Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ภัยพิบัติทางธรรมชาติ

Published by ananya.waen, 2022-03-07 12:05:19

Description: Yellow Photo Natural Disaster Emergency Response Poster

Search

Read the Text Version

NATIONAL DISASTER ภัยพิบัติ ทางธรรมชาติ



คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) นี้ จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการเรียนการสอนใน รายวิชาวิทยาศาสตร์ การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ เป็นเนื้อหาเกี่ยวับภัยพิบัติต่าง ๆ ในโลก ผู้จัดทำได้รวบรวมข้อมูลและการเรียนรู็จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ ภายในสถานศึกษา และแหล่งเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้นักเรียนได้มีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขึ้น นำ เสนอในรูปแบบที่น่าสนใจ มีภาพประกอบให้นักเรียนได้เห็นภาพจริง และประกอบในการเรียน รู้ของนักเรียนได้ดียิ่งขึ้น ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์แก่นักเรียนและผู้สนใจ หากผิดพลาด ประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ ผู้จัดทำ นางสาวไซเคาะฮ์ เดชอรัญ นางสาวอณัญญา หมาดเหยด

สารบัญ หน้าที่ เรื่อง 1 2 ความหมายภัยพิบัติทางธรรมชาติ 3 ธรณีพิบัติ (Geological Disasters) 4 อุทกภัย (Hydrological Disasters) 5 ภัยพิบัติทางสภาพอากาศ (Meteorological Disasters) 6 อัคคีภัย (Conflagration) 7 ภัยพิบัติจากอวกาศ (Space Disasters) 8 วิดีโอภัยธรรมชาติและการทดลองการเกิดภัยธรรมชาติ คำถามชวนคิด

1 ภัยพิ บัติทางธรรมชาติ (Natural Disaster) คือ ภัยอันตรายที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อเกิดขึ้นจะก่อให้เกิด ความเสียหายเป็นวงกว้างต่อชีวิตและทรัพย์สิน ต่อสภาพความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ ตลอดจนสิ่งแวดล้อมโดยรวม ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ได้แก่ ธรณีพิบัติภัย อุทกภัย วาตภัยหรือภัยทางสภาพอากาศ อัคคีภัยและภัยพิบัติจากอวกาศ

2 ธรณีพิบัติภัย (Geological Disasters) เป็นภัยที่เกิดจากพื้นดิน หรือใต้แผ่นเปลือกโลก เช่น แผ่นดินไหว (Earthquake) ดินถล่ม (Landslide) หิมะถล่ม (Avalanche) หลุมยุบ (Sinkhole) ภูเขาไฟระเบิด (Volcanic Eruption) ภาพ : shutterstock.com ธรณีพิบัติภัยเป็นภัยธรรมชาติที่รุนแรงมาก ยากที่จะป้องกันหรือหลีกหนีได้ทัน เมื่อเกิดแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด นอกจากชีวิตของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนจะต้องสูญเสีย ไปแล้ว สภาพภูมิประเทศยังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากอีกด้วย เทือกเขาสูง ๆ ของโลกใบนี้ ก็เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และภูเขาไฟปะทุในครั้งบรรพกาล ถึงแม้ว่าจะก่อความเสียหายอย่างมากมาย แต่ภายหลังจากเหตุการณ์สงบลง เถ้า ถ่านและแร่ธาตุจากลาวาที่ไหลออกมาก็มอบความอุดมสมบูรณ์คืนแก่ผืนดิน ให้เหล่าสิ่งมี ชีวิตที่เหลือรอดได้ใช้ประโยชน์นานัปการ

3 ภาพ : shutterstock.com อุทกภัย (Hydrological Disasters) เป็นภัยที่เกิดจากน้ำ ทั้งน้ำป่า และน้ำทะเล เช่น น้ำท่วม (Flood) คลื่นยักษ์ (Tsunami) อุทกภัยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้ไม่รุนแรงเท่ากับธรณีพิบัติภัย แต่ก็ สร้างความเสียหายอย่างมาก น้ำท่วมฉับพลัน ทำให้สัตว์เล็กสัตว์น้อยล้ม ตาย คนต้องอพยพทิ้งบ้านเรือน ถ้าน้ำท่วมเป็นเวลานาน โรคระบาดมักจะ ตามมาภายหลัง เนื่องจากน้ำขังจนเน่า น้ำป่าไหลหลากมีพลังทำลายบ้าน เรือนที่กีดขวางทางน้ำได้ในทันที บางครั้งเกิดโคลนถล่มตามมา แต่เมื่อน้ำ ลดลง ผืนดินก็อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก พืชเจริญเติบโตได้ดี เพราะได้รับแร่ธาตุอย่างเต็มที่ ก่อให้เกิดระบบนิเวศใหม่ที่อุดมสมบูรณ์

4 ภาพ : shutterstock.com ภัยพิบัติทางสภาพอากาศ (Meteorological Disasters) เป็นภัยที่เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน มีตัวแปรคืออุณหภูมิและความกดอากาศ เช่น วาตภัย (Strom) ได้แก่ พายุหมุนเขตร้อนที่เกิดในทะเล (Tropical Storm) พายุแนวตั้งที่เกิดบนบกอย่างพายุงวงช้างหรือทอร์นาโด (Tornado) ฟ้าผ่า (Lightning) พายุลูกเห็บ (Hailstorm) พายุหิมะ (Blizzard) นอกจากวาตภัยแล้ว ก็ยังมีภัยที่เกิดจาก สภาพอากาศแปรปรวน เช่น คลื่นความร้อน (Heat Wave) คลื่นความเย็น (Cold Wave) และภัยแล้ง (Drought) พายุหมุนเขตร้อน เรียกชื่อตามสถานที่เกิดในท้องทะเล เช่น พายุไต้ฝุ่น (Typhoon) คือพายุหมุนเขตร้อนความเร็วลมสูงที่เกิดในแถบทะเลจีนใต้และมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก พายุไซโคลน (Cyclone) เกิดขึ้นในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดีย และพายุเฮอริเคน (Hurricane) คือพายุที่เกิดในแถบมหาสมุทรแอตแลนติกและแปซิฟิกตะวันออก พายุที่มี กำลังและความเร็วลมมากระดับนี้ สามารถพัดทำลายที่อยู่อาศัยของประชากรในพื้นที่ที่มัน พัดผ่าน เกิดความเสียหายรุนแรง โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดกับสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์ แต่ความเสียหายต่อระบบนิเวศในธรรมชาติกลับไม่มากนัก พายุยังเป็นตัวพัดพาเอาความชุ่ม ชื้นมามอบให้แก่ผืนป่า ผิวดิน และแหล่งน้ำอีกด้วย

5 อัคคีภัย (Conflagration) เป็นภัยที่เกิดจากไฟ เช่น ไฟป่า (Wildfire) ไฟไหม้ป่า เป็นภัยที่บางครั้งก็เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากความแห้งแล้ง ต้นไม้ เกิดการเสียดสีกันจนเกิดประกายไฟ บางครั้งก็เกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ ทั้งโดยทางตรงและ ทางอ้อม หลายครั้งกินเวลานานจนขยายเป็นวงกว้าง สิ่งมีชีวิตล้มตายแทบจะทันทีที่ไฟ ลามไปถึง โดยเฉพาะสัตว์ที่กำลังทำรังวางไข่ สัตว์ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และแน่นอนที่สุด ต้นไม้ทุกต้นที่ไฟลุกลามไปถึง นอกจากระบบนิเวศที่ล่มสลายลงทันที ไฟป่ายังก่อให้เกิดฝุ่นควันลอยไปในอากาศ สร้างมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสัตว์และมนุษย์ที่อยู่ไกลออกไปอีกด้วย อย่างไรก็ตามแต่ เมื่อ มอดดับลง สิ่งที่ไฟป่าเหลือทิ้งไว้ก็คือ เถ้าถ่านและปุ๋ยอันอุดมสมบูรณ์แก่ผืนดิน ความชื้น ที่ถูกขับออกไปตอนไฟไหม้ ก็รวมตัวกันก่อตัวเป็นเมฆฝน หยดลงมาคืนความชุ่มฉ่ำให้แก่ ดิน เพื่อรอให้เมล็ดพันธุ์ที่เหลือรอด ได้หยั่งรากเจริญเติบโตเป็นผู้ผลิต เริ่มต้นระบบนิเวศ ใหม่อีกครา ภาพ : shutterstock.com

6 ภัยพิบัติจากอวกาศ (Space Disasters) เป็นภัยที่มาจากภายนอกโลก เช่น อุกกาบาตพุ่งชน (Impact Event) พายุสุริยะ (Solar Flare) ภัยจากอวกาศ เช่น อุกกาบาตพุ่งชนโลก หรือ พายุสุริยะ ที่ก่อให้เกิดมหันตภัยครั้งร้ายแรง เป็นทฤษฎีที่ถูกใช้อธิบายถึง การสูญพันธุ์ของสัตว์ขนาดมหึมาที่เคยครองโลกในอดีตกาลนับ ล้านปีอย่างไดโนเสาร์ ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ อีกครั้ง อาจไม่ได้ หมายถึงเพียงแค่การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนเท่านั้น แต่อาจหมายถึงการสูญสิ้นอารยธรรมของมนุษยชาติเลยทีเดียว บางครั้งภัยธรรมชาติก็เกิดต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ เช่น เกิดภัย แล้งยาวนาน ทำให้พืชล้มตายจำนวนมาก สัตว์กินพืชและสัตว์กิน เนื้อก็อดอยากล้มตายตามเป็นทอด ๆ เกิดเป็นภาวะทุพภิกขภัย หรือภัยจากความอดอยาก แล้วตามมาด้วยภัยจากโรคระบาด อีกทอดหนึ่ง ซึ่งคร่าสิ่งมีชีวิตไปมากมาย ภัยพิบัติทางธรรมชาติมีพลังทำลายล้างอย่างที่มนุษย์ไม่อาจรับมือได้ แต่ทว่า ในปัจจุบัน มนุษย์กลับมีส่วนในการเร่งให้เกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงเสียเอง โดยการ บริโภคทรัพยากรอย่างไม่มีขีดจำกัด การแผ้วถาง ตัดไม้ทำลายป่า และการทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูลที่ย่อยสลายกลับคืนสู่ระบบนิเวศตามธรรมชาติไม่ได้ จนกลายเป็นภาระแก่ โลก บ้านที่เราอาศัยอยู่เอง ภาพ : shutterstock.com

7 วิดีโอภัยธรรมชาติและการทดลอง การเกิดภัยธรรมชาติ Scan me

8 คำถามชวนคิด 1. สึนามิ เป็นภัยธรรมชาติที่มักเกิดเมื่อใด A) แผ่นดินไหวรุนแรงใต้ท้องทะเล B) แผ่นเปลือกโลกเลื่อนออกจากกัน C) แผ่นดินไหวพร้อมกับภูเขาไฟระเบิด D) พายุหมุนอย่งฉับพลัน บริเวณมหาสมุทร 2. ข้อใดไม่จัดว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เกิดอุทกภัย A) น้ำทะเลหมุน B) การสร้างเขื่อน C) พื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม D) ฝนตกหนักและต่อเนื่องยาวนาน 3. แผ่นดินถล่มมีสาเหตุสำคัญหลายประการ ยกเว้นข้อใด A) การดูดทรายจากแม่น้ำ B) การขุดบ่อน้ำบาดาล C) ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง D) ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 4. การเกิดไฟป่าจะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติในข้อใดน้อยที่สุด A) อากาศ B) น้ำ - สัตว์เลี้ยง C) กล้าไม้เล็ก ๆ D) ดิน - สัตว์ป่า 5. การเกิดวาตภัยในข้อใด ไม่สัมพันธ์กับแหล่งที่เกิด A) พายุไซโคลนเอลลี - ออสเตรเลีย B) พายุไซโคลนนาร์กีส - พม่า ตรวจสอบคำตอบได้ที่นี่ C) พายุโซนร้อน ปาบึก - ไทย D) พายุไต้ฝุ่นกิสนา - ฟิลิปปินส์

ผู้จัดทำ นางสาวไซเคาะฮ์ เดชอรัญ นางสาวอณัญญา หมาดเหยด 6110941111 6110941124 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะครุศาสตร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook