Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือเรียนประวัติศาสตร์สากล ม.6 เทอม 1_Ver01

หนังสือเรียนประวัติศาสตร์สากล ม.6 เทอม 1_Ver01

Published by dlit_sm037, 2020-05-02 02:39:41

Description: เอกสารประกอบการเรียน รายวิชาประวัติศาสตร์สากล ม.6 ภาคเรียนที่ 1

Keywords: เอกสารประกอบการเรียน

Search

Read the Text Version

๑๐๐ บทท่ี ๒ ประวัติศาสตรอ์ ังกฤษ Part II History of England  อภิเษกกบั นางแอนน์ โบลีนใน ค.ศ. 1533 ขณะ ทรงพระครรภ์ ใหก้ ําเนดิ องคห์ ญงิ อลซิ าเบธ พระ พระเจ้าเฮนรีที่ 7 ทรงเป็นพระโอรสของเอิร์ล แห่ง เจ้าเฮนรีทรงเลกิ เช่ือฟงั พระสันตะปาปาทีก่ รงุ โรม ริชมอนด์ (Earl of Richmond) ซ่ึงเป็น พระโอรส และทรงหา้ มมใิ หข้ นุ นางคนใดตดิ ต่อกบั โรม เรียกว่า การหย่าขาดจากโรม (Divorce from ของโอเวน ทิวดอร์ (Owen Tudor) ขุนนางชาวเวลส์ กับพระ Rome) ในค.ศ. 1534 ทรง ออก นางคัทเทอรีนแห่งวาลัวส์ (Catherine of Valois) ราชินีของ พระราชบญั ญตั ปิ ระมขุ สูงสดุ พระเจ้าเฮนรีที่ 5 จึงมักจะกล่าวกันว่าราชวงศ์ทิวดอร์มาจาก (Act of Supremacy) มอบอํานาจให้พระองค์ทรง เวลส์ พระเจ้าเฮนรีที่ 7 ทรงอภิเษกกับอลิซาเบธแห่งยอร์ค เปน็ ประมุขสงู สดุ ของนกิ าย เชิรช์ ออฟอิงแลนด์ พระเจ้าเฮนรที รง (Elizabeth of York) พระธิดาของพระเจ้าเอ็ดวาร์ดท่ี 4 เพ่ือ ทําลายอิทธิพลขององค์การศาสนาใน อังกฤษ โดยประหารชีวิตที่ปรึกษาที่เป็น เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูลลางคัสเตอร์และยอร์ก เพ่ือยุติ บาทหลวง เผาทําลายโบสถ์วิหารตามพระราช กฤษฎีกายุบอาราม (Dissolution of สงครามดอกกุหลาบ แต่ตลอดรัชสมัยของพระองค์ทรงต้อง Monasteries) ยึดทรัพย์สินของศาสนาเข้าพระ คลัง ทําให้ประชาชนไม่พอใจก่อจลาจล พระเจ้า ปราบกบฎของผู้ท่ีอ้างว่าเป็นองค์ชายตระกูลยอร์คท่ีถูกขังอยู่ เฮนรที รงเข้าปราบปราม ในค.ศ. 1536 พระนาง คัทเธอรีนส้ินพระชนม์ พระเจ้าเฮนรีทรงส่ังให้ท้ัง ในหอคอยลอนดอน แต่ก็ทรงสามารถปราบได้ในค.ศ. 1487 ประเทศเฉลิมฉลองใหญ่โต เป็นวันเดียวกับท่ีนาง แอนน์ โบลีน แท้งพระโอรสที่ใกล้จะคลอด ใน (สโตก๊ ) และค.ศ. 1499 ค.ศ. 1536 พระนางแอนน์ โบลีน ซึ่งกลัวท่ี จะแจ้งความจริงให้กับพระเจ้าเฮนรี่ จึงวางแผน รัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 การฟ้ืนฟูศิลปวิทยาการจาก ร่วมหลับนอนกับพี่ชายของตน (จอร์จ โบลีน) ระหว่างที่ท้ังสองอยู่รว่ มกนั ในหอ้ ง นางเจน โบลีน อิตาลีมาถึงอังกฤษ ในค.ศ. 1511 ทรงเข้าร่วมสันนิบาตศักดิ์ ภรรยาของพี่ชายของพระนางแอนน์ โบลีน มาพบ เขา้ จงึ นําความเข้าทูลกับพระเจ้าเฮนร่ี พ่ีชายของ สิทธิเพื่อต้านการรุกรานอิตาลีของฝร่ังเศส ในค.ศ. พระนาง และพระนาง จึงถูกสําเร็จโทษ แต่ใน ความเป็นจริง ทั้งสองมิได้ร่วมหลับนอนกันจริง 1513 พระเจ้าเฮนรียกทัพบุกฝร่ังเศส ชนะฝร่ังเศสท่ี Battle เพราะไม่สามารถกระทําได้ ระหว่างรอนิรโทษ กรรมพระนางแอนน์ โบลีน นางแมร่ี โบลีน of the Spurs ทําให้ฝ่ายสกอตแลนด์ยกทัพมาบุกอังกฤษเพ่ือ น้องสาวของพระนางแอนน์ โบลีน มาเข้าเฝ้าพระ เจ้าเฮนรี่ เพ่ือขอชีวิตพี่สาวของตน แต่ไม่เป็น ชว่ ยฝรั่งเศส แต่พา่ ยแพท้ ี่ท่งุ ฟลอดเดน (Flodden Field) ผลสําเร็จ ท้ายที่สุดพระนางแอนน์ โบลีนก็ถูกนิร โทษกรรมตามพ่ีชายของพระนางไป และพระเจ้า ใ น ค . ศ . 1525 เ มื่ อ พ ร ะ น า ง คั ท เ ธ อ รี น แ ห่ ง อ ร า เฮนรีจะได้ทรงอภิเษกใหม่กับนางเจน โบลีน กลายเปน็ เจน เซยม์ รู ์ (Jane Seymour) กอน (Catherine of Aragon) ไม่สามารถจะให้กําเนิดทายาท ใน ค.ศ. 1535 พระเจ้าเฮนรีทรงผนวกเวลส์กับ อังกฤษ และทรงนําทัพเข้าบุกยึดไอร์แลนด์ จน เพ่ือสืบทอดบัลลังก์ได้ มีแต่พระธิดาคือแมรี พระเจ้าเฮนรีจึง ปราบดาภิเษกพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์แห่ง ไอร์แลนด์ ใน ค.ศ. 1542 พระนางเจน ซีย์มอร์ ทรงวางแผนจะหยา่ จากพระนางคัทเธอรีน และไปอภิเษกใหม่ ให้กําเนิดพระโอรสในที่สุดคือเอ็ดวาร์ด แต่นาง เจนเสียชีวิตจากการต้ังพระครรภ์ ใน ค.ศ. กับนางแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn) พระเจ้าเฮนรีทรงส่งทูต 1540 ทรงส่งอภิเษกกับแอนน์แห่งคลีฟส์ แต่ เพราะพระนางทรงพระโฉมไม่งามจึงทรงอภิเษก ไปหาองค์พระสันตะปาปาเพื่อขออนุญาตหย่า (จะแต่งงาน ใหม่กบั นางคทั เธอรีน โฮวารด์ (Catherine หรือหย่ากษัตรยิ ์ยโุ รปต้องทรงขออนุญาตพระสนั ตะปาปาก่อน เพราะทรงเป็นเสมือนบาทหลวงผู้ประกอบพิธีแห่งยุโรป) แต่ ขณะน้ันกรุงโรมถูกทัพของจักรพรรดิชาร์ลส์ท่ี 5 แห่ง จกั รวรรดโิ รมันอันศกั ด์สิ ิทธยิ์ ึดไว้อยู่ ซึ่งทรงเป็นพระนัดดาของ พระนางคัทเธอรีน จึงกดดันพระสันตะมิให้ยอมให้พระเจ้าเฮ นรีทรงหยา่ จากพระมาตจุ ฉา เมื่อพระสันตะปาปาไม่ทรงยอม พระเจ้าเฮนรีก็ทรงทําเอง เสยี เลย ทรงปลดพระนางคทั เธอรีนในค.ศ. 1531 และ

บทที่ ๒ ประวัติศาสตร์อังกฤษ ๑๐๑ Part II History of England Howard) แตท่ รงจบั ได้ว่านางมีความสัมพันธ์กับชายอื่น รัฐสภาต้องการให้พระนางอลิซาเบธทรงอภิเษก แต่ จึงทรงประหารชีวิตเสียและอภิเษกกับนางคัทเธอรีน พระนางทรงมีความสามารถปกครองประเทศได้โดยไม่ พาร์ (Catherine Parr) ในค.ศ. 1543 ในค.ศ. อาศัยผู้ชาย ทําให้ทรงได้รับฉายาว่า ราชินีพรหมจรรย์ 1547 พระเจ้าเฮนรีจึงสิน้ พระชนม์ (The Virgin Queen) แม้จะมีผู้เสนอตัวหลายคน เช่น พระเจา้ ฟิลปิ แห่งสเปน พระราชสวามีของพระนางแมรี พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ ๖ และพระนางแมร์ร่ี แต่พระนางอลิซาเบธทรงปฏิเสธ ในด้านการ องค์ชายเอ็ดวาร์ดที่ประสูติกับนางเจน เซย์มูร์ ขึ้น ตา่ งประเทศ พระนางอลิซาเบธทรงสนับสนนุ กบฎตา่ งๆ ครองราชย์เปน็ พระเจ้าเอ็ดวาร์ดที่ 6 แตย่ งั พระเยาว์ ทาํ เพ่อื ให้ประเทศเหล่านั้นอ่อนแอลง เชน่ กบฎฮอลันดาท่ี ให้พระปิตุจฉาคือดยุคแห่งโซเมอร์เซต (Duke of จะแยกตัวจากสเปน และพวกอูเกอโนต์ในสงคราม Somerset) มีอํานาจ พวกคาทอลิกก่อกบฎในค.ศ. ศาสนาของฝร่ังเศส โดยเฉพาะสเปน พระนางส่งเซอร์ 1549 ดยุคแห่งโซเมอร์เซตถูกลอร์ดนอร์ทธัมเบอร์ ฟรานซิส เดรก(Sir Francis Drake) เดินทางรอบโลก แลนด์(Lord Northumberland) ยึดอํานาจไป ในค.ศ. เพ่ือโจมตีอาณานิคมต่างๆของสเปน เม่ือพระนางแมรี 1553 พระเจ้าเอ็ดวาร์ดส้ินพระชนม์ ลอร์ดนอร์ธัม แห่งสกอต (Mary, Queen of Scots) กลับจาก เบอร์แลนดว์ างแผนจะให้เจน เกรย์ (Lady Jane Grey) ฝรั่งเศสในค.ศ. 1565 พระนางอลิซาเบธทรงเกรงว่า ขนึ้ เปน็ กษตั รยิ ์ แตพ่ ระนางแมรี พระธิดาพระเจ้าเฮนรีท่ี อิทธิพลของฝร่ังเศสจะแผ่มาถึงสดอตแลนด์ จึงทรงทํา ประสูติกับพระนางคัทเธอรีนแห่งอรากอน ทรงยึด สงครามขับเคีย่ วกับพระนางแมรแี หง่ สกอต จนพระนาง บลั ลังกไ์ ปในอกี เก้าวนั ตอ่ มา แมรีถกู จับและประหารชวี ติ ในค.ศ. 1587 พระนางแมรีทรงเป็นคาทอลิกท่ีเคร่งครัด อันเป็น พระเจ้าฟิลิปทรงเห็นว่าพระนางอลิซาเบธเป็นภัยต่อ อิทธิพลจากพระญาติฝ่ายสเปนของพระมารดา ในค.ศ. สเปน จึงทําสงครามอังกฤษ-สเปน ในค.ศ. 1588 ส่ง 1554 พระนางแมรีทรงอภิเษกกับพระญาติ คือ พระ ทัพเรือมหึมาเรียกว่าอาร์มาดาสเปน (Spanish เจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน ทําให้ประชาชนไม่พอใจอย่าง Armada) มาบุกอังกฤษ แต่ฟรานซิสเดรกก็ทําลาย ย่ิงเกรงว่าประเทศอังกฤษจะตกแก่สเปน พระนางแมรี ทัพเรือสเปนได้เพราะทิศลมเข้าข้างอังกฤษ ทาง ทรงกวาดลา้ งและลงโทษพวกโปรเตสแตนต์ และดําเนิน ไอร์แลนด์ ซ่ึงเป็นคาทอลิกและต่อต้านพระนางอย่าง นโยบายกลับกับพระบิดา คือ พระเจ้าเฮนรี โดยการ หนัก พระนางจึงให้ทัพอังกฤษเข้าบุกกวาดล้างและ ฟ้ืนฟูความสัมพันธ์กับพระสันตะปาปา ในค.ศ. ปราบปรามไอร์แลนด์ ทําให้ในท่ีสุดไอร์แลนด์ก็ตกเป็น 1558 ฝร่ังเศสยึดเมืองคาเลส์ (Calais) คืนจากอังกฤษ ของอังกฤษ ท่ียดึ ไปต้ังแตส่ งครามร้อยปี เปน็ ที่มัน่ สุดท้ายของอังกฤษ ในฝรง่ั เศส พระนางอลซิ าเบธที่ ๑ พระนางอลิซาเบธ ทรงเป็นพระธิดาของพระเจ้าเฮนรีที่ ประสูติกับแอนน์ โบลีน ขึ้นครองราชย์ในค.ศ. 1558 รัชสมัยของพระนางเป็นสมัยที่อังกฤษรุ่งเรือง และสงบสขุ เปน็ ส่วนใหญ่ บุคคลในสมัยของพระนางที่มี ชอื่ เสยี งคือ วิลเลยี ม เช็คสเปียร์ พระราชินีนาถอลิซาเบธทรงแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ทางศาสนาในอังกฤษ โดยทรงก่อต้ังนิกายเชิร์ชออฟอิง แลนด์ (Church of England) เป็นนิกายโปรเตสแตนต์ ท่ีใกล้เคียงกับคาทอลิกมากท่ีสุด เพื่อความสมานฉันท์ ระหวา่ งพวกคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ในอังกฤษ เป็น ศาสนาของอังกฤษ ไม่ข้ึนกับพระสันตะปาปา โดยทรง ออกพระราชบัญญัติพระราชอํานาจ (Act of Supremacy) ในค.ศ. 1559 ปราบดาภิเษกพระนาง เองเป็นผู้ปกครองสูงสุดของนิกายเชิร์ช ออฟ อิงแลนด์ แต่พระนางก็ยังทรงได้ช่ือว่าเป็นกษัตริย์โปรเตสแตนต์ และเปน็ ท่ีเกลียดชงั ของพวกคาทอลกิ อยูด่ ี

๑๐๒ บทที่ ๒ ประวัติศาสตร์อังกฤษ Part II History of England   แม้พระเจ้าเฮนรีที่ 8 จะตัดชาวสก็อตออก ไป พ ร ะ เ จ้ า ช า ร์ ล ส์ ท ร ง ตั้ ง อ ง ค์ ก า ร เ รี ย ก ร้ อ ง สิ ท ธิ (Petition of Right) เพอ่ื รดี ทรพั ยส์ ินจากประชาชน มิให้สืบบัลลังก์อังกฤษ แต่พระนางอลิซาเบธทรงมิได้ มาใช้ ทรงไมเ่ รยี กประชมุ รฐั สภาอีกเลย เรยี กวา่ สมัย การปกครองส่วนพระองค์ แม้จะทรงพยายามทุกวิธี อภิเษกและไม่มีทายาท พระเจ้าเจมส์ท่ี 6 แห่ง ทางเพื่อจะหารายได้ แต่กไ็ ม่พอ พระองค์ใช้อยู่ดี และพระองค์ยังสนับสนุนนิกายแอ สกอตแลนด์ ราชวงศ์สจ๊วต (Stuart) พระญาติท่ีใกล้ชิด งกลิกันสูง (High Anglican) เป็นเชิร์ช ออฟ อิง แลนด์ที่เอียงไปทางคาทอลิก แต่พระองค์ทรง ที่สุด จึงได้ครองบัลลังก์อังกฤษ เป็นพระเจ้าเจมส์ท่ี 1 ผิดพลาด โดยทรงพยายามจะบังคับให้สกอตแลนด์ นับถือนิกายน้ีด้วย แต่สกอตแลนด์น้ันเป็นอิสระมา เป็นการรวมสองอาณาจักร (Union of Crowns) แต่ หลายร้อยปี คงไม่ยอมง่ายๆ พระเจ้าชาร์ลส์ทรงสั่ง ให้พิมพ์ Book of Common Prayer แจกใน ในทางปฏิบัติแล้วสองอาณาจักรนี้ยังแยกกันอยู่ มี สกอตแลนด์ในค.ศ. 1637 ชาวสก็อตก็ลุกฮือ พระ เจ้าชาร์ลส์ทรงนําทัพเข้าปราบแต่ไม่สําเร็จ จนทรง รฐั สภาเป็นของตน เพียงแตม่ ีกษตั ริยอ์ งค์เดยี วกนั ยอมจาํ นนต่อสกอตแลนดใ์ นค.ศ. 1640 ทรงต้องการเงินไปปราบสกอตแลนด์ ถึงเรียก แต่ทรงครองราชย์ได้ไม่นานพระเจ้าเจมส์ทรงถูกลอบ ประชุมรัฐสภาอีกครั้ง แต่รัฐสภาก็ฉวยโอกาสตําหนิ การใช้พระราชอํานาจอันเกินควรของพระองค์ ทํา ปลงพระชนม์ถึงสามครั้ง คือ Main Plot , Bye Plot ให้พระองค์ยุบสภาไปทันที เรียกว่า รัฐสภา สั้น (Short Parliament) แต่ก็ทรงพ่ายแพ้ และท่ีสําคัญท่ีสุดคือ Gunpowder Plot ในค.ศ. สกอตแลนดอ์ ีก จงึ ทรงเรยี กประชุมสภาอีกครั้ง เป็น รัฐสภายาว คราวนี้รัฐสภาออกกฎหมายจํากัดพระ 1605 โดยพวกคาทอลิก พระเจ้าเจมส์ทรงพยายามจะ ราชอํานาจหลายประการ ในค.ศ. 1641 พวกไอริช รวมสองอาณาจักร แต่ก็ถูกรัฐสภาท้ังสองอาณาจักร ท่ีเปน็ คาทอลิกก่อจลาจล คัดค้าน ในค.ศ. 1611 ทรงให้พิมพ์คัมภีร์ไบเบิลพระ เจ้าเจมส์ (King James' Bible) ในค.ศ. 1607 ชาว อังกฤษตั้งอาณานิคมเจมส์ทาวน์ (Jamestown ตั้งชื่อ ต า ม พ ร ะ น า ม ) เ ป็ น จุ ด เ ริ่ ม ต้ น ข อ ง อ า ณ า นิ ค ม อเมริกา พระเจ้าเจมส์ทรงเช่ือในเทวสิทธิ์ของ พระมหากษัตริย์ (Divine Rights of Kings) ว่ากษัตริย์ นั้นเปน็ ดง่ั พระเจา้ ทรงถกู เสมอและไมเ่ ปน็ ท่สี งสยั พระโอรสของพระเจ้าเจมส์ คือ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ก็ ทรงได้รับความเช่ือน้ีจากพระบิดา และพระองค์นั้นก็ ทรงอภิเษกกับเฮนเรียตตา มาเรียแห่งฝร่ังเศส สมเด็จ พระราชินีแห่งองั กฤษ (Henriette-Marie) พระธิดาของ พระเจ้าหลุยส์ท่ี 13 แห่งฝร่ังเศส ในค.ศ. 1625 ทําให้ บรรดาขุนนางเกรงว่าองค์รัชทายาทนั้นจะเป้นคาทอลิ คตามพระมารดา พระเจา้ ชารล์ ส์ทรงตอ้ งการจะเข้าร่วม สงครามสามสิบปี แต่เงินท่ีจะใช้นั้นต้องผ่านความ เห็นชอบของรัฐสภา ท่ีไม่เห็นด้วยจะให้อังกฤษทํา สงครามทต่ี นไม่เก่ยี วเลย เมื่อรัฐสภาไม่ให้ ก็ทรงส่งดยุค แห่งบัคกิงแฮมไปบุกฝรั่งเศสเอง แต่พ่ายแพ้ ทําให้ รัฐสภาจะปลดท่านดยุค พระเจ้าชาร์ลส์จึงชิงยุบรัฐสภา เสียในค.ศ. 1627

บทที่ ๒ ประวัติศาสตร์องั กฤษ ๑๐๓ Part II History of England  พระเจา้ ชารล์ สท์ รงนาํ ทพั เขา้ บุกรฐั สภา เพอื่ จบั กมุ ขุนนางบางคน แต่ไมส่ าํ เรจ็ จึงทรงหลบหนีออกไป จากลอนดอนไปทางเหนอื เปน็ จดุ เร่ิมต้นของสงครามกลางเมืององั กฤษ' เมืองต่างๆในองั กฤษประกาศตนเข้าฝ่าย รัฐสภาหรือกษัตริย์ ท้ังสองฝ่ายต่อสทู้ าํ สงครามกนั ระหว่างฝา่ ยกษัตริย์นยิ ม และ ฝ่ายรฐั สภา (Parliamentarian) ในค.ศ. 1645 ฝา่ ยรัฐสภาปรับปรุงกองทพั เปน็ กองทัพตัวอย่าง พระ เจ้าชาร์ลส์ทรงพ่ายแพ้ยับเยิน จนทรงหนีไปสกอตแลนด์ในค.ศ. 1646 พระเจ้าชาร์ลส์ทรงเจรจากับพวกสก็อต แต่ก็ทรงถูกส่งพระองค์ให้ ฝ่ายรัฐสภา ใน ค.ศ. 1648 ทัพสกอตจึงบุกอังกฤษ แต่ก็แพ้ฝ่าย รัฐสภา ถงึ ตอนนี้พวกรัฐสภาแบง่ เปน็ สองฝ่าย คือฝา่ ยท่ียังต้องการให้ พระเจ้าชาร์ลส์ครองราชย์ต่อกับฝ่ายที่จะล้มล้างพระองค์ ในปี เดียวกัยนายพลไพรด์ (Colonel Pride) นําทัพยึดอํานาจจากพวกที่ ผ่อนปรนพระเจ้าชาร์ลส์ กลายเป็นรัฐสภารัมพ์ประกาศยกเลิก ระบอบกษัตริย์และต้ัง เครือจักรภพแห่งอังกฤษ ทําให้พระเจ้า ชาร์ลส์ทรงถูกสําเร็จโทษโดยการบ่นั พระศอหนา้ พระราชวังไวท์ฮอลล์ ใน ค.ศ. 1649 โอลิเวอร์ ครอมเวลลน์ าํ กําลงั เขา้ ปราบปรามกบฎ ไอรแ์ ลนดอ์ ย่างดรุ ้ายในค.ศ. 1649 ในสกอตแลนด์ พวกรักษาสัญญา เกรงว่าองั กฤษจะเขา้ ควบคมุ ประเทศ จงึ อญั เชิญพระโอรสของพระเจ้าชาร์ลสท์ ี่ 1 ขน้ึ ครอง ราชย์เปน็ พระเจา้ ชารล์ ส์ แหง่ สกอตแลนด์ ทําให้โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ออกจากไอร์แลนด์มาทาํ ศึกกับสกอตแลนดใ์ น ค.ศ 1650เรียกวา่ สงครามสามอาณาจกั ร (War of the Three Kingdoms) พระเจา้ ชาร์ลสแ์ ละพวกสกอตพ่ายแพ้ และถอยหนี ครอมเวลลจ์ ึงตามไปในสกอตแลนด์ แต่พระเจ้า ช า ร์ ล ส์ ท ร ง ฉ ว ย โ อ ก า ส นํ า ทั พ ห ล บ ห นี ม า บุ ก อั ง ก ฤ ษ ใ น ค . ศ . 1651 สมทบกับพวกสนับสนุนกษัตริย์ แต่ครอมเวลล์ก็ตามมาทัน และตีทัพพระเจ้าชาร์ลสพ์ า่ ยแพไ้ ป ทาํ ให้พระเจ้าชาร์ลส์ทรงหลบหนี ไปฝรง่ั เศส จบสงครามกลางเมอื ง

๑๐๔ บทท่ี ๒ ประวัตศิ าสตร์อังกฤษ Part II History of England   เมื่อระบอบกษัตริย์ถูกล้มล้างไปแล้ว รัฐสภาท่ีเหลือจึงกุมอํานาจไว้ทั้งหมด จัดต้ังประเทศเป็นสาธารณรัฐ ครอม เวลล์นําอังกฤษทําสงครามกับฮอลันดาในค.ศ. 1652 ในสงครามอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ (Anglo-Dutch Wars) เพราะเนเธอรแ์ ลนดก์ าํ ลังแผ่ขยายอาณานคิ ม แต่ในค.ศ. 1653 ครอมเวลลน์ ําทพั ยดึ อํานาจจากรัฐสภาทเ่ี หลือ ต้ัง รัฐสภาแบร์โบนส์ และตั้ง รัฐผู้พิทักษ์(Protectorate) โดยมีครอมเวลล์เองมีตําแหน่งเป็น เจ้าผู้พิทักษ์ แต่ครอม เวลล์กเ็ สยี ชวี ิตในค.ศ. 1659 ลกู ชายของโอลเิ วอร์ คอื รชิ าร์ด ครอมเวลล์ (Richard Cromwell) ข้นึ เปน็ เจ้าผ้พู ิทักษ์ แตถ่ กู กองทัพตัวอย่างยึด อํานาจตั้งรัฐสภาทีเ่ หลอื ข้ึนมาเหมือนเดมิ และจอรจ์ มองค์ ก็นํากองทัพจากสกอตแลนด์มาบุกยึดรัฐสภาอังกฤษใน ค.ศ. 1660 ทําให้รัฐสภายุบตัวเองไป และต้ังรัฐสภาคอนเว็นท์ช่ัน (Convention Parliament) พระเจ้าชาร์ลส์ ทรงประกาศว่าจะทรงยอมจํานนแต่ให้พระองค์เป็นกษัตริย์ มองค์จึงอัญเชิญพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 กลับมาข้ึน ครองราชย์ การฟื้นฟรู ะบอบกษตั รยิ ์ พระเจ้าชารล์ ส์ทรงเรียกประชุมรฐั สภาอกี คร้ัง ซงึ่ ออกกฎหมายบังคับใหน้ ับถือนกิ ายเชริ ์ช ออฟ อิงแลนด์ และกดข่ี นิกายอ่ืนๆ ในค.ศ. 1662 ทรงอภิเษกสมรสกับแคทเธอรีนแห่งบรากังซา (Catherine of Braganza) จาก โปรตเุ กส ได้เมืองบอมเบยใ์ นอินเดยี เป็นสินสมรส และทรงใหต้ ้งั อาณานิคมคาโรไลนา (Carolina) ตามพระนามใน ค.ศ. 1663 ในรัชสมยั ของพระองคอ์ าณานคิ มอังกฤษเร่ิมเติบโต โดยบริษัทอินเดียตะวันออกของบริเทน (British East India Company) ทําให้ทําสงครามกับฮอลันดาหลายคร้ัง โดยพระเจ้าชาร์ลส์ทรงเป็นพันธมิตรกับพระเจ้า หลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส โดยทรงสัญญาอย่างลับๆว่าจะเข้ารีตคาทอลิก ในค.ศ. 1665กรุงลอนดอนเกิดโรค ระบาดครั้งใหญ่ พระราชวงศ์และรัฐสภาต้องหนีออกจากลอนดอน และใน ค.ศ. 1666 กรุงลอนดอนก็วอดวาย ด้วยเหตุการณ์ท่ีรู้จักกันในนาม “เพลิงไหม้คร้ังใหญ่ในลอนดอน ” ในปี ค.ศ. 1670 ก่อต้ังบริษัทอ่าวฮัดสัน (Hudson Bay Company) ไปตงั้ อาณานคิ มแคนาดา แต่อังกฤษกก็ ลบั มาทําสงครามขยายดินแดนของฝร่ังเศส (War of Devolution) กับฝรัง่ เศสในค.ศ. 1668 เพราะ ฝรั่งเศสกําลังมีอํานาจมากไป ในอังกฤษพระเจ้าชาร์ลส์ทรงผ่อนปรนพวกคาทอลิก ทําให้รัฐสภาไม่พอใจ ในค.ศ. 1678 พวกแองกลิกันสร้างข่าวลือว่าพวกคาทอลิกวางแผนการคบคิดพ็อพพิชเพ่ือลอบสังหารพระองค์ ทําให้ ประชาชนหวาดกลัว และพระอนุชาของพระองค์ คือองค์ชายเจมส์ ก็กลายเป็นพวกคาทอลิก ในค.ศ. 1679 รฐั สภาจะตัดองคช์ ายเจมสอ์ อกจากการสืบสนั ติวงศ์ แต่พระเจา้ ชาร์ลสท์ รงชิงยุบสภาเสยี กอ่ น

บทที่ ๒ ประวัติศาสตร์อังกฤษ ๑๐๕ Part II History of England   เมอ่ื องคช์ ายเจมสค์ รองบัลลงั ก์เปน็ พระเจา้ เจมส์ที่ 2 ก็ทรงตอ้ งเผชญิ กบั กบฎ หลายคร้ัง ในค.ศ. 1687 พระเจ้าเจมส์ทรงออกกฎหมายการใช้พระราช อํานาจขัดขวางการกดข่ีผู้นับถือนิกายโรมันคาทอลิก และในค.ศ. 1688 เจา้ ชายเจมส์พระโอรสทเี่ ป็นคาทอลกิ ก็ประสตู ิ ทาํ ให้ชาวอังกฤษกลัว ว่าราชวงศ์คาทอลิกจะปกครองประเทศ จึงอัญเชิญพระสวามีขององค์ หญิงแมรีพระธิดาพระเจ้าเจมส์ คือ เจ้าชายวิลล์เฮมแห่งออเรนจ์ ผู้ครอง ฮอลันดา มาบุกอังกฤษ พระเจ้าเจมส์ทรงหลบหนีไปฝรั่งเศส เจ้าหญิงแมรี และเจา้ ชายแห่งออเรนจ์ขึ้นครองราชย์เป็นพระราชินีนาถแมรีที่ 2 และพระ เจา้ วิลเลยี มที่ 3 เรียกเหตุการณ์นวี้ า่ การปฏิวัติอนั รงุ่ โรจน์ รฐั สภาออกกฎหมายห้ามมใิ หพ้ วกคาทอลิกขึน้ บลั ลงั กอ์ งั กฤษ พระเจา้ เจมส์ท รงไปไอร์แลนดท์ เ่ี ป็นคาทอลิกเพ่อื ระดมพลมาสู้ แตพ่ ระเจา้ วิลเลียมก็เอาชนะ พระองค์ได้ท่ีบอยน์ (Boyne) ทําให้พระเจ้าเจมส์หนีกลับไปฝรั่งเศส ในค.ศ. 1689 รัฐสภาออกพระราชบัญญัติสิทธิ (Bill of Rights) ริดรอนพระราช อํานาจมใิ หท้ รงขัดขวางการออกกฎหมายหรือใช้พระราชทรัพย์และกําลังพล ตามพระทัย ทําให้กษัตริย์อังกฤษทรงตกอยู่ภายใต้อํานาจรัฐสภามาถึงทุก วนั น้ี พระเจ้าวิลเลียมทรงเกลยี ดชังฝร่งั เศสต้งั แต่ยังทรงครองฮอลันดา ทําให้ ทรงนําอังกฤษเข้าร่วมสงครามมหาสัมพันธมิตร (War of the Grand Alliance) ในสกอตแลนด์เกิดกบฎจาโคไบต์(Jacobite Rebellion) เพื่อนํา พระเจ้าเจมส์กลับสู่บัลลังก์ ทําให้พระเจ้าวิลเลียมทรงนําทัพเข้าปราบปราม โดยเฉพาะการสังหารหมู่ที่เกลนโค (Massacre of Glencoe) สังหารชาว สกอตอย่างโหดร้าย บนภาคพื้นทวีปทพั อังกฤษและฮอลันดาพา่ ยแพฝ้ ร่ังเศส และพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ยังทรงสนับสนุนพระเจ้าเจมส์อีกด้วย แต่ในค.ศ. 1697 พระเจ้าหลุยส์ ทรงยอมรบั พระเจา้ วลิ เลียม เพ่อื ใหไ้ ด้ดินแดนตอบแทน ในค.ศ. 1700 พระ เจ้าวิลเลียมทรงให้ใช้ลอนดอนเป็นที่หารือว่าสเปน (ราชวงศ์แฮปสบูร์กสิ้น สุด) จะตกเป็นของใคร แต่พระเจ้าชาร์ลส์ท่ี 2 แห่งสเปน ก่อนสิ้นพระชนม์ ยกสเปนและดินแดนอื่นๆทั้งหมดให้พระเจ้าฟิลิปที่ 5 แห่งสเปน พระนัดดา ของพระเจ้าหลุยส์ท่ี 14 แห่งฝรั่งเศส ทําให้ชาติต่างๆรวมท้ังอังกฤษ ทํา สงครามสืบราชสมบัติสเปน (War of the Spanish Succession) การสืบราชสมบัตอิ งั กฤษกส็ ําคญั ไมแ่ พ้กัน ทรงมอบบลั ลงั กใ์ ห้องค์หญงิ แอนน์ พ ร ะ ข นิ ษ ฐ า ข อ ง พ ร ะ น า ง แ ม รี แ ล ะ อ อ ก พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ก า ร สืบราชสมบัติ (Act of Settlement) ในค.ศ. 1701 ว่าหากราชวงศ์ โปรเตสแตนต์สิ้นไป ให้พระนางโซฟี ภริยาของอิเลกเตอร์แห่งแฮนโนเวอร์ (Sophie, Electress of Hannover) ในเยอรมนี พระนัดดาของพระเจ้า เจมสท์ ่ี 1 ครองบัลลงั ก์อังกฤษ

๑๐๖ บทที่ ๒ ประวัติศาสตรอ์ ังกฤษ Part II History of England การกอ่ ตั้งบริเตนใหญ่ หลังจากท่ีเจ้าหญิงแอนน์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จ พระราชินีนาถแอนน์แห่งบริเตนใหญ่แล้วพระองค์ก็ทรง ส่งพระสวามดี ยคุ คัมเบอรแ์ ลนดแ์ ละจอหน์ เชอรช์ ลิ ล์ ดยุ คแห่งมาร์ลเบรอผู้เป็นบรรพบรุ ุษของวินสตนั เชอร์ชิลไป ทําสงครามตอ่ ต้านการขยายตวั ของฝร่งั เศสและสเปน ใน รัชสมัยของพระองค์รัฐสภาแบ่งออกเป็นฝ่ายวิก (Whig) และฝ่ายโทรี (Tory) อย่างชัดเจน พระองค์เองทรงโปรด พรรคโทรีมากกว่า แต่เม่ือดยุคแห่งมาร์ลเบรอได้รับชัย ชนะต่อฝรั่งเศสในยุทธการเบล็นไฮม์ ในปี ค.ศ. 1704 แลว้ ฝา่ ยวกิ ก็มอี ํานาจมากขนึ้ เมื่ออังกฤษแก้ปัญหาการสืบสันติวงศ์โดยการออก พระราชบัญญัติการสืบสันตติวงศ์ ค.ศ. 1701 โดยมิได้ ปรึกษารัฐสภาสกอตแลนด์ ท่ีเป็นผลทําให้รัฐสภา สกอตแลนด์ผู้ต้องการจะรักษาราชวงศ์สจวตไว้ต้องออก พระราชบัญญัติเพ่ือความปลอดภัย ค.ศ. 1704 ซึ่งเป็น พระราชบัญญัติที่ระบุว่าเม่ือสิ้นสุดจากพระราชินีนาถ แอนน์แล้ว สกอตแลนด์มีอํานาจท่ีจะเลือกประมุข พระองค์ต่อไปสําหรับราชบัลลังก์สกอตแลนด์จากผู้สืบ เชอ้ื สายของราชวงศ์ของสกอตแลนด์ ทางรัฐสภาอังกฤษ เกรงว่าสกอตแลนด์จะหันกลับไปเป็นพันธมิตรกับ ฝร่ังเศสถ้าสกอตแลนด์ได้รับเอกราช ทางการอังกฤษจึง ไ ด้ ขู่ ว่ า จ ะ อ อ ก พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ต่ า ง ด้ า ว ค . ศ . 1705 (Alien Act 1705) เป็นการตอบโต้ ซึ่งเป็น พระราชบัญญัติที่ระบุว่าอังกฤษจะต่อต้านสกอตแลนด์ ทางเศรษฐกิจและจะประกาศให้ชาวสกอตแลนด์เป็นคน ตา่ งด้าวทัง้ หมด (ซ่ึงเป็นการทําให้มีผลกระทบกระเทือน ต่อสิทธิในการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ของชาว สกอตแลนด์ในอังกฤษ) เว้นแต่สกอตแลนด์จะยกเลิก พระราชบัญญัติรักษาความปลอดภัยและเข้ารวมตัวกับ อังกฤษ รัฐสภาสกอตแลนด์เลือกการรวมตัว เม่ือตกลง กันได้แล้วก็มีการออกพระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1707 ท่ีรวมอังกฤษและสกอตแลนด์เป็นอาณาจักร เดียวกันในช่ือ “บริเตนใหญ่” เม่ือวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1707 เมอ่ื สมเดจ็ พระราชนิ ีนาถแอนนเ์ สดจ็ สวรรคตโดยไม่มีรัช ทายาท เจ้าชายจอร์จแห่งฮาโนเวอร์ผู้เป็นพระโอรสของ เจ้าหญิงโซเฟียแห่งฮาโนเวอร์ผู้เป็นรัชทายาทตาม พระราชบัญญัติการสืบสันตติวงศ์ ค.ศ. 1701 แต่มา ส้ินพระชนม์เสียก่อน ก็เสด็จข้ึนครองราชย์เป็นสมเด็จ พระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งบริเตนใหญ่ เป็นปฐมกษัตริย์ ราชวงศฮ์ าโนเวอร์

บทท่ี ๒ ประวัตศิ าสตรอ์ งั กฤษ ๑๐๗ Part II History of England  พระเจ้าจอร์จท่ี 1  ในค.ศ. 1715 พวกวิกชนะการเลอื กตงั้ ออก พระราชบัญญตั เิ จ็ดปี (Septennial Act) ใหร้ ัฐสภามี อายุอยา่ งน้อยเจด็ ปี เปน็ รากฐานใหพ้ วกวกิ มอี าํ นาจไป อีก 50 ปี แตอ่ งค์ชายเจมส์ เอด็ วาร์ด สจว๊ ต (James Edward Stuart) หรือ The Old Pretender พระโอรสของพระเจา้ เจมส์ที่ 2 เป็นราชวงศ์สจว๊ ตทีเ่ ปน็ คาทอลกิ ทกี่ ยึดบัลลังกไ์ ปใน เหตุการณ์การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ มาทวงบัลลังก์เรียกว่า กบฎจาโคไบต์ (Jacobite) พวกโทรีแอบไปเข้าพวกจาโค ไบต์ พระเจ้าจอร์จทรงมีความขัดแย้งกับพระโอรส คือ จอร์จ ออกุสตุส เจ้าชายแห่งเวลส์ (George Augustus, Prince of Wales) ในค.ศ. 1717 พระเจ้าจอร์จทรงนําอังกฤษเข้าสงครามจตุรสัมพันธมิตร(War of the Quadraple Alliance) เพ่อื ทาํ สงครามกบั สเปน สเปนจงึ สนับสนุนกบฎจาโคไบต์ แต่ไม่สาํ เรจ็ ในค.ศ. 1719 บริษัทเซาธ์ซเี สนอรฐั สภาวา่ จะแบกรบั ภาระการใช้หนี้พันธบัตรจากรัฐบาล โดยขอความปลอดภัย ของหุ้นเป็นการแลกเปล่ียน บริษัทเซาธ์ซีเสนอให้เจ้าของพันธบัตรต่างๆ เปลี่ยนพันธบัตรเป็นหุ้น ทําให้ราคา พนั ธบัตรสูงข้นึ อยา่ งรวดเรว็ ทําให้รฐั สภาตอ้ งออกพระราชบัญญัติหา้ มการแลกเปลี่ยน ผลคือการซื้อขายพันธบัตร กลายเป็นตลาดใตด้ ิน เมือ่ หาซือ้ กันได้ง่ายๆ ราคาจึงตกวบู บรรดาขุนนางกข็ าดทุนกันมหาศาล เรียกว่า เหตุการณ์ ฟองสบู่แตกเซาธ์ซี พระเจ้าจอรจ์ ท่ี 2 เจ้าชายแห่งเวลสข์ ึน้ ครองราชย์เปน็ พระเจ้าจอรจ์ ท่ี 2 เชน่ เดยี วกบั พระบิดา พระเจา้ จอร์จที่ 2 ทรงมีความขัดแย้ง กับพระโอรสคือเฟรเดอริค เจ้าชายแห่งเวลส์ (Frederick, Prince of Wales) ในรัชสมัยของพระองค์ เซอร์ โร เบริ ต์ วาลโพล (Sir Robert Walpole) มีอํานาจมากจนได้ชอื่ วา่ เปน็ นายกรฐั มนตรีอังกฤษคนแรก พระเจ้าจอร์จท รงนําอังกฤษเข้าสงครามหูของเจงกินส์ (War of Jenkin's Ear) กับสเปน และสงครามสืบราชสมบัติ ออสเตรีย (War of the Austrian Succession) เมอื่ พระเจ้าฟรีดรชี มหาราชแหง่ ปรัสเซยี (ทรงเปน็ พระนดั ดาของ พระเจ้าจอร์จ) ตอ้ งการจะแยง่ บัลลงั กอ์ อสเตรีย พระเจา้ จอรจ์ ก็ทรงนาํ ทพั ไปปกปอ้ งแควน้ แฮนโนเวอร์ แต่ฝรั่งเศสก็ปลุกปั่นกบฎจาโคไบต์ในสกอตแลนด์ในค.ศ. 1745 นําโดยองค์ชายชาร์ลส์ เอ็ดวาร์ด สจ๊วต (Charles Edward Stuart) หรือบอนน่ี ปริ้นซ์ ชาร์ลี (Bonnie Prince Charlie) หรือ The Young Pretender เป็นพระโอรสของ The Old Pretender นําทัพสกอตบุกอังกฤษ พระเจ้าจอร์จทรงส่งพระโอรสคือ องค์ชายวิ ลเลียม ออกุสตุส (William Augustus) หรือดยุคแห่งคัมเบอร์แลนด์ (Duke of Cumberland) ไปปราบองค์ชาย ชารล์ สใ์ นการรบท่คี ลั โลเดน (Culloden) เป็นสงครามคร้ังสุดท้ายบนหมู่เกาะบริเทน ตลอดไป ในค.ศ. 1757 โร เบิร์ต ไคลฟ์ (Robert Clive) ยึดแควน้ เบงกอลในอนิ เดยี เป็นจุดเรม่ิ ตนั ของการยึดครองอนิ เดียของบริเตน ในค.ศ. 1754 การแข่งขนั ในการแผข่ ยายอาณานคิ มในอเมริกาทําให้บริเตนทําสงครามกับฝรั่งเศสในอเมริกา แต่ ฝรั่งเศสได้ชาวอินเดียนพื้นเมืองมาเป็นพวก เรียกว่าสงครามฝร่ังเศสและอินเดียน (French and Indian War) และในค.ศ. 1756 การแผ่ขยายอํานาจของพระเจ้าเฟรเดอริคแห่งปรัสเซียทําให้ชาติต่างๆท่ีเคยเป็นศัตรูกัน รวมตัวกนั ทําสงครามกบั ปรัสเซีย แต่สงครามอาจทําให้แคว้นฮาโนเวอร์ตกอยู่ในอันตราย ฝร่ังเศสอาจยึด บริเตน จึงเข้าพวกปรัสเซีย เพื่อทําสงครามเจ็ดปี (Seven Years' War) บริเตนจึงต้องทําสงครามสองที่ ท้ังในยุโรปและ อเมริกา

๑๐๘ บทที่ ๒ ประวัตศิ าสตร์อังกฤษ Part II History of England พระเจ้าจอร์จที่ 3 บรเิ ตนทาํ สงครามกับฝรง่ั เศสตามอาณานิคมต่างๆท่วั โลก ขุนพลวอล์ฟ (Wolfe) ชนะทัพฝรั่งเศสในการรบท่ี ที่ราบอบั ราฮมั (Plains of Abraham) ฝรง่ั เศสยึดเกาะมินอร์กา แต่บริเตนยึดเซเนกัล ในค.ศ. 1758 วอล์ฟนําบ ริเตนยึดเมืองคิวเบก เมืองหลวงของอาณานิคมฝร่ังเศสได้ ในค.ศ. 1763 สนธิสัญญาปารีส ยกแคนาดาของ ฝร่ังเศสทั้งหมดให้บรเิ ตน และไดฟ้ ลอริดาจากสเปน ทาํ ให้อาณานคิ มของบริเตนในอเมรกิ าแผข่ ยายมหาศาล จอร์จ เกรนวิลล์ (George Grenville) หัวหน้าพวกวิกเป็นนายกรัฐมนตรี ออกพระราชบัญญัติอ้างเขตดินแดน (Royal Proclaimation) ในอาณานิคมเพ่ือกําหนดเขตแดนระหวา่ งอาณานิคมกับที่ดินของชาวพื้นเมือง เพ่ือหยุดสงคราม กบั ชาวพืน้ เมอื ง ในค.ศ. 1765 เกรนวิลล์ออกพระราชบัญญัติสแตมป์ (Stamp Act) เพ่ือให้ติดสแตมป์อากรในเอกสาร ราชการทุกอย่างของบริเตนในอาณานิคม ทําให้ชาวอาณานิคมไม่พอใจอย่างมาก พระเจ้าจอร์จจึงทรงปลดเกรน วิลล์และทรงต้ังวิลเลียม พิตต์ผู้พ่อ (William Pitt the Elder) ข้ึนมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งเป็นเอิร์ลแห่งเช ตแฮม (Earl of Chetham) ถอนพระราชบัญญัติสแตมป์ ทําให้ชาวอเมริกาสร้างอนุสาวรีย์ให้ทั้งพระเจ้าจอร์จ และเชตแฮม เอริ ล์ แห่งเชตแฮมลม้ ป่วย ทาํ ใหพ้ วกโทรีข้ึนมามีอํานาจนําโดยลอร์ดนอร์ธ (Lord North) ลอร์ดนอร์ธยกเลิก ภาษีทุกประการเพื่อเอาใจชาวอเมริกา แต่ยกเว้นภาษีชา เพื่อรักษาพระเดชานุภาพในการเก็บภาษี ในค.ศ. 1773 เกิดเหตุการณ์งานเล้ียงน้ําชาบอสตัน (Boston Tea Party) โยนชาทิ้งทะเล ทําให้ลอร์ดนอร์ธออก พระราชบัญญัติลงฑัณฑ์ (Punitive Act) ปิดท่าเรือบอสตันและยกเลิกเสรีภาพของอาณานิคมอ่าวแมซซาชูเซตต์ (Massachusette Bay) ชาวอเมริกากย็ ิ่งลกุ ฮืออีก เกิดเปน็ การปฏิวัติอเมริกา (American Revolution) สงคราม จึงเริม่ ในค.ศ. 1775 ในค.ศ. 1776 ปตี อ่ มาอาณานคิ มจึงประกาศเอกราชเปน็ สหรัฐอเมริกา (United States of America) บริเตนพ่ายแพ้ทัพอาณานิคมที่ซาราโทกา (Saratoga) ในค.ศ. 1778 ฝรั่งเศสเห็นโอกาสจึงเข้าฝ่าย อาณานิคม ในค.ศ. 1781 บริเตนเข้ายึดเมืองยอร์คทาวน์ (Yorktown) ไม่สําเร็จ พระเจ้าจอร์จจึงทรงยอมรับ ความพ่ายแพ้ สนธิสัญญาปารีสในค.ศ. 1783 ทําให้อังกฤษสูญเสียอาณานิคมสิบสามรัฐในอเมริกา กลายเป็น สหรัฐอเมรกิ า และยกฟลอริดาให้สเปน เหลือแต่แคนาดาที่ยงั เป็นของบรเิ ตน สงครามเสียอเมริกาทําให้ลอร์ดนอร์ธเสียอํานาจ จึงคบคิดกับฟอกซ์ (Charles James Fox) เพื่อรักษา อํานาจ พระเจ้าจอร์จทรงไม่พอพระทัยจึงอาศัยอํานาจจากสภาขุนขางทําลายอํานาจของนอร์ธ ต้ังวิลเลียม พิตผู้ ลูก (William Pitt the Younger) เปน็ นายกฯแทน พระเจ้าจอร์จทรงเร่ิมมีพระอาการทางพระสติในค.ศ. 1765 แม้จะทรงพยายามจะรักษาพระองค์ แต่พระ อาการกท็ รดุ หนกั ในค.ศ. 1788 ในค.ศ. 1789 พระโอรส เจา้ ชายแห่งเวลส์ จงึ เปน็ ผู้สาํ เร็จราชการแทน กอ่ ต้งั สหราชอาณาจกั ร ในค.ศ. 1789 เกดิ การปฏิวัตฝิ รง่ั เศส ระบอบกษตั ริย์ถูกลบล้าง และกําลังแผ่ขยายอํานาจ บริเตนเข้าสงครามกับ ฝรั่งเศสในสัมพันธมิตรครั้งท่ี 1 (First Coalition) กับชาติอ่ืนๆในยุโรป ในค.ศ. 1793 แต่พ่ายแพ้ในค.ศ. 1798 การขยายอํานาจของนโปเลียนทําให้ชาติต่างๆเข้าร่วมสัมพันธมิตรครั้งที่ 2 (Second Coalition) อีกครั้ง แตส่ ัมพนั ธมิตรก็พ่ายแพ้ในค.ศ. 1800 เหลอื เพียงบรเิ ตนที่ยงั คงทาํ สงครามกับฝรัง่ เศส สงครามท่ีวุ่นวายทําให้ไอร์แลนด์ฉวยโอกาสก่อกบฎ วิลเลียม พิตต์จึงออกพระราชบัญญัติสหภาพค.ศ. 1800 ผนวกไอร์แลนด์เข้ากับบริเตน เป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ (United Kingdom of Great Britain and Ireland)

บทท่ี ๓ ประวัตศิ าสตรร์ สั เซีย ๑๐๙ Part III History of Russia   ประวัติศาสตร์รัสเซีย เริ่มต้นข้ึนเมื่อชาว นโยบายของสหภาพโซเวยี ตได้เน้นการป้องกันประเทศและ พฒั นาดา้ นอุตสาหกรรม แตก่ ารเนน้ พัฒนาทหารขนานใหญ่ สลาฟตะวนั ออกก่อต้ังอาณาจักรเคียฟรุส และรับ ส่งผลทําให้เศรษฐกิจตกต่ําอย่างรุนแรง ต่อมา เม่ือมิคาอิล เอาศาสนาครสิ ตม์ าจากจักรวรรดิไบแซนไทน์ในปี กอร์บาชอฟ ขึ้นสู่อํานาจ เขาได้เริ่มนโยบายปฏิรูปด้านต่าง ค.ศ.๙๘๘ ในปี ค.ศ. ๑๒๔๐ อาณาจักรเคียฟรุส ๆ ทาํ ใหส้ หภาพโซเวียตลม่ สลายใน ค.ศ.๑๙๙๑ สาธารณรัฐ ลม่ สลายโดยการรกุ รานจากจักรวรรดมิ องโกล ต่าง ๆ แยกตัวเป็นอิสระ สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวีย ตรัสเซียจึงแยกตัวออกมาเป็นเป็นสหพันธรัฐรัสเซียใน หลังจากคริสต์ศตวรรษท่ี 13 มอสโกได้ค่อย ปัจจุบัน โดยท่ีรัสเซียได้รับสถานภาพตามกฎหมายในเวที พัฒนาเป็นศูนย์กลางของศิลปะและวัฒนธรรมที ระหวา่ งประเทศมาจากสหภาพโซเวยี ต ละน้อย ในคริสต์ศตวรรษท่ี 15 รัฐมอสโกได้เป็น ใหญ่ในจักรวรรดิรัสเซีย ซ่ึงได้มีการขยายอาณา “ยคุ กอ่ นประวตั ศิ าสตรข์ องรสั เซยี ” เขตถึงโปแลนด์ ทางดา้ นตะวนั ออกจรดมหาสมทุ ร แปซิฟิก จนถึงสมัยพระเจ้าซาร์อีวานท่ี 3 ใน จากหลกั ฐานการขุดค้นทางดา้ นโบราณคดี นักโบราณคดีได้ ปี ค.ศ. ๑๔๘๐ พระองค์หยดุ ส่งเครอ่ื งบรรณาการ ลงความเห็นว่าเขตทางภาคใต้ของรัสเซีย ซ่ึงเรียกว่าเขตที่ ใหม้ องโกเลีย และประกาศเอกราชไม่เปน็ เมืองขึ้น ราบสเตปป์ เป็นทางที่พวกเร่ร่อนเล้ียงสัตว์จากทวีปเอเชีย ของมองโกเลียอีกต่อไป หลังจากการเข้าร่วมใน มักจะเข้าไปต้ังถิ่นฐานทํามาหากินอยู่เนือง ๆ เนื่องจากว่า สงครามโลกครั้งที่หน่ึง ส่งผลให้รัสเซียเผชิญ พวกเรร่ อ่ นเหล่าน้พี บว่าเขตสเตปป์นีเ้ ป็นเขตที่อุดมสมบูรณ์ ปัญหาในการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรม เหมาะแก่การกสิกรรมและเล้ียงสัตว์เป็นอย่างมาก ดังน้ัน ความเป็นอยู่ประชาชนลําบากแร้นแค้น กําลัง กลุ่มชนเร่ร่อนทั้งหลายผู้มีอารยธรรมเป็นของตนเองจาก ทหารและเศรษฐกิจรัสเซียเข้าข้ันวิกฤต ในที่สุด ทวีปเอเชยี จงึ มักจะเขา้ มาตง้ั ถิ่นฐานบ้านเรือน และมักจะทํา พรรคคอมมวิ นิสต์จึงได้ก่อการปฏิวัติขึ้นในปี ค.ศ. การรบการพุ่งกันเองอยู่เนือง ๆ และกับกลุ่มผู้เร่ร่อนจาก ๑๙๑๗ นําไปสู่การก่อต้ังสหภาพโซเวียต เป็น ต่างถ่ิน ผู้ได้ข่าวว่าดินแดนทางเขตสเตปป์ของรัสเซีย เป็น ป ร ะ เ ท ศ แ ร ก ข อ ง โ ล ก ที่ ป ก ค ร อ ง ด้ ว ย ร ะ บ อ บ บริเวณที่อุดมสมบูรณ์ ดังนั้นดินแดนทางภาคใต้ของรัสเซีย คอมมวิ นสิ ต์ จึงเป็นสถานทีส่ าํ คัญทางประวตั ิศาสตร์ทเี่ ก่าแก่ทสี่ ดุ หลังจากสงครามโลกครั้งท่ีสอง สหภาพ โซเวียตกลายมาเปน็ ประเทศมหาอาํ นาจของโลกคู่ กับสหรัฐอเมริกา ในชว่ งสงครามเยน็ ในสมยั นั้น

๑๑๐ บทท่ี ๓ ประวัติศาสตรร์ สั เซยี Part III History of Russia การกอ่ ตง้ั อาณาจักรเคยี ฟรสุ ประวัติศาสตร์รัสเซียเร่ิมข้ึนอย่างแท้จริงในปี ค.ศ. ในสมยั ยาโรสลาฟนี้ รัสเซียได้มีกฎหมายเป็น ๘๖๒ เน่อื งจากในปีนัน้ ได้มีชนชาตสิ แกนดเิ นเวียกลุ่มหนึ่งได้เข้ามา ครั้งแรกชื่อว่า \"The Russian Justice\" ในปี รุกรานรัสเซียทางฝัง่ ทะเลบอลตกิ ชาวสแกนดิเนเวียเรียกตัวเองว่า ค.ศ.๑๐๓๖ จากกฎหมายฉบับน้ีทําให้ผู้สนใจ \"รุส\" ในภาษานอร์แมนหรือพวกไวก้ิง ยุโรปตะวันตกเรียกว่า ประวัตศิ าสตรร์ ัสเซยี สมยั อาณาจักรเคยี ฟ จะ \"วาแรนเจียน\" พวกชาวรุสกลุ่มน้ีได้โจมตีเมืองซูซอฟช์ในแคว้นไคร ได้ทราบถึงสภาพสงั คมและการดาํ รงชีวิตของ เมีย และตั้งผนู้ าํ ของตวั เองทีช่ ือ่ วา่ รรู คิ เปน็ เจา้ ผู้ครองเมอื งนอฟโก อาณาจักรเคียฟได้เป็นอย่างดี นอกจากมี รอด (Grand prince of Novgorod) ในปีน้ันเอง รูริคครองนคร กฎหมายข้ึนใช้ในสมัยนี้แล้วเจ้าชายยาโร นอฟโกรอด จนกระท่ังสน้ิ พระชนม์ใน ปี ค.ศ.๘๗๕ พระนัดดาของ สลาฟยังทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ทางด้านศิลปะ รูริคทรงพระนามว่า อิคเกอร์ ได้เข้ายึดอาณาจักรเคียฟในปี ค.ศ. และด้านสถาปัตยกรรม มีการสร้างโบสถ์ฮา ๘๘๒ ทําให้อาณาจักรนอฟโกรอดและอาณาจักรเคียฟมีกษัตริย์ เ กี ย โ ซ เ ฟี ย ใ น ปี ค . ศ . ๑ ๐ ๓ ๗ ข้ึ น ใ น แห่งราชวงศ์รูริคครองเหมือนกันพวกเช้ือพระวงศ์รูริคทั้งหลายได้ ราชอาณาจักร นอกจากน้ียังทรงจัดการให้มี ปกครองเผ่าสลาฟตะวันออกเผ่าต่าง ๆ และได้ทําให้นครเคียฟมี โรงเรียนและห้องสมุดข้ึนในราชอาณาจักร ความสําคัญและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและ เคยี ฟน้ีด้วย การเมืองของเผ่าสลาฟต่าง ๆ เร่ือยมาจนกระท่ังถูกพวกมองโกล นครเคียฟมีสําคัญและมีอิทธิพลสูงสุดแต่ เขา้ มารกุ รานในราวครสิ ต์ศตวรรษที่ 13 เพียงสมัยของเจ้าชายยาโรฟสลาฟเท่านั้น เจ้าผู้ครองนครเคียฟได้มีการติดต่ออย่างใกล้ชิดกบั จกั รวรรดิไบ นครต่าง ๆ ในราชอาณาจักรรัสเซียต่างยอม แซนไทน์ ถึงกับที่เจ้าผู้ครองนครเคียฟองค์หนึ่งทรงพระนาม อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรเคียฟ ว่า เจ้าชายวลาดีมีร์ที่ 1 แห่งเคียฟได้อภิเษกสมรสกับพระขนิษฐา มาตลอด ในช่วงศตวรรษท่ี 11 เคียฟเป็น ของสมเด็จพระจักรพรรดิบาซิลท่ี 2 แห่งจักรวรรดิไบแซน นครหลวง ศูนย์รวมของอํานาจกษัตริย์และ ไทน์ (Emperor Basil II) ทั้ง ๆ ท่ีพระองค์มีมเหสีถึง 7 พระองค์ เป็นศูนย์กลางของคริสตจักรออร์ทอดอกซ์ แล้ว การอภิเษกครั้งน้ีได้ทําให้เจ้าชายวลาดีมีร์ทรงยอมนับถือ ในขณะท่เี มอื งอ่นื ๆ ก็มปี ระชากรก่อต้ังขึ้นมา ศาสนาครสิ ตน์ ิกายรัสเซียนออร์ทอดอกซ์ ในปี ค.ศ.๙๘๘ พระองค์ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้กล่าวอ้าง ไดท้ รงประกาศใหป้ ระชาชนนบั ถือศาสนาตามอย่างพระองค์ด้วยมี ถึงมอสโกคร้ังแรกในปี ค.ศ.๑๑๔๗ ว่า การสร้างโบสถ์ท้ังราชอาณาจักรและมีการสร้างโรงเรียนในวัด มกุฏราชกุมารแห่งนครเคยี ฟ เจา้ ชายยูริ ดอล เฉพาะแตเ่ ด็กชายมีศกั ดิ์เท่านัน้ ท่ีจะศกึ ษาเล่าเรียนได้ โกรูคี มีรับสั่งให้สร้างป้อมปราการไม้ หรือเค จา้ ผู้ครองเรือนนครเคียฟที่สําคัญที่สุด ทรงพระนามว่า เจ้าชายยา รมลินข้ึนท่ีเนินเขาโบโรวิตสกายา ริมนํ้า โรสลาฟผู้ชาญฉลาด พระองค์ได้ทรงขยายอาณาจักรไปทางทิศ มอสควา และตงั้ ช่อื เมืองว่า มอสโก ตะวนั ตกเฉยี งใต้ ต้ังแตท่ างทะเลบอลติกเร่อื ยลงไปถงึ ทรี่ าบลุ่มแถบ แต่หลังจากท่ียาโรสลาฟส้ินพระชนม์แล้ว ทะเลดําท้ังหมดทางแถวปากแม่น้ําวอลกา จนถึงเทือกเขาคาร์เพ บรรดาเจ้าผู้ครองนครตา่ ง ๆ พยายามปลีกตวั เทียน เจา้ ชายยาโรสลาฟได้ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง เป็นอิสระจากอาณาจักรเคียฟและประกอบ ๆ โดยจัดการให้พระญาติวงศ์อภิเษกพวกราชวงศ์ของประเทศ กับการถูกโจมตีจากพวกเร่ร่อนกลุ่มต่าง ๆ ยุโรปตะวันตก พระองค์เองนั้นได้อภิเษกกับเจ้าหญิงแห่งประเทศ อาณ าจั กรเ คีย ฟจึง เริ่ มเส่ื อม โทร มล ง สวีเดน พระโอรสทั้งสามพระองคไ์ ดอ้ ภเิ ษกกับพระราชธิดาพระเจ้า ประชาชนต่างพากันอพยพโยกย้ายไปอยู่ตาม แผน่ ดินประเทศฝร่ังเศส ฮงั การี และนอรเ์ วย์ พระขนิษฐาองค์หน่ึง ชานแดนด้านตะวันออกเฉียงเหนือซ่ึงเป็น ของพระองค์เป็นพระมเหสีแห่งกษัตริย์โปแลนด์ และพระขนิษฐา บริเวณทางภาคกลางของรัสเซีย ส่วนท่ีเป็น อีกองค์หนึ่งเป็นพระชายาเจ้าชายแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ ทวีปยุโรปในสมัยปัจจุบัน ประกอบได้มีการ นอกจากทรงจัดการให้ราชวงศ์ของพระองค์ได้มีความสัมพันธ์กับ ก่อตั้งนครใหม่ ๆ ขึ้นหลายนคร เช่น รอ พวกราชวงศ์ของประเทศในแถบยุโรป โดยการอภิเษกสมรสแล้ว สตอฟ (Rostov) ซุซดัล (Suzdal) โปลอตสค์ เจ้าชายยาโรสลาฟยังทรงอนุญาตให้อาณาจักรเคียฟของพระองค์ (Polotsk) เป็นต้น เปน็ สถานท่ีล้ภี ัยของบรรดาผูน้ ําและเจา้ ชายประเทศต่าง ๆ อกี ด้วย เช่น เจ้าชายจากประเทศอังกฤษและฮังการีพระเจ้าแผ่นดินและ พระโอรสแห่งประเทศนอรเ์ วย์

บทท่ี ๓ ประวัตศิ าสตรร์ ัสเซยี ๑๑๑ Part III History of Russia รัสเซยี ภายใต้การปกครองของเผา่ มองโกล ช า ว ม อ ง โ ก ล ห รื อ ท่ี เ รี ย ก ว่ า กั น ใ น ห มู่ ช า ว รัสเซยี มองโกลเร่ิมเสื่อมอํานาจเจ้าชายดมิตรี ดอน รัสเซีย ตาตาร์ เป็นเชื้อสายของเตมูจิน หรือที่เรารู้จักกันใน สกอย โอรสแห่งพระเจ้าอีวานที่ 2 ทรงขับไล่มอง นามวา่ เจงกิสข่าน พวกมองโกลไดร้ ุกรานเข้าโจมตีอาณาจักร โกลไดส้ ําเร็จในสงครามกลู โิ กโว บนฝ่ังแมน่ า้ ดอนใน จีน และเข้าตีอาณาจักรของชาวมุสลิมทางตอนกลางของ ปี 1380 พระองค์ทรงได้รับการสถาปนาเป็น ดมี ทวีปเอเชีย พวกมองโกลไดน้ าํ ทัพขา้ มเทอื กเขาคอเคซสั มาถึง ตรี ดอนสกอย (ดมีตรีแห่งแม่นํ้าดอน) และได้รวม ทางภาคใต้ของรัสเซีย และได้ชนะชาวรัสเซีย ตีอาณาจักร เมืองวลาดีมีร์และซุลดัช เป็นเมืองสําคัญของ โปลอตสคบ์ นฝงั่ แม่นํา้ กัลปก์ า ในปี ค.ศ.๑๒๒๓ แต่หลงั ท่เี จง อาณาจักรมอสโกและยังได้บูรณะเครมลินเป็น กิสข่านเสียชีวิตลง อาณาจักรมองโกลได้ออกเป็นส่วน ๆ กาํ แพงหินขาวแทนไมโ้ อ๊ก มอสโกจงึ มีอกี ชอ่ื เรียกว่า ให้แก่ลูกชายทั้ง 4 คนของเขา แต่ชาวมองโกลมีธรรมเนียม \"เมืองกําแพงหินขาว\" ในยุคนั้น แต่ไม่นานพวก ท่วี ่าประมขุ มองโกลจะตอ้ งมี 1 คน และดํารงตําแหน่งข่านผู้ ตาตาร์ก็กลับมาทําลายเครมลินจนพินาศ รัสเซีย ยิ่งใหญ่ ออคได ลูกชายคนที่ 3 ของเจงกีสข่านได้รับ ต้องเป็นเมืองข้ึนของตาตาร์อีกคร้ังหน่ึงในปี ค.ศ. ตําแหน่งนี้ ออคไดได้ดําเนินนโยบายครองโลกตามบิดา โดย ๑๓๘๒ ยกทัพไปรุกรานแคว้นเตอร์กีสถาน อาร์เมเนีย จอร์เจีย และ ซาร์อวี านท่ี 3 เมืองต่างๆ บริเวณเทือกเขาคอเคซัส นอกจากนั้นพวกมอง ในสมัยของพระเจา้ อวี านที่ 3 แหง่ รสั เซีย หรอื พระ โกลยงั ไดย้ กทพั ไปตีเมอื งตา่ งๆ บนลุ่มแม่นาํ้ วอลกา เมืองของ เจ้าอีวานมหาราช ในยุคของพระองค์ได้ทรง พ ว ก บั ล ค า ร์ ใ น รั ส เ ซี ย อ า ณ า จั ก ร เ ม โ ส โ ป เ ต รวบรวมดินแดนให้กลับเป็นปึกแผ่นอีกคร้ัง ในปี เมีย ซีเรีย เกาหลี และอาณาจักรจีนท้ังประเทศ กุบไล ค.ศ.๑๔๘๐ ทรงขบั ไลก่ องทัพตาตารข์ องพระเจ้าบา ข่าน เชื้อสายของเจงกีสข่าน (โอรสพระราชบุตรองค์ที่ 4 ตูข่านออกจากรัสเซียจนหมดส้ินและทรงทําลาย ของเจงกีสข่าน) ได้เป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์หยวนขึ้นในประเทศ โกลเดนฮอร์ด (Golden Horde) ซ่ึงประกอบด้วย จีน 3 อาณาจกั รใหญ่ของชาวมองโกลได้แก่ อาณาจักร อิทธิพลในทางการปกครองของพวกมองโกลท่ีมีต่อชาว ไวท์ฮอร์ด (White Horde) ที่ก่อตั้งข้ึนโดยพระเจ้า รัสเซียได้หมดไปอย่างส้ินเชิงในสมัยของพระเจ้าอีวานที่ 3 โอดาข่าน,อาณาจักรกลุ่มบลูฮอร์ด(Blue Horde)ที่ เหลือเพียงแต่ทางด้านวัฒนธรรมบางอย่างเท่าน้ัน ที่กษัตริย์ ก่อต้ังโดยพระเจ้าบาตูข่านและอาณาจักรเกรท ของอาณาจกั รรสั เซยี ต่างๆ ก็พยายามที่จะให้ชาวรัสเซียได้มี ฮอร์ด (Great Horde) ที่ก่อต้ังโดยพระเจ้าเคอชุก วัฒนธรรมและอารยธรรมเทียบเท่าอารยประเทศในยุโรป มุฮัมหมัด ปิดฉากสองศตวรรษภายใต้การปกครอง ตะวนั ออกในเวลาตอ่ มา ของมองโกล ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาณาจักรรัสเซียได้ฟื้นตัว “อาณาจักรมอสโก” ขึ้นมาใหม่ หลังจากท่ีจักรวรรดิของพวกมองโกลระ ส่ําระสายลง ผู้ แห่งอาณาจักรมอสโก พระองค์ได้ ตงั้ องค์เปน็ กษตั รยิ แ์ หง่ ชาวรัสเซียท้ังปวง ในปี พ.ศ. เจา้ ชาย ยูริ ดาลการกู ี้ยไดส้ ร้างมอสโกข้ึนที่กลางแม่นํ้า มีป่า 2036พระเจ้าอีวานท่ี 3 ได้ทรงสถาปนากรุง ไม้และบึงเป็นปราการธรรมชาติ ต่อมามอสโกได้กลายเป็น มอสโกเป็นราชธานี ชาวรัสเซียในสมัยน้ีถือว่าพวก ศนู ยก์ ลางของศาสนาคริสตน์ กิ ายรสั เซยี นออรท์ อดอกซ์ ตนเป็นทายาทอันชอบธรรมของจักรพรรดิแห่ง ตอ่ มาในตน้ คริสต์ศตวรรษท่ี 13 กองทัพมองโกลนาํ โดยบาตู จักรวรรดไิ บแซนไทน์ ข่าน เข้ารกุ รานรัสเซีย และยึดเมืองเคียฟได้สําเร็จ หลังจาก เน่ืองจากการท่พี ระเจ้าอีวานท่ี 3 อภิเษกสมรสคร้ัง นั้นรสั เซยี กถ็ ูกตัดจากโลกภายนอก ถูกควบคุมทางการเมือง ที่ 2 กับเจ้าหญิงโซเฟียแห่งไบแซนไทน์ หรือ โซอี การปกครอง และต้องจ่ายภาษีให้กับมองโกล กษัตริย์และ พาลีโอ โลกัส พระเจ้าหลานเธอของจักรพรรดิแห่ง พระราชาคณะจงึ ย้ายศูนย์กลางอํานาจมาทางตอนเหนือ ใน อ า ณ า จั ก ร ไ บ แ ซ น ไ ท น์ อ ง ค์ สุ ด ท้ า ย พ ร ะ น า ม ปี ค.ศ.๑๓๒๗ พระเจ้าอีวานที่ 1 แห่งรัสเซีย ได้รับการ จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 11 พาลาโอโลกอส ซึ่ง สถาปนาเป็นกษัตริย์ พระองค์ทรงมีฉายาว่า lvan kalita สวรรคตบนกําแพงเมืองกรุงคอนสแตนติโนเปิลใน หรืออีวานถุงเงิน เนื่องจากทรงเก็บส่วยและเคร่ือง การโจมตีครั้งสุดท้ายของจักรวรรดิออตโตมันทําให้ บรรณาการให้มองโกล และในยุคนี้เองที่กษัตริย์ได้ย้ายท่ี ประทับมาท่มี อสโก ตอ่ มาในยุคของพระเจ้าอีวานท่ี 2 แห่ง เกดิ การเสยี กรงุ คอนสแตนติโนเปิล ในแตล่ ะส่วน

๑๑๒ บทที่ ๓ ประวัตศิ าสตรร์ สั เซีย Part III History of Russia แยกออกจากกันโดยมีป้อมปราการล้อมรอบ มีแม่นํ้ามอส ควาไหลผา่ น พวกช่างฝีมือและกรรมกร อาศัยอยู่ในบริเวณ เมืองท่ีสร้างด้วยไม้ พวกพ่อค้าและพวกขุนนางอาศัยอยู่ใน บริเวณท่ีเรียกว่าเมืองสีขาว (คือสิ่งก่อสร้างด้วยหินสีขาว ส่วนนี้จะเรียกว่า White City ถัดจาก White City จะเป็น ส่วนที่เรียกว่า Kitatgrod) และพระองค์ทรงรับอินทรีสอง เศียรเปน็ สัญลักษณข์ องรสั เซยี ซาร์อวี านมหาราชได้ทรงนําช่างชาวอิตาลีมาออกแบบสร้าง พระราชวังป้อมปราการต่าง ๆ และพระวิหารใน พระราชวังเครมลิน และท่ีอื่น ๆ ด้วยเช่น ทรงโปรดให้ โรดอลโฟฟี โอราแวงเต สร้างมหาวิหารอัสสัมชัญ เป็นที่ สาํ หรับซาร์ ทําพิธบี รมราชาภเิ ษกในพระราชวังเครมลินในก รุงมอสโก ในปี ค.ศ.๑๔๙๙ ซารอ์ ีวานมหาราชโปรดให้สร้าง พระราชวังที่ประทับช่ือว่า Kremlin’s Terem Palace และสถาปัตยกรรมชิ้นสุดท้ายที่สุดที่พระองค์โปรดให้สร้าง สถาปนิกชาวมลิ าน ชอ่ื อาเลสซีโอนอฟ สร้างมหาวิหารอาร์ คันเกล มิคาอิล ซ่ึงต่อมาได้กลายเป็นที่ฝังพระศพซาร์ กษตั ริย์แหง่ รัสเซียในเวลาต่อมา “อาณาจักรรัสเซียอันย่งิ ใหญ่ในสมัยซาร”์ ซาร์อีวานที่ 4 / อีวานผโู้ หดรา้ ย พระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย หรือ \"อีวานผู้โหดร้าย\" เพราะพระองค์ทรงปกครองอาณาจักรด้วยความ เห้ียมโหด ปราศจากความเมตตา ว่ากันว่าทรงรับส่ังให้ควักลูกตาสถาปนิกผู้ออกแบบสร้างมหาวิหารเซนต์บา ซิล เพ่ือมิให้สร้างสิ่งก่อสร้างท่ีงดงามเช่นน้ีได้ท่ีใดอีก พระองค์เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าบาซิลท่ี 3 แห่งไบ แซนไทน์ และเปน็ พระราชนดั ดาของพระเจา้ อวี านที่ 3 พระองค์ได้ช่ือว่าเป็นเจ้าผู้ครองนครมัสโกโวท์ที่ได้ตั้งองค์ เปน็ ตําแหนง่ ซาร์ อยา่ งเป็นทางการ ซารอ์ ีวานที่ 4 ครองราชย์สมบัติตั้งแตพ่ ระชนมไ์ ด้ 3 ชันษา โดยที่พระองค์ยัง ทรงพระเยาวอ์ ยู่ พระนางเยเลนา กลินสกายาพระราชมารดาทรงเป็นผ้สู าํ เรจ็ ราชการ อยา่ งไรกต็ ามเม่อื ซารอ์ วี านที่ 4 ไดท้ รงทําพิธีบรมราชาภิเษกเม่ือปี ค.ศ.๑๕๔๗ และในปีเดียวกันนี้ได้ทรงอภิเษก กบั อะนสั ตาเซยี แห่งสกุลราชวงศ์โรมานอฟเป็นชื่อสกลุ ขุนนางทส่ี ืบมาจากตระกูลเยอรมันชั้นสูงตระกูลหนึ่ง ซึ่งได้ อพยพมาจากเยอรมนี ไปยงั กรงุ มอสโกในตอนต้นของครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 14 และได้เปลี่ยนสกุลใหม่ว่าสกุลคอชกิน สกุลนี้ได้รับราชการในพระราชสํานักของราชวงศ์รูริคตลอดมาเป็นเวลาร่วม 200 ปี คร้ังถึงคริสต์ศตวรรษท่ี 16 บุรุษในตระกูลคอชกินผู้หน่ึงช่ือว่า โรมานอฟ ยูริวิช เกิดความรู้สึกว่านาม \"คอชกิน\" น้ันยังไม่มีสําเนียงเป็น ภาษารัสเซียพอ เขาจึงไดเ้ ปลยี่ นนามสกุลใหม่ โดยต้งั ชอื่ ตามช่อื แรกของตัวคอื \"โรมานอฟ\" ซารอ์ วี านท่ี 4 ไดท้ รงเลือก อนาสตาเซียแหง่ รัสเซยี เป็นคู่อภิเษก พระองคท์ รงหลงรักเจ้าสาวของพระองค์อยา่ งด่ืม ดํ่ามาโดยตลอด ดังนั้นเม่ือพระนางอนาสตาเซียส้ินพระชนม์ในปี ค.ศ.๑๕๖๐ ทําให้พระราชสวามีทรงโศกเศร้า มากถึงกับเสียสติไปและคอยทรงระแวงผู้คนตลอดเวลา โดยคิดว่าเขาเหล่าน้ันได้วางยาพิษพระมเหสีสุดที่รัก ความแค้นเคืองเหลา่ น้เี ลยทําใหพ้ ระองค์ทรงมีสติวิปลาสไป เวลาที่ซาร์อีวานที่ 4 จะเสด็จพระราชดําเนินไปไหน พระองคจ์ ะทรงถอื พระแสงหอกไปดว้ ยเสมอและเมือ่ ข้าราชบรพิ ารคนใดทําส่งิ ใดใหพ้ โิ รธ พระองค์ก็จะทรงใช้พระ แสงนนั้ ทิม่ แทงผู้ทเ่ี คราะห์ร้ายน้ันเสยี ซารอ์ วี านที่ 4 ทรงอภเิ ษกสมรสอกี 6 ครง้ั แตก่ ไ็ ม่ทาํ ให้พระองคม์ ีอาการดขี น้ึ ในบนั้ ปลายแห่งพระชนม์ชีพ อีวาน ทรงประสบกบั การหลอกหลอนจากกรรมตา่ ง ๆ ทไ่ี ดท้ รงกระทาํ ไว้ในอดตี จนพระเกศาร่วงหมดและทรงร้องครวญ ครางอยูท่ กุ คืน กลา่ วกนั วา่ พระองค์สวรรคตในปี ค.ศ.๑๕๘๔ ด้วยพระชนมเ์ พยี ง 54 ชนั ษา

บทท่ี ๓ ประวัตศิ าสตร์รสั เซยี ๑๑๓ Part III History of Russia รัสเซยี หลงั สมัยซาร์อิวาน ท่ี ๔ (สมยั แหง่ ความว่นุ วาย) พระราชโอรสของซาร์อีวานท่ี 4 ทรงพระนามวา่ ซารเ์ ฟโอดอร์ที่ 1 แหง่ รัสเซยี ไดค้ รองราชย์ต่อจากซาร์อีวานที่ 4 พระองคท์ รงออ่ นแอมาก ราชการแผน่ ดนิ ตกอยูก่ ับบอรสิ โกดูนอฟ ผเู้ ปน็ พเี่ ขยของพระองค์ บอริส โกดูนอฟ ต้ังตน ขึ้นเป็นซาร์ เม่ือเฟโอดอร์สวรรคต มีผู้กล่าวว่าเขาเป็นผู้ปลงพระชนม์เจ้าชายดมีตรี พระอนุชาของของเฟโอดอร์ พระชนม์ 9 พรรษาคร่ึงผู้ซ่ึงประสูติจากพระมเหสีองค์ท่ี 7 ของซาร์อีวานผู้โหดร้าย ซึ่งควรจะเป็นรัชทายาทของ ราชบัลลงั ก์รัสเซียต่อ เจ้าชายดมีตรไี ดป้ ระทบั อยใู่ นเมอื งเล็ก ๆ ชอ่ื วา่ อูกลชิ (Uglich) ถูกลอบปลงพระชนม์โดยถูก ตดั คอหอย ประวตั ศิ าสตร์รสั เซียในสมัยโกดนู อฟครองราชย์อยู่นนั้ เรยี กว่า \"สมัยแหง่ ความวุ่นวาย\" คือมีสงครามท้ัง ภายในและภายนอกอาณาจักร และมผี ู้อ้างตวั เปน็ ซาร์กนั หลายครั้งหลายหน โกดนู อฟบงั คบั ให้คณะเซมสกีซอเบอร์ หรือคณะสมัชชาแห่งชาติเลือกเขาเป็นซารต์ อ่ จากเฟโอดอร์ การสถาปนาราชวงศ์โรมานอฟ มกี ารแย่งชิงราชบัลลังก์ระหว่างราชวงศ์รูริคกับราชวงศ์โรมานอฟ ในท่ีสุดสมัชชาแห่งชาติและพระราชาคณะแห่ง ครสิ ตจักรออร์ทอดอกซ์ กม็ ีมตเิ ลอื กมคิ าอิล โรมานอฟ ข้ึนเปน็ ซารพ์ ระองค์แรกแห่งราชวงศ์โรมานอฟ ซาร์มิคาอิล ที่ 1 แหง่ รัสเซีย ได้ขึน้ ครองราชสมบตั หิ ลังจากทคี่ วามวนุ่ วายทว่ั ราชอาณาจักรได้สน้ิ สุดลงแล้ว เหตผุ ลทพี่ ระองคไ์ ด้ ขึ้นครองราชย์ เนื่องจากว่าทรงมีเช้ือสายของพระนางอะนัสตาเซียและมเหสีสุดที่รักของซาร์อีวานท่ี 4 ซ่ึงชาว รัสเซียไมเ่ คยลมื คุณงามความดขี องพระนางเลยประชาชนจึงพร้อมใจกันเลือกเชื้อสายของพระนางอะนัสตาเซียให้ เป็นกษัตริยอ์ งค์ใหม่ มคิ าอิลทรงข้นึ ครองราชย์เมอื่ วนั ที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ.๑๖๑๓ ด้วยพระชนม์เพียง 16 ชันษา พระองคท์ รงเปน็ ซารพ์ ระองค์แรกในราชวงศ์โรมานอฟ สมัยของจกั รวรรดริ สั เซีย ซาร์ปีเตอร์ท่ี ๑ สมยั ของซารป์ ีเตอรม์ หาราชจัดเป็นยุคใหม่ในประวตั ิศาสตร์รัสเซยี ประวัติศาสตร์ รัสเซียในสมัยน้ีเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า \"สมัยจักรวรรดิรัสเซีย\" เพราะองค์เจ้าซาร์ เป็นผู้สร้างยุคของพระองค์ข้ึนพระองค์ทรงได้เป็นซาร์ตั้งแต่ยังมีพระชันษาเพียง 10 ชันษาเท่าน้ัน ในปี ค.ศ. ๑๖๒๘ และในปีนั้นเองพระองค์ก็ต้องได้รับการ แต่งตั้งใหมใ่ ห้เปน็ ซาร์ค่กู ับพระเจา้ นอ้ งยาเธอต่างพระราชมารดา คือ ซาร์อีวานท่ี 5 แห่งรัสเซีย เม่ือซาร์อีวานท่ี 5 สิ้นพระชนม์ ซาร์ปีเตอร์ท่ี 1 มหาราชจึงมีพระ ราชอํานาจโดยแท้จริง ในยุคของพระองค์ทรงขยายอาณาเขตรัสเซียออกไปทาง ตะวันออกถงึ วลาดวี อสตอค และทรงใช้นโยบายสู้ตะวันตก ทรงนํารัสเซียเข้าสู่ยุค ใหม่ ในปี ค.ศ. 1699 ซาร์ปีเตอร์ก็ทรงคิดประดิษฐ์ธงชาติตามแบบอย่างชาติ ตะวันตก ประกอบด้วยแถบสีขาว น้ําเงิน แดงในแนวนอนเพ่ือใช้เป็นสัญลักษณ์ ของประเทศและสร้างความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันของชาวรัสเซียและของ ภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของประเทศ ซ่งึ ธงสามสีดังกล่าวนี้ก็ได้ใช้สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ยกเว้นในช่วงเวลางระหว่างที่รัสเซียเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบสังคม นยิ ม ซาร์ปีเตอร์ท่ี 1 ทรงพยายามเปล่ียนแปลงสังคมและวัฒนธรรมของรัสเซียที่มี ลักษณะเป็นแบบตะวันออกให้เป็นตะวันตกโดยการประกาศพระราชโองการให้ ประชาชนโกนหนวดเคราทง้ิ ให้สอดคล้องกบั ความนิยมของนานาประเทศในยุโรป ตะวันตกขณะน้ัน เพราะพระองค์ถือว่าหนวดเคราเป็นสัญลักษณ์ของ \"โลกเก่า\" หรือโลกตะวันออกที่ล้าหลัง หากผู้ใดขัดขืนจะถูกลงโทษ นอกจากน้ันยังทรงนํา ปฏิทินจูเลียน (Julian Calendar) ที่นิยมกันในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกที่นับ ถือนิกายโปรเตสแตนต์มาบังคับใช้ในรัสเซียในปี ค.ศ. 1699 แทนปฏิทินแบบ เก่าที่นบั ปีตง้ั แต่มีการสรา้ งโลก

๑๑๔ บทที่ ๓ ประวัติศาสตรร์ ัสเซีย Part III History of Russia ซีง่ มปี ศี กั ราชมากกวา่ ปฏิทินตะวันตก 6,508 ปี โดยใน ออกอกี เปน็ 45 มณฑล (ภายหลังเปน็ 50 มณฑล) แต่ ปฏทิ นิ ใหม่ให้ถือเอาวันท่ี 1 มกราคม ค.ศ. 1700 เป็น ละมณฑลปกครองโดย \"นายทหารข้าหลวง\" มีการแบ่ง วันเริ่มปีและศักราชใหม่ของรัสเซีย (เดิมใช้วันท่ี 1 การปกครองเขตมณฑลย่อยลงเป็นเขต (district) และ กันยายน เป็นวันข้ึนปีใหม่) เพ่ือให้นับวันเวลาเดียวกัน ให้เจ้าหน้าที่ท้องถ่ินดูแลปกครองตามแบบอย่างการ กับประเทศเหล่าน้ัน นอกจากนี้ในปี ดังกล่าวและปี ปกครองท้องถ่ินของสวีเดน แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ไม่ ต่ อ ม า ยั ง ท ร ง อ อ ก ป ร ะ ก า ศ บั ง คั บ ใ ห้ ช า ว รั ส เ ซี ย สามารถเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะภาษี เปลย่ี นแปลงการแต่งกายจากเส้ือคลุมยาวหลวมรุ่มร่าม บุคคลจึงมอบอํานาจให้ทหารปกครองเขตแทนใน ไม่กระชับตัว เสื้อคลุมมีขนาดยาวประมาณหัวเข่า ปี ค.ศ. 1722 พรอ้ มกับมกี ารจัดแสดงแบบเคร่ืองแต่งกายท้ังชายหญิง ส่วนพวกขุนนางเก่าถูกบังคับให้มอบมรดกที่ดินแก่ ไว้ในท่ีสาธารณะ เพ่ือให้ดูเป็นตัวอย่างซึ่งแบบการแต่ง บตุ รชายคนโตเพียงคนเดียวและให้ส่งลูกชายคนรอง ๆ กา ย ท่ีเ ริ่ มนิ ย มกั น ใน ป ระ เ ทศ อั งก ฤ ษใ น ปล า ย เข้ารับราชการทหารและราชการพลเรอื น ยกเลิกยศขุน ราชวงศส์ จว๊ ต ผูฝ้ า่ ฝนื ท่ีปรากฏตวั ที่ประตูเมืองในชุดเสอื้ นางระดับสูงท่ีเรียกว่า \"โบยาร์\" และให้ใช้ยศ คลุมยาว จะไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านประตูเมืองจนกว่า เคานต์ (count) และบารอน (baron) แบบยุโรป จะยอมตดั ชายเสือ้ คลมุ ใหม้ ขี นาดสนั้ ขนึ้ ตะวันตกแทน พวกขนุ นางหนุ่มดังกล่าวก็จะถูกส่งตัวไป เม่ือปี ค.ศ. 1705 พระองค์ทรงออกพระราชโองการ รับการศึกษาในประเทศต่าง ๆ ในยุโรปตะวันตกเพื่อ เก็บ “ภาษีหนวดเครา” กับผู้ที่ฝ่าฝืนซึ่งเห็นว่าหนวด นาํ เอาความรูใ้ หม่ๆ มาพัฒนาประเทศ แตข่ ณะเดียวกัน เคราเป็นสิ่งท่ีพระเป็นเจ้าประทานหรือกําหนดให้ผู้ชาย ซาร์ปเี ตอรก์ ็ทรงพยายามลดบทบาทของขุนนางโดยทํา ต้องมี และการโกนหนวดเคราจึงถือว่าเป็นบาปโดยทรง ให้สภาโบยาร์หมดความสําคัญลงด้วย โดยทรงใช้วิธี กําหนดอัตราภาษีหนวดเคราสูงถึง 60-100 รูเบิล กับ จัดต้งั สภาองคมนตรี เพอ่ื ทาํ หนา้ ทีเ่ ป็นที่ปรึกษา ชนช้ันต่างๆ นับแต่พวกราชสํานัก พ่อค้า ชาวเมือง คน รบั ใช้ คนขับรถม้า คนขับเกวียน และชาวมอสโกทุกคน (ยกเว้นพวกพระและนักเทศน์) ส่วนชาวนาท่ียากจนก็ ถูกกําหนดให้จ่ายภาษีหนวดเคราครั้งละ 2.5 โคเปก ทุกท่ีเดินเข้าออกประตูเมืองกรุงมอสโก อีกท้ังได้มีการ พิมพ์หนังสือสมบัติผู้ดีช่ือ The Hunourable Miror of Youth (ค.ศ. ๑๗๑๗) ขึ้นเพ่ือให้เยาวชนลูกผู้ดีมีสกุลได้ เรียนรู้กิริยามารยาทในการเข้าสังคมแบบตะวันตกอีก ด้วย ในปี ค.ศ.๑๗๑๒ ทรงย้ายเมืองหลวงจากมอสโกมาท่ี เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กซึ่งต้ังอยู่ทางด้านตะวันออกของอ่าว ฟนิ แลนด์เพือ่ เป็น “หน้าตา่ งแลยุโรป” และเปน็ ครัง้ แรก ท่ีมีการจัดต้ังกองทหารราชนาวีข้ึนในรัสเซีย ท้ังยังทรง นําช่างฝีมือจากฝร่ังเศส อิตาลี เยอรมนี และ สวิตเซอร์แลนด์ มาสร้างวิหารและพระราชวังที่งดงาม อกี มากมาย และทรงนําพาจักรวรรดิรสั เซยี ให้เป็นท่ีรู้จัก เกรยี งไกรในสังคมโลก พระเจ้าปีเตอร์ได้ทรงแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 เขตแดน (guberny) ได้แก่ มอสโก อินเกอร์แมน แลนด์ เคียฟ สโมเลนสค์ คาซาน อาร์คันเกลสค์อา ซอฟ และไซบีเรีย ทุกเขตแดนยกเว้นมอสโกจะมี ข้าหลวงซ่ึงเป็นคนสนิทของซาร์ออกไปประจําอยู่ ข้าหลวงดังกล่าวมีอํานาจสูงสุดในเขตแดน ท้ังในด้าน การบรหิ าร ตุลาการ การคลัง ตลอดจนการรักษาความ ปลอดภัย การรวมอํานาจเข้าสู่ศูนย์กลางในลักษณะนี้ เปน็ การลดอาํ นาจของขุนนางท้องถิ่น อย่างไรก็ดี ต่อมา ในปี ค.ศ. 1719ได้มกี ารแบง่ เขตแดน

บทที่ ๓ ประวัติศาสตร์รสั เซีย ๑๑๕ Part III History of Russia ระบบการปกครองรัสเซยี ภายใน พอลไม่สามารถเป็นซาร์ได้ ทรงเสด็จสวรรคตโดย ปกครองจักรวรรดิ 34 ปี การปกครองของพระองค์ อาํ นาจของซาร์ เป็นการอธิบายถึงการเป็น พระประมุขสูงสุดที่ทรง ภูมิธรรม (an enlightened despot) เม่อื จกั รพรรดนิ เี อลซิ าเบทแห่งรัสเซียสวรรคตในวันที่ 5 ในสมัยซาร์พอลล์ท่ี 1 แห่งรัสเซียทรงมีพระชนมายุ มกราคม พ.ศ. 2259 ซารป์ ีเตอร์ที่ 3 แห่งรัสเซียได้ข้ึน 42 ชันษา การกระทําแรกของพระองค์ในการเป็น ครองราชย์ พระองค์ก็ทรงบริหารจักรวรรดิแบบตาม พระจกั รพรรดคิ อื การสั่งให้ไต่สวนเรอ่ื งที่เกดิ ขึ้น เมื่อ อําเภอใจ ทรงถอยทัพขณะบุกปรัสเซีย ซ่ึงทรงชื่นชอบ ทราบแนช่ ัดแล้วว่าพระราชมารดาสวรรคตจริงจึงได้ ชาติปรัสเซียมากกว่าเช้ือชาติรัสเซียในตัวพระองค์เอง ออกคาํ สัง่ ใหท้ ําลายพนิ ัยกรรมของพระมารดาทิ้ง ซ่ึง ทรงเปล่ียนเครื่องแบบราชสํานักรัสเซียให้กลายเป็นสี เป็นที่กล่าวลือกันว่าพินัยกรรมฉบับน้ีเขียนข้ึนจาก ของทางราชสํานักปรัสเซีย สร้างความไม่พอใจให้ท้ัง ความปรารถนาที่แคทเธอรีนต้องการจะกีดกัน กองทัพ ประชาชนชาวรัสเซีย พวกขุนนาง แม้แต่พระ พระองค์จากราชบัลลังก์รัสเซียและยกให้อเล็กซาน นางแคเทอรินมเหสีด้วย และเม่ือถึงขีดสุด วันที่ 9 เดอร์ พระนัดดาพระองคโ์ ตแทน ซึ่งจากความกลัวนี้ กรกฎาคม ค.ศ.๑๗๖๒ หลังจากท่ีปกครองจักรวรรดิได้ เองที่น่าจะทําใหพ้ ระองคป์ ระกาศพระราชบัญญัติว่า เพียงแค่ 6 เดือน ก็ทรงถูกพระนางเจ้าแคเทอรินยึด ด้วยการสืบสนั ตตวิ งศ์รสั เซยี ปี ค.ศ.๑๗๙๗ หรือเป็น อํานาจอธิปไตยทัง้ หมด และถกู นําตัวไปกักขังในคุกชาน ที่รู้จักในนาม \"กฎหมายพอลล์ไลน์\" เพื่อเป็นการ กรุงเซนต์ปีเตอร์เบิร์กหลังจาก 3 วันหลังยึดอํานาจ จํากดั หลักในการสรรหารชั ทายาทขึ้นสืบราชบัลลังก์ ก อ ง ทั พ ก็ ไ ด้ พ ร ะ ก า ศ ใ ห้ พ ร ะ น า ง แ ค เ ท อ ริ น เ ป็ น ในราชวงศ์โรมานอฟ ซ่ึงก็ไม่ได้เปล่ียนแปลงแก้ไข จกั รพรรดนิ แี คเทอรนิ ท่ี 2 แหง่ รสั เซยี ครองรัสเซยี สืบไป โดยรัชทายาทของพระองค์เลย พระองค์ข้ึน สมัยพระนางเจ้าแคเทอรินท่ี 2 การพัฒนาทางด้าน ครองราชย์ ได้เพียง 4 ปี ก็สวรรคต ต่อมาสมัยของ สังคม เศรษฐกิจ และวฒั นธรรมในราชอาณาจักรรัสเซีย ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ทรงเป็นซาร์ของรัสเซียท่ี ไม่ค่อยได้สัดส่วนกับการพัฒนาทางด้านการเมือง เปิดศักราชของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ของรัสเซีย ตัวอย่างท่ีเห็นได้ว่าคือเม่ือสิ้นสุดของคริสต์ศตวรรษท่ี ในช่วงที่อเล็กซานเดอร์ครองราชย์อยู่น้ัน นัก 18 แล้วรัสเซียได้ถีบตัวเองให้ก้าวขึ้นเป็นมหาอํานาจ ประวัติศาสตร์รัสเซียได้แบ่งเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนใน แต่เม่ือเทียบกับสภาพชีวิต สังคม และวัฒนธรรมของ สมัยของพระองคอ์ อกเป็น 3 สมยั คอื ประชาชนแล้ว อาจกล่าวได้ว่าความเป็นอยู่และการ ดําเนินชีวิตของชาวรัสเซียนั้นล้าหลังมากเม่ือเทียบกับ สภาพชีวติ และความเป็นอยขู่ องประชาชนของประเทศ ยุโรปตะวันตก พระนางทรงการยึดคาบสมุทรไครเมียมาจากจักรวรรดิ ออตโตมัน เพ่ือที่รัสเซียจะได้มีทางออกสู่ทะเลดําและ พระนางเจ้าแคเทอรินก็ทรงมีชัยเหนือจักรวรรดิออตโต มนั ในการครอบครองแหลมไครเมยี เปน็ พระองค์แรก ตลอดการครองราชสมบัติของพระนางเจ้าแคเทอริน พระองค์ทรงทํานบุ าํ รงุ จักรวรรดิ ปฏิรูปประเทศ วางตัว เหมาะสมเพื่อให้เป็นที่สนใจ และยังนําเบ้ียกํานัลจาก พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นของขวัญให้กับชาวไร่ ชาวนาและทาสมากมาย พระนางเจ้าแคเทอรินมี พระโอรส 1 พระองค์ นามว่าพอล พอลเป็นโอรสของ พระนางแคเทอรินกบั พระเจา้ ปเี ตอร์ท่ี 3 ถึงแม้พระนาง แคเทอรินจะมีสามีใหม่ พอลก็ไม่ค่อยจะยอมรับสัก เท่าไหร่ ถึงแม้ระยะครองราชย์จะยาวนานแต่ไม่ว่า กิจการใดท่ีเป็นหน้าท่ีของพระมหากษัตริย์ แคเทอรินก็ ไมเ่ คยยอ่ ท้อ เมือ่ พอลอภเิ ษกสมรสก็มีโอรส 1 พระองค์ นามว่า อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ซึ่งแคเทอรินหวังจะให้เป็น องคร์ ัชทายาทสบื ไปหลังจากทีแ่ คเทอรนิ ทรงเล็งเหน็ วา่

๑๑๖ บทที่ ๓ ประวัตศิ าสตรร์ ัสเซีย Part III History of Russia  สมัยแรก เป็นช่วงเหตุการณ์ตั้งแต่ปีท่ีซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 รัสเซียต้องกระทบกระเทือนกับระบบกลไกต่าง ๆ ครองราชย์จนถึงปีที่รัสเซียสนธิสัญญาสันติภาพแห่งเมืองทิลซิทกับ ของรฐั บาล ฝรั่งเศสอันเป็นสมัยแห่งการประกาศพระราชกฤษฎีกาเก่ียวกับการ มีฮาอิล บาคูนิน ผู้รู้จักกันในนามบิดาแห่ง ปฏิรูปทางด้านการเมือง และสังคม-ภายในประเทศจนกระทั่ง อนาธิปไตย เขาออกจากรัสเซียไปยุโรปตะวันตกใน นโยบายปฏิรูปต่าง ๆ ต้องหยุดชะงัก เนื่องจากประเทศต้องทํา ปี ค.ศ.๑๘๔๒ และกลายเปน็ นักสังคมนิยมหลงั จาก สงครามกับนโปเลยี น เขามีส่วนร่วมในการปฏิวัติที่เดรสเดินในปี ค.ศ.  สมัยที่สอง จากเหตุการณ์ต้ังแต่รัสเซียทําสนธิสัญญาสันติภาพ ๑๘๔๒ เขาถูกจําคุกไปที่ไซบีเรีย ในที่สุดเขาก็ แห่งเมืองทิลซิทจนถึงสมัยของการประชุมใหญ่แห่งเวียนนา ในช่วงน้ี หลบหนีมาได้และกลับไปยุโรป เผยแพร่ทฤษฎี ซาร์อเล็กซานเดอร์ท่ี 1 ได้ทรงหันมาเอาพระทัยใส่ในการปฏิรูป อนาธิปไตยจนแพร่หลายในยุโรป ทฤษฎีสังคมของ ทางด้านต่าง ๆ อีก เลยทําให้การเป็นพันธมิตรกับฝร่ังเศสเริ่ม เขาเป็นประโยชน์มากสําหรับกลุ่มหัวรุนแรงที่ ส่ันคลอนลง ในที่สุดเลยทาํ ให้รัสเซยี ตอ้ งทําสงครามกบั นโปเลียน ต่อตา้ นระบอบกษตั ริย์และพระราชวงศ์ เป็นเหตุให้  สมัยที่สาม จากเหตุการณ์หลังการประชุมใหญ่แห่งเวียนนา มีการปฏิวัติขึ้นในหลายๆประเทศ เขาคัดค้านลัทธิ จนถึงช่วงสุดท้ายของรัชกาล จัดว่าเป็นสมัยแห่งความวุ่นวายใน คอมมิวนิสต์ของคาร์ล มาร์กซ ด้วยเหตุผล ท่ีว่า ราชอาณาจักร เน่ืองจากชาวรัสเซียได้มีโอกาสติดต่อกับประเทศต่าง ลัทธิคอมมวิ นิสตร์ วมอํานาจทุกชนิดของสังคมเข้าสู่ ๆ ในยุโรป หลังจากสงครามนโปเลียน เลยทําให้ชาวรัสเซียท่ีมี รัฐ และลงท้ายด้วยการรวมกรรมสิทธิ์ไว้กับรัฐ ซ่ึง การศึกษาเกดิ ความคดิ ทต่ี ้องการจะปฏิรูปสังคมและวิถีชีวิตตามแบบ เขาเห็นว่าจะมีชนชั้นหนึ่งได้ผลประโยชน์จากการ พวกยุโรปภาคตะวันตก แต่เป็นท่ีน่าเสียใจท่ีซาร์อเล็กซานเดอร์ท่ี 1 ให้คงมีรัฐอยู่เสมอ และในกรณีของรัฐคอมมิวนิสต์ ไม่ทรงเอาพระทัยใส่ต่อเสียงเรียกร้องของบุคคลกลุม่ ใดเลย เน่ืองจาก คือชนชนั้ ขา้ รัฐการ ชีวิตของพระองค์ในช่วงหลังการประชุมท่ีกรุงเวียนนาน้ัน พระองค์ ตัง้ แตร่ สั เซียประสบกบั ความพ่ายแพ้ในสงครามไคร ทรงเอาพระทัยใสแ่ ตก่ จิ การตา่ งประเทศและหมกหมนุ่ อยู่กับศาสนา เมียแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวน้ีได้ทําให้ชาวรัสเซีย ทงั้ มวลทุกชนั้ วรรณะ ตลอดจนพระองคซ์ าร์เองก็ได้ อาณาจักรโปแลนด์ ความฝันของซาร์ตอรีสกีท่ีต้องการเห็น มีความเห็นเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันถึงความจําเป็น ประเทศชาตขิ องเขาไดม้ อี าณาเขตเท่ากับก่อนท่ีจะถูกแบ่งแยกให้กับ ในการท่อี าณาจักรรัสเซยี ควรจะเปลี่ยนแปลงระบบ ชาติมหาอํานาจ 3 ชาติ เมื่อคร้ังสมัยพระนางเจ้าแคเทอรินเกือบจะ การเมอื งและสภาพสงั คมในแทบทุก ๆ เร่ือง เป็นความจริง เนื่องจากท่ีประชุมใหญ่แห่งเวียนนาได้ลงมติให้มี ดังนั้นหลังจากที่ได้มีการเซ็นสัญญาสงบศึกกับ \"อาณาจักรโปแลนด์\" ข้ึนมาโดยให้เป็นประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ สัมพันธมิตรเพ่ือสงบศึกไครเมียแล้ว ซาร์อเล็กซาน อยู่ใตร้ ัฐธรรมนูญ เดอรท์ ่ี 2 แห่งรสั เซียจงึ ทรงปรกึ ษาหารอื กบั บรรดา ขุนนาง ถึงการที่จะทรงมีพระราชโองการ การล่มสลายของจักรวรรดริ ัสเซีย ปลดปล่อยทาสตดิ ทด่ี นิ ในตอนนี้ปัญหาท่ีว่ายังไม่มี ถึงเวลาที่จะปลดปล่อยทาสนั้นได้หมดส้ินไปแล้ว จักรวรรดิรัสเซียในช่วงปี ค.ศ.๑๘๒๕ – ค.ศ.๑๘๔๘ เป็นสมัยท่ีชาว แต่ในท่ีสุดก็ได้มีปัญหาใหม่ว่าการปลดปล่อยทาส รัสเซียทวั่ ไปตอ้ งประสบกับการถกู ควบคมุ ตัวอยา่ งใกล้ชิดจากสถาบัน น้ันจะมีวีการอย่างไร แต่ในที่สุดก็ได้มีพระราช สูงสดุ ของชาติ เนอ่ื งจากซารท์ ่ีปกครองรัสเซียในสมัยน้ีคือซาร์นิโคลัส โองการปลดปล่อยทาสไดใ้ นทส่ี ุด และผลทีต่ ามมาก็ ที่ 1 แห่งรัสเซียน้ัน ทรงปกครองประเทศอย่างเข้มงวดเด็ดขาดมาก คือ รัสเซียได้ปฏิรูปงานบริหารราชการแผ่นดินอีก เน่ืองจาก พระองค์นั้นทรงยึดมั่นในทฤษฎีการเป็นกษัตริย์ตามแบบ หลายอย่าง รวมท้ังระบบเศรษฐกิจ การทหาร การ เทวสิทธิ์ที่ว่า กษัตริย์ทรงเป็นผู้ท่ีพระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งต้ังข้ึนมา สถาบนั กษัตริย์จึงเปรยี บเทียบได้ว่าเป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าบน ปกครองในจงั หวดั ต่าง ๆ และทางด้านการศกึ ษา พ้ืนพิภพ ดังน้ัน อํานาจของกษัตริย์จึงเป็นอํานาจสูงสุดที่ไม่สามารถ แบ่งแยกได้ ผู้ใดท่ีบังอาจคิดร้ายต่อสถาบันกษัตริย์ ต้องถือว่าเป็น กบฏเป็นอาชญากรรมอย่างร้ายแรง ซาร์นิโคลัสที่ 1 ได้ทรงตั้ง จุดประสงค์ในการครองราชย์ของพระองค์ซ่ึงทางราชการเรียกว่า \"Official-Nationality\" ในปี ค.ศ.๑๘๓๓ อันมีคําขวัญว่า อนุรักษนิยม อัตตาธิปไตย และสัญชาติ ผู้ท่ีถวายความคิดนี้ คือ เคานต์เซยี รเ์ กย์ อูวารอฟ ดังนั้น ในสมัยน้จี ึงจดั ว่าเปน็ สมยั ที่ชาว

บทที่ ๓ ประวัตศิ าสตร์รัสเซยี ๑๑๗ Part III History of Russia ซาร์อเล็กซานเดอร์ท่ี 2 ทรงต้ังพระทัยที่จะเปลี่ยนการปกครองเป็นประชาธิปไตยแต่ในตอนเช้าของวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ.๑๘๘๑ ซาร์อเล็กซานเดอร์ท่ี 2 ขณะมีพระชนมพรรษา 62 พรรษา ทรงถูกปลงพระชนม์ในขณะ เสด็จกลับจากการตรวจแถวทหารมายังพระราชวังฤดูหนาว และพระองค์ก็เสด็จสวรรคตในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พระองคถ์ ูกปลงพระชนมโ์ ดยพวกอนาธิปไตย รสั เซยี ในชว่ ง ค.ศ.๑๘๘๑ จนถึง ค.ศ.๑๘๙๔ เป็นสมยั ที่ชาวตา่ งชาติมักจะมองกนั วา่ รสั เซยี สงบราบรืน่ ถึงขนาดทม่ี ี ผู้ใหส้ มญาซาร์อเล็กซานเดอรท์ ี่ 3 แห่งรสั เซีย ว่าทรงเป็น \"ซาร์แห่งสันติภาพ\" ซึ่งผู้ท่ีให้สมญาดังกล่าวอาจจะมอง รัสเซียอย่างผิวเผนิ เฉพาะเหตุการณท์ างดา้ นการตา่ งประเทศ และความสงบจากการทร่ี ัสเซยี สามารถแก้ปัญหาจาก การปฏิวัตทิ ุกรปู แบบภายในประเทศไดส้ ําเร็จ ทางดา้ นการต่างประเทศนั้น รัสเซียได้ดําเนินนโยบายเป็นมิตรสนิท กับจักรวรรดิเยอรมนีและจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี จนกระทั่งเกิดปัญหาเร่ืองดินแดนในคาบสมุทรบอลข่าน ในช่วงปลายปี ค.ศ.๑๘๗๐ ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับออสเตรียและเยอรมนีก็เร่ิมเส่ือมคลายลง รัสเซียจึง เปล่ียนนโยบายไปเป็นมิตรสนิทสนมกับฝร่ังเศสและอังกฤษ ในรัชสมัยของซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 กลุ่มต่อต้าน ระบอบกษัตริย์เงียบหายไปอย่างรวดเร็ว มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งได้พยายามวางแผนลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระ จักรพรรดิในงานครบรอบหกปกี ารเสด็จสวรรคตของพระชนกนาถ ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ทจี่ ดั ขนึ้ ณ ป้อมปีเตอร์ และปอล มหาวหิ ารสสุ านหลวงแหง่ ราชวงศ์โรมานอฟในกรุงเซนตป์ ีเตอรส์ เบิรก์ เหลา่ นักวางแผนก่อการร้ายได้ยัด ระเบดิ ลงไว้ในไส้ขา้ งในของหนงั สือเรยี นทพ่ี วกเขาต้ังใจจะขวา้ งใสจ่ ักรพรรดิขณะเสด็จกลับจากมหาวิหาร อย่างไร ก็ตาม ตํารวจลับรัสเซียได้เปิดโปงแผนการร้ายก่อนที่ถูกทําให้สําเร็จลุล่วง นักศึกษาจํานวนห้าคนถูกจับแขวนคอ รวมท้ังอเล็กซานเดอร์ อูลยานอฟ เขามีน้องชายท่ีมีพรสวรรค์คนหน่ึง ซึ่งมีความคิดทางการเมืองในเชิงปฏิบัติ ดงั เชน่ พ่ชี าย เด็กชายคนนั้นคอื วลาดมี รี ์ เลนิน ซึง่ อกี หลายปีต่อมาไดใ้ ช้เวลาสว่ นมากกบั ขบวนการปฏิวัติใต้ดินอยู่ ในทวีปยุโรปในการหล่อหลอมแนวคิดและทฤษฎีทางการเมืองที่เขาจะนํามาใช้ในประเทศรัสเซียหลังจากการ กลับมาในปี ค.ศ.๑๙๑๗ เพื่อล้างแค้นให้กับการตายของพ่ีชาย ซาร์อเล็กซานเดอร์ท่ี 3 เสด็จสวรรคตเม่ือวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ.๑๘๙๔ ณ พระราชวังลิวาเดีย ท่ีประทับตากอากาศบนแหลมไครเมยี ขณะทรงมีพระชนมพรรษา ได้ 49 พรรษา หลังจากซารอ์ เล็กซานเดอรท์ ี่ 3 แหง่ รัสเซยี สวรรคต มกุฏราชกุมารนิโคลัสได้ครองราชสมบัติต่อเป็นซาร์นิโคลัสท่ี 2 แห่งรสั เซีย พระองค์ทรงเปน็ จกั รพรรดิองค์สดุ ท้ายของรัสเซยี พระองค์ข้ึนครองราชยพ์ ร้อมกับการเป็นพันธมิตร กบั ฝรั่งเศส ไมส่ ามารถตกลงอะไรกนั ไดก้ บั อังกฤษ ไดร้ ับการกล่าวถึงว่าเป็นจักรพรรดิที่อ่อนแอ ไม่สามารถจัดการ กับสถานการณ์ท่ีป่ันป่วนของประเทศ พ่ายแพ้การรบทางเรือในสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นเมื่อ พ.ศ. 2447-พ.ศ. 2448 ได้ทรงเขา้ บัญชาการรบในสงครามโลกคร้ังท่ี 1 แต่พระองคไ์ มส่ ามารถควบคมุ กองทัพได้ ในปพี .ศ. 2458 หลงั เกดิ สงครามโลกเพียงปีเดียว ไดท้ รงเข้าเป็นผบู้ ัญชาการกองทัพรสั เซียเพือ่ ส้รู บการฝา่ ยทหาร ส่วนกลางและกลุ่มชนชั้นกลางซึ่งเป็นฝ่ายปฏิวัติ ทําให้ราษฎรไม่พอใจลุกขึ้นต่อต้านเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยัง ทรงปล่อยให้ เกรกอรี รัสปูตนิ พระนอกรีตลึกลับ เขา้ ไปมมี ีอทิ ธิพลในราชสาํ นกั โดยเฉพาะชว่ งท่ีขณะออกสงคราม และมจี กั รพรรดนิ ีอเลก็ ซานดราทรงเป็นผ้สู ําเร็จราชการแผน่ ดิน ทรงถูกครอบงํา พระองค์จึงถกู โคน่ ราชบลั ลงั ก์โดย ถูกพวกบอลเชวิคท่เี ปน็ ฝา่ ยปฏวิ ัติบงั คับให้สละราชสมบัตเิ มื่อ ค.ศ.๑๙๑๗ ถูกนําไปกักขังไว้และถูกยิงส้ินพระชนม์ พรอ้ มพระราชวงศห์ ลายพระองค์ นับเปน็ การส้ินสุดราชวงศโ์ รมานอฟอนั ยาวนาน

๑๑๘ บทท่ี ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ นี Part IV History of China   ยุคก่อนราชวงศ์ (จักรพรรดิเหลือง) และอีกหลายองค์ บางสมัย มีคนเก่ง มากๆ โดยเฉพาะเรื่องแก้นํ้าท่วม ชาวบ้านก็อาจเลือกตั้งให้ (ประมาณ ๕,๐๐๐ ปกี อ่ น) เป็นกษตั รยิ อ์ กี องค์ ให้บรหิ ารคูก่ ับกษตั รยิ ป์ ัจจุบัน แรกเร่ิมเดิมทนี น้ั นักประวัติศาสตร์มีความเช่ือกัน ในสมยั ซุน่ แม่นาํ้ หวงเหอ (ฮวงโห) มีน้ําท่วมเป็นประจํา หลายสาย บางสายเชื่อว่า ชาวจีนอพยพมาจาก ซ่ึงเดิมสมัยเหยานั้น เคยส่ังให้ กุ่น แก้ไข ซึ่งได้ใช้วิธีสร้าง ทะเลสาบแคสเปียน บางสายก็เชื่อว่า ชาวจีน เข่ือนกั้นน้ําอยู่ ๙ ปีแต่ไม่สําเร็จ จึงถูกประหาร มาถึง ตั้งอยู่ท่ีจีนมานานแล้ว ไม่ได้อพยพมาแต่อย่างใด สมัยซุ่น ได้ส่ังให้ หยวี่ ขุนนางซึ่งเป็นลูกของกุ่นทําการ ซ่งึ จรงิ ๆ กไ็ มท่ ราบเหมอื นกนั ว่าเปน็ อยา่ งไร แกป้ ญั หาต่อ หยว่ีจงึ ตอ้ งมาแกต้ ัวใหบ้ ดิ า โดยใช้วิธีให้ชุมชน ช่วยกันขุดคลองชักน้ําอยู่ ๑๓ ปี และประสบความสําเร็จ แต่ในจีน ก็มีตํานาน \"ผานกู่เบิกฟ้า\" ซ่ึงว่ากัน ระหว่างนน้ั เขาผา่ นหน้าบา้ นตนเอง ๓ ครั้ง แต่ไม่เคยได้เข้า เสียจนกลายเป็นอภินิหารตํานานเทพไปเลย ไปเยีย่ มเยียนครอบครัวเลย จากความสําเร็จน้ี ทําให้ซุ่นยก อย่างไรก็ตาม ในยุคแรกๆ จีนใช้วิธีการคัดเลือก ให้เขาเป็นกษัตริย์ต่อ (และคนจีนยกย่องเขาถึงกับเรียกว่า กษัตริยข์ ึน้ มาปกครองบ้านเมือง โดยคัดเลือกจาก ต้าหยวี่หรือหยวี่ผู้ยิ่งใหญ่) พอหยว่ีชรามากแล้ว ชาวบ้าน ความสามารถและคุณธรรม บางทีก็อาจจะใช้วิธี เห็นว่า ราชโอรสเหมาะสมท่ีจะสืบราชสมบัติท่ีสุด จึงยุให้ เลือกต้ังจากขุนนาง ไม่ใช่การส่งต่อบัลลังก์ทาง หยวี่ยกราชสมบัติให้ไป ตอนแรกหยวี่ก็ไม่เห็นด้วย ต้ังขุน สายเลือด ยุคนี้บางทีเรียกว่ายุค \"ซานหวงอู่ต้ี\" นางคนอ่ืนเป็นแทน แต่ภายหลังโอรสก็ได้ครองบัลลังก์ จึง (สามจักรพรรดิห้ากษัตริย์) กษัตริย์แต่ละองค์ ก็ เป็นการเร่ิมต้นการสืบราชสันตติวงศ์ และเร่ิมยุคราชวงศ์ ต้องแขง่ กันแสดงความสามารถ ให้เป็นท่ีประจักษ์ ดว้ ย มิฉะนน้ั กอ็ าจจะถกู ขับลงจากบลั ลงั กไ์ ด้ เช่ือกันวา่ กษัตรยิ ์องค์แรกช่ือ ฝูซี หรือฟูสี ซึ่ง นิทานพืน้ บ้านบางแห่งถือเป็นเทพเจ้า ผู้ให้กําเนิด ชนชาติจีนไป กษัตริย์ที่เด่นๆ ในยุคนี้มีหลายองค์ เช่น หน่ีวา น้องของฝูซี ซ่ึงมีตํานานเร่ืองหน่ีวา ซ่อมฟ้า เสนิ หนง หรือเสินหนุง ซงึ่ ภายหลัง คนยก ย่องให้เป็นเทพแห่งเกษตรกรรมไป เหยา-ซุ่น ซ่ึง ทา่ นเหลี่ยวฝานเอ่ยถึงบ่อยๆ (ซุ่นองค์น้ีเอง ที่เป็น ๑ ใน ๒๔ ยอดกตัญญูของจีน (ย่ีจ๊ับส่ีห่าว) จนฟ้า ดินส่งช้างกับนกมาช่วยทําไรไ่ ถนา) หวงตี้

บทท่ี ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ ีน ๑๑๙ Part IV History of China ราชวงศเ์ ซยี่ (ประมาณ ศตวรรษที่ ๒๒-ศตวรรษท่ี ๑๗ ก่อนคศ.) เป็นราชวงศ์แรกของจีน มีอายุราว ๔๐๐ ปี ตอนแรกๆ คนส่วน จนมาถึงโจว้ ทเ่ี ป็นกษัตริยอ์ งคส์ ดุ ท้ายของ ใหญ่เช่ือว่า ราชวงศ์เซ่ียเป็นเพียงเรื่องแต่งข้ึนมาเท่าน้ัน เพราะไม่มี ราชวงศซ์ าง ซึ่งในประวัติศาสตร์ประณาม หลักฐานที่แน่ชัด แต่ปัจจุบัน เริ่มมีการขุดพบหลักฐานเมืองเก่า ใน ไว้วา่ เป็นคนโหดร้ายทารุณมาก นิยมการ สมยั ราชวงศ์เซย่ี ไดแ้ ลว้ ซง่ึ บ่งบอกว่า ราชวงศ์เซ่ียมีการเริ่มระบบทาส สงคราม และหลงใหลในอสิ ตรี โดยเฉพาะ ซงึ่ นอกจากเอาไวใ้ ช้งานแล้ว ยงั ใช้ในการบชู ายัญอกี ด้วย สนมเอกช่ือ ต๋าจี หรือขันกี ซ่ึงเป็นคน ยุคราชวงศ์เซ่ียมีความขัดแย้งกันในหมู่ชนชั้นสูงค่อนข้างมาก วิปริตผิดมนุษย์ คอยยุยงให้โจ้วฆ่าคนเป็น เน่ืองจากเป็นยุคที่ระบบการสืบทอดตําแหน่งเปลี่ยนจาก \"การสละ ผกั ปลา สร้างสระเหล้าดงเนอ้ื ข้ึน บัลลงั ก\"์ โดยคดั จากผู้มคี วามสามารถเปน็ สืบตามสายเลอื ด ทําใหเ้ กิด ต่อมา โจวอู่หวาง (จีฟา) เจ้าผู้ครอง ปญั หาการไมย่ อมรับ และปญั หาศึกสายเลือด จนบางคร้ังเกิดกบฏขึ้น แควน้ โจว ทางตะวันตก ไดย้ กทัพมาปราบ ดังกรณีของอี้ ที่เข้ามาแย่งชิงอํานาจ เนื่องจากไท่คังไม่ใส่ใจบริหาร โจ้ว โดยอ้างวา่ ได้รับ \"อาณัติสวรรค\"์ หรอื บ้านเมือง (อ้ีคนน้ีมีชื่ออยู่ในตํานานโฮ่วอ้ี ที่บอกว่า สมัยน้ันมีดวง \"เทียนม่ิง\" (คําว่าเทียนแปลว่าสวรรค์) ให้ อาทติ ยข์ น้ึ ๑๐ ดวง โฮว่ อีไ้ ด้อาสายิงดวงอาทิตย์ดับไป ๙ ดวง เหลอื ไว้ มาปราบ ตอนน้ันกองทัพราชวงศ์ซางก็ ดวงเดียว สว่ นภรรยาของเขา ฉางเอ๋อ ก็อยู่ในตํานาน ฉางเอ๋อลอยไป หมดกําลังใจรบแล้ว จึงหันกลับมาซัดพวก ดวงจันทร์ ที่บอกว่า โฮ่วอี้ไปเอายาอายุวัฒนะมาจากเจ้าแม่ซีหวังหมู่ เดียวกันเอง ทําใหโ้ จวอหู่ วางได้ชัยชนะ โจ้ แต่ฉางเอ๋อแอบดื่มเข้าไปเสียก่อน ทําให้นางลอยข้ึนไปเร่ือยๆ จนไป วจึงฆ่าตัวตายโดยกระโดดลงกองไฟ แต่ อยูบ่ นดวงจันทร)์ สดุ ท้ายอก้ี ถ็ ูกลกู น้องฆ่าตาย เสา้ คังซงึ่ เปน็ ลกู ไท่คังก็ จริงๆ แล้ว นักประวัติศาสตร์ยังไม่แน่ใจ กลบั มาฟืน้ ราชวงศ์เซย่ี ข้ึนใหม่ นัก ว่าโจ้วจะโหดร้ายขนาดน้ันจริงหรือไม่ เชอ่ื กันว่าการหมกั เหล้าเรมิ่ ตน้ ในราชวงศ์นี้ แถมตอนท้ายราชวงศ์ หรือว่าเป็นการใส่ไข่จนเกินความจริง ตอ้ งพนิ าศด้วยฤทธ์ิเหล้า เนื่องจากกษัตริย์องค์สุดท้าย ซึ่งมีช่ือว่า เจี้ย เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจน รวมท้ังเรื่อง หรือที่รู้จักในนาม \"เซี่ยเจี้ย\" ปกครองบ้านเมืองด้วยน้ําจัณฑ์ เก่ียวกบั ตา๋ จีดว้ ย สํามะเลเทเมา โหดร้าย และอาละวาดอยู่เนืองๆ ในท่ีสุด ทัง เจ้าผู้ เรื่องราวในตอนท้ายราชวงศ์ซางน้ี ได้ ครองแคว้นซาง จึงอ้าง \"เทียนม่ิง\" (บัญชาสวรรค์) ปฏิวัติขีบไล่เจี้ย มีการนําไปแต่งเป็นนิยายหลายเร่ือง หนึ่ง กระเดน็ ตกบัลลงั ก์ แลว้ ตั้งราชวงศ์ซางขึน้ มาแทน ในเร่ืองนั้นก็คือ \"นาจา\" นั่นเอง และ หนงั สอื พงศาวดารชื่อว่า เฟิงเสนิ (ฮอ่ งสิน) ราชวงศ์ซาง/อนิ /อนิ ซาง โดยจะเน้นหนักไปทางอิทธิปาฏิหาริย์เสีย (ประมาณ ศตวรรษที่ ๑๗-ศตวรรษที่ ๑๑ ก่อนคศ.) มาก เดิมช่ือราชวงศ์ซาง ต่อมามีการย้ายเมืองหลวงถึง ๕ คร้ัง คร้ัง สุดท้ายอยู่ทเ่ี มืองเมืองอิน จงึ เปลี่ยนชื่อเป็นราชวงศ์อิน บางคนก็เรียก ราชวงศ์อินซาง จดั เปน็ ยคุ ทีไ่ สยศาสตร์เฟื่องฟู นิยมการเสี่ยงทายด้วย กระดองเต่ากันมาก ราชวงศ์น้ี ได้มีการขุดพบหลักฐานมากมาย จึง เช่ือว่ามีอยู่จริง โดยหลักฐานท่ีขุดได้ เป็นแผ่นจารึกตัวอักษรโบราณ และเศษกระดองเต่า มีรอยแตกอยู่ทั่วไป จึงถือกันว่าตัวอักษรจีน เร่ิมต้นพัฒนามาจากราชวงศ์นี้ เรียกว่า ตัวอักษรเจ๋ียกู่เหวิน (อักษร กระดูก) คนในสมัยน้ีเช่ือถือในอํานาจแห่งสวรรค์มาก ถือว่าทุกส่ิงสวรรค์ เป็นผู้กําหนด ราชวงศ์ซางมีกษัตริย์ ๓๑ องค์ มีอายุ ๔๙๖ ปี ในช่วง แรก กษัตริย์ราชวงศ์ซางก็ปกครองได้ดี มีคุณธรรม บ้านเมืองจึงสงบ ร่มเย็น แต่พอผ่านไปนานๆ ก็เร่ิมมีการแย่งชิงบัลลังก์กันเองใน ราชวงศ์ แถมยงั มกี ารย้ายเมอื งหลวงบ่อยๆ ทําให้ราชวงศ์ซางเส่ือมลง แม้จะมีรุ่งเรืองในยุคของอู่ติง ก็เพียงช่วงส้ันๆ แล้วก็กลับเสื่อมลง ตามเดิม

๑๒๐ บทที่ ๔ ประวัติศาสตรจ์ นี Part IV History of China ราชวงศ์โจว ยคุ ชุนชิว (๑๑๒๓ ปกี ่อนค.ศ.-๒๒๑ ปกี ่อนค.ศ.) (๗๗๐ ปีก่อนค.ศ.-๔๗๖ ปีก่อนค.ศ.) หลังจากโจวอู่หวาง (จีฟา) โค่นราชวงศ์ซางลงแล้ว ได้ต้ัง เป็นยุคทีร่ าชวงศ์โจวออ่ นแอลงและไม่มีบทบาท ราชวงศ์โจวขึ้นแทน ได้เร่ิมการปกครองด้วยระบบศักดินา อะไรเลย กษัตริย์ก็เอาแต่เสพสุข แว่นแคว้นต่างๆ คือแยกแผ่นดินออกเป็นแคว้นต่างๆ แล้วส่งเชื้อพระวงศ์ไป แตกแยกกัน เป็นก๊กเป็นเหล่าต่างๆ จิตใจคนตํ่า ปกครองในตาํ แหนง่ หวาง (อ๋อง) (ปจั จบุ ัน ไม่ค่อยพบคนแซ่จี ทรามลง แคว้นต่างๆ ทําสงครามกลืนกันอุตลุตไป ส่วนใหญจ่ ะเป็นแซโ่ จวมากกว่า) โดยพระองค์เป็นผู้มีอํานาจ หมด ประวตั ิศาสตร์จีนช่วงนี้ จะกล่าวถึงเหตุการณ์ สงู สุด ราชวงศน์ ้ีสร้างความเจริญให้แก่บา้ นเมืองมาก ทั้งด้าน และบคุ คลสําคญั ในแควน้ ตา่ งๆ ไวม้ ากมาย แต่หาท่ี กลา่ วถงึ ราชวงศ์โจวตรงๆ แทบไมไ่ ดเ้ ลย การเมือง การปกครอง ศลิ ปวัฒนธรรม ฯลฯ ราชวงศ์โจวมีอายุยาวนานกว่าราชวงศ์อื่นๆ คือ บุคคลท่ีมีช่ือเสียงในยุคนี้ก็เช่น ขงจ่ือ ผู้ตั้งลัทธิ ประมาณ ๘๐๐ ปี แต่มีช่วงเวลา ทีเ่ ขม้ แขง็ จรงิ ๆ ราวๆ ๓๕๐ หลู เหลาจอ่ื ผตู้ ั้งลทั ธิเต๋า จวงจ่ือ เยว่อ๋องโกวเจ้ียน ปี (ช่วงแรกน้ี ถึงจะมีเข้มแข็งสลับอ่อนแอบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับ กับหวูอ๋องฟูไซ คู่ปรับคู่เอก (โกวเจี้ยนรบแพ้แคว้น เละเทะเหมือนยคุ หลัง) ที่เรียกว่า ราชวงศ์โจวตะวันตก หรือ หวู และถูกจบั ตัวไปเป็นเชลยอยู่ ๓ ปี ต่อมาก็ได้รับ การปล่อยตัวเป็นอิสระ โกวเจี้ยนได้คิดแก้แค้น จึง ซโี จว ซ่งึ ตง้ั เมืองหลวงอยู่ท่ีเมืองเฮ่าหรอื เมอื งซีอาน จุดเปล่ียนของราชวงศ์โจวอยู่ที่สมัยของโจวอิวหวาง ทาํ ตัวติดดนิ โดยการนอนฟาง และแขวนดไี วป้ ลายที่ กษัตริย์องค์ท่ี ๑๒ ซึ่งหลงใหลมเหสีมาก มเหสีมีนามว่า นอน ก่อนนอนก็จะชิมน้ําดีขมๆ เป็นการเตือน เปาสือ นางเป็นคนยิ้มไม่เป็น ทําให้อิวหวางกลุ้มใจมาก ตัวเองไม่ให้ลืมความแค้น จนกลายเป็นสํานวน ถงึ กบั ตง้ั รางวัลไว้พนั ตาํ ลึง สําหรับผูท้ ่อี อกอบุ ายให้นางยิ้มได้ \"นอนฟางชิมดีขม\" จากนั้นก็พัฒนาแคว้นเยว่ขึ้น วันหน่ึง ได้ทําตัวเป็นเด็กเลี้ยงแกะ จุดพลุให้หวางต่างๆ แบบเงยี บๆ พร้อมกนั น้นั ฟ่านหลี ก็ได้แนะนําให้โก เขา้ ใจวา่ ขา้ ศึกมาบุกเมอื งหลวงแล้ว เม่ือยกทัพมาถึงกลับไม่ วเจี้ยนใช้ \"แผนสาวงาม\" ส่งซีซือ (ไซซี) กับเจิ้งตัน มีอะไร ทําใหเ้ ปาสือยิ้มหัวเราะออกมาได้ บรรดาหวางต่างๆ นางงามผู้ใช้มารยาหญิง ไปยั่วยวนฟูไซจนลุ่มหลง เลยยัวะเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วในที่สุด ก็มีข้าศึกยกมาตีเมือง และไม่เป็นอันพัฒนาบ้านเมือง ทําให้แคว้นหวู หลวงจรงิ ๆ อิวหวางได้จุดพลุขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีหวาง อ่อนแอลง จากน้ันโกวเจ้ียนก็ยกทัพมาตีและกลืน คนไหนเช่ือ เลยไม่มีใครยกทัพมาช่วย ข้าศึกจึงตีเมืองได้ แคว้นหวูได้สําเร็จ), ซีซือหรือไซซี นางงามผู้ใช้ อิวหวางถูกฆา่ ตาย เปาสือถกู จับตวั ไป ยิ้มของนางจึงเรียกว่า มารยาหญิงเพ่ือกู้ชาติบ้านเมือง, ฟ่ันหลี ต้นคิดของ \"ย้มิ พนั ตาํ ลึงทอง\" กลายเปน็ ยม้ิ ราคาแพง ท่ีนําความวิบัติมา การส่งซีซือไปวางยาฟูไซ , ซุนจื่อหรือซุนวู ผู้เขียน สู่ราชวงศโ์ จว เหตุการณน์ ้ีเรียกวา่ \"จุดไฟล้อเจ้าเมืองเล่น\" ตําราพิชยั สงครามชื่อดัง ในเวลาต่อมา พวกหวางต่างๆ ได้ยกทัพมาช่วยตีข้าศึก ในหนงั สือประวตั เิ จา้ แม่กวนอิมเลม่ หน่ึง ก็เขียน แลว้ ต้ังโจวผิงหวาง โอรสของโจวอิวหวาง เป็นกษัตริย์ต่อไป ไว้ว่า เจ้าแม่กวนอิมก็ประสูติในยุคชุนชิวน่ีเอง แต่ ราชวงศโ์ จวจึงตอ้ งย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ลั่วหยาง (ลกเอี๋ยง) ประเทศซิงหลินของพระองค์ อยู่ห่างจากจงหยวน ทางตะวันออก เรียกว่า ราชวงศ์โจวตะวันออก หรือตงโจว ของจนี มาก จงึ ไมไ่ ด้รับผลกระทบจากการสู้รบนัก หลังจากนั้น ราชวงศ์โจวก็บัญชาหวางต่างๆ ไม่ได้อีกต่อไป เน่ืองจาก เกดิ ขึ้นโดยการโอบอุ้มของเหล่าหวาง เป็นกษัตริย์ หรือประมขุ เพียงในนาม

บทท่ี ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ นี ๑๒๑ Part IV History of China ยุคจา้ นกว๋อ/เลยี ดกก๊ (๔๗๕ ปกี ่อนค.ศ.-๒๒๑ ปีกอ่ นค.ศ.) ความแตกแยกในยุคชุนชิวได้บานปลายข้ึนอีก แว่น แคว้นต่างๆ จึงรบกันอุตลุตไปหมด เพื่อชิงความเป็นใหญ่ จึงมีแต่ความวุ่นวายไปหมดทั้งแผ่นดิน (กลายเป็นแดน มิคสัญญ)ี แคว้นต่างๆ นับร้อยกลืนกันเอง จนเหลือเพียง ๗ แคว้นใหญ่ๆ เท่านั้น คือ ฉี, ฉู่, เยียน, เจ้า, หาน, เว่ย, ฉิน กษัตริย์ราชวงศ์โจวก็อ่อนแอมาก ไม่สามารถปราบปราม แคว้นต่างๆ ได้ ตัวราชวงศ์โจวเองก็แทบจะไม่มีพื้นที่เหลือ แล้ว กลายสภาพเป็นแคว้นเล็กๆ แคว้นหนึ่งเท่าน้ัน แคว้น ใหญ่ๆ ก็พยายามพัฒนาตัวเอง เพ่ือหวังจะได้เป็นหน่ึงใน แผน่ ดนิ ในเวลาน้ัน แคว้นฉนิ ถอื เปน็ แคว้นหนึ่ง ที่ไดม้ กี ารพัฒนา มาจนเข้มแข็งมาก โดยการปฏิรูปของซางยาง นักปฏิรูป จอมโหด (ประวัติย่อๆ ของซางยางคอื เดมิ เป็นคนแคว้นเว่ย ซ่ึงหวางแคว้นเว่ยมองข้าม เลยมาสวามิภักด์ิแคว้นฉิน และ ได้แสดงความสามารถให้ฉินเซี่ยวหวางได้ประจักษ์ ต่อมา ได้ปฏิรูปกฎหมายต่างๆ โดยเน้นการเกษตรและการทหาร ภายใต้ความโหดเหี้ยมของกฎหมาย ระหว่างท่ีมีอํานาจ ได้ สั่งประหารคนไปมากมาย ลงโทษคนของรัชทายาทอย่าง เฉียบขาด แถมยังได้ยกทัพไปตีแคว้นเว่ยบ้านเกิดอีกด้วย ภายหลังที่ฉินเซ่ียวหวางส้ินพระชนม์ลง ฉินฮุ่ยหวางรัช ทายาทไดค้ รองราชย์ ซางยางก็หนหี วั ซกุ หวั ซนุ (เพราะเคยมี กรณีพพิ าทกบั ฉินฮุย่ หวางมากอ่ น) แต่ก็แพ้ภัยกฎหมายของ ตัวเอง เลยไม่มใี ครกลา้ ใหท้ ่พี ํานัก แตต่ อ่ มา โดนผู้ที่เคยโดน สั่งลงโทษหักหลัง จับตัวไปให้ทางการ จึงถูกประหารโดย การฉีกรา่ ง (ห้ามา้ แยกรา่ ง)) หลังจากน้ันระยะหนึ่ง แคว้นฉินก็ยกทัพไปโค่นราชวงศ์ โจวลงได้ จนมาถงึ สมยั ของฉินหวางอ๋ิงเจ้ิง ได้ใช้อุบายสลาย พันธมิตร ยุยงให้แคว้นท่ีเหลือแตกคอกัน (เรียกว่า อุบาย เหลยี นเหิง ต้นคดิ คือ จางอ๋ี ซึ่งเป็นคนแคว้นเว่ย ส่วนแคว้น อีกหกแคว้นก็มีอุบายเหอจ้ง ซ่ึงต้นคิดคือ ซูฉิน ร่วมมือกัน เพื่อต้านแคว้นฉิน แต่สุดท้าย ก็ถูกอุบายเหลียนเหิงทําให้ แตกคอกัน) แล้วจึงตีแคว้นต่างๆ ได้จนหมดทุกแคว้น รวม แผ่นดินเป็นปึกแผ่นได้สําเร็จ โดยการช่วยเหลือของหลี่ซือ อัครเสนาบดีจอมโหด อิ๋งเจ้ิงจึงได้สถาปนาราชวงศ์ฉินข้ึน แล้วบังคับให้ชาวจีนทั้งแผ่นดิน เรียกตัวเองว่า ชาวฉิน เป็น การตัง้ ช่ือประเทศ (จนี มาจาก ฉนิ หรอื จิ๋น) เป็นคร้ังแรก

๑๒๒ บทที่ ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ ีน Part IV History of China ราชวงศ์ฉิน (๒๒๑ ปีก่อนค.ศ.-๒๐๗ ปีก่อนค.ศ.) ฉินหวางได้หาชื่อใหม่ให้ตนเอง เนื่องจากเห็นว่า ตนสามารถรวบรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่นได้ คําว่า หวาง ไม่ ย่ิงใหญพ่ อ จึงได้เลือกคาํ ว่า หวง (จกั รพรรด)ิ กบั ต้ี (กษัตรยิ )์ มารวมกันเป็น หวงต้ี (ฮ่องเต)้ ถอื พระองค์เปน็ \"โอรส แห่งสวรรค\"์ แลว้ เรยี กชอื่ ตนตามช่ือราชวงศว์ ่า ฉินสื่อหวงตี้ ฮอ่ งเต้เรียกตัวเองว่า \"เจนิ้ \" มีการปฏิรูประบบตัวอักษร ระบบช่ัง, ตวง, วัด (เช่น เพลารถ) ให้เหมือนกันท้ังประเทศ (สําหรับตัวอักษรน้ัน อ่านออกเสยี งตา่ งกนั ได้ แต่จะตอ้ งเขียนเหมือนกัน เช่นเลข ๑ เขียนดว้ ยขีดแนวนอนขีดเดียว จีนกลางออกเสียงว่า \"อี\" แต่แต้จ๋ิวอ่านว่า \"เจ๊ก\" กวางตุ้งอ่านว่า \"ยัด\" เป็นต้น) แบ่งการปกครองเป็นระบบจังหวัด, อําเภอ มีการรวม อํานาจเข้าสู่ศูนย์กลาง พระโอรสองค์อื่นๆ นอกจากรัชทายาทไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ ท้ังส้ิน เหล่าน้ีล้วนเป็นผลงานอัน ยงิ่ ใหญ่ของพระองค์ ซงึ่ มีผลอยา่ งมากต่อวฒั นธรรมจีน และความเปน็ เอกภาพของประเทศในเวลาต่อมา ต่อมา ฉินสื่อหวงได้ให้ขุนศึกเหมิงเถียนหรือเม่งเถียน ยกทัพไปปราบชนเผ่าซงหนู (เฉียนหนู) แล้วก่อสร้าง กาํ แพงเมืองจีนขึน้ เพือ่ ปอ้ งกนั การรุกรานของอนารยชน ฉนิ สื่อหวง ไดช้ อื่ วา่ เป็นทรราชทโี่ หดรา้ ยทารุณมาก ปกครองด้วยความเฉยี บขาด อํามหิต กล่าวกันว่า แค่มีคน จับกลุ่มคุยกัน ก็จะถูกจับไปประหารทันที ข้อหาให้ร้ายราชสํานัก มีการยัดเยียดข้อหาแล้วประหารท้ังโคตร และ กรณีท่ีอ้อื ฉาวมากคือ การเผาตาํ ราสํานกั ขงจอ๊ื แล้วจับบณั ฑติ สํานักขงจื๊อสงั หารหมู่ ดว้ ยการเผาทั้งเป็น, ฝังท้ังเป็น หรือฝังดนิ แล้วตดั หวั (เหตกุ ารณ์นีเ้ รียกวา่ \"เผาตาํ ราฝังบัณฑติ \" หรือ \"เฝนิ ซเู คงิ หล\"ู ) มกี ารเกณฑ์แรงงานเพื่อไปเป็น ทหารเฝ้าชายแดน และเพื่อไปก่อสร้างสารพัดส่ิงก่อสร้าง ท้ังกําแพงเมืองจีน, อภิมหาพระราชวัง, มหาสุสาน, ขุด คลอง, สร้างถนน ฯลฯ รวมแล้วประมาณว่าเกณฑ์แรงงานไปกว่า ๒,๐๐๐,๐๐๐ คน ในขณะเดียวกัน ก็รีดไถส่วย จากราษฎรอย่างโหดรา้ ย เพือ่ สนองความอยากของฮอ่ งเต้ ทใี่ ช้เงินทองอยา่ งฟุม่ เฟือย ชอบท่องเท่ียวไปทั่วประเทศ แม้แตร่ ัชทายาทฝโู ซว (พระโอรสองคโ์ ต) ยังถกู เนรเทศไปชายแดน ไป \"ช่วย\" เหมิงเถียนสร้างกําแพงเมืองจีน ด้วย ข้อหา ขัดแย้งกับพระองค์ จึงมีคนหาทางปลงพระชนม์ตลอดเวลา แม้แต่พระสหายท่ีสนิทก็ตาม นอกจากนี้ พระองคย์ ังกลวั ความตายมาก ในวงั มีหอ้ งลับมากมาย ซงึ่ การจะไปพักห้องใดนั้นจะไม่บอกให้ใครรู้ เพื่อป้องกันการลอบทําร้าย (แต่ก็มีอยู่เนืองๆ) และยังพยายามเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะมาทุกวิถีทาง จนมีเรื่อง เล่ากันว่า ฉวีฝูอ้างว่าเป็นนักบวช ขออนุญาตไปหายาอายุวัฒนะ และนําเด็กชายหญิงพรหมจรรย์ไปด้วย ๕๐๐ คู่ สุดทา้ ยกไ็ ปแลว้ ไปลบั และไปตัง้ รกรากทญี่ ่ปี ุ่นแทน เช่ือกนั ว่าคนเหล่านี้เอง ทเี่ ป็นบรรพบุรษุ ของชาวญีป่ ุ่น ปัจจุบัน ในญี่ป่นุ ก็ยังมศี าลเจ้าของฉวีฝูอยหู่ ลายแหง่ สดุ ท้าย ฉินสอื่ หวงก็ป่วยหนักและสิ้นชือ่ ลง ในระหว่างทีอ่ อกเสด็จประพาส ในแดนทุรกันดารนั่นเอง และได้มี พระราชโองการเรียกฝูโซว รัชทายาทกลับมา เพื่อสืบราชบัลลังก์ แต่หูไห้ โอรสอีกองค์ ได้ร่วมมือกับเจ้าเกา ขันที และอัครเสนาบดีหล่ีซือ ปลอมราชโองการ ให้ฝูโซวและเหมิงเถียนฆ่าตัวตาย แล้วตั้งหูไห้เป็นฮ่องเต้องค์ถัดมา เรยี กว่า พระเจา้ ฉินทส่ี อง หรอื ฉินเอ้อซอ่ื ซง่ึ เปน็ ฮอ่ งเตท้ ี่โหดเห้ยี ม แตไ่ รส้ ามารถ ผดิ กบั พระบิดา แถมยังอยู่ใต้การ ชักใยของเจ้าเกา ขนั ทตี ัวแสบ ทาํ ใหร้ าชวงศ์ฉินลม่ จม หูไห้ได้ใชท้ ้ังเงนิ ทองและเกณฑแ์ รงงานจาํ นวนมหาศาล ในการก่อสรา้ งสสุ านของฉนิ สอ่ื หวง (ปัจจบุ ันยงั ไมม่ ีการ ขดุ คน้ สสุ านฝังศพ แตท่ ราบตาํ แหน่งและรูปพรรณสนั ฐานแลว้ โดยใชเ้ ครื่องมือสมยั ใหม่ ทข่ี ุดค้นมีแต่สุสานกองทัพ ดินเผาหรือปิงหม่าหย่ง มีบันทึกไว้ว่า สุสานจริงๆ นั้น เลิศหรูอลังการมาก กินพ้ืนท่ีมหาศาลใต้ภูเขาล่ีซาน เต็มไป ด้วยกับดักและอาวุธลับ ซ่ึงจะทํางานอัตโนมัติเวลามีผู้บุกรุก ในสุสานมีแผนที่จําลองประเทศจีนอยู่ โดยในส่วนที่ เป็นทะเลและแม่น้ํา จะใช้ปรอทใส่แทน ในนั้นมีเรือมังกรขนาดใหญ่ บรรทุกโลงศพไว้ โดยปรอทจะหมุนเวียนอยู่ ราวกับว่าเป็นนํ้าตก ลําธารจริงๆ ปัจจุบัน จากการสํารวจล่าสุด ทางนักสํารวจได้ตรวจบริเวณเขาล่ีซาน พบว่ามี ปริมาณปรอทอยู่สูงมาก เปน็ การยืนยนั ความมีจริงได้อย่างชัดเจน การตรวจสอบทําให้ทราบว่า มหาสุสานน้ีมีผนัง โลหะท่ีแข็งแรงมาก สามารถทนทานต่อแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้สบายๆ นอกจากน้ัน เคร่ืองมือท่ีใช้ยังพบว่ามี สมบตั ิอย่ใู นน้นั จํานวนมาก อกี ทง้ั ยงั มปี ริ ามิดอยูภ่ ายในตรงก่ึงกลางของสสุ าน บนนน้ั มพี ระราชวงั จาํ ลองอยดู่ ้วย ซ่ึง เช่ือกนั ว่า พระศพก็เก็บไว้ในพระราชวงั จําลองนัน้ แต่ทางการยังไม่กล้าให้ขดุ เนอ่ื งจากกลัวจะเสียหาย และยังต้อง ระวงั อันตรายในสสุ านจากปรอทและอาวธุ ลบั อีกด้วย) และยังรีดภาษีจากราษฎรอีก ทาํ ใหป้ ระชาชนก่อกบฏชาวนา ขึน้ หลายกลมุ่ กลมุ่ ใหญ่ๆ ก็มีอาทิ กลุ่มทหารเกณฑ์ใหม่ นําโดยเฉินเซิงกับอู๋กว่าง ขณะเดินทางไปรายงานตัว เกิด ตดิ นาํ้ ทว่ ม ทําใหไ้ มส่ ามารถเดนิ ทางไปได้ จงึ ไปรายงานตัวไมท่ นั โทษในสมยั ราชวงศ์ฉินต่อกรณีนีค้ อื ประหาร จงึ ก่อ กบฏเสีย กลุ่มของหลิวปงั นายอาํ เภอเพย่ ซงึ่ อยรู่ ะหว่างคุมชาวบ้านไปซ่อมสร้างสุสาน ก็ถือโอกาสก่อกบฏเช่นกัน กลุ่มของเซยี่ งอี้ ซงึ่ เป็นราชนิกูลของแคว้นฉู่เดมิ ฯลฯ

บทที่ ๔ ประวัติศาสตรจ์ ีน ๑๒๓ Part IV History of China ราชวงศฮ์ ่ัน (๒๐๖ ปกี ่อนค.ศ.-ค.ศ.๒๒๐) ในเวลาน้ัน กลุ่มผู้ก่อกบฏมีข้อตกลงกันว่า หากใครบุก เข้าทางกวนจง ของราชวงศ์ฉินได้ก่อน จะได้เป็นใหญ่ หลิวปัง ได้ต้ังราชวงศ์ฮ่ันข้ึน แล้วยกเลิกกบิลเมือง กลมุ่ ของหลิวปงั ได้ผู้ช่วยมือดมี า ๓ คน คือ หานซิ่น จาง อันโหดเหี้ยม ของฉินสื่อหวงท้ังหมด โดยสัญญากับ เหลียง และเซียวเหอ ซ่ึงได้ช่วยในการวางแผนรบ และ ราษฎรไว้ดังน้ี ใครฆ่าคนตายต้องถูกประหาร ใครลัก ประสานงานต่างๆ สามารถบุกเข้าถึงกวนจงได้ก่อน ขโมย หรือปล้นสดมภ์ต้องถูกลงโทษ ในต้นราชวงศ์ฮ่ัน และโค่นราชวงศ์ฉินลงได้ นั้น บ้านเมืองยากจนมาก เน่ืองจากเพ่ิงผ่านสงครามมา หลิวปังจึงปล่อยให้ราษฎรทํามาหากิน โดยเก็บภาษี เจ้าเกาได้ฆ่าหลี่ซือ ปลงพระชนม์หูไห้ แล้วต้ังจื่ออิง เพยี ง ๑/๓๐ ของทเ่ี กบ็ เกี่ยวได้ เพือ่ ฟืน้ ฟูบา้ นเมอื ง น้องของหูไห้เป็นฮ่องเต้แทน แต่เจ้าเกาก็ถูกจื่ออิงฆ่า ตาย (สําหรับประวัติของเจ้าเกา ขันทีผู้ล้มราชวงศ์ฉินนี้ หลังหลิวปังครองราชย์ไม่นาน ด้วยความระแวง ก็ คือ เดิมทีเป็นคนแคว้นเจ้า ต่อมาพ่อแม่ถูกทหารแคว้น ได้หาเรอื่ งถอดผู้ช่วยมือดีท้ัง ๓ ออกจากตําแหน่ง (จาง ฉินฆ่าตาย จึงเก็บความแค้นไว้ในใจ และได้เดินทางมา เหลียงรู้แกวเช่นเดียวกับฟ่ันหลี จึงชิงลาออกก่อนแล้ว แควน้ ฉนิ เพ่อื หาทางแก้แคน้ ถึงกบั ยอมถูกตอนเป็นขันที หนีเข้าป่าเช่นกัน) และยังหาเหตุประหารอีกด้วย พอ ตอ่ มา เมื่อมโี อกาสเป็นใหญ่ จึงได้ใช้ในการล้างแค้น จน ตอนปลายยคุ หลิวปงั หลฮี่ องเฮาได้กุมอํานาจ หลังจาก แคว้นฉนิ ล่มลงสมปรารถนา เปดิ ตาํ นาน \"ขนั ทีจอมโฉด\" หลิวปังสวรรคต หล่ีฮองเฮาก็ใช้อํานาจกาํ จดั คนทขี่ ดั กับ ข้ึนในหน้าประวัติศาสตร์ จนบางคนเรียกขันทีว่า \"ส่ิง นางเสยี แถมยงั ทาํ ให้หลิวองิ หรอื ฮัน่ ฮยุ่ ตีฮ้ ่องเต้สติแตก ชํารุดทางประวัติศาสตร์\") จื่ออิงยอมสวามิภักด์ิต่อหลิว ไป (โดยการตัดแขนขานางสนมคนโปรดของหลิวปัง ปงั ซึ่งหลวิ ปงั กไ็ ด้ดูแลจอ่ื อิงเปน็ อยา่ งดี แล้วขังไว้ในหลุมอาจม จากนั้นก็เรียกหลิวอิงไปดู) ทํา ให้นางมีอํานาจโดยสมบูรณ์ พอนางสวรรคต บรรดา เวลาเดียวกัน เซี่ยงอ้ี ได้ละเมิดข้อตกลง โดยตั้งตัว เชอื้ พระวงศร์ าชวงศฮ์ ั่น ก็จัดการล้างโคตรเสียเลย แล้ว เป็นซีฉู่ป้าหวาง (ว่ากันว่า เซ่ียงอี้นิยมสงคราม และคิด ยกหลิวเหิง โอรสอีกองค์ของหลิวปังขึ้นครองราชย์เป็น จะทําให้แผ่นดินแตกแยก กลับไปสู่ยุคจ้านกว๋ออีกครั้ง) ฮ่นั เหวนิ ต้ี เ ซี่ ย ง อ้ี ไ ด้ เ ผ า พ ร ะ ร า ช วั ง อ า ฝ า ง ก ง ข อ ง ฉิ น สื่ อ ห ว ง (พระราชวังอาฝางกงนี้ ว่ากันว่าใหญ่โตมโหฬาร และโอ่ ฮั่นเหวินต้ีเป็นฮ่องเต้ที่ปกครองได้ดี ห่วงใยราษฎร อา่ อลงั การมาก จนหลิวปังถึงกับตกตะลึงเม่ือเข้าไปคร้ัง และสมถะ พระเจ้าฮ่ันจิงตี้ ฮ่องเต้องค์ถัดมาก็เช่นกัน แรก มีรูปหล่อโลหะขนาดมหึมาอยู่สิบกว่าตัว ซ่ึงหลอม สมยั ของสองพระองคน์ ี้ บา้ นเมืองฟ้ืนฟูได้อย่างสมบูรณ์ มาจากอาวุธที่ริบมาจากชาวเมือง ใช้เวลาเผาถึงสาม แต่พอถัดมา ในสมัยพระเจ้าฮั่นอู่ต้ี (หลิวเช่อ) ฮ่องเต้ เดือนกว่าจะหมด ถ้าหากไม่ถูกเผา ก็คงเป็นส่ิง องค์ที่ ๕ ได้มีการบุกเบิก ทางสายไหม (Silk Route) มหัศจรรย์ของโลกคู่กับกําแพงเมืองจีน ชนิดพระราชวัง ซ่ึงเป็นเส้นทางสู่ตะวันตกของจีน ในการค้าขายต่างๆ ปักกิ่งชิดซ้าย ทุกวันน้ีขุดพบเพียงฐานรากเท่านั้น ซ่ึงก็ หนงั สือประวตั ศิ าสตร์ \"ส่อื จ\"ี้ ซ่ึงเขยี นโดย ซือหมา่ เชยี น ใหญ่โตแข็งแรงไม่ธรรมดาเช่นกัน) ปลงพระชนม์จ่ืออิง กไ็ ด้เขยี นข้นึ ในสมัยนี้ แลว้ สรู้ บกับหลิวปงั การส้รู บไดย้ ดื เยอื้ อย่นู าน เซ่ียงอี้คิด จะแบ่งแผ่นดนิ ปกครองกับหลิวปัง แตใ่ นทสี่ ุด หลิวปงั ได้ ตอนท้ายรัชกาล ฮั่นอู่ต้ีก็ได้นําพาประเทศเข้าสู่ ยกทัพเข้าสู้รบขั้นเด็ดขาด ทําให้เซ่ียงอี้ต้องฆ่าตัวตายที่ สงคราม และความงมงายต่างๆ การท่องเท่ียวอย่าง รมิ ฝง่ั แมน่ ํ้าอเู่ จยี ง สิ้นเปลือง ผลาญเงินที่สะสมไว้จากสองรัชสมัยก่อนจน หมด จนเกิดกบฏชาวนา จึงได้สํานึกและขอโทษ ประชาชน ต่อมา ในยุคพระเจ้าฮั่นหยวนต้ี มีนางงามผู้กู้ชาติ อีกคน คือ หวังเจาจวิน ผู้ถูกส่งไปอภิเษก กับกษัตริย์ เผ่าซงหนู เพื่อกระชับไมตรี ทําให้เว้นว่างจากสงคราม ไปหลายสิบปี (ว่ากันว่า เดิมที หวังเจาจวินเป็นสนมใน วังน่ันเอง แต่ว่าไปขัดแย้งกับจิตรกรอย่างไรไม่ทราบ เม่ือฮ่องเต้ให้จิตรกรวาดภาพนาง จึงวาดไม่สวย เป็น เหตุให้ฮ่องเต้ไม่เรียกใช้บริการ และเม่ือซงหนูมี request มา จึงส่งนางไปอภิเษก หวังเจาจวินเองก็เกิด อาการเซ็งรับประทาน เพราะโดนแช่เย็นอยู่แล้ว จึง ยอมไปตายเอาดาบหน้า แต่เม่ือฮ่องเต้เห็นหน้านาง ชัดๆ กถ็ งึ กบั ตกตะลึง เกิดอาการเสยี ดาย แต่ในเมอ่ื ตก

๑๒๔ บทที่ ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ ีน Part IV History of China ปากรับคําไปแล้ว ก็จําต้องให้นางไปแต่โดยดี พุทธ หุ่นอยู่ราว ๓๐ ปี ราชวงศ์ฮ่ันก็ถูกถอนอาณัติไป ศาสนาก็เข้าสู่จนี ในราชวงศฮ์ ่นั นี่เอง พระเจ้าหมงิ ต้ี ก็ได้ เพยี งเทา่ นี้ แล้วต้ังเป็นราชวงศ์เวย่ ข้นึ มา ส่งคาราวานไปอัญเชิญพระคัมภีร์ต่างๆ มาประดิษฐาน และพระองค์ยังเป็นพทุ ธมามกะดว้ ย ยุคสามกก๊ (ค.ศ.๒๒๐-๒๖๕) ราชวงศ์น้ี มีความเจริญมากในสาขาต่างๆ มีการทํา หลังจากแผ่นดินแบ่งออกเป็น ๓ แคว้น (ก๊ก) กระดาษ (ฝีมือขนั ทชี ือ่ ไช่หลนุ ) พิมพ์หนงั สือไดแ้ ลว้ แลว้ การสรู้ บยังคงดําเนินตอ่ ไป จนสดุ ทา้ ย หลังจาก นั้นอีกเกือบห้าสิบปี หลังจากหลิวเป้ยเสียชีวิตไป ในช่วงกลางราชวงศ์ จากความเละเทะในราชสํานัก หลิวซ่าน รัชทายาทได้ครองราชย์ต่อ ภายใต้การ หวางหม่างได้ชิงราชบัลลังก์ ต้ังราชวงศ์ซินข้ึนมา แต่ ดูแลของจูเก่อเลี่ยง (จูกัดเหลียง/ขงเบ้ง) แต่หลิว ครองบัลลังก์ได้เพียงสิบกว่าปี หลิวซ่ิว เช้ือพระวงศ์ ซ่านไม่มีความสามารถเพียงพอ ดังน้ัน หลังจากจู ราชวงศ์ฮั่น ได้ทําสงครามยึดอํานาจคืน ตั้งราชวงศ์ฮ่ัน เก่อเลี่ยงเสียชีวิต แคว้นสู่ก็ถูกแคว้นเว่ยเข้าตี หลิว ขึ้นมาใหม่ แล้วย้ายเมืองหลวงจากฉางอานไปล่ัวหยาง ซ่านยอมแพ้แต่โดยดี แคว้นสู่จึงล่มสลายลงเป็น ไดน้ ามว่า พระเจ้าฮ่ันกวงอู่ต้ี สมัยน้ีเรียกว่า ราชวงศ์ฮ่ัน แคว้นแรก ในแคว้นเว่ยเอง ลูกหลานของเฉาเชาก็ ตะวันออก (ตงฮั่น) ในยุคน้ี ได้มีการบุกเบิกลัทธิ ถูกคนตระกูลซือหม่าครอบงําโดยส้ินเชิง สุดท้าย ซื จริยธรรม มีการคัดเลือกผู้มีจริยธรรม ให้ทางส่วนกลาง อหม่าเอี๋ยน (สุมาเอ๋ียน) ได้ชิงบัลลังก์จากราชวงศ์ พิจารณาหาตาํ แหน่งให้ เว่ย ตั้งเป็นราชวงศ์จิ้น แคว้นเว่ยจึงล่มสลายเป็น แควน้ ทีส่ อง สว่ นแคว้นอู๋ ซุนเฮ่า ซึ่งเป็นฮ่องเต้ก็เอา ในปลายราชวงศ์ฮั่น ฮ่องเต้อ่อนแอมาก เนื่องจากมี แต่สํามะเลเทเมา ทําตัวเป็นทรราช ราชวงศ์จิ้นจึง การแต่งงานกันในหมู่เครือญาติ ทําให้ฮ่องเต้หลายๆ ยกทพั ทําสงคราม ซ่นุ เฮา่ ยอมแพ้แต่โดยดี เป็นอันว่า องคส์ ้นิ พระชนม์ต้ังแตย่ งั เล็ก มหิ นาํ ซาํ้ ขันทมี ีอิทธิพลสงู แคว้นอู๋ก็ล่มสลายไปเป็นแคว้นสุดท้าย การสู้รบอัน มากในราชสํานัก เน่ืองจากใกล้ชิดฮ่องเต้มาก เป็นเหตุ ยาวนานก็สิน้ สุดลง ให้เกิดระส่ําระสายในราชวงศ์ สมัยพระเจ้าฮั่นหลิงตี้ (เลนเต้) ก็เร่ิมเข้าสู่ยุคสามก๊ก เร่ิมจากมีโจรโพก ราชวงศ์จน้ิ (ค.ศ.๒๖๕-๔๒๐) ผ้าเหลืองอาละวาด หลิวเป้ย (เล่าปี่) เชื้อพระวงศ์, จาง เฟย (เตียวหุย) และกวนอว่ี (กวนอู) สามพ่ีน้องร่วม ราชวงศจ์ น้ิ ชว่ งแรกเรยี กว่า ราชวงศ์จิ้นตะวันตก สาบาน ได้ปราบปรามโจรจนราบคาบ หลังจากนั้นไม่ บ้านเมืองเพิ่งสงบจากสงครามยุคสามก๊กได้ไม่นาน นาน พระเจ้าฮั่นหลิงต้ีสิ้นพระชนม์ ขันทีได้เหิมเกริม แต่แล้ว เมื่อเวลาผ่านไป ราชวงศ์จิ้นกลับต้องเผชิญ หนักขึ้น เหอจิ้น (โฮจิ๋น) พี่ชายของฮองเฮา ได้ให้ทหาร ปัญหามากมาย เนื่องจากความขัดแย้งภายในของ เข้ามาฆ่าขันทีในวัง แต่ไม่หมด จึงถูกขันทีซ้อนแผน เช้อื พระวงศ์ ความอ่อนแอ และความฟุ้งเฟ้อของคน ปลอมราชโองการของฮองเฮา เรียกเหอจ้ินเข้าวัง แล้ว ในราชสํานัก รวมไปถึงตัวของฮ่องเต้เองด้วย จน ดักฆ่าเสีย เฉาเชา (โจโฉ) ได้ยกทหารเข้าฆ่าขันทีจนส้ิน สุดท้าย ทําให้ประเทศจีนถูกโจมตีจากชนกลุ่มน้อย ซาก แต่ว่า ต่อมา ต่งจั๊ว (ตั๋งโต๊ะ) แม่ทัพอีกคนหน่ึง ได้ ภายนอก ผสมกับกบฏภายในและภายนอก (กบฏ เข้ามาในวัง แล้วบีบไม่ให้รัชทายาทได้ครองราชย์ ให้ ชาวนา) ซือหม่าเยี่ย ฮ่องเต้องค์ท่ี ๔ และเป็นองค์ หลิวเสีย องค์ชายรองครองราชย์แทน พระนามว่า พระ สุดท้ายของราชวงศ์จิ้นตะวันตกถูกซงหนูจับตัวไป เจ้าฮน่ั เส้ยี นตี้ (เห้ียนเต้) ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์ หลังจากนั้น ปี ค.ศ.๓๑๗ (พ.ศ.๘๖๐) ซือหม่าลุ่ยได้ ฮ่ัน ส่วนต่งจั๊วต้ังตัวเป็นพระมหาอุปราช กุมอํานาจใน ครองราชยต์ อ่ และไดย้ ้ายเมืองหลวงของราชวงศ์จ้ิน มือ แถมตอ่ มายังลอบสังหารรัชทายาท และพระมารดา ไปเมืองเจี้ยนคังทางใต้ เพ่ือหนีภัยสงคราม เรียกว่า อีก ทําให้คนอื่นไม่พอใจมาก ต่อมา หล่ีปู้ (ลิโป้) ราชวงศ์จ้ินตะวันออก แต่ก็ไม่ได้คิดจะรวมประเทศ ลกู บญุ ธรรมของต่งจั๊วได้ฆ่าต่งจ๊ัวเสีย ลูกน้องของต่งจ๊ัว แตอ่ ย่างใด ในราชวงศจ์ ้ินเองก็ประสบปัญหาภายใน ที่เหลืออยู่ ได้คุกคามพระเจ้าฮั่นเสี้ยนต้ี ต่อมา เฉาเชา แถมการปกครองยงั ฟอนเฟะ จนยากที่จะรุ่งเรืองขึ้น ได้มาช่วยปราบ และสวมรอยเป็นพระมหาอุปราช อีกรอบได้ สุดท้ายก็ถูกหลิวอว้ี ซึ่งเคยสนับสนุน ตามต่งจั๊วไปอีกคน ทําให้คนอ่ืนไม่พอใจมาก เกิดการ ราชวงศ์จิ้นมาก่อน ทําการยึดอํานาจ ต้ังราชวงศ์ซ่ง แตกแยกก๊กต่างๆ มากมาย แล้วเหลืออยู่ ๓ ก๊ก คือ ข้นึ แทน สว่ นทางเหนือ ก็มชี นกลุ่มนอ้ ยตา่ งๆ เข้ายึด แคว้นสู่ของหลิวเป้ย เว่ยของเฉาเชา และอู๋ของซุนฉวน ครองและสร้างอาณาจักรของตนเองมากมาย (ซุนกวน) ดังในพงศาวดารสามก๊ก แล้วก็รบพุ่งกันอยู่ ประเทศจึงแตกออกเปน็ เหนอื -ใต้ นาน หลงั จากเฉาเชาตาย เฉาพี (โจผี) ลูกเฉาเชา ได้บีบ ให้พระเจา้ ฮั่นเสีย้ นตใ้ี หส้ ละบลั ลงั ก์ หลงั จากเป็นฮ่องเต้

บทท่ี ๔ ประวัติศาสตรจ์ นี ๑๒๕ Part IV History of China ยคุ ราชวงศ์เหนือใต้หรอื หนานเป่ยเฉา ราชวงศ์สุย (ค.ศ.๔๒๐-๕๘๙) (ค.ศ.๕๘๑-๖๑๗) ในยุคน้ี ทางเหนอื ของจีนกับทางใตข้ องจนี จะแยกกันบริหาร ทาง หยางเจียน ได้ตั้งตัวเองเป็นพระเจ้าสุยเหวินต้ี ใต้มีราชวงศ์ต่างๆ ผลัดกันขึ้นมาคือ ราชวงศ์จ้ิน, ซ่ง, ฉี, เหลียง, เฉิน ปกครองบ้านเมืองด้วยความประหยัด มัธยัสถ์ มี ส่วนทางเหนอื นัน้ ชนกล่มุ นอ้ ยครองอยู่ มีราชวงศต์ า่ งๆ คือ เว่ยเหนือ, คุณธรรม ทําให้บ้านเมืองฟื้นสภาพได้อย่างรวดเร็ว เว่ยตะวันออก, ฉีเหนือ, เว่ยตะวันตก, โจวเหนือหรือเป่ยโจว ในสมัย กล่าวกันว่า มีอยู่คร้ังหนึ่ง เกิดภัยพิบัติข้ึน พระเจ้า ราชวงศเ์ หนอื ใต้น้ี มีบคุ คลสาํ คญั ผู้หน่งึ คือ พระโพธิธรรม (ต๋าโม๋หรือ สุยเหวนิ ต้ที ราบวา่ ราษฎรกนิ ฟองเตา้ หู้กับรําข้าว ก็ ตั๊กม้อ) ผู้เป็นอาจารย์องค์แรก ของพุทธศาสนานิกายเซ็น ท่ีเน้นการ ทรงตั้งพระทัยว่า จะไม่เสวยเน้ือสัตว์กับเหล้าอีก ถ่ายทอดสัจธรรมจากจิตสู่จิต ท่านเข้ามาในสมัยราชวงศ์เหลียง (ใต้) นอกจากนั้น พระเจ้าสุยเหวินต้ี ยังเป็นกษัตริย์องค์ รชั กาลของพระเจา้ เหลยี งอู่ต้ี (เหลยี งบตู้ )้ี ฮอ่ งเต้องค์น้ีศรัทธาในพุทธ เดยี วในประวตั ิศาสตร์จีน ที่ไม่มีสนม (หรือว่าง่ายๆ ศาสนามาก แตถ่ ูกยอกย้อนเป็นปริศนาธรรมจากท่าน ทําให้ไม่พอใจ ก็คือ มีเมียคนเดียวน่ันเอง เป็นตัวอย่างที่ดีสําหรับ มาก ท่านเห็นว่าคงจะคุยกันยาก จึงหยุดเสวนาด้วย (มีหนังสือ คนสมัยน้ี ถึงอาจจะไม่ค่อยเต็มพระทัยก็เหอะ) ประวัติฮ่องเต้องค์นี้ เขียนไว้ว่า ทรงสร้างความเจริญไว้มากมาย แต่ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากกลัวมเหสี หรืออย่างไรก็ไม่ ตอนท้ายสุด ไดไ้ ปบําเพญ็ ธรรมในปา่ ถา้ํ และชดใช้หน้กี รรมเกา่ ทเ่ี คย ทราบ จวบจนพระมเหสีคือพระนางตู๋กูจากไป จึงมี สร้างไว้ในชาตกิ ่อนกับลิง ซง่ึ ไดม้ าเกิดเป็นแม่ทพั ทําใหต้ ้องอดอาหาร สนม และในปลายรัชกาล สุยเหวินตี้ก็ได้เร่ิมมีการ ตายในถ้ําน่นั เอง แต่ก็ไดบ้ รรลุธรรมในทสี่ ดุ สร้างพระราชวังเพ่มิ ซึง่ เป็นการฟุม่ เฟือยโดยใช่เหตุ อนั เปน็ เหตใุ หแ้ ววแห่งความพินาศเริ่มกลับมาเยือน เหตุการณน์ ปี้ ระวัตศิ าสตรจ์ ริงๆ ระบวุ ่า เหลียงอู่ต้ีได้ช่วยเหลือ อกี ครั้ง โหวจิง่ ขุนพลทีล่ ้ีภัยมาจากเว่ยตะวันออกไว้ แต่ทางเว่ยตะวันออก ไดใ้ ห้ข้อแลกเปลี่ยนทีเ่ ย้ายวน จงึ คดิ จะสง่ ตัวกลับ โหวจ่ิงจึงก่อการ เดิมที พระเจ้าสุยเหวินต้ีต้ังหยางหย่ง เป็นรัช กบฏ และร่วมมือกับลูกของอู่ตี้ที่ทําตัวเป็นไส้ศึก บุกเข้าจนถึง ทายาท แต่ต่อมา หยางกว่าง โอรสอีกองค์ ได้ให้ พระราชวงั ทําให้เหลียงอตู่ ้ถี กู กักขังจนอดตายอยใู่ นวงั น่ันเอง ร้ายพ่ีชายตนเอง อีกท้ังพระนางตู๋กูก็ลําเอียง ให้ รา้ ยลกู ตนเองด้วย ทาํ ใหท้ รงถอดหยางหย่งออก ให้ ต่อมา ท่านได้ไปนั่งเข้าฌาณท่ีถ้ําแห่งหน่ึงทางเหนือ (ใกล้วัดเส้า เนรเทศไปนอกวัง แล้วต้ังหยางกว่างแทน จนใน หลิน) โดยไม่แตะต้องอาหารหรือน้ําเลยเป็นเวลา ๙ ปี จนมีศิษย์ผู้ ท่ีสุด พระเจ้าสุยเหวินต้ีประชวร เล่ากันว่า หยาง หนง่ึ ช่ือฮุ่ยเข่อทศี่ รัทธาแรงกลา้ มาก มาน่ังเฝา้ ท่านหน้าถํา้ (ในหนังจะ กว่างพยายามปลุกปลํ้าซวนฮัวฮูหยิน (สนมของ เห็นว่า ยอมสละแขนเพื่อให้ท่านยอมสอนให้) ท่านเห็นใจในความ พระเจ้าสุยเหวินตี้ หลังจากฮองเฮาสิ้นแล้ว) ทําให้ ตง้ั ใจ จงึ ถ่ายทอดสจั ธรรมให้ และตําแหนง่ ของท่านดว้ ย เรอ่ื งราวของ พระเจา้ สยุ เหวินตี้ถึงกบั วา่ \"อา้ ยสตั ว์! แล้วการใหญ่ ฮัวมู่หลาน หญิงผู้ออกรบแทนบิดา ก็เกิดในยุคนี้เช่นกัน โดยเกิดใน ของกูจะมอบหมายให้มันได้อย่างไร ตู๋กูเอ๋ย เจ้าทํา สมัยเปย่ เวย่ (เวย่ เหนอื ) ร้ายข้าเสียแล้ว\" แล้วให้อํามาตย์ไปตามหยางหย่ง มาเข้าเฝ้า แต่หยางกว่างไปจับตัวไว้เสียก่อน ความแตกแยกของจีนอันยาวนานนี้ ได้ทําให้เกิดความ จากนั้นพระเจา้ สุยเหวนิ ตีก้ ็สิ้นพระชนม์อย่างลึกลับ เปลย่ี นแปลงข้ึนในสงั คมจีนพอสมควร เน่ืองจากมีอารยธรรมของชน เลา่ ลือกันมากวา่ หยางกว่างปลงพระชนม์พระบิดา กล่มุ น้อยเข้ามาผสมด้วย ทเี่ ห็นไดช้ ดั อย่างหนงึ่ ก็คอื การให้อิสระและ ตนเอง สิทธิกับผู้หญิงมากข้ึน จากเดิมท่ีเคยกดข่ีแทบติดดิน ผู้ชายให้การ ยอมรบั หญิงท่ีเคยมสี ามีแลว้ (สามตี าย) จนนาํ มาเปน็ ภรรยาได้ ต่อมา หยางกว่างขึ้นครองราชย์ เป็นพระเจา้ สยุ หยางต้ี ปกครองด้วยความโหดเหี้ยมทารุณ ใช้เงิน ในปลายราชวงศเ์ ปย่ โจว (เหนือ) มขี ้าราชการของเป่ยโจวคนหน่ึง อย่างฟุ่มเฟือย สู้รบไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะกับ ชอื่ หยางเจยี น วงศต์ ระกลู ของเขามีอิทธิพลกับราชวงศ์สูงพอสมควร เกาหลี (๓ ครั้ง) ท่องเท่ียวไม่เลิกรา เกณฑ์คนไป จึงเป็นที่เขม่นของบรรดาเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ เช่น อ่ีเหวินหู้ ซ่ึง สร้างโนน่ สรา้ งน่ีไม่หยุด โดยเฉพาะได้เกณฑ์คนไป ได้พยายามลอบสังหาร และใส่ไฟจะให้โดนประหารหลายคร้ัง แต่ ขุดคลองยาวเหยียด ท่ีเรียกว่า \"ลํานํ้าเลือด\" หรือ สุดท้าย จากความช่วยเหลือของเหล่าขุนนาง เขาก็ได้ปฏิรูปการ ตา้ ยนุ่ เหอ (คลองใหญ)่ จากเหนือจรดใต้ ยาวร่วมๆ ปกครองเสยี ใหม่ และในทส่ี ดุ ก็บีบให้ฮ่องเต้ราชวงศ์เป่ยโจวสละราช สองพันกิโลเมตร จนคนทนไม่ไหว ลุกข้ึนก่อการ สมบัติ แล้วตั้งราชวงศ์สุยข้ึน จากนั้น ก็สามารถทําสงครามกับ กบฏไปทั่วเมือง หล่ีหยวน ลูกพ่ีลูกน้องของหยาง ราชวงศเ์ ฉนิ (ใต)้ รวมแผน่ ดินเหนอื ใต้ไดส้ าํ เร็จ ยตุ คิ วามแตกแยกของ กวา่ ง ไดก้ ่อการกบฏด้วย บกุ เขา้ ตเี มอื งหลวงได้ จน จีนลง

๑๒๖ บทท่ี ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ นี Part IV History of China สยุ หยางตตี้ ้องหนไี ปเฉิงตู และถกู พวกกบฏปลงพระชนมใ์ นท่ีสดุ ราชวงศส์ ยุ กเ็ ปน็ อนั วา่ ถูกถอนอาณัติ หลังจากท่ีมี ฮ่องเต้มาเพียงสององค์ จัดว่าเป็นราชวงศ์อายุส้ันอีกราชวงศ์ คู่กับราชวงศ์ฉิน แต่ราชวงศ์สุยก็มีความสําคัญใน ประวตั ิศาสตรไ์ ม่แพร้ าชวงศฉ์ ิน เพราะได้วางรากฐานให้กับประเทศหลายอยา่ ง และราชวงศ์ถังนําไปพัฒนาต่อ จน เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ที่สําคัญอันหนึ่งก็คือ ระบบการสอบเข้ารับราชการหรือสอบจอหงวน (ก่อนหน้าน้ี ใช้วิธี สารพัดเส้นก๋วยจบ๊ั ) ซ่ึงราชวงศ์ต่อๆ มาได้นํามาใช้โดยตลอดจนถึงปลายราชวงศ์ชิง แต่สุดท้ายต้องยกเลิก เพราะ ระบบไม่มกี ารพฒั นาต่อ และไปต่อไมไ่ ด้แล้ว จากรากฐานความเจริญเหล่าน้ี หลายคนจึงเรียกประวัติศาสตร์ยุคน้ี วา่ สยุ ถงั หลังจากราชวงศส์ ุยล่มไปแล้ว หล่หี ยวนกป็ ราบกก๊ ต่างๆ ไดส้ ําเรจ็ ตัง้ ราชวงศ์ถงั ขึน้ ราชวงศถ์ งั (ค.ศ.๖๑๘-๙๐๖) ราชวงศน์ ีส้ ร้างความเจรญิ รงุ่ เรืองให้จนี อย่างมาก ท้ังด้านศลิ ปกรรม วฒั นธรรม และอีกหลายๆ ด้าน หล่ีหยวน ได้ต้ังตัวเองเป็น พระเจ้าถังเกาจู่ หลังจากรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นแล้ว ก็เกิดการแย่งชิงตําแหน่งรัชทายาทข้ึน ระหว่างโอรสหลเี่ จย้ี นเฉิง หลีซ่ อ่ื หมิน และหล่หี ยวนจ๋ี หลี่ซื่อหมนิ น้ัน มีความดีความชอบมาก เน่ืองจากรบชนะมา หลายครงั้ ในทส่ี ุด ก็เกิดกรณศี ึกสายเลือดข้นึ ท่ปี ระตเู สวยี นอู่ (เสวยี นอูเ่ หมนิ ) หล่ซี ื่อหมินไดส้ งั หารหลี่เจี้ยนเฉงิ รัช ทายาท และหลห่ี ยวนจี๋ และทําให้พระเจา้ ถังเกาจู่ต้ังตนเป็นรัชทายาท ต่อมา พระเจ้าถังเกาจู่ก็สละราชสมบัติ ต้ัง ตนเองเปน็ ไทซ่ ่างหวาง หลซี่ อ่ื หมินข้ึนครองราชยเ์ ป็น ถงั ไท่จงฮ่องเต้ ลักษณะเด่นของถังไท่จงคือ ทรงรู้จักใช้คน ฟังคน แม้อาจจะขัด พระทัยบ้าง (คุณสมบัตินี้หายากแฮะ แม้แต่ในบรรดาผู้นําท่ีชอบอ้างว่า อั๊วน่ีแหละเฟ้ย เป็นโคตะระ \"ประชาธิปไตย\" โดยเฉพาะนักการเมืองประเทศสารขัณฑ์) พระองค์ทรงนําเว่ยเจิง คนของหลี่เจี้ยนเฉิง ที่เพ่ิงโดน สังหารมาเป็นท่ีปรึกษา เพื่อให้เป็นกระจกบานใหญ่ให้ตนเอง ซ่ึงเว่ยเจิงก็ได้สนองตอบเป็นอย่างดี ด้วยการกล้า โต้แยง้ ทุกเร่ืองทเ่ี หน็ วา่ จะทําใหร้ าษฎรเดือดรอ้ น โดยไมก่ ลัวว่าตัวเองจะโดนประหาร ซึ่งหลายครั้ง ก็หวุดหวิดจะ โดนประหารเข้าจริงๆ เหมอื นกนั แตก่ ร็ อดได้ตลอด และเนือ่ งจากเว่ยเจงิ จะโต้แยง้ ด้วยความมีเหตุผลทุกครั้ง ทาํ ให้ ถังไท่จงต้องรับฟังทุกครั้งไป และให้ความนับถือมาก จนถึงกับให้เป็นพระอาจารย์ของรัชทายาท เมื่อเว่ยเจิง เสยี ชวี ติ ไป พระองคเ์ สียพระทัยมาก ถงึ กับกลา่ ววา่ พระองคไ์ ดส้ ญู เสยี กระจกบานสําคญั ไปแลว้ ถงั ไท่จงได้พยายามฟ้ืนเศรษฐกิจข้ึนมาจนเจริญรุ่งเรือง แม้แต่การก่อสร้าง หรือปรับปรุงกําแพงเมืองจีน ยังใช้ วิธีจ้าง ไม่ใช่เกณฑ์ จนกล่าวกันว่า ของหล่นบนพื้นไม่หาย นอนไม่ต้องปิดประตู ยุคของพระองค์ จัดเป็นยุคทอง ของราชวงศถ์ ังทีเดียว จนคนจนี ภูมใิ จมาก ถงึ กับเรยี กตนเองว่า \"คนของถัง\" อาณาเขตกม็ กี ารขยายไปอีกมาก ในยคุ น้เี องท่ตี ํานานซีโหยวจ้ี (ไซอ๋วิ ) ไดถ้ ือกาํ เนดิ ขึน้ โดยมอี ย่ปู หี น่ึงเกิดภยั พบิ ัติ พระซานจ้ัง (ถังซําจัง๋ ) จึงออก เดินทางไปอินเดีย เพ่ือศึกษาและอัญเชิญคัมภีร์ต่างๆ มาที่จีน ต้องเผชิญกับความทุรกันดารของทะเลทราย เทอื กเขาสงู ชนั และภูมปิ ระเทศท่ยี ากลําบาก จนไปถึงวดั นาลันทา และได้ศกึ ษาจนเช่ียวชาญ และศึกษาทีอ่ ่ืนๆ จน แตกฉาน แล้วจึงเดนิ ทางกลับจนี นาํ ความรมู้ าเผยแพร่ และแต่งตาํ ราทางศาสนามากมาย ตอนปลายยุคเจินกวน (รัชสมัยของถังไท่จง) เกิดความขัดแย้งระหว่าง รัชทายาทกับองค์ชายอีกองค์ เลยโดน ประกาศติ ตกกระป๋องทง้ั คู่ สุดท้าย ถังไท่จงได้เลือกหล่ีจ้ือ ซ่ึงอ่อนโยนกว่าคนอ่ืน เป็นรัชทายาท หลังจากถังไท่จง สน้ิ พระชนมแ์ ลว้ (เพราะเสวยยาอายวุ ัฒนะ) หล่จี อื้ ได้ครองราชย์ นามว่า ถังเกาจงฮ่องเต้ แล้วไปสึกอดีตสนมของ พระบิดา นามว่า นางอ่เู หม่ยเหนียง (อู่ไฉเหยิน) มาเป็นสนมเอก จากน้ัน อู่เหม่ยเหนียงได้บีบคอลูกตนเอง แล้วป้ายความผิดให้มเหสีหวัง ทําให้ถังเกาจงถอดนางลงเป็นไพร่ แล้วต้งั อู่เหม่ยเหนียงเป็นมเหสีแทน นางได้ลอบวางยาพิษสนมเซียวซู่ และพระนางหวัง แล้วเปล่ียนชื่อแซ่ของทั้ง สอง ไปในความหมายทไี่ ม่ดี ถอดๆ ตง้ั ๆ รชั ทายาทหลายครั้งหลายหน นางได้แทรกแซงการบริหารบ้านเมือง ของ ถงั เกาจงมาตลอด

บทที่ ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ นี ๑๒๗ Part IV History of China พอถงั เกาจงสิน้ พระชนม์ นางก็ได้เปลี่ยนช่ือราชวงศ์เป็นโจว ได้ชื่อว่า ประณามหยางกุ้ยเฟยว่าเป็นตัวกาลีด้วย ทําให้ อเู่ จ๋อเทยี น (บูเชก็ เทยี น) (ตรงนมี้ ีเรอ่ื งเล่าว่า ตอนต้นราชวงศ์ถัง มีคํา เสวียนจงฮ่องเต้ จําใจต้องประทานผ้าให้หยางกุ้ย ทาํ นายไว้วา่ ราชวงศถ์ ังจะโดนหญงิ แซอ่ โู่ ค่นล้ม ถงั ไท่จงก็ทรงทราบดี เฟย ผกู คอตาย เมือ่ อายุได้ ๓๘ ปี และแซ่อู่ของอเู่ หม่ยเหนียงนั้นตรงเป๊ะๆ กับคําทํานาย ทําให้ถังไท่จง ไมเ่ ลอ่ื นบรรดาศกั ดิ์ให้นาง แตถ่ า้ จะวา่ ไป พระองค์ก็พลาดตรงไม่เขี่ย หลังจากนั้น ราชวงศ์ถังก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ อัน ให้นางพ้นไปจากวัง ทําให้นางสามารถฟื้นมาโค่นราชวงศ์ได้ใน เนื่องจากฮ่องเต้อ่อนแอ และขันทีมีอํานาจมากขึ้น ภายหลัง) แล้วสังหารองค์ชายแซ่หล่ี ของราชวงศ์ถังกว่า ๕๐ องค์ เร่ือยๆ ทําให้เกิดกบฏซํ้าแล้วซํ้าเล่า แถมแม่ทัพก็ และคนอ่ืนๆ อีกมากมายท่ีขวางทางนาง ในทางการเมืองแล้ว จะ พยายามไต่เต้าข้ึนสู่อํานาจ จนสุดท้าย แม่ทัพช่ือจู ปกครองด้วยความเหี้ยมโหด ใครขวางทางนาง จะต้องถูกลงโทษ เวิน ก็ปลงพระชนม์ถังอ้ายจง ฮ่องเต้องค์สุดท้าย อย่างหนัก แม้แต่ผู้ที่นางไว้ใจก็ตาม (หากเหลิง) ยกเว้นติเหยินเจี๋ย ของราชวงศ์ถัง เป็นอันส้ินราชวงศ์ แล้วก็ต้ัง มหาอุปราชผู้จงรกั ภักดี กลา้ คัดคา้ นโดยไม่เกรงอาญา ราชวงศ์เหลียงของตนเองขึน้ มา อย่างไรก็ดี ความโหดเห้ียมของนางก็ไม่ลามไปถึงนอกวัง นาง ยุคห้าราชวงศห์ รอื อ่ไู ตส้ ือกวอ๋ ปกครองบ้านเมืองได้ดี พัฒนาบ้านเมืองให้รุ่งเรืองได้ จนเป็นการปู (ค.ศ.๙๐๗-๙๖๐) พื้นฐานทด่ี ใี ห้ร่นุ ถัดไป จงึ ทําใหค้ นโดยมากไมเ่ ดอื ดร้อนนกั หลังจากจูเวินล้มราชวงศ์ถังแล้ว ก็มีราชวงศ์ อู่เจ๋อเทียนเป็นพุทธศาสนิกชนที่จัดว่าใช้ได้คนหนึ่ง ชอบทําบุญ ต่างๆ ผลัดกันขึ้นมามีอํานาจเป็นเวลาส้ันๆ รวม ๕ เล้ียงพระ สร้างวัดวาอาราม แต่งหนังสือทางพทุ ธศาสนา ราชวงศ์คือ เหลียง, ถัง, จ้ิน, ฮ่ัน, โจว และยังมี แคว้นย่อยๆ อีก ๑๐ แคว้น กลายเป็นความ หลังจากราชวงศ์โจวดาํ เนินมาสิบปีเศษ อเู่ จ๋อเทียนก็ชรามากแล้ว แตกแยกอย่างหนักอีกยุคคล้ายๆ กับยุคหนานเป่ย นางคิดจะยกบัลลังก์ให้เช้ือพระวงศ์แซ่ \"อู่\" ของนาง แต่โดนติเห เฉา เรียกยุคนี้ว่า อู่ไต้สือกว๋อ หรือห้ายุคสิบแคว้น ยนิ เจย๋ี คดั ค้านสุดฤทธ์ิ และบรรดาขุนนาง อํามาตย์ รวมท้ังองค์หญิง จัดว่าเป็นกลียุคของจีนได้เหมือนกัน เพราะมีแต่ ไท่ผิง ราชธิดา และเชื้อพระวงศ์ราชวงศ์ถังอ่ืนๆ ได้บีบให้นางลงจาก ความวุ่นวาย คนไร้ศีลธรรมไปทั้งแผ่นดิน ตั้งแต่ บลั ลังกใ์ นทส่ี ุด ไม่นานหลังจากนัน้ นางก็สิน้ พระชนม์ ฮ่องเต้ไปยันสามัญชน มีการคิดวิธีลงโทษท่ี โหดเหี้ยมและแปลกๆ ขึ้นมาหลายอย่างด้วย แม้ว่า จากนัน้ หล่ีเสียนข้ึนครองราชย์ ราชวงศ์โจวก็เปลี่ยนกลับเป็นถัง บางราชวงศ์หรือบางแคว้นจะยังมีความรุ่งเรืองอยู่ เหมือนเดิม ไม่นานหลังจากราชบัลลังก์ก็กลับสู่ทายาทสกุลหล่ีอย่าง บ้าง แต่ภาพรวมก็ยังติดลบอยู่ดี จึงเรียกอีกชื่อว่า เต็มตัว หล่ีหลงจไ๋ี ด้แย่งชิงบัลลงั ก์กบั องค์หญงิ ไทผ่ ิง ซ่ึงองค์หญิงไท่ผิง \"อูจ่ \"ี้ (หา้ ยคุ ยอดแย)่ นี้ ก็คิดจะเป็นฮ่องเต้หญิงต่อจากพระมารดา (อู่เจ๋อเทียน) แม้ว่าจะ เคยร่วมมือกับหลี่หลงจ๋ี บีบให้อู่เจ๋อเทียนลงจากบัลลังก์ แล้วคืน มาถึงราชวงศ์โจว มีข่าวลือว่า พวกช่ีตาน บลั ลังกใ์ หห้ ล่หี ลงจี๋ ซึ่งต่อมาได้เป็นถังเสวียนจงฮ่องเต้ แต่ต่อมากลับ (แคว้นเหลียว) ได้ยกทัพมารุกราน (ชื่อท่ีฝรั่งเรียก คิดจะเป็นฮ่องเต้เสียเอง และได้วางแผนจะลอบปลงพระชนม์ถัง จีนว่า คาเธย์ ก็มาจากชี่ตานน่ีเอง) เจ้าควงอิ้น แม่ เสวียนจง แตแ่ ผนแตก จึงโดนชิงลงมือจัดการเสยี ก่อน ทัพใหญ่จึงได้ยกทัพไปสู้ เม่ือถึงอําเภอเฉินเฉียว บรรดาแม่ทัพนายกอง ก็ได้ร่วมกันเอาฉลอง หลังจากศึกชิงบัลลังก์จบลง ช่วงแรกเรียกว่า ศักราชไคหยวน พระองค์ฮ่องเต้มาคลมุ ตวั เจา้ ควงอ้นิ แล้วยกย่องให้ เรียกอีกอย่างว่า ยุครุ่งเรืองไคหยวน ถังเสวียนจงฮ่องเต้ก็ปกครอง เปน็ ฮอ่ งเต้ (เล่ากันว่าเป็นแผนของเจ้าควงอ้ิน ท่ีจะ บา้ นเมืองไดด้ ี บ้านเมืองสงบสุข เจริญรุ่งเรืองกว่ายุคของถังไท่จงเสีย ทํารัฐประหารอยู่แล้ว) ซึ่งเจ้าควงอิ้นก็ออกคําสั่ง อกี (สว่ นหนึ่งมาจากรากฐานท่ีอู่เจ๋อเทียนวางไว้) มีกวีชื่อดังในสมัยนี้ ไม่ให้ทําให้ฮ่องเต้เดิม ซ่ึงยังมีพระชนมายุน้อย กับ คอื หล่ีไป๋ และตูฝ้ ู่ ไทเฮาตกพระทัย ไม่ให้รังแกอํามาตย์ ไม่ให้ปล้น คลัง มิฉะนั้นจะไม่ยอมรับ พวกแม่ทัพนายกองก็ พอย่างเข้าสู่ศักราชเทียนเป่า เข้าสู่ยามชรา เสวียนจงเกิดหลง ยอมทําตาม เจ้าควงอิ้นจึงกลับไปชิงบัลลังก์มาได้ ระเริง เนือ่ งจากความรุ่งเรอื ง จงึ ละเลยราชกิจ แถมมเหสีและสนมได้ แล้วตั้งตําแหน่งใหม่ให้ฮ่องเต้เดิมกับไทเฮา แล้วให้ ตายไปหมดแล้ว ก็เกิดอาการ \"โคแก่หิวหญ้าอ่อน\" ได้ไป \"ยึด\" ไปอยู่ที่วังตะวันตก ต้ังราชวงศ์ซ่งขึ้นมา แล้วจึงทํา หยางยิหวน พระสนมผู้เลอโฉม ของหลี่เม่า ราชโอรส มาเป็นสนม สงครามรวมแผ่นดินใหม่ การรัฐประหารคร้ังน้ี ของตนเอง จากนั้น ก็หลงใหลแต่นางสนมหยางกุ้ยเฟยผู้น้ี จนไม่เป็น เรียกว่า รฐั ประหารเฉินเฉยี ว อันบริหารบ้านเมือง ยกให้หยางกว๋อจง พี่ชายหยางกุ้ยเฟย ซ่ึงเป็น กังฉินบริหารแทน จนเกิดกลียุคไปท้ังแผ่นดิน เกิดกบฏอันลู่ซานข้ึน หยางกว๋อจงได้พาเสวียนจงและหยางกุ้ยเฟยหนีไป ทหารที่ไปด้วยก็ ฆา่ หยางกวอ๋ จงเสีย แล้วบังคับใหเ้ สวียนจงประหารหยางกยุ้ เฟย และ

๑๒๘ บทท่ี ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ นี Part IV History of China ราชวงศซ์ ่ง เวลาตอ่ มา ถอื เปน็ ตํานานของ \"สวรรค์ลิขิต\" ให้มีคู่ อีกตํานานหนึง่ แต่จะจริงหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่ทราบ (ค.ศ.๙๖๐-๑๒๗๙) ได้ ท่านเคยพูดไว้ว่า ลูกหลานของท่านท่ีเป็น ขา้ ราชการน้ัน หากทุจริตแล้วห้ามกลับมาเหยียบที่ เจ้าควงอ้ินไดช้ ือ่ วา่ พระเจ้าซ่งไท่จู่ ได้พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม บ้านอีก ขึ้นมาใหม่ แตก่ ลับตัดทอนอาํ นาจทางการทหารของแม่ทัพ เน่ืองจาก ความระแวงกลัวจะยดึ อํานาจ (ในยคุ อู่ไต้สือกว๋อ แม่ทัพมีอํานาจมาก นอกจากนนั้ ยังมีขุนศึกตระกูลหยาง ก็มีชีวิตอยู่ เลยมีรัฐประหารบ่อยๆ) โดยการเล้ียงเหล้าบรรดาแม่ทัพใน ตั้งแต่สมัยห้ายุคสิบแคว้น และต่อมาจนถึงราชวงศ์ พระราชวัง แล้วแสร้งทําโศกเศร้าว่า ทรงนอนไม่หลับมาตลอด ซ่งเหนือด้วย โดยตัวเด่นของตระกูลหยางมีสามรุ่น เน่ืองจากกลัวจะโดนยึดอํานาจโดยบรรดาแม่ทัพ ทําให้แม่ทัพท่ีเข้า คือ หยางเยี่ย, หยางเหยียนเจา (สมญานามจาก ร่วมงานเกิดอาการหนาวๆ ร้อนๆ แล้วลาออกเป็นแถวๆ ทําให้ แคว้นเหลยี วคือ \"หยางล่ิวหลาง\") และหยางเหวินก การทหารอ่อนแอ ว่าง เร่ืองราวของ \"วีรบุรุษแห่งเขาเหลียงซาน\" ทั้ง ๑๐๘ คน (สยุ่ หู่จว้ น หรอื ซ่งเจียง หรือซอ้ งก๋งั ) เชน่ อย่างไรก็ดี ในราชวงศ์น้ี ศิลปกรรมและวัฒนธรรมรุ่งเรืองมาก อซู่ ง (บสู๊ ง) หลู่จ้ือเซนิ หลินชง เป็นตน้ ทลี่ กุ ขึน้ มาสู้ การศึกษาของประชาชนดีขึ้น และแม้ว่าการทหารจะอ่อนแอ แต่ เน่ืองจากทนพวกกังฉินครองเมืองไม่ไหว ก็เกิดข้ึน ราชวงศ์ซง่ วางระบบเก่ยี วกบั ขันทีไว้คอ่ นข้างดี จึงไมเ่ คยมีปัญหาเร่ือง ในสมัยราชวงศ์ซง่ นเ่ี อง ขนั ทีเลย แม้ว่าจะมีฮ่องเต้เด็กหลายองค์ ก็นับว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง เพราะลําพังแค่ปัญหาเดิมๆ ก็จะแย่แล้ว ทั้งฮ่องเต้หน่อมแน้ม ในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ จีนถูกรุกรานโดยชน การทหารออ่ นแอ หรือกงั ฉนิ ครองเมือง เผา่ ต่างๆ คือ พวกเซี่ย (ซีเซี่ย) ทอี่ าศยั อยู่แถวทิเบต พวกช่ีตาน (เมืองเหลยี ว) ชนกล่มุ น้อยทางเหนือ จึง ยุคแรกของราชวงศซ์ ่ง เรียกวา่ ราชวงศซ์ ่งเหนือ ต้ังเมืองหลวงอยู่ มีศึกอยู่ตลอดมา แถมยังต้องยอมเซ็นสัญญาสงบ ท่ไี คเฟิง เปาเจง่ิ หรือเปาบุ้นจ้นิ ก็ได้มาเกิดในยุคซ่งเหนือ ในสมัยของ ศึกกับ \"คนป่าเถ่ือน\" ต้องส่งบรรณาการให้ ทําให้ เหยินจงฮ่องเต้ ซง่ึ เปน็ ยคุ ทฮ่ี อ่ งเต้อ่อนแอ อํานาจอยู่ในมือพวกกังฉิน การเงินไม่คล่องตัว จนมีนักปฏิรูปชื่อ \"หวาง ท่านตัดสินคดีอย่างยุติธรรม และเด็ดขาด ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้า อานสือ\" พยายามออกกฎหมายมาควบคุมการใช้ พรหมใดๆ จนเป็นท่ีเลื่องลือมาถึงปัจจุบัน แต่คดีส่วนใหญ่ในหนัง เงิน ของบรรดาเช้ือพระวงศ์ แต่สุดท้าย ก็ต้อง น่าจะเป็นการแตง่ เพิม่ เตมิ ซะมากกว่า เพราะมขี ้อมูลว่า เปาบุ้นจ้ินได้ ยกเลกิ เพราะไปขดั ผลประโยชนเ์ จา้ ใหญน่ ายโต เป็นเจ้าเมืองไคเฟิงไม่นานนัก ท่านยังต้องไปรับตําแหน่งอ่ืนๆ อีก เยอะ (สําหรับอายุขัยของท่านเปา ยังไม่ชัดเจนนัก บางแหล่งข้อมูล พอปลายราชวงศ์ซ่งเหนือ ชนกลุ่มน้อยทาง บอกว่า อายุขยั ๑๐๔ ปี แตบ่ างแหล่งบอกว่า ทา่ นเสยี ชวี ติ ในบา้ นพัก เหนอื บางสว่ นก็จดั การกนั เอง จนพวกเซี่ยกับชี่ตาน ตอนท่อี ายุไมม่ ากนัก ทุกวนั นี้ ยงั มีศาลและรูปปั้นของท่านในเมืองไค ตกอันดับไป แต่ก็มีชนเผ่าจิน (บรรพบุรุษของแมน เฟิง) และอย่าเข้าใจผิดว่าท่านเปาบุ้นจ้ินเป็นโสด เพราะในหนังสือมี จ)ู เขา้ มาสวมรอยแทน บวกกับการทหารท่ีอ่อนแอ พดู ถึง \"ฮหู ยนิ \" ของท่านไว้เช่นกนั อยู่แล้ว (ผสมกับฮ่องเต้ที่ไร้สามารถ หูเบา เชื่อฟัง กงั ฉนิ ) ทาํ ให้พวกจินสามารถบุกจนถึงเมืองหลวงไค ในตาํ นานเปาบ้นุ จนิ้ กลา่ วไวว้ า่ ท่านเปาได้รบั แต่งต้ังเป็นเจ้าเมือง เฟิงได้ในปี ค.ศ.๑๑๒๗ (พ.ศ.๑๖๗๐) ฮ่องเต้ ต้งั แตอ่ ายเุ พียง ๑๙ ปี (ในประวัตบิ อกวา่ พอได้ตําแหน่ง มารดาท่าน ราชวงศ์ซ่งเหนือโดนจับเป็นเชลย ๒ องค์ เจ้าโก้ว ก็เสยี ชวี ติ ไป ท่านจงึ ไวท้ กุ ข์ท่ีบ้านเป็นเวลา ๑๐ ปี จนถึงอายุ ๒๙ จึง เช้ือพระวงศ์ได้ต้ังตัวเป็นฮ่องเต้ช่ือ ซ่งเกาจง แล้ว ไปรับราชการ) ขณะน้ัน ว่าที่ภรรยาของท่าน อายุได้ ๑๖ ปี มีคนมา ตอ้ งยา้ ยเมืองหลวงไปอย่ทู ีห่ ลนิ อาน (หางโจว) ยุคน้ี ทาบทามไว้แล้วด้วย หลังได้รับแต่งต้ัง ท่านเปาทูลลากลับบ้าน มีชื่อเรียกว่า ราชวงศ์ซ่งใต้ ซ่ึงพวกจินก็ยังตามล้าง ระหว่างที่ท่านกําลังเดินทาง ว่าท่ีภรรยาของท่านได้เจ็บป่วยโดยไม่ ผลาญตลอด แม้ว่าจะมียอดขุนพลดังเช่น เยว่เฟย ทราบสาเหตุ และมีเทวดามาเข้าฝันว่า นางถูกลิขิตมาแล้ว ว่าจะต้อง (แต้จ๋ิวเรียก งักฮุย) ซ่ึงกล้าหาญและเก่งกาจมาก เป็นภรรยาของเจ้าเมืองคนใหม่ ซ่ึงกําลังเดินทางมา และจะมาพักที่ แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้เรื่องมากเช่นกัน แถมยังมีขุนนาง บ้าน ให้แต่งงานกับท่านผู้นั้น หลังจากต่ืนข้ึนมา นางก็พบว่า อาการ กังฉิน ไปเข้ากบั ศัตรู ดงั เช่น ฉินฮุ่ย (ฉินไคว่) กังฉิน ปว่ ยหายไป จึงได้บอกกับพอ่ แม่ พ่อแม่ของนางก็เชื่อ จึงรอดู ในที่สุด ชอ่ื ดงั ท่านเปาก็มาพักที่บ้านจริงๆ จึงได้ถามท่านเปาว่า เป็นเจ้าเมืองคน ใหม่หรือไม่ ท่านก็ตอบว่าจริง พ่อแม่ว่าที่ภรรยาท่านจึงได้เล่าส่ิงท่ี เกดิ ขนึ้ ให้ฟงั ท่านเปาจงึ กลา่ วว่า ท่านไมข่ ดั ข้อง แตข่ อไปบอกกบั ทาง บา้ นก่อน ซ่งึ ที่สุดแล้ว ทางบ้านท่านกไ็ มข่ ดั ข้อง จึงไดแ้ ตง่ งานกนั ใน

บทที่ ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ ีน ๑๒๙ Part IV History of China ขณะน้ัน กองทัพของเยว่เฟยบุกจนเกือบจะยึดไคเฟิงคืนได้แล้ว แต่ ราชวงศ์หยวน ฉนิ ฮุ่ยได้สมคบกบั พวกจนิ (ราชวงศ์ซ่งจะเจรจาสงบศึกกบั พวกจิน แต่ พวกจนิ ตง้ั แงว่ า่ ต้องประหารเยว่เฟยก่อนจึงจะเจรจาด้วย) ให้ซ่งเกา (ค.ศ.๑๒๘๐-๑๓๖๘) จงเรียกตวั เยว่เฟยกลับมาจากศกึ กุบไลข่านโค่นราชวงศ์ซ่งลง แล้วเปิดศักราช พอกลับถึงเมืองหลวง ฉินฮุ่ยก็ใส่ความและสังหารเยว่เฟยกับเยว่ ชาวมองโกลครองประเทศจีน ต้ังกรุงปักก่ิงเป็น หยุน ลูกชายเสีย ด้วยข้อหา \"อาจจะเป็นกบฏ\" (มีขุนนางถามฉินฮุ่ย เมืองหลวง (สมัยน้ันชื่อว่า เมืองต้าตู) ทรงตั้ง ว่า เยว่เฟยมีความผิดอะไร จึงต้องประหาร แต่ฉินฮุ่ยกลับตอบว่า ความหวังจะเป็นกษัตริย์ท่ีดี จึงปกครองอย่างสุขุม \"อาจจะมีก็ได้\" ทําให้ฮือฮามาก ต่อมา ประโยคนี้ก็ได้กลายเป็น รอบคอบ เอาใจใสป่ ระชาชน จงึ สามารถชนะใจชาว ประโยคท่ใี ช้อ้างอิง ในทาํ นองใสค่ วามคนอ่นื ) ทําให้ชาวจีนเคียดแค้น จีนได้ และเป็นฮ่องเต้มองโกลพระองค์เดียว ที่ชาว ชิงชังอย่างยิ่ง ถึงกับมีคนปั้นแป้งทอดนํ้ามัน ให้เป็นรูปฉินฮุ่ยกับเมีย จีนยอมรับ นอกจากนี้ กุบไลข่านยังพยายามขยาย เรียกว่า \"ฮุ่ยทอดน้ํามัน\" (โหยวจ๋าฮุ่ย ในภาษาจีนกลาง หรือ อิ่ ดินแดนไปกว้างไกลมาก ถึงกับยกทัพเรือจะไปตี วจาก้วย ในภาษาแต้จ๋ิว) และ \"ผีทอดนํ้ามัน\" จนเป็นขนมยอดฮิตใน ญีป่ ุ่น แต่เรอื ถูกมรสมุ จงึ ไม่สําเรจ็ หลินอาน และกลายเป็นตํานานปาท่องโก๋ ความเกลียดชังยังลามไป ถงึ ชือ่ ของฉินฮุ่ยอีกด้วย โดยตัวอักษรคําว่า \"ฮุ่ย\" ในชื่อของฉินฮุ่ยนั้น กุ บ ไ ล ข่ า น ส น ใจ ทา งอั ก ษ ร ศ า ส ต ร์ แ ล ะ ใช้เป็นชื่อของต้นไม้ตระกูลสนชนิดหน่ึงด้วย คนจึงเปลี่ยนเสียงอ่าน วรรณกรรมมาก จึงส่งเสริมบทประพันธ์ต่างๆ ของชอ่ื ตน้ ไม้เป็น \"กุย้ \" หรือ \"กว้ ย\" แทน เพอ่ื ไมใ่ ห้ความเสนียดไปติด ปรากฏว่า บทง้ิวในสมัยกบุ ไลขา่ นดีมาก จนไม่มีบท กับต้นไม้ (เขียนเหมือนเดิม) ส่วนช่ือของกังฉินตัวแสบยังคงอ่านว่า งิ้วสมัยใดเทียบได้ การติดต่อกับต่างประเทศ ก็ \"ฮุ่ย\" เหมือนเดิม แถมยังป้ันรูปปั้นฉินฮุ่ยกับเมีย คุกเข่าไว้หน้าศาล เปน็ ไปดว้ ยดี ไม่ว่าจะเปน็ มาร์โคโปโล สมณทูตจาก ของเยว่เฟย ให้คนมาถ่มนํ้าลายรด เป็นการล้าง ตอนหลังฉินฮุ่ยป่วย วาติกัน ก็ได้มาเยือนแดนจีนในยุคของกุบไลข่าน ตาย ฮ่องเต้ยังอุตส่าห์ปูนบําเหน็จให้อีก แต่พอรัชกาลหลังจากนั้น นเี่ อง ฮอ่ งเตก้ ็ไดย้ ดึ คนื และคนื ความเป็นธรรมให้กับเยว่เฟย ตามท่ีทายาท ของเยว่เฟยร้องขอ พอสิ้นยุคของกุบไลข่าน ราชวงศ์มองโกลก็ถึง คราวลงเขา เนื่องจากฮ่องเต้เหลาเหย่ แถมพวก หลังจากน้ัน ราชวงศ์ซ่งก็ร่วมมือกับพวกมองโกล ซึ่งนําโดย เจง มองโกลยังออกกฎท่ีกดขี่ชาวฮ่ันอย่างมาก จึงได้มี กิสข่าน (เตมูจิน) เข้าตี พวกจิน, เซี่ยกับช่ีตาน แต่พอจัดการเสร็จ การพยายามโค่นล้มราชวงศ์หยวนอยู่ตลอดเวลา มองโกลก็ไม่หยุดแค่นั้น กลับหันมาตีจีนต่อจนถึงปักก่ิง นอกจากน้ี ฮ่องเต้องค์ต่อๆ มาของราชวงศ์หยวน ส่วนใหญ่ กองทัพมองโกลยังแผ่แสนยานุภาพ และความโหดเหี้ยมไปท่ัวทุก ครองราชย์ไม่นานนัก และจะได้ครองราชย์ โดย สารทิศ จนถงึ ยโุ รป อนิ เดยี จนเป็นทห่ี วาดกลวั ของคนสมยั นั้นมาก การแย่งชิงอํานาจกัน เน่ืองจากมองโกลไม่มีกฎ แน่นอน เกี่ยวกับการสืบราชบัลลังก์ จวบจนฮ่องเต้ พอเจงกิสข่านเสียชีวิต ฮูปิเล่ หลานปู่ของเจงกิสข่านได้ข้ึนเป็น องคส์ ุดท้าย หยวนซุ่นต้ี ซึ่งครองราชย์นานกว่าองค์ ขา่ นตอ่ ช่ือวา่ กุบไลขา่ น และได้สบื เจตนารมณ์ของปู่ต่อ โดยการเข้า ก่อนๆ ในยุคนี้ มีความวุ่นวายมาก เกิดภัยพิบัติข้ึน โจมตีราชวงศ์ซ่งใต้ โดยได้ความร่วมมือจากขุนนาง และทหารของ หลายท่ี เชื้อพระวงศ์กับขุนนาง ก็ร่วมกันข่มเหง ราชวงศ์ซ่งใต้บางคน ที่กลับลําหันมาช่วยเหลือมองโกล โจมตีพวก ชาวบ้าน จงึ มกี บฏเกดิ ข้ึนท่วั ไป ของตัวเอง สุดท้าย ก็มีขุนนางอุ้มเจ้าป่ิง ฮ่องเต้เด็กองค์สุดท้ายของ ราชวงศ์ซ่ง โดดน้ําตายหนีความอัปยศ เป็นอันสิ้นราชวงศ์ในที่สุด ครัง้ นัน้ มีชายผูห้ นึ่งช่ือ จหู ยวนจาง ตอนอายุได้ ๑๗ ปี ครอบครัวได้ตายหมดจากโรคระบาด จึงไป แลว้ กุบไลข่านจงึ ตั้งราชวงศห์ ยวนข้นึ มาแทน บวชท่ีวัดหวงเจี๋ย ต่อมา ไปเร่ร่อนต่ออีก ๓ ปี เน่ืองจากเสบียงอาหารหมด แล้วจึงกลับมาที่วัด ดังเดิม ครั้นชาวบ้านก่อกบฏข้ึน เขาก็เดินทางไป สมทบกับพวกกบฏ จนผู้นําทัพยกลูกสาวให้เป็น ภรรยา เขาเริ่มนําทัพออกตีก๊กต่างๆ ในแผ่นดิน แลว้ ในทสี่ ุดกไ็ ด้ส่งแม่ทัพชอื่ สตี า๋ ไปตเี มืองปกั กง่ิ ได้ สําเร็จ เป็นการโค่นล้มราชวงศ์หยวนลงได้ จากนั้น เขาก็ได้ตั้งราชวงศ์หมิงขึ้น ใช้เมืองหนานจิงเป็น เมืองหลวง

๑๓๐ บทท่ี ๔ ประวัติศาสตรจ์ ีน Part IV History of China ราชวงศห์ มงิ ต่อมา ได้ย้ายเมืองหลวงมาท่ีปักก่ิง และได้ (ออก คําส่ังให้) ก่อสร้างพระราชวังปักกิ่งและหอสังเวย (ค.ศ.๑๓๖๘-๑๖๔๔) เทวดาเทียนถานขน้ึ โดยใช้ศิลปะตามแบบของสมัย ราชวงศ์ถังและซ่ง หย่งเล่อเป็นผู้ริเร่ิมการค้าขาย จูหยวนจาง ตั้งพระนามตนเองว่า หมิงไท่จู่ฮ่องเต้หรือหงหวู่ ได้ กับต่างประเทศมากมาย เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่ ดาํ เนนิ การฟ้นื ฟูเศรษฐกจิ และสงั คมด้วยความประหยัดมัธยัสถ์ ผ่อน จีน โดยได้ใหเ้ จ้งิ เหอ (ซนั เป่ากงหรือซมั ปอกง) ขนั ที ปรนแกป่ ระชากรสว่ นใหญ่ คนสนิทล่องเรือออกไปในมหาสมุทร รวม ๗ ครั้ง จนมีศาลเจ้าซันเป่าในหลายประเทศ รวมท้ังไทย แต่ในทางการเมืองแลว้ ทรงมคี วามโหดเห้ียมเอาการ จนได้ช่ือว่า ด้วย \"ทรราชผู้ผ่อนปรน\" ดังกรณีของหูเหวยยง ซึ่งตอนแรกทรงไว้ใจมาก แตต่ อนหลัง หูเหวยยงได้ก้าวก่ายฎีกาของพระองค์ รับสินบน สมคบ มีการจดั ทาํ หนงั สอื \"หย่งเล่อต้าเตี่ยน\" รวบรวม กับโจรจะก่อกบฏ จึงทรงประหารเขาเสีย พร้อมกับพวกท่ีเกี่ยวข้อง สรรพวิทยาการในสมัยน้ันไว้ รวม ๑๑,๐๙๕ เล่ม อีกกว่า ๓๐,๐๐๐ คน หรือ ในกรณีของหลานอี้ แม่ทัพใหญ่ ซ่ึงใช้ แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณสามร้อยกว่าเล่มทั่ว อาํ นาจขม่ เหงราษฎร ขนสนิ ค้าหนีภาษี จึงทรงประหารเขา พร้อมกับ โลก คนท่ีพัวพันถึง ๑๕,๐๐๐ คน พวกข้าราชการท่ีฉ้อราษฎร์บังหลวง ก็ ถูกประหารแล้วถลกหนังมายัดฟาง แขวนประจาน รวมทั้งผู้ต่อต้าน ในสมัยน้ี มีชนเผ่าทะมู่เออร์ ซ่ึงสืบเชื้อสายมา ดว้ ย ทรงรักษากฎหมายเข้มงวดมาก ครั้งหน่ึง พระโอรสได้พยายาม จากเจงกิสขา่ น นาํ โดย พระเจ้าทะมู่เออร์แห่งซามัล ห้ามปราม ขณะที่พระองค์จะประหารผู้ท่ีบริสุทธ์ิ ก็ทรงลืมตัว จะทํา ข่าน ได้โจมตีชาวบ้านเขาไปท่ัว บุกถึงอินเดีย และ ร้ายพระโอรส แตใ่ นท่สี ุดกส็ ํานึกได้ แลว้ รอ้ งไห้เขา้ กอดกนั ท้งั พอ่ ลูก รบชนะอินเดีย แถมยังเผาเมืองเดลลีจนราบ (ไม่ ผลงานอกี ช้ินหนง่ึ ของหมิงไทจ่ ูค่ ือ การใช้ศักราชเดียวตลอดทั้งรัชกาล เข้าใจเหมือนกันว่า พวกคนโบราณนี่ทําไมเวลาตี (ปี \"หงหวู่\" หรือ \"หงหวู่\" ศก) ไม่เปล่ียนศักราชพร่ําเพรื่อเหมือนใน เมืองได้แลว้ เป็นต้องเผาเมืองทุกที ไม่รู้มันจะอะไร ราชวงศ์ก่อนๆ ซึ่งเป็นแบบอย่างให้ฮ่องเต้องค์ต่อๆ มา รวมถึง กันนักกันหนา) ได้ยกทัพมาจะตีจีนให้ได้ แต่ว่า ราชวงศ์ชงิ นาํ มาใชด้ ้วย การทใี่ ช้ศักราชเดียวตลอดทั้งรัชกาลนี้ ทําให้ ระหว่างทาง ทะมู่เออร์ได้ส้ินชื่อลงกลางทาง ทําให้ ราษฎรนาํ ชื่อศักราชมาใช้เรยี ก เป็นชื่อฮ่องเต้ (เช่น หย่งเล่อ, ฉงเจิน, ความทะเยอทะยานของเขาสิ้นสุดลง จีนซึ่งต้ังรับ คงั ซี ลว้ นเป็นชอ่ื ศักราชทั้งสน้ิ ) อยู่แลว้ จึงสง่ ทูตไปสักการะศพ และความตึงเครียด กจ็ บลงด้วยดี ปลายสมัยพระองค์ รัชทายาทจูเปียว ซึ่งมีจิตใจอ่อนโยน ได้ สิ้นพระชนม์ไปก่อน หมิงไท่จู่เศร้าพระทัยมาก จึงตั้งลูกของจูเปียว ในขณะทร่ี าชวงศ์หมิงกําลังป่ันป่วนนั่นเอง ทาง เปน็ รัชทายาท ทําให้โอรสองคอ์ น่ื ๆ ไมพ่ อใจมาก คร้นั ต่อมา หมิงไท่จู่ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ในดินแดน สวรรคต รชั ทายาทได้ขึ้นเปน็ เจี้ยนเหวินฮ่องเต้ หรือฮุ่ยตฮ้ี อ่ งเต้ แมนจเู รยี ชนเผา่ แมนจู ซ่ึงกค็ ือลูกหลานของเผ่าจนิ ที่เป็นคู่ปรับราชวงศ์ซ่งในอดีต ได้เริ่มสร้าง ต่อมาไม่นาน เจ้าเอ้ียนหวาง จูตี้ อาคนที่ ๔ ของเจ้ียนเหวินต้ี อาณาจกั รของตนเอง นเู ออ้ ร์ฮาซื่อ แหง่ ตระกูลอ้าย (โอรสองคท์ ่ี ๔ ของหมงิ ไท่จ)ู่ ซึ่งครองเมืองปกั กิ่ง ได้ก่อกบฏ และเข้า ซินเจวี๋ยหลัว ได้สถาปนาราชวงศ์จินยุคหลัง (โฮ่ ตเี มอื งหนานจงิ ได้ พระราชวังเกิดไฟไหม้ ส่วนเจี้ยนเหวินต้ีได้หายไป วจิน) ของตนข้ึนด้วยความเข้มแข็ง พัฒนากองทัพ อยา่ งลกึ ลับ บางกระแสว่า พระองคส์ ิ้นพระชนม์ตอนกรุงแตก แต่บาง เป็นระบบ \"กองทัพแปดธง\") กระแสก็ว่า พระองค์ปลอมเป็นภิกษุ หลบหนีออกไปจากเมือง หรือ บางกระแสก็ว่า พระองค์หนอี อกไปตา่ งประเทศ เม่ือใกล้จะส้ินใจ นูเอ้อร์ฮาซ่ือตั้งใจจะมอบ บัลลังก์ข่านของตน ให้แก่ต้ัวเอ่อร์กุน โอรสองค์ที่ อย่างไรก็ตาม เจ้าเอ้ียนหวางได้ข้ึนครองราชย์ นามว่า หย่งเล่อ ๑๔ แต่ว่า ต้วั เออ่ รก์ นุ ยงั มอี ายุไมม่ ากนัก จึงถูกหวง หรือเฉิงจู่ฮ่องเต้ กล่าวกันว่า หย่งเล่อกังวลกับคําครหาของผู้อ่ืนมาก ไท่จ๋ี โอรสองค์ท่ี ๘ แย่งไป ต้ังศักราชว่า เทียนชุง เกี่ยวกับเรื่องที่ชิงราชบัลลังก์หลานตัวเอง จึงพยายามหาทางแก้ต่าง ได้เปลี่ยนชื่อราชวงศ์เป็น \"ราชวงศ์ชิง\" ราชวงศ์ชิง ใหต้ วั เองตลอดเวลา เร่ิมทําสงครามกับราชวงศ์หมิง ขณะนั้นราชวงศ์ หมิงมีขุนศึกท่ีเก่งกาจชื่อ หยวนฉงฮ่วน สามารถ เอาชนะทัพของแมนจูได้ แม้จะโดนแผนตลบหลัง แต่แมนจูก็ใช้วิธีสกปรก ปล่อยข่าวลือ รวมถึงให้ เชลยศึกใส่ความหยวนฉงฮ่วนว่า คิดก่อการกบฏ ฮ่องเต้ก็บ้าจ้ี ไม่ฟังคําทัดทาน เลยประหารหยวน ฉงฮ่วน เลยเข้าทางศัตรูเต็มเปา สุดท้ายกองกําลัง ของแมนจเู ลยยึดทางเหนอื ของจีนไวไ้ ด้

บทท่ี ๔ ประวัติศาสตรจ์ นี ๑๓๑ Part IV History of China ย้อนกลบั ไปที่ราชวงศห์ มงิ อกี ครั้ง เน่ืองจากความบีบคั้น จากภัยพิบัติ ราชวงศ์ชิง/แมนจู และข้าราชการที่รีดนาทาเร้น จึงเกิดกบฏชาวนาไปท่ัว กลุ่มที่แข็ง ที่สุดคอื กลุ่มของหลจี่ ื้อเฉิง เขา้ ตเี มืองต่างๆ ซง่ึ หล่จี ื้อเฉงิ ไดใ้ ช้วธิ ี เปิด (ค.ศ.๑๖๔๔-๑๙๑๑) คลังแจกเสบยี งหลงั จากตเี มอื งได้ ทําใหไ้ ดส้ มคั รพรรคพวกเพิ่มขึ้นทุก ที จนในท่ีสุด ก็เข้าถึงเมืองปักกิ่ง ครั้นฉงเจินรู้ก็เสียใจมาก กล่าวว่า ตั้วเอ่อร์กุนได้เป็นผู้สําเร็จราชการต่อ เพราะซุ่ \"อนิจจา รัชกาลของเราส้ินสุดลงแล้ว\" แล้วทุกคนในท้องพระโรงก็ นจื้อยังพระชนม์น้อยอยู่ เขาได้จัดพระราชพิธีศพ รอ้ งไห้ ดว้ ยความเสียใจอย่างยง่ิ บรรดามเหสีและข้าราชบริพาร ต่าง ให้กับฉงเจิน ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิง ก็ฆ่าตัวตาย ฉงเจินยกดาบฟันแขนพระธิดาของตนขาด แต่ก็ไม่อาจ อย่างสมพระเกียรติ (เพ่ือซื้อใจชาวฮ่ัน) ตั้วเอ่อร์กุน ฟันต่อได้อีก จึงหนีออกไปแขวนคอตายกับต้นก้ามปูต้นหน่ึงท่ีเขาจ่ิง ผู้น้ีเอง ได้ออกกฎหมายให้ชายจีนทุกคนไว้ทรงผม ซาน หรือเหมยซาน (เป็นเขตพระราชฐาน) ที่อยู่หลังพระราชวัง สุดเท่ โดยไว้ผมเปยี ยาว โกนข้างหน้าคร่ึงหวั เหมือน ปักก่ิงนั่นเอง (ทุกวันนี้ต้นก้ามปูต้นนั้นก็ยังอยู่) ขุนนางที่ยังเหลือ จึง ชาวแมนจู โดยให้เวลาไว้ผมประมาณ ๒ อาทิตย์ ยอมเปิดประตูวังให้หลี่จอื้ เฉงิ แตโ่ ดยดี หากพน้ กาํ หนดนแี้ ลว้ ใครไม่ไว้เปียจะถูกตัดหัว แม้ จะมีผู้คัดค้านมาก แต่เขาก็ไม่สนใจ ว่ากันว่า ผู้ถูก หลังจากท่ียึดปกั กิ่งแลว้ หลีจ่ ้ือเฉงิ ไดป้ ระกาศให้อู๋ซานกุ้ย ซ่งึ เป็น ตัดหัวในคราวน้ัน มีร่วมล้านคน จนมีคํากล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารของราชวงศ์หมิง ประจําด่านซานไห่กวน (จุดท่ี \"จะเอาผมหรือจะเอาหัว\" หรือ \"มีหัวไม่มีผม มีผม กําแพงเมืองจีนบรรจบทะเล) ยอมจํานน ตอนแรก อู๋ซานกุ้ยก็ได้ ไมม่ ีหัว\" ชาวจีนชิงชังผมทรงอุบาทว์น้ีมาก เรียกว่า ทําท่าจะจํานน ซ่งึ ในขณะน้ันเขาถกู บีบจากท้งั ฝั่งหลี่จอ้ื เฉงิ และแมนจู \"ทรงขี้ข้าแมนจู\" และแน่นอน ย่อมชิงชังไปถึง แต่สุดท้าย เขากลับสมคบกับแมนจู เปิดด่านให้แมนจูเข้าด่าน ถูกห ราชวงศ์แมนจูด้วย จึงเกิดกระแส \"ล้มชิงกู้หมิง\" ล่ีจอื้ เฉงิ จบั ไป เขาก็ไม่ยอมจํานนทันที ประกาศว่าจะแก้แค้นแทนฉง คอยหาทางโค่นบัลลังก์อยู่ตลอดเวลาที่แมนจูเรือง เจิน แต่เขาก็มีกําลังทหารน้อย ไม่พอต่อกรกับหล่ีจ้ือเฉิง จึงได้เปิด อํานาจ ด่าน สมคบกับแมนจู ส่วนบางกระแสว่า จริงๆ มาจากการเจรจา ผลประโยชนก์ บั หลีจ่ อื้ เฉิงไมล่ งตัว ไมเ่ กีย่ วกบั เฉินหยวนหยวน ถงึ ตรง ต้ัวเอ่อร์กุนหลงระเริงในอํานาจมาก อาจ นี้ ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใดก็ตาม อู๋ซานกุ้ยก็ถูกสับเละใน เน่ืองมาจากเก็บกดมาจากการที่ ตัวเองถูกหวงไท่จี๋ ประวตั ิศาสตรว์ ่า เปน็ คนขายชาติ เพราะปล่อยให้นางงามเมืองเพียง แยง่ บลั ลังก์ เขาจึงจ้องอยากได้บัลลังก์ฮ่องเต้ของซุ่ คนเดียว มาทําให้บ้านเมืองพินาศฉิบหาย ส่วนเฉินหยวนหยวนก็ถูก นจื้ออยู่ตลอดเวลา ชนิดเผลอไม่ได้ เขาไม่ยอมให้ซุ่ ประณามว่า เป็นนางผู้ล้มแผ่นดิน แต่ไม่ว่าจะเก่ียวกับเฉินหยวน นจื้อเรียนหนังสือ ไม่ว่าใครจะทัดทานก็ไม่สนใจ หยวนหรือผลประโยชน์ก็ตาม ก็ได้แสดงให้เห็นว่า การเอาเรื่อง แถมยังพยายามยัดเยียดฮองเฮา ให้กับซุ่นจื้ออีก ส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องส่วนรวม ก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างไร) โดยไม่สนใจว่า ซุ่นจ้ือจะรู้สึกอย่างไร โดยมี เพื่อให้แมนจูส่งทหารมาช่วย ครั้นหลี่จื้อเฉิงรู้ว่า เขาทรยศ จึงได้ยก จุดประสงค์เดียวคือ กุมซุ่นจื้อให้อยู่ในกํามือตนให้ ทัพมาปราบเอง และได้สู้กันจนฝ่ายอู๋ซานกุ้ยอ่อนแรงลง ทหารของ ได้ มารดาของซุ่นจื้อเห็นโอรสกําลังเป็นเหย่ือ \"คน แมนจูก็ได้โจมตีหลี่จื้อเฉิงอย่างดุเดือด จนต้องล่าถอยกลับไปปักก่ิง โฉด\" ก็ได้อภิเษกกับต้ัวเอ่อร์กุน เพ่ือเบรกๆ ตั้ว ตงั้ ตัวเองเปน็ ฮอ่ งเต้ แลว้ วางเพลิงเผาพระราชวงั เอ่อร์กนุ ไวบ้ ้าง แต่กไ็ รผ้ ล เพราะตว้ั เอ่อร์กุนแอบไป อภิเษกกับเจ้าหญิงของเกาหลี พยายามแย่งเมียคน หลังจากน้ัน ทหารแมนจูก็ได้ตามไล่หล่ีจื้อเฉิง จนได้ชัยชนะ อื่นมาเป็นของตน ในท่ีสุด กรรมก็ตามสนองเขา หลจ่ี อ้ื เฉิงหายไปอยา่ งลกึ ลับ ไมม่ ใี ครทราบชะตากรรมของเขาอีก เมือ่ เขาอาเจยี นเปน็ เลือดแล้วตายในทส่ี ุด ต้ัวเอ่อร์กุนได้อัญเชิญซุ่นจ้ือมาครองราชย์ต่อท่ีปักก่ิง ตั้งปักกิ่ง เป็นเมืองหลวง (เซ้งลี้ของราชวงศ์หมิงมาหมด ไม่ว่าเมืองหลวง พระราชวัง) เปิดศักราชแมนจูครองแผ่นดิน และได้ทําการกวาดล้าง บรรดาหวาง เชื้อพระวงศ์ ของ \"ต้าหมิง\" รวมถึงผู้ต่อต้านจนหมด มี การฆา่ ลา้ งเมืองในหลายๆ เมืองท่ีแมนจบู ุกเข้าตี เช่น ท่ีหยางโจว แม่ ทัพส่อื เขอฝา่ ไดย้ นั ทัพแมนจไู ว้ ๗ วนั ๗ คืน สุดท้ายถูกแมนจูฆ่าหมด ทงั้ เมอื ง

๑๓๒ บทที่ ๔ ประวัติศาสตรจ์ นี Part IV History of China การตายของตัว้ เอ่อร์กนุ ทําใหซ้ ุ่นจอ้ื ได้เปน็ อสิ ระ จึงไดพ้ ยายามศกึ ษา กบฏข้ึน แม้ตอนแรกจะทาํ ท่าว่าจะชนะ แต่ต่อมาก็ อย่างขยันขนั แขง็ พยายามบรหิ ารบา้ นเมืองอยา่ งดี เน่อื งจากขณะน้ัน โดนคังซีย้อนศรได้สําเร็จ ทําให้เขาเริ่มเพล่ียงพลํ้า มปี ัญหาเกีย่ วกบั ชนชน้ั อย่างมาก จงึ ไดพ้ ยายามใหค้ วามสาํ คญั กบั ชาว สุดท้ายก็ป่วยตาย และแมนจูก็ยึดดินแดนกลับมา จีนมากขึ้น ลดอิทธิพลของชาวแมนจูลง เพ่ือลดความตึงเครียดจาก ได้ การเผชิญหน้ากนั มกี ารสักการะขงจื่อ กวนอว่ี เพื่อแสดงว่า เล่ือมใส ในบุคคลเหล่าน้ี (มีผู้วิเคราะห์ไว้ว่า การที่ยุคหลังๆ มีการยกกวนอว่ี คังซีได้ครองแผ่นดินนานถึง ๖๑ ปี ทรงชอบ ขึ้นมาจนเป็นระดับซูเปอร์เทพ หรือแม้แต่ยกให้เป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ การล่าสัตวม์ าก ไดส้ รา้ งลานล่าสัตวใ์ หญ่ไว้แห่งหน่ึง เลยนนั้ เรมิ่ เกดิ ขนึ้ ในสมยั ราชวงศ์ชิงนี่เอง โดยมีเหตุผลทางการเมือง ซึง่ เม่อื ถึงฤดูกาล ก็จะพาขุนนางมาล่าสัตว์กัน ตอน แทรกอยดู่ ้วย กล่าวคือ ต้องการกดไม่ให้มีคนกล่าวขานถึง งักฮุยหรือ ปลายรชั สมัย ได้เกิดกรณี \"ศึกสายเลือด\" ข้ึนในหมู่ เยว่เฟยมากจนเกินไป ทั้งๆ ที่วีรกรรมของเยว่เฟยนั้น ควรจะโด่งดัง โอรส องค์ชายอิน้ เจิน หรือ องค์ชาย ๔ ได้ต่อสู้แย่ง กว่ากวนอวด่ี ว้ ยซาํ้ แต่พวกแมนจมู องว่า เยว่เฟยน้ันต่อต้านพวกจินอ ชงิ ตําแหน่งรัชทายาท จนไดต้ ําแหน่งมาในที่สุด พอ ย่างแข็งขัน ถือว่าเป็นศัตรูกับพวกตนด้วย เพราะแมนจูนั้นสืบเชื้อ หลังจากนน้ั ไม่นาน คงั ซีก็สนิ้ พระชนม์ สายมาจากพวกจิน จึงหาทางยกกวนอวี่ขึ้นมาแทน) พระองค์ได้ต้ัง หลักศิลาจารึกนาม ฉงเจินแห่งราชวงศ์หมิงไว้ แล้วยกย่องให้เป็นผู้ อ้ินเจิน ได้ครองราชย์เป็น หย่งเจ้ิงฮ่องเต้ จาก อทุ ิศตนเพอ่ื บ้านเมือง อซู๋ านกุ้ยกไ็ ด้รับตาํ แหน่งเปน็ \"ผิงซีหวาง\" (อ๋อง ศึกสายเลือดนี่เอง ทําให้ได้ฉายาว่า \"หย่งเจ้ิง ตะวันตก) เพราะมีความดีความชอบมาก อีกทั้งยังได้ยกน้องสาวให้ จักรพรรดิกระบี่เลือด\" หย่งเจ้ิง ศรัทธาในศาสนา อภเิ ษกกบั ลกู ชายของอซู๋ านกุย้ และได้เก็บบทเรียนสําคัญมาก ซ่ึงล้ม พุ ท ธ ม า ก ส ว ด ม น ต์ ไ ห ว้ พ ร ะ เ ป็ น ป ร ะ จํ า ราชวงศ์หมิงมาแล้ว มาเป็นอุทาหรณ์ น่ันก็คือ \"ขันที\" ตัวแสบ จะไม่ นอกจากนั้นยังศรัทธาในลัทธิเต๋าด้วย และยังได้ ยอมให้ก้าวก่ายโดยเด็ดขาด กับทั้งลดหย่อนภาษีราษฎร เพ่ือ พยายามผนวกทง้ั สองเข้าด้วยกัน แต่ไม่สําเร็จ หย่ง ชว่ ยเหลือประชากร เจิ้งปกครองด้วยความเข้มงวดกวดขัน พระองค์ ได้รับนักพรตเข้ามาอยู่ในวัง ให้ปรุงยาอายุวัฒนะ ต่อมา ซุ่นจื้อก็ประชวรด้วยไข้ทรพิษ ส้ินพระชนม์ในขณะที่พระ ถวาย นี่เอง ทําให้หย่งเจิ้งสิ้นพระชนม์ หลังจาก ชนมเ์ พยี ง ๒๔ พรรษา อา้ ยซนิ เจวีย๋ หลัว เสวียนเยีย่ โอรสท่ีเหลอื รอด ครองราชย์ได้เพียง ๑๓ ปี จากไข้ทรพิษเพียงองค์เดียว ได้ครองราชย์ต่อ ต้ังศักราชว่า คังซี ขณะน้ันมีพระชนม์เพียง ๙ พรรษา โดยมีพระนางเส้ียวจวงฮองเฮา จากน้นั หงล่ี โอรสคนโปรดของหยง่ เจ้งิ ก็ได้ขึ้น คอยสนับสนุนอยขู่ า้ งหลงั ครองราชย์ต่ออย่างราบร่ืน อันเน่ืองมาจาก การ คัดเลือกรัชทายาทอย่างเป็นระบบของหย่งเจิ้ง ใช้ ในตอนนั้น เอ๋าไป้ ได้ยึดกุมอํานาจไว้ และใช้อํานาจตามใจชอบ ชอื่ วา่ เฉียนหลงฮ่องเต้ ทาํ ใหฮ้ ่องเต้นอ้ ย ซง่ึ มีพระชนม์ขณะนั้น ๑๖ พรรษาไม่พอพระทัย จึง วางแผนใช้ขันทีเด็กท่ีเล้ียงไว้ เพราะพึ่งพาคนอื่นไม่ได้ เนื่องจากเป็น หลังจากครองราชย์ เฉียนหลงได้สร้างความ พวกของเอ๋าไป้หมด พอกาํ จดั ไดก้ เ็ ช็คบิลถึงครอบครัว และพรรคพวก เจริญให้กบั บ้านเมืองมาก ไดส้ ่ังรื้อฟ้ืนคดีของหยวน ของเอา๋ ไปด้ ว้ ย พวกขุนนางก็ยอมซูฮกแตโ่ ดยดี ฉงฮ่วน เพ่ือคืนความเป็นธรรมให้ มีการสั่งให้ จัดทําหนังสือชุด ซ่ือคู่เฉวียนซู (หนังสือชุดรวม ๔ คังซีเป็นนักปกครองท่ีเก่งกาจคนหน่ึง ได้สร้างความเจริญให้กับ ด้าน) รวม ๓๖,๓๐๔ เล่ม โดยให้จี้เส่ียวหลาน จนี มากทีเดยี ว ท้ังมีการสํารวจ เพื่อทําแผนที่ประเทศจีน โดยทําการ พหูสูตสมัยน้ันเป็นผู้ดําเนินการ นอกจากนี้ยังได้ ร่วมกับชาวตะวันตกได้อย่างทันสมัยมาก, มีการทําหนังสือรวบรวม แพร่ขยายอาณาเขตไปกว้างไกลมาก ประกอบกับ สรรพวิทยาการ, ทําพจนานุกรมคังซี (คังซีจื้อเตี่ยน), ขุดลอกคลอง จงั หวะของเฉียนหลงค่อนขา้ งดี จึงมชี นกลุม่ น้อยมา ต้ายุ่นเหอ และแก้ปัญหาทางชนช้ันกับชาวจีนได้ดี สมัยนี้ รัสเซียเข้า สวามิภักด์ิ อีกเรื่องหน่ึงคือ เฉียนหลงได้พยายาม มารกุ ราน คงั ซีได้นําทพั ด้วยตัวเอง และไดช้ ัยชนะ แถมยังได้ยึดครอง ระงบั กระแส \"ลม้ ชงิ ก้หู มิง\" โดยใช้วิธี \"แบ่งแยกแลว้ ไต้หวันด้วย แถมยังชอบปลอมตัวออกประพาสไปท่ัวประเทศ เพื่อ ปกครอง\" โดยพยายามทําให้ประชาชนแตกคอกัน รบั ทราบความทุกขร์ ้อนของประชาชน รวมกันไม่ติด จนไม่สามารถล้มตัวเองได้ จนว่ากัน ว่า สํานักวรยุทธ์ต่างๆ ต่างก็บรรลัยย่อยยับไปใน ต่อมา อู๋ซานกุ้ยได้พยายามก่อกบฏ เขาได้ยื่นข้อเสนอให้คังซีนํา สมยั เฉยี นหลงน่ีเอง ชาวแมนจูทั้งหมด อพยพกลับไปตั้งอาณาจักรของตนที่แมนจูเรีย อู๋ ซานกุ้ยได้พยายามขอความร่วมมือจากคนอ่ืนๆ แต่ไม่ได้รับความ ร่วมมือ เพราะคนอ่ืนมองว่า เขาทรยศต่อแผ่นดินเกิดได้ ก็ย่อมจะ ทรยศกบั คนอืน่ ไดเ้ ช่นกนั คงั ซีปฏิเสธขอ้ เสนอของเขา อู๋ซานกุย้ จึงกอ่

บทที่ ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ นี ๑๓๓ Part IV History of China นอกจากนั้น ในยุคคังซีต่อเนื่องถึงเฉียนหลง มีคนโดนจับประหาร พอเฉียนหลงสิ้นพระชนม์ได้ไม่นาน เจียช่ิงก็ หรือขุดศพข้ึนมาประจานมากมาย เนื่องจากพยายามต่อต้านแมนจู ปราบปรามเหอเซินทันที จัดการปลดเขาออกจาก แสดงให้เห็นว่า ฮ่องเต้เหล่านี้ก็นับว่าโหดอํามหิตไม่เบา สมดังท่ีบาง ตําแหน่ง ขังคุก ริบสมบัติเข้าหลวง (สมบัติท่ียึดได้ คนวา่ ไว้ทาํ นองว่า การเมอื งทาํ ใหเ้ ทวดากลายเป็นอสรู ได้ นั้น เฉพาะเงินก็มีถึง ๘๐๐ ล้านตําลึง หรือ ประมาณสิบกว่าเท่าของงบประมาณแผ่นดินใน เฉยี นหลงเช่ียวชาญ และโปรดการกาพย์กลอนมาก ชนิดท่วี ่า ใคร ขณะนั้น ซึ่งอยู่ที่ ๗๐ ล้านตําลึง ยังไม่นับสมบัติ ต่อกลอนกับพระองค์เก่งๆ ก็จะกลายเป็นคนโปรดไปเลย เฉียนหลง อ่ืนๆ อีกมหาศาล จนวอลล์สตรีท เจอร์นัล จัด เปน็ ฮ่องเต้ท่ีค่อนข้างอาภัพในด้านความรัก เพราะฮองเฮาฟุฉาซื่อได้ อนั ดบั ใหเ้ หอเซินติดอันดบั ๕๐ บคุ คลท่ีรวยท่ีสุดใน จากไปตง้ั แตย่ งั สาว คร้นั แต่งตั้งฮองเฮาอีกองค์ ก็ผิดใจกันจนทําเร่ือง โลกในรอบสหัสวรรษ และมีคํากล่าวว่า \"เหอเซิน ผิดกฎมณเฑยี รบาล (ใชก้ รรไกรตดั ผมตวั เอง) จนถกู ลดบรรดาศักดิ์ลง ล้มกลิ้ง เจียช่ิงอิ่มท้อง\") สุดท้ายก็พระราชทานผ้า ตอนท่ีสิ้นไปแล้ว แถมยังอาภัพในเรื่องรัชทายาทอีกด้วย พระโอรส ให้ผูกคอตาย (ว่ากันว่า เหอเซินได้กล่าวกลอนไว้ องค์โปรด หย่งเหลียน ก็ตายต้ังแต่ยังเด็ก หย่งฉี องค์ชาย ๕ ก็ไม่มี เป็นเชิงอาฆาตว่า \"เม่ือวารีท่วมมังกร ตามหมอก โอกาสได้เป็นฮอ่ งเต้ (ส้นิ พระชนม์ต้ังแต่ยังหนุ่ม) เฉียนหลงนั้น ถือว่า ควันขจรมาเกิดกาย\" ซึ่งมีคนตีความว่า หลังจาก เป็น \"ฮ่องเต้เจ้าสําราญ\" ตัวยงองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์จีน ชอบ เกิดนํ้าท่วม จะกลับมาเกิดใหม่เพ่ือควบคุมฮ่องเต้ ทอ่ งเทีย่ วประพาสไปท่วั แบบเดยี วกับฉินสื่อหวง ทําให้ส้ินเปลืองเงิน ซึ่งอาจจะหมายถึงกลบั มาเกดิ ใหม่เปน็ ฉือซไี ท่โฮว่ ที่ ทองไปมาก เกิดตอนแม่น้ําหวงเหอนํ้าท่วม และเมื่อโตข้ึน ก็ได้ กลายเป็นผ้เู ชดิ ฮ่องเตไ้ ว้หลายองค)์ นถ่ี อื เป็นผลงาน เฉียนหลงมีข้าราชบริพารหนุ่มหล่อคนหนึ่ง ช่ือ เหอเซิน ต่อมา ชน้ิ โบแดงของเจียชิ่ง หลังจากนั้น ก็ไม่มีอะไรเด่นๆ ได้เป็นคนโปรดของเฉียนหลง ว่ากนั ว่า การท่ีเปน็ คนโปรดนั้น มาจาก อกี ความหล่อเหลาของเหอเซินนั่นเอง มีคร้ังหนึ่ง เหอเซินจับไต๋ของ เฉียนหลงได้ ว่าหากต่อกลอนเก่งๆ จะเป็นคนโปรด จึงไปซุ่มซ้อมมือ ยุคหลังจากเฉียนหลงเป็นต้นมา เป็นช่วงที่ มา และต่อกลอนได้ถูกใจเฉียนหลง เฉียนหลงจึงประทานองค์หญิง ราชวงศ์ชิงตกตํ่า อันเน่ืองมาจาก ฮ่องเต้ถัดๆ มา ๑๐ พระธิดาองค์โปรด ให้หมั้นกับลูกชายของเหอเซินตั้งแต่ยังเด็ก ไม่เก่งกาจอะไร ความเส่ือมที่เริ่มลุกลามมาจาก ต่อมาก็ไดอ้ ภเิ ษกกัน ลกู ชายของเหอเซินได้เป็นราชบุตรเขย เหอเซิน ปลายสมัยของเฉียนหลงเอง ผนวกกับความชิงชัง จงึ มบี ทบาทมากขึ้น เขาจึงหลงระเริงข้ึนเรื่อยๆ จากขุนนางที่ซื่อสัตย์ ของชาวจีน ที่ยังไม่เสื่อมคลาย และยังมีปัญหา กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ ละโมบโลภมาก คอร์รัปชั่น ทําให้ประชาชน แทรกซอ้ นจากการรุกราน ของชาวตะวันตก ดังเช่น เดอื ดรอ้ นมากในตอนปลายรชั กาล แทบจะกล่าวได้ว่า เฉียนหลงเป็น กรณีสงครามฝิ่น ๒ คร้ัง (คร้ังแรกปี ค.ศ.๑๘๔๐- ทงั้ ผนู้ ําความเจริญ และความวินาศ มาสู่ราชวงศช์ งิ ๑๘๔๒/พ.ศ.๒๓๘๓-๒๓๘๕ ครั้งที่สองปี ค.ศ. ๑๘๕๖-๑๘๖๐/พ.ศ.๒๓๙๙-๒๔๐๓) ตอ่ มา เมอ่ื เฉียนหลงปที ี่ ๖๐ เฉียนหลงไดป้ ระกาศสละราชสมบัติ โดยให้ หย่งเอ๋ียน องค์ชาย ๑๕ เปน็ รชั ทายาท ครองราชย์เป็น เจยี ช่ิง ฮอ่ งเต้ อยา่ งไรก็ดี เฉียนหลงยังคงกมุ อํานาจบริหารต่อไป เจียชิ่งเป็น เพียง หุ่นเชิด ของพระบิดาเท่าน้ัน ในปลายยุคเฉียนหลงต่อเจียช่ิงนี้ พวกลัทธบิ วั ขาวได้กอ่ กบฏชาวนาข้นึ เป็นกบฏคร้ังใหญ่ในราชวงศ์ชิง ต้องใช้เวลาปราบถึง ๙ ปี จึงจะสงบ ระหว่างนั้น หลังจากเชิดโอรส เปน็ ฮอ่ งเต้ได้ ๓ ปี เฉยี นหลงกส็ ้นิ พระชนม์ลงอย่างตรอมใจ

๑๓๔ บทท่ี ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ นี Part IV History of China หลังจากที่เจียช่ิงฮ่องเต้ข่ีมังกรไปสวรรค์ในปี ค.ศ.๑๘๒๑ (พ.ศ. ยังไม่เท่าน้ัน ระหว่างที่ราชวงศ์ชิงกําลังปั่นป่วนกับ ๒๓๖๔) อา้ ยซินเจวย๋ี หลวั หมินหนิง ครองราชย์ ตั้งศักราชว่า เตา้ กวง กบฏไท่ผิงน่ีเอง สงครามฝ่ินคร้ังท่ี ๒ ก็ก่อตัวขึ้น ขณะนน้ั หลายชาติรวมทง้ั องั กฤษได้เอาฝ่ินเข้ามาขาย มอมเมาคนจีน โดยองั กฤษกับฝร่งั เศส พร้อมดว้ ยรัสเซยี ก็เร่ิมได้คืบ ไปกว่าสองล้านคน ทําให้จีนเกิดปัญหาขาดดุลการค้าจนขาดแคลน จะเอาศอกอีกครั้ง โดยได้บีบให้จีนเปิดท่าเรือและ เงินแท่ง แถมกลายเป็นชาติท่ีข้ีโรคไป หลินเจ๋อสวี ขุนนางคนหน่ึงได้ สถานทูตเพิ่ม แต่ได้เกิดเหตุวุ่นวาย ท้ังสองชาติจึง เสนอใหร้ าชสาํ นกั ทําการยดึ และปราบปรามฝิ่น เพื่อใหจ้ นี มีกําลังคน ส่งกองทัพมารกุ รานอกี ครั้ง จีนทําสนธิสัญญาเทียน ใชง้ าน และไมเ่ สยี เงินทองให้กับตา่ งชาติ จิน เปิดท่าเรือให้ต่างชาติเข้ามาค้าขายได้ ให้ สามารถเผยแพร่ศาสนาได้ ให้กงสุลฝร่ังเศสตัดสิน ดังน้ัน หลินเจ๋อสวีจึงทําการยึดฝิ่นของอังกฤษไว้แล้วเผาท้ิง ปิด คดขี องคนฝร่งั เศส แถมยังต้องชดใช้เงินให้สองชาติ ร้านฝน่ิ ของอังกฤษ และกวาดลา้ งการค้าฝิ่นอย่างเด็ดขาด เหตุการณ์ และยงั ต้องรับรองการค้าฝ่ินอีกด้วย ซึ่งระหว่างนั้น น้ีทําให้อังกฤษไม่พอใจมาก จึงส่งทัพเรือเข้ามาสู้กับจีน เรียก รัสเซยี กเ็ ข้ามารว่ มด้วย เพือ่ หัน่ ดนิ แดนกับเขาดว้ ย เหตุการณ์น้ีวา่ สงครามฝนิ่ คร้ังที่ ๑ ซ่ึงผลออกมา จีนแพ้ ต้องลงนาม ในสนธิสัญญาหนานจิง ซึ่งมีเน้ือหาให้จีนชดใช้ค่าเสียหาย, ต้องยก หลังจากน้ันในปี ค.ศ.๑๘๕๙ ต่อถึง ๑๘๖๐ เกาะฮอ่ งกงให้อังกฤษ, ต้องเปิดเมืองท่าให้เป็นเมืองท่าพาณิชย์ (เดิม เกิดความขัดแย้งข้ึนอีก กองทัพอังกฤษ-ฝร่ังเศสมา จีนปิดประเทศ) และให้ภาษีเป็นไปตามการเจรจาของสองฝ่าย ซึ่ง บุกอีก คราวน้ีราชวงศ์ชิงเจรจาไม่สําเร็จ กองทัพก็ ภายหลังอังกฤษมีการได้คืบเอาศอก คือจะให้ชาวอังกฤษได้สิทธิ รบแพ้ ฮ่องเต้ต้องลี้ภัย กองทัพนรกได้เผาพระราช สภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องอยู่ใตอ้ าํ นาจของศาลจีน แถมดว้ ยการให้ อทุ ยานหยวนหมงิ หยวน จนเหลือแต่ซาก และปล้น องั กฤษได้ผลประโยชน์อย่างดีท่ีสุดด้วย จากสนธิสัญญาอันเลวทราม ชิงทรัพย์สมบัติไปด้วย และจีนก็ต้องลงนามใน น้ี ราชสาํ นักได้ผลกั ภาระค่าเสียหายต่างๆ ให้กับประชาชน แถมยังมี สนธิสัญญาปักก่ิง เสียค่าปรับอีกตามเคย หลังจาก ภัยธรรมชาติมาเสริมทัพด้วย ทําให้ความชิงชังของประชาชน ต่อ น้ันจีนก็มีเริ่มมีการเลียนแบบตะวันตกมากขึ้น ราชวงศช์ ิงมีสงู ขน้ึ เป็นอยา่ งมาก รวมถึงมีการส่งนักเรียนไปศึกษาต่างประเทศ เพื่อใหร้ บั มือกบั ตะวันตกได้ ความตึงเครียดดําเนินต่อมาถึงปี ค.ศ.๑๘๕๐ (พ.ศ.๒๓๙๓) ฮอ่ งเตเ้ ตา้ กวงมีมงั กรมารบั ไป โอรสขนึ้ ครองราชย์ ต้งั ศกั ราชวา่ เสียน ฉือซีไท่โฮ่ว (ซูสีไทเฮา) ในประวัติศาสตร์ก็ เฟิง ฮ่องเต้องค์น้ีขึ้นช่ือในด้านเจ้าชู้ ทําให้ครองราชย์ได้เพียง ๑๐ ปี ปรากฏตัวในยุคเสียนเฟิงนี่เอง นางเกิดใน ถึงจะสั้น แต่ในสมัยนี้ก็มีเหตุการณ์สําคัญๆ (ในแง่ลบ) หลายอย่าง ครอบครัวชาวฮั่นที่ยากจน เดิมช่ือหวังเส่ียวเชี่ยน คือ มีกบฏไท่ผิง (ไท่ผิงเทียนกว๋อ) เกิดขึ้นในปี ค.ศ.๑๘๕๑ (พ.ศ. ถกู ขายตอนอายุ ๔ ขวบ และเปลีย่ นชื่อเป็น ซง่ หลงิ ๒๓๙๔) นําโดย หงซิ่วฉวน เอาศาสนาและพระเจ้ามาเป็นเคร่ืองมือ เอ๋อ ต่อมาถูกขายอีกคร้ังตอนอายุ ๑๒ ขวบให้กับ กอ่ การจลาจลไปทวั่ ทกุ ภาคของจีนนานถึง ๑๐ ปี ตง้ั กองบัญชาการท่ี ฮยุ่ เจงิ ผ้วู า่ ราชการเมือง และเปลี่ยนช่ืออีกครั้งเป็น หนานจิง กบฏไท่ผิงมีกําลังเข้มแข็งมาก ต่อสู้กับทหารของรัฐจน อี้หลานหรือหลานเอ๋อร์ แซ่เย่เหอนารา ต่อมาก็ได้ เกือบจะได้ชยั ชนะ (ถา้ ทําสาํ เร็จ จีนอาจจะมีราชวงศ์ใหม่เกดิ ขึ้น และ เขา้ วงั เสียนเฟิง ได้เป็นเจ้าจอมหลาน และได้ เป็น ราชวงศช์ งิ จะมีอายเุ พยี งสองรอ้ ยปนี ดิ ๆ เทา่ น้นั ) แตต่ อ่ มา กบฏไท่ผิง พระนางฉอื ซี (ซสู )ี มเหสีฝ่ายซ้ายในเวลาตอ่ มา ได้มีความขัดแย้งกนั ภายใน มกี ารไลฆ่ า่ กันเอง ความแตกแยกน้ี ทาํ ให้ ทหารฝ่ายรัฐกลับเป็นฝ่ายได้เปรียบ แถมราชวงศ์ชิงยังขอให้ทหาร ปี ค.ศ.๑๘๖๑ ระหว่างที่ล้ีภัยอยู่ เสียนเฟิง องั กฤษมาชว่ ย ทําให้ฝา่ ยราชวงศ์ชงิ ไดช้ ยั ชนะในที่สุด ส้นิ พระชนม์ มเหสีทั้งคู่ได้เป็นผู้สําเร็จราชการแทน พระโอรส ไจฉ่ นุ ทไี่ ดเ้ ป็นฮอ่ งเตถ้ ่งจ้อื ซง่ึ ยงั เยาว์อยู่ ซึง่ ความจรงิ แลว้ กอ่ นทเี่ สียนเฟงิ จะส้ินพระชนม์ ได้ ต้ังผู้สําเร็จราชการขึ้น ๘ คน แต่ถูกมเหสีทําการ รัฐประหาร ยึดอํานาจไว้เอง โดยอ้างว่าเป็นราช โองการปลอม และประหารผสู้ าํ เร็จราชการท้ังหมด และมเหสีทั้งสองได้ทําการว่าราชการ โดยอยู่หลัง ม่าน จึงเรียกว่า ปกครองหลังม่าน ต่อมา นางฉือซี ได้ใช้อุบายทําให้พระนางฉืออันหลงกล แล้วยอม เผาราชโองการลับน้ันทิ้ง หลังจากนั้น พระนางฉือ อันสวรรคต ลือกันว่าฉือซีวางยาสังหาร เพื่อรวบ อํานาจไว้ในมือแตเ่ พียงผ้เู ดียว

บทท่ี ๔ ประวัตศิ าสตรจ์ นี ๑๓๕ Part IV History of China พอถ่งจื้อเจริญวัยข้ึน ก็มักจะออกหนีไปเที่ยวซ่องที่นอกวังอยู่เป็น ถัดมาในปี ค.ศ.๑๙๐๘ กวงสู่ก็ส้ินพระชนม์อย่าง ประจาํ อยูใ่ นวังกข็ ลุกอยูก่ ับมเหสี ทาํ ใหฉ้ ือซไี ม่คอ่ ยพอใจนัก ต่อมาก็ ลกึ ลบั ลือกนั ว่า ถกู ฉือซีวางยาพษิ ซ่งึ ทางการจีนได้ กลับส้ินพระชนม์ลง โดยในประวัติศาสตร์ระบุว่าเป็นไข้ทรพิษ แต่ ทําการชันสูตรพระศพ ได้ผลว่า มีสารหนูจํานวน สว่ นหนงึ่ จะเชอ่ื วา่ เปน็ ซฟิ ลิ ิส ถ่งจือ้ ไม่มีรัชทายาท นางฉือซีจึงต้ังพระ มากในพระศพและฉลองพระองค์ จึงยืนยันได้ว่า นัดดาที่ยังพระเยาว์ข้ึนเป็นฮ่องเต้ ตั้งศักราชว่า กวงสู่ หลังจากท่ีเร่ิม ทรงถกู วางยาพษิ จรงิ โตข้ึน แม้ว่าจะโดนฉือซีคอยถ่วงตลอด แต่กวงสู่ก็เป็นฮ่องเต้หัว กา้ วหน้า มีแนวคิดจะปฏิรูปการเมืองการปกครอง เนื่องจากขณะน้ัน หลังจากกวงสสู่ ้นิ พระชนมไ์ ม่นาน พระนางฉือซี เป็นยคุ ทโี่ ดนตา่ งชาตริ ุกราน ก็เอาเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง คือ อ้ายซินเจวี๋ยหลัว ผู่อ๋ี (บางเล่มเรียก ฟู่อี้ หรือ ปูยี) ซ่ึงมีอายุเพียง ๓ ขวบ ในยุคท่ีฉือซีไท่โฮ่วบริหารบ้านเมืองน้ี บ้านเมืองระส่ําระสาย มาเป็นฮ่องเต้หุ่นเชิด ตั้งศักราชว่า ซวนถ่ง ซ่ึงเป็น ประชาชนย่ําแย่ (ในยุคฉือซีไท่โฮ่วนี้ ฝันร้ายของทุกราชวงศ์ก็กลับมา จักรพรรดิองค์สุดท้าย ของราชวงศ์ชิง และเป็น เยือนอกี ครัง้ นน่ั คอื ขันที น่ันเอง ขันทีตัวเอกในยุคน้ีก็คือ หลี่เหลียน จกั รพรรดอิ งคส์ ุดทา้ ยของจีนด้วย องิ ก็ทาํ ตวั ไมผ่ ดิ แผกอะไรกบั ขนั ทใี นยคุ ราชวงศห์ มงิ ) ปฏวิ ตั ซิ นิ ไฮ่ ในปี ค.ศ.๑๘๙๔-๑๘๙๕ ได้เกิดสงครามต่อต้านญ่ีปุ่น เรียก สงครามเจย๋ี อู่ กองทพั เรอื ของรัฐบาลไมย่ อมทาํ ศกึ กบั ญ่ปี นุ่ เก็บตวั อยู่ หลังจากซวนถ่งข้ึนครองราชย์ได้ไม่นาน พระ แต่ในฐานทัพ เนื่องจากงบประมาณโดนฉือซีไท่โฮ่วเบียดบังไปใช้ น า ง ฉื อ ซี ไ ท่ โ ฮ่ ว ก็ ปิ ด ฉ า ก ชี วิ ต ข อ ง ต น เ อ ง ล ง ส่วนตัว รวมถึงไปบูรณะพระราชวังฤดูร้อนหมด จนทําให้กองทัพเรือ บ้านเมืองก็ยํ่าแย่ลงทุกที ขณะนั้น ดร.ซุนยัดเซ็น โดนทําลายเรียบ ญ่ีปุ่นให้จีน โดยหล่ีหงจางเป็นตัวแทนลงนามใน (ซนุ จงซาน) ไดว้ างแผนทีจ่ ะโค่นอํานาจของราชวงศ์ สนธิสัญญาที่เสียเปรียบ ท้ังยกเกาหลี, ไต้หวัน และอีกหลายที่ให้ ชิงมานานแล้ว และได้รวบรวมกําลังของตนไว้ ญ่ปี ุ่น ชดใชค้ า่ เสยี หาย และเปิดเมืองทา่ ให้ญปี่ นุ่ เรียกว่า ก๋ัวหมินต่งั (ก๊กมนิ ตงั๋ ) ในระยะแรกๆ กําลัง ของก๋ัวหมินต่ังก็แพ้ฝ่ายรัฐบ้าง ชนะบ้าง และ เดือนเม.ย. ค.ศ.๑๘๙๘ ฮ่องเต้กวงสู่ตัดสินพระทัยดําเนินการ เน่ืองจากความไม่สามัคคีกันเท่าท่ีควร ทําให้ไม่ ปฏริ ปู การเมอื งการปกครอง หลงั จากทคี่ งั โหย่วเหวยและคณะชาวฮั่น สําเร็จสักที หลายคร้ัง ท่ีแผนการถูกทหารแมนจูรู้ ถวายฎีกาแนะนํา จึงทรงให้เข้าเฝ้า แล้วให้คังโหย่วเหวยและคณะ เสียกอ่ น จนโดนประหารไปหลายคน ถวายคําแนะนําในการปฏิรูป มีการแก้กฎหมายสําคัญๆ มากมาย มหาวิทยาลัยปักก่ิงก็ต้ังในช่วงนี้เอง แต่เนื่องจากไปขัดผลประโยชน์ ในช่วงน้ัน ความเห็นเกี่ยวกับการปฏิวัติแบ่ง ของเหลา่ ขนุ นางเหลาเหย่ และเจ้าใหญน่ ายโต โดยเฉพาะพระนางฉือ ออกเป็นสองกระแส คือ แนวคิดฮ่องเต้ใต้ ซีไทโ่ ฮว่ สุดท้ายจึงทําได้เพยี งร้อยกวา่ วนั จงึ เรยี กการปฏิรูปครั้งน้ีว่า รัฐธรรมนญู ของคงั โหย่วเหวย ซึ่งมีผู้สนับสนุนมาก \"การปฏิรูป ๑๐๐ วัน\" ความลบั เกี่ยวกับการกําจัดฉือซีในคณะปฏิรูป กับแนวคิดของดร.ซุนยัดเซ็น ซ่ึงเป็นสาธารณรัฐ ถูกขนุ ศึก หยวนซือ่ ไข่ ทรยศ นําไปบอกกับฉือซี ทําให้กวงสู่ถูกจับไป (ไม่มฮี อ่ งเต)้ ตอนหลงั ราชวงศช์ ิงได้เกาะกระแสกับ ขัง คณะปฏิรูปถูกไล่ล่า หลายคนถูกประหาร คังโหย่วเหวยหนีไป เขาด้วย จึงเสนอรัฐธรรมนูญของตนเองออกมา ซึ่ง ต่างประเทศได้ ยังคงให้เชื้อพระวงศ์กุมตําแหน่งส่วนใหญ่ในการ บริหารเอาไว้ ประชาชนจึงหมดหวังกับราชวงศ์ จนปี ๑๙๐๐ กม็ กี บฏนกั มวย (อ้เี หอถวน) เกดิ ขน้ึ กระทําการเผา และเห็นว่าจะต้องโค่นล้มราชวงศ์ชิงเท่าน้ัน แม้แต่ ทําลายโบสถ์ ต่อต้านศาสนาคริสต์ สังหารชาวต่างชาติจํานวนมาก กลุ่มของคังโหย่วเหวยยังหันไปสนับสนุนดร.ซุนยัด ต่อมาราชวงศ์ชงิ เห็นประโยชนใ์ นการจดั การต่างชาติ จึงประกาศให้อี้ เซ็นกันหมด จนเวลาผ่านไปถึงวันที่ ๑๐ ตุลาคม เหอถวนเป็นองค์กรตามกฎหมาย ซึ่งทางอ้ีเหอถวนก็ประกาศ ๑๙๑๑ ที่เมืองอชู่ าง คณะผู้ก่อการได้ทําพลาด เกิด สนับสนุนราชวงศ์ชิง ต่างชาติจึงรวมตัวกันเป็นกองทัพพันธมิตร ๘ ระเบิดขึ้นท่ีโรงงานทําอาวุธ ทําให้มีคนบาดเจ็บ ชาตยิ กทพั มาปราบ จีนแพ้อีก พอฉือซีไท่โฮ่วเห็นจวนตัว จึงพากวงสู่ และทางการได้เข้ามาสอบสวน เกิดไปพบใบปลิว หลบหนีออกจากวงั และหาเร่อื งเอาสนมเจิน สนมคนโปรดของกวงสู่ ของการปฏิวตั ิเข้า เรื่องจงึ เริ่มบานปลาย ตํารวจจะ ทห่ี วั ก้าวหนา้ เหมือนกวงสู่ไปโยนทิ้งบ่อน้ํา หลังจากท่ีนางขอเดินทาง ทําการขยายผลเพ่ือปราบปราม กองกําลังส่วนที่ ไปด้วย แถมราชวงศ์ชิงยังหักหลังกลุ่มกบฏอย่างจัง โดยโบ้ยกับ เหลือเห็นว่าพวกตนอยู่ในภาวะ \"หมาจนตรอก\" จึง ต่างชาติว่า พวกน้ีเป็นสํานักโจร มิหนําซ้ํายังให้ทหารไปปราบ แถม รีรอไม่ได้แล้ว เพราะถ้ารอช้าก็จะโดนประหารกัน ประหารแกนนําอีกด้วย จากที่แพ้น้ี จีนส่งหล่ีหงจางไปเจรจากับ หมด ต่างชาติ ทําให้จีนต้องเสียค่าปรับจํานวนมาก และเงื่อนไขท่ี เสยี เปรยี บอีกมากมาย ราชวงศ์ชงิ ก็งอ่ นแงน่ เตม็ ที

๑๓๖ บทท่ี ๔ ประวัติศาสตรจ์ นี Part IV History of China กไ็ ด้ทาํ การจู่โจมฝา่ ยรัฐทนั ที ขา้ ราชการของราชวงศ์ชิงตกใจกลัวเปิด หลังจากนั้น ผู่อี๋ก็ได้อพยพไปอยู่ท่ีเมืองเทียนสิน แน่บ คณะปฏิวัติจึงสามารถยึดคลังแสง สถานที่ราชการ พร้อมท้ัง แล้วย้ายไปเมืองฉางชุน ทางแมนจูเรีย ด้วยความ กําลงั ทหารส่วนใหญไ่ ว้ได้สาํ เร็จ เป็นอันวา่ สามารถยดึ เมอื งอูชางไว้ได้ ชว่ ยเหลือจากทหารญี่ปุ่น ซ่งึ พยายามหาทางรกุ ราน เหตุการณ์นี้เรียกว่า การจลาจลอู่ชาง หรือ สองสิบ (วันที่ ๑๐ เดือน จีน จากน้ัน ได้ร่วมมือกับทหารญี่ปุ่น ตั้งประเทศ ๑๐ ถือว่าเป็นวันชาติของจีนในระยะแรก และยังเป็นวันชาติของ \"แมนจูกัว\" ข้ึน ผู่อ๋ีได้ต้ังตัวเป็น จักรพรรดิคังเต๋อ ไต้หวันอยู่ในปัจจุบัน) หลังจากการจลาจลอู่ชาง ก็เป็นอันว่า สวรรค์ กลายเปน็ หุน่ เชดิ ของทหารญป่ี ่นุ ในการรกุ รานและ ได้ถอนอาณัติจากแมนจูแล้ว คณะปฏิวัติได้ตั้งรัฐบาลชั่วคราวข้ึนท่ีอู่ กอ่ กรรมทาํ เขญ็ กับชาวจีน ชาง ในระหว่างน้ัน ในประเทศจีน พรรคกั๋วหมิ ทางมณฑลต่างๆ เมื่อทราบว่าอู่ชางถูกยึดได้แล้ว ก็ได้ประกาศ นต่ังบริหารงานผิดพลาด มีการต่อต้านอย่างมาก อสิ รภาพจากราชวงศ์ชิง กําลงั ของฝ่ายปฏวิ ัติเขม้ แขง็ ข้ึนอย่างรวดเร็ว เจียงไคเช็คก็ได้ฆ่าคนจีนไปมากมาย จนในท่ีสุด คณะปฏิวัติได้ประสานงานกับนกสองหัว หยวนซื่อไข่ เพ่ือให้เข้าบีบ พรรคกั๋วหมินตั่งก็พ่ายแพ้พรรคคอมมิวนิสต์ ใน คั้นเช้อื พระวงศใ์ นราชวงศ์ชิง และใหล้ ม้ ราชวงศ์ โดยมีข้อแลกเปลี่ยน สงครามภายในจีน ทําให้เจียงไคเช็คต้องพาพรรค กับตําแหน่งประธานาธิบดี ทางฝ่ายปฏิวัติย่ืนข้อเสนอให้กับราชวงศ์ ก๋ัวหมินต่ัง หลบไปอยู่ที่ไต้หวัน ตั้งการปกครอง ชิงว่า ถา้ ยอมลม้ ราชวงศ์ จะไดค้ ่าตอบแทนมากมาย แต่ถ้าไม่ยอมล้ม แบบประชาธิปไตยขึ้นที่น่ัน ท้ังได้เอาส่ิงของมีค่า แม้ชีวติ ก็อาจจะรักษาไวไ้ มไ่ ด้ และทางฝ่ายปฏิวัติได้จัดตั้งรัฐบาลของ มากมายในพระราชวังปักก่ิงไปไต้หวันด้วย จีนก็ ตนไวแ้ ล้ว โดยแตง่ ตั้งดร. ซุนยัดเซ็นเป็นประธานาธิบดีคนแรก ซึ่งใน เปลีย่ นการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ ขณะน้ัน ดร.ซนุ ยดั เซ็นยงั อยู่ท่ีต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามเพราะถูก ในที่สุด ทางราชวงศ์ชิงก็ทนแรงกดดันไม่ไหว ต้องยอมสละราช ทิ้งระเบิดปรมาณู จักรพรรดิคังเต๋อหรือผู่อี๋หลบหนี สมบัติในปีถัดมา ก็เป็นอันว่า พลพรรคของดร.ซุนยัดเซ็น ก็สามารถ ไปรัสเซีย และถูกจับตัวโดยทหารรัสเซีย แล้ว ทาํ การยดึ อาํ นาจ จากราชวงศ์ชิงได้สําเร็จ อย่างรวดเร็วจนคาดไม่ถึง ส่งกลับจีนในฐานะอาชญากรสงคราม ถูกส่งตัวไป ซึ่งการท่ีสามารถล้มได้อย่างรวดเร็วนั้น ก็คงเน่ืองมาจาก ราชวงศ์ชิง ขังที่สถานควบคุมอาชญากรสงคราม แล้ว น้ันเน่าเฟะเต็มที่แล้ว สะกิดนิดเดียวก็โค่น การปฏิวัติราชวงศ์ชิงนี้ \"ดดั แปลง\" (หรือล้างสมอง) จนกลายเป็นสามัญชน เรยี กวา่ \"การปฏวิ ตั ิซนิ ไฮ\"่ ธรรมดา และได้รบั นริ โทษกรรมพิเศษ หลังจากยึดอํานาจได้ไม่นาน พรรคกั๋วหมินต่ังก็ส่งข่าวไปยังดร. ตอ่ มา มีการปฏวิ ตั ิวัฒนธรรม ผอู่ ี๋และหลซี่ ่เู สยี น ซุนยัดเซ็น เชิญให้กลับมาเป็นประธานาธิบดีคนแรก ในช่วงแรกๆ ภรรยาคนสดุ ทา้ ย ก็ยังไม่วาย หวุดหวิดจะโดนพวก ของการปกครองแบบสาธารณรัฐ รัฐบาลยังคงให้ซวนถ่งพํานักอยู่ใน เรดการด์ ลากไปเกี่ยวด้วย แตโ่ ชคดที ไี่ ม่รา้ ยแรงมาก พระราชวังได้ และคงพระราชทินนาม \"ซวนถ่ง\" ไว้ โดยให้อยู่ในส่วน เหตุร้ายผ่านไปได้ด้วยดี ของวังหลัง ไมใ่ หม้ าย่มุ ยา่ มกบั ท้องพระโรง ซึ่งเดิมใช้ว่าราชการ และ ไม่ให้รับขนั ทีเพิ่ม โดยรฐั จะจา่ ยเงินเดอื นให้ ตอ่ มา ซนุ ยดั เซน็ ไดย้ กให้ ในบ้ันปลายชีวิต ผู่อี๋ได้รับตําแหน่งสําคัญหลาย หยวนซอื่ ไข่รบั ตาํ แหน่งประธานาธิบดี ผ่านไประยะหนึ่ง หยวนซื่อไข่ ตําแหน่งจากรัฐบาลจีน และได้กลายเป็นบุคคล เกิดมักใหญ่ใฝ่สูงขึ้นมา หาเร่ืองยุบก๋ัวหมินต่ัง และสถาปนาตัวเอง สําคัญคนหนึ่ง รวมท้ังได้มีส่วนร่วมตรวจสอบ เปน็ ฮอ่ งเต้ รื้อฟ้ืนระบบกษัตรยิ ์กลบั มาอกี คร้งั แตอ่ ยู่ไดไ้ ม่นาน ก็มแี ต่ ประวตั ศิ าสตรจ์ ีนอีกดว้ ย คนต่อต้านจนอยู่ได้เพียง ๘๓ วัน และตัวหยวนซื่อไข่ก็ป่วยตายใน ท่ีสุด ก๋ัวหมินต่ังก็ประสบปัญหาในการบริหารประเทศอยู่เนืองๆ จน อ้ายซินเจว๋ียหลัว ผู่อี๋ ก็ป่วยเป็นไตวายและจบ บางครั้ง ดร.ซุนยัดเซ็นเคยปรารภว่าอาจจะมีปัญหามากกว่าในยุค ชีวิตลงเม่ือปี ค.ศ. ๑๙๖๗ โดยไม่มีทายาทสืบสกุล ศักดินาดว้ ยซํ้า แตอ่ ย่างใด แม้แต่กับอดีตพระมเหสีและสนมก็ไม่มี (ในอดีต ผู่อี๋มีมเหสี ๑ คนคือ หว่านหยง สนมอีก ปี ค.ศ.๑๙๑๗ จางซวินไดค้ วามพยายามรอื้ ฟืน้ ราชวงศ์ชิง แต่อยู่ ๓-๔ คน เช่น เหวินซิ่ว หล่ียุฉิน ถานอ้ีหลิง หว่านห ได้ ๑๒ วนั ก็ทนแรงต้านไมไ่ หว จนมาถึงปี ๑๙๒๔ ฝา่ ยรฐั บาลได้มีมติ ยงติดฝ่ินและเสียชีวิตขณะอยู่ในแมนจูกัว เหวินซิ่ว ยกเลิกอภิสิทธ์ขิ องราชวงศ์ชงิ ท้ังหมด ยกเลิกพระราชทนิ นาม กลบั ไป และคนอน่ื ๆ กห็ ย่าตอนอยู่แมนจูกัวหมด ส่วนหล่ีซู่ ใชช้ ่อื \"ผอู่ \"๋ี ตามเดิม กลายเปน็ สามัญชน แล้วขับออกจากพระราชวัง เสียน ภรรยาคนสุดท้าย เป็นสมาชิกพรรค มิหนําซ้ํา ยังส่งทหารไปปล้นสดมภ์ และทําลายสุสานราชวงศ์ชิงอีก คอมมิวนิสต์ ผู่อ๋ีมาพบและแต่งงานด้วย หลังจาก ด้วย ทําใหผ้ ่อู ๋ีแคน้ มาก และไดห้ ันไปสมคบกับญีป่ ุน่ ได้รับนิรโทษกรรมแล้ว) หลังจากที่ใช้เวลาเกือบทั้ง ชีวติ ใน \"คุก\" มาตลอด (คร่ึงแรกในคุกวังหลวงหรือ คกุ ทางจารตี คร่ึงหลังคือคุกในแมนจูกัวท่ีเป็นเพียง หุ่นเชิด และคุกอาชญากรสงคราม) ได้เป็นตัวของ ตวั เองเพียงไม่กีป่ กี อ่ นเสยี ชีวิต

บทที่ ๕ ขอ้ สอบ O-Net ๑๓๗ Part V O-Net Examination ตุลาคม ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ๑. คาํ สอนของศาสนาหรือลทั ธิใดท่ีเนน้ ความสําคญั แก่แนวคิดเรอ่ื งการบูชาบรรพบุรุษและความกตญั ญูมาก เปน็ พเิ ศษ ก. พราหมณ์ ข. ขงจื้อ ค. พทุ ธ ง. อสิ ลาม ๒. การท่ีสาธารณรัฐประชาชนจนี ไดร้ บั ฮ่องกงแลมาเกา๊ คืนมามคี วามสาํ คญั ทางประวัตศิ าสตร์อย่างไร ก. ถือวา่ เป็นการสิ้นสุดยุคจกั รวรรดินยิ ม ข. จนี ไดผ้ ลประโยชนท์ างเศรษฐกจิ เปน็ อยา่ งมาก ค. ดินแดนท้ังสองต้องตกอยู่ภายใตส้ ังคมนยิ ม ง. ธรุ กิจของชาตติ ะวันตกตา่ ถอนตวั ออกจากท้งั สอง ๓. ขอ้ ใดคือผลดีของการปฏิวัตอิ ันรงุ่ โรจน์ของอังกฤษ ก. เป็นการเรม่ิ ตน้ ของระบอบสมบรู ณาญาสิทธริ าชยใ์ นองั กฤษ ข.เป็นการเรมิ่ ต้นการปกครองแบบมีสภาขุนนางและสภาสามญั ค. เป็นการประกาศวาการบริหารประเทศของกษัตรยิ ต์ อ้ งการรับความเหน็ ชอบจากสภา ง. เป็นการยอมรับสถานะทเ่ี ทา่ เทยี มกนั ระหว่างนิกายแองกลิคันและโรมันคาธอลกิ ๔. กลมุ่ ใดมีอทิ ธพิ ลต่อการคน้ ควา้ ทางวิทยาศาสตรใ์ นสมัยโบราณ ก. นักปรชั ญา และนักการเมือง ข. นักเทววิทยา และนักปรัชญา ค. นักการเมอื ง นักเทววทิ ยา ง. นักประวตั ศิ าสตร์ และนกั สงั คมวทิ ยา ๕. สิ่งใดจําเปน็ ทสี่ ดุ ในการผลติ ในยุคปฏวิ ัตอิ ตุ สาหกรรม ก. วตั ถุดิบ ข. โรงงาน ค. เครื่องจกั ร ง. แรงงาน มนี าคม ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ๖. การปฏวิ ัตคิ ร้งั ใดไม่มผี ลตอ่ การเปลยี่ นแปลงการปกครองไทยในสมัย ร.๗ ก. การปฏิวัตฝิ รง่ั เศส ข. การปฏวิ ัตอิ เมริกา ค. การปฏวิ ัตจิ นี ๑๙๑๑ ง. การปฏิวัตจิ ีน ๑๙๔๙ ๗. บาปในศาสนาครสิ ต์ หมายถึงอะไร ก. ชาติกอ่ นทาํ บาปไว้ ชาตนิ ีจ้ งึ รับผลกรรม ข. พนั ธุกรรมมีอิทธิพลตอ่ ชีวตื ทุกคนท่ีเกดิ มา ค. ทุกคนมีบาปแลว้ เพราะทุกคนมกี ิเลศ ง. บรรพบุรุษของทาํ มีพฤติกรรมไม่ดเี ราจงึ ไดร้ บั ผลดว้ ย ๘. ขน้ั ตอนใดสําคญั ทส่ี ดุ ตามระเบียบวิธีทางประวตั ิศาสตร์ ก. วิเคราะหข์ อ้ เท็จจรงิ ข. ทดลองและทดสอบความถูกต้อง ค. ต้ังขอ้ สงั เกตจากปรากฏการณธ์ รรมชาติ ง. กาํ หนดสมมตฐิ านเพอ่ื อธบิ ายปรากฏการณ์ ๙. เหตุการณใ์ ดเปน็ การเปลี่ยนแปลงโลกเข้าสู่ยคุ ใหม่ ก. การปฏิวตั วิ ทิ ยาศาสตร์ ข. การปฏิวัตเิ กษตรกรรม ค. การปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรม ง. การปฏวิ ตั ิคอมพวิ เตอร์ ๑๐. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ผลงานของกาลิเลโอ ก. พบดาวบริวารของดาวเสาร์ ข. พสิ ูจนท์ ฤษฏแี รงโนม้ ถ่วงของโลก ค. สร้างกล้องโทรทัศนท์ ีม่ ีประสทิ ธิภาพ ง. เผยแพรท่ ฤษฏสี รุ ยิ จกั รวาล ๑๑. ระบบราชการของจีนโบราณตงั้ แต่ยุคราชวงศฮ์ น่ั เป็นตน้ มามีลกั ษณะพิเศษอยา่ งไร ก. เปน็ ระบบท่ยี ดึ ถือคณุ ธรรมเป็นหลกั ข. เปน็ ระบบที่ยดึ ถืออาณัตแิ ห่งสวรรค์ ค. เปน็ ระบบท่ใี ช้การสอบวัดความรู้หลายระดับ ง. เป็นระบบท่ีอาศยั ชาตวิ ฒุ ิและวยั วุฒิ ๑๒. แมกนาคาร์ตา ซง่ึ กล่าววา่ เปน็ รธน. ฉบับแรกจองโรลก มีสาระสาํ คญั เรือ่ งใด ก. มนษุ ยท์ กุ คนเกิดมาอสิ ระ จึงมสี ิทธิเท่าเทยี มกนั ข. ประชาชนมเี สรีภาพในการพดู และนับถอื ศาสนา

๑๓๘ บทที่ ๕ ข้อสอบ O-Net Part V O-Net Examination ค. อํานาจการปกครองแบง่ เปน็ ๓ สว่ น เพอ่ื คุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของประชาชน ง. อํานาจของกษัตรยิ ม์ ีขอบเขต ตอ้ งคาํ นงึ ถึงบทบาทของรัฐสภาดว้ ย ๑๓. ไมเ่ สยี ภาษถี ้าไมม่ ผี แู้ ทน เปน็ การประท้วงเรียกรอ้ งความเปน็ ธรรมเกยี่ วข้องกับเหตกุ ารณใ์ ด ก. การปฏิวัตฝิ รงั่ เศส ข. การปฏวิ ตั ริ ัสเซยี โดยเลนิน ค. การปฏิวตั อิ ันรงุ่ โรจน์ขององั กฤษ ง. การปฏิวตั อิ เมรกิ า ตุลาคม ปี พ.ศ ๒๕๔๔ ๑๔. ผนู้ าํ จนี ท่เี รมิ่ ใช้นโยบายส่ีทันสมยั คือใคร ก. เหมาเจ๋อตงุ ข. เจียงเจอ๋ หมิง ค. จา้ วจ่อื หยาง ง. เตง้ิ เสย่ี วผงิ ๑๕. แนวคดิ ใดของขบวนการฟนื้ ฟศู ิลปะวิทยาการที่เปน็ รากฐานของการปกครองแบบประชาธิปไตย ก. สจั นิยม ข. เสรีนยิ ม ค. ชาตินิยม ง. มนุษยน์ ยิ ม ๑๖. ส่งิ ประดษิ ฐ์ของใครท่ีทาํ ใหว้ ิทยาการใหม่ ๆ แพรก่ ระจายไปไดอ้ ย่างกว้างขวาง ก. ฟรานซสิ เบคอน ข. นิโคลสั คอเปอรน์ คิ สั ค. โจฮนั จเุ ตนเบริ ์ก ง. จอหน์ แลก๊ อาดัม ๑๗. นกั ปรชั ญาการเมอื งสมยั ใหมค่ นใดเปน็ ผู้รเิ รมิ่ เสนอแนวคดิ ท่ีวา่ อิสรภาพและเสรีภาพเป็นสิทธิขั้นพ้ืนบาน ของมนุษย์ ก. วอลแตร์ ข. จอห์น ลอ๊ ก ค. มองเตสกิเออร์ ง. รสุ โซ มีนาคม ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ๑๘. ขอ้ ใดคอื มรดกของสมัยกลางที่มีอทิ ธพิ ลต่อโลกตะวนั ตกในระยะยาว ก. การสาํ รวจทางทะเล ข. การปฏวิ ตั ทิ างการคา้ ค. การเกดิ มหาวิทยาลัย ง. การเกดิ ความคดิ ภูมธิ รรม ๑๙. ผลงานศิลปะของดาวนิ ชี และไมเคลิ แองเจลโล ใช้ความรดู้ า้ นใดมากที่สดุ ก. กลศาสตร์ ข. คณติ ศาสตร์ ค. ดาราศาสตรื ง. กายวิภาคศาสตร์ ๒๐. การกาํ หนดใหว้ ันที่ ๑๔ กค. เป็นวันชาตขิ องฝร่งั เศสเพอ่ื ราํ ลกึ เหตกุ ารณ์ใด ก. การประกาศยกเลิกสิทธขิ องชนชน้ั สงู ข. การท่ชี าวปารสี บกุ ทาํ ลายคุกนกั โทษการเมอื ง ค. การเรยี กประชมุ สภาฐานันดรหลงั จากว้างเวน้ มาร้อยปี ง. การที่นกั ปฏวิ ตั ปิ ระกาศตง้ั สาธารณรัฐและล้มเลิกระบอบกษัตรยิ ์ ๒๑. การปฏวิ ัติอตุ สาหกรรมครั้งที่ ๒ ในตน้ C.๑๙ ไดม้ กี ารเปลยี่ นแปลงการใช้พลังงานจากเครอ่ื งจกั รไอนาํ้ และ ถ่านหินมาเปน็ พลงั งานใด ก. พลังงานไฟฟ้า กา๊ ซธรรมชาติ และนา้ํ มนั ข. พลังงานไฟฟ้า ก๊าซชวี ภาพ และนํ้ามนั ค. พลังงานไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ และพลงั งานลม ง. พลังงานไฟฟ้า ก๊าซชีวภาพ และพลังงานลม ตลุ าคม ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ๒๒. การท่จี นี ไดร้ ับฮอ่ งกงและมาเก๊าคนื จากองั กฤษและโปรตุเกส มีความสาํ คญั ทางประวัตศิ าสตรย์ิ ่างไร ก. เปน็ การส้ินสุดสัญญาเช่าดินแดนดงั กล่าว ข. องั กฤษโปรตเุ กสตอ้ งสญู เสียผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ค. จีนไดเ้ ขา้ ครอบครองศนู ยก์ ลางทางเศรษฐกิจที่สาํ คญั ท่ีสดุ ในเอเชยี ง. เปน็ การสนิ้ สดุ ของลัทธจิ กั รวรรดินิยมตะวนั ตกในเอเชยี ๒๓. ข้อใดคือลกั ษณะของบคุ คลท่ไี ดร้ บั การยกยอ่ งในสมยั ฟ้ืนฟฯู ก. มกี ารศึกษาและรอบรใู้ นสาขาวชิ าต่าง ๆ ข. มีความสามารถเปน็ เย่ยี มในทางดาราศาสตร์ ค. นําวชิ าการทางศาสนามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ง. อุทศิ ตนและเสียสละเพอื่ มนุษยชาติ

บทที่ ๕ ขอ้ สอบ O-Net ๑๓๙ Part V O-Net Examination ๒๔. การปฏวิ ตั ฝิ รงั่ เศสเป็นแรงบันดาลใจใหเ้ กดิ การเคล่อื นไหวดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนในดนิ แดนใด ก. กรซี ข. อังกฤษ ค. เยอรมนี ง. อเมริกา มีนาคม ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ๒๕. ลทั ธิขงจอื้ ไดม้ อบมรดกทางวฒั นธรรมแกจ่ นี ทสี่ ําคัญทส่ี ดุ คอื เรอ่ื งใด ก. การใหค้ วามสาํ คญั ในเรือ่ งการกตัญญตู อ่ บรรพบรุ ษุ ข. การใชค้ วามสาํ คญั แก่ประวตั ิศาสตรจ์ ีน ค. การใชค้ วามสําคญั แก่ระบบราชการ ง. การใชค้ วามสาํ คญั แก่ ศลิ ปะศาสตร์ ๔ สาขา ๒๖. ทาํ ไมผู้ปกครองในยุโรปส่วนหน่ึงจึงไมพ่ ยายามยบั ยง้ั หรอื ตอ้ ตา้ นการปฏริ ปู ศาสนา ก. ตอ้ งการทําใหศ้ าสนาบรสิ ทุ ธ์ิขนึ้ ข. ตอ้ งการแสดงการมขี ันติธรรมทางศาสนา ค. ต้องการพ้นจากอํานาจของสันตะปาปา ง. ตอ้ งการปฏิรูปศาสนาให้สอดคลอ้ งกับความเชื่อใหม่ ๒๗. ข้อใดไม่ใช่แนวคิดทที่ าํ ใหโ้ ลกตะวนั ตกกา้ วเขา้ สยู่ คุ สมยั ใหมใ่ น C.๑๖ ก. การเนน้ ความสาํ คญั ของมนุษยใ์ นฐานะปัจเจกบคุ คล ข. การตอ่ สู้เพื่อแสวงหาความเสมอภาคของคนทุกระดับในสังคม ค. การแสวงหาความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางวตั ถุ ง. การตอ่ ตา้ นการครอบงาํ ของครสิ ตจกั ร ตุลาคม ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ๒๘. พระเยซตู ามความเข้าใจของอสิ าลมคอื ใคร ก. บุตรพระเจ้า ข. นะบคี นหน่ึง ค. ผู้ไถบ่ าปมนษุ ย์ ง. ทูตสวรรคอ์ งคห์ นง่ึ ๒๙. แมว้ า่ ปรัชญญาจีนมีหลายสาํ นกั แตก่ ใ็ ห้ความสาํ คญั ตรงกันในข้อใด ก. มีคณุ ธรรมของผปู้ กครองประเทศ ข. ความกตัญญรู ้คู ณุ ค. ความสําคญั ของการศึกษา ง. ความเข้มงวดในการใช้กฏหมาย ๓๐. ข้อใดไม่ใช่สาเหตทุ ที่ ําให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงทางสงั คมและเศรษฐกิจของโลกตะวนั ตกจากสมยั กลางสู่ สมยั ใหม่ ก. การฟืน้ ฟศู ิลปะวิทยาการ ข. การปฏิรปู ศาสนา ค. การสํารวจค้นพบดนิ แดนใหม่ ง. มีระบบเศรษฐกิจแบบพาณิชยนิยม ๓๑. เพราะเหตใุ ดอังกฤษจงึ เป็นประเทศแรกท่มี กี ารปฏวิ ัติอตุ สาหกรรม ก. มีทรพั ยากรน้าํ มันในอาณานคมิ ข. มรี ะบอบการปกครองท่ีเอ้ือตอ่ การลงทนุ ค. ไมม่ ขี อ้ จํากดั ด้านแรงงาน ง. มรี ะบบเศรษฐกจิ แบบพาณชิ ยนิยม ๓๒. การปฏิวตั ฝิ ร่ังเศสใน ๑๗๘๙ ก่อให้เกิดผลการเปลยี่ นแปลงทีส่ าํ คญั อยา่ งไร ก. ฝรัง่ เศสเปน็ ประชาธิปไตยอยา่ งเตม็ ท่ี ข. เกดิ แนวคดิ ชาตนิ ิยมในฝร่งั เศส ค. พลเมืองฝรัง่ เศสทกุ คนไดร้ ับสิทธเิ ลอื กตงั้ ง. มกี ารยกเลกิ ระบบอภสิ ิทธอิ์ ย่างเปน็ ทางการ ปี ๔๗ – ๕๓ (สรปุ รวมๆ) ๑. การทําลายลา้ ง การรา้ ง และคมุ้ ครองโลกกบั จักรวาล เปน็ บทบาทของเทพองคใ์ ด ก. พระพรหม ข. พระศวิ ะ ค. พระนารายณ์ ง. พระตรมี รู ติ

๑๔๐ บทท่ี ๕ ขอ้ สอบ O-Net Part V O-Net Examination ๒. ขอ้ ใดไม่ตรงกบั ปรมาตมัน ก. พรหมนั ข. โมกษะ ค. ชีวาตมัน ง. วญิ ญาณสากล ๓. ขอ้ ใดไม่ถกู ตอ้ งเกย่ี วกบั คมั ภรี อ์ ลั กรุ อ่าน ตามความเช่ือของชาวมสุ ลมิ ก. เปน็ คัมภรี ์สทุ ้ายและสงู สดุ ข. เป็นคัมภรี ท์ ี่สมบรู ณ์ท่ีสดุ ค. เป็ฯคมั ภีรท์ ีศ่ กั ดสิ์ ทิ ธ์ิทีแ่ กไ้ ขเพมิ่ เตมิ ไมไ่ ด้ ง. เป็นคัมภรี ท์ ี่พระเจา้ ทรงประทานใหน้ บกี ่อนหนา้ นบมี ฮู มั หมดั ๔. ขอ้ ความใดเกย่ี วขอ้ งกับนิกายในศาสนาอสิ ลามถกู ตอ้ งทีส่ ดุ ก. นกิ ายซุนนมี ีอบบู กั กาเปน็ คอลีฟะห์คนแรก ข. นกิ ายวาฮะบเี กิดข้ึนพรอ้ ม ๆ กับนกิ ายชอี ะฮ์ ค. นิกายชอี ะฮ์ถือว่าคอลฟี ะห์ต้องมาจากการเอกตง้ั เทา่ นั้น ง. ทุกนกิ ายแตกต่างกันเฉพาะผ้กู ่อตงั้ นกิ ายเทา่ นน้ั ๕. คาํ สอนของพระเยซไู มเ่ นน้ ในเร่ืองใด ก. การทาํ พิธีกรรมบชู าพระเจา้ ข. จริยธรรมในการดําเนินชีวติ ค. ความรักในพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ง. การเสยี สละโดยไมห่ วังผลตอบแทน ๖. ขอ้ ใดถกู ตอ้ งเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ ก. นิกายออโธดอกซ์เป็นนิกายทเี่ กา่ แก่ท่ีสดุ ข. นิกายคาธอลิกอนญุ าตใหพ้ ระชัน้ ผนู้ อ้ ยแตง่ งานได้ ค. นกิ ายโปรแตสเตนทเ์ ชอื่ วา่ ทุกคนสามารถตดิ ต่อกบั พระเจา้ ไดโ้ ดยตรง ง. นิกายคาธอลิก ออโธดอกซ์ และโปรแตสเตนท์ ต่างกเ้ คารพยกย่องพระมารดาพระเยซูว่าเป็ฯพระ แม่ ๗. พระพุทธเจา้ ต่างกับวทิ ยาศาสตรใ์ นดา้ นใด ก. การเนน้ หลกั เหตผุ ล ข. การมงุ่ ประโยชน์สขุ แกม่ นษุ ยชาติ ค. ความเชื่อในกฎแหง่ กรรม ง. ความเชอ่ื มั่นในศกั ยภาพทางปญั ญาของมนุษย์ ๘. อริยสัจ ๔ เป็นพืน้ ฐานของหลกั ธรรมทั้งหลายเพราะเหตุใด ก. เป็นหลกั แสดงถงึ กฎแหง่ กรรม ข. เปน็ หลกั แสดงถงึ การแกป้ ัญหาชวี ติ ค. เป้นหลักแสดงถงึ การแสวงหาความจริง ง. เป็นหลักแสดงถึงความเป็นเหตุเปน็ ผล ๙. ข้อใดเปน็ การคุ้มครองสทิ ธมิ นุษยชนท่เี ปน็ รปู ธรรมในประเทศไทย ก. การปราบปรามการกอ่ การรา้ ย ข. การปราบปรามบอ่ นการพนัน ค. การปราบปรามยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ง. การปราบปรามการค้าประเวณี

บทที่ ๕ ข้อสอบ O-Net ๑๔๑ Part V O-Net Examination ๑๐. เผดจ็ การอํานาจนิยม เผด็จการเบด็ เสร็จนยิ ม มคี วามแตกตา่ งกันในเรื่องใด ก. ทีม่ าของผู้ปกครอง ข. อาํ นาจของผูป้ กครอง ค. ความเสมอภาคของประชาชน ง. สิทธิและเสรภี าพของประชาชน ๑๑. ท่กี ลา่ วว่า ศลิ าจารึกสโุ ขทัย เปนหลักฐานปฐมภมู ิท่มี ีคณุ ค่า เพราะเหตุใด ก. เปน็ หลกั ฐานทางประวัติศาสตรท์ เ่ี ก่าแก่ทส่ี ุด ข. เป้ฯบนั ทึกลายลกั ษณอ์ ักษรทค่ี งทนถาวร ค. เป็นบนั ทกึ เหตุการณท์ ีเ่ กดิ จากความประสงคข์ องพระมหากษตั ริยใ์ นยุคนน้ั ง. เป็นหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ท่มี ีความสมบูรณ์ไมต่ อ้ งคน้ ควา้ จากหลักฐานอืน่ อกี ๑๒. ในยคุ คลาสสกิ จักรพรรดโิ รมนั สามารถสรา้ งสงั คมนานาชาตภิ ายใตก้ ฏหมายเดยี วได้โดยใชภ้ าษาใดรว่ มกนั ก. ภาษากรีก ข. ภาษาละติน ค. ภาษาฮบิ รู ง. ภาษาเฮลเลนกิ ๑๓. เพราเหตุใด จงึ กล่าววา่ แมกนา คารต์ า เปน็ รฐั ธรรมนญู ฉบับแรกของโลก ก. เพราะระบุถึงสทิ ธขิ ้นั พื้นฐานของมนุษย์ ข. เพราะระบถุ งึ สทิ ธิและเสรีภาพของประชาชน ค. เพราะระบุถึงกลไกในการปกครองประเทศ ง. เพราะระบถุ งึ อํานาจอธปิ ไตยที่มาจากมวลชน ๑๔. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะความโดดเด่นของสมยั กลาง ก. การกอ่ ตัง้ มหาวทิ ยาลยั ในยุโรปตะวันตก ข. การจดั การศึกษาดา้ นศลิ ปะศาสตร์อยา่ งมีระบบ ค. การมรี ะบบฝึกงานเพ่อื พฒั นาฝมี ือแรงงาน ง. การให้สทิ ธิเสมอภาคกันแกป่ ระชาชน ๑๕. เหตกุ ารณ์ทางประวัติศาสตรต์ ่อไปน้ี เรียงใหม่ตามลาํ ดับกอ่ นหลัง ๑. การปฏวิ ัติวิทยาศาสตร์ ๒. การฟืน้ ฟศู ิลปะวิทยาการ ๓. การปฏิรุปสมัยเมจิ ๔. สงครามฝ่ิน ก. ๑ ๓ ๔ ๒ ข. ๒ ๑ ๔ ๓ ค. ๔ ๑ ๓ ๒ ง. ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๖. ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตขุ องการลา่ อาณานคิ ม ก. ความต้องการแหล่งวัตถุดิบ ข. ความตอ้ งการสร้างความย่ิงใหญ่ของชาติและจกั รวรรดนิ ยิ ม ค. ความขัดแยง้ ในอดุ มการณท์ างการเมืองและเศรษฐกิจ ง. ความเชอื่ ของพวกจกั รวรรดนิ ยิ มในเรอ่ื ง ภาระคนขาว ๑๗. ปัจจัยข้อใดท่ีทาํ ใหก้ ารเรยี กรอ้ งเอกราชของอนิ เดียประสบผลสําเรจ็ ก. การรวมพลังชาตนิ ิยมของชาวฮินดู ข. การต่อสู้อยา่ งสงบโดยหลกั อหิงสา ค. การสนบั สนุนจากองค์การสหประชาชาติ ง. ความร่วมมอื กนั ระหว่างชาวฮนิ ดูและมสุ ลมิ

๑๔๒ บทที่ ๕ ข้อสอบ O-Net Part V O-Net Examination ๑๘. การถา่ ยทอดผลงานทางด้านจติ รกรรมแนวสจั นิยม ใน ครสิ ต์ศตวรรษที่ ๑๙ จติ รกรมวี ตั ถุประสงคส์ าํ คญั ใน ขอ้ ใด ก. เพื่อสะท้อนชวี ิตในสังคมอตุ สาหกรรม ข. เพือสง่ เสรมิ การเมืองการปกครองแบบประชาธปิ ไตย ค. เพอื่ สะท้อนความกา้ วหนา้ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ง. เพ่ือสะทอ้ นบทบาทของศาสนจักรท่มี อี ทธพิ ลตอ่ สงั คม ๑๙. เกณฑ์ใดที่ถอื ว่าเป็นชว่ งเวลาแหง่ การส้ินสุดของประวตั ิศาสตรส์ ากลสมัยใหม่ ก. การส้นิ สุดของสมยั จักรวรรดิ ข. การสิน้ สุดของ WW I ค. การสน้ิ สดุ WW II ง. การสิ้นสดุ cool war ๒๐. แนวคิดสอนของ ขงจอื้ เน้นความสาํ คัญในเรอื่ งใด ก. วิถีแหง่ ธรรมชาติ ข. การบชู าบรรพบรุ ษุ ค. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคนในสงั คม ง. ระเบยี บแบบแผนของการปกครอง ๒๑. กุศโลบายทางการเมืองใดทพ่ี ระมหากตั ริยส์ โุ ขทัยทรงใช้ในการดําเนนิ นโยบายเสรสิ สรา้ งความเป้น ปึกแผน่ ของอาณาจักร ก. การควบคุมกําลังคนให้เป้นหมวดหมู่ ข. การสร้างความสมั พันธใ์ นระบบเครือญาติ ค. การสถาปนารูปแบบการปกครองตามระบบศักดินา ง. การส่งพระโอรสไปปกครองหัวเมอื งประเทศราช ๒๒. การปฏริ ปุ การปกครองในสมัยสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถมลี กั ษณะอย่างไร ก. การกระจายอาํ นาจ และ แบง่ แยกหนา้ ที่ ข. รวมอํานาจเข้าศูนยก์ ลาง และ แบง่ แยกหน้าที่ ค. รวมอํานาจเข้าศนู ยก์ ลาง และ รวมหนา้ ท่ี ง. กระจายอํานาจ และ จดั ลาํ ดับขั้นการบังคบั บญั ชา ๒๓. การเปิดโอกาให้ชาวตา่ งชาตเิ ขา้ มาทํางานในประเทศไทยในสมัย ร.๓ ถงึ ร.๕ ทําให้ไทยไดร้ บั ประโยชน์ สงู สุดในเรอื่ งใด ก. เรียนรวู้ ิทยาการสมยั ใหม่ ข. เรยี นรรู้ ะบบการค้ากบั ประเทศตะวันตก ค. แกไ้ ขปญั หาเรอื่ งสทิ ธสิ ภาพนอกอาณาเขต ง. รอดพน้ จากการคุกคามของจกั รวรรดนิ ิยม ๒๔. เมลอื ก เปน็ ลูกทาสเกดิ ใหม่ และได้รบั อสิ ภาพโดยสมบูรณ์ตามกกหมายในปี ๒๔๓๒ แสดงวา่ อี เม ลือกเกดิ ปี พ.ศ. ใด ก. ปที ี่ ร.๕ เสดจ็ เถลิงถวลั ยร์ าชสมบตั ิ ข. ปีท่ี ร.๕ ทรงประกาศใช้ พรบ.ทาส ค. ปที ่ี ร.๕ ทรงประกาศใช้ พรบ.ทหาร ง. ปที ่ี ร.๕ ทรงประกาศใช้ พรบ.พิกัดเกษยี ณอายุลุกทาสลกู ไทย ๒๕. ภูมปิ ัญญาไทยกบั การจดั การทรพั ยากรนํา้ คือข้อใด ก. มาบ ข. บาราย ค. ชลมั พู ง. สรดี ภงส์

บทที่ ๕ ข้อสอบ O-Net ๑๔๓ Part V O-Net Examination ๒๖. องคป์ ระกอบของศาสนาท่ีมอี ยู่ในปจั จบุ ันคือข้อใด ก. ศาสดา และ นกั บวช ข. รปุ เคารพ และ ศาสนสถาน ค. นกั บวช และ ศาสนพิธี ง. ศาสนพิธี และ หลกั คาํ สอน ๒๗. พระพุทธศาสนา ศาสนาครสิ ต์ อสิ ลาม พราหมณ์ ฮนิ ดู มคี าํ สอนในเร่ืองเดยี วกนั ยกเว้นขอ้ ใด ก. หลักคาํ สอนเรื่องพระเจา้ ข. หลกั คําสอนเรื่องการเสยี สละ ค. หลกั จรยิ ธรรมและศลี ธรรม ง. หลักคาํ สอนเรอื่ งนรกสวรรค์ ๒๘. พธิ ใี ดที่ชาวคริสตน์ กิ ายคาธอลกิ กนิ ขนมปงั และดม่ื ไวน์ท่บี าทหลวงสง่ ให้ ก. ศลี กําลงั ข. ศีลล้างบาป ค. ศลี มหาสนทิ ง. ศีลแกบ้ าป ๒๙. ความรัก ความเมตตาระหว่างเพอื่ นมนุษย์ เป็นหลกั ธรรมสาํ คญั ของศาสนาใด ก. อิสลาม ข. ครสิ ต์ ค. ฮนิ ดู ง. พทุ ธ ๓๐. ในการละหมาดชาวมสุ ลมิ ในประเทศไทยตอ้ งทาํ อย่างไร ก. ต้องกระทําต้ังแตจ่ ําความไดเ้ ปน็ ตน้ ไป ข. ตอ้ งกระทาํ โดยหันหนา้ ไปทางทิศตะวนั ตก ค. ตอ้ งกระทําอยา่ งน้อยวันละ่ ๒ ครงั้ คอื เช้าและเย็น ง. ต้องกระทาํ ในมสั ยิดหรือศาสนสถาน ๓๑. หลกั การทม่ี คี วามสาํ คญั มากท่สี ุดของระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยคอื ก. หลกั เหตุผลในการตดั สินใจ ข. หลักความเสมอภาคทางการเมือง ค. หลกั สิทธเิ สรภี าพของพลเมือง ง. หลกั อาํ นาจอธปิ ไตยเป็นของประชาชน ๓๒. ข้อใดไมใ่ ช่ระบอบเผดจ็ การแบบเบ็ดเสรจ็ ก. เผด็จการทหาร ข. เผดจ็ การฟาสซสิ ต์ ค. เผด็จการนาซี ง. เผด็จการคอมมวิ นสิ ต์ ๓๓. การปกครองแบบประชาธิปไตยของไทยไดร้ ับอทิ ธพิ ลมาจากประเทศใด ก. องั กฤษ ข. อินเดยี ค. ฝรัง่ เศส ง. สหรฐั อเมริกา ๓๔. พัฒนาการของมนษุ ยชาตใิ นการคดิ สร้าง และทาํ เพ่อื ความอยรู่ อดในการดาํ รงชวี ิตเกดิ ข้นึ คร้งั แรกในยคุ ใด ก. ยุคหนิ เกา่ ข. ยุคสาํ รดิ ค. ยุคเหล็ก ง. ยุคโลหะ ๓๕. ขอ้ ใดเป็นจดุ เริม่ ต้นของยุคประวัตศิ าสตร์ ก. ร้จู กั ใชไ้ ฟ ข. รู้จักการเพาะปลกู ค. รู้จักตงั้ ถนิ่ ฐาน ง. รู้จกั บันทกึ ข้อความ ๓๖. หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ขอ้ ใดจดั วา่ เปน็ หลักฐานชน้ั ตน้ ก. พระพทุ ธรุป ข. พระไตรปิฏก ค. จดหมายเหตวุ นั วลติ ง. เคร่ืองปนั้ ดนิ เผาบา้ นเชียง

๑๔๔ บทที่ ๕ ขอ้ สอบ O-Net Part V O-Net Examination ๓๗. วิธีการในขอ้ ใดที่เปน็ การนาํ เสนอขอ้ เท็จจริงทางประวตั ศิ าสตร์ให้เป็นเรือ่ งราว ก. การค้นควา้ และ การตคี วาม ข. การวเิ คราะห์ และ การสงั เคราะห์ ค. การตีความ และ การสังเคราะห์ ง. การรวบรวมขอ้ มลู และ การวเิ คราะห์ ๓๘. ขอ้ ใดจดั ลําดับการบันทกึ เร่อื งราวในอดตี ได้ถกู ต้องท่ีสุด ก. พงศาวดาร ตาํ นาน ประวัตศิ าสตร์ ข. ตํานาน ประวตั ิศาสตร์ พงศาวดาร ค. ตาํ นาน พงศาวดาร ประวัตศิ าสตร์ ง. พงศาวดาร ประวตั ศิ าสตร์ ตาํ นาน ๓๙. สวุ รรณภมู ิ ในหลกั ฐานของอนิ เดียหมายถึงภูมภิ าคใด ก. เอเชียใต้ ข. เอเชียตะวันออก ค. เอเชยี ตะวันตกเฉียงใต้ ง. เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ๔๐. ข้อใดเปน็ มรดกทางอารยธรรมของโรมนั ทีถ่ า่ ยทอดมาสชู่ าติต่าง ๆ ในโลกยคุ ปจั จบุ นั ก. ระบอบประชาธิปไตย ข. ระบบรฐั ธรรมนญู ค. ระบบกฎหมาย ง. ระบบศกั ดนิ าสวามิภักด์ิ ๔๑. สงครามครูเสดกอ่ ให้เกดิ ผลดตี อ่ สงั คมโลกในด้านใด ก. ศาสนาครสิ ตเื ผยแพรเ่ ขา้ มาในทวปี เอเชยี ข. ศาสนาอิสลามมโี อกาสเขา้ มาเผยแผ่ในทวีปยุโรป ค. ทาํ ใหเ้ กดิ การผสมผสานกลมกลืนระหว่างเชอ้ื ชาตมิ ากขึ้น ง. ทาํ ใหเ้ กดิ การขยายตวั ทางการคา้ ระหว่างโลกตะวันตกกับตะวันออก ๔๒. ขอ้ ใดเปน็ ปัจจยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การปฏวิ ตั ิทางวิทยาศาสตร์ ก. การฟน้ื ฟศู ิลปะวิทยาการ ข. การขยายตัวทางการคา้ ค. ความต้องการสินค้าอตุ สาหกรรม ง. กาเพ่ิมขึ้นของจาํ นวนประชากร ๔๓. สถาปัตยกรรมแบบบารอค ปรากกในงานกอ่ สร้างแบบใด ก. พระราชวังบกั กิงแฮม ข. พระราชวงั แวรซ์ ายส์ ค. มหาวหิ ารเซนต์ปเี ตอร์ ง. มหาวิหารเซนตป์ อล ๔๔. ชาวมุสลมิ ในประเทศไทยสว่ นใหญน่ ับถอื นิกายอะไร ก. ซฟุ ี ข. ชอี ะฮ์ ค. วาฮาบี ง. ซนุ นี ๔๕. พีธซี ะกาต ของศาสนาอสิ ลามมีความมุ่งหมายใหช้ าวมสุ ลมิ รจู้ กั อะไร ก. การให้อภยั ข. การแบ่งปนั ค. ความยุตธิ รรม ง. ความอดทน ๔๖. คมั ภีร์พระเวทใดเกา่ แก่ท่ีสุด ก. ฤคเวท ข. ยชรุ เวท ค. สามเวท ง. อถรรพเวท ๔๗. วนั ศุกรศ์ ักด์ิสทิ ธิ์ (Good Friday) ของครสิ ตศ์ าสนกิ ชนหมายถงึ วนั ใด ก. วันทพ่ี ระเยซสู ้นิ พระชนม์ ข. วนั ที่พระเยซคู นื พระชมน์ ค. วันที่พระเยซปู ระกาศศาสนา ง. วนั ทพี่ ระเยซเู สด็จกลบั สสู่ วรรค์ ๔๘. พระเยซทู รงเตอื นวา่ จงรกั เพ่ือบา้ นเหมอื นรกั ตนเอง เพอื่ นบ้านในท่ีนห้ี มายถึงใคร ก. มนุษยท์ ุกคน ข. ผนู้ ับถอื ศาสนาอืน่ ค. สาวกของพระเยซู ง. คริสตศาสนิกชนทุกคน ๔๙. พธิ เี ข้าเป็นพุทธมามกะเปรยี บได้กบั พธี ีใดในศาสนาครสิ ต์ ก. ศีลมหาสนทิ ข. ศีลล้างบาป ค. ศลี กาํ ลัง ง. ศลี แกบ้ าป

บทที่ ๕ ขอ้ สอบ O-Net ๑๔๕ Part V O-Net Examination ๕๐. การท่ีผูป้ กครองประเทศตดั สนิ ใจดาํ เนนิ การเรื่องใดเรื่องหนึง่ โดยคาํ นงึ ถึงคาวามเหน็ ของคนสว่ นใหญเ่ ปน็ การตดั สนิ ใจตามหลักการใดในพระพทุ ธศาสนา ก. อัตตาธิปไตย ข. โลกาธิปไตย ค. ธรรมาธิปไตย ง. ประชาธปิ ไตย ๕๑. ประเทศใดมีประมขุ ของรฐั แบบเดยี วกนั ก. ญ่ปี ุ่น เกาหลี ข. อังกฤษ ฝร่ังเศส ค. เวียดนาม กัมพชู า ง. อนิ โดนเี ซีย ฟลิ ิปปนิ ส์ ๕๒. ความสาํ เรจ็ ของการปกครองแบบประชาธิปไตยขึน้ กับปจั จัยสาํ คญั ขอ่ ใดมากท่สี ดุ ก. การมรี ัฐธรรมนญู เปน็ หลักในการปกครองประเทศ ข. การกําหนดสทิ ธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเหมาะสม ค. การมีสว่ นรว่ มทางการเมอื งของประชาชนอย่างกว้างขวาง ง. การกําหนดขอบเขตอํานาจของสถาบนั การเมอื งอย่างรดั กุม ๕๓. จดุ อ่อนในการบริหารประเทศตามระบอบเผด็จการตรงกบั ขอ้ ใด ก. มคี า่ ใชจ้ า่ ยสูง ข. ดาํ นเนิการยาก ค. ขาดความเป็นเอกภาพ ง. เกดิ ความผดิ พลาดได้ง่าย ๕๔. พระมหากษตั รยิ ์ในระบบรัฐสภาทรงมีฐานะใด ก. องคอ์ ธปิ ตั ย์ ข. ผู้นาํ แห่งรัฐ ค. ประมขุ แหง่ รฐั ง. ผปู้ กครองประเทศ ๕๕. การเปลยี่ นแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ กอ่ ใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลงหลายอยา่ งยกเว้นขอ้ ใด ก. รูปแบบรฐั ข. ผู้บรหิ ารประเทศ ค. ระบอบการปกครอง ง. เจา้ ของอาํ นาจอธปิ ไตย ๕๖. ขอ้ ใดเปน็ เคร่ืองมือเครอ่ื งใช้ท่ีแสดงใหเ้ หน็ การสร้างสรรค์อารยธรรมท่ีเปน็ เอกลักษณข์ องมนุษยย์ คุ หนิ ได้ ชัดเจนที่สุด ก. ขวานหินขัด ข. เครือ่ งดนตรสี ําริด ค. ภาชนะเคร่ืองป้ันดินเผา ง. การใช้กระดุกสตั ว์ เขาสตั วเ์ ป็นอาวุธ ๕๗. ขอ้ ใดเปน็ จดุ เริม่ ตน้ ของยคุ โลหะ ก. การหลอมดีบกุ ข. การหลอมทองแดง ค. การหลอมเหลก็ ง. การหลอมสํารดิ ๕๘. การศกึ ษาประวัตศิ าสตร์แหลง่ อารยธรรมลมุ่ นํ้าสนิ ธตุ อ้ งศึกษาจากหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรข์ ้อใด ก. คมั ภีรพ์ ระเวท ข. เมอื งโบราณโมเฮนโจดาโร และ ฮารปั ปา ค. มหากาพยร์ ามายณะ และมหาภารตะ ง. เสาศลิ าจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช ๕๙. ภมู ิภาคใดไดร้ ับอทิ ธิพลดา้ นการเมอื งการปกครองของอารยธรรมอินเดีย ก. เอเชยี กลาง ข. เอเชียตะวันออก ค. เอเชียตะวนั ตกเฉียงใต้ ง. เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ๖๐. ขอ้ ใดไมเ่ กีย่ วข้องกับการฟนื้ ฟูศลิ ปวทิ ยา ก. การยกย่องความสามารถของมนุษย์ ข. การเน้นความเป็นปัจเจกชน ค. การร้อื ฟ้ืนความเชอื่ ทางศาสนา ง. การคนื กลบั มาของอารยธรรมกรีก

๑๔๖ บทที่ ๕ ข้อสอบ O-Net Part V O-Net Examination ๖๑. สมัยสุโขทยั สามารถเทียบกบั สมยั ประวัตศิ าสตรส์ ากลในข้อใด ก. สมยั แห่งการคน้ พบและสาํ รวจ ข. สมยั แห่งสงครามเพโลพอนนเี ซยี น ค. สมยั แห่งจกั รวรรดิโรมันตะวันตกลม่ สลาย ง. สมยั จักรวรรดคิ อนสแตนตโิ นเปลิ ๖๒. ประวตั ศิ าสตร์ยโุ รปตะวนั ตกร่วมสมยั เรมิ่ ตน้ เม่ือไหร่ ก. ภายหลงั WW I ข. ภายหลงั WW II ค. ภายหลัง cold war ง. ภายหลังสหภาพโซเวยี ต ๖๓. องคป์ ระกอบใดจาํ แนกศาสนาเป็นอเทวนยิ ม เทวนิยม เอกเทวนิยม ก. ศาสนา ข. พิธกี รรม ค. ความเชื่อ รุปเคารพ ๖๔. ดินแดนศกั ดส์ิ ิทธ์ขิ องศาสนายดู ายและครสิ ตค์ ือขอ้ ใด ก. ไคโร ข. เมกกะ ค. แบกแดด ง. ปาเลสไตน์ ๖๕. ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ วามเชอื่ ในครสิ ตศ์ าสนาเกี่ยวกบั พระเยซู ก. เป็นสภาวะหนึง่ ของพระเจา้ ข. เป็นศาสดาผกู้ ่อตั้งศาสนาครติ ส์ ค. เป็นผูส้ ละชีวิตเพือ่ ไถบ่ าปใหม้ นษุ ยชาติ ง. เป็นผูร้ บั มอบบญั ญตั ิ ๑๐ ประการจากพระเจา้ ๖๖. ศาสนาใด มคี วามเช่อื เรอื่ ง วันพพิ ากษา ก. พราหมณ์ ฮินดู ข. อิสลาม คริสต์ ค. ฮินดู อสิ ลาม ง. คริสต์ พราหมณ์ ๖๗. ขอ้ ใดคอื ขน้ั ตอนแรกของวธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ ก. การคน้ หาขอ้ มลู รวบรวมข้อมลู ข. การต้งั คําถาม กําหนดประเดน็ ของการศกึ ษา ค. การอธบิ ายทีม่ ีเหตุผล มคี ําตอบทช่ี ดั เจน ง. การแสวงหาความหมาย ความสมั พนั ธ์ของข้อมลู ๖๘. สถาปตั ยกรรมกรีกทไี ด้รับการยกยอ่ งมากทส่ี ดุ เปน็ สถาบตั ยกรรมประเภทใด ก. วหิ ารหินออ่ น ข. โรงมหรสพขนาดใหญ่ ค. โบสถ์รปู แปดเหลยี่ ม ง. พระราชวังที่มขี นาดใหญ่ ๖๙. ดนิ แดนสว่ นใดของโลกตะวนั ออกที่มคี วามก้าวหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์มากทส่ี ดุ ในชว่ งคริสต์วรรษท่ี ๘ – ๑๓ ก. จนี ข. อินเดยี ค. เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ง. เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ๗๐. ภายหลังการปฏิวตั ิโคน่ ลม้ ราชวงศช์ ิง จนี ไดเ้ ปลีย่ นแปลงการปกครองไปสู่ระบอบใด ก. ระบอบสงั คมนยิ ม ข. ระบอบเผด็จการทางทหาร ค. ระบอบคอมมวิ นสิ ต์ ง. ระบอบประชาธปิ ไตย

บทท่ี ๕ ขอ้ สอบ O-Net ๑๔๗ Part V O-Net Examination ๗๑. โครงสรา้ งการแบง่ อํานาจในรบั ธรรมนญู ของสหรฐั อเมริกา ๑๗๘๗ ได้รบั อิทธิพลจากแนวคดิ ของนัก ปรชั ญาคนใด ก. รสุ โซ ข. วอลแตร์ ค. จอฟ์น ล๊อก ง. มองเตสกิเออ ๗๒. ประเทศคู่ใดมคี วามขดั แยง้ กันเน่ืองมาจากประเด็นทางศาสนา ก. เกาหลี กบั ญ่ปี นุ่ ข. สเปน กบั โปรตเุ กส ค. ฝรั่งเศส กบั เยอรมนี ง. อินเดีย กบั ปากีสถาน ๗๓. สงครามโลกครัง้ ท่ี ๒ แตกตา่ งจากสงครามโลกครัง้ ท่ี ๑ อยา่ งชดั เจนในประเดนใด ก. การเขา้ ร่วมสงครามของอเมรกิ า ข. การทสี่ หภาพโซเวยี ตไม่ได้เขา้ ร่วมสงคราม ค. การขยายพืน้ ทข่ี องสมรภมู ิและความร้ายแรงของอาวุธ ง. การยตุ ิความขดั แย้งและจัดตั้ง องคก์ ารระหวา่ งประเทศ ๗๔. ขอ้ ใดคือความหมายทีแ่ ท้จรงิ ของสงครามเย็น ก. การแบ่งกลุ่มประเทศพัธมติ ร และกลมุ่ ประเทศอักษะ ข. การต่อสรู้ ะหวา่ งอดุ มการณป์ ระชาธิปไตยกับอดุ มการณค์ อมมวิ นสิ ต์ ค. การตอ่ สู้และแข่งขันในการสร้างอาวุธนวิ เคลยี ร์ระหวา่ ง USA VS USSR ง. การแบง่ กลมุ่ ประเทสผฝู้ ักใฝอ่ เมรกิ ากบั กล่มุ ประเทศผฝู้ ักใฝโ่ ซเวียต ๗๕. ขอ้ ใดคือแนวคดิ เรื่องถนิ่ กําเนิดของชนชาติไทยท่ี นปศ. ในปจั จบุ ันไม่ยอมรับ ก. อยทู่ างใตข้ องประเทศไทย ข. อยบู รเิ วณเทือกเขาอลั ไต ค. อยบู่ รเิ วณทางตอนใตข้ องจนี ง. อยู่บรเิ วณประเทศไทยปัจจบุ ัน ๗๖. จากหลักฐานทาง ปศ. ใครเปน้ ผรู้ เิ รม่ิ ความคดิ เรอ่ื งการปกครองโดยพระมหากษตั ริยภ์ ายใต้ รธน. ก. พระมหากษตั รยิ ์ ข. เจา้ นายและขนุ นาง ค. นายทหารสญั ญาบตั ร ง. ชนชัน้ กลางและปญั ญาชน ๗๗. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะการค้ากบั ตา่ งประเทศในสมัยอยธุ ยา ก. เป็นการผูกขาดการค้าโดยพระคลงั สินค้า ข. เป็นการผกู ขาดโดยขนุ นางระดับสงู ค. เป็นการคา้ เสรโี ดยไมก่ ดี กันชาวต่างชาติ ง. เป็นการค้าเสรภี ายใตก้ ารควบคมุ ของขุนนาง ๗๘. ศาสนาพราหมณช์ ่วงท่เี ปลีย่ นเปน็ เอกเทวนิยมนบั ถือสิ่งใดเปน็ ส่งิ ศักด์ิสทิ ิสุงสุด ก. โมกษะ ข. พระเวท ค. พรหมัน ง. ตรมี ูรติ ๗๙. ในชว่ งแรก ชาวยิวเชือ่ วา่ พระเยซูคอื ใคร ก. เมสสิอาห์ ข. ศาสดาพยากรณ์ ค. พระบุตรของพระเจ้า ง. พระเจ้า ๘๐. ชนชาตใิ ดเขา้ สยู่ คุ ประวัตศิ าสตรเ์ ป้ฯกลุม่ แรก (ในโลกตะวันตก) ก. อียปิ ต์ ข. สเุ มเรยี น ค. เปอร์เซีย ง. บาบโิ ลเนยี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook