โดยมองว่าเป็น “ศิษย์ของเรา” มากกว่ามองว่า “ศิษย์ของฉัน”และการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการ จัดการเรยี นรทู้ ่ีเริม่ จาก“การเรียนรู้ของครู” เป็นตวั ตงั้ ต้นเรยี นรูท้ ่ีจะมองเห็นการปรับปรุง เปล่ียนแปลง พัฒนาการจัดการเรียนรู้ของตนเอง เพื่อผู้เรียนเป็นสาคัญอย่างไรก็ตามการรวมตัวการเรียน การ เปลี่ยนแปลงใดๆ เป็นไปได้ยากที่จะทาเพียงลาพังหรือเพียงนโยบายเพ่ือให้เกิดการขับเคลื่อนทั้งระบบ โรงเรยี น จึงจาเป็นต้องสรา้ งความเปน็ PLC ทส่ี อดคล้องกับธรรมชาติทางวิชาชีพร่วมในโรงเรยี น ย่อมมี ความเป็นชุมชนที่สัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น (Senge, 1990) ชุมชนท่ีสามารถขับเคล่ือนให้เกิดการ เปล่ียนแปลงทางวิชาชีพได้นั้น จึงจาเป็นต้องมีอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขทางวิชาชีพ มีฉันทะ และ ศรัทธาในการทางาน “ครูเพื่อศิษย์ร่วมกัน” บรรยากาศการอยู่ร่วมกันจึงเป็นบรรยากาศ “ชุมชน กัลยาณมิตร ทางวิชาการ” (สุรพล ธรรมร่มดี, ทัศนีย์ จันอินทร์, และ คงกฤช ไตรยวงศ์, 2553) ท่ีมี ลักษณะความเป็นชุมชนแห่งความเอื้ออาทรอยู่บนพ้ืนฐาน “อานาจเชิงวิชาชีพ” และ “อานาจ เชิงคุณธรรม” (Sergiovanni, 1994) เป็นอานาจท่ีสร้างพลังมวลชนเริ่มจากภาวะผู้นาร่วมของครู เพือ่ ขบั เคลื่อนการ ปรับปรงุ และพฒั นาสถานศกึ ษา (Fullan, 2005) กล่าวโดยสรุป PLC หมายถึง การรวมตัว ร่วมใจร่วมพลัง ร่วมทา และร่วมเรียนรู้ ร่วมกันของครูผู้บริหาร และนักการศึกษา บนพื้นฐานวัฒนธรรมความสัมพันธ์แบบกัลยาณมิตร มีวิสยั ทศั น์ คุณค่า เป้าหมายและภารกิจรว่ มกนั โดยทางานร่วมกันแบบทีม เรยี นรู้ที่ครูเป็นผนู้ าร่วมกัน และผู้บริหารแบบผู้ดูแลสนับสนุนสู่การเรียนรู้และพัฒนาวิชาชีพเปลี่ยนแปลงคุณภาพตนเอง สู่คุณภาพการจัดการเรียนรู้ที่เน้นความสาเร็จหรือประสิทธิผลของผู้เรียนเป็นสาคัญและความสุขของ การทางานร่วมกนั ของสมาชกิ ในชุมชนการเรียนรู้ ชุมชนแห่งกำรเรยี นรู้ทำงวชิ ำชพี (PLC) มคี วำมสำคญั อย่ำงไร ความสาคัญของ PLC จากผลการวิจัยโดยตรงของที่ยืนยันว่าการดาเนินการใน รูปแบบ PLCนาไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพท้ังด้านวิชาชีพและผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนจากการ สังเคราะห์รายงานการวิจัยเก่ียวกับโรงเรียนที่มีการจัดตั้ง PLC โดยใช้คาถามว่าโรงเรียนดังกล่าวมี ผลลพั ธ์อะไรบ้าง ทแ่ี ตกต่างไปจากโรงเรียนท่วั ไปท่ีไม่มชี ุมชนแหง่ วชิ าชพี และถ้าแตกต่างแลว้ จะมผี ลดี ตอ่ ครูผูส้ อนและต่อนกั เรยี นอย่างไรบ้างซง่ึ มีผลสรปุ 2 ประเด็นดังน้ี ประเด็นท่ี 1 ผลดีต่อครูผู้สอนพบว่า PLC ส่งผลต่อครูผู้สอนกล่าวคือลดความรู้สึก โดดเด่ียวงานสอนของครูเพ่ิมความรู้สึกผูกพันต่อพันธกิจและเป้าหมายของโรงเรียนมากขึ้น โดยเพ่ิม ความกระตือรือร้นที่จะปฏิบัติให้บรรลุพันธกิจอย่างแข็งขัน จนเกิดความรู้สึกว่าต้องการร่วมกันเรียนรู้ และรับผิดชอบตอ่ พัฒนาการโดยรวมของนักเรยี นถือเป็นพลังการเรียนรู้ซึง่ สง่ ผลให้การปฏบิ ัติการสอน ในช้ันเรียนให้มีผลดีย่ิงขึ้น กล่าวคือมีการค้นพบความรู้ และความเชื่อที่เก่ียวกับวิธีการสอนและตัว ผู้เรียนซ่ึงที่เกิดจากการคอยสังเกตอย่างสนใจรวมถึงเข้าใจในด้านเนื้อหาสาระ ท่ีต้องจัดการเรียนรู้ได้ แตกฉานยิ่งข้ึนจนตระหนักถึงบทบาทและพฤติกรรมการสอนท่ีจะช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี ทีส่ ดุ อกี ทั้งการรับทราบขอ้ มูลสาระสนเทศต่างๆ ท่ีจาเป็นตอ่ วิชาชีพไดอ้ ย่างกว้างขวาง และรวดเรว็ ขึ้น ส่งผลดีต่อการปรับปรุงพัฒนางานวิชาชีพได้ตลอดเวลา เป็นผลให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาและ อุทิศตนทางวิชาชีพเพ่ือศิษย์ ซ่ึงเป็นทั้งคุณค่าและขวัญกาลังใจต่อการปฏิบัติงานให้ดีย่ิงข้ึนที่สาคัญคือ ยังสามารถลดอัตราการลาหยุดงานน้อยลง เมื่อเปรียบเทียบกับ โรงเรียนแบบเก่ายังพบว่ามี ความก้าวหน้าในการปรับเปล่ียนวิธีการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับลักษณะผู้เรียนได้อย่างเด่นชัด รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 44 หลักสตู รการวจิ ยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวิชาชพี สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
และรวดเร็วกว่าที่พบในโรงเรียนแบบเก่า มีความผูกพันท่ีจะสร้างการเปล่ียนแปลงใหม่ ๆ ให้ปรากฏ อย่างเด่นชดั และย่งั ยนื ประเด็นท่ี 2 ผลดีต่อผู้เรียนพบว่า PLC ส่งผลต่อผู้เรียนกล่าวคือสามารถลดอัตราการ ตกซ้าช้ัน และจานวนช้ันเรียนท่ีต้องเล่ือนหรือชะลอการจัดการเรียนรู้ให้น้อยลง อัตราการขาดเรียน ลดลงมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นในวิชาวิทยาศาสตร์ประวตั ิศาสตร์และวิชาการอ่านท่ีสูงข้นึ อย่างเด่นชัด เม่ือเทียบกับโรงเรียนแบบเก่าสุดท้ายคือมี ความแตกต่างด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างกลุ่ม นักเรียนที่มีภูมิหลังไม่เหมือนกันและลดลงชัดเจนกล่าวโดยสรุป คือ PLC มีพัฒนาการมาจากกลยุทธ์ ระดับองค์กรที่มุง่ เน้นให้องคก์ รมีการปรับตัวต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่เกิดขึน้ อย่างรวดเร็ว โดยเร่ิมพัฒนาจากแนวคิดองค์กรแห่งการเรียนรู้และปรับประยุกต์ให้มีความสอดคล้องกับบริบทของ โรงเรียนและการเรียนรู้ร่วมกันในทางวิชาชีพ ท่ีมีหน้างานสาคัญคือความรับผิดชอบการเรียนรู้ของ ผู้เรียนร่วมกันเป็นสาคัญจากการศึกษาหลายโรงเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกาดาเนินการในรูปแบบ PLC พบว่าเกิดผลดที างวชิ าชีพครู และผูเ้ รยี นที่มงุ่ พัฒนาการของผู้เรยี นเป็นสาคญั กลยุทธ์ในกำรจัดกำรและใช้ชุมชนแห่งกำรเรียนทำงรู้วิชำชีพ (PLC) อย่ำง ยั่งยืนเป็นอย่ำงไร 1. เร่ิมตน้ ด้วยขนั้ ตอนง่ำย ๆ (Take a baby steps) โดยเรม่ิ ต้นจากการกาหนด เปา้ หมาย อภปิ ราย สะท้อนผล แลกเปล่ยี นกับคนอืน่ ๆ เพ่ือกาหนดว่า จะดาเนนิ การอย่างไร โดย พิจารณาและสะทอ้ นผลในประเด็นต่อไปน้ี 1.1 หลักการอะไรท่ีจะสร้างแรงจูงใจในการปฏิบตั ิ 1.2 เราจะเร่ิมต้นความรใู้ หม่อยา่ งไร 1.3 การออกแบบอะไรทีพ่ วกเราควรใชใ้ นการตรวจสอบหลักฐานของการ เรียนร้ทู ีส่ าคญั 2. กำรวำงแผนด้วยควำมร่วมมือ (Plan Cooperatively) สมาชกิ ของกล่มุ กาหนดสารสนเทศทต่ี อ้ งใช้ในการดาเนนิ การ 3. กำรกำหนดควำมคำดหวังในระดับสูง (Set high expectations) และ วิเคราะห์การสอนสบื เสาะหาวธิ ีการทีจ่ ะทาให้ประสบผลสาเร็จสงู สดุ 3.1 ทดสอบข้อตกลงทเี่ กยี่ วข้องกบั การสอนหลงั จากได้มีการจดั เตรียม ต้นแบบที่เป็นการวางแผนระยะยาว (Long-term) 3.2 จดั ใหม้ ชี ว่ งเวลาของการชแ้ี นะ โดยเนน้ การนาไปใชใ้ นชัน้ เรียน 3.3 ใหเ้ วลาสาหรับครทู ่ีมคี วามยงุ่ ยากในการสงั เกตการณ์ปฏิบตั ิในช้ันเรยี น ของครทู สี่ รา้ งบรรยากาศในการเรยี นรอู้ ย่างประสบผลสาเร็จ 4. เรมิ่ ตน้ จำกจุดเลก็ ๆ (Start small) เรมิ่ ต้นจากการใชก้ ลมุ่ เลก็ ๆ ก่อน แลว้ ค่อย ปรับขยาย 5. ศึกษำและใช้ข้อมูล (Study and use the data) ตรวจสอบผลการนาไปใช้ และการสะท้อนผลเพอ่ื นามากาหนดวา่ แผนไหน ควรใช้ต่อไป/แผนไหนควรปรับปรุงหรือยกเลิก รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 45 หลกั สตู รการวิจยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรียนรูท้ างวชิ าชีพ สานกั งาน กศน.จงั หวัดหนองคาย
6. วำงแผนเพื่อควำมสำเร็จ (Plan for success) เรยี นร้จู ากอดีต ปรบั ปรุงหรือ ปฏิเสธในส่ิงทไ่ี มส่ าเรจ็ และทาต่อไป ความสาเร็จในอนาคต หรอื ความลม้ เหลวข้นึ อยู่กบั เจตคติและ พฤติกรรมของครู 7. นำส่สู ำธำรณะ (Go public) แผนไหนทสี่ าเรจ็ ก็จะมีการเชญิ ชวนให้คนอื่นเขา้ มามีสว่ นรว่ ม ยกยอ่ งและแลกเปลีย่ นความสาเรจ็ 8. ฝกึ ฝนร่ำงกำยและหล่อเลี้ยงสมอง (Exercise the body & nourish the brain) จัดกิจกรรมทไ่ี ด้มกี ารเคลอื่ นไหวและ เตรยี มครูท่ที างานสาเร็จของแต่ละกลุ่มโดยมีการจดั อาหาร เคร่ืองดื่มท่มี ปี ระโยชน์ รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 46 หลักสตู รการวจิ ัยพัฒนาการเรยี นการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวชิ าชพี สานักงาน กศน.จงั หวดั หนองคาย
บทท่ี 3 วธิ ีดำเนนิ งำนกำรประเมนิ ในการดาเนินงานการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย ระหว่างวันที่ 17 – 19 พฤษภาคม 2564 ณ โรงแรมพารค์ แอนด์ พลู รีสอรท์ อาเภอเมอื งหนองคาย จงั หวัดหนองคาย ผู้จัดทาไดน้ าเสนอตามหวั ขอ้ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. การกาหนดประชากร 2. เครื่องมอื ท่ใี ช้ในการเกบ็ ข้อมลู 3. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 4. การวิเคราะหข์ ้อมูลและสถิติทีใ่ ชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมลู 1. กำรกำหนดประชำกร ในการดาเนนิ โครงการฯ ในคร้ังนผ้ี ู้จัดทาใชว้ ิธกี ารเลือกกลุ่มตวั อยา่ งของประชากร โดยใช้วธิ ี เลอื กประชากรแบบเจาะจง คือ ผสู้ มัครเขา้ รบั การพฒั นาจากท่ัวประเทศ จานวน 44 คน ดงั นั้น การประเมินผลการดาเนินในครัง้ น้ี ใช้กลมุ่ ตวั อย่างทัง้ ส้นิ จานวน 44 คน 2. เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นกำรเก็บรวบรวมข้อมูล เครอื่ งมอื ท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ในครัง้ นี้ คณะผจู้ ัดทาไดอ้ อกแบบเครื่องมือที่ใช้ ดาเนนิ การจัดทาเครอื่ งมือการประเมินเปน็ แบบสอบถามความร้คู วามเขา้ ใจจานวน 3 สว่ น เพ่ือให้ได้ ขอ้ มูลที่ครบถ้วนสมบรู ณแ์ ละครอบคลุมเน้ือหา สอดคล้องกับวตั ถปุ ระสงค์ของการประเมิน ขั้นตอนการสรา้ งเครื่องมือ 1. ศึกษากิจกรรม/โครงการที่เกย่ี วขอ้ ง ถึงวตั ถปุ ระสงคข์ องการจัดโครงการเพื่อหา แนวทางในการต้ังประเดน็ คาถาม เพื่อให้ได้คาตอบทีถ่ ูกตอ้ งตรงประเด็นและนาไปพฒั นา ปรบั ปรุงใน การจัดโครงการให้เกิดประสิทธิภาพในคร้งั ต่อไป 2. จดั พิมพร์ า่ งแบบประเมินความรคู้ วามเขา้ ใจตามแนวทางท่ศี ึกษา 3. นาร่างแบบประเมินความรู้ความเข้าใจเสนอหัวหน้ากลมุ่ เพ่อื พจิ ารณาถึงความ เหมาะสมครอบคลุมกจิ กรรม/โครงการตามวัตถุประสงคท์ กี่ าหนดไว้ 4. แกไ้ ขปรับปรงุ ตามข้อเสนอแนะ 5. จัดทาแบบประเมินโดยการใช้ Google Forms สรา้ ง QR Code เพ่ือนาไปใช้เก็บ ขอ้ มลู เครื่องมือทใี่ ชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูล แบง่ ออกเปน็ 3 ส่วน ดังน้ี 1. แบบประเมินความพึงพอใจหลักสูตรเพื่อการพัฒนาครูและบุคลากรทางการ ศึกษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชน แห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชพี 1.1 ข้อมูลท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม เปน็ สอบถามเกยี่ วกบั ข้อมลู สว่ น บคุ คลของประชากรกลุ่มเป้าหมาย จานวน 3 ขอ้ เปน็ แบบสอบถามแบบให้เลือกตอบ (Checklist) รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. หลกั สตู รการวิจัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชพี สานกั งาน กศน.จงั หวดั หนองคาย
1.2 ระดับความพึงพอใจ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับระดับความพึงพอใจ ของผู้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นข้อคาถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) รวมจานวน 12 ข้อคาถาม 1.3ความคดิ เหน็ เพ่มิ เตมิ เปน็ ข้อคาถามแบบปลายเปดิ (Open Ended) จานวน 2 ข้อ 2. แบบประเมินความพึงพอใจวิทยากรหลักสูตรเพื่อการพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ 2.1 ขอ้ มูลทว่ั ไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม เป็นสอบถามเก่ยี วกบั ข้อมูลสว่ น บคุ คลของประชากรกลมุ่ เป้าหมาย จานวน 3 ขอ้ เปน็ แบบสอบถามแบบใหเ้ ลือกตอบ (Checklist) 2.2 ระดับความพึงพอใจ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับระดับความพึงพอใจ ของผู้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นข้อคาถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) รวมจานวน 7 ขอ้ คาถาม 1.3ความคดิ เห็นเพ่ิมเตมิ เปน็ ข้อคาถามแบบปลายเปิด (Open Ended) จานวน 1 ข้อ 3. การเปรียบเทียบค่าร้อยละคะแนนกอน-หลังรับการพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศกึ ษาสายงานการสอน หลักสูตรการวิจยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรูทาง วชิ าชีพ 3. กำรเก็บรวบรวมข้อมูล การสรปุ ผลการดาเนินงานในครง้ั น้ี ผจู้ ดั ทาใชว้ ิธเี ก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบประเมินความ พึงพอใจ จานวน 3 สว่ น ซงึ่ มขี ้นั ตอน ดงั นี้ วธิ เี กบ็ รวบรวมขอ้ มลู มขี ้ันตอน ดังนี้ 1. ชี้แจงวตั ถปุ ระสงคข์ องการประเมนิ ผลการดาเนนิ งานให้ผู้เข้ารว่ มโครงการฯ ได้ทราบ 2. ชีแ้ จงรายละเอยี ดเกีย่ วกบั แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ท้ัง 3 ส่วน ใหแ้ กผ่ ู้เขา้ ร่วม โครงการ 3. แจกแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ QR Code จานวน 44 ชุด ตามจานวน ประชากรท่ีกาหนดไว้ 4. นดั หมายเวลาขอเก็บแบบประเมนิ คนื โดยใหผ้ เู้ ข้าร่วมโครงการส่งคืนแบบ ประเมินความพงึ พอใจ QR Code เม่อื เสรจ็ ส้นิ การดาเนินโครงการ 5. จากน้นั นาแบบประเมินทัง้ หมดไปวิเคราะหต์ ามวตั ถปุ ระสงค์ท่กี าหนดไว้ รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 48 หลักสตู รการวิจยั พฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นร้ทู างวชิ าชีพ สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย
4. กำรวิเครำะห์ขอ้ มลู การวิเคราะห์ข้อมูลทไี่ ด้จากการเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากเคร่ืองมือ ผูจ้ ดั ทาใชว้ ิธกี ารสงั เคราะห์ ขอ้ มลู ดังน้ี 1. ในการวเิ คราะหข์ ้อมูลแบบประเมินความรู้ความเขา้ ใจ คณะผูจ้ ัดทาใช้การวิเคราะห์ข้อมลู โดยการประเมนิ ผลจากโปรแกรมสาเร็จรปู Google Forms ในการวิเคราะหข์ ้อมลู เพอ่ื หาคา่ รอ้ ยละ คา่ เฉลย่ี โดยวเิ คราะห์ข้อมูลจากแบบประเมินความพงึ พอใจ 2. สาหรับข้อมูลข้อคาถามแบบปลายเปดิ (Open Ended) ผจู้ ดั ทาใช้วิธกี ารวเิ คราะหเ์ น้ือหา แบบบรรยายเปน็ ข้อ ๆ รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 49 หลักสตู รการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
บทท่ี 4 กำรวเิ ครำะหผ์ ลกำรประเมนิ ในการวิเคราะห์ผลการดาเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงาน การสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรู้ ทางวชิ าชีพ สานักงาน กศน.จงั หวัดหนองคาย ระหว่างวนั ท่ี 17 – 19 พฤษภาคม 2564 ณ โรงแรม พาร์คแอนด์พูล รีสอร์ท อาเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ในคร้ังน้ี ผู้จัดทาได้วิเคราะห์ข้อมูล จากเครอื่ งมือการประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ จานวน 3 สว่ น ดังน้ี 1. แบบประเมินความพึงพอใจหลักสูตรเพ่ือการพัฒนาครูและบุคลากรทางการ ศึกษา สายงานการสอน สงั กัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่ง การเรียนรู้ทางวชิ าชีพ 2. แบบประเมินความพึงพอใจวิทยากรหลักสูตรเพื่อการพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ ชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชีพ 3. การเปรียบเทียบค่ารอยละคะแนนกอน-หลังรับการพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษาสายงานการสอน หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรูทาง วชิ าชพี 1. แบบประเมินควำมพึงพอใจหลักสูตรเพื่อกำรพัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ สำยงำน กำรสอน สังกัดสำนักงำน กศน. หลักสูตรกำรวิจัยพัฒนำกำรเรียนกำรสอน/ชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ ทำงวชิ ำชพี ตำรำงที่ 1 แสดงผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามดา้ นเพศ จำกตำรำงท่ี 1 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 22 คน คิดเป็น ร้อยละ 64.7 เพศชาย จานวน 12 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 35.3 รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. หลักสตู รการวิจยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวชิ าชีพ สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย
ตำรำงที่ 2 แสดงผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถามดา้ นอายุ จำกตำรำงที่ 2 พบว่า อายุของผเู้ ข้ารบั การอบรมส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 31 – 40 ปี จานวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 47.1 รองลงมาอยู่ระหว่าง 41 – 50 ปี จานวน 10คน คิดเป็นร้อยละ 29.4 ช่วงอายุระหว่าง 20 – 30 ปี จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 17.6 และอายุ 50 ปี ขึ้นไป จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 5.9 ตำรำงที่ 3 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถามดา้ นการศกึ ษา จำกตำรำงท่ี 3 พบวา่ ระดับการศกึ ษาสว่ นใหญ่อยู่ในระดับปรญิ ญาตรี จานวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 52.9 และสูงกว่าปรญิ ญาโท จานวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 47.1 ตามลาดบั รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 51 หลักสตู รการวจิ ยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย
ตำรำงท่ี 4 แสดงผลการประเมินความพึงพอใจการดาเนนิ งานหลกั สตู รเพื่อการพฒั นาครูและบคุ ลากร ทางการศกึ ษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวจิ ยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ ชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ทางวิชาชีพดา้ นวิทยากร ที่ รำยกำรประเมิน เฉลย่ี ระดับควำมพึงพอใจ ดำ้ นวทิ ยำกร 4.85 มากทีส่ ดุ 1 การถ่ายทอดความรขู้ องวิทยากรมีความชดั เจน มีความสามารถในการอธิบายเนือ้ หา 4.76 มากท่สี ดุ 4.85 มากท่สี ุด 2 การเชอื่ มโยงเนื้อหาในการฝกึ อบรม 4.79 มากที่สุด 3 มีความครบถ้วนของเนื้อหาในการฝึกอบรม 4.81 มำกทสี่ ุด 4 การใชเ้ วลาตามท่ีกาหนดไว้ เฉลี่ย จำกตำรำงที่ 4 พบว่า ผูเ้ ข้ารับการพัฒนา มีระดบั ความพึงพอใจดา้ นวทิ ยากร โดยรวมและ รายข้ออยู่ในระดับมากท่สี ุด เฉลี่ย 4.81 เมอ่ื พิจารณาเปน็ รายขอ้ เรยี งลาดบั จากค่าเฉลีย่ สูงไปหาต่า 3 ลาดบั แรก คือ การถ่ายทอดความรู้ของวิทยากรมคี วามชัดเจนมคี วามสามารถในการอธิบายเนื้อหา และมีความครบถว้ นของเนื้อหาในการฝกึ อบรม เฉลี่ย 4.85 วทิ ยากรใช้เวลาตามทีก่ าหนดไว้ เฉลี่ย 4.79 ตามลาดบั ตำรำงท่ี 5 แสดงผลการประเมนิ ความพึงพอใจการดาเนนิ งานหลกั สตู รเพ่อื การพฒั นาครูและบุคลากร ทางการศกึ ษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสตู รการวจิ ยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชพี ด้านสถานที่ / ระยะเวลา / อาหาร ที่ รำยกำรประเมนิ เฉลย่ี ระดับควำมพึงพอใจ ด้ำนสถำนท่ี / ระยะเวลำ / อำหำร 4.85 มากท่สี ุด 1 สถานทส่ี ะอาดและมคี วามเหมาะสม 4.45 มากที่สดุ 2 ความพร้อมของอปุ กรณโ์ สตทัศนูปกรณ์ 4.88 มากทสี่ ุด 3 ระยะเวลาในการอบรมมีความเหมาะสม 4.82 มากทสี่ ดุ 4 อาหาร มคี วามเหมาะสม 4.75 มำกทีส่ ุด เฉลีย่ จำกตำรำงที่ 5 พบว่า ผูเ้ ขา้ รับการพฒั นา มรี ะดับความพึงพอใจด้านสถานท่ี / ระยะเวลา / อาหาร โดยรวมและรายข้อ อยใู่ นระดับมากท่สี ุดเฉลย่ี 4.75 เมอื่ พิจารณาเป็นรายข้อเรียงลาดบั จาก ค่าเฉลีย่ สูงไปหาต่า 3 ลาดับแรก คอื ระยะเวลาในการอบรมมคี วามเหมาะสม เฉลีย่ 4.88 สถานที่ สะอาดและมีความเหมาะสม เฉล่ีย 4.85 และ อาหาร มคี วามเหมาะสม เฉลีย่ 4.82 ตามลาดับ รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 52 หลักสตู รการวิจยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชุมชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชพี สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
ตำรำงที่ 6 แสดงผลการประเมินความพึงพอใจการดาเนินงานหลักสตู รเพ่อื การพฒั นาครูและบคุ ลากร ทางการศึกษา สายงานการสอน สังกดั สานักงาน กศน. หลักสตู รการวิจัยพฒั นาการเรียนการสอน/ ชุมชนแห่งการเรยี นร้ทู างวชิ าชีพดา้ นความรู้ความเข้าใจ ท่ี รำยกำรประเมนิ เฉลีย่ ระดบั ควำมพึงพอใจ ด้ำนควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจ 3.27 ปานกลาง 1 ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนี้ กอ่ นการอบรม 4.76 มากทสี่ ุด 2 ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องน้ี หลงั การอบรม 4.01 มำกท่ีสุด เฉล่ยี จำกตำรำงท่ี 6 พบวา่ ผ้เู ขา้ รับการพัฒนา มีระดบั ความรู้ความเข้าใจก่อนและหลงั การอบรม โดยรวมและรายขอ้ อยู่ในระดับมากทสี่ ุด เฉลย่ี 4.01 เมอื่ พิจารณาเป็นรายข้อเรียงลาดับจากค่าเฉลย่ี สูงไปหาต่า คือ มีความรู้ความเขา้ ใจในเรื่องน้ี ก่อน การอบรม เฉล่ีย 3.27 อยใู่ นระดับปานกลางและ มีความรูค้ วามเขา้ ใจในเรื่องนี้ หลงั การอบรม เฉลยี่ 4.76 ตามลาดับ ตำรำงที่ 7 แสดงผลการประเมินความพึงพอใจการดาเนนิ งานหลกั สูตรเพ่อื การพัฒนาครูและบคุ ลากร ทางการศึกษา สายงานการสอน สังกดั สานักงาน กศน. หลักสตู รการวจิ ัยพฒั นาการเรยี นการสอน/ ชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชีพด้านการนาความร้ไู ปใช้ ท่ี รำยกำรประเมนิ เฉล่ีย ระดับควำมพึงพอใจ ดำ้ นกำรนำควำมรู้ไปใช้ 4.82 มากทีส่ ุด 1 สามารถนาความรู้ที่ได้รบั ไปประยุกตใ์ ชใ้ นการปฏิบตั ิ งานได้ 4.79 มากทสี่ ุด 4.80 มำกทส่ี ุด 2 มีความม่ันใจและสามารถนาความรทู้ ไ่ี ด้รบั ไปใชไ้ ด้ เฉล่ยี จำกตำรำงที่ 7 พบวา่ ผู้เข้ารับการพัฒนา มีระดบั ความรคู้ วามเข้าใจดา้ นการนาไปใช้ โดยรวมและรายขอ้ อยใู่ นระดับมากที่สุด เฉล่ยี 4.80 เมอื่ พิจารณาเปน็ รายข้อเรียงลาดับจากคา่ เฉลย่ี สงู ไปหาต่า คือ สามารถนาความรทู้ ไ่ี ด้รบั ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบตั งิ านได้ เฉลยี่ 4.82 และมีความ มัน่ ใจและสามารถนาความรทู้ ี่ได้รบั ไปใช้ได้ เฉลยี่ 4.79 ตามลาดับ ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ จากการดาเนินการประเมนิ ความพึงพอใจการดาเนนิ งานหลกั สูตรเพือ่ การพฒั นาครู และบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สงั กดั สานักงาน กศน. หลกั สตู รการวิจัยพัฒนาการเรยี น การสอน/ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สานกั งาน กศน.จงั หวดั หนองคาย ระหวา่ งวันที่ 17 - 19 พฤษภาคม 2564 ณ โรงแรมพาร์คแอนด์พลู รีสอรท์ อาเภอเมอื งหนองคาย จงั หวดั หนองคาย ในคร้งั น้ี ผูเ้ ขา้ รับการอบรมมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ดงั นี้ รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 53 หลักสตู รการวิจยั พฒั นาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นร้ทู างวชิ าชพี สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
1. กระบวนการ เนือ้ หาหลกั สูตร และคณะทางานทุกทาน ทานวิทยาก รบรรยายได้ความรูมาก ๆ 2. หองประชุมสะอาด อาหารอรอยกวางขวาง 3. ดร.มณฑาทพิ ย เสยยงคะ บรรยายไดชดั เจนมากขอบพระคณุ เปนอยางสงู ครับ 4. เกิดแรงบันดาลใจในการทาวิทยฐานะเพ่ิมมากขนึ้ 5. เน้ือหาเหมาะกบั เวลา การถายทอดเนอื้ หาไดเขาใจงาย 6. อานวยความสะดวกในการอบรมไดอยางดยี งิ่ เน้ือหาชัดเจนมีประโยชน ตอการปฏิบัติงานเปนอยางมาก 7. วทิ ยากรใจดีเปนกันเอง อาหารอรอย 8. ระยะเวลาพอดี 9. บรรยากาศการอบรมอบอุน ครูพีเ่ ลี้ยงดูแลดีมาก 10. วิทยากรทกุ ทานใหความรูในการอบรมไดดีมาก 11. ไดรับความรูเพม่ิ มากขน้ึ 12. สถานที่ และวิทยากร เยี่ยมมาก 13. อยากใหมกี ารจัดอบรมโครงการอีกในโอกาสตอไป 14. บางเนอ้ื หายอย ๆ อาจลดเวลาลง เชน ความหมาย ความสาคญั ประโยชนการวิจยั รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 54 หลักสตู รการวจิ ยั พฒั นาการเรยี นการสอน/ชุมชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชพี สานกั งาน กศน.จงั หวดั หนองคาย
2. แบบประเมินควำมพึงพอใจวิทยำกรหลักสูตรเพื่อกำรพัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ สำยงำนกำรสอน สังกัดสำนักงำน กศน. หลักสูตรกำรวิจัยพัฒนำกำรเรียนกำรสอน/ชุมชนแห่ง กำรเรยี นรู้ทำงวิชำชพี ตำรำงที่ 8 แสดงผลการประเมินวทิ ยากรหลักสตู รเพือ่ การพัฒนาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สงั กัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวจิ ัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแหง่ การ เรียนรูท้ างวชิ าชพี ท่ี รำยกำรประเมิน เฉลีย่ ระดับควำมพึงพอใจ 1 วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเน้อื หาทบี่ รรยาย 4.93 มากที่สุด 2 วิทยากรบรรยายได้ครบถ้วนตามวตั ถปุ ระสงค์ เข้าใจ 4.93 มากทส่ี ุด ไดง้ ่าย ใช้คาพูด นา้ เสยี ง ชดั เจน 4.95 มากที่สดุ 3 วิทยากรเปดิ โอกาสให้เขา้ ร่วมอภิปราย-ซกั ถาม 4.95 มากท่ีสดุ 4 ท่านได้รับความรู้และมคี วามเขา้ ใจในเน้ือหาท่วี ิทยากร 4.93 มากทส่ี ุด บรรยายเพมิ่ มากขน้ึ 5 ท่านสามารถนาความรทู้ ่ีไดร้ ับไปประยุกต์ใชใ้ นการ 4.91 มากท่ีสดุ 4.93 มากทส่ี ดุ ปฏิบัติงาน ตามบทบาทหนา้ ท่ีได้ 4.93 มำกทสี่ ดุ 6 วทิ ยากรใช้สอ่ื เหมาะสม 7 วิทยากรใช้เวลาเหมาะสม เฉลี่ย จำกตำรำงที่ 8 พบว่าผู้เข้ารับการพัฒนา มีความเห็นว่าวิทยากรหลักสูตรเพื่อการพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชน แห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชีพมีความรูค้ วามสามารถในระดับมากท่ีสุด เฉลี่ย 4.93 และเมื่อพิจารณาราย ข้อพบว่าผู้เข้ารับการพัฒนามีความเห็นว่าวิทยากรเปิดโอกาสให้เข้าร่วมอภิปราย-ซักถาม และได้รับ ความรูและมีความเข้าใจในเน้ือหาท่ีวิทยากรบรรยายเพิ่มมากขึ้น มากท่ีสุด เฉลี่ย 4.95 และมีความ คิดเห็นน้อยท่ีสุดด้านวิทยากรใช้ส่ือเหมาะสม เฉล่ีย 4.91 และผู้เข้ารับการพัฒนามีข้อเสนอแนะ เพิ่มเติม ได้แก่ วิทยากรมีวิธีการสอนให้คุณครูทุกท่านได้เข้าใจดีมาก และบรรยายไดชัดเจนทาให้มี ความรเู้ รื่องการทาวจิ ัยมากข้ึน สามารถนาไปใช้ในการทางานได้อย่างดีย่ิงข้นึ รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 55 หลกั สตู รการวิจัยพฒั นาการเรยี นการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นร้ทู างวชิ าชพี สานกั งาน กศน.จังหวดั หนองคาย
3. กำรเปรียบเทียบค่ำร้อยละคะแนนก่อน-หลังรับกำรพัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ สำยงำนกำรสอน หลกั สูตรกำรวิจยั พฒั นำกำรเรียนกำรสอน/ชมุ ชนแห่งกำรเรยี นรู้ทำงวิชำชีพ ตำรำงที่ 9 แสดงการเปรียบเทียบคะแนนค่าร้อยละคะแนนก่อน-หลังรับการพฒั นาครูและบุคลากร ทางการศกึ ษาสายงานการสอน หลกั สตู รการวจิ ัยพฒั นาการเรยี นการสอน/ชุมชนแหงการเรยี นรู้ ทางวชิ าชพี ที่ ช่อื – สกลุ ก่อนเข้ำรบั หลังเข้ำรับ พฒั นำกำร กำรอบรม กำรอบรม 1 นางสาวจิตติมา หลักคา ร้อยละ 70 ร้อยละ 98 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 28 2 นางสาวณัฐธยาน์ ทพิ ยราชชยั พร ร้อยละ 45 ร้อยละ 98 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 53 3 นางรจนา นามวงษ์ รอ้ ยละ 45 รอ้ ยละ 95 เพม่ิ ขึ้น ร้อยละ 50 4 นางสาวจินดารตั น์ บัวพงชน รอ้ ยละ 50 ร้อยละ 95 เพม่ิ ขึ้น ร้อยละ 45 5 นางสาวณัฐฐญิ า ทองศริ อิ ุบล รอ้ ยละ 50 ร้อยละ 95 เพ่มิ ขน้ึ ร้อยละ 45 6 นางนวพรรษ จนั ทราทลู ร้อยละ 65 ร้อยละ 93 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 28 7 นางปราณี สขุ ป้ือ ร้อยละ 55 ร้อยละ 93 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 38 8 นางสาวอารยา วชิ าสวสั ดิ์ รอ้ ยละ 55 รอ้ ยละ 93 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 38 9 นายอารมย์ แพงควร รอ้ ยละ 60 รอ้ ยละ 93 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 33 10 นายกรุณานนทวิศรุต ร้อยละ 55 ร้อยละ 93 เพ่ิมขึ้น ร้อยละ 38 11 นายสมาน มงคลนา รอ้ ยละ 45 รอ้ ยละ 93 เพม่ิ ขึ้น ร้อยละ 48 12 นางวิไลวรรณ วงชารี ร้อยละ 60 ร้อยละ 90 เพ่มิ ขึ้น ร้อยละ 30 13 นางสาววัชราพร ปัตลา ร้อยละ 55 ร้อยละ 90 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 35 14 นางภณิดา มานาดี รอ้ ยละ 50 รอ้ ยละ 88 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 38 15 นางสาวสภุ าวติ า พันนานนท์ ร้อยละ 70 ร้อยละ 88 เพิม่ ขึ้น ร้อยละ 18 16 นางสาวอมรรัตน์ ราชจันดี ร้อยละ 70 รอ้ ยละ 88 เพม่ิ ขึ้น ร้อยละ 18 17 นางวลิ าสนิ ี สวาศรี รอ้ ยละ 75 ร้อยละ 88 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 13 18 นายกติ ตศิ ักด์ิ คงยก ร้อยละ 60 ร้อยละ 85 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 25 19 นายณัฐกฤต ศรีดวง รอ้ ยละ 55 รอ้ ยละ 85 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 30 20 นางสาวกมลวรรณ หินคา รอ้ ยละ 55 ร้อยละ 78 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 23 21 นางสาวชนิตนนั ต์ จกั ขพุ นั ธ์ รอ้ ยละ 60 รอ้ ยละ 85 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 25 22 นางสาวปาริชาติ ทิพยรตั น์ รอ้ ยละ 65 รอ้ ยละ 85 เพิม่ ขึ้นร้อยละ 20 23 นางสาวลลนา ปากบารุง รอ้ ยละ 45 ร้อยละ 85 เพมิ่ ขึ้นร้อยละ40 24 นางสาวศศิธร อกอนุ่ รอ้ ยละ 70 ร้อยละ 85 เพม่ิ ขึ้นร้อยละ 15 25 นายชนะชน ประทุมทา ร้อยละ 70 รอ้ ยละ 85 เพมิ่ ขึ้นร้อยละ 15 26 นายปฏิบตั ิการ อปุ ฮาต รอ้ ยละ 50 ร้อยละ 85 เพิ่มข้นึ ร้อยละ 35 รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 56 หลักสตู รการวิจัยพัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชีพ สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย
ตารางที่ 9 (ตอ่ ) กอ่ นเข้ำรบั หลงั เขำ้ รบั พฒั นำกำร กำรอบรม กำรอบรม ท่ี ชอื่ – สกลุ รอ้ ยละ 50 รอ้ ยละ 85 เพม่ิ ขึ้นร้อยละ 35 ร้อยละ 45 ร้อยละ 85 เพ่มิ ขน้ึ ร้อยละ40 27 นายภูมพิ ฒั น์ สมศรี ร้อยละ 55 รอ้ ยละ 85 เพิ่มขึ้นร้อยละ30 28 นายเรวัต กงเพชร รอ้ ยละ 60 รอ้ ยละ 85 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 25 29 นายวรรธนพงศ์ ทับธานี รอ้ ยละ 50 ร้อยละ 83 เพ่มิ ข้ึนร้อยละ 33 30 นายวรวฒุ ิ ไชยพรมมา รอ้ ยละ 50 รอ้ ยละ 83 เพมิ่ ขึ้นร้อยละ 33 31 นางสาวบญุ เลื่อน สายสนิ ธ์ รอ้ ยละ 75 รอ้ ยละ 83 เพิ่มข้นึ ร้อยละ 8 32 นางสาวภัคภิญญาหว่างจติ ร์ รอ้ ยละ 50 ร้อยละ 83 เพม่ิ ขนึ้ ร้อยละ 33 33 นางสาวศศวิ ิมล อิศรานนท์ รอ้ ยละ 60 ร้อยละ 80 เพม่ิ ขึ้นร้อยละ 20 34 นางสาวสธุ ิดา พทุ ธทองศรี รอ้ ยละ 45 ร้อยละ 80 เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 35 นางสาวโชติกา ชัยชนะ ร้อยละ 30 รอ้ ยละ 78 เพิม่ ขน้ึ ร้อยละ 48 36 นายสมใจ บญุ ถึง ร้อยละ 60 ร้อยละ 75 เพ่ิมขึ้นร้อยละ 15 37 นางสาววิภาดา โพธ์ขิ าว ร้อยละ 45 ร้อยละ 63 เพม่ิ ขึ้นร้อยละ 18 38 นายทวีวัฒน์ เหลาสพุ ะ รอ้ ยละ 25 รอ้ ยละ 55 เพิ่มข้ึนร้อยละ 30 39 นางแพรวพรรณ ไชยชาติ ร้อยละ 70 รอ้ ยละ 85 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 40 นางพรพิมพ์ บุญที รอ้ ยละ 60 รอ้ ยละ 75 เพม่ิ ขึ้นร้อยละ 15 41 นายศุภวชิ ญ์ จติ ธรรมมา รอ้ ยละ 75 ร้อยละ 83 เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 8 42 นางไฉไล ฤๅชัยราม รอ้ ยละ 60 รอ้ ยละ 75 เพิ่มขน้ึ ร้อยละ 15 43 นางสาวองั คณา จน๋ั ตา 44 นางสาวพชิ ชาพิมพ์ เพช็ รเวียง จำกตำรำงที่ 9 พบว่า ผเู้ ขา้ รับการพฒั นาการพฒั นาในหลักสตู รเพ่ือการพัฒนาครแู ละ บุคลากรทางการศึกษาสายงานการสอน หลักสตู รการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชีพ มีพัฒนาการเพิ่มข้ึนทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 และผู้ที่มพี ัฒนาการเพม่ิ ขน้ึ มากทส่ี ุด คือ เพ่ิมข้ึนร้อยละ 53 รอ้ ยละ 50 และรอ้ ยละ 48 ตามลาดับ รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 57 หลกั สตู รการวจิ ยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวชิ าชพี สานักงาน กศน.จงั หวัดหนองคาย
บทที่ 5 สรปุ ผลกำรอภิปรำยผลและข้อเสนอแนะ การประเมินผลการดาเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงาน การสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรู้ ทางวชิ าชพี สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย ระหวา่ งวันที่ 17 – 19 พฤษภาคม 2564 ณ โรงแรม พาร์คแอนด์พูล รีสอร์ท อาเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นการประเมินผลการ ดาเนินงานเมอื่ ส้นิ สดุ โครงการ (Summative Evaluation) ผู้จัดทาไดส้ รปุ ผลการดาเนนิ งาน ดงั น้ี วตั ถปุ ระสงคข์ องกำรประเมิน ในการประเมินผลการดาเนินงานในครัง้ นี้ ผ้จู ัดทาได้กาหนดวตั ถุประสงค์ของการ ดาเนนิ งาน ดงั นี้ 1) เพอ่ื ให้ครูที่เขา้ รบั การพฒั นาเข้าใจสภาพปญั หาและวธิ กี ารแกป้ ญั หาหรือ พฒั นาผ้เู รยี นโดยการวิจยั ในช้ันเรยี น 2) เพือ่ ให้ครูทีเ่ ข้ารบั การพัฒนามีความรูค้ วามเข้าใจ ปฏิบตั ิการทาวิจัย ในช้ันเรยี น และเผยแพร่ผลงานการวิจัยในชน้ั เรยี นได้อย่างถกู ต้อง 3) เพอ่ื ใหค้ รูที่เข้ารบั การพฒั นาสามารถดาเนนิ การจัดทาวจิ ัยในช้ันเรยี น เพือ่ พัฒนาการเรยี นการสอนได้อย่างถูกต้อง และสามารถนาไปใชแ้ กป้ ัญหาในช้นั เรียนได้อย่างมี คณุ ภาพและต่อเน่อื งและสามารถแสดงบทบาทหน้าท่ีของตนในการพฒั นาผู้เรยี นได้อย่างมืออาชีพ ขอบเขตของกำรประเมิน ผ้จู ัดทาได้นาแบบประเมินโดยแจก QR Code เพื่อนาไปใช้เก็บข้อมูลให้ผู้เข้ารับการ พัฒนาตามจานวนกลุ่มตัวอย่างที่กาหนดไว้คือ 44 คน เพื่อให้ผู้เข้ารับการพัฒนาได้มีโอกาสแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเข้ารับการพัฒนาตามการดาเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย และสามารถให้ข้อเสนอแนะ เพิม่ เตมิ ได้อย่างอิสระ เครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นกำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล ผู้จัดทาได้ออกแบบเครอ่ื งมือเพือ่ ใชใ้ นการเก็บข้อมลู เป็นแบบประเมินความรู้ความ เข้าใจ จานวน 3 ส่วน ดังน้ี 1. แบบประเมินความพึงพอใจหลักสูตรเพ่ือการพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ ชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ 2. แบบประเมินความพึงพอใจวิทยากรหลักสูตรเพื่อการพัฒนาครูและ บุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียน การสอน/ชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. หลกั สตู รการวิจัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย
3. การเปรียบเทยี บคา่ ร้อยละคะแนนก่อน-หลังรบั การพฒั นาครแู ละ บคุ ลากรทางการศึกษาสายงานการสอน หลักสตู รการวจิ ยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแห่ง การเรียนรู้ทางวชิ าชพี วิธีวเิ ครำะห์ข้อมลู การวิเคราะห์ข้อมลู ทไ่ี ด้จากการเก็บข้อมลู ผู้จัดทาใช้วิธีการสังเคราะหข์ ้อมูล โดยมี ขน้ั ตอน ดังนี้ 1. ในการวิเคราะหข์ ้อมูลแบบประเมินความพึงพอใจ ผู้จัดทาใช้ Google Forms สรา้ ง QR Code เพื่อนาไปใชเ้ ก็บขอ้ มลู และใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รปู Microsoft excel ในการ วเิ คราะหข์ ้อมูล เพ่ือหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย โดยวิเคราะห์ข้อมลู จากแบบประเมนิ ความพึงพอใจ 2. สาหรบั ข้อมูลทเี่ ป็นข้อคาถามแบบปลายเปิด (Open Ended) ผูจ้ ัดทาใช้ วธิ กี ารวิเคราะห์เนือ้ หาแบบบรรยายเปน็ ขอ้ ๆ สรุปผลกำรประเมิน การประเมินผลการดาเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการ เรียนรู้ทางวิชาชีพ สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย ระหว่างวันท่ี 17 – 19 พฤษภาคม 2564 ณ โรงแรมพาร์คแอนด์พูล รีสอร์ท อาเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย การประเมินผลการ ดาเนินงาน พบว่า ผู้เข้ารับการพัฒนามีระดับความพึงพอใจในภาพรวมในระดับมากที่สุดเฉลี่ย 4.74 ด้านการประเมินวิทยากรหลักสูตรในภาพรวมระดับมากที่สุด เฉลี่ย 4.93 และการเปรียบเทียบ ค่าร้อยละคะแนน - หลังรับการพัฒนาพบว่าผู้เข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรเพ่ือการพัฒนาครูและ บุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการ เรยี นรทู้ างวชิ าชีพ มีพฒั นาการเพม่ิ ข้ึนทกุ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 กำรอภปิ รำยผล การประเมินผลการดาเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่ง การเรียนรู้ทางวิชาชีพ สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย ระหว่างวนั ที่ 17 – 19 พฤษภาคม 2564 ณ โรงแรมพาร์คแอนด์พูล รีสอร์ท อาเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ด้านการประเมิน ความพึงพอใจหลักสูตรเพ่ือการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัด สานักงาน กศน. หลกั สูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวชิ าชพี พบว่าผู้ เขา้ รับการพัฒนามรี ะดบั พึงพอใจ ดังนี้ รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 59 หลกั สตู รการวจิ ัยพฒั นาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชพี สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
ดำ้ นวทิ ยำกรต่อกำรจัดโครงกำร ผู้เข้ารับการพัฒนา มีระดับความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เฉลี่ย 4.81 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าผู้เข้ารับการพัฒนามีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากทุกข้อ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะวิทยากรท่ีใหค้ วามรู้ได้เตรียมเนือ้ หาสาระได้อย่างครบถ้วนทกุ ประเด็น ในระยะเวลาอัน เหมาะสม ทาให้ผู้เข้ารับการพัฒนาได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์จึงเกิดความสนใจ อีกทั้งกระบวนการ จดั กิจกรรมมีเนื้อหา เทคนิค วิธีการ ท่ีตรงตามความต้องการและเป็นประโยชน์สาหรับการนาไปใช้ใน การปฏิบตั งิ าน ดำ้ นสถำนท่ี/ระยะเวลำ/อำหำร ผู้เข้ารับการพัฒนามีระดับความพึงพอใจด้านสถานที่/ระยะเวลา/อาหาร ตลอด ระยะเวลาที่เข้ารบั การพฒั นาโดยรวมอยู่ในระดบั มากทส่ี ุด เฉลย่ี 4.75 เม่อื พจิ ารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้เข้ารับการพัฒนามีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากท่ีสดุ โดยเฉพาะระยะเวลาในการอบรม และ สถานที่ในการอบรมกว้างขวาง สะอาด สามารถใช้พื้นที่ในการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันได้อย่าง เหมาะสม ดำ้ นควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ ผู้เข้ารับการพัฒนา มีระดับความรู้ความเข้าใจก่อนและหลังการอบรมโดยรวมและ รายข้อ อยู่ในระดบั มากท่ีสุด เฉล่ยี 4.01 เม่อื พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบวา่ มีความเขา้ ใจในเรื่องน้ี กอ่ น การเข้ารับการพัฒนาอยใู่ นระดับปานกลางและ หลัง การเข้ารับการพฒั นาผู้เข้ารับการพัฒนามีความรู้ ความเข้าใจมากข้ึนทั้งน้ีอาจเป็นเพราะวิทยากรผู้ให้ความรู้อธิบายสามารถให้ความรู้ได้อย่างชัดเจน และผู้เข้ารับพัฒนามีความกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ และเทคนิควิธีการจากวิทยากร และวทิ ยากรพ่เี ลยี้ งท่ีคอยให้คาแนะนาตลอดกระบวนการ ดำ้ นกำรนำควำมรู้ไปใช้ ผูเ้ ขา้ รับการพฒั นา มีระดับความรคู้ วามเข้าใจดา้ นการนาไปใช้ โดยรวมและรายข้อ อยู่ในระดับมากทส่ี ุด เฉลย่ี 4.80 เมอ่ื พิจารณาเปน็ รายข้อพบผเู้ ขา้ รับการพฒั นา สามารถนาความรูท้ ี่ ได้รับไปประยุกต์ใชใ้ นการปฏิบัตงิ านได้ มีความมน่ั ใจและสามารถนาความรทู้ ไี่ ดร้ ับไปปรับใช้ตาม บรบิ ทของสถานศึกษาแต่ละแหง่ และตามเทคนิควิธีการของผู้เข้าร่วมโครงการฯ ขอ้ เสนอแนะ จากการดาเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงาน การสอน สังกัดสานักงาน กศน. หลักสูตรการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทาง วิชาชีพ สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย ระหว่างวันท่ี 17 – 19 พฤษภาคม 2564 ณ โรงแรม พารค์ แอนด์พูล รีสอร์ท อาเภอเมืองหนองคาย จงั หวดั หนองคาย ผูเ้ ข้ารับการพฒั นามขี ้อคิดเหน็ ดงั น้ี 1. อยากให้มีการจัดอบรมอีกในโอกาสต่อไป 2. ให้ทา่ นผูเ้ ชี่ยวชาญมาวพิ ากษง์ านวิจยั ในชั้นเรียนเพื่อใหเ้ กดิ ความเข้าใจว่า งานวจิ ัยของแต่ละคนตอ้ งเพิ่มเติมในสว่ นใด 3. บางเน้ือหาย่อย ๆ อาจลดเวลาลง เชน่ ความหมาย ความสาคญั ประโยชน์การ วจิ ยั รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 60 หลักสตู รการวิจยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรูท้ างวชิ าชีพ สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย
บรรณำนุกรม บญุ ชม ศรสี ะอาด. (2553).กำรวิจัยเบ้ืองต้น. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 8.กรงุ เทพฯ : สวุ รี ิยาสาส์น. ประวิตร เอราวรรณ์ (2545). กำรวิจยั ในช้นั เรียน. กรุงเทพฯ : สำนักพมิ พด์ อกหญำ้ วิชำกำร. พชิ ติ ฤทธเิ์ จรญิ . (2547). กำรวจิ ัยเพื่อพฒั นำกำรเรียนรู้ : ปฏิบตั กิ ำรวิจยั ในชัน้ เรยี น. กรุงเทพฯ : คณะครุศำสตร์ สถำบันรำชภฎั พระนคร. ยาใจ พงษ์บรบิ ูรณ์. (2550).กำรวิจยั เพอ่ื กำรพัฒนำทำงกำรศกึ ษำ. คน้ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564, จากhttp://www.priv.nrct.go.th/ewt_dl.php?nid=689. เยาวดี วิบูลย์ศร.ี กำรประเมินโครงกำร : แนวคดิ และแนวปฏบิ ตั .ิ พิมพ์คร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ : สานักพมิ พจ์ ฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, 2551. มารยาท โยทองยศ และปราณี สวสั ดสิ รรพ.์ (2544).กำรกำหนดขนำดของกลุ่มตัวอย่ำงเพื่อกำรวิจัย. คน้ เมือ่ วันท่ี 25 มนี าคม 2564,จาก http://www.fsh.mi.th/km/wp- content/uploads/2014/04/resch.pdf. รตั นา ศรเี หรัญ. (2554). กำรวจิ ัยในช้นั เรียน. (ออนไลน์) คน้ เม่อื วนั ท่ี 10 มิถุนายน 2564, จาก http://www.moe.go.th/webtcs/Table4/ratana/ratana02/ratana02htm วิชิต สรุ ัตนเ์ รืองชัย, (2546). กำรวจิ ยั เพ่ือพัฒนำกำรเรียนกำรสอน.วารสารศึกษาศาสตร์ ปที ่ี 14 ฉบับท่ี 2 เดือน พฤศจิกายน 2545-มนี าคม 2546 หน้า 31 ส.วาสนา ประวาลพฤกษ์, (2541). “กำรวิจัยในชัน้ เรยี นและแนวทำงในกำรพฒั นำกำรเรียนกำรสอน” ค่มู ือพัฒนาการเรียนรู้. กรงุ เทพฯ : กรมวชิ าการ กระทรวงศึกษาธิการ. สรุ วาท ทองบุ. (2550).กำรวิจยั ทำงกำรศึกษำ. มหาสารคาม : คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏ มหาสารคาม. สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน. (2560). คู่มอื กำรอบรมกำรขับเคลื่อนกระบวนกำร PLC Professional learning Community.“ชุมชนกำรเรยี นรู้ทำงวชิ ำชีพ” สู่สถำนศึกษำ. กรุงเทพฯ : สานกั พัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั . คมู่ อื กำรดำเนนิ งำนหลกั สูตร กำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศกึ ษำข้ันพื้นฐำนพุทธศักรำช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักรำช2555).กรุงเทพฯ : พรกิ หวาน, 2555. สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. (2564). นโยบำยและจดุ เน้น กำรดำเนนิ งำน สำนกั งำน กศน.ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2564. คน้ เมื่อวันท่ี 25 พฤษภาคม2564, จาก https://nfe.go.th. รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 61 หลักสตู รการวิจยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย
ภำคผนวก รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. หลกั สตู รการวจิ ัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นร้ทู างวชิ าชพี สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย
ภำคผนวก ก. หลักสตู รกำรวิจัยพฒั นำกำรเรียนกำรสอน/ชมุ ชนแห่งกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 63 หลักสตู รการวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวิชาชพี สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
A : ประเภทของหลักสูตร A1 หลกั สตู รปกติ A2 หลักสูตรออนไลน์ A3 หลักสตู รปกติและออนไลน์ B : เปน็ การอบรมที่หน่วยพัฒนาจัดใหบ้ คุ ลากร สังกัดสานกั งาน กศน. จะไม่คิดค่าใช้จา่ ยในการ อบรมในกรณี ถ้าเปน็ หนว่ ยงานอ่ืนหรอื หนว่ ยงานภายนอกขอเขา้ ร่วมรับการฝึกอบรม สามารถเก็บคา่ ใช้จา่ ยได้ C : คำ่ ลงทะเบียนกำรอบรม C1 มีคา่ ลงทะเบยี น C2 ไม่มคี า่ ลงทะเบียน 1. ชอ่ื หลกั สูตรเพอื่ กำรพัฒนำครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำสำยงำนกำรสอน 1.1 ชอื่ ภำษำไทย การวิจยั พฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ 1.2 ชื่อภำษำอังกฤษ Classroom Action Research 2. หลกั กำรกำรออกแบบหลักสูตร กรอบแนวคิดหลักของกำรออกแบบหลักสูตรเพ่ือกำรพัฒนำครูจะเน้นที่กำรสร้ำงกำร เป ล่ียน แป ลงที่ ค รูเพื่ อส่งผลก ระทบ ไปยังคุ ณ ภ ำพ ก ำรเรียน รู้ ของผู้เรียน เป็ น สำคั ญ อย่ำงน้ อย 1 ประเด็น ดงั น้ี หลักสูตรท่ีออกแบบเพื่อการพัฒนาครูจะต้องเป็นการพัฒนาครูท่ีบูรณาการระหว่างเน้ือหา สาระวิชา (Content Knowledge) กับหลักวิชาชีพครู (Pedagogical Knowledge) ที่จะต้องมุ่ง พฒั นาสมรรถนะให้มีความสามารถจัดการเรียนการสอนตามสาระวิชาเฉพาะที่บูรณาการเนื้อหาสาระ กับศาสตร์วิชาชีพครู (Pedagogical Content Knowledge : PCK) หลักสูตรท่ีออกแบบเพื่อการพัฒนาครจู ะต้องเป็นการพัฒนาครูที่หลอมรวมการบูรณาการ ระหว่างเน้ือหาสาระวิชา (Content Knowledge) หลักวิชาชีพครู (Pedagogical Knowledge) และ เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ากับการจัดการเรียนการสอนตามเน้ือหาสาระเฉพาะทาง (Technological Pedagogical Content Knowledge : TPCK) เน้อื หำสำระวิชำ 1. ความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของการวิจัยในช้ันเรียน 2. การกาหนดและวเิ คราะห์ปญั หาและการสร้างกรอบความคดิ การวจิ ัยในช้นั เรียน 3. การต้งั ช่อื เรื่อง การเขยี นวัตถุประสงค์ การกาหนดขอบเขตและการสรา้ งเครื่องมือ การวจิ ัยในช้ันเรยี น 4. การเก็บรวบรวมข้อมูล 5. การวิเคราะห์และแปลผลขอ้ มูล 6. การเขียนสรปุ ผล การอภปิ รายผลการวจิ ยั ในชั้นเรียน 7. การเผยแพรผ่ ลงานวิจัย รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 64 หลักสตู รการวจิ ยั พฒั นาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรียนรูท้ างวชิ าชพี สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย
หลกั วิชำชีพครู มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชพี ครู ข้อที่ 4 การวดั ผลการประเมินการ เรียนรแู้ ละการวจิ ยั และแก้ไขปัญหาพัฒนาผเู้ รยี น เทคโนโลยีสำรสนเทศ 1. Internet 2. QR Code 3. ฐานขอ้ มลู ออนไลน์ 4. Google Classroom 3. ระดบั ชว่ งชัน้ ในกำรพฒั นำ (เลือก 1 ระดับ) ปฐมวยั อาชีวศกึ ษา การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ระดับประถมศึกษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย การศึกษาพเิ ศษ 4. คำสำคัญสะทอ้ นกิจกรรมกำรพัฒนำ 4.1 สำระเนื้อหำ (Content) (เลอื ก 1 สาระเน้ือหา) วิทยาศาสตร์ กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น คณติ ศาสตร์ ปฐมวยั ภาษาไทย การศกึ ษาพิเศษ ภาษาองั กฤษ บูรณาการสาระ ภาษามลายู ทักษะอาชีพ10ประเภทสาขาวชิ าหรืออน่ื ๆดังน้ี ภาษาฝรัง่ เศส อตุ สาหกรรม ภาษาเกาหลี บริหารธรุ กจิ ภาษาญีป่ ่นุ ศลิ ปกรรม ภาษาจีน คหกรรม การงานอาชีพและเทคโนโลยี เกษตรกรรม สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ประมง สุขศึกษาและพลศึกษา อุตสาหกรรมการท่องเท่ยี ว ศิลปะศึกษา อุตสาหกรรมส่งิ ทอ ดนตรี-นาฎศิลป์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร อนื่ ๆที่เปน็ วชิ าชพี ทอ่ี าจจะเกิดข้นึ ในอนาคต รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 65 หลกั สตู รการวจิ ยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ สานกั งาน กศน.จงั หวัดหนองคาย
4.2 สำระท่ีเปน็ ศำสตร์ทีเ่ กีย่ วข้องกำรจัดกำรเรียนรู้ (Pedagogy) (เลือกได้มากกว่า 1 สาระ) การสอนในศตวรรษที่ 21 การพัฒนาหลักสูตร การแกป้ ญั หาผูเ้ รยี น สะเต็มศึกษา (STEM Education) จิตวิทยาการแนะแนว/จติ วทิ ยาการจัดการเรียนรู้ การใชส้ ่ือและเทคโนโลยีในการจดั การเรียนรู้ การจัดการชน้ั เรยี น การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ การวิจยั พัฒนาการเรียนการสอน/ การออกแบบการเรยี นรู้ ชมุ ชนแหง่ การเรียนรูท้ างวิชาชีพ อื่น ๆ ทีเ่ ปน็ ศาสตร์ทางการศึกษาหรือ การจัดการเรยี นรทู้ ร่ี ะบุเป็นคาสาคญั ไดช้ ดั เจนและมีหลักฐานอ้างองิ ได้ 5. ควำมลุ่มลกึ ของหลกั สตู ร (เลอื ก 1 ระดบั พรอ้ มระบุจานวนชั่วโมง) ระดบั พืน้ ฐาน จานวนชัว่ โมงการอบรม 18 ชวั่ โมง ระดับกลาง จานวนช่ัวโมงการอบรม .......... ชว่ั โมง ระดับสูง จานวนช่ัวโมงการอบรม .......... ชว่ั โมง 6. พนื้ ฐำนและเงือ่ นไขของครูทจ่ี ะเขำ้ รบั กำรอบรม คณุ สมบัติ/เงื่อนไข/ประสบการณ์ของครผู ู้เข้ารบั การพัฒนา ประกอบดว้ ย คุณสมบัต/ิ เงื่อนไข / วิธกี ำรคัดเลือก ประสบกำรณข์ องครผู ูเ้ ข้ำรบั ประเดน็ เกณฑ์กำร ผู้รบั ผดิ ชอบ ครูผเู้ ขำ้ รับ กำรคดั เลือก กำรพัฒนำ คดั เลือก หลกั สูตร กำรพฒั นำ ประเมิน ประเมินตนเอง ด้ำนควำมรู้ มคี วามรูพ้ น้ื ฐานด้านการวิจัย ครสู ายผู้สอน สานกั งาน กศน. ครสู ายผู้สอน จงั หวดั หนองคาย ด้ำนทักษะ มีความรู้ความเข้าใจด้านการ ครูสายผสู้ อน สานกั งาน กศน. ครสู ายผู้สอน วจิ ยั จังหวัดหนองคาย ดำ้ นเจตคติ มเี จตคตทิ ดี่ ีตอ่ งานด้านการ ครสู ายผสู้ อน สานักงาน กศน. ครูสายผู้สอน วจิ ัยเพอื่ พัฒนาการเรยี นการ จังหวัดหนองคาย สอน 7. หลกั กำรและท่ีมำของหลักสตู ร กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศให้ใช้หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 เม่ือวันท่ี 18 กันยายน พ.ศ. 2551 เป็นหลักสูตรที่มุ่งการจัด การศึกษาเพ่ือตอบสนองอุดมการณ์การจัดการศึกษาตลอดชีวิตและการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคม แห่งการเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาของ “คิดเป็น” เพ่ือสร้างคุณภาพชีวิตและสังคม มีการบูรณาการ อย่างสมดุลระหว่างปัญญาธรรม ศีลธรรม และวัฒนธรรม มุ่งสร้างพ้ืนฐานการเป็นสมาชิกที่ดีของ ครอบครัว ชุมชน สังคม และการพัฒนาความสามารถเพื่อการทางานอย่างมีคุณภาพ โดยให้ภาคี รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 66 หลกั สตู รการวิจัยพัฒนาการเรยี นการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวชิ าชีพ สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย
เครือข่ายมีส่วนร่วมการจัดการศึกษาให้ตรงความต้องการของผู้เรียนและสามารถตรวจสอบได้ว่า การศึกษานอกระบบเป็นการพัฒนาชีวิตและสังคม สามารถพึ่งพาตนเองได้รู้เท่าทันการเปล่ียนแปลง เพ่ือเป็นหลักสูตรท่ีมีความสอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการของบุคคลที่อยู่นอกระบบโรงเรียน ซ่ึงเป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์การทางาน และการประกอบอาชีพ โดยกาหนดสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ให้ความสาคัญกับการพัฒนา กลุ่มเป้าหมายด้านจิตใจให้มีคุณธรรมควบคู่ไปกับการพัฒนาการเรียนรู้ สร้างภูมิคุ้มกัน สามารถ จัดการกับองค์ความรู้ท้ังภูมิปัญญาท้องถ่ินและเทคโนโลยีเพ่ือให้ผู้เรียนสามารถปรับตวั อยู่ในสังคมที่มี การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สร้างภูมิคุ้มกันตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งคานึงถึง ธรรมชาติการเรียนรู้ของผู้อยู่นอกระบบและสอดคล้องกับสภาพ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการสื่อสารสานักงานส่งเสริมการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้ประการใช้หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ท่ัวประเทศต้ังแต่ ปีการศึกษา 2553 และใช้คู่มือดาเนินงานการจัด การศึกษาหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 มาจนถึง ปัจจุบัน กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีประกาศปรับแก้ไขคู่มือการดาเนินงาน เมื่อวันท่ี 30 มีนาคม พ.ศ. 2555 เพ่ือให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการในการยกระดับการศึกษาให้กับ ประชาชน จึงมีการปรับเพ่ิมหน่วยกิตในการลงทะเบียนแต่ละภาคเรียนและปรับเพ่ิมเวลาในการ จัดการเรียนรู้ ดังน้ันเพื่อให้การดาเนินการจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสภาพการดาเนินงาน ในปัจจุบันจึงได้ทา คู่มือการดาเนินงานหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในปัจจุบันจึงได้จัดคู่มือการดาเนินงานหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2555) โดยปรับเพ่ิมเติมสาระสาคัญในส่วนท่ีเกี่ยวข้องให้ สมบรู ณ์ยงิ่ ข้นึ หลกั กำร หลกั สตู รการจดั การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 กาหนด หลักการไว้ดังน้ี 1. เปน็ หลักสตู รทีม่ โี ครงสร้างยืดหยุ่นดา้ นสาระการเรยี นรู้ เวลาเรยี น และการจัดการเรยี นรู้ โดยเนน้ การบูรณาการเนื้อหาใหส้ อดคล้องกับวถิ ชี ีวิต ความแตกต่างของบคุ คล ชุมชน และสังคม 2. สง่ เสริมใหม้ กี ารเทยี บโอนผลการเรยี นจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย 3. สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนได้พัฒนาและเรียนร้อู ย่างตอ่ เน่ืองตลอดชวี ติ โดยตระหนักวา่ ผเู้ รยี นมี ความสาคัญ สามารถพฒั นาตนเองได้ตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ 4. ส่งเสริมให้ภาคเี ครือขา่ ยมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 67 หลกั สตู รการวจิ ัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี สานักงาน กศน.จงั หวดั หนองคาย
จดุ มุ่งหมำย หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาให้ ผ้เู รียนมี คุณธรรม จรยิ ธรรม มีสติปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีศกั ยภาพในการประกอบอาชีพและการ เรียนรอู้ ย่างตอ่ เนือ่ งซงึ่ เปน็ คุณลกั ษณะอันพ่งึ ประสงค์ท่ีต้องการ จึงกาหนดจดุ หมายดงั ตอ่ ไปน้ี 1. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมท่ีดีงาม และสารถอยรู่ ่วมกนั ในสังคมอยา่ งสันตสิ ุข 2. มคี วามรู้พนื้ ฐานสาหรบั การดารงชีวติ และการเรียนรู้อย่างตอ่ เน่ือง 3. มคี วามสามารถในการประกอบสัมมาอาชีพใหส้ อดคล้องกับความสนใจ และความถนัด และตามทันความเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกจิ สังคม และการเมือง 4. มีทักษะการดาเนนิ ชีวิต และสามารถจดั การกับชวี ติ ชมุ ชนสังคมได้อย่างมีความสุขตาม แนวปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 5. มีความเข้าใจประวัตศิ าสตร์ชาติไทย ภูมใิ จในความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษา ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี กีฬา ภมู ิปญั ญาไทย ความเปน็ พลเมืองท่ีดี ปฏบิ ัติตนตามหลักธรรมของศาสนา ยดึ ม่ันในวิถชี ีวติ และการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ 6. มีจติ สานึกในการอนรุ ักษ์ และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 7. เปน็ บุคคลแห่งการเรยี นรู้ มีทักษะในการแสวหาความรู้ ความสามารถเข้าถึงแหลง่ เรยี นรู้ และบูรณาการความรู้มาใชใ้ นการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ กลมุ่ เป้ำหมำย กลุ่มเป้าหมายเป็นประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในระบบโรงเรียน ซ่ึงเป็นไปตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 ระบุว่า “เพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาให้บุคคลได้รับการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพตามกฎหมายวา่ ด้วยการศกึ ษาแห่งชาติ โดยให้บุคคล ซ่ึงได้รับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานไปแล้วหรือไม่ก็ตามสิทธิได้รับการศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยได้ แล้วแต่กรณีท้ังน้ีตามกระบวนการและการดาเนินการท่ีได้บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญตั นิ ้ี ระดบั กำรศึกษำ แบ่งระดบั การศึกษาออกเป็น 3 ระดบั คอื ระดบั ประถมศกึ ษา ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย โดยแตล่ ะระดับใชเ้ วลาเรยี น 4 ภาคเรียน ยกเว้นกรณที ม่ี ีการเทยี บโอน ท้งั นต้ี อ้ งลงทะเบยี นเรียนในสถานศกึ ษาอย่างน้อย 1 ภาคเรียน สำระกำรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย 5 สาระดงั นี้ 1. สำระทักษะกำรเรียนรู้ เปน็ สาระเก่ียวกับการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง การใช้แหล่งเรียนรู้ การจัดการความรู้ การคิดเป็น และการวจิ ยั อย่างงา่ ย 2. สำระควำมรพู้ น้ื ฐำน เปน็ สาระเก่ยี วกบั ภาษาและการส่ือสาร คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 68 หลักสตู รการวจิ ยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นรูท้ างวชิ าชีพ สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย
3. สำระกำรประกอบอำชพี เปน็ สาระเกี่ยวกบั การมองเห็นชอ่ งทางการตดั สนิ ใจการ ประกอบอาชีพ ทักษะในอาชีพ การจัดการอาชีพอยา่ งมีคุณธรรม และการพฒั นาอาชีพใหม้ คี วาม มนั่ คง 4. สำระทักษะกำรดำเนินชีวติ เป็นสาระเกย่ี งกับปรัชญาเศรษฐกิจพอพยี ง สุขศึกษา พลศกึ ษา และศลิ ปศกึ ษา 5.สำระกำรพัฒนำสังคม เป็นสาระเก่ยี วกับภูมิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ศาสนา ประเพณี หน้าท่ีพลเมอื ง และการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม ประกำศคณะกรรมกำรดำเนนิ งำนของสถำบนั ครุ พุ ัฒนำเรอื่ ง กำรรบั รองหลักสตู รเพ่ือกำรพัฒนำ ครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ สำยงำนกำรสอน ดว้ ยสถาบันคุรุพัฒนา สานักงานเลขาธกิ ารครุ ุสภา จะดาเนินการใหม้ ีการเสนอหลักสูตร เพ่ือการพฒั นาครูและบุคลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน อาศัยมติคณะกรรมการดาเนนิ งาน ของสถาบันคุรุพัฒนาในการประชมุ ครงั้ ที่ 1/2562 เม่ือวนั ศุกร์ที่ 5 เมษายน 2562 จงึ ไดอ้ อก ประกาศ ดงั นี้ หลกั กำรและเหตุผล กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายการพัฒนาครูและคุณภาพการศึกษา ท่ีมุ่งตอบสนองความ ต้องการจาเป็นต่อการพัฒนาท่ีสอดคล้องกับสภาพของแต่ละสถานศึกษาให้มากท่ีสุด เพราะ สถานศึกษาแต่ละแห่งย่อมมีสภาพปัญหาความต้องการจาเป็นท่ีแตกต่างกัน อันเน่ืองมาจากวสิ ัยทัศน์ เปา้ หมายการพฒั นามีความแตกต่างหลากหลาย การพัฒนาครจู ึงใช้กระบวนการใหค้ รไู ด้มโี อกาสเลือก หลักสูตรท่จี ะเขา้ รบั การพัฒนาตามความต้องการ โดยความเห็นชอบของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา การสร้างหลักสูตรเพ่ือการพัฒนาครูท่ีมีความเท่าทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและโลก ศตวรรษท่ี 21 จึงสร้างโอกาสการมีส่วนร่วมจากผู้พัฒนาหลักสูตรที่มีจากท้ังภาคเอกชน สถาบันอุดมศึกษา สถานศึกษา สมาคม มูลนิธิ และส่วนราชการ ทั้งนี้ การสร้างการมีส่วนร่วมในการ นาเสนอหลักสูตรของหน่วยงานต่าง ๆ น้ัน จะเป็นไปตามทิศทางการกาหนดแนวคิดทางวิชาการของ สถาบันครุ พุ ฒั นาซึ่งเป็นสว่ นหนึ่งขององคก์ รวิชาชพี ครู การนาหลักสูตรไปใช้จะเป็นอิสระของส่วนราชการที่มีความต้องการจาเป็น โดยส่วนราชการ เหล่านั้นอาจนาหลักสูตรหน่ึงหลักสูตรใดไปใช้หรือไม่นาไปใช้ก็ได้ตามเหตุผลและความจาเป็นของแต่ ละส่วนราชการ สถาบันคุรุพัฒนา สานักงานเลขาธิการคุรุสภา จึงได้กาหนดแนวทางการรับรองหลักสูตร เพื่อการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน โดยมีกรอบแนวคิดพื้นฐานท่ีคานึงถึง หลักการตามมาตรฐาน ดงั น้ี (ก) มาตรฐานหลกั สตู ร เปน็ การพฒั นาหลักสูตรที่มหี ลกั การและกรอบแนวคิดท่ชี ัดเจนระบุถึง กลุ่มสาระ ระดับและประเภทการศกึ ษา และระดับความลมุ่ ลกึ ของหลักสตู ร ไดอ้ ย่างชดั เจน รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 69 หลกั สตู รการวจิ ยั พฒั นาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชพี สานักงาน กศน.จงั หวัดหนองคาย
(ข) มาตรฐานการดาเนินงาน เป็นการบริหารจัดการที่มีผู้รับผิดชอบหลักสูตรชดั เจน มีระบบ การรายงานข้อมูลของครูที่เข้ารับการพัฒนาได้อย่างครบถ้วนมีระบบการติดตาม ประเมินผลของ หลกั สูตร (ค) มาตรฐานวิทยากร ต้องคัดกรองบุคคลที่จะมาทาหน้าที่เป็นวิทยากรพัฒนาครู โดยต้อง คานึงถึง คุณวุฒิประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ วิทยฐานะ หรือตาแหน่งทางวิชาการท่ีเป็นไปตาม เกณฑท์ ส่ี ถาบันคุรุพัฒนากาหนด (ง) มาตรฐานผู้เข้ารับการพัฒนา เป็นการกาหนดกล่มุ เปา้ หมายครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอนท่ีชัดเจน มีการกาหนดคุณสมบัติผู้ท่ีจะเข้าร่วมกิจกรรมในหลักสูตร และมี กระบวนการคัดเลือกที่จะเข้ารับการพฒั นาได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ การรับรองหลักสูตรเพ่ือพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอนน้ี เป็นการ ดาเนินงานเพ่ือให้หลักสูตรการพัฒนาครูมีมาตรฐานและมีคุณภาพ อันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและ การจดั ระเบียบการพฒั นาครู การจัดการศึกษาข้ันพื้นฐานเป็นการกระจายอานาจการจัดการศึกษาจากส่วนกลางไปยัง ท้องถิ่นโดยตรงโดยมุ่งสนองความต้องการของท้องถิ่นและให้ทุกฝ่ายในสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการ จัดการศึกษาให้จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญทางานเป็นทีมแสดงออกอย่างอิสระ โดยการทาโครงงานเป็นผู้ปฏิบัติจริงมีส่วนร่วมทุกกระบวนการและทุกกิจกรรมอันจะนาไปสู่การ พัฒนาเต็มตามศักยภาพของผู้เรียนแต่ละบุคคลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้โดยการให้ความรู้และ ประสบการณ์จากการปฏิบัติงานจริงทงั้ นคี้ รผู ู้สอนต้องเป็นกลไกในการจดั การเรยี นรู้โดยใหผ้ ู้เรียนเป็น ศูนย์กลางการเรียนรู้และครูจาเป็นต้องมีศักยภาพในการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เม่ือกระบวนการเรียนรู้จาเป็นต้องเปล่ียนแปลงไปบทบาทของครูก็ควรเปลี่ยนไปด้วยเพราะครูเป็น ปจั จัยสาคญั ในกระบวนการพฒั นาการเรียนรูใ้ ห้แกผ่ ูเ้ รยี นรวมท้ังในการจัดการเรียนการสอนต้องจัดให้ มีเนื้อหาสาระและกิจกรรมสอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียนตามความแตกต่าง ระหว่างบุคคลจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงเป็นการผสมผสานสาระการเรียนรู้ ด้านต่าง ๆ เข้าด้วยกันให้ผู้เรียนเรียนรู้วิธีแสวงหาความรู้ด้วยตนเองเรียนรู้ด้วยความเข้าใจมากกว่า การท่องจาดงั นนั้ ครูจึงจาเป็นต้องคิดคน้ หาวิธีการและทดลองวิธใี ชเ้ ทคนิควิธีการใหม่ ๆ ซึง่ ครสู ามารถ นากระบวนการวิจัยในช้ันเรียนมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีคุณภาพได้การวิจัยเป็นการ ค้นหาความจริงอย่างเป็นระบบช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในการเรียนการสอนและช่วยพัฒนา ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ของครูให้มีประสิทธิภาพอีกด้วย (กรมวิชาการ, 2542 : 2) การวิจัยถือได้ว่าเป็นเครือ่ งมือสาคัญท่จี ะช่วยให้ครูผู้สอนสามารถพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนได้เป็น อย่างดีเพราะการวิจัยเป็นวิธีการนาไปสู่การค้นพบคาตอบของประเด็นปัญหาต่าง ๆ ท้ังทางด้าน วิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์การพัฒนาหรือการปฏิบัติงานจากผลการวิจัยทาให้การพัฒนาเป็นไป ในทิศทางท่ีถูกต้องการวิจัยจึงเป็นวิธีการท่ีนามาใช้ในการพัฒนาการศึกษาซึ่งสิปปนนท์ เกตุทัต (2538 : 1) กล่าวว่าการวจิ ัยเปน็ กิจกรรมท่ีได้รบั การยอมรับกันโดยทัว่ ไปวา่ เป็นวิธกี ารหรือเครื่องมือ ในการพัฒนาภูมิปัญญาของประเทศให้ก้าวหน้าย่ิง ๆ ข้ึนไปปัจจุบันการจัดการศึกษาของไทยได้ให้ ความสาคัญกับการวิจัยมากซึ่งจะเห็นได้ว่าพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 24 และมาตรา 30 กาหนดให้ครูผู้สอนใช้วิจัยเป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการเรียนการสอน รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 70 หลักสตู รการวิจยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ สานกั งาน กศน.จงั หวดั หนองคาย
โดยให้สถานศึกษาพัฒนาส่งเสริมการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดับ การศึกษาพร้อมทั้งได้กาหนดเป็นยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาของแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2545–2559) โดยให้สถานศึกษาสร้างนักวิจัยฝึกหัดด้วยการฝึกอบรมครูอาจารย์ให้มีความรู้ ความสามารถในการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้การศึกษาเป็นฐานของการวิจัยและดาเนินงาน การวิจัยพัฒนานวัตกรรมการศึกษาส่ือเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์สาหรับการจัดการศึกษา ให้มีคุณภาพ และประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาสังคมไทยเป็นสังคมแห่งคุณธรรมภูมิปัญญาและการเรียนรู้ (สานักงาน คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2545 : 68–69) การนาการวิจัยมาพัฒนาการเรียนรู้ของ นักเรียนนั้นมุ่งเน้นให้ครูผู้สอนนาการวิจัยมาใช้เป็นกระบวนการควบคู่ไปกับกระบวนการเรีย นการ สอนเพ่ือแก้ปัญหาพัฒนาการเรียนการสอนในช้ันเรียนท่ีตนรับผิดชอบอย่างเป็นระบบครูต้องใช้ กระบวนการบูรณาการความรู้ทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติในการคิดค้นวิธีสอนส่ือหรือนวัตกรรมต่าง ๆ ผสานกับแนวคิดพน้ื ฐานของการวจิ ัยในการประยกุ ตใ์ ชเ้ พอ่ื การวางแผนและพัฒนาคุณภาพผ้เู รียนหรือ แก้ปัญหาท่ีพบในการจัดการเรียนการสอนในช้ันเรยี นการวิจัยในชั้นเรียนจึงเป็นทักษะท่ีครูต้องฝึกฝน ให้เกิดความชานาญการอันเป็นองค์ประกอบสาคัญประการหน่ึงของความเป็นครูมืออาชีพในยุคของ การปฏิรูปการเรียนรู้ (ยุทธนา ปฐมวรชาติ, 2544 : 59) การสารวจปัญหาและความต้องการ เกี่ยวกับการจัดทาวิจัยในช้ันเรียนของครูในโรงเรียนโดยการประชุมวิชาการและใช้แบบสอบถามครู เก่ียวกับปัญหาการทาวิจัยในช้ันเรียนสามารถสรุปปัญหาของครูเก่ียวกับการทาวิจัยในช้ันเรียน เพื่อพัฒนาการเรยี นการสอนได้ 2 ขอ้ คือครูไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทาวิจัยในชั้นเรียนและ ครูไม่สามารถทาวิจัยในชั้นเรียนได้ครูส่วนใหญ่มีความเห็นว่าควรมีการส่งเสริมและสนับสนุน ให้ครูผู้สอนทาการวิจัยในชั้นเรียนเพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเน่ืองทั้งน้ี เนื่องจากว่ารูปแบบการพัฒนาครูด้านการทาวิจัยในช้ันเรียนที่ได้ดาเนินการผ่านมานั้นมีลักษณะเป็น การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้วิชาการและฝึกปฏิบัติการในวันอบรมเม่ือเสร็จสิ้นการฝึกอบรม แล้วฝ่ายบริหารหรือวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่ให้การอบรมไม่ได้นิเทศติดตามผลการฝึกอบรมเสนอแนะ ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทาให้เกิดความไม่ม่ันใจที่จะดาเนินการทาวิจัยในช้ันเรียนเพราะเม่ือเกิดปัญหา ขนึ้ มาไม่ทราบว่าจะปรึกษาใครสง่ ผลให้เกดิ ทัศนคติที่ไม่ดตี ่อการทาวิจัยในชนั้ เรียนทาให้รู้สึกวา่ การทา วิจัยในชั้นเรียนเป็นเร่ืองยุ่งยากและเป็นการเพิ่มภาระให้กับตนเองจึงไม่อยากทาวิจัยในชั้นเรียนจาก ปัญหาดังกล่าวจึงจาเป็นที่จะต้องพัฒนาให้ครูให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถทาวิจัยในช้ันเรียน เพ่ือประโยชน์ในด้านการพัฒนาหรือคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของผู้เรียนอย่างเป็นรูปธรรม (โรงเรียนบ้านท่าสองคอน, 2549 : 15) ผู้วิจัยในฐานะที่ปฏิบัติงานในตาแหน่งรองผู้อานวยการ โรงเรียนบ้านท่าสองคอนจึงมีความสนใจที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวโดยการศึกษาและกาหนดวิธีการ ดาเนินการพัฒนาครูเกี่ยวกับการจัดทาการวิจัยในชั้นเรียนที่เป็นระบบครบวงจรโดยมีการติดตาม นิเทศภายในช่วยเหลอื แนะนาหลังการอบรมเชิงปฏิบตั ิการแตล่ ะครัง้ โดยการดาเนินการครงั้ น้ีใชว้ ธิ กี าร วจิ ัยเชิงปฏิบัติการจานวน 3 รอบในแต่ละวงรอบจะมกี ารเก็บรวบรวมข้อมลู เพื่อการสะท้อนผลโดยใช้ เครื่องมือสะท้อนผลที่หลากหลายเพื่อปรับปรุงการดาเนินการให้มีความเหมาะสมยิ่งข้ึนและเม่ือ ดาเนินการครบ 3 วงรอบปฏิบัติจะทาการประเมินผลการพัฒนาครูด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การวิจัยในช้ันเรียนและด้านความสามารถในการทาวิจัยในช้ันเรียนโดยใช้วิธีการและเคร่ืองมือท่ี พัฒนาขึ้นการวิจัยคร้ังนี้นอกจากจะเป็นการพัฒนาครูให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในช้ัน รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 71 หลกั สตู รการวิจยั พฒั นาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย
เรียนและสามารถทาวิจัยในช้ันเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนของตนให้มีประสิทธิภ าพแล้วยังจะ ทาให้ได้นวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านการจัดการอบรมเพื่อให้ครูผู้สอนนาไปประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ ในการพัฒนาครใู นด้านอืน่ ๆ ตอ่ ไป หลกั สตู รทอี่ อกแบบเพ่ือพัฒนาครู จะตอ้ งเป็นการพัฒนาครูทห่ี ลอมรวมการบูรณาการความรู้ ระหว่างเน้ือหาสาระวิชา (Content Knowledge) หลักวิชาชีพครู (Pedagogical Knowledge)และ เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ากับการจัดการเรียนรู้ตามเน้ือหาสาระเฉพาะทาง (Technological Pedagogical Knowledge :TPCK) ทั้งนี้กรอบแนวคิดของการออกแบบหลักสูตรเพ่ือพัฒนาครูทั้ง 2 ประเด็นจะต้องนาเสนอกรณีศึกษาและ/หรือแนวทางให้ครูเกิดแนวคิด แรงบันดาลใจ นาไปพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กระบวนการการเรียนรู้ และเป็นแนวคิดที่นาไปสู่การปฏิบัติตามกระบวนการ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) ได้ซึ่งระดับลุ่มลึกของ หลักสูตรอยู่ในระดับกลาง (Intermediate Level) หมายถึงหลักสูตรที่นาเสนอประสบการณ์และ/ หรือกิจกรรมข้ันพัฒนา สาหรับผู้ท่ีมีพื้นฐานในเรื่องน้ันมาก่อน มีความเข้าใจหลักการ กรอบแนวคิด ทักษะพื้นฐานหรือผู้ท่ีเคยผ่านการพัฒนาในหลักสูตรระดับพ้ืนฐานมาก่อน เป็นการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ให้ทั้งความรู้ (Knowledge) เนื้อหาสาระท่ีสูงกว่าระดับข้ันพ้ืนฐาน รวมถึงจะต้องมีกิจกรรมท่ี ให้ครไู ด้ฝึกทักษะ (Skills) หรอื การปฏิบัติท่ีจาเปน็ ในระดบั ท่ีต้องมีการใช้ทักษะและ/หรือกระบวนการ ที่ซับซ้อนมากข้ึน และมีการสอดแทรกปลูกฝังคุณลักษณะ (Attribute) ท่ีเกี่ยวเนื่องกับความเป็นครู ผนวกเข้าด้วยกนั โดยสาระในหลักสตู รมีลักษณะดงั นี้ (1) มีจานวนช่วั โมงการอบรม ไม่น้อยกวา่ 18 ชัว่ โมง (2) มีกิจกรรมที่ใชก้ ระบวนการเรยี นร้ทู ่ีกระตุ้นให้เกดิ การเรียนร้ทู ี่เกิดจากการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ คดิ ขัน้ สงู (Higher Order Thinking) (3) เป็นการจดั การเรียนรู้ทเ่ี นน้ การสรา้ งบรรยากาศการเรียนร้ทู ี่ทาใหค้ รูทเ่ี ขา้ รับการพฒั นา สรา้ งสรรค์ สรุปองคค์ วามรู้ท่เี กิดข้นึ จากการผสมผสานระหว่างองค์ความรจู้ ากทฤษฎี องคค์ วามรทู้ ี่ เกิดจากประสบการณ์การปฏิบัติในชน้ั เรียน และมีกระบวนการสรุปสรา้ งขอ้ เสนอทางวชิ าการในเร่ือง นั้น ๆ ซ่ึงหลักสตู รการวจิ ยั ในช้นั เรยี นประกอบดว้ ย เน้ือหำสำระวชิ ำ 1. ความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของการวจิ ัยในชั้นเรยี น 2. การกาหนดและวเิ คราะห์ปญั หาและการสร้างกรอบความคิดการวิจัยในชนั้ เรยี น 3. การตงั้ ชอื่ เรื่อง การเขียนวัตถปุ ระสงค์ การกาหนดขอบเขตและการสรา้ ง เคร่อื งมอื การวิจยั ในชั้นเรยี น 4. การเก็บรวบรวมข้อมลู 5. การวิเคราะห์และแปลงผลขอ้ มูล 6. การเขยี นสรปุ ผล การอภิปรายผลการวจิ ยั ในชั้นเรียน 7. การเผยแพร่ผลงานวจิ ัย รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 72 หลักสตู รการวิจยั พฒั นาการเรยี นการสอน/ชุมชนแหง่ การเรียนร้ทู างวิชาชพี สานกั งาน กศน.จังหวดั หนองคาย
หลกั วิชำชีพครู มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชพี ครู ข้อที่ 4 การวัดผลการประเมิน การเรยี นรแู้ ละการวจิ ยั และแกไ้ ขปัญหาพฒั นาผู้เรยี น เทคโนโลยสี ำรสนเทศ 1. Internet 2. QR Code 3. ฐานขอ้ มลู ออนไลน์ 4. Google Classroom ในฐานะท่เี ปน็ ผเู้ กีย่ วขอ้ งกับการศกึ ษาไดเ้ หน็ ความสาคัญในการพัฒนาครูให้มีความรู้ ทกั ษะ การปฏิบตั ิ ตลอดจนมีคณุ ลักษณะความเป็นครใู นเรอื่ ง การวิจยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวชิ าชีพขึน้ เพื่อเปน็ สว่ นหนึ่งในการพัฒนาคณุ ภาพครูให้นาความรู้ ประสบการณ์ทีไ่ ดร้ ับไปสู่ การพฒั นานักเรียนใหม้ คี ุณภาพต่อไป 8. วตั ถปุ ระสงคข์ องหลักสูตร 8.1 ด้ำนควำมรู้ (Knowledge) 8.1.1 เพอ่ื ให้ครูทเี่ ขา้ รบั การพัฒนาเข้าใจสภาพปัญหาและวิธีการแกป้ ญั หาหรือพฒั นาผเู้ รียน โดยการวจิ ยั ในช้นั เรียน 8.1.2 เพ่อื ให้ครูทเ่ี ข้ารบั การพัฒนาเหน็ ความสาคญั และประโยชน์ของการวจิ ัยในช้ันเรยี น 8.1.3 เพอ่ื ให้ครูท่เี ขา้ รบั การพัฒนามคี วามรคู้ วามเข้าใจและปฏบิ ัตกิ ารทาวจิ ัยในช้ันเรยี น ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 8.1.4 เพอ่ื ให้ครูที่เข้ารบั การพัฒนาเขยี นรายงานและเผยแพร่ผลงานการวิจยั ในชนั้ เรยี นได้ 8.2 ดำ้ นทกั ษะปฏบิ ัติ (Skill) ครูท่ีเข้ารบั การพัฒนาสามารถดาเนนิ การจดั ทาวิจัยในชั้นเรียนเพอื่ พฒั นาการเรียนการสอน ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และสามารถนาไปใช้แก้ปญั หาในชัน้ เรยี นไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพและต่อเน่ือง 8.3 ดำ้ นคณุ ลักษณะควำมเปน็ ครู (Attribute) ครูทีเ่ ข้ารบั การพฒั นาสามารถแสดงบทบาทหนา้ ทีข่ องตนในการพฒั นาผเู้ รียนได้อยา่ งมืออาชีพ 9. ตวั ช้วี ดั ควำมสำเรจ็ ของครู ครูทีเ่ ขา้ รับการพัฒนาในแต่ละหลักสตู รต้องมีเวลาเข้ารว่ มกิจกรรมตามหลักสตู รนนั้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ของเวลาตามหลักสูตร (จาเป็น) รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 73 หลักสตู รการวจิ ัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ สานกั งาน กศน.จงั หวดั หนองคาย
10. สังเขปหัวข้อเน้ือหำสำระในหลักสูตรต้องระบุหัวข้อเนื้อหำสำระให้ได้อย่ำงน้อย 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 10.1 กลุ่มเนื้อหำทเ่ี ป็นสำระวิชำดำ้ น (Content) 10.1.1 ความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของการวิจัยในชัน้ เรยี น 10.1.2 การกาหนดและวเิ คราะหป์ ัญหาและการสรา้ งกรอบความคิดการวจิ ยั ในชน้ั เรยี น 10.1.3 การต้ังช่ือเร่ือง การเขียนวัตถุประสงค์ การกาหนดขอบเขตและการสร้าง เครื่องมอื การวิจยั ในชน้ั เรียน 10.1.4 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 10.1.5 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มูล 10.1.6 การเขียนสรุปผล การอภิปรายผลการวิจัยในชัน้ เรยี น 10.1.7 การเผยแพร่ผลงานวิจัย 10.2 กลุม่ เนื้อหำสำระทเี่ ปน็ ศำสตร์ทำงวิชำชพี ครู (Pedagogy) 10.2.1 การใช้เทคนคิ การสอนเชิงพฤติกรรมตามวิธี Active Leaning ในการ ออกแบบการเรียนร้ใู นชั้นเรยี นโดยใช้กระบวนการ PLC 10.2.2 การจัดกจิ กรรมการสอนแบบมีสว่ นร่วมในการจดั การในช้ันเรยี นระหวา่ งครูและ ผเู้ รียน 10.2.3 การสร้างออกแบบเพ่ือพัฒนาผู้เรียนและผู้เรียนได้ทักษะการคิดของผู้เรียน อยา่ งมเี หตุผลจดั ลาดบั ความสาคญั และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกวิธี 10.3 กลุ่มบูรณำกำรเน้ือหำสำระกับศำสตร์วิชำชีพครู และ/หรือ เทคโนโลยีสำรสนเทศ ( Pedagogical Content Knowledge: PCK and/or Technological Pedagogical Content Knowledge: TPCK) 10.3.1 นาองค์ความรดู้ ้านกระบวนการวิจยั และพัฒนาพัฒนาห้องเรยี นใหเ้ กดิ ทักษะและนาไปเผยแพร่ต่อชุมชนแหง่ การเรยี นร้ไู ด้ 10.3.2 สาธิตและนาเสนอผลงานผา่ นชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชพี ครแู ละ สามารถถา่ ยทอดผ่านเทคโนโลยสี ารสนเทศได้อย่างเป็นระบบ 11. ตำงรำงจัดกจิ กรรม กจิ กรรมการพัฒนาที่หลากหลายที่พัฒนาความรูส้ าระเฉพาะ สาระศาสตร์การสอน ความเป็น ครูทักษะการปฏิบัติ การบูรณาการการสอนกับสาระเฉพาะการวางแผนปฏิบัติการสอนกับผู้เรียน การสร้างบรรยากาศ การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับวิทยากร การติดตาม การสะท้อนคิด การเช่ือมโยง ความรู้สู่การพัฒนาครูด้วยชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตลอดจนระบบการทางานร่วมกัน หลังพัฒนา โดยเขียนเป็นตารางการจัดกิจกรรมที่เป็นช่ัวโมงพัฒนาเท่าน้ัน (ไม่นับการลงทะเบียน พิธเี ปดิ -ปิด รับประทานอาหาร รวมถงึ ชั่วโมงการติดตามและ PLC) (ดูจานวนชั่วโมงให้ครบตามเกณฑ์ ท่ีกาหนด) รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 74 หลกั สตู รการวจิ ัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรยี นร้ทู างวิชาชพี สานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย
วัน เร่มิ ต้น-ถงึ ประเภท รำยละเอียด วิทยำกร กิจกรรม/บรรยำย 1 09.00 น. หวั ขอ้ ความหมาย -บรรยายการจดั การเรยี นรู้ นางชลธิชา โคตรชมภู – ความสาคญั และประโยชน์ ดว้ ยกระบวนการวจิ ยั นางนิโลบล คาหงษา 10.30 น. ของการวจิ ัยในชั้นเรียน -แบง่ กลมุ่ สนทนาแลกเปลย่ี น นางมณฑาทพิ ย์ เสยยงคะ 1. บรรยายใหค้ วามรู้ ความร้แู ละออกมานาเสนอ 2. แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ องค์ความรู้ ปฏบิ ตั ิกลมุ่ - แบง่ กล่มุ เชงิ ปฏบิ ตั ิการลงมอื 3. แบ่งกลุ่มนาเสนอผลงาน ปฏิบตั ิกจิ กรรม -ผ้อู บรมและวทิ ยากรร่วมสรุป องคค์ วามร้รู ว่ มกนั 10.30 น. หวั ขอ้ การกาหนดและ -บรรยายการจดั การเรยี นรู้ นางชลธชิ า โคตรชมภู – วเิ คราะหป์ ัญหาและการสรา้ ง ด้วยกระบวนการวิจยั นางนโิ ลบล คาหงษา 12.00 น. กรอบความคดิ การวิจยั -แบง่ กลุ่มสนทนาแลกเปลยี่ น นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ ในชน้ั เรยี น ความรู้และออกมานาเสนอ 1. บรรยายให้ความรู้ องค์ความรู้ 2. แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ - แบง่ กลุ่มเชิงปฏิบัติการลงมือ ปฏิบตั ิกลมุ่ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 3. แบ่งกล่มุ นาเสนอผลงาน -ผ้อู บรมและวิทยากรร่วมสรปุ องค์ความรรู้ ่วมกนั 13.00 น. หัวข้อการตั้งช่อื เร่อื ง -บรรยายการจัดการเรยี นรู้ นางชลธิชา โคตรชมภู – 1. บรรยายใหค้ วามรู้ ด้วยกระบวนการวิจัย นางนิโลบล คาหงษา 14.30 น. 2. แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ -แบง่ กลมุ่ สนทนาแลกเปลยี่ น นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ ปฏิบัตกิ ลมุ่ ความรูแ้ ละออกมานาเสนอ 3. แบง่ กลุ่มนาเสนอผลงาน องคค์ วามรู้ - แบ่งกลุ่มเชงิ ปฏบิ ตั ิการลงมอื ปฏบิ ัติกจิ กรรม -ผอู้ บรมและวทิ ยากรรว่ มสรปุ องค์ความรูร้ ว่ มกัน 14.30 น. หัวข้อการเขียนวตั ถปุ ระสงค์ -บรรยายการจัดการเรยี นรู้ นางชลธิชา โคตรชมภู – การกาหนดขอบเขต ดว้ ยกระบวนการวจิ ัย นางนิโลบล คาหงษา 16.00 น. 1. บรรยายใหค้ วามรู้ -แบ่งกลมุ่ สนทนาแลกเปลย่ี น นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ 2. แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ความรู้และออกมานาเสนอ ปฏิบัติกลมุ่ องคค์ วามรู้ 3. แบง่ กล่มุ นาเสนอผลงาน - แบง่ กลุ่มเชงิ ปฏิบัติการลงมอื ปฏิบตั ิกิจกรรม -ผอู้ บรมและวิทยากรร่วมสรปุ องค์ความรูร้ ่วมกัน รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 75 หลักสตู รการวจิ ยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชพี สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
ตำงรำงจัดกจิ กรรม (ต่อ) วนั เริ่มต้น-ถงึ ประเภท รำยละเอยี ด วิทยำกร กิจกรรม/บรรยำย 2 09.00 น. หัวขอ้ การสรา้ งเครอื่ งมือ -บรรยายการจดั การเรยี นรู้ นางชลธิชา โคตรชมภู – การวิจัยในชั้นเรยี น ดว้ ยกระบวนการวจิ ัย นางนิโลบล คาหงษา 12.00 น. 1. บรรยายให้ความรู้ -แบง่ กลมุ่ สนทนาแลกเปลยี่ น นางมณฑาทพิ ย์ เสยยงคะ 2. แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ความรู้และออกมานาเสนอ ปฏิบัติกลมุ่ องค์ความรู้ 3. แบง่ กลุ่มนาเสนอผลงาน - แบง่ กลมุ่ เชงิ ปฏบิ ัติการลงมอื ปฏบิ ตั ิกิจกรรม -ผู้อบรมและวิทยากรร่วมสรุป องค์ความรรู้ ว่ มกัน 13.00 น. หวั ขอ้ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู -บรรยายการจัดการเรียนรู้ นางชลธชิ า โคตรชมภู – 1. บรรยายให้ความรู้ ด้วยกระบวนการวิจัย นางนโิ ลบล คาหงษา 14.30 น. 2. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ -แบง่ กลุ่มสนทนาแลกเปลย่ี น นางมณฑาทพิ ย์ เสยยงคะ ปฏบิ ัติกลมุ่ ความรูแ้ ละออกมานาเสนอ 3. แบ่งกลมุ่ นาเสนอผลงาน องค์ความรู้ - แบ่งกลมุ่ เชิงปฏิบตั ิการลงมอื ปฏิบตั ิกิจกรรม -ผอู้ บรมและวิทยากรร่วมสรุป องค์ความรู้รว่ มกัน 14.30 น. หัวขอ้ การวิเคราะห์และแปล -บรรยายการจดั การเรยี นรู้ นางชลธิชา โคตรชมภู – ผลขอ้ มลู ดว้ ยกระบวนการวิจยั นางนิโลบล คาหงษา 16.00 น. 1. บรรยายให้ความรู้ -แบ่งกลมุ่ สนทนาแลกเปลยี่ น นางมณฑาทพิ ย์ เสยยงคะ 2. แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ความรู้และออกมานาเสนอ ปฏิบตั ิกลมุ่ องค์ความรู้ 3. แบ่งกล่มุ นาเสนอผลงาน - แบง่ กลุ่มเชงิ ปฏิบัตกิ ารลงมือ ปฏบิ ัติกิจกรรม -ผอู้ บรมและวิทยากรร่วมสรุป องคค์ วามรรู้ ่วมกนั 3 09.00 น. หวั ข้อการเขียนสรปุ ผล -บรรยายการจดั การเรยี นรู้ นางชลธิชา โคตรชมภู – 1. บรรยายให้ความรู้ ดว้ ยกระบวนการวิจยั นางนิโลบล คาหงษา 12.00 น. 2. แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ -แบ่งกลุม่ สนทนาแลกเปลย่ี น นางมณฑาทพิ ย์ เสยยงคะ ปฏิบัติกลมุ่ ความรแู้ ละออกมานาเสนอ 3. แบง่ กลุ่มนาเสนอผลงาน องคค์ วามรู้ - แบง่ กลุ่มเชิงปฏิบตั กิ ารลงมือ ปฏิบตั ิกจิ กรรม -ผู้อบรมและวทิ ยากรรว่ มสรุป องคค์ วามรรู้ ว่ มกนั รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 76 หลักสตู รการวิจยั พฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ สานกั งาน กศน.จังหวดั หนองคาย
ตำงรำงจดั กจิ กรรม (ตอ่ ) วัน เริม่ ตน้ -ถงึ ประเภท รำยละเอียด วทิ ยำกร กิจกรรม/บรรยำย 3 13.00 น. หัวขอ้ การอภิปรายผลการวิจัย -บรรยายการจัดการเรียนรู้ นางชลธชิ า โคตรชมภู – ในชัน้ เรียน ด้วยกระบวนการวจิ ัย นางนโิ ลบล คาหงษา 14.30 น. 1. บรรยายใหค้ วามรู้ -แบ่งกลมุ่ สนทนาแลกเปลย่ี น นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ 2. แลกเปลีย่ นเรียนรู้ ความรู้และออกมานาเสนอ ปฏิบัติกลมุ่ องคค์ วามรู้ 3. แบ่งกลุ่มนาเสนอผลงาน - แบง่ กล่มุ เชิงปฏิบตั กิ ารลงมือ ปฏิบตั ิกิจกรรม -ผู้อบรมและวิทยากรรว่ มสรปุ องคค์ วามรรู้ ่วมกัน 14.30 น. หัวขอ้ การเผยแพร่ -บรรยายการจัดการเรยี นรู้ นางชลธิชา โคตรชมภู – ผลงานวจิ ัย ด้วยกระบวนการวิจัย นางนโิ ลบล คาหงษา 16.00 น. 1. บรรยายใหค้ วามรู้ -แบง่ กลุ่มสนทนาแลกเปลยี่ น นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ 2. แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ความรู้และออกมานาเสนอ ปฏิบัตกิ ลมุ่ องคค์ วามรู้ 3. แบ่งกลุ่มนาเสนอผลงาน - แบง่ กลมุ่ เชิงปฏิบัติการลงมือ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม -ผู้อบรมและวิทยากรรว่ มสรปุ องคค์ วามรู้ร่วมกัน 12. แผนกำรจดั กจิ กรรม แผนท่ี 1 สาระ/หัวเร่อื งการพัฒนา ความหมาย ความสาคัญ และประโยชน์ของการวิจัย ในช้นั เรียน จานวน 1 ชว่ั โมง 30 นาที วตั ถุประสงค์ 1. ครผู เู้ ข้ารับการพัฒนาได้รับความรู้เรือ่ งความหมาย ความสาคัญ และประโยชน์ ของการวิจัยในชนั้ เรียน 2. ครผู ู้เขา้ รับการพัฒนาสามารถอธบิ ายความหมาย ความสาคัญ และประโยชน์ของ การวจิ ัยในชนั้ เรียน พฤติกรรมกำรเรยี นรู้ของครทู ่จี ะเกิดข้นึ 1. ครูผู้เข้ารับการพฒั นาได้รับความร้เู รอื่ งความหมาย ความสาคัญ และประโยชน์ ของการวจิ ยั ในช้ันเรยี นเทคนิคและวธิ ีการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้บูรณาการกับสาระการเรยี นร้อู ่ืน 2. ครูผู้เขา้ รับการพฒั นาสามารถอธิบายความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ ของการวิจยั ในชั้นเรยี นได้ รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 77 หลักสตู รการวิจัยพฒั นาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรียนร้ทู างวชิ าชพี สานกั งาน กศน.จงั หวดั หนองคาย
3. ครผู ้เู ข้ารบั การพัฒนาสามารถแลกเปล่ยี นเรียนรู้นาเสนอผลงานการจดั การศึกษา ดว้ ยกระบวนการ Active Learning สำระ/หัวขอ้ กจิ กรรม สอื่ กำรวดั และ วิทยำกร กำรพฒั นำ ประเมนิ ผล 1. บรรยายให้ความรู้ ความหมาย Power Point 1. คมู่ ือการ - แบบสังเกต นางชลธิชา โคตรชมภู ความสาคญั ยกตัวอย่างประกอบ และประโยชน์ การสอนจริงท่ี ฝกึ อบรม พฤติกรรมการมสี ่วน นางนิโลบล คาหงษา ของการวิจยั ใน เชอื่ มโยงชน้ั เรยี น ชั้นเรียน 2. แลกเปล่ยี นเรียนรู้ 2. Power point ร่วมกลมุ่ ในการ นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ ปฏบิ ัตกิ ลมุ่ แบบชมุ ชน แห่งการเรียนรทู้ าง ประกอบการ นาเสนอผลงานและ วชิ าชีพ 3. แบ่งกลุม่ นาเสนอ บรรยาย แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ผลงาน 3. กรดาษบรฟุ๊ - เขยี นองคป์ ระกอบ ปากกาเคมสี ตี า่ ง ๆ และอธบิ ายได้กลุ่ม 4. กระดาษสี ละ 1 แผนงาน แผนที่ 2 สาระ/หวั เรือ่ งการพัฒนา กาหนดและวิเคราะห์ปัญหาและการสร้างกรอบความคดิ การวจิ ยั ในชั้นเรยี นจานวน 1 ชั่วโมง 30 นาที วัตถุประสงค์ 1. ครูผู้เขา้ รับการพฒั นาไดร้ ับความรเู้ รอื่ งการกาหนดและวเิ คราะหป์ ญั หาและการ สร้างกรอบความคดิ การวิจัยในช้นั เรยี น 2. ครผู เู้ ขา้ รบั การพัฒนาสามารถอธิบายการกาหนดและวิเคราะห์ปญั หาและการ สรา้ งกรอบความคดิ การวิจยั ในช้นั เรยี น พฤตกิ รรมกำรเรยี นรู้ของครทู ่จี ะเกิดขึน้ 1. ครูผูเ้ ขา้ รบั การพัฒนาได้รับความรูเ้ ร่ืองการกาหนดและวิเคราะหป์ ญั หาและการ สร้างกรอบความคดิ การวิจยั ในชน้ั เรียนเทคนคิ และวิธกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรบู้ รู ณาการกบั สาระ การเรยี นรู้อ่นื 2. ครูผู้เขา้ รับการพัฒนาสามารถอธบิ ายการกาหนดและวเิ คราะห์ปัญหาและการ สรา้ งกรอบความคดิ การวิจยั ในชนั้ เรยี นได้ 3. ครูผเู้ ข้ารบั การพฒั นาสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้นาเสนอผลงานการจัดการศึกษา ดว้ ยกระบวนการ Active Learning รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 78 หลกั สตู รการวิจัยพฒั นาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชพี สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
สำระ/หัวขอ้ กจิ กรรม สือ่ กำรวัดและ วิทยำกร กำรพัฒนำ ประเมนิ ผล 1. บรรยายให้ความรู้ 1. คู่มือการ การกาหนดและ Power Point ฝึกอบรม - แบบสงั เกต นางชลธชิ า โคตรชมภู วเิ คราะหป์ ัญหา ยกตัวอย่างประกอบ 2. Power point และการสรา้ ง การสอนจริงที่ ประกอบการ พฤติกรรมการมสี ่วน นางนโิ ลบล คาหงษา กรอบความคดิ เชอื่ มโยงช้นั เรยี น บรรยาย การวิจัยในชั้น 2. แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 3. กระดาษบรฟุ๊ รว่ มกลมุ่ ในการ นางมณฑาทพิ ย์ เสยยงคะ เรยี น ปฏิบตั กิ ลมุ่ แบบชุมชน ปากกาเคมสี ตี ่างๆ แห่งการเรยี นรูท้ าง 4. กระดาษสี นาเสนอผลงานและ วชิ าชพี 3. แบง่ กลุ่มนาเสนอ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ผลงาน - เขียนองค์ประกอบ และอธบิ ายไดก้ ลุม่ ละ 1 แผนงาน แผนที่ 3 สาระ/หวั เรอื่ งการพัฒนา การตั้งช่อื เร่ือง จานวน 1 ชวั่ โมง 30 นาที วัตถปุ ระสงค์ 1. ครูผ้เู ขา้ รบั การพัฒนาได้รับความรู้เรอ่ื งการกาหนดและวิเคราะหป์ ญั หาและการ สรา้ งกรอบความคิดการวจิ ยั ในชน้ั เรยี น 2. ครผู ู้เข้ารับการพัฒนาสามารถอธิบายการกาหนดและวิเคราะหป์ ญั หาและการ สร้างกรอบความคิดการวจิ ัยในชั้นเรยี น พฤติกรรมกำรเรียนรู้ของครทู จี่ ะเกิดข้ึน 1. ครผู ู้เข้ารับการพฒั นาไดร้ ับความรเู้ รือ่ งการกาหนดและวิเคราะห์ปญั หาและการ สร้างกรอบความคดิ การวิจัยในช้นั เรียนเทคนิคและวธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้บรู ณาการกบั สาระ การเรยี นรอู้ ื่น 2. ครูผเู้ ข้ารับการพฒั นาสามารถอธิบายการกาหนดและวิเคราะหป์ ัญหาและการ สรา้ งกรอบความคิดการวจิ ยั ในชน้ั เรียนได้ 3. ครผู เู้ ข้ารบั การพัฒนาสามารถแลกเปล่ยี นเรียนรู้นาเสนอผลงานการจัดการศึกษา ด้วยกระบวนการ Active Learning รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 79 หลกั สตู รการวจิ ัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชพี สานกั งาน กศน.จงั หวดั หนองคาย 5
สำระ/หัวขอ้ กิจกรรม สอ่ื กำรวดั และ วิทยำกร กำรพฒั นำ ประเมนิ ผล 1. บรรยายให้ความรู้ 1. คมู่ อื การ นางชลธิชา โคตรชมภู 1.วธิ ีการจัด Power Point ฝกึ อบรม - แบบสงั เกต นางนโิ ลบล คาหงษา กิจกรรมการ ยกตัวอย่าง 2. Power point พฤตกิ รรมการมสี ว่ น นางมณฑาทพิ ย์ เสยยงคะ เรยี นรู้ ประกอบการสอนจริง ประกอบการ รว่ มกลมุ่ ในการ ภาษาองั กฤษใน ทเี่ ชอ่ื มโยงชั้นเรียน บรรยาย นาเสนอผลงานและ ศตวรรษท่ี 21 2. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3. กระดาษบรฟุ๊ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ แนวทางการวาง ปฏบิ ตั ิกลมุ่ แบบชมุ ชน ปากกาเคมสี ีต่างๆ - เขยี นองคป์ ระกอบ แผนการสอน แห่งการเรยี นรทู้ าง 4. กระดาษสี และอธิบายไดก้ ล่มุ แนวทางการใช้ วชิ าชีพ ละ 1 แผนงาน สื่อ 3. แบ่งกลมุ่ นาเสนอ ผลงาน แผนท่ี 4 สาระ/หัวเรือ่ งการพัฒนา การเขยี นวัตถปุ ระสงค์ การกาหนดขอบเขตจานวน 1 ช่ัวโมง 30 นาที วัตถุประสงค์ 1. ครผู ู้เข้ารับการพัฒนาได้รับความรเู้ รือ่ งการกาหนดและวิเคราะห์ปญั หาและการ สร้างกรอบความคิดการวิจยั ในชน้ั เรยี น 2. ครูผเู้ ข้ารับการพัฒนาสามารถอธิบายการกาหนดและวเิ คราะห์ปัญหาและการ สรา้ งกรอบความคิดการวิจัยในชั้นเรียน พฤติกรรมกำรเรียนรู้ของครทู ี่จะเกิดขนึ้ 1. ครผู เู้ ข้ารบั การพฒั นาไดร้ ับความรูเ้ รอ่ื งการกาหนดและวเิ คราะหป์ ญั หาและการ สรา้ งกรอบความคดิ การวิจยั ในช้นั เรยี นเทคนคิ และวิธกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรบู้ ูรณาการกับสาระ การเรียนรู้อนื่ 2. ครูผเู้ ขา้ รบั การพฒั นาสามารถอธิบายการกาหนดและวิเคราะห์ปญั หาและการ สร้างกรอบความคิดการวิจยั ในช้ันเรยี นได้ 3. ครูผู้เข้ารับการพัฒนาสามารถแลกเปลยี่ นเรียนรูน้ าเสนอผลงานการจดั การศึกษา ด้วยกระบวนการ Active Learning รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 80 หลักสตู รการวจิ ยั พฒั นาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรียนรูท้ างวชิ าชพี สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
สำระ/หวั ข้อ กิจกรรม ส่ือ กำรวดั และ วทิ ยำกร กำรพัฒนำ ประเมินผล 1. บรรยายใหค้ วามรู้ 1. คมู่ ือการ การเขยี น Power Point ฝึกอบรม - แบบสังเกต นางชลธชิ า โคตรชมภู วัตถปุ ระสงค์ ยกตัวอย่าง 2. Power point การกาหนด ประกอบการสอนจริง ประกอบการ พฤติกรรมการมสี ว่ น นางนิโลบล คาหงษา ขอบเขต ที่เชอ่ื มโยงชนั้ เรยี น บรรยาย 2. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3. กระดาษบรุ๊ฟ รว่ มกลมุ่ ในการ นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ ปฏบิ ตั กิ ลมุ่ แบบชมุ ชน ปากกาเคมสี ีตา่ งๆ แหง่ การเรยี นรู้ทาง 4. กระดาษสี นาเสนอผลงานและ วิชาชีพ 3. แบง่ กลมุ่ นาเสนอ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ผลงาน - เขียนสรุป องคป์ ระกอบและ อธิบายไดก้ ลุ่มละ 1 กจิ กรรม แผนที่ 5 สาระ/หวั เรื่องการพัฒนา การสร้างเครื่องมือการวิจัยในช้นั เรยี นจานวน 1 ชั่วโมง 30 นาที วัตถุประสงค์ 1. ครผู ู้เขา้ รบั การพฒั นาไดร้ ับความร้เู รอ่ื งการกาหนดและวเิ คราะห์ปัญหาและการ สรา้ งกรอบความคิดการวจิ ัยในชัน้ เรยี น 2. ครผู ู้เขา้ รับการพัฒนาสามารถอธิบายการกาหนดและวิเคราะห์ปัญหาและการ สร้างกรอบความคิดการวจิ ยั ในชนั้ เรยี น พฤตกิ รรมกำรเรียนรู้ของครทู ีจ่ ะเกิดข้ึน 1. ครูผู้เขา้ รับการพัฒนาไดร้ ับความรู้เร่อื งการกาหนดและวิเคราะหป์ ญั หาและการ สรา้ งกรอบความคิดการวจิ ยั ในช้ันเรยี นเทคนคิ และวิธกี ารจัดกจิ กรรมการเรยี นรูบ้ ูรณาการกบั สาระ การเรยี นรู้อื่น 2. ครูผูเ้ ข้ารับการพฒั นาสามารถอธิบายการกาหนดและวิเคราะหป์ ญั หาและการ สรา้ งกรอบความคดิ การวจิ ัยในชั้นเรียนได้ 3. ครผู ู้เข้ารับการพฒั นาสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้นาเสนอผลงานการจัดการศึกษา ด้วยกระบวนการ Active Learning รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 81 หลักสตู รการวจิ ัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชพี สานกั งาน กศน.จังหวดั หนองคาย
สำระ/หัวขอ้ กิจกรรม ส่ือ กำรวัดและ วิทยำกร กำรพัฒนำ ประเมนิ ผล การสรา้ ง 1.แบง่ กลุ่มเชิง 1. ค่มู อื การ - แบบสังเกต นางชลธชิ า โคตรชมภู เครื่องมอื การ วิจยั ในชนั้ เรยี น ปฏิบตั ิการลงมอื ฝกึ อบรม พฤติกรรมการมสี ่วน นางนโิ ลบล คาหงษา ปฏิบตั กิ จิ กรรมเขียน 2. Power point รว่ มกลมุ่ ในการ นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ แผนการจดั การเรียนรู้ ประกอบการ นาเสนอผลงานและ 2. สนทนาแลกเปลยี่ น บรรยาย แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ความรดู้ า้ นการเขียน 3. กระดาษบรุ๊ฟ - เขียนองค์ประกอบ แผนการจดั การเรยี นรู้ ปากกาเคมสี ตี า่ งๆ และอธบิ ายไดก้ ลุม่ โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน 4. กระดาษสี ละ 1 กิจกรรม แผนท่ี 6 สาระ/หวั เร่ืองการพัฒนา การเก็บรวบรวมข้อมลู จานวน 1 ชว่ั โมง 30 นาที วตั ถุประสงค์ 1. ครผู ู้เข้ารบั การพัฒนาไดร้ ับความรู้เรื่องการกาหนดและวิเคราะห์ปัญหาและการ สรา้ งกรอบความคิดการวิจัยในชั้นเรียน 2. ครผู ู้เขา้ รบั การพฒั นาสามารถอธบิ ายการกาหนดและวเิ คราะห์ปัญหาและการ สรา้ งกรอบความคดิ การวจิ ัยในชั้นเรยี น พฤติกรรมกำรเรียนรขู้ องครูที่จะเกิดขึ้น 1. ครผู เู้ ขา้ รบั การพัฒนาได้รับความรเู้ รอื่ งการกาหนดและวเิ คราะหป์ ญั หาและการ สร้างกรอบความคิดการวิจัยในชัน้ เรยี นเทคนิคและวิธีการจัดกจิ กรรมการเรียนรบู้ รู ณาการกบั สาระ การเรยี นรูอ้ น่ื 2. ครผู เู้ ข้ารับการพัฒนาสามารถอธบิ ายการกาหนดและวิเคราะห์ปัญหาและการ สร้างกรอบความคดิ การวจิ ยั ในชั้นเรยี นได้ 3. ครูผู้เขา้ รบั การพฒั นาสามารถแลกเปลยี่ นเรียนรนู้ าเสนอผลงานการจดั การศึกษา ดว้ ยกระบวนการ Active Learning สำระ/หวั ข้อ กจิ กรรม สอ่ื กำรวดั และ วิทยำกร กำรพัฒนำ ประเมินผล 1.แบง่ กลุม่ เชิง 1. คมู่ ือการ การเก็บ ปฏบิ ตั ิการลงมอื ฝึกอบรม - แบบสังเกต นางชลธชิ า โคตรชมภู รวบรวมข้อมลู ปฏบิ ตั ิกิจกรรมเขียน 2. Power point แผนการจดั การเรยี นรู้ ประกอบการ พฤตกิ รรมการมสี ว่ น นางนโิ ลบล คาหงษา 2. สนทนาแลกเปลยี่ น บรรยาย ความรดู้ า้ นการเขียน 3. กระดาษบร๊ฟุ ร่วมกลมุ่ ในการ นางมณฑาทพิ ย์ เสยยงคะ แผนการจดั การเรยี นรู้ ปากกาเคมสี ตี ่างๆ โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน 4. กระดาษสี นาเสนอผลงานและ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ - เขียนองค์ประกอบ และอธิบายไดก้ ลุ่ม ละ 1 กจิ กรรม รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 82 หลกั สตู รการวิจยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวิชาชพี สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย
แผนท่ี 7 สาระ/หวั เร่ืองการพัฒนา การวิเคราะหแ์ ละแปลผลข้อมลู จานวน 1 ชวั่ โมง 30 นาที วัตถุประสงค์ 1. ครูผู้เข้ารบั การพฒั นาได้รับความรูเ้ รือ่ งการกาหนดและวิเคราะห์ปญั หาและการ สร้างกรอบความคิดการวิจัยในชั้นเรียน 2. ครูผเู้ ข้ารับการพฒั นาสามารถอธบิ ายการกาหนดและวเิ คราะหป์ ญั หาและการ สร้างกรอบความคิดการวจิ ัยในชั้นเรียน พฤติกรรมกำรเรยี นรขู้ องครูท่จี ะเกดิ ขน้ึ 1. ครูผเู้ ขา้ รบั การพัฒนาไดร้ ับความรู้เรอ่ื งการกาหนดและวเิ คราะห์ปญั หาและการ สร้างกรอบความคิดการวจิ ยั ในช้นั เรียนเทคนิคและวธิ กี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้บรู ณาการกบั สาระ การเรียนรอู้ ่ืน 2. ครูผูเ้ ขา้ รับการพฒั นาสามารถอธบิ ายการกาหนดและวเิ คราะหป์ ญั หาและการ สร้างกรอบความคดิ การวจิ ัยในช้นั เรียนได้ 3. ครูผู้เขา้ รับการพฒั นาสามารถแลกเปล่ยี นเรียนรูน้ าเสนอผลงานการจดั การศึกษา ดว้ ยกระบวนการ Active Learning สำระ/หวั ข้อ กจิ กรรม ส่อื กำรวัดและ วทิ ยำกร กำรพัฒนำ ประเมนิ ผล 1.แบ่งกลมุ่ เชิง 1. คมู่ ือการ การวเิ คราะห์ ปฏิบัติการลงมือ ฝกึ อบรม - แบบสงั เกต นางชลธชิ า โคตรชมภู และแปลผล ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเขียน 2. Power point ข้อมูล แผนการจดั การเรียนรู้ ประกอบการ พฤตกิ รรมการมสี ่วน นางนิโลบล คาหงษา 2. สนทนาแลกเปลยี่ น บรรยาย ความรู้ดา้ นการเขียน 3. กระดาษบรฟุ๊ รว่ มกลมุ่ ในการ นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ แผนการจดั การเรียนรู้ ปากกาเคมสี ตี า่ งๆ โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน 4. กระดาษสี นาเสนอผลงานและ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ - เขยี นองค์ประกอบ และอธบิ ายได้กลุ่ม ละ 1 กิจกรรม แผนท่ี 8 สาระ/หัวเรอื่ งการพัฒนา การเขียนสรุปผลจานวน 1 ช่ัวโมง 30 นาที วตั ถปุ ระสงค์ 1. ครผู ู้เขา้ รบั การพัฒนาไดร้ ับความรูเ้ รอ่ื งการกาหนดและวเิ คราะห์ปัญหาและการ สร้างกรอบความคิดการวิจัยในชั้นเรยี น 2. ครูผู้เข้ารับการพัฒนาสามารถอธิบายการกาหนดและวิเคราะห์ปัญหาและการ สร้างกรอบความคิดการวิจัยในชน้ั เรยี น รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 83 หลักสตู รการวิจัยพัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย
พฤตกิ รรมกำรเรยี นรู้ของครูที่จะเกิดขึน้ 1. ครูผเู้ ข้ารบั การพัฒนาไดร้ ับความรู้เรือ่ งการกาหนดและวิเคราะหป์ ัญหาและการ สรา้ งกรอบความคิดการวิจัยในช้นั เรยี นเทคนิคและวธิ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้บรู ณาการกบั สาระ การเรียนรู้อนื่ 2. ครผู เู้ ขา้ รบั การพัฒนาสามารถอธิบายการกาหนดและวเิ คราะหป์ ญั หาและการ สรา้ งกรอบความคดิ การวจิ ยั ในชั้นเรยี นได้ 3. ครูผู้เข้ารับการพัฒนาสามารถแลกเปล่ยี นเรียนร้นู าเสนอผลงานการจดั การศึกษา ดว้ ยกระบวนการ Active Learning สำระ/หัวข้อ กิจกรรม ส่ือ กำรวดั และ วทิ ยำกร กำรพัฒนำ ประเมินผล 1.อธบิ ายใหค้ วามรู้ 1. คู่มอื การ การเขยี น ความเข้าใจและแนว ฝกึ อบรม - แบบสงั เกต นางชลธชิ า โคตรชมภู สรุปผล ทางการพัฒนาผู้เรยี น 2. Power point ดา้ นภาษาองั กฤษ ประกอบการ พฤติกรรมการมสี ่วน นางนิโลบล คาหงษา 2. แบ่งกลุ่มเชงิ บรรยาย ปฏิบัติการลงมอื 3. ตัวอย่าง รว่ มกลมุ่ ในการ นางมณฑาทพิ ย์ เสยยงคะ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการ เครือ่ งมอื ประเมนิ AAR ตามสภาพจรงิ นาเสนอผลงานและ 3. นาเสนอความ 4. ขัน้ ตอนการ คาดหวงั ความสาเรจ็ ประเมินตาม แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ปัญหาอุปสรรคแนว สภาพจริง ทางแก้ไข AAR - สรา้ งแบบประเมนิ ตามสภาพจริงได้ กลมุ่ ละ 1 แผน แผนท่ี 9 สาระ/หวั เรือ่ งการพัฒนา การอภิปรายผลการวจิ ัยในชั้นเรียนจานวน 1 ชั่วโมง 30 นาที วตั ถปุ ระสงค์ 1. ครผู ู้เขา้ รบั การพัฒนาไดร้ ับความรู้เรอ่ื งการกาหนดและวเิ คราะห์ปญั หาและการ สรา้ งกรอบความคดิ การวจิ ยั ในช้นั เรยี น 2. ครผู เู้ ขา้ รบั การพฒั นาสามารถอธบิ ายการกาหนดและวเิ คราะห์ปัญหาและการ สรา้ งกรอบความคิดการวจิ ัยในชั้นเรียน พฤตกิ รรมกำรเรยี นรขู้ องครทู ่จี ะเกดิ ขนึ้ 1. ครผู เู้ ขา้ รับการพฒั นาได้รับความรูเ้ ร่ืองการกาหนดและวเิ คราะห์ปญั หาและการ สร้างกรอบความคิดการวจิ ัยในช้นั เรียนเทคนิคและวิธกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้บรู ณาการกบั สาระ การเรยี นรอู้ นื่ รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 84 หลกั สตู รการวจิ ยั พฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรยี นร้ทู างวิชาชีพ สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
2. ครูผู้เขา้ รบั การพฒั นาสามารถอธิบายการกาหนดและวเิ คราะห์ปญั หาและการ สร้างกรอบความคดิ การวจิ ยั ในชน้ั เรยี นได้ 3. ครูผเู้ ข้ารับการพฒั นาสามารถแลกเปล่ียนเรียนรนู้ าเสนอผลงานการจดั การศึกษา ด้วยกระบวนการ Active Learning สำระ/หัวขอ้ กิจกรรม ส่ือ กำรวดั และ วิทยำกร กำรพฒั นำ ประเมนิ ผล - อธิบายให้ความรู้ 1. คมู่ ือการ การอภปิ ราย ความเข้าใจและแนว ฝกึ อบรม - แบบสงั เกต นางชลธิชา โคตรชมภู ผลการวิจยั ใน ทางการพัฒนาผูเ้ รยี น 2. Power point ชน้ั เรียน ด้านภาษาอังกฤษ ประกอบการ พฤติกรรมการมสี ่วน นางนิโลบล คาหงษา - แบง่ กลุ่มเชิง บรรยาย ปฏบิ ัตกิ ารลงมอื 3. ตวั อย่าง ร่วมกลมุ่ ในการ นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ ปฏิบตั กิ ิจกรรมการ เครอื่ งมอื ประเมนิ AAR ตามสภาพจริง นาเสนอผลงานและ -นาเสนอความ 4. ขั้นตอนการ คาดหวังความสาเรจ็ ประเมนิ ตาม แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ปัญหาอุปสรรคแนว สภาพจริง ทางแกไ้ ข AAR - สร้างแบบประเมนิ ตามสภาพจริงได้ กลุม่ ละ 1 แผน แผนท่ี 10 สาระ/หัวเร่อื งการพัฒนา การเผยแพรผ่ ลงานวจิ ยั จานวน 1 ช่ัวโมง 30 นาที วัตถปุ ระสงค์ 1. ครผู เู้ ข้ารบั การพัฒนาได้รับความรเู้ ร่อื งการกาหนดและวเิ คราะหป์ ัญหาและการ สรา้ งกรอบความคิดการวจิ ัยในช้ันเรยี น 2. ครูผูเ้ ข้ารับการพัฒนาสามารถอธบิ ายการกาหนดและวิเคราะห์ปัญหาและการ สร้างกรอบความคดิ การวจิ ยั ในชน้ั เรยี น พฤติกรรมกำรเรียนรูข้ องครูที่จะเกิดข้ึน 1. ครผู ้เู ขา้ รบั การพัฒนาได้รับความรูเ้ รอื่ งการกาหนดและวิเคราะห์ปญั หาและการ สร้างกรอบความคิดการวจิ ยั ในชนั้ เรียนเทคนคิ และวิธกี ารจดั กิจกรรมการเรียนรูบ้ รู ณาการกับสาระ การเรยี นร้อู ่นื 2. ครูผเู้ ข้ารับการพฒั นาสามารถอธบิ ายการกาหนดและวเิ คราะหป์ ัญหาและการ สรา้ งกรอบความคดิ การวจิ ัยในชน้ั เรียนได้ 3. ครผู เู้ ขา้ รับการพัฒนาสามารถแลกเปลีย่ นเรยี นรนู้ าเสนอผลงานการจดั การศึกษา ด้วยกระบวนการ Active Learning รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 85 หลกั สตู รการวิจัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแหง่ การเรียนรู้ทางวิชาชพี สานกั งาน กศน.จงั หวัดหนองคาย
สำระ/หวั ข้อ กิจกรรม ส่ือ กำรวดั และ วทิ ยำกร กำรพฒั นำ ประเมนิ ผล 1. อธิบายใหค้ วามรู้ การเผยแพร่ ความเข้าใจและแนว 1. ค่มู ือการ - แบบสังเกต นางชลธิชา โคตรชมภู ผลงานวิจัย ทางการพฒั นาผู้เรยี น ด้านภาษาอังกฤษ ฝกึ อบรม พฤตกิ รรมการมสี ่วน นางนโิ ลบล คาหงษา 2. แบง่ กลมุ่ เชงิ ปฏิบัติการ 2. Power point ร่วมกลมุ่ ในการ นางมณฑาทิพย์ เสยยงคะ ลงมือปฏิบัตกิ ิจกรรม การ AAR ประกอบการบรรยาย นาเสนอผลงานและ 3. นาเสนอความ คาดหวังความสาเรจ็ 3. ตวั อย่าง แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ปญั หาอปุ สรรคแนว ทางแกไ้ ข เครื่องมือประเมนิ AAR ตามสภาพจริง - สรา้ งแบบประเมนิ 4. ข้ันตอนการ ตามสภาพจริงได้ ประเมินตาม กล่มุ ละ 1 แผน สภาพจริง 13. กิจกรรมกำรติดตำมหรือทำงำนร่วมกับครหู ลงั พัฒนำ ระยะเวลำ ประเด็น วิธกี ำร/รูปแบบกำร วิทยำกรผู้ตดิ ตำม ตวั ชว้ี ัดควำมสำเร็จ 15 - 30 วนั กำรตดิ ตำม ติดตำม ในกำรตดิ ตำม การใชแ้ ผนกจิ กรรม 15 - 30 วนั การวิจยั ในชั้นเรยี น ส่งผ่านขอ้ มลู ในระบบ - วิทยากรที่รบั ผิดชอบ จัดส่งกระบวนการจดั ในหอ้ งเรยี นจรงิ ไลน์ Facebook - หน่วยพัฒนาครู กจิ กรรมเรยี นรู้คนละ 1 การเรยี นรวู้ ชิ าชพี ครู สง่ ไฟลว์ ิดโี อผ่านระบบ การสนทนากล่มุ กจิ กรรมในระบบ สารสนเทศตาม ระยะเวลาทก่ี าหนด - วิทยากรที่ ครูได้ถา่ ยทอดส่ชู มุ ชน รบั ผดิ ชอบ วิชาชีพครตู ามระยะเวลา - หนว่ ยพัฒนาครู ท่ีกาหนด 15 - 30 วัน ความพึงพอใจในการ สง่ ผลการประเมิน - วิทยากรทร่ี ับผดิ ชอบ - ครูได้ทดลองใช้จรงิ และ นาแผนการจดั การ ความพึงพอใจผ่าน - หนว่ ยพฒั นาครู ประเมนิ ความพึงพอใจ เรียนรทู้ ่อี อกแบบไป ระบบสารสนเทศโดยผู้ ใช้สอนจรงิ ในชัน้ ประเมินคอื - ระดับเกณฑ์การ เรียน - ผ้บู รหิ าร ประเมนิ ความพงึ พอใจมากท่ีสุด มคี ่าคะแนนเฉลยี่ 4.51 – 5.00 14. เปำ้ หมำยจำนวนครูทเ่ี ข้ำรับกำรพัฒนำตำมระดับหลกั สตู ร (เลือก 1 ระดบั พรอ้ มระบจุ านวนครผู เู้ ขา้ รับการพฒั นาสูงสูด) ระดบั พน้ื ฐาน จานวนครผู ้เู ขา้ รับการพัฒนา 150 คน (จานวนไมเ่ กนิ 150 คนต่อกลุ่ม) ระดบั กลาง จานวนครูผ้เู ข้ารับการพัฒนา ........... คน (จานวนไม่เกนิ 100 คนต่อกลุม่ ) ระดับสงู จานวนครูผู้เขา้ รับการพัฒนา ........... คน (จานวนไมเ่ กิน 80 คนต่อกลุ่ม) รายงานผลการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานกั งาน กศน. 86 หลกั สตู รการวจิ ัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนร้ทู างวิชาชีพ สานักงาน กศน.จงั หวัดหนองคาย
15. สดั ส่วนวิทยำกรต่อครผู เู้ ข้ำรบั กำรพัฒนำ (เลือก 1 ระดับพร้อมระบุจานวนวิทยากร มีคุณสมบัติและจานวนที่เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีสถาบัน คุรพุ ัฒนากาหนดและสอดคลอ้ งกบั จานวนครผู ูเ้ ขา้ รบั การพัฒนา) ระดับพื้นฐาน จานวนวิทยากร 3 คน ( 1 : 30 ) ระดับกลาง จานวนวิทยากร ............ คน ( 1 : 25 ) ระดบั สงู จานวนวทิ ยากร ............ คน ( 1 : 20 ) 16. วทิ ยำกร คณะวิทยากร ของแต่ละหลักสูตร/รุ่น จะต้องมีจานวนอย่างน้อย 2 คนข้ึนไป และมี คุณสมบัติพ้ืนฐาน ตามที่กาหนด และ/หรือมีคุณสมบัติครอบคลุม 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านเนื้อหา (Content) ด้านศาสตร์การสอน (Pedagogy) ด้านบูรณาการระหว่างสาระกับศาสตร์การสอน และ/ หรือเทคโนโลยี (Technology) คนที่ 1 ชอื่ นำงชลธิชำ นำมสกุล โคตรชมภู วทิ ยำกรตำมสดั ส่วนจะตอ้ งมีคณุ สมบัตพิ ื้นฐำนอยำ่ งนอ้ ย 1 ข้อ ดังนี้ (1) สาเร็จการศึกษาอยา่ งนอ้ ยระดับปรญิ ญาโท ในสาขาวชิ าทร่ี ับผดิ ชอบเปน็ วิทยากรหรือ สาขาท่ีสัมพันธ์และมีตาแหน่งทางวิชาการอย่างน้อยผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือวิทยฐานะชานาญการ พเิ ศษ หรือมีประสบการณ์และความสาเรจ็ ในเร่อื งนั้นๆ ในระดบั ชาติ (2) สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิชาที่รับผิดชอบเป็นวิทยากรหรือสาขาท่ี สัมพันธ์ และต้องมีประสบการณ์การสอนหรือมีหน้าท่ี ท่ีเกี่ยวกับการให้ความรู้ หรือเคยเป็นวิทยากร มาไมน่ ้อยกว่า 2 ปี (3) เปน็ ผู้ทม่ี ีความเช่ียวชาญ เปน็ ท่ียอมรบั และประกอบอาชีพในดา้ นท่เี ป็นวทิ ยากรนั้น มานานกว่า 10 ปีหรือมปี ระสบการณค์ วามสาเร็จในเรอ่ื งน้นั เป็นทปี่ ระจักษ์ (4) ดารงตาแหน่งทางวิชาการระดับรองศาสตราจารย์ หรือวิทยฐานะระดับเชี่ยวชาญ ข้นึ ไป และ/หรือวิทยำกำรตำมสัดส่วนที่มีคุณสมบัติพ้ืนฐำนน้ันมีควำมเช่ียวชำญ/ประสบกำรณ์ ดังน้ี (1) เปน็ ผมู้ ีคุณวุฒสิ าเร็จการศกึ ษาในสาขาวชิ า หรือวิชาเอกท่ีเนน้ เนอ้ื หาสาระเฉพาะดา้ น หรอื สาขาวชิ าทส่ี ัมพันธ์ ในระดับปรญิ ญาโทข้นึ ไป (ด้านเนือ้ หา (Content)) (2) เป็นผู้มีคุณวุฒิสาเร็จการศึกษาด้านการศึกษา หรือวิธีการสอน หรือสาขาวิชาท่ี สมั พนั ธ์กบั ศาสตร์วชิ าชพี ครู (ดา้ นศาสตรก์ ารสอน (Pedagogy)) (3) เป็นผู้มีประสบการณ์สอน และ/หรือ นิเทศการสอนในสาระที่เสนอหลักสูตรในระดับ การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน มาไม่น้อยกวา่ 10 ปี (ดา้ นการบรู ณาการภาคปฏบิ ัติ (Integration)) รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 87 หลกั สตู รการวิจยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรียนรทู้ างวิชาชพี สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
คนที่ 2 ชื่อ นำงนิโลบล นำมสกลุ คำหงษำ วทิ ยำกรตำมสดั ส่วนจะตอ้ งมคี ุณสมบัติอยำ่ งน้อย 1 ขอ้ ดงั น้ี (1) สาเร็จการศึกษาอย่างน้อยระดับปริญญาโท ในสาขาวิชาที่รับผิดชอบเป็นวิทยากรหรือ สาขาที่สัมพันธ์และมีตาแหน่งทางวิชาการอย่างน้อยผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือวิทยฐานะชานาญการ พิเศษ หรอื มปี ระสบการณแ์ ละความสาเร็จในเร่ืองน้นั ๆ ในระดบั ชาติ (2) สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิชาท่ีรับผิดชอบเป็นวิทยากรหรือสาขาท่ี สัมพันธ์ และต้องมีประสบการณ์การสอนหรือมีหน้าท่ี ท่ีเก่ียวกับการให้ความรู้ หรือเคยเป็นวิทยากร มาไม่นอ้ ยกวา่ 2 ปี (3) เป็นผ้ทู ่ีมีความเช่ียวชาญ เปน็ ทย่ี อมรับและประกอบอาชีพในด้านทเ่ี ป็นวทิ ยากรน้นั มานานกว่า 10 ปีหรือมปี ระสบการณค์ วามสาเรจ็ ในเรอื่ งนัน้ เปน็ ท่ปี ระจกั ษ์ (4) ดารงตาแหน่งทางวิชาการระดบั รองศาสตราจารย์ หรอื วิทยฐานะระดบั เช่ียวชาญ ขน้ึ ไป และ/หรือวิทยำกำรตำมสัดส่วนท่ีมีคุณสมบัติพ้ืนฐำนนั้นมีควำมเชี่ยวชำญ/ประสบกำรณ์ ดงั นี้ (1) เป็นผู้มีคณุ วุฒิสาเร็จการศึกษาในสาขาวชิ า หรอื วชิ าเอกท่ีเนน้ เน้ือหาสาระเฉพาะดา้ น หรือสาขาวิชาท่สี มั พันธ์ ในระดับปริญญาโทขึ้นไป (ด้านเน้อื หา (Content)) (2) เป็นผู้มีคุณวุฒิสาเร็จการศึกษาด้านการศึกษา หรือวิธีการสอน หรือสาขาวิชาท่ี สัมพนั ธ์กบั ศาสตร์วชิ าชพี ครู (ดา้ นศาสตร์การสอน (Pedagogy)) (3) เป็นผู้มีประสบการณ์สอน และ/หรือ นิเทศการสอนในสาระที่เสนอหลักสูตรในระดับ การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน มาไม่นอ้ ยกว่า 10 ปี (ดา้ นการบูรณาการภาคปฏิบตั ิ (Integration)) คนท่ี 3 ช่อื นางมณฑาทพิ ย์ นามสกลุ เสยยงคะ วิทยำกรตำมสัดสว่ นจะตอ้ งมคี ุณสมบัติอย่ำงน้อย 1 ข้อ ดังน้ี (1) สาเรจ็ การศกึ ษาอยา่ งน้อยระดับปรญิ ญาโท ในสาขาวชิ าทีร่ ับผิดชอบเปน็ วทิ ยากรหรือ สาขาที่สัมพันธ์และมีตาแหน่งทางวิชาการอย่างน้อยผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือวิทยฐานะชานาญการ พเิ ศษ หรอื มปี ระสบการณ์ และความสาเรจ็ ในเรื่องนน้ั ๆ ในระดบั ชาติ (2) สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาวิชาที่รับผิดชอบเป็นวิทยากรหรือสาขาที่ สัมพันธ์ และต้องมีประสบการณ์การสอนหรือมีหน้าท่ี ที่เก่ียวกับการให้ความรู้ หรือเคยเป็นวิทยากร มาไม่นอ้ ยกว่า 2 ปี (3) เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับและประกอบอาชีพในด้านท่ีเป็นวิทยากรน้ัน มา นานกว่า 10 ปี หรอื มีประสบการณ์ความสาเรจ็ ในเรอื่ งน้ันเปน็ ท่ีประจกั ษ์ (4) ดารงตาแหน่งทางวชิ าการระดับรองศาสตราจารย์ หรือ วทิ ยฐานะระดับเชยี่ วชาญ ข้ึนไป และ/หรือวิทยำกำรตำมสัดส่วนท่ีมีคุณ สมบัติพื้นฐำน น้ัน มีควำมเชี่ยวชำญ / ประสบกำรณ์ ดังน้ี รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 88 หลกั สตู รการวจิ ยั พฒั นาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นร้ทู างวชิ าชพี สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย
(1) เป็นผู้มีคุณวุฒิสาเร็จการศึกษาในสาขาวิชา หรือวิชาเอกที่เน้นเนื้อหาสาระเฉพาะด้าน หรอื สาขาวชิ าทส่ี ัมพนั ธ์ ในระดับปริญญาโทข้ึนไป (ดา้ นเนอื้ หา (Content)) (2) เป็นผู้มีคุณวุฒิสาเร็จการศึกษาด้านการศึกษา หรือวิธีการสอน หรือสาขาวิชาท่ี สัมพันธ์กบั ศาสตรว์ ชิ าชีพครู (ด้านศาสตร์การสอน (Pedagogy)) (3) เป็นผู้มีประสบการณ์สอน และ/หรือนิเทศการสอนในสาระที่เสนอหลักสูตรในระดับ การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน มาไม่นอ้ ยกวา่ 10 ปี (ดา้ นการบรู ณาการภาคปฏบิ ัติ (Integration)) 17. กำรวดั และประเมนิ ผลตำมหลกั สตู ร ประเด็น ตวั ชี้วดั เกณฑ์ วิธกี ำรประเมนิ เครือ่ งมอื ท่ีใช้ ควำมสอดคล้อง กำรผำ่ น กับวตั ถปุ ระสงค์ กำรประเมิน ควำมสำเรจ็ การทาแบบวัด แบบทดสอบ ทาแบบทดสอบ ผลสัมฤทธ์ดิ ้าน ผลสัมฤทธ์กิ าร มีองคค์ วามรูใ้ น ดำ้ นควำมรู้ ผา่ นการทดสอบก่อน ได้ต้งั แตร่ ้อยละ การวจิ ยั ในช้นั พัฒนา การสรา้ งและ 80 ถงึ จะผา่ น เรียน การจัดการ ออกแบบการ เรยี นและหลังเรียน เรียนรกู้ ารวิจัย จดั การเรียนรดู้ ว้ ย ในช้นั เรียน กระบวนการ เกี่ยวกบั การวิจยั ใน Active Leaning ชั้นเรยี นตาม กระบวนการ Active Leaning ด้ำนทกั ษะ - มแี ผนการจดั - เขียนแผนได้กลมุ่ การฝึก แบบสังเกต มที ักษะปฏิบัตใิ น ปฏิบัติ กจิ กรรมการเรียนรู้ ละ 2 แผนงาน ปฏบิ ัตกิ าร การมสี ว่ นร่วม การใชเ้ ทคนคิ และ ด้วยกระบวนการ - นาเสนอผลงาน ออกแบบ แบบกล่มุ ออกแบบ ดำ้ นควำม Active Leaning ผ่านเกณฑ์ใน แผนการเรียนรู้ กระบวนการสอน เปน็ ครู - การนาเสนอผลงาน ระดบั 2 จาก กิจกรรม/ใบ - แบบสังเกต ได้จานวน 2 ผา่ นชมุ ชนแหง่ การ แบบสงั เกตความ งาน พฤติกรรม กจิ กรรม ควำมพงึ เรียนร้ทู าง ร่วมมอื กลมุ่ กลมุ่ พอใจของ วชิ าชีพ - แบบนาเสนอ มเี จตคติท่ีดตี อ่ การ ครูผเู้ ข้ำรบั ครูทเี่ ขา้ รับการพฒั นา ระดับ 2 ขึ้นไป - สังเกต ผลงาน ออกแบบการ กำรพฒั นำ มพี ฤติกรรมการ พฤติกรรมกลุ่ม จดั การเรยี นร้ดู ว้ ย เรียนรู้วนิ ยั มคี วามพึงพอใจ ในการนาเสนอ แบบสอบถาม กระบวนการ เวลำ กระตอื รือร้นในการ ในระดบั มากมี ผลงานการ ความพงึ พอใจ Active Leaning ทากจิ กรรมจากการ คา่ เฉลย่ี ต้งั แต่ แลกเปลยี่ น ประเมิน 4.00 เรียนรู้ แบบลงลายมอื ความพึงพอใจต่อ ความพงึ พอใจอยู่ใน เข้าร่วมการ ช่ือเข้ารับการ การพัฒนาวชิ าชีพ ระดับมากข้นึ ไป ฝึกอบรมมากว่า สอบถามความ ฝึกอบรม ร้อยละ 80 ของ พึงพอใจในการ มเี จตคติทด่ี ีตอ่ การ ครูเข้าร่วมการพฒั นา ช่วั โมงการอบรม จัดกิจกรรมการ เปน็ ครูตรงต่อ มรี ะยะเวลาในการเขา้ พัฒนาครู เวลามีความ ร่วมมากกวา่ รบั ผดิ ชอบ ร้อยละ 80 เวลาในการลง ชอ่ื เข้ารับการ อบรม รายงานผลการพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 89 หลักสตู รการวจิ ัยพฒั นาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองคาย
นำงชลธิชำ โคตรชมภู ผูอ้ ำนวยกำร กศน.อำเภอศรีเชยี งใหม่ นำงชลธิชำ โคตรชมภู ผ้อู ำนวยกำร กศน.อำเภอศรีเชียงใหม่ นำงชลธชิ ำ โคตรชมภู ผ้อู ำนวยกำร กศน.อำเภอศรีเชยี งใหม่ รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 90 หลกั สตู รการวจิ ัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวิชาชพี สานักงาน กศน.จงั หวัดหนองคาย
นำงชลธชิ ำ โคตรชมภู ผ้อู ำนวยกำร กศน.อำเภอศรีเชยี งใหม่ นำงชลธชิ ำ โคตรชมภู ผ้อู ำนวยกำร กศน.อำเภอศรีเชยี งใหม่ นำงชลธชิ ำ โคตรชมภู ผอู้ ำนวยกำร กศน.อำเภอศรีเชียงใหม่ รายงานผลการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 91 หลกั สตู รการวจิ ยั พฒั นาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวชิ าชีพ สานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย
รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 92 หลกั สตู รการวจิ ยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชพี สานกั งาน กศน.จงั หวดั หนองคาย
รายงานผลการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน สานักงาน กศน. 93 หลกั สตู รการวจิ ยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชพี สานกั งาน กศน.จงั หวดั หนองคาย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128