Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 32. คำประพันธ์กาพย์ กลอน

32. คำประพันธ์กาพย์ กลอน

Published by Kanlayanee Buarapha, 2022-02-23 06:42:21

Description: กัลยา

Search

Read the Text Version

ติวไทยไปด้วยกัน O-NET ป.6 ฉบบั อย่าเยอะ

กาพย์ยานี ๑๑ เปน็ บทร้อยกรองชนดิ หนึ่งทีม่ ขี อ้ กําหนดในการ แตง่ คาํ ประพนั ธ์ ดงั นี้ • กาพยย์ านี ๑๑ ๑ บท มี ๒ บาท แตล่ ะบาทมี ๒ วรรค วรรคหนา้ มี ๕ คาํ วรรคหลงั มี ๖ คํา (๑ คาํ ในบทรอ้ ยกรอง หมายถงึ ๑ พยางค์ เชน่ “แมน่ าํ้ ” ถือว่าเป็น ๒ คํา)

การสัมผสั บทหนง่ึ ของกาพยย์ านี ๑๑ มี ๔ วรรค โดยมีข้อกําหนดการสัมผัส ดงั น้ี ❑ คาํ สดุ ท้ายของวรรคท่ี ๑ สัมผสั กบั คําที่ ๓ ของวรรคที่ ๒ (เลื่อนมาคําที่ ๑ หรือ ๒ กไ็ ด)้ ❑ คาํ สดุ ท้ายของวรรคที่ ๒ สัมผสั กับคาํ สดุ ท้ายของวรรคท่ี ๓ ❑ คําสดุ ทา้ ยของวรรคท่ี ๓ อาจสัมผัสกับคําท่ี ๓ ของวรรคที่ ๔ ได้ เพื่อเพิม่ ความไพเราะ (แต่ไมบ่ ังคับ) ❑ ถา้ เขยี นบทตอ่ ไป ให้คําสดุ ท้ายของวรรคท่ี ๔ ในบทหนา้ สมั ผัสกับ คําสุดทา้ ยของวรรคท่ี ๒ ในบทถดั ไป (สัมผสั ระหวา่ งบท)

การแบง่ จังหวะการอา่ นกาพยย์ านี ๑๑ วรรคหนา้ มี ๕ คํา ให้แบ่งเป็น ๒ จังหวะ คือ ๒ คํา/๓ คาํ วรรคหลังมี ๖ คํา ใหแ้ บง่ เป็น ๒ จังหวะ คือ ๓ คํา/๓ คํา เช่น ธารไหล/ใสสะอาด มจั ฉาชาติ/ดาษนานา หวน่ั ว่าย/กินไคลคลา ตามกนั มา/ใหเ้ ห็นตวั



เรือ่ ยเรื่อย/มารอนรอน ทพิ ากร/จะตกตา่ํ สนธยา/จะใกล้คํา่ คํานึงหน้า/เจา้ ตาตรู นกบินเฉียง/ไปท้งั หมู่ เร่อื ยเรอ่ื ย/มาเรียงเรยี ง เหมือนพอี่ ยู่/ผู้เดียวดาย ตัวเดียวมา/พลดั คู่

ให้นกั เรียนเรียงลาํ ดับของกาพย์ยานี ๑๑ ให้ถูกตอ้ งตามฉันทลักษณพ์ ร้อมลากสมั ผัสบังคับใหถ้ ูกต้อง …………………… .............................. …………………………. ..............................

ให้นกั เรียนเรียงลาํ ดับของกาพย์ยานี ๑๑ ให้ถูกตอ้ งตามฉันทลักษณพ์ ร้อมลากสมั ผัสบังคับใหถ้ ูกต้อง …………………… .............................. …………………………. ..............................

ให้นกั เรียนเรียงลาํ ดับของกาพย์ยานี ๑๑ ให้ถูกตอ้ งตามฉันทลักษณพ์ ร้อมลากสมั ผัสบังคับใหถ้ ูกต้อง …………………… .............................. …………………………. ..............................

ให้นกั เรียนเรียงลาํ ดับของกาพย์ยานี ๑๑ ให้ถูกตอ้ งตามฉันทลักษณพ์ ร้อมลากสมั ผัสบังคับใหถ้ ูกต้อง …………………… .............................. …………………………. ..............................

ให้นกั เรียนเรียงลาํ ดับของกาพย์ยานี ๑๑ ให้ถูกตอ้ งตามฉันทลักษณพ์ ร้อมลากสมั ผัสบังคับใหถ้ ูกต้อง …………………… .............................. …………………………. ..............................



ให้นกั เรยี นเรียงลําดับของกาพย์ยานี ๑๑ ใหถ้ ูกตอ้ งตามฉันทลกั ษณพ์ ร้อมลากสมั ผสั บังคับใหถ้ ูกตอ้ ง

ให้นกั เรยี นเรียงลําดับของกาพย์ยานี ๑๑ ใหถ้ ูกตอ้ งตามฉันทลกั ษณพ์ ร้อมลากสมั ผสั บังคับใหถ้ ูกตอ้ ง

ให้นกั เรยี นเรียงลําดับของกาพย์ยานี ๑๑ ใหถ้ ูกตอ้ งตามฉันทลกั ษณพ์ ร้อมลากสมั ผสั บังคับใหถ้ ูกตอ้ ง

ให้นกั เรยี นเรียงลําดับของกาพย์ยานี ๑๑ ใหถ้ ูกตอ้ งตามฉันทลกั ษณพ์ ร้อมลากสมั ผสั บังคับใหถ้ ูกตอ้ ง

ให้นกั เรยี นเรียงลําดับของกาพย์ยานี ๑๑ ใหถ้ ูกตอ้ งตามฉันทลกั ษณพ์ ร้อมลากสมั ผสั บังคับใหถ้ ูกตอ้ ง



๑. ลกั ษณะของกาพย์ยานี ๑๑ คอื ขอ้ ใด ง. ๘ วรรค ก. ๑ บท มี ๑๑ คํา ข. วรรคหนา้ ๕ วรรคหลัง 6 ค. ๑ บท มี 4 บาท ง. หนึ่งวรรค มี ๓-๕ พยางค์ ๒. กาพย์ยานี ๑๑ ๑ บทมีกว่ี รรค ก. ๒ วรรค ข. ๔ วรรค ค. ๖ วรรค

อา่ นคาํ ประพนั ธ์ตอ่ ไปนีแ้ ล้วตอบคําถามข้อ ๓ - ๕ ทําดยี อ่ มมีสขุ มิมีทุกขม์ าแปรผนั จิตใจของเรานั้น ยอ่ มแชม่ ชืน่ ระรนื่ รม สุขใจในธรรมะ สุขเพราะละความชื่นชม สุขไซร้ไรร้ ะทม สขุ เปล่งปลอดยอดสุขเอย (พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอย่หู วั )

๓. คาํ ประพนั ธข์ า้ งตน้ ต้องการให้คตใิ ดแก่ผูอ้ ่าน ก. คนทก่ี ระทําความดียอ่ มมีความสุข ข. ความดีจะเป็นเครอ่ื งปอ้ งกนั ตนเอง ค. ความสุขจะเกดิ ขน้ึ ไดด้ ว้ ยการเพยี รภาวนา ง. ความสุขย่อมเกิดขน้ึ ได้กบั มนุษย์ทกุ คน

๔. ความสุขในขอ้ ใดถอื ว่าเป็นความสขุ สุดยอดของมนษุ ย์ ก. ความสขุ ท่เี กดิ จากการไดข้ องรกั ข. ความสุขท่เี กดิ จากความยินดี ค. ความสุขทเี่ กดิ ขึ้นทใี่ จ ง. ความสุขทเ่ี กิดจากความสาํ เร็จ ๕. คําประพนั ธ์ขา้ งตน้ เป็นบทรอ้ ยกรองประเภทใด ก. กลอนหก ข. กลอนแปด ค. กาพย์ยานี ๑๑ ง. โคลงสส่ี ุภาพ

อ่านคําประพนั ธ์ต่อไปนแ้ี ล้วตอบคาํ ถามข้อ ๖ - ๘ “พูดดมี ีคุณแพรว้ สดบั แล้วก็ติดใจ ยงั จติ มิตรทัว่ ไป บ่มีอ่นื จะเปรยี บปาน ใช่ยากปากของเรา ผขิ อเขาก็ควรการ คดิ ก่อนจงึ ผ่อนขาน พจีจําเพราะเหน็ งาม (พระยาอปุ กติ ศิลปสาร)

๖. คําประพันธบ์ ทนี้สอนในเร่ืองใดเป็นสําคัญ ก. ให้พดู แล้วนาํ กลับมาคิด ข. ให้คดิ กอ่ นแล้วจึงพดู ค. ทาํ สิ่งใดก็ตอ้ งคิดก่อน ง. การพดู ทําให้เสยี เวลาทาํ งาน ๗. ข้อใดคือสมั ผัสระหว่างบท ก. แพรว้ แลว้ ข. ใจ ไป ค. ปาน การ ง. การ ขาน ๘. ขอ้ ใดมีความหมายต่างจากคาํ อน่ื ก. พดู ข. สดับ ค. ขาน ข. พจี

อา่ นคําประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคาํ ถามขอ้ ๙ - ๑๐ “หนังสอื คอื เพอ่ื นรัก แนต่ ระหนกั เสมอไป ยามทกุ ข์ปลุกปลอบใจ ที่เหงาหงอยค่อยเคลอ่ื นคลาย กลอ่ มจิตใหค้ ดิ ฝนั ลว้ นสิง่ บรรเจดิ เพริดพราย เปน็ มติ รสนิทกาย ให้ความรูเ้ ชิดชตู น” (ฐะปะนยี ์ นาครทรรพ)

๙. เพราะเหตใุ ดผเู้ ขยี นจึงเปรียบหนังสือเหมือนเพ่อื นรกั ก. เพราะหนงั สอื ใหค้ วามรู้ ข. ทาํ ให้จติ ใจเราดีข้ึน ค. คอยปลอบใจเวลาทกุ ขห์ รือเหงา ง. ทําให้เราเกง่ ขน้ึ ๑๐. คาํ ประพนั ธข์ ้างตน้ เปน็ บทรอ้ ยกรองประเภทใด ก. กลอนหก ข. กลอนแปด ค. กาพย์ยานี ๑๑ ง. โคลงสส่ี ภุ าพ

ขอ้ ๑ ข ขอ้ ๖ ข ขอ้ ๒ ข ขอ้ ๗ ค ข้อ ๓ ก ขอ้ ๘ ข ข้อ ๔ ค ข้อ ๙ ค ขอ้ ๕ ค ขอ้ ๑๐ ค

ติวไทยไปด้วยกัน O-NET ป.6 ฉบบั อย่าเยอะ

✓ กลอนสี่ กลอนสี่ เป็นบทร้อยกรองชนดิ หนง่ึ มขี ้อกําหนดในการแตง่ ดงั น้ี ๑ บทมี ๒ บาท บาทละ ๒ วรรค ๑ บทมี ๔ วรรค ๑ วรรค มี ๔ คํา

การสมั ผสั คาํ สดุ ท้ายวรรคท่ี ๑ สมั ผสั กบั คําท่ี ๑ หรือ ๒ ของวรรคที่ ๒ คําสดุ ทา้ ยวรรคที่ ๒ สมั ผัสกับคําสดุ ทา้ ยของวรรคท่ี ๓ สว่ นสมั ผัสระหวา่ งบทกเ็ ช่นเดยี วกนั คือ คาํ สดุ ทา้ ยวรรคท่ี ๔ ของบทแรก สมั ผัสกบั คาํ สดุ ทา้ ยของวรรคที่ ๒ ของบทถัดไป

การแบ่งจังหวะการอา่ นกลอนสี่ แตล่ ะวรรคมี ๔ คาํ ใหแ้ บง่ เป็น ๒ จงั หวะ คอื ๒ คํา/๒ คํา เช่น เรือเอย/เรือใบ ลําใหญ่/ใบหนา แลน่ ลอย/ถึงทา่ แล่นมา/หาใคร



ดวงจนั ทร์/วนั เพญ็ ลอยเด่น/บนฟา้ แสงนวล/เย็นตา พาใจ/หฤหรรษ์ มาเล่น/ร่วมกัน ชกั ชวน/เพือ่ นยา บันเทิง/เริงใจ เดก็ น้อย/สขุ สนั ต์

ให้นกั เรียนเรียงลําดับของกลอนสี่ ใหถ้ ูกต้องตามฉนั ทลกั ษณ์พร้อมลากสมั ผสั บังคบั ใหถ้ กู ตอ้ ง …………………… .............................. …………………………. ..............................

ให้นกั เรียนเรียงลําดับของกลอนสี่ ใหถ้ ูกต้องตามฉนั ทลกั ษณ์พร้อมลากสมั ผสั บังคบั ใหถ้ กู ตอ้ ง …………………… .............................. …………………………. ..............................

ให้นกั เรียนเรียงลําดับของกลอนสี่ ใหถ้ ูกต้องตามฉนั ทลกั ษณ์พร้อมลากสมั ผสั บังคบั ใหถ้ กู ตอ้ ง …………………… .............................. …………………………. ..............................

ให้นกั เรียนเรียงลําดับของกลอนสี่ ใหถ้ ูกต้องตามฉนั ทลกั ษณ์พร้อมลากสมั ผสั บังคบั ใหถ้ กู ตอ้ ง …………………… .............................. …………………………. ..............................

ให้นกั เรียนเรียงลําดับของกลอนสี่ ใหถ้ ูกต้องตามฉนั ทลกั ษณ์พร้อมลากสมั ผสั บังคบั ใหถ้ กู ตอ้ ง …………………… .............................. …………………………. ..............................



ใหน้ ักเรียนเรยี งลาํ ดับของกลอนส่ี ใหถ้ กู ตอ้ งตามฉันทลักษณพ์ ร้อมลากสัมผัสบังคบั ใหถ้ ูกตอ้ ง

ใหน้ ักเรียนเรยี งลาํ ดับของกลอนส่ี ใหถ้ กู ตอ้ งตามฉันทลักษณพ์ ร้อมลากสัมผัสบังคบั ใหถ้ ูกตอ้ ง

ใหน้ ักเรียนเรยี งลาํ ดับของกลอนส่ี ใหถ้ กู ตอ้ งตามฉันทลักษณพ์ ร้อมลากสัมผัสบังคบั ใหถ้ ูกตอ้ ง



๑. กลอนสี่ หนงึ่ บทมีกีว่ รรค ข. ๔ วรรค ก. ๒ วรรค ง. ๗ วรรค ค. ๖ วรรค ค. ๑๒ คํา ง. ๑๖ คาํ ๒. กลอนสี่ หน่ึงบทมกี ค่ี ํา ก. ๔ คาํ ข. ๘ คาํ

๓. ขอ้ ใดเป็นคําหนึ่งพยางค์ ค. สาํ คญั ง. ขยาํ ก. ชีวิต ข. ธรรม “สรวลพลางตรัสพลาง แพ้อย่างเด็ดเด็ด ไมท่ นั รเู้ คล็ด เสดจ็ ขน้ึ บนั ได” ๔. ข้อใดเขียนคําสัมผัสไดถ้ กู ต้อง ก. พลาง อยา่ ง เดด็ เคล็ด ข. พลาง อย่าง เดด็ เคล็ด ได ค. พลาง อย่าง เด็ด เคลด็ เสดจ็ ง. พลาง แพ้ เด็ด เคลด็ เสดจ็

“เรือเอยเรอื ใบ ลาํ ใหญ่ใบหนา แล่นลอยถงึ ทา่ แล่นมาหาใคร” ๕. ขอ้ ใดเขยี นคําสัมผัสได้ถูกตอ้ ง ก. ใบ ใบ หน้า ท่า หา ข. ใบ ใหญ่ หนา ท่า ค. ใบ ใบ หนา ท่า มา ง. ใบ ใหญ่ หนา ท่า มา หา

๖. “เวลาใกล้ค่าํ ลอยลาํ น้ําใส แลน่ มาหาใคร ส่งิ ใดในเรอื ” จากกลอนบทน้สี ัมผัสระหวา่ งบทควรเปน็ คําในขอ้ ใด ก. ใคร ข. ใส ค. ค่ํา ง. เรอื ๗. “เดก็ ไทยจงจาํ อย่า... เกียจคร้าน หมัน่ ทาํ การงาน เพ่ือบ้านของเรา” ควรเติมข้อใดลงในช่องวา่ ง ก. ไม่ ข. ทาํ ค. นั่ง ง. ยอม

๘. จากข้อ ๗ สัมผัสระหวา่ งบทควรเปน็ คําในขอ้ ใด ก. ครา้ น ข. งาน ค. เรา ง. จํา ๙. “นกตวั น้อยน้อย บินลอยตามลม นา่ ชนื่ น่าชม ……….........” ควรเติมขอ้ ใดลงในชอ่ งว่าง ก. สขุ สมอรุ า ข. ชืน่ สุขสมใจ ค. น่ารกั นา่ ใคร่ ง. นา่ ยลนา่ ยิน ๑๐. จากขอ้ ๙ สัมผสั บังคบั ขอ้ ใดไม่ถกู ตอ้ ง ก. นอ้ ย-ลอย ข. ชื่น-ชม ค. ลม-ชม ง. ชม-สม

ขอ้ ๑ ข ข้อ ๖ ง ขอ้ ๒ ง ข้อ ๗ ข ข้อ ๓ ข ขอ้ ๘ ค ข้อ ๔ ก ข้อ ๙ ก ขอ้ ๕ ข ข้อ ๑๐ ข

กลอนหก กลอนหกจัดวา่ เปน็ กลอนสุภาพ แต่จาํ นวนคําในแตล่ ะ วรรคลดลงเหลือ ๖ คํา และสมั ผสั บังคับคลาดเคล่ือนไปบ้าง มขี อ้ กาํ หนดในการแต่ง ดังน้ี ๑ บท มี ๒ บาท แตล่ ะบาทมี ๒ วรรค ๑ บท มี ๔ วรรค วรรคหนา้ ๖ คํา วรรคหลัง ๖ คํา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook