Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2565

หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2565

Published by macnattanon32, 2022-06-10 04:05:02

Description: หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พ.ศ. 2565
ประกอบหลักสุตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านบึงทับช้าง พ.ศ.2565

Search

Read the Text Version

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 47 สปั ดาหท์ ี่ เนอื้ หา ผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวงั หมายเหตุ ทักษะในทางวชิ าลกู เสอื ๒. บอกส่ิงสำคญั ของประเทศท่ี นา่ สนใจ ได้ ๑. บอกวธิ ใี ช้มีดและขวานอยา่ ง เหมาะสมกับงานได้ ๒. บอกวิธีเก็บรักษามีดและขวานได้ แสดงวิธบี รรจุสิง่ ของลงเครอ่ื งหลงั ได้ ทักษะในทางวชิ าลกู เสอื (ต่อ) ๓. เตรียมเครือ่ งปัจจบุ นั พยาบาลเปน็ สว่ นตวั สำหรับเดนิ ทางไกลได้ ๑. ผูกเง่ือนจากเชอื กทมี่ ขี นาดเดียวกัน และบอกประโยชนไ์ ด้อย่างน้อย ๑ เง่ือน ๒. ผกู เงือ่ นจากเชือกท่ีมขี นาดตา่ งกัน และบอกประโยชนไ์ ด้อย่างนอ้ ย ๑ เงอ่ื น ทักษะในทางวชิ าลกู เสือ (ตอ่ ) ๓. ผูกเงือ่ นด้วยเชือกกบั วสั ดอุ ยา่ งใด ทกั ษะในทางวชิ าลกู เสือ (ต่อ) อยา่ งหน่ึงและบอกประโยชน์ได้ อยา่ ง ระเบยี บแถว น้อย ๑ เงอ่ื น ๑. ผกู แน่นแบบต่าง ๆ ได้ลกู ตอ้ งและ มนั่ คง ๒. บอกประโยชนข์ องการผกู แนน่ แบบ ตา่ ง ๆ ได้ ๑. บอกฤดูกาลตา่ งๆในทอ้ งถน่ิ ของ ตนได้ ๒. บอกทิศทางลม และชอ่ื ลมประจำ ฤดูกาลท่พี ดั ผ่านได้ ๓. บอกลกั ษณะอากาศตามฤดูกาลนน้ั ๆ ได้ เดินสวนสนามไดถ้ กต้อง พร้อมเพรยี ง

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 48 คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กิจกรรมนกั เรยี น ( กจิ กรรมลกู เสือสามัญ (ลกู เสอื เอก)) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที ๖ เวลา 3๐ ชั่วโมง/ปี เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือ สามัญ วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว การพึ่งตนเอง การผจญภัย การใช้สัญลักษณ์ สมาชิกลูกเสือสามัญ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญา ท้องถิ่นด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการปฏิบัติกิจกรรม เพือ่ การอนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาติและลดภาวะโลกรอ้ น เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรม ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและ ความมน่ั คง ประโยชนแ์ ละสามารถประยุกตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. มีนสิ ยั ในการสงั เกต จดจำ เช่อื ฟงั และพ่งึ ตนเองได้ ๒. มีความซอื่ สัตย์สุจรติ มรี ะเบียบ วนิ ยั และเหน็ อกเห็นใจผ้อู ่ืน ๓. บำเพญ็ ตนเพอ่ื ส่งเสรมิ และสาธารณะประโยชน์ ๔. ทำการฝมี อื และฝึกฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ ๕. รกั ษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ และความมั่นคงของชาติ ๖. อนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน ๗. สามารถประยุกตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง รวม ๗ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 49 ลกู เสือสามัญ วิชาลกู เสอื เอก ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ สปั ดาหท์ ี่ เน้ือหา ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง 1. 1. การปฐมนเิ ทศ (เรียนรกู้ ่อนเร่มิ เรยี น) 1. ลูกเสอื รกู้ ำหนดการการจดั กจิ กรรมการฟกิ อบรม ปฐมนิเทศ เครื่องหมายลกู เสอื และกิจกรรมวันสำคญั 2. ลูกเสอื รจู้ กั เครื่องหมายลกู เสือเอก 3. ลกู เสือประเมินตนเองว่ามีความพร้อมไดร้ ับ เคร่อื งหมายวชิ าพเิ ศษลูกเสือสามัญ 2. ระเบียบ 2. ระเบียบแถวและการเดนิ สวนสนาม 1. ลกู เสือสามารถเดินสวนสนามได้อย่างถกู ต้อง แถว 3. วิชาการ 3. คำปฏิญาณและกฎของลกู เสอื 1. สามารถปฏิบัตติ นตามคำปฏิญาณและกฎของ ของลูกเสอื ลูกเสอื ได้ 4. ความเป็นพี่น้องของลูกเสอื ทั่วโลก 1. ลกู เสอื เขา้ ใจความหมายของความเปน็ พนี่ ้องของ ลกู เสอื ทว่ั โลก 5. การผกู เง่ือน 1. ลูกเสือสามารถผูกเงือ่ นทจี่ ำเป็นสำหรับช่วยชวี ติ คนท่ี ประสบอบุ ัตภิ ยั ได้ 6. การบุกเบกิ 1. ลกู เสือสามารถบอกประโยชนแ์ ละแสดงวธิ ีผกู แนน่ แบบต่าง ๆ ได้ 2. ลกู เสือทำโครงการบกุ เบิก 1 โครงการโดยการผูก แนน่ อย่างน้อย 2 วิธี 7. ความปลอดภัยในการใชเ้ ครื่องมือของมี 1. ลูกเสือสามารถใช้เลือ่ ยและขวานได้อย่างถูกตอ้ ง คม 2. ลูกเสอื สามารถเกบ็ รกั ษาเลื่อยและขวานไดอ้ ยา่ ง ถูกต้อง 8. รักษธ์ รรมชาติ อนทุ ินธรรมชาติ 1. ลกู เสอื เหน็ ความสำคญั ของการอนรุ กั ษธ์ รรมชาติ 2. ลกู เสือสามารถจัดทำอนทุ ินธรรมชาตติ ามความ สนใจได้ 9. ความกตญั ญกู ตเวที 1. ลูกเสือแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที 10. ลกู เสือสภุ าพบุรุษ 1. ลกู เสือสามารถวเิ คราะห์คณุ สมบตั ิของสภุ าพบรุ ษุ สุภาพสตรที พ่ี ึงปรารถนาในสงั คมและวัฒนธรรม ไทย ได้ 11. เชา้ ใจเพ่ือนด้วยภาษากาย 1. ลกู เสอื เห็นความสำคญั ของของภาษากายทีใ่ ช้ สำหรับการส่ือสารในชีวติ ประจำวนั 12. ทกั ษะการปฏิเสธ 1. ลูกเสอื มที ักษะในการปฏิเสธไดอ้ ย่างเหมาะสม 13. คิดเชิงบวก 1. ลูกเสอื มีทักษะการคดิ เชงิ บวก 14. ภาพวาดอนาคต 1. ลกู เสือสามารถบอกเปา้ หมายในชีวิตของตนเองได้ 15. การปรุงอาหารแบบชาวปา่ 1. ลูกเสือสามารถปรุงอาหารแบบชาวป่าได้ 2 อย่าง สำหรบั 2 คนได้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 50 สปั ดาห์ท่ี เนือ้ หา ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั 2. ลูกเสือสามารถสรา้ งท่ีพักแรมชว่ั คราวได้ 4. การผจญ 16. การเดินทางไกล 1. ลกู เสือสามารถบอกความหมายของการเดิน ภัย ทางไกลได้ 2. ลกู เสอื สามารถช้ีแจงการเตรียมอุปกรณ์สำหรบั ใช้ เดินทางไกลและอย่คู า่ ยพกั แรมได้ 17. ผจญภยั ไดเ้ พ่ือน เถ่อื นธาร การสนุก 1. ลกู เสอื สามารถเดนิ ทางไกลด้วยการเดินเทา้ เปน็ สุขสม ระยะทาง 10 ก.ม.หรอื เดินทางไกล โดย รถจกั รยาน เป็นระยะทาง 40 ก.ม. และบนั ทึกรายงานการ เดนิ ทางโดยยอ่ ได้ 2. ลูกเสือสามารถเขา้ รว่ มกิจกรรมการบนั เทงิ และ การอยคู่ า่ ยพกั แรมได้ 18. ทิศและการใช้เข็มทศิ 1. ลกู เสอื สามารถใชเ้ ข็มทิศการหาทิศได้ 2. ลูกเสือสามารถอธิบายสญั ลักษณ์ตา่ งๆ ในแผนท่ไี ด้ 3. ลกู เสอื สามารถบอกพกิ ัดในแผนท่ีได้ 5. การ 19. อปพร. นอ้ ย 1. ลกู เสอื สามารถสอ่ื สารเพ่อื แจง้ ขา่ วการเกิด บริการ อุบัติเหตุ อบุ ตั ภิ ยั และเหตุฉกุ เฉนิ ได้ 20. การเคลอื่ นยา้ ยผู้ปว่ ย 1. ลกู เสือสามารถปฐมพยาบาลผปู้ ว่ ยทม่ี ีเลือดออก ภายนอก และอาการชอ็ ค (Shock) ได้ 2. ลกู เสือสามารถบอกวธิ ีช่วยให้คนหายใจไดถ้ ูกต้อง 3.ลกู เสอื สามารถเคลือ่ นยา้ ยคนเจบ็ และนำส่ง โรงพยาบาลได้ 21. การบริการและชว่ ยเหลอื ผูอ้ น่ื 1.เพือ่ ปลกู ฝงั ให้เกิดจิตสำนึกแกล่ กู เสือให้มจี ติ อาสา บรกิ าร 2.เพอ่ื ใหล้ กู เสือสามารถบรกิ ารชว่ ยเหลือผอู้ ่ืนได้ 6. การ 22. นำ้ ดื่มเพื่อสุขภาพ 1. ลูกเสอื สามารถทำน้ำด่ืมสมนุ ไพรตามภมู ปิ ัญญา พ่ึงตนเอง ท้องถิ่นได้ 23. เรียนรู้เพอ่ื ฟิกทักษะการวา่ ยน้ํา 1.ลกู เสอื สามารถบอกความสำคญั ของการวา่ ยนาํ้ เปน็ ได้อย่างถูกต้อง 2.ลกู เสอื สามารถบอกแหล่งเรียนรู้เพ่อื การว่ายนา้ํ อย่างมีประสทิ ธภิ าพและปลอดภัยได้ 24. การออกกำลังกาย 1.ลูกเสือสามารถบอกประโยชน์ของการออกกำลัง กายได้ 2.ลกู เสอื สามารถออกกำลงั กายได้ 25. รูเ้ ทา่ ทนั สอื่ โฆษณา 1. ลกู เสือสามารถวิเคราะห์ประโยชน์และผลกระทบ ของการโฆษณาได้ 26. รทู้ นั ป้องกันได้ 1.ลูกเสอื สามารถบอกพฤติกรรมที่แสดงออกถงึ การ ล่วงละเมิดทางเพศได้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 51 สปั ดาห์ท่ี เน้อื หา ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง 2.ลูกเสอื สามารถบอกแนวทางในการป้องกนั และหา 27. ความปลอดภัย ทางออกเมือ่ ถูกล่วงละเมิดทางเพศได้ 1.ลกู เสือสามารถบอกวิธใี ชก้ ารดูแลรกั ษา และการ 28. การอยู่คา่ ยพักแรม ระวังอันตรายจากตะเกียง และเตา สมัยใหม่ได้ 2.ลูกเสอื สามารถใช้เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ในชีวติ ประจำวนั 7. พธิ กี าร 29. พธิ ปี ระดบั เครื่องหมายลูกเสอื เอก ได้ถกู ต้องตามหลักความปลอดภยั และ เคร่อื งหมายวชิ าพเิ ศษลกู เสอื สามญั 1.บอกสถานท่ีท่เี หมาะสมในการต้ังคา่ ยพักแรมได้ 2.สามารถสร้างทพี่ ักแรมช่วั คราวได้ 8. 30. การประเมินผล 3.สามารถปรุงอาหารแบบชาวปา่ 2 อยา่ ง สำหรบั 2 ประเมินผล คนได้ 1. เพื่อสรา้ งความภาคภมู ิใจในความสำเรจ็ 1.เพือ่ ใหล้ ูกเสอื เข้าใจการประเมินผลเพอ่ื การตดั สิน ผลการผา่ นไม่ผ่านกิจกรรม 2.เพอ่ื ให้ลูกเสอื เข้าใจการประเมินพฤตกิ รรมทกั ษะ ชีวติ ที่ลกู เสอื ไดร้ บั การพฒั นา 3.เตรยี มความพรอ้ มรับการประเมนิ ตามวิธกี ารของผู้ กำกับกองลูกเสอื

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 52 กจิ กรรมชมุ นุม

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 53 กิจกรรมชุมนมุ กิจกรรมชุมนุม เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนรวมกลุ่มกันจัดขึ้นตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจ ของผเู้ รียน เพ่ือเติมเตม็ ความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ ทกั ษะ เจตคติเพือ่ พัฒนาตนเองตามศกั ยภาพ หลักการ กิจกรรมชุมนมุ มหี ลกั การท่ีสำคัญดงั น้ี 1. เปน็ กิจกรรมทเี่ กดิ จากการสรา้ งสรรคแ์ ละออกแบบกิจกรรมของผู้เรียนตามความสมคั รใจ 2. เปน็ กิจกรรมทผี่ ู้เรยี นรว่ มกนั ทำงานเป็นทมี ช่วยกนั คดิ ช่วยกนั ทำ และชว่ ยกนั แกป้ ัญหา 3. เปน็ กจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ และพัฒนาศักยภาพของผู้เรยี น 4. เป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกบั วัยและวุฒิภาวะของผู้เรยี น รวมทั้งบริบทของสถานศึกษาและทอ้ งถ่ิน วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื ให้ผ้เู รียนได้ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามความสนใจ ความถนดั และความตอ้ งการของตน 2. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนไดพ้ ฒั นาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ให้เกิดประสบการณท์ ้ัง ทางวชิ าการและวิชาชพี ตามศกั ยภาพ 3. เพอ่ื สง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนใช้เวลาให้เกิดประโยชนต์ ่อตนเองและสว่ นรวม 4. เพ่ือให้ผ้เู รยี นทำงานร่วมกบั ผ้อู ื่นได้ตามวถิ ีประชาธปิ ไตย ขอบข่าย กจิ กรรมชุมนุม มีขอบข่ายดงั นี้ 1. เปน็ กจิ กรรมจัดตามความสนใจของผู้เรียน 2. เปน็ กิจกรรมท่ีจดั เสรมิ หลกั สูตรสถานศึกษาในด้านความรูแ้ ละทกั ษะปฏบิ ตั ิ ของผู้เรียน 3. สามารถจดั ได้ทงั้ ในและนอกสถานศึกษา และทง้ั ในเวลาและนอกเวลาเรียน

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 54 แนวทางการจัดกิจกรรมชุมนมุ จดุ หมาย ของกิจกรรมชุมนุม 1. เพื่อให้สอดคลอ้ งกับหลักสตู รพนื้ ฐานสถานศกึ ษา 2. เพอื่ ให้มที กั ษะในการทำงานรว่ มกนั 3. เพือ่ ให้นกั เรยี นมที กั ษะกระบวนการในการทำงาน 4. เพื่อให้รจู้ ักการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ 5. เพือ่ ให้มคี วามรับผิดชอบ ขยัน ประหยัด อดทน และมจี ติ ใจเอ้อื เฟอ้ื เผื่อแผ่ ข้นั ตอนการจัดตงั้ ชุมนุม 1. รับสมคั รสมาชกิ ชมุ นมุ ตามความสนใจ 2. ปฐมนิเทศนักเรยี น 3. เลอื กต้งั กรรมการ ชมุ นมุ 4. สง่ ผู้แทนรา่ งระเบยี บ การจดั ชุมนมุ 5. ขออนุมตั ิ ผบู้ ริหาร 6. ประชาสัมพนั ธ์ / เผยแพร่ ประเภทของกิจกรรมชุมนมุ กจิ กรรมชุมนุมมี 2 ประเภท ดังนี้ 1. กจิ กรรมกลุ่มเสรมิ ทักษะดา้ นวิชาการ ได้แก่กล่มุ สาระ 8 สาระ 2. กิจกรรมชุมนุม เลอื กตามความถนัด และความสนใจ เชน่ ชุมนมุ สง่ เสรมิ วัฒนธรรมไทย ชมุ นุมสง่ เสริมอาชพี

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 55 คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมนกั เรียน (กิจกรรมชมุ นมุ ) ชั้นประถมศกึ ษาปีที ๑ - ๖ เวลา 4๐ ช่วั โมง/ปี ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความตอ้ งการ เพอ่ื พฒั นาความรู้ ความสามารถดา้ นการ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ให้เกิดประสบการณ์ทั้งด้านวิชาการ และพื้นฐานอาชีพ ทักษะชีวิตและสังคมตาม ศักยภาพอย่างรอบด้าน เพ่อื ความเปน็ มนุษย์ท่ีสมบูรณ์ มีความสามารถในการสอ่ื สาร มที กั ษะการคิด แก้ปัญหา ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี พัฒนาทักษะในการทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอ่ื สัตย์สุจรติ มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ม่งุ มัน่ ในการทำงานรักความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ เพื่อให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน ได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดประสบการณ์ทั้งทักษะทางวิชาการ ทักษะอาชีพ ทักษะ ชีวิตและสังคมตามศักยภาพ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม คิดเป็น ทำได้ ทำงานร่วมกับ ผู้อื่นไดต้ ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย และประยุกต์หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้อย่างเหมาะสม จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน ๒. มีความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะหใ์ ห้เกดิ ประสบการณ์ ทั้งทางวิชาการ และวชิ าชพี ตามศกั ยภาพ ๓. ใชเ้ วลาวา่ งให้เกดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม ๔. ม่งุ มั่นในการทำงานและทำงานรว่ มกบั ผอู้ ื่นไดต้ ามวิถปี ระชาธิปไตย ๕. ประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รวม ๕ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 56 คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กจิ กรรมชมุ นุมคณติ ศาสตร์ กิจกรรมนักเรยี น (กจิ กรรมชมุ นมุ ) ช้นั ประถมศึกษาปีที 1 เวลา 4๐ ชว่ั โมง/ปี หลกั การและเหตุผล การอ่านหนงั สอื เพอื่ พฒั นาตนเอง และเพ่อื การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชนเ์ ปน็ ส่ิงจำเปน็ มากในการพัฒนา คนและพัฒนาสงั คม ปจั จบุ ันนก้ี ารอา่ นหนังสือของคนไทยเปน็ กจิ กรรมที่ไมแ่ พร่หลาย แม้ในหมู่ผู้รู้หนังสอื แลว้ การ อ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไปอีก สาเหตุมีอยู่หลายประการนับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือที่ดีและตรง กับความสนใจ และการแย่งเวลาของสื่ออื่น ๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง ฯลฯ รวมทั้งขาดการชักจูง ขาด การกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการอ่านตลอดจนมีนิสัยรักการอ่านทั้งในและนอกสถานศึกษา เมื่อเทียบกับ ความเพลดิ เพลิน การไดฟ้ งั การได้รู้ได้เหน็ เร่ืองราวตา่ ง ๆจากโทรทศั น์ และวิทยุกระจายเสียงแลว้ การอา่ นหนังสือ เพื่อวัตถุประสงคด์ งั กล่าว ต้องใช้ความพยายามมากกว่าและต้องมีทักษะในการอา่ น ถ้าจะให้การอ่านหนังสือเกิด เป็นนิสัยจำเป็นตอ้ งมกี ารปลูกฝังและชกั ชวนใหเ้ กิดความสนใจ ถึงแม้ว่าในระยะเวลาที่ผา่ นมามีหน่วยงานตา่ งๆท้ัง ภาครฐั และเอกชนไดม้ ีแนวดำเนินงานจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ นิสัยรกั การอา่ น และทางโรงเรยี นตระหนักถงึ ความสำคญั ความจำเป็นของการอ่าน ตลอดจนการรู้จักแสวงหาความรจู้ ากการอา่ นของผู้เรียนจนเกดิ เป็นนิสัยรกั การอ่านอยา่ ง ต่อเนอ่ื งและเพ่ิมมากขนึ้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. เพื่อสร้างความตระหนักใหน้ กั เรยี นเห็นความสำคัญของการอ่าน และมนี สิ ัยรกั การอ่าน ตลอดจนใหก้ ารอ่านไปสูก่ ารใฝร่ ูใ้ ฝ่เรียนตลอดชีวิต ๒. เพ่ือสร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้สถานศึกษาจดั กิจกรรมส่งเสริมนสิ ัยรักการอ่านอยา่ งต่อเน่ือง ๓. เพอื่ สง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอ่าน และยกระดบั ความสามารถในการอ่านของนกั เรยี น รวม ๓ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 57 คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น กจิ กรรมชมุ นุมภาษาไทย กิจกรรมนักเรยี น (กจิ กรรมชมุ นมุ ) ชน้ั ประถมศึกษาปีที 2 - ๖ เวลา 4๐ ชว่ั โมง/ปี หลักการและเหตผุ ล อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง และอ่านบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะได้ถูกต้อง เข้าใจความหมายของคำ ประโยคและข้อความที่เป็นโวหาร เข้าใจเกี่ยวกับชนิด หน้าที่ของคำในประโยค ลักษณะ ของประโยคใช้คำได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล รวบรวมและเข้าใจความหมายของคำ ภาษาต่างประเทศ แต่งบทร้อยกรอง เปรียบเทียบสำนวน คำพังเพยและสุภาษิต อ่านเรื่องสั้นอย่าง หลากหลาย อ่านจับใจความ จากสื่อต่างๆ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน นำความรู้ ความคิด จากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจ แกป้ ญั หา การเขียน คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนคำ ขวัญ คำอวยพร ประกาศ เขียน แผนภาพ โครงเรื่องและแผนภาพความคิด เขียนเรียงความ เขียนย่อความ เขียนจดหมายส่วนตัว กรอก แบบรายการ เขยี นเร่อื งรามจินตนาการ มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟ้ง การดู และการพูด มีความเข้าใจ เห็นคุณค่าวรรณคดีและ วรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพื้นบ้าน ร้อง เพลงพื้นบ้านในท้องถิ่น โดยใช้หลักการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรองและคำประพันธ์ตามลักษณะของคำประพันธ์ เป็นทำนองเสนาะ อ่านจับใจความ ดีความ แปลความ วิเคราะห์ความ อธิบายและสรุปความ ทักษะการ คัดลายมือ การเขียนโดยใช้หลักการเขียนส่ือสาร การเขียนเรื่อง ตามจติ นาการ เขียนจดหมายและกรอกแบบ รายการ ทักษะการฟ้ง การพูดแสดงความรู้ ความเข้าใจ ความคิดเห็น การพดู วเิ คราะห์เร่อื งจาการฟ้ง การดูสอื่ โฆษณา พดู รายงานและพูดโนม้ นา้ ว ชุมนุมภาษาไทย ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องกับ ความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยเน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติด้วยตนเอง ตั้งแต่การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุง การทำงาน เน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม กิจกรรมสำคัญในการพัฒนา ได้แก่ ชุมนุมหรือชมรมต่าง ๆ ทสี่ ถานศึกษากำหนดชน้ื ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน และบริบทของสถานศึกษาและ ท้องถิ่น สามารถเลือกใช้คำได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคลสามารถนำความรู้และข้อคิดไปใช้ในตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดำเนินชวี ติ ประจำวัน มจี ิตสาธารณะ มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. นกั เรยี นไดป้ ฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดและความตอ้ งการของตน 2. นักเรียนได้พัฒนาความรู้ ความสมารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดประสบการณ์ทั้งทาง วชิ าการและวิชาชพี ตามศักยภาพ 3. นกั เรียนใชเ้ วลาให้เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม 4. นักเรยี นทำงานรว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้ตามวถิ ีประชาธิปไตย รวม 4 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 58 คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น กจิ กรรมชุมนุมคณิตศาสตร์ กิจกรรมนักเรียน (กิจกรรมชมุ นมุ ) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที 2 - ๖ เวลา 4๐ ช่ัวโมง/ปี หลกั การและเหตุผล คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีความเก่ียวข้องกับสิ่งที่อยู่รอบตัวและชีวิตของเรา คณิตศาสตร์สามารถอธิบาย สิ่งต่างๆ นานาที่อยู่รอบตัวเราได้ ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมองคณติ ศาสตร์นั้น ยาก ซับซ้อน ทำให้เกิดความเครยี ด และความวติ กกังวลในการเรยี น ช ุ ม น ุ ม น ี ้ จ ึ ง จ ั ด ข ึ ้ น ม า เ พ ื ่ อ ใ ห้ น ั ก เ ร ี ย น ใ น ช ุ ม น ุ ม ไ ด้ ม อ ง เ ห ็ น มุ ม ม อ ง อ ี ก ด้ า น ห น ึ ่ ง ข อ ง ค ณ ิ ต ศ า ส ต ร์ โดยการรวบรวมด้านสนุกสนานของคณิตศาสตร์ ตลอดจนเกร็ดน่ารู้ต่างๆ มากมาย รวมถึงเกร็ดแปลกๆ เกี่ยวกับตัวเลขที่อาจจะทำให้นักเรียนเกิดหลงรักตัวเลขขึ้นมาก็ได้ และนําความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยในหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยกุ ต์ในกับชวี ติ ประจำวนั ได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. เพ่ือให้นักเรยี นมองเหน็ ความสำคญั ของคณติ ศาสตร์ในชวี ติ ประจำวนั ๒. เพ่อื ให้นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ มคี วามสขุ และความสนุกสนานในการเข้ารว่ ม กิจกรรมในวชิ าคณติ ศาสตร์ ๓. เพอ่ื ให้นกั เรียนได้ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามทตี่ นเองถนัดและสนใจ ๔. เพอ่ื ส่งเสริมนกั เรยี นให้มีทศั นคตทิ ่ดี ตี ่อวิชาคณิตศาสตร์ ๕. เพอ่ื ให้นักเรียนสามารถนําความรู้ไปปรับใช้ในชวี ติ ประจำวันได้เป็น และได้ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ ๖. นักเรยี นสามารถเปน็ ตวั แทนเขา้ ร่วมแขง่ ขันกจิ กรรมทางคณติ ศาสตร์ รวม 6 จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 59 คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น กิจกรรมชุมนมุ วิทยาศาสตร์ กจิ กรรมนักเรยี น (กจิ กรรมชมุ นมุ ) ช้ันประถมศกึ ษาปีที 2 - ๖ เวลา 4๐ ชวั่ โมง/ปี หลักการและเหตผุ ล ศึกษา สนใจเกย่ี วกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการสืบเสาะหา แสวงหาความรู้ และวิธกี ารใหม่ๆ เพอ่ื ให้เกดิ ทักษะและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. มคี วามสนใจเรยี นวทิ ยาศาสตร์ 2. มคี วามรเู้ กยี่ วกบั วิทยาศาสตร์ 3. มที กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมทง้ั หมด 3 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 60 คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น กจิ กรรมชมุ นมุ ภาษาอังกฤษพาเพลิน กิจกรรมนกั เรียน (กิจกรรมชมุ นมุ ) ช้ันประถมศกึ ษาปีที 2 - ๖ เวลา 4๐ ชวั่ โมง/ปี หลกั การและเหตผุ ล นักเรียนใชท้ กั ษะการอ่าน การเขียน และทักษะทางภาษาอน่ื ๆ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง รวดเร็ว สนุกสนานและ นำทักษะทางภาษาไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันไดอ้ ยา่ งมคี ุณค่า โดยใชท้ กั ษะทางภาษาในการ ฟงั พูด อา่ น เขยี น อยา่ ง หลากหลาย เพ่ือใหน้ กั เรยี นเกิดความรู้ ความเข้าใจ มมี ารยาทในการใช้ภาษาและอนุรกั ษ์วัฒนธรรมทางภาษา จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนมีทกั ษะทางภาษา และนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั 2. นกั เรยี นมคี วามคิดสร้างสรรค์ คิดอยา่ งเปน็ ระบบและมเี หตผุ ล 3. นักเรยี นมนี สิ ัยรักการอ่าน การเขยี น การพูดและการใช้ภาษาองั กฤษในการพฒั นาตนเอง 4. นกั เรยี นตระหนักในวฒั นธรรมการใชภ้ าษาและอนรุ ักษ์วัฒนธรรมทางภาษา รวมทงั้ หมด 4 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 61 คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมชมุ นมุ คอมพวิ เตอร์ กิจกรรมนกั เรยี น (กิจกรรมชุมนมุ ) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที 2 - ๖ เวลา 4๐ ชั่วโมง/ปี หลักการและเหตผุ ล ศกึ ษาความหมายของข้อมลู แหลง่ ข้อมลู ประเภทของขอ้ มลู ประโยชน์ของข้อมลู รวบรวมขอ้ มูลชื่อและ หนา้ ทขี่ องอปุ กรณ์ องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ การใช้งานคอมพวิ เตอรอ์ ยา่ งถกู วธิ ี การใชอ้ ินเทอร์เนต็ การใช้ งานโปรแกรม Microsoft PowerPoint ในการนำเสนอ จดั รปู แบบ ภาพน่ิง แทรกตารางและแผนภมู ใิ นงาน นำเสนอ นำเสนองานภาพนิง่ โดยการสืบค้น รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลใกล้ตัวและการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนสามารถอธิบายสิ่งที่เรียนรู้ สร้างสรรค์ผลงานจากสิ่งที่ได้เรียน สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ใน ชวี ิตประจำวัน เห็นคณุ คา่ ความสำคัญของช้นิ งานทสี่ รา้ งข้ึน จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของข้อมลู แหลง่ ขอ้ มูล ประเภทของข้อมูล ประโยชนข์ องขอ้ มลู และรวบรวมขอ้ มลู ได้ 2. บอกช่อื และหนา้ ท่ขี องอปุ กรณ์ องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอรแ์ ละใช้งานคอมพิวเตอรไ์ ด้อยา่ งถกู วิธี 3. สบื ค้นข้อมูลโดยใช้อนิ เทอร์เน็ตได้ 4. ใชง้ านโปรแกรม Microsoft PowerPoint ในการนำเสนอ จดั รปู แบบ ภาพน่ิงได้ 5. แทรกตารางและแผนภมู ิในงานนำเสนอได้ 6. นำเสนองานภาพนิง่ ได้ 7. ประยุกต์เพอ่ื ใช้งานได้และเหน็ ความสำคัญของชนิ้ งาน รวมทง้ั หมด 7 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 62 คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน กจิ กรรมชุมนมุ แอโรบกิ ดานซ์ กจิ กรรมนกั เรยี น (กิจกรรมชมุ นมุ ) ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที 2 - ๖ เวลา 4๐ ชัว่ โมง/ปี หลกั การและเหตผุ ล ศึกษาความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการออกกําลังกายแบบแอ โรบิก การออกกําลังกาย แบบแอโรบิกดานซ์ทักษะการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานของการออกกําลังกายแบบแอโรบิกดานซ์ขั้นตอนในการ เคลื่อนไหวของการออกกําลังกายแบบแอโรบิกดานซ์การเลือกจังหวะดนตรีประกอบการออกกําลังกายแบบแอโร บิกดานซ์การสร้างท่าการเคลื่อนไหวการออกกําลังกายแบบแอโรบิกดานซ์และการออกกําลังกายแบบแอโรบิก ดานซ์ดว้ ยความปลอดภัย เพื่อให้นักเรียนมีทักษะในการออกกําลังกายแบบแอโรบิกดานซ์ทั้งทักษะการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐาน ขั้นตอนในการเคลื่อนไหว การเลือกจังหวะดนตรีการสร้างท่าการเคลื่อนไหวร่างกายและออกกําลังกาย แบบแอโรบกิ ดานซด์ ้วยความปลอดภยั เพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ถูกต้องและเหมาะสมเกี่ยวกับกิจกรรมการออกกําลังกายตามความถนัดและ ความสนใจ และนําทกั ษะแอโรบกิ ดานซ์ไปใช้ในการออกกาํ ลงั กายเพ่อื พฒั นาบคุ ลิกภาพและสมรรถภาพทว่ั ไป จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถอธบิ ายการออกกําลังกายแบบแอโรบิกได้ 2. สามารถปฏบิ ตั วิ ิธีการออกกาํ ลงั กายแบบแอโรบิกดานซไ์ ด้ 3. มที กั ษะในการเคลอื่ นไหวในการออกกาํ ลังกายแบบแอโรบิกดานซ์ด์ 4. มีทกั ษะในการเล่นแอโรบิกดานซแ์ ละสามารถปฏิบัติได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม 5. รเู้ ข้าใจและสามารถปฏิบัตวิ ธิ ีการทดสอบสมรรถภาพทางกายได้ รวมทั้งหมด 5 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 63 กจิ กรรมเพื่อสงั คมและ สาธารณประโยชน์

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 64 กจิ กรรม เพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ จดุ หมายของกจิ กรรม เพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ 1. เพื่อให้นกั เรยี นบอกประโยชนไ์ ดร้ บั จากการร่วมกจิ กรรมเพ่อื สังคม และสาธารณประโยชนไ์ ด้ 2. เพื่อสรา้ งคณุ ลักษณะคือ ทำความดี รจู้ ักเสยี สละ ขยนั หมั่นเพยี รและการเปน็ สมาชกิ ทีม่ ขี อง ครอบครวั โรงเรียน ชุนชน 3. เพ่ือสรา้ งคุณลกั ษณะการมวี ินัยในคนของและความรบั ผดิ ชอบ 4. เพือ่ สรา้ งคุณลกั ษณะ คือ การรูจ้ ัก ทำงานรว่ มกับผ้อู น่ื ปรับตวั เข้ากับ สิ่งแวดล้อม 5. เพื่อสร้างมวี นิ ยั ความอดทนเสยี สละการสงั เกต การร่วมมอื กบั คนอื่น รักการทำงาน มีความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ และการเป็นผ้นู ำผ้กู าร

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 65 คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที ๑ - ๖ เวลา ๑๐ ชั่วโมง/ปี ฝึกปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสมัครใจผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ฝึกการทำงานที่สอดคล้องกับชีวิตจรงิ ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สำรวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็นระบบ เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ การบริการด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและ ส่วนรวม เสริมสร้างความมีน้ำใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดีและความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวและ สังคม คิดออกแบบกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในลักษณะอาสาสมัคร จิตอาสา เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อ สังคมตามแนวทางวถิ ชี ีวิตเศรษฐกิจพอเพยี ง เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัดและความสนใจ ในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มจี ติ สาธารณะและใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ และสามารถประยุกต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บำเพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อครอบครวั โรงเรยี น ชมุ ชน สงั คมและประเทศชาติ ๒. ออกแบบการจัดกจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชนอ์ ย่างสรา้ งสรรค์ ตามความถนัดและ ความสนใจในลักษณะอาสาสมคั ร ๓. สามารถพัฒนาศักยภาพในการจดั กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ๔. ปฏบิ ัตกิ จิ การเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกดิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมตามคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๕. สามารถประยกุ ตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวม ๕ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 66 ตารางกำหนดสาระการจัดกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 – 6 เวลาเรยี น 10 ชัว่ โมงตอ่ ปี ลำดบั ท่ี สาระกิจกรรม เวลา 1 วนั เฉลิมพระชนมพรรษาสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินี บำเพ็ญประโยชน์ 1 โดยการทำความสะอาดบรเิ วณโรงเรยี น (3 มิถนุ ายน) 1 2 วันอาฬาหบูชา บำเพญ็ ประโยชน์โดยการทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน และ 1 3 เวียนเทียนท่วี ดั ( วนั ขน้ึ 15 คำ่ เดอื น 8 ) 4 วันเข้าพรรษา บำเพญ็ ประโยชนโ์ ดยดูแลรกั ษาไมด้ อกไม้ประดับ 1 5 การทำความสะอาดบรเิ วณโรงเรยี น วดั ( วันแรม 1 คำ่ เดอื น 8 ) 1 6 วนั เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั บำเพ็ญประโยชน์ 1 7 โดยการทำความสะอาดบรเิ วณโรงเรยี น ( 27 กรกฎาคม ) 1 8 วันแม่แห่งชาติ บำเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไมด้ อกไมป้ ระดับ การทำความ 1 9 สะอาดบรเิ วณโรงเรียน ( 12 สิงหาคม ) 1 10 วนั ลอยกระทง บำเพญ็ ประโยชนโ์ ดยการทำความสะอาดบรเิ วณโรงเรียน 1 ( ข้ึน 15 คำ่ เดือน 12 ) 10 วันพ่อแห่งชาติและวันดนิ โลก บำเพญ็ ประโยชน์โดยดูแลรกั ษาไมด้ อกไมป้ ระดับ การทำความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 5 ธนั วาคม ) วนั ส่งท้ายปเี กา่ ต้อนรบั ปใี หม่ บำเพญ็ ประโยชน์โดยการทำความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( 1 มกราคม ) วันเดก็ แห่งชาติ บำเพ็ญประโยชน์โดยการทำความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( เสารท์ ่ี 2 ของเดือนมกราคม ) วันมาฆบูชา บำเพญ็ ประโยชน์โดยการทำความสะอาดบริเวณโรงเรยี น และเวียน เทียน ( ขน้ึ 15 คำ่ เดอื น 3 ) รวมเวลา

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 67

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 68

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 69

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook