Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore science shows

science shows

Published by sohot_m_, 2021-12-22 08:00:58

Description: รูปเล่มซายโชว์ล่าสุด

Search

Read the Text Version

แบบรายงานการแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science Show) เร่ือง 3 มหัศจรรย์แห่งโลกวทิ ยาศาสตร์ Smoked Ring Vortex Miracle Glass The wonder of light โดย 1. เดก็ หญงิ กนั ต์กนษิ ฐ์ สุขประภาวัฒน์ ช้ัน ป.5 ช้ัน ป.5 2. เดก็ หญงิ รัชวนิ ต์ ปล่องกระโทก ช้ัน ป.5 3. เดก็ หญงิ บุญธิชา เกง็ สาริกจิ ครูท่ปี รึกษา นางสาววนดิ าเวยี ง สระแก้ว นางสาววนั เพญ็ ค้าเกลอื โรงเรียนอนุบาลแสนสนุก อาเภอโชคชัย จงั หวดั นครราชสีมา รายงานฉบับนเี้ ป็ นส่วนประกอบของการแข่งขันการแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science Show) ระดบั ช้ัน ป.4-ป.6 เนื่องในการแข่งขันทักษะวชิ าการและประกวดส่ิงประดิษฐ์นกั เรียนโรงเรียนเอกชน ภาคตะวันออกเฉลยี งเหนือ คร้ังท่ี 3 วนั ที่ 19 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2563

คานา การแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science Show) เป็ นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนให้ได้แสดง ความสามารถในการใชท้ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การนาหลกั การทางวิทยาศาสตร์มาใชป้ ระโยชน์ และตอบคาถามกบั สิ่งสงสัยว่ามนั เกิดข้ึนไดอ้ ย่างไร พวกเรานกั เรียนโรงเรียนอนุบาลแสนสนุก ระดบั ช้นั ป.4-ป.6 ไดน้ ากิจกรรมการแสดงทางวิทยาศาสตร์แสดงเป็ น 3 ชุด ชุดท่ี 1 แสดงใหเ้ ห็นการเกิดปรากฏการ Smoked Ring Vortexหรือวงแหวนควนั ชุดท่ี 2 แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสารเทอร์โมโครมิก เมื่อ เจออุณหภูมิท่ีแตกต่างกนั ชุดที่ 3 แสดงให้เห็นการเกิดปรากฏการทินดอลหรือการกระเจิงแสง ถา้ เราขาด ความรู้และขาดความระมดั ระวงั ในการใชอ้ ุปกรณ์อาจทาใหเ้ กิดอนั ตรายต่อเราได้ ขอขอบพระคุณ คุณครูวนิดาเวียง สระแกว้ และคุณครูวนั เพญ็ คา้ เกลือโรงเรียนอนุบาลแสนสนุก ท่ีใหค้ วามรู้และคอยแนะนา จนกิจกรรมลลุ ว่ งไปดว้ ยดีและหวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ของ พวกเราคงไดร้ ับความรู้และเป็นประโยชน์สาหรับนกั เรียนและผสู้ นใจ คณะผจู้ ดั ทา

สารบัญ หนา้ 1 มลู เหตจุ งู ใจ 1 โชวท์ ่ี 1 Smoked ring vortex 1 2 เนอื้ หาโดยยอ่ 2 การนาหลกั การวทิ ยาศาสตรเ์ ขา้ มาใช้ 2 การนาความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ช้ 2 โชวท์ ่ี 2 Miracle glass 3 เนอื้ หาโดยยอ่ 3 การนาหลกั การวิทยาศาสตรเ์ ขา้ มาใช้ 3 การนาความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ช้ 3 โชวท์ ่ี 3 The wonder of light 4 เนอื้ หาโดยย่อ 4 การนาหลกั การวทิ ยาศาสตรเ์ ขา้ มาใช้ การนาความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ช้ ภาคผนวก

มูลเหตจุ ูงใจ ใ น ก า รเรี ย นวิท ยาศ าส ตร์ มี กิ จ ก รรมที่ ส่ ง เสริ ม ค วา มคิ ด สร้ าง สรรค์แล ะทักษะ กระบวนการ วิทยาศาสตร์ เป็นกิจกรรมที่ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดน้ าความคิดสร้างสรรคแ์ ละทกั ษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ไปใชใ้ นการสืบเสาะแสวงหาความรู้ แกป้ ัญหา และประดิษฐ์คิดคน้ ดว้ ยตนเอง ลองผิดลองถูก โดยนาหลกั การวทิ ยาศาสตร์มาใชก้ บั กิจกรรม ที่เป็นกลมุ่ หรือรายบุคคลก็ได้ เป็นการศึกษาเร่ืองใดเรื่องหน่ึง ที่เราสนใจ โดยมีการวางแผนเพื่อเสริมทกั ษะภายใตก้ ารแนะนาปรึกษาและการดูแลของครู เมื่อฝึ กจน ชานาญสามารถนาไปแสดงเพ่ือแลกเปล่ียนประสบการณ์กับเพ่ือน ๆ ได้ท้งั ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ รวมท้งั ความสนุกสนาน และไดฝ้ ึกพดู กลา้ แสดงออกในที่ชุมชน ในการ แสดงคร้ังน้ี 1. เพื่อตอ้ งการแสดงการเกิดปรากฏการ Smoked ring vortex หรือวงแหวนควนั 2. เพือ่ ตอ้ งการแสดงการเปล่ียนแปลงของสารเทอร์โมโครมิกเม่ือเจออณุ หภูมิท่ีแตกต่างกนั 3. เพ่ือตอ้ งการแสดงการเกิดปรากฏการทินดอลลห์ รือการกระเจิงแสง โชว์ที่ 1 Smoked ring vortex เนื้อหาโดยย่อ โดยการโชว์ เราจะนาถงั น้ามาเจาะตรงกน้ ของถงั น้าใหม้ ีลกั ษณะเป็นวงกลม จากน้นั ตรงปากถงั น้า ให้นาพลาสติกหุ้มมาปิ ดปากถงั ข้นั ตอนต่อไปนาควนั สีแท่งไปจุดในถงั เมื่อควนั ออกมาเต็มถงั ให้ตีตรง พลาสติกหุม้ ปากถงั น้าแลว้ สังเกตผล โดยมีวสั ดุอุปกรณ์ในการทา Smoked ring votex มีดงั น้ี อุปกรณ์การทดลอง 1.ถงั น้า 2.พลาสติกหุม้ 3.เครื่องทาควนั เทียม วิธกี ารทดลอง 1.นาถงั น้ามาเจาะตรงกน้ ถงั ใหม้ ีลกั ษณะเป็นรูปวงกลม 2.นาพลาสติกใส่มาหุม้ ปากถงั 3.นาควนั เทียมใส่เขา้ ไปในถงั 4.ตีตรงพลาสติกที่หุม้ ถงั แลว้ สงั เกตผล

หลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ เม่ือมวลอากาศเดินทางผ่านอากาศมวลอากาศที่อยใู่ นกอ้ นเคล่ือนที่ไดเ้ ร็วกวา่ มวลอากาศท่ีอยู่รอบ นอกเนื่องจากแรงเสียดทานระหวา่ งผิวดา้ นนอกกบั อากาศรอบ ๆ เมื่อมวลอากาศตรงกลางเคล่ือนท่ีทะลุผ่าน ออกไปก็จะมว้ นเขา้ มาทางผิวดา้ นนอกแลว้ กลบั เขา้ มาดา้ นทา้ ยอีก จนในที่สุดกลายเป็นวงแหวนอย่างท่ีเรา เห็น ประโยชน์การนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั นกั ศึกษามหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ไดน้ าหลกั การการเกิดวงแหวนควนั มาสร้างเครื่องดึงดูดอนุภาค ไฟป่ าจากอากาศสู่พ้นื ดนิ ดว้ ยวงแหวนไอน้าอิ่มตวั โดยเครื่องนี่มไี วใ้ ชด้ กั จบั ฝ่นุ ละอองหรือมลภาวะอากาศท่ี น้าหนกั นอ้ ยกวา่ 10ไมครอน โชว์ท่ี 2 Miracle glass เนื้อหาโดยย่อ โดยการโชวน์ าโดยการสังเกตลกั ษณะของแกว้ หลงั บจากน้นั เติมน้าร้อนเพอื่ สงั เกตการเปล่ียนแปลงของ แกว้ เทน้ารอ้ นออกหลงั จากน้นั เติมน้าเยน็ แลว้ สังเกตผล โดยมีวสั ดุอปุ กรณ์ในการทาการทดลอง Miracle glass มีดงั น้ี อปุ กรณ์การทดลอง 1. แกว้ 4 ใบ 2. น้าร้อน 3. น้าเยน็ 4. แกว้ น้าที่เคลอื บดว้ ยสาร เทอร์โมโครมกิ วธิ กี ารทดลอง 1. การนาแกว้ น้าท่ีเคลือบดว้ ยสาร เทอร์โมโครมิกใส่น้าร้อนลงไปสังเกตการเปลีย่ นแปลง 2. เทน้าร้อนออกแลว้ ใส่น้าเยน็ ลงไปสังเกตการเปลี่ยนแปลง

หลกั การทางวิทยาศาสตร์ สาเหตทุ ่ีแกว้ เปล่ียนสีไดน้ ้นั เป็นเพราะพ้นื ผวิ ของแกว้ มีสารเทอร์โมโครมิกลคิ วิลคริสตลั ท่ีเปลย่ี นสี ไดเ้ มื่อมีการเปล่ยี นแปลงของอณุ หภูมิโดยจะมกี ารเปลีย่ นแปลงการจดั เรียงโครงสร้างของโมเลกุลทาใหแ้ สง ท่ีสะทอ้ นจากสารมีการเปลี่ยนแปลงความยาวคลื่นไปเร่ือย ๆ เมื่อเติมน้าร้อนลงไปแลว้ สีดาบนตวั แกว้ กจ็ ะ หายไปเห็นเป็นลวดลายที่สวยงามข้นึ มาทนั ทีและเมอ่ื เทน้าออกเทน้าเยน็ ลงไปแทนน้าร้อนอณุ หภมู ิก็จะ ลดลงแกว้ จึงเปล่ียนสีเป็นเหมือนเดิม การนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั สารเทอร์โมโครมิกเหลา่ น้ีนอกจากใชก้ บั แกว้ เปล่ยี นสีเพอ่ื ความสวยงามต่ืนเตน้ แลว้ ยงั ใชป้ ระโยชน์ ตา่ ง ๆ ไดม้ ากมาย เช่น ใชใ้ นขวดนมเดก็ เพอ่ื ใหร้ ู้วา่ นมมีอณุ หภมู ิเหมาะสมหรือไม่ ใชเ้ คลือบผา้ เพือ่ ใหเ้ กิด ความ สวยงามแปลกตา หมึกพมิ พ์ หรือแมก้ ระทง่ั นามาใชก้ บั น้ายายอ้ มผมเพ่ือใหไ้ ดส้ ีผมท่ีเปล่ียนไปตาม อุณหภมู ิ โชว์ที่ 3 The wonder of light เนื้อหาโดยย่อ โดยเรานาเลเซอร์ยงิ ใส่ลูกโป่ งสงั เกตผล ข้นั ตอนตอ่ ไปใชเ้ ลเซอร์ยงิ ข้นึ ไปเหนือศีรษะจากน้นั ใหฉ้ ีด สเปรยป์ รับอากาศใหเ้ กิดละอองตรงลาแสง สงั เกตผลการทดลอง โดยมีวสั ดุอปุ กรณ์ในการทาการทดลอง The wonder of light มีดงั น้ี อปุ กรณ์การทดลอง 1.เลเซอร์ 2.สเปรยป์ รับอากาศ 3.ลูกโป่ ง วธิ กี ารทดลอง 1.ใชเ้ ลเซอร์ยงิ ลกู โป่ งจากน้นั สงั เกตผลการทดลอง 2. ยงิ เลเซอร์ข้นึ ไปเหนือศีรษะจากน้นั ฉีดสเปรยป์ รับอากาศใหเ้ กิดละอองตรงลาแสง สงั เกตผลการ ทดลอง

หลกั การทางวิทยาศาสตร์ เลเซอร์เป็นลาแสงท่ีเกิดจากอุปกรณ์ท่ีเรียกวา่ เลเซอร์ เป็นลาแสงที่มีสีเดียวต่างจากแสงอาทิตยซ์ ่ึง ประกอบไปด้วยหลายสี ความเขม้ ของคล่ืนแสงมีมากทาให้แสงเลเซอร์มีพลงั สูงและมีความแม่นยามาก ปรากฏการทินดอลหรือการกระเจิงของแสง คอื การท่ีแสงถกู ฉายเขา้ ไปในระบบชองสารประกอบคอลลอยด์ อนุภาคของคอลลอยดซ์ ่ึงมีขนาดอนุภาคใกลเ้ คียงกบั ความยาวคลื่นแสงที่ตาของคนเรามองเห็น เมื่อแสงตก กระทบบนอนุภาคของคอลลอยดแ์ สงจะถูกกระเจิงออก เราจึงสามารถมองเห็นลาแสงท่ีผา่ นระบบคอลลอยด์ การนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั มีการนาเลเซอร์มาใชป้ ระโยชน์มากมายเช่น การใชเ้ จาะ ตดั ใชเ้ ช่ือมวสั ดุตา่ ง ๆ ใชใ้ นทางการแพทย์ ใชใ้ นการอา่ นแผน่ ซีดีและอา่ นรหสั สินคา้ บางสาขาวิชากน็ าการกระเจิงและทฤษฎีการกระเจิงมาใช้ ไดแ้ ก่ การตรวจจบั เรดาร์ การใชค้ ลน่ื เสียงความถี่สูง (ultrasound) ทางการแพทย์ การตรวจสอบเวเฟอร์เซมิคอน- ดกั เตอร์

ภาคผนวก

โชวท์ ี่ 1 Smoked ring vortex

โชวท์ ี่ 2 Miracle glass

โชวท์ ี่ 3 The wonder of light


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook