Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษา 2565

หลักสูตรสถานศึกษา 2565

Published by NATHDANAI, 2023-04-21 02:23:10

Description: หลักสูตรสถานศึกษา 2565

Search

Read the Text Version

๔๗ ส ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ส ๒.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ส ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ส ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ส ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ส ๕.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ รวมทั้งหมด ๒๗ ตัวชวี้ ัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๔๘ คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษา ฯ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ศึกษาและลงมอื ปฏิบัติในเรอื่ งบอกพทุ ธประวตั ิหรือประวัตขิ องศาสดาทีต่ นนับถอื โดยสังเขป ช่นื ชม และบอกแบบอย่างการดำเนินชวี ิตและขอ้ คดิ จากประวัตสิ าวก ชาดก เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่างตามที่ กำหนด บอกความหมาย ความสำคญั และเคารพพระรตั นตรัย ปฏบิ ัตติ ามหลกั ธรรมโอวาท ๓ ใน พระพทุ ธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถือตามที่กำหนด เห็นคุณคา่ และสวดมนต์แผเ่ มตตา มสี ตทิ ี่ เป็นพน้ื ฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนาหรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ตี นนับถือตามทก่ี ำหนด บำเพ็ญประโยชนต์ อ่ วัด หรือศาสนสถานของศาสนาที่ตนนับถือแสดงตนเปน็ พุทธมามกะหรือแสดงตนเปน็ ศา สนกิ ชนของศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ตั ติ นในศาสนพธิ ี พธิ กี รรมและวันสำคัญทางศาสนาตามที่กำหนดได้ถูกต้อง ศึกษาหลักการ แนวทางปฏิบตั ใิ นเรอ่ื ง บอกประโยชน์และปฏิบตั ิตนเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของครอบครัวและ โรงเรียนยกตัวอยา่ งความสามารถและความดีของตนเอง ผู้อน่ื และบอกผลจากการกระทำนน้ั บอกโครงสร้าง บทบาทและหน้าท่ขี องสมาชกิ ในครอบครัวและโรงเรยี น ระบบุ ทบาท สทิ ธหิ นา้ ที่ของตนเองในครอบครวั และ โรงเรยี นมีส่วนรว่ มในการตัดสินใจและทำกจิ กรรมในครอบครัวและโรงเรยี นตามกระบวนการประชาธปิ ไตย ระบุสินคา้ และบรกิ ารท่ใี ช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวันยกตัวอย่างการใชจ้ า่ ยเงนิ ในชีวติ ประจำวันทีไ่ ม่ เกินตัวและเหน็ ประโยชนข์ องการออมยกตวั อย่างการใช้ทรัพยากรในชีวติ ประจำวนั อย่างประหยดั อธบิ าย เหตผุ ลความจำเปน็ ที่คนต้องทำงานอย่างสุจริต ศกึ ษาเร่ือง แยกแยะสิ่งต่าง ๆ รอบตวั ทเ่ี กดิ ข้นึ เองตามธรรมชาตแิ ละท่มี นุษย์สรา้ งข้ึน ระบุ ความสัมพนั ธข์ องตำแหนง่ ระยะ ทศิ ของสิง่ ต่าง ๆ รอบตัว ระบทุ ศิ หลักและทต่ี ้งั ของส่งิ ต่าง ๆ ใชแ้ ผนผังง่าย ๆ ในการแสดงตำแหนง่ ของสิง่ ต่าง ๆ ในหอ้ งเรียนสังเกตและบอกการเปล่ียนแปลงของสภาพอากาศในรอบวัน บอกส่ิงตา่ ง ๆ ทีเ่ กิดตามธรรมชาตทิ ่สี ่งผลต่อความเปน็ อยขู่ องมนุษยม์ ีสว่ นร่วมในการจัดระเบียบสง่ิ แวดล้อม และชน้ั เรยี นโดยใหผ้ ู้เรียนฝึกการสังเกต ตอบคำถามเชิงวิเคราะห์และสรุปความรทู้ ี่ได้เป็นแผนผังความคิด กระตุ้นให้แสดงความคดิ เห็นอยา่ งหลากหลาย เพื่อรว่ มกนั หาแนวทางปฏิบัตทิ ี่ถูกต้อง เหมาะสม ส่งเสริมการ ทำงานกล่มุ เพื่อพัฒนาทกั ษะทางสังคม นำไปส่กู ารยอมรบั และเหน็ คณุ คา่ ของตนเองและผู้อ่นื และตระหนักถงึ การปฏบิ ัตติ นในฐานะท่เี ปน็ ส่วนหนงึ่ ของสังคมประชาธิปไตยปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ศาสนาที่ตนนบั ถอื มีแนวคิดที่ เหมาะสมในการดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งพอเพียงและมีความเข้าใจสภาพภูมศิ าสตรร์ อบตวั เลือกใช้และอนรุ ักษ์ ส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งยัง่ ยนื โดยให้ผเู้ รยี นฝกึ การสังเกต ตอบคำถามเชิงวิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้ท่ีไดเ้ ปน็ แผนผัง ความคิด กระต้นุ ให้แสดงความคดิ เห็นอย่างหลากหลาย เพ่ือรว่ มกนั หาแนวทางปฏบิ ตั ิท่ีถูกตอ้ ง เหมาะสม สง่ เสริมการทำงานกลุ่มเพือ่ พัฒนาทักษะทางสงั คม นำไปสู่การยอมรับและเห็นคณุ ค่าของตนเองและผอู้ ่ืน และ ตระหนักถึงการปฏบิ ัตติ นในฐานะที่เป็นส่วนหนงึ่ ของสงั คมประชาธิปไตย ปฏบิ ัติตนตามหลกั ศาสนาทตี่ นนับถอื มแี นวคิดทเ่ี หมาะสมในการดำเนนิ ชีวิตอย่างพอเพยี ง และมีความเข้าใจสภาพภมู ิศาสตร์รอบตัว เลือกใช้และ อนุรักษ์สิ่งแวดลอ้ มอยา่ งยงั่ ยืน ตัวช้วี ดั ส ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗ ส ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ส ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๔๙ ส ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ส ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ส ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ส ๕.๑ ป.๓/๑ ส ๕.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕ ป.๓/๖ รวมทั้งหมด ๓๐ ตัวชี้วัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๕๐ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษา ฯ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ศึกษาและลงมือปฏิบตั ใิ นเร่ืองบอกพุทธประวตั ิหรือประวตั ิของศาสดาท่ีตนนบั ถือโดยสงั เขป ชื่นชม และบอกแบบอยา่ งการดำเนินชวี ติ และข้อคิดจากประวัตสิ าวก ชาดก เรอื่ งเลา่ และศาสนิกชนตัวอยา่ งตามท่ี กำหนด บอกความหมาย ความสำคัญและเคารพพระรตั นตรยั ปฏบิ ตั ิตามหลักธรรมโอวาท ๓ ใน พระพทุ ธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาทตี่ นนับถือตามทีก่ ำหนด เหน็ คุณค่าและสวดมนตแ์ ผเ่ มตตา มสี ติท่ี เป็นพื้นฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนาหรือการพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาทีต่ นนบั ถือตามทก่ี ำหนด บำเพญ็ ประโยชนต์ อ่ วดั หรือศาสนสถานของศาสนาทตี่ นนับถอื แสดงตนเป็นพุทธมามกะหรอื แสดงตนเปน็ ศา สนิกชนของศาสนาทต่ี นนับถือ ปฏบิ ตั ติ นในศาสนพธิ ี พธิ ีกรรมและวันสำคญั ทางศาสนาตามทก่ี ำหนดได้ถูกต้อง ศกึ ษาหลักการ แนวทางปฏิบัติในเร่ือง บอกประโยชนแ์ ละปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของครอบครัวและ โรงเรียนยกตัวอย่างความสามารถและความดีของตนเอง ผู้อนื่ และบอกผลจากการกระทำน้ัน บอกโครงสร้าง บทบาทและหนา้ ทขี่ องสมาชกิ ในครอบครัวและโรงเรยี น ระบบุ ทบาท สทิ ธหิ น้าท่ขี องตนเองในครอบครวั และ โรงเรียนมีสว่ นรว่ มในการตดั สินใจและทำกิจกรรมในครอบครัวและโรงเรยี นตามกระบวนการประชาธิปไตย ระบสุ นิ ค้าและบรกิ ารทใ่ี ช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวันยกตวั อย่างการใช้จา่ ยเงินในชีวิตประจำวนั ที่ไม่ เกินตวั และเห็นประโยชน์ของการออมยกตวั อยา่ งการใชท้ รัพยากรในชีวิตประจำวนั อยา่ งประหยดั อธิบาย เหตผุ ลความจำเป็นท่คี นต้องทำงานอย่างสุจริตศึกษาเร่อื ง แยกแยะสงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตัวท่ีเกิดขน้ึ เองตามธรรมชาติ และทีม่ นุษยส์ รา้ งขึน้ ระบคุ วามสัมพันธ์ของตำแหนง่ ระยะ ทิศของสง่ิ ตา่ ง ๆ รอบตัว ระบุทิศหลกั และทต่ี ง้ั ของ ส่ิงต่าง ๆ ใชแ้ ผนผงั ง่าย ๆ ในการแสดงตำแหน่งของสงิ่ ตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรยี นสังเกตและบอกการเปลี่ยนแปลงของ สภาพอากาศในรอบวนั บอกสงิ่ ต่าง ๆ ท่เี กิดตามธรรมชาติทส่ี ่งผลต่อความเปน็ อยู่ของมนษุ ย์มีส่วนร่วมในการ จัดระเบยี บสงิ่ แวดล้อมและชัน้ เรยี นโดยให้ผู้เรียนฝึกการสงั เกต ตอบคำถามเชงิ วิเคราะห์และสรุปความรทู้ ี่ได้ เป็นแผนผงั ความคิดกระต้นุ ให้แสดงความคดิ เหน็ อย่างหลากหลาย เพอ่ื รว่ มกันหาแนวทางปฏิบัติท่ีถกู ต้อง เหมาะสม สง่ เสรมิ การทำงานกล่มุ เพ่ือพัฒนาทกั ษะทางสังคม นำไปส่กู ารยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองและ ผ้อู ื่น และตระหนกั ถึงการปฏิบตั ติ นในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมประชาธิปไตยปฏิบัตติ นตามหลักศาสนาที่ ตนนับถือ มีแนวคดิ ทีเ่ หมาะสมในการดำเนินชวี ิตอยา่ งพอเพยี งและมีความเขา้ ใจสภาพภูมศิ าสตร์รอบตวั เลอื กใชแ้ ละอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ มอย่างยั่งยนื โดยใหผ้ ู้เรียนฝกึ การสงั เกต ตอบคำถามเชงิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ทไ่ี ด้เป็นแผนผังความคิด กระต้นุ ให้แสดงความคดิ เห็นอย่างหลากหลาย เพอ่ื ร่วมกันหาแนวทางปฏบิ ตั ิที่ ถกู ต้อง เหมาะสม สง่ เสริมการทำงานกลุ่มเพ่ือพัฒนาทักษะทางสงั คม นำไปส่กู ารยอมรบั และเห็นคุณค่าของ ตนเองและผู้อ่ืน และตระหนักถงึ การปฏบิ ตั ติ นในฐานะทเ่ี ป็นส่วนหน่ึงของสงั คมประชาธิปไตย ปฏิบัติตนตาม หลกั ศาสนาท่ีตนนับถอื มีแนวคดิ ที่เหมาะสมในการดำเนนิ ชีวติ อย่างพอเพยี ง และมคี วามเขา้ ใจสภาพ ภมู ิศาสตรร์ อบตวั เลอื กใชแ้ ละอนุรกั ษส์ ง่ิ แวดล้อมอยา่ งยัง่ ยนื ตัวชว้ี ดั ส ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ส ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ส ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕ ส ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๕๑ ส ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ส ๓.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ส ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ส ๕.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ รวมทั้งหมด ๒๙ ตัวชี้วัด หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๕๒ คำอธิบายรายวชิ า กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา ฯ เวลา ๘๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ศกึ ษาและลงมือปฏบิ ตั ใิ นเรื่องบอกพทุ ธประวตั หิ รือประวตั ิของศาสดาท่ีตนนับถือโดยสังเขป ชื่นชม และบอกแบบอยา่ งการดำเนินชีวติ และข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเลา่ และศาสนกิ ชนตัวอยา่ งตามท่ี กำหนด บอกความหมาย ความสำคญั และเคารพพระรัตนตรยั ปฏิบัติตามหลักธรรมโอวาท ๓ ใน พระพุทธศาสนาหรือหลกั ธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถือตามท่ีกำหนด เห็นคุณคา่ และสวดมนตแ์ ผ่เมตตา มสี ตทิ ี่ เป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนาหรือการพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาทีต่ นนับถือตามทก่ี ำหนด บำเพญ็ ประโยชน์ตอ่ วดั หรือศาสนสถานของศาสนาท่ีตนนับถือแสดงตนเปน็ พุทธมามกะหรอื แสดงตนเป็นศา สนิกชนของศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตนในศาสนพธิ ี พธิ ีกรรมและวนั สำคัญทางศาสนาตามท่ีกำหนดได้ถกู ต้อง ศึกษาหลักการ แนวทางปฏบิ ัตใิ นเรื่อง บอกประโยชนแ์ ละปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกทด่ี ีของครอบครวั และ โรงเรียนยกตัวอยา่ งความสามารถและความดีของตนเอง ผู้อื่นและบอกผลจากการกระทำนั้น บอกโครงสรา้ ง บทบาทและหนา้ ทข่ี องสมาชกิ ในครอบครวั และโรงเรียน ระบุบทบาท สิทธหิ นา้ ที่ของตนเองในครอบครัวและ โรงเรียนมสี ว่ นรว่ มในการตดั สินใจและทำกิจกรรมในครอบครัวและโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย ระบสุ ินค้าและบริการที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั ยกตวั อย่างการใช้จ่ายเงนิ ในชีวติ ประจำวนั ทีไ่ ม่ เกินตวั และเหน็ ประโยชน์ของการออมยกตัวอยา่ งการใช้ทรัพยากรในชวี ิตประจำวันอย่างประหยดั อธบิ าย เหตุผลความจำเปน็ ท่ีคนต้องทำงานอย่างสจุ ริตศกึ ษาเรอื่ ง แยกแยะสง่ิ ตา่ ง ๆ รอบตัวทเ่ี กิดข้นึ เองตามธรรมชาติ และท่มี นุษย์สรา้ งขนึ้ ระบุความสมั พนั ธ์ของตำแหนง่ ระยะ ทศิ ของส่งิ ต่าง ๆ รอบตัว ระบุทิศหลกั และทีต่ งั้ ของ ส่ิงต่าง ๆ ใชแ้ ผนผังงา่ ย ๆ ในการแสดงตำแหน่งของส่ิงต่าง ๆ ในห้องเรยี นสังเกตและบอกการเปลย่ี นแปลงของ สภาพอากาศในรอบวัน บอกสงิ่ ตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดตามธรรมชาติทีส่ ง่ ผลตอ่ ความเปน็ อยขู่ องมนุษย์มสี ว่ นร่วมในการ จัดระเบยี บสงิ่ แวดล้อมและชนั้ เรียนโดยให้ผ้เู รียนฝึกการสังเกต ตอบคำถามเชิงวิเคราะห์และสรปุ ความรทู้ ่ีได้ เป็นแผนผังความคิดกระตนุ้ ให้แสดงความคดิ เห็นอยา่ งหลากหลาย เพือ่ รว่ มกันหาแนวทางปฏบิ ตั ทิ ่ีถกู ต้อง เหมาะสม สง่ เสรมิ การทำงานกล่มุ เพื่อพฒั นาทักษะทางสังคม นำไปสูก่ ารยอมรับและเห็นคุณคา่ ของตนเองและ ผ้อู นื่ และตระหนกั ถึงการปฏิบตั ติ นในฐานะท่ีเป็นส่วนหน่งึ ของสังคมประชาธิปไตยปฏิบัตติ นตามหลกั ศาสนาที่ ตนนับถือ มีแนวคดิ ท่เี หมาะสมในการดำเนนิ ชีวิตอย่างพอเพยี งและมีความเขา้ ใจสภาพภมู ิศาสตร์รอบตวั เลือกใช้และอนรุ ักษ์สิง่ แวดลอ้ มอย่างยง่ั ยืน โดยให้ผูเ้ รียนฝกึ การสังเกต ตอบคำถามเชิงวิเคราะห์และสรุป ความรู้ทีไ่ ด้เปน็ แผนผังความคิด กระตุ้นให้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย เพ่อื ร่วมกันหาแนวทางปฏบิ ตั ิท่ี ถูกต้อง เหมาะสม ส่งเสรมิ การทำงานกลุ่มเพ่ือพฒั นาทักษะทางสงั คม นำไปสกู่ ารยอมรับและเหน็ คุณค่าของ ตนเองและผอู้ ื่น และตระหนักถงึ การปฏิบัตติ นในฐานะท่เี ป็นสว่ นหนงึ่ ของสังคมประชาธิปไตย ปฏบิ ัติตนตาม หลกั ศาสนาทตี่ นนับถอื มีแนวคดิ ทีเ่ หมาะสมในการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง และมคี วามเข้าใจสภาพ ภมู ิศาสตรร์ อบตัว เลอื กใช้และอนรุ กั ษส์ งิ่ แวดล้อมอยา่ งยง่ั ยนื ตัวช้ีวัด ส ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ส ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ส ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ส ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๕๓ ส.๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ส ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ส ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ส ๕.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ รวมท้ังหมด ๒๗ ตัวชี้วัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๕๔ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ส ๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษา ฯ เวลา ๘๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ศกึ ษาและลงมือปฏบิ ัตใิ นเรื่องบอกพุทธประวัติหรือประวตั ิของศาสดาทตี่ นนับถือโดยสังเขป ชื่นชม และบอกแบบอยา่ งการดำเนินชวี ติ และขอ้ คดิ จากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนกิ ชนตวั อยา่ งตามท่ี กำหนด บอกความหมาย ความสำคัญและเคารพพระรัตนตรยั ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมโอวาท ๓ ใน พระพุทธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถือตามทีก่ ำหนด เหน็ คุณค่าและสวดมนต์แผ่เมตตา มสี ติที่ เป็นพ้ืนฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนาหรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามท่กี ำหนด บำเพ็ญประโยชน์ต่อวดั หรอื ศาสนสถานของศาสนาท่ตี นนับถอื แสดงตนเปน็ พุทธมามกะหรือแสดงตนเป็นศา สนิกชนของศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏบิ ตั ิตนในศาสนพิธี พิธีกรรมและวันสำคญั ทางศาสนาตามท่ีกำหนดได้ถูกต้อง ศึกษาหลักการ แนวทางปฏิบัติในเร่ือง บอกประโยชนแ์ ละปฏิบัตติ นเป็นสมาชกิ ที่ดีของครอบครวั และ โรงเรยี นยกตัวอย่างความสามารถและความดีของตนเอง ผู้อน่ื และบอกผลจากการกระทำน้นั บอกโครงสร้าง บทบาทและหน้าทีข่ องสมาชกิ ในครอบครวั และโรงเรยี น ระบุบทบาท สิทธหิ นา้ ทีข่ องตนเองในครอบครวั และ โรงเรยี นมีสว่ นรว่ มในการตัดสินใจและทำกิจกรรมในครอบครัวและโรงเรยี นตามกระบวนการประชาธิปไตย ระบสุ นิ ค้าและบริการทใี่ ชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวันยกตวั อย่างการใช้จา่ ยเงนิ ในชีวติ ประจำวันท่ีไม่ เกินตวั และเห็นประโยชนข์ องการออมยกตวั อย่างการใช้ทรัพยากรในชีวติ ประจำวันอย่างประหยัดอธิบาย เหตผุ ลความจำเป็นทคี่ นต้องทำงานอย่างสจุ ริต ศกึ ษาเร่ือง แยกแยะสิ่งต่าง ๆ รอบตวั ทเ่ี กดิ ขน้ึ เองตามธรรมชาติและท่ีมนุษย์สร้างข้นึ ระบุ ความสมั พันธข์ องตำแหนง่ ระยะ ทศิ ของสง่ิ ต่าง ๆ รอบตวั ระบทุ ศิ หลักและท่ีตั้งของสง่ิ ต่าง ๆ ใช้แผนผงั งา่ ย ๆ ในการแสดงตำแหนง่ ของสิ่งต่าง ๆ ในห้องเรยี นสังเกตและบอกการเปล่ียนแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั บอกสงิ่ ตา่ ง ๆ ที่เกดิ ตามธรรมชาติท่สี ง่ ผลตอ่ ความเป็นอยู่ของมนุษยม์ สี ่วนร่วมในการจัดระเบียบส่งิ แวดล้อม และชนั้ เรยี นโดยให้ผู้เรียนฝกึ การสงั เกต ตอบคำถามเชงิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรทู้ ี่ไดเ้ ป็นแผนผงั ความคิด กระตุ้นให้แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งหลากหลาย เพ่ือร่วมกันหาแนวทางปฏบิ ตั ทิ ่ถี ูกต้อง เหมาะสม สง่ เสรมิ การ ทำงานกลมุ่ เพื่อพฒั นาทกั ษะทางสังคม นำไปสกู่ ารยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองและผอู้ นื่ และตระหนักถงึ การปฏิบัตติ นในฐานะทเ่ี ปน็ ส่วนหน่งึ ของสังคมประชาธิปไตยปฏบิ ัติตนตามหลักศาสนาท่ีตนนบั ถอื มีแนวคิดที่ เหมาะสมในการดำเนนิ ชวี ิตอยา่ งพอเพยี งและมีความเข้าใจสภาพภมู ิศาสตรร์ อบตัว เลือกใช้และอนุรักษ์ สง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งย่ังยนื โดยให้ผ้เู รียนฝกึ การสงั เกต ตอบคำถามเชงิ วเิ คราะห์และสรปุ ความรู้ท่ีไดเ้ ปน็ แผนผัง ความคดิ กระตุ้นให้แสดงความคดิ เห็นอย่างหลากหลาย เพ่ือรว่ มกันหาแนวทางปฏบิ ตั ทิ ี่ถูกต้อง เหมาะสม สง่ เสรมิ การทำงานกลุ่มเพื่อพัฒนาทกั ษะทางสงั คม นำไปสู่การยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อืน่ และ ตระหนักถึงการปฏิบตั ิตนในฐานะทเ่ี ป็นสว่ นหนึ่งของสงั คมประชาธปิ ไตย ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาทต่ี นนับถือ มแี นวคดิ ท่ีเหมาะสมในการดำเนินชีวิตอย่างพอเพยี ง และมีความเข้าใจสภาพภูมิศาสตรร์ อบตัวเลอื กใชแ้ ละ อนรุ ักษ์ส่งิ แวดล้อมอย่างยัง่ ยืน ตวั ชี้วดั ส ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ส ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ส ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ ส ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๕๕ ส ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ส ๓.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ ส ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ ส ๕.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ รวมท้ังหมด ๓๐ ตัวชี้วัด หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๕๖ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ส ๑๑๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ศึกษาและใชป้ ฏิทนิ ในการบอกวนั เดือน ปี ที่ใช้ในชวี ิตประจำวัน ซึ่งมที ้งั ระบบสรุ ิยคติและจันทรคติ คำทแ่ี สดงช่วงเวลาเพ่ือใชเ้ ล่าเหตุการณป์ จั จบุ นั วันน้ี เดอื นนี้ ตอนเช้า ตอนกลางวัน ตอนเยน็ ตอนคํ่า และ เรยี งลำดับเหตุการณ์ในชีวติ ประจำวันตามวันเวลาทเี่ กิดขึ้น โดยใชท้ กั ษะการสังเกต การบอกเล่า การเชื่อมโยง เพอื่ ใหส้ ามารถใช้เวลาตามปฏิทนิ แสดงเหตกุ ารณใ์ นปจั จบุ ัน และใชค้ ำแสดงช่วงเวลาเรยี งลำดับเหตุการณ์ท่ี เกิดขน้ึ ได้ ร้วู ธิ สี ืบค้นประวัติความเปน็ มาของตนเองและครอบครัวอย่างงา่ ย ๆ โดยสอบถามผเู้ ก่ียวข้องและการ บอกเล่าเร่ืองราวทีส่ ืบค้นได้ โดยใช้ทกั ษะการสอบถาม การรวบรวมข้อมูล การสรปุ ความ การเล่าเร่ือง เพอื่ ฝึก ทักษะพ้ืนฐานของวิธกี ารทางประวัติศาสตร์ในการสืบค้นเร่ืองราว จากแหลง่ ขอ้ มูล (เช่นบุคคล) และบอกเลา่ ขอ้ เทจ็ จริงทีค่ น้ พบได้อยา่ งน่าสนใจ ศึกษาการเปล่ียนแปลงของสภาพแวดล้อม ส่ิงของเครื่องใชห้ รอื การดำเนินชีวิตของตนเองในสมัย ปัจจบุ ัน กบั สมยั ของพ่อแม่ ปยู่ า่ ตายายที่เป็นรูปธรรมและใกล้ตัวผู้เรียน เตารีด (การรดี ผ้าดว้ ยเตาถา่ นกับเตา ไฟฟา้ ) หม้อหุงข้าว (การหุงข้าวทีเ่ ช็ดน้าํ ดว้ ยฟืนหรือถ่านกบั หมอ้ หุงข้าวไฟฟ้า) เกวยี นกบั รถยนต์ (การเดินทาง) ถนน บ้านเรอื น การใชค้ วายไถนากับรถไถนา รวมทงั้ เหตกุ ารณส์ ำคญั ของครอบครวั ทีเ่ กิดข้นึ ในอดีตที่มี ผลกระทบต่อตนเองในปจั จุบัน (การยา้ ยบ้าน การย้ายโรงเรียน การเลื่อนชั้นเรยี น การได้รับรางวลั การสญู เสีย บุคคลสำคญั ของครอบครัว) โดยใช้ทักษะการสงั เกต การใชเ้ หตผุ ล การเปรียบเทยี บ การแยกแยะ การ ยกตวั อย่าง และการบอกเลา่ เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจการเปล่ียนแปลงตามกาลเวลาและความสำคัญของอดีตที่มีตอ่ ปัจจบุ ันและอนาคต สามารถปรับตัวให้เขา้ กับวิถชี ีวิตปัจจุบันไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ ศกึ ษาความหมายและความสำคญั ของสญั ลกั ษณ์ของชาติไทย ไดแ้ ก่ ธงชาติ เพลงชาติ เพลงสรรเสรญิ พระบารมี ภาษาไทย อักษรไทย มารยาทไทย อาหารไทย การแตง่ กายแบบไทย วัฒนธรรมและ ขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย และการปฏิบตั ิตนได้ถูกต้องตามกาลเทศะ รวมท้ังรจู้ ักสถานทส่ี ำคญั ซ่งึ เป็นแหลง่ วัฒนธรรมในชมุ ชน ศาสนสถาน ตลาด พพิ ิธภณั ฑ์ และสงิ่ ทเ่ี ปน็ ความภาคภมู ิใจในท้องถ่ิน ที่ใกล้ตัวผู้เรยี นและ เหน็ เปน็ รูปธรรม โดยใชท้ ักษะการสังเกต การแสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตผุ ล การอธบิ าย การปฏิบตั ติ นอยา่ ง ถกู ต้อง เพื่อก่อใหเ้ กดิ ความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ท้องถน่ิ และประเทศชาติ ภมู ใิ จในสถาบนั ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตระหนักและเหน็ คุณคา่ ท่ีจะธำรงรกั ษาและสบื ทอดต่อไป ตวั ชี้วัด ส ๔.๑ ป ๑/๑, ป. ๑/๒, ป. ๑/๓ ส ๔.๒ ป ๑/๑, ป. ๑/๒ ส ๔.๓ ป ๑/๑, ป. ๑/๒, ป. ๑/๓ รวมท้ังหมด ๘ ตัวชวี้ ัด หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๕๗ คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ ปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ มี ารยาทไทย ในเรือ่ งการพูดด้วยถ้อยคำไพเราะ และการมีกิรยิ าสภุ าพ อ่อนน้อม แสดงออกถึงความกตัญญู กตเวทตี อ่ บุคคลในโรงเรียน เหน็ ประโยชนข์ องการแต่งกายดว้ ยผ้าไทย ปฏิบัตติ น เปน็ ผู้มวี ินัยในตนเองในเรื่อง ความซอ่ื สตั ย์ สุจรติ ขยันหมนั่ เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ต้ังใจปฏบิ ัติหน้าท่ี และยอมรับผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง เข้าร่วมกจิ กรรมเกยี่ วกับ ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ปฏิบตั ติ นตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องความขยัน และความอดทน หลักการทรงงานในเรื่องการพึ่งตนเอง และรรู้ กั สามัคคี และหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ปฏิบตั ิตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่องความซื่อสตั ย์ สุจรติ ขยันหม่นั เพียร อดทน ใฝ่หา ความรู้ ตัง้ ใจปฏบิ ัตหิ น้าที่ และยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบและหน้าที่ ท่ีต้องปฏบิ ัตใิ นโรงเรียนในเรอื่ งการแต่งกาย การเข้าแถว การ ดูแลพน้ื ทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย ปฏิบตั ติ นตามบทบาทหน้าทใ่ี นฐานะสมาชิกท่ีดีของหอ้ งเรียน และโรงเรียนในเรอื่ ง การเปน็ ผู้นำและการเป็นสมาชกิ ทีด่ ี หนา้ ท่แี ละความรบั ผิดชอบ ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้มีวนิ ยั ในตนเองในเร่ืองความ ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต ขยันหมัน่ เพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้ังใจปฏบิ ัตหิ น้าท่ี และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของ ตนเอง ยอมรบั ความเหมอื น และความแตกต่างของตนเองและผูอ้ ื่นในเรือ่ ง เชอื้ ชาติ ภาษา เพศ สุขภาพ ความพิการ ความสามารถ ถ่ินกำเนดิ ฯลฯ ยกตัวอย่างความขัดแย้งในโรงเรยี นในกรณีหน้าท่ีและความ รบั ผดิ ชอบ และการใชข้ องส่วนรวม และเสนอวิธกี ารแก้ปญั หาโดยสนั ติวธิ ี ปฏิบัตติ นเป็นผูม้ ีวนิ ยั ในตนเองใน เรื่อง ความซ่ือสัตย์ สจุ รติ อดทน และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคดิ กระบวนการกลุม่ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีลักษณะทีด่ ีของคนไทย ภาคภูมิใจ และรักษาไวซ้ ึง่ ความเปน็ ไทย แสดงออกถงึ ความรัก ชาติ ยดึ มนั่ ในศาสนา เทิดทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ดำเนินชวี ติ ตามวิถีประชาธิปไตย อย่รู ว่ มกบั ผอู้ น่ื อย่าง สนั ติ สามารถจัดการความขัดแยง้ ด้วยสันติวธิ ีและมวี นิ ัยในตนเอง ตวั ชว้ี ัด ส ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ส ๔.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ส ๔.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒ รวมทั้งหมด ๖ ตัวช้วี ัด หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๕๘ คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ทม่ี าของศักราชที่ปรากฏในปฏิทิน วธิ ีการเทียบ พ.ศ. เปน็ ค.ศ. หรือ ค.ศ. เปน็ พ.ศ. การเทียบศักราช ในเหตุการณ์ทเ่ี ก่ียวข้องกับตวั นักเรยี น วิธกี ารสบื ค้นเหตกุ ารณ์สำคัญของโรงเรียนและชมุ ชน ใช้เสน้ เวลา (Time Line) ลำดบั เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกบั นักเรยี น ปจั จยั การตั้งถิ่นฐานของชมุ ชน ปัจจัยทมี่ อี ิทธพิ ลต่อ พัฒนาการของชมุ ชน ขนบธรรมเนยี มประเพณีและวฒั นธรรมในชุมชน ขนบธรรมเนยี มประเพณแี ละ วฒั นธรรมในชุมชนอน่ื ๆ พระราชประวตั ิ พระราชกรณียกจิ โดยสังเขปของพ่อขนุ ศรีอินทราทิตย์ พระเจา้ อู่ทอง พระเจา้ ตากสนิ มหาราช และพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระราชประวัตแิ ละพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั และสมเดจ็ พระบรมราชินีนาถโดยสังเขป วรี กรรมของบรรพบุรษุ ไทย เช่น ท้าวเทพสตรี ท้าวศรีสนุ ทร ชาวบา้ นบางระจัน พระยาพชิ ยั ดาบหัก เทยี บศกั ราช แสดงเหตุการณ์ของโรงเรียนและชมุ ชน ระบุปจั จัยทีม่ ีอิทธพิ ลตอ่ การตง้ั ถน่ิ ฐาน สรุป ลกั ษณะทส่ี ำคัญของประเพรแี ละวฒั นธรรม ระบพุ ระนามและพระราชกรณียกจิ พระมหากษตั ริย์ไทยท่เี ปน็ ผู้ สถาปนาอาณาจักรไทย อธิบายพระราชประวตั ิ พระราชกรณยี กิจของรัชกาลปจั จุบนั เลา่ วรี กรรมของบรรพ บรุ ษุ ไทย เพ่ือให้เข้าใจความหมาย ความสำคญั ของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สมารถใชว้ ิธีการทาง ประวัตศิ าสตร์มาวเิ คราะห์เหตุการณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นระบบ เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปลย่ี นแปลงของ เหตุการณ์อยา่ งต่อเนื่อง ตระหนกั ถงึ ความสำคัญและสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้น เขา้ ใจความเปน็ มา ของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาไทย มีความรัก ความภมู ิใจ และธำรงความเป็นไทย ตัวช้ีวดั ส ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ส ๔.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ส ๔.๓ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ รวมทั้งหมด ๘ ตัวช้ีวดั หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๕๙ คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ส ๑๔๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ ศกึ ษาดา้ นความหมายและช่วงเวลาของทศวรรษ ศตวรรษ และสหสั วรรษ การทำความเข้าใจใน ชว่ งเวลา ท่ีปรากฏในเอกสารต่าง ๆ เช่น หนังสอื พมิ พ์ เกณฑ์การแบ่งยุค ในการศึกษาประวตั ิศาสตร์ ยุคก่อน ประวตั ิศาสตร์และยคุ ประวตั ศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์สมัยกอ่ นสโุ ขทยั สมัยสโุ ขทัย สมยั อยุธยา แบะสมยั รัตนโกสินทร์ ประเภทของหลักบานแบ่งเป็นหลักฐานข้ันต้น และหลักฐานช้นั รอง หลกั ฐานที่พบในทอ้ งถน่ิ พัฒนาการของมนษุ ยใ์ นดนิ แดนไทย การตั้งหลักแหล่งของมนุษย์ยคุ ก่อนประวตั ิศาสตร์ และยุคประวัติศาสตร์ หลักฐานท่ีแสดงการพฒั นาของมนษุ ยชาตใิ นดนิ แดนไทย การสถาปนากรงุ สุโขทัย สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ จัด ใหเ้ รยี นรู้เกีย่ วกบั ประเพณพี ื้นบา้ น การแตง่ กาย และพิธีกรรม และความเชื่อตา่ ง ๆ ของชาวไทย โดยใชก้ ระบวนการอธิบาย แยกแยะประเภท ยกตวั อย่าง บอกประวตั ิ การสำรวจตรวจสอบ การ สืบคน้ ขอ้ มลู บันทกึ จดั กลุ่มข้อมลู อภปิ ราย การศึกษาค้นควา้ นอกสถานทก่ี ระบวนการคิดสู่ห้องเรียน วิธีวัดและประเมนิ ผล โดยวธิ กี ารสังเกต ทดสอบ สมั ภาษณ์ ตรวจสอบรายการ สอบถาม ตรวจ ชิน้ งาน/รายงาน/บนั ทึก และแฟม้ ผลงานนักเรยี น ตวั ช้วี ัด ส ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ส ๔.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ส ๔.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ รวมทั้งหมด ๘ ตัวชี้วดั หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๖๐ คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ ศึกษาด้านวิธกี ารสบื คน้ ความเป็นมาของท้องถิ่น แหลง่ ข้อมูลและหลักฐานในท้องถ่ิน การต้ังคำถาม ทางประวตั ศิ าสตร์ เกย่ี วกบั ความเปน็ มาของท้องถนิ่ ตัวอย่างเรอื่ งราวท่ีแสดงนยั ของความคดิ เห็นท่ีมอี ย่ใู น ข้อมูลจากหลักบาน การตอบคำถามทางประวตั ศิ าสตร์โดยใชข้ อ้ มูลท่ีพบ การนำเสนอความเปน็ มาของท้องถ่ิน เช่น การเล่าเรือ่ ง การจดั นิทรรศการ อารยธรรมอนิ เดีย และจนี ในดนิ แดนไทย อิทธิพลของอารยธรรมอนิ เดีย และจนี ท่มี ีต่อไทย วัฒนธรรมตา่ งชาติทม่ี ตี ่อสังคมไทย การสถาปนาอาณาจักรอยุธยา ความเจริญทางเศรษฐกจิ และการปกครองการพฒั นาด้านการเมือง ผลงานของบคุ คลสำคญั ภมู ิปัญญา ไทยสมัยอยธุ ยา การกอบกเู อก ราช การสถาปนากรุงธนบุรี พระราชประวัติพระเจา้ ตากสินมหาราช ดา้ นการเรียนรูใ้ นท้องถิ่น จดั ให้ศึกษาดา้ น ประวัตคิ วามเปน็ มาของชมุ ชนประเพณคี วามเชื่อของชาวไทย โดยใช้กระบวนการอธบิ าย แยกแยะประเภท ยกตวั อยา่ ง บอกประวัติ การสำรวจตรวจสอบ การ สบื คน้ ขอ้ มูล บันทกึ จดั กลุ่มข้อมูล อภิปราย การศึกษาคน้ คว้านอกสถานที่กระบวนการคิดสหู่ อ้ งเรียน วิธวี ัดและประเมินผล โดยวธิ กี ารสงั เกต ทดสอบ สัมภาษณ์ ตรวจสอบรายการ สอบถาม ตรวจ ชิน้ งาน/รายงาน/บนั ทกึ และแฟม้ ผลงานนักเรียน ตัวช้ีวดั ส ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ส ๔.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ส ๔.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ รวมทั้งหมด ๙ ตัวช้ีวดั หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๖๑ คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ส ๑๖๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ความหมายและความสำคญั ของวธิ ีการทางประวัติศาสตร์อยา่ งงา่ ย ๆ และเหมาะสม นักเรยี นศกึ ษา เรือ่ งราวในท้องถน่ิ ถงึ ความเป็นมาของสถานท่ภี มู ินามในท้องถนิ่ มาใชก้ ับเหตกุ ารณ์สำคัญในประวตั ศิ าสตร์ สมัย รตั นโกสินทร์ เช่น รชั กาลท่ี ๔ รชั กาลท่ี ๕ กฎหมายสำคัญใชแ้ ผนทีแ่ สดงท่ตี งั้ และอาณาเขตของประเทศเพ่อื น บ้านเพอื่ พฒั นาการทางประวัตศิ าสตร์ สภาพสังคม เศรษฐกิจและการเมือง ของประเทศเพ่อื นบ้านและกลมุ่ อาเซียนปจั จยั ท่ีส่งเสริม ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและการปกครองของไทยในสมัยรตั นโกสินทร์ พัฒนาการดา้ นต่าง ๆ ของไทยสมยั รัตนโกสินทรต์ ามขว่ งเวลา ผลงานของบุคคลสำคัญทางด้านต่าง ๆ เช่น รชั กาลที่ ๑ พระบวรราชเจ้ามหาสรุ สิงหนาถ รชั กาลที่ ๕ ภูมิปัญญาไทย สมัยรัตนโกสินทร์ เช่น ศิลปกรรม วรรณกรรม ดา้ นประวตั ิของท้องถน่ิ และเรยี นรสู้ ่ทู ้องถิ่น จัดให้ศึกษาภูมปิ ัญญาชาวบ้าน รวมทั้งประเพณีความ เชอ่ื พิธกี รรมต่าง ๆ อธิบายความสำคัญของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ในการศกึ ษาเร่ืองราว ข้อมลู หลักฐาน ท่ีหลากหลาย ในอดตี เกยี่ วกบั สภาพสังคม เศรษฐกิจและการเมอื งของประเทศเพ่ือนบ้านในปัจจุบัน และมอบความสัมพนั ธ์ ของกล่มุ อาเซียน อธบิ ายปัจจัยทสี่ ง่ เสริมความเจริญรงุ่ เรืองของไทยในสมัยกรุงรตั นโกสินทร์ ตวั อยา่ งบคุ คล สำคญั ภมู ปิ ญั ญาทสี่ ำคัญท่นี า่ ภูมใิ จ และคณุ คา่ ต่อการอนรุ ักษไ์ ว้ เพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจความหมาย ความสำคญั ของเวลาและยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์ สมารถใช้วิธีการทาง ประวตั ิศาสตรม์ าวิเคราะห์เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ อยา่ งเป็นระบบ เข้าใจความสมั พนั ธแ์ ละการเปลย่ี นแปลงของ เหตุการณ์อยา่ งต่อเนือ่ ง ตระหนกั ถงึ ความสำคัญและสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น เข้าใจความเป็นมา ของชาติไทย วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และธำรงความเปน็ ไทย ตวั ชว้ี ดั ส ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ ส ๔.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒ ส ๔.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ รวมท้ังหมด ๘ ตัวชี้วัด หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๖๒ คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา พ ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษา และพลศึกษา เวลา ๔๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ รู้เขา้ ใจ สงั เกต วเิ คราะห์ ลกั ษณะและหน้าท่ขี องอวยั วะภายนอก วธิ ีดูแลรักษาอวยั วะภายนอก สมาชกิ ในครอบครวั และความรักผูกผนั ของสมาชิกท่ีมีต่อกัน สง่ิ ท่ชี น่ื ชอบและภาคภมู ใิ จในตนเอง ลักษณะ ความแตกตา่ งระหว่างเพศชายและเพศหญงิ เคล่ือนไหวรา่ งกายขณะอยกู่ ับท่ี เคลอ่ื นทแ่ี ละใช้อุปกรณ์ประกอบ เลน่ เกมเบ็ดเตลด็ และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางกายทใี่ ชก้ ารเคล่อื นไหวตามธรรมชาติ ออกกำลงั กายและเลน่ เกม ตามคำแนะนำอย่างสนุกสนาน ปฏบิ ัติตนตามกฎ กติกา ข้อตกลงในการเลน่ เกมตามคำแนะนำ การละเลน่ พ้นื บ้าน เชน่ ตจ่ี ับ อีหึ่ม หมากเกบ็ อีตกั ตาเขยง่ มอญซ่อนผา้ ลกู ช่วง เกนิ กะลา เตย ซ่อนหา ขี่มา้ ก้านกลว้ ย ลิงชิงหลกั งกู ินหาร รรี ขี า้ วสาร โดดยาง ดีดลกู แกว้ จ้ำจ้ี โปง้ แปะ๊ เป่ากบ ขี่มา้ สง่ เมอื ง ว่ิงเป้ียว ปฏิบัตติ นตาม หลกั สุขบัญญัตแิ ห่งชาติตามคำแนะนำ อาการบาดเจบ็ ทเ่ี กิดขนึ้ กับตนเอง ปฏิบัตติ นตามคำแนะนำเม่ือมีอาการ เจ็บปว่ ยส่ิงที่ทำให้เกิดอนั ตรายทบี่ า้ น โรงเรียน และการป้องกัน สาเหตุและการป้องกันอันตรายที่เกิดจากการ เลน่ แสดงคำพดู หรือท่าทางขอความช่วยเหลือจากผู้อน่ื เมื่อเกิดเหตภุ ัยทีบ่ ้านและโรงเรียน เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารส่ิงทเี่ รยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็น คณุ คา่ ของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน มีคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ มท่ีเหมาะสมสามารถนำ ความร้ไู ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ช้กับ ชวี ิตประจำวันไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม วิธวี ดั และประเมินผล โดยวิธกี ารสังเกต ทดสอบ สมั ภาษณ์ ตรวจสอบรายการ สอบถาม ตรวจชิ้นงาน ผลงาน รายงาน บันทึกและแฟ้มสะสมผลงานของนักเรียน ตัวชีว้ ดั พ ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ พ ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ พ ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ พ ๓.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒ พ ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ พ ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ รวมท้ังหมด ๑๕ ตัวชว้ี ดั หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๖๓ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา พ ๑๒๑๐๑ สุขศึกษา และพลศึกษา เวลา ๔๐ ช่วั โมง ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ ร้เู ขา้ ใจ สงั เกต วเิ คราะห์ ลักษณะและหนา้ ทีข่ องอวัยวะภายใน วธิ ีดแู ลรักษาอวัยวะภายในธรรมชาติ ของชวี ติ มนษุ ย์ บทบาทหนา้ ที่ของตนเองและสมาชิกในครอบครัว ความสำคญั ของเพือ่ น พฤติกรรมท่เี หมาะสม กับเพศ ความภาคภมู ใิ จในความเปน็ เพศหญิงหรือเพศชาย ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะอยกู่ ับท่ี เคลอื่ นที่ และการใชอ้ ปุ กรณ์ เล่นเกมเบด็ เตลด็ และเขา้ รว่ มกิจกรรมทางกายที่วิธเี ล่นอาศัยการเคล่ือนไหว เบ้ืองต้นท้ังแบบอยกู่ บั ท่ี เคล่ือนที่ และการใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายขณะอยูก่ บั ที่ เคลอ่ื นท่ี และการใชอ้ ปุ กรณ์ อยา่ งมีทิศทาง เคล่อื นไหวรา่ งกายทีใ่ ชท้ ักษะการเคล่ือนไหวแบบบงั คบั ทิศทาง ในการเลน่ เกมเบ็ดเตล็ด ออกกำลังกายและเลน่ เกมไดด้ ้วยตนเองอย่างสนุกสนาน ปฏิบัตติ ามกฎ กติกา ขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมเปน็ กลมุ่ การละเล่นพน้ื บ้าน เช่น ตจี่ ับ อหี ่ึม หมากเกบ็ อีตกั ตาเขยง่ มอญซ่อนผ้า ลกู ชว่ ง ลักษณะของการมุขภาพดี เลอื กกินอาหารท่ีมีประโยชน์ ของใช้ของเลน่ ท่ีมผี ลเสียต่อสขุ ภาพ อาการ และวธิ ปี ้องกนั การเจบ็ ปว่ ย ปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติเหตุท่อี าจเกดิ ขึ้นทางนำ้ และทางบก ยาสามัญประจำ บา้ นและการใชย้ าตามคำแนะนำ โทษของสารเสพตดิ สารอันตราย ใกลต้ วั และวิธีการป้องกัน ปฏบิ ตั ติ นตาม สัญลกั ษณ์และปา้ ยเตือนของสิง่ ของหรือสถานที่ที่เปน็ อันตราย สาเหตอุ นั ตราย วธิ ีปอั งกันอคั คีภัยและแสดง การหนไี ฟ เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอส่ือสารส่งิ ทเ่ี รียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เหน็ คณุ คา่ ของการนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ มท่ีเหมาะสมสามารถนำ ความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์โดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ชีวติ ประจำวันไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม วิธวี ดั และประเมินผล โดยวิธกี ารสังเกต ทดสอบ สัมภาษณ์ ตรวจสอบรายการ สอบถาม ตรวจช้นิ งาน ผลงาน รายงาน บนั ทึกและแฟ้มสะสมผลงานของนักเรยี น ตวั ชี้วัด พ ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ พ ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ พ ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ พ ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ พ ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ พ ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ รวมทั้งหมด ๒๑ ตัวชวี้ ดั หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๖๔ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา พ ๑๓๑๐๑ สขุ ศึกษา และพลศกึ ษา เวลา ๔๐ ชัว่ โมง ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ รู้เข้าใจ วเิ คราะห์ ลักษณะการเจริญเตบิ โตของรา่ งกายมนุษย์ การเจริญเตบิ โตของตนเองตามเกณฑ์ มาตรบาน ปจั จยั ท่ีมผี ลต่อการเจรญิ เติบโต ความสำคัญและความแตกต่างของครอบครวั ทีม่ ตี ่อตนเอง วธิ ีสรา้ ง สัมพันธภาพในครอบครัวและกลมุ่ เพ่ือน วธิ หี ลกี เลี่ยงพฤติกรรมท่นี ำไปสู่การถูกลว่ งละเมิดทางเพศ ควบคุมการ เคลือ่ นไหวรา่ งกายขณะอยูก่ บั ที่ เคลอื่ นที่ และใช้อุปกรณ์ประกอบอยา่ งมที ิศทาง เคลอื่ นไหวร่างกายทใ่ี ช้ทักษะ การเคลอ่ื นไหวแบบบังคบั ทศิ ทางในการเลน่ เกมเบ็ดเตล็ด เลือกออกกำลงั กายและละเลน่ พ้นื เมือง และเลน่ เกม ทเ่ี หมาะสมกับจุดเดน่ จดุ ด้อย และขอ้ จำกดั ของตน ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกา ข้อตกลงของการออกกำลงั กายการ เลน่ เกม การละเลน่ พ้ืนบ้าน เช่น ต่จี บั อหี ึ่ม หมากเก็บ ได้ด้วยตนเอง การตดิ ต่อและวธิ ปี ้องกันการ แพร่กระจายของโรค อาหารหลัก ๕ หมู่ กนิ อาหารท่ีหลากหลายครบ ๕ หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสม การแปรง ฟันทสี่ ะอาดอยา่ งถกู วิธี สรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายได้ตามคำแนะนำ ปฏบิ ตั ิตนเพื่อความปลอดภัยจาก อุบตั ิเหตุ ในบ้าน โรงเรียน และการเดินทาง การขอความช่วยเหลอื จากบคุ คลและแหลง่ ต่าง ๆ เม่อื เกิดเหตรุ ้าย หรอื อุบตั เิ หตุ วธิ ีปฐมพยาบาลเมอื บาดเจ็บ จากการเลน่ เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารส่ิงท่ีเรยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ เห็น คณุ คา่ ของการนำความรไู้ ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมท่ีเหมาะสมสามารถนำ ความรู้ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กบั ชีวติ ประจำวันไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม วธิ ีวัดและประเมินผล โดยวิธกี ารสังเกต ทดสอบ สัมภาษณ์ ตรวจสอบรายการ สอบถาม ตรวจชน้ิ งาน ผลงาน รายงาน บนั ทึกและแฟ้มสะสมผลงานของนักเรยี น ตวั ชี้วดั พ ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ พ ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ พ ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ พ ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒ พ ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕ พ ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ รวมท้ังหมด ๑๘ ตัวชีว้ ัด หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๖๕ คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา พ ๑๔๑๐๑ สุขศึกษา และพลศกึ ษา เวลา ๘๐ ชั่วโมง ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ มีความรู้ ความเขา้ ใจ การเจริญเติบโตและพฒั นาการของร่างกายและจิตใจตามวยั ความสำคัญของ กล้ามเนื้อกระดกู และข้อที่มผี ลต่อสขุ ภาพการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการ วิธดี แู ลกลา้ มเน้ือกระดกู และข้อให้ ทำงานอย่างมีประสทิ ธิภาพ คุณลักษณะของความเป็นเพื่อนและสมาชกิ ท่ีดีของครอบครัว พฤติกรรมที่ เหมาะสมกับเพศของตนเองตามวัฒนธรรมไทย การปฏเิ สธการกระทำที่เปน็ อนั ตรายและไมเ่ หมาะสมในเร่ือง เพศ ควบคุมตนเองเม่ือใช้ทักษะการเคลือ่ นไหวในลกั ษณะผสมผสานแบบอยกู่ บั ที่ เคล่อื นที่ และใชอ้ ุปกรณ์ ประกอบ ฝึกกายบริหารทา่ มือเปล่าประกอบจังหวะเลน่ เกมเล่ือนแบบและกิจกรรมแบบพลัด เลน่ กีฬาพื้นฐาน อยา่ งน้อย ๑ ชนิด ออกกำลังกาย เล่นเกมและกีฬาท่ตี นขอบแบะมีความสามารถในการวิเคราะหผ์ ลพฒั นาการ ของตนเองตามตวั อย่างและแบบปฏบิ ตั ขิ องผู้อนื่ ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพนื้ ฐานตามชนิดกีฬาทีเ่ ลน่ การละเล่นพ้นื บ้านเชน่ ตี่จับ อีห่มึ หมากเกบ็ ความสมั พันธ์ระหว่างสิ่งแวดลอ้ มกบั สุขภาพ สภาวะอารมณ์ ความรสู้ ึกทีม่ ผี ลต่อสขุ ภาพ วิเคราะห์ข้อมูลบนฉลากอาหารและผลติ ภัณฑ์สขุ ภาพเพ่ือการเลอื กบริโภค ทดสอบ และปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกาย ความสำคัญของการใชย้ าอยา่ งถูกวธิ ี การปฐมพยาบาลเมอ่ื ไดร้ ับอนั ตราย จากการใช้ยาผดิ สารเคมี แมลงสัตวก์ ดั ตอ่ ย และการบาดเจบ็ จาการเลน่ กฬี า วเิ คราะหผ์ ลเสียของการสูบบหุ ร่ี และการดื่มสรุ าทมี่ ีผลต่อสขุ ภาพและการป้องกนั เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารส่ิงทเ่ี รียนรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ เห็น คณุ คา่ ของการนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั มีคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มท่ีเหมาะสมสามารถนำ ความรไู้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ชีวติ ประจำวันได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม วิธีวดั และประเมินผล โดยวิธกี ารสังเกต ทดสอบ สมั ภาษณ์ ตรวจสอบรายการ สอบถาม ตรวจชน้ิ งาน ผลงาน รายงาน บนั ทกึ และแฟม้ สะสมผลงานของนกั เรยี น ตวั ช้วี ัด พ ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ พ ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ พ ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ พ ๓.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ พ ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ พ ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ รวมท้ังหมด ๑๙ ตัวช้วี ดั หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๖๖ คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา พ ๑๕๑๐๑ สขุ ศกึ ษา และพลศกึ ษา เวลา ๘๐ ช่วั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ศกึ ษาวเิ คราะห์ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความสำคัญของระบบย่อยอาหารและระบบขับถา่ ยให้ทำงาน ตามปกติ การเปลี่ยนแปลงทางเพศละปฏบิ ัตติ นได้อย่างเหมาะสมความสำคัญของการมคี รอบครวั ท่ีอบอนุ่ ตาม วฒั นธรรมไทย พฤติกรรมท่ีพึงประสงค์และไม่พึงประสงคใ์ นการแก้ปัญหาความขัดแยง้ ในครอบครัวและกลุ่ม เพอ่ื น จัดรปู แบบความเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน และควบคุมตนเองเม่ือใชท้ ักษะการเคลื่อนไหวตามแบบท่ี กำหนด เล่นเกมนำไปสกู่ ีฬาที่เลอื กและกิจกรรมการเคลื่อนไหวแบบผลดั ความคุมการเคล่ือนไหวในเรื่องการ รับแรงการใชแ้ รงและความสมดลุ ทกั ษะกลไกในการปฏิบัติกิจกรรมทางกายและเล่นกฬี า เล่นกีฬาไทยและ กีฬาสากลประเภทบุคคลและประเภททมี อย่างละ ๑ ชนิด การเขา้ ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการอยา่ งน้อย ๑ กิจกรรม ออกกำลังกายอย่างมีรปู แบบ เล่นเกมทีใ่ ช้ทักษะการคดิ และการตัดสินใจ เล่นกีฬาที่ตนเองชื่นชอบ อย่างสมำ่ เสมอ โดยสรา้ งทางเลอื กในวธิ ปี ฏบิ ตั ขิ องตนเองอย่างหลากหลายและมนี ้ำใจนักกีฬา ปฏิบตั กิ ฎกติกา การเล่นเกม กฬี าไทยและกีฬาสากลตามชนดิ กีฬาทเ่ี ล่น ปฏบิ ตั ิตนตามชนิดกีฬาของตนเองไมล่ ะเมิดสทิ ธขิ อง ผูอ้ นื่ การละเลน่ พน้ื บ้าน เช่น ตจี่ ับ อีหึ่ม หมากเก็บ และยอมรบั ในความแตกตา่ งระหว่างบุคคล ในการเล่นเกม และกีฬาไทยกีฬาสากล แสดงพฤติกรรมทเ่ี หน็ ความสำคญั ของการปฏบิ ตั ิตนตามสขุ บัญญัตแิ ห่งชาติ คน้ ข้อมลู ข่าวสารเพอ่ื ใช้สรา้ งเสริมสุขภาพ ส่อื โฆษณาในการตัดสนิ ใจเลือกซื้ออาหารและผลติ ภณั ฑ์สขุ ภาพอยา่ งมเี หตุผล ปฏบิ ตั ิตนในการป้องกนั โรคที่พบบอ่ ยในชีวิตประจำวนั ทอสอบและปรับปรุงสมรรถภาพตามกายตามผลการ ทดสอบสมรรภุ าพทางกาย ปัจจัยทม่ี ีอิทธิพลต่อการใช้สารเสพติด การใช้ยาและสารเสพติดท่มี ีผลตอ่ ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม และสตปิ ญั ญา ปฏบิ ตั ติ นเพื่อความปลอดภยั จากการใชย้ าและหลีกเลีย่ งสารเสพติด อิทธิพลของส่ือทม่ี ีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ ปฏิบัตติ นเพอ่ื ป้องกันอนั ตรายจากการเล่นกีฬา เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอส่ือสารสิง่ ท่เี รยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็น คุณคา่ ของการนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน มีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มท่ีเหมาะสมสามารถนำ ความรู้ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้กับ ชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม วิธวี ัดและประเมินผล โดยวธิ กี ารสงั เกต ทดสอบ สัมภาษณ์ ตรวจสอบรายการ สอบถาม ตรวจช้นิ งาน ผลงาน รายงาน บนั ทกึ และแฟ้มสะสมผลงานของนกั เรยี น ตัวชีว้ ัด พ ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ พ ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ พ ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖ พ ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ พ ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ พ ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ รวมทั้งหมด ๒๕ ตัวช้วี ัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๖๗ คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา พ ๑๖๑๐๑ สขุ ศึกษา และพลศึกษา เวลา ๘๐ ช่วั โมง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ศึกษาความรู้ ความเขา้ ใจ ความสำคญั ของระบบสบื พนั ธ์ุ ระบบไหลเวียนโลหติ และระบบหายใจทีม่ ี ผลต่อสขุ ภาพให้ การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการ วิธีดูแลรักษาระบบสบื พนั ธุ์ ระบบไหลเวียนโลหติ และระบบ หายใจให้ทำงานตามปกติ ความสำคญั ของการสรา้ งและรักษาสมั พันธ์ภาพกบั ผ้อู ่ืน วเิ คราะห์พฤติกรรมเสียงท่ี อาจนำไปสู่การมเี พศสัมพันธ์ การติดเชื้อเอดส์ และการต้งั ครรภก์ อ่ นวัยอันควร ทักษะการเคล่อื นไหวรว่ มกับ ผู้อน่ื ในลักษณะแบบพลดั และแบบผสมผสานได้ตามลำดับท้ังแบบอยู่กับที่ เคลื่อนที่ และใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ และการเคล่อื นไหวประกอบเพลง กำหนดกับการเคลือ่ นไหวในเรอ่ื งการรบั แรง การใชแ้ รง และความสมดลุ ใน การเคลือ่ นไหวร่างกายในการเล่นเกม เลน่ กฬี า และนำผลมาปรบั ปรงุ เพม่ิ พนู วธิ ีปฏบิ ัตขิ องตนและผู้อืน่ เลน่ กีฬาไทย กีฬาสากลประเภทบุคคลและประเภททีม อย่างละ ๑ ชนดิ ใช้ทกั ษะกลไกเพือ่ ปรบั ปรุงเพม่ิ พนู ความสามารถของตนและผู้อ่ืนในการเลน่ กีฬา รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการอย่างน้อย ๑ กิจกรรม นำความรู้และ หลกั การที่ไดไ้ ปใช้เป็นฐานการศึกษาหาความรเู้ ร่ืองอื่น ๆ ประโยชนแ์ ละหลกั การ ออกกำลังกายเพ่ือสุขภาพ สมรรถภาพทางกายและการสรา้ งเสรมิ บุคลิกภาพ เล่นเกมทใี่ ชท้ กั ษะการวางแผนและสามารถเพ่ิมพูนทักษะ การออกกำลังกายและการเคลือ่ นไหวอย่างเปน็ ระบบ เล่นกฬี าท่ีตนเองช่ืนชอบ และสามารถประเมินทักษะ การเลน่ ของตนเป็นประจำ ปฏบิ ตั ิตนตามกฎ กติกาตามชนิดกฬี าทเี่ ลน่ โดยคำนึงถงึ ความปลอดภยั ของตนเอง และผู้อน่ื จำแนกกลวธิ ีการรกุ การป้องกันและการนำไปใช้ในการเล่นกฬี า เลน่ เกมและกีฬาดว้ ยความสามัคคี และมนี ้ำใจ การละเลน่ พื้นบา้ นเชน่ ต่จี ับ อีห่ึม หมากเกบ็ นักกฬี าพฤตกิ รรมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา สง่ิ แวดล้อมท่มี ผี ลต่อสุขภาพ วิเคราะหผ์ ลทเี่ กิดจากการระบาดของโรคและเสนอแนวทางการการป้องกัน โรคติดต่อสำคญั ที่พบในประเทศไทย พฤตกิ รรมท่บี งบอกถึงความรับผิดชอบต่อสขุ ภาพของสว่ นรวมสร้างเสริม และปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย เพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง วิเคราะห์ผลกระทบจากความรนุ แรงของภยั ธรรมชาติท่ีมีต่อรา่ งกาย จิตใจ และสงั คม วิธปี ฏบิ ัติตนเพ่ือความปลอดภัยจากธรรมชาติ วเิ คราะห์สาเหตุของ การตสิ ารเสพติดและชักชวนใหผ้ ู้อ่ืนหลกี เล่ียงสารเสพตดิ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งทเี่ รียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ เหน็ คุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั มคี ณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมท่ีเหมาะสมสามารถนำ ความรูไ้ ปใชใ้ ห้เกิดประโยชนโ์ ดยใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ช้กับ ชีวติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม วธิ วี ดั และประเมินผล โดยวธิ กี ารสังเกต ทดสอบ สัมภาษณ์ ตรวจสอบรายการ สอบถาม ตรวจชิน้ งาน ผลงาน รายงาน บนั ทึกและแฟม้ สะสมผลงานของนักเรียน ตวั ชีว้ ดั พ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ พ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ พ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ พ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ พ ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๖๘ พ ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ รวมท้ังหมด ๒๒ ตัวชว้ี ัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๖๙ คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ เวลา ๔๐ ช่วั โมง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ ทศั นศิลป์ รปู รา่ ง ลกั ษณะ และขนาดของส่งิ ของตา่ ง ๆ รอบตวั ในธรรมชาติและส่งิ ที่มนษุ ย์สร้างข้ึน ความรสู้ ึก ท่ีมตี ่อธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมรอบตัว การใช้วัสดุ อปุ กรณ์สรา้ งงานทัศนศลิ ป์ การทดลองสดี ้วยการใช้สนี ำ้ สโี ปสเตอร์ สีเทียน และสจี ากธรรมชาติท่ีหาได้ในทอ้ งถนิ่ การวาดภาพระบายสีตามความรูส้ ึกของตนเอง งาน ทศั นศิลปใ์ นชีวติ ประจำวัน งานทศั นศิลป์ในทอ้ งถนิ่ (ภาพจิตกรรมในอุโบสถ วดั ในตำบลบางลาย) อภิปรายเก่ยี วกับรปู รา่ ง ลักษณะและขนาดของส่ิงของตา่ ง ๆ รอบตัวในธรรมชาตแิ ละส่ิงท่ีมนุษย์สร้าง ขึน้ บอกความรสู้ ึกที่มีต่อธรรมชาติ และสิง่ แวดลอ้ มรอบตวั ฝกึ ทกั ษะพนื้ ฐานในการใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ ในการ สรา้ งงานทัศนศลิ ป์ สร้างงานทัศนศิลป์ โดยการทดลองใช้สี ด้วยเทคนคิ ง่าย ๆ วาดภาพระบายสีภาพธรรมชาติ ตามความรู้สึกของตนเอง ระบุงานทัศนศลิ ป์ในชวี ติ ประจำวัน เพื่อสร้างงานทศั นศิลปต์ ามจินตนาการ และความคดิ สร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์คณุ คา่ งาน ทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรสู้ กึ ความคิด ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ และเพ่ือใหเ้ ข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งทัศน์ ศลิ ป์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ ค่างานทัศนศ์ ลิ ป์ทีเ่ ป็นมรดก ภูมิปญั ญาท้องถิ่น ดนตรี การกำเนดิ ของเสียง ระดับเสียงดัง - เบา (Dynamic) อัตราความเร็วของจังหวะ Tempo การอ่าน บทกลอนประกอบจังหวะ การรอ้ งเพลงประกอบจงั หวะ กิจกรรมดนตรี เพลงทใี่ ช้ในชวี ติ ประจำวัน ทม่ี าของ บทเพลงในทอ้ งถน่ิ ความนา่ สนใจของบทเพลงในท้องถนิ่ จำแนกแหลง่ กำเนดิ เสียงท่ีแตกต่างกนั บอกลักษณะของเสียงดงั - เบา และความช้า – เรว็ ของ จงั หวะ ทอ่ งบทกลอน รอ้ งเพลงง่าย ๆ มีส่วนรว่ มในกจิ กรรมดนตรี บอกความเกีย่ วข้องของเพลงทใ่ี ช้ใน ชวี ติ ประจำวัน เลา่ ถึงเพลงในท้องถิ่น ระบุสิง่ ทช่ี ืน่ ชอบในดนตรที อ้ งถ่นิ เพอ่ื ให้เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรี อยา่ งสร้างสรรค์ ถา่ นทอดความรู้สกึ ความคดิ ตอ่ ดนตรีอยา่ ง อสิ ระ ชื่นชมและประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และเพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งดนตรี และวฒั นธรรม เหน็ คณุ ค่าของดนตรที ี่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ นาฏศิลป์ การเคลื่อนไหวลักษณะต่าง ๆ การใช้ภาษาทา่ และการประดิษฐท์ า่ ประกอบเพลง การแสดงประกอบ เพลงท่ีเกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ การเปน็ ผู้ชมทดี่ ี การละเล่นของเด็กไทย การแสดงนาฏศิลป์ไทย เลียนแบบการเคล่ือนไหวแสดงท่าทางง่าย ๆ เพื่อสือ่ ความหมาย แทนคำพดู บอกสิ่งที่ตนเองชอบจาก การดู หรอื ร่วมการแสดง ระบุและเล่นการละเล่นของเด็กไทย บอกสงิ่ ทตี่ นเองชอบในการแสดงนาฏศลิ ป์ เพื่อใหเ้ ข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ คุณคา่ นาฏศลิ ป์ ถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดอยา่ งอิสระ และเพ่ือให้เข้าใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งนาฏศลิ ป์ และวฒั นธรรม เห็นคณุ คา่ ของ นาฏศิลป์ ท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ ับชีวติ ประจำวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๗๐ ตวั ช้ีวดั ศ ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ศ ๑.๒ ป.๑/๑ ศ ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ศ ๒.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ศ ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ศ ๓.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒ รวมท้ังหมด ๑๘ ตัวชว้ี ัด หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๗๑ คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ศ ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ทัศนศลิ ป์ รปู ร่าง รูปทรงในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น รปู กลม รี สามเหล่ยี ม สีเ่ หลี่ยม และกระบอก เส้น สี รูปรา่ ง รปู ทรง ในสงิ่ แวดล้อมและงานทัศนศิลป์ประเภทตา่ ง ๆ เชน่ งานวาด งานปนั้ และงานพมิ พภ์ าพ เสน้ รูปรา่ ง ในงานทศั นศิลปป์ ระเภทตา่ ง ๆ เช่น งานวาด งานป้ัน และงานพิมพ์ภาพ การใชว้ ัสดุ อปุ กรณส์ รา้ งงาน ทศั นศลิ ป์ ๓ มติ ิ ภาพปะติดจากกระดาษ การวาดภาพถ่ายทอดเร่ืองราวเนื้อหาในงานทัศนศิลป์ งานโครงสรา้ ง การเคลื่อนไหว ความสำคญั ของงานทัศนศิลป์ในชวี ติ ประจำวนั งานทัศนศลิ ปใ์ นทอ้ งถิน่ บรรยาย รูปร่าง รูปทรง ท่พี บในธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม ระบุทศั นธาตทุ ่ีอยใู่ นส่งิ แวดลอ้ ม และงานทัศนศลิ ป์ สรา้ งงาน ทัศนศลิ ป์ตา่ ง ๆ โดยใช้ทัศนธาตุ ฝึกทักษาพ้นื ฐานในการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ สรา้ งงานทัศนศิลป์ ๓ มิติ สร้างภาพ ปะตดิ โดยการตัดหรือฉีกกระดาษ วาดภาพเพ่ือถา่ ยทอดเร่ืองราว เลือกงานทศั นศลิ ปแ์ ละบรรยาย สรา้ งงาน ทัศนศิลปเ์ ปน็ รูปแบบงานโครงสร้างเคลื่อนไหว บอกความสำคญั ของงานทัศนศิลป์ท่ีพบเหน็ ในชวี ิตประจำวนั อภิปรายเก่ียวกบั งานทัศนศิลปป์ ระเภทตา่ ง ๆ ในทอ้ งถ่ิน เพอ่ื สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์ตามจินตนาการ และความคิดสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ คณุ ค่างานทัศนศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคิด ต่องานศิลปะอยา่ งอิสระ และเพ่อื ให้เข้าใจความสมั พันธ์ ระหว่างทศั น์ศิลป์ ประวตั ิศาสตรแ์ ละวฒั นธรรม เห็นคณุ ค่างานทัศน์ศลิ ป์ท่เี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาท้องถ่นิ ดนตรี สีสันของเสยี งเคร่ืองดนตรี สสี ันของเสียงมนษุ ย์ การฝึกโสดประสาท การจำแนกเสยี งสูง - ตำ่ ดงั - เบา ยาว - สั้น การเคลื่อนไหวประกอบเนอ้ื หาในบทเพลง การเลน่ เคร่ืองดนตรีประกอบเพลง การขบั รอ้ ง ความหมายและความสำคญั ของเพลงที่ไดย้ นิ บทเพลงในท้องถน่ิ กจิ กรรมดนตรีในโอกาสพเิ ศษ จำแนกแหล่งกำเนดิ ของเสียงท่ไี ดย้ ิน จำแนกคุณสมบัติ เคาะจงั หวะ หรือเคลือ่ นไหวร่างกายให้ สอดคล้องกบั เน้ือหาของเพลง ร้องเพลงง่าย ๆ ทีเ่ หมาะสมกับวยั บอกความหมายและความสำคญั ของเพลงท่ี ได้ยิน บอกความสมั พนั ธ์ของเสยี งรอ้ ง เสียงเคร่ืองดนตรีในทอ้ งถิน่ โดยใช้คำงา่ ย ๆ แสดงและเข้ารว่ มกจิ กรรม ทางดนตรีในท้องถ่ิน เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรี อยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ คุณค่าทางดนตรี ถา่ ยทอดความรสู้ ึก ความคดิ ต่อดนตรีอย่างอิสระ และเพื่อให้เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งดนตรี ประวตั ศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคณุ คา่ ของดนตรีทเ่ี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาท้องถิ่น ภมู ปิ ัญญาไทย นาฏศลิ ป์ การเคล่ือนไหวอย่างมีรปู แบบ การประดิษฐ์ท่าจากการเคล่ือนไหววอยา่ งมีรปู แบบ เพลงที่เกี่ยวกบั ส่งิ แวดล้อม หลกั และวธิ กี ารปฏิบัตนิ าฏศิลป์ การใชภ้ าษาท่าและนาฏศัพท์ ประกอบจงั หวะ มารยาทในการชม การแสดง การเขา้ ชมหรือมสี ว่ นร่วม การละเล่นพ้นื บ้าน ท่มี าของการละเล่นพนื้ บา้ น เคล่ือนไหวขณะอยู่กับท่ี และเคล่ือนท่ีสะท้อนอารมณ์ ของตนเองอย่างอิสระ แสดงท่าทางเพ่ือสอ่ื ความหมาย แทนคำพดู แสดงท่าทาง ประกอบจงั หวะอย่างสรา้ งสรรค์ ระบุมารยาทในการชม การแสดง ระบแุ ละเลน่ การละเลน่ พนื้ บ้าน เชอื่ มโยง หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๗๒ สิง่ ที่พบเห็นในการละเล่นพ้นื บา้ นกับสงิ่ ที่พบเหน็ ในการดำรงชีวิต ระบุสิง่ ทช่ี น่ื ชอบและภาคภูมิใจในการละเล่น พืน้ บ้าน เพือ่ ใหเ้ ข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลปอ์ ย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอด ความร้สู ึก ความคิดอย่างอิสระ และเพื่อให้เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหวา่ งนาฏศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คุณคา่ ของนาฏศิลป์ ท่เี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ภูมปิ ญั ญาไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ ใหเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้กับชวี ิตประจำวนั ได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม ตวั ชี้วดั ศ ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ศ ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ศ ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ศ ๒.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ศ ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ศ ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวมท้ังหมด ๒๕ ตัวชี้วัด หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๗๓ คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ศ ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ทัศนศิลป์ รูปร่าง รปู ทรงในธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมและงานทัศนศลิ ป์ วสั ดุ ออปกรณ์ท่ีใช้สร้างงานทัศนศลิ ป์ ประเภทงานวาด งานปนั้ และงานพมิ พภ์ าพ เส้น รูปร่าง รูปทรง พื้นผวิ ในธรรมชาตสิ ิ่งแวดลอ้ ม และงาน ทัศนศิลปก์ ารวาดภาพระบายสี สิง่ ของรอบตัว ดว้ ยสเี ทียน ดนิ สอสี และสีโปสเตอร์ การใชว้ สั ดุ อุปกรณใ์ นงาน ปน้ั การใชเ้ สน้ รปู ร่าง รูปทรง สี และพ้ืนผวิ วาดภาพ ถ่ายทอดความคดิ ความรสู้ ึก วสั ดุ อปุ กรณ์ เทคนคิ วธิ ีการในการสร้างงานทัศนศิลป์ การแสดงความคดิ เหน็ ในงานทศั นศิลป์ของตนเอง การจัดกลมุ่ ของภาพตาม ทัศนธาตุ รปู ร่าง รปู ทรง ในงานออกแบบที่มาของงานทศั นศลิ ป์ วสั ดุ อปุ กรณ์และวธิ ีการสรา้ งงานทศั นศลิ ปใ์ น ท้องถน่ิ (อโุ บสถ เจดีย์ วดั ตา่ ง ๆ) บรรยาย รูปรา่ ง รปู ทรง ระบุ วัสดุ อุปกรณท์ ่ใี ชส้ รา้ งผลงาน จำแนกทศั นธาตุ วาดภาพระบายสี ฝกึ ทกั ษะพ้ืนฐานในการใช้ วสั ดุ อปุ กรณ์ สรา้ งสรรค์งานปน้ั วาดภาพถา่ ยทอดความคดิ ความรู้สึก บรรยายเหตุผล และวิธกี ารในการสร้างงานทัศนศลิ ป์ ระบุสิ่งท่ีช่ืนชมและสิง่ ท่คี วรปรับปรุงในงานทศั นศิลป์ ระบุและจัดกลุ่ม ของภาพตามทศั นธาตุ บรรยายลักษณะและรูปร่าง รปู ทรงในงานการออกแบบ เลา่ ถงึ ที่มาของงานทัศนศิลป์ อธบิ ายเกยี่ วกับวัสดุอุปกรณ์และวิธีการสรา้ งงาน เพือ่ สรา้ งสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ คณุ ค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรูส้ ึก ความคิด ต่องานศิลปะอยา่ งอสิ ระ และเพ่อื ใหเ้ ข้าใจความสัมพันธ์ ระหว่างทัศน์ศิลป์ ประวัตศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ ค่างานทัศน์ศลิ ป์ ที่เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ดนตรี รปู ร่าง ลักษณะของเคร่ืองดนตรี เสยี งของเครอ่ื งดนตรี สัญลกั ษณแ์ ทนคุณสมบตั ขิ องเสียง (สงู - ตำ่ ดัง - เบา ยาว - สน้ั ) สญั ลกั ษณแ์ ทนรปู แบบจังหวะ บทบาทหนา้ ทขี่ องบทเพลงสำคัญ การขับร้องเดียวและ หมู่ การบรรเลงเคร่ืองดนตรีประกอบเพลง การเคล่ือนไหวตามอารมณข์ องบทเพลง การแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับเสียงร้องและเสียงดนตรี การใชด้ นตรใี นโอกาสพิเศษ เอกลักษณ์ของดนตรใี นท้องถ่นิ ไดแ้ กล่ ักษณะ เสียงร้องของดนตรีในทอ้ งถน่ิ ภาษาและเนื้อหาในบทร้องของดนตรีในท้องถน่ิ เครื่องดนตรีและวงดนตรีใน ทอ้ งถ่นิ และดนตรีกบั การดำเนินชวี ิตในท้องถิน่ ได้แก่ ดนตรีในชวี ติ ประจำวัน ดนตรีในวาระสำคญั ระบรุ ปู รา่ งลกั ษณะของเครื่องดนตรี ใชร้ ูปภาพหรอื สัญลกั ษณแ์ ทนเสียง และจงั หวะ บอกบทบาท หนา้ ทข่ี องเพลง เคลอ่ื นไหวท่าทาง แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับเสียงดนตรี เสียงขับร้อง นำดนตรีไปใช้ ระบุ ลักษณะเดน่ และเอกลกั ษณ์ของดนตรี ระบุความสำคัญและประโยชน์ของดนตรี เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรี อย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ คุณค่าทางดนตรี ถา่ ยทอดความรูส้ กึ ความคดิ ตอ่ ดนตรีอย่างอิสระ ชืน่ ชมและประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั และเพื่อให้เข้าใจ ความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณคา่ ของดนตรที เ่ี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ ภูมิปญั ญาไทย หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๗๔ นาฏศลิ ป์ การเคลอ่ื นไหวในรูปแบบต่าง ๆ หลักและวธิ ีการปฏบิ ัตินาฏศิลป์ มารยาทในการชมการแสดง การบรู ณาการนาฏศลิ ปก์ บั สาระการเรยี นรู้อืน่ ๆ การแสดงนาฏศิลป์พืน้ บา้ นหรอื ท้องถน่ิ ของตน การแสดง นาฏศิลป์ ทมี่ าของการแสดงนาฏศิลป์ สรา้ งสรรค์การเคล่ือนไหว แสดงท่าทางประกอบเพลง เปรยี บเทยี บบทบาทหน้าทขี่ องผแู้ สดงและผชู้ ม มสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการแสดง บอกประโยชนข์ องการแสดงนาฏศิลป์ เลา่ การแสดงนาฏศิลปท์ ่ีเคยเห็น ระบุสิง่ ทีเ่ ปน็ ลักษณะเด่น และเอกลกั ษณ์ของการแสดงนาฏศิลป์ อธิบายความสำคัญของการแสดงนาฏศิลป์ เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลปอ์ ย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ คุณค่านาฏศิลป์ ถา่ ยทอด ความรูส้ กึ ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวนั เพื่อใหเ้ ขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหว่าง นาฏศลิ ป์ ประวัติศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคณุ คา่ ของนาฏศิลป์ ทเ่ี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ภมู ปิ ัญญาไทย สามารถนำความรู้ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถ นำไปประยุกต์ใช้กบั ชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม ตัวชี้วัด ศ ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐ ศ ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ศ ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗ ศ ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ศ ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕ ศ ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ รวมทั้งหมด ๒๙ ตัวชี้วัด หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๗๕ คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ศ ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ทัศนศิลป์ รูปรา่ ง รปู ทรงในธรรมชาติ สิง่ แวดลอ้ มและงานทัศนศลิ ป์ อทิ ธิพลของสี วรรณะอุ่นและวรรณะเยน็ เสน้ สี รูปร่าง รปู ทรง พืน้ ผิว และพนื้ ทีว่ ่างในธรรมชาตสิ ิ่งแวดล้อม และงานทัศนศลิ ป์ การใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ สรา้ งงานพิมพ์ภาพ การใช้วัสดุ อุปกรณ์ในการวาดภาพระบายสี การจัดระยะความลกึ น้ำหนัก และแสงเงา ใน การวาดภาพ การใชส้ วี รรณะอนุ่ และใช้สวี รรณะเยน็ วาดภาพถ่ายทอดความร้สู กึ และจินตนาการ ความเหมือน และความแตกตา่ งในงานทศั นศลิ ป์ ความคิดความรสู้ กึ ที่ถา่ ยทอดในงานทศั นศลิ ป์ การเลือกใชว้ รรณะสเี พื่อ ถา่ ยทอดอารมณ์ ความรสู้ ึก งานทัศนศิลป์ในท้องถนิ่ งานทัศนศลิ ปจ์ ากวัฒนธรรมต่าง ๆ เปรยี บเทียบ รูปลกั ษณะของรปู ร่าง รูปทรง อภปิ รายเกี่ยวกบั อทิ ธพิ ลของสวี รรณะอนุ่ และวรรณะเย็น จำแนกทัศนธาตุของ สิง่ ตา่ ง ๆ ฝึกทกั ษะพืน้ ฐานในการใช้ วัสดุ อุปกรณ์ บรรยายลกั ษณะของภาพ วาดภาพระบายสี เปรียบเทียบ ความคิด ความรู้สึกท่ถี ่ายทอดผา่ นงานทศั นศลิ ป์ เลือกใช้วรรณะสเี พื่อถา่ ยทอดอารมณ์ ระบแุ ละอภปิ ราย เกย่ี วกับงานทัศนศลิ ป์และบรรยายเกยี่ วกับงานทศั นศลิ ป์ท่ีมาจากวฒั นธรรมต่าง ๆ เพ่ือใหส้ ร้างสรรค์งานทัศนศลิ ปต์ ามจนิ ตนาการ และความคิดสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ คณุ ค่างานทัศนศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรู้สึก ความคิด ต่องานศิลปอ์ ย่างอสิ ระ และเพื่อใหเ้ ข้าใจความสมั พันธ์ ระหว่างทศั น์ศลิ ป์ ประวัติศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่างานทัศนศ์ ลิ ป์ ท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ดนตรี โครงสรา้ งของบทบาทเพลง ประเภทของเครื่องดนตรี เสียงของเครือ่ งดนตรีแต่ละประเภท การ เคลอื่ นท่ีขน้ึ ลง ของทำนอง รปู แบบจังหวะของทำนองจงั หวะ รปู แบบจงั หวะความชา้ เร็ว ของจังหวะ เครอ่ื งหมายและสญั ลักษณ์ทางดนตรี โครงสร้างโน้ตเพลงไทย การขับรอ้ งเพลงในบันไดเสียงที่เหมาะกับตนเอง การใช้และการดูแลรักษาเครื่องดนตรีของตน ความหมายของเน้อื หาในบทเพลง ความสัมพนั ธ์และวถิ ชี วี ติ กับ ผลงานดนตรี การอนรุ ักษ์วัฒนธรรมทางดนตรี ดนตรไี ทยในหมบู่ ้าน บอกประโยชนเ์ พลงอย่างง่าย จำแนกประเภทของเครื่องดนตรี ระบุทศิ ทางการเคลอื่ นท่ขี ้ึน ลงงา่ ย ๆ อา่ น เขียน โนต้ ดนตรีไทยและสากล รอ้ งเพลงโดยใช้ช่วงเสียงทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง ใช้และเก็บเครื่องดนตรี อย่างถูกต้องและปลอดภัย ระบุวา่ ดนตรสี ามารถใช้ในการส่อื เร่ืองราว บอกแหลง่ ท่ีมาและความสัมพนั ธ์ของวิถี ชวี ิตไทย ระบคุ วามสำคญั ในการอนรุ ักษส์ ง่ เสรมิ วฒั นธรรมทางดนตรี เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจและแสดงออกทางดนตรี อย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ คณุ คา่ ทางดนตรี ถา่ ยทอดความรสู้ ึก ความคิด ต่อดนตรีอย่างอสิ ระ ชืน่ ชมและประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวัน และเพ่ือใหเ้ ข้าใจ ความสมั พันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคณุ คา่ ของดนตรที ี่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิ ปญั ญาท้องถิ่น ภูมปิ ญั ญาไทย นาฏศิลป์ หลักและวธิ กี ารปฏิบตั ินาฏศลิ ป์ การใช้ภาษาท่าและนาฏศัพท์ ประกอบเพลงปลุกใจและเพลงพระราช นพิ นธ์ การใชศ้ ัพทท์ างการละครในการถ่ายทอดเรอ่ื งราว การประดิษฐ์ท่าทางหรือท่ารำประกอบจงั หวะ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๗๖ พน้ื เมือง การแสดงนาฏศิลปป์ ระเภทคู่ และหมู่ การเลา่ เรื่องความเป็นมาของนาฏศลิ ป์ ที่มาของชุดการแสดง การชมการแสดง ระบทุ ักษะพน้ื ฐานทางนาฏศิลปแ์ ละการละคร ใชภ้ าษาท่าและนาฏศพั ทห์ รอื ศัพท์ทางการละครง่าย ๆ แสดงการเคลื่อนไหวในจงั หวะตา่ ง ๆ แสดงนาฏศิลป์เป็นคู่ และหมู่ เลา่ สิ่งทชี่ น่ื ชอบในการแสดง อธิบายประวตั ิ ความเป็นมาของนาฏศลิ ป์ หรือชดุ การแสดงอย่างง่าย ๆ เปรยี บเทียบการแสดงนาฏศิลป์กบั การแสดงท่ีมาจาก วัฒนธรรมอ่ืน อธิบายความสำคัญของการแสดงความเคารพในการเรยี น และการแสดงนาฏศลิ ป์ ระบุเหตผุ ลที่ ควรรักษาและสบื ทอดการแสดงนาฏศิลป์ เพือ่ ใหเ้ ข้าใจและแสดงออกทางนาฏศลิ ป์อย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ คุณคา่ นาฏศลิ ป์ ถา่ ยทอด ความร้สู กึ ความคิดอยา่ งอิสระ ชื่นชมและประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อใหเ้ ข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่าง นาฏศลิ ป์ ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ คา่ ของนาฏศลิ ป์ ท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาท้องถิ่น ภมู ิปัญญาไทย สามารถนำความรไู้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถ นำไปประยุกตใ์ ช้กบั ชีวติ ประจำวันไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม ตวั ชี้วดั ศ ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙ ศ ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ศ ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗ ศ ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ศ ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕ ศ ๓.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ รวมท้ังหมด ๒๙ ตัวชี้วัด หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๗๗ คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน กลุม่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ บรรยาย อภิปราย บอก มีทักษะ สรา้ ง วาดภาพ ระบุ ท่อง เล่า เลียนแบบ แสดง จำแนก เปรยี บเทยี บ เคาะ ร้องเพลง เก่ยี วกบั เก่ียวกบั จังหวะ ตำแหนง่ ของ สง่ิ ตา่ ง ๆ ทีป่ รากฏในสง่ิ แวดล้อม และงาน ทัศนศลิ ปค์ วามแตกต่างระหว่างงานทศั นศลิ ป์ ทส่ี ร้างสรรค์ด้วยวสั ดุอุปกรณ์และวิธกี ารท่ีตา่ งกนั เทคนิคของ แสงเงา นำ้ หนกั และวรรณะสี การวาดภาพภมู ศิ าสตร์ของสถานท่ที ่องเท่ียวและประเพณีวัฒนธรรมในอำเภอ วารินชำราบและจังหวัดอบุ ลราชธานี งานป้ันจากดนิ น้ำมันหรือดนิ เหนียว โดยเนน้ การถ่ายทอดจินตนาการ งานพิมพ์ภาพ โดยเน้นการจัดวางตำแหนง่ ของสงิ่ ต่าง ๆ ในภาพ ปัญหาในการจดั องค์ประกอบศิลป์ และการสอ่ื ความหมายในงานทัศนศลิ ป์ของตนเอง และบอกวธิ กี ารปรับปรงุ งานใหด้ ขี ้ึน ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของงาน ทัศนศิลป์ที่มีผลต่อชวี ติ ของคน ในสังคม เก่ียวกับลักษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ในแหล่งเรยี นรหู้ รือ นทิ รรศการศิลปะ งานทัศนศิลปท์ ่สี ะท้อนวฒั นธรรมและภูมิปัญญาในทอ้ งถน่ิ องคป์ ระกอบดนตรใี นเพลงท่ใี ช้ ในการสอื่ อารมณ์ ลกั ษณะของเสียงขับร้องและเครอื่ งดนตรีท่ีอยใู่ นวงดนตรปี ระเภทต่าง ๆ โนต้ ดนตรไี ทยและ สากล 5 ระดับเสียง เคร่ืองดนตรีทำจังหวะและทำนอง เพลงไทยหรอื เพลงสากล หรือเพลงไทยสากลท่ี เหมาะสมกับวัย ประโยคเพลงแบบถามตอบใชด้ นตรีร่วมกบั กิจกรรมในการแสดงออกตามจนิ ตนาการ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างดนตรกี ับประเพณใี นวัฒนธรรมตา่ ง ๆ คุณค่าของดนตรที ี่มาจากวฒั นธรรมทต่ี ่างกัน องคป์ ระกอบนาฏศิลป์ ทา่ ทางประกอบเพลงหรอื เร่ืองราวตามความคิดของตน แสดงนาฏศิลป์ โดยเน้นการใช้ ภาษาท่าและนาฏยศพั ทใ์ นการสอื่ ความหมายและการแสดงออกการรำรองเงง็ เลยี นแบบการเคลอ่ื นไหวของ ธรรมชาติทมี่ ใี นจังหวดั อบุ ลราชธานี การเขียนเค้าโครงเร่ืองหรือบทละครสน้ั ๆการแสดงนาฏศลิ ปช์ ดุ ตา่ ง ๆ ประโยชน์ท่ไี ด้รบั จากการชมการแสดง การแสดงประเภทตา่ ง ๆ ของไทย ในแต่ละท้องถ่นิ แสดงนาฏศิลป์ นาฏศิลปพ์ ้ืนบา้ น ที่สะทอ้ นถึงวฒั นธรรมและประเพณี รู้ เข้าใจ เหน็ คณุ ค่า ช่นื ชม เกี่ยวกับจงั หวะ ตำแหนง่ ของ ส่ิงต่าง ๆ ท่ีปรากฏในสิง่ แวดล้อม และงาน ทัศนศลิ ป์ ความแตกต่างระหว่างงานทศั นศิลป์ ทสี่ ร้างสรรคด์ ว้ ยวสั ดอุ ปุ กรณ์และวิธกี ารทต่ี ่างกัน เทคนิคของ แสงเงา น้ำหนกั และวรรณะสี การวาดภาพภูมศิ าสตร์ของสถานท่ีท่องเทีย่ วและประเพณีวัฒนธรรมในจงั หวดั พิจติ ร งานปน้ั จากดินน้ำมันหรือดินเหนยี วโดยเนน้ การถา่ ยทอดจินตนาการงานพิมพ์ภาพ โดยเนน้ การจัดวาง ตำแหนง่ ของสิ่งตา่ ง ๆ ในภาพ ปัญหาในการจัดองคป์ ระกอบศลิ ป์ และการส่ือความหมายในงานทศั นศิลป์ของ ตนเอง และบอกวธิ กี ารปรบั ปรุงงานใหด้ ีขึ้น ประโยชน์และคุณคา่ ของงานทัศนศิลป์ที่มผี ลต่อชวี ติ ของคนใน สงั คม เกย่ี วกบั ลักษณะรูปแบบของงานทศั นศลิ ป์ในแหล่งเรียนร้หู รือนทิ รรศการศลิ ปะ งานทัศนศลิ ปท์ สี่ ะท้อน วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาในท้องถ่ิน องค์ประกอบดนตรใี นเพลงท่ีใช้ในการสอ่ื อารมณ์ ลกั ษณะของเสยี งขบั ร้อง และเครื่องดนตรที ี่อย่ใู นวงดนตรปี ระเภทต่าง ๆ โนต้ ดนตรีไทยและสากล 5 ระดบั เสียง เครื่องดนตรีทำจงั หวะ และทำนอง เพลงไทยหรือเพลงสากล หรอื เพลงไทยสากลท่เี หมาะสมกับวัย ประโยคเพลงแบบถามตอบใช้ ดนตรรี ่วมกบั กจิ กรรมในการแสดงออกตามจนิ ตนาการความสัมพนั ธร์ ะหว่างดนตรีกบั ประเพณใี นวัฒนธรรม ตา่ ง ๆ คุณค่าของดนตรที ่ีมาจากวฒั นธรรมท่ีต่างกัน องค์ประกอบนาฏศิลป์ ท่าทางประกอบเพลงหรือเรื่องราว ตามความคดิ ของตน แสดงนาฏศิลป์ โดยเน้นการใชภ้ าษาท่าและนาฏยศัพทใ์ นการสื่อความหมายและการ แสดงออกการรำ เลียนแบบการเคลอ่ื นไหวของธรรมชาติท่ีมใี นจงั หวดั อบุ ลราชธานี การเขยี นเค้าโครงเรื่องหรอื บทละครสั้น ๆ การแสดงนาฏศลิ ปช์ ุดต่าง ๆ ประโยชน์ทีไ่ ด้รับจากการชมการแสดง การแสดงประเภทต่าง ๆ ของไทย ในแตล่ ะท้องถนิ่ แสดงนาฏศิลป์ นาฏศลิ ปพ์ ้นื บ้าน ทสี่ ะทอ้ นถงึ วัฒนธรรมและประเพณีรักและมุ่งม่นั หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๗๘ ในการทำงาน สามารถนำความรู้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไป ประยุกต์ใช้กบั ชีวิตประจำวันไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม สามารถนำความรู้ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนโ์ ดยใชห้ ลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนำไปประยุกต์ใชก้ ับชวี ติ ประจำวนั ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ตัวชวี้ ดั ศ ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ศ ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ศ ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ศ ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ศ ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖ ศ ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ รวมท้ังหมด ๒๖ ตวั ชว้ี ัด หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๗๙ คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖ เวลา ๘๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ บรรยาย อภปิ ราย บอก มีทักษะ สรา้ ง อา่ น เขียน วาดภาพ ระบุ ท่อง เล่า เลียนแบบ แสดง จำแนก เปรียบเทยี บ เคาะ รอ้ งเพลง เก่ียวกับ สคี ่ตู รงข้าม และอภิปรายเกยี่ วกับการใช้ สคี ูต่ รงข้าม ในการถ่ายทอด ความคดิ และอารมณ์ หลักการจดั ขนาดสัดสว่ นความสมดลุ ในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ งานทศั นศิลปจ์ ากรปู แบบ 2 มิติ เป็น 3 มิติ โดยใช้หลักการของแสงเงาและน้ำหนักงานปั้นโดยใช้หลักการเพิ่มและลด ป้ันแผนผังของ โรงเรยี น งานทัศนศลิ ป์ โดยใชห้ ลกั การของรปู และพื้นที่ว่างใช้สีคตู่ รงข้ามหลักการจดั ขนาดสดั ส่วน และความ สมดุล วาดภาพสถาปตั ยกรรมท่มี ีในจงั หวัดพจิ ิตร ทศั นศิลปเ์ ปน็ แผนภาพ แผนผัง และภาพประกอบ เพื่อ ถา่ ยทอดความคดิ หรือเร่ืองราวเก่ียวกบั เหตุการณ์ต่าง ๆ บทบาทของงานทศั นศลิ ป์ทสี่ ะท้อนชวี ติ และสังคม เกีย่ วกบั อิทธพิ ลของความเช่อื ความศรทั ธาในศาสนาทม่ี ีผลตอ่ งานทัศนศิลป์ในท้องถ่นิ อิทธพิ ลทางวัฒนธรรม ในท้องถิ่นทมี่ ีผลต่อการสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ของบุคคล เพลงที่ฟัง โดยอาศยั องค์ประกอบดนตรี และศัพท์สงั คีต ประเภทและบทบาทหน้าท่ีเครอ่ื งดนตรีไทยและเครื่องดนตรีที่มาจากวฒั นธรรมต่าง ๆ โน้ตไทย และโนต้ สากล ทำนองง่าย ๆ ใชเ้ ครื่องดนตรีบรรเลงประกอบการร้องเพลงด้นสดท่ีมีจงั หวะและทำนองง่าย ๆ ความรสู้ กึ ทม่ี ีตอ่ ดนตรี ทำนอง จงั หวะ การประสานเสียง และคุณภาพเสียงของเพลงที่ฟงั เรื่องราวของดนตรีไทยใน ประวัติศาสตร์ ดนตรีท่ีมาจากยคุ สมัยทตี่ ่างกัน อิทธิพลของวฒั นธรรมต่อดนตรใี นท้องถิ่น การเคล่ือนไหวและ การแสดงโดยเน้นการถ่ายทอดลีลาหรอื อารมณ์ เคร่ืองแตง่ กาย หรอื อุปกรณ์ประกอบการ แสดงนาฏศลิ ปแ์ ละ การละคร อยา่ งงา่ ย ๆ ความรู้สึกของตนเองทีม่ ตี ่องานนาฏศิลป์และการละครอยา่ งสร้างสรรค์ การแสดงความ คิดเห็นในการชมการแสดงความสัมพันธ์ระหวา่ งนาฏศิลปแ์ ละการละครกบั ส่งิ ทีป่ ระสบในชีวิตประจำวันส่ิงทม่ี ี ความสำคญั ต่อการแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละละคร ประโยชน์ท่ีได้รับจากการแสดงหรือการชมการแสดงนาฏศลิ ป์และ ละคร รู้ เขา้ ใจ เห็นคณุ ค่า ชนื่ ชม เก่ียวกบั สีคูต่ รงข้ามและอภปิ รายเกี่ยวกับการใช้ สีคูต่ รงข้าม ในการ ถา่ ยทอดความคิดและอารมณ์ หลกั การจัดขนาดสดั สว่ นความสมดุลในการสรา้ งงานทัศนศิลป์ งานทัศนศลิ ป์ จากรูปแบบ 2 มติ ิ เป็น 3 มิติ โดยใช้หลกั การของแสงเงาและน้ำหนัก งานปน้ั โดยใชห้ ลักการเพ่ิมและลด ปั้น แผนผังของโรงเรียน งานทศั นศลิ ป์ โดยใช้หลกั การของรูปและพ้ืนท่วี า่ งใชส้ ีคตู่ รงขา้ มหลกั การจดั ขนาดสัดสว่ น และความสมดลุ วาดภาพสถาปตั ยกรรมท่ีมใี นจงั หวดั อบุ ลราชธานี ทศั นศลิ ป์เปน็ แผนภาพ แผนผัง และ ภาพประกอบ เพือ่ ถา่ ยทอดความคิด หรอื เรื่องราวเก่ยี วกับเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ บทบาทของงานทศั นศลิ ป์ท่ี สะทอ้ นชวี ิตและสงั คม เกย่ี วกับอิทธพิ ลของความเช่อื ความศรทั ธาในศาสนาทีม่ ีผลต่องานทัศนศลิ ป์ในทอ้ งถิ่น อิทธิพลทางวัฒนธรรมในทอ้ งถน่ิ ทีม่ ผี ลต่อการสร้างงานทัศนศิลป์ของบคุ คล เพลงท่ีฟัง โดยอาศัยองค์ประกอบ ดนตรี และศัพท์สงั คีต ประเภทและบทบาทหน้าท่เี ครือ่ งดนตรไี ทยและเคร่ืองดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ โน้ตไทย และโนต้ สากลทำนองงา่ ย ๆ ใชเ้ ครื่องดนตรบี รรเลงประกอบการร้องเพลงดน้ สดท่มี ีจงั หวะและทำนอง ง่าย ๆ ความรสู้ ึกท่ีมตี อ่ ดนตรี ทำนอง จังหวะ การประสานเสียง และคณุ ภาพเสียงของเพลงทีฟ่ ัง เร่ืองราวของ ดนตรีไทยในประวัติศาสตร์ ดนตรที ่ีมาจากยุคสมัยที่ต่างกัน อิทธพิ ลของวัฒนธรรมตอ่ ดนตรีในทอ้ งถ่นิ การ เคลอื่ นไหวและการแสดงโดยเนน้ การถา่ ยทอดลลี าหรืออารมณ์ เคร่ืองแตง่ กาย หรืออปุ กรณ์ประกอบการ แสดงนาฏศิลปแ์ ละการละคร อยา่ งง่าย ๆ ความรสู้ กึ ของตนเองท่ีมตี อ่ งานนาฏศิลป์และการละครอย่าง สรา้ งสรรค์ การแสดงความคิดเหน็ ในการชมการแสดงความสมั พนั ธ์ระหว่างนาฏศลิ ป์และการละครกับส่ิงท่ี ประสบในชีวติ ประจำวันส่งิ ที่มคี วามสำคัญต่อการแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละละคร ประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั จากการแสดงหรอื หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๘๐ การชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร รักและมุ่งม่ันในการทำงาน สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใช้ วธิ กี ารของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กบั ชวี ติ ประจำวันได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนโ์ ดยใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ กับชวี ิตประจำวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ตวั ชว้ี ัด ศ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗ ศ ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ศ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ศ ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ศ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ศ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒ รวม ๒๗ ตัวชีว้ ดั หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๘๑ คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี เวลา ๔๐ ชั่วโมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ศกึ ษาวธิ ีการทำงานเพอื่ ชว่ ยเหลอื ตนเอง การใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเคร่ืองมือง่าย ๆ ในการทำงานอย่าง ปลอดภัย การทำงานเพ่ือช่วยเหลอื ตนเองอยา่ งกระตอื รือร้นและตรงเวลา ตวั ชว้ี ดั ง ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ รวม ๑ มาตรฐาน ๓ ตัวชีว้ ัด หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๘๒ คำอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพฯ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ ศกึ ษาวธิ ีการและประโยชนก์ ารทำงานเพ่ือชว่ ยเหลอื ตนเองและครอบครวั การใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และ เครือ่ งมอื ในการทำงานทีเ่ หมาะสมและประหยดั การทำงานเพอ่ื ช่วยเหลือตนเองและครอบครวั อย่างปลอดภยั ตัวชวี้ ดั ง ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวม ๑ มาตรฐาน ๓ ตัวชว้ี ัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๘๓ คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพ ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชพี ฯ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓ ศกึ ษาวธิ ีการและประโยชน์การทำงาน เพื่อชว่ ยเหลอื ตนเอง ครอบครัว และสว่ นรวม การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือตรงกับลักษณะงาน การทำงานอย่างเป็นข้ันตอนตามกระบวนการทำงานด้วยความ สะอาด ความรอบคอบ และอนรุ ักษส์ ง่ิ แวดล้อม ตวั ช้ีวัด ง ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ รวม ๑ มาตรฐาน ๓ ตวั ชว้ี ัด หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๘๔ คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพฯ๔ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ศึกษาถึงเหตุผลในการทำงานให้บรรลุเปา้ หมาย การทำงานบรรลุเปา้ หมายท่วี างไว้ อย่างเปน็ ขน้ั ตอน ดว้ ยความขยัน อดทน รบั ผิดชอบ และซ่ือสัตย์ การปฏิบตั ิตนอย่างมีมารยาทในการทำงาน การใช้พลังงานและ ทรัพยากรในการทำงานอย่างประหยัด และคุม้ คา่ และศึกษาความหมายและความสำคัญของอาชพี ตวั ชว้ี ดั ง ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ ง ๒.๑ ป.๔/๑ รวม ๒ มาตรฐาน ๕ ตวั ชวี้ ัด หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๘๕ คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพฯ๕ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕ ศกึ ษาเหตุผลในการทำงานแต่ละขั้นตอนตามกระบวนการทำงาน การใชท้ ักษะการจัดการในการ ทำงาน อย่างเป็นระบบ ประณตี และมีความคดิ สรา้ งสรรค์ การปฏบิ ัตติ นอย่างมีมารยาทในการใทำงานกบั สมาชกิ ในครอบครัว ตลอดจนการมีจติ สำนึกในการใช้พลงั งานและทรัพยากรอย่างประหยดั และคุ้มค่า การ สำรวจข้อมูลที่เกี่ยวกับอาชีพตา่ ง ๆ ในชมุ ชน รวมถงึ การระบุความแตกตา่ งของอาชพี ตวั ช้ีวดั ง ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ง ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ รวม ๒ มาตรฐาน ๖ ตัวช้วี ัด หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๘๖ คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพฯ๖ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ศกึ ษาแนวทางในการทำงานและปรับปรงุ การทำงานแตล่ ะข้ันตอน การใช้ทักษะการจัดการในการ ทำงาน และมที กั ษะการทำงานรว่ มกัน การปฏิบัตติ นอย่างมีมารยาทในการทำงานกบั ครอบครับและผูอ้ น่ื และ การสำรวจตนเองเพ่อื วางแผนในการเลอื กอาชีพ การระบคุ วามรู้ ความสามารถ และคุณธรรมทสี่ ัมพันธ์กับ อาชีพทส่ี นใจ ตวั ช้ีวัด ง ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ง ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ รวม ๒ มาตรฐาน ๕ ตวั ช้วี ัด หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๘๗ คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ อ ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ เวลา ๑๒๐ ชว่ั โมง ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๑ ปฏบิ ตั ติ าม คำสัง่ งา่ ย ๆ ที่ฟงั ตัวอักษรและเสียง และสะกดคำงา่ ย ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น ภาพ ตรงตามความหมายของคำและกลุ่มคำท่ีฟงั เรือ่ งใกลต้ วั คำส้นั ๆ ง่าย ๆ ในการสือ่ สารระหวา่ งบุคคลตามแบบ ที่ฟัง คำสั่งง่าย ๆ ตามแบบท่ีฟงั ความต้องการงา่ ยๆของตนเองตามแบบที่ฟัง การขอและให้ข้อมลู งา่ ยๆ เกยี่ วกบั ตนเองตามแบบท่ีฟงั ขอ้ มูลงา่ ยๆ เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกล้ตวั ตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ช่อื และคำศพั ท์เกี่ยวกับเทศกาลสำคญั ของเจา้ ของภาษา การเข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะสม กับวัย การระบุตวั อกั ษรและเสียงอกั ษรของภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และภาษาไทย คำศัพทท์ ่ี เกยี่ วข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่ การฟัง/พูดในสถานการณง์ า่ ยๆที่เกดิ ขึน้ ในห้องเรยี น การใช้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) เพือ่ รวบรวมคำศพั ท์ที่เก่ียวขอ้ งใกลต้ วั โดยการปฏิบตั ติ าม ระบุ อ่านออกเสียง เลอื กภาพ ตอบคำถาม พูดโตต้ อบ ใช้ บอก พดู ขอ ใหข้ ้อมูล ทำท่าประกอบ เขา้ รว่ ม ฟัง/พูด เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั เกดิ สมรรถนะตามความต้องการของหลกั สตู ร มีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ ึ้นในตัวของผเู้ รียน และสามารถอยู่ รว่ มกับผู้อ่นื ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสุข สามารถนำความรไู้ ปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยใชห้ ลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ตวั ชว้ี ัด ต ๑.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔ ต ๑.๒ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔ ต ๑.๓ ป.๑/๑ ต ๒.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓ ต ๒.๒ ป.๑/๑ ต ๒.๑ ป.๑/๑ ต ๔.๑ ป.๑/๑ ต ๔.๒ ป.๑/๑ รวมทั้งหมด ๑๖ ตัวชีว้ ดั หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๘๘ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ อ ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ ปฏิบัตติ ามคำสั่งงา่ ย ๆ และคำขอร้องง่าย ๆ ท่ีฟงั ระบตุ ัวอักษรและเสยี ง อา่ นออกเสียงคำ สะกดคำ และอ่านประโยคง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลอื กภาพตรงตามความหมายของคำและกลมุ่ คำทฟี่ ัง ตอบ คำถามจากการฟงั ประโยค บทสนทนาหรอื นทิ านงา่ ย ๆ ที่มีภาพประกอบ พดู โตต้ อบดว้ ยคำสั้น ๆ งา่ ย ๆ ใน การสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบท่ฟี ัง ใชค้ ำส่ังและคำขอร้องงา่ ย ๆ ตามแบบที่ฟงั บอกความต้องการงา่ ย ๆ ของตนเองตามแบบทีฟ่ งั พูดขอและให้ข้อมูลง่าย ๆ เก่ียวกับตนเองตามแบบที่ฟงั พดู ให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง และเรือ่ งใกลต้ ัว พดู และทำท่าทางประกอบตามวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา บอกชื่อและคำศพั ท์เกยี่ วกับ เทศกาลสำคัญของเจา้ ของภาษา การเขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะสมกบั วยั ระบุตัวอักษร และเสยี งอักษรของภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และภาษาไทย บอกคำศัพทท์ เ่ี ก่ยี วขอ้ งกับกล่มุ สาระการ เรยี นร้อู ่ืน ฟงั /พดู ในสถานการณ์ง่ายๆที่เกดิ ข้ึนในห้องเรียน ใชภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เพอื่ รวบรวม คำศัพทท์ เี่ กยี่ วขอ้ งใกล้ตวั โดยการระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พดู โต้ตอบ ใช้ บอก ทำท่าทาง เข้าร่วม ฟัง เพอ่ื ให้ ผ้เู รยี นมีความรู้ความเขา้ ใจและนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั เกิดสมรรถนะตามความต้องการของ หลกั สตู ร มคี ุณลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ ้ึนในตัวของผู้เรียน และสามารถอยูร่ ่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อยา่ งมี ความสขุ สามารถนำความรไู้ ปใช้ให้เกดิ ประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไป ประยกุ ต์ใช้กบั ชีวติ ประจำวันไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม ตวั ช้วี ดั ต ๑.๑ ป๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔ ต ๑.๒ ป๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔ ต ๑.๓ ป๒/๑,ป.๒/๒ ต ๒.๑ ป.๒/๒,ป.๒/๓ ต ๒.๒ ป๒/๑ ต ๓.๑ ป๒/๑ ต ๔.๑ ป๒/๑ ต ๔.๒ ป๒/๑ รวมท้ังหมด ๑๖ ตวั ชวี้ ัด หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๘๙ คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ อ ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ ปฏิบัติตามคำสั่งและคำขอร้องทีฟ่ งั หรืออ่าน คำ สะกดคำ อา่ นกลุ่มคำประโยค และบทพูดเขา้ จงั หวะ (chant)ง่าย ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น ภาพหรือสญั ลักษณต์ รงตามความหมายของคำกลมุ่ คำและประโยคที่ ฟัง จากการฟงั หรืออา่ นประโยค บทสนทนา หรอื นิทานง่าย ๆ คำสั้น ๆ ง่าย ๆ ในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล ตามแบบท่ีฟัง คำสั่งและคำขอรอ้ งงา่ ย ๆ ตามแบบท่ีฟัง ความตอ้ งการง่ายๆของตนเองตามแบบท่ีฟงั ขอและให้ ขอ้ มลู งา่ ย ๆ เกี่ยวกับตนเองและเพื่อนตามแบบที่ฟัง ความรสู้ ึกของตนเองเก่ียวกบั สิง่ ตา่ ง ๆ ใกล้ตัว หรอื กิจกรรมต่าง ๆ ตามแบบที่ฟัง ให้ขอ้ มูลง่าย ๆ เกย่ี วกับตนเองและเรอื่ งใกลต้ วั คำตามประเภทของ บุคคล สัตว์ และสิ่งของตามทฟี่ ังหรืออา่ น มารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ชือ่ และคำศัพท์ง่าย ๆ เกีย่ วกับ เทศกาล/วันสำคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเปน็ อยู่ของเจา้ ของภาษา กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม ทเี่ หมาะสมกับวยั ความแตกต่างของเสยี งตวั อกั ษร คำ กลุ่มคำ และประโยคง่าย ๆ ของภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) และภาษาไทย คำศพั ท์ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื สถานการณ์งา่ ย ๆ ท่ีเกดิ ข้ึนใน หอ้ งเรียน ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) เพื่อรวบรวมคำศัพท์ทเี่ กี่ยวข้องใกลต้ ัว โดยการอ่านออกเสียง สะกดคำ ฟงั พูด เลือก/ระบุ ตอบคำถาม พูดโตต้ อบ ใช้ บอก จดั หมวดหมู่ ทำทา่ ประกอบ เข้าร่วมกจิ กรรม เพอื่ ใหม้ ีความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนำความรู้ไปปฏิบัตใิ ห้เกิด ประโยชน์ต่อตนเองและสงั คม มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม สามารถนำความรู้ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ บั ชวี ติ ประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ตัวช้วี ัด ต ๑.๑ ป๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔ ต ๑.๒ ป๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕ ต ๑.๓ ป๓/๑,ป.๓/๒ ต ๒.๑ ป๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓ ต ๒.๒ ป๓/๑ ต ๓.๑ ป๓/๑ ต ๔.๑ ป๓/๑ ต ๔.๒ ป๓/๑ รวมทั้งหมด ๑๘ ตวั ชว้ี ัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๙๐ คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ เวลา ๘๐ ชั่วโมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ ปฏบิ ัตติ ามคำสัง่ คำขอร้อง และคำแนะนำ (instructions)ง่าย ๆ ทฟี่ งั หรืออา่ น อา่ นออกเสียงคำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค ขอ้ ความงา่ ย ๆ และบทพูดเขา้ จังหวะ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน เลือก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์ หรอื เคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยคและขอ้ ความสนั้ ๆท่ีฟงั หรอื อา่ น ตอบคำถาม จากการฟงั หรอื อา่ นประโยค บทสนทนา หรือนิทานงา่ ย ๆ พูด/เขยี นโต้ตอบในการสอื่ สารระหวา่ งบุคคล ใช้คำสงั่ คำขอรอ้ ง และคำขออนุญาตง่าย ๆ พูด/เขยี นแสดงความต้องการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณง์ ่าย ๆ พดู /เขียน เพ่อื ขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเองเพอื่ น และครอบครวั พดู แสดงความรู้สึก ของตนเองเก่ยี วกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตัว หรือกิจกรรมต่าง ๆ ตามแบบที่ฟัง พูด/เขียนให้ข้อมูลง่าย ๆ เกีย่ วกบั ตนเองและเรอื่ งใกล้ตวั พดู /วาดภาพแสดงความสัมพนั ธข์ องสิ่งต่าง ๆ ใกลต้ ัวที่ฟงั หรอื อ่าน พดู แสดงความ คิดเห็นง่าย ๆ เกยี่ วกับตนเองและเรือ่ งใกล้ตัว พูดและทำท่าประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรม ของเจา้ ของภาษา ตอบคำถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สำคัญ/งานฉลองและชวี ติ ความเปน็ อย่งู ่าย ๆ ของเจ้าของ ภาษา การเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะสมกบั วยั บอกความแตกต่างของเสียงตัว อักษร คำ กลมุ่ คำ ประโยค และขอ้ ความ ของภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) และภาษาไทย บอกความเหมือน/ ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาล และงานฉลองตามวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นควา้ รวบรวม คำศัพทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น และนำเสนอด้วยการพดู /การเขยี น ฟัง/พูดในสถานการณ์ ที่เกดิ ขนึ้ ในห้องเรยี นและสถานศกึ ษา ใชภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ในการสบื ค้นและรวบรวมข้อมลู ต่าง ๆ โดยการฟัง พูด อา่ น เขยี น ระบุ อา่ นออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก ทำทา่ ทาง เข้ารว่ ม เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน เกดิ สมรรถนะตามความ ตอ้ งการของหลักสตู ร มคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ขึ้นในตัวของผเู้ รียน และสามารถอยูร่ ว่ มกบั ผอู้ ่นื ในสงั คมได้ อย่างมีความสุข สามารถนำความรูไ้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถ นำไปประยุกตใ์ ชก้ ับชวี ติ ประจำวนั ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ตัวช้วี ดั ต ๑.๑ ป๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔ ต ๑.๒ ป๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔,ป.๔/๕ ต ๑.๓ ป๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓ ต ๒.๑ ป๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓ ต ๒.๒ ป๔/๑,ป.๔/๒ ต ๓.๑ ป๔/๑ ต ๔.๑ ป๔/๑ ต ๔.๒ ป๔/๑ รวมทั้งหมด ๒๐ ตัวชวี้ ัด หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๙๑ คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ อ ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ปฏบิ ตั ิตามคำสง่ั คำขอร้อง และคำแนะนำ ที่ฟงั หรืออา่ น อ่านออกเสยี ง ประโยค ข้อความ และบท กลอนสนั้ ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน ระบ/ุ วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรอื เครื่องหมายตรงตามความหมายของ ประโยคและขอ้ ความสัน้ ๆ ที่ฟงั หรืออ่าน บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟงั หรืออ่านบทสนทนา และนิทานง่ายๆหรือเร่ืองสน้ั ๆ พูด/เขยี นโต้ตอบในการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล ใชค้ ำส่ัง คำขอร้อง คำขออนญุ าต และใหค้ ำแนะนำง่าย ๆ พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเองตาม ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธ การใหค้ วามชว่ ยเหลือในสถานการณง์ ่าย ๆ พดู /เขียนเพื่อขอและให้ข้อมลู เก่ยี วกับตนเองเพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ ัว พดู แสดงความรสู้ ึกของตนเองเกีย่ วกับเรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกล้ตัว หรือกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมท้งั ให้ เหตุผลสั้น ๆ ประกอบ พูด/เขียนใหข้ ้อมูลงา่ ย ๆ เก่ียวกับตนเองและเรอ่ื งใกล้ตวั เขยี นภาพ แผนผัง และ แผนภูมิแสดงข้อมลู ตา่ งๆตามทฟ่ี งั หรืออา่ น พดู แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั เร่ืองต่างๆใกล้ตวั ใชถ้ ้อยคำ น้ำเสียง และกริ ยิ าทา่ ทางอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ตอบคำถาม/บอก ความสำคญั ของเทศกาล/วนั สำคญั /งานฉลองและชวี ติ ความเปน็ อยู่งา่ ยๆของเจ้าของภาษา การเข้ารว่ ม กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี ง ประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำ (order) ตามโครงสรา้ งของประโยคของ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และภาษาไทย บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงาน ฉลองตามวฒั นธรรม ของเจ้าของภาษากบั ของไทย คน้ คว้ารวบรวม คำศพั ท์ท่เี ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้ อ่ืน และนำเสนอด้วยการพูด/การเขยี น ฟัง พดู และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ต่างๆทเี่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและ สถานศึกษา ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ(ภาษาองั กฤษ)ในการสืบค้นและรวบรวมข้อมลู ต่าง ๆ โดยการฟงั พูด อ่าน เขียน ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก ทำทา่ ทาง เข้า รว่ ม เพ่ือให้ผู้เรียนมีความร้คู วามเขา้ ใจและนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั เกิดสมรรถนะตามความต้องการ ของหลกั สูตร มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ขึน้ ในตัวของผูเ้ รยี น และสามารถอย่รู ่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อยา่ งมี ความสขุ สามารถนำความรูไ้ ปใช้ให้เกดิ ประโยชน์โดยใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไป ประยุกต์ใช้กบั ชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม ตัวช้วี ัด ต ๑.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔ ต ๑.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕ ต ๑.๓ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓ ต ๒.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓ ต ๒.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ต ๓.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๒ ป.๕/๑ รวมท้ังหมด ๒๐ ตัวชว้ี ัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๙๒ คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ อ ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ปฏบิ ตั ิตามคำส่ัง คำขอร้อง และคำแนะนำ ท่ีฟังและอา่ น อ่านออกเสียง ข้อความ นทิ าน และบท กลอนสัน้ ๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรอื ข้อความสัน้ ๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์ หรือ เครอื่ งหมายท่ีอ่าน บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั หรอื อ่าน บทสนทนา หรือนทิ านงา่ ยๆและ เร่อื งเลา่ พดู /เขยี นโต้ตอบในการสือ่ สารระหวา่ งบุคคล ใช้คำสง่ั คำขอรอ้ ง และคำขออนญุ าตและให้คำแนะนำ พดู /เขยี นแสดงความต้องการ ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณ์ งา่ ย ๆ พดู /เขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกล้ตัว พดู /เขยี นแสดง ความรู้สึกของตนเองเกีย่ วกับเรือ่ งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั หรือกจิ กรรมต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ พดู / เขียนใหข้ ้อมูล เก่ยี วกับตนเอง เพ่ือน และสิง่ แวดล้อมใกลต้ ัว เขียนภาพ แผนผงั และแผนภมู ิแสดงข้อมลู ตา่ งๆ ตามท่ีฟงั หรืออา่ น พูดเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับเร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ใช้ถ้อยคำ นำ้ เสียง และกิริยาท่าทาง อยา่ งสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั เทศกาล/วนั สำคญั /งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอย่ขู องเจ้าของภาษา การเข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความ สนใจ บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลำดับคำ ตามโครงสร้าง ประโยค ของภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และภาษาไทย เปรยี บเทียบ ความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล งานฉลอง และประเพณีของเจ้าของภาษากับของไทย คน้ ควา้ รวบรวม คำศพั ท์ทเี่ กี่ยวข้องกับกลุม่ สาระการเรียนรอู้ ืน่ จากแหลง่ การเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การ เขยี น ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณต์ ่าง ๆ ทเี่ กดิ ขึน้ ในห้องเรียนและสถานศึกษา ใช้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ในการสบื ค้นและรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ โดยการฟงั พูด อ่าน เขียน ระบุ อา่ นออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโตต้ อบ เข้าร่วม เปรยี บเทยี บ คน้ ควา้ ใช้ บอก เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นมีความรคู้ วามเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เกดิ สมรรถนะตาม ความตอ้ งการของหลักสูตร มีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ข้ึนในตัวของผู้เรียน และสามารถอย่รู ว่ มกับผู้อื่นใน สังคมได้อยา่ งมคี วามสขุ สามารถนำความรู้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์โดยใชห้ ลักปรัชญาวธิ กี ารของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้กับชีวติ ประจำวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ตัวช้ีวดั ต ๑.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔ ต ๑.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕ ต ๑.๓ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓ ต ๒.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓ ต ๒.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒ ต ๓.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๒ ป.๖/๑ รวมท้ังหมด ๒๐ ตัวช้ีวัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๙๓ คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษาฯ ส๑๑๒๐๔ การปอ้ งกันการทุจริต ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ศึกษาเก่ียวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต การทำการบา้ น การทำเวร การ สอบ กิจกรรมนักเรยี น STRONG/จติ พอเพียงตอ่ ตา้ นการทุจรติ ความพอเพยี ง ความโปรง่ ใส ต้านทจุ ริต ความ เอื้ออาทร รูห้ น้าที่ของพลเมืองและรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ความหมายบทบาทและสิทธิ การเคารพสิทธิหนา้ ท่ีต่อ ตนเองและผู้อน่ื ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย ความรับผดิ ชอบ (ต่อตนเองกับต่อผ้อู ื่น) ความเปน็ พลเมืองใน การต่อต้านการทจุ ริตโดยใช้กระบวนการคิด วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบตั ิจรงิ การทำโครงงาน กระบวนการเรียนรู้ ๕ ข้ันตอน (๕ STEPs) การอภปิ ราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทกั ษะการอ่านและการ เขียน เพื่อใหม้ คี วามตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการตอ่ ตา้ นและการป้องกันการทุจรติ ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวม 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต 3. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับ STRONG/จิตพอเพียงต่อตา้ นการทุจริต 4. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 5. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวมได้ 6. ปฏบิ ัติตนเป็นผลู้ ะอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ ทุกรปู แบบ 7. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผทู้ ่ี STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทจุ ริต 8. ปฏบิ ตั ิตนตามหน้าทพ่ี ลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม 9. ตระหนกั และเห็นความสำคัญของการต่อตา้ นและป้องกันการทจุ รติ รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรียนรู้ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๙๔ คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาฯ ส๑๒๒๐๔ การป้องกันการทุจรติ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ศกึ ษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชนส์ ่วนรวม การคดิ แยกแยะ ประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความละอายและความไมท่ นต่อ การทุจรติ การทำการบ้าน การทำเวร การสอบ กิจกรรมนกั เรยี น STRONG/จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจรติ ความพอเพียง ความโปรง่ ใส ตา้ นทจุ รติ ความเออ้ื อาทร รู้หนา้ ท่ีของพลเมืองและรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม เรอ่ื งการ เคารพสทิ ธหิ น้าท่ีตอ่ ตนเองและผู้อน่ื การเคารพสิทธหิ นา้ ทีต่ ่อชุมชนและสงั คม ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย ความรบั ผิดชอบ (ต่อหอ้ งเรียน) คุณลกั ษณะของพลเมืองท่ีดี หน้าทขี่ องพลเมืองที่ดีในการต่อต้านการทจุ ริตโดย ใชก้ ระบวนการคิด วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ัตจิ รงิ การทำโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ขน้ั ตอน (๕ STEPs) การอภปิ ราย การสบื สอบ การแก้ปญั หา ทักษะการอ่านและการเขียน เพือ่ ให้มคี วาม ตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการตอ่ ตา้ นและการป้องกันการทุจริต ผลการเรียนรู้ ๑. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต 3. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั STRONG/จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจรติ 4. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพลเมืองและมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชน์สว่ นรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเป็นผลู้ ะอายและไมท่ นต่อการทุจรติ ทุกรูปแบบ 7. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ที่ STRONG/จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ ริต 8. ปฏบิ ตั ติ นตามหน้าทพ่ี ลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม 9. ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทุจริต รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)

๙๕ คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ ส๑๓๒๐๔ การปอ้ งกันการทุจริต ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ ศกึ ษาเกยี่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคดิ แยกแยะ ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม การขดั กันระหว่าง ประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต การทำการบา้ น การทำ เวร การสอบ การแตง่ กาย กิจกรรมสง่ เสรมิ ความถนัดและความสนใจ STRONG/จิตพอเพียงต่อตา้ นการทุจรติ ความพอเพยี ง ความโปรง่ ใส ต้านทจุ รติ ความเออื้ อาทร พลเมืองกับความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม เรือ่ งการเคารพ สทิ ธหิ น้าทต่ี ่อตนเองและผู้อน่ื ทีม่ ีตอ่ ชมุ ชน เร่อื งการเคารพสิทธิหน้าทีต่ อ่ ตนเองและผอู้ ื่นทีม่ ีต่อประเทศชาติ ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย ความรบั ผดิ ชอบ (ต่อโรงเรยี น) ความเปน็ พลเมืองในการต่อตา้ นการทจุ รติ โดยใช้ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏิบัติจรงิ การทำโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสบื สอบ การแก้ปญั หา ทกั ษะการอ่านและการเขยี น เพ่ือให้มีความตระหนักและ เห็นความสำคญั ของการต่อต้านและการป้องกนั การทุจรติ ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม 2. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ 3. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับ STRONG/จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจริต 4. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 6. ปฏิบัตติ นเป็นผู้ละอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ ทุกรูปแบบ 7. ปฏิบตั ติ นเป็นผูท้ ี่ STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต 8. ปฏบิ ัติตนตามหน้าทพ่ี ลเมืองและมคี วามรบั ผิดชอบต่อสังคม 9. ตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อตา้ นและป้องกันการทุจริต รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)

๙๖ คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาฯ ส๑๔๒๐๔ การปอ้ งกันการทุจริต ๔ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ศกึ ษาเกย่ี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม การคดิ แยกแยะ ระบบคดิ ฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความแตกตา่ งระหว่างจรยิ ธรรมและการทจุ ริต ประโยชนส์ ว่ นตนและ ประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต การทำการบา้ น การทำเวร การสอบ การแตง่ กาย กจิ กรรมนักเรียน (ภายในโรงเรียน) การเขา้ แถว STRONG/จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ รติ การดำรงชวี ิต ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ความโปรง่ ใส ความต่ืนรู/้ ความรู้ ตา้ นทุจรติ มุ่งไปขา้ งหน้า ความเอื้อ อาทร พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม เรือ่ งการเคารพสทิ ธิหนา้ ท่ตี อ่ ตนเองและผู้อ่ืนที่มตี ่อครอบครวั ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ความรบั ผดิ ชอบ (ต่อชุมชน) ความเป็นพลเมืองในการต่อต้านการทจุ รติ โดยใช้ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏิบัติจริง การทำโครงงานกระบวนการเรยี นรู้ ๕ ขน้ั ตอน (๕ STEPs) การอภปิ ราย การสืบสอบ การแก้ปญั หา ทักษะการอ่านและการเขียน เพื่อให้มคี วามตระหนักและ เหน็ ความสำคัญของการต่อตา้ นและการป้องกันการทจุ รติ ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม 2. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 3. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั STRONG/จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต 4. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับพลเมืองและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวมได้ 6. ปฏิบตั ิตนเป็นผลู้ ะอายและไม่ทนต่อการทุจรติ ทุกรปู แบบ 7. ปฏิบตั ติ นเป็นผทู้ ี่ STRONG/จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจริต 8. ปฏิบัติตนตามหน้าท่ีพลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนกั และเหน็ ความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทจุ รติ รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook