั้ ที่สามารถจะ ทาํ การออมทรัพย์ดงั ท่ีตนปรารถนาได้ ฉะน้นั ผ้บู ริโภคควรจะต้องรู้จักวธิ กี ารออมทรพั ย์ท่ีจะก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อตนเองและต่อระบบเศรษฐกจิ สว่ นรวม ซ่งึ ผู้บริโภคจะต้องปฏบิ ัตติ ามหลัก 10แนวคดิ เรือ่ งการออม มี ดังน้ี ในยคุ เศรษฐกจิ ตกต่าํ เชน่ ปัจจบุ นั การออมเงนิ ถือเป็นเรอ่ื งสาํ คญั ทีไ่ ม่ควรมองข้าม ซึง่ พวกเราทกุ คนตา่ ง ก็รูข้ ัน้ ตอนในการออมเงินกนั ดอี ยแู่ ล้ว ขาดเพยี งเคลด็ ลบั แหง่ ความสาํ เร็จในการออม ดังนนั้ ในบทความนี้เราจึง ได้รวบรวมแนวคดิ เพ่ือการออมอย่างมีประสิทธภิ าพมาฝากกันค่ะ รับรองว่าจะทาํ ใหค้ ุณมีเงินออมอย่างรวดเร็ว มากข้นึ อยา่ งแน่นอน ว่าแต่ 10 แนวคดิ นี้จะมีอะไรบา้ งไปดูกนั เลย 1. อย่าเดนิ ตามรอยเทา้ ใคร โดยปราศจากการออม เราอาจได้แรงบันดาลใจจากบรรดามหาเศรษฐี และนกั ธุรกิจทป่ี ระสบความสําเรจ็ หลายๆคน และเกบ็ มาเปน็ แบบอย่างเพื่อเดินตามรอยพวกเขาเหล่านน้ั อย่าลมื วา่ กวา่ พวกเขาทุกคนจะมวี ันน้ี พวกเขาต้องผ่านอะไรกนั มาบา้ งและมีความเสยี่ งอีกมากมายท่ีเราไม่มโี อกาสไดท้ ราบ แต่พืน้ ฐานแห่งความสาํ เรจ็ ของพวกเขาเริม่ ตน้ มา

จากการออมน่นั เอง หากคุณอยากประสบความสําเร็จเช่นพวกเขาเหล่านั้น ก็อย่าลมื เคล็ดลบั ความสาํ เร็จนด้ี ้วย 2. อยา่ เส่ียงลงทนุ ถ้าไม่พร้อมเรื่องเงนิ ออม หากคณุ มีความคดิ ที่อยากจะลงทนุ ทําธุรกิจอะไรสกั อย่าง คุณอาจจะเร่ิมต้นดว้ ยการกเู้ งินกบั สถาบนั การเงิน ต่างๆ โดยท่เี งินในบัญชีของคุณมนี อ้ ยกว่าคร่งึ หนงึ่ ของการลงทุนในครัง้ นี้ เพราะโอกาสในการสรา้ งธรุ กจิ ลว้ นมี ความเสี่ยงและอาจประสบปัญหาตา่ งๆได้สารพัด อย่างน้อยๆ คุณควรจะมเี งินออมสักก้อนหนึ่งเพื่อเกบ็ ไว้ ประคับประคองตนเองในยามฉกุ เฉนิ และต่อให้ได้รบั ผลกาํ ไรจากธรุ กิจนั้นๆแลว้ คณุ กค็ วรออมต่อไป เพ่ือ อนาคตทางการเงินทดี่ ีของคุณเอง 3. วางแผนทางการเงิน และทาใหไ้ ด้ การออมจะประสบความสาํ เร็จไมไ่ ด้เลย หากขาดซง่ึ การวางแผน นักธรุ กิจผ้ปู ระสบความสาํ เร็จในด้านการเงิน ส่วนใหญ่นนั้ มักมเี ปาู หมายท่ีชัดเจน และการออมท่ีมีวินัยอย่างสมํา่ เสมอ หากคุณอยากมีความสาํ เรจ็ เช่นพวก เขา คณุ ต้องไมข่ าดวินยั และวางแผนการใชเ้ งนิ ให้ดี ตั้งเปาู หมายไวแ้ ล้วทําให้ได้ เพยี งเท่าน้ี การออมเงินของ คุณกจ็ ะประสบความสําเรจ็ ได้อยา่ งงดงามในอนาคต 4. ควบคมุ ตัวเองใหไ้ ด้ เมอื่ มวี ินัยทางการเงนิ ที่ดีแลว้ อีกข้อหนงึ่ ท่ีควรมีก็คอื ความอดทนและการยบั ย้ังช่ังใจน่ันเอง คุณจะประสบ ความสาํ เรจ็ ในการออมไม่ได้เลย ถา้ ขาดการควบคุมตนเองอย่างเข้มงวดน้ี เพราะนักธรุ กิจหลายๆคนที่ประสบ ความสาํ เร็จ ล้วนมีวธิ กี ารควบคมุ ตนเองอย่างเข้มงวด และหักห้ามใจ ไม่ให้ใช้จ่ายอย่างพรา่ํ เพร่ือนั่นเอง 5. ตัง้ เป้าหมายให้ชดั เจน คนเราจะประสบความสาํ เรจ็ ในเร่ืองใดๆไม่ได้ หากขาดซ่งึ เปูาหมาย การออมก็เชน่ กัน คุณควรตงั้ เปาู หมาย ตวั เองให้ชัดเจนก่อน เชน่ จะเก็บเงินให้ได้ 1 แสนบาทภายในระยะเวลา 1 ปี เป็นต้น เพราะการต้ังเปาู หมาย จะนาํ มาซึ่งการวางแผนสร้างวินยั ที่ดตี อ่ ไปน่ันเอง 6. ใช้ความฝันเปน็ แรงบันดาลใจ ความฝันถือเปน็ สว่ นหนงึ่ ในการช่วยผลกั ดันเปาู หมายไปสู่ความสําเรจ็ เพราะหนทางในการบรรลุเปูาหมายนั้น คอ่ นข้างมีอปุ สรรคและการทดสอบทีม่ ากมาย อาจทาํ ให้คุณท้อถอยได้ทุกเวลา แต่ถ้าหากคณุ มคี วามฝันท่ีตั้งไว้ สูงๆแล้วล่ะก็ ความฝนั นนั้ แหละทจี่ ะคอยเป็นกําลังใจ และแรงผลกั ดันท่ีดี หนุนส่งให้คุณกา้ วส่เู ปาู หมายได้ อย่างรวดเรว็ และราบร่ืนมากยิ่งขน้ึ 7. อยา่ ประมาทในการใชจ้ ่าย เม่ือคุณพร้อมในทกุ ดา้ นแลว้ อีกข้อหน่ึงทค่ี วรระวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ ก็คือ การไม่ประมาทในการใช้จา่ ยนัน่ เอง เพราะทนั ทีท่ีคณุ เกบ็ เงินกอ้ นแรกได้สาํ เรจ็ แล้ว ส่งิ แรกที่คุณอาจเผลอทาํ ก็คือ ใช้จ่ายเงินก้อนน้นั โดยลมื นึกถงึ ช่วงเวลาฉกุ เฉิน อย่าลมื ว่าการออมนั้นคอื นสิ ยั ที่คุณควรมตี ิดตัวไปตลอดชวี ติ ไม่ใช่ออมเพ่อื เปูาหมายแลว้ หยุด ไป หรือใช้เงินออมใหห้ มดในพรบิ ตา เพราะหากคุณประมาท คุณอาจไม่มีเงินเกบ็ ไว้ใชจ้ า่ ยในช่วงบ้นั ปลายชวี ติ กเ็ ปน็ ได้ 8. อยา่ ลืมหาวธิ เี พมิ่ ค่าใหเ้ งินออม เมอ่ื คุณออมเงนิ ไปเรื่อยๆ เป็นระยะเวลาทีย่ าวนาน อัตราดอกเบี้ยที่ไดก้ ็คงตัวอยใู่ นระดบั เดมิ แทนท่ีคุณจะได้ ดอกผลทงี่ อกเงยไปกวา่ นี้ อย่าลืมแบ่งเงินออมสกั ส่วนหน่ึงไปลงทนุ ตามตราสารต่างๆ เช่น หุ้นปนั ผล,กองทนุ รวม เพราะการลงทุนต่างๆเหลา่ น้ี ถงึ จะมีความเสีย่ งสงู แต่กช็ ว่ ยสร้างผลกําไรได้มากกวา่ เป็นเทา่ ตวั 9. หาวิธกี ารออมท่ีเหมาะกับตัวคุณเอง อย่าเลียนแบบวิธกี ารออมของคนอนื่ หากมันไมใ่ ช่วิธที ี่เหมาะกบั คุณ เพราะนน่ั จะทาํ ให้คุณไมส่ นุกกับการออม เงินและไปสู่เปูาหมายได้ยากขึ้น ควรกําหนดรูปแบบการออมทเ่ี หมาะกบั ตวั คุณเอง เพ่ือท่ีคุณจะไดร้ สู้ ึกสนุก