Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2565

หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2565

Published by macnattanon32, 2022-06-10 04:05:02

Description: หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พ.ศ. 2565
ประกอบหลักสุตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านบึงทับช้าง พ.ศ.2565

Search

Read the Text Version

หลกั สูตรกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านบงึ ทบั ช้าง พทุ ธศักราช 2565 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | ก คำนำ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดให้สถานศึกษาทุกแหง่ มีการจดั กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมบังคบั โดยเลือกเรียนตามความถนัด ความสนใจ และความต้องการของผู้เรียน เพื่อพัฒนาศักยภาพและการค้นพบความสามารถของตนเอง เป็นกระบวนการที่จะพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย สติปัญญาอารมณ์และสังคม สร้างเยาวชนของชาติให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้า จิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข กิจกรรม พัฒนาผู้เรียนยังมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ใช้องค์ความรู้ทักษะและเจตคติจากการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้และ ประสบการณ์ของผู้เรยี นมาปฏิบตั กิ ิจกรรมเพอ่ื ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นเกิดสมรรถนะสำคัญ ได้แก่ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ได้แก่ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสตั ยส์ ุจรติ มีวนิ ัยใฝ่เรยี นรู้อยอู่ ยา่ งพอเพียงมงุ่ ม่ันในการทำงาน รักความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ เกิดทักษะ การทำงาน และอยรู่ ว่ มกับผ้อู ่นื ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสุข หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสตู รแกนกลาง การศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 โรงเรียนบ้านบึงทับช้างจัดทำขึ้นเพ่อื เปน็ แนวทางใหผ้ ้บู รหิ ารสถานศึกษา ครูผู้สอนและผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา สามารถนำไปปรับใช้กับบริบทของสถานศึกษา หลักสูตร ประกอบด้วย 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น ประกอบด้วย หลกั การ เป้าหมาย แนวการจดั กจิ กรรม ขอบขา่ ยการ จัดกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น โครงสรา้ งการจดั กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น การประเมินกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น และบทบาท ของบคุ ลากรทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ตอนที่ 2 แนวการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ประกอบด้วย แนวการจัดกิจกรรมแนะแนว แนวการจัดกิจกรรมนักเรียน กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี กิจกรรมชุมนุม และแนวการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ การนำคู่มือเล่มนี้ไปใช้เพื่อการพัฒนาส่งเสริมการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หากผู้บริหาร ครูผู้สอน หรือผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา มีความคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาหลักสูตรเล่มน้ี สามารถเสนอความคิดเห็น หรือขอ้ เสนอแนะมายังผจู้ ัดทำ เพ่ือนำมาปรับปรงุ ให้มีประสิทธภิ าพในการจัดการเรียน การสอนต่อไป

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | ข สารบัญ เรื่อง หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น 1 1 ความสำคญั 1 วิสัยทัศน์ 2 คณุ ภาพผู้เรียน 2 ความหมาย 3 หลักการจัดกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 4 โครงสร้างกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 5 โครงสรา้ งกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น 6 กิจกรรมแนะแนว 7 การจดั กจิ กรรมแนะแนว 9 การประเมนิ ผล 10 คำอธิบายรายวชิ า 11 โครงสร้างเวลาเรยี นกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น แนะแนว ประถมศกึ ษาปีท่ี 1-6 29 กิจกรรมนกั เรียน 29 การจดั กิจกรรมนักเรยี น 31 กิจกรรมลกู เสือ-เนตรนารี 34 คำอธิบายรายวชิ าลกู เสอื -เนตรนารี 52 กิจกรรมชมุ นมุ 54 แนวทางการจดั กิจกรรมชมุ นมุ 55 คำอธิบายรายวชิ าชมุ นุม 63 กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 65 คำอธิบายรายวชิ า 66 ตารางกำหนดกจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ประถมศกึ ษาปีที่ 1-6 67 คำสง่ั แต่งตงั้ คณะกรรมการปรับปรุง และพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖5

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ความสำคัญ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งให้เรียน ได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย สติปัญญาอารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มศี ีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์ เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมุ่งพัฒนาผู้เรียน ให้ใช้องค์ความรู้ ทักษะและเจตคติจากการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ และประสบการณ์ของผู้เรียนมาปฏิบัติ กิจกรรมเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ อันได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลในการพัฒนาผู้เรียนให้มคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มีทักษะการทำงาน และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้ อย่างมีความสุขในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก อนั ไดแ้ ก่รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซื่อสัตย์สจุ ริต มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ วสิ ัยทศั น์ วิสัยทัศน์ของกลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่จัดอย่างเป็นกระบวนการ ด้วยรูปแบบ วิธีการ ที่หลากหลาย ให้ได้รับประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง มีความหมาย และมีคุณค่าในการพัฒนาผู้เรียน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ และสังคม มุ่งเสริมเจตคติ คุณค่าชวี ติ ปลูกฝังคุณธรรมและค่านิยมทีพ่ ่ึง ประสงค์ สง่ เสรมิ ให้ร้เู รยี นรู้จกั และเขา้ ใจตนเอง สร้างจติ สำนกึ ในธรรมชาติและสิ่ง แวดลอ้ ม ปรบั ตวั และปฏิบัติตน ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ตอ่ สงั คม ประเทศชาตแิ ละดำรงชวิ ตี ไิ ดอ้ ย่างมีความสุข ธรรมชาติและลักษณะวชิ า กลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เน้นการจัดกิจกรรมในลักษณะของการบูรณาการองค์ความรู้ต่างๆ ที่เกื้อกูล สง่ เสริมการเรียนรตู้ ามกลมุ่ สาระใหม้ คี วามกว้างขาวงลกึ ซ้ึงยงิ่ ขน้ึ อีกทัง้ ใหผ้ เู้ รียนได้คน้ พบและใชศ้ ักยภาพท่ีมใี นตน อยา่ งเต็มท่ี เลอื ก ตดั สินใจ ได้อยา่ งมเี หตุผลเหมาะสมกับตนเอง สามารถวางแผนชวี ิตและอาชีพได้อย่างมีคุณภาพ เน้นการเสริมสร้างทักษะชีวิต วุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรม และ จริยธรรม กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต กิจกรรม สร้างเสรมิ ประสิทธภิ าพทางการเรยี น เป็นตน้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 2 คุณภาพของผ้เู รียน • คุณภาพของผูเ้ รียนเม่ือจบหลกั สตู ร กลุม่ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน มุง่ พฒั นาผเู้ รียนใหร้ ้จู ักและเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผู้อนื่ มีวฒุ ิภาวะทางอาร์ม มีกระบวนการคิด มีทักษะในการดำเนนิ ชวี ิตอยา่ งเหมาะสม และมีความสขุ มีจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สงั คม และประเทศชาติ • คณุ ภาพของผู้เรยี นเมอื่ จบแต่ละชว่ งชัน้ ชว่ งช้ันท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 3 รู้ความต้องการ จุดเด่นจุดด้อยของตนเองตลอดจนตัดสินใจแก้ไขปัญหาง่ายๆ ของตนเองได้ทำงาน ร่วมกบั ผอู้ ื่นได้อย่างมีความสุข แสดงออกทางอารมณไ์ ด้เหมาะสมกับวยั สามารถคน้ หาขอ้ มลู จากแหล่งใกล้ตัวและ เลือกใชข้ ้อมูลใหเ้ ป็นประโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน ช่วงชน้ั ท่ี 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 รคู้ วามต้องการและความสนใจของตนเอง พฒั นาจุดเดน่ และปรบั ปรุงจดุ ดอ้ ย รู้และเขา้ ใจปัญหาท่ีซับซ้อน มีการควบคมุ อารมณแ์ ละมีการแสดงออกได้เหมาะสมกับวยั และสถานการณ์ ทำงานร่วมกับผู้อน่ื ได้อย่างมีความสุข ตัดสินในแก้ปัญหาตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สามารถค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ด้วยวีการที่หลากหลายและ เลอื กใชข้ อ้ มลู ใหเ้ ปน็ ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั ความหมาย กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่จัดอย่างเป็นกระบวนการด้านรูปแบบ วิธีการที่หลากหลาย ในการพัฒนาผูเ้ รยี นดา้ นร่างกาย จิตใจ สติปญั ญา อารมณแ์ ละสังคม มงุ่ ส่งเสรมิ เจตคตคิ ณุ คา่ ชวี ิต ปลูกฝังคุณธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง สร้างจิตสำนึกในธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปรบั ตวั และปฏิบัติตนใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ สงั คม ประเทศชาติ และดำรงชวี ติ ได้อย่างมีความสขุ เป้าหมาย การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมุ่งพัฒนาให้บุคคลรู้จักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่นมีวุฒิภาวะ ทางอารมณ์ มีกระบวนการคิด มีทักษะในการดำเนินชีบิตอย่างเหมาะสม และมีความสุข มีจิตสำนึกในการ รับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ครอบครัว สงั คมและประเทศชาติ โดยกำหนดเปา้ หมายในการจดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ดังนี้ 1. ผเู้ รียนได้รับประสบการณ์ทหี่ ลากหลายเกิดความรูค้ วามชำนาญ ท้งั วชิ าการดแู ลวิชาชพี อย่างกวา้ งขวาง มากย่งิ ข้นึ 2. ผู้เรียนค้นพบความสนใจ ความถนัด และพัฒนาความสามารถพิเศษเฉพาะตัวมองเห็นช่องทาง ในการสรา้ งงาน อาชีพในอนาคตไดเ้ หมาะสมกับตนเอง 3. ผู้เรียนเห็นคุณค่าขององค์ความรู้ต่างๆ สามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง และประกอบอาชพี 4. ผเู้ รยี นพัฒนาบุคลกิ ภาพ เจตคติ ค่านิยมในการดำรงชวี ติ และสรา้ งศีลธรรม จริยธรรม 5. ผู้เรยี นมีจิตสำนึกและทำประโยชน์เพื่อสงั คมและประเทศชาติ

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 3 หลักการจดั กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนมหี ลักการจดั ดังน้ี 1. มกี ารกำหนดวตั ถุประสงค์และแนวปฏิบตั ิทชี ัดเจนเปน็ รปู แบบ 2. จัดใหเ้ หมาะสมกับวยั วฒุ ภิ าวะ ความสนใจ ความถนัด และความสามารถของผ้เู รยี น 3. บรู ณาการวิชาการกับชวี ติ จรงิ ให้ผเู้ รยี นไดต้ ระหนกั ถงึ ความสำคัญของการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ 4. ใช้กระบวนการกลุ่มในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ฝึกให้คิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์จิตนาการ ทเี่ ป็นประโยชน์และสมั พันธก์ บั ชีวติ ในแต่ละชว่ งวัยอย่างตอ่ เนอ่ื ง 5. จำนวนสมาชิกมคี วามเหมาะสมกบั ลักษณะของกจิ กรรม 6. มีการกำหนดเวลาในการจัดกจิ กรรมให้เหมาะสม สอดคล้องกบั วิสัยทศั น์และเป้าหมายของสถานศึกษา 7. ผู้เรียนเปน็ ผ้ดู ำเนินการ มคี รูเป็นที่ปรกึ ษา ถอื เปน็ หน้าท่ีและงานประจำโดยคำนงึ ถึงความปลอดภยั 8. ยึดหลักการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน มีสว่ นร่วมในการจักกจิ กรรม 9. มีการประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยวิธีการที่หลากหลายและสอดคล้องกับกิจกรรม อย่างเป็นระบบและตอ่ เน่อื ง โดยให้ถือว่าเป็นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลการผ่านช่วงชั้นเรยี น แนวการจดั สถานศึกษาต้องจดั ใหผ้ ู้เรียนทกุ คนเขา้ ร่วมกจิ กรรม โดยคำนึงถึงแนวการจดั ดงั ต่อไปน้ี 1. การจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเกื้อกูลส่งเสริมการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ เช่น การบูรณาการ โครงการ องค์ความรู้จากกลุ่มสาระการเรียนรู้ เปน็ ต้น 2. จัดกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดตามธรรมชาติ และความสามารถความต้องการของผู้เรียนและ ชุมชน เชน่ ชมรมทางวิชาการต่างๆ เปน็ ตน้ 3. จัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกในการทำประโยชน์ต่อสังคม เช่น กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี เปน็ ตน้ 4. จดั กจิ กรรมประเภทบริการตา่ งๆ ฝกึ การทำงานทีเ่ ป็นประโยชนต์ อ่ ตนเองและส่วนรวม

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 4 โครงสรา้ งกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นและเวลาเรยี น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโรงเรียนบ้านบึงทับช้าง ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ประกอบดว้ ยกิจกรรม 3 ลกั ษณะ ดงั นี้ 1. กจิ กรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทางด้านการเรียนและอาชีพ สามารถปรับปรุงได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ผู้ปกครอง ในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมพัฒนาและสร้างภูมิคุ้มกันที่มั่นคง เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลให้สามารถค้นพบและพฒั นาศักยภาพของตนเอง ประกอบดว้ ย 1.1 การแนะแนว ด้านบริการและให้คำปรกึ ษา 1.2 การแนะแนวการศกึ ษา 1.3 การแนะแนวอาชีพ 1.4 การแนะแนวเพื่อพฒั นาบุคลกิ ภาพ 1.5 รจู้ ักเขา้ ใจและเห็นคุณค่าในตนเองและผ้อู ืน่ 1.6 การปรบั ตวั และดำรงชีวิต 1.7 การแสวงหาและใชข้ ้อมลู สารสนเทศ 1.8 การตดั สินใจและแกป้ ัญหา 2. กจิ กรรมนักเรยี น เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ การทำงาน รว่ มกัน การรจู้ กั แกป้ ัญหา การตดั สิบใจทเ่ี หมาะสม ความมีเหตุผลการช่วยเหลือแบง่ ปนั เออ้ื อาทร และสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคลอ้ งกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรยี นให้ได้ปฏบิ ตั ิไดด้ ว้ ยตนเองในทกุ ขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผนประเมิน และปรับปรุงการทำงาน เน้นการทำงานร่วมกัน เป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนและบริบทของ สถานศึกษาและท้องถิ่น กจิ กรรมนกั เรยี น ประกอบด้วย 2.1 กิจกรรมลกู เสือเนตรนารี 2.2 กิจกรรมชุมนมุ 3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่น ตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละ ต่อสังคม และ การมีจิตสาธารณะ เชน่ กจิ กรรมอาสาพฒั นาต่าง ๆ กจิ กรรมสรา้ งสรรค์สังคม (กระทรวงศึกษาธกิ าร,2551)

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 5 โครงสรา้ งกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน โครงสร้างเวลาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนบ้านบึงทับช้าง ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 กิจกรรม ชั้นประถมศึกษา ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 1. กจิ กรรมแนะแนว 40 40 40 40 40 40 2. กจิ กรรมนกั เรยี น 40 40 40 40 40 40 2.1 กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารี 30 30 30 30 30 30 2.2 กิจกรรมชุมนมุ 10 10 10 10 10 10 3. กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและ สาธารณประโยชน์ 120 120 120 120 120 120 รวม โรงเรียนบา้ นบึงทบั ช้าง ได้กำหนดโครงสรา้ งเวลาในการจดั กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นระดบั ชนั้ ประถมศึกษา ปีท่ี 1 ถึงชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลาเรยี น 120 ชั่วโมงต่อปี / 3 ช่วั โมงต่อสปั ดาห์

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 6 กจิ กรรมแนะแนว

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 7 การจัดกิจกรรมแนะแนว หลกั การ การจัดกิจกรรมแนะแนวเป็นกิจกรรมที่จัดให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ธรรมชาติของผู้เรียน และวิสัยทัศน์ของสถานศึกษาที่ตอบสนองจุดมุ่งหมายหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ให้ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา การงานและอาชีพ รวมทั้งชีวิตและสังคม เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยผู้เรียนมีอิสระในการคิด และตัดสินใจด้วยตนเอง เรียนรู้ด้วยตนเอง ด้วยการปฏิบัติ จนกระทั่งเกิดทักษะชีวิต หรือการเรียนรู้ ครูทุกคนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม โดยมครูแนะแนวเป็นผู้ ประสานงาน วัตถุประสงค์ 1. เพอื่ ให้ ผู้เรยี นเกิดการเรียนรู้ รูจ้ กั เขา้ ใจ รัก และเหน็ คณุ ค่าในตนเองและผู้อ่ืน 2. เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ สามารถวางแผนการเรยี น อาชีพ รวมทงั้ การดำเนินชวี ติ และสังคม เกิดการเรยี นรู้ สามารถปรับตวั ได้อยา่ งเหมาะสม และอยรู่ ว่ มกับผอู้ ื่นได้อย่างมคี วามสขุ 3. เพ่อื ให้นักเรียนรูจ้ ักเผชญิ กับส่ิงแวดล้อมใหมๆ่ และสามารถแกป้ ญั หาตา่ งๆ ไดอ้ ย่างมีเหตผุ ล 4. เพ่อื ชว่ ยใหน้ กั เรียนร้จู กั ตนเองและพฒั นาศักยภาพตนเองไปสู่เปา้ หมายทีพ่ ึงประสงค์ ขอบข่าย การจัดกจิ กรรมแนะแนวมีองค์ประกอบ 3 ดา้ น ดงั น้ี 1. ด้านการศึกษา ใหผ้ ู้เรียนไดพ้ ฒั นาตนเองในดา้ นการเรยี นอย่างเต็มตามศักยภาพ รู้จักแสวงหาและใช้ ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียนมีวิธีการเรียนรู้ และสามารถวางแผนการเรียนหรือการศกึ ษาต่อได้อยา่ งเหมาะสม 2. ด้านการงานและอาชีพ ให้ผู้เรียนได้รู้จักตนเองในทุกด้าน รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพอย่าง หลากหลาย มเี จตคติท่ีดตี อ่ อาชพี สุจริต มกี ารเตรยี มตัวสูอ่ าชพี สามารถวางแผน เพ่อื ประกอบอาชีพตามที่ตนเอง มีความถนดั และสนใจ 3. ด้านชีวิตและสังคม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่นรักษ์ สิ่งแวดลอ้ ม มีวฒุ ภิ าวะทางอารมณ์ มเี จตคติท่ดี ีต่อการมีชีวติ ที่ดมี ีคณุ ภาพ มีทกั ษะและสามารถปรับตวั ให้ดำรงชวี ติ อย่ใู นสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ กจิ กรรมแนะแนว ประกอบด้วย ❖ กลุม่ กจิ กรรมรจู้ กั เขา้ ใจและเห็นคุณคา่ ในตนเองและผู้อื่น ❖ กลมุ่ กิจกรรมการปรับตวั และดำรงชวี ติ ❖ กลุ่มกจิ กรรมการตัดสินใจและแก้ปญั หา ❖ กลมุ่ กจิ กรรมการแสวงหาและใชข้ ้อมูลสารสนเทศ

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 8 กล่มุ กิจกรรมรจู้ ักเขา้ ใจและเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผอู้ ่นื มาตรฐานการเรยี นรู้ช่วงขนั้ ป. 1 – 3 ป. 4 – 6 - รบั รูค้ วามต้องการและความรสู้ กึ ของตนเอง - รบั รแู้ ละเข้าใจความต้องการและความรสู้ ึกของตนเอง - รู้จดุ เด่นดอ้ ยของตนเอง - พัฒนาจดุ เดน่ ปรับปรุงจดุ ด้อยของตนเอง - รู้และเขา้ ใจความสนใจความ - รู้และเขา้ ใจความสนใจความถนัดดา้ นการเรยี นและ ถนัดความสามารถดา้ นการเรียน อาชีพ และการงาน - ภมู ใิ จใจตนเองและชื่นชมผู้อื่น - ภมู ิใจตนเองและชนื่ ชมผอู้ น่ื - รบั รู้และเข้าใจปัญหาซับซอ้ น - รแู้ ละเข้าใจปญั หาของตนเอง กลุ่มกจิ กรรมการปรับตวั และดำรงชีวติ มาตรฐานการเรียนช่วงชนั้ ป. 1 - 3 ป. 4 - 6 - รบั ร้คู วามต้องการและความรูส้ กึ ของผู้อนื่ - เขา้ ใจแลยอมรบั ความตอ้ งการ และความร้สู กึ ของผูอ้ ่นื - มีสามารถในการสือ่ ความรสู้ กึ และความต้องการของ - มสี ามารถในการส่ือสารความคดิ ความรสู้ กึ ให้ผูอ้ ื่น ตนเองให้ ผู้อนื่ รบั รู้ เข้าใจไดต้ ามสถานการณ์ - แสดงออกทางอารมณเ์ หมาะสมกับวยั - มีความสามารถในการควบคุมอารมณแ์ ละแสดงออกได้ - เป็นผู้ให้และผูร้ ับท่ดี ี เหมาะสมกบั วยั และสถานการณ์ - มคี วามสามารถในการทำงานและอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ - ปฏบิ ัตติ นใหเ้ ป็นประโยชนต์ อ่ ครอบครวั โรงเรยี นและ อย่างมคี วามสขุ ชุมชน - มคี วามสามารถในการทำงานตามบทบาท หน้าท่ี และ อยู่ร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้อยา่ งมคี วามสุข กลุ่มกจิ กรรมการตดั สินใจและแกป้ ญั หา มาตรฐานการเรียนรชู้ ว่ งช้นั ป. 1 - 3 ป. 4 - 6 - มีความสามารถในการตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหาง่าย ๆ - มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ และแก้ไขปัญหาของ ของตนเอง ตนเองและร่วมตัดสนิ ใจแกไ้ ขปญั หาเกี่ยวกับครอบครวั และโรงเรียน

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 9 กลุ่มกิจกรรมการแสวงหาและใชข้ ้อมูลสารสนเทศ มาตรฐานการเรยี นรชู้ ว่ งชั้น ป. 1 – 3 ป. 4 - 6 - มีความสามารถในการคน้ หาขอ้ มูลจากแหล่งทอี่ ยูใ่ กล้ - มคี วามสามารถในการค้นหาขอ้ มลู จากแหล่งต่างๆ ตัว ด้วยวธิ กี ารท่ีหลากหลาย - มคี วามสามารถเลอื กและใช้ข้อมลู ใหเ้ ป็นประโยชนใ์ น - มคี วามสามารถเลอื กและใช้ข้อมลู ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ชวี ิตประจำวัน ในชีวติ ประจำวัน การประเมนิ ผล การประเมนิ ผลการจดั กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น เป็นเง่ือนไขสำคัญประการหนง่ึ สำหรบั การผา่ นชว่ งชนั้ หรอื จบหลกั สตู ร ผู้เรยี นต้องเข้าร่วมและปฏบิ ตั กิ จิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ตลอดจน ผา่ นการประเมินตามเกณฑท์ ่ี สถานศึกษากำหนดตามแนวประเมนิ ดงั นี้ 1. ประเมินการรว่ มกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นตามวัตถุประสงค์ ดว้ ยวธิ ีการทห่ี ลากหลาย ตามสภาพจรงิ ให้ ได้ผลการประเมินทีถ่ ูกตอ้ ง ครบถ้วน 2. ครทู ป่ี รกึ ษากิจกรรม ผเู้ รยี นและผปู้ กครอง จะมีบทบาทในการประเมินดงั นี้ ครทู ปี่ รึกษากิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ➢ ต้องดูแลและพัฒนาผูเ้ รยี นใหเ้ กดิ คณุ ลกั ษะตามวตั ถุประสงค์ของกิจกรรม ➢ ต้องรายงานเวลา และพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ➢ ต้องศกึ ษาติดตาม และพฒั นาผเู้ รียนในกรณผี ้เู รียนไมเ่ ข้าร่วมกจิ กรรม ผเู้ รยี น ➢ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมใหบ้ รรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ ➢ มีหลักฐานแสดงการเข้ารว่ มกจิ กรรมไม่นอ้ ยกวา่ 80% หรอื ตามเกณฑ์ทสี่ ถานศกึ ษากำหนด พรอ้ มทง้ั แสดงการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม และพฒั นาการดา้ นตา่ งๆ ➢ ถา้ ไม่เกิดคณุ ลักษณะตามวัตถุประสงค์ ต้องปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเพมิ่ เติมตามทคี่ รทู ปี่ รกึ ษา กิจกรรมอบรม หรอื ใหค้ วามเห็นชอบตามทผ่ี ูเ้ รยี นเสนอ ➢ ประเมินตนเองและเพื่อนรว่ มกจิ กรรม ผู้ปกครอง ➢ ผู้ปกครองใหค้ วามรว่ มมอื ในการติดตามพัฒนาการของผูเ้ รียนกับสถานศกึ ษาเปน็ ระยะ ๆ ➢ ผ้ปู กครองบันทกึ ความเห็น สรปุ พัฒนาการและการปฏิบัตกิ ิจกรรมของผู้เรยี น 3. เกณฑก์ ารผา่ นกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ผู้เรียนเขา้ รว่ มกจิ กรรมอย่างนอ้ ย 80% หรอื ตามทส่ี ถานศึกษากำหนด ผเู้ รยี นผา่ นจดุ ประสงค์ที่สำคัญของแต่ละกิจกรรม

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 10 คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน กจิ กรรมแนะแนว ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี ๑ - ๖ เวลา 4๐ ชวั่ โมง/ปี รู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติที่ดี ต่อการมีชีวิตท่ีดีมคี ุณภาพ มีทักษะในการดำเนินชีวิต สามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข รู้จักตนเองในทุกด้าน รู้ความถนัด ความสนใจ และบุคลิกภาพของตนเอง รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพอย่าง หลากหลาย มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจรติ รู้ข้อมูลอาชีพ สามารถเลือกตนแนวทางในการประกอบอาชีพ ได้อยา่ งเหมาะสม มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพอ่ื ประกอบอาชพี ตามท่ีตนเองมคี วามถนัดและสนใจ มีคุณลักษณะพื้นฐานที่จำเป็นในการประกอบอาชีพและพัฒนางานให้ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างฐานะ ทางเศรษฐกจิ ใหก้ บั ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและประเทศชาติ พัฒนาตนเองในดา้ นการเรยี นอย่างเตม็ ศักยภาพ รู้จกั แสวงหาความรู้ใฝ่รูใ้ ฝเ่ รียนใหเ้ ป็นคนดีมีความรู้และ ทักษะทางวิชาการ รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่าง มีประสิทธิภาพ มีวิธีการเรียนรู้ มีทักษะการคิด แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ คิดเป็น ทำเป็น มีคุณธรรม จริยธรรม เออ้ื อาทรและสมานฉนั ท์ เพือ่ ดำรงชวี ิตอยรู่ วมกันอย่างสงบสุขตามวถิ ชี วี ติ เศรษฐกจิ พอเพยี ง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ รู้จัก เข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเอง และผู้อื่น เกิดการเรียนรู้ สามารถวางแผนการเรยี นรู้ อาชพี รวมทง้ั การดำเนินชีวติ และมีทักษะทางสังคม เกิดการเรียนรูส้ ามารถปรบั ตวั ได้ อย่างเหมาะสม อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข พึ่งตนเองได้มีทักษะในการเลือกแนวทางการศึกษา การงาน และอาชีพ ชีวิตและสังคม มีสุขภาพจติ ท่ีดแี ละจิตสำนึกในการทำประโยชน์ตอ่ ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. เพื่อใหผ้ ้เู รียนเกดิ การเรยี นรู้ รจู้ กั เขา้ ใจ รกั และเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผูอ้ ืน่ ๒. เพื่อให้ผูเ้ รียนเกิดการเรียนรู้ สามารถวางแผนการเรียน การศึกษาต่อ อาชีพ รวมท้ังการดำเนนิ ชวี ิต และมีทักษะทางสงั คม ๓. เพื่อให้ผูเ้ รยี นเกดิ การเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อยา่ งเหมาะสม และอยูร่ ่วมกับผู้อนื่ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ๔. สามารถประยกุ ตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวม ๔ จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 11 โครงสร้างกิจกรรมแนะแนว ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง ท่ี เร่ือง จุดประสงค์ช้นั ปี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน ชั่วโมง 1 ตัวหนู 1.1.1 เรยี กชือ่ ส่วนตา่ งๆ 1. บอกชอ่ื ส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกาย 3 ของร่างกายได้ถกู ต้อง ได้ถกู ต้อง 2. ช้สี ว่ นตา่ งๆ ของร่างกายได้ ถูกตอ้ ง 3. บอกหน้าที่ของส่วนตา่ งๆ ของ ร่างกายได้ถกู ตอ้ ง 2 ชอบไหม 1.1.2 ระบุส่วนตา่ งๆ ของ 1. รว่ มกับเพอื่ นบอกสว่ นตา่ งๆ 3 ชอบ รา่ งกายที่ตนเองพอใจพรอ้ ม ของร่างกายทต่ี นเองพอใจและ ไหม เหตผุ ลและรบั รู้ในสว่ นของ รบั รสู้ ่วนตา่ งๆของรา่ งกายท่ีเพอ่ื น ร่างกายท่เี พอื่ นพอใจ พอใจได้ 2. รว่ มอภปิ รายกบั เพ่ือนทพ่ี อใจ ส่วนตา่ งๆของรา่ งกายทเี่ หมอื นกนั เก่ยี วกบั เหตผุ ลที่พอใจได้ 3 ปลอดภยั ไวก้ ่อน 1.1.3 ดแู ลส่วนต่างๆ ของ 1. บอกวิธกี ารดูแลสว่ นต่างๆ ของ 3 ร่างกายทง้ั ของตนเองและ ร่างกายตนเอง เพือ่ นให้ปลอดภยั 2. ปฏบิ ตั ติ นในการดูแลส่วนต่างๆ ของร่างกายของตนและเพอ่ื นให้ ปลอดภยั ได้ 4 บอกนดิ คิดอะไร 1 .1 .4 บ อกอารม ณ์ แล ะ 1. บอกอารมณแ์ ละความรสู้ ึกที่ 4 อยู่ ความรูส้ กึ ของตนเองได้ เคยเกิดขน้ึ กับตนเอง 2. บอกสาเหตุการเกิดอารมณ์ และความร้สู ึกได้ 3. บอกอารมณแ์ ละความรูส้ ึก ของตนเองในภาวการณต์ า่ งๆ ได้ 5 เราตา่ งกนั 1.2.1 รบั ร้คู วามแตกตา่ ง 1. รว่ มเสนอส่งิ ทีแ่ ตกตา่ ง 3 ทางด้านร่างกายของตนเอง ทางดา้ นรา่ งกายของตนเองและ และเพอ่ื น เพอ่ื น 1.5.1 ยอมรบั ความแตกต่าง 2. สรุปไดว้ ่าคนเรามคี วาม ทางดา้ นร่างกายของตนเอง แตกตา่ งทางดา้ นรา่ งกาย และเพอ่ื น 6 หนชู อบแบบน้ี 1.3.1 ระบงุ านและกิจกรรม 1. รว่ มสนทนาเกีย่ วกบั งานและ 4 เพื่อนชอบแบบ เกยี่ วกับการเรียนทชี่ อบและ กิจกรรมดา้ นการเรยี นทช่ี อบ นัน้ ไม่ชอบรวมท้ังการรบั รู้ 2. รว่ มสนทนาเก่ียวกับงานและ กิจกรรม

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 12 ท่ี เรอื่ ง จุดประสงค์ชน้ั ปี จุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวน ชั่วโมง ความชอบและไม่ชอบของ ดา้ นการเรยี นท่ไี ม่ชอบ เพื่อนในชั้นเรียน 3. บอกเหตุผลของการชอบและ ไม่ชอบเกย่ี วกบั งานและกิจกรรม ด้านการเรยี นของตนเองและ เพอื่ นในชน้ั เรยี นได้ 7 พอ่ แมห่ นูทำอะไร 2.1.1 บอกอาชพี ของพอ่ แม่ 1. บอกช่ืออาชพี ของพ่อได้ 4 2. บอกข้อมูลอาชีพของพอ่ ได้ พอสมควร 3. บอกชอ่ื อาชพี ของแมไ่ ด้ 4. บอกข้อมูลอาชพี ของแมไ่ ด้ พอสมควร 8 หนเู กง่ ไหม 3.1.1 บอกความหมาย อธิบายความหมายขอเครื่องหมาย 3 ของเครอ่ื งหมาย สัญลกั ษณ์ สัญลักษณท์ ่แี สดงถึงคุณภาพดา้ น ที่แสดงถึงคุณภาพดา้ นการเรียน การเรยี นได้ ของตน 9 สขุ ภาพดชี วี ีเป็น 3.3.1 ดูแลตัวเองในการ 1. ระบกุ ิจวตั รประจำวนั ท่ีต้อง 4 สุข ปฏบิ ัตกิ จิ วตั รประจำวัน ปฏบิ ตั ิ 2. สำรวจกจิ วตั รประจำวนั ท่ี ปฏิบัตไิ ด้เองและยังไม่ปฏบิ ตั ิ 3.ร่วมอภปิ รายการปฏิบตั ิกิจวตั ร ประจำวนั ท่ตี นทำไดเ้ องกบั กลมุ่ เพอื่ น 4. บอกประโยชน์ของการปฏบิ ัติ กิจวัตรประจำวนั ไดด้ ว้ ยตนเอง 10 อะไรเอ่ย 3.4.1 รจู้ ักสังเกต ต้ังคำถาม 1. บอกรายละเอียดของสง่ิ ท่เี หน็ 3 และแสวงหาคำตอบ ได้ 2. ต้งั คำถามในสงิ่ ท่ีตนเองสงสัย ได้ 3. บอกวิธหี าคำตอบของคำถามที่ ตนสงสยั ได้ 11 อารมณห์ นู 3.4.2 รู้เทา่ ทนั อารมณ์ 1. บอกสภาวะของอารมณแ์ ละ 3 อารมณไ์ หน ความรู้สกึ ของตนเองตอ่ ส่ิงตา่ งๆ 2. บอกสาเหตุของภาวะอารมณ์ และความรู้สกึ ของตนเองต่อสิ่ง ต่างๆ รอบตัวได้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 13 ท่ี เร่อื ง จดุ ประสงคช์ ัน้ ปี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวน 3.4.3 เป็นผู้ฟังทดี่ ช่วั โมง 12 ฟงั อยา่ งไรใหร้ ู้ 1. จำแนกการปฏิบัตใิ นการเปน็ เรอ่ื ง ผู้ฟงั ทด่ี ี 3 และไม่ดไี ด้ 2. รว่ มกันบอกแนวปฏบิ ัติตนใน 40 การเปน็ ผฟู้ ังทดี่ ีได้ 3. ปฏิบตั ติ นอย่างถูกตอ้ งในการ เปน็ ผฟู้ งั ที่ ดีได้ รวม

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 14 โครงสรา้ งกิจกรรมแนะแนว ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง ท่ี เร่ือง จุดประสงคช์ ั้นปี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวน 1 สว่ นตา่ งๆ ช่วั โมง ของรา่ งกาย 1.1.1 อธบิ ายหนา้ ท่ขี อง 1. เรียกชือ่ สว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย 3 2 กายดี ชวี มี ีสุข สว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกายได้ ได้ถูกต้อง 3 รู้เขา รู้เรา 4 ต่างจติ ตา่ งใจ ถกู ตอ้ ง 2. รว่ มกบั เพื่อนบอกหน้าทข่ี อง สว่ นต่างๆของรา่ งกายได้ 3. ระบุชอ่ื และหนา้ ทขี่ องส่วน ตา่ งๆ ของรา่ งกายตนเองได้ 4. สรปุ 1.1.2 ดแู ลรกั ษาสว่ น 1. ระบวุ ิธีปฏบิ ตั ติ นในการดูแล 5 ตา่ งๆ ของรา่ งกายทัง้ ของตนเอง รักษาสว่ นต่างๆ ของรา่ งกายใน และเพอื่ นให้ปลอดภยั ชวี ติ ประจำวันได้ 2. อภปิ รายเกย่ี วกบั วิธดี แู ลรกั ษา สว่ นตา่ งๆของรา่ งกาย 3. นำเสนอวิธดี ูแลรักษาส่วน ต่างๆ ของรา่ งกายแต่ ละส่วน อย่างปลอดภยั ได้ 4. สรุปวธิ ปี ฏบิ ตั ิตนในการดแู ล รกั ษาสว่ นต่างๆ ของร่างกายได้ อยา่ งปลอดภยั 5. ปฏบิ ตั ิในการดแู ลรกั ษาส่วน ตา่ งๆ ของรา่ งกายไดอ้ ยา่ ง ปลอดภยั และแนะนำเพอ่ื นได้ 1.1.3 บอกอารมณ์ 1. ระบอุ ารมณค์ วามรู้สกึ ของ 4 ความรสู้ กึ ของตน และรบั รู้ ตนเองได้ อารมณ์ความ รู้สกึ ของครู 2. ระบุอารมณค์ วามรสู้ กึ ของ เพ่ือนในหอ้ งเรียนและ เพ่อื น ครไู ด้ สมาชกิ ในครอบครวั 3. ระบอุ ารมณ์ความรู้สกึ ของ สมาชิกในครอบครวั ได้ 1.2.1 รับรู้อารมณค์ วามรสู้ กึ 1. บอกอารมณแ์ ละความรู้สึก 4 ของตนเองและเพ่ือน ของตนเองเมอื่ อยใู่ นสภาวการณ์ 1.5.1 ยอมรบั ความแตกต่าง ตา่ งๆ ด้านอารมณ์ จติ ใจของตนเอง 2. รับฟังสิ่งที่เพอื่ นบอกอารมณ์ และเพื่อน ความรู้สกึ ของเขาในสถานการณ์ ต่างๆ

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 15 ท่ี เรอื่ ง จุดประสงคช์ นั้ ปี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน ชว่ั โมง 5 อาชีพดี มสี ขุ 2.1.1 บอกอาชพี ในชุมชน 3. บอกไดว้ า่ แตล่ ะคนมอี ารมณ์ ความรสู้ กึ ตอ่ สถานการณต์ ่างๆ 3 6 เรียนดี มอี นาคต 3.1.1 บอกความหมายผล ไม่เหมอื นกนั 4 การเรยี นของตน 4. ทำกจิ กรรมร่วมกบั เพอื่ นทีม่ ี 3.1.2 ระบวุ ิชาที่มีผลการ ความแตกต่างด้านอารมณ์และ 4 เรยี นอยู่ในระดับท่ีดแี ละท่ี จิตใจได้ 4 ตอ้ งปรบั ปรุง 1. บอกชอ่ื อาชพี ในชมุ ชนที่ 4 7 นำ้ ใจไมตรี 3.3.1 แสดงพฤตกิ รรมท่ี นกั เรียนอาศัยอยู่ได้ แสดงถึงความมเี มตตา 2. ให้ขอ้ มลู เกีย่ วกบั อาชพี ตา่ งๆ แบ่งปันของกนิ ของใช ในชุมชนได้ตามสมควร 1. อธิบายความหมายผลการ 8 ร้ทู นั เหตุการณ์ 3.4.1 วิเคราะหค์ วาม เรยี นในแต่ละรายวชิ าและ นา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มลู ภาพรวมของตนเองได้ ขา่ วสารได้สมเหตสุ มผล 2. ระบวุ ิชาท่ีมีผลการเรยี นดีและ ไม่ดีได้ 9 อารมณข์ องฉนั 3.4.2 ควบคมุ อารมณ์ของ 3. บอกสาเหตุทไี่ ดผ้ ลการเรยี นดี ตนเองได้ และไม่ดี 4. บอกแนวทางการปรบั ปรงุ วธิ ี เรยี นให้มผี ลการเรียนดีขน้ึ 1. บอกความหมายของความมี เมตตาได้ 2. ระบพุ ฤตกิ รรมทีแ่ สดงถึงความ มีเมตตาได้ 3. แสดงพฤตกิ รรมของบคุ คลทม่ี ี ความเมตตา 1. บอกความสำคัญของการรบั รู้ ขอ้ มูลข่าวสารตา่ งๆ ได้ 2. สืบค้นข้อมลู ขา่ วสารจากแหลง่ ตา่ งๆ ทต่ี นสนใจได้ 3. พิจารณาความนา่ เชอ่ื ถือของ ขอ้ มลู ข่าวสารทตี่ นศกึ ษาค้นคว้า ได้ 1. จำแนกอารมณด์ แี ละไม่ดีได้ 2. พิจารณาพฤตกิ รรมการแสดง อารมณ์ของบุคคลต่างๆ

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 16 ท่ี เร่อื ง จุดประสงค์ชนั้ ปี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวน ชว่ั โมง 10 สอ่ื สารดีมีสมั พันธ์ 3.4.3 ใชภ้ าษาและกริ ิยา 3. ปฏิบัติตนในการแสดงอารมณ์ ท่ีเหมาะสมในการสือ่ สาร ได้อยา่ งเหมาะสม 4 1. บอกและยกตวั อยา่ งการใช้ ภาษาและกิรยิ ามารยาทที่ 40 เหมาะสมในการสอ่ื สารได้ 2. แสดงบทบาทสมมติการใช้ ภาษาและกริ ยิ ามารยาทท่ี เหมาะสมได้ 3. สรุปความสำคญั ของการใช้ ภาษาและกิริยามารยาทที่ เหมาะสมในการสือ่ สารได้ รวม

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 17 โครงสรา้ งกจิ กรรมแนะแนว ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 40 ชวั่ โมง ท่ี เร่ือง จดุ ประสงค์ชน้ั ปี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จำนวน ชัว่ โมง 1 บอกหนอ่ ยได้ไหม 1.1.1 บอกประโยชน์ 1. บอกสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกายได้ 2 ของส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกายได้ 2. บอกหนา้ ท่ขี องสว่ นตา่ งๆ ของ ถูกตอ้ ง รา่ งกายได้ 3. บอกประโยชน์ส่วนตา่ งๆ ของ รา่ งกายได้ 2 อะไรทเี่ ปล่ียน 1.1.2 รบั รู้การเปลยี่ นแปลง 1. บอกส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกายทมี่ ี 2 แปลง ของรา่ งกายตามวัย การเปลย่ี นแปลงได้ 2. รู้เกณฑม์ าตรฐานของรา่ งกาย ตามวัย 3. เปรยี บเทยี บนำ้ หนกั และ สว่ นสูงของตนเองกับเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามยั 4. สรุปไดว้ า่ รา่ งกายมกี าร เปลยี่ นแปลงตามวยั 3 ร้แู ล้วยอมรับ 1.5.1 ยอมรับการเปลี่ยนแปลง 1. บอกสาเหตกุ ารเปลยี่ นแปลง 2 ของร่างกายตามวยั ของรา่ งกายตามวัย 2. มีความรูส้ กึ ทีด่ ตี อ่ การ เปลี่ยนแปลงของร่างกาย 4 ทำไม? ทำไม? 1.2.1 ระบุสาเหตุของการเกิด 1. บอกสาเหตุการเกิดอารมณ์ 2 อารมณค์ วามร้สู กึ ของตนเอง และความรู้สกึ ของตนเองได้ และเพอ่ื น 2. บอกสาเหตกุ ารเกิดอารมณ์ และความรู้สกึ ของเพือ่ นได้ 5 เพราะวา่ ... 1.5 2 ยอมรบั ความแตกตา่ ง 1. บอกอารมณ์ของตนเองที่ 3 แตกตา่ ง ดา้ นอารมณ์จติ ใจของตนเอง เกดิ ขึน้ ในสถานการณต์ า่ งๆ ได้ และเพอื่ น 2. ระบุความแตกตา่ งดา้ นอารมณ์ ของตนเองและเพือ่ นใน สถานการณเ์ ดียวกัน 3. บอกเหตผุ ลทีบ่ คุ คลมีอารมณ์ แตกตา่ งกนั 4. สรุปไดว้ ่าบุคคลมีอารมณ์ แตกตา่ งกนั ในด้านอารมณแ์ ละ จิตใจ

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 18 ท่ี เรือ่ ง จดุ ประสงค์ชัน้ ปี จุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน ช่วั โมง 6 หนูชอบแบบน้ี 1.1.3 รบั รอู้ ารมณ์ความรูส้ กึ 1. บอกอารมณ์และความรสู้ ึก 3 เพื่อนชอบแบบ ของครู เพื่อนตา่ งห้องเรยี นและ ของครูจากพฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก นน้ั สมาชิกในครอบครัว ได้ 2. บอกอารมณ์และความรูส้ ึก ของเพอ่ื นต่างห้องเรยี นจาก พฤตกิ รรมที่แสดงออกได้ 3. บอกอารมณ์และความรูส้ ึก ของสมาชกิ ในครอบครวั จาก พฤตกิ รรมที่แสดงออกได้ 7 เปน็ เชน่ น้ีน่ีเอง 3.3.1 แสดงความคดิ และ 1. รับรูอ้ ารมณ์ของตนเองใน 2 แสดงออกด้านอารมณท์ ม่ี ตี ่อ สถานการณต์ ่างๆ ได้อยา่ ง สถานการณ์ ตา่ งๆ ได้อยา่ ง เหมาะสม เหมาะสม 2. แสดงพฤตกิ รรมของตนเองท้ัง ทางบวกและทางลบท่มี ีตอ่ สถานการณต์ ่างๆ ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม 8 สือ่ สารดมี ีเพอื่ น 3.4.2 รู้จักเอาใจเขามาใสใ่ จเรา 1. ยอมรับผู้อืน่ ในส่ิงที่เขาเป็น 4 3.4.3 คำนึงถงึ ความรู้สกึ ของ 2. ไม่ทำกับผู้อนื่ ในส่งิ ทไ่ี ม่อยาก ผอู้ ่ืนในการส่ือสาร ใหผ้ อู้ ่ืนทำกบั เรา 3. ไม่ใชก้ ารส่ือสารทท่ี ำร้ายจติ ใจ ของผู้อื่น 9 กระจกหกดา้ น 1.3.1 ระบคุ วามสนใจ 1. บอกความสนใจความถนัด 2 ความถนดั ความสามารถ ความสามารถดา้ นการเรยี นของ ดา้ นการเรียนของตนเอง ตนเองได้ พร้อมเหตผุ ล 2. บอกเหตุผลที่สนับสนนุ ความ สนใจความถนดั และ ความสามารถดา้ นการเรยี น ของตนเองได้ 10 หลากหลายมติ 1.3.2 รับร้คู วามสนใจ 1. บอกความสนใจความถนัด 3 ความถนดั ความสามารถ ความสามารถดา้ นการเรยี นของ ดา้ นการเรียนของตนเอง เพอ่ื นพร้อมเหตุผล พรอ้ มเหตุผล 2. จัดกล่มุ ผู้ทมี่ คี วามสนใจ ความ 1 .6 .1 ยอมรับความ ถนดั ความสามารถดา้ นการเรยี นที่ แตกต่าง ดา้ นความสนใจ เหมือนกนั ของสมาชกิ ในหอ้ งเรียน ความถนดั ความสามารถ 3. สรา้ งสรรคง์ านจากความ ด้านการเร แตกตา่ งของตนเองและเพ่อื นได้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 19 ท่ี เร่ือง จุดประสงค์ชน้ั ปี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จำนวน ช่วั โมง 11 รบั รู้สู่มิตรภาพ 1.7.1 ยอมรบั ความแตกตา่ ง 1. บอกความหมายของคำวา่ 3 ด้านบุคลิกภาพของตนเองและ บคุ ลกิ ภาพ ได้ เพื่อน 2. บอกบุคลกิ ภาพทีด่ ีและไมด่ ี ของตนเองและเพอ่ื นได้ 3. ไมป่ ฏิเสธเพื่อนท่ีมบี คุ ลิกภาพ ไม่เหมือนกับตน 12 หลากหลายอาชพี 2.1.1 บอกอาชพี ท่ีหลากหลาย 1. บอกช่อื อาชีพในทอ้ งถิ่น 3 2. บอกช่อื อาชีพไดอ้ ยา่ ง หลากหลาย 3. บอกข้อมูลอาชีพได้ตามสมควร 13 เตรียมพร้อมสู่ 3.1.1 บอกพฤตกิ รรม 1. ระบุวชิ าทต่ี นเองมีผลการเรยี น 3 เปา้ หมาย ของตนเองทช่ี ว่ ยใหผ้ ล อยใู่ นระดับดี การเรียนด 3. บอกพฤติกรรมของตนเองทที่ ำ ใหม้ ีผลการเรยี นในวชิ านนั้ อยูใ่ น ระดบั ดีขนึ้ ไป 4. สรุปพฤติกรรมทจ่ี ะชว่ ยให้ผล การเรยี นอยู่ในระดับดีทกุ รายวชิ า 14 เรยี นดมี ีวธิ ี 3.1.2 ระบุพฤติกรรมท่ีจะ 1. ระบุแนวทางในการปรับตัว 3 อย่างไร นำมาใช้ในการปรบั ตวั ดา้ นการ เพื่อผลการเรยี นในระดับดขี ึน้ เรียนให้มีผลการระดับ ดี ข้นึ ไป 2. บอกความสำคญั ของการ และมคี วามพร้อมสำหรับการ ประเมินระดับชาติ ประเมนิ ระดบั ชาต 3. ปฏิบัติตนเพอ่ื ผลการเรียนท่ดี ี และเตรียมความพร้อมสำหรบั การประเมินระดับชาติ 15 ทำอยา่ งไรดีหนอ 3.4.1 ประเมินสถานการณ์ 1 . วเิ คราะห์ ความสมเหตุสมผล 3 และนำไปประยุกตใ์ ช้ใน ของสถานการณต์ า่ งๆ ได้ ชวี ติ ประจำวนั 2. ประเมินผลทอี่ าจเกิดขึน้ จาก สถานการณต์ า่ งๆ 3. อธบิ ายวธิ ีการคดิ และตดั สนิ ใจ เม่ือเผชญิ กบั สถานการณ์ตา่ งๆ รวม 40

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 20 โครงสรา้ งกิจกรรมแนะแนว ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 40 ช่วั โมง ท่ี เรอ่ื ง จดุ ประสงค์ชนั้ ปี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จำนวน ชั่วโมง 1 พัฒนาการตาม 1.1.1 รบั รกู้ ารเปล่ียนแปลง 1. สำรวจส่งิ ทเี่ ปล่ียนแปลงของ 1 ช่วงวัย ของรา่ งกายตามวัย รา่ งกายตามวัย 2. รว่ มกับเพ่ือน สรุปสงิ่ ที่ เปลย่ี นแปลงของรา่ งกายตามวัย 2 ร้เู ขารเู้ รา 1.1.2 บอกความคดิ ความรูส้ กึ 1. อธบิ ายการเกิดความคดิ 3 อารมณ์ของตนและรับรู้ ความรู้สกึ อารมณข์ องบคุ คล ความคดิ ความรสู้ ึก อารมณค์ รู 2. ระบุความคิด ความรสู้ ึกของ เพือ่ น และสมาชกิ ในครอบครวั ตนเองเมอ่ื กระทบกับเหตกุ ารณ์ 1.2.1 จำแนกความคิด ต่างๆ ได้ ความร้สู กึ อารมณท์ ด่ี แี ละไม่ดี 3. สังเกตความคิด ความรสู้ กึ ของตนเองและผู้อื่น อารมณ์ของครู เพื่อน และสมาชิก ในครอบครัว 4 แยกไดว้ า่ ความคดิ ความรู้สกึ อารมณ์ใดเป็นลบเปน็ บวก 3 รบั ไดใ้ จเปน็ สขุ 1.4.1 อธบิ ายบคุ ลิกภาพของ 1. บอกความหมายของ 3 ตนและรับรบู้ ุคลิกภาพของ บุคลิกภาพ ได้ เพอื่ น 2. รว่ มกับเพอื่ นอธิบาย 1.7.1 รับไดก้ บั บคุ ลกิ ภาพของ บคุ ลิกภาพของตนเองและเพ่อื น ตนเอง 3. ยอมรับบุคลกิ ภาพของตนเอง 1.7.2 ยอมรับในส่ิงทผ่ี ู้อนื่ เปน็ และผูอ้ ื่น ท้ังดา้ นบวกและดา้ นลบ ด้านบุคลิกภาพ 4 คา่ ของคน 1.5.1 พอใจในส่งิ ท่ีดขี อง 1. มคี วามรสู้ กึ ทด่ี ตี อ่ รา่ งกายดา้ น 3 ตนเองดา้ นร่างกาย ความคดิ บวกของตนเองและผู้อื่น อารมณ์และจติ ใจ 2. มคี วามรู้สกึ ทด่ี ตี อ่ ความคดิ 1.5.2 ช่นื ชมสง่ิ ทด่ี ขี องผอู้ ื่น ดา้ นบวกของตนเองและผู้อนื่ ดา้ นรา่ งกาย ความคดิ อารมณ์ 3. มีความร้สู ึกทดี่ ตี อ่ อารมณ์และ และจิตใจ จิตใจดา้ นบวกของตนเองและผอู้ น่ื 5 ความแตกตา่ ง 1.6.1 ยอมรบั สิ่งทตี่ นเองมีใน 1. บอกความสนใจความถนัด 3 ดา้ นความสนใจความถนัด ความสามารถทางการเรยี นของ ความสามารถทางการเรยี น ตนได้ 1.6.2 เข้าใจผอู้ นื่ ในดา้ นความ 2. รับรู้ความสนใจความถนัด สนใจ ความถนดั ความสามารถ ความสามารถทางการเรยี นของ ทางการเรียน ผู้อื่น

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 21 ท่ี เรือ่ ง จดุ ประสงคช์ ้ันปี จุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวน 6 โตขนึ้ จะเป็น ชว่ั โมง 2.1.1 บอกลกั ษณะของอาชพี 3. รับได้กับส่ิงทีต่ นเองมแี ละ อะไร ที่สนใจ เข้าใจผูอ้ ื่นดา้ นความสนใจความ 3 7 แก้ไขได้ 2.2.1 บอกคณุ ลกั ษณะของ ถนดั ความสามารถทางการเรียน 4 ตนเองที่สอดคลอ้ งกับอาชพี ท่ี 1. ระบุช่อื และลักษณะของอาชพี 8 ฝันใหไ้ กล สนใจ ท่ีสนใจ 4 ไปให้ถึง 3.3.1 วเิ คราะหผ์ ลการเรียน 2 . ระบุคุณลกั ษณะของตนเองท่ี ของตนแต่ละรายวชิ า สอดคล้องกบั อาชพี ท่สี นใจ 4 9 ผอ่ นคลาย 3.1.2 ระบุวิธกี ารพัฒนา รายวชิ าท่ีผลการเรยี นยังไมเ่ ป็น 1. บอกระดับผลการเรยี นรายวิชา 4 10 ชื่นชมยนิ ดี ที่พอใจ ภาคเรยี นท่ี 1 2. ระบุรายวิชาทีผ่ ลการเรยี นยงั 3.4.1 มีจนิ ตนาการและมี ไมพ่ อใจพร้อมสาเหตทุ ่ีได้ระดบั ผล ความสามารถในการคดิ การเรยี นเชน่ นนั้ เชื่อมโยง 3. รว่ มอภิปรายกบั เพื่อนในการ พฒั นาให้ระดับผลการเรยี นดขี น้ึ 3.4.2 มีวธิ ผี ่อนคลายอารมณ์ 4. สรปุ วธิ กี ารพัฒนาผลการเรียน และความเครยี ดให้กบั ตนเอง ของตนเอง 1. บอกอารมณ์และความเครยี ดท่ี 3.4.3 รู้จักแสดงความคดิ เคยเกดิ กับตนเอง พรอ้ มสาเหตุ ความรูส้ กึ ชืน่ ชมการกระทำ 2. แลกเปลย่ี นเรียนร้วู ธิ ผี อ่ น ท่ีดีงามให้ผ้อู ืน่ รบั รู้ คลายอารมณแ์ ละความเครยี ดที่ ตนเคยใช้ได้ผลมาแล้วกบั กล่มุ เพอ่ื นได้ 3. สรุปวธิ ีการที่จะเลือกไว้ใช้กับ ตนเองตอ่ ไป 1. บอกอารมณแ์ ละความเครยี ดที่ เคยเกดิ กบั ตนเอง พร้อมสาเหตุ 2. แลกเปล่ียนเรยี นรู้วิธีผ่อน คลายอารมณ์และความเครยี ดที่ ตนเคยใช้ได้ผลมาแลว้ กบั กล่มุ เพื่อนได้ 3. สรปุ วธิ กี ารท่จี ะเลอื กไว้ใช้กบั ตนเองตอ่ ไป 1. บอกได้วา่ การแสดงใหผ้ อู้ ืน่ รู้ว่า เราชื่นชมการกระทำทดี่ งี ามของ

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 22 ท่ี เรอื่ ง จุดประสงค์ชัน้ ปี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวน 11 มิตรไมตรี ชวั่ โมง 12 สมั พันธภาพ 3.4.4 มีมารยาทในการสอื่ สาร เขาเป็นวิธีหน่งึ ในการสรา้ ง กบั ผู้อื่น สัมพนั ธภาพท่ีดกี ับผอู้ น่ื 4 3.4.5 ช่ืนชมความสำเรจ็ 2. ระบุวิธกี ารแสดงความช่นื ชม 4 ความสามารถและการกระทำ ผู้อื่นอย่างหลากหลาย ที่ดงี ามของผู้อืน่ ดว้ ยคำพดู 3. ปฏิบัตติ นในการแสดงความชน่ื 40 ภาษากาย และภาพลกั ษณ์ ชมใหผ้ ูอ้ ื่นรับรู้ 3.3.1 ควบคุมความ คิดและ 1. อธบิ ายพฤตกิ รรมทแ่ี สดงถงึ อารมณ์ของตนเองได้ การมีมารยาทในการส่ือสาร 3.4.6 มีวธิ สี รา้ งความมนั่ คงใน 2. ฝึกการสอ่ื สารอยา่ งมมี ารยาท อารมณข์ องตนองได้อยา่ ง ในสถานการณต์ ่างๆ เหมาะสม 1. บอกได้วา่ ความคิดและอารมณ์ รวม ใดควรควบคุมในการแสดงออก 2. ศึกษาวธิ ีการควบคุมอารมณ์ จากแหลง่ เรยี นรู้ต่างๆ 3. สรปุ วธิ คี วบคุม สรา้ งความ ม่นั คงทางอารมณท์ เ่ี หมาะสม สำหรับตนเอง

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 23 โครงสร้างกิจกรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 40 ช่ัวโมง ท่ี เรือ่ ง จุดประสงคช์ นั้ ปี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน ช่ัวโมง 1 ตัวฉัน 1.1.1 รบั รกู้ ารเปลี่ยนแปลง บอกส่ิงที่เปลยี่ นแปลงของรา่ งกาย 2 ของรา่ งกายตามวยั ในช่วงวัยของตนได้ 2 บุคลกิ ภาพ 1.4.1 ระบุบคุ ลกิ ภาพทด่ี ีและ 1. บอกบุคลกิ ภาพของตนเอง ทง้ั 4 ไมด่ ีของตนเองและรบั รู้ ดา้ นดีและดา้ นไมด่ ี บุคลกิ ภาพทด่ี ีและไมด่ ีของ 2. รบั รบู้ คุ ลกิ ภาพของเพอื่ น ท้งั เพื่อน ด้านดีและดา้ นไมด่ ี 1.7.1 ภมู ใิ จในบุคลกิ ภาพด้าน 3. บอกบคุ ลิกภาพด้านดที ีต่ น ดีของตน ภมู ิใจ 1.7.2 ชื่นชมบุคลิกภาพดา้ นดี 4. แสดงความช่ืนชมใน ของผู้อื่น บุคลกิ ภาพดา้ นดขี องผู้อนื่ 3 แสดงออก 1.5.1 แสดงออกถงึ ความม่นั ใจ มีพฤติกรรมท่ีแสดงถงึ ความม่ันใจ 3 อย่างมนั่ ใจ ในสงิ่ ท่ดี ีของตนเอง ดา้ น ในสง่ิ ที่ดขี องตนเอง ด้านรา่ งกาย ร่างกายความคิด อารมณ์ และ ความคดิ อารมณ์ และจติ ใจ จติ ใจ 4 แสดงออก 3.3.1 รู้เทา่ ทันความคิดและ 1.บอกความคดิ และอารมณข์ อง 3 อยา่ งเหมาะสม อารมณ์ของตนเอง ตนเองในสถานการณ์ตา่ งๆ 3.3.2 จดั การกับความคดิ และ 2. จำแนกความคดิ และอารมณ์ อารมณข์ องตนเองได้ อยา่ ง ดา้ นบวกและดา้ นลบ เหมาะสม 3. ขจัดความคดิ และอารมณ์ด้าน ลบสถานการณต์ า่ งๆ และ แสดงออกอย่างเหมาะสม 5 คณุ ค่าดา้ น 1.3.1 บอกวชิ าทต่ี นเองถนัด 1. ระบุรายวชิ าท่ีทำคะแนนได้ดี 3 การเรยี น อย่างมีเหตผุ ล และมีความสขุ ในการเรยี นและ 1.3.3 รับรูว้ ชิ าที่เพื่อนถนดั รับรู้ของเพอื่ น พร้อมเหตุผล 2. เลา่ ถึงความสนใจ ความถนดั 1.6.1 ภมู ิใจในคณุ คา่ ของ และความสามารถทางการเรยี น ตนเองในดา้ นความสนใจความ และอาชีพของตนด้วยความ ถนัดความสามารถทางการเรียน ภาคภูมใิ จ และอาชพี 3. แสดงความนิยม ยกยอ่ งใน 1.6.2 ชื่นชมในคุณค่าของผ้อู นื่ ความสนใจ ความถนัด และ ในดา้ นความสนใจความถนัด ความสามารถทางการเรยี นและ ความสามารถทางการเรยี นและ อาชพี ของเพอื่ น อาชพี

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 24 ท่ี เร่อื ง จดุ ประสงคช์ น้ั ปี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน 6 อาชพี ในฝัน ชว่ั โมง 7 เธอท่ีฉันร้จู ัก 1.3.2 บอกอาชีพทตี่ นสนใจ 1. ระบุชื่ออาชพี ท่อี ยใู่ นความ 4 8 เรยี นอย่างไร 2.1.1 บอกคณุ สมบตั ขิ อง สนใจ ไดเ้ กรดดี บุคคลท่ีประกอบอาชีพ 2. อธิบายคุณสมบัตขิ องบุคคลท่ี 9 วิพากษ์อย่างมี ข้อมูล 2.2.1 ศึกษาขอ้ มูลด้านอาชีพท่ี ประกอบอาชีพทีอ่ ยูใ่ นความสนใจ 10 สันตวิ ธิ ี กว้างและลกึ ซ้งึ มากข้นึ 3. ศึกษาข้อมูลเกีย่ วกบั อาชพี ท่ี 11 จติ อาสานำพา สนใจใหล้ ะเอยี ดและชดั เจน สังคม 1.1.2 รบั ร้คู วามคิด ความรู้สึก สังเกตกิรยิ าอาการท่แี สดงถงึ 2 12 ภัยที่ไม่คาดคดิ อารมณข์ องผทู้ ีต่ นคบหาสมาคม ความคดิ ความรู้สกึ อารมณ์ของผู้ ที่เกย่ี วข้องได้ 3.1.1 วเิ คราะห์ผลการเรียน 1. บอกผลการเรยี นของตนเองใน 4 ของตนแตล่ ะรายวชิ าและ รายวชิ าตา่ งๆ ในช้ัน ป.4 ปรบั ปรงุ พฤตกิ รรมการเรียนใน 2. ระบุรายวิชาทีย่ งั ไม่พอใจในผล รายวชิ าทม่ี ีผลการเรียนไมเ่ ปน็ ที่ การเรียนนนั้ พอใจ 3. ระบพุ ฤติกรรมทที่ ำใหผ้ ลการ เรียนในวิชานนั้ ยงั ไม่เปน็ ท่พี อใจ 4. ระบุพฤตกิ รรมทจ่ี ะทำเพอื่ ให้ผลการเรยี นในวชิ านนั้ ดีขนึ้ 3.4.1 วพิ ากษ์ วจิ ารณ์บน พูดถึงผ้อู ่นื ดว้ ยข้อมลู สารสนเทศที่ 2 พื้นฐานของข้อมลู สารสนเทศที่ ถกู ต้อง ถูกต้อง 3.4.2 ยตุ ิขอ้ ขดั แย้งในกลุ่ม 1. วเิ คราะหส์ าระสำคญั ของความ 3 เพอื่ นดว้ ยสนั ติวธิ ขดั แย้งในกลุม่ เพ่ือนได้ 2. ใชว้ ธิ ีการดา้ นบวกในการยตุ ขิ อ้ ขดั แยง้ ในกลมุ่ เพ่อื น 3.4.4 อาสาทำงานเพอื่ 1. บอกชนดิ ของงานเพ่ือส่วนรวม 3 สว่ นรวมและสังคม และสงั คมทีส่ ามารถทำได้ 2. สมัครใจทำงานเพ่ือสว่ นรวม และสังคมทส่ี นใจ 3. มคี วามรู้สึกทดี่ ีในการทำงาน เพื่อสว่ นรวมและสังคม 3.4.3 รู้จกั ปฏิเสธ ตอ่ รอง และ 1. บอกวธิ กี ารหาทางออกจาก 3 ร้องขอความชว่ ยเหลอื ใน สถานการณเ์ สย่ี งได้ สถานการณ์เสี่ยง 2. เสนอแนะการปฏเิ สธ ต่อรอง และขอความชว่ ยเหลือผอู้ น่ื อย่าง สร้างสรรค์

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 25 ท่ี เร่อื ง จุดประสงคช์ ัน้ ปี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน 3.4.5 แสดงออกถึงพฤตกิ รรม ชั่วโมง 13 พฤตกิ รรมทาง ทด่ี ีในการอยูร่ ว่ มกับผ้อู ื่น 1. ระบุพฤตกิ รรมทคี่ วรทำและไม่ สังคม 3.4.6 รับฟังและยอมรบั ความ ควรทำในการอย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่ืน 4 คดิ เหน็ ซ่งึ กันและกนั 2. แสดงพฤติกรรมทเี่ หมาะสมใน การอยรู่ ว่ มกบั ผู้อน่ื 40 รวม 3. มีพฤติกรรมท่ีแสดงถึงการรับ ฟังและยอมรับความคดิ เหน็ ซงึ่ กัน และกัน

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 26 โครงสร้างกจิ กรรมแนะแนว ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 40 ชวั่ โมง ท่ี เรือ่ ง จุดประสงคช์ น้ั ปี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน ชวั่ โมง 1 WHO ARE 1.1.1 รับรู้ความคิด 1. สังเกตความรสู้ กึ อารมณ์ของคู่ 3 YOU? ความรู้สกึ อารมณ์ของคสู่ นทนา สนทนาได้ 2. บอกประโยชน์ของการรู้ ความคดิ ความร้สู กึ อารมณ์ของคู่ สนทนา 3. มีความสามารถในการรับรู้ ความคดิ ความร้สู ึก อารมณ์ของคู่ สนทนา 2 ความมนั่ ใจ 1.6.1 แสดงออกถงึ ความ 1. กล้าที่จะบอกผูอ้ ่นื ถึงความ 3 มน่ั ใจในคณุ คา่ ของตนเอง สนใจความถนัด ความสามารถ ด้านความสนใจ ความถนัด ทางการเรียนและอาชพี ความสามารถทางการเรยี น 2. นำคุณคา่ ของตนเองในดา้ น และอาชพี ความสนใจ ความถนัด 1.6.2 เช่อื ม่ันในคณุ คา่ ของ ความสามารถมาใชใ้ นการทำ ผู้อืน่ ด้านความสนใจความถนดั กิจกรรมดา้ นการเรียนและ ความสามารถทางการเรยี นและ อาชพี อาชีพ 3. ให้ความสำคัญกับความสนใจ ความถนดั ความสามารถทางการ เรยี นและอาชพี ของผู้อนื่ 3 ความเชอ่ื มั่นใน 1.7.1 แสดงออกถงึ ความ 1. บอกบคุ ลกิ ภาพด้านดขี อง 3 บคุ ลกิ ภาพ มนั่ ใจในบุคลกิ ภาพดา้ นดขี อง ตนเองได้ ตนเอง 2. นำบคุ ลิกภาพดา้ นดมี าใชใ้ น 1.7.2 เชื่อม่นั ในคณุ คา่ ของ การทำกิจกรรมดว้ ยความมั่นใจ ผอู้ น่ื ด้านบคุ ลิกภาพ 3. ใหค้ วามสำคญั กับบุคลิกภาพ ดา้ นดีของผอู้ ื่น 4 โลกกว้างทาง 2.1.1 มขี อ้ มูลโลกกว้าง 1. แสวงหาข้อมลู ดา้ นการศึกษา 3 การศกึ ษา ทางดา้ นการศกึ ษา ต่อจากแหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ 2.1.2 มแี นวทางในการเลือก 2. มแี นวทางการศกึ ษาตอ่ เมอ่ื จบ ศกึ ษาตอ่ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ท่ีหลากหลาย 3. เลอื กแนวทางศึกษาตอ่ ที่ เหมาะสมกับตนเอง 5 อาชีพทส่ี นใจ 2.2.1 พิจารณาความ 1. บอกชอ่ื อาชพี ทตี่ นสนใจได้ 3 เหมาะสมของตนกับอาชีพที่

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 27 ท่ี เรอื่ ง จุดประสงค์ชนั้ ปี จุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน ชว่ั โมง สนใจ 2. บอกคุณลกั ษณะของผู้ 2.3.1 ระบอุ าชีพทต่ี นเอง ประกอบอาชีพทส่ี นใจ สนใจ 3. บอกคุณลักษณะของตนที่ สอดคลอ้ งกบั อาชพี ทีส่ นใจ 6 วิเคราะหผ์ ล 3.1.1 วเิ คราะห์ผลการเรียน 1. พจิ ารณาระดับผลการเรยี น 4 การเรยี น ของตนแต่ละรายวิชโดย รายวชิ าตา่ งๆ ในชนั้ ประถมศกึ ษา เฉพาะวชิ าทต่ี ้องใช้ประเมิน ปที ่ี 5 ระดบั ชาติและการเรยี นต่อ 2. พิจารณาระดบั ผลการเรียน ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ รายวชิ าทสี่ อบ O-NET 3.1.2 เรียนรูเ้ พ่ิมเตมิ เพอ่ื 3. พิจารณาระดับผลการเรยี น ความพรอ้ มในการเข้าเรยี นตอ่ รายวชิ าท่ีใช้ในการสอบเขา้ เรยี น ต่อชั้นมธั ยมศึกษาตอนตน้ 4. บอกแนวทางในการพฒั นาการ เรยี นของตนเองเพอ่ื เตรยี มพรอ้ ม ในการสอบและเข้าเรียนต่อ 7 สมาชิกทด่ี ขี อง 3.4.3 ปฏิบัติตามกฎ กตกิ า 1. บอกตามกฎ กติกา และ 4 สังคม และระเบยี บของสงั คม ระเบียบของสงั คมในโรงเรยี นได้ 3.4.6 ปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชกิ ท่ี 2. บอกผลดี ผลเสียของการ ดขี องครอบครัว โรงเรียน และ ปฏบิ ัตติ ามกฎ และไมป่ ฏิบัติตาม ประเทศชาต กติกา และระเบียบของสังคม 3. ระบวุ ธิ กี ารปฏิบัตเิ พ่อื การเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องครอบครัว โรงเรยี นและประเทศชาติ 8 อารมณ์ 3.3.1 มวี ธิ ีสรา้ งความมนั่ คง 1. เหน็ ความสำคัญของการมี 4 ในอารมณข์ องตนเองไดอ้ ย่าง ความม่ันคงในอารมณ์ เหมาะสม 2. บอกวธิ สี รา้ งความมั่นคงใน อารมณ์ของตนได้อยา่ งเหมาะสม 3. ปฏบิ ตั ติ นในการสรา้ งความ มนั่ คงทางอารมณ์ของตน 9 คณุ ธรรมนำชวี ติ 3.3.2 มีคณุ ธรรมทเ่ี หมาะสม 1. อภปิ รายประโยชน์ ของการมี 4 กับวยั เช่น ซือ่ สัตย์ กตัญญู คุณธรรม กตเวที เออ้ื เฟอ้ื เผ่อื แผ่ มนี ำ้ ใจ 2. ระบุคุณธรรมของนกั เรยี น มีจิตสำนึกเพ่ือสว่ นรวม สามคั คี ในช่วงวยั ทีค่ วรมี ฯลฯ 3. มกี ารเรียนรวู้ ิธกี ารปฏิบตั ติ นที่ 3.4.5 มีจติ อาสาและกิจกรรม สะทอ้ นถึงการมีคุณธรรมที่ ที่เป็นประโยชนต์ อ่ สว่ นรวม เหมาะสมกับวัย

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 28 ท่ี เรื่อง จดุ ประสงค์ชั้นปี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน ชว่ั โมง 10 ิดใหด้ ไี ม่มี ปัญหา 4. แสดงพฤติกรรมท่ีสะท้อนถงึ 11 ไมม่ ใี คร การมีคณุ ธรรม เดือดร้อน 5. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่เี ปน็ ประโยชน์ 12 ความรว่ มมอื ตอ่ สังคม 3.4.1 รู้จกั วธิ ีการตัดสนิ ใจ 1. บอกกระบวนการในการ 3 และแกป้ ัญหาทถี่ กู ต้อง ตัดสนิ ใจและแก้ปญั หาตา่ งๆ อย่างเป็นระบบ 2. คิด วเิ คราะหห์ าสาเหตขุ อง ปญั หาได้ 3.กำหนดทางเลอื กในการ แกป้ ัญหาวเิ คราะห์ขอ้ ดี ข้อเสีย ของทางเลือกแต่ละทางเลือกได้ 3.4.4 ปฏบิ ตั ิกิจกรรมทที่ ำ 1. บอกการกระทำทีท่ ำให้ตนเอง 3 แล้วมคี วามสุขผอู้ นื่ ไม่เดือดร้อน มีความสขุ 2. วเิ คราะหบ์ ุคคลท่รี ับผลจาก การกระทำของตนเอง 3. สรปุ กจิ กรรมที่ควรปฏบิ ตั ิโดย ทำแล้วตนเองมีความสขุ และผอู้ น่ื ไม่เดือดร้อน 3.4.2 ให้ความร่วมมือและ 1. บอกประโยชนข์ องการให้ 3 ทำงานรว่ มกับผ้อู นื่ ได้อยา่ ง ความรว่ มมือกับหมู่คณะ สรา้ งสรรค์ 2. บอกพฤตกิ รรมในการทำงาน รว่ มกบั ผอู้ ืน่ อย่างสร้างสรรค์ 3. ปฏบิ ัติกจิ กรรมท่แี สดงถงึ การ ใหค้ วามรว่ มมอื กับผู้อ่ืน รวม 40

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 29 กิจกรรมนกั เรยี น

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 30 กิจกรรมนักเรยี น หลกั การ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมตามความถนัด ความสนใจ โดยเน้นเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ไม่เห็นแก่ตัว มีระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี มีความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกัน รู้จักการ แก้ปัญหา การตดั สนิ ใจ ความมีเหตผุ ล การช่วยเหลอื แบง่ ปนั เอ้อื อาทรและสมานฉนั ท์ วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื พฒั นาผู้เรียนให้มรี ะเบยี บวินัย มีความเปน็ ผู้นำ ผตู้ ามที่ดี มคี วามรบั ผดิ ชอบ 2. เพ่อื พฒั นาผูเ้ รยี นให้มที กั ษะการทำงานรว่ มกัน ร้จู ักการแกป้ ญั หา มีเหตผุ ล ตดั สินใจทเ่ี หมาะสม ช่วยเหลอื แบง่ ปัน เออื้ อาทรและสมานฉันท์ 3. สง่ เสรมิ สนบั สนุนใหผ้ เู้ รียนมคี ุณธรรม จริยธรรม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 4. ส่งเสรมิ และสนบั สนุนให้ผูเ้ รียนได้ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามความถนดั และความสนใจ ขอบข่าย การจดั กจิ กรรมนักเรียน มี 2 กจิ กรรม ดงั น้ี 1. กิจกรรมลกู เสอื - เนตรนารี 2. กิจกรรมชมุ นมุ

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 31 กจิ กรรมลกู เสือ-เนตรนารี

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 32 หลักสูตรการเรียนการสอนกิจกรรมลูกเสอื ในฐานะทีค่ ณะลูกเสอื แห่งชาติ (The National Scout Organization of Thailand: NSOT) เป็นสมาชิก ขององค์การลูกเสือโลก (World Organization of the Scout Movement: WOSM) จะต้องปฏิบัติตาม วัตถุประสงค์ หลักการ และวิธีการของการลูกเสือ ตามที่องค์การลูกเสือโลกได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดแล้วคณะ ลูกเสือแห่งชาติ ยังยึดมั่นในวัตถุประสงค์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติลูกเสือ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๘ และปฏิบัติตามข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ ว่าด้วยการปกครอง หลักสูตรและวิชาพิเศษ พ.ศ. ๒๕๐๙ การเรียนการสอนกิจกรรมลูกเสือ เดิมเป็นกิจกรรมเลือก ต่อมาได้แกไขเป็นกิจกรรมบังคับ และแก้ไขอีกคร้งั เป็น วชิ าบังคบั เรียน แต่เมอื่ ประเมนิ ผลแลว้ เห็นว่าไมป่ ระสบผลสำเรจ็ จงึ แกไขเปน็ กจิ กรรมบังคับ เลือก จนถึง พ.ศ. ๒๕๔๔ กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้กำหนดให้สถานศึกษาใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธคักราช ๒๕๔๔ เริ่ม ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ เป็นต้นไป โดยกำหนดให้กิจกรรมลูกเสือ ยุวกาชาด และผู้บำเพ็ญ ประโยชน์ อยใู่ นกลมุ่ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น โครงสร้างหลักสูตร ประเภท ระดับช้ัน วิชาแกน วชิ าพิเศษ สำรอง ป.๑ - ป.๓ เตรียมลูกเสอื สำรอง ดาวดวงท่ี ๑-๒-๓ วิชาพเิ ศษ ๑๘ วชิ า ใชว้ ธิ ี (อายุ ๘-๑๑ ปี) การฝึกอบรมและกจิ กรรมลกู เสือสำรอง จะต้อง บรู ณาการเขา้ กับวิชาสามัญ ใน จัดใหเ้ หมาะสมกบั วยั ของเด็ก โดยคำนงึ ถึง หลักสูตร พฒั นาการท้ังรา่ งกายและจติ ใจเป็นพื้นฐาน ไม่ ว่าเดก็ จะอยู่ขน้ั ใดกต็ าม สามัญ ป.๔ - ป.๖ ลกู เสอื ตรี-โท-เอก วิชาพิเศษ ๕๔ วิชา ใชว้ ธิ ี เร่มิ ฝกึ อบรมใหม้ ีความรบั ผิดชอบมากขึ้น เริ่มมี บูรณาการเข้ากบั วิชาสามัญใน (อายุ ๑๑-๑๖ ป) กจิ กรรมใชช้ วี ติ กลางแจ้งและการผจญภยั เน้น หลกั สตู ร ระบบหมู่ การเป็นผู้นำ รวมทั้งการบำเพญ็ ประโยชน์ทว่ั ไป

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 33 หลกั สูตร ลกู เสือสำรอง โรงเรยี นบา้ นบงึ ทบั ช้าง ดาวดวงท่ี ๑ ดาวดวงที่ ๒ ดาวดวงท่ี ๓

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 34 คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น กจิ กรรมนักเรียน (เตรยี มลกู เสอื สำรองและลูกเสอื สำรองดาวดวงท่ี ๑) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี ๑ เวลา 3๐ ชั่วโมง/ปี เปดิ ประชมุ กอง ดำเนินการตามกระบวนการของลกู เสือและจดั กิจกรรมโดยใหศ้ ึกษา วเิ คราะห์ วางแผน ปฏิบตั ิกิจกรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเนน้ ระบบหมู่และปฏิบัตกิ จิ กรรมตามคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสำรอง เร ี ย น ร ู ้ จ า ก ก า ร ค ิ ด แ ล ะ ปฏ ิ บั ต ิ จ ร ิ ง ใ ช้ ส ั ญ ล ั ก ษ ณ ์ ส ม าช ิ ก ล ู ก เส ื อ ส ำร อ ง ท ี ่ ม ี ค วา ม เป็ น เอ ก ล ั ก ษ ณ ์ ร ่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม ปดิ ประชมุ กอง ในเร่อื งต่อไปน้ี ๑. เตรียมลูกเสือสำรอง นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคาร พหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว เบื้องต้น คำปฏิญาณ กฎและคติพจนข์ องลูกเสอื สำรอง ๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ ความปลอดภัย บริการ ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิง การผูกเงือ่ น คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสำรอง เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ พจน์ของลกู เสอื สำรอง มีนิสยั ในการสังเกต จดจำ เชอื่ ฟงั และพง่ึ ตนเอง มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรม ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคงของชาติ และ สามารถประยุกตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งพาตนเองได้ ๒. มีความซอื่ สตั ย์ สุจริต มรี ะเบยี บวินัยและเห็นอกเห็นใจผูอ้ ่ืน ๓. บำเพ็ญตนเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๔. ทำการฝมี อื และฝึกฝนการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รกั ษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรมประเพณี ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ และ ความมน่ั คง ๖. อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมและลดภาวะโลกรอ้ น ๗. สามารถประยุกตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวม ๗ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 35 เน้ือหาในหลักสตู รเตรยี มลูกเสือสำรอง ดาวดวงท๑ี ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ สัปดาห์ที่ เนือ้ หาในหลักสูตร ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั หมายเหตุ กิจกรรมลกู เสือ (เตรียม ๑. เลา่ ประวัตกิ จิ การ ลกู เสือสำรอง ลูกเสือสำรอง) ๒. บอกถึงประโยชน์ของการเปน็ ลูกเสือสำรอง ๓. บอกถึงลกั ษณะการแต่งกายและเครือ่ งหมาย นทิ านเร่อื งเมาคลี ลูกเสือสำรอง ระเบยี บแถวเบือ้ งตน้ ๔. เล่านิทานเรือ่ งเมาคลอี ย่างย่อพอเข้าใจและตอบ การทำความเคารพ คำถามเก่ยี วกบั ตวั ละคร ๕. ปฏบิ ัตริ ะเบียบแถว ทา่ พกั ในลกั ษณะตา่ งๆ การจับมอื ซา้ ย ๖. ปฏบิ ัตใิ นท่ารูป แถวตา่ งๆ ตามกำหนด ๗. แสดงวธิ ีการเคารพประเภทลูกเสอื สำรอง รายบุคคล ๘. แสดงวธิ ีการเคารพประเภทลกู เสือสำรองเปน็ หมู่ ๙. เลา่ ถึงประวัติการ จับมอื ซ้าย

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 36 คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น กิจกรรมนักเรียน (ลูกเสอื สำรองดาวดวงที่ ๒) ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี ๒ เวลา 3๐ ชวั่ โมง/ปี เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือ สำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชมุ ชนด้วยความสนใจใฝร่ ูต้ ามวิถีเศรษฐกจิ พอเพียง สรุปผลและปฏิบตั ิกิจกรรม ปิดประชมุ กอง ในเรื่องต่อไปน้ี ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชน ท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถ่ิน กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ิ่งแวดล้อมลดภาวะโลกร้อน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำ กิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ่ิงแวดลอ้ ม ความมัน่ คงของชาติ และสามารถประยุกตใ์ ช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. มีนสิ ัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟงั และพง่ึ ตนเองได้ ๒. มคี วามซ่ือสตั ย์ สุจริต มีระเบยี บวนิ ยั และเห็นอกเหน็ ใจผู้อื่น ๓. บำเพ็ญตนเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ๔. ทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รกั ษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ และความมั่นคงของชาติ ๖. อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยกุ ต์ใช้หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวม ๖ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 37 เนื้อหาในหลักสูตร ลูกเสือสำรอง ดาวดวงที ๒ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๒ สปั ดาหท์ ี่ เนื้อหาในหลักสูตร ผลการเรยี นรูท้ ี่คาดหวงั หมายเหตุ อนามัย อนามยั ๑. บอกความสำคัญของการนอนหลับ ความสามารถในเชิงทักษะ ๒. บอกวิธกี ารปฐมพยาบาลเมอ่ื มีเลอื ดกำเดาออก การสำรวจ การคันหาธรรมชาติ ๓. แสดงวธิ ีการวา่ ยน้ำ กระโดดเชอื ก เดนิ ทรงตัว ม้วนตวั ขึ้นบนั ได เลีย้ งลกู บอล ความปลอดภัย บริการ ๔. บอกวิธกี ารสำรวจและเยือนสถานท่ที ่ี สนใจ ธงและประเทศตา่ ง ๆ ๕. บอกวธิ เี พาะเมล็ดพันธพุ ชื ๖. บอกชนิดของพชื ท่เี ป็นอาหารของสัตว์ การฝีมอื ๗. บอกสาเหตแุ ละวธิ ีปฏบิ ัตติ นเพอ่ื ไมใ่ หเ้ กิด กิจกรรมกลางแจง้ อบุ ตั ิเหตใุ นการเดินทางทางน้าํ การบนั เทิง ๘. บริการเกีย่ วกบั เหตุฉุกเฉิน การผกู เงอ่ื น ๙. บอกวิธีปฏิบตั ิในการชักธงชาติ และวธิ ีการเกบ็ รกั ษาธงชาติ คำปฏิญาณและกฎของ ๑๐. บอกลักษะธงคณะลกู เสือโลก ธงชาติญีป่ นุ่ ลกู เสือสำรอง มาเลเซีย สงิ คโปร์ และอนิ โดนเี ซีย วชิ าพิเศษ ๑๑. บอกวธิ ที ำว่าวพบั กระดาษ ทำไม้สงู สำหรบั การเดินทางไกล เดินทำนาฬิกาแดด ทำเขม็ ทิศจำลอง ๑๒. แสดงวธิ ีกอ่ ไฟปรุงอาหาร ดับไฟ และทำ ความ สะอาด ๑๓. ปฏิบัติกจิ กรรมแสดงกล เลา่ นทิ าน รอ้ งเพลง เล่นดนตรมี ว้ นตวั ในทา่ ตา่ ง ๆ ๑๔. บอกวิธผี ูกเงื่อนปวงสายธนู เงอ่ื นกระหวดั ไม้ บอกประโยชน์ของเงอ่ื นและวธิ กี ารเกบ็ เชอื ก ๑๕. ปฏิบตั ติ นตามคำปฏิญาณและกฎของ ลกู เสอื สำรอง ชอื่ วิชาพเิ ศษ (เรยี นในเวลาช้นั ละ ๒ วชิ า หรือใช้ วิธี บรู ณาการเขา้ กับกลมุ่ สาระการเรียนรู้) ผูส้ อนกำหนดเวลา/ กจิ กรรมตามความ เหมาะสม

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 38 คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กจิ กรรมนักเรียน (ลกู เสอื สำรองดาวดวงที่ ๓) ชนั้ ประถมศึกษาปีที ๓ เวลา 3๐ ชวั่ โมง/ปี เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือ สำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชมุ ชนด้วยความสนใจใฝร่ ู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบตั ิกิจกรรม ปิดประชมุ กอง ในเร่ืองตอ่ ไปนี้ ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชน ท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติส่งิ แวดล้อมลดภาวะโลกรอ้ น เพื่อให้มคี วามรู้ ความเข้าใจในกจิ กรรมลูกเสอื สำรองดาวดวงท่ี ๓ สามารถปฏิบตั ติ ามคำปฏิญาณ กฎและ คติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ ม ความมน่ั คงของชาติ และสามารถประยกุ ตใ์ ชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. มนี ิสยั ในการสังเกต จดจำ เชือ่ ฟงั และพ่งึ ตนเองได้ ๒. มีความซื่อสตั ย์ สุจรติ มรี ะเบียบวนิ ัย และเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน ๓. บำเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ๔. ทำการฝีมือและฝกึ ฝนทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ และความม่ันคงของชาติ ๖. อนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น สามารถประยุกตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งได้ รวม ๖ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 39 เน้ือหาในหลักสตู ร ลูกเสอื สำรอง ดาวดวงที ๓ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ สปั ดาหท์ ่ี เนือ้ หาในหลักสูตร ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั ขอ้ หมายเหตุ อนามยั ๑. จดั ทำถุงหรอื ที่เก็บอุปกรณป์ จั จุบันพยาบาล ๒. ขอความชว่ ยเหลอื เม่อื มีอุบตั เิ หตุ ความสามารถในเชงิ ทักษะ ๓. ปฐมพยาบาลเมื่อ การสำรวจ ลูกแมลงกัดต่อย ไฟไหม้ หรอื น้ำร้อนลวก การค้นหาธรรมชาติ ๔. สามารถวิ่งกระโดดไกลขวา้ งลูกบอล กระโดด ขา้ มเคร่ืองกีดขวาง ความปลอดภัย ๕. นับเวลาตามเข็มนาฬกิ า บริการ ๖. การวางแผนการเดินทาง ๗. เรียนรู้ สภาพ ดิน ฟา้ อากาศ ๘. จัดทำสมดุ ภาพหรอื สะสมเก่ียวกับแมลงหรือ สิง่ มชี วี ิตในสระน้ำ ๙. ปฏบิ ัติตามกฎจราจร ๑๐. เรยี นร้คู วามปลอดภยั ในบา้ น ๑๑. วางแผนในการดำเนนิ การให้บริการแก่ผอู้ ่ืน ธงและประเทศตา่ ง ๆ ๑๒. บอกลกั ษณะของธงลกู เสือประจำจังหวัด ธง คณะลูกเสือแพ่งชาติ ธงประเทศตา่ ง ๆ การฝีมอื ๑๓. ประดษิ ฐส์ ง่ิ ของจากเศษวัสดุ บอกวธิ ใี ช้และ เก็บรกั ษาเคร่ืองมอื กจิ กรรมกลางแจ้ง ๑๔. บอกทิศ วิธกี ารใชเ้ ขม็ ทิศ หาระยะทาง การบันเทงิ ๑๕. แสดงละคร รอ้ งเพลง ฟ้อนรำ ทำหุน่ และเชดิ หุ่น การผูกเงือ่ น ๑๖. ผกู เง่อื นบว่ งสายธนผู กู เงือ่ นกระหวดั ไม้ ๒ ชั้น ขดเชือกหรอื สายยาง คำปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื ๑๗. ทอ่ ง บอกความหมายปฏิบตั ติ ามคำ ปฏิญาณ สำรอง และกฎของลกู เสือสำรอง วชิ าพิเศษ ชอ่ื วิชาพิเศษ(เรียนในเวลาชนั้ ละ ๒ วิชาหรอื บรู ณาการเข้ากบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู)้ วิชาการเดินทางไกล ผสู้ อนกำหนดเวลา/ กจิ กรรมตามความ เหมาะสม

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 40 หลักสตู ร ลกู เสือสามญั โรงเรยี นบ้านบึงทบั ชา้ ง ลูกเสอื ตรี ลูกเสือโท ลูกเสือเอก

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 41 หลกั สตู รลูกเสอื สามัญ พ.ศ. ๒๕๒๕ จุดหมายของการลูกเสือสามัญคือ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาในทางร่างกาย สติปัญญา จิตใจ ศีลธรรมและ สังคมของลูกเสืออายุ ๑๑ ถึง ๑๖ ปี โดยถือว่าเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของแผนการฝึกอบรมที่ต่อเนื่องกันกับของ เด็กในวยั ตา่ งๆ ที่อยู่ในขบวนการลูกเสือ แผนการฟิกอบรมลูกเสือสามัญมีระดับสูงขึ้นตามวัย และสมรรถภาพของ เดก็ แตล่ ะคนกับมหี ลกั สตู รวชิ าพเิ ศษต่าง ๆ ดว้ ย ช้นั ของลูกเสอื สามญั แผนการฟิกอบรมลกู เสอื สามัญแบ่งออกเปน็ ๓ ชัน้ คือลกู เสือตรี ลกู เสือโท ลูกเสือเอก ลกู เสอื ตรี มีหลักสตู รโดยย่อดังนี้ ๑. ความรูเ้ กีย่ วกับขบวนการลกู เสือ ๒. คำปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื สามญั ๓. กิจกรรมกลางแจง้ ๔. ระเบียบแถว เมื่อสอบวชิ าตามหลักสตู รลกู เสือตรี ได้แล้วจงึ ไดเ้ ขา้ พิธปี ระจำกองและให้ได้รบั การฟิกอบรมชั้นสงู ตอ่ ไป ตามลำดับ ลกู เสอื โท มหี ลักสูตรโดยยอ่ ดังนี้ ๑. การรจู้ ักดูแลตนเอง ๒. การช่วยเหลือผู้อื่น ๓. การเดินทางไปยังสถานท่ีต่างๆ ๔. ทักษะในทางวชิ าลกู เสือ ๕. งานอดิเรกและเร่ืองทส่ี นใจ ๖. คำปฏิญาณและกฎของลกู เสือ ๗. ระเบยี บแถว ลูกเสือเอก มหี ลักสูตรโดยย่อดงั น้ี ๑. การพ่งึ ตนเอง ๒. การบรกิ าร ๓. การผจญภัย ๔. วชิ าช่างของลกู เสือ ๕. ระเบียบแถว การสอบวชิ าลกู เสอื ทกุ ชน้ั ให้ผู้กำกบั กองลูกเสือเป็นผู้ดำเนินการสอบ การสอบวชิ าลูกเสือตรี วชิ าลกู เสอื โท วิชาลูกเสือเอก ลูกเสือจะตอ้ งสอบวชิ าตามทกี่ ำหนด ไวิในหลกั สูตร สำหรบั แต่ละชน้ั ใหไ้ ดค้ รบทกุ วชิ าเสยี กอ่ นจงึ จะเลอ่ื นช้ันได้ ลูกเสือสามัญอาจทำงาน และสมัครสอบเพื่อขอรับเครื่องหมายลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ในระยะเวลา ๓ เดอื น กอ่ นทจ่ี ะเลือ่ นจากกองลกู เสอื สามัญไปอยู่กองลกู เสือสามญั ร่นุ ใหญ่

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 42 คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กจิ กรรมนกั เรียน (ลูกเสือสามัญ (ลูกเสือตรี)) ชั้นประถมศึกษาปที ี ๔ เวลา 3๐ ชั่วโมง/ปี เปิดประชุมกอง ดำเนนิ การตามกระบวนการของลูกเสอื และจัดกจิ กรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของ ลกู เสอื สามัญ เรยี นรจู้ ากการคดิ และปฏิบัติจริง ใชส้ ัญลกั ษณ์สมาชกิ ลูกเสือสามญั ท่ีมคี วามเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้และมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้เกี่ยวกับ กระบวนการลูกเสือ ประวัติของ Load Baden Powell พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกลา้ เจา้ อยู่หัว ววิ ัฒนาการของกระบวนการ ลูกเสอื ไทยและลูกเสอื โลก การทำความเคารพ การแสดงรหสั การ จับมือซา้ ย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถวทา่ มือเปลา่ ทา่ มือไมพ้ ลวง การใชส้ ญั ญามือและนกหวดี การต้ังแถว และการเรยี นแถว เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลกู เสอื สามญั มนี ิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟงั และพง่ึ ตนเอง มคี วามซ่ือสัตย์ สุจรติ มรี ะเบียบวินยั และ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ประโยชนแ์ ละสามารถประยุกตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. มนี สิ ัยในการสังเกต จดจำ เชือ่ ฟังและพ่ึงตนเองได้ ๒. มคี วามซอ่ื สัตย์สจุ ริต มีระเบยี บ วินัยและเหน็ อกเห็นใจผู้อ่ืน ๓. บำเพญ็ ตนเพื่อส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์ ๔. ทำการฝีมอื และฝกึ ฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ ๕. รกั ษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ และความมนั่ คงของชาติ ๖. อนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน ๗. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รวม ๗ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 43 กิจกรรมลูกเสือสามัญ วชิ าลูกเสอื ตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ สปั ดาห์ท่ี เน้อื หา ผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวัง หมายเหตุ การปฐมนเิ ทศ / การแตง่ กาย ปฏิบตั ิตนอยู่ในระบบหมู่ได้ แตง่ เครือ่ งแบบลูกเสอื สามญั ไดล้ ูกต้อง เข้าแถวและปฏบิ ัติตนในการเปดิ ประชมุ กองได้ ๑.ประวัตสิ งั เขปลอรด์ เบเดนพาวเวลส์ ๑.เล่าประวตั ิ ประวัตลิ อร์ด เบเดน พาว ๒.พระราชประวตั ิสังเขปของ เวลส์ อยา่ งย่อได้ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยูห่ ัว ๒.เลา่ พระราชประวตั ขิ องประวตั ขิ อง ๓.วิวฒั นาการของขบวนการลูกเสือไทย พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ วั และลูกเสอื โลก ๓.บอกพระราชกรณยี กจิ ของประวัตขิ อง ๕.การทำความเคารพการแสดงรหัส พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าฯ อยา่ ง การจับมอื ซา้ ย และคติพจนข์ องลูกเสือ น้อย ๒ ข้อ ๖.คำปฏญิ าณและกฎของลูกเสือสามญั ๔.บอกกำเนดิ ลูกเสอื ไทยได้ เขา้ ใจและยอมรบั คำปฏญิ าณและกฎ ๕.บอกวิวฒั นาการของลกู เสอื โลก และ ของลกู เสอื สามญั ลกู เสอื ไทยได้ ๖.แสดงความเคารพได้ถูกตอ้ ง ๗.แสดงรหัสและบอกความหมายได้ ถูกต้อง ๘.บอกความหมายของคติพจนข์ อง ลกู เสือสามญั ได้ ๗.ระเบยี บแถว ๙.ปฏิบัติตามสัญญาณมอื และสญั ญาณ - ท่ามือเปลา่ นกหวีดได้ - ท่าถือไม้พลอง ๑๐.เขา้ แถวรูปแถวต่าง ๆ ตามสัญญาณ - การใช้สญั ญาณมือและ สญั ญาณ มือได้ นกหวดี ๑๑.เข้าแถวรปู แถวตา่ ง ๆ ตาม สญั ญาณ การตงั้ แถวและการเรียกแถว มือได้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 44 สปั ดาหท์ ่ี เน้อื หา ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวัง หมายเหตุ ๗.กจิ กรรมกลางแจง้ ๑๒.ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมรว่ มกบั หมู่ลกู เสอื หรือกองลกู เสือนอกสถานทไ่ี ด้ ๑๓บอก มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมของหมูห่ รือกอง วธิ ใี ชม้ ดี และขวานอย่าง เหมาะสมกับ ลูกเสือนอกสถานท่ี งานได้ ๑๔.บอกวธิ ีเก็บรักษามดี และขวานได้ ๑๕.ผกู เงื่อนจากเชือกทม่ี ขี นาดเดยี วกัน และบอกประโยชน์ได้ อย่างนอ้ ย ๑ เงอ่ื น ๑๖.ผกู เงื่อนจากเชือกทม่ี ขี นาดตา่ งกนั และบอกประโยชนไ์ ด้ อย่างน้อย ๑ เงอ่ื น ๑๗.ผูกเงอื่ นด้วยเชือกกบั วสั ดอุ ยา่ งใด อย่างหนึ่งและบอกประโยชน์ได้ อย่าง น้อย ๑ เงื่อน ๑๘.ผูกแน่นแบบต่าง ๆ ได้ลกู ตอ้ ง และ มั่นคง ๑๙.บอกประโยชนข์ องการผกู แน่น แบบ ตา่ ง ๆ ได้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 45 คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กิจกรรมนกั เรยี น ( กจิ กรรมลูกเสอื สามญั (ลกู เสอื โท)) ชนั้ ประถมศึกษาปีที ๕ เวลา 3๐ ช่ัวโมง/ปี เปิดประชมุ กองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสอื และจัดกิจกรรมโดยให้ศกึ ษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของ ลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ภูมิ ปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ทักษะในทางวิชา ลูกเสือ การรจู้ ักดแู ลตนเอง การช่วยเหลือผอู้ น่ื การเดนิ ทางไปยงั สถานทต่ี า่ ง ๆ ทำงานอดิเรก และเรื่องทส่ี นใจ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลูกเสือสามัญ มีนิสยั ในการสงั เกต จดจำ เช่อื ฟงั และพึ่งตนเอง มคี วามซือ่ สัตย์ สุจรติ มีระเบียบวนิ ยั และ เห็นอกเหน็ ใจผู้อื่น บำเพญ็ ตนเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝมี ือและฝึกฝนการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตาม ความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ประโยชน์และสามารถประยุกต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. มีนิสยั ในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพงึ่ ตนเองได้ ๒. มีความซอ่ื สัตยส์ จุ รติ มรี ะเบยี บ วนิ ยั และเหน็ อกเหน็ ใจผูอ้ ่นื ๓. บำเพ็ญตนเพือ่ สง่ เสริมและสาธารณะประโยชน์ ๔. ทำการฝมี ือและฝกึ ฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ ๕. รักษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ และความมั่นคงของชาติ ๖. อนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน ๗. สามารถประยกุ ตใ์ ชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รวม ๗ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ห ลั ก สู ต ร กิ จ ก ร ร ม พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น พ . ศ . 2 5 6 5 | 46 กจิ กรรมลูกเสอื สามัญ วิชาลูกเสือโท ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ สปั ดาหท์ ี่ เนื้อหา ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั หมายเหตุ ปฐมนิเทศ ๑. ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นระบบหมไู่ ด้ ๒. ช้แี จงการเข้ารว่ มกิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ คำปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ ๑. บอกและปฏิบัติตามคำปฏญิ าณของ กฎของลกู เสือสามญั คำปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื ๒. วางแผนในอนาคตได้ ระเบียบแถว ระเบยี บแถว บอกและปฏิบัติตามคำปฏิญาณของกฎ การชว่ ยเหลือผู้อ่ืน ของลูกเสือสามญั ปฏบิ ตั ิตนท่ามอื เปล่าและท่ามไี ม้พลอง การชว่ ยเหลือผอู้ ืน่ (ตอ่ ) ตามระเบียบแถวได้ การรู้จกั ดูแลตนเอง จดั รปู ขบวนสวนสนามและปฏิบัติตาม ขน้ั ตอนการสวนสนามไดถ้ กต้อง การรู้จกดูแลตนเอง (ต่อ) การรู้จกดูแลตนเอง (ตอ่ ) ๑. แสดงวธิ ปี ฐมพยาบาลบาดแผลท่เี กดิ การเดนิ ทางไปยงั สถานทต่ี ่าง ๆ จากแมลงหรอื สัตวม์ ีพษิ กดั ต่อยได้ ๒. แสดงวธิ ปี ฐมพยาบาลเมอื ถูกแดด เผา การเดนิ ทางไปยงั สถานที่ตา่ ง ๆ (ตอ่ ) ไฟไหม้ นา้ํ ร้อนลวก และเป็น ลมได้ การเดินทางไปยงั สถานท่ตี ่าง ๆ (ตอ่ ) ๑. บอกช่อื สถานท่สี ำคัญในทอ้ งถิ่นได้ ๒. ช้ีแนะนำทางไปยงั สถานท่ีสำคญั ใน ท้องถ่ินได้ ๑. แสดงวธิ บี รรจสุ ิง่ ของลงเครือ่ งหลัง ได้ ๒. เตรียมเครอื่ งปัจจุบนั พยาบาลเปน็ ส่วนตัวสำหรับเดนิ ทางไกลได้ กอ่ ไฟปรงุ เครอื่ งดื่มรอ้ น และปรุงอาหาร ง่าย ๆ นอกสถานทไ่ี ด้ ๑. กางเต็นท์และเกบ็ เตน็ ท์ได้ ๒. อยคู่ ่ายพกั แรมอยา่ งน้อย ๑ คนื ได้ ๑. บอกชอ่ื ทศิ ท้ัง ๘ ไดถ้ กู ต้อง ๒. บอกวธิ ใี ช้เข็มทิศได้ ๓. บอกเคร่ืองหมายตา่ งๆในแผนท่ไี ด้ ๔. หาทิศทางโดยใชแ้ ผนท่แี ละเข็มทิศ ได้ ๑. เดนิ ทางไกลไป - กลบั ตาม ระยะทาง ๑๐ กโิ ลเมตร ได้ ๒. กฎและเครื่องหมายจราจร ๑. เลอื กศกึ ษาประเทศทนี่ า่ สนใจได้ ๑ ประเทศ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook